บุพเพวายร้าย(สอง)
13.
“ ถ้วยนี้ไม่อยากชอบ พี่ซื้อมาให้ใหม่..”
ร้อนโว้ย! ดีนะไม่สาดใส่ผมตั้งแต่แรก แต่ผมยังทำหน้าปกติ ต้องทนครับตอนบ่ายผมก็กลับแล้ว ขอแค่ให้จักรเห็นความจริงใจผมสักนิดร้อนแค่นี้ไม่ตาย
“ ถ้วยไหนกรูก็ไม่กิน!” จักรบอกเดินไปผมเดินตาม (ผมเดินตามตลอดครับ)
“ จักร จักร” ผมเรียก ทว่าจักรจากเดินเร็วๆวิ่งแล้วครับ จะหนีทำไมเนี่ย เพราะหนีไปไหนผมก็ตามอยู่ดี
แสบหน้าอกครับ ร้อนด้วย น้ำก็ไม่ใช่น้ำสะอาดแต่นี่มีเกลือมีพริกด้วย ทรมานดี
“จักร หยุดถ้าไม่หยุด...” ผมเรียกแสบอกจริงๆนะครับ แต่ผมยิ่งบอกจักรก็ยิ่งวิ่งเร็วตอนนี้วิ่งออกจากคณะไปแล้ว
ผมเพิ่มพาวเวอร์วิ่งตามจักรก็ทันสิครับ ทันกลางถนนร้อนๆเลย (ก็ตอนเที่ยง)
“ อย่าเอาแต่หนี ..!” ผมว่าทั้งแสบทั้งร้อน ความอดทนมันก็น้อยลง
“ ก็มรึงตามกรูทำไม ถ้ามรึงไม่มา กรูจะหนีไหม เลิกยุ่งกับกรูสักที!” จักรว่าไม่ได้ดึงแขนกลับไป ดวงตาที่มองผมเริ่มแดงและสั่นระริก จากนั้นน้ำตาเริ่มคลอ ...
“ ............” เรี่ยวแรงที่ผมจับแขนจักรอ่อนแรงลง
“ มรึงตามราวีกรูทำไม ทำไมไม่ปล่อยกรูลืมเรื่องนี้ไป กรูอยากลืมมรึงรู้ไหม มรึงก็มาตอกย้ำกรูอยู่ได้ แค่นี้ยังไม่สะใจมรึงใช่ไหม?” เสียงแตรรถทำให้ผมกับจักรหันไปมอง รถยาริสกำลังบีบแตรไล่พวกผมจนแทบแก้วหูพร้อมทุบแตรระรัว
“ จักร” ผมดึงแขนเดินเข้ามยังขอบถนน แล้วจักรก็ดึงมือตัวเองไป
“ ถ้างั้นวันนี้พี่กลับไปก่อน ตอนเย็นพี่มารับนะ”
“ ไม่ต้องกรูมีปัญญากลับเอง!” จักรเบนหน้าหนีไม่มองผม พร้อมทั้งเชิดหน้าขึ้น น้ำตาคลอเต็มตา
“ ถ้าพี่ทำอะไรให้จักรได้ ให้พี่ทำเถอะ”
“ ไม่!” จักรว่าวิ่งข้ามถนนกลับไปคณะ ผมมองตามไป ใจหายหวิว...
ความผิดของผมในความรู้สึกมันมากขึ้นเหลือเกิน
“.................” เมื่อครู่สายตาที่จักรมองผม ผมน่าจะสังเกตเห็นมาตั้งนานแล้ว ว่าจักรกลัว เจ็บปวดกับบางอย่าง ท่าทางถือดีพวกนั้นก็เพื่อกลบเกลื่อนไม่ให้ตัวเองดูอ่อนแอ
และน้องเขาเกลียดผมมาก
“.................” ความผิดมันมีให้ลบล้างหรือเปล่า? แล้วมันลบล้างได้จริงไหม ใจผมอยากให้ลบล้างหายไปให้หมด แต่มันคงทำไม่ได้
ในรถผมรู้แสบร้อนตรงหน้าอก ลามไปถึงท้องเลยต้องถอดเสื้อออก เห็นว่ามันแดงมากยังกะสีเลือด ผมล่ะอยากเอาอะไรเย็นๆมาประคบจริงๆเลยถึงไปนึกน้ำแข็ง คิดว่ากลับถึงคอนโดต้องเอาน้ำแข็งประคบ
พอจอดรถได้ผมก็รีบขึ้นห้องทันที กำลังจะอาบน้ำโทรศัพท์ก็ดังขัดใจให้โมโห
กริ้งๆ ใครโทรมาไม่สำคัญ ชนะชัยจะเหวี่ยง! ทั้งร้อนทั้งแสบขนาดนี้
ไอ้แบงค์ โทรมา ..
เห็นชื่อแล้วไม่โกรธ ดีใจที่มันโทรมา
“ ไรแบงค์?” ผมถามถอดกางเกงไปด้วย กลิ่นมาม่ายังติดอยู่จนเหม็น
“ เดี๋ยวไปหา”
“ เออดีมาช่วยกรูหน่อย”
“ ช่วยอะไร?” ไอ้แบงค์ถามสงสัย เสียงเตรียมตกใจไว้แล้ว
“ กรูโดนน้ำร้อนลวก” ผมบอกเดินเข้าห้องน้ำ แบบเปลือยๆอยากล้างกลิ่นมาม่า โค้กเหนียวๆเต็มทน
ตอนนี้จักรคงเข้าห้องเรียนไปแล้ว
“ มรึงไปทำอะไรให้น้ำร้อนลวก!?” เสียงไอ้แบงค์ฉุดผมจากใบหน้าจักรครั้งสุดท้ายที่ผมเห็นมาเป็นหน้าไอ้แบงค์ แต่มันไม่พออยากเจอตัวจริงเลยมากกว่า
“ แบงค์ รีบมาหากรูนะ” ผมบอก อยากเห็นหน้าไอ้แบงค์มากถึงมากที่สุด มากจนอยากจะร้องไห้
ผมบ้าอีกแล้ว
“ จะรีบไป” ไอ้แบงค์บอกเสียงหนักแน่นเกินพอดี
“ …………….จะรอ” ผมว่า ทั้งที่เพิ่งได้เจอไอ้แบงค์เมื่อวาน แต่กลับรู้สึกว่าไม่เจอมันนานมาก
คิดถึงก็แค่นั้น
“ ..............”
ไอ้แบงค์วางไปแล้ว ผมยังจ้องหน้าจอโทรศัพท์ค้างอยู่จนรู้สึกเจ็บร้อนที่อกผมถึงได้วางโทรศัพท์ไว้แล้วอาบน้ำ
พออาบน้ำเสร็จออกมา ไอ้แบงค์ก็ยืนอยู่ในห้องยังกะผีบ้านผีเรือน มันมองผม และจับจ้องหน้าอกแดงๆของผมทันที (ผมพันผ้าเช็ดตัวสีน้ำเงินที่เอว)
“ ............” ใจเต้นครับ จะจ้องทำเพื่อ ไม่มีตู้มๆงอกออกมาหรอกคุณเพื่อน
“ จ้องอะไรของมรึง!?” ผมพูดเดินไปตู้เสื้อผ้าหันหลังให้ไอ้แบงค์ ปกปิดอาการผิดปกติที่เรียกว่าใจเต้น
“ ก็จ้องว่าน้ำร้อนไปลวกอกมรึงได้ไง” ไอ้แบงค์พูด ผมหันกลับไปไอ้แบงค์กำลังเอาสำลีออกจากถุง พร้อมยาขวดเล็กๆ
“ .............” ผมหันกลับมาอย่างมีพิรุธ(คือไม่เนียน) อย่างกะว่าผมกำลังแอบมองไอ้แบงค์ ก็แค่หันไปมองธรรมดา
“ ใส่แค่กางเกงก่อน เดี๋ยวทายา” ไอ้แบงค์บอก ผมกำลังก้มลงใส่กางเกงใน
“ มรึงจะมองกรูทำเพื่อ อยากดูนักเดี๋ยวก็ถอดให้ดู” ผมว่า เอาเป็นว่าเขินแล้วกัน ใจเต้นโครมคราม
“ อย่าเล่นชนะ มานั่งกรูทายาให้” ไอ้แบงค์ว่านั่งบนเตียง (ทำไมต้องเตียง ||^|| เดี๋ยวก็จับกดซ่ะหรอก เพื่อนยิ่งคิดไม่ซื่อ)
“ ดีวะ กรูแสบจนจะไม่ไหว”ผมไปนั่งข้างไอ้แบงค์ มันเอาสำลีที่เทยาจากขวดแล้วทาหน้าอกผม พอโดนผิวผมแล้วเย็นครับ รู้สึกเหมือนสวรรค์โปรด จักรทำกันได้ ไม่ได้ให้อภัยคนหล่อเลย
ไอ้แบงค์มันทายาให้ผม ผมมองหน้านิ่งๆของมัน คิ้วเข้มๆ แก้ม จมูก เรื่อยลงมาปาก..น่าจูบมาก ผมก้มหน้าลง บางอย่างกำลังดึงดูดผม
“.................”
“ ตกลงจะบอกได้ยังว่าโดนน้ำลวกมาได้ยังไง?” ไอ้แบงค์เงยหน้าถาม ผมผงกหน้าขึ้นมา! เหมือนโดนกระตุกหลัง
“ จักรทำกรู” ผมบอก ไอ้แบงค์ก้มหน้าลงไปอีก (ทาท้องที่แดงหน่อยๆด้วย)
“ แล้วไงต่อ?” (ไอ้แบงค์)
“ เรื่องจักร กับปราง กรูเข้าใจผิดไปเอง” ผมบอกตาจับจ้องหน้าไอ้แบงค์อยู่ แม้ตอนนี้มันจะเงยหน้าขึ้นมา
“ .............” ไอ้แบงค์มันยังเงียบผมเลยพูดต่อ
“ กรูไปขอโทษจักร อยากให้จักรยกโทษให้” หน้าจักรที่จ้องมองผมที่ถนนวันนี้ลอยขึ้นมาในกรอบตาทันที
“ มรึงไปขอโทษ น้องเขาเลยเอาน้ำร้อนสาดมรึง?”
“ ตอนแรกเอาโค้กสาดหน้ากรู แล้วมาม่าคัพ” ผมบอก ใจไม่สงบทุกทีตอนไอ้แบงค์มอง
“ จักรยกโทษให้ไหม?” ไอ้แบงค์ถามอีก
“ไม่” ผมพูดพร้อมส่ายหน้า ใจเล็กลีบลง
“ น้องเขาเกลียดกรู แค่หน้ากรูน้องเขายังไม่อยากมอง และยังบอกอีกว่าจะไม่วันยกโทษให้กรู” ผมบอกเหนื่อยใจ ทำยังไงจักรถึงจะยอมยกโทษให้ผม ให้ทำอะไรก็ยอม
“...................”(ไอ้แบงค์)
“ กรูรู้ว่ากรูผิดเต็มๆ แต่น้องเขาน่าจะให้โอกาสกรูทำอะไรได้ลบล้างความผิดบ้างแต่จักรไม่เปิดโอกาสเลยสักนิด”
“ ................”
“ แบงค์ กรูอยากให้จักรมองกรูในแง่ดีบ้าง”
“ มรึงชอบจักร?”
“ คงงั้น” ผมบอกวางหน้าผากบนไหล่ไอ้แบงค์
“ ตอนนี้กรูอยากคบจักรแบบจริงจัง” ผมบอกสิ่งที่คิดอยู่ในใจ พูดแล้วใจก็หายวาบ มันเป็นไปได้ยาก
“ ...........” ไอ้แบงค์เงียบ มันคงเครียดแทน ผมต้องพูดอะไรที่มันครื้นเครงขึ้นมาหน่อย
“ มรึงรู้ได้ไงว่ากรูชอบจักร มรึงมานั่งในใจกรูหรือเปล่าเนี่ย?”
“ เออ” ไอ้แบงค์ว่าเอาสำลีกดหน้าอกผม
“ ไอ้แบงค์
กรูเจ็บ!” ผมบอกถอยหนี
“ ก็ให้เจ็บ ชอบพูดเล่นเรื่อย”
หมับ! ผมจับข้อมือไอ้แบงค์
“ ถ้าไม่ได้พูดเล่นล่ะ?” ผมถาม จ้องหน้าไอ้แบงค์จริงจัง ก็ผมไม่ได้พูดล่น
มันเป็นอย่างงั้นจริงๆ ไอ้แบงค์มันซุกอยู่ในใจผม
“ ..........โดนน้ำร้อนจนสะเทือนสมองหรือไง?” ไอ้แบงค์ว่ายืนขึ้น ผมจำต้องปล่อยมือไอ้แบงค์
“ แบงค์” ผมยืนขึ้นเดินไปหยุดด้านหลังไอ้แบงค์ที่กำลังเก็บขวดยากับสำลีใส่ถุง
“ ทาซ้ำทุก 2 3ชั่วโมง” ไอ้แบงค์บอก ผมว่ามันจงใจเปลี่ยนเรื่อง
“ แบงค์”
หมับ!?
ผมกอดมันจากด้านหลัง ไอ้แบงค์มันสะดุ้ง
“ กรูไม่รู้เป็นอะไร อยากอยู่กับมรึงตลอดเวลา อย่างวันนี้ที่มรึงโทรมากรูบอกจะมาหากรูก็ดีใจ จนออกนอกหน้า ..”
“ตอนนี้มรึงกำลังสับสนทั้งเรื่องปราง เรื่องจักร”
“ กรูสับสนก็จริงแต่ไม่คิดว่ากรูจะสับสนว่าชอ..”
“ อย่าพูดชนะ เพราะเมื่อกี้มรึงก็บอกกรูว่าชอบจักร แล้วมรึงยังจะบอกว่า...อีก”
“ กรูรู้สึกยังไงกรูก็พูดออกไป ผิดหรือวะ” ผมกอดไอ้แบงค์แน่นมาก เพราะผมกลัวว่ามันจะเดินหนีผม
“ .................” มันไม่ตอบ ผมเอาหน้าวางบนต้นคอด้านหลังไอ้แบงค์ ได้กลิ่นกายไอ้แบงค์รู้สึกดีโคตรๆ
“ ทำไมวะ ทำไมกรูถึงเป็นแบบนี้ ทำไมกรูถึงรู้สึกแบบนี้ มรึงรู้ไหมแบงค์?” ผมถามไอ้แบงค์มันหันมา
“ .....ยาทาทุก 2 3ชั่วโมง กรูต้องกลับแล้วนัดกับเจนไว้” ไอ้แบงค์บอก ใจผมเจ็บจิ๊ดเลย
ไอ้แบงค์กับเจน คิดแล้วให้ใจทรมาน
“ แบงค์ มรึงไม่อยู่ดูแลกรูล่ะ?” ผมว่า ทั้งๆที่มันไม่ใช่
เรื่อง! “ .................”
“ ดูแลกรูหน่อย แฟนกรูก็ไม่มี จะมีก็แต่เพื่อนนี่แหละ” ผมว่ากอดไอ้แบงค์ไว้
“ กรูว่าต้องเป็นไข้แน่”มารยาทได้อีกผม รั้งเพื่อนไม่ให้ไปกับแฟนอยากให้เขามาสนใจตัวเอง
“ เดี๋ยว 3 ทุ่มกรูกลับมาดู” ไอ้แบงค์แกะมือผมออก เดินไป ผมวิ่งไปดักหน้าไอ้แบงค์
“
เลือก ว่าจะเพื่อน หรือแฟน” ผมพูดกลัวคำตอบว่าสิ่งที่ไอ้แบงค์ตอบจะเป็น ‘เจน’
“ .................” ทว่ามันกลับเงียบ
หมับ ผมจับหน้าไอ้แบงค์ก่อนที่จะจูบมันทันที
จูบแล้วดันลิ้นเข้าไปในปากมัน
“ ...............” ไอ้แบงค์ไม่ต่อต้านอะไร ผมยิ่งได้ใจ เอาลิ้นดุ้นลิ้นไอ้แบงค์จนลิ้นมันเริ่มมีปฎิกิริยา
กริ้งๆ กริ้งๆ เสียงโทรศัพท์ไอ้แบงค์ดังจากกระเป๋ากางเกงด้านหลัง ผมเอามือไปลhวงขึ้นมา
!? มือไอ้แบงค์จับมือผมข้างนั้น
“ .................”
