[21]
“ดิ – ฉัน ไม่อนุญาตคะ” เสียงที่หนักแน่นดังมาจากด้านหลังป๊า ทำให้ผมที่กอดป๊าอยู่ต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง
“เอ๋...ไปพาน้องมา” แม่ของพี่ใหญ่เดินมาพร้อมกับพี่เอ๋ บอกด้วยความจริงจัง และเมื่อผมปล่อยมือที่กอดป๊าอยู่ พี่เอ๋ก็เดินมาจูงมือผม
แม่ของพี่ใหญ่สวมกอดผมทันทีที่ผมเดินเข้าไปใกล้ อ้อมกอดที่เต็มไปด้วยความรัก......
“บีจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ในเมื่อคุณยกบีให้ลูกชายชั้นแล้ว ยังไงบีก็ต้องอยู่กับใหญ่ ไม่ว่าใหญ่จะอยู่หรือเป็นอะไรไปก็แล้วแต่ บีก็ต้องอยู่ที่บ้านสามี!” แม่ของพี่ใหญ่คลายกอดผม พร้อมกับหันไปหาป๊า น้ำเสียงบ่งบอกถึงความเด้ดเดี่ยวในตัว
“แม่ครับ!!” ผมร้องเรียกแม่พี่ใหญ่ เพราะมันสะดุดตรงคำว่า - - - ไม่ว่าใหญ่จะอยู่หรือเป็นอะไรไป
“แม่ขอโทษนะลูกบี แต่นั่นคือความรู้สึกจริงๆที่แม่อยากบอก” แม่พี่ใหญ่ลูบหน้าผมด้วยความอ่อนโยน เหมือนเป็นการปลอบที่ต้องตกใจเพราะคำพูดนั้น
“มันจะไม่ง่ายกว่าหรือครับ ถ้าจะให้บีกลับมาอยู่กับพวกผม” ป๊ายังเอ่ยต่อ
“แล้วมันจะยากอะไร ถ้าบีจะอยู่กับเรา” แม่พี่ใหญ่หันไปจ้องหน้าป๊า
“แต่ผมทำผิดกับพวกคุณ” ป๊าผมพูดออกมาอย่างสำนึกผิด
“แต่บีเป็นลูกสะใภ้ดิฉัน และเราก็รักบีเหมือนเป็นคนในครอบครัวทุกคน” แม่พี่ใหญ่สวนกลับป๊าผมทันที ก่อนจะหันไปหาพี่เอ๋เหมือนขอแรงสนับสนุน ซึ่งพี่เอ๋ก็ยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับพยักหน้าเป็นการตอบรับ
“คุณไม่อายหรือไง ที่ลูกชายมาคบกับผู้ชายด้วยกัน” อยู่ๆป๊าก็ถามขึ้นมา ป๊าถามโดยไม่มองหน้าใคร เหมือนว่าตัวเองยังยอมรับไม่ได้ในเรื่องนี้
“ดิฉันไม่อาย” แม่พี่ใหญ่ตอบมาทันทีโดยไม่ต้องคิด เมื่อพูดจบก็หันไปหาพี่เอ๋ให้มารับตัวผมไว้ ก่อนจะเดินไปยืนตรงหน้าป๊า
“ถ้าคุณถามว่าเสียใจไหม ดิฉันก็จะตอบว่าเสียใจ แต่ถ้าถามว่าอายไหม ดิฉันไม่อาย” แม่พี่ใหญ่เอามือมาวางที่บ่าป๊าผม
“ถ้าเสียใจแล้วทำไมยังสนับสนุนอีกละครับ” ป๊าผมถาม
“ลูกชายสองคนมีแฟนเป็นผู้ชายทั้งคู่ คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ต้องเสียใจทั้งนั้น แต่อยากจะถามว่าคุณรักตัวเองหรือลูกมากกว่ากัน.....ถ้าดิฉันรักตัวเอง ดิฉันจะไม่ยอมให้ตัวเองต้องเสียใจเด็ดขาด แต่ว่าดิฉันรักลูกของตัวเองมากกว่า ในเมื่อนี่คือคนที่เค้ารัก ดิฉันก็เต็มใจที่จะรักด้วย”
“พ่อแม่นะรักลูกได้ แต่อย่าบงการชีวิตลูก” แม่ของพี่ใหญ่ยังพูดต่อ เพราะป๊าผมนิ่งไปนาน
“แม่ครับ พี่บี คุณหมอออกมาแล้วครับ” เสียงของน้ำดังมาจากด้านหน้าห้องผ่าตัด ทำให้ทุกสายตาหันกลับไปมองทางเดียวกัน ส่วนผมไม่รู้มีแรงอะไรผลักให้ถลาไปที่หน้าประตูทันทีที่ได้ยิน
“เป็นยังไงบ้างครับคุณหมอ” ผมรีบสอบถามอาการพี่ใหญ่ทันที ซึ่งคุณหมอก็จ้องหน้าผมกลับมา
การรอคอยคำตอบจากคุณหมอมันแทบจะทำให้หัวใจผมหยุดเต้น มันเหมือนเวลาหยุดนิ่งลงและดูจะยาวนานเหลือเกินกับคำตอบที่จะได้ฟัง แต่ก่อนจะได้ยินเสียงอะไรกลับมา โลกของผมมันกลับมืดลงกระทันหัน...................
