OH!! Bad Guy รักร้ายๆของผู้ชายในคุก!! [by Silence_Serin] บทส่งท้าย Update 30.09.54
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: OH!! Bad Guy รักร้ายๆของผู้ชายในคุก!! [by Silence_Serin] บทส่งท้าย Update 30.09.54  (อ่าน 2190016 ครั้ง)

cotone

  • บุคคลทั่วไป
มาม่าอืด....(เข้าใกล้สภาวะอิ่มตัว)

ตอนแรกงงตัวเองมาก คืออ่านแล้วไม่สงสารใครเลย ทั้งพี่โตทั้งเนม พออ่านตอนนี้แล้ว...ก็ยังไม่สงสารใครเลยอยู่ดีอ่ะ

ไม่รู้สิ รู้สึกว่าทั้งสองคนมีเหตุผลของตัวเอง ทำในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าดีที่สุด แล้วเนมก็เข้มแข็งและยอมรับความล้มเหลวด้วย ส่วนหนึ่งที่ชอบเรื่องนี้ก็เพราะเนมมันดูตั้งใจจะทำอะไรที่ยิ่งใหญ่แต่ไม่เคยล้มล้างความเป็นจริงได้สักที ไม่เว่อร์เหมือนพระเอกเรื่องอื่น ตามที่พี่คนแต่งบอกเลย

แต่ผิดคาดพี่โตนะ การที่พี่โตไม่ยอมปล่อยไปมันก็แสดงออกชัดเจนมากแล้วว่ายังรักทั้งๆที่ไม่ไว้ใจ แต่ก็ไม่สามารถจะทิ้งไปได้ เป็นการประชดกันที่ดูดีมีเหตุผลมากเลย นึกว่าพี่โตมันจะซาดิสม์กว่านี้=o= นานๆครั้งจะระลึกขึ้นมาได้ทีนะว่าพี่โตมันฉลาด กร๊ากกกกกกก

เอ๊....ทำไมเป็นดราม่าที่เราอ่านแล้วรู้สึกดีจัง555 ปกติเป็นคนชอบกินมาม่าอืด ไม่คิดเลยว่าดราม่าอืดๆก็อร่อยดีเหมือนกัน รอตอนต่อไปค่า

debubly

  • บุคคลทั่วไป

tachibanramen

  • บุคคลทั่วไป
อ่า..คอมเม้นไม่ถูกเลย อึนตามนิยาย 5555

ออฟไลน์ loverken

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
สงสารน้องเนม อยากจะทำตามกฏแต่ต้องรันทดเรื่องรัก...
 :impress3:

ออฟไลน์ พี่วันเสาร์

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +282/-3
เหตุผลของแต่ละคนที่ทำให้ไม่เข้าใจกันของเนมกับพี่โต
ต่างคิดว่าตัวเองคิดถูกและทำถูกแล้วเพื่อคนที่ตัวเองรัก :เฮ้อ:
และแล้วความนอยด์ก็เกิดขึ้นกับคนอ่าน :sad2:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
เนมจะโดนไรอีกไหมเนี่ย
สงสารจัง 

runynam

  • บุคคลทั่วไป
อ่านตอนนี้แล้วตอบยากมากว่า ใครผิดกันแน่
เศร้าอ่ะ แบบว่า ทั้งเห็นใจและก็เครียด
คนหนึ่งทำไปเพราะรัก อีกคนก็รัก แต่โดนบังคับให้ทำ
แต่ละคนมีความคิดเห็นเป็นของตัวเอง
แต่ไม่เคยถามอีกคนเลยว่าต้องการไหม
เครียดดดด :serius2:
รอตอนต่อไปนะค่ะ หวังว่าจะไม่นานนะ อยากอ่านมากก
(แต่ท่าว่าตัวเราคงไม่ค่อยมีเวลาอ่าน เพราะเทอมนี้เรียนหนักจริงๆ)
 :กอด1: :L2:

ออฟไลน์ Pumpkin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
โอ๊ยยย เมามันจริงๆดราม่าเข้าไป! สะใจอินังคนอ่านคนนี้ที่สุด  :laugh:
อารมณ์ประชดประชัน กระแทกกระทั้นอารมณ์กันเข้าไป ช่างเป็นการกระทำที่โง่และงี่เง่า แต่นี่แหละคือมนุษย์
ยิ่งทำแบบนี้ทางออกก็ยิ่งมืดมนจนต้องวนและจมอยู่ในห้วงชีวิตที่ดำเนินไปด้วยอารมณ์

ถึงแม้จะไม่ได้อคติกับไอ้เป้มากนัก(งั้นเรอะ?)แต่ปากมันเสียจริงๆนั่นแหละ แหม มันน่าเอาเท้าลูบปากจริงๆ :z6:


ส่วนเรื่องรวมเล่ม ยังไงเค้าเอาด้วยแน่ๆ ปลายเดือนมกราคมก็ปลายเดือนมกราคมสิ มีเวลาเก็บเงินเพิ่มอีก แหมดีใจจริงๆที่พี่ปุ้ยเลื่อน กร๊ากกกกกกกก

ออฟไลน์ kitty

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +258/-7

JipPy

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ย  อู๋ บ่ะ ออก เลยทีเดียว !!!!


 :o12: :o12: :o12: :o12:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






kidsgame10

  • บุคคลทั่วไป
    ติดตามอ่านเรื่องนี้มานานมาก แต่ยังไม่ได้คอมเม้นต์เลย ตอนที่อ่านครั้งแรกไม่คิดว่าจะอ่านเรื่องแนวคุกๆเลย เพราะโดยส่วนตัวชอบแนวใสๆมากกว่า แต่พออ่านมาเรื่อยๆ กลับติดใจ และคอยติดตามมาตลอด อยากจะชมคุณคนแต่งว่าแต่งได้เก่ง เหมือนได้เข้าไปดูชีวิตในคุกจริงๆ มีทุกอารมณ์ไม่ว่าจะโหด สุข เศร้า การแก้แค้น ความเชื่อใจ การหักหลัง หื่น โดยเฉพาะดราม่านี่เยอะมาก แต่นี่แหล่ะที่ทำให้นิยายเรื่องนี้สนุก และแปลกกว่านิยายเรื่องอื่นๆ โดยเฉพาะตอนหลังๆยิ่งอยากจะรู้ว่าบทสรุปของโต และเนมจะเป็นอย่างไร จะสามารถออกไปใช้ชีวิตข้างนอกได้เหมือนเดิม หรือ ต้องใช้ชีวิตอยู่ใสคุกต่อ เป็นนิยายอีกเรื่องที่ยกไว้ขึ้นหิ้งเลย ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้ผู้แต่งที่เขียนนิยายดีๆ มาให้อ่านนะคะ สู้ๆ  o13

ออฟไลน์ cancan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +581/-0
ง่า  ไม่รู้จะสงสารใครดี

wordpdf

  • บุคคลทั่วไป
คนหนึ่งเลือกการปกป้อง อีกคนเลือกความถูกต้อง
ว่าแต่ป๋าจะเอาไง อย่าทำอะไรหนูเนมน้าาาา

donjai11

  • บุคคลทั่วไป

kimkanyuang

  • บุคคลทั่วไป
ชอบเรื่องนี้มากมาย ที่จริงตามอ่านมาตั้งแต่เด็กดีแล้ว

พอเค้าแบนเราเลยตามมาเข้าเล้านี้ด้วยคน

เป็นเรื่องที่ตอนแรกดูจากชื่อเรื่องคิดว่ามันจะขำๆ เถื่อนๆ

แต่พออ่านแล้วแบบมันมีอะไรมากกว่านั้นเยอะ หนุกง่ะ :impress2:

แต่บางช่วงที่มันมาม่ามากบวกกับความนอยของตัวเองก็จะไม่ได้เข้ามาอ่าน

จะรอจนกว่าจะจบแล้วอ่านรวดเดียวเน้อ

ป.ล.เป็นกำลังใจให้คนเขียนเสมอ นายแน่มาก o13

ยังยืนยันมาตลอดนะว่าไม่ว่าอะไรจาเกิดขึ้น

ก็ขอให้น้องเนมเป็นของพี่โตคนเดียวเถอะน้า สาธุ :3123:

m_pop91

  • บุคคลทั่วไป
เอามีดมาแทงคนอ่านอย่างผมเถอะ
อึดอัดแทนพี่โตกับเนมมาก อยากฆ่าไอ้พวกป๋าจริงๆ
หาเรื่องมาให้ตลอด

ออฟไลน์ SungJimun

  • ♥ 끝까지준홍 ♥
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 542
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
อ่านแล้วหยุดร้องไห้ไม่ได้
ใจนึงก็สงสารพี่โต ใจนึงก็เห็นใจน้องเนม
ทุกคนต่างมีเหตุผลของตัวเองทั้งนั้นแหละนะ
แต่ยังไงเค้าก็ยังคิดว่าการปรับความเข้าใจและการหันหน้าคุยกันเป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดนะ
ต่างฝ่ายต่างเก็บเงียบไม่ยอมบอกความในใจกันแบบนี้ก็แน่อ่าดิ ฮือออออออออออ
เอาใจช่วยคนเขียนนะคะ คิดถึงมากๆเลย

ออฟไลน์ Bong

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 144
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
ไม่รู้จะสงสารใครดี เพราะแต่ละคนก็มีเหตุผลของตัวเองทั้งนั้น :impress3: :impress3: :impress3: :impress3:
เพราะอยากปกป้องคนรักด้วยกันทั้งคู่ แค่ต่างวิธีกันเท่านั้นเอง
ไม่รู้ว่าน้องเนมจะโดนอะไรบ้างละเนี้ย..แต่คิดว่าพี่โตคงไม่ยอมให้โดนง่ายๆหรอกมั่ง
ถ้าไม่รักกันจริง พี่โตคงบอกคนอื่นๆไปแล้ว.. :เฮ้อ: :เฮ้อ:
บอกได้คำเดียว..คนอ่านเครียด!!~ :a5: :a5: :a5:

ปล.ไอ้เป้ปากxมา จริงๆ..หรือว่ามันเป็นสายในพัสดีด้วยละเนี้ย.. :angry2: :angry2:

ออฟไลน์ greensoda

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 584
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
ตามอ่านทันแล้ววว

อ่านตอนนี้แล้วปวดใจมากมายยย
ทำไมพี่โตกับน้องแนมต้องมีความเห็นสวนทางกัน
ทำไมมันดราม่าอย่างนี้   :o12:

ส่วนสามผี ขอสารภาพตามตรงว่าเชียร์กัน-วิทย์มาตลอดเจ้าค่ะ
แต่ถึงไม่ใช่กันย์-วิทย์ ขอให้อยู่กันสามคนก็ดี เพราะสงสารนุ้งเมฆ
แต่ถ้าเป็นวิทย์-เมฆ อันนี้ปวดใจ ถึงอิพี่กันย์จะเลว แต่เค้าก็รัก
แล้วยิ่งตอนนี้เฮียแกอัพเลเวลความเลวมากขึ้น ไม่อยากคิดถึงจุดจบเลย
มาม่าไม่ว่าแต่อย่าจบเศร้าเลยได้โปรด   :sad4:

ติดตามตอนต่อไปเจ้าค่ะ

ออฟไลน์ crosa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
บรรยากาศมันช่างอึนจริงๆ
ทั้งนู๋เนม ทั้งพี่โต ต่างก็คิดว่าตัวเองถูกต้องเลยไม่ปรับความเข้าใจกันซะที
แล้วยังงี้ถ้าเกิดอะไรที่แย่ๆขึ้นอีกได้มาเสียใจกันทีหลังอีกแน่
ส่วนนายเป้...จนถึงตอนนี้ก็ยังมั่นใส้มันอยู่ดี ชิชิ -*-
เอาใจช่วยให้พี่โตและนู๋เนมเข้าใจกันเร็วๆ....^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






pronpailin

  • บุคคลทั่วไป
อ่านตั้งแต่ต้น จน ถึงตอนนี้ เรื่องมันจะไม่วุ่นวายเลย ถ้าไอ้ป๋ากับไอ้ผู้พัน
อะไรนั้นมันไม่กวน  :z6: เห้อ อ่านแล้วเครียด เพราะมันค้าง รีบมาต่อมาม่า ด้วยนะจ๊ะ
แต่มันน่าสงสัยที่ว่า ไอ้เป้มันรู้ได้ไงเรื่องของไอ้อาจารย์ธีระ หรือว่า มันจะเป็น
1 ใน สายของพวก จนท. กันนะ  :m16:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-12-2011 19:06:34 โดย pronpailin »

ออฟไลน์ KURATA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +146/-1
 :m31:อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :m31:

buff89

  • บุคคลทั่วไป
แล้วก็ตามอ่านจนทัน

โอยยย มันบีบหัวใจคนอ่านจริงๆ  :z3:

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8


Imprpbable 32 : หนามยอกเอาหนามบ่ง



       ดวงอาทิตย์ส่องประกายจัดจ้าอยู่บนฟ้าสาดแสงเข้ามากระทบกับใบหน้าของผมเสียจนนึกแสบตายามที่เดินออกมาจากทางเดิน ผู้คุมที่นั่งประจำอยู่ตรงทางเข้าแดนพิเศษมองหน้าผมและพี่โตเงียบๆอยู่ครู่หนึ่งก็ยิ้มออกมาราวกับประชดประชัด ปลายนิ้วนั้นหยิบกระดาษสีขาวที่เป็นใบอนุญาติข้ามไปเรือนจำพิเศษ มองตรวจตราก่อนจะพยักหน้ารับ ปล่อยให้เราเดินออกไปโดยดีขณะค่อยๆเสียบใบคำร้องนั้นลงไปในที่เก็บใบคำร้อง

         "ช่วงนี้ยังผ่านเข้าออกง่ายๆ แต่จากนี้ไม่ใช่แล้วนะ"ผู้คุมเอ่ยพร้อมกับปรายตามองเราสองคนเงียบๆ แววตาคล้ายจะบ่งบอกออะไรบางอย่าง พี่โตมองสบแววตานั้นแล้วพยักหน้ารับเงียบๆ สีหน้าไม่ปรากฎอารมณ์ใด ก่อนจะคว้าแขนผมและลากเข้าไปยังทางเดินแคบๆเพื่อไปในแดนพิเศษอย่างเงียบๆ

       โดยรอบทางเดินเป็นลวดหนามและตาข่ายเหล็กล้อมรอบ ทั้งที่รอบกายมีสนามหญ้าและที่กว้างขวางมากมายแต่ทางเดินที่เดินไปสู่แดนพิเศษมีเพียงทางแคบๆ ทั้งมีสายตาของผู้คุมมองตามทั้งสองฝั่ง ผมหลับตาลงช้าๆ รู้สึกถึงเหงื่อที่ไหลลงไปยังข้างขมับด้วยความร้อน..อาจจะไม่ใช่แค่ความร้อนแต่เป็นความรู้สึกเครียดขึงเกร็งเขม็งต่างหากที่ทำให้เหงื่อเย็นๆไหลลงมาที่ขมับไม่ต่างกับฝ่ามือของผมในมือพี่โตที่สั่นระริก..เย็นชืด

         ผมจ้องมองแผ่นหลังของพี่โต คนที่เดินนำเข้าไปเงียบๆ ยังคงเห็นเพียงแผ่นหลังหนาและท่อนแขนแกร่งที่แสนคุ้นตา ครู่หนึ่งลำคอร้อนผ่าวรู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้ขึ้นมา ความรู้สึกเครียดขึงนับแต่ได้รู้ว่าต้องมาพบกับพวกป๋าก่อตัวขึ้นมาตั้งแต่เมื่อวานโดยที่ไม่อาจจะทำอะไรได้สักนิด กระทั่งกับพี่โตผมก็ยังทะเลาะกันจนไม่อาจมองหน้าติดอยู่อย่างนี้ แม้จะอยากได้อ้อมแขนและคำแนะนำหรือคำให้กำลังใจ ทว่ายามนอนหลับแผ่นหลังที่เย็นเฉียบปละว่างเปล่าไม่มีอ้อมกอดของคนข้างกายแนบชิดมันก็มากพอจะบ่งบอกแล้วว่าผมต้องเผชิญกับพวกป๋าตามลำพังอย่างที่พูด

         ...ไม่ได้อยากให้ช่วย แต่..ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้อยากให้กำลังใจ

    พี่โตจะพูดอะไรในฐานะ"คนรัก"กันบ้างไหม ไม่ต้องช่วยเหลือผม ไม่ต้องเอาตัวรับผิดแทนผม แต่ขอแค่เพียงคำให้กำลังใจหรืออ้อมแขนที่กอดไว้เงียบๆจะได้รึเปล่า?

     พี่โตโกรธผม แต่..ไม่ได้เลิกรักผม นั่นมันไม่ใช่การคิดไปเองของผมใช่ไหม..

          "มือมึงเย็น.."เสียงนั้นเอ่ยเรียบๆออกมายามที่เราทั้งสองกำลังก้าวเดินเข้ามาภายในเรือนจำพิเศษ ผมหรุบตาลงช้าๆหลบสายตาของบรรดานักโทษผู้มีอภิสิทธิ์ต่างๆมากมายในนี้ บรรยากาศที่นี่ยังคงเงียบเชียบ สายตาที่เมียงมองมาเงียบๆแฝงการกดดันโดยไร้เสียง มีเพียงภาพท่อนขาถูกล่ามด้วยโซ่ตรวนอันใหญ่ ที่มันส่งเสียงกังวานเบาๆยามขยับกายให้รู้สึกแผ่นหลังเย็นเฉียบขึ้นมาอย่างกะทันหัน บรรยากาศในนี้ สามปีก่อนเคยเป็นอย่างไร ตอนนี้ก็ยังคงเป็นเช่นนั้น ยังคงเป็นดินแดนของนักโทษที่ผมไม่กล้าจะเหยียบย่ำเข้าไปเช่นเดิม

          "ในนี้มันหนาวนี่"ผมตอบเรียบๆพร้อมกับรอยยิ้มคล้ายจะขบขันกับมุกฝืดๆของตัวเอง คนฟังก็ส่งเสียงหึเบาๆออกมาคล้ายจะพอใจกับคำพูดนั้น ก่อนที่ฝีเท้าของพี่โตจะหยุดลง ทั้งที่ยังไม่ถึงห้องขังของป๋า ฝีเท้าของผมจึงหยุดตามแล้วมองตามแผ่นหลังหนานิ่ง..

            ตอนนี้เราสองคนยืนอยู่ตรงทางเดินเข้าเรือนนอน ปกติจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลแต่บัดนี้ไม่มีใครอยู่ ทั้งไม่มีสรรพเสียงใดนอกจากความเงียบรอบกายและเสียงสายลมพัดมาเบาๆ เคล้าคลอกับเสียงลากตรวนดังก้องสะท้อนภายในความเงียบ..

               ผมจ้องมองแผ่นหลังของคนที่ตัวเองรักตรงหน้า มองผ่านความเงียบและบรรยากาศเย็นๆไปยังฝ่ามือหนาที่กำมือของผมไว้ สัมผัสอารมณ์และสีหน้าที่ไม่อาจมองเห็นด้วยฝ่ามือของพี่โตและนัยน์ตาที่ผ่าวร้อนของผม..

            จู่ๆลำคอก็ตีบตันขึ้นมาอย่างกะทันหัน ความหวาดกลัวในสิ่งที่ต้องเผชิญ ความร้ายกาจของผู้คนที่เคยพานพบและยังฝังจำ ทั้งยังหวาดหวั่นว่าฝ่ามือนี้จะปล่อยจากกันไปทำให้ร่างทั้งร่างสั่นไหวอย่างไม่อาจระงับ

           "............."คิดจะเอ่ยปากพูด ทว่าฝ่ามือหนาที่บีบแน่นขึ้นทำให้ผมชะงัก...ไอ้เนมก้มหน้าลงมองพื้นหรุบสายตาลงต่ำพร้อมกับบีบกระชับฝ่ามือของพี่โตที่กำไว้แน่นตอบส่งสัญญาณโดยไร้คำพูดใด...

          น่าแปลก..ที่แม้เป้นเพียงอาการกระชับฝ่ามือแน่นขึ้นเท่านั้น...แต่มันกลับหยุดยั้งความหวั่นนกลัวที่กำลังพุ่งทวีได้อย่างง่ายดาย ทุกสิ่งหายไป ด้วยฝ่ามือที่อุ่นร้อนของพี่โต ความห่วงหาจากผู้ชายที่ผมรักและความอบอุ่นที่ส่งผ่านมาโดยไร้คำพูดนี้

        ....ถึงจะโกรธกัน มึนตึง เย็นชา ต่อกัน แต่เราก็ยังคงรักกัน..ความเชื่อมั่นนี้เกิดขึ้นในใจและรับรู้ได้ทันทีด้วยกริยาอาการของพี่โต..

            "พวกมันบอกให้กูมาส่งได้แค่นี้"หัวใจอุ่นวาบเพียงชั่วครู่ หากใจความที่ออกมาจากริมฝีปากหนากลับทำให้ร่างของผมนิ่งงัน ค่อยกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ และพยักหน้ารับอย่างฝืดเฝือ..จะดึงมือออก ทว่าฝ่ามือของพี่โตกลับยิ่งกำแน่น..

            "กูจะรอ..."คำพูดที่ออกมาจากริมฝีปากคู่นั้นก้องในสมอง ผมชะงัก..นิ่งงันไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งอยากจะหัวเราะไม่ก็อยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ หัวใจผมเจ็บแปลบเมื่อได้ฟังคำนั้น ไม่ใช่ความเจ็บปวด แต่เป็นความปลาบปลื้ม ยินดี ดีใจ...ดีใจเป็นที่สุดที่ได้ฟังคำนี้ออกมา..

          หลายวันที่เมินเฉย หลายคืนที่ต้องนอนอย่างเดียวดาย ยังคงอยู่ข้างๆแต่รู้สึกราวกับอยุ่ไกลแสนไกล สิ่งนี้ไม่ใช่หรือที่ผมอยากฟังมาตลอด..

          ผมรู้...รู้ว่าพี่โตยังโกรธ ยังเคืองใจ ยังไม่อาจะเชื่อใจอะไรได้ แต่เพราะรัก...เรารักกัน เมื่อผมต้องเจอเรื่องแย่ๆแบบนี้เขาก็ยังเป็นคนที่คอยอยู่เคียงข้างผมเสมอ..

          หัวใจเจ็บแปลบ ขอบตาร้อนผ่าว เมื่อนึกถึงตัวเอง..ที่พอโกรธไม่ว่าความรักหรือเรื่องอะไรก็หายไปจากสมองหมด..ผมมันโง่...โง่อย่างที่ใครเขาประณามจริงๆ

            "..ขะ"

            "เงียบซะ"คำขอโทษยังไม่ทันจะออกจากปาก ฝ่ามือที่บีบกระชับแน่นก็ถูกปล่อยลงพร้อมกับคำตัดบทห้วนๆ มองไม่เห็นใบหน้าแต่กริยาของคนทำก็มากพอจะให้รู้ว่าคนฟังกำลังคิดอะไรอยู่ แม้จะรู้ว่าความผิดของตนเองยังไม่สมควรได้รับการให้อภัยแต่ก็อดจะปวดใจไม่ได้ ที่ไม่ว่าจะพูดอะไรออกไปก็ไม่ได้รับความเชื่อถืออยู่ดี

            "มาแล้วเหรอ"เสียงทักเรียบๆข้างกายทำให้ผมสะดุ้ง ใบหน้าที่ก้มต่ำค่อยแหงนเงยขึ้นเพื่อจะมาสบกับดวงตาของผู้ชายที่ผมไม่อาจจะลืมหน้าไปได้..แค่ได้มองตา เรื่องราวเมื่อสามปีก่อนก็เหมือนจะกลับย้อนมาอีกครั้ง และความรู้สึกพ่ายแพ้..ความรู้สึกหวาดกลัว มือเท้าชาแข้งขาเหมือนถูกหินถ่วงทันทีที่สบตาคนพวกนี้ยังคงกลับมาบ่งชัดว่ามันเป็นความจริง...


            นัยน์ตาของป๋า...คนที่รูปร่างหน้าตาไม่ได้เปลี่ยนไปเท่าไหร่ในสายตาผมมองสบตามายิ้มๆ หากรอยยิ้มในหน้านั้นกลับไม่เลยไปถึงดวงตาที่ขุ่นจัด แสดงความไม่พอใจ ไม่ต่างอะไรกับผู้พันที่ยืนอยู่ข้างหลัง คนๆนั้นไม่มีสีหน้ารื่นรมย์อีกแล้ว แต่มีสีหน้าหงุดหงิดขัดใจอย่างคนถูดขัดต่อควาต้องการและกำลังโมโหแทบคลั่ง


          "ไอ้เด็กคนนี้เหรอ"เสียงของผู้ชายอีกคนดังขึ้นสั้นๆ การปรากฏตัวของคนที่ผมไม่เคยเห็นหน้าทำให้ต้องหันไปมองงงๆ ชายวัยกลางคนใบหน้านิ่งเฉยที่มองตรงมานั้นไม่ใช่คนที่ผมเคยพบเจอที่ไหน ทว่าสมองก็ยังไม่ฝ่อถึงขนาดจะไม่รู้  จำไม่ได้ว่าผมมีลูกพี่เพิ่มขึ้นมาอีกคน ...อดีตพรรคพวกที่เคยเป็นอริกับป๋า เจ้านายของพี่กันย์ที่ตกลงใจร่วมมือรวมแกงค์กันเมื่อสามปีก่อนหน้า..ลุงชาตินั่นเอง

           "โต...ทำไมไม่หัดสั่งสอนเมียมึงซะบ้าง"คำถามจากป๋ามาพร้อมกับฝ่ามือที่วางบนไหล่ของผมเบาๆ..แล้วบีบแน่น

           "................"

           "ถ้าพวกกูไม่รู้..มึงก็จะไม่บอกใช่ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วที่มึงยังพามันไปไหนต่อไหนเวลาคุยกันมันหมายความว่ายังไง?"ป๋าเดินไปมองหน้าพี่โตด้วยสีหน้าเคร่งขรึม..ขณะที่พี่โตก็มองสบตาเงียบๆไม่เอ่ยคำใด

           "คือ..ผม...."

           "เงียบ!"เสียงตวาดห้วนๆของผู้พันดังขึ้นทำให้ผมหุบปากฉับ ได้เเต่เงียบและเดินตามหลังบรรดาพรรคพวกของป๋าไปยังห้องขังประจำที่ผมยังจำได้ กริยาของคนทั้งสามที่ผมพบเจอแม้จะดูเหนือกว่าแต่ก็ไม่ได้มากด้วยเล่ห์เช่นที่เคยจำได้ แม้ว่าการกระทำและคำพูดจะไม่ต่าง แต่กริยาบางอย่างมันรีบร้อน หงุดหงิดอย่างบ่งชัดว่ากำลังขัดใจแทบบ้า..



         ปัง!



       เสียงปิดประตูห้องขังดังขึ้นเบาๆสะท้อนอยู่ภายในเรืองนอนที่มีเพียงความเงียบ ไร้ผู้คน..ผู้คุมที่ยืนเฝ้าอยู่ตรงทางเข้าปรายตามองผมและพี่โตเพียงครู่ก่อนจะเดินออกไปเสีย ชัดเจนว่าไม่มีใครสามารถจะห้าม หรือควบคุมการกระทำใดของพวกป๋าได้อย่างที่ผมเคยรู้ อิทธิพล..เม็ดเงิน และอำนาจของคนพวกนี้ไม่ใช่ของเล่นๆ..

          .....และการกระทำของผมที่ไปถึงหูพวกเขา ก็ต้องได้รับผลตอบแทนอันแสนสาหัสแน่ๆ

        "ฉันเคยพูดไว้ และกำลังสงสัยว่าแกมีปัญญาจะทำงานใหญ่ได้แค่ไหน"เสียงของป๋าพูดออกมาเรียบๆ ร่างสูงเพรียวนั่งลงบนเตียงนอนขณะที่ผมแลละพี่โตยืนนิ่งอยู่เบื้องหน้า ล้อมรอบด้วยผู้พันกับลุงชาติที่จ้องมองมาเงียบๆ สีหน้าของพวกเขาทุกคนเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ความโกรธที่สัมผัสได้และโชคชะตาที่ไม่รู้ว่าจะกิดอะไรขึ้นทำให้ความหวาดกลัวเกิดขึ้นในหัวใจ ผมหันไปมองพี่โต อยากจะสบตาไม่ก็ขอความมั่นใจสักนิด ทว่าแววตาคู่นั้นมองไปตรงหน้าไม่หันมาหา...

       "แล้วนี่มันอะไร? แกปล่อยให้หนอนบ่อนไส้ลอยนวล นอกจากไม่จัดการแล้วยังทำเฉย ให้มันรู้เรื่องของเราหมดทุกอย่าง..แถมมันยังเป็นเมียแก โต....ฉันไม่ใช่คนที่จะใจดีหรือมีความอดทนนักหรอกนะถึงจะทำเฉยกับเรื่องนี้ไปได้"ริมฝีปากของป๋าเหยียดออกพร้อมกับแววตาวาววับ

        "ผลงานบัดซบของมึงที่ทำลงไป จะรับผิดชอบยังไง ว่ามา..."

       "เรื่อง...."

       "ไม่ใช่นะครับ!"ผมร้องแหวออกไปทันควันเมื่อฟังคำกล่าวหาของป๋า...ส่ายหน้า ริมฝีปากสั่นระริกด้วยความไม่เข้าใจ ทำไมล่ะ? ทำไมคนที่ต้องลำบากไม่เป็นผมแต่เป็นพี่โตล่ะ? ทั้งๆที่เรื่องนี้ผมเป็นคนทำ พี่โตไม่รู้เรื่องอะไร แต่ทำไมต้องเป็นพี่โตที่ถูกกล่าวหา ถูกสั่งให้รับผิดชอบ ทำไมถึงไม่เป็นผม!

         "เรื่องนี้พี่โตไม่รู้นะ!ผมทำคนเดียวคนอื่นไม่ได้เกี่ยวด้วย ผะ...."


        ปึ่ก!



         "อึ่ก..."หมัดของผู้พันซัดเข้าให้ที่หน้าท้อง เรียกความเจ็บปวดปนจุกเสียดเสียจนทรงกายไม่ไหว คำพูดที่จะออกมาจากริมฝีปากกลายเป็นเสียงครางด้วยความเจ็บปวด ฝ่ามือสั่นระริกทำได้เพียงกำลูกกรงด้านหลังไว้เพื่อพยุงกาย ขณะที่แว่วเสียงหัวเราะเสียดหูของผู้พันดังขึ้นด้านหลัง..และสบมองแววตาตกตะลึงของพี่โตอย่างเลือนราง..


        เจ็บ....

       ความเจ็บปวดเเล่นเข้าสู่หน้าท้องที่งอเป็นกุ้ง ท้องไส้ปั่นป่วนราวกับจะขย้อนอาหารเช้าที่ได้ทานมาออกจากกระเพาะ หากท่ามกลางความเจ็บปวดที่ทำให้สติรางเลือน เสียงของป๋าก็ยังแทรกเข้ามาในอนุสติ..


        "ต่อให้มันไม่รู้ไม่เกี่ยว แต่คนที่เป็นหัวหน้าพวกมึงอย่างมันก็ต้องรับผิดชอบ ยิ่งมึงที่เป็นเมียมันแล้วยังคุมไม่ได้..ยิ่งน่าสมเพชเข้าไปใหญ่ และกับคนที่รู้แล้วไม่บอกกู มันก็เข้าข่ายสมคบคิดจะหักหลังพวกกูและทำงานพลาดเหมือนกันทั้งนั้น"ถ้อยคำนั้นแทรกผ่านหูเข้ามาอย่างช้าๆ ผมพยายามทรงตัวขึ้นหลังจากความเจ็บปวดที่หน้าท้องค่อยบรรเทาลง หากริมฝีปากก็ไม่อาจเปล่งคำพูดใดออกมาได้อยู่ดี..

         "และถ้าทำแผนกูล่ม...พวกมึงคิดว่าจะชดใช้ยัง"คำพูดของป๋าดังขึ้นเหนือศรีรษะ บอกถึงความจริงบางอย่างที่ผมได้รู้..

        ผมเป็นคนลากพี่โตมาซวยเรื่องนี้เอง

        ....ที่สุดแล้ว ไม่ว่าผมทำอะไร พี่โตก็ต้องลำบากอยู่วันยังค่ำ..

       ความจริงที่ลืมคิดถึงมันแทรกผ่านเข้ามาในสำนึกอย่างชัดแจ้งก็ยามที่คำพูดของป๋าบอกชัด..พี่โตคือหัวหน้า พี่โตคือคนควบคุมดูแลวางแผนการณ์และคอยดำเนินงานทั้งหมด ..หากมีอะไรติดขัดพี่โตก็ต้องดูแล หากล้มเหลว ผิดหลาด หรือกระทั่งข่าวรั่ว พี่โตก็ต้องชดใช้

         และตอนนี้ คนที่ทำให้พี่โตตกที่นั่งลำบากก็คือผม..

        .คนที่บอกว่ารัก...คนที่พูดว่าทำเพื่อรัก...รักที่ตอนนี้กำลังจะฆ่าเราสองคนให้ตายลงไปพร้อมๆกัน...

         ไม่ว่าผมจะทำยังไง..ไม่ว่าผมจะเลือกทางไหน..พี่โตก็ต้องลำบากอยู่วันยังค่ำ การกระทำของผมที่บอกว่าเพื่อเขา ความคิด...ที่บอกว่าทำเพื่อความถูกต้อง ทำเพื่อไม่อยากให้พี่โตต้องผิดไปมากกว่านี้ ไม่อยากให้พี่โตจมดิ่งลงไปมากกว่านี้ การกระทำสิ้นคิดเหล่านั้น มันกำลังส่งผลร้ายมายังคนที่ผมคิดจะปกป้องอย่างเต็มกำลัง

         ผมเอาแต่คิดว่าทำคนเดียว เดินเข้าไปในกรงคนเดียวไม่มีคนอื่นเกี่ยวข้อง คิดจะรับไปทั้งหมดไม่ว่าผลดีหรือผลเสียทั้งที่ความจริงมันไม่ใช่แบบนั้น

       ไม่ได้คิด..ว่าหากแผนนี้ล้มเหลวไปใครจะต้องรับผิดชอบ ใครจะต้องเจอดี ใครจะต้องเดือร้อน...ผมเอาแต่คิด คิดว่าไม่ยอมให้มันเกิดขึ้น ยึดถึอคำว่าความยุติธรรมงี่เง่าของตัวเอง โดยไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังทำร้ายคนที่ตัวเองรัก และทำร้ายบรรดาพรรคพวกในเรือนจำนี้..

        คนที่บอกว่าจะปกป้อง คนที่บอกว่าจะไม่ยอมให้พี่โตทำเรื่องเลวร้าย พร่ำบอกว่าอยากออกไปด้วยความภาคภูมิใจ คนโง่ๆคนนั้น กำลังทำให้ทุกอย่างพัง และคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งผมด ก็คือผู้ชายที่ผมบอกว่าจะทำเพื่อเขา..

         ...นี่ผมทำเพื่อเขา...หรือกำลังทำร้ายเขาอยู่กันแน่

        ความปวดร้าวที่ทิ่งแทงเข้าไปในร่าง เจาะอากาศหายใจให้ทะลุออกจากปอดและหน้าอกที่กลวงโบ๋ สิ่งเหล่านั้นกำลังตะโกนใส่ผมอย่างบ้าคลั่งว่าการกระทำทั้งหมดนั้นโง่งมและไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง หนำซ้ำ..ยังทำให้เรื่องทั้งหมดมันเลวร้ายขึ้นอย่างยากจะควบคุม..


       "ผู้พัน เอาตัวมันไป"เสียงของป๋าดังขึ้นมาอีกครั้งพลันทำให้ผมชะงัก รู้สึกถึงฝ่ามือทื่ตะปบลงบนไหล่และความเย็นยะเยียบที่แทรกแทงเข้ามาอย่างรวดเร็ว..

       "แล้วจะให้เอาไง?"ลุงชาติเอ่ยถามสั้นๆ สีหน้าเคร่ง แววตาวาววับมองมาที่ผมอย่างเอาเรื่อง..

       "จะฆ่าทิ้งหรือจะเอาไปทำอะไรก็ตามใจ"คำพูดของป๋าทำให้ผมตัวเย็นวูบ ไม่ต่างกับพี่โตที่หันขวับมองผมอย่างตกตะลึง ตาสบตา...แววตาของผมสบมองกับนัยน์ตาสีฉายแววตกตะลึงและห่วงหาของพี่โต ขณะที่คำสั่งนั้นยังก้องอยู่ในหู...

       ....หรือนี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้สบตา หรือว่า....บางทีเราอาจจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว?


         "เดี๋ยวก่อน!อย่าเพิ่ง..."

         "อย่าอะไร?"ป๋าเอ่ยถามเรียบๆสีหน้าเรียบเฉย เขาเงยหน้ามองพี่โตแล้วเลิกคิ้วขึ้นมาอย่างเนิบช้า แววตาที่จ้องมองนิ่งค่อยเบิกกวางขึ้นและวาวับด้วยความไม่พอใจ"กูถามว่าอย่าอะไร คนที่ทำพลาดอย่างมึงมีสิทธิ์จะสั่งอะไรกู..และมึงจะให้กูทำยังไงกับไอ้สองหน้านี่!"

          "กับแค่ตัวเองยังเอาตัวไม่รอด มึงเป็นลูกน้องมีหน้าที่ฟังคำสั่ง อย่าสะเอะมาสั่งกู!"

          "รู้แล้ว"เสียงของผู้พันดังขึ้นเบาๆแทรกบทสนทนาที่เต็มไปด้วยความเครียดขึง

          "อะไรอีก"ลุงชาติเอ่ยถาม สีหน้าคล้ายจะเหนื่อยหน่าย

          "ถ้าฆ่าไปเดี๋ยวจะมีปัญหากันเอิกเริก ได้ข่าวว่าพัสดีคนใหม่มันเคี้ยวยากพอดู...ถ้ามันรู้จะลำบากเอาเปล่าๆ"

          "เราไม่ได้..."

           "ไม่กลัวแน่นอน"ผู้พันเอ่ยกับป๋าสีหน้ายิ้มๆ"แต่เดี๋ยวขอ"เล่น"ก่อน แล้วจะเล่าให้ฟัง"

                  นั่นไม่ต่างจากคำขอเพื่อปิดประตูขังผมไว้ให้ตายทั้งเป็น..


...................


ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
 

         "นั่งสิ"ประตูปิดลงเบื้องหลัง ร่างของป๋าและลุงชาติที่ยืนอยู่เบื้องหน้าทำให้ผมกลืนน้ำลายไม่ลงคอเอาเสียเลย หันไปมองพี่โตที่ยืนคุยกับป๋าข้างหลังแล้วยิ่งใจหาย ผมถูกพามายังเเรือนนอนฝั่งตรงข้าม คาดว่าน่าจะเป็นห้องขังของใครสักคนในสามคนนี้ ผมมองหน้าผู้พันที่ยืนมองสีหน้าเริงรื่น ดันหลังผมให้นั่งลงบนเตียงนอนด้วยรอยยิ้ม...ทว่ามันไม่มใช่ยิ้มที่น่ายินดีเอาเสียเลย

           ปลายนิ้วบีบเข้าที่หัวไหล่ไม่เบานัก แสดงอาการบีบบังคับโดยไม่เอ่ยคำใดๆ ผมกลืนน้ำลายลงคอช้าๆสมองยังคงคิดใคร่ครวญจดจ่อกับพี่โตที่นั่งคุยอยู่กับป๋า ทั้งรู้สึกผิด ทั้งห่วงใย เสียใจและรู้สึกแย่เป็นที่สุดที่ทำให้คนที่รักต้องมาพัวพันด้วยแบบนี้ ขณะที่เสียงของคนที่ยืนอยู่บนศรษะแว่วมาเบาๆ..

           "บอกข่าวไอ้พัศดีนั่นเท่าไหร่แล้ว"

            "หา..."ผมเงยหน้ามามองตาคนถาม สบมองแววตาของคนพูดที่หรี่ลงน้อยๆอย่างครุ่นคิด

           "ถามว่า กับพัศดีน่ะ บอกข่าวไปเท่าไหร่แล้ว"ริมฝีปากของผู้พันยกขึ้นคล้ายรอยยิ้ม แม้แววตาจะยังโกรธกรุ่น

           "...มะ....ผม...ผมบอกแค่เรื่องของอาจารย์ธีระ"ไอ้เนมก้มหน้าก้มตาบอกเรียบๆ ทั้งกลัวและหวั่นเกรงด้วยไม่รู้ว่าตนเองจะต้องเจอกับเรื่องราวแบบไหนต่อไปจากนี้

            "อ้อ...ไอ้ธีระ..."ผู้พันฟังแล้วหัวเราะเบาๆ ใบหน้าของคนพูดจ้องผมใกล้จนแทบประชิด ก่อนจะแสยะยิ้มคล้ายขบขัน"ได้ข่าวว่าเป็นครูสอนดนตรีนี่ "รัก"กันมากล่ะซี ถึงได้บอกข่าวแบบนี้ไปได้"

             "............."ใจความนั้นทำให้ผมสะอึก..นิ่งไปอย่างไม่อาจเอ่ยคำใด ใช่...กับอาจารย์ธีระที่ให้โอกาศผมได้เรียนดนตรีได้เล่นไวโอลินอีกครั้งผมก็ยังทำกับเขาแบบนั้น มันก็ควรควรจะถูกประณาม

       ...และยิ่งมาได้ฟังคนอื่นพูด ร่ายความผิดของตัวเองให้ฟัง มันยิ่งทำให้รู้ซึ้ง ว่าแท้จริงแล้วความผิดของไอ้เนมคนนี้มันมีมากแค่ไหน..

       ...ผิด เสียจนนึกแปลกใจที่พี่โตยังไม่ฆ่าผมทิ้งให้สมแค้นเสียด้วยซ้ำ

         "จะเอาอะไร ขนาดไอ้โตมันยังทำ..ขนาดผัวมันคุ้มกะลาหัวอยู่ก็ยังกล้า"ลุงชาติพูดพลางหัวเราะออกมาเบาๆ"ดูแล้วน่าสมเพชสิ้นดี คนแบบนี้เหรอที่เคยชนะไอ้กันย์แต่ก่อน สนิมขึ้นมือมันแล้วล่ะผู้พัน ทางที่ดีรีบๆเชือดรีบๆจัดการมันซะเถอะ ก่อนจะยิ่งเหลวไปมากกว่านี้"

             "ใจเย็นซี...บอกแล้วว่าทำแบบนั้นมันเอิกเริกไป"ผู้พันโคลงศรีษะ เอื้อมมือบีบคางผมแล้วยิ้มพรายน้อยๆ"อีกอย่าง...ก็น่าเสียดายออก"

             "คิดจะทำอะไร ถามกูด้วย"เสียงตะโกนของป๋าดังแทรกขึ้นมาราวกับได้ยินใจความส่อจิตอกุศทำให้ผู้พันหัวเราะพรืด ผู้ชายที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ดูน่ากลัวและแฝงแววอมหิตและโรคจิตแบบประปลาดๆตรงหน้าหัวเราะกับเสียงร้องนั้น ที่สุดจึงยอมละมือออกจากคางของผมอย่างเสียไม่ได้ ทั้งที่ริมฝีปากยังมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ประดับไม่คลาย...

             "..ไม่เป็นไร ต่อให้เสียแผนไปนิด ก็ใช้ประโยชน์ได้..."

             "...ยังไง?"ลุงชาติเอ่ยปากถาม มองหน้าผู้พันที่จ้องมองผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้มชวนขนลุก

             ริมฝีปากหนากระตุกยิ้มเหี้ยม แววตายิ้มแย้มเข้มขึ้นเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม ชวนให้สังหรณ์ร้ายแล่นวาบ

             "ในเมื่อมันมีสาย มีหนอนบ่อนไส้ได้ เราก็มีได้เหมือนกัน"

             "..........."

             "ไม่ต้องเสียเวลาฆ่า ไม่ต้องเสียเวลาจัดการ ทำไปไอ้พัศดีมันจะได้รู้ตัวว่าเรารู้ทันแผนมันแล้ว..เงียบเข้าไว้..เสร็จแล้วก็ให้ไอ้หนูสองหน้าอย่างมึง...เสนอน้ำหน้าซื่อๆไปรายงานข่าวดีๆต่อ"ริมฝีปากของผู้พันแสยะยิ้ม..รอยยิ้มร้ายลึกแฝงชัดบนใบหน้า"ในเมื่อมันอยากได้สายนักก็ให้มันไป บอกข่าวมันไปเลย ว่าพวกกูจะทำอะไร ยังไง ที่ไหน...บอกไปตามที่กูสั่ง และ...พูดตามที่กูต้องการให้มึงพูด"

             "หนามยอกเอาหนามบ่ง"ชาติเอ่ยขึ้นมาช้าๆ สีหน้าครุ่นคิด หากแววตาเริ่มวาววับอย่างถูกใจ

              "ใช่ไหมล่ะ...นอกจากจะได้วิธีดีๆแล้ว ยังได้รู้ข่าวพวกมันแบบ"รู้ลึก"ซะด้วย"ผู้พันเอ่ยด้วยรอยยิ้ม นัยน์ตาทอดมองไปยังร่างของคนที่อยู่ในห้องขังฝั่งตรงข้าม สบมองแววตาพึงใจในใบหน้านั้นและอาการพยักหน้าช้าๆแสดงความเห็นด้วยอย่างชัดเจน..     

              "ส่วนมึง...ไม่มีสิทธิปฏิเสธ คงรู้ตัวดีอยู่แล้วนะ "ฝ่ามือนั้นคว้าหมับเข้าที่คาง และบีบแน่นอีกครั้ง ให้นัยน์ตาของผมเงยขึ้นมาสบ หากข้อความที่ได้ฟังนั้นยิ่งถ่วงน้ำหนักความเครียดเคร่งในใจให้เพิ่มขึ้นอีกนับเท่าทบพันทวี...

             ....ให้เป็นสาย...สายให้กับพัสดี พอๆกับเป็นสายให้พวกป๋า

             หนามยอก เอาหนามบ่ง

            ให้ผมส่งข่าวอย่างปกติ แต่เป็นข่าวที่คนพวกนี้ให้พูดเท่านั้น แน่นอนว่ามันจะต้องเป็นข่าวลวงที่ไม่มีมูลความจริง ให้พูดบิดเบือน เพื่อจะสร้างความสับสนให้กับพวกพัศดี ขณะเดียวกันก็จะให้ผมคอยสืบข่าวของพัสดีมารายงานพวกป๋าด้วย..

            ...ต้องทำตาม โดยไม่มีสิทธิปฏิเสธ..

           คำพูดนั้นไม่ต่างกับส่งผมลงแดนประหาร..ไม่ใช่ความปราณี เปล่าเลย เพียงแค่พวกเขาไม่อยากจะเสียเบี้ยในมือไป ซ้ำยังคิดจะกลับเอามาใช้ให้เป็นประโยชน์..

            ชีวิตผมอยู่ในกำมือพวกมัน

           ความจริงที่ไม่อยากรู้ ไม่อยากยอมรับดังก้องในสมองอีกครั้งอย่างชัดเจนที่สุด กับคำสั่งและรอยยิ้มที่บาดตา ความรู้สึกที่ลืม...หรือเคยลืมไปกลับมาอีกครั้งซ้ำยังทับถมและเข้ามาคุกคามประสาทอย่างหนักหน่วง

          รู้ดีว่าชะตาต่อจากนี้ยิ่งกว่าเดินกายกรรมบนเส้นด้าย และ...บัดนี้ผมเป็นพวกสายลับสองหน้าอย่างแท้จริง เป็นคนที่ยืนอยู่ตรงกลางไม่ว่าจะกับพวกป๋าหรือพัศดีก็มีสิทธิตายได้ทั้งนั้น

          แต่พวกนี้ไม่เคยสน...

          ไม่ต้องมองรอยยิ้มแสยะและแววตาวาววับคุ่นั้นก็รู้ ไม่ต้องคิดอะไรให้มากก็ทราบ ไม่ว่าผมจะเป็นหรือตายพวกเขาก็ไม่คิดจะแยแส...ถ้าผมบอกข่าวผิดๆกับพัศดีจนถูกลงโทษ คนพวกนี้ก็คงมีแต่จะสาใจ

          ไม่ว่าจะดิ้นรนแค่ไหน...ก็เป็นได้แค่ตัวหมากบนกระดานของพวกเขาเท่านั้น


            "อ้ากกก!"จู่ๆความเจ็บแปลบจากท้องน้อยก็แล่นเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัวทำเอาร่างทั้งร่างถึงกับสะดุ้งเฮือกและเสียงกรีดร้องแล่นออกมาจากลำคออย่างรวดเร็วจนไม่อาจต้านไหว ผมก้มลงไปมองต้นตอของความเจ็บปวดนั้นด้วยความไม่เข้าใจ พลันดวงตาเบิกกว้างเมื่อเจ้าของมือนั้นคือผู้พันที่ชกเข้ามายังท้องน้อย หากแต่ครั้งนี้มันแปลกกว่าครั้งก่อนตรงที่มีปลายนิ้วโป้งโผล่ออกมาพร้อมกับกดย้ำ..กระแทกเข้าไปยังท้องน้อยผมไม่หยุด

             พยายามเอื้อมมือไปฉุดรั้ง พยายามดิ้นรนขยับกายหนี แต่ก็เป็นไปไม่ได้เลยเมื่อถูกตรึงไว้ด้วยร่างสูงใหญ่ของผู้พันทั้งแขนสองข้างยังถูกลุงชาติจับบิดไพล่หลัง ให้ความเจ็บปวดแล่นขึ้นมาจากแผ่นหลัง ร่างเเอ่นโค้ง ทั้งที่ความเจ็บปวดจากท้องน้อยที่ถูกโจมตีสมควรจะงอตัวถอยหนี  และท่าทีเช่นนี้จึงเป็นผลให้หมัดและนิ้วโป้งของผู้พันยิ่งกดลึก..ทิ่มแทงเข้ามาในท้องน้อยอย่างรุนแรง

             น้ำตาไหลพรากอย่างไม่อาจจะกลั้นพร้อมกับเสียงหวีดร้องแสดงความเจ็บปวดที่ออกมาจากริมฝีปากอย่างง่ายดาย...เจ็บ...เจ็บเหลือเกิน เจ็บจนทนไม่ไหว ไม่ได้เจ็บจุกเหมือนโดนชกต่อย ทว่านี่มันเป็นเพียงควาเจ็บปวดจุดเล็กๆบนหน้าท้อง แต่มันกลับรุนแรง ทิ่มแทงจากหน้าท้องแผ่ไปยังทั่วร่าง ความเจ็บปวดมันไม่หาย และยิ่งรุนแรงราวกับกระเพราะจะถูกแทงทะลุ เหมือนลำไส้จะถูกกระชากบิดออกมาต่อหหน้า

             "นี่เป็นโทษเล็กๆน้อยๆที่มึงคิดทรยศกู"เสียงกระซิบเหี้ยมกลั้วหัวเราะสุขสันต์ของผู้พันดังขึ้นมาใกล้หู ผ่านม่านความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นอย่างเลือนราง หากก้องสะท้อนในสมองไม่ยอมจางหายพร้อมๆกับความไม่เข้าใจที่เกิดขึ้น..."ถ้ากูรู้ว่ามึงจะทรยศอีก...คราวนี้มันจะหนักกว่านี้นับร้อยเท่าพันเท่า กูจะให้มึงทรมารขนาดตายก็ตายไม่ได้ จำเอาไว้!"

          น้ำตาเอ่อคลอนัยนตาไหลอาบข้างแก้ม...เจ็บ...เจ้บจนทนไม่ไหว ปวดร้าวและไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจ ว่าทำมมันถึงกลายเป็นแบบนี้..

           ผิดมากนักหรือที่คิดจะไขว่คว้าอิสระ ผิดหรือที่คิดจะก้าวออกไปจากเงาของคนเหล่านี้ ไม่อยากถูกบ่งการ ไม่อยากถูกสั่งให้ทำเรื่องเลวร้าย แค่อยากจะอยู่เงียบๆ มีชีวิตอยู่...อยากจะอยู่อย่างมีความสุข ทำไมมันถึงยากนัก..

           ดิ้นรน..พยายาม ตะเกียดตะกายออกจากหลุม อยากเอาชีวิตรอด อยากโผล่หน้าออกไปมองฟ้า อยากจะมีชีวิต

           ทำไม...ทำไมถึงต้องพบเจอเรื่องแบบนี้


             "อั่ก!"ร่างของผมไถล่ครูดลงบนพื้นทันทีที่ผู้พันและลุงชาติปล่อยมือ แต่ความเจ็บปวดที่ได้รับลดลงเพียงชั่วครู่เท่านั้น เพราะไม่นานก็มีฝ่าเท้าหนาหนักวางลงบนแผ่นอก กดแน่น...เหยียบซ้ำ...ย้ำแผลที่ท้องราวกับอยากจะเห็นผมกระอักเลือดออกมาต่อหน้า..

           สีหน้าคนทำนั้นเต็มไปด้วยความรื่นรมย์ ทั้งแฝงคามหฤหรรษ์แบบแปลกๆ ที่ชวนหนาวสันหลัง ผมมองความสุขในแววตานั้นแล้วไพล่นึกถึงเมฆ..ยิ่งความเจ็บปวดจากฝ่าเท้าที่กระแทกซ้ำจนต้องกระอักกระไอออกมาดังๆยิ่งบ่งชัด..ทำให้ผมนึกรู้ ว่าคนที่เข้ามาเป็น"เด็ก"ของผู้พันจะต้องเจอกับอะไร..

            นัยบน์ตาของผมหรี่ปรือลงช้าๆ สติที่เลือนรางและดวงตาที่ไม่อาจมองเห็นชัดด้วยม่านน้ำตาที่เอ่อคลอมองเห็นรอยยิ้มพึงใจของผู้พัน ในมือฝ่ายนั้นมีมีดเล่มเล็กที่ได้จากที่ไหนไม่รู้อยู่ ปลายนิ้วนั้นกำลังขยับมันไปมาเล่น...ครู่หนึ่งภาพอดีตซ้อนทับ..สำนึกกลับวนเวียนไปหาคนที่ผมพยายามลืมไปจากจิตใจ ชายที่ผมฆ่าเข้าให้ตายไปด้วยมือ..

         ตอนที่ผมเหวี่ยงไวโอลินในมือฟาดเขา..เขาก็อยู่ในลักษณะไม่ต่างกัน และแววตาของผู้พันที่มองมาก็ไม่ได้ต่างไปกับแววตาของผมวันนั้น..

        เหมือนจะมองเห็นคนๆนั้นยิ้ม ราวกับได้ยินเสียงพูดเเผ่วเบา..หากแต่ชัดเจนในสมอง..

          ....เคยทำคนอื่นไว้แบบไหน ก็ต้องเจอแบบเดียวกัน..

           ..เวรกรรมที่เคยทำร้าย พรากชีวิตคนอื่นไม่เคยจางหาย มีแค่จะคอยเฝ้าวนเวียนตอกย้ำให้ชดใช้ ให้ชีวิตไม่อาจมีความสุขได้เพราะบาปนั้นที่จะคอยติดตัวอยู่ตลอดไป..

         นัยน์ตาค่อยหรุบลงช้าๆ..หางตาผมได้ยินเสียงโหวกเหวกบางอย่างแล่นแผ่นเข้ามา พร้อมๆกับสติสุดท้ายที่หลุดลอยไปด้วยภาพใบมีดพุ่งเข้าหาตัวเองอย่างรวดเร็ว


............


     มาแล้วค่า  :กอด1:
       ช่วงนี้ยุ่งมาก กำลังรีไรท์ต้นฉบับคาวี่อยู่อย่างเมามันส์ กำหนดส่ง 20 เดือนนี้ รู้สึกถึงไฟที่ลนก้นอิชั้นอยุ่อย่างรุนแรง อ้ากกกก :o7:
    ส่วนตอนนี้ อืม....คิดถึงป๋ากับผู้พันม้ายยยย/เรียก Fc. :laugh:ออกมาแล้ว แต่ไม่ค่อยเหมือนเดิม เพราะพวกฮีกำลังอยากออกไปจนตัวสั่น ส่วนแผนการณ์ผู้พันไก่ทอดก็เฉียบขาดเช่นเดิม../เอาเหล้าเซ่นสามจอก ลาสบอสคู่นี้นี่ช่างสมเป็นซะมีภรรยากันยิ่งนัก :laugh:
      ลุงชาติ...ตัวประกอบอ่ะ /หลบทีนส์

     เจอกันตอนหน้าค่ะ :L2:
       
     

PAAPAENG~

  • บุคคลทั่วไป
จิ้มก่อน

 :z13:


+++++++++++++++++++++


โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!
ทั้งโกรธและเกลียดไอ้เลวผู้พัน
ไอ้โรคจิตวิปริต  สมองหมาปัญญาควาย
โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!   :m31:   :m31:   :m31:

ไอ้น้องเนมอย่าเป็นอะไรไปนะ
เดาว่าไอ้พี่โตมันคงจะเข้ามารับมีดแทนแน่ๆ
หึ๊ย!!  จะเป็นพี่โตหรือเนมก็ไม่อยากให้โดนทำร้ายอ่ะ
แค่สถานการณ์ที่เจออยู่ก็มากพอแล้ว

สงสารเนม  ตอนนี้สงสารเนมจับใจ
แม้ว่าตอนแรกๆจะหมั่นไส้ในความเป็นคนดี
คิดอะไรตื้นๆไปบ้าง  แต่อ่านตอนนี้แล้วสงสารจริงจัง!
แค่รักพี่โตแล้วผิดตรงไหน
ไม่อยากให้พี่โตทำเลวแล้วผิดตรงไหน
เกิดมาเป็นไอ้น้องเนมแล้วมันผิดตรงหนายยยยยยยยยย   :z3:   :z3:   :z3:

แต่ยังไงก็ยังดีใจ
อย่างน้อยๆพี่โตมันก็ยังรักเนมอยู่
แม้จะโกรธ  แต่ก็รัก
ฮึก!  กอดพี่โตแน่นๆหนึ่งที   :กอด1:

รอตอนต่อไปค่ะ~
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-12-2011 03:22:55 โดย PAAPAENG~ »

donjai11

  • บุคคลทั่วไป
มาแบบค้างๆอะ มาน้อยจังเลย

ออฟไลน์ carmel

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
จะพูดว่าไงดี แต่ตอนนี้เราไม่โอ๋เนมแน่ๆเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะความคิดน้อยและคิดมากของเนมทำให้ทุกคนเดือดร้อน
โดยเฉพาะพี่โต(โตเอฟซี) มันผิดตั้งแต่ไม่มีความเชื่อใจและไว้ใจ
แต่การที่เนมโดนแบบนี้อาจจะทำให้พี่โตใจอ่อนลงเพราะเนมได้รับทลงโทษแล้ว
ยังไงก็แล้วแต่ เนมจำเอาไว้คนที่รักเนมคือพี่โต
สามปีในคุกน่าจะทำให้เนมแกร่งและร้ยมากขึ้นกว่านี้นะ
คนเรามันขาวอย่างเดียวไม่ได้มันต้องเป็นสีเทาเพื่อความอยู่รอด
*อินมากไป*
55555555555555
ขอบคุณนะคะ

ออฟไลน์ whipcream

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
 :m31: เกลียดพวกขาใหญ่อ่ะ  เลวได้อีก

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
ต๊ายยย  ขาใหญ่ออกโรงได้เจ็บแสบมาก

ทำเอาหนูเนมช้ำในแย่แล้ว

รอตอนหน้าว่าแผนจะดำเนินไปแบบไหน

กดบวกกดเป็ด

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด