OH!! Bad Guy รักร้ายๆของผู้ชายในคุก!! [by Silence_Serin] บทส่งท้าย Update 30.09.54
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: OH!! Bad Guy รักร้ายๆของผู้ชายในคุก!! [by Silence_Serin] บทส่งท้าย Update 30.09.54  (อ่าน 2190830 ครั้ง)

tengu3

  • บุคคลทั่วไป
ตอนนี้เป็นตอนที่หวานที่สุดในสามโลกเลยคร่า :-[

ในที่สุดเฮียโตก็บอกรักหนูเนมสักที กรี๊ดกร๊าด o13

ส่วนคู่สามพี ใจจริงเชียร์ วิทย์กับกัณน้า

อย่ากำเนิดคู่หูนรกแตก (กัณ เป้) คู่ใหม่เลย ไม่เอาน้า ไรท์เตอร์ขา

ขอวอนอย่าเลยน้าๆๆๆ หนูกลัวค้า :a5: :m31:

ออฟไลน์ Pumpkin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
ไอ้เป้มันกลับมาหลอกหลอนอีกแล้ว  :laugh:
กลับมาไม่มาเปล่า ยังจะลากพี่กันย์เข้าไปอีก
ว่าแต่ "นั่นสินะ" ของพี่กันย์นี่มันหมายความว่ายังไง?
SAY YES! หรือ SAY NO!

หวังว่าจะNO ฮ่าๆๆๆ



Ps.คำว่ารัก มันลอยอยู่เต็มกระทู้ Bad Guy แล้วล่ะ :-[

ออฟไลน์ Nuclear

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 373
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
รอ  รอ  รอ ตอนต่อไป

 :call: :call: :call: :call:

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
หวานแบบหดหู่นะ  สงสารเนม  ซวยแท้ๆ

ไอ้พี่กันย์  ยังไม่เลิกคิดทำเรื่องอีกเหรอ

minimonmon

  • บุคคลทั่วไป
อ่านมาแต่ละตอนหัวใจเหมือนถูกบีบขั้นอย่างรุนแรง :เฮ้อ:


แต่พออ่านมาถึงตอนที่พี่โตบอกรักน้อนเนม โอ้แม่เจ้า


หัวใจมันชุ่มช่ำเหมือนได้น้ำฝนชโลมใจยังไงยังงั้น :o8:


รอคอยคำนี้มานานมากในที่สุดก็บอกน้องเนมสักที แหมมีความสุขที่สุดเลยอิชั้น  :angellaugh2:


แต่ไอ้พี่กันย์อะไรอีกเนี่ยคิดว่าจะคิดได้แล้วนะ ยังจะมาร่วมมืออะไรกับไอ้เป้อีก ชิชะ แล้วตัวเองอ่ะปากบอกว่า


เกลียดวิทย์ เกลียดแน่เหรอเจ้าค้ะ แน่ใช่ไหม อย่ามาเสียใจทีหลังนะเจ้าค้ะ อิชั้นจะสมน้ำหน้าให้ :angry2:

JipPy

  • บุคคลทั่วไป
ร้าย มาก


ไอ่ เป้ เกลียด นาย หว่ะ

CIndY59

  • บุคคลทั่วไป
...พี่กันย์&เดอะเป้.. คู่ชั่วกำเนิดใหม่เรอะ  <<<< ประโยคนี้โดนใจมาก


พี่โตอ่ะ ทำซึ้งตลอดเลยยยยยยย นังเลงอะไร๊หวานโคตร
น้องเนมไม่รัก ไม่หลงก็บ้าแล้ว


ปล.เริ่มนึกถึงพี่กันย์ตอนดีๆ เป็นเทวดาตอนแรกไม่ออกแล้ว พี่กันย์ตอนนี้คืออะไร ความรักนี้ทำได้ทุกอย่างจริงๆ

SenSei

  • บุคคลทั่วไป
โตเนมแฮปปี้ แต่สามพียังโซแซด :sad4:

แต่ดูแล้วเฮียพี่กันย์จะเริ่มออกตัวแรงกว่าเดิม o22

เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะค่ะ รอพี่โตน้องเนมซำเหมอ o13 :bye2:

ออฟไลน์ ลูกลิงแสดงตัว

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 516
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
ไม่ได้เข้าเล้านานมากกกก
พี่โตน่ารักมากมาย กีสๆ :-[

ออฟไลน์ kamikame

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
โตเนมบอกรักกันแล้ว แอร๊ยยยยย  :o8:
แอบสงสารกันย์นิสนึง อิอิ
 :L2: เป็นกำลังใจให้นะฮ๊าฟฟฟ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ afternoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 301
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
กรี๊ดดังๆ ให้กับคำว่า "รัก" ของคุณท่านพี่โต :laugh:
กันย์+เป้ เนี่ยนะ ม้ายยยยย  :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ kitty

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +258/-7

ออฟไลน์ crosa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ขอกรี๊ดให้ดังๆกับตอนนี้ อิอิ
ในที่สุดพี่โตรู้ตัวสักที
หลังจากห่างหายไปนานกลับมาเกือบอ่านตามไม่ทัน
จำได้ว่าเลิกอ่านไปหลังจากจบภาคหนึ่ง
เพราะว่า เครียดดดดดดดดดดดดดดดดด>O<
อ่านเรื่องนี้ต้องใช้สมองไปยิ่งกว่านั่งเรียนซะอีก
อ่านไปก็สงสารน้องเนมไป หมั่นไส้พี่โตนิดๆ งงกับสามผีหน่อยๆ
อยากขอคารวะคนเขียนจริงๆ
เขียนได้ดีมากๆอ่านไปไม่มีตอนไหนที่ไม่อิน เข้าถึงอารมณ์มากๆ
ชอบเรื่องนี้มากๆค่ะ
รอตอนต่อไปคะ^^

ออฟไลน์ eunbee2523

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 241
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
อ่านจบภาคแรกเองอ่ะ

ยังอ่านภาคสองไม่จบเลย

แต่ป๋ามันจะทำของมันอีก

ออฟไลน์ ishiya

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1

taoping

  • บุคคลทั่วไป
ความรัก....บางทีมันก็เจ็บปวดอย่างที่จิตใจเกินจะทนรับ
ความรัก....บางทีมันก็โหดร้ายจนแทบอยากจะทิ้งลมหายใจไว้
ไม่ว่าความรักจะเจ็บปวดหรือโหดร้ายเพียงใด....คนก็ยังเลือกที่จะเก็บมันเอาไว้

tengu3

  • บุคคลทั่วไป
มานั่งพับเพียบเรียบร้อยรอค่ะ :o8:

ไรท์เตอร์เจ้าขา เมื่อไรจะอัพค้า :call:

มารอตั้งแต่เช้าแว้วน้า :เฮ้อ:

ออฟไลน์ ishiya

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ชะเเว๊บไปดูอีกกระทู้...บอกว่าจะมาตั้งแต่เมื่อวาน
แล้ววันนี้กำลังจะหมดไปอีกวัน...น้องปุ้ยก็ยังไม่มา   :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
Improbable 23 : หลับตา


   โน๊ตดนตรีบนแฟ้มกระดาษขนาดเอสี่วางอยู่บนโต๊ะ ผมหยิบมันมาวางไว้บนที่วางโน๊ต ไวโอลินสีมะฮอกกานีวางอยู่ในกระเป๋าบุนวมขนาดพอดี เอื้อมมือไปรับ pitch pipe จากอาจารย์ธีระมาตั้งเสียงตามปกติ...ในยามบ่ายสองของวันธรรมดาๆวันหนึ่งในแดนสิบสอง

    จะแปลกไปบ้างก็ตรงร่างของใครสักคนที่ผมเคยคุ้นนั่งกอดอกจับจ้องมาจากนอกห้องเรียน หน้าตาออกจะบูดบึ้งเมื่อผู้คุมไม่ยอมให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาในห้องเรียนวิชาดนตรี..

     เหลือบมองคนที่เข้ามานั่งข้างในไม่ได้ก็ยังอุตส่าห์ไปจับจองร่มไม้หน้าห้องเรียน แล้วเรียกพรรคพวกไปลากเอาเจ้าม้าหินอ่อนผู้โชคร้ายมาใช้เป็นที่นั่ง ส่งสายตาวาวๆจ้องมองมาภายในอาคารจนชาวบ้านเขาเกร็งกันเป็นแถบๆ เพราะไม่รู้ว่าวันนี้พี่โตแกผีเข้าหรืออะไรยังไงถึงได้นึกมานั่งอยู่ตรงนี้ ....มานั่งจ้องคนเขาจะซ้อมดนตรีกันแบบไม่ให้คลาดสายตา..

       อาจารย์ธีระถอนหายใจเบาๆเมื่อนักโทษรายหนึ่งนั้นเล่นจบไป ได้ยินเสียงเอ่ยปากบอกให้ฝึกซ้อมแบบเนือยๆ ขณะที่ผมพลิกโน๊ตเพลง kiss in the rain  แล้ววางลงบนที่วางอีกครั้ง ด้วยวันนี้ตั้งใจว่าจะเล่นเพลงนี้เพื่อฝึกซ้อม..

       " สมาธิเสียหมด " เสียงคนสอนบ่นเบาๆทำให้ผมที่กำลังเอาไวโอลินพาดบ่าชะงัก...มองหน้าอาจารย์ธีระงงๆ

       "....ก็มานั่งอยู่อย่างนั้น ใครเขาก็นึกว่าทำอะไรไม่ถูกตาเข้า พาลจะเกร็งจนคิดอะไรไม่ออกไปใหญ่ " คำกล่าวหานั้นมาพร้อมกับสายตาเชิงตำหนิตรงแน่วไปยังชายหนุ่มที่คุณก็รู้ว่าใครแล้วถอนใจยาว ไม่วายทิ้งหางตาเป็นคำถามมาใส่ผมราวกับเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดเสียอย่างนั้น อะไรกันฟ่ะ

       " ช่วยไล่ๆออกไปได้ไหม ? "

       " ....... " เอางั้นจริงเหรอ? จะเอางั้นจริงดิ อยากให้ผมโดนกระทืบหรืออยากจะโดนกระทืบเองล่ะครับอาจารย์ธีระ..คิดจะขัดใจพี่โตแกต้องดูเลเวลตัวเองด้วยนะครับ

      ผมเหลือกตามองชายหนุ่มตรงหน้าแล้วได้แต่นิ่งไม่ตอบคำ ท่าทีฝ่ายนั้นก็คงรู้ดีว่าเราต่างไร้ปัญญาจะจัดการอะไรกับบอสตัวนี้พอๆกัน จึงได้แต่บ่นงึมและถอนหายใจเท่านั้น ไม่มีทางจะไล่พี่โตออกไปไหนได้ เพราะมันก็ไม่ได้ผิดกฏหรืออะไร พี่โตไม่ได้เข้ามายุ่งยามข้างในห้องซ้อม ก็แค่นั่งฟังดนตรีแค่นั้น ต่อให้นักโทษรายอื่นจะเกร็งจนเยี่ยวราด มันก็ไม่อาจใช้เป็นสาเหตุการไล่พี่โตออกจากอาณาบริเวณนี้อยู่ดี

        คิดแล้วก็โคลงหัว ไม่รู้ว่าพี่โตเป็นอะไรขึ้นมานะช่วงนี้...นับแต่ผมกลับมาจากขังเดี่ยวเมื่อสองวันก่อน พี่โตก็มีท่าทีแปลกไปจนผิดหูผิดตา หลังจาก...เอ่อ...บอกว่ารักกันให้ดีใจแล้ว อีกวันพี่โตก็ไปหาป๋าคาดว่าน่าจะเอ่ยปากให้ฝ่ายนั้นจัดการเรื่องพัศดีให้แน่ๆ เพราะตอนนี้ผมยังไม่ถูกเรียกไปสอบสวนหรือทำอะไรอีก  แล้วจากนั้น...อ่า พี่โตก็แปลกไป...มันก็ไม่ใช่การทำตัวแปลกไปแบบ...ผิดปกติหรือชวนสงสัยหรอกนะ แต่ว่ามันเป็นการผิดปกติไปในแง่ของความหวานเอาใจใส่กันและตามติดชนิดไม่ยอมให้ผมคลาดสายตาไปไหนอีกแล้ว กระทั่งมาซ้อมไวโอลิน ยังตามมาและนั่งเฝ้าแถมสั่งให้ผมซ้อมให้เห็นเสียด้วย..

       บางที....เหตุการณ์ที่ผมถูกพาตัวไปโดยที่พี่โตไม่รู้ และเหตุการณ์ที่เราได้แต่เฝ้าคิดถึงกันและกันโดยทำอะไรไม่ได้มากกว่านั้น อาจจะส่งผลกระทบในใจของผู้ชายที่ผม...รัก... มากกว่าที่คิดก็ได้..

   ใช่ไหมล่ะ โดยเฉพาะเมื่อผมเป็นคนรัก...ของพี่โตด้วยแล้ว...

     เผลอยิ้มแล้วกดน้ำหนักมือขึ้นอีกนิดทำเอาผิดคีย์จนต้องสะดุ้ง ไอ้เนมหน้าแดงจัดทั้งด้วยความเขินปนกับความอับอายต่อสายตาตำหนิของอาจารย์ธีระ นึกก่นด่าตัวเองสักสามสี่รอบฐานคิดฟุ้งซ่านจนเป็นผลต่อการฝึกซ้อม

    อ่ะ แต่มันไม่ใช่ความผิดผมนะ ก็ใครบอกให้พี่โตมันมานั่งอยู่ตรงหน้านี่ล่ะ ใครบอกให้พี่โตมายิ้มแป้น ทำตาหวาน เท้าคางมองหน้าไอ้เนมด้วยสายตาแบบนั้นกันเล่า...โอ้ยยย มันเขินนะเฟ้ย แถมยังสุขสุดๆ อ้ากก บ้าไปแล้ววววว

     ค้อนขวักใส่คนที่ยังนั่งทำตาหวานใส่ไม่เลิก สติฟุ้งซ่านเพราะท่าทีแปลกๆกับตาหวานๆนั่นที่มองมาทีทำเอาอ่อนยวบยาบ นี่มันอะไรกัน!!!!    ผมกับพี่โตรู้จักกันมาสามสี่ปีแล้ว ล้วงลักควักไส้เห็นกันชนิดที่ไม่เหลืออะไรจะมาอายแล้วแท้ๆ แต่ทำไมไอ้คำว่ารักคำเดียวมันทำให้เราเป็นไปได้ถึงขนาดนี้กันเนี่ย

      สูดหายใจลึก พาดไวโอลินขึ้นบนบ่าอีกครั้งและตั้งใจฝึกซ้อมให้สติกลับมาอยู่กับเนื้อกับตัวอีกครั้งก่อนจะถูกอาจารย์ธีระแกเตะโด่งถีบออกไปนอกห้องด้วยความหมั่นไส้จัด ผมหลับตาลงช้าๆ สิ่งสุดท้ายที่มองเห็นก่อนหลัลตาลง ยังคงเป็นใบหน้าของพี่โตและรอยยิ้มที่ผมชอบเช่นเคย...

     ผมสูดหายใจลึก...ใบหน้าประดับรอยยิ้ม ยามเมื่อนึกถึงเนื้อเพลงและเรื่องราวที่ผ่านพ้น...

และ...นึกถึงรอยยิ้มกับใบหน้าของพี่โต


ใช่...Kiss in the rain นี่ล่ะ...เหมาะสมที่สุดแล้ว..


  .....


     "ทำแบบนั้น ชาวบ้านเขากลัวหมดเลยรู้ไหม? " ออกปากบ่นทันทีที่ออกมาจากห้องซ้อม แต่คนฟังทำท่าเฉยเสียแล้วขยับไหล่สองสามทีราวกับส่งสัญญาณ... ไอ้เนมกลอกตาหน่ายๆก่อนจะออกแรงบีบนวดไหล่ขาใหญ่แห่งแดนสิบสองไปด้วย...ถึงจะบอกว่ารักแต่เรื่องใช้งานมันคนละเรื่องครับ ชิ

     " ทำอะไร แค่มานั่งฟังเพลง "คำแก้ตัวนอกจากจะไม่แนบเนียนแล้วยังฟังไม่ขึ้นอย่างรุนแรง

    "  ร้อยวันพันปีไม่เห็นชอบ แล้วไหงช่วงนี้ถึงนึกอยากฟังขึ้นมาได้ล่ะ " ออกปากจิกกัดอย่างรู้ทัน ฝ่ามือที่นวดบนไหล่รู้สึกถึงอาการสะดุ้งอย่างคนมีชนักติดหลัง ทั้งน่าขำและนึกอาดูรจนต้องแอบยิ้ม..ยิ้มไม่ให้ใครเห็นบนหลังพี่โตนั่นแหละ...

     " ก็น้องเนมที่รักเล่นนี่ ไม่อยากฟังได้ไง จริงไหม? "  วาจาที่พูดออกมาอย่างไม่อายปาก ทำเอาผมที่กระหยิ่มยิ้มย่องอยู่สะดุ้งเฮือก ผิวแก้มร้อนผ่าวจ้องมองคนพูดที่ไม่แสดงอาการขัดเขินใดๆราวกับพูดประโยคธรรมดาสามัญประมาณ"กูหิว"อย่างไรอย่างนั้น มองแล้วนึกอัศจรรย์ใจในความหนาของใบหน้าเสียจริงๆ...แม่เจ้าโว้ยยย

     " น้องเนมที่รักเล่นมานานแล้วครับถ้าพี่โตไม่รู้.." ผมออกปากสวนกลับทันทีด้วยไม่ยอมให้ตัวเองต้องมาเขินแทบบ้าอยู่คนเดียว...เหมือนจะได้ผล เพราะพี่โตชะงัก....แล้วหัวเราะหึๆ

    ฝ่ามือของผมที่บีบนวดไหล่คนตัวโตอยู่ถูกดึงรั้งได้อย่างง่ายดาย ปลายนิ้วกร้านไล้หลังมือและปลายเล็บสีขาว นัยน์ตาสีเข้มหันมาสบมองแววตาของผมที่อยู่ใกล้ๆ..ทั้งหวานเชื่อมเสียจนชวนให้ใจสั่น 

       " อยากอยู่ด้วยกัน...ไม่ชอบหรือไง? " แค่นี้ทำผมเขินไม่พอใช่ไหม คนพูดถึงได้เอาหน้าผากมาแนบชิด ออกแรงโขกเบาๆกับหน้าผากของผมพอให้รู้สึก ตาคู่นั้นจ้องเขม็ง..แสดงความรู้สึกออกมาอย่างไม่ปิดบัง..

      อยากจะยิ้มเขิน หรือหัวเราะแก้ขวยแล้วออกปากต่อล้อต่อเถียงเช่นที่เคยเป็น ทว่าใจความบางอย่างของบทสนทนา แววตา หรืออะไรสักอย่างนั้นทำให้ผมชะงัก..แขนข้างที่ว่างซึ่งเกาะอยู่บนไหล่หนาย้ายลงมาที่สอดเข้ากับบั้นเอวพร้อมกับกอดไว้แน่น..

       " ชอบสิ " หัวเราะหึๆเมื่อพี่โตรั้งตัวให้นั่งลงบนตัก ตากวาดมองรอบๆเผื่อใครมาเห็น  แต่เมื่อห้องดนตรีปิดแล้วและไม่มีร่างของผู้คุมหรือสิ่งมีชีวิตชนิดใดอยู่จึงยอมนั่งลงและเอนกายพิงแผ่นหลังแกร่งอย่างว่าง่าย...รับไออุ่นจากตัวคนซึมซับและถ่ายทอดเข้าหากันอย่างรวดเร็ว..

       " ร้อนจัง..." ริมฝีปากชื้นแนบลงบนผิวเนื้ออ่อนตรงซอกคอ ฝ่ามือหนาสอดเข้าไปไล้บั้นเอวช้าๆ..เสียงกระซิบที่แฝงนัยยะที่รู้กันดีเป็นของพี่โตคนเดิมไม่ผิดแน่ คนที่พลิกจากสถานการณ์หวานๆมาหื่นได้หน้าตาเฉย ..

        " ปล่อยสิ จะได้หายร้อน " ตอนนี้เวลาคงปาเข้าไปสามโมงกว่า แดดร้อนเปรี้ยงยังไม่หายไปไหนเลย มากอดรัดอะไรกันตรงนี้ก็สมควรจะร้อน และเพราะมันร้อน มันจึงไม่สมควรที่จะทำอะไรมากกว่ากอดด้วย

        " น่า....." ฝ่ามือยังรุกไล่ไม่ยอมแพ้..ริมฝีปากยังตามขบกัดไม่หยุด จนชัดจะเสียใจที่ตัวเองเลอซาบซึ้งกับบรรยากาศหวานๆเมื่อครู่ซะจริงๆ

        " ไม่เอา....ตอนกลางคืนเถอะ " ผมไม่ได้หื่นนะ บอกไว้ก่อน แต่ถ้าห้ามอย่างเดียวมีหรือพี่โตจะฟัง ต้องหลอกล่อถ่วงเวลาสิ อยู่กิน เอ๊ย อยุ่กันมานานก็พอรู้นิสัยอยู่หรอก

        " เฮ้อออ ก็ได้ " ที่สุดพี่โตก็ยอมละมือออกจนได้ ฝ่ามือนั้นเปลี่ยนจากสอดไล้บั้นเอวเป็นกอดไว้แทน พร้อมกับปลายคางพาดลงบนไหล่ผมโยกตัวกอด ออดอ้อนราวกับเด็กน้อยเสียอย่างนั้น

   เปลี่ยนอารมณ์เร็วจนตามไม่ทันจริงน้า... ไอ้เนมได้แต่บ่นอยู่ในใจ จำยอมให้พี่โตกอดไว้เหมือนตุ๊กตาแต่โดยดี..

          " ...เนม...."

         " หืม..." ตากำลังมองท้องฟ้าที่เปลี่ยนสีเงียบๆคิดอะไรเรื่อยเปื่อย พี่โตก็สงเสียงทัก ผมครางรับไปส่งๆก่อนจะหลับตาลงช้าๆ..

          "...ตอนที่...ถูกสอบสวน " ใจความเครียดเคร่งไม่น้อยทำให้นัยน์ตาต้องลืมขึ้นในที่สุด..ผมเม้มปากเข้าหากันช้าๆเมื่อคิดถึงโมงยามอันน่าหวาดหวั่น " พัศดี..มันพูดอะไรเกี่ยวกับพวกป๋าไหม?"

         " เอ๋ ?" ผมชะงัก...เบิกคิ้วงงๆ

         " ...เมื่อวานไปหาป๋ามา..มันบอกว่ายังตกลงเรื่องสอบปากคำไม่ได้เลย "  นั่น...หมายความว่าผมอาจจะต้องถูกเรียกไปอีกหรือ?

        " ไม่เป็นไรหรอก.. " เหยียดยิ้มออกมาช้าๆ สบตาพี่โตพยายามให้ความมั่นใจคนที่ผมรักและคนที่รักผมอย่างหนักแน่น " ต่อให้ถูกสอบกี่ครั้ง ผมก็จะไม่..บะ......"

        " ไม่ใช่เรื่องนั้น ! " พี่โตส่ายหน้า ร้องเสียงห้วนสวนคำพูดของผมขึ้นมาอย่างอัดอั้นใจ สีหน้าคนพูดเครียดขึ้งเมื่อคิดถึงเรื่องที่ผมต้องพบเจอ นัยน์ตาพี่โตสั่นไหว...ชวนน่าสงสารนัก..

        "....กูไม่อยากให้มึงไปไหนไกลๆตาอีกแล้ว " ผมชะงัก...นิ่งไป เมื่อได้ฟังคำสารภาพจากปากของผู้ชายที่กอดตัวเองไว้แน่น..

   นี่เหมือนเป็นคำตอบกรายๆของพฤติกรรมในช่วงนี้ สิ่งที่ผมคิดว่ามันแปลกประหลาดและเป็นผลมาจากคำบอกรักของเราทั้งสองคน

   มันก็อาจจะใช่ เพราะจะมีใครไม่ดีใจ เมื่อได้ฟังคำรัก...จากคนที่รอมาตลอด

ทว่า...อีกหนึ่งสาเหตก็อาจมาจากสิ่งนี้..

     เพราะความสุขของเรามันยังไม่ยั่งยืน เพราะไม่อาจวางใจได้ เพราะหวั่นกลัว...ว่าจะมีใครมาพรากจากกันอีก

    ผม...อาจจะต้องถูกสอบสวน ถูกทำร้าย โดยที่พี่โตช่วยอะไรไม่ได้...ในความรู้สึกของผม ผมอาจจะเจ็บ อาจจะหวาดกลัว ไม่เข้าใจต่างๆนาๆ

     แต่กับความรู้สึกของพี่โต คนที่รักและห่วงแทบบ้า คนที่ไม่สามารถทำอะไรเพื่อคนที่ตัวเองรักได้ และต้องคอยห่วงกังวล คิดอะไรร้ายๆสารพัดว่าผมจะต้องพบเจอกับอะไร..

     พี่โต คงไม่อาจจะทนกับเรื่องราวเหล่านี้ได้ ไม่อาจจะทนกับสภาพที่มีผมเป็นดั่งตัวประกัน จะถูกจับเชือดวันไหนก็ไม่รู้..

     เพราะฉะนั้น เวลานี้ จึงอยากปกป้อง อยากดูแล อยากจะอยู่ใกล้ๆให้มากที่สุด

      " ผม....."


      "...อยากออกไปข้างนอกนั่นไหม? " จู่ๆพี่โตก็โพล่งขึ้นมาท่ามกลางความเงียบงันในบทสนทนา...ผมชะงักค้าง ขมวดคิ้วแน่น..

ออกไปข้างนอก...?

ถามถึงความต้องการน่ะหรือ?

       " อยากสิ " ผมยิ้ม ยิ้มให้กับดวงตาสีดำสนิทที่จ้องมองมาไม่กระพริบของพี่โต ก่อนจะถอนหายใจเฮือก คิดถึงเรื่องราวที่วาดหวังไว้ยามได้ออกไป"ข้างนอก" ที่พี่โตว่า นอกกรงขัง หนีจากเรื่องราวโหดร้ายทั้งหลาย..

    ...ถ้าออกไปแล้วผมจะไปอยู่กับแม่... อยากจะอยู่ดูแลแม่ให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อยากจะชดใช้หยดน้ำตาที่ผมทำให้ท่านเสียไป..

   อยากจะกอดน้ำแน่นๆ อยากจะให้กำลังใจและดูแลน้องสาวที่ผมรักให้ดีที่สุด

...และ อาจจะได้พบกับพี่โต อาจจะได้พุดคุย บางที....เราอาจจะเป็นเหมือนในนี้ก็ได้ เราอาจจะได้รักกันข้างนอกนั่นก็ได้..

   จะดีสักแค่ไหนล่ะ ถ้าหากผมจะได้ยิ้มอยู่ภายใต้ท้องฟ้าที่ไร้ลวดหนามและกรงขังอีกครั้ง...

...อยาก...จะมีอิสระ....อยาก จะเล่นไวโอลินท่ามกลางทุ่งหญ้าหรือภูเขา อยากจะก้าวเดินบนผืนดินแห่งนี้อีกครั้ง...ในฐานะของ"คน" ที่กลับมาเป็นคนผู้เต็มเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณอีกครั้ง

  ใครๆในที่นี้ต่างก็มีความหวังแบบนี้ทั้งนั้น...

       โตมองใบหน้าของเจ้าคนบนตักที่กำลังยิ้ม...ยิ้มกว้างยามคิดและวาดฝันถึงสิ่งที่ยังมาไม่ถึง คิดถึงสิ่งที่เนิ่นนานเหลือเกินกว่าจะได้พบเจอ..


    ขาใหญ่แห่งแดนสิบสองมองท้องฟ้าที่สดใส เมฆสีขาวลอยไปตามสายลม นกตัวน้อยที่บินผ่านและดวงตาวันส่องแสงจ้า...

     ฝ่ามือค่อยกำแน่น..สุดหายใจลึก สบมองดวงตาสดใสของคนรัก...คนรักที่รักและสำคัญมากเหลือเกิน..

  วางฝ่ามือลงบนแก้มมันแล้วไล้เบาๆ อย่างสเน่หา..รัก....รักเหลือเกิน ห่วงใยและอาทรหนักหนา

    เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ทีหนักในหัวใจของมันมีมากขนาดนี้ รักจนใบหน้าและรอยยิ้มของแฟนสาวแทบจะหายไปจากความทรงจำ และยิ่งตระหนักรู้...รู้ชัด...ในยามที่มันถูกพาตัวไป หัวใจปวดร้าวทุรนทุรายแทบขาดใจ ทรมารแค่ไหนก็รู้ตัวเองดี..

     ริมฝีปากแตะลงบนผิวแก้มขาวไล้เบาๆเเล้วประทับรอยชื้นบนริมฝีปากบาง สอดปลายลิ้นเข้าลิ้มลองความหวานของร่างในอ้อมแขน ฟังเสียงครางเครือในลำคอเหมือนแมวจนอดจะไล้ปลายนิ้วลงบนแผ่นหลังหยัดโค้งและลำคอขาวบางไม่ได้...

รัก.... รัก.....รัก

เพราะรัก...ถึงได้ปกป้อง เพราะสำคัญ...ถึงได้ยอมทำทุกสิ่ง...

      " นั่นสินะ....ใครๆก็อยากออกไปทั้งนั้น " เอ่ยคำพูดนั้นแล้วยิ้มให้เจ้าคนที่มีสีหน้างวยงงอยู่ครู่หนึ่ง มันพยักหน้ารับอย่างกระตือรือล้น เอ่ยปากเล่าถึงความฝันของตน..และที่ทำให้โตยิ่งดีใจ คือความฝันนั้น มันมีเขารวมอยู่ด้วย...

...ใครๆก็อยากออกไปใช่....ใครๆก็อยากไปจากนรกแห่งนี้

แต่มันทำไม่ได้..ไม่อาจจะทำได้ ไม่อาจจะหนีจากที่แห่งนี้ไปได้ จนกว่าโทษทัณฑ์ทั้งหลายที่ถูกตัดสินไว้จะชดใช้หมดสิ้น..

....แต่ใครก็ตามที่ทำไม่ได้....เขานี่แหละ จะทำให้มันเป็นไปได้เอง..

    ด้วยอิทธิพลของสามคนนั้น ด้วยอำนาจ เม็ดเงิน กำลังคนที่มีอยู่ในมือ เขาจะทำให้มันเกิดขึ้น..

    การพบกันเมื่อวาน พวกมันบอกถึงกำหนดการที่กระชั้นชิดเข้ามา นัยยะนั้นยังคงแฝงแววข่มขู่และวาดฝัน โตเคยลังเลแต่บัดนี้ เขาแน่ใจแล้ว..

       จ้องมองใบหน้า...มองดวงตาพราวระยับ ความงดงามและสดใสในแววตาคู่นี้ไม่เคยหายไปแม้ผ่านไปนานแค่ไหน...นี่เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้โตรู้สึก ว่าการตัดสินใจของตนเองไม่ได้ผิดพลาด

เพราะมันเหมาะกับท้องฟ้ากว้าง มากกว่ากรงขังแคบๆมืดๆ

เพราะมันทำให้เขามีความสุข เขาจึงต้องการให้มันมีความสุข..มากขึ้น...มากขึ้น....มากเท่าที่ตัวเองจะให้ได้..

ต่อให้ต้องตะกาย ป่ายบันไดไปคว้าให้ก็จะทำ..

จะไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรมันได้อีกแล้ว..

   หากอยู่ที่นี่แล้วไม่ปลอดภัย ก็ต้องออกไป แม้จะเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเท่ากันก็ตามที..

ไม่ใช่ไม่มีทางเลือกอีกแล้ว.. แต่ตอนนี้เขาเลือกที่จะทำมันต่างหาก


...............


..ถ้าหากหลับตาลงข้างหนึ่ง ไม่ยอมมองความจริง ไม่ยอมเห็นอีกด้านของสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ก็จะมีความสุข

คำว่ารักก็ได้มาแล้ว การอยู่เคียงข้างกันก็ได้มาแล้ว กอดจูบความสัมพันธ์ทางกายก็ดำเนินมาอย่างแนบชิดทุกขั้นตอนเสียจนไม่อาจจะกล่าวอ้างอะไรได้อีก

ถ้านี่คือความสุข...มันคือความสุขที่แฝงความขื่นขม

แต่หากมันเป็นความทุกข์ระทม นี่ก็คงเป็นความทุกข์ที่งดงามที่สุด..


       สายลมเย็นๆโชยพัดช่วยบรรเทาความร้อนจากแสงแดดที่แผดจ้าได้บ้าง ร่มไม้ใต้เงาต้นมะม่วงต้นโตออกผลดกได้ทุกปีเป็นที่พักพิงชั้นดีสำหรับเหล่านักโทษที่ต้องการพักผ่อน หลับตาลงแล้วเอนตัวพิงโคนต้นไม้ให้เปลือกไม้แผ่ความเย็นมาสู่ร่างกายที่ร้อนผ่าวเพราะแสงแดดและหยาดเหงื่อ เงยหน้าขึ้นมองดวงตาวันที่ส่งแสงจ้ามือกำคอเสื้อขยับมันเข้าๆออกๆให้ลมสอดเข้าสัมผัสผิวกายใต้ร่มผ้า

       ไม่นานฝ่ามือที่เคยคุ้นก็วางลงบนกระหม่อมพร้อมกับผ้าขาวผืนบางชุบน้ำเย็นแนบลงบนผิวแก้ม...

     " เหนื่อยหน่อยนะ "

     " อือ...." เมฆรับคำเบาๆ สบตาคนพูดที่ค่อยทรุดตัวลงข้างกาย สอดปลายนิ้วมาแทรกประสานกับฝ่ามือทิ้งให้ความเงียบและความสงบของบรรยากาศยามบ่ายไหลลอยผ่านไปเรื่อยๆให้เข็มนาทีวิ่งช้าๆในยามที่มีกันและกัน..

          ....เอนกายลงพิงบ่า หนุนศรีษะเกยพาดไหล่หลับตาลงช้าๆ ล้า...เหนื่อย...เกินจะทน

     ร่างเจ้าตัวเล็กหลับตาลงด้วยสีหน้าเหนื่อยอ่อน ทำให้วิทย์ลอบถอนใจ เอื้อมมือไปหาใบหน้าที่หลับตาพริ้มลูบไล้มันแผ่วเบาอย่างนึกอาดูร..

   ....ริมฝีปากห่อเข้าหากันสูบลมหายใจจากปอดมาสู่ริมฝีปาก ให้สายลมนั้นปล่อยออกมาเป็นสำเนียงกรีดเบาๆของสายลม..

   เสียงผิวปากดังเบาๆใกล้ๆหูทำให้คิ้วที่ขมวดเข้าหากันค่อยคลายลงอย่างไม่รู้ตัว...เมฆยิ้มออกมาทั้งที่ยังหลับตา เขาเอื้อมมือกอดแขนชายหนุ่มข้างกายไว้ ฟังเสียงเพลงไร้ทำนองจากปากของคนรัก แม้จะไม่อาจบอกได้ว่ามันคือบทเพลงไหน ทว่าท่วงทำนองที่มีให้กันเพียงสองคนก็พิเศษและน่าจดจำมากกว่าใคร...

      มันแผ่วเบา..แต่เต็มไปด้วยความสุข...

          สายลมเย็นไล้ยอดหญ้า ระเรี่ยพัดเอาความชื้นขึ้นสู่เบื้องบน แสงอาทิตย์ที่ร้อนแรงเริ่มอ่อนแสง มันเริ่มคล้อยต่ำบ่งบอกเวลาที่ผ่านมานานพอควร..นัยน์ตาสีเข้มตวัดมองเหล่าพรรคพวกที่นั่งพัดคุยกันเบาๆด้วยสีหน้าเริงรื่น..ก่อนจะตวัดมามองคนข้างกายวิทย์ยกมือไล้เส้นผมตัดสั้นของมันเบาๆ ริมฝีปากที่ส่งเสียงมานานพอดูหยุดลงและคลี่เป็นรอยยิ้ม ค่อยขยับศรีษะเจ้าคนที่ผลอยหลับไปแล้วมาหนุนตัก..

    ฝ่ามือสอดไล้เรือนผม...นัยน์ตาทอดมองรอบด้าน ทิวทัศน์เดิมๆ...ภาพเดิมๆแสนคุ้นตา...ทว่า มันก็อุ่นใจ...

.... ก่อนที่เขาจะหลับตาลงข้างหนึ่ง...มองความจริงที่ปรากกอยู่ด้วยดวงตาอันไร้ความทุกข์ระทม..

   ทุกอย่างออกมาดี...

   เราต่างกาวผ่านปัญหามาได้แล้ว..ด้วยหัวใจ ด้วยความรักที่มอบให้กัน

  เรารักกัน เราตกลงกันได้ เรามีความสุข...เรา...สองคน...

   นิ่วหน้า...ริมฝีปากเม้มเข้าหากันอย่างเผลอไผล ที่สุดดวงตาที่ปิดลงข้างหนึ่งจึงเบิกขึ้นอีกครั้ง วิทย์กระพริบตาปรับดวงตาที่เบลอพร่าของตนชั่วครู่..พลันแสยะยิ้มขื่น..

   หลับตาลงข้างหนึ่ง ทำเป็นไม่รู้ ทำเป็นไม่เห็น กวาดขยะซุกใต้พรม มองผ่านปัญหาที่อยู่ตรงหน้า อาจจะสบายใจ แต่ปัญหาไม่ได้หายไปไหน มีแต่จะเพาะตัวและเกิดเป็นแผลใหญ่เช่นเดิม..

   เรื่องที่ผ่านมาใช่จะไม่เคยเกิด เมื่อสามปีก่อนก็เคยตกลงกัน ก็เคยเป็นแบบนี้ ต่างฝ่ายบอกว่าจะรับฟัง ต่างฝ่ายต่างคิด ว่าตนเองจะมีความสุข แล้วอย่างไร มันมีความสุขเพียงไม่นาน ความหวาดระแวง ไม่ไว้ใจ ความทุกข์ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เกิดขึ้นทั้งที่ต่างก็พูดและคิดว่าเราจะเป็นไม่เป็นอะไรอีกแล้ว...

     ตกลงกันกี่ครั้ง พุดคุยกันกี่คราว มันก็คงเป็นเช่นนี้ ตกลงกัน แก้ปัญหากัน สัญญาว่าจะเชื่อใจกัน แต่อีกไม่นาน พอมีอะไรมากระทบ ทุกสิ่งก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม..

 เหมือนกันวนเวียน เดินหลงวนในหนทางที่ไม่มีทางออก..

      วิทย์หลับตาลงอีกครั้ง... ทว่ายังคงขมวดคิ้ว ความรู้สึกสงบสุขในใจ คงไม่ต่างอะไรกับความสงบเงียบหลงพายุใหญ่ มีค่า...ทว่า ก็ต้องเตรียมรับมือต่อไปเช่นกัน

 ละครชีวิตไม่จบลงตราบใดที่มีลมหายใจ จะปล่อยวาง ละเลยไม่ใส่ใจ จะวางใจปล่อยชีวิตแล่นไปตามกระแสของผู้คน เดินตามเงาของใคร หรือวิ่งหา"หัวใจ"ของใครที่ไหน ก็ต้องคิดไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน

 สิ่งที่สำคัญในตอนนี้ไม่ใช่การถามตัวเองว่าต้องการอะไร แต่เป็นการ"แยกแยะ" ความรู้สึกทั้งหมด รวมทั้งเหตุและผลทั้งหลาย

 เอามารวมเป็นเรื่องเดียวกัน เอาความรู้สึกทั้งหลายมาไตร่ตรองจนหมดในคราเดียวเขาก็คงไม่เว้นจะเป็นบ้า

 ต้องค่อยๆคิดทีละเปลาะ ต้องค่อยๆแยกทีละเรื่อง...ทีละเรื่องออกจากกัน..

 ต้องช่วยกันคลาย"ปม"เชือก"ที่ผูกมัดหัวใจและวิญญาณ ต้องตามหาเงื่อนที่ขมวดแน่นแล้วแก้มันออกให้ได้...

  หาเหตุ...หาต้นตอของทุกสิ่ง ว่ามันเกิดจากอะไร เกิดจากใครกันแน่ เพราะความผิดพลาด เพราะความโกรธแค้น เพราะความเคืองใจ เพราะอะไร....เพราะเหตุใดเราถึงไม่อาจจะก้าวออกจากวังวนบ้าๆที่น่าสมเพชนี่..



      ....ท้องฟ้าเริ่มถูกแต้มด้วยเฉดสีแดง เสียงนกร้องดังขึ้นมาเป็นระยะ เสียงของผู้คนที่เคลื่อนไหว ดวงอาทิตย์หลบอยู่หลังยอดไม้..และความเย็นที่สัมผัสผิวกาย ทำให้เมฆขมวดคิ้ว..ค่อยๆลืมตาขึ้นมาในที่สุด..

      นอนหนุนตักวิทย์ตั้งแต่เมื่อไหร่เขาจำไม่ได้ จำได้ลางๆว่านั่งเอนตัวพิงบนไหล่ฟังเสียงผิวปากระเรื่อยไปกับสายลมก็รู้สึกง่วงจนเคลิ้มหลับ..

        " เมฆ...." น้ำเสียงเรียบเรื่อย...เอ่ยออกมาแผ่วเบาดวงตาของวิทย์มองตรงมายังตัวเขาที่นอนอยู่บนตักฝ่ามือนั้นลูบผิวแก้มที่เย็นชื้นจากสายลม รอยยิ้มของคนพูดบางเบาแต่ไม่ยากเกินจะมองเห็น

        "....ครับ? " เลิกคิ้ว...ถามกลับ..งวยงงกับปลายนิ้วชี้ของวิทย์แตะลงบนเปลือกตาซ้ายดันให้มันปิดพับลงข้างหนึ่ง..

    มองใบหน้าของคนที่รักด้วยดวงตาข้างเดียวของตน เห็นแสงจัดจ้าของตะวันที่ถูกร่างและแผ่นหลังของอีกฝ่ายบังไว้ และมองเห็นสีสันของท้องฟ้าระเรื่อแดง..และมองตามริมฝีปากสีจางซึ่งขยับไหว..


        " เราออกไปจากที่นี่ด้วยกันไหม? "

    ริมฝีปากของคนฟังอ้าค้าง...ดวงตาทั้งคู่เบิกกว้าง เมื่อปลายนิ้วชี้นั้นละออกจากเปลือกตา..

    เมฆมองหน้าคนพูด...มองหาร่องรอยของอาการขบขัน มองหาแววตาขี้เล่น ทว่ามันกลับปรากฏเพียงคำถามที่ต้องการคำตอบสะท้อนมาไม่หยุด.. ริมฝีปากของคนพูดยกยิ้ม...มองไปยังกำแพงสูง...รั้วหนาม...ป้อมปราการ และกระบอกปืนในมือของผู้คุมด้วยดวงตาวาววับ..


      " เราจะได้มีความทรงจำด้วยกัน เราจะได้อยู่ด้วยกัน...และ....มีความสุข..."


..เพียงเรา...สองคน สองคนเท่านั้น..

...นั่นคล้ายจะเป็นสิ่งที่ต้องการนานมาแล้ว...นั่น.....ราวกับเป็นคำอธิษฐานของใครสักคน ที่ไม่มีวันเป็นจริง...

 ช้า....นาน.....เมฆจึงผ่อนลมหายใจช้าๆเขาหลับตาลงอีกครั้ง...


       " ...นี่....เป็นคำขอแต่งงานรึเปล่า?"


ลมหายใจของคนฟังไม่แม้แต่จะสะดุดไหว รอยยิ้มที่ประทับบนริมฝีปากยังคงปรากฏเช่นเดิม...

       " ใช่ "

   เมฆมองหน้าคนพูด...เขาจ้องหน้าวิทย์นัยน์ตาสะท้อนภาพชายหนุ่มที่รักนักหนา ใบหน้าแววตา ริมฝีปาก ทุกสิ่งที่ประกอบเป็นคนๆหนึ่งตัดกันกับสีของท้องผ้าที่เริ่มมืดมัว

 เอื้อมมือไปหา...แตะปลายนิ้วลงบนเปลือกตาของคนรัก..ทำเช็นเดียวกันที่ฝ่ายนั้นกำลังทำกับเขา..

       ...เรา.....จะปิดตาลงข้างหนึ่ง..

       เหลือเพียงดวงตาหนึ่งข้าง ที่จะจ้องมองกันและกันเท่านั้น

      เมื่อแก้ปมไม่ได้...พวกเขาจะ"ตัด"มันออกไปเอง


.................

มาช้า...โฮก ก ก ก  ก บอกไว้หลายวันแล้ว ไม่มาสักที ขอโทษค่า ขอโทษจริงๆ :monkeysad:

จะอัพตั้งแต่เมื่อวานของเมื่อวานแล้ว แต่ปวดหัวมาก ปวดตาด้วย ไมเกรนถามหาสองวันติดๆ ไม่มีเรี่ยวแรงเลยพี่น้องงง T T :really2:
    เอาเถอะ ยังไงก็มาแล้วเนาะ ตอนนี้ก็หวานๆกันไปสองคู่ พี่กันย์จะโดนตัดออกจากสารบบสามผีแล้วสินะ แต่จะยอมไหมต้องรอกันต่อไป
   จะว่าไปที่พี่โตตัดสินใจจะช่วยพวกป๋า ก็เพราะเหตุนี้ด้วยล่ะเนาะ เพราะเนมต้องเจอแบบนี้ พี่มันเลยต้องตัดสินใจเด็ดขาดเสียที รู้สึกว่าพอพี่โตยอมรับว่ารัก พี่แม่งก็รักมากขึ้นเรื่อยๆเนาะ ทุ่มเทให้น้องมันทุกอย่างเลยเชียว น่ารักว่ะพี่โตวว ขอจุ๊บทีดิ๊ /หลบตีน :z6:
ส่วนวิทย์เมฆ..อ่า รู้สึกรักคู่นี้มากขึ้นทุกๆ...ชอบตอนที่วิทย์ผิวปากจัง ลมเย็นๆกับเสียงผิวปากนี่มันช่างเขากันดีแท้~ :impress2:

แจ้งข่าวค่า ^ ^

หนังสือรีปริ้นล๊อตสุดท้ายตอนนี้มีคนจองหมดแล้วนะคะ ใครที่อยากได้ถ้าหลุดจองแล้วจะแจ้งค่า :กอด1:

ปล. ใครๆก็ไม่รักพี่กันย์ / หลบมีดอิคุณหมอ     :laugh: :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-07-2011 10:16:10 โดย Serin »

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
พี่โตน่ารักมว้ากกกกกกกก   :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
ตอนนี้ให้อารมณ์หวานๆเบาๆแต่แอบหนักหน่วง

จะแหกคุกกันเหรอ ไม่อยากคิดว่าจะเลวร้ายขนาดไหน

 :z3:

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
+1 ให้คนเขียน

ขออย่างเดียวอย่าจบเศร้า ใจมันจะขาดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด :sad4:

ออฟไลน์ mayuree

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 443
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-4
โอย..บทจะหวานพี่โตทำเอาน้ำตาลอายกันไปเลยเชียว
กว่ารู้ว่ารักใช้เวลาไป3ปี แล้วพอยอบรับว่ารัก ก็รักซะ หลงซะ
เอาเหอะเอาใจช่วยให้รอดพ้นไปได้ด้วยดีทีเถ้อ เพี้ยง!   :กอด1:

tengu3

  • บุคคลทั่วไป
เป็นตอนที่หวานมากเลยค่ะ :o8:

แต่จะแหกคุกกันหรอ แล้วผลออกมาจะเป็นไงอ่ะ :เฮ้อ:

อย่าจบแบบเศร้าๆเลยนะคะ ไรท์เตอร์ :call:
 
มันปวดหัวใจเกินทนค่าๆๆๆ :o12:

ppmayuree

  • บุคคลทั่วไป
คิดถึงพี่โตกับน้องเนมสุด ๆ ๆ ๆ ๆ ...... :z2:

ออฟไลน์ kwangun

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 180
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-1
พี่โตวววววววว :give2:   'น๊ารักอ้ะ'
พึ่งเห็นพี่โตโคตรพระเอกก็ตอนนี้ละ  ฮ่าๆๆ (พี่โต  :z6:)
หวานจังเลยอะ น่ารักสุดสุด

ออฟไลน์ goonglovenut

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1188/-10
 o18หวานจังเลยตั้งแต่สารภาพรักเนี่ยะ ชอบจัง
คุณนักเขียนขอบทพี่โตกอดรับขวัญน้องเนมหน่อยสิ
555 ไม่ค่อยหื่นเลยคนอ่าน

ออฟไลน์ Jimmeiiii*

  • แสงสุดท้าย*
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3161/-192
โอ๊ยยยยย,,พี่โตน่าร๊ากกกกกกอ่ะ :o8: :z1:

ออฟไลน์ dezzetoeiiz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
 :z13: จิ้มให้แก่ความหวานทีนึง ♥

ตอนนี้พี่โตหว๊านนนนนน หวานนนนน จริงๆ ... เขินแทนเนมเลยวุ้ย  :o8:
แต่มันดูสงบเรื่อย เอื่อยๆก่อน พายุจะราญรอนจริงๆ ... อยากให้ได้พ้นโทษ "ทั้งคู่"
มากกว่าจะให้ใครคนหนึ่งออกไป ไม่อยากจะให้เรื่องมันมาม่าจริงๆ  :m15:

ขออย่าทำร้ายจิตใจคนอ่านทั้งสองเรื่องเลยนะคะ :z3:

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
หวานแบบหม่นๆ จะปฎิบัติการสำเร็จไหมนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด