ตอนพิเศษ...Un-Perfect
ผมเคยคิดว่าจะไม่คบใครจนกว่าจะเรียนจบ เพราะผมมีเรื่องที่ต้องทุ่มเท นั่นคือกีฬาที่ผมรัก ค่าเทอมที่มหาฯลัยนี้ค่อนข้างสูง โชคดีที่ผมสามารถเข้ามาเรียนได้ด้วยโควต้านักกีฬา ถึงที่บ้านจะไม่ได้ฐานะย่ำแย่อะไร แต่การเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะมาก ถ้าอะไรประหยัดได้ก็ต้องประหยัด แต่ใช่ว่าจะประหยัดจนเข้าขั้นงก ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ผมก็ยังไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถคบใครได้ถ้ายังต้องทุ่มเทให้กับกีฬา แต่ใครจะไปคิดล่ะว่า...ผมจะตกหลุมรักจนถอนตัวไม่ขึ้น
ครั้งแรกที่ผม เห็นเป้ ผมก็รู้สึกว่าคนๆ นี้น่ามอง หน้าตาไม่ได้น่ารักจัด หล่อจัด เด่นจัด แต่เวลายิ้มๆ หรือทำหน้าเหวอๆ ดูน่ารักน่าหยอกดี ระหว่างกิจกรรมรับน้องผมเป็นคนที่รุ่นพี่ค่อนข้างให้ความสนใจเลยเด่นกว่าคน อื่น บางครั้งออกไปเต้นอะไรทะลึ่งๆ ผมมักจะแอบมองไปทางเป้เสมอ และคนน่ารักมักจะทำตาโต หน้าแดง หันซ้ายหันขวาเหมือนจะไม่ตั้งใจมองผม แต่ก็ต้องหันกลับมามองทุกครั้ง ดูแล้วก็ตลกดี ยิ่งบางครั้งที่บังเอิญได้นั่งใกล้กันหรือขึ้นลิฟต์ตัวเดียวกัน หน้าขาวๆ จะแดงจนเหมือนไฟลุก ยิ่งถ้าผมยิ้มทักทายนะ เหมือนเป้จะเป็นลมเอาทุกที เพื่อนกลุ่มผมก็พอจะสังเกตุได้เหมือนกันว่าคนตัวบางๆ คนนั้นแอบมองผมบ่อยๆ
“เป้ มองมึงอีกแล้วไอ้แมน”ไอ้ยักษ์เพื่อนสนิทผมสะกิดบอกให้รู้ตัว ผมก็เอาศอกดันๆ ให้มันเอนหลังไปหน่อยจะได้หันไปมองเป้บ้าง และก็เป็นอย่างที่คิดไว้ เป้สะดุ้งแล้วรีบหันหนีทันที
“ฮึๆ น่ารักว่ะ”
“น่ารักแล้ว ทำไมไม่จีบ มัวแต่มองกันไปมองกันมา”
“ไว้ก่อน”
“ระวังหมาคาบ ไปแดก เป้เนื้อหอมนะเว้ย กูเห็นรุ่นพี่หลายคนเล็งๆ ไว้อยู่ หมดรับน้องเมื่อไหร่ น้องเป้มึงรับรองโดนแทะเหลือแต่กระดูกแน่ๆ”
“จริง ดิ”ผมก็ไม่ค่อยได้สนใจอะไรพวกนี้ด้วย ปกติก็คุยกันแต่เรื่องบอลเรื่องเรียน เวลาใครเมาท์เรื่องคนอื่นผมมักจะไม่สนใจทุกที แต่คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ผมก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องคบกับเป้นี่นา
อย่างที่บอก ผมก็ไม่ได้คิดว่าจะจีบหรือจะต้องคบอะไรหรอกนะ แต่รู้ตัวทีไรก็ต้องคอยมองหาเป้ทุกที และบ่อยครั้งก็จะเห็นเป้อยู่ใกล้ๆ ในระยะสายตาด้วยนี่สิ เพื่อนๆ ทุกคนในทีมชอบล้อเวลาเห็นเป้มานั่งมองผมจากไกลๆ ว่าแฟนมาแล้วๆ แล้วก็ไม่รู้ทำไมผมต้องพยายามทำให้ตัวเองเด่นกว่าเพื่อนคนอื่นทุกครั้ง ถึงจะเป็นเวลาซ้อมหรือเตะเล่นๆ ก็ตาม บ่อยครั้งที่เพื่อนๆ รู้ใจผ่านลูกให้ผมเป็นคนเตะเข้าประตู พอแอบเหลียวมองก็จะเห็นร่างบางๆ ปรบมือเปาะแปะแล้วรีบซ่อนมือตัวเองลง แถมท่าทางจะโดนเพื่อนในกลุ่มแซวมากพอดูถึงได้ลุกหนีไปเลย
อีกเรื่อง ที่เพื่อนๆ ผมไม่เคยรู้ว่าผมทำบ่อยๆ คือการออกจากห้องตัวเองมาดักรอเป้หน้าลิฟต์ ผมต้องรีบอาบน้ำแต่งตัวออกมายืนกดลิฟต์รอเวลา บางทีถ้าเป้ยังไม่ออกจากห้องผมก็จะปล่อยให้ลิฟต์ปิดไป แต่ถ้าเห็นประตูห้องเป้กำลังเปิดก็จะแกล้งเดินเข้าลิฟต์แล้วกดลิฟต์รอให้เป้ เข้ามา ถ้าผมไม่ได้ตาฟาดล่ะก็ ผมมักจะเห็นเป้ทำปากขมุบขมิบและบางครั้งก็มีเสียงลอดให้ได้ยินว่า ‘ขอให้ไฟดับๆ’ ผมต้องกลั้นหัวเราะจนตัวสั่นกับบทสวดแปลกๆ นั่น ถ้าอยากอยู่ด้วยกันนานๆ ไม่จำเป็นต้องอยู่แต่ในลิฟต์ก็ได้ และเมื่อคิดได้อย่างนี้ผมก็เลยชวนเป้กินข้าวด้วยกัน รวมถึงกลับพร้อมกันด้วย เป้ตอบตกลงแต่อยู่ดีๆ ก็วิ่งออกจากลิฟต์จนผมห้ามไม่ทันกะว่าจะไปเรียนพร้อมกันสักหน่อย เป้วิ่งไปไกล ส่วนผมยืนกุมท้องหัวเราะจนน้ำตาไหล ที่เพื่อนๆ ในรุ่นมากระซิบบอกว่าเป้แอบชอบผมอยู่คงจะไม่ได้เรียกว่าแอบอีกแล้ว เพราะเล่นรู้กันเกือบทั้งรุ่น มองออกง่ายขนาดนี้จะเรียกว่าแอบได้ยังไง
ผม ไม่รู้ว่าเป้เนื้อหอมเพราะอะไร ทำไมเพื่อนๆ ถึงบอกว่ามีคนจีบเป้เยอะ แต่ที่รู้ๆ ก็คือเป้น่ารัก ยิ่งคุยด้วยยิ่งน่ารัก อยู่ดีๆ ก็รู้สึกว่าอยากคบคนๆ นี้ อยากดูแล อยากคุยด้วย อยากอยู่ด้วยกันตลอดเวลา รู้ตัวอีกทีก็ขอคบไปแล้ว ผมเอยขอคบเป้แบบงงๆ แต่คนที่งงยิ่งกว่าคือคนตอบรับ หน้าเหวอๆ แต่น้ำตาไหล แต่ทำไมไม่รู้ผมถึงคิดว่า...ขนาดร้องไห้ยังน่ารัก
เรื่อง ของผมกับเป้ไม่มีเพื่อนคนไหนแปลกใจเลยสักคน มีเพียงตัวเป้คนเดียวที่แปลกใจ แถมยังบอกผมว่าดีแล้วที่เพื่อนๆ รับได้ ความจริงแล้วเพื่อนในทีมแทบจะเลี้ยงฉลองให้ผมด้วยซ้ำ แต่ผมต้องปฏิเสธไปเพราะเห็นว่าเว่อร์เกิน ผมกับเป้ไม่มีปัญหาเรื่องการเข้ากับกลุ่มเพื่อนเท่าไหร่ แต่ผมก็รู้ว่าเป้เกร็งๆ เวลาคุยกับเพื่อนผม หลายครั้งที่มานั่งรอผมซ้อมแล้วไปกินข้าวกับเพื่อนๆ พร้อมกัน เป้ไม่ใช่นักกีฬาหรือมีความสนใจเรื่องนี้ เวลาพวกผมคุยกันเป้เลยค่อนข้างซึม หลังจากนั้นผมก็เลยบอกเป้ว่าไม่ต้องมานั่งรอ ไว้ผมซ้อมเสร็จจะไปหาที่ห้องเอง แต่ใช่ว่ามันจะง่ายๆ เพียงแค่นี้ บางทีผมซ้อมเสร็จก็ค่ำ ประชุมทีมอีก ทำรายงานกับเพื่อนอีก บางทีนัดเตะบอลแล้วชนะก็ไปกินเลี้ยงต่อ กว่าจะมาหาเป้ได้ก็ดึก ผมก็ไม่อยากไปหาเพราะคิดว่าคงหลับแล้ว สุดท้ายก็เลยชวนเป้มาอยู่ด้วยกันซะเลยเพื่อตัดปัญหา อย่างน้อยกลับมาได้นอนกอดก็ยังดี
เพื่อนในทีมชอบแซวว่าผมกลัวเมีย ผมก็ยอมรับนะ ผมกลัวเป้โกรธ กลัวเป้เสียใจ กลัวไปหมดทุกอย่าง เป้เป็นคนนิ่งๆ ไม่ค่อยยุ่งเรื่องส่วนตัวผมนัก นานๆ จะถามสักคำ แต่ผมก็ยินดีตอบยินดีเล่า มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เป้เกือบเข้าใจผิดว่าแฟนไอ้ยักษ์เป็นกิ๊กผม หลังจากเคลียร์กันเสร็จผมก็กลับห้อง แต่เพื่อนๆ ก็โทรตามออกไปเตะบอลเพราะนัดอีกทีมไว้แล้ว และคนไม่ครบ ผมก็ออกไป หลังจากเตะบอลเสร็จเพื่อนๆ ก็แบ่งเงินที่ได้มากัน ไม่บ่อยหรอกที่เราเตะบอลเอาเงิน ส่วนมากถ้าได้มาก็จะเก็บไปกินเลี้ยง แต่ถ้าไม่ว่างก็จะแบ่งกัน ไอ้ยักษ์รู้เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ก็แซวผมใหญ่ว่าผมเป็นประธานชมรมกลัวเมีย ผมก็รับนะ ทำไมจะไม่กลัวล่ะ เห็นน่ารักๆ อย่างนี้ เวลาโกรธทีเอาเรื่องเหมือนกัน ตางี้ดุได้ใจเลย
ช่วงหลังๆ เป้ดูแปลกๆ ไป กลับห้องดึก บางทีก็หายไปแต่เช้าไม่บอกด้วยว่าจะไปไหน โทรไปก็ไม่ติด ผมซ้อมบอลกับเพื่อนก็พะวงอยู่กับโทรศัพท์ตัวเอง ทุกครั้งต้องกำชับให้ปุ่นเฝ้าให้ ถ้าเป้โทรมาให้เรียกผมทันที
“ทำไม วะ ทะเลาะกันเหรอ”ยักษ์เห็นผมไม่ค่อยมีสมาธิก็เลยถาม
“เปล่า”
“แล้ว ทำไมมึงซึมๆ ล่ะ”
“กูแค่...สงสัยว่า...เป้กำลังคบคนอื่นอยู่”ผมก็ไม่ อยากคิดมากหรอก แต่บางทีมีคนโทรมาเป้ก็จะหลบไปคุยนอกห้อง แล้วเดี๋ยวนี้มักจะเก็บโทรศัพท์ไว้กับตัวตลอดเลย
“เฮ้ย! จริงเหรอวะ ทำอย่างนี้ได้ไงวะ มึงจับได้เหรอ”
“เปล่า กูแค่สงสัย หมู่นี้เขาทำตัวแปลกๆ”
“กูว่าไม่แปลกหรอก”อยู่ๆ ปุ่นก็พูดแทรกขึ้นมาจนผมต้องหันไปถาม
“อะไรของมึงอีปุ่น”
“ก็ อีเป้ไง ทนมึงได้ขนาดนี้ก็ดีจะตายแล้ว”
“ทำไมวะ ทนอะไร”
“ก็ พวกมึงบ้าบอลกันไง วันๆ แทบแดกลูกบอลแทนข้าวแล้ว ใครจะไปทนได้”
“ก็ มึงไง”อีปุ่นชี้หน้าผมกับไอ้ยักษ์ ไอ้ยักษ์ก็เลยชี้หน้ามันกลับ
“ก็ นี่มันกูนี่ กูชอบมองผู้ชายล่ำๆ ให้มองทั้งวันกูก็ไม่เบื่อ ไม่ใช่อีเป้ของไอ้แมนนี่ รายนั้นไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เหรอ มึงลองคิดดูนะว่าพวกมึงอยู่ด้วยกันวันนึงๆ น่ะกี่ชั่วโมง นี่แรกๆ กูยังคิดว่าพวกมึงสวิงกิ้งกันในทีมเลยนะ อุตส่าห์จะมาแอบส่อง ดันมาเสร็จไอ้ยักษ์ซะได้ อดหมู่เลย”
“น้อยๆ หน่อยอีนี่ ปากดีนักเดี๋ยวกูเลิกแม่งเลย”
“วุ้ย ก็แค่พูดเล่น แต่ที่บอกน่ะจริงๆ นะ มึงดูคนอื่นในทีมดิ มีใครคบแฟนยืดบ้างวะ ยกเว้นมีแฟนเป็นผู้จัดการทีมแบบกู”ปุ่นมันก็พูดถูกนะครับ พวกผมนี่เปลี่ยนแฟนกันเป็นว่าเล่น บางคนคบกันตั้งแต่มัธยมมาเลิกเอาตอนนี้ก็มี ทำไงได้ก็มันต้องซ้อมหนักเลยไม่มีเวลา ซ้อมหนักเวลาเรียนก็หลับ เพราะงั้นหลังซ้อมรุ่นพี่ในทีมก็เลยช่วยๆ กันติวให้ ผมรู้ว่าผมดูแลเป้ไม่ดี แต่...เพราะเรื่องแค่นี้จะทำให้หมดรักกันเลยเหรอ
เรื่องที่ผมสงสัย และพยายามทำเป็นไม่เห็นกลับเห็นชัดเร็วเกินไปจนไม่ทันตั้งตัว ผมไม่เคยคิดว่าเป้จะมีคนอื่นจริงๆ ไม่เคยคิดภาพเป้อยู่กับผู้ชายคนอื่น รวมทั้งมายืนให้เห็นต่อหน้าในวันนี้ด้วย
“ไม่ใช่เพิ่งเป็นตอนนี้ แต่เพราะเป้ทนไม่ไหวแล้วต่างหากแมนทำเหมือนไม่รักเป้เลย แมนไม่เคยสนใจเป้เลย ไม่เคยดูแลเป้เลย ไม่อยู่กับเพื่อนก็บอล เป้เบื่อ เหนื่อยด้วย เป้ไม่ใช่คนใช้แมนนะจะได้คอยทำความสะอาดรออยู่แต่ในห้องน่ะ เป้เหนื่อย”
“เป้...ผมไม่เคยเป็นเป้เป็นคนใช้นะ ทำไมพูดแบบนี้”แค่เป้เริ่มพูดผมก็รู้แล้วว่าเป้ต้องการอะไร ตลอดเวลาที่ผ่านมาเป้ดูไม่ค่อยมีความสุขเหมือนเคย ผมเคยคิดว่าคงเป็นแค่เรื่องที่ผมไม่ค่อยมีเวลาให้ แต่ไม่คิดว่าจะมีปัญหาอื่นอีก
“แมนก็คิดเองสิว่าทำไม ”
“..... ผมคงเป็นแฟนที่แย่มากเลยใช่มั้ย”ผมรู้ตัวดีอยู่แล้วว่าไม่พร้อมคบใคร แต่ทำไงได้ล่ะก็ดันเผลอรักไปแล้ว แถมยังรักมาขนาดนี้อีกต่างหาก
“.........”
“เป้ อึดอัดมากเลยเหรอที่ต้องอยู่กับผม”
“เป้ว่า...เราเลิกกันเถอะนะ เป้ไม่เห็นว่าเราจะมีอะไรเข้ากันได้เลย เลิกกันจะดีกว่า”ผมไม่เห็นเข้าใจเป้เลย ตอนแรกที่เรายังไม่รู้จักกัน ตอนที่เพียงแค่แอบมองกัน ตอนนั้นเราก็ไม่เคยมีจุดร่วมไหนที่ตรงกันเลยอยู่แล้วนี่ ก็แค่รักเป้...จะต้องหาอะไรที่เข้ากันได้มาเหนี่ยวรั้งกันไว้ด้วยเหรอ
“เป้ จะคบกับคนนั้นเหรอ”
“เปล่า น็อตเป็นแค่เพื่อน เป้ไม่ได้คิดอะไร แต่ยังไงเราก็เลิกกันดีกว่า ถ้าปล่อยให้นานกว่านี้เราอาจมองหน้ากันไม่ติดอีก แมนเข้าใจเป้นะ”
“.......” ผมเชื่อนะว่าเป้ไม่ได้โกหก แต่...ก็แค่เชื่อ...ไม่ได้ดีใจสักนิด เพราะเป้ยังยืนยันว่าจะเลิกกับผมอยู่ดี
“เดี๋ยวเป้จะเป็นคนย้ายออก เอง คืนนี้เป้จะไปนอนห้องเพื่อนก่อนแล้วจะไปเก็บของวันหลัง ไปนะ”
“........ ใครกันแน่ที่ไม่เคยรักกัน”เป้เดินออกไปแล้ว คำถามของผมเป้ไม่ได้หันมาตอบ แต่...ก็อยากให้ตอบนะ เป้รักผมอย่างที่ผมรักเป้หรือเปล่า ผมอาจดูแลเป้ไม่ดี อาจขี้เกียจและเห็นแก่ตัว แต่ก็รักเป้นะ ตอนที่รักก็ไม่เห็นต้องหาเรื่องอะไรเข้าหากันเลย เป้ก็มองผมในที่ของผม ส่วนผมก็มองเป้ในที่ของผม เราไม่เข้าหากันในที่เดียวกันสักหน่อย แล้วทำไมตอนนี้ถึงต้องหาอะไรมาทำร่วมกันเพื่อที่จะได้คบกันด้วย
“นี่ ปุ่น...ถ้ามึงไม่ได้มาเป็นผู้จัดการทีม มึงจะเลิกกับไอ้ยักษ์มั้ย”ตั้งแต่วันนี้อีปุ่นก็เหมือนศิราณีประจำตัว ผมไม่ใช่คนชอบดื่ม อกหักแล้วจะให้เมาหัวราน้ำก็ไม่ได้ ไม่อยากทำด้วย อีกอย่างจะเศร้าโศกเสียใจร้องไห้ไม่หลับไม่นอนก็ไม่ใช่อีก ผมเสียใจ ร้องไห้ด้วย ร้องทั้งคืนเลย แต่หลังจากตื่นก็หาย เหลือแต่ความรู้สึกมึนๆ งงๆ ไม่เข้าใจ ไม่ยอมรับ แล้วก็มานั่งคุยกับปุ่นมันนี่ล่ะ
“ไม่อ่ะ ทำไมวะ”
“ก็...ถ้ามึงไม่ได้อยู่ตรงนี้มึงก็จะไม่มีอะไรที่เข้ากับมัน ได้เลยน่ะสิ”
“ก็จริงของมึง กูชอบเดินห้าง ร้องคาราโอเกะ เล่นเน็ต ไอ้ยักษ์ชอบนอน เตะบอล แล้วก็นอน ถ้ากูเข้าฝันได้ก็คงพอจะมีเรื่องทำร่วมกันได้อยู่ ฮ่าๆๆๆ”
“แล้วมึง ไม่เบื่อเหรอ”
“ก็เบื่อดิ กูชวนไปไหนก็ไม่ไป ให้กูออกไปคนเดียว บางครั้งก็สบายใจดี เวลาจะไปแรดกับอีพวกนั้นก็ปล่อยสาวได้เต็มที่ แต่บางทีก็เบื่อ ที่ถามนี่อีเป้มันให้เหตุผลที่เลิกกับมึงมาว่าไง เข้ากันไม่ได้เหรอ”
“เออ”
“ก็ถูกของมัน”
“แต่ทำไมกู ไม่เห็นรู้สึกล่ะ กูไม่เห็นว่าจะมีปัญหาเลย ถึงจะดูแลไม่ดีเท่าคนอื่นแต่กูก็ดูแลเป้ตลอดนะ จะป่วยจะขาดเรียน เรื่องงานบ้านกูยอมรับว่าขี้เกียจ พอเป้มาอยู่ด้วยก็เคยตัวปล่อยให้ทำคนเดียว แต่บางทีกูก็ช่วยบ้างนะ ถึงจะนานๆ ทีก็เหอะ เฮ้อ...ทำไงดีวะ กูอยากกลับไปขอคืนดีอีก แต่กลัวเป้ไม่ยอม ให้กูช่วยทำความสะอาดอ่ะกูทำได้นะ ต่อไปนี้ทำคนเดียวเลยก็ได้ ให้ดูแลมากขึ้นก็ได้นะ เดี๋ยวกูสละตำแหน่งกัปตันให้คนอื่นก็ได้ แต่ไอ้เรื่องเข้ากันไม่ได้นี่สิ กูไม่รู้จะทำไง”
“เว่อร์ไปล่ะไอ้แมน เป้ของมึงไม่เห็นจะวิเศษอะไรเลย คนอื่นที่มาอ่อยๆ มึงแจ่มๆ ทั้งนั้น ไม่ลองคบสักคนล่ะวะ”
“ก็ไม่ได้ รักนี่หว่า”คุยกับอีปุ่นแล้วเหมือนเส้นจะกระตุกตลอดเวลาเลย
“ทำไมไอ้ ยักษ์ไม่เป็นอย่างมึงบ้างวะ เอะอะอะไรจะเลิกกับกูท่าเดียว”
“แล้วมึง ยอมมั้ย”
“เรื่องไร เห็นอย่างนี้กูก็รักเดียวใจเดียวนะ”
“กู ก็ด้วย ทำไงดีวะ กูกลัวเป้ไปคบอื่นว่ะ ถ้าเขาไม่รักกูแล้วจะทำไงดีล่ะ”
“ถ้า ไม่รักยังไงก็ไม่รักล่ะวะ มึงอย่าคิดมาก กูแนะนำในฐานะที่เป็นเพื่อนมึง แล้วมึงก็เป็นคนดี กูว่าอย่าไปยุ่งกับมันเลย มึงหาคนอื่นดีๆ ได้อีกเยอะ คบไปจะช้ำใจเปล่าๆ คนโลเลแบบนั้นน่ะ ปล่อยๆ ไปเหอะว่ะ”
“ไปไกลๆ ตีนกูเลยไป”
“พูดความจริงล่ะรับไม่ได้ กูจะบอกไว้นะเว้ย คนเราน่ะถ้ายังรัก ต่อให้มีคนดีกว่าเข้ามาก็ไม่เลิกรักง่ายๆ หรอกเว้ย คุยกับมึงแล้วหงุดหงิด เป็นกัปตันนำทีมชนะได้ไงวะ ควายจริงๆ เล๊ย”อีปุ่นพูดจบก็รีบวิ่งหนีเมื่อเห็นผมยกเท้าขึ้นมา และก็กะจะถีบจริงๆ ด้วย ที่มันพูดก็ไม่ผิดหรอก แต่ก็ไม่ใช่ว่าถูก ไม่สิ...ตอนนี้ใครพูดอะไรไม่เข้าหู ผมก็เห็นเป็นเรื่องผิดหมดล่ะ
ผม ย้ายของออกมาไว้ห้องไอ้ยักษ์ชั่วคราว แล้วก็อาศัยนอนกับมันด้วยชั่วคราว อีปุ่นบ่นจนหูแทบหนวก หาว่าผมมาเป็นกขค แต่พวกมันก็ไม่เห็นเกรงใจผมเลย ล็อคห้องไม่ให้ผมเข้าไปขัดจังหวะก็ยังทำ มีปิดป้ายด้วยนะว่าอีกชั่วโมงกลับมาใหม่ จนบางทีผมต้องไปเคาะห้องเพื่อนคนอื่นเพื่อขอนอนชั่วคราว
เปิดเทอมมา เป้พยายามหลบหน้าผม บางครั้งผมมองไปเห็นเป้กำลังมองมา เป้ก็รีบหันหลังเดินหนีไปเลย รู้สึกเหมือนวันเก่าๆ กลับมาอีกครั้ง....เป้น่ารัก พอเพื่อนเห็นผมเหม่อมองหาเป้บ่อยๆ พวกมันก็จะพากันมารุมตบหัวผมให้ได้สติ ไม่มีเพื่อนคนไหนสักคนที่จะเห็นด้วยกับความคิดขอคืนดีของผม ขนาดไอ้ยักษ์ยังนั่งนิ่งๆ ไม่หือไม่อือ ผมก็เลยไม่ค่อยพูดอะไรให้พวกมันฟัง แค่นี้พวกมันก็ไม่ค่อยชอบเป้กันแล้ว บางคนถึงกับด่าเป้ว่าหลายใจต่อหน้าผม หวิดจะต่อยกันไปที แต่ก็เคลียร์กันได้เพราะรู้ว่าเพื่อนแค่หวังดี แต่...ถึงจะรู้มันก็ห้ามตัวเองไม่ได้นี่นา เผลอทีไรเป็นมองหาเป้ทุกที
วันนี้ มีแข่งฟุตบอลรอบแรก ผมนั่งเครียดอยู่คนเดียวเพราะกลัวว่าเป้จะหลบหน้าไม่ยอมมาเชียร์ เพื่อนๆ ดันคิดว่าผมกลัวทำทีมแพ้ แต่ความเครียดก็กระจายหายไปเมื่อมองเห็นหน้าใสๆ ก้มงุดๆ ร้องเพลงอยู่บนแสตนท์ พอผมมองเป้มากๆ อีปุ่นก็โยนผ้าเย็นใส่หน้าผมแล้วไล่ลงสนาม กำลังใจมาสมาธิก็มา ผมพยายามวิ่งให้เร็ว เปิดบอลส่งบอลสวยๆ ล้มให้น้อย เวลาล้มก็พยายามให้ดูดี มีจังหวะก็ยิงทำประตู ถึงจะไม่ได้มองไปทางเป้ แต่ก็รู้ว่าเป้กำลังมองอยู่ อยากจะดูดี อยากเท่ห์ อยากให้เป้กลับมามองผมอีกครั้ง ในที่สุดทีมเราก็ชนะ เพื่อนๆ พากันวิ่งเข้ามาแสดงความยินดีเหมือนชนะบอลโลก ผมที่อยู่กลางวงล้อมเพื่อนต้องพยายามเบียดหน้าออกมามองหาเป้...เป้เดินออกไป แล้ว
ผมตะโกนขอทางเพื่อนๆ เพื่อจะได้ออกไปหาเป้ แต่ก็ทำไม่ได้อย่างใจนึก ยังต้องรวมทีมจับมือกับอีกฝ่ายเพื่อแสดงน้ำใจนักกีฬาก่อนแยกย้าย พอหมดหน้าที่ผมก็รีบวิ่งตามเป้ออกไป เห็นคนน่ารักกำลังดึงจักรยานที่ล้มเป็นโดมิโน่ขึ้น ยังไม่ได้นึกเลยว่าวิ่งมาทำไมก็ดันยื่นมือไปช่วยเสียแล้ว
“แมนเห็น เป้เดินออกมาเมื่อกี้เลยวิ่งตามน่ะ นึกว่าเป้จะไม่มาเชียร์ซะแล้ว”ผมพูดด้วยความดีใจ แต่สำหรับเป้คงไม่ใช่ ดูเหมือนไม่ค่อยอยากคุยกับผมเลย เอาแต่ก้มหน้าก้มตา ถามคำตอบคำ ตอนนี้เราคงเป็นคนอื่นไปแล้วจริงๆ
“อื้ม”
“อื้มอะไร เฮ้ย! เป้ร้องไห้ทำไม ขอโทษๆ งั้นแมนไปก็ได้”อยู่ดีๆ เป้ก็เงยหน้าขึ้นมา แถมน้ำตาไหลอาบแก้มเต็มไปหมด จะเอาผ้าที่คล้องคออยู่เช็ดก็สกปรกเกิน จะเอามือเช็ดให้ยิ่งสกปรกใหญ่ นี่ผมทำเป้ร้องไห้เหรอเนี่ย
“........มั้ย”
“หือ เป้ว่าไรนะ”
“....กะ...กินข้าว....ด้วยกันมั้ย”
“คือ...แมน ต้องไปฉลองกับทีม”ทั้งเพื่อนทั้งอาจารย์นัดฉลองเอาไว้แล้ว จะไม่ไปก็คงไม่ได้ แต่...ก็อยากไปกับเป้มากกว่า อยากอยู่กับเป้มากกว่า อยากอยู่นานๆ อีกนิด
“งะ...งั้นเหรอ งั้น...ไม่เป็นไร ไปฉลองกับเพื่อนเถอะ”
“....เป้”
“หือ”
“ถ้า....เป้ ยังไม่มีแฟน....คบกับแมนอีกครั้งได้มั้ย”ที่เพื่อนๆ พูดกับผมน่ะผมเข้าใจดีว่าเป็นห่วงผม กลัวว่าจะถูกทิ้งอีก แต่พวกนั้นไม่เคยคบกับเป้นี่ เป้ไม่ใช่อย่างที่พวกนั้นพูด เป้อาจจะอ่อนไหวไปหน่อย แต่รวมๆ แล้วก็ยังเป็นคนดีมากคนหนึ่ง ยังน่ารักสำหรับผม แล้วผมก็รักมากๆ เพราะงั้น...ถึงอยากจะอยู่ด้วยกันอีกครั้ง และหวังว่าครั้งนี้จะไม่ต้องแยกจากกันอีก
“ตกลง”เป้น่ารัก...เป้ใน วันนี้กับครั้งนั้นไม่ต่างกันเลย ยังร้องไห้ไปเช็ดน้ำไป สีหน้าดูอึ้งๆ แต่ก็มีรอยยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่สวยที่สุดสำหรับผมเลย
.