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ผมลืมตาตื่นมาอีกครั้งซึ่งตอนนี้แสงที่ส่องเข้ามาในห้อง บอกได้ว่าเป็นเวลาสายมากแล้ว ก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงสีขาว ผนังสีขาวที่เห็นบอกได้ว่านี่ไม่ใช่ที่บ้าน สายน้ำเกลือที่ห้อย ทำให้ผมรู้ว่าผมอยู่ที่โรงพยาบาล
“ตื่นแล้วหรอเรา” พี่เอเปิดประตูเข้ามาในห้อง เดินมาหาผมที่นอนอยู่ ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ครับ....แล้วคนอื่นไปไหนกันครับ” คนอื่นในความหมายของผมรวมถึงพี่ใหญ่ด้วย เพราะผมกลัวคำตอบที่จะได้รับจึงเลี่ยงที่จะถามตรงๆ
“ทุกคนอยู่ที่วัด” พี่เอลูบหัวผมเบาๆ
ทุกคนอยู่ที่วัด.......................นี่มันไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหม เรื่องนี้ไม่จริงใช่ไหม
แค่ได้ยินว่าทุกคนอยู่ที่วัด มันก้แทบจะทำให้ใจผมสลาย ทำไมกันพี่ใหญ่เป็นคนดี ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ แล้วผมจะอยู่ยังไงต่อไป น้ำตาของผมไหลออกมาทันทีโดยไม่มีการสะอื้น เพราะตอนนี้หัวใจผมแตกสลายเกินกว่าจะมีเสียงสะอื้นแล้ว มีเพียงน้ำตาที่ไหลออกมาเพราะร่างกายและจิตใจสั่งเท่านั้น ผมยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเอง ไม่อยากรับรู้ ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้น
“เฮ้ย....เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม” พี่เอดูจะตกใจกับการร้องไห้ของผม
“พี่ใหญ่...ทำไมต้องทิ้งผมไป” ผมพูดออกมา โดยที่น้ำตายังคงไหลอยู่เหมือนเดิม
“อะไรใครทิ้ง ไอ้ใหญ่มันทิ้งไปไหน” พี่เอถามผมอย่างร้อนรน ทำให้ผมเอะใจ
“ก็พี่เอบอกทุกคนอยู่ที่วัด งั้นก็หมายความว่าพี่ใหญ่.....” ผมไม่กล้าพูดต่อ เพราะมันทำใจไม่ได้
“ไอ้ใหญ่นอนอยู่ห้องข้างๆ” พี่เอเสริมให้จบประโยค ทำให้ผมต้องจ้องพี่เอ
“แล้วเมื่อกี้พี่เอบอกทุกคนอยู่วัด แล้วถ้าพี่ใหญ่ไม่เป็นอะไรแล้วจะไปกันทำไม” ผมสับสนกับเรื่องทั้งหมด
“เค้าไปทำบุญกัน ทำบุญให้ไอ้ใหญ่กับเรานั่นหละ อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร” พี่เอยิ้มเมื่อเห็นว่าผมเข้าใจเรื่องผิดๆ แล้วตีโพยตีพายเป็นเด็กๆ
“ส่วนไอ้ใหญ่ปลอดภัยดี” พูดเอยังขยายความต่อ คราวนี้น้ำตาของผมหยุดไหลทันที
“ผมไปหาได้ไหม” ผมอ้อนพี่เอให้พาไปหาพี่ใหญ่ ทำให้พี่เอหัวเราะเสียงดังขึ้นมา
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“เป็นห่วงพี่จนเป็นลมเลยหรอ” พี่ใหญ่ที่นอนอยู่บนเตียงยิ้มให้ผม พร้อมกับเอ่ยทักเมื่อผมเปิดประตูเข้าไป
สภาพพี่ใหญ่ตอนนี้ที่ขาเข้าเฝือก พร้อมกับสายคล้องขา แขนอีกข้างก็เข้าเฝือกมีสายคล้องคอไว้ ส่าวนใบหน้ามีรอยถลอกอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ทำให้หน้าหล่อๆเสียโฉม
“เจ็บมากไหม” ผมลูบที่เฝือกขาของพี่ใหญ่
“ไกลหัวใจครับ แค่นี้ไม่เจ็บหรอก....แต่หัวใจของพี่สิ ดันมาเป็นลม ทำให้พี่ต้องเป็นห่วง” พี่ใหญ่ส่งยิ้มหวานมาให้ผม ทำให้ผมต้องยิ้มตอบ
“มึงอย่ามาเว่อร์ไอ้ใหญ่....มึงก็เพิ่งตื่นก่อนน้องกูไม่เท่าไหร่หรอก” พี่เอขัดขึ้นด้วยความหมั่นไส้
“ถึงกูหลับกูก็เป็นห่วงแฟนกูอยู่ดีหละ” พี่ใหญ่ยังคงเถียงพี่เอเหมือนเดิม
“พี่ใหญ่อย่าทำแบบนี้อีกนะ ผมเป็นห่วง มีอะไรอย่าปิดบังผมอีก” ผมบอกด้วยความเป็นห่วงจริงๆ
“ขอพี่กอดหน่อยนะครับ” พี่ใหญ่ยื่นแขนอีกข้างที่ไม่ได้ใส่เฝือกมาด้านหน้า ส่วนผมก็โผเข้ากอดพี่ใหญ่ด้วยความเป็นห่วงและคิดถึง
“รู้ไหมพี่คิดว่าตัวเองจะไม่รอด แต่พอนึกถึงบี พี่ก็มีแรงสู้ เพราะพี่ไม่อยากปล่อยให้บีเหงาคนเดียว” พี่ใหญ่ก้มหน้ามาหอมที่ผมของผม พร้อมกับพูดในสิ่งที่ทำให้ผมยิ้มได้ แต่มันเป็นยิ้มทั้งน้ำตาจริงๆ
“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พี่สัญญาว่าจะไม่ทิ้งบีไปไหน”
“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมก็ไม่ทิ้งพี่ใหญ่ไปเหมือนกัน” ผมกอดพี่ใหญ่แน่นขึ้นกว่าเดิม พร้อมกับให้คำสัญญาที่ผมจะไม่มีวันละทิ้งมันไป
“มึงร้องไห้ทำไมวะไอ้เอ” ระหว่างที่ผมสองคนกอดกัน เสียงร้องไห้ของพี่เอก็ดังขึ้น พี่ใหญ่เลยตะโกนถามพี่เอ
“กูซึ้งใจวะ น้องกูกับเพื่อนกูมีความสุขกันเสียที”
“กูต้องเรียกมึงว่าพี่หรือเปล่าวะไอ้เอ” พี่ใหญ่ถามพี่เอ
“เรียกทำไมวะ” พี่เอตอบกลับด้วยความมึน
“อ้าว ก็ตอนนี้กูเป็นน้องเขยมึงแล้วยังไงหละ” พี่ใหญ่หันมายิ้ม และหอมแก้มผมต่อหน้าพี่เอ
“ไอ้เหี้ยใหญ่ มึงอย่ามาทำรุ่มร่ามกับน้องกู” พี่เอเริ่มโวยวาย
“มึงจะหวงทำไม นี่แฟนกูนะเว้ย” ผมใหญ่ยังคงแกล้งพี่เอ โดยหอมแก้มผมอีกรอบ
“เออกูรู้ แต่มึงให้เวลากูทำใจหน่อยไม่ได้หรือไงวะ” พี่เอยอมจำนน แต่ก็ขอโวยวายหน่อย
“ก็น้องมึงน่ารักนี่หว่า ใครจะอดใจไหว” พี่ใหญ่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงมีความสุข
และเมื่อเป็นแบบนี้ ผมทั้งสามคนก็ต้องหัวเราะกับความสุขที่มีร่วมกัน ขออย่าให้ความสุขมันจบลงไปเลย.....
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
แอบตกใจกันไหม คงไม่หรอกเน้อ อิอิ
คนแต่งกลัวโดนมีดกระซวก
เลยต้องวกกลับมาทันใด
กลัวว่าถ้าลุงใหญ่ตาย
คนแต่งจะต้องตายตามไปด้วย