ตุบ! ผมปล่อยโทรศัพท์ไอ้แบงค์ลงพื้น มันยังดังอยู่แต่ก็เงียบไปในที่สุด
“ ....................”
ตาผมตาไอ้แบงค์ที่ห่างกันแค่เพียงเล็กน้อยกำลังมองกันอยู่ หัวใจของผมมีไฟกำลังลุกโหมขึ้นอย่างหนัก
หนักมาก...
“ อยู่กับกรู นะ” ผมบอกดันไอ้แบงค์ให้เดินถอยหลังเข้าไป จนขาไอ้แบงค์ชนขอบเตียงผมถึงหยุด
“ ชนะ” ไอ้แบงค์ว่าเหมือนมันหายใจแรงขึ้น
“ กรูชอบมรึงได้ใช่ไหม?” ผมถามเสียงสั่น
“ ........................”
เมื่อมันไม่ตอบผมก็รุกจูบดูดคอต่อ มันเอามือจับหน้าอกผมเหมือนจะผลักแต่ไม่ใช่ แค่จับเฉยๆ
มือของผมจับช้างน้อยไอ้แบงค์ผ่านกางเกงที่มันใส่อยู่
“ ชนะ มรึงต้องบ้าไปแล้ว”
“ กรูรู้” ผมบอกอะไรก็หยุดไม่ได้แล้วตอนนี้
แล้วมันก็เป็นอย่างที่ผมต้องการ ...
.
.
.
.
ผมรู้สึกเย็นที่หน้าอก พอลืมตาขึ้นมาก็เห็นไอแบงค์กำลังทายาที่หน้าอกผมอยู่
“..................” ไอ้แบงค์มันเห็นผมตื่นแล้วแต่มันไม่พูด (ไอ้แบงค์ใส่กางเกงตัวเดียว เห็นซิกแพ็กเต็มตา)
“...............” ผมก็นอนให้ไอ้แบงค์ทายาไปเงียบๆ มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
“ กี่โมง?” ผมถามเมื่อไอ้แบงค์ทายาเรียบร้อยแล้ว
“ ทุ่ม” ไอ้แบงค์ตอบคำเดียวดูเครียด
คงเป็นเพราะผม..........ผมรู้
“ ขอโทษ” ผมว่า
“ เพราะกรูด้วย” ไอ้แบงค์พูดใส่เสื้อติดกระดุม(หันหลังให้ผม)
“ แต่ที่กรูบอกว่าชอบมรึง มันจริง กรูคิดกับมรึงเกินเพื่อนไปแล้ว” ผมบอกให้ไอ้แบงค์รู้ว่าผมไม่ได้สับสน
“ กรูจะคิดว่าไม่เคยได้ยิน เพราะมรึงกำลังสับสน” ไอ้แบงค์บอกพร้อมทั้งหันมาเผชิญหน้ากับผม
“ ไม่ใจร้ายไปเหรอแบงค์ที่มรึงพูด” ผมเหมือนจะร้องไห้ อกมันอึกอัดแน่นอึ้งและไม่นานมันจะพังทลายลงมา
“ ........เราเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมนะดีแล้ว”
“
มรึงเอาอะไรมาตัดสินว่าดีไม่ดี!” ผมว่า เจ็บปวด ยิ่งมองไอ้แบงค์ที่หน้ามันนิ่งเหมือนว่ามันไม่ได้คิดอะไรกับผมเหมือนที่ผมคิด ผมก็ยิ่งทรมาน
“ ตอนนี้กรูมีแฟนแล้ว และยังมายุ่งกับมรึงที่เป็นเพื่อนกรู มันดีไหมล่ะ?” ไอ้แบงค์ถามผมกลับ
ไม่ดี
ความเห็นแก่ตัวก็อยากบอกไอ้แบงค์ว่าให้เลิกกับเจน แต่มันพูดไม่ได้...ถ้าผมพูดไปไม่ใช่แค่ไอ้แบงค์ที่จะเกลียดผม ตัวผมเองก็คงเกลียดตัวเองเหมือนกัน
พอได้แล้วชนะ
พอแล้ว
ผมบอกตัวเอง
เป็นเพื่อนกับไอ้แบงค์อย่างงี้ต่อไป ผมไม่มีทางจะหาเพื่อนแบบมันได้ที่ไหนอีกแล้ว
แต่ใจมันอยากได้มากกว่านั้น
…รักกรูดิ.. .. .
“ กรูจะเลิกชอบมรึง” ผมกลั้นใจพูดออกไป พูดแล้วจุก
“ ..............” ไอ้แบงค์เงียบ ผมยิ่งแทบบ้า
“ กรูจะเลิกชอบมรึง! ได้ยินไหม!?” ตะโกนจนสะเทือนอกที่ทายาแล้วมันตึงๆ
“ ชนะ กรู...”
“ ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นแบงค์ ไม่ต้องสงสาร...!” ผมต้องตะโกน น้ำตาทุเรศไหลทะลักออกมาประจานความอ่อนแอ
“ ...........” ไอ้แบงค์นั่งลงกอดผม
“ ยังไงกรูก็เป็นเพื่อนมรึง” มันบอก กอดผมแน่น
“ กรูไม่อยากเป็นเพื่อนกับมรึง!” ผมบอกดันตัวไอ้แบงค์ออกไป
“ แต่มรึงเพื่อนกรู”
“ ไม่ใช่มรึงไม่ใช่เพื่อนกรู! น้ำตาจะไหลทำเหี้ยทำไมวะ!” “ ....................” (ไอ้แบงค์)
“ ทำไมไม่มีใครรักกรู ทั้งปราง ทั้งจักร ทั้งมรึง กรูมันไม่มีดีอะไรเลยหรือไง!” ผมยอมให้ไอ้แบงค์กอด ยอมให้มันปลอบผม เพราะผมก็ต้องการอ้อมแขนของมัน
“ กรูจะร้องไห้แล้วนะ” ผมบอกแต่ร้องไปแล้ว
“ เท่าที่มรึงต้องการ” (ไอ้แบงค์)
“ ชั่ว! ฮือๆ”
ผมร้องไห้กับอกไอ้แบงค์
“ มรึงมันเลว ทำให้กรูชอบ ทำให้กรูรัก แล้วมาบอกให้เป็นเพื่อน เลว เลว ฮือๆ” ผมว่า เอากำปั้นทุบไหล่ไอ้แบงค์แรงๆ มันก็เจ็บแต่ไม่พูด
“ กรูเลว กรูเหี้ย! เอาเลยถ้ามันทำให้มรึงสบายใจ”
“ ใช่มรึงเลว มรึงชั่ว!” ผมว่า แต่ที่ผมพูดผมด่าตัวเอง ทั้งรักเพื่อนตัวเอง อยากให้เขาเลิกกับแฟนมารักตัวเองทั้งเรื่องที่ผมทำจักร
** ** **
‘อย่ามาหากรูสักพักได้ไหม’
คือคำพูดที่ผมบอกไอ้แบงค์เมื่อคืน ตอนนี้เช้าแล้วผมยังนอนอยู่บนเตียง รู้สึกเหมือนตัวเองยังไม่ตื่น หัวใจมันห่อเหี่ยว แต่ก็ต้องลุกขึ้นมา เพราะวันนี้ผมคิดว่าจะไปรับจักรไปมหาลัย ผมทำอะไรให้ได้ผมก็จะทำถึงแม้จักรจะไม่ต้องการ แต่มันจะแสดงความจริงใจว่าผมสำนึกผิด
ผมเดินเข้าห้องน้ำ ตรงที่โดนน้ำร้อนรู้สึกผิวหนังตึงๆ ผมไม่ใคร่สนใจเท่าไร
“.............................แบงค์” นึกถึงตอนไอ้แบงค์ทายาให้ พอเอามือลูบอกเบาๆหน้าไอ้แบงค์ก็ยิ่งเด่นชัด
ผมบอกตัวเองว่า เพื่อน
แค่เพื่อนเท่านั้น มากกว่านี้ไม่ได้..
สิ่งที่ผมต้องทำคือ ไปรับจักรไปมหาลัย
ผมต้อง...เท่านั้น
.
.
.
ผมจอดรถหน้าบ้านจักร ลงมาจะกำลังจะกดกริ่ง จักรก็เปิดประตูบ้านออกมา น้องเขามองผม
“ .............” ผมฉีกยิ้ม
“ .................” จักรเปิดประตูรั้วออกมาทำเหมือนไม่เห็นผม ร่างบางๆสะพายกระเป๋าสีดำ มือข้างหนึ่งถือหนังสือ3 เล่มเดินผ่านผมไป
“จักรพี่ไปส่งมหาลัย” ผมบอกเดินตาม
“ ..........” จักรยังเดินต่อไป (ต้องเดินไกลมากกว่าจะถึงหน้าปากซอย ตรงหัวมุมมีมอเตอร์รับจ้างอยู่ ผมคิดว่าจักรน่าจะไปใช้บริการ)
“ จักร” ผมเดินไปดักหน้า จักรเดินเลี่ยงมาขวาผมตาม จักรเดินเลี่ยงมาซ้ายผมตาม
“ ..............” จักรจ้องมองผม คิ้วเรียวขมวดไม่พอใจ
“ พี่ไปส่ง” ผมว่า ยิ้มแย้มเห็นหน้าก็รู้สึกดี
“ เมื่อไรมรึงจะหยุด เมื่อไรจะเลิกยุ่งกับกรู!”“ ให้พี่ได้ทำอะไรให้จักรเถอะ”
“ กรูไม่ต้องการ!”
ผวักะ!? จักรเอาหนังสือที่ถือมาฟาดเข้ากับหน้าผมเต็มๆ
เจ็บ!
จนโกรธ
แต่ทน! “ กรูทำแบบนี้กับมรึงได้ไหม?!” “ ได้”
ผวักะ!! โดนหนังสือตบหน้าข้างเดิม
หน้าเจ็บและร้อน
“...............หึ” จักรยิ้มสะใจ
ผวักะ!! เจ็บแสบ ที่หน้าข้างเดิม
“ จักร!”
“ ทำไมจะทำอะไรกรู!” “ ให้พี่ไปส่งได้หรือยัง?” ผมถาม แสบหน้ามาก
“ยัง!” ผมหลับตาและทันที
ผวักะ! โดนหนังสือหวดแก้มอีกด้าน อย่างน้อยก็ไม่ใช่ข้างเดิม
“ ...................”
ผมลืมตาเห็นหน้าจักรกำลังทำหน้ามองผม แววตาสั่นระริก
“ มรึงคิดว่าทำแบบนี้แล้วมันลบล้างความผิดมรึงได้ มรึงคิดผิด!!” “ ให้พี่ทำเถอะ ถึงพี่จะคิดผิด” ผมบอก
“
เออดี มรึงจะได้รู้ว่ามรึงคิดผิด!!” จักรบอกยัดหนังสือใส่มือผม
“ อยากไปนักส่งก็ไป!” พูดแล้วก็เดินกลับ
ผมดีใจครับที่จักรให้ผมไปส่ง ผมฉีกยิ้มจนปากแทบฉีก มองหนังสือที่ตบหน้าผมจนปวดไปหมดว่าขอบคุณมาก
ควับ!
จักรหันกลับมา ทำหน้ายักย์
“ ยิ้มอยู่ได้! จะไปส่งไหม!?” จักรถาม
“ ไปครับผม ไป” ผมบอกยิ้ม วิ่งไปหาจักร ท้องฟ้าที่ปิดมาตั้งแต่เมื่อคืนเริ่มเปิดแล้ว
ในรถ
“ .......................” จักรเอาหนังสือที่ตบหน้าผมมาเปิดดู
เงียบ
“ ฟังเพลงไหม?” ผมถาม กำลังเอื้อมมือไปเปิด
“ ไม่อยากฟัง! ” จักรพูดหน้ายังก้มอ่านหนังสือ
“ ............” ผมรีบหดมือกลับมา ดุ T^T
“ ตอนเที่ยงพี่มารับไปกินข้าว” ผมบอกหาเรื่องคุย หันหน้าไปมองจักรเป็นครั้งคราว
สิ่งที่จักรตอบกลับมาคือความเงียบ จนรถติดไฟแดง
ผมเลยได้แต่มองขนตายาวๆกับเปลือกตาบางที่ไม่คิดจะเงยขึ้นมา....
“ ตอนบ่ายเลิก 3 โมง จะไปไหนพี่มารับ” ผมถามอีก
ผมคิดว่าจักรจะไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับเหมือนเคย แต่จักรเงยหน้าขึ้นมา พอเห็นผมกำลังมองตัวเองก็ปั้นหน้ายักย์ส่งสายตาค้อนวงใหญ่ ผมยิ้มสู้ทว่ากลับไปยั่วอารมณ์จักรเข้าให้
“ .............”
“ หรือจะเอา!” จักรยกกำปั้นขึ้นขู่ผม (น่ารัก^^)
“ ไม่เอา แค่มองเอง” ผมบอกเสียงเบา ไม่อยากไปยั่วโมโหจักรอีก
“ มองก็ไม่ได้!” “ จักรน่ารัก พี่ก็มอง” พูดความจริง
“ มรึง!..” จักรพูดพร้อมกับกาง 5 นิ้วตบกลางหน้าผม
“
โอ๊ย!” ผมร้องโอเวอร์ไม่ได้เจ็บขนาดนั้น เจอหนังสือตบเจ็บกว่านี้เยอะ
“ ไฟเขียวแล้ว ก็ไปดิ!” ผมหันกลับไปไฟเขียวแล้วจริงๆด้วยเลยรีบเลยครับ
.
.
.
“ ตอนเย็นเจอกัน” ผมบอกขณะที่จักรปลดเข็มขัดนิรภัย
“ 3 โมง ถ้ามรึงช้าแค่ 1 นาทีกรูก็ไม่รอ” จักรบอกพร้อมเปิดประตูรถ
“
ค ร้าบบบบบบบบผม” ผมบอกผมอมยิ้ม
ปัง! แต่กลับโดนจักรปิดประตูกระแทกใส่
เอาวะดีขึ้น ผมก้มมองจักรเดินเข้าตึกเรียนจนร่างบางๆของจักรหายเข้าไปตัวตึก
“.........
มันต้องยังงี้สิวะ!” ผมยกกำปั้นให้กับความสำเร็จขั้นเล็กๆของตัวเอง
ผมยิ้มไม่หุบแล้วครับ
** ** **
รู้สึกว่าจะมีการเม้นต์แบบลำเอียงเกิดขึ้นหรือเปล่า? เจ้าหญิงคงคิดมากไปมั้ง...55
คำผิดขอบคุณ ท่านchae (ไม่ขำหรอกเจ้าค่ะ ดีใจที่ท่านมาอ่านมากกว่า)ขอบคุณ ท่านM_M จักรตามมาแก้แค้นให้ จุมแน่ๆ สถานการณ์เดียวกันเลย =[]=
แต่น่าจะทำกับวุฒินะ ฮ่าๆ
............... ..