<เรื่องสั้น และ นิยาย> เด็กฝึกงาน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: <เรื่องสั้น และ นิยาย> เด็กฝึกงาน  (อ่าน 147809 ครั้ง)

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #210 เมื่อ06-05-2010 18:52:19 »

อีตาหยกกว่าจะรู้สำนึกคงอีกนานค่ะ

อีป้าแก่ๆว่า สองคนนี่รักกันก็ดี

ไม่มีปัญหาบั่นทอนสุขภาพจิตของครอบครัวคนอื่นดีคะ

การเป็นมือที่ 3 มันทรมาน กันทั้ง 3 คน นะคะ

แต่ถ้ารักกับคนที่เขารักเรา และไม่มีปัญหาอะไรก็ดีจริงๆ

ขอให้รักกันนานๆ นะคะ อีป้าแก่ๆ เอาใจช่วย

แต่อีป้าแก่ๆ ก็ กังวล คลื่นลมสงบ ก่อนพายุใหญ่จะมา หรือเปล่าคะ

ออฟไลน์ j4c9y

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-7
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #211 เมื่อ06-05-2010 20:04:05 »

น้องพีร์  เป็นพี่ พี่ควบหมด

ยังเหลือตาพลอีกคน

หุหุ

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #212 เมื่อ06-05-2010 20:53:38 »

งานนี้ศึกชิงนายท่าจะมันส์กว่าเก่า แล้วยิ่งลึกซึ้งกับพจน์แล้วด้วยเนี่ย เชื่อเหอะว่าพี่หยกไม่รามือแน่ๆ

torto

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #213 เมื่อ07-05-2010 21:25:33 »

คนแต่ง  ทำไมให้น้องพีง่ายแบบนี้  ไม่ดีเลยขัดใจ  ก็รักกันมากแล้วทำไมความรักที่ร่วมกันทำผิดมาถึงได้ง่ายเหลือเกินที่จะทิ้งมันไป  แล้วไปมีรักใหม่รวดเร็วแบบ

นี้ :m16:



ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #214 เมื่อ08-05-2010 04:24:34 »

 o22 :เฮ้อ:






 :pig4:

ออฟไลน์ น้ำพริกแมงดา

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +272/-0
    • เข้ามาเป็นคุยกันกับ "น้ำพริกแมงดา" ใน facebook page นะคะ
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #215 เมื่อ08-05-2010 19:36:01 »

ภาคต่อ ตอนที่ 13
ศิลาที่กำลังรับประทานอาหารเช้าอยู่กับครอบครัวในรีสอร์ทหรู รู้สึกว่ามีสายโทรเข้ามาจากโทรศัพท์ที่ตั้งระบบสั่นไว้ เขาหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นเบอร์ของนักสืบที่จ้างมาเพื่อติดตามพีร์โดยเฉพาะ เขากดสายทิ้งเพราะว่า เขาอยู่กับพ่อแม่และลูก ๆ
“อ่าว ตาหยก กินอิ่มแล้วเหรอลูก” ผู้เป็นแม่ถามขณะเห็นลูกชายวางช้อนส้อมและทำท่าจะออกไปข้างนอก
“ครับ ผมขอไปเข้าห้องน้ำหน่อยหน่ะครับ”
ผู้เป็นพ่อแม่พยักหน้าเข้าใจ ศิลารีบเข้าห้องน้ำและกดโทรกลับทันที
“ฮัลโหล ว่าไง”
“คุณครับ ตอนนี้คุณพีร์กับคุณพจอยู่ที่หัวหินครับ”
ศิลารู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา แต่ก็ถามต่อ “เหรอ แล้วว่าไงมั่ง”
“เดี๋ยวผมส่งรูปให้ดูก็แล้วกันนะครับ”
“โอเค มีอะไรคืบหน้าก็รายงานมาละกัน”
“ครับ ๆ”
“โอเค ขอบใจมาก แค่นี้นะ” เขากดวางสาย พร้อมกับรอข้อความรูปภาพอย่างใจจดจ่อ สักพักก็มีข้อความภาพทยอยส่งมาให้เขา
เขากดดูด้วยความรู้สึกอยากรู้  ในโทรศัพท์ปรากฏภาพที่คนทั้งสองกำลังกอดกันริมชายหาดอย่างหวานชื่น และรูปต่อมาก็เป็นรูปที่ทั้งสองจูบกันอย่างดูดดื่ม ศิลามือไม้สั่นด้วยความโกรธแค้นปนหึงหวง เขาพยายามระงับอารมณ์นั้นเพื่อไม่ให้คนข้างนอกผิดสังเกต
ถ้าเป็นไปได้ตอนนี้ เขาอยากจะไปแย่งตัวพีร์ออกมาเสียเหลือเกิน
แต่จะทำได้อย่างไร เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด มาจากความวู่วาม และอารมณ์หึงหวงของเขาเองไม่ใช่เหรอ เขาคิดอย่างนั้น
เขาพยายามสะกดกลั้นและเรียกสติของตัวเองกลับมา เพื่อที่จะได้ไม่ทำอะไรผิดพลาดซ้ำสอง
ถ้าพีร์ไม่อยากเจอเขานักก็ไม่เป็นไร แต่เขาเองก็ไม่ปล่อยให้พีร์ต้องห่างเขาไปไกลกว่านี้อีกเช่นกัน

“พจ เลิกคุยเรื่องหุ้นให้พีฟังได้มะ” พีหงุดหงิดขณะที่ศิริพจน์พูดถึงเรื่องการลงทุนให้เขาฟัง ตอนที่กินก๋วยเตี๋ยวเรือด้วยกันในร้านแถว ๆ อนุเสาวรีย์ชัยหลังเลิกงานในเย็นวันหนึ่ง
“อ่าว ก็ฟังหน่อยไม่ได้เหรอ คือผมก็แค่พูดให้คุณฟังเฉย”
“พีไม่ได้เรียนเศรษฐฯอย่างพจนี่ พีไม่เข้าใจและก็ไม่ชอบด้วย”
“ก็นี่ไง เป็นแฟนหนุ่มตลาดหุ้นอย่างผม จะได้เข้าใจขึ้น” เขายิ้ม ๆ 
“ใครแฟนคุณ หะ”
“อ่ะ โอเค ๆๆ ผมเลิกพูดก็ได้” เขาพยามทำความเข้าใจ เพราะคนอย่างเขาก็ถือว่าเป็นคนแปลก ๆ จากคนวัยเดียวกันหลายคนอยู่ เขาเห็นอีกฝ่ายทำหน้าบึงตึง จึงบอกไปว่า
“อย่าโกรธผมนะ คุณก็ต้องเข้าใจผมบ้างสิ” เขาทำเสียงอ้อน ๆ พีร์นึกได้ จึงมีสีหน้าดีขึ้น
“อืม....พจกินเสร็จแล้วไปเดินดูรอบ ๆ กันนะ”
“ไปสิ” เขายิ้มรับ
  ตลอดการเดินดูรอบ ๆ ของทั้งสองคนนั้น ศิริพจน์มองเห็นพีร์ที่ดูเพลิดเพลินกับการเลือกซื้อเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัว โดยที่เขาเป็นคนหิ้วของให้
“พจจ...ตัวไหนสวยกว่ากัน” เขาถามร่างสูงที่ช่วยหิ้วของอยู่ถึงเสื้อเชิ้ตสองตัวที่กำลังจะเลือกซื้อ
“อืม ตัวไหนก็ได้..”
“ได้ไงอ่ะ เค้าถามว่าตัวไหนสวยกว่ากันนะ...ช่วยเลือกหน่อยสิ”
“อ่า...ตัวสีฟ้าก็แล้วกัน” ศิริพจน์ตอบอย่างเสียไม่ได้ เพราะเขาเองก็ไม่ค่อยมีหัวทางด้านนี้เสียด้วย
“งั้นเอาตัวนี้ก็ละกันครับ”  พีร์บอกกับคนขายและยื่นเสื้อตัวที่ศิริพจน์ลือกให้คนขายเอาไปใส่ถุง
“ป่ะ”
“อืม กลับกันดีกว่า”  ศิริพจน์บอกร่างอวบยิ้ม ๆ “เดี๋ยวผมไปส่งที่หอนะ”
เขารู้สึกดีไปอีกแบบที่ได้มาเดินที่ที่เขาไม่ค่อยได้แวะมา ท่ามกลางคนมากมายที่เร่งรีบ แต่เขากับพีร์ไม่รีบร้อน ค่อยปล่อยให้เวลาที่มีด้วยกันดำเนินไปช้า ๆ
รักเล็ก ๆ ในเมืองใหญ่ ๆ มันน่าชื่นใจแบบนี้เอง ศิริพจน์นึกได้

“หวัดดีเอก” พีร์ที่ออนไลน์โปรแกรม MSN อยู่ตกใจเมื่อมีเมลล์แปลก ๆ ทักมา และก็ยังทักผิดอีก
“นี่ไม่ใช่เอกครับ”
“อ่าวเหรอครับ” ...”ขอโทษครับ” อีกฝ่ายตอบมา
“ครับ”
“พอดีเมลล์คงคล้าย ๆ กันมั๊งครับ ผมเลยพิมพ์ผิด” ฝ่ายนั้นบอกมา
“อ่อ ครับไม่เป็นไรครับ”
“ครับ แล้วนี่คุณชื่ออะไรครับ” พีร์ประหลาดใจที่จู่ ๆ ฝ่ายนั้นก็ถามชื่อ
“อ่อ พีคับ”
“ครับ ผมโจ้นะครับ” อีกฝ่ายตอบกลับมา “ไม่ต้องกลัวผมนะ ผมแอดเมลล์ผิดจริง ๆ”
“อ่าคับ ๆ”
“พีอายุประมาณไหนอ่ะคับ ผมจะได้เรียกถูก ตอนนี้ผม 31 แล้ว” อีกฝ่ายตอบมา
“ผมก็ “26 คับ” พีโกหกไป
“อ่อ ครับ” ฝ่ายนั้นตอบรับและเริ่มชวนคุย “ผมจะแอดเมลล์เพื่อนอ่ะคับ พอดีมันเพิ่งเปลี่ยนเมลล์หนีแฟน 555”
“อ่าคับ” พีร์ตอบรับ ไม่ได้แสดงอาการรังเกียจหรือไม่อยากคุยกับอีกฝ่ายเลย
ทั้งสองคุยกันสักพักนึง พีร์ก็ขอตัวไปนอน ฝ่ายนั้นก็ดูท่าทางเป็นมิตรดีและก็เป็นผู้ใหญ่ดีด้วย พีร์คิดอย่างนั้น เขาบอกว่า เป็นวิศวะของบริษัทแห่งหนึ่งแถวระยอง จากการคุยแล้วก็พอจะรู้เพราะลักษณะการคุยดูคล้าย ๆ คนจบวิศวะมาจริง ๆ

ศิลาอมยิ้ม ที่อย่างน้อยการได้เข้าใกล้พีร์ก็สำเร็จไปในระยะเริ่มต้นแล้ว
เขามองรูปพีร์ยิ้มสดใสในหน้าจอ MSN อย่างมีความสุข และความหวัง เพราะเมื่อกี๊เขาเพิ่งแฝงตัวไปทำเนียนแอดเมลล์ผิดคุยกับฝ่ายนั้น
เขาพยายามเป็นอย่างมากเพื่อให้ฝ่ายนั้นเชื่อและคุยกับเขาเรื่อย ๆ เขาไม่ได้บอกชื่อบริษัทมั่ว ๆ เพราะงานนี้เขาลงทุนโทรไปเตี๊ยมกับเพื่อนที่เป็นวิศวะกรตัวจริงถึงข้อมูลต่าง ๆ ที่วิศวะโรงงานดังกล่าวพอจะรู้
ถ้าพีร์ยังกลัวเขาอยู่ก็ไม่เป็นไร แต่เขาก็ไม่ปล่อยให้พีร์ห่างจากเขาไปอีกเช่นกัน
หลายเดือนที่ผ่านมา นอกจากเขาจะส่งนักสืบไปติดตามพีร์อย่างใกล้ชิดแล้วนั้น เขายังคิดทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ ที่เขาทำลงไป คำพูดของเพื่อนเขาลอยมาในหัว
“แกบังคับจิตใจน้องเขามากไปหรือเปล่าวะ”  นึกขึ้นมาทีไร เขาเป็นอันต้องนั่งทบทวนอยู่เสมอ
ที่ผ่านมาเขากับหนุ่มน้อยเข้ากันได้ด้วยดี
เข้ากันได้ หรือ น้องเขาไม่กล้าหือกับเรานะ?
เขาพอจะนึกออก บางอย่างที่พีร์ไม่อยากทำอย่างที่เขาบอก พีร์จะไม่พูด แต่จะไปแอบลงมือทำ จนเขารู้และว่าอะไรไม่ได้นั่นหล่ะ
เขานึกเปรียบเทียบตัวเขากับศิริพจน์ รายนั้นต่างกับเขาแทบทุกอย่าง ทั้งนิสัยใจคอ รูปร่างหน้าตา ที่เขาเป็นชายหนุ่มนักกีฬาร่างสูงโปร่งผิวสีแทน  แต่ศิริพจน์สูงสมส่วนผิวขาวจัด และเรื่องของวัยอีก เขากับพีร์ห่างกันรอบกว่า ส่วนรายนั้นอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน
ศิริพจน์ดูแลพีร์ยังไง แล้วพีร์ชอบไหม เป็นสิ่งที่เขาอยากจะรู้นัก
เขาก็คาดเดาไม่ถูกเหมือนกันว่า ลึก ๆ แล้วพีร์ต้องการผู้ชายแบบไหนเข้ามาเติมเต็มกันแน่ แต่เขามั่นใจว่าพีร์ไม่ลืมเขาอย่างแน่นอน

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #216 เมื่อ08-05-2010 19:55:20 »

อีป้าแก่ๆอ่านแล้วพูดไม่ออกบอกไม่ถูก

ออฟไลน์ น้ำพริกแมงดา

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +272/-0
    • เข้ามาเป็นคุยกันกับ "น้ำพริกแมงดา" ใน facebook page นะคะ
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #217 เมื่อ08-05-2010 20:11:36 »

ก็ต้องขอโทษผู้อ่านนะคะ ที่ทำให้อึดอัดใจในเรื่องของ พจ กับ พีร์

อยากไห้ติดตามต่อไปค่ะ

อ่อ อันนี้เข้ามาฝากนิยายเรื่องเก่าของตัวเองค่ะ เผอิญคิดถึงละก็ไปอ่านมา ก็นำมาฝากกันค่ะ อยู่ใน เล้าเป็ดนี่เอง เป็นนิยายสไตล์ซีรีย์เกาหลีอ่ะค่ะ อยากให้เพื่อน ๆ ลองอ่านดู

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=1697.0

ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ


ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #218 เมื่อ08-05-2010 22:52:35 »

ได้แต่หวังว่า พีร์คงจะเลือกได้ว่า ใครกันแน่ คือ คนที่ใช่  :เฮ้อ:

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #219 เมื่อ09-05-2010 01:34:30 »

ศิลาใจเย็นไปรัึปล่าว...ค่อยๆเข้าหาแบบนี้มันจะไม่ทันการเอาเน้ออ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
« ตอบ #219 เมื่อ: 09-05-2010 01:34:30 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ j4c9y

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-7
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #220 เมื่อ09-05-2010 13:09:21 »

เห้อ

ผูกปมกันเต็มไปหมด

ออฟไลน์ น้ำพริกแมงดา

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +272/-0
    • เข้ามาเป็นคุยกันกับ "น้ำพริกแมงดา" ใน facebook page นะคะ
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #221 เมื่อ09-05-2010 16:29:55 »

ภาคต่อ ตอนที่ 14
  Mercedes Benz Coupe คันหรูจอดเทียบลานคอนกรีตกว้างอย่างสุขุม พลกฤษณ์ในชุดลำสองเรียบง่ายแต่ก็ไม่อาจพลางรัศมีความโดดเด่นจากตัวของเขาได้เลย ในมือของเขาถือช่อดอกกุหลาบสีขาวที่จัดเป็นทรงกลมอย่างสวยงาม เขามองกุหลาบสีขาวในมือนั้นอย่างเศร้า ๆ แต่ก็มีรอยยิ้มบาง ๆ ออกมาจากมุมปาก
   ที่ที่เขามาอยู่นี้เป็นสุสานของคริสเตียนที่สำหรับพำนักร่างไร้วิญญาณของคริสชนทั้งหลาย เขาเดินตรงไปยังหลุมของใครคนหนึ่ง คนที่เขาตั้งใจจะนำดอกกุหลาบขาวช่อสวยนี้มาฝาก และเมื่อถึงที่หมาย เขาก็ยืนนิ่ง มองป้ายชื่อที่สลักไว้อย่างคิดถึง
“นายชีวิน.....” เขามองชื่อของเจ้าของร่างล่วงลับที่พักผ่อนอยู่ในนี้ ความทรงจำเก่า ๆ ก็พลันฉายออกมา

“เฮ้ยยยยย ไงวะตุ๊ด เอาการบ้านมาให้ลอกหน่อยดิ!!” อันธพาลในชุดนักเรียนสองสามคนกำลังรุมรังแกเด็กหนุ่มแว่นหนาร่างผอมผิวขาวซีดอยู่อย่างไม่สนใจใยดีที่มุมลับตาคนของโรงเรียนก่อนกลับบ้านวันหนึ่ง ร่างนั้นได้แต่ปัดป้อง เพราะไม่อยากให้พวกนี้แย่งกระเป๋านักเรียนไปได้ แต่ความผอมบางของเขาก็สู้แรงของคนหนึ่งในกลุ่มที่ยื้อแย่งไม่ได้
“อย่านะ! อย่าเอาไปนะ” เขาตกใจ เพราะด้วยกลัวว่าพวกนี้จะเอากระเป๋านักเรียนของเขาไปทิ้ง
อันธพาลขาสั้นไม่สนใจ และเทกระเป๋าของเขาอย่างสะใจ เด็กหนุ่มหน้าซีด หวาดกลัวแต่ก็ทำอะไรไม่ได้  แต่ขณะที่พวกมันจะก้มหน้าลงไปเล็งว่าจะให้เท้าเหยียบทำลายอะไรดีนั้น หมัดลุ่น ๆ ก็เสยเข้าที่ปลายคางของมันอย่างไม่ปราณี
เด็กนรกตกใจ เลยหน้ามาก็พบร่างสูงใหญ่ในชุดนักเรียนเหมือนกัน มองพวกมันอยู่อย่างเอาเรื่อง
“เฮ้ยยย เสือกอะไรวะ อีตุ๊ดนี่เป็นเมียมึงเหรอฮะ”
ฝ่ายนั้นไม่ตอบ แต่กลับตะบันชกสามเกลออย่างเหนือชั้นกว่า เขากำคอเสื้อหัวโจกอย่างเป็นต่อ และประกาศกร้าวว่า
“จำไว้ ทีหลังอย่ามายุ่งกับวินอีก ไม่งั้น กูเอามึงตาย!” เขาขู่อาฆาต และทำท่าจะสั่งสอนอีก  จนพวกมันยอมแพ้วิ่งหนีไป
เขาปัดมือไม้อย่างผู้ชนะ และหันมามองชีวินที่ยืนด้วยความหวาดกลัวอยู่
“วินไม่เป็นไรนะ”  เขาพลางช่วยร่างผอมเก็บหนังสือและเครื่องเขียนเข้ากระเป๋านักเรียนแบบหิ้ว
“อืม ขอบคุณแจ๊คมากเลยนะ” เขายกมือไหว้ร่างสูงอย่างขอบคุณ
“เฮ้ยย ไม่ต้องไหว้แจ็คหรอก” เขากล่าวยิ้ม ๆ “นี่ ทีหลังระวังตัวด้วยนะวิน ไอ้พวกนี้มันหมา เห็นคนอ่อนแอกว่ามันเลยเข้ามาทำแบบนี้ไง”
“อืม ๆ”
“ว่าแต่ วินจะกลับบ้านเลยใช่ไหมเนี่ยะ”
“ใช่ ๆ” หนุ่มแว่นหนานั้นพยักหน้าอย่างตอบรับ
“เดี๋ยวแจ๊คไปส่งนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกแจ๊ค วินกลับเองได้”
“ได้ไงอ่ะวิน ไม่เอาน่า ให้แจ๊คไปส่งเถอะนะ” เขาพลางช่วยร่างบางถือกระเป๋า
“งั้นก็ได้ ลำบากแจ๊คจริง  ๆ เลย”
“บอกแล้วไงว่าไม่เป็นไร” เขายิ้ม ๆ และเดินไปขึ้นรถเมล์กับร่างบางด้วยกัน
   ชีวิน เป็นเพื่อนนักเรียนสมัยมัธยมของพลกฤษณ์ เขากับชีวินอยู่ห้องเดียวกันตอนม.ปลายในสายวิทย์ – คณิต ห้องคิงส์ของโรงเรียนชายล้วนชื่อดัง พลกฤษณ์เองค่อนข้างจะแตกต่างจากเด็กห้องนี้คนอื่น ก็คือ เขาไม่ใช่คนที่เนริ์ด และไม่เข้าสังคม เขาก็สนใจเรียนและมีผลการเรียนที่ดีมาก แต่ก็เป็นนักเรียนที่ครูฝ่ายปกครองส่ายหน้าไปเสียทุกครั้ง แต่เด็กหนุ่มอย่างเขาก็ยืดอกรับความผิดที่เคยทำถ้าโดนจับได้
   จากเหตุการณ์ในวันนั้นที่เขาช่วยชีวินเอาไว้ในเปิดเทอมวันแรกของม.4  ทำให้เขากับชีวินกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน ถึงแม้ชีวินกับเขาจะต่างกันมาก แต่ก็ไม่ทำให้ความเป็นเพื่อนของทั้งสองแย่ลง ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของกันและกัน เห็นชีวินที่ไหนก็มักจะเห็นพลกฤษณ์ที่นั่น จนหลายคนคิดว่า ชีวินกับพลกฤษณ์เป็นคู่รักกันเพราะพลกฤษณ์เองก็ขึ้นชื่อเรื่องความมีเสน่ห์ของเขา ตรงนี้ทำให้พลกฤษณ์กลัวว่าชีวินจะรับไม่ได้
“วินไม่โกรธพวกนั้นเหรอที่มาว่าวินแบบนั้น” เขาถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง
“ไม่หรอก” ร่างบางส่ายหน้า พร้อมกับยิ้มล้อ“เค้าก็แค่นินทา แค่เค้าก็ทำอะไรวินไม่ได้หรอก เพราะเค้ากลัวแจ็คไง”
“แล้วไม่อายเหรอที่พวกนั้นมันล้อว่าเป็นแฟนแจ๊ค”  เขาหมายถึงเวลาที่บรรดานักเรียนกระเทย เข้ามาล้อเลียนชีวินด้วยความอิจฉา
“ก็มีบ้างนะ แต่เราไม่ได้เป็นอย่างที่เค้าว่าหนิ เราเป็นเพื่อนกับแจ๊ค และแจ๊คก็เป็นเพื่อนกับเรา เราไม่สนใจหรอก” เขาตอบออกมาอย่างใสซื่อ พลกฤษณ์ยิ้มรับ เข้าใจ แต่ในใจก็เริ่มสั่นไหวเหมือนกัน
มิตรภาพของชีวินกับเขาเต็มไปด้วยความจริงใจและช่วยเหลือเกื้อกูลต่อกัน พวกเขาต่างไปมาหาสู่ครอบครัวของอีกฝ่ายจนสนิทชิดเชื้อ ชีวินเองด้วยความเป็นคนอ่อนแอจากโรคภัย ทำให้พลกฤษณ์ดูแลเขาเป็นอย่างดี พลกฤษณ์จึงเริ่มตอบตัวเองได้แล้วว่า เขารักเพื่อนคนนี้มากแค่ไหน และเขาก็พร้อมที่จะดูแลชีวินในวันข้างหน้า
  เมื่อเข้าสู่ฤดูสอบเข้ามหาวิทยาลัย ชีวินนั้นอยากจะสอบเข้าคณะวิทยาศาสตร์ ส่วนพลกฤษณ์มีเป้าหมายที่จะสอบเข้าคณะแพทยศาสตร์ ก็เพื่อจบออกมาจะได้สามารถดูแลชีวินได้เต็มที่ แต่เหมือนว่าพระผู้เป็นเจ้าจะประทานชีวิตของชีวินมาได้แค่นี้...
  หลังสอบเอ็นทรานซ์ อาการป่วยด้วยลูคีเมียของชีวินนั้นทรุดลงอย่างรวดเร็ว หมอบอกว่า ชีวินจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึง 1 เดือน และบอกให้ทุกคนทำใจได้แล้ว พ่อกับแม่ของชีวินและพลกฤษณ์เองก็พยายามทำใจ จนผลสอบเอ็นทรานซ์ออกมา พลกฤษณ์เองก็เข้ามาเยี่ยมเพื่อนตามปกติ พร้อมจดหมายสีเขียวอ่อน 2 ซอง
“วิน เรามาลุ้นผลเอนท์กันดีกว่า” เขาพยายามพูดอย่างร่าเริงกับชีวินที่สีหน้าซีดเซียวลงไปมาก
“อืม ๆๆ” ชีวินมีสีหน้าดีขึ้นมานิดหน่อย
“อ่ะนี่” เขายื่นซองสีเขียวนั้นให้ชีวิน ให้ชีวินแกะลุ้นของตัวเอง ส่วนเขาก็แกะซองของเขาเหมือนกัน
ชีวินปรากฏสีหน้าดีใจออกมา เขาเองก็ยิ้มออก แสดงว่าชีวินสมหวังแล้ว ส่วนเขาก็ก้มลงดูผลสอบของตัวเขาเองเช่นกัน
“วิน หายป่วยเร็ว ๆ แล้วมาเรียนด้วยกันนะ” เขาพูดอย่างดีใจ เพราะตัวเขาเองก็ได้สอบเข้าคณะแพทย์ศาสตร์ตามที่หวังไว้ได้เช่นกัน โดยเขากับชีวินนั้นเลือกเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน
ชีวินยิ้มรับ และพยักหน้าเบา ๆ แต่ก็ฉายแววกังวลเล็กน้อย..
 แต่ไม่กี่วันต่อมา อาการของชีวินก็ทรุดหนักลงจนแพทย์เจ้าของไข้ต้องเรียกครอบครัวและคนใกล้ชิดมาอยู่ให้พร้อมหน้า เหมือนจะเป็นการดูใจครั้งสุดท้าย...
และชีวินก็จากเขาไปอย่างสงบ.....

วันนี้ที่เขาเป็นชายหนุ่มเต็มตัว ผ่านไปสิบกว่าปีแล้ว วันเวลาได้กล่อมเกลาให้เขาเป็นผู้ใหญ่ขึ้น แต่เขาก็ยังไม่ลืมชีวินผู้เป็นรักแรกของเขาได้ลง เขาปาดน้ำตาที่เอ่อล้นออกมาในยามนี้ พร้อมกับวางช่อกุหลาบขาวลงบนป้ายชื่อนั้น เขาลูบเบา ๆ ที่ป้ายชื่ออย่างคิดถึงคนจากไปเหลือเกิน
 เมื่อชีวินจากเขาไปแล้วนั้น เขาตัดสินใจที่จะไม่เรียนต่อในคณะแพทย์อีกต่อไป เขาผันตัวเองไปเรียนวิศวะกรรมที่ต่างประเทศ ตอนนั้นเขาไม่อยากอยู่เมืองไทย ไม่อยากเจอบรรยากาศที่ทำให้เขาต้องคิดถึงเพื่อนรักของเขา เขาทนไม่ได้จริง ๆ
การเรียนอย่างหนัก,ความต่างที่ทาง.เพื่อนฝูงทั้งหลายและงานที่ได้ทำหลังเรียนจบที่เมืองนอกนั่นหล่ะ ทำให้เขาหายเศร้าไปได้มาก ถึงแม้เขาจะพบเจอความรักความสัมพันธ์กับคนมากมายใน หลากหลายรูปแบบ แต่เขาก็ยังไม่เคยพบเจอความรู้สึกที่เคยมีเหมือนตอนที่เขาอยู่กับชีวินเลย
เขายังคิดถึงชีวินอยู่เสมอ
 “วิน แจ๊คกลับก่อนนะ” เขากล่าวเบา ๆ พร้อมกับหันหลังเดินออกไปด้วยความรู้สึกเป็นสุขที่ได้มาเยี่ยมเพื่อนรักของเขา


“พีครับ งานที่ทำอยู่เป็นยังไงมั่ง” นายโจ้ ที่เคยแอดเมลล์ผิดถามพีร์ขณะที่คุยกันตามปกติ
“ก็ดีอ่ะครับ” พีร์ตอบได้แค่นี้เพราะว่าเขาเพิ่งเริ่มทำงานได้ ไม่ถึงสองเดือนดี
“แล้วงานของพี่โจ้เป็นไงมั่งคับ” พีร์ถามไปบ้าง
“ก็เรื่อย ๆ เหมือนกันอ่ะ”  เขาตอบกลับ “งานของผมจะก็ต้องดูและเครื่องจักรในโรงงาน และก็ตรวจสภาพส่วนประกอบเสมอ ๆ”
“อ่อ คับ”
“พีคับ ผมมีเรื่องจะปรึกษาหน่อย รบกวนช่วยฟังหน่อยนะครับ”
“อะไรเหรอครับ ว่ามาเลย” พีร์เริ่มสนใจ
“คือ ผมมีปัญหานิดหน่อยอ่ะคับ” เขาเริ่มเล่า
“อ่า...”
“คือ ผมเพิ่งเลิกกับแฟนอ่ะคับ”
“คับ เสียใจด้วยนะครับ”
“คับ แต่ผมรู้สึกผิดมากที่ทำให้ผมกับเค้าเลิกกัน”
“ยังไงคับ”
“คือ ผมกับแฟนอายุห่างกันมากไงคับ แฟนผมเป็นแค่เด็กปี 2 เอง ตอนที่คบกัน”
“คับ แล้วเลิกกันนานหรือยัง”
“ยังคับ ไม่กี่เดือนเอง” เขาเล่าต่อ “ตอนนี้น้องเขาก็มีแฟนใหม่แล้วด้วย”
พีร์ไม่ได้ตอบอะไรต่อไป ได้แต่นั่งรับฟังอย่างเดียว
“แถมแฟนใหม่น้องเขายังหล่อกว่า เด็กกว่าผมอีก”
“แล้วพี่รู้สึกผิดยังไงอ่ะคับ”
“ก็ตอนที่ผมกับน้องเขาคบกัน ผมรู้สึกว่าน้องเขามีคนอื่นหน่ะครับ ผมเลยตามไปอาละวาดน้องเขา”
“เราทะเลาะกันแรงมาก จนผมบันดาลโทสะ ตบหน้าเขา”
“ทั้ง ๆ ที่ตอนคบกัน ผมไม่เคยทำอะไรรุนแรงน้องเขาเลย น้องเขาคงเสียใจมากหน่ะครับ เลยเลิกกับผมเลย”
“แต่ความจริงแล้ว ผมมารู้ที่หลังว่าผมเข้าใจผิดไปทั้งนั้น”
“และที่สำคัญ ผมก็ยังรักเค้ามากอยู่”
“อ่าคับ”
“ผมไม่อยากให้น้องเขาไปเป็นของคนอื่นเลย ผมผิดใช่ไหมครับที่ทำแบบนี้”
“อย่าคิดมากเลยครับพี่โจ้” พีร์ตอบกลับ “พี่ก็ทำใจซะเถอะครับ”
“มันสายไปใช่ไหมครับพีที่ผมจะขอโทษเขา”
“ผมก็ไม่รู้ครับพี่ มันเป็นเรื่องของพี่สองคน แต่ผมว่าถ้าพี่ลองคุยดี ๆ เขาอาจจะฟังพี่บ้างก็ได้”
“แล้วพีว่าผมจะมีโอกาสกลับมาคบกันไหม”
“ผมว่าคงไม่แล้วล่ะครับ” พีร์ตอบไป เพราะด้วยที่ว่าฝ่ายนั้นเล่าให้ฟังว่าแฟนเขามีแฟนใหม่แล้ว
“คับ ขอบคุณพีมากเลยนะครับ ผมจะลองดู”
“คับ”

   ศิลามองหน้าจออย่างเคร่งคิดกับบทสนทนาที่ผ่านมา จากท่าทีของพีร์ที่เหมือนให้เขาในคราบโจ้ยอมรับสิ่งที่ทำลงไปและทำใจให้ได้
หรือว่าเขามาผิดทาง เพราะพีร์อาจจะไม่อยากยุ่งเรื่องส่วนตัวของคนอื่นมากตามนิสัยของเขาก็ได้
ศิลาจึงถามต่อไป
“พีคับ แล้วนี่อายุขนาดนี้ มีแฟนหรือยังล่ะ” เขาถามไป เพราะเขากับพีร์ก็คุยกันมาได้สักพักแล้ว
“ก็มีดู ๆ กันอยู่คับ” เขาตอบมา ศิลาที่สวมรอยโจ้อยู่ก็แทบชะงักไปเหมือนกัน เพราะไม่คิดว่าพีร์จะตอบให้เห็นภาพว่าก็มีอยู่
“เหรอคับ น่ารักไหม”
เขาหันไปมองศิริพจน์ที่นั่งหันหลังดูข่าวให้อยู่ “เอ่อ ตอบยากครับ”
“เค้าไม่สวยเหรอครับ”
“ก็ คงงั้นมั๊งครับ” จะสวยได้ไงล่ะ ก็เป็นผู้ชาย พีร์คิดอย่างนั้น
“ก็ดีแล้วคับ มีใครสักคนมาอยู่ใกล้ ๆ ดูแลเค้าให้ดี ๆ ล่ะ” ศิลาฝืนใจพิมพ์ออกไป
“คับ ผมก็ว่ายังงั้น”
“พี่โจ้คับ เดี๋ยวผมขอตัวก่อนนะคับ”
“คับ ๆ บาย ๆๆ”
“คับ” พีร์ออฟไลน์ออกไป ทิ้งให้ศิลาที่อยู่หน้าจออีกฝ่ายรู้สึกค้าง ๆ เพราะไม่ได้ถามอะไรมากมายเลย
พีร์เองรู้สึกคุ้น ๆ กับคนชื่อโจ้แปลก ๆ เหมือนเขาเคยรู้จักกับผู้ชายคนนี้ แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านั้น
แต่ทำไมเขารู้สึกว่า ศิลาที่เหมือนจะหายไป กลับอยู่ใกล้ตัวเขามากขึ้น เขาก็แปลกใจเหมือนกัน
 “พี พรุ่งนี้ตอนเย็นไปสวัสดีพ่อแม่ผมกันไหม” ศิริพจน์บอกขณะคุยกับพีร์ก่อนนอน
“หะ ...อะไรนะ..”
“อืม ไปไหว้พ่อแม่ผมกัน”
“นี่คุณจะไปแกรนด์โอกับพ่อแม่เลยเหรอ” เขาถามกลัว ๆ เพราะศิริพจน์เคยพูดเล่น ๆ ไว้นานแล้วว่าจะพาพีร์ไปให้พ่อแม่รู้จักในฐานะลูกสะใภ้
“เปล่า แหม ก็พาไปให้รู้จักเฉย ๆ ไม่ได้เหรอ” เขากอดร่างอวบอ้อน ๆ
“ก็ได้สิ” พีร์ตอบยิ้ม ๆแต่ก็แฝงความกังวล
“อย่ากลัวไปเลย พ่อแม่ผมใจดีนะ”
“อืม งั้นเดี๋ยวผมไปบอกเลยว่าคุณเป็นเกย์ ฮ่ะ ๆๆๆ”
“ได้เลย และผมก็จะบอกว่าคุณก็เป็นแฟนผมไง”  เขาพูดพร้อมกับหอมแก้มพีร์ “ราตรีสวัสครับ”
“คับ” พีร์รับคำพร้อมกับหอมแก้มอีกฝ่าย ก่อนจะซุกตัวลงบนอ้อมกอดของศิริพจน์สู่ห้วงนิทรา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-05-2010 12:31:34 โดย น้ำพริกแมงดา »

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #222 เมื่อ09-05-2010 16:42:38 »

โฮ่ ไม่ได้เข้ามาอ่านเรื่องน้องพีนาน กลายเป็นความสัมพันธ์กับพจน์ไปแล้ว

ไม่รู้สิ แต่ถ้าเราเป็นพี เราว่ารักครั้งใหม่มันชุ่มฉ่ำใจกว่า พจน์ก็เข้ามาแบบดีมาก ดูแลเทคแคร์ทุกอย่าง
ไม่มีพันธะข้างหลังที่ยังไงก็ตัดไม่ได้ด้วย
พี่หยก.....ทำใจซะแล้วให้เวลากับลูกและภรรยาที่แท้จริงดีกว่ามั้ย?

ปล. ขอช่วยเรื่องคำผิดนิดนึงนะคะ เอาคำที่ชัดๆก็ "ล่วงลับ" ต้องใช้ ล ลิง นะคะ ไม่ใช่ ร เรือ แล้วก็ คณะแพทยศาสตร์ (ตรง ย ยักษ์ ไม่ต้องมีทัณฑฆาต)

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #223 เมื่อ09-05-2010 19:35:06 »

ผลของการกระทำที่ไม่ได้คิดให้ดี มันได้แสดงออกมาให้เห็นชัดขึ้นทุกทีแล้วสิคะ คุณหยก


YourSister

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #224 เมื่อ09-05-2010 21:16:49 »

 :L2:  เป็นกำลังใจให้จ้า

รอตอนต่อไปนะ  :bye2:

ออฟไลน์ j4c9y

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-7
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #225 เมื่อ09-05-2010 21:49:16 »

ใจนึงก็รัก อีกใจนึงก็เจ็บ

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #226 เมื่อ09-05-2010 23:16:00 »

ทำไมท่าทาง..ศิลาจะถึงทางตันแล้วล่ะเนี่ย....เอ้อ..ให้มันได้อย่างนี้สิ :z3:

Lucio

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #227 เมื่อ10-05-2010 12:35:25 »

บอกได้คำเดียว

ทำใจเถอะ พี่หยก


ปล แต่ก็ไม่แน่ ทางนู้นก็ยังไม่ลืมพี่เหมือนกันนะ

ANUNTAYA

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #228 เมื่อ10-05-2010 14:15:30 »

พี่ศิลา


สู้ ๆ นะครับ

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #229 เมื่อ10-05-2010 16:31:54 »

ฝากเนื้อฝากตัวเป็นเด็กใหม่(ในทู้) :o8:
แบบว่าหวานกับพี่หยกอยู่ดีๆ เป็นเรื่องเป็นราวมากมายเลยทีนี้ :sad4:
แล้วจะเป็นยังไงต่อไปล่ะนี่...
+1 ขอบคุณค่ะ รออ่านตอนต่อไปน้าาา :bye2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
« ตอบ #229 เมื่อ: 10-05-2010 16:31:54 »





ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #230 เมื่อ10-05-2010 18:03:46 »

พี่หยกตัวเองก็มีพันธะอยู่

ยังจะไม่ยอมปล่อยพีไปอีกเนอะ

ปล่อยพีไปเถอะ  ทำใจได้แล้ว

ออฟไลน์ น้ำพริกแมงดา

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +272/-0
    • เข้ามาเป็นคุยกันกับ "น้ำพริกแมงดา" ใน facebook page นะคะ
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #231 เมื่อ15-05-2010 13:05:09 »

ภาคต่อ ตอนที่ 15

  วันนี้ครอบครัวของศิริพจน์อยู่กันเกือบพร้อมหน้าพร้อมตา ขาดแค่อรรถพลน้องชายคนเล็กที่เรียนอยู่ต่างประเทศเท่านั้น ศิริพจน์โทรชวนพี่สาวคนเดียวของเขามาด้วยในการกินข้าวเย็นวันนี้
  “อย่างน้อยเราก็ยังพอมีกองเชียร์มั่งวะ” เขาคิดอย่างนั้น

เจ้าสัววิชาและคุณศิริพรผู้เป็นพ่อแม่ไม่นึกแปลกใจอะไร แต่ก็นึกอยากรู้จักเพื่อนลูกชายคนนี้เหมือนกัน เพราะเพื่อนคนนี้เหมือนจะเป็นคนที่ศิริพจน์บอกว่าเขาไปพักอาศัยด้วยในบางวัน ทั้ง ๆ ที่ลูกชายก็เป็นคนกรุงเทพฯโดยกำเนิด แต่กลับไปอยู่กับเพื่อน แต่ทั้งสองก็พอเข้าใจลูกชายคนนี้ว่างานที่ทำหน่ะยุ่งแค่ไหน เลยไม่ได้ว่าอะไร แต่ก็แอบบ่นบ้างบางเวลาเพียงเท่านั้น

“พจ  พ่อแม่พจจะว่าอะไรพีมั๊ยอ่ะ” เขาถามศิริพจน์ที่ขับรถอยู่อย่างแอบประหม่า
“จะว่าอะไรคุณได้ล่ะ คุณไม่ได้ทำอะไรผิดหนิ” ศิริพจน์ตอบยิ้ม ๆ
“ก็พีกลัวหนิ”
“ไม่ต้องกลัวนะ” ศิริพจน์วางมือซ้ายลงบนมือขวาของร่างอวบและบีบเบา ๆ อย่างให้กำลังใจ

 รถซีดานสัญชาติญี่ปุ่นเลี้ยวเข้ารั้วหรูของบ้านหลังใหญ่ และเข้าไปจอดในโรงเก็บรถอย่างสงบนิ่ง พีร์มีเองกังวลเล็กน้อยในการพบปะกับพ่อแม่ของศิริพจน์ในครั้งนี้ แต่อีกฝ่ายก็พยายามยืนยันว่าพ่อแม่ของเขาไม่มีอะไรให้พีร์กังวล

  ศิริพจน์เดินนำพีร์ไปยังห้องนั่งเล่นของบ้าน ก็พบพ่อกับแม่ของศิริพจน์นั่งรออยู่แล้วเช่นกัน
“สวัสดีครับคุณพ่อ คุณแม่” ศิริพจน์ยกมือไหว้คนทั้งสอง
“จ้ะ นี่เพื่อนคนนี้ใช่ไหมที่เคยเล่าให้แม่ฟัง” ผู้เป็นแม่ถามด้วยความสนใจ
“ครับคุณแม่ นี่พีร์เพื่อนผมเอง” ศิริพจน์แนะนำร่างอวบที่ดูเรียบร้อยในชุดทำงานให้พ่อแม่รู้จัก พีร์จึงยกมือไหว้คนทั้งสองอย่างนอบน้อบ
“จ้ะ สวัสดี” เธอกับสามีรับไหว้อย่างใจดี “เย็นนี้ทานข้าวด้วยกันนะจ๊ะ”
“ครับ ขอบคุณมากครับ” พีร์ยกมือไหว้  

      ตลอดการรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน บรรยกาศของการสนทนาเป็นไปอย่างราบรื่น พ่อกับแม่ของศิริพจน์ก็มีท่าทีเปิดรับเพื่อนลูกคนนี้เป็นอย่างดีโดยที่นลพรรณที่ศิริพจน์ให้มาเป็นกองเชียร์ไม่ต้องทำอะไรมาก หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ พ่อกับแม่ของศิริพจน์ก็คุยกับพีร์เรื่องต่าง ๆ เล็กน้อย นัยว่าเป็นการดูเชิงเพื่อนลูกคนนี้ และก็เล่าเรื่องศิริพจน์ให้พีร์ฟังอย่างสนุกสนาน จนทั้งสองปล่อยให้เด็ก ๆ คุยกันเองนั่นหล่ะ นลพรรณและศิริพจน์ถึงได้ทำสีหน้าโล่งอกไปที
    “พจ ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ” พีร์หันไปถามศิริพจน์ที่นั่งมองหน้ากับพี่สาวอย่างเบาใจ
“ก็ ลุ้นหน่ะสิว่า พ่อแม่ผมจะคุยอะไรกับคุณบ้าง”
“อ่าว...ไหนว่าพ่อดีกับแม่คุณใจดีไง” พีร์หันไปเริ่มเหวี่ยงคนข้าง ๆ
นลพรรณตอบแทน “ก็พี่เองก็กลัวเค้าพูดอะไรเกี่ยวกับเอ่อ...พี่ไง และก็พูดถึงเรื่องหาแฟนให้พจอ่ะ พ่อแม่พี่เค้าอยากให้ตาพจแต่งงานหลังเรียนจบเลยอ่ะ” เธอพูดอย่างเบื่อหน่ายในเรื่องทำนองนี้
พีร์ได้ยินอย่างนั้นก็ไม่ได้แสดงท่าทีกังวลอะไร นอกจากพูดอะไรขำ ๆ ออกมา
 “ดีสิ ถ้าคุณแต่งงานไป ผมจะได้ไปกินเลี้ยงที่งานแต่งคุณ ฮ่ะๆๆๆ”
ศิริพจน์ยิ้มก่อนตอบว่า “ได้ไงล่ะ คุณเป็นเจ้าสาวนะ กินเยอะได้ไง เดี๋ยวชุดก็ปริหมดหรอก”
“ใครเป็นเจ้าสาวของคุณหะ”
  ศิริพจน์ไม่พูดอะไรได้แต่กอดเอวอวบจากด้านหลังและซบแผ่นหลังลงไปอย่างออดอ้อน พีร์เองก็ยิ้มกับคนรักที่แบบนี้
   นลพรรณยิ้มให้กับภาพตรงหน้า น้องชายเธอกับพีร์ดูมีความสุขและเหมาะสมกันดีในฐานะคู่รัก เธอนึกถึงสภาพของพีร์ตอนที่ยังเป็นของศิลา เขาไม่ได้สดใสร่าเริงเหมือนที่อยู่กับน้องชายเธออย่างนี้
   แต่เธอก็อดเป็นห่วงพีร์กับศิริพจน์ไม่ได้ ว่าเวลาแห่งความสุขของทั้งคู่จะหมดลงไปในเวลาใด
“พจ คุณอายคุณแพรวมั่งก็ได้” พีร์เริ่มเขิน เพราะเห็นนลพรรณก็มองน้องตัวเองอยู่
“นั่นสิพจ  ไม่ได้อยู่กันสามคนนะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าทำไง”
ศิริพจน์ไม่สนใจ“ก็ให้เค้ารู้ไปสิพี่แพรว”
“พจอ่า พูดงี้ได้ไง”
“ล้อเล่น ๆๆ” เขาหันไปพูดกับนลพรรณ “พี่แพรวแล้วนี่บอกทางโน้นว่าไงมั่งครับ” เขาหมายถึงทางครอบครัวของเธอเอง
“อ่อ พี่ก็ไม่ได้บอกหรอกจ้ะว่ามาช่วยน้องชาย”
“อ่าครับ” เขาหัวเราะ “ขอบคุณที่มาเป็นกองเชียร์นะครับ”
“จ้ะ” เธอยิ้มรับ จากใจจริง ส่วนพีร์เองก็รู้สึกสนิทสนมกับตัวเธอมากขึ้น

  “น้องพี วันนี้เป็นไงมั่ง หายเกร็งกับพ่อแม่พี่แล้วนะ” นลพรรณหันมาถามเด็กหนุ่มขณะที่ขับรถไปส่งเขาที่อพาตเมนท์
“ครับ”
“น้องพี เรียกพี่ว่าพี่แพรวเถอะ ต่อไปนี้อ่ะ อย่าเรียกพี่ว่าคุณแพรวเลย”
พีร์มองนลพรรณอย่างเกรง ๆ แต่นลพรรณก็พูดต่อ “เถอะน่า นะ น้องพี ไม่ว่าน้องพีจะเป็นของหยก หรือเป็นของตาพจ น้องพีก็เรียกพี่ว่าพี่แพรวดีกว่านะ”
“ครับ พี่แพรว”
“จ้ะ ดีแล้ว” เธอยิ้มรับ เพราะอย่างน้อยเด็กหนุ่มก็เปิดใจกับเธอมากขึ้น
“ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องคิดมากนะจ๊ะน้องพี  คิดซะว่าพี่เป็นพี่อีกคนก็แล้วกัน”
“ครับ ขอบคุณครับ”
เขาเว้นไปสักพักจึงเพิ่งนึกอะไรออก แล้วล้วงบางอย่างออกจากกระเป๋าเอกสารทรงสะพาย “พี่แพรวครับ ผมฝากอะไรให้พี่หยกได้ไหมครับ”
นลพรรณมองหน้างง ๆ เขาเลยยื่นสิ่งที่เขาเคยฝากหญิงสาวคืนให้ศิลาไปแล้วครั้งหนึ่ง
“น้องพี...”
“ครับ ในเมื่อเรื่องของผมกับพี่หยกมันจบลงแล้ว ตุ้มหูนี่ก็ไม่ควรอยู่กับผม”
หญิงสาวมองหน้าเขาอย่างลำบากใจ
“นะครับพี่แพรว”
“จ้ะ ๆ” เธอทำหน้าลำบากใจ สรุปว่าเรื่องของหนุ่มน้อยกับสามีเธอมันคงจบแล้วใช่ไหมเนี่ย
“อ่ะ ถึงแล้วจ้ะ”
“ครับ ขอบคุณพี่แพรวมากครับ” เขายกมือไหว้
“จ้ะ ไม่เป็นไร เจอกันวันหลังนะจ๊ะ”
“ครับ สวัสดีครับ”
“ค่ะ”
  เขาปิดประตูรถ แล้วเดินเข้าไปในตัวอาคาร แต่ก่อนจะถึงตัวอาคารนั้น..
“น้องพี....” เสียงคุ้น ๆ เรียกชื่อเขา เขาจึงหันหน้าไปมองก็พบร่างสูงที่คุ้นเคยยืนมองเขาด้วยสายตาละห้อย
“พี่หยก” เขายืนนิ่งเหมือนถูกสาบ ร่างสูงเข้ามาหาเขาอย่างคิดถึง เขามองร่างสูงนั้นอย่างหวาดกลัว เขาเตรียมจะเดินหนีแต่ศิลาก็เรียกไว้
“น้องพี คุยกับพี่หน่อยได้ไหมครับ” เขาร้องขอ
“นะครับ” พีร์เห็นท่าทีอย่างนั้นก็เริ่มเย็นลง จึงเดินตามเขาไปห่าง ๆ ที่สวนสาธารณะใกล้ ๆ

“น้องพีครับ เรื่องของเรามันจบลงแล้วจริง ๆ เหรอ” ศิลาถามเสียงละห้อย
“ครับ” พีร์พยักหน้านิ่ง ๆ อย่างเก็บความรู้สึก
“ทำไมอ่ะครับ”
“ยังจะต้องถามอีกเหรอครับว่าทำไม” พีร์พยายามเก็บอารมณ์เสียใจและน้ำตาที่เริ่มจะไหลออกมา
“น้องพี น้องพีจะไม่ให้โอกาสพี่ได้แก้ตัวบ้างเลยเหรอ”
“แล้วพี่หยกล่ะครับ เคยให้โอกาสพีได้อธิบายอะไรมั๊ย” เขาสะบัดหน้ามามองศิลา “ตอนนั้นพีกับพจยังไม่ได้เป็นอะไรกัน พี่หยกก็คิดไปเองทุกอย่าง แต่ตอนนี้ พีกับพจเป็นอะไรกันสมใจพี่หยกแล้วหนิ  พี่หยกจะเอาอะไรอีกล่ะครับ”
“น้องพี น้องพีประชดพี่ใช่ไหม” เขาปราดเข้าไปจับแขนทั้งสองข้างของพีร์  
“เปล่าครับ...พีร์พูดจริง” เขาจ้องหน้าอีกฝ่ายด้วยสีหน้าจริงจัง ตาที่ปริ่มน้ำมองไปอย่างไม่เกรงกลัว
“น้องพี...”
“ตอนนี้พีมีคนอื่นแล้วสมใจพี่หยกแล้ว พี่หยกก็น่าจะเลิกยุ่งกับพีซะทีนะครับ” เขาค่อย ๆ ละออกจากศิลา แต่ศิลานั้นกอดร่างอวบที่คิดถึงนั้นไว้แน่น ไม่ปล่อยไปไหน
“น้องพี พี่ขอโทษ...น้องพีจะให้พี่ทำอะไรก็ได้ กลับมาเป็นของพี่เถอะนะ...”
พีร์ผลักอกอุ่นที่คุ้นเคยนั้นออก แล้วพูดใส่หน้าคนใจร้ายของเขา “พอเถอะครับพี่หยก ทำไมพี่หยกไม่เข้าใจซะทีว่าเราจบกันแล้ว พี่หยกเองก็น่าจะกลับไปดูแลครอบครัวดีกว่ามาตามพีแบบนี้นะครับ” เขาสะบัดตัวออกไป
“ลาก่อนครับ”
“น้องพี ๆ” ศิลาเรียกตามแต่ก็ไร้ประโยชน์ ร่างรวบนั้นเดินออกไปอย่างรวดเร็วเหมือนจะรีบหนีเขาให้เร็วที่สุด

  พีร์เดินออกมาอย่างรวดเร็ว แต่ระหว่างช่วงที่ผ่านมุมมืดก็มีมือปริศนาฉวยข้อมือเขาไว้ให้หยุด
“ไอ้น้อง เอาเงินมาแบ่งกันใช้ดิ”
พีร์ตกใจเป็นอย่างมากเมื่อรู้ตัวว่าถูกชิงทรัพย์ เขามองโจรที่เงื้อมีดพกขู่เขาอย่างพยายามตั้งสติ โจรนั้นเหมือนจะย่ามใจเลยพยายามเอาใบมีดวาวแสงนั้นลูบบนแก้มนิ่มของพีร์เบา ๆ เพื่อขู่เข็ญ พีร์เองก็พยายามเบือนหน้าหนีและพยายามล้วงหากระเป๋าสตางค์ โจรเห็นว่าชักช้าเลยกระชากกระเป๋าสบายของเขามาก่อน
“เร็ว ๆ รีบส่งเงินมา” เจ้าโจรขู่กรรโชก แต่ก็รู้สึกตัวเหมือนมีใครมาสะกิดอยู่ข้างหลัง มันจึงหันไปดู
  หมัดหน่วง ๆ ของศิลาพุ่งเข้าไปที่ครึ่งปากครึ่งจมูกของมัน พีร์รู้สึกดีขึ้นที่มีคนมาช่วย และก็ดีใจมากขึ้นเมื่อรู้ว่าเป็นศิลา เขาอาศัยจังหวะนี้รีบวิ่งไปแจ้งตำรวจที่ป้อมใกล้ ๆ
  โจรนั้นใช้มีดขู่ศิลา แต่ศิลาไม่กลัว จึงเกิดการต่อสู้กันเล็กน้อย ศิลาพยายามล่อโจรให้ออกมาในมุมที่สว่างขึ้น แต่เขาก็พลาดถูกมีดของโจรฟันเข้าที่แขนขวา
“พี่หยก...” พีร์ที่รีบวิ่งไปแจ้งตำรวจแถวนั้น เข้ามาเห็นเหตุการณ์พอดี ตำรวจสองนายเข้าไปล้อมโจรชั่วนั้น และส่งกระเป๋าสะพายให้พีร์  คนทั้งสองไม่ลืมขอบคุณตำรวจที่เข้ามาช่วยจัดการ
“โอย...ซี๊ดดดด” ศิลาร้องด้วยอาการเจ็บแผล
“พี่หยก พี่หยกเป็นอะไรมากไหมครับ” พีร์เข้ามาจับแขนดูอย่างเป็นห่วง “ตายล่ะ พี่หยกเจ็บมากไหมครับ”
“พี่ไม่เป็นไรหรอกครับ” เขาตอบยิ้ม ๆ พร้อมมองหน้าคนรักที่เป็นห่วงเขา
“เดี๋ยวเข้าไปทำแผลที่ห้องพีก่อนนะ”
ศิลายิ้มดีใจ เพราะพีร์ก็ยังมีเยื่อใยให้เขาอยู่ ไม่ใช่แข็งกร้าวอย่างที่แสดงออกมาเมื่อครู่นี้


พีร์ทำแผลให้ศิลาอย่างเบามือ เขาค่อย ๆ ทำความสะอาดและใส่ยาแผลสดนั้น ศิลามองใบหน้าจิ้มลิ้มที่จริงจังกับการทำแผลด้วยความคิดถึงเป็นอย่างยิ่ง
“ขอบคุณพี่หยกมากเลยนะครับที่ช่วยพีร์ไว้” เขายกมือไหว้ศิลาหลังจากทำแผลเสร็จ
“ไม่เป็นไรหรอกครับ” เขาตอบเรียบ ๆ ถ้าเป็นไปได้เขาก็อยากโอบกอดร่างอวบนี้เหลือเกิน แต่เขาก็พอรู้ตัวว่าเขาไม่มีสิทธิ์เสียแล้วในเวลานี้
 “น้องพีครับ คืนนี้พี่ขอนอนด้วยคนได้ไหม”
พีร์เริ่มรู้ตัว ความทรงจำโหดร้ายนั้นก็พลันปรากฏ
“อย่าเลยดีกว่าครับพี่หยก พี่หยกกลับไปเถอะครับ วันนี้พีขอบคุณมาก ๆ นะครับ”
ศิลาหน้าจ๋อยเมื่อเห็นอย่างนั้น แต่ก็ไม่ยอมแพ้ จึงขอร้องพีร์ให้เห็นใจเขาบ้าง จนสุดท้ายจากที่ลึก ๆ แล้วพีร์เองก็ยังรักศิลาอยู่เต็มหัวใจ จึงยอมให้เขานอนค้างคืนด้วย

     “ฮัลโหล พจเหรอ” พีร์โทรศัพท์ไปหาศิริพจน์ ขณะที่ศิลาเข้าไปอาบน้ำ
“ครับ ว่าไง ถึงหอนานแล้วใช่มะ มีอะไรเหรอครับ”
“อืม มีสิ” พีร์เล่าเรื่องเขาถูกชิงทรัพย์ให้ฟังแล้วศิลาเข้ามาช่วยพอดี
“เหรอ แล้วนี่พี่หยกเค้าเป็นไงมั่ง”
“ก็โดนฟันนิดหน่อยหน่ะ คือ ตอนนี้เข้าก็ยังอยู่กับพีหล่ะ”
“ฮะ อยู่กับพีเหรอ”
“อืม เค้าขอนอนด้วยหน่ะ” พีร์พูดอย่างกังวล
“อ่าว แล้วพีทำไงล่ะ”
“ก็ไล่เค้าเค้าก็ไม่ไปอ่ะพจ”
“อืม ให้ผมไปนอนด้วยไหม”
“ไม่ต้องหรอกพจ เดี๋ยวห้องนอนพีกลายเป็นสนามมวยกันพอดี”
“แน่ใจนะ” เขาถามด้วยความเป็นห่วง ไม่ใช่หึงหวง
“อืม แน่ใจสิ เค้าคงไม่ทำอะไรพีหรอก”
“โอเค งั้นดูแลตัวเองละนะครับ” เขาพูดต่อ “แต่ผมเป็นห่วงคุณน้า...ผมอยากไปนอนกับคุณจังเลย”
“หืม....ไม่ต้องห่วงละกันนะพจ”
“ครับ มีอะไรโทรมาบอกผมได้เลยนะ”
“ครับ ๆ งั้นแค่นี้ก่อนนะ”
“ครับ ดูแลตัวเองล่ะ”
“อืม ๆ บาย ๆๆ”
  พีร์วางสายไปด้วยความสบายใจในระดับหนึ่ง  เขามองเห็นศิลาออกจากห้องน้ำแล้ว จึงทำเป็นแกล้งหลับไม่สนใจอีกฝ่ายที่ค่อย ๆ ล้มตัวนอนข้าง ๆ เขา
  ศิลามองพีร์ที่นอนหันหลังให้ เขารู้สึกว่าถึงแม้จะอยู่ใกล้กันแต่ก็เหมือนมีกำแพงหนาที่ขวางระหว่างเขากับพีร์อยู่ เขาอยากจะโอบกอดร่างนั้นไว้เหมือนอย่างที่เคยทำ แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะกำแพงหนาที่เขารู้สึกนั้นขวางกั้นพวกเขาไว้อยู่  เขาเคยชอบความมืดที่เจือแสงนวลเมื่ออยู่กับพีร์ แต่ตอนนี้บรรยากาศแบบนั้นมันก็ไม่ได้ทำให้เขากับพีร์มีความสุขด้วยกันเหมือนแต่ก่อนเลย
   เวลานี้เขาได้แต่นอนมองด้านหลังของคนรัก เท่านี้ก็คงมากพอแล้วสำหรับคนที่ทำร้ายพีร์อย่างเขา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-05-2010 18:30:44 โดย น้ำพริกแมงดา »

andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #232 เมื่อ15-05-2010 13:23:58 »

 :z13: :z13:
จิ้มน้องพี   พยายามเข้านะพี่หยก

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #233 เมื่อ15-05-2010 14:25:06 »

อืมมม...ยังไงดีน๊าาา..
บอกตรงๆว่าเราเดาใจคุณคนแต่งไม่ออกเลยค่ะ ^^

ไม่รู้จะเชียร์หรือจะสงสารใครดี...เพราะเรื่องทุกอย่างทั้งพีร์ทั้งพี่หยกก็เริ่มมันด้วยตัวเองกันทั้งคู่
จริงๆเราอาจจะอินไปหน่อย แต่ถ้ามองในแง่ความเป็นจริงแล้ว...ใครๆก็คงไม่อยากเป็นคนทำลายครอบครัวคนอื่นหรอกมั้งเนอะ
ถ้าพีร์จะคบกับพจน์แล้วไม่มีปัญหาอะไร รวมถึงพีร์มีความสุขมันก็โอเคในระดับนึง
ถ้าพีร์ไม่รักพี่หยกอีกต่อไปก็บอกไปตรงๆแล้วอย่าเจอกันอีกเลยมันจะดีกว่าไหม?
เราว่าเรื่องมันเริ่มยุ่งก็เพราะแพรวรู้นี่แหละ... เฮ่อออ  :เฮ้อ:

ส่วนพี่หยก...รักพีร์แต่ถ้าพีร์ดันคิดว่าคงกลับไปเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว
ถ้าไม่อยากทำร้ายพีร์ก็อาจจะเสียสละเพื่อความสุขของคนที่รักดีกว่ามั้ง
เพราะหากว่าได้ตัวคืนมาแต่ใจพีร์ไม่เหลือความเชื่อใจให้อีก มันน่าเจ็บปวดกว่าปล่อยเค้าไปตั้งเยอะแน่ะ ^^

พจน์อีก...อันนี้เราก็ไม่รู้ว่าจะรักพีร์มากขนาดไหน แล้วพีร์จะรักพจน์ได้เยอะขนาดไหน
แล้วถ้าวันนึงพจน์โดนจับแต่งงานหลังเรียนจบจริงๆจะกล้าสู้เพื่อพีร์หรือเปล่า?
แต่ถ้ารักกันแล้วทุกอย่างมันดีขึ้นก็อวยพรไปละกันค่ะ

โอ๊ววว...นิยายเรื่องนี้ดราม่าสุดๆอะ เป็นเรื่องนึงที่เรากะว่าอาจจะไม่อ่านแล้วเพราะปวดตับมากมาย
แต่สุดท้ายก็จิ้มมาอ่านอีกจนได้...
เอาเป็นว่าเป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-05-2010 14:56:12 โดย pærəˈsɛtəmɒl »

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #234 เมื่อ15-05-2010 14:53:53 »

ง่า...สงสารพี่หยกจัง เจ็บตัวยังไม่พอ ยังปวดใจอีกต่างหาก
แต่ว่าทุกอย่างมันก็เริ่มจากพี่เองนินา เฮ้ออ :เฮ้อ:
ถอนหายใจได้อย่างเดียว :เฮ้อ:
ขอบคุณค่า รออ่านตอนต่อไปน้า

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #235 เมื่อ15-05-2010 15:07:34 »

เนี่ยแหล่ะน๊าา...อยู่ใกล้แต่เหมือนไกล ..

ตอนนี้เนี่ยไม่ว่าพีร์จะเลือกใครก็คงเจ็บทุกฝ่าย

เพราะถ้าพีร์เลือกพจน์ แต่ใจยังรักพี่หยก พจน์คงรู้แย่ พี่หยกเจ็บ
แต่ถ้าพีร์เลือกพี่หยก พจน์เจ็บ คุณแพรวเจ็บ... :เฮ้อ:

ออฟไลน์ j4c9y

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-7
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #236 เมื่อ15-05-2010 20:14:53 »

เลือกใครดีเนี่ยยย

เศร้า

ออฟไลน์ น้ำพริกแมงดา

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +272/-0
    • เข้ามาเป็นคุยกันกับ "น้ำพริกแมงดา" ใน facebook page นะคะ
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #237 เมื่อ16-05-2010 18:29:02 »

ภาคต่อ ตอนที่ 16

“เฮ้ย! ไอ้หยก เบาๆ” พลกฤษณ์ห้ามศิลาที่กระหน่ำสาดเหล้าลงคออย่างคนที่ต้องการลืมโลก ศิลาโทรชวนเขามากินเหล้าด้วยกันที่ร้านดังแถวทองหล่อ เขาเดาว่าเพื่อนของเขาต้องมาระบายทุกข์เรื่องแฟนเด็กให้ฟังอีกตามเคย และก็จริงที่เขาคาดไว้
“ไอ้แจ๊ค....ทามมาย....น้องพี ต้องทามแบบนี้ว้า” ศิลาคร่ำครวญออกมาด้วยฤทธิ์น้ำเมา
“ไอ้หยก  เลิกกินเหล้าเถอว่ะ” เขาจับแขนเพื่อน “แผลยังไม่ทันหาย แล้วอย่างนี้จะไปทำอะไรต่อได้วะเนี่ยะ”
“น้องพี...ฮือ ๆๆๆๆ”
“เมาใหญ่แล้วเพื่อนกู” พลกฤษณ์ถอนหายใจ
“น้องพีเค้าไม่ร๊ากกกูแล้วววววว ฮือ ๆๆๆ”
“เอ้า เอาเข้าไป เมาเป็นหมาอย่างนี้ใครเค้าจะมารักแกล่ะหยก” เขาพยุงเพื่อน “ไป ๆๆ กลับบ้านกัน”
“ม่ายยยกลับบบบ น้องพีเค้าไม่รักชั้นแล้ว ชั้นจะเมาให้ตายไปเลย”
“อ่าว นี่ถ้าแกตายไป เจ้าพจมันไม่ยิ่งได้ใจเหรอวะ”
ศิลาชะงัก มองหน้าเพื่อน “ไอ้พจจ ไอ้น้องชั่ววว ไอ้เลวววววว มันแย้งน้องพีของชั้นปายย”
“เออ นั่นหล่ะ มันยิ่งได้ใจสิวะ เห็นแกเป็นแบบนี้” เขากรอกหูศิลา “ฉะนั้น เลิกเมาซะ กลับไปคิดหาวิธี ถ้าแกยังไม่อยากแพ้เด็กเมื่อวานซืน”
“ป่ะ กลับกานนน”
“ดีมาก งั้นชั้นไปส่งแกที่ไหนดี”
“ที่หอน้องพี”
“ไอ้บ้า ไปสภาพนี้เนี่ยะนะ น้องเค้าได้ยิ่งเกลียดแกสิ” เขาพลางคิด ถ้าศิลากลับบ้านไปในสภาพเมาอย่างนี้ คงจะโดนซักแน่ ๆ  “งั้นเอางี้ ไปนอนบ้านชั้นละกัน จะได้มีคนดูแล”
“ปายยย เอิ๊กก” พลกฤษณ์ประคองเพื่อนที่เมาไม่ได้สติ เขานึกเป็นห่วงเพื่อนที่เมาขนาดนี้ จึงต้องยื่นคำขาดให้เขานึกถึงศิริพจน์
  เพราะรายนั้นได้เปรียบกว่าเห็น ๆ ในตอนนี้ในทุก ๆ เรื่อง และที่สำคัญศิลาเองก็เป็นคนผิดเต็ม ๆ ในเรื่องนี้
พลกฤษณ์คิดได้ว่า เขาควรจะเดือดสติเพื่อนให้รู้ตัวและหันมารับผิดชอบครอบครัวตัวเอง แต่ถ้าเพื่อนเขายังรักอีกฝ่ายอยู่ เขาก็คงจะให้เพื่อนเขาทำใจไว้บ้างก็เท่านั้น
    ศิลาน่าจะระลึกไว้บ้าง ว่าชีวิตใหม่ที่เขาเพิ่งค้นพบ จะต้องเจอกับรักที่ไม่ยั่งยืน
    แต่หากเลือกจะรักแล้ว ก็ต้องรู้จักปล่อยวางในบางเรื่อง


  วันหยุดเสาร์อาทิตย์นี้ พีร์กับศิริพจน์ก็ออกมาเดินเล่นในห้างหรูแถวพร้อมพงศ์ด้วยกัน พีร์นั้นไม่ค่อยชอบห้างหรูนี้  เพราะไม่ว่าจะหยิบจับอะไรก็แพงไปหมดทั้งสิ้น แต่ศิริพจน์เองชอบเพราะว่าร้านหนังสือสัญชาติญี่ปุ่นที่สาขานี้มีหนังสือเชิงวิชาการให้เลือกอ่านมากมายกว่าสาขาอื่น พีร์เองก็ไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้เท่าไหร่ แต่เมื่อศิริพจน์อยากมา เขาก็ต้องตามใจ
   พีร์เดินดูรอบ ๆ อย่างผ่าน ๆ ที่เขาสนใจก็เพียงหนังสือสายการตลาด แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขามีอาการไม่สนใจคนอื่นอย่างศิริพจน์เลย
  เขามองศิริพจน์งอน ๆ ที่ไม่สนใจมั่งเลยว่าเขาเริ่มเบื่อแล้ว เขาเดินไปหาศิริพจน์ให้รู้ว่าเขาเริ่มเบื่อแล้ว
“พจจจจจ” เขากระเง้ากระงอด ร่างสูงที่อ่านหนังสืออยู่
“หือ..ว่าไง”
“จะอ่านอีกนานมั๊ยเนี่ยะ”
“ทำไมอ่ะ”
“ก็ พี....” เขาไม่ทันได้พูดอะไรก็เห็นพลกฤษณ์เดินมาข้างหลังศิริพจน์ เพื่อเลือกหนังสือแนววิศวะกรรม ที่ตู้ข้าง ๆ ศิริพจน์เห็นพีร์เงียบไปเลยหันไปมอง
“อ่าวพี่แจ๊ค” เขาทักทาย พลกฤษณ์กันมามองคนทั้งสองอย่างตกตะลึง เพราะคาดไม่ถึงว่าจะมาเจอกันที่นี่
พีร์เองก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน พลางมองพลกฤษณ์แบบวางตัวและสำรวจชายหนุ่ม
“เข้าร้านหนังสือเป็นด้วยเหรอ..” พีร์คิดในใจ เพราะไม่เชื่อว่าเพลย์บอยอย่างพลกฤษณ์ จะเข้ามาซื้อหนังสืออ่าน
“อ่าวว่าไงพจ” เขาทักทายรุ่นน้องกลับ เพราะศิริพจน์เป็นเพื่อนร่วมห้องเรียนกับ จุลกฤษณ์ น้องชายคนเล็กของเขา
“มาซื้อหนังสือครับ แล้วพี่ล่ะ”
“พี่ก็มาซื้อหนังสือว่ะ”  เขาถามรุ่นน้องต่อ หยั่งเชิง “แล้วนี่ มากับใครล่ะ”
“อ๋ออ นี่พีครับ แฟนผมเอง” ศิริพจน์แนะนำพีร์เต็มเสียงอย่างภูมิใจ พร้อมโอบไหล่ร่างอวบแสดงสถานะอย่างที่บอก
“อ๋ออ หรอ” พลกฤษณ์ตอบรับ คิดในใจ “ดูท่าเจ้าพจมันจะรักน้องเขาจริงนะเนี่ยะ ถึงขนาดแนะนำว่าเป็นแฟนเลย”
“แล้วพี่แจ๊คมากับใครล่ะครับเนี่ยะ” ศิริพจน์ถาม
“อ่อ พี่มากับ...”
“คุณแจ๊คคคคค........” ยังพูดไม่ทันขาดคำ เด็กหนุ่มร่างบางในชุดนักศึกษาก็โผล่เข้ามาเกาะแขนพลกฤษณ์อย่างออดอ้อน
“นี่คุณแจ๊คทิ้งเค้าไว้ข้างนอกนานแล้วนะ ไหนบอกจะมาซื้อหนังสือไง ทำไมซื้อนานจังเลยอ่า”
พีร์กับศิริพจน์มองหน้ากันด้วยสีหน้าบอกไม่ถูกทั้งคู่ เพราะอีกฝ่ายเพิ่งมาแท้ ๆ หนุ่มน้อยก็ตามมาให้รำคาญใจอีกแล้ว
“ก็ บอกให้มาด้วยกันก็ไม่มาเองนี่นา เค้าก็ตามใจเบ่บี๊แล้วนะ”
เด็กหนุ่มไม่พูดอะไรได้แต่เกาะแขนพลกฤษณ์ คนทั้งคู่เห็นอย่างนั้นก็เลยต้องขอตัวออกมา
“ผมไปก่อนนะพี่” ศิริพจน์บอกลา และหยิบหนังสือสองเล่มที่เลือกไว้ ก่อนจะจูงมือพีร์ไปที่แคชเชียร์
“คุณแจ๊ค นั่นใครเหรอ...” เด็กหนุ่มสอดรู้บ้าง
“อ่อ เพื่อนของเจย์หน่ะ”
“และเค้ามากับแฟนเหรอ”
“อืม ทำไมเหรอ”
“เปล่า ๆ น่ารักดีเนอะ อีกคนก็หล่อ อีกคนอ้วนไปหน่อยแต่ก็น่ารัก เหมาะกันเนอะ”
“อืม น่ารักดี” พลกฤษณ์เห็นด้วย แต่เขาก็นึกถึงเพื่อนที่ป่านนี้สร่างเมาแล้วหรือยังก็ไม่รู้

  พลกฤษณ์มองตามร่างอวบที่มีท่าทางแจ่มใสนั้นออกไป พีร์กับศิริพจน์ดูมีความสุขเมื่อมีกันและกันดีอยู่แล้ว ศิลาก็น่าจะเข้าใจอะไรใหม่ซะบ้าง
“ทำใจเหอะว่ะ หยก” เขาคิดในใจ 

“สวัสดีครับพี่โจ้” พีร์ทักทายศิลาในร่างแฝงของนายโจ้ใน MSN
“ครับ หวัดดีครับพี”
“พี่โจ้เป็นไงมั่งคับ ไม่ได้คุยกันนานเลย”
“อ่อ พี่ก็สบายดี พีล่ะ”
“เรื่อย  ๆ เหมือนกันคับ”
“เอออ ปีใหม่นี้จะไปเที่ยวไหนหรือเปล่า” เขาถาม เพราะว่าเดือนนี้ก็เข้าสู่ปลายปีแล้ว
“ยังไม่รู้เลยครับ คิดว่าจะกลับบ้าน”
“อ่อ เหรอ แล้วบ้านเราอยู่ที่ไหนล่ะ”
“ขอนแก่นครับ” พีร์โกหกไป
“อืม เหรอ ดีเนอะได้เข้ามาทำงานในกรุงเทพ พี่เนี่ยะอยู่ระยองมาตั้งแต่เกิดจนทำงาน ไม่ได้ไปไหนเลย 55”
“คับ ผมว่าก็ดีเหมือนกันนะ”
“อ่า คับ” เขาพิมพ์ต่อ “น้องพีคับ พี่ตามไปคุยกับน้องเขาแล้วครับ”
“น้องเขาบอกว่าเรื่องของเรามันจบแล้ว”
“ครับ” พีร์ตอบรับ
“แต่พี่ก็ยังรักน้องเขามากหน่ะครับ พี่จะทำไงดี”
“ผมว่า พี่ก็รักเขาต่อไปหน่ะแหล่ะครับ แต่พี่แค่ไม่ได้อยู่กับเขาแล้วก็เท่านั้น” พีร์พิมพ์ต่อ “คนเรารักกันเป็นเรื่องที่ดีนะครับผมว่า และพี่ก็น่าจะดีใจนะที่เห็นคนอื่นมาดูแลเขาแทนพี่ได้”
“คับ ขอบคุณน้องพีมากนะคับ”
“ไม่เป็นไรคับพี่ คิดมาก”
  ศิลากรุ่นคิดอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เขาย้อนดูตัวเอง ก็คิดได้ว่าเห็นทีเขาจะต้องเป็นไปตามที่พีร์บอกซะแล้วว่าให้หักห้ามใจเสียบ้าง ถ้าเรื่องมันเป็นไปแบบนี้แล้ว
แต่คงจะเลิกรักพีร์ไม่ได้ เขาคิดอย่างนั้น

   พีร์ปิดคอมพิวเตอร์ และหันไปมองศิริพจน์ที่กึ่งนั่งกึ่งนอนตร่ำเคร่งกับการอ่านหนังสืออยู่บนเตียง  เขารู้สึกว่าชายหนุ่มจะจริงจังอะไรกับการอ่านหนังสือหนักหนา เพราะว่าเจ้าตัวก็พ้นวัยแห่งการอ่านหนังสือสอบมาแล้ว และอีกอย่างที่เขานึกขัดใจก็คือศิริพจน์ออกจะไม่ค่อยสนใจในเรื่องอย่างว่าซะเท่าไหร่  เพราะตั้งแต่ตกลงปลงใจกันครั้งนั้นแล้ว ศิริพจน์กับเขาก็ใช้เวลาบนเตียงกันนับครั้งได้
   อาจจะเป็นเพราะว่าศิริพจน์เป็นมือใหม่ แต่ศิลาเองก็ใช่ว่าจะเคยกับผู้ชายมาก่อน
 เขานึกถึงศิลา ที่แทบไม่เคยปล่อยเวลาการอยู่ด้วยกันให้เป็นอย่างอื่น ศิลาเป็นผู้ชายที่มีความต้องการในตัวเขาสูงมาก และเขาเองก็ต้องการในรสรักของชายหนุ่มเช่นเดียวกัน ถึงแม้บางครั้งเขาไม่มีอารมณ์ร่วมในตอนแรก แต่ฝ่ายนั้นก็สามารถทำให้เขาถึงสวรรค์ได้เช่นกัน 
   แต่กับศิริพจน์ เขาก็ให้อภัยความเป็นมือใหม่ บางครั้งพีร์เองก็มีความต้องการจึงต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อน แต่ศิริพจน์ก็ตอบสนองเขาได้ไม่ขาดตกบกพร่อง
  เขานึกถึงคำพูดของตัวเอกในภาพยนตร์รัสเซียเรื่องหนึ่งในทำนองที่ว่า “คนทำงานเกี่ยวกับหุ้นจะเซ็กส์เสื่อมเพราะว่าอารมณ์แปรปรวนตามตลาดหุ้น” แต่เมื่อเห็นคนข้าง ๆ แล้วก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะจริง
“พจจจจจ” พีร์เรียกให้คนที่อ่านหนังสืออยู่มาสนใจตนบ้าง
“หืม..มีอะไร”
“พจจ นี่พจไม่สนใจเค้ามั่งเลยเหรอ”
“ทำไมอ่ะพี คุณมีอะไรหรือเปล่า”
“ก็เห็นกลับมาอ่ะ ไม่คุยกับพีเลย”
“อ่าวก็ขออ่านหนังสือมั่งไม่ได้เหรอ” เขาตอบไปงง ๆ
“พจ..” พีร์เริ่มยั่วยวน “เราไม่ได้ทำกันนานแล้วน้า..” มือน้อย ๆ นั้นเริ่มซุกซนบนช่วงล่างของศิริพจน์อย่างปลุกอารมณ์ เขาก็ยอมรับหล่ะว่าก็ต้องการอะไรในด้านนี้เหมือนกัน เพียงแต่ตอนอยู่กับศิลา เขาแทบไม่ค่อยได้เริ่มเองเลย
   ศิริพจน์เริ่มรู้ตัว ว่าละเลยหน้าที่นี้ไป เขาวางหนังสือลงบนหัวเตียง และเข้าไปหอมแก้มคนรัก ก่อนจะทาบทับบนตัวพีร์
“ผมขอโทษ ผมไม่รู้ว่าจะทำบ่อยแค่ไหนดีหน่ะ”
“ก็ทำเรื่อย ๆ หน่ะแหล่ะ” พีร์หยิกแก้มศิริพจน์ที่อยู่ตรงหน้าอกอย่างหมั่นเขี้ยว “ไม่ชอบทำเหรอ นี่พจเซ็กส์เสื่อมป่ะเนี่ยะ ”
ศิริพจน์ได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มยั่ว แล้วจับมือนิ่มของพีร์ที่กำลังปลุกปั่นอารมณ์เขาอยู่ ก่อนกระซิบว่า
“ถ้าเสื่อม แล้วคุณยังจะรักผมไหม”
“ไม่รัก” เขาตอบยิ้มยั่ว ศิริพจน์นั้นยิ้มขำกับคำตอบ และมอบจูบอ่อนหวานให้กับคนช่างยั่วของเขา  มือน้อยสองข้างของพีร์ค่อยประคองศรีษะศิริพจน์ที่กำลังถอดเสื้อเขาอยู่ ศิริพจน์ก้มลงดูดดุนหาอกอิ่ม และความต้องการของพีร์กับเขาก็ได้รับการเติมเต็มสมใจพวกเขา

  ศิริพจน์กับพีร์นอนกอดกันในความมืดหลังจากเสร็จภารกิจรัก พีร์แหงนมองเจ้าของอ้อมกอดที่เขาซุกอิง เขาชอบมองหน้าศิริพจน์ยามหลับ เพราะสีหน้าของอีกฝ่ายนั้น ฉายแววแห่งความอบอุ่นแม้กระทั่งยามหลับ
  ทำให้เขารู้สึกว่าเขาได้รับการปกป้องจากศิริพจน์ตลอดเวลา
  แต่ในใจเขาก็นึกขอโทษศิริพจน์อยู่เช่นกัน เพราะเหมือนบางทีเขาก็เอาแต่ใจกับชายหนุ่มมากเกิน แต่ศิริพจน์เองก็ไม่ได้ว่าอะไรเขา มิหนำซ้ำยังดูแลเอาใจใส่เขาไม่เคยขาดตกบกพร่อง
 ตอนที่ศิริพจน์แนะนำว่า เขาเป็นแฟนกับคนอื่นที่รับได้ มันทำให้เขารู้สึกตื้นตันใจ ที่ชายหนุ่มให้เกียรติเขาเป็นอย่างดี
   จะหาแฟนดี ๆ อย่างนี้ได้ที่ไหนอีกล่ะเรา เขาบอกกับตัวเองอย่างนั้น พร้อมกับลูบหน้าหล่อเหลาอย่างซาบซึ้งในความรักที่ศิริพจน์มอบให้
  แต่ทำไม เขากลับลืมศิลาไม่ลงเสียที..
 เอาเถอะ หวังว่าเวลา กับความรักของศิริพจน์ จะช่วยปัดเป่าอตีดของเขาได้ เขาคิดอย่างนั้น

ออฟไลน์ wowhaha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #238 เมื่อ16-05-2010 18:40:15 »

พี เห็นแก่ตัว

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: <เรื่องสั้น> เด็กฝึกงาน
«ตอบ #239 เมื่อ16-05-2010 18:41:25 »

ปวดเศียรเวียนเกล้าเป็นที่สุด :z3:
พีร์จ๋าาา...เค้าสงสารพี่หยก แต่ว่าอยู่กับพจน์มันก็ไม่ผิดต่อใคร
ทางออกมันอยู่ไหนเนี่ย ทำไมตอนนี้เค้าหาไม่เจออ่าา :monkeysad:
+1 ขอบคุณค่ะ รออ่านตอนต่อไปน้าา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด