ผู้ชายรั้นกว่าแมว By:คิงเพนกวิน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ผู้ชายรั้นกว่าแมว By:คิงเพนกวิน  (อ่าน 82434 ครั้ง)

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
เรื่องนี้แต่งโดย คิงเพนกวิน

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ


ข้างบนคือกติกานะคับ ขอความกรุณาทุกคนช่วยทำตามด้วย
เรื่องนี้เราได้ทำการขออนุญาตเจ้าของเรื่องเป็นที่เรียบร้อยแล้วลองอ่านกันดูนะ เรื่องนี้สนุกจริงๆเรารับรอง
Credit webboard: http://board.thaimisc.com/dark_ace666

ผู้ชายรั้นกว่าแมว 1


คุณเคยมั้ยเวลาที่อยากจะเล่นกับแมวน่ารักสักตัว ไอ้แมวเวรตะไลตัวนั้นมันเจือกทำท่าหยิ่งเชิดใส่ไม่ยอมเล่นด้วย แต่พอเราถือของเล่นไปล่อมันก็จะทำท่าเป็นว่าไม่อยากเล่นแต่ที่จริงอยากม๊าก...มากแล้วในที่สุดมันก็จะเล่นอย่างเอาเป็นเอาตายด้วยความลืมตัว จนสุดท้ายเมื่อมันนึกได้มันก็จะทำเป็นเก๊กใส่ แต่เมื่อเห็นเราขำมันก็พาลโมโหหันกลับมาทำตาขวางแล้วเผลอๆจะข่วนใส่เราเอาด้วยซ้ำ ทั้งที่โดนข่วนเจ็บๆ โมโหก็โมโห แต่พอเห็นดวงตากลมๆโตๆ แป๋วแหวว ที่เจ้าตัวกลมขนปุยกลิ้งตัวลงบนพื้นแล้วหงายท้องมองเราแบบนั้นแล้วก็โกรธไม่ลง ถึงอยากจะทุบมันสักเปรี้ยงสองเปรี้ยงแต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะมันน่ารักเกินไป....กับเด็กผู้ชายบางครั้งก็เหมือนแมวทำเป็นท่ามาก ทั้งดื้อ ทั้งซน ไปรู้ทันมากก็จะโกรธ แต่เราก็อยากจะแหย่มันอีกจนได้ ก็แมวรั้นๆ แบบนี้น่ะน่ารักจนอดใจไม่ไหวที่จะหลงรักนี่นา......เป็นคุณล่ะจะอดใจไหวเชียวหรือ?

"ที่นี่เคยเป็นราชธานีเมืองหลวงของไทยแลนด์มาก่อนในยุคหลายร้อยปีที่แล้ว"
เสียงอธิบายของไกด์นั้นเด็กหนุ่มฟังเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ไม่ได้เรียกความสนใจให้อยากซึบซับประวัติศาสตร์สักเท่าไร เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่ซากอิฐเก่ากองเท่าภูเขาแต่ใครๆ เรียกมันว่าเจดีย์ อากาศก็ร้อนเหลือจะรับแถมชักจะง่วงๆ เพราะเมื่อสักครู่เพิ่งสวามปามอาหารกลางวันเข้าไปเต็มคราบ เมื่อหนังท้องตึงหนังตาก็ชักหย่อนเด็กหนุ่มจึงภาวนาให้ทัวร์นี้จบๆ ไปสักที ไอ้การมาทัวร์ จ.อยุธยา นี่นับว่าเป็นครั้งแรกของเยี่ยนจื่อถิงเลยทีเดียว อย่าว่าแต่อยุธยาเลยนี่เป็นการมาเมืองไทยเป็นครั้งแรกด้วยซ้ำไป
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-09-2010 11:58:03 โดย THIP »

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
มารออ่านจ้า :give2:

balloonza

  • บุคคลทั่วไป
จะจอติดตามนะคับ

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
ทีแรกเด็กหนุ่มก็ตื่นเต้นกระตือรือล้นดีอยู่หรอก สิ่งก่อสร้างใหญ่โตรอบกายมันก็ดูอลังการมีมนต์ขลังชวนให้จินตนาการล่องลอยผ่านกาลเวลาไปสู่อดีตอันเนิ่นนาน มันควรจะน่าสนใจมากทีเดียว ถ้าไม่ดันหันหน้าไปอีกฟากของถนนแล้วสบตาเข้ากับเซเว่นอีเลฟเว่นและร้านขายของทันสมัยเรียงรายกันเต็มพรืดพวกนั้น มันบั่นทอนบรรยากาศของเมืองโบราณไปโขเลย ทั้งนี้เพราะร้านค้าเหล่านั้นตั้งอยู่ไม่ไกลกับเมืองเก่า จะมีก็เพียงแค่ถนนเส้นเดียวกั้นผ่านกลาง ดูราวกับว่าถนนสายนี้เป็นเส้นตัดของกาลเวลาระหว่างอดีตและปัจจุบันไปเลย เด็กหนุ่มเดิมทีก็ค่อนข้างจะสมาธิสั้นอยู่แล้วดังนั้นจึงพาลหมดอารมณ์จะชมเมืองโบราณไปง่ายๆ เรื่องนี้จะโทษเขาทีเดียวก็ไม่ได้ทั้งนี้เพราะเยี่ยนจื่อถิงไม่ได้อยากมาชมประวัติศาสตร์หรือวัฒนธรรมอะไรที่เมืองไทยกับเขาเลย เด็กหนุ่มเพียงแค่ติดสอยห้อยตามครอบครัวมาเท่านั้น

