ผู้ชายรั้นกว่าแมว By:คิงเพนกวิน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ผู้ชายรั้นกว่าแมว By:คิงเพนกวิน  (อ่าน 82500 ครั้ง)

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
แกล้งไปแกล้งมาระวังห้ามใจไม่อยู่นะครับ
 :fox2: :fox2: :fox2:

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
ผู้ชายรั้นกว่าแมว 3

"โถ....โถ คงเผ็ดสินะ น่าสงสารจริง...จริ๊ง ดูซิเผ็ดจนหน้าแดงเป็นตำลึงสุกแล้ว ฮา ฮา" ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ใครต่อใครก็พากันหัวเราะร่วนด้วยความเอ็นดู

"ไอ้นั่นก็กินไม่ได้ ไอ้นี่กินไม่ได้เรื่องมากจริงมาอาศัยเขาอยู่แท้ๆ" แดนสรวงส่ายหน้าเขาไม่ได้ที่จะแขวะถึงแม้เด็กหนุ่มจะไม่เข้าใจคำพูดของเขาก็ตาม แต่คนรอบข้างนี่สิดูจะไม่พอใจจนแดนสรวงเป็นฝ่ายโดนตำหนิ

"แดนน้องเขาไม่ใช่คนไทย จะมากินรสคนไทยก็ไม่คุ้นปากสิ พูดมากดีนักเรานั่นแหละไปเข้าครัวเจียวไข่มาให้น้องเขาซะ"

"เฮ้ย! พี่ดาวทำไมต้องเป็นผม?" ชายหนุ่มตั้งท่าจะปฏิเสธแต่เมื่อเห็นสายตาดุของพี่สาวแล้วก็จำต้องลุกขึ้นไปเข้าครัวตามคำสั่ง แต่ก็ยังไม่วายบ่นอุบอิบอีกจนได้

"เฮ้อ....คนไทยนี่น้าเห่อคนต่างชาติ.....ทำอะไรก็น่ารักไปหมด ไอ้เราพูดอะไรก็ผิดทั้งนั้น"

"เจ้าแดนนี่ไม่ไหวเลยน้า พ่อกระถินรอแป๊บหนึ่งแล้วกันนะเดี๋ยวพี่เขาเจียวไข่มาให้" เมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มยังนั่งตาแป๋วไม่เข้าใจที่คุณแม่ของแดนสรวงพูด แดนดาวจึงค่อยอธิบายเป็นภาษาอังกฤษแบบคร่าวๆ พอให้เข้าใจว่าอีกเดี๋ยวจะมีกับข้าวมาใหม่ซึ่งไม่เผ็ด เด็กหนุ่มจึงค่อยพยักหน้ายิ้มรับ

แล้วก็เป็นอย่างที่คิดดูเหมือนเด็กหนุ่มชาวฮ่องกงจะชอบไข่เจียวหมูสับที่มีซอสมะเขือเทศพ่วงมาด้วยมากกว่าอย่างอื่น ด้วยท่าทางกินอย่างเอ็ดอร่อยนั้นก็ทำให้พ่อครัวจำเป็นที่อุตส่าลงมือทำให้ปลื้มอยู่เหมือนกัน เพียงแค่เวลาไม่นานนักแดนสรวงรู้สึกว่าเจ้าหนูที่เขาเก็บมาได้นั้นช่างทำตัวกลมกลืนกับคนที่บ้านของเขาได้รวดเร็ว ด้วยกิริยาช่างอ้อนขี้ประจบนิดๆ ที่เขามองว่าเหมือนแมวจรจัดตอนมามั่วนิ่มขอข้าวกินไม่มีผิด แต่ก็ทำให้คนทั้งบ้านเขาลงความเห็นว่าเด็กหนุ่มช่างน่ารักเหลือประมาณ

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
จนเมื่อเวลาผ่านไปถึงช่วงดึกเด็กหนุ่มเริ่มทำตัวมีปัญหาเข้าเสียแล้ว เพราะเมื่อถึงเวลานอนแดนสรวงจะพาจื่อถิงกลับนอนที่เรือนหลังเล็กด้วยกันกับเขา แต่เจ้าตัวทำท่าจะไม่ยอม ในที่สุดจึงมีการถูลู่ถูกังเกิดขึ้น เด็กหนุ่มพยายามสะบัดมือเขาหลังจากโดนลากลงเรือนมาจนได้

"อะไรอีกเล่าก็จะพาไปนอนไง Let’s go to bed, this is sleep time, o.k.?"

"Go to bed with you?"

"Yes, you have a problem with that?

"ไม่เอา!! ไม่นอนกับพี่แดน" แดนสรวงฟังแล้วเกาหัวแกร่กนี่ว่าพูดภาษาอังกฤษแบบง่ายสุดๆ แล้วนะ ไหงมันยังแปลไปทางนี้ได้อีกฟะ?

"ไม่ใช่นอนอย่างนั้น.....โอ้ย จะอธิบายยังดีถึงจะเข้าใจหา" ชายหนุ่มคิดว่าคำว่า Sleep กับ Make love เนี่ยมันไม่ได้ใกล้กันเลยนะ ทำอีท่าไหนถึงได้เข้าใจไปทางนั้นได้ แต่เมื่อจื่อถิงตอบออกมาแดนสรวงกับต้องเป็นฝ่ายละอายเสียเอง

"จานอนกับยาย" แล้วเด็กหนุ่มก็ชี้ไม้ชี้มือไปทางเรือนใหญ่ ทำเอาแดนสรวงหน้าเจื่อนไปถนัดตาโอ้ละหนอตัวเขาเองที่เป็นฝ่ายคิดอะไรไม่ดีไม่งาม

"ไม่ได้!! เรือนนั้นมีแต่ผู้หญิงจะนอนได้ยังไง เออ...หมายความว่า Big house for women only, understand? And small house for men, got it?" ถึงจะกระจ่างแจ้งแล้วแต่เด็กหนุ่มก็ยังอิดออดอยู่ดี จนแดนสรวงรำคาญต้องลากไปเรือนเล็กจนได้

เมื่อมาถึงห้องแดนสรวงจัดการกางมุ้งคลุมรอบเตียงอีกทีแล้วเรียกจื่อถิงเข้าไปนอน เด็กหนุ่มพอรู้ว่าต้องนอนเตียงเดียวกันก็ส่ายหน้าเป็นพัดลมไม่ยอมท่าเดียว

"Why? What is your problem? มันจะอะไรกันนักกันหนาน้าชายหนุ่มเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาตะหงิดๆ

"ไม่....พี่แดนเป็ง...ผู้ชาย...."

