Improbable 3 : แต่งงาน
" พวกมึงแต่งงานกันก็ได้ไม่ใช่เหรอ? "
หลังประโยคสั้นๆที่ถุกเสนออกมาจากปากของเหล่านักโทษร่วมคุกทั้งหลาย ทำให้เรือนนอนของผมเงียบกริบไปชั่วอึดใจ สายตาหลายคู่มองมายังพวกเราสองคน..มองมาที่ผมกับพี่โต ราวกับจะรอผมขยับตัวเหนียมๆหันไปมองหน้าพี่โตแล้วออกปากว่า"แต่งก็ได้" หรือไม่ก็รอพี่โตยิ้มเยี่ยงเทพบุตรแล้วหันมาถามผมอย่างน่ารักว่า"จะแต่งกับพี่โตรึเปล่า " และพวกมันก็จะได้เป็นคนส่งเสียงเชียร์ว่า "แต่งเลยๆๆ" เหมือนในหนัง
แต่ก็นั่นล่ะ เรื่องพวกนี้มันเหมือนในหนัง เหมือนในละคร หรือนิยายน้ำเน่า ไม่ใช่ชีวิตจริงเสียหน่อย
เพราะสิ่งที่พวกพี่ๆทั้งหลายได้รับ คือการมองหน้ากันอย่างเอือมระอาของผมกับพี่โตเราสองคนร่วมกันถอนหายใจอย่างพร้อมเพรียงและส่ายหน้าทั้งคู่
" ไร้สาระ " ผมบ่นออกมาสั้นๆ อย่างไม่คิดจะสนใจ
" แต่งทำไม ? ไม่แต่งแล้วพวกมึงไม่รู้รึไงว่าไอ้เนมเป็นเมียกู "พี่โตว่าพลางส่ายหัวยิก แต่ใจความทำให้ผมออกแรงทุบเข้าพี่แกเสียอั่กหนึ่ง โทษฐานกล่าวคำต้องห้าม..พูดคำว่าเมียที่ผมไม่อยากได้ยิน
"โห..พี่ ไม่คิดจะยกไอ้เนมเป็นเมียออกหน้าออกตาบ้างรึไง โอ้ย !! " พี่แมนที่กำลังทำหน้าที่เป็นพ่อสื่อ ถูกผใเขวี้ยงหมอนใส่หัวฐานยุ่งไม่เข้าเรื่อง รายนั้นมองหน้าผมอย่างเคืองๆแล้วเหวี่ยงหมอนกลับมาให้อย่างหงุดหงิด
" งานแต่งที่พวกมึงว่ากันน่ะ พี่โตขยับขาไปพาดตักเด็กใหม่เสียผลั่วะหนึ่งแล้วเริ่มบ่น "จัดไปก็เท่านั้น เองพวกนี้มันสำหรับไอ้พวกที่ไม่มีปัญญาคุมเมียตัวเองมากกว่า ต้องแต่งให้ชาวบ้านรู้ไง จะได้ไม่มีใครมาแย่ง "
" แนะ .....แสดงว่าพี่คิดว่าคุมไอ้เนมอยู่ " พี่ทินหันมาถามยิกๆ สีหน้าเริงร่า
" มันเคยคิดจะไปเอาผัวใหม่ที่ไหนรึไง ? "ว่าแล้วก็ยกยิ้มมุมปากอย่างเหนือกว่า และเอามือมาโยกหัวผมเล่นเบาๆ เหอะ ไม่ต้องมาทำยิ้มย่องนะครับพี่โต ไอ้เนมไม่ไปหาเรื่องใส่ตัวด้วยการไปหาใครมากิ๊กด้วยหรอกเว้ย แค่คนเดียวยังนึกเสียใจไม่หาย ว่าไปรับปากทำไม รับปากไปแล้วโดนทำร้ายประตุหลังซะขนาดนี้..
" จุ๊ๆ...วางใจมากเข้าระวังไว้นะพี่ " ไอ้พี่ทินครับ มึงจะมายุแยงตะแคงรั่วหาอะไรครับพี่ ขนาดไอ้เนมไปยืนคุยกับคนอื่นเกินสิบนาทีพี่โตแม่งก็ทำสายตาอาฆาตใส่แล้ว จะมาใส่ร้ายว่าผมมีโน่นมีนี่ให้โดนตีนทำเพื่อ..
" เงียบไปเลยห่า ... เมียมึงนอกใจแล้วอย่ามาไส่ไคล้เมียกู " พี่โตเอามือผลักหน้าผากพี่ทินเสียทีหนึ่งโทษฐานปากหมา ก่อนจะหันมากอดเอวผมไว้อย่างเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ
" เออ...ว่าแต่ที่แต่งกันมันใครน่ะ " ผมถามสั้นๆอย่างอยากรู้..
" อ้อ...ไอ้โน๊ตไงมึง ไอ้โน๊ตกับไอ้ตั้มที่นอนอยู่ห้องใกล้ๆนี่.." พี่ทินบอก ทำเอาผมฮาก๊าก เมื่อนึกถึงเรื่องของสองคนนี้ กับไอ้โน๊ต เจ้าของประโยคอมตะ " ตั้มเมียรักของโน๊ต " ไม่รู้ว่ามันเป็นลิเกเก่ารึว่ายังไงเวลาพุดถึงแฟนตัวเองล่ะหวานอย่างโน้นอย่างนี้ มันจะขึ้นต้นประโยคเมื่อพุดถึงเมียมันว่า " ตั้มเมียรักของโน๊ต..." อย่างโน้นอย่างนี้ จนโดนล้อไปทั้งแดน...
ส่วนเรื่องการแต่งงานใรเรือนจำ หลายคนอาจจะงงว่ามีด้วยเหรอ? มีสิครับ ถึงจะเป็นนักโทษชายก็เถอะ มันจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อนักโทษสองคนนี้มันรักกันจริงจังจนถึงขั้นอยากใช้ชีวิตร่วมกัน เรื่องพิธีอะไรก็มีไม่มากหรอกครับ ก็แค่ประกาศบอกคนในแดนเดียวกัน แล้วจัดงานเล็กๆน้อยๆ เอาพวกขนมนมเนยอะไรมาแจกกินกัน แถมยังมีผู้คุมมาเป็นสักขีพยานด้วนนะครับ.. ร่วมรับรู้และช่วยประกาศไปในตัวว่าห้ามใครมายุ่งกับไอ้สองคนนี้อีก
" นึกไงมันถึงจะแต่ง กุเห็นพวกมันเอากันมาตั้งหลายปีแล้ว " พี่โตออกปากถามสั้นๆอย่างอยากรู้ ในคำถามที่ผมก็สงสัยเช่นเดียวกัน
" อ๋อ ก็เมื่ออาทิตย์ก่อนไงพี่ " พี่แมนเล่าให้ฟังด้วยสีหน้ารื่นรมย์ " ไอ้ตั้มน่ะ โดนพวกแดนอื่นลากไป แล้วไอ้โน๊ตพอมันรู้เรื่อง วิ่งตาตื่นไปโวยวายจนโดนซ้อมมาอีกราย มันเลยไม่พอใจ ประกาสแต่งงานไม่ให้ใครกล้ามาลากเมียมันไปเลย "
" พรุ่งนี้บอกพวกมันห้ามเสียงดังกันหลังเที่ยงคืนล่ะ ไม่งั้นกุเอาตาย " พี่โตสั่งสั้นๆด้วยท่าทีหงุดหงิดไม่น้อย
" อะไรเล่าเฮีย..นี่มันงานเลี้ยง... " พี่ทินโวยกลับอย่างไม่เข้าใจ
" งานเลี้ยงมึง แต่เวลานอนกู ...ไปๆ พอแล้วนอนได้แล้วพวกมึง กูง่วง " ว่าแล้วพี่โตก็สะบัดฝ่าตรีนที่ถูกบีบนวดออกจากอุ้งมือเด้กใหม่แล้วไล่ให้ทุกคนไปนอน พวกผมจึงเริ่มปูผ้านอนอะไรกันไปตามเรื่อง..
สามทุ่มแล้ว ไฟในเรือนนอนก็ปิดลง เหลือแต่แสงจากหลอดไฟอันใหญ่หน้าประตูห้องขัง ผู้คุมเดินเข้ามาตรวจการเงียบๆรอบหนึ่งแล้วก้ไปยืนประจำอยู่หน้าประตูใหญ่ของเรือนอนเช่นเดิม
ผมนอนซุกอกพี่โตอย่างเคยชิน ขณะที่แว่วเสียงสวบสาบขยับตัวและเสียงพุดคุยเบาๆรอบทิศ
".. ง่วงรึยัง? " พี่โตก้มลงถามเบาๆ ผมส่ายหัวช้าๆแล้วเงยหน้าไปสบตาพี่โตท่ามกลางความมือสลัวเป็นเชิงว่า"มีอะไร"
" ไม่อยากแต่งกับกุจริงอ่ะ " เอ๊า...เหมือนจะชัดเจนแล้วก็ยังไม่ชัดเจนอีก..จะอะไรกับเรื่องแต่งงานนักครับพี่โต..
" อะไรเล่า...ตัวเองเป็นคนบอกแล้วไม่ใช่รึไง " ผมถามกลับสั้นๆ พลางเอื้อมมือไล้กระดุกไหปลาร้าที่แข็งนูนออกมาเด่นชัดของคนตรงหน้า..
" อ้าว...ก็ถามเผื่ออยากแต่งไง จะให้ประกาศพรุ่งนี้เลยก็ยังได้น่ะ หือ..." ว่าพลางหัวเราะใส่หูผมหึหึ แหม อย่ามาเสนอเลยครับพี่โต ฟังดูก้รุ้ว่าจะล้อกันเรื่องนี้ ไอ้เนมไม่ตกหลุมพรางหรอก
" ไม่เอาหรอก พี่โตแก่ไป ไม่แต่ง " ผมว่าพลางหัวเราะหึหึ ตอนนี้ผมอายุยี่สิบเอ็ด ส่วนพี่โตน่ะเหรอ ปาเข้าไปยี่สิบหกแล้ว..
" อะไรนะ ...แก่เหรอ ? เดี๋ยวเถอะมึง ไอ้เนมไม่แก่บ้างให้รู้ไป " พี่โตอ้าปากงับหูผมเบาๆเป็นเชิงหยอกล้อ ผมหัวเราะเบาๆเมื่อถูกจี้เอวไม่เบานัก แต่ดิ้นไปได้ไม่นาน มือของพี่โตก็ออกแรงกดแขนผมไว้แล้วบีบเบาๆ..
ตาสบตาแค่ มองเห็นแววตาวาววับผมก็เข้าใจดี ไอ้เนมเหล่มองคนในเรือนนอนที่ผมรุ้ดีว่าพวกมันยังไม่หลับ แต่ก็ทำหลับๆไปซะจะได้หมดเรื่อง จะแอบดูแอบฟังงั้นสิ หึหึ ฝันไปเถอะ..
" อา...พี่โต เดี๋ยว " ผมร้องห้ามเบาๆเมื่อพี่โตลากมือขึ้นไล้และบีบแผ่นอกเบาๆอย่างเย้าหยอก..
" หือ... " พี่โตหรี่ตาลง ครางถามสั้นๆ
" ในห้องน้ำนะ.." ผมต่อรอง ถึงสถานที่จะไม่ดีแต่ขอแค่ไม่อุจจาดก็พอล่ะฟ่ะ
" ไม่เอา..เหม็น..ที่นี่แหละดีแล้ว " พี่โตทำท่าไม่ยอมและเริ่มจะเอาผ้าห่มมาคลุมโปงอย่างเคย..
" งั้นห้ามถอดนะ " ผมบอก ซึ่งพี่โตก็รับคำเบาๆ ละมือที่ทำท่าจะถอดเสื้อผมออกแล้วเปลี่ยนเป็นสอดมือเข้าไปในกางเกงแทน ผมขยับตัวพิงลูกกรงไว้ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน เม้มปากแน่นเมื่อพี่โตเริ่มจัดการถอดกางเกงออก ผมกวาดสายตามองรอบห้องขังอีกครั้ง ก่อนจะสะดุ้งเฮือก ตัวแข็งทื่อ..
" อะไรว่ะ ! " พี่โตเงยหน้าขึ้นมาถามอย่างหงุดหงิดไม่น้อย เมื่อถูกผมทุบไหล่เต็มแรง ไอ้เนมรีบพยักเพยิดไปทางมุมหนึ่งของห้องขังอย่างรวดเร็ว พี่โตมองตาม ซึ่งนั่นทำให้เราสองคนได้เห็นร่างของผู้ชายคนหนึ่งหันมามองเราสองคนด้วยนัยน์ตาวาววามเหมือนแมว..
ตุ๊บ !!
" ไอ้ห่า !!! "มองหาพ่อมึงรึไง !! " เสียงโวยวายของพี่โตดังลั่นแดนสิบสอง พร้อมกับหมอนที่เขวี้ยงไปใส่น้องใหม่เต็มแรง ไอ้เนมกระพริบตาปริบๆมองพี่ดตที่เดินเข้าไปโวยหาเรื่องเด็กใหม่อย่างระอาใจ แต่ก็นึกดีใจที่อย่างน้อย..คืนนี้ผมก็ไม่ต้องเจ็บตัว..
ส่วนเด็กใหม่ที่กำลังโดนพี่โตเอาฝ่าเท้านวดหน้าอยุ่..ก็...ถือว่าเป็นคราวซวยของเอ็งนะ....
ผมหรี่ตาลงช้าๆ ก่อนจะเอาหน้าซุกหมอน หลับตาลงท่ามกลางเสียงหัวเราะขบขันของคนในเรือนนอนและเสียงโวยวายของพี่โตที่ดังเข้ามา..
พรุ่งนี้อย่ามาบ่นว่านอนไม่พออีกแล้วกัน...
...
เสียงหัวเราะปนโห่าฮาของเพื่อนร่วมห้องขังดังลั่นมาตั้งแต่ตกบ่าย ทุกคนมีสีหน้ารื่นรองรอคอยงานฉลองที่จะเกิดขึ้น ส่วนพี่โตน่ะเหรอครับ..หน้าบูด และชอบมองผมด้วยสายตาทื่ทำเอาหนาวสันหลัง มันเป็นความผิดผมเหรอครับ ที่เด้กใหม่มันทะลึ่งนั่งมองคนเขาจะอะไรกัน แล้วทำพี่หงุดหงิดไปกระทืบมันน่ะหา ไม่เห็นเกี่ยวกับไอ้เนมสักนิด
หลังบ่ายสี่ที่รอคอยก็มาถึง ในห้องดูโทรทัศน์นั่นแหละครับ กลายเป็นที่ฉลองงานแต่งซะนี่ ไอ้สองเจ้าบ่าวมันไปขอร้องผุ้คุมใช้ห้องและฉลองแบบนหน้าด้านๆ ได้มากระทั่งเครื่องขยายเสียง ที่ทำให้ไอ้พี่แมน พ่อสื่อพ่อชักที่ตอนนี้มันเพี้ยนหนัก ไปทำตัวเป็นโฆษกงานแต่งเขา พล่ามพิธีการอะไรมากมายราวกับงานแต่งจริงๆของบ่าวสาวที่จัดในโรงแรม ท่ามกลางเสียงเฮฮาของเหล่านักโทษในแดนสิบสอง..
" อ่ะแฮ่ม....ตอนนี้น่ะครับ กู..เอ๊ย...ผม อยากจะถามความรู้สึกเจ้าบ่าวหน่อย..ไอ้โน๊ต...เอ๊ย คุณโน๊ตครับ มึง เอ่อ คุณ รุ้สึกยังไงที่จัดงานแต่งขึ้น.." พี่แมนพล่ามยาวใช้สรรพนามผิดๆถูกๆทำเอาพวกเราฮาครืน ผมก็ไปนั่งเป็นสักขีพยานกับเขาด้วย พร้อมๆกับพวกพี่ๆในเรือนนอนเดียวกันและพี่โตแอ่นด์เดอะแกงค์ที่ตอนนี้ก็ยังนั่งหน้าบูดอยู่..
" ตอนแรกผมก็รู้สึกดีใจนะครับ ที่จะไม่มีใครลากตั้มเมียรักของโน๊ตไปแล้ว ..แต่ตอนนี้กูเริ่มเสียใจว่ะ เพราะแม่งตังค์ที่กูเก็บมาโดนพวกมึง มึง มึง และ มึง ผลาญกันอยู่เนี่ย.." ไอ้โน๊ตมันว่า ทำเอาพวกเราฮากันอีกรอบ เพราะขนมนมเนยหรือน้ำหวานที่พวกมันทานอยู่ มาจากการเองเงินที่ญาติๆฝากไว้ในบัญชีให้เรามาใช้แลกของน่ะครับ..
" แล้วไอ้ตั้ม เอ๊ย..คุณตั้มล่ะครับ คุณคิดยังไงกับความบ้าของไอ้โน๊ตที่มันเสร่อจัดงานแบบนี้ขึ้นบ้าง ? " พี่แมน มันเริ่มมั่วใหญ่แล้วครับ จากคำสุภาพกลายเป็นคำด่าอย่างสุภาพ แสดงว่าอีกไม่นาน มันจะต้องกลับมาถ่อยอย่างเดิม สูงสุดคืนสู่สามัญชัวร์ๆ
" กู..เอ๊ย ผมคิดว่า......"
" พี่โต หน้าบูดอะไรนักหนาเฮีย " พี่ทินร้องทักพี่โตที่ยังทำหน้าบอกบุญไม่รับต่อไป อย่างงงๆ
" นั่นดิเฮีย..ถึงคืนนี้จะไม่ได้เอา..อูย......." พี่กิตจะพุดเรื่องเมื่อคืนนี้ แต่โดนพี่โตมันทำตาเขียวใส่พร้อมกับกระทืบนิ้วเป็นเชิงว่าอย่ามาพูด กูไม่อยากได้ยิน
" เฮ้ยเนม...กูว่ามึงพาพี่โตไปรีเเล็กซ์ซะเถอะ ก่อนที่มึงจะโดนปล้ำกลางงานแต่งชาวบ้าน ท่าจะอาการหนักแล้วว่ะ " พี่ทินว่าพลางหยักเหยิดมาทางผม ทำให้ต้องหันไปมองหน้าพี่โตอีกรอบ เอ่อ...ไอ้การโดนขัดแค่คืนเดียวนี่พี่บูดข้ามวันได้ขนาดนั้นเลยเหรอะ..
" เป็นไรไปเนี่ยพี่โต..." ผมออกปากถามพลางก้มหน้าช้อนตามองหน้าพี่โตที่ยังบูดไม่เลิก
".............." ไม่ตอบ มาเงียบไม่ตอบอีก จะงอนกันรึไง?
" นี่..พี่โต....." ผมยังไม่ละความพยายาม หันไปอ้อล้อต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งความพยายาม..
".................." จะเงียบไปถึงไหนครับ มีการหันมามองหน้าแล้วเมิน เดี๊ยะๆ
" เฮ้อ....ออกไปข้างนอกกันเถอะครับ ป๊ะ... "ในที่สุดผมก็ต้องจำใจลากแขนขาใหญ่ที่ตอนนี้ทำหน้าบูดบึ้งไม่หายออกไปจากห้องสันทนาการงานแต่งชั่วคราวของไอ้โน๊ตและตั้มเมียรัก ไม่มีเสียงใครโห่ตามหรือแซวอะไรอีก เพรระน้ำหน้าพี่โตตอนนี้ ทักแล้วเสี่ยงตายคาตีนมากกว่านัก
" เป็นไรไปพี่ " ผมถามพี่โตที่ทำหน้านิ่งๆ หลังจากลากกันมาแถวๆห้องอาบน้ำ ยอมรับก็ได้ว่าถ้าพี่แม่งจะทำก็เชิญครับ ทนเห็นมันทำหน้าเหม็นอะไรสักอย่างแล้วหงุดหงิด ไม่ไหวๆ
" ............." ยังไม่ตอบอีกวุ้ย..
" พี่โต....." ผมขมวดคิ้วมุ่น ท่าทางแบบนี้คงไม่ใช่หงุดหงิดเพราะหมกมุ่นล่ะ น่าจะมาจากอย่างอื่นมากกว่า.. " มีอะไรพี่ หรือเมื่อวานลุงชาติสั่งอะไรมาอีก " คิดว่าในโลกนี้เรื่องที่ทำพี่โตทุกข์ใจได้มีสองเรื่อง นั่นคือไม่ได้ทำกับโดนบังคับให้ทำนี่แหละ..
" ...กุเกลียดเด็กใหม่ " จู่ๆก็พล่ามขึ้นมา ทำให้ผมชะงัก หันมามองหน้าพี่โตทันควัน...
" ทำไมอ่ะ ? " ผมถามงงๆ ไม่ได้ถามว่าเกลียดทำไมนะครับ คนเราจะเกลียดหน้ากันมันไม่มีเหตุผลหรอก และยิ่งเด็กใหม่ที่มันทำตัวกวนตีนเนี่ย จะเกลียดไม่ชอบหน้าก็สมควรแล้ว แต่ที่ผมถามว่าทำไม คือทำไมต้องสนใจ เอามาใส่ใจ และทำไม? ถึงทำอะไรมันไม่ได้ล่ะ
" ไล่มันไม่ได้ว่ะ...ไอ้เหี้ย เสือกเป็นเด็กป๋า...." พี่โตสถบออกมาอย่างหัวเสีย ผมขมวดคิ้วมุ่น เด็กป๋า...มิน่า ถึงส่งมาอยู่แดนเดียวกัน..ห้องเดียวกันได้...ทั้งที่เรือนนอนของเราคนเต็มแล้วแท้ๆ
"..มันมาทำไม พี่? มันโดนส่งมาสืบอะไรรึไง? " ผมถามกลับ เริ่มเครียดขึ้นมาบ้างแล้ว
" ไม่รู้.... " พี่โตสถบเสียงเครียด " พวกป๋ามันยังไม่พูดอะไร มีแต่ไอ้ชาติ ไอ้ชาติฝากมันให้กุดูแล "
...พี่ก็ดุแลไปแล้วล่ะครับ ด้วยรักและฝ่าตีนแท้ๆเลย..
" แล้ว......... " ผมเลิกคิ้ว จะถามอย่างอื่นแต่ไม่รู้จะว่ายังไงดี....
"..เนม .." พี่โตหันมามองหน้าผม พลางถอนหายใจช้าๆ
"..ครับ....? " ผมเลิกคิ้วมองสบตาพี่โตและสีหน้าจริงจังของอีกฝ่าย
" ไอ้ชาติมันบอก.....ยกไอ้เป้ให้กูว่ะ "
"............................" ผมเงียบ..มองหน้าพี่โต
" ................." พี่โตก็เงียบ แล้วมองหน้าผมกลับเช่นกัน..
"....ยก ยังไง? " ผมขมวดคิ้ว...ถามกลับสั้นๆ
" หึ..." คราวนี้พี่โตหัวเราะออกมาสั้นๆด้วยสีหน้าไม่พอใจ " พวกเหี้ยแม่งคิดว่ากุเป็นเกย์วิปริตเอาใครก็ได้มั้ง..เลยบอกยกให้เหี้ยนั่นให้กุ พ่อมึงสิ ใครอยากได้ว่ะ "
" ให้เป็นเมียพี่ " ผมถามกลับ เมื่อเริ่มเข้าใจทุกอย่างชัดเจน..เเจ่มเเจ้ง
" อือ.... " พี่โตสถบพร้อมกับถอนหายใจฟึดฟัด
" แล้วจะเอามั้ยล่ะ? "
" ใครต้องการ " พี่โตจ้องหน้าผมเขม็ง.. สีหน้าหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด " กูรู้เลยว่าพวกเหี้ยนั่นต้องมีอะไรอีกแน่ หึ ปล่อยพวกเราอยุ่สงบๆมาได้สองสามปีแล้วนี่...จะส่งไอ้เวรนั่นมากวนตีนกุรึไง "
" พี่โต..... "ผมหรี่ตาลงช้าๆ เอื้อมมือแตะไหล่หนาแบาๆ " แล้วพี่หงุดหงิดทำไม? "
"................"
" พุดเหมือนที่พี่เจอพวกป๋ามันไม่เคยทำงั้นแหละ ถ้าพี่ไม่ต้องการ พี่ก็บอกไม่เอาสิ จะยากอะไร " ผมบอกพี่โตที่ทำหน้ายุ่ง " หรือที่พี่มาหงุดหงิดนี่..เพราะอยากได้มันกันแน่.."
" นี่... "คราวนี้พี่โตหันมาทำตาขวางใส่ผมบ้าง " อย่ามาหาเรื่องกูนะเนม...เพราะกุไม่อยากได้ กุถึงหงุดหงิด ไม่อยากให้ใครมาแทรกเรื่องของเรา..ไม่เข้าใจรึไง ?"
" ไม่รู้สิ .. " ผมขมวดคิ้วกลับ " ก็พี่ออกอาการเกินเหตุ น่าสงสัย.."
ตุบ...
พี่โตคว้าแขนผมเข้าไปหา พร้อมกับกอดไว้แน่น...รัดแน่น เสียจนกระดุกแทบแตก แถมยังหัวเราะใส่หัวผมเบาๆ
" นี่หึงรึไงว่ะ " พี่โตว่าพลางหัวเราะเบาๆ ออกแรงกอดผมแน่นขึ้นอีกเท่าตัว
" ไม่รู้...เห็นพี่ออกอาการเว่อร์เลยหมั่นไส้.." ผมว่า พลางแงะหน้าตัวเองออกมาจากอกพี่โต
"หึหึ อย่าคิดมากน่า.. หึงนักเดี๋ยวกุจัดไปสามยกเลยมึงนี่...."
"อย่ามาเว่อร์..แล้วนี่อารมณ์ดีแล้วรึไง? "ผมหันไปมองหน้าพี่โตที่คราวนี้เริ่มยิ้มออก
" อือ เห็นมึงหึงแล้วอารมณ์ดีว่ะ " โห มีความสุขนะครับ พี่โตเห็นคนอื่นปวดหัวแทนตัวเองเนี่ย
" โรคจิตอ่ะ..สมแล้วที่พวกป๋าจะคิดว่าเป็นเกย์วิปริต ฮ่าๆๆๆ..." ถึงตาผมแล้วก็หัวเราะใส่บ้าง เอาให้มันรู้กันปายยย หึๆ
" ไม่ขำนะเรื่องนี้....ที่กูหงุดหงิดนี่เพราะไม่รู้จะบอกมึงยังไง เดี๋ยวก็มางอนกูอีก " พี่โตว่าพลางบีบจมูกผมเบาๆ " เรื่องเด็กใหม่กูไม่สนหรอก ต่อให้เอามาใส่พานประเคนกูก็ไม่เอา น่ารักเท่าน้องเนมรึก็เปล่า เนอะ..."
" ไม่ต้องมาชมเลย...ปากหวานทีไรผมเจอเรื่องทุกที " ผมว่าพลางดึงมือพี่โตออกจากจมูกตัวเอง
" แล้วจะเอาไงอ่ะ เด็กใหม่.." ผมดึงตัวเองออกมาจากแขนพี่โตได้ในที่สุด ออกปากถามบ้าง
" ..หึ ให้มันกำหนดอนาคตตัวเองดีกว่ามั้ง..มึงออกมาไอ้เป้... " พี่โตว่า ทำให้ผมชะงัก หันมามองหน้าเด็กใหม่ที่มันค่อยๆเดินออกมาจากเหลี่ยมเสา หน้าตาที่ยังบวมเฉ่งเพราะถูกพี่โตกระทืบไปเมื่อวานบวกเมื่อคืนนี้ มันเดินมาด้วยท่าทางปกติ ไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัวตีนพี่โตแต่อย่างใด
" จะเอาไง? " พี่ดตกอดอกมองมัน ถามออกมาสั้นๆ
"..........." มันเงียบ มองหน้าผมสลับกับพี่โตช้าๆ
" มึงรู้จักพวกป๋า ผู้พัน ไอ้ชาติ จากไหน? นานเท่าไหร่แล้ว " พี่โตถามใหม่เพราะคาดว่าภายในสามรายชื่อนี้จะต้องมีใครสักคนที่ไปเรียกมันมา
" ผมเคยอยู่แดนเจ็ด..." ไอ้เป้มันเล่า ผมขมวดคิ้ว มันออกคุกไปรอบนึงแล้ว..กลับมาอีก? " รู้จักป๋า จากพวกข้างนอก "
" ข้างนอก..มึงเคยเป็นเด็กส่งข้างนอกเหรอ? " พี่โตถามกลับ ผมมองหน้าไอ้เป้อีกครั้ง มันรู้จักชื่อป๋าที่เป็นตัวการจากพวกที่ส่งยาซื้อขายกันข้างนอก พอถุกจับเลยติดต่อกันได้งั้นเหรอ?
" ใช่...พอถูกจับ..ครั้งแรกติดไม่ถึงปี ..ส่วนตอนหลังเผลอไปฆ่าตำรวจเข้า ป๋าเลยบอกว่าถ้าอยู่แดนนี้ให้อยู่กับพี่โต เพราะเป็นคนของป๋า.. " เป้มันเล่าฉอดๆ กับวีรกรรมของตัวเอง..ทำเอาผมชักปวดหัวแทน ตอนแรกมันเป็นเด็กส่งยา พอถูกจับคุกแล้วออกไปก็พลั้งมือฆ่าตำรวจจนต้องเจอโทษหนักอีก..เฮ้อ..ผมมองหน้ามัน บางคนในนี้ทำผิดด้วยความไม่ตั้งใจ พวกเขาพยายามทำความดี หวังว่าจะได้ออกไปใช้ชีวิตเป็นคนดีข้างนอก แต่กับคนๆนี้ ทั้งที่มันเคยได้รับโอกาสแล้ว มันยังทำผิดอีก ทำแบบเดียวกันอีก..ทั้งที่มีโอกาสมากกว่าคนอื่นตั้งไม่รู้กี่เท่า..ที่จะปรับตัวเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนดี แต่มันก็ไม่ทำ..
" แล้วมึงรู้มั้ยว่าถูกส่ง......มาทำอะไร..? " พี่โตตั้งคำถามอย่างขัดข้องใจเป็นที่สุด ใช่ครับพี่ ผมก็ข้องใจพอๆกันนี่แหละ
" ........ก็ไม่เห็นเป็นไร " มันยักไหล่ สีหน้าชิวๆ แสดงว่ารู้ และก็คงจะ...เห็นว่าไม่เป็นไรเช่นกัน..เฮ้อ.....
" กูไม่ชอบมึง... " พี่โตบอกเสียงห้วน กวาดตามองหน้าไอ้เป้อย่างไม่พอใจ
" ..รู้แล้ว อย่างพี่คงประเภท....... "มันว่าแล้วกวาดตามองผม..ไอ้....^*&*()%& มองหน้ากูแบบนี้มีอะไรฟ่ะ !!มีปัญหาอะไรกับหน้าตาและความสูงของกูรึไง ..
" ยุ่ง!!!.. " พี่โตถลึงตาใส่มันอย่างไม่พอใจ
".....หึ.... "ว่าแล้วมันก็ยักไหล่ไม่สน ไอ้เป้ครับ อย่าว่าแต่พี่โตเลย ตอนนี้ไอ้เนมก็เหม็นหน้ามึงครับ กวนตีนชิบหายยยยยย..
" ป๋ามันสั่งไรอีก " พี่โตถอนหายใจแรงอย่างพยายามระงับอารมณ์เคือง
. " บอกให้ช่วยทำงาน...หางานให้ผมทำด้วยล่ะพี่.." โอเค...ไอ้เป้ครับ มึงแน่มาก กล้าสั่งพี่โตเชียวไอ้เหี้ย..
" ....กูเป็นลูกพี่มึง.... " พี่โตเอ่ยเสียงเรียบ มองหน้าไอ้เป้ที่ยังคงมีท่าทีชิลๆด้วยท่าทีคุกคาม..
" ครับ เฮีย.. " มันทำท่าสบายๆราวกับรู้จักพี่โตมานับสิบปี ผมมองหน้ามันแล้วถอนใจ มองเห็นเส้นเลือดบนขมับพี่โตสั่นระริก จึงถอยห่างออกมาอย่างรู้งาน.
.
ผลั่ว !! ตุ๊บ !! เอ๋ง (อันหลังผมใส่เองด้วยความหมั่นไส้ส่วนตัว)
"..อย่ามาสะเออะทำหน้ากวนตีนใส่กูน่ะไอ้เหี้ย ต่อให้มึงเป็นเด็กป๋ากูก็ไม่สน พวกมันฉลาดพอจะเลือกกูแทนมึง จำไว้ !!! "
ผมหันหลังไม่มองภาพทารุณกรรมสัตว์โลก ได้ยินเพียงเสียงตุ๊บตั๊บคุ้นหู ก่อนที่พี่โตจะเดินมาหา คล้องแขนเข้ากับคอผมอย่ารวดเร็ว
" ไปเถอะ...อยู่นี่แล้วอารมณ์เสียว่ะ "
" พี่..... " ไอ้เป้ยังจะมาเรียกผมกับพี่โตที่ทำท่าจะเดินไป ผมหันขวับไปมองมันที่นอนอยู่บนพื้นในสภาพที่กลืนขนมตุ๊บตั๊บไปหลายปั้น แต่มันยังหันมามองหน้าพวกเราสองคน แล้วยิ้มออกมาน้อยๆในสภาพปากมีสีแดงติดอยู่..
" อย่าลืมล่ะ ว่าผมต้องทำงาน "
"............." พี่โตถอนหายใจฟึดฟัด ชะงักฝีเท้าเมื่อฟังคำพูดมันก่อนจะคล้องคอผมพากันเดินเข้าไปในงานแต่งของไอ้โน๊ตและตั้มเมียรักด้วยอารมณ์หน่ายระอา..
ตุบ...
พี่โตฟาดมือลงบนไหล่พี่กันย์ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม่เบานัก ทำเอาคุณหมอในชุดนักโทษหันขวับ มองสบตาพี่โตท่ามกลางเสียงหัวเราะปนโห่ฮาของงานแต่งที่ชักจะเละเทะขึ้นเรื่อยๆ
" เอาไอ้เวรนั่นไปทำงานกับมึง กูไม่อยากเห็นหน้ามัน " พี่โตสั่งสั้นๆ ความนัยน์คงหมายถึงเด็กใหม่ และพี่กันย์ที่เมื่อวานไปประชุมด้วยกันคงจะทราบดี จึงพยักหน้ารับช้าๆ แม้นัยน์ตาจะมีแววครุ่นคิด..
" ตอนนี้เด็กใหม่อยู่ไหน? " พี่กันย์ถามกลับ
" นอนตายอยู่ข้างนอกมั้ง " พี่โตว่า ทำเอาทั้งวงพากันหัวเราะครืน ทั้งที่ไม่ใช้โจ๊ก แน่ล่ะว่านั่นเป็นสิ่งที่ทุกคนรอคอยกับชะตากรรมของเด็กใหม่ที่แสนกวนตีน..
" อีกแล้ว... "พี่กันยืถอนหายใจเอือกออย่างระอาใจ
" อ้อ.... " พี่โตชะงัก เลิกคิ้วเหมือนนึกขึ้นได้ "กูยกให้มึงก็แล้วกัน..
แทนคนที่มึงควรจะปล่อยไปได้แล้ว.." พี่โตบีบไหล่พี่กันย์พร้อมทั้งก้มกระซิบอย่างหนักแน่น..ใจความนั้นทำให้ผมขมวดคิ้วมุ่น..
" ..... บางอย่าง มันก็เอาอะไรแทนไม่ได้หรอกครับ.."
คำตอบของพี่กันย์ทำให้พี่โตถอนหายใจแรงอย่างหงุดหงิด ผมขมวดคิ้วน้อยๆ มองหน้าพี่กันย์ที่ยังฉายแววรื่นเริงกับงานเลี้ยง ก่อนจะมองพี่โตที่มีสีหน้าเรียบสนิทและแววตาครุ่นคิด..
คนที่ควรจะปล่อยไปได้แล้วงั้นเหรอ?
ใคร?
...
หึหึหึหึ (วิ่งหนีตรีน

)
ตอนนี้เป็นงานแต่งแบบฮาๆขำๆ (ตอนต้นเหอๆ) เรื่องงานแต่งนี่มีจริงๆค่ะ จำได้ว่าอยู่ในหนังสือบันทึกนักโทษอะไรซักอย่างที่อ่านเมื่อสี่ห้าปีที่แล้ว..แต่เพราะมันเป็นชาย-ชาย ความจำมันเลยฝังรากลึกในง่ามสมอง แงะไม่ออกจนต้องเอามาแต่ง (แล้วทำไมไอ้พวกสุตรเคมีหรือสูตรคำนวนไม่จำได้บ้างงงง

)
และ ตอนสุดท้าย...พวกป๋าจะทำการอะไรอีก โปรดติดตามค่ะ หุหุหุ
ปล. วันนี้ก็อัพคาวี่เน้อ ฝากมาเฟียกะท่านชีคหน่อย
คลิ๊กปล.สอง พี่โตหวานว่ะ น่าหมั่นไส้ (

)