.
.
เรา กลับมาคบกันใหม่ได้สองเดือนแล้ว ตอนแรกผมกลัวว่าจะห่วงบอลจนปล่อยให้เป้เหงาอีก จะให้เป้นั่งเฝ้าผมเหมือนที่ปุ่นเฝ้าไอ้ยักษ์ก็ไม่ดี เป้จะยิ่งเหงาไปกว่าเดิม แต่เป้ก็บอกไม่อยากอยู่ห้องคนเดียว มานั่งดูผมซ้อมยังดีกว่า ผมเลยตัดสินใจขายคอมพิวเตอร์ของตัวเองแล้วซื้อโน๊ตบุ้คมาให้เป้นั่งเล่น ระหว่างรอ เป้ชอบเล่นคอมฯ เล่นเกม ทีนี้นั่งรอไปเล่นไปก็ไม่เบื่อ แถมยังแทบไม่เงยหน้ามามองผมอีกต่างหาก
“...เป้”ผมซ้อมเสร็จก็รีบวิ่ง มานั่งข้างๆ เป้ แต่เป้ไม่เงยหน้ามองผมเลย
“หืม”
“เป้ๆๆๆ ที่รักอ่ะ สนใจผมหน่อยสิ เช็ดหน้าให้หน่อย เหนื่อย”
“อืมๆ”
“เฮ้ยๆๆ ทิ่มลูกตาแล้ว โหย ไม่สนใจกันเลยอ่ะ”ผมจับมือเป้ไว้แล้วแย่งผ้ามาเช็ดหน้าก่อนที่จะตาบอด
“ก็ เป้ทำการบ้านให้แมนอยู่นี่ไง จะเสร็จแล้ว”ลืมไปเลยว่าให้เป้ทำการบ้านให้
“แฟน ใครเนี่ยน่ารักจัง”
“แฟนใครล่ะ”แน่ะ มีย้อน แต่ไม่หันมามองผมนะ ย้อนนิ่งๆ
“แฟนแมนๆ หอมทีดิ”
“อายเพื่อนบ้างมั้ย”เป้เงยหน้า มองรอบๆ ซึ่งเพื่อนผมกำลังยืนล้างหน้าดื่มน้ำกันอยู่ใกล้ๆ
“ไม่อาย ไอ้ยักษ์กับอีปุ่นจูบโชว์พวกผมประจำ เอาบ้างมะ”
“ไม่....ให้หอมแก้ม พอ”เป้ส่ายหัวจนผมยุ่ง แล้วเอียงหน้านิดๆ ผมก็รีบก้มลงหอมแก้มตามที่ขอทันที
“ฮื้ม ม หอม! น่ารักนะเนี่ย”เป้ของผมน่ารักที่สุด ทำใจกล้าเอียงแก้มให้หอม แต่หน้าแดงจนถึงใบหูเลย เป้น่ะน่ารัก...แต่ผมน่ะ....ไม่ได้รักเป้เพราะเป้น่ารัก....แต่เพราะว่ารัก ...เลยทำให้ทุกอย่างน่ารักไปหมด
-end-