"เอ้า...ก็ใช่น่ะสิ แล้วไง?"

"ไว้ใจม่ายล่าย" สิ้นคำตอบแดนสรวงอยากจะจับเด็กหนุ่มมาเขย่าๆ เสียให้รู้แล้วรู้รอด

"แล้วเราเป็นผู้หญิงหรือไง?"

"ผู้ชาย"

"So, why then? I really don’t understand you. Can you tell me the reason?" ชายหนุ่มคิดว่าเขาใจเย็นที่สุดแล้ว


ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
"ปะป๊าบอกว่า...ผู้ชายไว้ใจม่ายด้าย" เด็กหนุ่มนึกไปถึงตอนที่โดนสั่งสอนแบบนี้ ก็เมื่อตอนที่ผู้ปกครองหรือที่จะว่าพูดให้ง่ายเข้าคือพ่อบุญธรรมนั้น จับได้ว่าจื่ออิงพี่ชายของจื่อถิงนั้นไปเสร็จหลงจิ้งลูกชายแท้ๆ ของพ่อบุญธรรมเข้าเสียแล้ว พอมาถึงจื่อถิงซึ่งเป็นคนเล็กสุดแล้วเลยโดนกรอกหูอยู่ทุกวันว่า "ผู้ชายทุกคน(ยกเว้นป๋า)ไว้ใจไม่ได้โดยเฉพาะผู้ชายชื่อหลงจิ้ง!! จนจื่อถิงหวาดผวาซึมซับเอาประเด็นนี้เข้าสายเลือดไปเลย

แต่ทว่าแดนสรวงไม่ได้รู้เรื่องราวในครอบครัวของเด็กหนุ่มด้วยเลยยิ่งงงเต๊กเข้าไปใหญ่ แต่จื่อถิงก็ไม่รออธิบายให้ชายหนุ่มฟังเด็กหนุ่มดึงหมอนออกจากมุ้งไปใบหนึ่ง แล้ววิ่งตื๋อไปนอนที่ระเบียงนอกชานแทน ทีแรกแดนสรวงก็เดินไปตามให้เข้ามานอนในมุ้งด้วยกันแต่เมื่อเห็นเจ้าตัวแกล้งหลับไปเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มเลยได้แต่ส่ายหัวปล่อยเลยตามเลยกลับเข้ามุ้งมานอนคนเดียว ด้วยความงงว่าพ่อของจื่อถิงช่างสอนลูกชายได้แปลกเหลือเกิน อย่างกับว่าเจ้าหนูที่นอนอยู่นอกห้องนั้นเป็นลูกสาวยังไงอย่างนั้น

แดนสรวงไม่รู้ตัวว่าหลับไปเมื่อไรแต่ก็คงนานพอสมควร เพราะเห็นว่าฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีแล้ว ชายหนุ่มตื่นขึ้นมาเพราะจื่อถิงมุดเข้ามาขอนอนในมุ้งด้วยสภาพตัวลายเพราะยุงกัดจนเป็นจุดแดงๆ เต็มไปหมด ชายหนุ่มง่วงก็ง่วงขำก็ขำแต่ยังอุตส่ามีใจตื่นมาหายาหม่องทาให้ เจ้ายุงตัวเล็กกระจิ๊ดริดแต่แฝงฤทธิ์ใหญ่โตจนจื่อถิงถูกกัดไปทั่วไม่เว้นแม้แต่ในล่มผ้า พอถลกขากางเกงขึ้นมาขาขาวๆ ก็มีป้านแดงๆ ด้วยรอยยุงกัดและรอยเกาไปทั่ว

"I told you to sleep inside the net together, why did you do outside?(ก็บอกแล้วให้นอนในมุ้งด้วยกัน ออกไปนอนข้างนอกทำไม?) " แดนสรวงถามยิ้มๆ ไม่ได้ดุเป็นจริงเป็นจังนัก แล้วก็เปิดตู้เสื้อผ้าควานหากางเกงขาสั้นแบบบ็อกเซอร์ให้เด็กหนุ่มใส่แทนกางเกงเลจะได้ทายาได้ง่ายหน่อย

tsutsuku>>>>

มาต่อตอน3ให้อย่างว่อง ไปอ่านกันโลด

รักคนเม้นต์ รักเจ๊คิง

ตะแน๋ว>>รักคนแต่ง รักคนโป๊ด รักคนเม้นท์จ้า...(ยืมเจ๊สองมาอีกแระ คิคิ) (คนอ่านจารักก้อต่อเมื่อเม้นท์)  เห็นด้วยกะแน๋ว

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
หุหุ เด็กดื้อ โดนจับขาอ่อน
 :จ้อบจัง1:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
หุหุ นี่แหละน้า เสียน้อย (แค่นอนด้วยกัน) เสียยาก  เสียมาก (โดนจับขาอ่อน) เสียง่าย  :yeb:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
 :laugh3: สะดิ้งดีนัก โดนเลย ยุงกัด  :pandalaugh: :pandalaugh: :pandalaugh:

jammy

  • บุคคลทั่วไป
รออ่านต่อครับ :-[

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
"อุ๊....แสบ..." เสียงอุทานเบาๆ ดังรอดประตูห้องนอนออกมาเป็นระยะ

"แป๊บเดียว เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว" เสียงของแดนสรวงดังคู่ออกมา

"เจ็บ....พี่แดน เจ็บ เบา..."

"เบาไม่ได้ มันต้องคลึงด้วย"

"ม่ายเอาแล้ว เจ็บ...."

"ทนอีกนิดเดียวจะเสร็จแล้ว ยกขาขึ้นอีกหน่อย นั่นแหละ....อย่างนั้น"

หากคนที่ไม่รู้เรื่องมาตั้งแต่แรก มาฟังคำสนทนาครึ่งๆ กลางๆ ของผู้ชายสองคนที่นอนอยู่ในห้องเดียวกันเตียงเดียวกันแบบนี้ คงเริ่มคิดไปทางไม่ถูกไม่ควรเสียแล้ว ยายของแดนสรวงก็เริ่มจะคิดเช่นนี้แล้วเหมือนกัน เมื่อฟ้าสางคุณยายตั้งใจจะมาปลุกสองหนุ่มแล้วพาจื่อถิงไปใส่บารตด้วยกัน แต่พอเดินมาถึงหน้าประตูกลับได้ยินเสียงครางเบาๆ ของเด็กหนุ่มกับคำพูดฟังทะแม่งๆ ของหลานชายตัวเอง คุณยายฟังแล้วก็ยืนปากอ้าใจสั่นอยู่นอกประตูในที่สุดอดรนทนไม่ไหว เปิดเข้าไปดูให้มันรู้เรื่องรู้ราวไปเสียเลย

"พ่อแดนทำอะไรน้องถึงได้ร้องเจ็บๆ อยู่นั่นแหละ" สองหนุ่มที่นั่งอยู่บนเตียงหันมามองที่คุณยายเป็นตาเดียว แดนสรวงปล่อยมือจากขาอ่อนของจื่อถิงแล้วหันไปเลิกมุ้งขึ้น

"ทายาหม่องให้ครับ คุณยายคิดว่าผมทำอะไร ? " เมื่อมองลอดเข้าไปก็เห็นเด็กหนุ่มในมุ้งถือตลับยาหม่องอยู่ในมือจริงๆ คุณยายก็เก้อเขินไปนิดหน่อยแล้วก็รีบเปลี่ยนเรื่องพูดทันทีประเดี๋ยวจะเสียผู้ใหญ่

"แล้วไปทำอีท่าไหนน้องกระถินถึงได้โดนยุงกัดตัวลายขนาดนั้น?"

"เขาออกไปนอนนอกมุ้ง"

"แล้วเราทำไมไม่ห้าม"

"ก็เขาหาว่าผมไว้ใจไม่ได้นี่ครับยาย" แดนสรวงหน้าบึ้งเมื่อพูดถึงเรื่องนี้

"หา?.....เราไปทำอะไรให้เขาไม่ไว้ใจล่ะ ?" คุณยายขมวดคิ้วจ้องหน้าหลานชาย

"ผมเปล่า!! ยายไม่เชื่อใจผมหรือไง ถึงน่ารักแค่ไหนแต่นี่มันเด็กผู้ชายนะครับ"

"ยายก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ กระถินเอ้ย พี่เขาทำอะไรเราหา?" แดนสรวงขมวดคิ้วไหนว่าไว้ใจอยู่แหม่บๆ ไงยาย แต่ข้างฝ่ายจื่อถิงฟังภาษาไทยรู้บ้างไม่รู้บ้างดันเข้าใจไปว่าคุณยายถามว่ายุงกัดที่ไหนบ้าง ว่าแล้วเจ้าตัวก็เปิดคอเสื้อให้คุณยายดูอีกที่
ทำเอาแดนสรวงร้อนตัวขึ้นมาทันที


ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
"ผมไม่ได้ทำ ยุง ยุงกัดจริงๆ " ไม่แค่โวยวายชายหนุ่มยังตีไม้ตีมือประกอบคำอธิบายเสียใหญ่โต

"อื้อ ยุง ตัวใหญ่มั่ก" ว่าแล้วก็ทำท่ากระพือปีกเลียนแบบแดนสรวงที่จื่อถิงเข้าใจว่าชายหนุ่มกำลังทำท่ายุงให้คุณยายดู

"เหรอ....เจ็บมั้ยลูก?"

"เจ็บคับ" แดนสรวงมองคุณยายที่พยักหน้าเออออไปกับเจ้าหนูบนเตียงแล้วชักหงุดหงิด

"อะไรกันทีเด็กมันพูดล่ะเชื่อทีหลานตัวเองพูดล่ะไม่เชื่อ"

"แล้วยายบอกว่าไม่เชื่อหรือไง?"

"ก็เมื่อกี้ยาย....."

"พอๆ ไปล้างหน้าแล้วพาน้องกระถินไปใส่บารตด้วยเร็วๆ นะ เดี๋ยวพระท่านจะมาแล้ว" พูดจบคุณยายก็เดินออกไปโดยไม่สนใจคำต่อว่าของหลานชายอีก ทำเอาแดนสรวงหน้ามุ่ยต้องหันไปค้อนคนต้นเรื่องที่ยังนั่งทำตาแป๋วอยู่บนเตียง

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ช่วงสายหลังอาหารเช้าแดนสรวงพาเด็กหนุ่มไปซื้อเสื้อผ้าและของใช้ที่ตลาด และแวะซื้อของอื่นๆเข้าบ้าน ด้วยว่านานทีเขาจะว่างๆ จากงานออกแบบโฆษณาที่ชายหนุ่มรับทำฟรีแลนด์ให้บริษัทต่างๆ ชายหนุ่มชอบที่จะรับงานทีละชิ้นมากกว่าที่จะต้องตอกบัตรเข้าทำงานที่บริษัททุกวัน เขารู้สึกว่ามันทำให้เวลาส่วนตัวเหลือน้อยลงไปอีกประการถ้าต้องเข้าบริษัททุกวัน เขาคงต้องไปหาหอพักอยู่ที่กรุงเทพฯ จะปล่อยบ้านทางนี้ซึ่งมีแต่ผู้หญิงอยู่ล้วนๆ ก็น่าเป็นห่วง จึงพอใจกับการเป็นฟรีแลนด์แบบนี้มากกว่าถึงเม็ดเงินที่ได้จะน้อยกว่าก็ตามที

"We’d better buy some clothes for you first and the other stuff you need after that.(เอ้า! เดี๋ยวไปซื้อเสื้อผ้าให้เราก่อน ค่อยไปซื้อของอย่างอื่นกัน)" แดนสรวงพาเด็กหนุ่มเข้าไปที่ร้านขายเสื้อผ้าห้องแถวละแวกตลาด และหยิบให้เด็กหนุ่มลองสวมใส่ดูหลายชุด

"ลองดูว่าไซค์ได้หรือเปล่า? " จื่อถิงพยักหน้าแล้วถือเสื้อผ้าเข้าไปในห้องลอง ครู่หนึ่งก็เดินออกมา ดูท่าทางเจ้าตัวจะพอใจเสื้อผ้าชุดนี้อยู่มากจึงออกมาถามความเห็นชายหนุ่มดูบ้าง


tsutsuku


แล้วจะมาต่อใหม่นะขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
แม๋ คุณยาย คิดไปไกลเชียะ  :laugh5:  :laugh5:

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
 :laugh5: :laugh5: คุณยายจิ้นอย่างแรง :haun4: :haun4:  ทันสมัยซ้าด้วย  :laugh5: :laugh5:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

นอนนอกมุ้งให้ยุงกัด......โดนจับขาอ่อน

แล้วถ้าเจ้อยากเสียตัว.............เจ้ต้องทำไงเคอะ  :haun4:

แบบว่าอยากมีสามีเป็นการชั่วคราวนะเคอะ :-[

ปล.  ตอนนี้เลือดวายมันพุ่งแรง  (ยืมคำคนโพสต์มาใช้มั้ง อิอิ)

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
"พี่แดน.....ฉันสวยมะ?" เด็กหนุ่มออกเสียงพูดคำว่า "สวย" ได้ชัดเจนกว่าภาษาไทยคำอื่นๆ ที่พูดเพี้ยนเป็นประจำ ทั้งนี้เพราะเวลาไปซื้อของกับพี่สะใภ้ชาวไทยหล่อนมักจะถามเขาว่า"ฉันสวยมั้ย?" แบบนี้ประจำ เมื่อแรกจื่อถิงก็พูดคำว่าสวยไม่ชัดดันออกเสียงเป็นคำว่า [ซวย] แทนทำให้โดนหยิกจนร้องโอดโอยว่าแล้วก็โดนบังคับให้พูดใหม่จนกว่าจะถูกต้องอยู่นั่นแหละ จาก "ซวย" เลยค่อยเพี้ยนมาเป็น [ส่วย] และ [สวย] ได้ในที่สุด

"................." เมื่อเห็นว่าแดนสรวงไม่ได้ตอบแต่ทำปากหวอจนแมงวันบินเข้าไปได้สักฝูง จื่อถิงเริ่มคิดว่าสงสัยเขาจะใช้คำไม่สุภาพหรือเปล่า จึงตั้งคำถามใหม่อีกครั้ง

"ผม....สวย....มะ?" แต่แดนสรวงก็ยังไม่ตอบ หนำซ้ำจะดูปากกว้างกว่าเดิม จนเด็กหนุ่มเริ่มหงุดหงิดไม่เข้าใจว่าตัวเองพูดผิดตรงไหน ว่าแล้วก็ถามซ้ำอีกครั้ง

"กู.....สวยมะ?"

"เฮ้ย!!" เจอไอ้ประโยคนี้เข้าไปดูเหมือนสติจะกลับมาอยู่กับตัวชายหนุ่มทันที แดนสรวงร้องเสียงหลงแล้วรีบอธิบายเป็นการใหญ่

"ผู้ชายไม่มีใครเขาใช้คำว่าสวยกันหรอก ต้องถามว่าหล่อมั้ย? ถึงจะถูก" เด็กหนุ่มฟังแล้วทำหน้ายุ่ง กว่าแดนสรวงจะอธิบายให้ฟังได้ว่าภาษาไทยนั้นมีเพศก็เล่นเอาเหนื่อย แต่หลายคนในร้านรวมทั้งเจ้าของร้านพากันฮาตรึม

หลังออกจากร้านขายเสื้อผ้าแดนสรวงแวะร้านขายเครื่องหวาย หาซื้อตะกร้าใส่ผลไม้ให้คุณยายแทนใบเก่าที่เริ่มผุแล้ว โดยมีเด็กหนุ่มเป็นผู้ช่วยในการเลือกซื้อ ระหว่างที่กำลังเลือกอยู่นั่นเอง จื่อถิงก็เจอตะกร้าถูกใจเข้าใบหนึ่งและเขาคิดว่ายายน่าจะชอบจึงยกขึ้นมาชูให้แดนสรวงดูแล้วถามความเห็น

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
"ตะก้า.....อันนี้....โหล่ว....มะ?" แดนสรวงฟังแล้วขากรรไกรอยากจะค้างไปอีกเที่ยว ก่อนจะกุมขยับด้วยความเวียนหัว

"ตะกร้าต้องถามว่าสวยมั้ยสิ ไม่ใช่หล่อมั้ย? ตะกร้ามันมีหล่อด้วยเหรอ?"

"ก็...ก็ พี่แดนบอกว่า ผู้ชายพูดว่า"โหล่ว"มะ?"

"หล่อ ไม่ใช่ โหล่ว โอ้ย...ย แต่ไอ้ตะกร้านั่นต้องถามว่าสวยมั้ยอยู่ดีเข้าใจป่ะ Takra say สวย understand ? "

"ม่าย I don't understand ." เด็กหนุ่มยืนยันว่าไม่เข้าใจว่ะ

"แล้วฉันจะอธิบายยังไงให้เราเข้าใจได้วะเนี่ย โอย ปวดหัวจริงๆ"

"สอนไล ม่ายรู้ ม่ายรู้เรื่องเลย พี่แดน....สอนม่ายก่าง" แดนสรวงมึนตึ้บชักจะเริ่มหัวหมุน ดูมันสอนเท่าไรก็ไม่รู้เรื่องดันมาหาว่าคนอื่นสอนไม่เก่งเสียอีกแน่ะ

แล้วชายหนุ่มก็ต้องมานั่งเถียงกับจื่อถิงด้วยไอ้เรื่องสวยๆหล่อๆ นี่มาตลอดทางกลับบ้าน เมื่อถึงบ้านเด็กหนุ่มรีบขึ้นไปฟ้องคุณยายทันที

"พี่แดน สอนไล ม่ายรู้ ม่ายรู้เลื่องเลยยาย" จากนั้นก็ยังอุตส่าบ่นให้คุณยายฟังอีกเป็นกระบุงโกยแต่เป็นภาษาจีนล้วนๆ แดนสรวงมองแล้วทำหน้าปลงๆ เอาเข้าไปยายของเขาคงฟังรู้เรื่องหรอกนะ

"ไม่ได้เรื่องเลยพ่อแดน ดูซิสอนยังไงน้องกระถินมันงงหมดแล้วกะอีแค่คำง่ายๆ"

"อ้าว? ยายทำไมฟังรู้เรื่องล่ะ"

"ก็ยายไม่โง่เหมือนพ่อแดนนี่ เรื่องแค่นี้ฟังรู้เรื่องตั้งแต่ภาษาไทยประโยคแรกแล้ว ไอ้ที่เหลือน้องกระถินมันคงด่าพ่อแดนนั่นแหละ"

"อ้าว? นี่กลายเป็นว่าผมผิดเหรอ?"

"ถ้าพ่อแดนไม่ผิดแล้วใครจะผิดล่ะ" คุณยายตัดบทมันดื้อๆ เสียแบบนั้น แดนสรวงรู้สึกว่ากำลังจะเสียพื้นของเขาที่ในใจยายให้เด็กหนุ่มไปเรียบร้อยแล้ว เห็นได้ชัดจากความลำเอียงแบบนี้ แถมคนในบ้านยังเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องตลกขบขัน จื่อ
ถิงเสียอีกที่กลับได้คะแนนความน่าเอ็นดูเพิ่มขึ้นอีกต่างหาก

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
ผู้ชายรั้นกว่าแมว 4


3 วันผ่านไปก็แล้ว ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีญาติมาติดต่อรับตัวเด็กหนุ่มจากบ้านเขาเลย แดนสรวงเลยต้องเป็นฝ่ายโทรไปหาตำรวจเสียเอง ซึ่งก็ได้ความมาว่ายังไม่มีความคืบหน้าจนตัวเขาเริ่มจะร้อนใจแทนเด็กหนุ่ม แต่เมื่อหันไปเห็นเจ้าตัวดีกำลังรื่นเริงกับคนที่บ้านอย่างสนุกสนาน วันนี้ก็ออกไปสอยมะม่วงกับเด็กๆ ในสวนแถวนี้ดูมันช่างปรับตัวได้เร็วดีเหลือเกินไม่มีเดือดมีร้อนเสียบ้างเลย จากไอ้ที่เห็นใจอยู่แหม่บๆ บัดนี้แดนสรวงชักจะหงุดหงิดผสมหมั่นไส้แล้ว

หัวค่ำของวันนั้นที่เรือนเล็กจื่อถิงนั่งกอดเข่ามองพระจันทร์อยู่นอกชานด้วยทางเหงาๆ ผิดกับเมื่อกลางวัน แดนสรวงมองแล้วก็เผลอยิ้มออกมาที่เห็นเด็กหนุ่มรู้จักมีทุกข์มีร้อนกับเขาด้วยเหมือนกันจึงอดไม่ได้ที่จะกระเซ้า ชายหนุ่มหย่อนตัวลงนั่งข้างๆจื่อถิงแล้วแกล้งพูดลอยๆ ออกไปว่า

"It’s been three days, maybe nobody will come to take you back, actually they might forgot about you already. (3 วันเข้าไปแล้ว ป่านนี้ไม่มีใครมารับแล้วมั้ง สงสัยจะถูกทิ้งแล้วล่ะ)" ได้ผลเด็กหนุ่มหันควับกลับมาและพูดสวนเป็นภาษาไทยทันที

"ปากหมา!!" เล่นเอาแดนสรวงสะดุ้งโหยงด้วยว่าภาษาไทยแต่ละคำที่จื่อถิงจำได้นั้นมันช่าง......

แต่ก่อนจะได้ลับคมฝีปากกับเด็กหนุ่มเหมือนเคย แดนสรวงก็มีอันชะงักไปเสียก่อนเมื่อเห็นจื่อถิงหงอยลงไปถนัดตา เด็กหนุ่มนั่งเงียบซบหน้าลงกับเข่าของตัวเองด้วยสีหน้าเศร้าๆ ชายหนุ่มมองแล้วก็พลอยถอนหายใจไปด้วย และคาดเดาไปว่าอาการร่าเริงที่เด็กหนุ่มแสดงออกเมื่อตอนกลางวันนั้นคงทำไปเพราะไม่อยากให้คนอื่นเป็นห่วงเสียมากกว่า จื่อถิงเพิ่งอายุ 17 อย่างไรก็ยังเป็นเด็กอยู่ดี การพลัดกับพ่อแม่มาอยู่ในที่ๆ ไม่รู้จักภาษาก็พูดไม่ค่อยจะได้ และไม่รู้ว่าจะมีใครหาตัวเขาเจอมั้ย เป็นใครก็คงกังวลและกลัดกลุ้มอยู่ไม่น้อยแน่ๆ แต่เพราะเจ้าตัวเป็นเด็กเข้มแข็งเลยไม่อยากทำให้คนอื่นพลอยกลุ้มใจไปด้วย แดนสรวงเห็นใจและเข้าใจในตัวเด็กหนุ่มจึงดึงร่างเล็กกว่านั้นมาโอบกอดเป็นแทนคำปลอบใจ เขาคิดว่าสัมผัสมันน่าจะสื่อให้เข้าใจได้มากกว่าคำพูดเป็นร้อยเป็นพัน แต่เมื่อกอดไปสักครู่ก็เริ่มวิตกจริตว่าคนในอ้อมแขนจะขุดข้อหาขึ้นมากล่าวหาว่าเขาลวมลามอีกหรือเปล่า? แต่เมื่อเห็นว่าจื่อถิงไม่มีทีท่าอย่างนั้นซ้ำยังค่อยๆ เอนศรีษะซบลงบนไหล่ของแดนสรวง


tsutsuku>>>>>>


แถมตอน4ให้ด้วยนะ หุหุ

รักเจ๊คิง รักคนเม้นต์

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

โพสต์ปั๊บ อ่านปุ๊บ อิอิ

แบบว่าชอบอะคะ   :loveu:

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
ก็ใช้คำถูกแล้วนี่คับ :laugh3: :laugh3: จื่อถิงสวยมั๊ย :haun4: :haun4: :haun4:

abcd

  • บุคคลทั่วไป
 :laugh5: จื้อถิงสวยจ้า... :จ้อบจัง1: ตอนท้ายรู้สึกเหงาจัง  :เฮ้อ:







RoosT

  • บุคคลทั่วไป
น้องกระถิน  :haun1:  อร๊างงงงงงงงงง

 :110011: :เชิป2: :110011: :เชิป2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
ในเวลาแบบนี้ชายหนุ่มคิดว่าเด็กหนุ่มในอ้อมแขนก็น่ารักเหมือนกัน จื่อถิงตัวเล็กร่างบางกว่าเขามากเด็กหนุ่มสูงแค่ 170 ต้นๆในขณะที่แดนสรวงสูงเกือบ 180 เซนติเมตร ยิ่งเทียบสีกับสีผิวที่คล้ำแดดแบบผิวคนไทยอย่างเขาแล้วผิวของเด็กหนุ่มขาวอมชมพูดูสะอาดสะอ้านนุ่มนวลชวนให้รู้สึกว่าน่าลูบไล้ยิ่งนัก และก็เข้ากับริมฝีปากบางได้รูปสวยสีชมพูจางๆ ที่ถูกแต่งแต้มไว้บนใบหน้าอย่างเหมาะเจาะ ในขณะที่ดวงตาทั้งคู่ของเด็กหนุ่มมีแววซุกซนช่างออดอ้อนอยู่เสมอ แต่บางครั้งก็ชวนให้สงสารอย่างเช่นที่เป็นอยู่ในตอนนี้ แดนสรวงก้มลงมองเด็กหนุ่มจากมุมที่สูงกว่าเขาพบว่าจื่อถิงมีขนตายาวตั้งเกือบเซนฯ และยังดกหนาเกินกว่าจะเป็นขนตาเด็กผู้ชายดังที่ประดับอยู่บนดวงตาของเด็กหนุ่ม มันทำให้ดวงตาคู่นั้นสะสวยน่ามองมากขึ้นอีก ชายหนุ่มมองแล้วก็เผลอถอนหายใจออกมาเบาๆ และเมื่อสูดลมหายใจกลับเข้าไปนั้น มีกลิ่นสบู่อ่อนๆแฝงมากับกลิ่นอายหอมแบบผิวเด็กลอยติดเข้ามาด้วย เมื่อแดนสรวงได้แต่คิดว่ามันเป็นกลิ่นอายจากร่างกายของเด็กหนุ่มที่อิงแอบซบร่างอยู่กับตัวเขานั้น ชายหนุ่มก็เบิกตาโพงเมื่อพบว่าอยู่ๆ ก็มีคำว่า [น่าทนุถนอม]ลอยเข้ามาในหัว แดนสรวงบอกตัวเองว่าแย่แล้วเขาไม่ควรปล่อยให้จื่อถิงซบอกเขาต่อไป เพราะเขาเริ่มฟุ้งซ่านเสียแล้วขืนเป็นอีแบบนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่ นี่อาจจะเป็นพื้นฐานของคำว่าหวั่นไหวหรือสับสนทางเพศเพราะใกล้ชิดกันเกินไปหรือเปล่า แต่ระหว่างที่แดนสรวงเริ่มวิตกจริตกับตัวเองนั้นเด็กหนุ่มก็เริ่มดันร่างออกห่างตัวเขา

"เป็งไล? ใจเต้นตุ้บๆ เลย" ขนาดจื่อถิงยังได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นดังขึ้นมาขนาดนั้นต้องรู้สึกผิดปกติแน่ๆ

"เปล่า.... nothing"

"คิดอาไลอยู่? หรือคิดลามก?"

"จะบ้าเหรอ?!! ฉันจะไปคิดอะไรกับเด็กผู้ชาย.....อ๊ะ" แล้วแดนสรวงก็พบว่าเผลอหลุดปากไปเสียแล้ว จึงได้แต่สงบปากสงบคำไม่ยอมพูดอะไรต่ออีก

"ฮะ ฮะ จิงเหรอ? ม่ายคิดอาไลจิงๆ เหรอ?" เด็กหนุ่มหัวเราะคิกคักอยู่ตรงหน้าเหมือนล้อเลียน ทำให้ชายหนุ่มต้องรีบเก๊กหน้าขรึมเป็นการใหญ่

"ไม่คิด I didn’t think of anything at all, OK? ทั้งที่ยืนยันไปขนาดนั้นแล้วแต่จื่อถิงยังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เหมือนจะล้อเลียนไม่ยอมเชื่อ


ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
"แล้ว.....แบ่บนี้ล่ะ คิดม้าย? " พูดจบเด็กหนุ่มก็ยื่นหน้าเข้ามาหอมแก้มเขาทันที ทำเอาแดนสรวงตัวแข็งเป็นหิน ด้วยว่าความพยายามเก๊กไม่ให้แสดงอารมณ์ใดๆ ออกไปเด็ดขาด

"มะ....ม่า...ย คิด surely"

"เหรอ.....งั้นไปนอนก่องนะ" ว่าแล้วจื่อถิงก็ลุกหนีไปนอนเอาดื้อๆ พร้อมกับเสียงหัวเราะ พอแน่ใจว่าเด็กหนุ่มเข้าห้องนอนไปแล้วแดนสรวงก็ล้มตัวลงบนพื้นดังตึ้งทันที

"เฮ้อ...ออ....อ ไอ้เด็กบ้า เล่นเอาเสียว" แดนสรวงนอนก่ายหน้าผากตัวเอง
พร้อมกับความคิดฟุ้งซ่านที่แบ่งแยกเป็นสองฝ่ายตีรันฟันแทงกันเองในหัว แต่ไม่ว่าผลจะออกมาแบบไหน ชายหนุ่มก็โทษว่าจื่อถิงเป็นต้นเหตุล้วนๆ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

แดนสรวงดูนาฬิกาข้อมูลแล้วต้องขมวดคิ้วด้วยความเคร่งเครียดขึ้นมาทันที นี่ 10 โมงกว่าจะ 11 โมงอยู่แล้ว รถของเขาเพิ่งฝ่าด่านการจารจรในกรุงเทพมาถึงหน้าตึกสำนักงานได้แต่ก็สายไปเกือบชั่วโมง ยิ่งวันนี้ที่บริษัทกำชับนักหนาว่าสำคัญมากเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่มาจากต่างประเทศ เขาก็ไม่อยากมาสายแต่เป็นเพราะเมื่อคืนชายหนุ่มตาค้างอยู่ค่อนคืนกว่าจะหลับก็ปาเข้าไปตี 4 แล้ว แถมยังนอนกระสับกระ
ส่ายฝันไม่ค่อยดีอีกต่างหากจึงทำให้ตื่นสาย ในฝันนั้นจื่อถิงช่างยั่วยวนกระเซ้าเย้าแหย่เขาจนเกือบหลวมตัวไปด้วย เมื่อตกใจตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าสายมากเสียแล้ว ดังนั้นเขาจึงโทษให้เป็นความผิดของเด็กหนุ่มทั้งหมดที่ก่อกวนเขาตั้งแต่ก่อนนอนยันในฝันเลยทีเดียว

"เฮ้ย!! ไอ้แดนบอกแล้วไงว่าอย่ามาสาย ลูกค้ารอเง๊กแล้วมึง" สมศักดิ์เพื่อนร่วมงานของเขาร้องทักทันทีที่เห็นหน้าแดนสรวง

" นี่มึงมายืนดักกูหน้าประตูเลยเหรอ? โทษทีรถมันติดว่ะ"

"เออสิวะมาเอาป่านนี้สายไปตั้งชั่วโมงนะมึง ก็บอกแล้วให้ย้ายมาอยู่ในกรุงเทพฯ เล่นขับรถมาจากอยุธยาแค่ออกจากบ้านช้าไป 3 นาที ก็ทำให้มึงสายได้แล้ว" แดนสรวงขี้เกียจแก้ตัวจึงบอกปัดๆ ไป

"เอาไว้ทีหลังน่า ลูกค้าว่าไง"

"จะว่าไง Mr.เยี่ยนอีหน้าหงิกฉิบหายเลยว่ะ ทีแรกกะว่าจะให้สาวๆชวนคุยไปก่อนกันอีโวยวาย แต่นี่อีเล่นนั่งเงียบจนคนรอบข้างไม่กล้าชวนคุย เลยเครียดกันไปหมดพอจะอ้าปากพูดอีก็ว่า....นี่น่ะเหรอมืออาชีพ โอ้ย...ย แสบไปถึงทรวง" คนพูดอธิบายพลางดันหลังแดนสรวงเข้าห้องประชุมไปพลาง


ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
"Sorry to keep you waiting, our Art Director is here now. (ขอโทษที่ทำให้รอครับ อาร์ตไดฯของเรามาแล้วครับ)" แดนสรวงพยายามฉีกยิ้มให้กว้างที่สุดหวังว่ายิ้มสยามจะให้ลูกค้าชาวต่างชาติให้อภัยกับการมาสายของเขาได้ แต่แล้วแดนสรวงก็รีบหุบยิ้มทันทีที่เห็นหน้าลูกค้า เพราะชายหนุ่มชาวฮ่องกงที่นั่งไขว่ห้างอยู่ตรงหน้านี้ช่างผิดกับที่จินตนาการเอาไว้มากมาย ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าจะเป็นเสี่ยใหญ่อายุวัยกลางคนพุงพุ้ย แต่Mr.เยี่ยนคนนี้กลับเป็นชายหนุ่มรูปหล่อผิวขาว ร่างสูงโปร่งของเขาอยู่ในชุดสูทสีขาวตัดกับเสื้อเชิ้ตสีดำสนิทตัวใน แถมเท่าที่ดูๆ แล้วท่าจะอายุน้อยกว่าแดนสรวงด้วยซ้ำ แต่ด้วยที่ทีที่ดูเคร่งขรึมเกินวัยกลับข่มคนรอบข้างให้ยำเกรง สิ่งเดียวที่ยังดูสมกับความหนุ่มหน่อยคือผมที่ยาวละต้นคอ

"ลูกค้าหรือนายแบบเหรอวะ? หล่อเชี้ย....."

"ลูกค้าเว้ย!! กูก็เผลอนึกว่าลูกค้าเอาพรีเซนเตอร์มาเองจากฮ่องกงด้วยเหมือนกันแหละไอ้แดน" ขนาดเพื่อนของเขายังเห็นด้วย "แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่เอ็งจะมาตะลึงความหล่อของหมอนั่น รีบไปพรีเซนต์ซะ"

"Mr. เยี่ยน, Ms. Ananjira, this is Mr. Dansuang, our Art Director. He will be the one who takes care of your advertisement. Mr. Dansuang is our best creative and his works won many awards. I’m convinced that you will be satisfied with this advertisement for sure.
(Mr.เยี่ยน คุณอนันต์จิรา ครับ นี่นายแดนสรวงอาร์ตไดเล็คเตอร์ของเรา เขาเป็นคนออกแบบโฆษณาชิ้นนี้ และเป็นนักสร้างสรรค์มือทองของเราที่เคยได้รางวัลมามากต่อมากแล้ว คุณต้องชอบงานชิ้นนี้แน่นอนเลยครับ)" เมื่อแดนสรวงเข้ามาในห้องประชุมเรียกร้อยแล้ว บอสของเขารีบแนะนำทันที เยี่ยนจื่ออิงยังคงนั่งนิ่งอยู่กับที่ไม่ได้เอ่ยปากทักทายเพียงแค่พยักหน้ารับตามมารยาทเท่านั้น จนคนรอบข้างรู้สึกว่าคุณลูกค้ารายใหญ่นี้แม้จะไม่ได้เอ่ยปากต่อว่าแดนสรวง แต่ยังแฝงกิริยาไม่พอใจเอาไว้มากอยู่ ผิดกับหญิงสาวชาวไทยอีกคนที่มาด้วยกันหล่อนยังมีทีท่าเป็นมิตรมากกว่า

"นี่มิสเตอร์เยี่ยนจื่ออิง กับคุณอนันต์จิรา หรือคุณเมย์" เจ้านายของแดนสรวงหันไปยิ้มกับหญิงสาวเป็นเชิงขอนุญาตเรียกชื่อเล่นซึ่งเธอก็พยักหน้า คาดว่าคงจะคุ้นเคยกันอยู่ก่อนหน้านี้แล้วจึงค่อยหันมาทางเขา

tsutsuku>>>



มาต่อแล้วน๊า

รกเจ๊คิง รักคนเม้นต์เหมือนเดิม

แล้วจะรีบมาต่อให้นะ

palm18

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อไวๆๆนะคับ

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
หุหุ แดนสรวงเจอเด็กยั่วค๊าบ  :โหลๆ:

abcd

  • บุคคลทั่วไป
แดนสรวงมัวแต่ตะลึงตึงตึงในความหล่ออ่ะจิ :kikkik:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
 :laugh3: เจอที่เด็ดของเด็กเข้าไป สายเรย   :pandalaugh: :pandalaugh: :pandalaugh:

RoosT

  • บุคคลทั่วไป
 :kikkik: น้องกระถิน เมื่อคืนยังเล่นตัวอยู่เรย พอเช้าเจอลูบขาอ่อนเข้าหน่อย ตกเย็น กระโดนหอมแก้มแดนซะงั้น  :laugh5:

"เฮ้อ...ออ....อ ไอ้เด็กบ้า เล่นเอาเสียว" <<<< ว้า แค่นี่พี่แดนก็เสียวแระ แค่หอมแก้มเองนะเนี่ย คริคริ :interest:

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
หวั่นไหวแย้ว :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:  อีกมะนานเกินรอจื่อถิงได้เข้าไปสวยในใจพี่แดนแน่นอนเลย :loveu: :loveu: :loveu:

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
" ทักทายคุณๆ เขาสินายแดน" ทำให้บอสของชายหนุ่มรีบกระทุ้ง เมื่อเห็นแดนสรวงยังยืนมองหน้าลูกค้าหนุ่มหล่อตาค้างจนกลายเป็นเสียมารยาทไป

"Is there anything funny on my face? (หน้าผมมีอะไรติดอย่างนั้นเหรอ?)" จนเยี่ยน
จื่ออิงต้องเป็นฝ่ายถามออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาแดนสรวงถึงจะรู้ตัว

"Uh…no, sir. It’s just that you’re very good looking, I thought you were a model.(อ๊ะ.....ไม่มีครับ เพียงแต่คุณหล่อมาก ตอนแรกผมเข้าใจว่าคุณนายแบบเสียอีก)"

"Yes, everybody thinks so, right? Ha ha ha ha…(ใช่ครับ ทุกคนก็เห็นด้วยใช่มั้ย ฮา ฮา)" บรรดาเพื่อนร่วมงานของแดนสรวงรีบเออออห่อหมกยกยอปอปั้นทันที ด้วยหวังว่าลูกค้ารายนี้จะอารมณ์ดีขึ้นบ้าง เพราะคนส่วนใหญ่มักชอบให้ชมถึงรู้ว่ามันไม่เป็นความจริงนักก็ตาม แต่มุขนี้ก็ใช้ได้มาตลอดไม่เคยแป่กยกเว้นคราวนี้

"If you have so much time to flatter me like that…I would rather listen about our project please. We have wasted so much time already.(ถ้าคุณมีเวลามาชมผมล่ะก็......ขอฟังเนื้องานจะดีกว่า เราเสียเวลาไปมากแล้ว)"

"กับคนที่มันรู้ตัวว่าหล่ออยู่แล้ว มึงเลยใช้มุขนี้ไม่สำเร็จว่ะ" สมศักดิ์ที่ยืนอยู่ข้างๆ แดนสรวงยังอุตส่ามีแก่ใจกระซิบกระซาบเพื่อน จนแดนสรวงอมยิ้มแอบเห็นด้วยแต่เมื่อเห็นบอสเหล่มามองด้วยสายตาตำหนิ แดนสรวงจึงเริ่มต้นอธิบายงานของเขาเป็นภาษาอังกฤษทันที

"I want this advertisement to be notable right after its launching.(ผมต้องการให้โฆษณาตัวนี้ out standing ทันทีที่เปิดตัว)" หลังจากนั่งเงียบตั้งใจฟังการพรีเซนต์ชิ้นงานของแดนสรวงมาครู่ใหญ่ เยี่ยนจื่ออิงก็เปิดปากตั้งประเด็นทันที

"อ่า....Mr.เยี่ยน ครับ โรงแรมน่ะมันถือเป็นองค์กร ดังนั้นผมว่าเราขายภาพลักษณ์สร้างความรู้สึกที่ดีก่อนจะดีกว่า....."

"ถ้าเรื่องสร้างภาพลักษณ์เพื่อประชาสัมพันธ์ล่ะก็.....เราให้นักประชาสัมพันธ์ดำเนินการไปแล้วไม่จำเป็นต้องให้คุณมาทำซ้ำ ถ้าคุณทำได้แค่นั้นมันก็ไม่ต่างอะไรกับโรงแรมทั่วๆ ไป และมันควรจะใช้กับองค์กรที่มีมานานแล้วถึงจะสร้างภาพลักษณ์ตอบแทนมวลชน" แดนสรวงฟังแล้วต้องแอบกลืนน้ำลายดังเอื้อก ลูกค้าของเขาคนนี้ไม่ใช่ขี้ๆ เลย ชายหนุ่มมีความรู้ด้านนี้พอสมควรถึงตอบโต้ได้เป็นฉากๆ


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด