OH!! Bad Guy รักร้ายๆของผู้ชายในคุก!! [by Silence_Serin] บทส่งท้าย Update 30.09.54
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: OH!! Bad Guy รักร้ายๆของผู้ชายในคุก!! [by Silence_Serin] บทส่งท้าย Update 30.09.54  (อ่าน 2190383 ครั้ง)

ออฟไลน์ ishiya

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
การรออ่านตอนจบของเรื่องนี้...เป็นการรอคอยที่ยาวนานมากกกกก
รอจนเหนื่อยเเระ  :z3:

ออฟไลน์ ishiya

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
มานั่งรอเเบดกายทุกวัน....เเล้วก็ผิดหวังกลับออกไปทุกวัน  :o12:

amyrang

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้อเหนื่อย ในที่สุดก็อ่านทัน อยากบอกว่าสนุกมากกก o13

รีบมาต่อนะคะ ลุ้นสุดๆ

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
รอๆๆๆ  มาเร็วๆน้า

theWinDy

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้อ!!!!  :z3: :z10: :serius2: กว่าจะลากสังขารอ่านจนทัน ก็เป็นไปตามกิริยาข้างต้นนั่นแหละนะ
เรื่องนี้ทำให้มีอารมณ์หลากหลายมากเลยค่ะ ภาคแรก...ก็ติดตามเอาใจช่วย เนม น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์
ให้ผ่านเรื่องราวที่ถาโถมเข้ามาในชีวิตอย่างไม่มีทางเลือกจนผ่านมาได้แล้ว
พอภาคสอง...พอจะเลือกกะเขาบ้าง ก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดียังไง พร้อมทั้งผู้ที่ร่วมหัวจมท้าย
ด้วยกันอีก หวังว่าจะผ่านไปด้วยดีบ้างนะ  :เฮ้อ:

ขอบคุณ :L2: คุณคนแต่งมากๆ ค่ะ สำหรับเรื่องสนุกๆ  :กอด1: เป็นกำลังใจให้ต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8


Improbable 43 : บันทึกเหตุการณ์ ฉบับที่สี่



บันทึกเหตุการณ์ฉบับที่4-4/25XX

วันที่    18 มกราคม 25XX

เรื่อง การก่อจลาจลเพื่อหลบหนีของนักโทษ แดนสิบสอง เรือนจำXX จังหวัดXX

เรียน  (ข้อมูลปกปิด)

สำเนาถึง   (ข้อมูลปกปิด) อธิบดีกรมราชทัณฑ์


      เวลา 07.30 นาฬิกา เกิดเหตุระเบิดอย่างรุนแรงขึ้นอีกครั้งบริเวณกำแพงด้านข้างของเรือนจำ อาณาเขตเป็นทางเชื่อมระหว่างแดนสิบสองและแดนพิเศษ ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ซึ่งผลัดกำลังเตรียมเฝ้าถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บจากระเบิดขวดที่ผู้ต้องหาระดมเขวี้ยงใส่จนได้รับบาดเจ็บหลายสิบนายและต้องล่าถอยในที่สุด จากการตรวจสอบพบว่ามีการพยายามนำตัวผู้ต้องหาในเรือนจำพิเศษออกจากห้องขัง และกลุ่มผู้ต้องหาได้จุดระเบิดเพื่อทะลายลำแพงเรือนจำและเตรียมหลบหนี

*ระดับความรุนแรงของสถานการณ์เพิ่มเป็น 4 ทางราชทัณฑ์ได้ยินยอมให้หน่วยปรามปรามพิเศษจากกรมตำรวจเข้าร่วมปฏิบัติการ


........................



"นี่มันเกิดอะไรขึ้น!?"



    วิ่งพรวดพราดออกมาจากห้องน้ำด้วยหัวใจที่เต้นระทึก เรื่องที่ยังคุยค้างคาราคาซัง ความรู้สึกสับสนปั่นป่วนอย่างไม่ควรจะเป็นหรือสิ่งต่างๆเหล่านั้นถูกปัดไปให้พ้นจากสมองเมื่อได้เห็นความโกลาหลเบื้องหน้า มันต้องเรียกสิ่งที่กันย์เห็นเบื้องหน้าว่าเป็นความโกลาหลจริงๆ เมื่อตอนนี้ ทุกอย่างมันบานปลายเกินกว่าจะควบคุม


    ระเบิดขวด..สิ่งที่เคยพูดคุย ปรึกษากันแล้วว่าจะต้องรีรอ คอยจังหวะ จะใช้มันเมื่อยามจำเป็น บัดนี้กลับถูกเหล่านักโทษ
เขวี้ยงใส่บรรดากลุ่มผู้คนอย่างเมามันส์ การก่อจลาจลที่เคยว่า เคยวางแผนไว้ว่าจะใช้ความวุ่นวายปิดบังเรื่องที่จะทำและจุดประสงค์ที่แท้จริงของแผนการณ์นี้กลับบานปลายจนเกินจะทัดทานได้ เมื่อมวลชนโดนปลุกปั่น ถูกชักจูงด้วยคำพูดและความโกรธแค้นเคืองใจที่สะสมมานาน ได้ประกอบกันเป็นความบ้าคลั่ง และความปราถนาที่จะได้ทำลายสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าจนหมด!


        "ชิบ! ไอ้คม เฮ้ย! ไอ้คม!!! " ร้องหาไอ้คนคุมด้านนอกไม่หยุด ขณะฝีเท้าของวิทย์วิ่งมาถึงพลางหอบเบาๆ หยุดอยู่ข้างร่างของไอ้ศัตรูตัวฉกาจที่เพิ่งเอาปืนจ่อหัวเขาเมื่อครู่ ทว่าตอนนี้ความบาดหมางนั้นต้องถูกเก็บไว้ก่อน เนื่องด้วยภาพเบื้องหน้า..เหล่านักโทษนับร้อนที่ก่อความวุ่นวาย มาก...มากจนเกินจะควบคุม และมาก..มากเกินจะมีใครสนใจคำสั่งของพวกเขาอีก


       ลานด้านหน้าซึ่งเป็นทางเชื่อมไปยังแดนพิเศษ อันเคยมีบรรดาผู้คุมเกาะกลุ่มกันขัดขวางไม่ให้พวกเขาเข้าถึง ทั้งมีลวดหนาม มีเขตรั้วกั้น แต่บัดนี้ทุกอย่างกลับถูกทำลายลงอย่างรวดเร็ว กลายเป็นลานกว้างซึ่งเต็มไปด้วยร่างของนักโทษนับร้อย ควันไฟลอยคละคลุ้ง ควันสีดำที่เกิดจากการเผายางรถทำให้ทัศนวิสัยมืดบอด ซ้ำกลิ่นเหม็นจนฉุนกึก ฝุ่นควันเริ่มเข้าตาจนแสบพร่า มองอะไรแทบไม่เห็น เสียงระเบิดขวดที่วิทย์จำได้ดีว่าเขาลำเลียงมาไว้ใกล้กับเสาปูนในมุมอาคารนั้นดังต่อเนื่องไม่หยุด ตวัดสายตมองขวดระเบิดที่บัดนี้หายวับ ทำให้ลมหายใจสะดุด


      ทั้งๆที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน แต่ทำไมถึงได้รู้สึกหวาดหวั่นนัก..


     วิทย์อดจะคิดกลัวขึ้นมาลึกๆไม่ได้เมื่อมองเห็นภาพตรงหน้า ทั้งที่รู้..รู้ดีว่าการก่อไฟเผายางรถยนต์นั้นก็ทำตามคำสั่งของเขา และรู้ดีอีก ว่าระเบิดขวดฝีมือไอ้กันย์นั้นก็มีไว้เพื่อทำความวุ่นวาย ทำให้เกิดความดกลาหล ให้นักโทษโห่ร้องคำราม แสดงความไม่พอใจออกมาให้เต็มที่ ให้เหตุการณ์มันโกลาหลวุ่นวายอย่างที่อยากให้เป็น


      แต่ภาพเบื้องหน้ามันช่างน่ากลัวนัก..




        กลืนน้ำลายลงคอช้าๆ  หัวใจสั่นไหวพอๆกับฝ่ามือที่ชื้นเหงื่อ สมองทบทวนเร็วจี๋ถึงแผนการที่เขาจะทำต่อไป แผนที่จะทำตามเพื่อให้ได้ออกไป  แต่กลับทำใจให้สงบสุขได้อย่างยากเย็นนัก..


     ครั้งนี้มันหลักหนากว่าเรื่องที่เคยเจอนับสิบเท่า และฝูงชนที่กำลังโห่ร้องแสดงความไม่พอใจเหล่านี้ คนพวกนี้กำลังอยู่ในอาการเลือดร้อนจนยากจะควบคุม


      ทั้งๆที่คิดว่าไม่ยาก  ทั้งๆที่คิดว่าคงจะทำได้ง่าย การคุมคนให้ทำตามแผน ..ไม่เห็นเป็นไรคนแค่ร้อยสองร้อยกว่า ยังไงพวกมันก็เป็นนักโทษ เป็นลูกน้องทั้งนั้น สั่งอะไรมันก็ทำตาม แต่การเข้าไปช่วยคนพวกนั้นต่างหากที่ยากกว่า


      เคยคิดแบบนั้น  เคยมั่นใจแบบนั้น ทว่าเมื่อสังเกตดูรอยยิ้มบนใบหน้าและความบ้าคลั่งในแววตานั้นแล้ว วิทย์กลับรู้สึกหนาวสันหลังยะเยือก


       เขาพลันนึกถึงคำพูดของไอ้คมมาได้ นึกถึงสาเหตุที่มันให้เขากับไอ้กันย์ไปช่วยกันขนระเบิดขวดโดยที่ไม่ให้มีใครรู้ เพราะไอ้คมมันบอกว่า"กลัวจะคุมคนไม่อยู่" ตอนแรกวิทย์ยังไม่คิดอะไรมาก เขาก็แค่คิดว่ามันเป็นความกังวลและรอบคอบเท่านั้น ทว่าบัดนี้ วิทย์พบว่าคำพูดของไอ้คมนั้นไม่ได้ผิดแผกไปจากความจริงเลย


         แผนที่เคยวางไว้ คำสั่ง ใครเป็นลูกพี่ ใครเป็นคนต้องทำตาม เรื่องเหล่านั้น บัดนี้ไม่ได้อยู่ในหัวของนักโทษเหล่านี้สักนิด


        ...นักโทษที่บ้าคลั่ง สีหน้าและแววตาอันเต็มไปด้วยความเคืองแค้นและไม่พอใจของคนที่ถูกกดขี่ บ่งชัด..พวกมันจะไม่มีทางทำตามคำสั่งของเขาถ้ามันไม่ต้องการ!


         "ไอ้คม!!ไอ้คม!!!" ยิ่งคิดยิ่งตระหนักถึงภัยอันตรายและความรุนแรงของสถานการณ์มากขึ้นเรื่อยๆ วิทย์นึกไปถึงคนที่ควรจะอยู่ดูแลสถานการณ์ข้างนอกนี้ เขาจึงหันไปร้องเรียกไอ้คมอย่างเอาเป็นเอาตาย แม้จะรู้ว่ามันยากที่จะหาพบ ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของเหล่านักโทษเช่นนี้


      และที่สำคัญ...


        วิทย์หรี่ตาลงช้าๆเขาค่อยขยับกายออกจากร่มเงาของอาคาร นัยน์ตาสีเข้มตวัดขึ้นสูง จ้องมองปลายกระบอกปืนที่เล็งมาทางกลุ่มพวกเขาด้วยสายตาเคร่งเครียด


        "พี่!!" เสียงตะโกนเบื้องหลังทำให้วิทย์ชะงัก เขาหันขวับไปมองสบตาเจ้าของเสียงที่แสนคุ้นหู วิ่งกรูเข้าไปหาเมฆที่ยืนหอบแฮ่กเช่นเดียวกับไอ้กันย์ที่มีท่าทีห่วงใยและตรงเข้าไปประคองอย่างรวดเร็ว


        "อะ...ไอ้เนม..พี่โต ..พี่ทิน พวกมัน..แฮ่กๆ" วิทย์หอบแฮ่ก เหนื่อยอ่อนด้วยเขาวิ่งมาอย่างรวดเร็ว ตามทางเขายังได้ยินเสียงบางอย่างที่ทำให้สังหรณ์แล่นวาบ ทั้งปืนที่ดังขึ้นรัวๆติดกันหลายนัดของฝั่งโน้นและทั้งเสียงระเบิดตูมตามของฝั่งนี้ ชวนให้ใจไม่ดีเอาเสียเลย


         "มีอะไร เป็นอะไรไปเมฆ?" วิทย์เอ่ยปากถาม นิ่วหน้าเล็กน้อยเมื่อเห็นแขนของคนรักถูกพี่ชายสุดที่รักของมันจับประคองไว้อยู่ แต่กระนั้นวินาทีต่อมาเมฆก็สะบัดออกห่าง...นั่นทำให้เขาลอบยิ้ม


          "พี่...พวกมันวางแผนกัน พวกมันจะแก้แค้นป๋า จะไม่ให้ป๋าออกไปจากที่นี่!" เมฆเอ่ยเสียงเบาแทบเป็นกระซิบ สองเเขนของ เขาโผไปเกาะแขนวิทย์ไว้ทันทีราวกับเป็นที่พึ่ง ขณะพักหายใจให้หายเหนื่อย


         "ออกไป..." วิทย์พึมพัมด้วยน้ำเสียงเเผ่วเบา นัยน์ตาเบิกกว้าง แม้นี่จะเป็นเรื่องที่เขารู้มาก่อนแล้ว แต่มันเทียบไม่ได้เลยเมื่อได้มารู้จากปากของเมฆพร้อมกับคนอื่นๆ เพราะนั้นหมายถึงเขาไม่อาจละเว้น ไม่อาจมองไอ้โตเป็นเพื่อนได้อีก เพราะตอนนี้พวกเขาต้องเป็นศัตรูกัน


             คนที่ต้องการออกไป กับคนที่ไม่อยากให้ออกไป มันอยู่คนละขั้ว!


         "บ้าที่สุด!" กันย์ฟังแล้วสถบเคร่งเครียด กับข้อมูลที่ได้รู้ เขาอาจจะเคยระเเคะระคาย อาจจะเคยคิดบ้างว่ามันมีอะไรแปลกๆ แต่กระนั้นกันย์ก็มองไปที่ไอ้เนม..คนรักของโตมากกว่าจะมองไปที่ไอ้โตโดยตรง เพราะเขาไม่คิดว่าหัวหน้าใหญ่ที่ทำงานร่วมกันมา จะคิดล้มแผนที่คิดกันแทบเป็นแทบตายนี้ด้วยมือตัวเอง   


          "แล้วตอนนี้พวกมันอยู่ไหน?" วิทย์ถามเครียด สีหน้าว้าวุ่น ในใจร้อนรนดั่งไฟเผา


          "ไม่รู้..ไอ้ทินมันเฝ้าอยู่แถวข้างหน้า รอให้ไอ้เนมมันไปหาพัศดี" ข้อความที่ออกมาจากปากของเมฆชวนตกใจยิ่งกว่า "พี่...จะทำยังไงดี.."


          "..........." น้ำเสียงแผ่วหวิวแฝงความหวาดหวั่นลึกๆของคนรักทำให้วิทย์ยิ่งขมวดคิ้วเครียด กับสีหน้าหวั่นวิตกและร่างสั่นริริกของคนรัก วิทย์ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ จริงอยู่ที่เขาให้เมฆไปเฝ้าไอ้เนมเพราะรู้ดีว่าพวกมันจะทำอะไร แต่วิทย์ไม่เชื่อหรอกกว่าไอ้เนมจะกล้าทำอะไรเมฆ แล้วนี่มันเกิดอะไรทำไมคนรักของเขาถึงได้มีท่าทีหวาดกลัวขึ้นมา หรือมันโดนใครทำอะไรมากันแน่


           คิดอย่างตระหนก พลางหันไปสบตากับคนที่ยืนอยู่ข้างกายอย่างลืมตัว หากพอได้มองสีหน้าที่แสดงความข้องใจไม่แพ้กันของไอ้กันย์ก็ต้องรีบหันขวับ


         "เมฆ..เป็นอะไรไป? ไม่ต้องกลัวนะ ต่อให้พวกมันจะขวาง กูจะพามึงออกไปเอง" วิทย์ก้มตัวไปสบตาคนรัก ฝ่ามือกำไหล่ผอมๆสองข้างแน่น แล้วบอกด้วยสีหน้าจริงจัง ต่อให้ไม่แน่ใจในสาเหตุ แต่เขาก็ตัดสินใจพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดว่ามีทางเป็นไปได้มากที่สุดก่อน นั่นก็คือเมฆกลัวไอ้โต เรื่องความไม่ถูกชะตาที่สองคนนี้มีต่อกันนั้นใครๆก็ทราบดีรวมทั้งความกลัวของไอ้เมฆที่มีต่อไอ้โตด้วย "เข้าใจนะ ไม่เป็นไร..ไม่เป็นไร กูสัญญาไว้แล้ว กูจะทำตามสัญญานะ"


          "พี่วิทย์..." เมฆสบตาคนพูดด้วยสีหน้าหวาดหวั่นไม่น้อย "กู...กูกลัว..."


          "กลัว...?"


         "ถ้ากูออกไปแล้วกูจะทำยังไง จะมีชีวิตแบบไหน? ถ้าไปอยู่กับพวกนั้น ไอ้ป๋ากับผู้พันมันจะทำอะไรอีกหรือเปล่า แล้วมันจะ..."


      ตูม!!


         "หลบก่อนเร็ว!" วิทย์สะดุ้งเฮือก ร้องบอกคนรักพลางผลักไหล่ให้เมฆลุกขึ้น บทสนทนาที่มีขาดหายไปทันทีที่เสียงระเบิดดังขึ้นไม่ไกลจากตัวนัก นัยน์ตาสีเข้มตวัดไปมองร่องรอยการระเบิดที่ยังคงมีให้เห็น เศษฝุ่นควันคละคลุ้ง พอๆกับกลิ่นเหม็นไหม้ชวนแสบจมูก


          "มานี่เร็ว เมฆ!" อาจเพราะความเหนื่อยอ่อนหรือเคลื่อนไหวช้า แขนของเมฆจึงถูกกันย์คว้าแล้วดึงให้เข้ามายังห้องอาบน้ำอย่างรวดเร็ว  ร่างพรียวเซถลาเข้ามาใกล้อ่างซีเมนต์ขนาดใหญ่บรรจุย้ำไว้เต็มที่มีก๊อกน้ำหลายตัวสำหรับเปิดทิ้งไว้ แม้จะอยู่ในที่ปลอดภัย แต่พอรู้ว่าใครเป็นคนพามาเมฆก็หน้าเบี้ยว


            "ปล่อย!" สะบัดเสียงห้วนจัดพลางดึงแขนหนี กริยานั้นทำเอาคนมองชะงัก สีหน้าแฝงความเจ็บปวดทันที "อย่ามาจับ!"


            กันย์นิ่ง..ท่าทีคาดไม่ถึงครู่หนึ่งก่อนจะเม้มปากแน่น "พี่รู้ว่าไม่ชอบ แต่อย่าเล่นแง่ตอนนี้ได้ไหม กำลังวุ่นกันอยู่ไม่เห็นเหรอเมฆ"


           "กูเดินเองได้" คนถูกดุเงยหน้ามองพรวดอย่างลืมตัว สีหน้าตกใจไม่น้อยก่อนจะเอ่ยปากบอกห้วนๆ ขณะที่วิทย์ขมวดคิ้ว มองพี่ชายน้องชายนอกไส้ที่เคยสนิทสนมกันหนักหนากำลังทะเลาะกันอยู่ด้วยความงวยงง แม้จะนึกสะกิดใจกับปฏิกริยาที่เห็น ทว่าตอนนี้เขาไม่มีเวลาจะสังเกตอะไรแล้ว


            "เลิกทะเลาะกันได้แล้วพวกมึง" วิทย์เดินเข้ามาหา วางมือลงบนไหล่เมฆแล้วบีบเบาๆ เขาเข้าใจความหวาดหวั่นของเจ้าตัวดียามได้สบตาคู่นั้น "เมฆ..กูรู้ว่ามึงกลัว แต่ตอนนี้เราถอยหลังไม่ได้แล้ว เรามีแต่ต้องเดินหน้า เข้าใจไหม"


            "แต่..." สีหน้าเหยเก บิดเบี้ยวนั้นทำให้วิทย์ถอนใจยาวๆ นึกอยากด่าไอ้เวรคนไหนที่มาพูดเรื่องบ้าๆปลุกแผลใจของเมฆขึ้นมาอีกรอบเสียจริงๆ


            "เชื่อกูสิ นะ...เชื่อว่าเราจะได้ออกไป เชื่อว่าเราจะต้องมีความสุข กูไม่มีวันยอมให้มึงต้องเจอเรื่องแบบนั้นอีกแล้ว"  วิทย์ลูบใบหน้าของคนรักลวกๆพลางเอ่ยปากปลอบไปด้วย "มึงอย่ากลัว อย่าคิดอะไรมากเลย พวกมันก็แค่ขู่มึงเล่นๆเท่านั้นเอง ป๋ามันไม่ทำแบบนั้นหรอก"


            "ใครจะไปรู้.." สีหน้าบิดเบีย้วและน้ำตาคลอเอ่อ รอยร้าวไหวในดวงตาคู่นั้นแสดงความเจ็บปวดออกมาชัดเจนเสียจนคนมองต้องหน้านิ่วด้วยหัวใจที่เสียวแปลบ "มึงไม่รู้ พี่วิทย์ พวกมันน่ะ..ขอแค่สนุก จะอะไรมันก็ทำทั้งนั้น"


             "เมฆ...." วิทย์ครางเบาๆด้วยสีหน้านิ่ว และ..หัวใจของเขาเริ่มสั่นไหว


            คำพูดของเมฆ ชวนให้นึกถึงคำเตือนของไอ้โต คำพูดที่มันบอก ให้ระวัง ระวังพวกป๋าและอย่าเชื่อใจ  ทั้งสถานการณ์ที่บานปลาย ชวนให้ตระหนักถึงความปลอดภัยอันน้อยนิดที่เหลืออยู่


      รู้ จำได้ และเห็นแล้วว่ายามก้าวออกมาจากนรกแห่งนั้น เมฆมันอยู่ในสภาพย่ำแย่แค่ไหน


      รู้  เข้าใจ และเห็นชัดว่าคนพวกนั้นมันไม่เคยสนใจใครนอกจากตัวเอง


       รู้...แต่....แต่ตอนนี้ สภาพตอนนี้จะถอยหลังได้อีกหรือ?         


       ถ้าถอยตอนนี้แล้วอะไรจะตามมา ถ้าเลิกล้มเสียตอนนี้ จะกลายเป็นคนขี้ขลาด จะกลายเป็นเป้าหมายที่ถูกกำจัด ถูกสอบสวนฐานก่อจลาจลรึเปล่า?


       ขึ้นหลังเสือแล้วไม่มีทางลงได้ง่ายๆ... ไม่ว่ายังไงก็ไม่อาจจะเปลี่ยนใจได้ ทำได้เพียงดำเนินแผนการณ์ขั้นต่อไปเท่านั้น!


             "พวกมึงทำเหี้ยไรกันอยุ่เนี่ย!!!!" เสียงตะโกนดังลั่นปานฟ้าผ่าทำเอาทั้งสามคนชะงัก วิทย์หันขวับ มองไปยังร่างสูงใหญ่ของนักโทษอีกรายที่เดินเข้ามาด้วยสีหน้ามืดทะมึน มันสถบอย่างหงุดหงิดพลางส่ายหน้า "ห่า..มึงดูซิ กูคุมไม่อยู่แล้ว ไม่รู้ไอ้เชี่ยที่ไหนตาดีเห็นระเบิด พอเริ่มเขวี้ยงก็หยุดไม่ได้แล้ว มันบ้ากันไปหมดแล้ว!"


              "ไอ้คม แล้วมึงไปไหนมา?" กันย์เอ่ยปากถามคนที่เข้ามาโวยวายอย่างงวยงง สภาวะฉุกเฉินแบบนี้พัดพาคำสุภาพออกไปจากปากเขาเรียบร้อยแล้ว


              "ดูทางป๋าน่ะสิ เลยรีบมาตามพวกมึงอยู่เนี่ย "เอ่ยพลางตวัดสายตามองร่างของเมฆแว้บนึง "ป๋ามันจะออกมาแล้ว พวกมึงรีบๆไปรับเร็ว อาศัยช่วงชุลมุนนี่ล่ะ!"


              "แต่....." วิทย์มีท่าทีอึกอัก เขายังอยากคุยกับเมฆต่ออีกสักหน่อย


              "รอเวลาอะไร ไม่ทันแล้ว! พวกมึงรีบๆไปสิ" คมส่ายหน้า หันมามองอย่างรู้ทัน "ชักช้าจะเสียเวลาเปล่า แผนพังกันซะหมด"


              "งั้นเมฆ...."


             "อย่าคิดแม้แต่จะเอามันไปด้วย ไอ้ห่า "คมส่ายหน้าดักคอวิทย์ไว้ก่อนทันควัน "ป่านนี้แล้วยังจะมาลังเลอะไรอีก หรือมึงอยากให้ทุกอย่างที่ทำมาสูญเปล่า รีบๆไป เร็วๆ!"


             "เมฆ งั้นรออยู่นี่นะ เดี่ยวจะมารับ" เสียงอึกทึกครึกโครมที่ดังรอบกายเร่งเร้าให้ต้องรีบทำทุกอย่างให้สำเร็จลุล่วง เวลาที่จะคุยปรับความเข้าใจหรืออธิบายอะไรนั้นหมดไปแล้ว ที่สุดก็ทำได้เพียงบอกให้มันรออยู่เท่านั้น


             "กูจะไปด้วย!" เมฆรั้งแขนวิทย์ไว้แน่น สีหน้าแม้จะหวาดหวั่นแต่ก็เด็ดเดี่ยวพอกัน


              "ไม่ได้ !!"เสียงตะโกนห้ามประสาน ทั้งของคมและของกันย์ทำให้คนฟังชักสีหน้าไม่พอใจทันควัน


               "มีสิทธิอะไรมาห้ามกู กุก็แค่ตามไป.."


               "อย่ามางี่เง่าได้ไหมเมฆ ไม่เห็นเหรอว่ามันเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย เอาตัวไปเป็นโล่ให้พวกป๋าน่ะ มันไม่ใช่งานสบายๆนะ" กันย์เอ่ยปากตำหนิทักท้วงทันควันด้วยความห่วงใยและหงุดหงิดกับท่าทีดื้อรั้นไม่ฟังใครนั้น


               "งั้นจะส่งพี่วิทย์ไปทำไม พี่ก็วางแผนจะเล่นงานคนอื่นอยู่แล้วนี่!" คำพูดกล่าวหาราวกับมายืนอยู่กลางใจดังออกมาจากปากน้องชายสุดที่รักทำเอากันย์สะอึก เขาหันไปมองหน้าเมฆเหมือนคนไม่รู้จัก "กูจะไป อย่างน้อยก็ไปช่วยพี่วิทย์ กูไม่มีวันยอมให้คนอื่นทำอะไรพี่วิทย์!"


                 ..คำก็ไอ้วิทย์...สองคำก็ไอ้วิทย์....


                  ปากมีแต่ห่วง พูดถึงแต่มัน พูดว่าห่วง พูดว่ารัก พูดว่าสำคัญ


                 แล้วพี่ล่ะ?


                แล้วพี่กันย์ล่ะเมฆ...พี่กันย์ของเมฆหายไปไหน??




                กันย์จ้องมองใบหน้าที่คุ้นตา ดวงตาที่เขารัก ใบหน้าที่เขารัก ทุกสิ่งทุกอย่างของเมฆ น้องชายของเขา ชีวิตทั้งชีวิตของเขา คนที่เป็นแรงบันดาลใจ คนที่เขายอมทุ่มเททั้งชีวิตทำทุกอย่างให้


               แต่นี่หรือผลตอบแทน?


                แค่จะจับมือยังไม่ได้ แค่แตะก็ถูกสะบัดหนี โดนด่าว่า โดนรังเกียจ ถูกกล่าวหาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ


                ทำไม?


                ทำไม...นี่มันเกิดอะไรขึ้น


               เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา เกิดอะไรขึ้นกันแน่?



                 ตอนแรกกันย์ยังมีหัวใจของคนสองคนตรงหน้าอยู่ในอุ้งมือ ทั้งหัวใจที่เขาไม่อยากได้อย่างไอ้วิทย์ และหัวใจที่เขาอยากได้นักหนา แต่ได้มาเพียงน้อยด้วยความผูกพันธ์และความสงสารของเมฆ


               เพราะอยากได้ เพราะต้องการหัวใจของน้องน้อยมาอย่างเต็มดวง เพราะเกลียดชังคนที่สามารถแบ่งใจไปรักคนสองคนอย่างไอ้วิทย์ กันย์ถึงได้พยายามมาตลอด ดิ้นรน วางแผน ทำทุกอย่าง ทำทุกทางเพื่อจะดึงเอาหัวใจของน้องชายที่รักมาอย่างสมบูรณ์


              แต่ยิ่งพยายาม กลับยิ่งพลาดผิด ยิ่งดิ้นรนไขว่หา พยายามคว้า หัวใจที่เคยมีในมือกลับค่อยเบาน้ำหนักลงไปเรื่อยๆ  จากอดีตที่มีหัวใจสองดวงอยู่ในมือ ตอนนี้กันย์กลับรู้สึกถึงฝ่ามือที่เย็นชืดและว่างเปล่าของตัวเองได้อย่างชัดเจน


               แววตาเคืองแค้น สีหน้าหยามหยัน คำประกาศชัด "มึงจะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับกูอีก" จากหัวใจที่เขาชังซึ่งบัดนี้หลุดไปจากมือ


               สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ แววตาเย็นเยียบ สีสันของเลือดที่บดบังใบหน้าของน้องชายที่รัก กลิ่นคาวของโลหิตและความเจ็บปวดเป็นดั่งคำบอกลาจากหัวใจที่เขาพยายามคว้ามาไว้


               พยายามถึงที่สุดแล้วก็ไม่มี


               พยายามแค่ไหนก็ไม่ได้หัวใจของคนที่เขาต้องการมาตลอด..


               มันเป็นเพราะอะไรกันแน่?


              "เมฆ อยู่ตรงนี้ อยู่ที่นี่!" วิทย์รั้งแขนคนที่บอกว่าจะตามไปอย่างรวดเร็ว "ไปไม่ได้ เข้าใจไหม มันอันตราย มึงจะรออยู่ที่นี่ รับปากสิ"


              "แต่...." แล้วความปลอดภัยล่ะ? เมฆตวัดสายตาไปยังพี่ชายที่เขาชังน้ำน้าด้วยความไม่วางใจ


              "กูไม่เป็นไร น้ำหน้าอย่างไอ้กันย์ทำอะไรกูไม่ได้หรอก อย่าห่วงไปเลย พี่ชายมึงมันห่วยแตกกว่าที่คิด" วิทย์ว่า เขาจงใจกัดเจ้าคนที่ถูกด่าอย่างนึกสะใจ สิ่งที่ได้รับควรจะเป็นคำทักท้วงไม่ก็สวนด่าของไอ้กันย์ แต่ความเงียบที่ตามนั้นทำให้ขมวดคิ้ว เผลอไปมองอย่างไม่เข้าใจ


              "พวกมึงรีบๆไปได้แล้ว" คมที่นิ่งฟังบทสนทนาไร้สาระมาได้สักพักเอ่ยปากไล่ "ไม่ต้อง่วงเมียมึง เดี๋ยวกูจะคุมมันให้ รับรองจะกระทืบให้ลุกไม่ออกเลยล่ะ ถ้าคิดจะวิ่งตามไปน่ะ"


              "ห่า อย่าคิดเชียวนะเว้ย" วิทย์ฟังแล้วร้องห้ามไปทันควัน ต่อให้จะรู้ว่าไอ้คมมันคงไม่ทำจริงๆ แต่ดูสีหน้าแล้วคนอย่างมันไว้ใจได้เสียที่ไหน


               "เออ รีบๆไป ไอ้เมฆมึงมานี่" คมเป็นฝ่ายไปคว้าไหล่เมฆออกมาแทนพร้อมกับเอ่ยปากไล่ เพราะคาดว่าคงยืดเยื้ออีกนานกว่าจะได้จะไปจริงๆ แม่งทำยังกะเมียร่ำลาผัวตอนออกรบเห็นแล้วเคืองนัยน์ตา "ชักช้านักเดี๋ยวป๋ามันก็ฆ่าเอาหรอก เร็วๆ!"


               "ดูแลเมฆด้วยนะ!!" วิทย์รับคำจิ๊กจั๊กแล้วตัดสินใจวิ่งออกไปตามหลังกันย์ที่เดินดุ่มนำไม่พูดไม่จา กระนั้นก็ยังหันมาร้องบอก ส่วนคนฟังพ่นลมหายใจเฮือก มองตามแผ่นหลังของนักโทษสองนายที่วิ่งฝ่าฝูงชนและลับตาไปด้วยสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะปล่อยมืออกจากไหล่ของเมฆ ซึ่งคมสามารถรู้สึกถึงร่างที่สั่นระริกของมันได้อย่างชัดเจน



ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8


                "มึงกลัวที่จะออกไปจริงเหรอ?" คำถามนั้นแทรกผ่านความว้าวุ่นห่วงหาในใจมาได้อย่างเชื่องช้า กว่าเมฆจะรู้ตัวละเงยหน้าไปมอง เฮียคมคนถามก็เดินออกไปห่างพอควรแล้ว


               "....ทำไมล่ะ." เมฆเอ่ยถามออกไปสั้นๆ สีหน้าระแวดระวังไม่น้อย


               "คิดแบบนั้นได้ ก็เป้นประโยชน์ไงล่ะ"


                "หา?" เมหกำลังจะถามว่าพูดอะไรของมัน?


               “จริงสิ!” เสียงตะโกนที่ดังอีกรอบทำเอาสองหนุ่มสะดุ้งโหยง คมหันขวับไปมองไอ้วิทย์ที่วิ่งกระหืดกระหอบกลับมาอีกครั้ง ไอ้เมฆพอเห็นสุดที่รักของมันมาก้ทำท่าดีใจ ส่วนตัวคมนั้นกำลังจะออกปากด่า


                “ไอ้เฮียคม! กูมีเรื่องจะบอก”ก่อนจะอ้าปากด่า ไอ้วิทย์ก็สวนขึ้น “เมื่อกี้ไอ้เมฆบอกกูว่าเหี้ยโตมันจะทรยศป๋า มึงถาม
รายละเอียดจากเมฆ แล้วรีบหาทางกันมันซะ!”


            ว่าแล้วร่างของวิทย์ก็หุนหันวิ่งกลับไปอีกครา ดูท่าจะเร่งรีบจริงๆ เลยไม่ได้หันไปมองท่าทีของคนรักหรือแม้แต่สีหน้าของคมที่ทำเพียงพยักหน้ารับอย่างเฉยชา


                  “งั้นเหรอ?” ...ผ่านไปนานพอดู ริมฝีปากนั้นจึงขยับรับสั้นๆ


               “...............” เมฆมองหน้าคนพูดอย่างไม่เข้าใจ


          "ว่าไงล่ะ...ไอ้โต" ทันทีที่คำพูดประโยคนั้นออกมาจากปากของคม เมฆก็ถึงกับสะดุ้ง ร่างที่เคยยืนจ้องมองสภาพความวุ่นวายเบื้องหน้าอย่างร้อนรนนั้นหันขวับ นัยน์ตาของเขาเบิกกว้างเมื่อมองเห็นร่างของลูกพี่ที่ตนเองไม่เคยถูกชะตาเดินออกจากมุมอับข้างๆห้องน้ำของเรือนจำ


             มาตั้งแต่เมื่อไหร่?


             แล้ว...ไอ้เนม พี่ทิน แผนการที่คนพวกนี้วางไว้ละเป็นยังไงบ้าง จะบอกว่าสำเร็จแล้วงั้นเหรอ!?


        และเมื่อกี้ที่พี่วิทย์พูด..


             "ต่อให้กูเกลียดและขี้เกียจเห็นหน้า แต่ก็ถือว่ายังมีประโยชน์ล่ะนะ" โตยักไหล่ตอบคำถามของคมสั้นๆ  ก่อนที่ดวงตาจะตวัดมองหน้าๆไอ้เมฆ หรี่ตามองหน้าซีดๆของมันด้วยอารมณ์กึ่งๆทั้งรำคาญตาและเคืองใจ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความลังเลของมันเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะกับคำพูดที่มีผลต่อไอ้โง่สองคนที่คิดจะฝากชีวิตไว้กับคนแบบไอ้ป๋านั่น


            “ส่วนเรื่องที่กูทำ...กล้าเหรอ ที่จะขวาง” เอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มเหี้ยมตรงมุมปาก
 

                หลังจากรีบวิ่งออกมาจากโรงอาหารอย่างรวดเร็ว โตก็มาถึงแดนสิบสอง ทางเดินระหว่างแดนสิบสองกับแดนพิเศษซึ่งเคยมีลวดหนนามและรั้วหนามกั้นไว้บัดนี้กลายเป็นไม่มีเสียแล้ว ควันไฟจากการเผารถยนต์ เสียงระเบิด และนักโทษที่คลุ้มคลั่งด้วยความคั่งแค้นเป็นสิ่งที่ทำให้ฝีเท้าของเขาหยุดนิ่งด้วยความตื่นตะลึงไม่น้อยกับสถานการณ์อันเกินจะรับไหว


                 รีบเอ่ยปากเรียกไอ้คมที่มันพยายามคุมสถานการณ์แต่เป็นไปได้อย่างยากยิ่ง โตสั่งให้มันเลิกสนใจจะสั่งการพวกลูกน้อง บอกให้พวกมันทำตามใจและรีบให้ไอ้คมมาร่วมกันคิดวางแผนรับมือเรื่องที่เกิดขึ้น


                  เขาต้องการการจลาจลก็จริง แต่แบบนี้มันหนักหนาเกินไป หากก่อความวุ่นวายกันใหญ่โตขนาดนี้ โอกาสที่จะถูกจัดการยิ่งง่าย และไอ้ปรมัตถ์มันก็คงจะตัดสินใจใช้วิธีเด็ดขาดกับพวกเขาแล้ว พวกหน่วยจู่โจมชุดดำที่เข้ามาจัดการในโรงอาหารนั้นคือคำตอบ


                แล้วตอนนี้พวกเขาควรจะทำอย่างไร?


                อย่างไรก็ต้องรีบก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป พวกชุดดำนั่นมาถึงโรงอาหารแล้ว ไม่นานก็คงมาถึงที่นี่ แล้วจากนั้น พวกมันจะทำอย่างไรกับเขาก็ไม่อาจเดาได้ โตคิดปรึกษากับไอ้คมอย่างเคร่งเครียดนานพอสมควรก่อนจะให้มันไปรับหน้าไอ้กันย์กับไอวิทย์  พวกมันต้องทำตามแผน ขณะเดียวกันโตก็หวังให้ไอ้คมเอาเรื่องสถานการณ์แบบนี้มาขู่ให้มันยอมเปลี่ยนใจ  ยังโชคดีที่ไอ้เมฆโผล่มาอีกรายและเริ่มมีท่าทีประสาทๆชวนให้ไอ้สองคนนั้นมันไขว้เขว แม้จะอย่าตบกะโหลกมันให้หลุดนักยามที่ไอ้เมฆมันแหกปากเรื่องแผนการณ์ที่เขาจะทำ แต่อย่างไรงานนี้ก็ถือว่าไอ้ทินมันสามารถทำตามที่วางไว้ได้อย่างลุล่วง


               "ไอ้เนมอยู่ไหน?" กระนั้น คนที่ห่วงที่สุดกลับไม่มีวี่แวว พอเห็นร่างของพวกชุดดำเข้ามาแล้ว โตก็เริ่มนึกกลัวและอยากจะด่าตัวเองที่ส่งไอ้เนมไปที่นั่นคนเดียว


                ถูกล่ะว่ามันคงไม่เป็นไร ถูกล่ะว่ามันปลอดภัยกว่าอยู่ที่นี่ แต่จะจริงหรือ? แน่หรือ? ตอนนี้อะไรก็เปลี่ยนไป อะไรก็ควบคุมไม่ได้ สถานการณ์มันวุ่นวายสับสนปนเปกันไปหมด อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น เพราะห่วงเลยส่งมันไปไกลสมรภูมิ แต่บัดนี้กลับต้องมานึกเสียใจ แทนที่เขาจะเอาไอ้เนมอยู่ด้วย จะได้ดูแลมันแท้ๆ


               "ไม่รู้" เมฆตอบเสียงห้วน สบตาคนเป็นลูกพี่ของตนด้วยสีหน้าขัดใจ "ถามกูทำไม ไม่ได้เจอหน้า"


               "มึงตามพวกมันไปไม่ใช่รึไง" โตได้ยินที่พวกมันทุกคนคุยกันเมื่อครู่หมดแล้ว


               "แล้วไง กูเจอแต่พี่ทินไอ้เนมมันหายหลังประตูแล้ว" เมฆตอบ ก่อนจะแสยะยิ้ม มองหน้าคนถาม "ดีเนาะ..ลูกพี่...มึงนี่ดีจริงๆที่หลอกพวกกู ทรยศพวกกู หักหลังทุกคนเพื่อไปเข้าข้างไอ้พัศดีนั่น!!"


               "ไอ้เมฆ!" คมเรียกชื่อมันอย่างหงุดหงิด กวาดตามองรอบข้างอย่างระแวงไม่น้อย ถ้ามีใครมาได้ยินที่มันพูดคงได้เกิดเรื่องแน่ๆ


               "ช่างมัน ปล่อยให้มันเห่าไป" กระตุกยิ้มมุมปากอย่างเหยียดหยามกับท่าทีนั้น โตเอ่ยปากห้ามสั้นๆด้วยสีหน้าไม่หยี่ระ "จะพูดอะไรก็พูดไปเถอะ อย่างมึงที่อยู่ใกล้ใคร ใครพูดอะไรก็เชื่อไปหมดน่ะ ไม่มีความน่าเชื่อถือหรอกว่ะ"


               "อะไรนะ..." เมฆถามขวับอย่างฉุนเฉียว


                "เมื่อกี้มึงยังพูดอยู่หยกๆ ว่ากูกลัว กูไม่ไว้ใจพวกมัน ไม่อยากออกไปเจอพวกป๋าทำไม่ดีใส่ ต่อต้านไม่เอาแล้ว ทำไอ้วิทย์กับไอ้กันย์มันเขว แล้วมาตอนนี้.." โตมองหน้าคนฟังแล้วพ่นลมหายใจระอา "ตอนนี้พอกูมาก็เปลี่ยนท่าที ด่าปาวๆว่ากูหักหลัง ว่ากูทำแอย่างนั้นอย่างนี้..นี่ ไอ้เมฆ ตกลงว่ามึงคิดอะไรของมึงกันแน่ ในหัวมึงเนี่ย มันมีไอ้ก้อนเนื้อที่เรียกว่าสมองอยู่รึเปล่าวะ มีแค่ลม หรือเป็นแค่หัวกลวงๆใครยัดอะไรเข้ามาก็รับได้หมด"


                "ไอ้!.."


                 "ประหลาดดีว่ะ กูก็เพิ่งเคยเจอคนแบบนี้เป็นครั้งแรก" ฝ่ามือของโตตะปบเข้าที่ไหล่ผอม กำแน่นแล้วออกแรงผลักไม่เบาหนักจนร่างนั้นแนบติดกับผนัง จ้องมองใบหน้าของขาใหญ่แห่งแดนสิบสองที่ขยับมาใกล้ด้วยท่าทีคุกคาม "มึงนี่มันโลเลสมชื่อ อยู่ใกล้คนไหนก็เชื่อคนนั้น มีความคิดเป็นของตัวเองรึก็เปล่า เรื่องอยากออกไปก็เชื่อจากไอ้วิทย์ เรื่องกลัวไอ้ป๋าทำไม่ดีด้วยก็คงฟังมาจากไอ้ทิน แล้วมาตอนนี้....เรื่องที่กูจะทรยศ จะขายเพื่อนขายลูกน้อง มึงคิดได้เอง หรือมีใครเป่าหัวมึงว่าอย่างนั้นอย่างนี้กัน?"


                 "เอาเถอะ..ตอนนี้กูไม่มีเวลามายัดห่าอะไรใส่สมองมึงหรอก ไม่คิดจะอธิบายอะไรทั้งนั้นด้วย แต่กูจะบอกมึงไว้ เรื่องที่กูจะทำต่อจากนี้ไป ถ้ามึงมาขวาง ถ้ามึงมายุ่งย่ามวุ่นวาย กูไม่เอามึงไว้แน่...ตอนนี้จะเห็นแก่ความดีที่มึงไปเป่าหูไอ้กันย์กับไอ้วิทย์..จะละเว้นมึงไว้ก่อน  ถ้าคิดว่าอยู่ตรงนี้มันว่างนัก ก็ลองมองสภาพรอบๆแล้วคิดเองเงียบๆแล้วกัน ว่ามึงควรจะทำยังไงกันแน่"


                แรงบีบที่ไหล่ลดลงแล้วพร้อมกับเงาร่างสูงใหญ่ของขาใหญ่แห่งเเดนสิบสองที่ผละจาก  ร่างนั้นหันไปสั่งอะไรสักอย่างกับไอ้คมเงียบๆแล้วจึงวิ่งเข้าไปปะปนในหมู่ฝูงชนไม่นานแผ่นหลังหนาก็หายไป เหลือไว้เพียงข้อความที่ทำให้ต้อง
เม้มปากแน่น คำด่าทอและวาจาแสบร้อนเป็นดั่งไม้หน้าสามพุ่งเข้าตีแสกหน้า ชวนให้เนื้อตัวสั่นระริกทั้งจากความโกรธและหวาดผวา


                  หัวสมองปั่นป่วนหัวใจเต้นโครมคราม ทั้งโกรธ แต่สมองก็ยังคิดตาม ทบทวนคำพูดเหล่านั้นทีละประโยค ...ทีละประโยค... 


                "เลิกตัวสั่นได้แล้ว น่ารำคาญ" คมส่ายหน้าอย่างระอาใจ ขาใหญ่แห่งแดนสิบเอนตัวพิงผนังซีเมนต์ จ้องมองไปยังกลุ่มคนด้วยสีหน้าครุ่นคิด


                 "กูไม่ได้กลัว!" เมฆตอบเสียงห้วนจัด


                 "เหรอ...งั้นก็อยู่ตรงนี้แล้วกันนะ" คมยักไหล่ ก่อนจะขยับตัวเพื่อไปเริ่มปฏิบัติตามแผนในส่วนของตนบ้าง "ยังไม่มีใครตาย ยังไงก็อย่ากลัวจนฉี่ราดแล้วกัน"


                "กูไม่ได้กลัวคนตาย.." เมฆเอ่ยตอบสั้นๆ "แต่..กูกลัวใจพี่กันย์"


               คำพูดของลูกพี่ที่เขาเกลียดขี้หน้ายังดังก้องอยู่ในสมองชวนระคายใจก็จริง แต่ว่าภาพแผ่นหลังของโตที่ลับหายไปท่ามกลางกลุ่มคน ชวนให้คิดถึงคนสองคนที่เพิ่งจากไปไม่นานและความกังวลบางอย่างที่ฉายวาบในใจ


               ...เกือบจะลืมไปแล้ว


               คงจะลืมไปแล้วจริงๆถ้าไม่ได้มองตาคู่นั้น..


                "หา?" คราวนี้คมเป็นฝ่ายงงบ้าง ก็แทนที่มันจะโวยเรื่องถูกหลอก ถูกหักหลัง หรือถามว่าเขาเข้าข้างใคร กลับดันไปนึกถึงไอ้กันย์โน่น


                "พี่กันย์มันต้องคิดทำอะไรอยู่แน่ๆ "เมฆตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ หัวใจวาบลึก ท่าทางแบบนั้น สีหน้าและแววตาแบบนั้นเขารู้จักดี...


                  เคยเห็นมาแล้ว เคยเจอมาแล้วยามที่พี่ชายมาเยี่ยมเขา นิ่งฟังคำสาปแช่งด่าทอและความอึดอัดคับใจที่เขามีต่อชะตากรรมอันโหดร้ายอย่างสงบ หากแววตาขุ่นมัวไร้ก้นบึ้ง และเงียบงันอย่างน่าตกใจ สิ่งที่ตามมาไม่นานก็คือข่าวการเสียชีวิตของผู้หญิงที่มีศักดิ์เป็นป้าของเขา คนที่พยายามจะเอาเรื่องเขาให้ถึงที่สุด


                  สีหน้าแบบนั้น ท่าทางแบบนั้น แววตาแบบนั้น..


                ลักษณะของคนที่พร้อมจะทำทุกสิ่งเพื่อให้ได้อย่างใจต้องการ ทำได้ทุกสิ่ง ทำได้ทุกอย่างแบบที่เคยผ่านมา


                แค่คิดร่างกายก็สั่นไหว ลมหายใจเย็นเยียบช่างผิดแผกกับยามเช้าที่ร้อนระอุด้วยความวุ่นวายและควันเพลิงเสียเหลือเกิน


                เมฆเม้มปากแน่น จ้องมองกลุ่มคนนอกอาคารด้วยสีหน้าครุ่นคิด


                ควรจะทำยังไงกันแน่


              ทั้งเรื่องผู้คนรอบกาน ทั้งเรื่องที่เกิดขึ้น เหตุการณ์แบบนี้ สภาพแบบนี้ ควรจะทำอะไร ควรจะปฏิบัติตัวแบบไหน


              เม้มกัดฟันกรอดขณะที่ดวงตาอันแฝงความร้อนรนตวัดมองร่างของคมอย่างคล้ายจะขอคำปรึกษา เสียแต่ว่าร่างของขาใหญ่แดนสิบจากไปแล้ว และที่ตรงนี้เหลือเขาเพียงคนเดียว  ยิ่งทำให้ความลังเล สับสน แล่นขึ้นสมอง
 

              "พี่โต!" เสียงตะโกนที่คุ้นหูดังอยู่เบื้องหลังทำให้เมฆสะดุ้ง  นัยน์ตาสีเข้มเบิกกว้างยามหันหลังแล้วพบนักโทษรายหนึ่งยืนหอบแฮ่กๆอยู่ตรงนั้น


              ใบหน้า ทาทาง ตลอดจนเสียงแบบนั้นเมฆจำได้ดี ก็จะให้ลืมได้ยังไงเล่า ในเมื่อคนที่อยู่ตรงนั้น คือไอ้เนมที่เขาต้องไปเฝ้ามันนานนับสามสี่ชั่วโมง


                แล้วตอนนี้ มันมาทำอะไรที่นี่กัน?



     .........................................


                 วิ่งฝ่าผู้คน ก้ามผ่านบรรดานักโทษที่กำลังวุ่นวายอยู่กับการจุดไปเผายางรถยนต์ ไม่ก็เขวี้ยงก้อนหินใส่ผุ้คุมอย่างระมัดระวัง ทั้งต้องพยายามหลบสายตาของผู้คม พยายามทำตัวกลมกลืนไม่ให้เจ้าของปืนยาวที่ประจำการอยู่บนหอคอยนึกสงสัย ทั้งยังต้องรีบวิ่งตามหลังไอ้หมอเถื่อนที่ก้าวเหมือนไปตามควายหายให้ทันก็เหนื่อยจนต้องหอบแฮ่ก นี่ขนาดไม่นับเรื่องที่วิ่งกลับไปหาเมฆอีกรอบนะ ต่อให้รู้ว่าต้องรีบทำงาน แต่รู้สึกไอ้กันย์มันจะรีบลนเกิดไปเสียแล้ว


                 นึกบ่นในใจขณะที่เกาะประตูเหล็กทึบกั้นทางเข้าหน้าแดนพิเศษด้วยสีหน้าเหนื่อยอ่อน วิทย์หรี่ตามองไอ้กันย์ที่เคาะประตูรั้วเป็นจังหวะสี่ห้ารอบด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เขามองเห็นลูกกุญแจถูกสอดออกมาด้านล่างของประตู  ดวงตาของวิทย์ส่ายลอกแล่ก เหล่ไปยังบรรดานักโทษที่กำลังเผายางรถยนต์อยู่ตรงหน้า นึกขอบใจตัวเองที่บอกให้พวกมันมาจุดแถวๆหน้าเรือนจำพิเศษด้วย เพราะแบบนี้ทัศนะวิสัยจึงมีปัญหาและพวกเขาก็สามารถลอบเข้ามาในแดนพิเศษอย่างง่ายๆไม่กระโตกกระตากให้เสียเรื่อง


                  กริ้ง..


              เสียงพวงกุญแจในมือไอ้กันย์ชวนให้นึกสงสัยว่ามันติดต่อใครเป็นพวกถึงได้รับความสะดวกขนาดนั้น แต่วิทย์ก็ไม่มีเวลาถาม เขาได้แต่เดินดุ่มตามหลังไอ้กันย์ไปยังห้องของบรรดาลูกพี่เพื่อทำการปลดปล่อยอีกฝ่ายไปสู้อิสระ แม้จะนึกงวยงงและกังวลอยุ่หน่อยๆกับความเงียบที่มากเกินเหตุนั่น มันเงียบเสียจนชวนสังหรณ์ร้ายบางอย่าง เงียบจนต้องระวังตัวอย่างระแวดระวังกว่าทุกครา


               "มาแล้วสินะ" น้ำเสียงทักทายด้วยสีหน้าเริงร่าทำให้วิทย์ละสายตาออกจากการสังเกตสังกาท่าทีของคนตรงหน้า  หันไปยิ้มรับกับแววตายินดีของบรรดาลูกพี่ทั้งหลาย สีหน้าของป๋า ผุ้พัน และลุงชาตินั้นดูพอใจมากกับอิสระที่จะได้รับ แต่ละคนจึงรีบแร่งออกมาด้วยท่าทีกระตือรือล้น


               "ไปเลย" ผู้พันเอ่ยปากทันทีที่ออกมาจากห้องขังเป็นคนสุดท้าย  นักโทษทั้งสามรายยังคงสวมตรวนอยู่ทำให้ต้องออกแรงยกมันไปด้วย ทว่าแต่ละคนดูจะไม่ลำบากใจที่ต้องยกไปด้วยเสียเท่าไหร่ แววตาที่กระหายอิสระภาพและความเชื่อมั่นในดวงตาคู่นั้นทำให้นึกฮึกเหิมไปด้วยไม่น้อย ความลังเลเเต่เมื่อครั้งคำพูดของคนรักเอ่ยปากจึงถูกปัดออกไปจากสมอง


              ...ยังไงก็ตาม ถ้ากูออกไปได้ ทุกอย่างมันก็จะจบ!


              หมายมั่นปั้นมือด้วยสีหน้าพึงใจ วิทย์งับประตูเรือนจำเบาๆก่อนจะเดินตามหลังบรรดาป๋าๆเพื่อคุ้มกัน เขาเดินผ่านห้องขังอื่นๆที่มีผู้ต้องขังอยู่ในนั้น หลายคนมีสีหน้าริษยาอย่างปิดไม่มิดกับอิสระที่คนเหล่านี้ได้รับ แต่ก็มีบางรายที่เอ่ยปากอวยพรด้วยรอยยิ้มบางๆ


              ประตูเรือนจำถูกเปิดออกด้วยฝีมือของผู้คุมที่ถูกซื้อตัวเอาไว้ บุรุษในชุดสีกากีทั้งสองคนนั้นปล่อยให้พวกเขาเดินผ่านไปง่ายๆด้วยสีหน้ายำเกรง แม้จะมีกระบองอยู่ที่เอว และยังใส่เสื้อผ้าชุดข้าราชการติดกาย


              ด้วยความสมเพชลึกๆทำให้วิทย์แสยะยิ้ม เขาเหลือบตามองผู้คุมก่อนจะแบมือขอกระบองเหล็กหน้าตาเฉย แต่ที่น่าแปลกกว่าคงต้องเป็นการได้รับของทันทีโดยไม่มีคำก่นด่าหรือสีหน้าไม่พอใจอะไร นั่นยิ่งทำให้วิทย์นึกลิงโลด เขานึกไปถึงคำพูดของเพื่อสนิท ตอนนี้เขาอยากบอก อยากให้มันเห็นภาพนี้นัก  ไอ้โตเอ๋ย...ความยุติธรรม หรือไอ้เรื่องที่มึงกำลังทำอยู่น่ะ มันไม่มีทางสู้อำนาจของเงินและผลประโยชน์หรอก


              เดินประกบตามหลัง เข้ามายังบริเวณประตูหน้าที่มีเสียงของนักโทษกำลังโห่ร้องและกลิ่นของควันไฟอบอวล วิทย์ก็รีบหยิบกระบองควงที่ได้มาจากผู้คมมากำไว้ในมือ ขณะที่ไอ้กันย์เคาะประตูเบาๆให้มันเปิดออกด้วยท่าทีระวังระไว..


            ร่างที่ค่อยเล็ดลอดออกมาจากประตูใหญ่นั้นถูกบดบังด้วยร่างของนักโทษรายอื่นที่ต่างไปออกอยู่ริมประตูนั้น ควันไปสีดำที่ลอยเอื่อยต่ำ ทำให้ทัศนวิสัยยิ่งแย่  เสียงนักโทษคำรามและเขย่าประตูให้เปิดออกทำให้ความสนใจถูกละจากร่างของนักโทษ มายังประตูที่กำลังถูกง้างออกด้วยเหล็กและของเเข็งที่นักโทษต่างพากันช่วยงัดแงะ และมีผุ้คุมคอยยื้ออยู่อีกฝั่งแบบสุดชีวิต


              ละครว่าด้วยของความโกลาหลซึ่งดึงสายตาทุกฝ่ายไปยังประตูแห่งนั้นได้ผลดีเกินคาด ร่างของชายหนุ่มในชุดนักโทษห้ารายที่เดินประปนกับบรรดานักโทษดูจะไม่เป็นที่สังเกตและเป็นที่สนใจใด กระทั่งร่างเหล่านั้นเล็ดลอดเข้าไปบริเวณใกล้กำแพงเรือนจำก็ไม่มีผู้ใดสังเกต


               เสียงหอบดังออกมาจากลำคอของทุกคนเบาๆ ผสมทั้งความเหนื่อยและความโล่งอกเมื่อทุกอย่างเป็นไปได้ตามแผน กันย์จ้องมองกำแพงหนาเบื้องหน้าอย่างครุ่นคิด ความเงียบนั้นทำให้ไม่มีใครรู้ว่าเขาคิดอะไร ทั้งใบหน้าที่ประดับรอยยิ้มเสมอยังเรียบเฉย..



ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8


               "ไม่ต้องตื่นเต้น เรายังมีเวลา" เสียงของลูกพี่ดังขึ้นเบาๆทำให้คนฟังชะงัก กันย์หันมามองหน้าบรรดาลุกพี่ที่นั่งซุ่มรอเวลาอยู่ ใบหน้าของทุกคนประดับด้วยรอยยิ้มพร่างพราย พึงใจต่ออิสระที่จะได้รับ


               "ไอ้โตล่ะ หือ?" คำถามนั้นถูกตอบด้วยอาหารส่ายหน้า ทั้งกันย์แลวิทย์ต่างก็ไม่รู้ว่าลูกพี่ของพวกเขาที่มันควรจะมารอ อยู่ตามนัดแล้วไปอยู่ที่ไหน ขณะที่วิทย์เม้มปากแน่น จ้องมองไปยังใบหน้าอันเฉยชาของไอ้กันย์อย่างงวยงง เขาเริ่มร้อนรนเพราะเขารู้ดีว่าไอ้โตมันจะทำอะไร แต่ที่น่ากังวลกว่ากลับเป้นไอ้กันย์ที่ไม่ไดเปริปากพุดเรื่องของไอ้โตกับพวกป๋า ทั้งๆที่ควรพูดแท้ๆ


            หรือมันจะรอให้เขาพูดเอง เป็นไปได้หรือ นี่มันเป็นเรื่องสำคัญคนที่รู้ก็ต้องได้ความดีความชอบสิ ทำไมมันถึงได้เงียบอยู่กัน?


       ตูม!


              เสียงระเบิดดังขึ้นใกล้กำแพงทำให้ทุกคนชะงัก แน่นอนว่ามันทำให้ทุกสายตาแปรมาจับจ้องพื้นที่ซึ่งมีเสียงระเบิดนั้นด้วย  ระเบิดที่ไม่ไกลตัวนั้นทำให้ทั้งห้าต้องรีบขยับหลบป้องกันตัวอย่างมิดชิดกว่าเดิม  ท่ามกลางเสียงสถบหัวเสียของผู้พันและป๋า


             "ใครเป็นคนจัดการ เละเทะขนาดนี้" ชาติเอ่ยถามลุกน้องเสียงเเข็ง ชัดจะหงุดหงิดด้วยความไม่พอใจ  ริมกำแพงตอนนี้กลายเป็นถูกจับจ้องแทนเสียแล้ว การจะหนีออกไปเงียบๆต้องมามีอุปสรรคอีก!


             "ไอ้โต.." วิทย์ตอบเสียงเครียด สีหน้ายุ่งยาก ตามแผนที่วางไว้ ก็เป็นที่ตระเตรียมกันเรียบร้อยแล้วว่าเขากับไอ้กันย์จะพาพวกป๋าออกมาที่แดนสิบสอง แล้วให้ๆไอ้โตใช้ระเบิดเขวี้ยงเข้าที่กำแพงเพื่อให้เป็นทางออกและสมารถหนีไปได้ แต่นี่มีแต่
เสียงระเบิด ซ้ำเป้าหมายของมันยังไกลจากผนังพอสมควร ทำให้ไม่อาจเกิดรูหรือเกิดการผุกร่อนใดๆ มีได้ก็แค่เสียงดัง แถมยังเสียหายที่ถูกจับจ้องมากขึ้นไปอีก!


              "พวกแกคุยกันยังไง?" ป๋าเอ่ยถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด "ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่างประมาท แล้วนี่ไอ้โตมันหายหัวไปไหน?"


              "..........." หายไปไหน? คำนี้ไม่มีใครตอบได้ ตามกำหนดเดิม..ตามแผนเดิมมันน่าจะมาตรงนี้แล้ว ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นนี่หมายความว่ายังไง? ตอนนี้ไม่มีใครตอบได้ว่าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ


              "เหี้ยพี่โตมันมาแล้วนะ แต่ไปไหนอีกไม่รู้" คำตอบดังมาเบื้องหลังทำให้ทุกคนหันขวับ คนที่พูดนั้นคือเมฆที่ย่องเข้ามาพร้อมกับเนมด้วยสีหน้าระวังไว


              "มาทำไมตรงนี้ เมฆ บอกว่าส่งป๋าก่อนแล้วกูจะไปรับไง" วิทย์เอ่ยถามคนรักตนเสียงห้วน ยิ่งกว่านั้นที่น่างวยงงกว่า คือทำไมเมฆมากับไอ้เนม ทั้งๆที่เมฆเป้นคนบอกว่าไอ้เนมมันทรยศ


            ทั้งไอ้กันย์ ทั้งเมฆ สองคนนี้ไม่พูดเพราะอะไรกันแน่?


              "จะให้กูอยู่ตรงนั้นได้ยังไง พ่อมึงมาเป็นฝูงแล้ว" เมฆเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งเครียด


               "อะไรนะ?"คราวนี้คนตกใจกลายเป็นป๋า เมฆตวัดสายตาไปหาคนถามแล้วขยับตัวหลักนิดๆด้วยหวาดกลัวปนประหม่า


               "พะ...พวกพัศดีมันเอาหน่วยชุดดำมา...ตอนนี้มาอยู่ในห้องน้ำแล้ว" เนมเป็นฝ่ายตอบด้วยสีหน้าขาวซีด "ผมกับเมฆเลยรีบหนีมาก่อนจะถูกจับ"


               "เชี้ยเอ้ย" วิทย์สถบเบาๆอย่างหงุดหงิด หลังจากฟังคำแล้วเสร็จ ก่อนที่ดวงตาขุ่นมัวจะเบิกกว้างเมื่อเขานึกอะไรได้ ไอ้เนมมันก็เป็นฝ่ายเดียวกับไอ้โต แล้วที่มันมาอยู่ตรงนี้ การมาของพัศดีมันอาจจะเกี่ยวข้องกับไอ้เนมก็ได้ แล้วยังเมฆที่เงียบไม่พูดอะไรเหมือนกำลังทำตามแผน วางแผนอะไรอยู่ หรือว่านี่จะเป็นไปตามแผนของพวกมันกันแน่?


               "แล้วมึง...."



              ตูม!



                 กำลังจะเอ่ยปากเปิดโปงเพราะไม่อาจจะปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามการคาดคะเนของพวกมันไหว ชีวิตใครใครก็ต้องอยากมีอิสระและจัดการตัวเองทั้งนั้น วิทย์จะไม่ยอมให้ทุกอย่างที่ทุ่มเทมาต้องมาพังเพราะคนไม่กี่คนเป็นแน่! แต่เหมือนไอ้คนตรงหน้าจะโชคซะเหลืเกิน ถึงได้มีเสียงระเบิดมาช่วยมันไว้


              "นี่มัน..." ก้มตัวหลบเศษหินที่ปลิวเข้าหาและเเรงสั่นสะเทือนด้วยความตกใจ ทว่าพอควันจางหาย ร่องรอยบางอย่างที่กำแพงซึ่งปริแตกออกทำให้ทุกคนเบิกตากว้าง!


              "ทุกคน! เร็ว!" เสียงตวาดคุ้นหูทำให้ร่างทุกคนลุกพรวด ป๋าหันไปมองหน้าเจ้าคนเป็นหัวหน้ากลุ่มและไอ้อดีตคู่อริที่ยอมมาเป็นลูกน้องของตนชั่วคราวด้วยดวงตาวาววับ ความร้อนรนไม่พอใจที่ทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผนลดฮวบลงอย่างรวดเร็วพร้อมกับรอยยิ้มพึงใจ เมื่อเสียงระเบิดดังขึ้น ร่องรอยทางรอดที่พวกเขาเคยวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ปรากฏ รวมทั้งกลุ่มนักโทษที่เข้ามาแกล้งวิ่งวุ่นก่อความวุ่นวาย ปิดบังรอยแตกโหว่ของกำแพงช่วยเป็นโล่กำบังให้สามารถเล็ดลอดออกไปได้โดยง่าย


              "พี่โต..." ร่างของไอ้ตัวแสบที่ทำท่าจะถลาเข้ามาหาด้วยใบหน้ายินดีทำให้โตชะงัก ร่างสูงหน้านิ่วด้วยท่าทีลำบากใจไม่น้อย ขณะที่ไอ้วิทย์และไอ้เมฆเบิกตากว้าง จ้องมองเขาเหมือนมีเรื่องอะไรจะพูดหรือขัดสักอย่าง


               "มึง..." วิทย์เบิกตากว้าง ทั้งงวยงงและสงสัย อีกทั้งกลัวว่านี่อาจจะเป็นอุบายของเพื่อนรัก ก็มันบอกว่าไม่อยากทำ แล้วนี่...มันหมายความว่ายังไง?


               "รีบไปสิ!" รุนหลังไอ้วิทย์แรงๆแทนคำตอบของทุกอย่าง โตกำแขนไอ้เนมแน่น ฝ่ามือเกร็งเขม็ง..



             ปึ่ก!



             "ขอบใจว่ะ...ออกไปแล้วกูตอบแทนมึงแน่" เดินผ่านแล้วตบบ่ามันแรงๆ อย่างพึงใจ ขณะที่เคลื่อนกายไปยังกำแพงหนา ท่ามกลางนักโทษทั้งฝั่งตนและผู้ไม่รุ้อิโหน่อิเหน่ที่ถูกใช้ให้เป็นประโยชน์ ป๋ายิ้มให้มันในฐานะลูกพี่อย่างดีใจ แต่คนได้รับกลับยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย


            "ไม่เป็นไร เดี๋ยวมึงก็เจอแล้ว"


             "หือ... พูด...."


             ปัง!


          เสียงปืนลั่นแหวกอากาศมาทำให้บรรยากาศโกลาหลยิ่งทวีความร้อนแรง นักโทษที่เคยโห่ร้องวิ่งพล่านกลับต้องรีบหลบหนีอย่างเร่งด้วน เมื่อเสียงปืนดังขึ้น และร่างขอบนักโทษผู้โชคร้ายรายนั้นก็ทิ้งตัวลงบนพื้นพร้อมเลือดนองเอ่อ


            "ชิบ! เอาแล้วไง" ผู้พันสถบดังๆพร้อมกับก้มตัวลงเพื่อจะลอดออกไปด้านนอกอย่างรีบเร่ง เสียงแต่เจ้าตรวนที่ขานี่ช่างทำให้ขยับตัวได้ยากลำบากนัก สมองของเขาสั่งให้รีบทำ รีบออกไป แรงปราถนากระซิบบอกว่าอีกนิด..อีกนิดเดียวก็จะเป็นอิสระเเละได้โลดแล่นอยู่ในโลกภายนอก


         แค่อีกนิด..อีกนิดเดียวก็จะสำเร็จ!


         ปัง ปัง ปัง




          เสียงปืนที่ดังใกล้ตัวทำให้ร่างของทุกคนสะดุ้งโหยง เช่นเดียวกับเหล่านักโทษซึ่งแตกฮือและบางส่วนกำลังวิ่งหลบชะงัก..ทุกสิ่งแปรเป็นเงียบกริบเมื่อ มองเห็นบุคคลผู้มาใหม่..


         ร่างสูงใหญ่ในชุดสีดำสวมเครื่องป้องกันและปืนยาวในมือทำให้ดวงตาของทุกคนเบิกกว้าง และยิ่งเงียบ..เงียบกริบเมื่อร่างเหล่านั้นโผล่มาจากทุกทิศทาง ทั้งบริเวณกำแพง แดนพิเศษ แดนสิบสอง หรือแม้แต่บนหลังคา ราวกับจะปิดทางหนีไม่ให้ออกไปได้และทั้งนี้..กระบอกปืนนั้นเล็งมาที่พวกเขา


        เสียงกลืนน้ำลายลงคอยังว่าดังมากในยามนี้ ร่างของทุกคนยืนแข็งทื่อ ทั้งงวยงงและหวาดกลัวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ภาพเจ้าหน้าที่ซึ่งโผล่ออกมาอย่างดุดันทำให้พวกตนได้ตระหนักถึงความผิดที่ได้ทำ..


          "ทุกคน..โปรดอยู่ในความสงบ" 


           เสียงของพัศดีดังขึ้น ร่างที่เดินออกมายืนอยู่หน้าบรรดาหน่วยคอมานโดทำให้นักโทษทุกคนชะงัก ใบหน้าของพัศดีที่พวกเขโกรธเคืองไม่พอใจยืนอยู่ตรงนั้น สีหน้าหยามหยัน ท่าทีเหนือกว่าชวนให้ความไม่พอใจลุกโชน ทว่าก็ทำอะไรมันไม่ได้เพราะมันมีคนและคนพวกนั้นก็มีปืน!


          "ผมมาขอเจรจา สำหรับผู้ที่ก่อจลาจลและพยายามหลบหนีออกจากเรือนจำ"


              เอ่ยแล้วดวงตาคู่นั้นก็หันมามองยังกลุ่มของบรรดาขาใหญ่ที่ต้องยืนนิ่ง ใบหน้าของพัศดีเคร่งขึ้น ก่อนจะแสยะยิ้ม..



.........................        TBC.



หายไปหลายวัน.. :z6:


 สาเหตุเพราะมีสอบซัมเมอร์ ขอโทษด้วยนะคะที่ไม่ได้แจ้งก่อน เอาเป็นว่าเรากลับมาแล้ว และคราวนี้จะไม่หายไปแว้ววว


 ส่วนตอนนี้...ใครวางแผนกับใคร ใครคิดจะทำอะไร มารอดูกัน

 เขียนแล้วนึกกลัวใจพี่กันย์แกนิดๆแฮะ รู้สึกหลุดแล้วน่ากลัววว *0*


 ตอนต่อไปพรุ่งนี้ค่า  > <

ปล. โปรโมทเพจนิยาย ต่อไป เชิญเข้ามาทักทายพูดคุยกันได้ค่า   >> http://www.facebook.com/SilenceSerinStory
                                               
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-05-2012 02:46:09 โดย Serin »

yunjaelover

  • บุคคลทั่วไป
ลุ้นตลอดเวลากับตอนนี้ เดาทางไม่ถูกว่าพี่โตแกวางแผนอย่างไร แผนเหนือเมฆแล้วก็เหนือเมฆ หรือเปล่า ยิ่งอ่านยิ่งอยากลุ้นตอนจบ ตอนหน้าขอจัดเต็มกว่านี้นะค่ะ

ขอบคุณค่ะ
:L2:

theWinDy

  • บุคคลทั่วไป
หัวใจจะวาย ที่ เนม โต และคนอื่นๆ ยังไม่เป็นไร
สถานการณ์จะเคลียร์ไหมเนี่ย  :sad4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Homepage

  • 520 - 我爱你
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-1
เย่ ๆ มาต่อแล้วซะที ประทับใจเรื่องนี้มากครับ อิอิ
พรุ่งนี้จะมาอ่านต่อออ

ออฟไลน์ Guill

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 678
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
จะเจรจาอะไรน่อ

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
โอ๊ย ลุ้นมากมายเดาไม่ถูกไม่รู้ว่าใครวางแผนอะไร

อยู่พวกไหนแน่

รอตอนต่อไป

o oxijan

  • บุคคลทั่วไป
คึดฮอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

หลาย

 :m1:

มาต่อไวๆนะ

:m5:

ออฟไลน์ puchi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 762
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
ลุ้นแล้วลุ้น ถอนหายใจเป็นเฮือกๆ 

กลัวใจกันย์ด้วย  นิ่งๆแบบนั้นล่ะน่ากลัว

ออฟไลน์ LSK

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ลุ้นมากอ่ะ ใจหายใจคว่ำนึกว่าพวกป๋าจะได้ออกไปแล้ว เนมกับพี่โตก็ปลอดภัย  อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว รอตอนต่อไปจ้า  :call:

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
อ่า ลุ้นมากๆอ่ะ
จะยังไงก็ตาม คนเขียนคับ
ขอให้พี่โตกะน้องเนมปลอดภัยก็พอนะคับ

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6

ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
มันอะไรกัน
งุนงงไปหมดแล้ว  สับสนกับแผนพี่โตจริงๆ
รีบมาเฉลยด่วนๆเลยคร๊า

ออฟไลน์ naamsomm

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
คนแต่งมาแล้ว
ดีใจทีสุดดดดดดด

พี่กันย์กำลังคิดอะไรอยู่
น่าแปลกมากทั้งที่ควรจะรีบฟ้องไปเลย
อ่านตอนนี้ทั้งลุ้น ทั้งคิดเยอะ
เดาแผนพี่โตไม่ออกเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9

ออฟไลน์ Maree

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ลุ้นๆๆๆๆ  ถือป้ายไฟเชียร์พี่โตนะ

รอตอนต่อไปพรุ่งนี้ กรี๊ดดดด

LifeTime

  • บุคคลทั่วไป
 :mc4:
จับได้แล้วสิ...จะเป็นไงต่อละนี่

ออฟไลน์ Rouk_Uknow

  • Delitto
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
พี่โตแม่ง เมพพพพพพพพพพพพพ พ

PAAPAENG~

  • บุคคลทั่วไป
โอย...
อะไรกันเนี่ย
สรุปแล้วพี่โตกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่???????

เอาล่ะ!
จะโดนพัสดีเป่าสมองก็ไม่ว่า
ถ้าพวกนั้นคืไอ้พวกป๋าและไอ้กันย์!
นอกนั้น...ปล่อยให้ออกกันไปเถอะ ฮือ...

รอตอนต่อไปค่ะ พรุ่งนี้แน่นะ! อิอิ

ออฟไลน์ ๛ナーリバス๛

  • ~~~๛NaaribuS๛~~~ ~ [TBL-081-588]
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +898/-26
    • NaaribuSS
กรี๊ดดดดดดด

ตื่นเต้น ลุ้นๆ

ขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี

กันย์น่าสงสารนะโดนเมฆเชิดใส่ แต่เรารักวิทย์ สงสารวิทย์มากกว่าเลยต้องสมน้ำหน้ากันย์

ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ ishiya

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
พี่กันย์ชอบทำให้ชวนนึกสงสัยเเปลกๆ ไม่ใช่ว่าไปเเอบร่วมมือกับพี่โตลับหลังหรอกนะ เพราะความเเค้นไอ้ป๋า กับผู้พันก็คงไม่น้อยไปกว่าคนอื่น ๆ หรอก สาธุ ๆๆๆๆ ขอเป็นเเบบนั้นด้วยเถอะ

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
ทั้งสุ้นทั้งมึนจริงๆ

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
กันย์น่าจะคิดได้แล้วใช่ไหมว่าคนที่กันย์ควรจะไม่พอใจจริง ๆ คือใครกันแน่ วิทย์อย่าปล่อยให้อารมณ์เหนือสติแบบนั้นสิ ทำอะไรคิดหน้าคิดหลังบ้าง อย่าลืมว่าวิทย์ยังมีเมฆต้องดูแลนะ โตกับคมวางแผนอะไรกันแน่นะ ทินเป็นยังไงบ้าง แล้วทำไมเนมถึงมาหาเมฆได้นะเนี่ย แผนของโตคงจะช่วยทั้งโตเนม และเพื่อน ๆ ของโตได้นะ

ออฟไลน์ KURATA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +146/-1
โอ๊ยยยยยยยย
อ่านไปลุ้นไปลมจะจับ ยาดมด่วนนนนน!!!!! (ไม่ค่อยจะบ่งบอกอายุ)
รอตอนต่อไป
ขอบคุณค่า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด