หวัดดัค้าบบบบ
Chapter 28--- ครืดดดดด ๆๆ ---
( ขวัญ? โทรมาทำม?? )
“ฮัลโหล ครับ”
“น้ำเชี่ยว.. ขวัญโทรหาน้ำเชี่ยวตั้งหลายวันไม่ติดเลย ตอนนี้อยู่ที่ไหนเนี่ย ปิดมือถือทำไม..” สาวร่างอวบกรองเสียงสวยที่ฟังดูจะขุ่นมัวเล็กน้อยผ่านมาตามสาย
“ก็อยู่ที่บ้านนี่แหละ จะให้ไปอยู่ไหนได้ล่ะ นานๆจะมีเวลาพัก นี่น้ำกำลังอ่านหนังสือเตรียมสอบอยู่ด้วย เลยไม่อยากให้ใครมากวน”
“แล้วขวัญโทรมา มีไรอ่ะ”
“คะ คือ ขวัญมีเรื่องจะบอกน้ำ..”
.. แกร๊กๆ!!
ปัง!!! ในมือถือ หญิงสาวกำลังละล่ำละลักจะพูดเรื่องสำคัญ แต่จอมขวัญก็ถึงกับต้องชะงักค้าง เมื่อเสียงจากปลายสายที่รอดเข้าหูมา ฟังดูน่ากลัวเหมือนมีเรื่องรุนแรงบางอย่างเกิดขึ้นซะอย่างนั้น ขณะที่ทางด้านน้ำเชี่ยวเอง ยังไม่ทันจะได้ฟังคู่สนทนาจนจบประโยค ก็ต้องอึ้งปนงงกับอาการปึงปังแปลกๆของใครบางคนที่เพิ่งวิสาสะเข้ามาในห้องของเขา
“น้ำเชี่ยว!” ดวงตาเรียวเบกกว้างดุดันกวาดไปรอบๆห้อง ก่อนจะมาหยุดเขม็งที่เด็กหนุ่มราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ น้ำเสียงแข็งกร้าวจากคนตัวบางแผดเรียกชื่อเขาซะดังลั่น
คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ถ้าจะให้รู้ว่าปลายสายที่สนทนาอยู่คือ จอมขวัญ
“ขะ ขวัญ เอ่อ..ตอนนี้น้ำ ไม่ค่อยว่าง ไว้ค่อยคุยกันทีหลังนะ แค่นี้ก่อนแล้วกัน” เด็กหนุ่มกระซิบใส่ปลายสายแล้วกดวางแทบไม่ทัน เมื่อเห็นท่าทีของคนรักที่เพิ่งปึงปังเข้ามา และถึงกับงงหนักเข้าไปอีกเมื่อดวงตาที่เคยสดใสดูดุดันคู่นั้นจ้องหน้าเค้าเขม็ง ข้อมือขาวกำเกร็งแน่นจนเส้นเลือดปูด บางสิ่งในมือถูกขยำจนยับยู่
“พี่พีม..มีอะไร เป็นอะ..ไร” น้ำเชี่ยวถามออกไปอย่างตะกุกตะกัก รู้สึกว่าคงไม่ใช่เรื่องเล็กแน่ๆที่ทำให้คนตรงหน้าถึงกับวางท่าเกรี้ยวกราดใส่เขาได้ถึงขนาดนี้ แต่ก็ยังงงอยู่ว่าเขาไปทำอะไรผิดไว้ให้อีกฝ่ายไม่พอใจตั้งแต่เมื่อไหร่
“โทรศัพท์เมื่อกี้ ใคร?!!” พีมถามเสียงแข็ง ดวงตาเรียวที่เต็มไปด้วยแววโกรธกร้าวจ้องตาเด็กหนุ่มตรงหน้านิ่ง ยิ่งเห็นท่าทางอึกๆอักๆ ของน้ำเชี่ยวด้วยแล้ว สัญชาตญาณมันยิ่งบอก ว่าต้องไม่อะไรผิดปกติแน่นนอน
“เอ่อ..จอมๆ..จอมขวัญ เค้าๆ..” พอได้ยินน้ำเสียงแข็งกร้าวเอาจริงเอาจังขนาดนี้ ถ้าโกหกไปแล้วถูกจับได้ มีหวังบ้านแตกแน่
---พั่บ!!!---ยิ่งได้ยินชื่อยัยคนนี้ ยิ่งทำให้พีมบันดาลโทสะหนักขึ้นไปอีก ไม่คิดจะรอฟังคำอธิบายใดๆอีกต่อไปแล้ว มือเรียวขว้างหนังสือพิมพ์ก็อสสิปเจ้าปัญหาที่ถูกขยำจนยับใส่คนตรงหน้าอย่างไม่ปราณี
“อ่านดู!!”
ไม่ได้อยากให้ยื้อ ไม่คิดจะให้อีกคนมางอนง้อ เพราะไม่อยู่ในอารมณ์ ไม่อยากแม้กระทั่งจะฟังเหตุผลอะไรต่อไปอีก ที่บึ่งรถมาก็แค่อยากจะระบาย ให้รู้ว่าเขานั้น ไม่ใช่วัวใช่ควายที่ไหน ที่จะให้ใครๆมาสวมเขาเอาได้ง่ายๆ แทบไม่สนใจว่าอีกคนจะทำอะไรกับเจ้าพับกระดาษบนพื้น ซูเปอร์สตาร์หนุ่มก็หันหลังกลับ สาวเท้ายาวๆไปที่ประตู
มันไม่ใช่เรื่องตลกเลย ไม่ใช่ข่าวเต้าหรือข่าวลวง เพราะเขาได้ให้พี่ในวงการที่สนิทเช็คดูอย่างถี่ถ้วนแล้ว เนื้อความในนั้น เป็นเรื่องที่ออกมาจากปากของทั้งคู่จริง และที่เจ็บที่สุดก็คือ น้ำเชี่ยวทำกับเขาอย่างนี้ได้อย่างไร อยากจะดังมากถึงขนาดต้องเอาตัวเองไปขายข่าวอย่างนั้นเชียวหรือ
“
พี่พีม! เดี๋ยว..ไม่! น้ำเชี่ยวไม่ให้พี่ไปไหน” เมื่อคว้าเอานสพ.ได้ก็ดิ่งไปรวบเอาร่างบางมาไว้กับอก แทบคิดไม่ออกไม่รู้จะทำอะไรก่อนอะไรหลัง งงไปหมด อยู่ๆทำไมพี่พีมที่แสนน่ารักก็กลายเป็นปีศาจร้ายไปได้
“
ปล่อยยยย!....บอกให้ปล่อยไงเล่า!” ไม่เหลือเค้าของเสียงหวานๆที่เคยได้ยิน มีแต่แผดเสียงกร้าวใส่เต็มสองหู
“
ไม่! มันเรื่องอะไรน้ำยังไม่รู้เลย พี่จะหนีไปอย่างนี้ได้ไง อยู่นิ่งๆก่อนได้มั้ย ให้น้ำเชี่ยวอ่านมันก่อนสิ” ร่างในอ้อมกอดดิ้นขัดขืนเต็มกำลัง ยิ่งทำให้เขาต้องรั้งรัดเอาไว้ให้แน่น ทว่าก็ได้กลับมาแต่ศอกแหลมๆที่กระทุ้งมาไม่ยั้งแรง เท้าเล็กกระแทกมาบนเท้าของเค้าจนเจ็บไปหมด
“
โอ้ย!! เจ็บ
โอ้ย!น้ำเจ็บพี่
โอ้ย!” เมื่อสู้แรงคนตัวโตกว่าไม่ไหว พีมจำต้องงัดวิชาลอบกัดออกมาใช้ ปากบางงับเข้าที่แขนแกร่งของเด็กหนุ่มเต็มแรง ฝากรอยฟันไว้ที่แขนขาวเกือบจะครบทุกซี่ จนรู้สึกถึงกลิ่นคาวของเหลวบางอย่างที่ติดมา
“
ปล่อยเซ่! จะไม่ปล่อยใช่มั้ย อยากโดนอีกรึไง” ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรมอะไรแล้ว รู้แต่ว่าโกรธ โมโห ต่อให้มันไม่ใช่เรื่องจริง แต่สิ่งที่ยัยดาราหน้าหมูนั่นให้สัมภาษณ์หลาไปทั่วประเทศก็ทำให้เขาแทบบ้า อยากจะหาใครสักคนมารับผิดชอบ ในเมื่อทำกับยัยอึ๋มทรงโตนั่นไม่ได้ ขอลงกับไอ้บื้อนี่นั่นแหละ
ทั้งคู่ยื้อยุดกันอยู่นาน จนพีมเริ่มล้า เขาพยามคิดหาวิธีที่จะหลุดจากไอ้หนวดปลาหมึกยักษ์ จะเอานิ้วจิ้มตามัน หรือจะถีบกลางเป้ามันน่าก็จะเวิรค์.. ทว่ารู้สึกตัวอีกที เหมือนตัวเองลอยอยู่กลางอากาศ แขนแกร่งของคนข้างหลังรัดเขาแน่นไม่มีทีท่าว่าจะปล่อย ร่างบางกว่าจึงถูกอุ้มขึ้นลอยหวือ
“
เอ้ย! จะเอาชั้นไปไหน ไอ้บ้าน้ำเชี่ยว ปล่อยโว้ยยย ปล่อยยย!!” แม้จะถูกอุ้มจนขาลอยไม่ติดพื้นแล้ว พีมก็ยังมีฤทธิ์มีแรงถีบสองเท้าไปกับอากาศจนคนแบกสุดจะทน เลยเหวี่ยงเอาร่างที่ดิ้นเป็นหมาโดนน้ำร้อนลงที่เตียงอย่างไม่ออมแรง ก่อนจะวิ่งหนีออกไป ปิดประตูล็อคขังไว้อย่างแน่นหนา
“ปึงๆๆ!! น้ำเชี่ยว!เปิดเดี๋ยวนี้นะ ปึ้งๆๆ!! เปิด! ขังชั้นไว้ทำไม ปึงๆๆ! !! บอกให้เปิดไงเล่าโว้ยยยย ไอ้บ้าน้ำเชี่ยว เปิด!! เปิด!!!” ยิ่งสู่แรงไม่ได้ยิ่งโมโห แถมยังโดนขังไว้ในห้องอีก พีมจึงใช้สองหมัด สองแขน สองขา ทุบใส่ประตูไม่ยั้ง
“พี่บังคับน้ำเองนะ อยากโวยวายอาละวาดเองทำไม บอกแล้วขอให้น้ำอ่านดูก่อน ให้น้ำได้พูดได้อธิบายอะไรบ้างสิ!” เด็กหนุ่มรัวคำพูดพลางคลี่นสพ.ออกดูอย่างรีบร้อน
[‘จอมขวัญ’ดาราดาวรุ่งช่องหลากสียันข่าวขั้วเสี่ยไม่เป็นความจริง...---
ปึง! ตุ๊บ! ฟิ้ววว~ส
โครม!! ฟิ้ววว~ส
ปัง!!---...เผยตอนนี้มี‘น้ำเชี่ยว’ร็อคเกอร์หนุ่มค่ายยักษ์เป็นคนรู้ใจอยู่แล้ว ไม่มีเหตุต้องหาใคร หรือขั้วใครอีก]“โธ่โว้ย! มันอะไรว่ะเนี่ย ขวัญ..เป็นบ้าอะไรขึ้นมา ไปให้ข่าวตอนไหนเนี่ย” เด็กหนุ่มนั่งกุมขมับอยู่กับข่าวตรงหน้า คิดหาเหตุผลต่างนานา.. อะไร ทำไม เขาถึงไม่เอะใจนะ ว่าวันนั้นที่ถ่ายแบบด้วยกัน จอมขวัญให้สัมภาษณ์ข่าวอะไรไปบ้าง เขาเองก็ไม่ได้สนใจ มัวแต่ใจลอยคิดถึงแต่เรื่องของพี่พีมจนแทบไม่ได้สนใจสิ่งรอบตัว
---ตึง! ฟิ้ววว~ส เคล้งง!! ตุ๊บบๆ!! ปึงๆๆ!---น้ำเชี่ยวโวยวายด่าตัวเองพร้อมกับรีบกดโทรศัพท์ไปหาจอมขวัญตัวต้นเหตุที่มาทำให้เกิดเรื่องใหญ่โตอย่างนี้ ขณะเดียวกับที่สายตาเหลือบไปหาจอมอาละวาดที่หลังประตูดูท่าว่าคงจะบ้าไม่แพ้ใครอยู่ในห้องนอนนั่น ไม่อยากจะคิดสภาพว่าเปิดประตูออกมาแล้ว ห้องนอนแสนอบอุ่นของเขาคงจะกลายสภาพเป็นสนามรบยิ่งกว่าอ่าวเพอร์ฮาเบอร์เป็นแน่
“ตี๊ดดด..ตี๊ดดด..ฮัลโหล”
“ฮัลโหลขวัญ! ข่าวนั่นน่ะ มันอะไรห๊ะขวัญ” น้ำเสียงร้อนรนกรอกไปหาปลายสายทันทีที่เธอรับ
“ขวัญขอโทษนะน้ำเชี่ยว ก็..เมื่อกี้ขวัญกำลังจะบอกน้ำเชี่ยว แล้วก็.. น้ำก็วางไป”
“เออๆ สรุปตกลงมันอะไร อยู่ทำไมไปบอกนักข่าวว่าเราคบกัน จะบ้าเหรอขวัญ”
---
ปึง! ฟิ้ววว~ส
โครม!! ฟิ้ววว~ส
ตุ๊บ! ปัง!!---
“คือ..คือขวัญมีเหตุผลนะน้ำเชี่ยว คือว่าขวัญ..”
---ปึง! โครม!! ตุ๊บ! ปัง!!--- “เดี๋ยว! เดี๋ยวแป็บนึงนะขวัญ.. เดี๋ยวน้ำเชี่ยวโทรไปใหม่”
ดูท่าว่าปีศาจจอมอาละวาดในห้องคงไม่ยอมสงบลงง่ายๆแน่ ถ้าเขาไม่ทำอะไรบางอย่างให้มันเคลียร์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เมื่อน้ำเชี่ยวปลดล็อคประตู แค่แวบแรกที่เห็นคนตัวเล็กกำลังดึงทึ้งข้าวของทุกอย่างในห้องให้พังทลายไม่เป็นชิ้นดี ก็ทำเอาเด็กหนุ่มเลือดพุ่งพล่านเพราะความโมโหได้เช่นกัน
“
หยุด! บอกให้หยุด! ได้ยินมั้ยหะ!” น้ำเชี่ยวแผดเสียงดังแข่งกับอารมณ์ของคนในห้องที่กำลังแผงฤทธิ์ไปทั่วอย่างไม่มีทีท่าว่าจะฟังเขาเลยสักนิด
---โครม!!!--- จนเด็กหนุ่มทนไม่ไหว พุ่งเข้าไปรวบเอาคนจอมอาละวาดจนหงายหลังตึง สองแขนรวบมือของพีมขึงพรืดไปกับพื้น
“
ไม่หยุด! จะทำไม..มีอะไรมั้ย!!
เอ้ย!ปล่อยนะ จะกลับบ้านโว้ย
ปล่อยยย!” ดูหมือนคนตัวเล็กกว่าก็ไม่สงบ ยังมีแรงเหลือพอที่จะโวยวายแถมยังดิ้นให้พล่านทั้งที่โดนอีกคนโถมทับอยู่ทั้งตัว
“จะหยุดดีๆ
หรือจะให้เอาไอ้นี่หยุด หือ!” น้ำเชี่ยวจงใจบดสะโพกกระแทกแรงๆเข้าที่ท่อนล่างของพีมเน้นๆอย่างหนัก พร้อมน้ำเสียงทุ้มต่ำดุดันที่รอดมาตามไรฟัน ดวงตาคู่โตจ้องเขม็งตึงท้าทายปีศาจร่างเล็กอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ กรามแกร่งถูกขบเข้าหากันจนแน่น บ่งบอกว่าเด็กหนุ่มตอนนี้ก็อยู่ในอารมณ์โกรธและโมโหไม่แพ้กัน
ไม่รู้ว่าเพราะท่าทีโกรธจัดของน้ำเชี่ยวที่ส่งมา หรือเพราะอาการเจ็บจุกๆบริเวณนั้นที่คนตัวใหญ่กว่ากระแทกลงมา จึงทำให้พีมยอมอ่อนลงในที่สุด
“
อย่าแผงฤทธิ์ให้มันมากนัก น้ำไม่อยากทำให้พี่เจ็บตัวนะ ฟังเหตุผลกันบ้าง!” เมื่อสยบม้าพยศให้มอบคาพื้นลงได้ เด็กหนุ่มจึงควานหาโทรศัพท์แล้วกดหาจอมขวัญทันที
“อย่าบ้าขึ้นมาอีกล่ะ ฟังอย่างเดียว ไม่ต้องโวยวาย ไม่งั้นเจ็บแน่ อย่าหาว่าไม่เตือน” น้ำเสียงแข็งกร้าว ทุ้มต่ำ พูดแบบกัดกรามจนเป็นสัน กับสายตาดุดัน ดูเหมือนจะใช้ได้ผลกับคนเจ้าอารมณ์ให้สิ้นฤทธิ์แต่โดยดี
แม้ว่าจะเริ่มรู้สึกสงสารดวงตาใสที่เริ่มสั่นระริกเพราะตื่นตระหนกกับท่าทีของเขาราวกับลูกกวางถูกจับ แต่น้ำเชี่ยวเองก็ยังมองไม่เห็นวิธีใดที่จะหยุดคนตรงหน้าได้อีกแล้วในตอนนี้
“ขวัญเหรอ ไหนว่ามาสิ มันเรื่องอะไร ทำไมให้ข่าวอย่างนั้น” น้ำเชี่ยวกรอกเสียงห้าวใส่มือถือเครื่องหรูที่ถูกสั่งให้สปีคเกอร์โฟนทำงาน เขาวางมันไว้บนหน้าอกของพีม คำพูดทุกคำหนักแน่นจริงจังดวงตาคู่โตจับจ้องไปในแววตาของอีกคนราวกับจะบอกว่าเชื่อสิ ฟังสิ นี่คือความจริงทั้งหมด
“น้ำเชี่ยว ขวัญขอโทษ ก็ตอนนั้นขวัญไม่รู้จำทำยังไงแล้วจริงๆ แล้วช่วงนี้ขวัญโดนนักข่าวตามเขียนแต่เรื่องเสี่ย บางฉบับหาว่าขวัญเป็นเมียน้อยเค้าบ้างล่ะ น้ำเชี่ยวก็รู้ขวัญไม่ได้เป็นแบบนั้น แล้ว..แล้วพี่ขิงเค้าก็บอกว่า เรื่องมันน่าจะซาลง ถ้าขวัญเปิดตัวว่าขวัญมีแฟนเป็นตัวเป็นตน..”
“แล้วไง แล้วขวัญก็เลยมาโมเมบอกเค้าว่าเราคบกันงั้นเหรอ?”
“น้ำเชี่ยว ขวัญขอโทษ ขอโทษนะน้ำเชี่ยว คิดว่าช่วยขวัญซักครั้งนะ น้ำเชี่ยว ให้มันผ่านช่วงนี้ไปก่อนซักหน่อยก็ยังดี นะน้ำเชี่ยว นะๆ” น้ำเสียงที่เคยเจื้อยแจ้วหวานใสของจอมขวัญวันนี้กลับแหบแห้งสั่นเทา ดูท่าเธอก็คงจะลำบากเอามากๆเหมือนกัน ใจนึงก็นึกสงสาร นี่ถ้าเขาเองไม่มีพี่พีมอยู่อย่างนี้ ก็คงจะปล่อยเรื่องนี้ให้เลยตามเลยไปแล้ว แต่..กับ
ผู้ชายตัวขาวๆตรงหน้าที่นอนนิ่งอยู่ตรงนี้นี่สิ แววตาเศร้าๆ และหยดน้ำใสๆที่กำลังคลออยู่ในดวงตาเรียว ยิ่งมองก็ยิ่งเจ็บในอกแทบจุก ความรักของเราเจ็บปวดแค่ไหนที่เปิดเผยบอกใครไม่ได้ แต่วันนี้มันกลับยิ่งร้ายกว่า เมื่อความรักของเรากำลังจะถูกฝังทับด้วยเรื่องรักหลอกๆของคนอื่น
แทบไม่ต้องเสียเวลาคิดให้มาก เมื่อดวงตาใสของร่างข้างใต้เริ่มไหวระริกและเสหลบไปทางอื่น เพียงเท่านี้ก็ทำให้เด็กหนุ่มตัดสินใจกับเรื่องแบบนี้ได้ไม่ยาก ไม่ว่าจะอะไรก็แล้วแต่ แค่ให้พี่สบายใจที่สุด เขาทำได้ทั้งนั้น
“ขวัญ..น้ำเชี่ยวขอโทษนะ น้ำเชี่ยวมีแฟนแล้ว และน้ำเชี่ยวคงจะ..อ๊ะ!”
#!!@?!?!! ทุกคำพูดถูกตัดขาดเมื่อมือบางคว้าเอาโทรศัพท์เครื่องหรูมา แล้วกดวางสาย เหวี่ยงทิ้งไปอีกทาง
“
ทำอะไรนะพี่!!” น้ำเชี่ยวขึ้นเสียงใส่คนตรงหน้า เขากำลังจะทำให้ทุกอย่างมันจบแล้วแท้ๆ
“ช่างมันเถอะ.. ไม่มีประโยชน์ที่จะแก้ข่าวอะไรตอนนี้อยู่ดี ยังไงคนเค้าก็อ่านมันไปหมดแล้ว ยิ่งต่อความยาวสาวความยืดก็มีแต่จะเสียทั้งน้ำเชี่ยวแล้วก็เขา ยังไงเขาก็เป็นผู้หญิงนี่นะ มันก็คงจะยุ่งยากล่ะมั้งกับพวกข่าวแบบนี้” ฟังจากที่เธอพูดแล้วก็อดสงสารไม่ได้ เธอคงเดือดร้อนจริงๆ ยังไงเรื่องของเรากับน้ำเชี่ยวมันก็เปิดเผยไม่ได้อยู่แล้ว แค่ที่น้ำเชี่ยวทำให้เราเห็นอยู่ทุกวันนี้มันก็น่าจะพอแล้วไม่ใช่เหรอ
“อีกอย่างเรื่องของเรา..เรื่องของพี่กับน้ำ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะไปพูดไปบอกใครได้.. ไม่มีใครเห็นดีด้วยหรอก”
ที่พูดออกไปแบบนั้น พีมเองก็ยังแยกไม่ออกระหว่างความรู้สึก สงสาร กับ เวทนา.. เหมือนมันปนๆกันระหว่างความรู้สึกสงสารผู้หญิงคนนั้นที่อยากจะดิ้นรนอยู่ให้ได้ในวงการที่ซับซ้อน กับเรื่องของตัวเองที่ดูน่าเวทนาเหลือเกินที่ทำอย่างไรสังคมก็คงไม่ยอมรับ
“ไม่เห็นดีด้วยแล้วไง เราไม่ได้ไปปล้นไปฆ่าหรือไปทำให้ครอบครัวใครแตกแยกนี่ น้ำเชี่ยวไม่เห็นแคร์ ไม่รู้อ่ะ ยังไงน้ำก็จะบอกให้ขวัญรีบแก้ข่าว ถ้านักข่าวถามน้ำเชี่ยว น้ำเชี่ยวก็จะบอกว่าน้ำเชี่ยวเป็นแฟนพี่ ใครจะทำ..”
“ไอ้บ้า เพี้ยนไปแล้วรึไง ไม่อยากเป็นมันแล้วใช่มั้ยนักร้องเนี่ย จะบอกให้รู้ไว้นะว่า ชั้นยังไม่อยากเป็นนักร้องตกอับตอนนี้ พอได้แล้ว!! ไม่อยากพูดไม่อยากฟังเรื่องนี้แล้ว” มือขาวรีบตะปบปากคนตัวโตอย่างเร็ว ตามด้วยลูกถีบมหาปะลัยจากเท้าน้อยๆเข้าที่ใจกลางกล่องดวงใจของน้ำเชี่ยว โทษฐานที่มาทำท่าโหดใส่เขาซะใจเสียไปหมด ทำเอาร่างสูงพลิกกลิ้งตัวงอไม่เป็นท่า
“โอ้ย~!! กล้าถีบน้ำเหรอ ไอ้สติ๊ชตัวแสบ จะหนีไปไหน มานี่นะ เอาโทรศัพท์น้ำมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!” อะไรกัน เมื่อกี้ยังอาละวาดซะบ้านแทบแตก บทจะเข้าใจอะไรๆ ก็ง่ายซะอย่างงั้น เอาใจไม่ถูกจริงๆเลย
“
เน่!..จะไม่คืนน้ำใช่มั้ย จะโมโหแล้วนะ ดูดิทำห้องนอนเละเทะไปหมดแล้ว กลับมาเก็บเดี๋ยวนี้เลย
มาเน่! ไอ้พี่บ้า !!!...” เด็กหนุ่มโวยลั่นขอโทรศัพท์คืนจากพีมที่วิ่งคว้าไป แล้วหายออกไปนอกห้อง ขณะที่พีมวิ่งพล่านไปทั่วห้อง โถง ครัว ระเบียง ยิ่งวิ่งไปเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้เจ้าคนตัวสูงกว่า ที่ไล่กวดตามมาหกล้มชนกระแทกกับโต๊ะบ้างเก้าอี้บ้างดูแล้วมันฮาดี
"ฮ่ะๆๆ"
“พลั่ก!!
โครม!!...........
.โอ้ยยยย!!!” เหลียวหลังกลับไปอีกที เจ้าเด็กโย่งก็ลงไปกองกับพื้นห้องครัวนอนเอามือกุมข้อเท้าหน้าตาบูดบี้ร้องโอดโอยซะแล้ว
“หะ!...น้ำเชี่ยว เป็นอะไรน่ะ เจ็บมากมั้ย ...ไหนๆ ตรงนี้เหรอ” มือบางพยามประคองข้อเท้าของน้ำเชี่ยว หน้าใสๆที่เริงร่าอยู่เมื่อกี้ เริ่มสลดที่เป็นต้นเหตุให้เด็กหนุ่มต้องเจ็บตัว
“โอ๊ะ!..โอ้ยพี่เจ็บ เจ็บอ่ะ” หารู้ไม่ว่า เจ้ากบกำลังเล่นละครแอ็คติ้ง9 ท้าทายดาราเจ้าบทบาทระดับแถวหน้าของวงการ ถ้าเพียงแต่พีมจะเงยหน้าขึ้นมาสังเกตสักนิดคงจะไม่เสียรู้ครั้งใหญ่
“พี่ขอโทษน้ำเชี่ยว พี่ไม่ได้ตั้งใจ..มาขี่หลังพี่ เร็วเดี๋ยวพี่พาไปหาหมอนะ เร็วขึ้นมา” น้ำเชี่ยวแทบจะขำก๊ากกกกับคนน่ารักตรงหน้า ท่าทางร้อนรนกับหน้าขาวซีดที่ทำให้เขาเจ็บ ตัวก็แค่นี้ไม่ได้โตขึ้นจากวันแรกที่เจอกันเลย ยังจะให้เราขึ้นไปขี่หลังอีก แล้วมันจะไปรอดมั้ยนี่ ^ ^
“.....”
เด็กหนุ่มมองแผ่นหลังสวยภายใต้เสื้อยืดพอดีตัว แม้จะไม่เล็กเหมือนผู้หญิงแต่ก็นับว่าเล็กถ้าเทียบกับแผ่นหลังของเขา อดไม่ได้ที่จะลูบไปช้าๆและรวบเข้ามากอด ซุกหน้าลงกับลำคอขาวสูดกลิ่นที่คุ้นเคย
“สำออยใช่มั้ย ไอ่กบ แก!” กว่าจะรู้ตัวว่าติดกับเจ้าเด็กแก่แดด ก็ดิ้นไม่หลุดจากอ้อมกอดแข็งแรงนี้ซะแล้ว
“อืม ไม่เอา.. พูดเพราะๆสิครับที่รัก หืม~ แล้วทีหลังไม่อาละวาดแบบนี้แล้วนะครับ น๊ะ ข้าวของพังหมดเลย.. รู้ใช่มั้ย น้ำเชี่ยวไม่มีวันไปมีใครอื่นนอกจากพี่คนเดียว” น้ำเชี่ยวเอ่ยด้วยเสียงนุ่ม สองแขนกระชับกอดคนตัวเล็กไว้แนบแน่ จมูกแหลมไล้ไปตามแก้มเนียนใสและหางคิ้วสวยได้รูป
“ถ้าพี่ไม่รู้..งั้นตั้งแต่วันนี้ไป พี่รู้ไว้นะ..ว่าน้ำเชี่ยวรักพี่คนเดียว ไม่คิดจะรักใครคนอื่น ไม่มีทาง ทุกอย่างของน้ำเชี่ยวเป็นของพี่ทั้งหมด เป็นของพี่คนเดียว น้ำเชี่ยวรักพี่พีมนะครับ” เสียงนุ่มทุ้มของเด็กหนุ่มกระซิบแผ่วเบาที่ใบหูแต่กลับก้องกังวานลึกไปทั่วทุกโสดประสาท ดวงตาเรียวมีน้ำใสๆปริ่มคลอดเบ้า รู้สึกผิดอยู่ลึกๆในใจที่อาละวาดทำลายข้าวของเสียหายทำให้น้ำเชี่ยวเจ็บตัวเสียใจ.. เรื่องทุกเรื่องต่อให้ร้ายแรงแค่ไหนคนอย่างเขาก็จัดการได้หมด แต่กลับเรื่องนี้ ของคนๆนี้ เขากลับควบคุมอะไรไม่ได้เลย แทบไม่กล้าคิด ถ้าหากวันนึงขาดน้ำเชี่ยวไปไม่ว่าจะกรณีใดๆตัวเค้าจะอยู่ในโลกนี้ต่อไปได้อย่างไร
..พี่ก็รักน้ำเชี่ยว..รักมาก..มากซะจนน้ำเชี่ยวอาจคาดคิดไม่ถึง
(ติดตามต่อตอนหน้าคับ^^)
B a l l o o n