เมื่อเบื่อหนักเข้าๆ ประกอบกับทนอากาศร้อนระอุไม่ไหวจึงขอแยกตัวหาซื้อน้ำกิน จื่อถิงเดินมาเรื่อยๆ น้ำอ้อยในถุงพลาสติกที่ซื้อมาพร่องไปกว่าครึ่งแล้ว เมื่อเหลือบดูนาฬิกาก็ต้องถอนหายใจเพราะอีกนานกว่าการชมเมืองโบราณจะจบสิ้น เด็กหนุ่มจึงเลือกที่จะเดินเข้าร้านค้าหลบแดดอยู่แถวๆนี้ก่อน ดีกว่าไปจะทนร้อนกับคณะทัวร์ แต่ก็ใช่ว่าอยู่ในล่มแล้วอากาศร้อนจะลามเลียมาไม่ถึง ผิวขาวๆ ของคนไม่เคยโดนแดดอย่างคนที่มาจากประเทศที่อากาศเย็นจนหมอกลง ถึงจะมีร้อนบ้างแต่ก็ไม่เคยอบอ้าวถึงขนาดนี้ผิวขาวเนียนจึงกลายเป็นแดงกล่ำไปทั่ว
จื่อถิงปาดเหงื่อบนใบหน้าคร่าวๆ เริ่มรู้สึกมึนหัวปวดตุ้บๆและมีอาการตาลายเข้ามาผสมโรงด้วย แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้ใส่ใจกับอาการทางกายสักเท่าไร เด็กหนุ่มทำเพียงแค่สะบัดหน้าไล่ความเบลอออกไปเท่านั้น แต่มันก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นเลย เขาจึงตัดสินใจว่าจะไปหาน้ำเย็นดื่มๆ อีกสักขวดน่าจะบรรเทาให้ความร้อนในตัวเบาบางลงได้ เมื่อคิดได้ดังนั้นจื่อถิงก็เดินเตร่ไปที่รถเข็นขายน้ำใกล้ๆ กันนั้น แม่ค้าที่ขายยิ้มต้อนรับลูกค้าชาวต่างชาติคนนี้เป็นอย่างดีดูท่าหล่อนไม่ค่อยรู้ภาษาอังกฤษเท่าไรนักหรอก แต่ก็ไม่เป็นปัญหาเพราะเด็กหนุ่มแค่ชี้บอกแล้วควักเงินส่งให้ ราคาเท่าไรเดี๋ยวหล่อนก็คงทอนมาให้เองแหละ จื่อถิงคิดแบบง่ายๆ เพราะภาษาอังกฤษของเขาใช่ว่าจะดีสักเท่าไรนัก ยิ่งกว่านั้นด้วยความเบลออากาศร้อนเต็มที่ ทำให้เด็กหนุ่มไม่ระแวดระวังตัวว่ามีสายตาไม่ประสงค์ดีจับจ้องมองเขาอยู่นานแล้ว และเมื่อสบโอกาสที่เขาล้วงมือเข้าไปหยิบเงินในกระเป๋าคาดเอว ชายแปลกหน้านั้นก็แสดงตนเป็นคนร้ายทันที มันวิ่งเข้าชนเด็กหนุ่มอย่างแรงจนเขาล้มกลิ้งไปกับพื้น ตอนแรกจื่อถิงยังงงๆ อยู่แต่เมื่อลุกขึ้นมาก็พบว่ากระเป๋าคาดเอวที่ใส่ทั้งเงิน พลาสปอร์ตและมือถือ อันตธานหายไปจากเอวเสียแล้ว

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
 แน่นอนเด็กหนุ่มวิ่งไล่กวดตามหลังไปทันที เจ้าหัวขโมยดูเหมือนจะเป็นคนท้องถิ่นมันพาเขาวิ่งเข้าตรอกเล็กตรอกน้อยทะลุซอกซอยเข้าช่องนั้นออกช่องนี้ จนห่างไกลจากจุดเดิมเข้าไปทุกที แล้วอยู่ๆ มันก็หายไปเสียดื้อๆ ทั้งที่เห็นอยู่หลัดๆ ว่ามันเลี้ยวซ้ายตรงหัวมุมข้างหน้าไปนี่แท้ๆ เด็กหนุ่มหยุดชะงักด้วยความงงงวยอยู่ครู่ใหญ่ ด้วยไม่รู้ว่าจะตามตัวมันที่ไหนต่อดี และเมื่อเหลียวไปรอบตัวก็ยิ่งมึนเพราะจำไม่ได้ว่าตัวเองวิ่งมาจากทางไหน ระหว่างที่กำลังยืนใช้ความคิดอย่างหนักพลางหอบไปด้วยความเหนื่อยอ่อนนั้น ไอร้อนในตัวดูเหมือนจะทวีขึ้นสูงจนร่างกายเริ่มปรับสภาพไม่ทัน

นอกจากเหนื่อยจนจุกแล้วจื่อถิงก็รู้สึกว่าอะไรบางอย่างที่อยู่ในกระเพาะเขากำลังเคลื่อนขึ้นมาเกือบจะถึงคออยู่แล้ว เด็กหนุ่มพยายามหายใจเข้าลึกๆ ระงับอาการและไล่ความร้อนให้มากที่สุด แต่ก็จวนจะไม่ไหวจริงๆ เมื่อตาของเขาเริ่มพร่าเบลอลงเรื่อยๆ เรี่ยวแรงก็ดูจะลดน้อยถอยลง จื่อถิงรู้ตัวว่าเขากำลังจะเป็นลมแต่จะมาเป็นเอาแถวนี้คงไม่ดีนักยังไงก็ต้องหาทางกลับไปที่คณะทัวร์ให้ได้ก่อน เด็กหนุ่มเดินเซไปถามทางชายคนหนึ่งที่เห็นว่าอยู่ใกล้ตัวที่สุด แต่เดินไปแค่ 2-3 ก้าวภาพรอบตัวก็เริ่มหมุนได้เสียแล้วและก่อนที่จะเสียหลักล้มลง เขาก็คว้าชายเสื้อคนตรงหน้าไว้ได้ทันแต่ทว่าอาการที่พยายามเพียรกลั้นเอาไว้มันถึงที่สุดเสียแล้ว พลังขับเคลื่อนจากกระเพาะทำงานเร็วกว่า มันผลักดันเอาซากอาหารเมื่อมื้อเที่ยงพุ่งขึ้นมาถึงคอหอยและทะยานออกจากปากเด็กหนุ่มไปด้วยความเร็วสูงเกินกว่าเจ้าตัวจะระงับได้ทัน อดีตอาหารกลางวันทั้งไก่ย่าง ส้มตำ ต้มยำกุ้ง และอื่นๆ อีกมากมายที่รวมร่างกันกลายเป็นอะไรที่เละเหลวๆ ชวนแหยะทั้งหลายทั้งแหล่ที่ว่ามารวมกันกองอยู่บนเสื้อชายหนุ่มโชคร้ายคนนั้นไปเรียบร้อยแล้ว จื่อถิงอยากจะรู้สึกผิดอยู่หรอกนะแต่เด็กหนุ่มก็สติขาดห้วงเป็นลมไปเสียก่อนจะทันได้ขอโทษด้วยซ้ำไป สิ่งสุดท้ายที่ได้ยินคือเสียงเอะอะของคนรอบตัวและเสียงชายหนุ่มโชคร้ายคนนั้นร้องเสียงหลง แล้วทุกอย่างก็ดำมืดไปจื่อถิงไม่ได้ยินอะไรอีกแล้ว

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

tsutsuku

ลงครึ่งนึงก่อนนะ เรื่องนี้ไม่ค่อยยาวเท่าไร

ลงช้าไปหน่อยตามคนอ่านไม่ทันเลย หุหุ

รักคนเม้นต์ รักเจ๊คิง

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
ตามมาติดๆ คับ  : 222222: : 222222: : 222222:

jammy

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องใหม่มาอีกละเยอะจริงๆจะอ่านทันไม๊เนี่ย  :monkeycry4:

abcd

  • บุคคลทั่วไป
 :yeb:  มารออ่านงับพี่แอม

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
ลมอ่อนๆ พัดโชยผ่านหน้าไปครั้งแล้วครั้งเล่าจากพัดลมตั้งพื้นตัวหนึ่ง ตอนนี้จื่อถิงไม่รู้สึกร้อนอีกแล้วอาการปวดหัวก็ดูจะทุเลาไปจนหมดสิ้น เด็กหนุ่มค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาช้าๆ ในที่สุดก็เริ่มสายตาก็เริ่มปรับแสงได้ภาพตรงหน้าก็ชัดเจนขึ้น แต่ก็ทำให้เขาตกใจจนแทบจะตาเหลือก เมื่อเห็นร่างของใครบางคนนั่งคร่อมตัวเขาอยู่ ร่างของชายคนนั้นสูงใหญ่กว่าจื่อถิงอยู่ไม่น้อย และผิวคล้ำกว่าจนเหมือนเป็นคนละเชื้อชาติ ชายแปลกหน้านั้นนั่งทับตัวเขาอยู่ในชุดผ้าขาวม้าผืนเดียวพันท่อนล่างส่วนท่อนบนนั้นเปลือยเปล่า และพยายามอย่างยิ่งที่จะถอดกางเกงออกจากร่างของเด็กหนุ่มให้จงได้ จื่อถิงอึ้งไปชั่วขณะภาพที่เห็นประเมิณได้อย่างเดียวว่าเขากำลังจะโดนเกย์วิปริตที่ไหนไม่รู้ข่มขืน ตอนแรกก็คิดว่าเบลอจนเห็นภาพหลอนหรือเปล่าจึงพยายามลำดับเหตุการณ์ แต่ไม่ว่าจะขยี้ตาอย่างไรไอ้ภาพตรงหน้านี่มันไม่หายไปสักที แล้วไอ้แรงสัมผัสจากชายแปลกหน้านี่ลูบไล้ต้นขาของเขาอยู่นี่มันไม่ใช่ความฝันแน่นอน เด็กหนุ่มหน้าซีดเผือดเมื่อพบว่ากางเกงยีนส์ที่ใส่อยู่ถูกรูดลงไปกว่าครึ่งแล้ว และก่อนที่คนตรงหน้าจะทำสำเร็จเด็กหนุ่มก็ชิงแหกปากดังลั่นขึ้นมาเสียก่อน จนอีกฝ่ายผงะไปด้วยความตกใจ รวดเร็วเท่าความคิดจื่อถิงชักเท้าขึ้นมายันบาทาเข้าใส่หน้าฝ่ายตรงกันข้ามเต็มตีน จากนั้นจึงรีบดีดตัวขึ้นยืนแล้วดึงกางเกงขึ้นใส่ด้วยความเร็วสูง ในขณะที่ฝ่ายตรงกันข้ามยังนั่งงจุกเอามือกุมปากอยู่ เด็กหนุ่มเห็นดังนั้นความโมโหก็แล่นปรี๊ดขึ้นสู่สมอง ก็วิ่งตรงเข้าไปกระทืบซ้ำจนอีกฝ่ายจนร้องเสียงหลง เมื่อสะใจได้ที่แล้วตะโกนด่าเทสาดเทเสียใส่ฝ่ายตรงกันข้ามรัวเป็นปืนกล ชายแปลกหน้าคนนั้นท่าทางจะโมโหได้ที่เหมือนกันจึงยันตัวลุกขึ้นมาแล้วเดินทื่อเข้าหาเด็กหนุ่ม ทำเอาจื่อถิงใจเสียรู้งี้น่าจะกระทืบให้สลบไปเลยดีกว่า เมื่อเห็นท่าจะไม่ดีเสียแล้วแต่ก็ยังไม่ยอมหยุดด่า ในขณะที่เท้ากลับก้าวถอยหลังไปเรื่อยๆ
"อย่าเข้ามานะไอ้วิปริต!! ต่อยจริงๆ นะเว้ย" หมอนั่นนอกจากไม่ฟังคำเตือนแล้วยังเดินรี่เข้ามาหาเหมือนซอมบี้

"ไอ้เกย์หน้าด้าน!! วอนตายซะแล้วแก" ถึงปากจะพูดอย่างนั้นแต่หัวใจเด็กหนุ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเสียแล้วชักเริ่มกลัวขึ้นมาจริงๆ แล้วสิ เมื่อเห็นท่าจะสู้ไม่ได้ทั้งที่
อุตส่ากระทืบไปขนาดนั้นมันยังไม่ตายอีก แรงอึดถึกกว่าควายอีกแถมพี่แกยังล่ำกว่าตั้งเยอะหนีดีกว่า เมื่อตกลงใจได้ดังนั้นไม่ต้องรอทันให้คิดจบจื่อถิงวิ่งปรู๊ดผ่านประตูออกไปนอกห้องทันทีและเมื่อจะวิ่งต่อ ก็เพิ่งสังเกตว่าตัวเองยืนอยู่บนเรือนไม้ทรงไทย สถานที่มันแปลกตาไม่คุ้นเคยมาก่อน

"ที่นี่มันที่ไหนวะ? แล้วจะหนีไปทางไหนล่ะเนี่ย?" ระหว่างที่กำลังตื่นตระหนกอยู่นั่นเอง เด็กหนุ่มหันไปเห็นผู้หญิงสองคนกำลังวิ่งตรงมาทางนี้ด้วยสีหน้าแตกตื่น อาจเป็นเพราะได้ยินเสียงร้องเอะอะโววายของเด็กหนุ่มก็เป็นได้ แต่กระนั้นก็ทำให้จื่อถิงใจชื้นขึ้นเป็นกองรีบวิ่งไปหาผู้หญิงพวกนั้นทันที

"อี้มๆ เจ๊ๆ ไอ้เกย์โรคจิตมันจะข่มขืนผม เรียกตำรวจเร็ว!!" ที่เรียกไปว่าอาอึ้มเพราะหญิงคนหนึ่งเป็นหญิงวัยกลางคน ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นหญิงสาวอายุราว 30 กว่าแต่ยังดูสาวอยู่มาก จื่อถิงเขย่าแขนและบอกเล่าเหตุการณ์ด้วยความเร็ว แต่ดูเหมือนผู้หญิงทั้งสองคนจะทำหน้าเหยเกไม่เข้าใจเหตุการณ์เสียที เด็กหนุ่มไม่ได้เอะใจเลยว่าพวกหล่อนไม่เข้าใจภาษาที่เขาพูด ทำให้จื่อถิงร้อนใจยิ่งนักหนำซ้ำไอ้คนโรคจิตนั้นก็เดินตามออกมาจากห้องจนจะถึงตัวเขาอยู่แล้วด้วย

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
"นี่มันอะไรกันพ่อแดน? เอะอะโวยวายเสียงดังลั่น แล้วเด็กคนนี้ใคร" หญิงวัยกลางคนพูดจบก็มองไอ้หนุ่มในชุดผ้าขาวม้านั่นตั้งแต่หัวจรดเท้า มาถึงตรงนี้จื่อถิงอึ้งค้างไปทันทีเพราะเพิ่งตั้งสติได้ว่าเขาอยู่ท่ามกลางหมู่คนที่พูดกันคนละภาษาเลย ตายล่ะหว่า....แล้วจะฟังภาษาจีนที่เขาพูดออกไปเมื่อครู่รู้เรื่องหรือนี่ ในเมื่ออีกฝ่ายพูดภาษาไทย!!

"แดน.....หรือว่าเธอ....กับน้องคนนี้.....อ้า....อย่าบอกนะว่า" หญิงสาวอีกคนพูดสวนขึ้นด้วยท่าทางตกอกตกใจเต็มที่

"พอๆ พี่ดาว แม่ อย่าเพิ่งไปกันใหญ่" ชายหนุ่มทำหน้าเซ็งสุดชีวิต

"ก็น้องเขาชี้หน้าแกแล้วร้องเกย์ๆ อยู่นี่น่ะ" จื่อถิงฟังไม่รู้เรื่องหรอกว่าพวกเขาพูดอะไรกันจับความได้แค่คำว่าเกย์เท่า ก็รีบชี้หน้าแล้วพูดซ้ำทันทีว่า "เกย์" ชายหนุ่มเจ้ากรรมเห็นเข้าก็ส่ายศรีษะด้วยท่าทีระอิดหนาระอาใจเป็นที่สุด แล้วเดินย้อนกลับเข้าไปในห้องหยิบเสื้อออกมาตัวหนึ่ง แล้วเขวี้ยงใส่หน้าเด็กหนุ่มทันที

"ผมไม่รู้จักเขาหรอก แต่วันนี้ที่ตลาดอยู่ดีๆ เขาก็มาอ้วกใส่ผมจนเลอะไปหมดทั้งตัว แถมเป็นลมไปอีกก็ไม่รู้จะทำยังไงดี เลยพามาบ้านนี่แหละ กะว่าฟื้นแล้วค่อยพาไปส่ง แต่เห็นไม่ฟื้นสักทีเลยจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ก็เท่านั้นแหละ เหม็นจะตาย....." หญิงสองวัยพากันถอนใจแล้วหันมามองหน้าเด็กหนุ่มพร้อมกัน ซึ่งชายที่ถูกกล่าวหาหันมาอธิบายให้เขาฟังเป็นภาษาอังกฤษอีกรอบ จื่อถิงมองดูเสื้อที่เลอะคราบอาเจียนก่อนจะรำลึกได้ว่านี่มันลายเดียวกับเสื้อใครก็ไม่รู้ที่เห็นก่อนเป็นลมนี่หว่า เลยพอจะเข้าใจเหตุการณ์อย่างคร่าวๆได้แล้ว เด็กหนุ่มหน้าเจื่อนขึ้นมาทันที

"Sorry......"

"That all right." ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่น้ำเสียงก็บ่งบอกว่ายกโทษให้อย่างเสียมิได้ ก็ควรอยู่หรอกนะโดนบาทาไปเด็กหนุ่มไปหลายฝ่าเท้าขนาดนั้น

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

tsutsuku


วันนี้ขยันโพส หุหุหุ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






abcd

  • บุคคลทั่วไป
 :laugh3:  หน้าแตกดังโพล๊ะ เพราะอุบัติเหตุรักแท้ๆ  :call:







ปล. คนโป๊ดน่ารักจัง ขยันโป๊ด คนแต่งก้อหายเศร้าไวไวนะจ๊ะ คนอ่านน่ารัก แต่คนเม้นท์น่ารักที่ซู้ดๆๆๆๆ   :give2:     
       (หมายถึงแน๋วเองนะ :pigha2: )

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
หุหุ ออกแนว หลงทางรักนะนี่  :give2:

jammy

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องนี้ก็ชื่อเเดนแฮะไมชื่อเราขายดีจังเป็นพระเอกซะด้วย555 :fox2:

balloonza

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักจังเยย  เหอ ๆ  ลุ้น ๆ  :yeb:

RoosT

  • บุคคลทั่วไป
 :laugh5: :laugh5:  หลงทางรักกกกกกก


วะฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
โดนไปหลายฝ่าเท้า สงสัยจะญาติดีกันยากแล้ว
 :kikkik:

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
ผู้ชายรั้นกว่าแมว 2

เสียงถอนหายใจของแดนสรวงดังสลับกับนายตำรวจร้อยเวรที่รับแจ้งความ ตั้งแต่เขาพาเด็กหนุ่มมาที่สถานีตำรวจ นี่ก็เกือบชั่วโมงยังไม่มีอะไรคืบหน้ามาสักเท่าไร เนื่องจากว่าภาษาในการสื่อสารเป็นอุปสรรคพอสมควร เยี่ยนจื่อถิงไม่เก่งภาษาอังกฤษนักแต่ก็ไม่ถึงกับจะพูดไม่รู้เรื่อง แค่พอจะพูดคุยแบบทั่วไปแบบมั่วๆ รู้มั่งไม่รู้มั่งได้พอสมควร ส่วนภาษาไทยนั้นยิ่งแล้วใหญ่เด็กหนุ่มแทบจะพูดไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่ก็พยายามจะให้ความร่วมมือเต็มที่ แต่ทว่า.......

"คุณเยี่ยนจื่อถิง คุณจำชื่อโรงแรมที่พักได้มั้ยครับ?" เสียงนายตำรวจถามเป็นภาษาอังกฤษช้าๆด้วยท่าทีอ่อนใจหลังจากถามซ้ำมาหลายครั้งแล้ว

"Ah....Um....In.....In.....Ah....Hotel name's.....in.....Ah" ลำพังภาษาอังกฤษอย่างกระท่อนกระแท่นก็ว่าแย่อยู่แล้ว แต่จำชื่อโรงแรมที่พักไม่ได้นี่เล่นเอาแดนสรวงหนักใจ

"ลองนึกดีๆ อินเตอร์ หรืออินอะไร?" แต่เมื่อเห็นเด็กหนุ่มยังทำหน้าเก้ออยู่ แดนสรวงที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็อดที่จะสอดไม่ได้

"คือผมเล่าใหม่แล้วกันนะ คือเขาบอกว่าเขามาเที่ยวเมืองไทยกับครอบครัวพักอยู่โรงแรมๆ อินๆ อะไรสักอย่างเนี่ยที่กรุงเทพ ทีนี้เขามาเที่ยวอยุธยาแล้วโดนกระชากกระเป๋า เลยวิ่งตามไอ้หัวขโมยไปแล้วก็หลงทาง สุดท้ายมาอ้วกแตกใส่ผมนี่แหละ......" แดนสรวงเล่าเป็นภาษาไทยซึ่งเด็กหนุ่มก็ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องหรอกแต่ก็ยังอุตส่าเออออห่อหมกไปด้วย

"อ่าๆ...ใช่ Yes .Yes "

"งั้นเบอร์โทรติดต่อญาติล่ะครับ?" จื่อถิงทำหน้าเก้อไปอีก เพราะเบอร์โทรทั้งหมดอยู่ในซิมการ์ดมือถือ ไม่ได้มีเมมเบอร์อยู่ในสมองของเขาเลยสักกะนิด เล่นเอาทั้งตำรวจทั้งแดนสรวงพากันถอนหายกันเฮือกใหญ่

"Her nickname is Mei "

"อ่ะนะ.....แค่ชื่อเมย์นี่มีไปครึ่งประเทศแล้วมั้ง ข้อมูลที่มันได้เรื่องได้ราว
มากกว่านี้ไม่มีหรือไงหา?" แดนสรวงอดไม่ได้ที่จะตำหนิแบบกระแทกแดกดันด้วยความหงุดหงิด เด็กหนุ่มก็รู้ตัวจึงก้มหน้าลงเม้มริมฝีปากช้อนแววตาขอความเห็นใจขึ้นมามองคนรอบข้าง สร้างความสงสารให้แก่ตำรวจร้อยเวรกับแดนสรวงไม่น้อยถึงแม้จะปากจะดุไปอย่างนั้นก็เถอะ

"เอาเถอะครับค่อยๆ คิดไปก็ได้ไม่ต้องกังวล เราช่วยเต็มที่เลยครับ เดี๋ยวผมจะติดต่อตำรวจท่องเที่ยวให้เช็คให้นะครับ เราจะพยายามให้เร็วที่สุดแต่ก็อาจจะต้องใช้เวลาหน่อย.....คงจะไม่ทันเย็นนี้....." ร้อยเวรหนุ่มยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูพบว่าเกือบจะห้าโมงเย็นอยู่แล้ว

"อาจจะต้องเป็นพรุ่งนี้ล่ะครับ.....วันนี้คงต้องหาที่พักให้คุณเขาก่อน แต่ไม่มีเงินติดตัวเลยนี่สิ....จะทำยังไงดีนะ" ว่าแล้วคุณตำรวจก็หันหน้ามามองแดนสรวงทำนองให้ช่วยเอาบุญ ทำเอาชายหนุ่มถอนหายใจเฮือก เขาเองก็ใช่จะใจไม้ไส้ระกำเห็นคนตกยากตรงหน้าแล้วไม่ช่วยเอาเถอะไหนๆ ก็ช่วยมาตั้งแต่ต้นแล้วนี่

"เฮ้อ.....งั้นให้ไปนอนบ้านผมก่อนก็ได้แค่คืนสองคืนไม่เป็นไรหรอกครับ"

"ขอบคุณมากครับ ได้เรื่องยังไงผมจะรีบติดต่อไปนะครับ" ร้อยเวรหนุ่มยิ้มรับอย่างดีใจที่ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้เด็กหนุ่มชาวฮ่องกงได้แล้ว

ดังนั้นจื่อถิงจึงกลับมาที่บ้านเรือนไทยในสวนของแดนสรวงอีกครั้ง และปล่อยให้แดนสรวงอธิบายเรื่องราวต่างๆ ให้สมาชิกในบ้านทั้งคุณยาย คุณแม่ และพี่สาวฟัง

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
"โถ....พ่อคุณน่าสงสารจริง หลงกับพ่อแม่อยู่บ้านยายไปก่อนก็ได้ลูก" คุณยายของแดนสรวงกล่าวเป็นภาษาไทย แต่ดูเหมือนเด็กหนุ่มจะรับรู้ความการุนย์นี้ได้โดยไม่ต้องแปลความหมายจึงยกมือพนมขึ้นไหว้

"ไหว้พระเถอะลูก" จื่อถิงฟังคำตอบรับของคุณยายแล้วก็ชะงักไปบ้าง เขาเองพอจะฟังภาษาไทยได้บ้างนิดหน่อยจึงขมวดคิ้วหลังจากตีความหมายแล้ว เด็กหนุ่มจึงก้มลงกราบที่พื้นตรงหน้าคุณยาย 3 ครั้ง

"Hey, what are you doing!? (เฮ้ย!! กราบทำไม?)" แดนสรวงเสียอีกที่ร้องทักท้วง

"ก็....ยาย....." เด็กหนุ่มที่ไปที่ยายของเขาและชี้กับมาที่ตัวเอง "ให้ไหว้พระ" สิ้นคำอธิบายทำเอาบรรดาสาวน้อย(มาก)สาวใหญ่(มาก)ประสานเสียงหัวเราะกันครืน

"ฮะ ฮะ น่าเอ็นดูจริง ยายไม่ใช่พระลูกไม่ต้องกราบ" คุณยายไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มจะเข้าใจที่พูดหรือไม่แต่ยกมือขึ้นลูบศรีษะด้วยความเอ็นดู

"ว่าแต่เขาชื่ออะไรล่ะแดน?" คุณแม่ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ถามขึ้นมาบ้าง แต่ยังไม่ทันที่แดนสรวงจะแนะนำ จื่อถิงเข้าใจประโยคง่ายๆ แบบนี้จึงชิงตอบเสียเอง

"เยี่ยนจื่อถิง แซ่เยี่ยน ชื่อ จื่อถิง เลียก....เสี่ยวถิง ก็ล่าย"

"กระถินเรอะ....." แต่คุณยายฟังไม่ถนัดจับความได้ประมาณนี้

"No Katin เสี่ยวถิง"

"อ้อ ชื่อกระถิน" คุณยายไม่ยอมเข้าใจด้วย จนแดนดาวพี่สาวของแดนสรวงซึ่งนั่งอยู่ข้างอดขำไม่ได้

"ไม่ใช่ค่ะคุณยาย น้องเขาชื่อเสี่ยวถิง"

"เรียกยากจริง ให้มันชื่อกระถินไปนั่นแหละ" ด้วยประการละชะนี้เด็กหนุ่มจึงถูกเรียกว่ากระถินไปเสียอย่างนั้น

"นี่จะค่ำอยู่แล้ว แดนพาน้องเขาไปอาบน้ำอาบท่าแล้วมากินข้าวกันเถอะ" แดนสรวงพยักหน้าก่อนจะดึงแขนจื่อถิงไปที่เรือนเล็กของเขา
บ้านของแดนสรวงเป็นเรือนไม้ทรงไทยยกใต้ถุนสูงแบบที่มีทั่วๆ ไปในอยุธยา เพียงแต่ค่อนข้างจะเก่าเพราะอยู่กันมานานตั้งแต่ปู่ย่าตาทวด และอยู่ลึกเข้ามาในสวนด้านหลังก็ติดคลองเล็กที่ตัดออกไปสู่แม่น้ำ ตัวบ้านปลูกเป็นเรือนหมู่ซึ่งเรือนใหญ่นั้นยาย แม่ และพี่สาวของเขาอาศัยอยู่รวมกัน ส่วนตัวเขาแยกมาอยู่เรือนเล็กซึ่งอยู่ห่างออกไปทางด้านหลังเพื่อความเป็นส่วนตัว เรือนเล็กหลังนี้ไม่สะดวกสบายเท่าเรือนหลังใหญ่เพราะไม่มีห้องครัว ห้องน้ำก็แยกออกไปนอกเรือน แต่กระนั้นแดนสรวงก็ชอบมัน ยิ่งเรือนเล็กของเขาอยู่ลึกเข้ามาด้านติดกับสวนทำให้ไม่ค่อยมีคนมาวุ่นวายเท่าเรือนหลังใหญ่ แต่พอมีจื่อถิงเข้ามาอยู่ด้วยแดนสรวงชักลำบากใจว่าจะให้เด็กหนุ่มนอนที่ไหน เพราะเรือนของเขานั้นมีห้องนอนแค่ห้องเดียว อีกห้องถูกดัดแปลงเป็นห้องทำงาน ส่วนห้องสุดท้ายที่เหลือก็กลายเป็นห้องเก็บของไปเสียแล้ว แต่ครั้นจะให้ไปนอนเรือนใหญ่ที่มีแต่ผู้หญิงก็คงไม่เหมาะสม ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกเมื่อคิดว่าคงจะต้องหารเตียงกับเด็กหนุ่มซะแล้ว


jammy

  • บุคคลทั่วไป
งิลงนิดเดียวเองรอครับ  :รักจัง11:

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
"Come with me. Go to take a bath." ว่าแล้วก็คว้าผ้าขาวม้า ขันใส่สบู่ยาสระผมเดินนำหน้าเสร็จสรรพ เด็กหนุ่มไม่ว่าอะไรเดินตามแดนสรวงไปเงียบๆ ผ่านสวนผลไม้ แล้วก็เริ่มงงเมื่อพบว่าจุดหมายปลายทางเป็นท่าน้ำแห่งหนึ่ง

"Go, what are you waiting for?(เอ้า! ลงไปอาบสิ)" แดนสรวงพูดยิ้มๆ มีแววสะใจแฝงอยู่ไม่น้อยเมื่อพบว่าเด็กหนุ่มทำหน้าเหรอหรายืนงงเป็นไก่ตาแตก ที่จริงเขาจะพาไปอาบน้ำที่ห้องน้ำเรือนใหญ่ก็ได้ แต่ชายหนุ่มขอเอาคืนนิดๆ หน่อยๆ ที่ถูกเหยียบไปหลายทีเมื่อตอนกลางวัน

"Where are bath room?"

"ก็นี่แหละ Thai bath room"

'' impossible!!"

"ก็ที่คุณเคยอยู่น่ะมันในเมืองที่นี่มันบ้านนอก country น่ะ country อาบๆ ไปเหอะ" แดนสรวงพูดไทยผสมอังกฤษเดาๆ เอาว่าเด็กหนุ่มน่าจะเข้าใจล่ะน่า ถึงไม่เข้าใจก็ช่างมันเขาไม่สน

"I'm Nude....." จื่อถิงทำหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้ตอนที่ถามเอาว่าจะให้แก้ผ้าลงไปเหรอ?

"ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก เอานี่ไป This is ผ้าขาวม้า ฮา ฮา" ชายหนุ่มส่งผ้าขาวม้าให้จื่อถิงห่อตัวแต่ปากก็หัวเราะไม่หยุดหย่อน เด็กหนุ่มจำใจต้องรับผ้าขาวม้าไปผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยท่าทางเก้ๆ กังๆ ยิ่งดูแดนสรวงก็ยิ่งขำเด็กหนุ่มผิวขาวจัดอมชมพูดูช่างไม่เข้ากับการนุ่งผ้าขาวม้าเอาเสียเลย แถมยังถอดเสื้อด้วยท่าทีเอียงอายเป็นสาวน้อยอีกด้วย แต่แล้วแดนสรวงก็ต้องหยุดหัวเราะเมื่อจื่อถิงเริ่มถอดเสื้อ บนผิวขาวนวลนั้นมีรอยสักมังกรสีแดงตัวใหญ่พาดอยู่บนหน้าอกเลื้อยไล่ไปจนถึงหัวไหล่ข้างขวา มันดูจะแรงไปสำหรับเด็กอายุ 17 อย่างคนตรงหน้า เด็กหนุ่มเหมือนจะรู้ตัวว่ามีแดนสรวงจ้องมองเขาอยู่ จึงหันควับกลับมาทันทีทั้งยังเอาเสื้อมาบังแผ่นอกก่อนจะพูดสวนเป็นภาษาไทยออกไป

"ลามก!! มองไล" เล่นเอาแดนสรวงปากเบี้ยวหัวเราะไม่ออกไปเลย

"จะบ้าเหรอ!!" เด็กหนุ่มยังทำหน้าตั้งป้อมหาเรื่องกับเขาอยู่ จนชายหนุ่มยิ้มเผื่อนๆ ด้วยความขุ่นเคือง ในที่สุดก็ระงับความหมั่นไส้เอาไว้ไม่ไหวพลักเด็กหนุ่มตกคลองดังตูมจนน้ำกระจายเป็นวงใหญ่ จื่อถิงที่ไม่ทันตั้งตัวเผลอปล่อยมือจากผ้าขาวม้ารีบทะลึ่งตัวพรวดขึ้นมาจากน้ำเตรียมอ้าปากจะด่าตอบ แต่แล้วผ้าขาวม้าเจ้ากรรมที่นุ่งอยู่ดันหลุดลอยน้ำตามไปด้วย

"ฮา ฮา ฮา" แดนสรวงหัวเราะเสียงดังใส่หน้าเท่านั้นยังไม่พอชายหนุ่มแกล้งสอยเอาผ้าขาวม้าขึ้นมาจากน้ำแล้วไม่ยอมส่งคืนให้ ปล่อยให้เด็กหนุ่มแยกเขี้ยวยิงฟันอยู่แถวนั้น

"Hurry, it’s getting dark soon. (เอ้า! รีบๆอาบซะ เดี๋ยวมืดซะก่อน)" พูดจบก็โยนสบู่ก้อนลงไปให้ จื่อถิงยื่นมือรับเกือบไม่ทัน แต่เมื่อเพ่งมองรูปนกแก้วบนสบู่ก้อนเขียวปี๋แล้วก็เป้ปาก

"I want water soap."

"เรื่องมากอีกแน่ะ.....I don't have it." ด้วยเหตุนี้เด็กหนุ่มเลยจำใจต้องทนใช้สบู่ก้อนเขียวๆ นั้นต่อไป จนกระทั่งอาบน้ำเสร็จเด็กหนุ่มเริ่มทำหน้าบุ้ยใบ้ใส่แดนสรวงว่าเขาต้องการจะขึ้นให้ส่งผ้าขาวม้ามาให้สักที


tsutsuku.............

มาต่อแล้วล่ะนะ  รักคนเม้นต์

ปล.แดนนี่ ศรีสมรก็คิดซะว่าตัวเองเป็นแดนสรวงในเรื่องซะก็แล้วกัน อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
นอนเตียงเดียวกันก็มีหวัง :haun4: :haun4: :haun4:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
มารออ่านอยู่นะ :โหลๆ:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
สบู่ก้อนเขียว ๆ อย่าบอกนะว่าสบู่นกแก้ว
หุหุ ได้อารมณ์ชนบทมั่ก ๆ  :laugh3:  :laugh3:

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
"You want towel ? งั้นก็ขอดีสิๆ Ask me nicely then, Pee-Dan give me a towel please…e" แดนสรวงแกล้งลากเสียงยานพร้อมแกว่งผ้าขาวม้าในมือไปมา ใจจริง
จื่อถิงอยากจะถลันขึ้นไปแย่งเอามันดื้อๆ ซะอย่างนั้น แต่ติดว่าต้องอาศัยอยู่บ้านของแดนสรวงไปอีกสักระยะล่ะน่า จึงได้แต่กัดฟันพูด

"พี่แดน.....give me towel please" แดนสรวงฟังเข้าชายหนุ่มหัวเราะแทบกลิ้งยิ่งเห็นหน้าบูดตาขวางๆ ขัดกับคำขอร้องอันแสนสุภาพของจื่อถิงด้วยแล้วล่ะก็ จึงแกล้งยื้ออยู่อีกครู่หนึ่งกว่าจะยอมส่งผ้าขาวม้าลงไปให้

"ขอบคุง" เด็กหนุ่มรีบรับไปพันตัวอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยื่นมือไปให้แดนสรวงช่วยดึงขึ้น ชายหนุ่มหารู้ไม่ว่านั่นเป็นยุทธการแก้แค้นแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน จึงยื่นมือไปให้ จื่อถิงยิ้มกระตุกที่มุมปากครั้งหนึ่งก่อนจะออกแรงทั้งหมดดึงแดนสรวงตกลงน้ำดังโครม แล้วเจ้าตัวก็รีบปีนกระไดวิ่งหนีขึ้นไปทันทีปล่อยให้ชายหนุ่มร้องฮึ่มๆ ชกน้ำด้วยความเจ็บใจที่เสียรู้อยู่ในคลองนั่น

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

แดนสรวงเดินตัวเปียกโชกกลับขึ้นเรือน แล้วก็พบว่าจื่อถิงยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเขายังคงอยู่ในชุดผ้าขาวม้าโดยมีผ้าเช็ดตัวอีกผืนคลุมไหล่อยู่ ทำให้แดนสรวงนึกขึ้นมาได้ว่าเด็กหนุ่มไม่มีเสื้อผ้าจะเปลี่ยนนี่นะ มิน่าถึงได้ยืนรอไม่งั้นป่านนี้มันคงไปนั่งหน้าแป้นอยู่เรือนใหญ่แล้ว ชายหนุ่มจึงเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบชุดนอนของเขาที่เป็นเสื้อยืดกับกางเกงชาวเลโยนให้ใส่ แล้วตัวเองก็แยกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกด้าน เมื่อเสร็จเรียบร้อยจึงชักชวนเด็กหนุ่มไปกินข้าวที่เรือนใหญ่

"Let’s go to dinner." แต่เมื่อสองหนุ่มเดินไปได้แค่สองสามก้าวเท่านั้น กางเกงเล
ของจื่อถิงก็หลุดพรืดลงไปกองที่ข้อเท้า ขาขาวๆ เรียวยาวของจื่อถิงไม่ค่อยมีขนหน้าแข้งขึ้นมากนักผิดกับเด็กไทย และถึงแม้จะเป็นเด็กผู้ชายแต่ด้วยผิวขาวเนียนเป็นต่อทำเอาชายหนุ่มตาโตได้เหมือนกัน เด็กหนุ่มรีบดึงขึ้นมาทันทีด้วยสีหน้าอับอายๆ วันนี้เขาถอดกางเกงต่อหน้าแดนสรวงไป 2 หนแล้ว

"............" แดนสรวงจะอ้าปากถามว่าทำไมไม่ผูกให้มันเรียบร้อย แต่นึกหาคำภาษาอังกฤษไม่ออกบวกกับถึงนึกหาคำได้ แต่เชื่อว่าจื่อถิงมันก็คงฟังไม่รู้เรื่องอีกอยู่ดีนั่นแหละ

ชายหนุ่มเลยไม่ได้เอ่ยปากอะไรออกมาเพียงแต่เดินไปประชิดตัวเด็กหนุ่ม แต่จื่อถิงไม่รู้เรื่องในสิ่งที่แดนสรวงคิด ยิ่งมองหน้านิ่งๆ ของชายหนุ่มที่เดินทื่อเข้ามาหาแล้ว ในใจก็บังเกิดความหวาดหวั่นอย่างประหลาดเหมือนเมื่อครั้งก่อนหน้านี้ไม่มีผิด แต่จะร้องโวยวายก็เสียฟอร์มอีก และโดยไม่รู้สึกตัวจื่อถิงเดินถอยหลังหนีแดนสรวงโดยอัตโนมัติจนกระทั่งหลังชนกำแพงไม่มีที่ให้ถอยอีก เด็กหนุ่มจึงค่อยเอ่ยถามเสียงสั่น

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
"Why.....มิ...มีไล" แดนสรวงไม่ตอบแต่กลับเดินเข้าใกล้ขึ้นอีกจนเด็กหนุ่มไม่มีทางหนีหนำซ้ำยังยกมือข้างหนึ่งขึ้นยันกำแพงเอาไว้ จื่อถิงเงยหน้ามองสบตาแต่ก็ดูไม่ออกว่าชายหนุ่มตรงหน้าคิดอะไร ส่วนสูงของเด็กหนุ่มอยู่แค่ปลายจมูกของแดนสรวงเท่านั้นถ้าจะวัดกันด้วยกำลังคงไม่มีทางสู้อย่างแน่นอน และยิ่งชายหนุ่มเผยอยิ้มเย็นยะเยือกให้เห็นทำเอาจื่อถิงก็ยิ่งทำตัวลีบเข้าหากำแพง แต่นั่นก็ไม่ทำให้สภาพการณ์ดีขึ้นแต่อย่างไร มือข้างที่ดันกำแพงไว้ของแดนสรวงค่อยลดลงและย้ายมาแตะที่สะโพกเด็กหนุ่มแทน

"พี่....พี่แดน....น" แดนสรวงไม่ตอบคำแต่ดึงเอาสายเชือกที่ขอบเอวกางเกงเล
ของจื่อถิงมาพันเข้าหากันแล้วขมวดปมให้ ก่อนจะถอยออกห่างแล้วเดินนำหน้าไปโดยไม่สนใจสีหน้าของเด็กหนุ่ม แม้ไม่ต้องหันไปมองเขาพอจะเดาได้ไม่ยากว่าจื่อ
ถิงคงแยกเขี้ยวแอบด่าเขาอยู่ในใจแน่ๆ ที่ทำให้ตกใจ เมื่อคิดได้อย่างนี้ชายหนุ่มก็ส่งเสียงหัวเราะ หึ หึ อยู่ในลำคอด้วยความเบิกบาน

อาหารมื้อเย็นของครอบครัวแดนสรวงนั้นทุกอย่างดำเนินไปแบบไทยแท้ๆ นั่นคือนั่งกินกับพื้น กับข้าวมื้อนี้ทำมามากเป็นพิเศษเพราะมีแขกมาเพิ่มด้วยอีกหนึ่ง เด็กหนุ่มมองกับข้าวแปลกตาที่วางเรียงรายอยู่ที่พื้นตรงหน้า ก็รู้สึกว่าหิวขึ้นมาทันทีแต่ยังมีมารยาทพอจะนั่งรอให้ตักข้าวเรียบร้อยกันเสียก่อน

"ลองนี่มั้ยจ๊ะ? แกงคั่วยอดมะพร้าว" คุณแม่ของแดนสรวงแนะนำรายการอาหารเป็นภาษาไทยแต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคกับคนหิวสักเท่าไร เมื่อเห็นเด็กหนุ่มพยักหน้ารับจึงจัดแจงตักใส่จานข้าวเด็กหนุ่ม ซึ่งทันทีจื่อถิงป้อนเข้าปากก็แทบจะพ่นออกมาไม่ทัน หน้าของเด็กหนุ่มแดงกล่ำไปด้วยความเผ็ดร้อน จนใครต่อใครรีบหาขันน้ำเย็นที่ใส่น้ำยาอุทัยส่งให้

"Hot....t" เด็กหนุ่มยังส่ายหน้าไปมาปากก็อ้าระบายความร้อน

"ตายแล้ว....งั้นเอาอย่างอื่นดีกว่านะพ่อกระถิน อันนี้เผ็ดน้อยหน่อยลองลาบเป็ดดู" ที่ว่าเผ็ดน้อยของคนไทยก็คือเผ็ดมากของจื่อถิงอยู่ดี กับข้าวหลายอย่างถูกส่งหมุนเวียนมาทดลองให้ชิม เด็กหนุ่มกินไปก็น้ำตาเล็ดไป จนสุดท้ายพบว่าตัวเองกินได้แค่ผักลวกเท่านั้น แต่ด้วยความที่เป็นคนไม่ชอบกินผักเท่าไรยิ่งเป็นผักที่ลวกจนจืดแล้วราดน้ำกระทิมันๆ อย่างนั้นด้วยแล้ว จื่อถิงรู้สึกว่ามันเลี่ยนมากกว่าโดยเฉพาะกับตอนที่ต้องกินเปล่าๆไม่จิ้มน้ำพริกเพราะกลัวเผ็ดแบบนี้ด้วย


tsutsuku>>>>>

มาต่อให้แล้วน๊า

อ่านแล้วเม้นต์กันเยอะๆหน่อยนะ

ขอบคุณ

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
 :laugh5: :laugh5:

น่ารักมากมาย  :give2: :give2: :give2:

ชอบคับชอบ  :loveu: :loveu: :loveu:

แกล้งกระถินเยอะๆ นะแดน  :pandalaugh: :pandalaugh:

abcd

  • บุคคลทั่วไป
 :laugh5:  โถๆ  พ่อดอกกระถิน

รู้สึกว่ามานคุ้นๆป่าวหว่า เหมือนหนังเรื่องคู่กรรมอ่ะ พระเอกได้ชื่อว่าพ่อดอกมะลิเพี๊ยนมาจากโกโบริอ่ะ เพราะว่ายายของนางเอกก้อหูเพี๊ยน เรียกชื่อยากเหมือนกัน แล้วตอนแรกก้อมะจ้อบขี้หน้ากัน ตอนหลังก้อ... :kikkik:




ปล.1 รักคนแต่ง รักคนโป๊ด รักคนเม้นท์จ้า...(ยืมเจ๊สองมาอีกแระ คิคิ) (คนอ่านจารักก้อต่อเมื่อเม้นท์)  
ปล.2 ดีใจกะเจ๊คิงด้วยที่น้องแมวเริ่มดีขึ้นแย้วว

 :จุ๊บๆ:

jammy

  • บุคคลทั่วไป
เมื่อไหร่จะเข้าพระเข้านายกันครับอิๆ :haun1:

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
ผมว่ามะเกินคืนนี้แน่เลย :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: อะ  หรือว่าของอย่างนี้ควรอดเปรี้ยวไว้กินหวาน :haun5: :haun5:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
รออ่านด้วยคนบทอัศจรรย์ :haun4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด