OH!! Bad Guy รักร้ายๆของผู้ชายในคุก!! [by Silence_Serin] บทส่งท้าย Update 30.09.54
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: OH!! Bad Guy รักร้ายๆของผู้ชายในคุก!! [by Silence_Serin] บทส่งท้าย Update 30.09.54  (อ่าน 2191069 ครั้ง)

ออฟไลน์ ammer

  • มีหัวใจแต่ไร้ความรู้สึก
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
จะสงสารอิพี่กันย์มันดีมั้ยเนี่ย แต่ก็อย่างว่าความรักของพี่กันย์มันเป็นรูปแบบที่ไม่สวยงามเลย ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ครอบครอง ทำร้ายคนที่ตัวเองรักได้ลงคอ พอผลออกมาแบบนี้มันเลยไม่น่าสงสารเลย :เฮ้อ:
แล้วที่บอกว่าเกลียดพี่วิทย์นักหนา มันคือการหลอกตัวเอง ไม่ยอมรับความรู้สึกตัวเองรึป่าว?
นี่คือบทสรุปของสามผีแล้วใช่มั้ยค่ะ  :sad11:

kycool

  • บุคคลทั่วไป
สงสารใครกันดีอ่ะ

คิดถึงเฮียโต และน้องเนมอ่ะ

Cacao

  • บุคคลทั่วไป
เอ่อ..... อินไซด์กัณฑ์อ่านแล้วจะทำให้คนอ่านเป็นโรคจิต ไซโค กลายๆ่ป่ะเนี๊ย
แบบต้องคอยหลอกตัวเองแล้วก็ทำร้ายคนที่ตัวเองรักไปเรื่อยๆ เพราะหลอกตัวเอง
ว่าไม่ได้รักเค้า เอ่อพูดเองยัง งง เองเลยตรู ฮ่าๆๆ นี่ไม่ได้รักนะ โอเคไม่ได้รักเล๊ยยยยยยยย

ออฟไลน์ nang_nang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
อยากให้พี่วิทย์เป็นเมียพี่กันย์ ส่วนเมฆก็เป็นเมียพี่วิทย์
แฮปปี้เห็นๆ55555

Herokung

  • บุคคลทั่วไป

SenSei

  • บุคคลทั่วไป
คำว่ารักของทุกคนมีเหตุผลหมด

อยู่ที่ว่าจะถูกต้องรึเปล่านี่สิ

แต่อ่านยังไง๊ยังไง

ก็สงสารทุกคน เป็น3Pที่อ่านแล้วทรมานหัวใจจริงๆ

รอคอยพี่โตกับน้องเนมนะจ๊ะ :bye2:

ja ne

  • บุคคลทั่วไป
สามผีของจริง

พี่กันย์ หึหึ

ออฟไลน์ Pumpkin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
การเป็นคนที่ลึกลับเกินไป...
คิดอะไรซับซ้อนเกินไป...
คนที่จะพลาดตกลงมาในหลุมของแผนที่เกิดขึ้นมันอาจจะเป็นคนวางแผนก็ได้นะ

วางแผนไว้หมด แต่ทำไมถึงได้พลาดกันนะ แถมความผิดพลาดมันใหญ่มากซะด้วย

พี่กันย์เคยถามตัวเองแบบจริงๆจังๆไหม ว่าทำไมมันถึงได้เป็นแบบนี้?



Ps. โตเนมพักกันยาวๆ  o18

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
อิพี่กันย์มันหลอนตัวเองน่าดู แต่ยังไงก็สงสารทุกคนที่ได้มาเล่นเกมรักนี้แหละเนอะ
แต่พี่วิทย์กับเมฆเค้ามีทางออกกันแล้ว พี่กันย์ว่าไง หรือจะกลับมาเป็นสามผีเหมือนเดิม :laugh:

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
รักสามเส้านี่มันรุนแรงจริงๆนะ
สุดท้ายถ้าไม่มีใครยอมใคร  ก็เจ็บรอบวง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






tengu3

  • บุคคลทั่วไป
โอมมมมมม จงอัพอีก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :call:

แฮ่ๆๆๆ อยากอ่านอีกแล้วค่า
มาอัพเดี๋ยวเน้ น้า ไรท์เตอร์ :impress2:

ออฟไลน์ O[]OVampire

  • เพียงเธอสบตา...แทบลืมหายใจ เพียงเธอ...จากไป...ตราบชั่วลมหายใจ ...ไม่ลืม
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-0
ความดาร์คยังไม่เสื่อมคลาย นี่เหละด้านมืดของมนุษย์อยากครอบครองยึดเหนี่ยว
สิ่งที่คิดว่าเป็นของๆตัวเองไว้ ว่าแต่ว่าอยากอ่านหนูเนมต่ออ่ะจ้ากำลังลุ้น

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
โดยส่วนตัวแล้วชอบพี่กันอ่ะ
รู้สึกถึงความรักอย่างชัดอ่ะ

ออฟไลน์ sanri

  • เวลาไม่ใช่ตัวพิสูจน์ทุกสิ่งเสมอไป
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-9
โหย  ช่วงหลังๆนี่กินมาม่าไปหลายถ้วยแหะ   :monkeysad:
แล้วคู่หนูเนมกับเฮียโตหายไปหน๊ายยย  :serius2:

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ชอบเมฆตอนนี้ที่สุดเลยแระ
มันต้องอย่างงี้ดิ

ออฟไลน์ kikipanda

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ตรรกะอิพี่กันย์ยังคงหลั่กหลั่นย้อนแย้งเหมือนเคย รักจนพร้อมจะทำร้ายทุกคน แม้แต่คนที่รัก เพื่อให้ได้คนนั้นมาอยุ่ข้างกาย orz

ไปๆ มาๆ ตอน20-21บทส่งพี่วิทย์กลายเป็นพระเอกไปเลย รักไม่อาจครอบครอง แต่ก็อยากให้คนที่รักเป็นสุข หัวใจพี่หล่อมากค่ะ ขอกอดพี่วิทย์ที แล้วหันไปจุ๊บคุณเซที ^^

donjai11

  • บุคคลทั่วไป
คิดถึงน้องเนมแล้ว

ออฟไลน์ ishiya

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
น้องเนมของเราเมื่อไหร่จะมาหง่ะ  :call:

Saint De Jupiter

  • บุคคลทั่วไป
สามผีทรีซัม อ่านแล้วนะ... เซ็งตลอด

Ilesa

  • บุคคลทั่วไป
3ผี เมื่อไหร่จะลงตัว อ่านแล้วปวดใจ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






tengu3

  • บุคคลทั่วไป
เมื่อไหร่จะมาค้าๆๆๆๆๆ :monkeysad:

รอมาเป็นชาติแล้วน้าๆๆ(เว่อร์ได้อีก)

จะลงแดงตายอยู่แว้วคร่า :serius2:

ออฟไลน์ ishiya

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ปูเสื่อรอน้องเนมมาหลายวันเเระ  :z3:

MR29234

  • บุคคลทั่วไป
อ่านทันจนได้

น้องใหม่ฝากตัวด้วยนะครับ

แอบสิงมานาน ผลสุดท้ายก็ทันแล้ว

ยังไงก็ รอ พี่เนม นะครับ

 :mc4: :mc4: :mc4:

ออฟไลน์ ishiya

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
10 วันผ่านไป...น้องเนมของเราก็ยังไม่มา  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ มะมะมะหมิว

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0

REFICUL

  • บุคคลทั่วไป
กันย์หลอกตัวเอง!!  :m16:
อยากให้กันย์วิทย์มากมายอ่าาาาาา  :sad4:

ออฟไลน์ ishiya

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
มานั่งปูเสื่อรอกันตั้งเเต่หัวค่ำ เพราะชะเเว๊บไปอีกกระทู้นึง น้องปุ้ยบอกว่า จะมาลงน้องเนมวันนี้ตอนดึก  :z2:

ออฟไลน์ Nuclear

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 373
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ในที่สุดก็ไล่อ่านจนทัน

ทำไมเรื่องมันถึงยุ่งอีรุงตุงนังกันไปหมด

เอาใจช่วยคนแต่งนะคะ

 :a11: :a11: :a11:

tengu3

  • บุคคลทั่วไป
มานั่งปูเสื่อรอด้วยอีกคน แหะๆๆ อยากอ่านมากๆๆๆๆๆๆ :m31:

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
Improbable 22 : เดินหน้า


      ฝ่ามือวางทาบลงบนผิวแก้มขาวซีด ที่ปรากฏรอยช้ำสีม่วงเข้มเด่นชัด ค่อยแตะไล้...เกลี่ยผ่านผิวแก้มนั้นแผ่วเบาด้วยปลายนิ้วกร้านเเข็งที่รู้ดีว่ามันสั่น...สั่นระริกด้วยความห่วงหาปนหวาดหวั่นในจิตใจ

...คนสำคัญ ของสำคัญที่อาจจะหลุดหาย เจ็บปวดทุรนทุรายกับการเสียมันมากเพียงใด ตอนนี้....รู้ชัด...

    ชัดเจนเช่นเดียวกับความสมเพชเวทนาในใจตนที่ไม่อาจจะช่วยอะไรได้ ไม่อาจจะใช้อ้อมแขนปกป้อง ไม่อาจจะโอบกอดไว้และเป็นเกราะกำบังป้องกันมันจากทุกสิ่ง...โดยเฉพาะกันตรายที่เกิดขึ้นจากความใกล้ชิด อันตราย ที่เกิดขึ้นเพราะมันอยู่เคียงข้างและ"เป็นที่รัก" ของตัวเขา..

     โตถอนหายใจเบาๆ ร่างที่นั่งอยู่บนเก้าอี้พลาสติดสีสดค่อยๆขยับโน้มกายเข้าไปใกล้ ก้มตัวแนบชิดจับจ้องดูเเลเจ้าคนป่วยที่น่าสงสารนักบนเตียงอย่างห่วงหา สายลมจากด้านนอกโชยพัดมาด้านในของห้องพยาบสลจนผ้าม่านสีขาวสะบัดพลิ้วไหว เผยให้เห็นท้องฟ้าสดใสและแสงแดดที่เริ่มเจิดจ้าขึ้น บ่งบอกว่าเวลาล่วงเลยมาจนสาย ทว่า...เจ้าคนตัวเล็กที่มันเพิ่งกลับมาเมื่อเช้ามืดก็ยังนอนหลับตาพริ้ม..ไม่ขยับกาย

      ใบหน้าซีดเซียว ริมฝีปากแตกระแหง ร่องรอยฟกช้ำปรากฏชัดบนใบหน้าและผิวกายยิ่งทำให้เลือดในกายเดือดเร่าและทุรนทุรายด้วยความกังวลห่วงหา...พื้นที่ในใจ...ไม่รู้ว่ามันครอบครองได้มากมายเพียงใด มาบัดนี้ เด่นชัด...

    .....สำคัญ....สำคัญมากจนเสียไปไม่ได้...

    ...ทั้งห่วงหาอาทรมากมายเสียจนทุรนทุรายแทบบ้า..

       เนื้อตัวพลันสั่นสะท้านอย่างลืมตัวเมื่อสมองจินตนาการถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ การสอบสวนครั้งต่อไป คนที่ไม่อาจจะเล่นงานได้ และสิ่งที่มันต้องพบเจอ...

    ก้มมองปลายนิ้วสีขาวที่ปรากฏรอยดำและเล็บที่ฉีกขาด บ่งชัดว่ามันคงจะทรมารและหวาดผวา ...ครั้งเดียวก็มากพอแล้วสำหรับคนหนึ่งคน หากมันจะต้องพบเจออีก..แม้เจ้าตัวจนทานทนไหว แต่หัวใจของเขาคงแทบแตกสลาย คงต้องปวดร้าวแทบบ้า..

     ไอ้คนๆนั้น ไม่ว่ามันจะเป็นผู้คุมแสนดีพิทักษ์คุณธรรมมาจากไหน ไม่ว่ามันจะเป็นวีรบุรุษมากำจัดคนเลวอย่างพวกเขา ถึงมันจะดี แต่มันไม่มีวันจะได้รับการให้อภัย

      ความผิดที่มัน"ใส่ร้าย" ความผิดที่มันทำร้ายคนที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรเลยด้วยอย่างไอ้เนม ต่อให้มันจะดีมาจากไหน มันก็เลวบรมในสายตาของเขา

     เล่นงานคนที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรเพื่อขู่ เพื่อกลั่นแกล้งให้ทรมารและหมดความอดทน วิธีการแบบนี้มันแตกต่างจากวิธีการของคนเลว วิธีการของนักโทษ พวกเดนคนในสายตาของสังคมอย่างพวกเขาตรงไหน

     ในเมื่อกล้าทำขนาดนี้ กล้าท้าทาย กล้าท้าชนตรงๆ ตัวเขาก็จะตอบแทนมันอย่างสาสมไม่แพ้กัน !!


         ".......อือ...." เสียงครางเบาๆในลำคอของคนป่วยทำให้โตค่อยละออกจากภวังค์ นัยน์ตาสีเข้มก้มลงมองใบหน้าที่ซีดขาว หัวคิ้วที่คลายลงบ่งบอกสัญญาณของนิทราเริ่มขมวดมุ่น แพขนตาหนาขยับไหวระริกราวกับปีกผีเสื้อ บ่งชัดว่าเจ้าตัวกำลังจะตื่นจากการสลบไสลไปด้วยความเหนื่อยอ่อน..

       แสงแดดอ่อนพาดลงบนเสี้ยวหน้าขาว จากการไหวพะเยิบของผ้าม่านตามแรงลม โตชะงัก ลุกขึ้นหันรีหันขวาง ตั้งท่าจะไปปิดหน้าต่างไม่ให้แสงสาดกระทบดวงตาของคนป่วย แต่ก็อยากให้สายลมเย็นๆโชยชายให้มันสบายตัว ที่สุดจึงได้แต่ใช้ร่างกายบดบังแสงแดดอ่อน ให้เปลือกตาบางค่อยเผยอเปิดขึ้นโดยไร้อาการนิ่วหน้าเพราะแสงแดดที่จ้าจัดบาดตา

       "....พี่....." เสียงเรียกเบาๆในลำคอดังขึ้นเมื่อดวงตาสีดำสนิทสุกใสคู่นั้นค่อยเปิดขึ้นอย่างเชื่องช้า มันมีสีหน้างัวเงีย ปนกับงุนงงกับท่าทีแปลกประหลาดของเขาเล็กน้อย แต่โตไม่สนใจ ยังคงยืนบังแสงแดดจ้าพร้อมกับโน้มตัวเข้าไปหา ฝ่ามือแตะลงบนผิวแก้มที่ปรากฏร่องรอยฟกช้ำอย่างอาทร..

         "...หิวน้ำไหม? " เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา...แฝงความสั่นไหวจนรู้สึกได้ ฝ่ามือที่แตะลงบนผิวขาวสั่นระริกไหว ด้วยความดีใจปนกับความหวาดหวั่น หลากหลายอารมณ์ที่ซัดเข้าหายามได้สบมองดวงตาคู่นี้...นัยน์ตา...ที่จำหลักฝังรอยความทรงจำแนบแน่นในหัวใจ  ดวงตาที่คิดถึงมากมายแม้ยามห่างไกลกันไม่กี่ชั่ววัน หากแต่ยาวนานนักในความรู้สึก

     ....และยิ่งนาน เนิ่นนานเมื่อรู้ ว่ามันต้องเจ็บปวด มันต้องทุกข์ทรมานและสับสนเพราะต้นเหตุคือเขา

          " ครับ...." เจ้าตัวเล็กพยักหน้ารับน้อยๆ นั่นทำให้โตยกมือลูบหัวมันเบาๆอย่างห่วงใยก่อนจะผละไปรินน้ำเปล่าจากแก้วใสหน้าเครื่องกรองน้ำในห้องพยาบาล  หันมาอีกครั้งคนที่เคยนอนแบ่บก็ยันตัวลุกขึ้น นั่งอยู่บนเตียงและจ้องมองมายังตัวเขาด้วยดวงตาซื่อๆ ท่ามกลางแสงแดดอ่อนและสายลมเย็นที่พัดมาจากเบื้องนอก..

     ..ไม่รู้ทำไม..ภาพนั้นทำให้โตรู้สึกตื้อในอกขึ้นมาอย่างกะทันหัน เขาปิดตาลงชั่วขณะหนึ่งอย่างรวดร้าว คำถามสั้นๆดังขึ้นในอกเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ ยามเมื่อคิดถึงคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า

      ...คนอย่างมัน อย่างไรก็ไม่เหมาะกับที่แบบนี้...เจ้าคนที่มีแววตาซื่อๆใสๆ รอยยิ้มอ่อนๆและโกรธใครไม่เป็น ไม่เหมาะสมกับ"นรก"แห่งนี้สักนิด..

     จะดีแค่ไหนนะ ถ้าหากวันนึง มันจะได้ไปยืนอยุ่ข้างนอกกรง ได้ไปยิ้มและหัวเราะกับเขา"ข้างนอก"นั่น..

      มันจะมีความสุขมากกว่านี้ มันจะยิ้มได้มากกว่านี้ มันจะได้เล่นไวโอลินที่ตัวเองชอบท่ามกลางท้องฟ้าสดใสและทุ่งหญ้าสีเขียวสดด้วยรอยยิ้มที่เต็มเปี่ยมด้วยความสุข..

     ....ไม่ใช่คนที่ต้องใส่ชุดนักโทษ นั่งอยู่ในสภาพบอบช้ำ ดวงตาแฝงแววทุกข์ระทมเบื้องหน้า...

       " ขอบคุณครับ..." คำตอบรับนั้นดังขึ้นเบาๆ ยามเจ้าตัวยื่นมือมารับน้ำจากมือเขา โตก้มมองฝ่ามือที่มีรอยช้ำ เขานิ่วหน้านิดๆ จากนั้นจึงส่ายหัวและดึงแก้วน้ำนั่นห่างจากมือที่ยื่นมาหา

       "...ค่อยๆกิน..." ยกแก้วน้ำจรดริมฝีปากบาง ท่ามกลางสีหน้างวยงงสงสัยของมัน ฝ่ามือข้างหนึ่งโอบแผ่นหลังไว้แล้วรั้งเข้าหาตัวเบาๆ อีกข้างค่อยๆป้อนน้ำใสลงสู่ริมฝีปากบางที่มีร่อยรอยบอบช้ำ จ้องมองการเคลื่อนไหวของลูกกระเดือกบนลำคอกระทั่งฝ่ามือของมันกระตุกเสื้อเขาเบาๆเป็นสัญญาณ โตจึงยอมวางแก้วนั้นลงบนกรอบหน้าต่างใกล้ตัว

        " เปื้อนหมด..." เจ้าคนป่วยยังมีหน้ามาบ่น มันงึมงัมแล้วยกมือเช็ดปลายคางที่เลอะไม่น้อยด้วยใบหน้าแดงก่ำ ก้มหน้างุดๆกึ่งเขินกึ่งทำตัวไม่ถูก น่าเอ็นดีเสียจนต้องหัวเราะออกมาเบาๆ

        " อย่าขำสิ " มันหันมาทำหน้ามุ่ยใส่ โตส่ายหัวช้าๆ ฝ่ามือลูบหัวมันเบาๆก่อนจะไล้ระเรื่อยลงมายังขมับ ข้างแก้ม จรดปลายคางและลำคอ...

        " เจ็บมากไหม ? "น้ำเสียงถามแหบพร่า ทำให้คนฟังชะงัก...ก่อนจะผ่อนลมหายใจช้าๆ ยิ้มออกมาด้วยสีหน้าขื่นขมปนสังเวช...ในชะตากรรมของตัวเอง

         " เป็นนักโทษ ยังไงก็ต้องเจอแบบนี้สักครั้งอยู่แล้ว...ไม่เป็นไรหรอก " เนมออกปากตอบสั้นๆดวงตาจับจ้องสีหน้าและแววตาของ"ขาใหญ่"เบื้องหน้าอย่างพินิจพิเคราะห์ " ผม...บอกว่าไม่เป็นไร .."

   ..ผมหมายความแบบนั้นจริงๆ..

ต่อให้ต้องถูกสอบสวน ต่อให้ต้องถูกทรมาร กักขังทำร้ายอีกกี่ครั้ง..ต่อกี่ครั้ง...

ผมก็ไม่มีวันอ้าปากใส่ร้ายใคร ผมก็ไม่มีวันจะออกปากพูดอะไรที่ตัวเองไม่รู้..

        "....กูขอโทษ.." เสียงกระซิบของพี่โต ..แววตาสั่นๆและสีหน้าขื่นขม ทำให้ผมค่อยๆหลับตาลงช้าๆ จมูกรู้สึกตื้อตันขึ้นมา ยามนึกถึงความเจ็บปวด ความกดดันที่ผ่านพ้น หากแต่มันสับสนปนเปกันกับความห่วงใยที่ผู้ชายคนนี้มีให้ผม..

         " ไม่เป็นไร...ผมไม่เป็นไรจริงๆ " เอนตัวพิงไหล่พี่โตไว้ หลับตาลงและกระซิบบอก ทั้งบอกตัวเองและบอกคนข้างๆ บอกคนที่กอดผมไว้ด้วยลมหายใจสั่นๆว่าไม่เป็นไร..

....ปลุกปลอบ..ทั้งตัวเองและพี่โต ..บอกให้"เรา"ไม่หวั่นไหวและมีกำลังใจสุ้ต่อไป..

  ..."เรา"ที่ต่างกำลังหวาดหลัวว่าจะสูญเสียกันและกันไปทั้งคู่...

          " กูทำให้มึงเดือดร้อน..."น้ำเสียงพร่าแหบของพี่โตดังขึ้นเบาๆ " เพราะมึงอยู่ใกล้กู..."

          " พี่อย่าโทษตัวเองเลย..." ผมบอกเบาๆพลางยกมือโอบตอบคนที่กอดผมไว้แน่น...ปลอบใจไม่ให้พี่โตรุ้สึกผิด และโทษตัวเองมากไปกว่านี้...

         " ....ไม่เป็นไรนะ กูจะช่วยมึงเอง.." พี่โตสูดหายใจลึก เอ่ยปากสัญญาด้วยน้ำเสียงที่มั่นคงขึ้น " กูจะไม่ให้มึงเจอแบบนี้อีก.."

   คำสัญญานั้นทำให้ผมค่อยๆหลับตาลงอย่างเชื่องช้า เบียดกายซุกซบแผ่นอกแกร่ง..หลับตานิ่งอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายที่คอยปกป้องมาตลอดเวลาที่ผ่านผัน..

    ....คำพูดของพี่โต พูดอะไรออกมาแล้ว..ทุกอย่างก็จะเป็นไปตามนั้น..

   บอกว่าจะปกป้องคือปกป้อง บอกว่าจะดูแล มันก็คือแบบนั้น ..ไม่เคยผิดสัญญา ไม่เคยทำให้ผมผิดหวัง นับตั้งแต่วันนั้น..วันที่สัญญาว่าเราจะอยู่ข้างๆกัน วันที่นั่งมองสายฝนที่พร่างพรมและจับมือกันไว้ดั่งคำสัญญา..


         " ครับ...ผมเชื่อ "

      ...เชื่อมั่น และไว้ใจในตัวผู้ชายคนนี้ มากกว่าใคร ...

          " เนม....." เสียงคนพูดสั่นๆ...สั่นไหวและไม่มั่นใจเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่...ผมชะงักค่อยๆเงยหน้าไปมองสบตาคู่นั้น แต่ทว่าพี่โตเบือนหน้าหนี...ราวกับมีอะไรบางอย่างในหัวใจ..

          "...ครับ....."

         "...จำได้ไหม...ที่....ที่กูบอกว่ามึงเป็นคนสำคัญ...มาก....พอๆกับ.....กิ้ง...." คำพูดนั้นทำให้ผมขมวดคิ้ว  งวยงงปนไม่เข้าใจ และ....นึกขุ่นใจว่าพี่โตจะพูดเรื่องนี้ออกมาทำไม?

...จะพูดเรื่องคนที่พี่รักอีกคน...ในตอนนี้ทำไม?

        ".........." เสียงระบายลมหายใจยาวๆของผมและการนิ่งเงียบไม่ตอบคำ คงมากพอจะเป็นคำตอบของพี่โตแล้ว อ้อมกอดนั้นจึงค่อยรัดแน่นขึ้น ทว่าใบหน้าและแววตาของคนๆนี้ก็ยังเสมองไปทางอื่น ไม่ยอมสบตา..

        "...แต่....ตอนนี้....." เสียงกลืนน้ำลายลงคอ ทำให้ผมยิ่งต้องขมวดคิ้วมุ่น พี่โตหันกลับมามองหน้าผมอีกครั้ง สีหน้าเริ่มลังเล..ไม่แน่ใจ

        " ตอนนี้มึงเชื่อกูไหม? เชื่อคำพูดที่กูพูดไหม? "

        " พี่? "ผมเลิกคิ้ว สีหน้ายิ่งงวยงงหนักขึ้น...กับ....อาการลังเลและคำพูดที่ไม่ปะติดปะต่อของพี่โต...

        "ตอบสิ...." คำพูดเร่งเร้า ทำให้สีหน้าของผมยิ่งงวยงงและขัดข้องใจ ทว่าเพราะอ้อมกอดที่ยังคงแนบแน่นและแววตาสั่นๆ ทำให้ผมค่อยผ่อนลมหายใจช้าๆ...พี่โต อาจจะคิดถึงเรื่องที่ผมเคยบอก ว่าไม่เชื่อถือคำพูดของเขา ไม่เชื่อ..และไม่ไว้ใจ...

....คำพูดที่เคยพูดเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว แต่บางที มันอาจจะฝังใจ มันอาจจะมีความสำคัญมากกว่าที่คิด..

  ...หรือพี่โตต้องการความมั่นใจ ต้องการให้ผมเชื่อ และต้องการให้ผมยืนยันว่าจะอยู่ข้างๆกันแบบนี้..

          "....เชื่อสิ....." ผมตอบสั้นๆ สบตาคนพูดเพื่อแสดงความจริงใจ พี่โตมองหน้าผม..และ.....ใบหน้าก็เริ่มลั่นเลิ่กเหลือบมองซ้ายขวาและปรากฏรอยแดงบวกกับท่าทีไม่มั่นใจ ดูแปลกตา และไม่เข้ากันสถานการณ์เอาเสียเลย

          "....พี่...." ผมร้องทักไปอย่างงๆ กึ่งขัน แต่อ้อมแขนของพี่โตก็รัดแน่นขึ้น พร้อมๆกับใบหน้าที่ซุกลงกับไหล่...กอดแน่น...แนบแน่นมากกว่าครั้งไหน...

          " ถ้าตอนนี้มึงเชื่อกูแล้ว...กูจะพูด.....พูดอีกครั้งนะ...." พี่โตกระซิบบอกเบาๆ พร้อมกันนั้นผมได้ยินเสียงสูดหายใจลึกและ...ลางสังหรณ์บางอย่างเริ่มตงิดๆ...

          " ....ตอนนี้กูรู้แล้ว....เข้าใจชัดเจนแล้วว่าใครสำคัญมากที่สุด..."

          " อยากพูดให้มึงรู้ และอยากให้มึงเชื่อ...เชื่อคำพูดของกูอีกครั้ง..."

   ฝ่ามือที่กอดผมแน่น ค่อยผละออกมาและบีบกำไหล่ไว้ ใบหน้าแดงๆหายากของพี่โตมองมาที่ผมพร้อมกับสบตา...

  ...ผมองริมฝีปากคู่นั้น มันค่อยๆขยับ ขณะที่เสียงบางอย่างแทรกซึมเข้ามาในสมอง...ดังก้องเสียจนผมรู้สึกหูอื้อ...ตาลาย....

...คำพูดนั้น....

  ...คำที่บอกว่า...

   รัก..


....................


     เสียงเอะอะ...เสียงตะโกนและเสียงพูดคุยกันดังขึ้นมาใกล้ ทำเอาร่างของสองนักโทษที่อยู่ในห้องพยาบาลชะงัก โตถึงกับสถบอุบออกมาอย่างหัวเสีย กว่าจะยอมรับ กว่าจะเข้าใจ และออกปากพูดคำๆนั้นออกมาได้ไม่ใช่ง่ายๆ แต่กลับถูกขัดคอด้วยเรื่องงี่เง่าไร้สาระอะไรอีกก็ไม่รู้

  หันขวับไปมองหน้าของเจ้าคนป่วยที่บัดนี้ขึ้นสีเสียจนแดงก่ำน่ารักแล้วความหงุดหงิดที่พุ่งริ้วๆก็ค่อยลดลงไป โตแตะปลายนิ้วลงบนผิวแก้มของมัน รู้สึกถึงร่างที่สะดุ้งเอือกและดวงตาคู่นั้นที่เสหลบ น่ารักเสียจนต้องคว้าตัวมันมากอดแน่นๆอย่างอดรนทนไม่ไหว..


    ปึง!!

     เสียงประตูที่เปิดอ้า ทำให้ขาใหญ่แห่งแดนสิบสองขมวดคิ้วมุ่น จำต้องละอ้อมกอดจากร่างของเจ้าตัวน้อยแสนรักไว้เมื่อมองเห็นร่างที่คุ้นตาถูกแบกมาด้วยฝีมือของนักโทษ และมีผู้คุมยืนมองด้วยสีหน้ายุ่งยาก หัวคิ้วขมวดมุ่น..

    หันไปมองเจ้าคนข้างกายที่ค่อยยันตัวขึ้นมาจากเตียง จ้องมองภาพเบื้องหน้างงๆ สีหน้าแดงจัดของมันค่อยจางลงไปและเอื้อมมือมาเกาะเสื้อด้านหน้าไว้ ส่งสายตางวยงงไปยังภาพที่มองเห็น

   โตถอนหายใจเบาๆ ยกมือลูบหัวมันแล้วค่อยดึงมันลุกขึ้นช้าๆ สภาพร่างกายโดยทั่วไปดีขึ้นมากแล้ว ไม่มีท่าทีเหนื่อยอ่อนสะโหลสะเหลให้เห็นเมื่อได้พักผ่อนและความเครียดค่อยลดลง  จูงมือมันลงจากเตียงแล้วพามายืนอยู่ข้างๆร่างของเจ้าคนเป็นหมอที่เคยดูแลคนอื่น...ซึ่งบัดนี้นอนนิ่ง ตาลอยๆยิ้มโง่เหมือนคนบ้าสติหลุด..

       " เห...นั่นมัน? " ผมอุทานออกมางงๆเมื่อมองตามสายตาพี่โตแล้วพบว่าร่างที่ถูกหามเข้ามาคือพี่กันย์...ในสภาพเลือดไหลอาบศรีษะและหน้าผาก ดวงตาลอยเหม่อและท่าทีสติสตังไม่เต็มนั้นทำให้ต้องอ้าปากหวอ

       " เกิดอะไรขึ้น ? "เสียงพี่โตถามเบาๆ ดังขึ้นข้างกาย เหลือบมองคนพูดพลันนึกถึงคำที่ได้ฟังมาเมื่อครู่ ...หัวใจก็กระโดดระทึกขึ้นมาอีกครั้งอย่างไม่รุ้กะละเทศเอาเสียเลย

...คำบอกรัก...

จากปากของ"คนข้างๆ"ที่บัดนี้บอกว่ารักและผมเป็นคนที่สำคัญที่สุด...

ดีใจไหม....ดีใจสิ ดีใจมาก...มากจนตัวเองยังคาดไม่ถึง

        ฝ่ามือที่สัมผัสไหล่เบาๆนั้นทำให้ผิวแก้มร้อนผ่าว ผมเงยหน้าขึ้นไปสบตาพี่โต มองตาคู่นั้นแล้วก็ต้องหลบวูบด้วยความขัดเขินที่มาจากไหนไม่รู้มากมายนัก...

       "...มันถูกตีหัวอยู่นอกห้องพยาบาล มึงอยู่ในนี้ไม่ได้ยินเสียงอะไรเหรอ " เสียงถามของผู้คุมทำให้ผมค่อยดึงตัวเองมาสู่สถานการณ์ตรงหน้าอีกครั้ง ผมส่ายหัว พร้อมๆกับพี่โตที่ขมวดคิ้วมุ่น ออกปากปฏิเสธ

       " ไม่นี่...ไม่เห็นได้ยินเสียงร้องโวยวายอะไร "

        " แล้วมึงล่ะ .." ผู้คุมหันมามองที่ผม สายตาสะดุดกับร่องรอยบนร่างกายผมเล็กน้อยแล้วเลิกคิ้ว..

         "...ผมหลับอยู่ เพิ่งตื่นเมื่อกี้..." และไม่ได้ยินเสียงอะไร...นอกจากคำว่ารักที่บัดนี้ยังก้องไปมา..

         " ลองถามมันสิ " พี่โตหันมายักคิ้วล้อเหมือนรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ หมั่นไส้จนต้องซัดกำปั้นใส่หลังเบาๆ แก้เขิน อยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้วยังจะมีอารมณ์มาล้อ ..

         "...โดนทุบจนสติสตังหายไปแล้วมั้ง... " ผุ้คุมออกปากบ่นแล้วส่ายหัว " แล้วจะให้ใครมาทำแผลให้ล่ะว่ะ ทุกทีเป็นคนรักษาวันนี้เสือกมาโดนเอง .."

    ผู้คุมออกปากบ่นดังๆแล้วหยิบวิทยุสื่อสารประจำตัวที่เหน็บอยู่ข้างเอวมาติดต่อกับแดนอื่นเพื่อหาตัวหมอหรือใครก็ตามที่สามารถพยาบาลคนเจ็บได้ ก่อนจะเดินย่ำเท้าหนักๆออกจากห้องไปพร้อมกับออกปากไล่นักโทษที่มารุมล้อมรวมทั้งพวกเราสองคนให้ออกไปด้วย

         " มันยังป่วย ! "  พี่โตตะโกนเถียงเมื่อผู้คุมทำท่าจะไล่ผมให้ออกจากห้องและไปทำงาน แต่คนฟังส่ายหัว

         " ยังไงก็เดินไหวแล้ว ทำงานไม่ไหวก็ออกไปพักข้างนอก " สิ้นเสียงผู้คุม พี่โตก็บ่นงึมงัมออกมาอย่างไม่พอใจ นัยน์ตาที่จับจ้องร่างพี่กันย์ซึ่งตอนนี้ค่อยหลับตาลงช้าๆด้วยสีหน้าราวกับหมดอาลัยด้วยหัวคิ้วที่ขมวดแน่นเข้าหากันช้าๆ...

          "....ไปนั่งข้างนอกเถอะ " ที่สุดพี่โตก็ถอนหายใจเฮือกแล้วหันมาดึงมือผมให้เดินตามออกไป เเละเมื่อไม่มีร่างของเราสองคน พี่กันย์ก็ถูกทิ้งให้นอนเดียวดายอยู่บนเตียงพยาบาลเพื่อรอให้หน่วยรักษาพยาบาลของแดนอื่นเข้ามาดูแล..


     ผมขมวดคิ้วแน่นอย่างคาใจไม่น้อย ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หันไปมองเสี้ยวหน้าของพี่โตที่ฉายแววครุ่นคิดบนหนักใจอะไรสักอย่างแล้วยิ่งชวนให้สงสัย แต่ก่อนจะได้ทักอะไรฝีเท้านั้นก็ค่อยหยุดลงตรงใต้ร่มไม้ ร่างของพี่โตหมุนกลับมาหาผมอีกครั้ง พร้อมกับนัยน์ตาที่จับจ้องและคำถาม...



       " แล้วมึงล่ะ...รักกูไหม? "

         ผมฟังคำถามแล้วชะงัก...อ้าปากหวอ...ชั่วขณะนึงนึกอย่างจะบ่นว่าคนที่ถามออกมาได้ไม่คิด ..

 ถ้าไม่รัก ถ้าไม่ห่วง ถ้าไม่เชื่อใจ จะยอมถูกซ้อม จะยอมนั่งเงียบไม่ปริปากอะไรออกไปงั้นหรือ?

ขนาดนี้ยังจะมาถาม ว่ารักรึเปล่า..

     ผมถอนหายใจแรง เม้มปากแน่นยามจ้องมองสีหน้าหวั่นไหว..ปนไม่แน่ใจนิดๆของคนตรงหน้า...ดวงตาที่วาววับพลันอ่อนลงอย่างไม่รู้ตัวเมื่อรู้...เข้าใจว่าพี่โตถามมันเพื่ออะไร.

...ต่อให้ที่ผ่านมามันจะชัดเจนมากแค่ไหน แต่ตราบใดที่ไม่ได้ยินจากปาก ก็ยังมีเศษเสี้ยวความหวั่นไหว ความไม่แน่ใจลึกๆอยุ่เสมอ..

เพราะต่างก็หวาดหวั่นว่าจะไม่สามารถครอบครองสิ่งที่มีได้ตลอดไปด้วยกันทั้งคู่..

     ผมวางฝ่ามือลงบนใบหน้าของพี่โต ค่อยๆสบมองแววตาคู่นั้น ...ดวงตาที่เเสนจะเคยคุ้น เมื่อได้ยินคำรักจากปากคนตรงหน้า ก็แทบไม่ต้องคิด...ไม่ต้องถามใจเลย ว่ารู้สึกเช่นไร

   ในยามที่พบเจอสิ่งที่เลวร้ายที่สุด ในยามที่ไม่มีใคร ไม่เหลือใคร ในยามที่ควรจะไม่พอใจหรือโกรธแค้นพี่โตที่ทำให้ผมต้องมาพบเจอกับสิ่งเลวร้าย...หัวใจ...ก็ยังคงเฝ้าคิดถึงและเชื่อมั่นในตัวของผู้ชายตรงหน้า..

ไม่ต้องถามแล้ว..

ไมต้องคิดแล้วว่ารู้สึกเช่นไร....

    ผมเม้มปากน้อยๆรู้สึกถึงใบหน้าที่ผ่าวร้อนของตนเอง ฝ่ามืออีกข้างค่อยแนบลงบนใบหน้าของพี่โต ค่อยๆดึงให้คนตัวโตโน้มกายลงมาใกล้ ให้ตาสบตา..ให้เราได้มองหน้ากันและได้ยินเสียงหัวใจของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน..

    ริมฝีปากของผมห่างกับอีกฝ่ายเพียงลมหายใจคั่น เสียงหายใจแผ่วกระชั้นเต็มไปด้วยความคาดหวัง และดวงตาที่ฉายแววห่วงหาอาทร..รักใคร่..อย่างไม่ปิดบังของพี่โตทำให้หัวใจที่เต้นแรงยิ่งตะโกนก้อง..

    ผมค่อยๆทาบริมฝีปากลงบนเรียวปากหยักหนา แตะเบาๆ และเล็มทาบทับอย่างอ่อนหวาน...ส่งผ่านความรู้สึกทั้งหมดด้วยหัวใจ

เสียงลมหายใจหอบสั่นของเราสองคนประสานกันชัดเจน หากแต่มันไม่ได้ดังมากมาย...หรือดังจนกลบเสียงของผม...เสียงกระซิบเอ่ยคำๆหนึ่งจากหัวใจ..

คำที่อยากจะพูดมานานแสนนาน...


    "...ผม...รักพี่ครับ..."

...................


       ความมึนงง...ความปวดหนึบตรงท้ายทอยเป็นผลให้ดวงตามัวพร่าจนต้องหลับตาลง รู้สึกแสบร้อนและสัมผัสได้ถึงกลิ่นของยาที่โชยชัดเจน กันย์กลืนน้ำลายลงคอช้าๆ รู้สึกถึงลำคอที่ปวดหนึบ อ้าปากรับยาจากเสียงบอกเบาๆและกลืนเม็ดยาขมๆส่งผ่านลำคอเพื่อหวังว่าความเจ็บปวดจากรอยแผลนี้จะบรรเทา 

      รอยแผลที่ปรากฏและรอยเลือดถูกเช็ดออกและดูแลเรียบร้อยแล้วด้วยฝีมือของแพทย์ประจำเรือนจำที่เคยคุ้น กันย์ครางขอบคุณอีกฝ่ายในลำคอเบาๆ ก่อนจะทรุดกายลงนอน ดวงตาปิดพับลงเพราะไม่อาจจะทนรับแสงจัดจ้าที่ลอดทอมาจากหน้าต่าง..

..หัวใจปวดหนึบ...มึนชาไปด้วยความผิดหวังและรวดร้าว..

  เจ็บ...เจ็บเสียจนแทบไม่อยากหายใจ เจ็บจนไม่รุ้จะตัดสินใจเช่นไรต่อ...ไม่รู้จะทำอย่างไร..

      นอนนิ่งซึมซับความรวดร้าวและความพ่ายแพ้จากแผนการที่พังยับไม่มีชิ้นดี หัวใจรวดร้าวและผิดหวังจนแทบคิดอะไรไม่ออก โสตประสาทอันเลือนรางบอกให้รู้ว่ามีร่างของใครสักคนเข้ามาภายในห้อง ประตูปิดลงเบาๆไม่นานฝ่ามือของใครสักคนก็วางลงบนแผ่นอก แตะเบาๆคล้ายจะอยากรู้ว่าหัวใจเขาเขากำลังอยู่ดีไหม หรืออยากรู้ว่าตัวเขากำลังหายใจอยู่รึเปล่า..

       " ผมบอกแล้ว...ให้มาร่วมมือกัน...พี่ก็ยังปฏิเสธ "...น้ำเสียงนั้นค่อยคุ้นหู...กันย์ขมวดคิ้วรู้สึกถึงฝ่ามือที่ไล้แผ่นอกช้าๆและสัมผัสของลมหายใจผะผ่าวใกล้ๆ...

       "...ออกไปห่างๆได้ไหม..." เขาเอ่ยเสียงเรียบ...ไม่สนใจลมหายใจที่สะดุดลงของอีกฝ่าย ไม่คิดจะเปิดนัยน์ตาไปมองดูแววตาหรือใบหน้าของมัน " มีอะไรก็ว่ามา...เป้.."

      "...ผมมาถาม..." มันเอ่ยขึ้นมาเบาๆ...ละมืออกจากแผ่นอกของเขาแล้ว เหลือเพียงปลายนิ้วที่แตะลงบนท่อนแขน...

      " ว่าตอนนี้ พี่จะคิดสนใจแผนการณ์ของผมได้หรือยัง? "

         กันย์ชะงักกับคำพูดนั้น...พลันนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา และความพ่ายแพ้ย่อยยับของตนเอง...

     เขาขยับยิ้มอย่างอ่อนเปลี้ย ผ่อนลมหายใจแผ่วเบา...


       " นั่นสินะ  "

...........

 ตอนนี้รักพี่โตมาก  :impress2: โซโฮก ที่สุดพี่ก็อ้าปากบอกรักแล้ว..สิริรวมกว่าจะรู้ตัวก็สามปีกว่า นี่ถ้าไอ้เนมมันไม่โดนแบบนี้อีกนานไหมเนี่ยกว่าจะยอมอ้าปาก
ส่วนเนม.....โอ๋ๆ ขวัญเอ๊ยขวัญมาเนาะ..เอาคำว่าที่รักของพี่โตไปปลอบขวัญน้า~ :กอด1:
...และ...พี่กันย์&เดอะเป้.. คู่ชั่วกำเนิดใหม่เรอะ (555+) อันนี้ก็ต้องรอกันต่อไป

ปล. ชื่อตอน ความจริงแล้วคือ เดินหน้าต่อไป >>> (กร้ากกก โดนเตะ  :z6:) อ่ะล้อเล่นน~~
ขอบคุณที่ติดตามค่า  :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-06-2011 09:02:50 โดย Serin »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด