เจ็บ....เจ็บคอ เจ็บหน้า เจ็บหลัง และปวดร้าวไปหมดทั้งตัว สติที่เลือนราง สมองที่มึนเบลอรับรู้ได้ถึงบางอย่างแข็งๆอันเป็นที่ๆตนเองแนบแก้มลงไป..สัมผัสตอนแรกนั้นแข็งกระด้าง หากนานไปกลับอุ่นร้อน..มีชีวิต เคลื่อนไหวให้รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนและยังให้สติกลับมาแจ่มชัด
นัยน์ตาที่ปวดบวมลืมขึ้นมาช้าๆ ที่มองเห็นไม่ใช่สิ่งที่น่าประกหลาดใจแต่อย่างใด เสื้อสีน้ำตาลเข้มหากซีดจางและปรากฏร่องรอยความสกปรกเบาบางตามวันเวลาแสนคุ้นตาและชวนให้หัวอกเจ็บแปลบ ผมจ้องมองมันนิ่ง..มองแผ่นหลังกว้างที่บัดนี้กลายเป็นที่ให้ผมพักพิง มองกระดูกสะบักไหล่ที่เคลื่อนไหวไปตามการขยับกายแต่ละก้าว..แต่ละก้าว ยิ่งมองลำคอยิ่งตีบตัน ความขมปร่าแสบร้อนเล่นวาบจากกระเพาะมาจนถึงจมูก..
เจ็บ....
ไม่ได้เจ็บแค่ร่างกาย..กับตัวผมจะถูกทำร้ายถูกซ้อมปางตายยังไงมันก็แทบจะเป็นเรื่องที่ตัวเองคุ้นชิน ความเจ็บนี้รักษาได้ ต่างกับเจ็บในอีกที่หนึ่งซึ่งไม่อาจรักษาหาย
..ตอนนี้ผมกำลังเจ็บที่ใจ
เจ็บที่ตัวเองไร้ค่าไม่พอ ยังเจ็บที่ตัวเองโง่...โง่ไม่ประมาณตน โง่ที่คิดกระเสือกกระสนจนทำให้คนอื่นต้องมาลำบาก
ผมตั้งใจจะทำคนเดียว จะฆ่าตัวตายคนเดียว ผมบอกพี่โตว่าคิดถึงใจแม่กับน้องที่จะรู้สึกอย่างไรถ้ารู้ว่าผมยังทำตัวไม่ดีต่อ แต่..กลับกันแล้ว ไม่ได้นึกถึงคนข้างหลังเลย ไม่ได้นึกถึงพี่โตคนที่รักผมและคอยดูแลผมสักนิด..
ผมกลั้นสะอื้น...พยายามจะไม่ร้องไห้ นัยน์ตาหรุบต่ำเสมองบรรยากาศรอบกายเริ่มเย็นลง แสงอาทิตย์ยามเย็นสาดเข้ามากระทบดวงตาบวมช้ำของผม หากแต่พยายามกลั้น น้ำใสๆก็ยังคงเอ่อไหล ท่วมนองขอบตาลงมายังผิวแก้มจนได้ พยายามปาด พยายามเช็ด ด้วยไม่อยากจะร้องไห้สะอึกสะอื้นให้คนที่กำลังอุ้มผมขี่หลังไม่สบายใจอีก ตอนนี้ผมไม่คิดแล้วว่าตัวเองโกรธพี่โต หรือถูกพี่โตเกลียด ไม่อยากรู้ ไม่อยากจะสน เพราะหัวใจมันก็บอกออกมาชัดเจนแล้วว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผู้ชายคนนี้ก็ยังคงรักผม
เอื้อมแขนสองข้างตวัดลำคอหนา พาดแขนลงกับไหล่ของพี่โตแล้วกอดแน่น ผมสะอื้นเบาๆในลำคอ กอดผู้ชายตรงหน้าไว้แน่นขณะที่เขาพาร่างผมลากขาออกจากเรือนจำพิเศษอย่างเชื่องช้า..เพื่อที่จะไปปยังแดนสิบสอง..ที่ๆเคยเป็นนรกอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น แต่..นรกนี้ก็คือบ้านที่พักพิงเช่นเดียวกัน
"พี่โต...."ผมรู้สึกว่าน้ำเสียงของตัวเองสั่น...สั่นคลอและเหมือนจะร้องไห้ออกมาด้วยความรั้สึกอัดอั้น ตอนนี้ผมคิดหาทางออกไม่เจอ ไม่รู้จะทำยังไง ไม่รู้จะไปทางไหน ทำแบบไหนก็ต้องลำบาก หันไปทางไหนก็มีแต่มีคมๆปักรออยู่ทั้งนั้น
ไอ้เนมเม้มปากแน่น..สมองพลันคิดถึงอดีต ชั่วขณะหนึ่งนึกอยากจะเสียใจภายหลัง เพราะถ้า...ถ้าหากผมไม่คิดจะห้าม บางที...บางทีเรื่องอาจจะไม่เป็นแบบนี้
แต่..พอลองคิดดูแล้ว ไม่ว่ายังไง ผมก็หนีไม่พ้น
..เพราะแผนมันถูกวางมาเรียบร้อยแล้ว..
ทั้งผม ทั้งพี่โต และทุกๆคนถูกบงการ ชักไยให้เป็นไปตามความต้องการของคนอื่น หากพวกเขาต้องการไม่ว่าอย่างไรก็ต้องได้ทั้งนั้น..
ต่อให้ผมไม่คิดจะห้ามพี่โต ผมก็ต้องถูกเจอโทรศัพท์และต้องถูกพัศดีเรียกไปอย่ดี และต่อให้ผมไม่ยอมรับปากจะทำ ผมก็คงโดนขังหรือโดนอะไรร้ายแรงกว่านี้ และนั่นก็คงจะกระตุ้นให้พี่โตบ้าเลือดยกพลขึ้นก่อความวุ่นวายเพื่อฉะกับพัศดีเร็วกว่าเดิม..
ไม่ว่ายังไง...ก็ไม่มีทางหนี
เป็นแค่เบี้ยตัวหนึ่ง เป็นแค่หมากตัวเล็กๆ เดินได้ทีละช่อง..ขยับตามปลายนิ้ว และมักเป็นตัวที่ถูกใช่หลอกล่อ และยอมเสียให้โดนกินเพื่อจะคงไว้ซึ่งหมากตัวที่สำคัญกว่าเสมอ
ผมมันก็ไม่ต่างอะไรกับหมากตัวนั้น
สถานการณ์ในเรือนจำตอนนี้ก็ไม่ต่างกับหมากกระดานหนึ่ง ที่มีผู้เล่นสองฝ่ายนั้นคือป๋ากับพัศดี
... และบัดนี้ ต่างฝ่ายก็ต่างต้องการจะใช้"เบี้ย"อย่างผมเดินเกมส์ของตัว
"เจ็บมากไหม"ผมละจากภวังค์เมื่อได้ยินน้ำเสียงเอ่ยถามแผ่วเบาแสนคุ้นหู หากความห่วงหาที่แฝงมากับประโยคนั้นทำให้ผมนิ่ง..ไพล่นึกไปว่าบางทีตัวเองคงจะหูฝาด เพราะพี่โตโกรธผมอย่ และควรจะโกรธกว่าเดิมด้วยเพราะผมทำให้พี่โตซวยและโดนตำหนิเช่นนี้ ความห่วงหาที่เจือปนมากับน้ำเสียงนั้นคงเป็นการคิดไปเอง ถ้าผมไม่สามารถสัมผัสได้ถึงหางเสียงที่สั่นไหวอยู่ในลำคอของคนรัก
ผมกระชับแขนกอดคอพี่โตแน่นขึ้น ใบหน้าเอียงไปมองใบหน้าพี่โตคล้ายสงสัย หากแต่ภาพที่ปรากฏกลับทำให้ผมนิ่ง
"พี่...พี่ไปทำอะไรมา ทำไม...เลือดมันถึง..."ผมเอ่ยถามกุกกัก ทั้งตกใจและช๊อคไม่น้อยที่ได้มองเห็นรอยเลือดจากผิวแก้มและลำคอของพี่โต และยังไม่เข้าใจ ว่ามันอะไร เพราะอะไรพี่โตถึงถูกทำร้าย ทำไม...ทำไมกัน
หรือมันเกิดอะไรขึ้นตอนที่ผมสลบไปเพราะทนความเจ็บปวดจากการถูกทำร้ายไม่ไหว?
"พี่โต...พี่เจ็บมากไหม?"ฝ่ามือที่สั่นระริกของผมเอื้อมไปแตะผิวแก้มของคนรัก น้ำเสียงสั่นพร่าไหวในลำคอด้วยความรู้สึกผิดและความเจ็บปวดที่เเล่นเข้ามาในหัวใจ ผมจ้องมองเสี้ยวหน้าของคนที่ตัวเองรัก พี่โตยังคงไม่หันหน้ามาหา ใบหน้าเปื้อนรอยเลือดจ้องมองตรงไปยังทางเบื้องหน้าไม่มีท่าทีจะอนาทรใดๆ
ท่าทีนั้นยิ่งสั่งผมให้ร่างทั้งร่างนิ่งงัน ด้วยความหวาดกลัวว่าผมอาจจะถูกรังเกียจแบบนี้ตลอดไป
กับ...คนที่เอาแต่สร้างปัญหา คนที่คอยจะขัดขวาง ก็ควรถูกทิ้ง
ของไร้ประโยชน์
คนโง่
ป๋ากับผู้พันและลุงชาติบอกไว้แบบนั้น
"พี่...โต ผม"
"เงียบซะ"พี่โตเอ่ยขัดคำถามของผมก่อนด้วย้ำเสียงเรียบๆ ใบหน้าชาเฉยนั้นหันมามอง หน้าผมเพียงครู่ก่อนจะเบือนไปทางอื่น กริยาเพียงเท่านั้นแต่สร้างความรวดร้าวเสียดแทงเข้าไปในหัวใจได้อย่างง่ายดายนัก แต่ไม่ทันจะร้องไห้ ฝีเท้าที่หยุดลงและดวงตาคู่คมที่แสนคุ้นหันมาสบตาก้ทำให้คำพูดของผมถูกกลืนเข้าไปในลำคอ
ยิ่งฝีเท้าหยุดลงยิ่งนึกใจหาย หรือท่ามกลางรั้วลวดหนามและจากสายตาของผู้คุมสที่ยืนฟังทั้งสองฝั่ง..ผม...จะถูกรังเกียจและทอดทิ้งก็วันนี้
"แค่แผลที่มือ ตอนปัดมีดไอ้ผู้พันออก" พี่โตหันมาสบตาผมแล้วเอ่ยปากสั้นๆ แต่ใจความนั้นกหลับทำให้ผมชะงัก เมื่อนึกถึงผู้พันและเหตุการณ์ที่ตัวเองใกล้จะสลบ
ที่แท้เสียงโวยวายคุ้นหูนั่นคือพี่โตเองเหรอ เสียงโครมครามที่ดังแทรกสติอันเลือนรางคือเสียงพี่โตอย่างนั้นใช่ไหม
รู้ดีว่าอุ้มคนต้องใช้สองสองมือประคองแต่ผมก็ยังไม่คิดจะสน ไอ้เนมเอื้อมมือไปกำมือพี่โตแน่น ดึงออกมาจ้องมองเห็นรอยแผลที่ฝ่ามือหนานั้นด้วยดวงใจที่ปวดร้าว ร่างที่ลุกขึ้นยืนอีกครั้งหลังจากพี่โตปล่อยให้เดินเท้าลงเองโงนเงนขาสั่นเหมือนจะพับลงไม่วินาทีใดก็วินาทีหนึ่ง..
รอยแผลไม่ได้มากมาย ไม่ได้ใหญ่โต เลือดไม่ไเด้เยอะ ไม่มีอะไรผิดแผลกจากแผลทั่วไปมากนัก แต่ผมกลับมองมันด้วยความรู้สึกผิดที่ท่วมทั้น และยิ่งละอายใจมากขึ้นเมื่อสบตาคู่นั้นแล้วพี่โตไม่มีท่าทีเคืองโกรธอันใดเลย..
ทั้งๆที่คนรักซึ่งทรยศแฟนตัวเองอย่างผม ไม่ต้องตาม ไม่เห็นต้องคอยมาทำถึงขนาดนี้..
"ขอโทษ...." เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นไหว ดวงตาเบิกกว้างสั่นระริก..รู้สึกถึงลำคอที่ตีบตันเมื่อคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา
นี่เรากำลังทำอะไรกันอยู่?
ทำไมถึงเอาแต่ทำร้ายกัน ทำไมถึงได้เอาแต่วนเวียน หลงวนอยู่ในทางแคบๆ
ผมคิดไปในทางของผม พี่โตคิดไปในทางของพี่โต แล้วทำไมเราไม่คุยกัน..
เราเป็นคนรักกัน ทำไมถึงไม่คุยกัน ทำไมเราถึงได้เอาแต่ทำร้ายอีกฝ่ายไม่มีหยุด
เรื่องมันเริ่มมาจากไหน เรื่องมันเกิดจากอะไรผมแทบลืมมันไปแล้ว แต่ทำไม ทำไมต้องทำให้ผมและคนผมรักต้องเจ็บด้วย
"พอได้แล้ว "พี่โตบอกเสียงสั่น นัยน์ตาสีเข้มที่มีร่องรอยช้ำจ้องมองสบตาผมนิ่ง..เงียบงันอยู่ท่ามกลางบรรยากาศยามเย็นของเรือนจำแดนสิบสอง
"ขอโทษ"
"บอกว่าพอไงล่ะ" พี่โตปฏิเสธคำพูดของผม จากนั้นร่างสูงก็นิ่ง ใบหน้าที่เคยสบตาผมมองออกไปยังเบื้องหน้า อันเป็นทางเดินเข้าสู่แดนสิบสองท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่ส่องแสงยามเย็น
"เนม" ฝ่ามือของพี่โตแตะลงที่ไหล่ บีบเบาๆหากช่วยคลายความไม่มั่นใจได้อย่างไม่น่าเชื่อ
"ถ้ากูต้องจำคุกตลอดชีวิตมึงจะยังอยู่ที่นี่ไหม?"
"ถ้ากูหายไปล่ะ มึงจะทำยังไง"
"ถ้า..."
"พี่เป็นยังไง ผมก็รักทั้งนั้น" ผมยิ้มเฝื่อนให้พี่โตพร้อมกับสูดหายใจลึก ตอนนี้ผมไม่ได้คาดหวังให้พี่โตเปลี่ยนใจหรือเปลี่ยนอุดมการณ์แล้ว ใจคนมันเปลี่ยนยาก และหากการเปลี่ยนนั้นจะทำให้ต้องไม่มีความสุขผมก็ตัดสินใจว่จะไม่ทำ และต่อให้มันไม่สำเร้จ พี่โตต้องเจอโทษจำคุกเพิ่มหรืออะไรก็ช่าง แต่ไม่ว่ายังไง ผมก็จะอยู่ข้างพี่โต.. อยู่ด้วยกันแบบที่เคยพูดไว้
..จะไม่ทอดทิ้ง จะไม่ไปไหน ต่อให้นาน..นานเพียงใดก็จะรอ
ขอแค่ได้อยู่ด้วยกัน..ขอแค่ได้รักกันเท่านั้น
"..ความจริง การได้ไปครั้งนี้ ก็ดีอยู่หรอก " จู่ๆพี่โตก็เปลี่ยนเรื่อง ใบหน้าก้มมองฝ่าเท้าตนเองแล้วถอนหายใจปนยิ้มเฝื่อนๆ "ก็คงดีหากไม่รู้ คงจะดีถ้าทำเป็นไม่สนใจซะ..ทุกทีกูทำเฉย เห็นพวกมันทำกับลูกน้องแบบไหนก็ยังเฉย เพราะกูคิดว่ามันไม่เกี่ยวกับกู"
"แต่ตอนนี้..."พี่โตเม้มปากแน่นพลางสูดหายใจลึก
"ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว กูเห็นพวกมันทำกับมึงถึงได้รุ้ว่าพวกมันเหี้ยบัดซบแค่ไหน..คิดแล้วนึกสมเพช..กูก็รู้อยู่ว่าพวกมันไม่ใช่คนเลว บอกตัวเองว่าอย่าไปเชื่อใจคนแบบนั้น..แต่กูก็ยังทำตามคำสั่ง ยังยอมฝากชีวิตกับพวกมัน ยังเชื่อ...ทั้งๆที่ไม่ควรจะเชื่อว่าลูกพี่อย่างมันจะให้ชีวิตใหม่กับกูถ้าได้ออกไปข้างนอกนั่น ทั้งที่เห็นอยู่กับตาว่ามันทำยังไงกับลูกน้องของตัวเอง.."
พวกคนกลับกลอก สับกลับ ไม่เคยสนใจลูกน้อง ไม่เคยสนใจใครนอกจากตัวเอง
โตยังเคยคิดจะช่วยพวกมัน เคยคิดจะรับใช้ ยอมเดินอยู่ในเส้นทางมืดเพื่อให้คนที่เขารักได้มีความสุข
แต่นี่มันไม่ใช่แล้ว พอมาเจอกับตาตอนนี้ยิ่งรู้ว่าโลกที่มืดมิดของพวกมันเป็นแบบไหน และคนพวกนี้ไร้หัวใจเพียงใด
ทั้งที่รับปากว่าจะไม่ทำอะไรก็ยังลงมือ ทั้งที่บอกว่าพูดความจริงกลับโกหกหลอกลวง..คนแบบนี้ไม่สมควรฝากชีวิตไว้กับมัน
คิดว่าถ้าออกไปได้จะมีความสุขเหรอ...น่าขำ เขากำลังจะพาตัวเองและคนที่เขารักเดินลงเหวมากกว่า
พวกป๋ามันคิดจะใช้คนอื่น..
โตนึกสังหรณ์ใจมาตั้งแต่พบกันครั้งที่แล้ว..และมันยิ่งทำให้เขาตัดสินใจได้ชัดเมื่อเห็นพฤติกรรมของพวกมันในวันนี้
เขาจะไม่ยอมเป็นเหยื่อ..
"กูจะไม่ยอมแขวนชีวิตตัวเองไว้กับลูกพี่เหี้ยๆแบบนี้อีกแล้ว"
....................
จะบอกว่าความจริงตอนนี้เขียน(เกือบ)จบตั้งแต่วันที่18 แล้วไม่ได้เอามาลง //กราบขอขมา

พจญกับพายุต้นฉบับจนแทบไม่ได้หายใจหายคอ พอต้นฉบับเสร็จมีเรื่องอื่นมาแทรกต่อ โอ้ว Shit happens! จริงๆ ขอโทษด้วยนะคะ
ส่วนตอนนี้...พี่กันย์...พี่กันย์ที่รัก

แฮปปี้คิดมากที่ผ่านมาแล้ว กับสวัสดีปีสิ้นโลกที่กำลังจะมาถึงค่า

(คำอวยพรโลกไหนของแกว่ะ-*-)