"นั่งลง" หลังจากแบกผมเดินข้ามมายังแดนสิบสอง ผ่านการตรวจตราจากผู้คุมที่เฝ้าประตูด้านหน้ามาแล้ว พี่โตก็พาผมมาในห้องน้ำ คนตัวโตทำหน้านิ่งๆสั่งการให้ลูกน้องไปหยิบผ้าพันแผลและยาจากพี่กันย์แล้วเอามาให้จากนั้นมันก็หายหัวไปเงียบๆ แม้จะอยากถามว่าทำไมไม่ไปทำแผลที่ห้องพยาบาล แต่ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์จะขัด ในเมื่อพี่โตพอใจจะทำแผลให้ผมที่นี่ ผมก็จะอยู่ที่นี่
สายน้ำเย็นๆลูบผิวกายที่เสียดร้าวจนแสบวูบ ปลายนิ้วที่ไม่ได้ออกแรงอะไรมากนักแตะลงไปเบาๆแต่มันก็ยังรุนแรงพอที่จะทำให้ผมครางออกมาด้วยความเจ็บปวด
"ทนหน่อยนะ"พี่โตเอ่ยปากเบาๆ เสียงของเขาสะท้อนอยู้ในห้องอาบน้ำที่เงียบงันไร้ผู้คน
"แล้วพี่ล่ะ?"ผมเอ่ยถาม เพราะพี่โตก็ไมีแผลไม่น้อย
"นิดเดียว" คนพูดพ่นลมหายใจช้าๆ "ของกูมันโดนหน้าเลยดูเหมือนแผลเยอะ แต่มึงไม่ใช่...นี่ยังมาซ้ำรอยจากที่เคยโดนพวกนั้นมันลากไปอีก"
สีหน้าของพี่โตเมื่อเอ่ยถึง"พวกนั้น"ที่รู้ดีกว่าพวกไหนแฝงความเจ็บปวด สีหน้าเคร่งเครียดนั้นทำให้ผมรู้ว่าตนเองก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่พี่โตเอ่ยปฏิเสธไม่อยากร่วมมือกับพัศดีเช่นกัน สำหรับพี่โตมันคงยากจะทำใจหากต้องไปร่วมมือกับคนที่ทำร้ายคนที่ตนเองรัก
...ทั้งที่ผมสำคัญสำหรับเขามากนัก มาดูตัวเองยามนี้แล้วช่างนึกละอายใจ
"พี่...." ผมขยับริมฝีปาก
"เลิกเอาตัวไปเสี่ยงแบบนี้ได้แล้ว อย่าคิดว่าแค่เจ็บตัวไม่ได้เป็นอะไรมากนักหนา ตัวคนไม่ได้ทำจากเหล็ก พังไปแล้วมันซ่อมไม่ได้" วาจาสั่งสอนจริงจังจากคนตรงหน้าที่ไม่ได้มีบ่อยนักทำให้ผมนิ่งเงียบ "มึงก็รู้อยู่ว่าตัวเองเป็นเป้าหมายแต่ก็ยังชอบทำนิสัยแบบนี้ ทำรนหาเรื่อง ประชดให้ตัวเองเจ็บตัวแล้วคิดว่าไม่เป็นอะไร..เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร...น่าหงุดหงิดมาตั้งแต่ตอนนั้น..."
ริมฝีปากของพี่โตเม้มเข้าหากันช้าๆนัยน์ตาขุ่นมัวขณะหยิบเอายามาทาที่แผลตรงขมับของผม คำพูดนั้นชวนให้คิดถึงเมื่อครั้งที่ผมมาที่นี่ ผมที่เคยยั่วโมโหให้พี่โตโกรธจนถึงขั้นโดนรุมซ้อมกลางโรงอาหารและโดนบังคับให้กินอาหารเหมือนหมา ตอนนั้นผมยังจำได้ถึงความรู้สึกปวดแสบปวดร้อนและความทรมารของศักดิ์ศรีที่ถูกเหยียบย่ำ จึงได้ประชดประชันทำตัวโง่ๆลงไป ถูกต้องที่ว่าตอนนั้นความสะใจและศักดิ์ศรีที่คำคอมีค่ามากกว่าร่างกายของตัวเองเสียด้วยซ้ำ ถึงมันจะเป็นการกระทำโง่ๆแต่ตอนนี้หากย้อนกลับไปยามนั้นผมก็คงจะทำแบบเดิม ทว่ามันก็จริงที่ว่าผมชอบแส่หาเรื่องเจ็บตัวไม่เข้าท่า
คิดแล้วเงยหน้าไปมองเสี้ยวหน้าของพี่โตที่กำลังทำแผลให้ผมอยู่ จำได้ดีว่าตอนเจอกันแรกๆเป็นแบบไหน พี่โตคนที่เคยโหดร้ายและชอบหงุดหงิดใส่ผม ทำตัวเลวร้ายไม่สนใจใคร ชอบกลั่นแกล้งและทำตามอารมณ์ของตนเอง คนที่ผมประณามว่าเลวนักหนา คนที่ใจร้ายจนไม่คิดจะให้อภัย ทว่าเวลาผ่านไปกลับเป็นเขาที่กำลังทำแผลให้ผมและห่วงใยกันอยู่ตรงนี้
ก้อนสะอื้นแล่นเข้าจุดคอเงียบๆเมื่อคิดถึงอดีตที่ผ่านผันไป และคิดขึ้นมาได้ว่าผมมันช่างโง่และบ้าเสียจริงๆ..
"เสร็จแล้ว" คนตัวโตถอนหายใจเบาๆพลางยันกายลุกขึ้น จากท่านั่งคุกเข่า ผมเอื้อมมือคว้าแขนพี่โตไว้เมื่อเห็นท่าทีว่าเขากำลังจะก้าวเดินออกไป แม้พี่โตจะเอ่ยปากให้อภัยทว่าก็ยังมีท่าทีปึ่งชา เพราะรอยแผลที่เกิดขึ้นนั้นยังสดใหม่เกินกว่าจะทำเป็นไม่รู้สึกรู้สา ผมบีบแขนหนานั้นเบาๆพลางออกแรงฉุดรั้งให้พี่โตนั่งลงบนขอบอ่างซีเมนต์บ้างพร้อมกับดันตัวลุกขึ้น
"เดี๋ยวผมทำแผลให้ "ผมเสนอตัวพลางหยิบยาจากมือพี่โต
"ไปกินข้าวก่อน ถึงเวลาแล้ว" พี่โตส่ายหน้าแล้วทำท่าจะลุกขึ้น จากสีหน้าท่าทางก็ยิ่งชัดว่ายังไงมีอาการเคืองใจไม่น้อยจากเหตุการณ์ที่ผ่านมามองแล้วก็อดจะใจเสียไม่ได้
ผมมองตามอัปกริยานั้นแล้วขมวดคิ้ว ริมฝีปากเม้มแน่น..
"ผมไม่หิว" เอ่ยปากทั้งที่กระเพาะร้อนวาบ ฝ่ามือกระตุกดึงไม่ให้พี่โตลุกออกไปได้และเมื่อเห็นว่าจะรั้งไม่ไหว ผมจึงรีบวางมือลงบนบ่า โผนกายเข้าทับ
"ไม่หิวอะไร เลยเวลา...เฮ้ย!" พี่โตบ่นแล้วอุทานออกมาไม่ทันเมื่อเข่าของผมที่วางลงบนขอบซีเมนต์ลื่นพรืดจนเสียการทรงตัว เพียงแต่ไม่ได้ไปคนเดียวเพราะมีร่างของพี่โตที่ถลามาหา แน่อยู่แล้วว่าพี่โตไม่อยากให้ผมเจ็บตัวอีก แผลแต่ละแผลที่ผมได้มันก็เหมือนจะทำร้ายพี่โตไปด้วย และนั่นจึงไม่น่าแปลกอะไรเมื่อพี่โตเป็นฝ่ายพลิกตัวผมให้คร่อมทับแล้วเอาหลังกระแทกพื้นแบบเต็มๆ
"เจ็บรึเปล่า " ผมถามเสียงอ่อย เมื่อเสียงนั้นมันดังไม่ใช่น้อย
"เจ็บ! มึงนี่นะ..."
"ขอโทษ" ผมเอ่ยปากเสียงอ่อย จ้องมองสีหน้าที่ทั้งโกรธเคืองและคล้ายระอาใจของพี่โต ความรู้สึกหลายอย่างที่ยังคงตื้อตันในอกยิ่งโหมทวี นิ่งไปเพียงครู่น้ำตาเม็ดโตๆก็ไหลออกจากดวงตาอย่างรวดเร็ว
"เนม..." พี่โตผุดกายลุกขึ้นเงียบๆ ทว่าผมที่นั่งอยู่บนตักยังไม่ยอมหยุดเสียงสะอื้นนั้น
"เกลียดผมแล้ว ไม่ให้อภัยผมจริงๆใช่ไหม?" ผมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงรวดร้าว
"กูบอกว่าเรื่องมันจบไปแล้ว แค่อย่ามีอีก.." พี่โตถอนหายใจเอือก แต่กระนั้นก็ยังหลบตา
"บอกแบบนั้นแล้วหลบตาทำไม!พี่กำลังโกรธผม เกลียดผมอยู่ชัดๆ ถ้าพี่ไม่อยากให้อภัยผมก็บอกสิ ผมจะได้ขอโทษ! ขอโทษจนกว่าพี่จะใจอ่อนจริงๆ จะทำทุกอย่างให้พี่ยกโทษให้ จะยอมทรมารให้สมกับความโง่ของผม พี่อยากได้อะไรก็พูดมาเซ่ !" ผมเบ้หน้า ตะโกนใส่พี่โตอย่างเหลืออด "อย่าทำเฉยกับผมแบบนี้น่ะ ทำแบบนี้ใจร้ายกับผมยังดีซะกว่า แบบนี้มันเหมือนพี่เกลียดผม ไม่สนใจผมอีกแล้ว ผม..."
"พอแล้ว" แขนหนาๆกอดรัด ร่างสูงโถมกายเข้าหาผมแน่นจนแทบไม่มีช่องว่าง พี่โตกอดผมแน่นพลางซบหน้าลงกับไหล่ผมเงียบๆ ทั้งโยกตัวกล่อมเด็กขี้แยและเอ่ยเสียงเบาปลุกปลอบปานกระซิบ "ไม่ร้องแล้ว..เด็กดี..."
"ผมขอโทษ...ขอโทษ..." ความเจ็บร้าวยังคงเสียดแทงอยู่ในหัวใจ ใบหน้าผมแนบชิดแผ่นอกหนาหากน้ำตายังคงไหลพรากทะลักทะลาย เพราะความหวาดกลัวว่าจะสูญเสียจึงได้แต่พร่ำขอโทษซ้ำๆราวกับคนบ้า
"ชู่ว...พอแล้ว อย่าร้องไห้" ฝ่ามือหนาเอื้อมมาหา ปาดเช็ดผิวแก้มและเช็ดน้ำตาของผมเงียบๆด้วยแววตาที่อ่อนลงคล้ายจะระอาใจ ริมฝีปากหนาแตะลงบนขมับ ไล้ระเรื่อยมายังผิวแก้ม ดมดอมกอดไล้ไปตามใบหน้าและรอยแผลที่ปรากฏชัดอย่างอาดูร..
"พี่...ยกโทษให้ผม...นะ" ผมเอ่ยเสียงเบา ฝ่ามือจิกลงบนไหล่หนาแล้วออกแรงขยุ้มเบาๆเพื่อขอคำตอบจากคนตรงหน้า
".........."
"ผมจะยอมทำทุกอย่าง..นะ "ริมฝีปากผมยังคงวอนเว้าเอ่ยขอโทษเมื่อเห็นว่าพี่โตยังเงียบ คนตรงหน้ายังคงนิ่งอย่างชวนให้ใจเสีย
"ยังหิวข้าวอยู่รึเปล่า" ฝ่ามือหนาแตะลงบนบั้นเอว ไล้เบาๆพร้อมเสียงกระซิบแผ่วหวานหลังจากเงียบนิ่งกันไปชั่วครุ่ ความนัยน์บางอย่างผ่านท่าทีและลักษณะนั้นเป็นเช่นใดคงไม่ต้องบอก ผมกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ จ้องมองสบตาคู่นั้นที่เต็มไปด้วยแววตาแห่งความปราถนา..
"ไม่เอา แบบเจ็บๆนะ" ผมต่อรอง เพราะจากวันที่พี่โตรู้ว่าผมทำอะไร เซ็กส์..ความสัมพันธ์ทางกายของเราสองคนก็มีแต่ความรุนแรง เจ็บปวดกระแทกกระทั้นราวกับประชดประชัน มีแต่ความเจ็บปวดไม่มีความสุข เป็นเพียงการระบายอารมณ์ไม่ใช่สัมผัสของคนรัก
"ไม่ทำแล้ว" ริมฝีปากของพี่โตแตะเข้าที่ขมับ เอ่ยเบาๆคล้ายปลอบประโลมให้ผมคลายความหวาดหวั่น และจากที่ผ่านมาพี่โตก็คงไม่มีความสุขเช่นกัน สัมพัน์ทางกายเพื่อระบายอารมณ์ใคร่ เพื่อแสดงถึงความโกรธเกรี้ยว ผิวหวังมันไม่มีความสุขทั้งสองฝ่าย
"อืม...." ผมเอื้อมมือไปหา กอดรับและเข้าหาอ้อมกอดนั้นเป็นการตกลงโดยไร้คำพูด ใช่ว่าผมไม่ต้องการ...และความสัมพันธ์ร้ายๆที่ผ่านมาทำให้ผมอยากได้ความทรงจำที่ดีมากกว่านี้
ประตูห้องน้ำถูกปิดลงเงียบๆด้วยปลายนิ้วของผม เพราะสถานที่คับแคบแผ่นหลังของผมจึงเสียดครูดเข้ากับประตูนิดๆเมื่อทรุดตัวลงตรงหน้า พี่โตยืนมองหน้าผมเงียบๆเมื่อเห็นว่าผมกำลังทรุดตัวลงตรงหน้า สีหน้างวยงงแปรเป็นรอยยิ้มน้อยๆเมื่อรู้ว่าผมกำลังทำอะไร และมันค่อยแปรเปลี่ยนไปเมื่อปลายลิ้นของผมค่อยแตะไล้ ปลายนิ้วค่อยรุดรั้งส่วนสำคัญนั้นให้ขยายตัวอย่างช้าๆ...
เพียงไม่นานมันก็ขยายตัวเต็มที่และพี่โตก็สอดส่วนสำคัญเข้ามาในปากผมอย่างรวดเร็ว ความร้อนและแน่นคับในโพรงปากทำให้รู้สึกไม่ดีเท่าไหร่แต่เมื่อหูได้ยินเสียงลมหายใจและเสียงครางที่มีความสุขของพี่โตแล้วผมก็บอกตัวเองว่ามันไม่เลวนัก ในเมื่อนี่เป็นสิ่งที่ผมจะทำเพื่อขอโทษจากสิ่งที่ผ่านมา ก็ควรจะตั้งใจให้เต็มที่เพื่อให้คนที่ผมรักมีความสุข
ปลายนิ้วไล้เส้นผมสั้นกุดของผมเบาๆอย่างรักใคร่เมื่อผมเร่งจังหวะขยับริมฝีปากให้มากยิ่งขึ้น ปลายหางตาที่ตวัดขึ้นมองผ่านไปยังหน้าท้องที่เป็นลอนหนา กล้ามแน่นและเนื้อตัวที่เป็นสีเข้มเงาวับดูเเข็งแกร่งน่าค้นหาร่างเเกร่งที่บิดเกร็งอยู่ต่อหน้าช่างน่ามองนัก รวมทั้งสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขของพี่โตด้วยเช่นกัน ผมขยับริมฝีปากมากขึ้นเพื่อจะปรนเปรอคนรักให้ถึงขีดสุด ทว่าไม่นานพี่โตก็ยั้งตัวไว้ ฝ่ามือแตะลงบนใบหน้าผมและขยับกายออกห่างช้าๆแสดงอาการปฏิเสธ
"หันหลังสิ" เสียงกระซิบแผ่วเบาใกล้ๆหูทำให้ผมพยักหน้ารับโดยอัตโนมัติ รีบหันกายวางแขนลงไปและซบหน้าลงบนประตูห้องน้ำ ขณะที่ร่างกายรู้สึกถึงส่วนที่ร้อนผ่าวค่อยแทรกลึก ซอกซอนเข้ามาในร่างกายผ่านช่องทางด้านหลัง ความร้อนของมันคับแน่นในร่างผสานกับเสียงลมหายใจหอบของพี่โตใกล้ๆหู กระตุ้นความรัญจวนให้ถึงขีดสุด
ลิ้นร้อนๆเปียกชื้นไล้หัวไหล่และแผ่นหลัง ลากผ่านรอยแผลบนร่างขณะที่ด้านหลังก็บุกเข้ารุกรานกระหน่ำไม่ยอมหยุด ความแสบร้อนปะปนกับความเสียวซ่านและความร้อนจากผิวกายทำให้ผมได้แต่ร้องครางเสียงสั่นพร่าไม่ได้ศัพท์
"อย่าทำให้ตัวเองเป็นแผลอีก เข้าใจไหม" เสียงกระซิบจากพี่โตดังขึ้นพร้อมกับปลายฟันที่ขบบริเวณไหล่ไม่เบานัก หากเมื่อผสานกับจังหวะที่รุนแรงแล้วกลับกลายเป็นการโหมอารมณ์ดิบให้กระพือได้อย่างดี
"อือ....อื้อ..." ผมได้แต่ครางรับในลำคอเบาๆไม่รู้ว่าเสียงที่ตอบไปจะเป็นการรับคำหรือเป็นเพียงเสียงครางไร้ที่มากันแน่
"ตอบสิ สัญญามา" พี่โตยังคงเร่งถามเอาสัญญาอยู่ข้างหู ริมฝีปากหนาขบติ่งหูผมแล้วไล้เลียมันขณะที่ร่างของผมไหวเอนตามจังหวะที่รุนแรงขึ้นทุกที..ทุกที
"เนม..." เสียงต่ำๆกดหนักแสดงถึงความรู้สึกทั้งหมดที่ใกล้จะถึงจุดสิ้นสุด กระนั้นพี่โตก็ยังซักไซ้เอาคำตอบกับผม กับคนที่บัดนี้สมองเบลอพร่า คิดอะไรไม่ออกนอกจากความร้อนที่เสียดสีและใกล้จะปะทุอยู่นี้
"อือ...อื้อ..."
"รับปากสิ" เสียงจ้ำจี้จ้ำไชยังดังอยู่ข้างหู หากจะแค่ร้องให้ทำตามที่สั่งคงจะดี แต่นี่ปลายนิ้วของพี่โตกลับแตะลงบนส่วนกลางลำตัวของผม แล้วกดปลายนิ้วลงไม่ให้ความรู้สึกที่ใกล้จะสิ้นสุดนี้ได้เจอทางออก
"อะ พี่โต ย่ะ...อย่า..." ผมร้องห้ามด้วยเสียงเหมือนจะขาดใจ
"เร็ว" นั้นไม่รู้กำลังจะสั่งให้ผมพูดเร็วๆหรือขยับให้เร็วกว่านี้กันแน่น กระนั้นผมก็ได้แต่ทำมันทั้งสองอย่าง ไอ้เนมพยักหน้ารัวๆรับพร้อมกับเสียงครางในลำคอที่หวีดขึ้นสลับกับเสียงครางต่ำในลำคอของพี่โตและจังหวะกระแทกกระทั้นหนักติดกันสามสี่ครั้ง
จากนั้นเหลือเพียงเสียงหอบหายใจเบาๆ และร่างกายที่ยังคงเกร็งเขม็ง ท่ามกลางม่านหมอกของความเสียวซ่านที่ยากจะระงับ ผมรู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนๆที่ซอกคอและฝ่ามือหนาที่ประสานฝ่ามือผมไว้แล้วจับกระชับแน่น
"คนที่ทำให้มึงเจ็บได้ มีแต่กูเท่านั้น"
เสียงกระซิบนั้นดังขึ้นเบาๆหากชอนไชเข้าไปในสมองอย่างง่ายดาย และกว่าผมจะรู้ว่ากำลังก้าวพลาดบางอย่างไป ร่างของผมก็ถูกพลิกให้แนบชิดกับร่างสูงและประกบจูบร้อนแรงจนแทบจะหยุดหายใจ เพื่อจะกลบเสียงทักท้วงที่ออกมาจากลำคอของผมอย่างรวดเร็ว..
ผมรู้สึกว่ากำลังตัดสินใจอะไรบางอย่างพลาด...พลาดไปจริงๆนะ
....................
หื่นกันหลังจากไม่มีซะนาน

รีแลกซ์บ้างอะไรบ้าง(ชาวบ้านถามว่านี่รีแลกซ์แล้วเหรอ?

) เสียเลือดบ้างเป็นพักๆเพราะเครียดมากลายตอนแล้ว
ไม่ได้อัพซะนานเพราะมีวาระสอบ เสร็จวันที่สิบสองวันที่สิบสามน็อคดาวน์ วันที่สิบสี่จึงคลานมาลงได้555+
ประกาศๆ แบดกายจะรวมเล่มภาค2และรีปริ้นภาค1 ตอนเดือนมีนานะคะ โปรดเก็บตังค์ โฮะๆ
ส่วนนิยาย จบก่อนหน้านั้นแน่นอนแต่...เดือนนี้ดูกำหนดการณ์แล้วชักไม่แน่ใจจจจจจ T T
ปล.เนม ความจริงพี่โตมันเลิกเคืองตั้งแต่ตอนอุ้มแกออกมาแล้วล่ะ ที่มันเนียนเคืองต่อเพราะมันหาเรื่องปล้ำต่างหาก! /โดนพี่โตลากไปเก็บ
โปรโมทเล็กน้อย Stone rosr's line อัพตอนพิเศษแล้วค่า(ช่วยกันทำมาหากิน

)
ตามไปเลย
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=18705.0