.......แฮ่.....โทษทีนะครับที่มาต่อให้ช้าพอดีว่าได้หยุดอาทิตย์นึงเลยแอบหนีเที่ยวเพลินไปหน่อย..
.....
.........ขอบคุณทุกกำลังใจและคำแนะนำนะครับ.......
.....แหะ..ๆ....รู้สึกว่าเพื่อน..ๆ...จะจิ้นกันไปกันใหญ่เลยนะครับ.....
.......หึ...ๆ.....ถ้าผมลืมตามาแล้วเจอกุ๊ก โจ๊ะพรึ่มพรึม....หรือจึดจึดกัน....หึ..ๆ....
....คงต้องมีงานฌาปนกิจหมู่แหละครับ...
ตอน........ลาทีกับความหลัง...( เมื่อเราต้องห่าง..2 )
..........หลังจากเหตุการณ์วันนั้นผมก็ไม่ติดต่อกับกุ๊กอีกเลย....มีช่วง2-3 วันแรกที่กุ๊กโทรหาผม.....แต่ผมไม่รับ...แล้วกุ๊ก
ก็ค่อย..ๆ...หายไปแต่ยังโทรมานาน..ๆ..ครั้ง...และผมก็เลือกที่จะไม่รับสายเหมือนเดิม.....ในตอนนั้นผมคิดแค่เพียงว่าต้องตัดใจ
จากกุ๊กให้ได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม.......ไม่มีใครรู้เรื่องราวเหตุการณ์ในคืนนั้นเลยแม้กระทั่งพี่แก้ว....และผมก็ไม่คิดที่จะเล่าให้
ใครฟังทั้งนั้น......ในชีวิตนี้ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะต้องมาตกอยู่ในสภาที่น่ารันทดขนาดนั้น.........
..........ยอมรับเลยครับว่าหลังจากเหตุการณ์คืนนั้นทัศนคติในเรื่องความรักของผมก็เปลี่ยนไป......จากที่
เคยคิดว่าคนเราถ้ามีความจริงใจให้กับความรัก.....เราก็น่าจะได้ความรักที่จริงใจกลับมาเช่นกัน..........เมื่อก่อนผมเคยได้ยินคำพูด
ที่ว่า....." ไม่มีรักแท้ในหมู่เกย์ ..." ผมไม่เคยเชื่อในคำพูดเหล่านั้น.......แต่ตอนนี้ผมชักเชื่อแล้วครับว่ามันคงไม่มี......ไม่มีแล้ว
จริง..ๆ...รักแท้สำหรับเกย์....
.
........วันเวลาผ่านไป.........หลังจากที่ผมเลือกวิธีตัดขาดจากกุ๊ก..........ผมได้อยู่กับตัวเองได้คิดอะไร
หลาย..ๆ อย่าง.....ในตอนนั้นผมคิดว่าเรื่องราวระหว่างผมกับกุ๊กคงจบสิ้นลงแล้ว........แต่หลังจากนั้นประมาณสองเดือนกุ๊กก็เริ่มกลับ
เข้ามาวนเวียนในชีวิตผมอีกครั้ง......กุ๊กเริ่มโทรหาผมบ่อยขึ้น.....ถ้าผมไม่รับกุ๊กก็จะใช้วิธีโทรหาพวกพี่แก้วกับน้องเบญ.....กุ๊กเข้ามา
ทำตัวกับผมเหมือนเดิม.....ผมไม่เข้าใจว่ากุ๊กต้องการอะไร....แต่ผมคิดว่ากุ๊กคงเลิกกับน้องคนนั้นแล้วแน่..ๆ....ผมปฎิเสธทุกการ
ติดต่อของกุ๊ก........และดูเหมือนกุ๊กก็จะรู้ตัวดีว่าคราวนี้ผมเอาจริง.....แต่กุ๊กยังคงติดต่อเข้ามาอยู่เรื่อย.ๆ........
แรก..ๆ...ผมก็เลือกที่จะไม่รับสายกุ๊ก....แต่พอกุ๊กติดต่อเข้ามาบ่อย..ๆ....เข้าผมก็คุยบ้างบางครั้ง....แต่ไม่ได้คิดจะกลับไปเป็นเหมือน
เก่านะครับ....มันเป็นการคุยกันแบบแค่คนเคยรู้จักกันเท่านั้น....ไม่มีคำพูดเกินเลยกว่านั้น....ถึงแม้ว่ากุ๊กจะพยายามแอบหยอดคำ
พูดหวาน..ๆ..มาถี่..ๆ..ก็ตามแต่ผมก็จะตอบคำพูดเหล่านั้นของกุ๊กด้วยคำพูดที่แฝงไปด้วยความเย็นชาอยู่ดี.....
.........และอาจเป็นเพราะช่วงนั้นเพื่อนผมที่ทำงานอยู่ต่างประเทศได้กลับมาเที่ยวเมืองไทย ....ผมเลยยุ่ง..ๆ..
อยู่กับการดูแลเพื่อนเกือบทุกวัน.....ผมเลยไม่ค่อยว่างและไม่ค่อยได้มีเวลาสนใจเรื่องกุ๊กสักเท่าไร....แต่ถึงอย่างนั้นกุ๊กก็ยังโทรมา
รายงานเรื่อย..ๆ...ว่าอยู่ที่ไหนยังไง......มีอยู่วันนึงพวกเพื่อนผมชวนกันว่าจะไปดูโชว์ที่สีลมแต่ผมไม่ชอบเลยขอตัวกลับบ้าน.......
พอผมไปถึงบ้านกุ๊กก็โทรเข้ามาถามว่าตอนนี้ผมอยู่ที่ไหน.....ผมตอบไปว่าอยู่บ้าน.....กุ๊กบอกว่าเหรอพอดีตอนนี้กุ๊กอยู่แถวสีลม
น่ะ.....เราคุยกันแป๊ปนึงแล้วกุ๊กก็วางสายไปสักพักเพื่อนผมก็โทรเข้ามา.........
"........นี่ไอ้ที..แกพลาดช็อตเด็ดแล้วนะที่แกไม่มาวันนี้....." เพื่อนผมเมาท์ใหญ่.....
".....ช็อตเด็ดไรว่ะ...." ผมถาม....
"......ก็พ่อตัวดีของแกไง....."
"......ใครว่ะ....."
"......จะมีใครซะอีกล่ะก็กุ๊กของแกน่ะซิ...."
".......กุ๊ก....ทำไมเหรอ...."
".......ก็พวกฉันเจอกุ๊กที่นี่ไง....."
".......อ๋อ....เออ....ใช่วันนี้กุ๊กอยู่แถวสีลมน่ะ....."
".......รู้แล้ว.....อ่ะแล้วแกรู้ได้ไง...."
".......ก็กุ๊กเพิ่งโทรมาบอกเมื่อกี้น่ะ....."
".......แหม....รีบโทรมารายงานตัวก่อนเลยนะ.....หึ...กลัวพวกฉันโทรมาฟ้องแกล่ะซิ.......ร้ายกาจเหมือนกันนะเด็กแกเนี่ย.....เมื่อ
ตะกี๊ตอนเจอพวกฉันนะ....กุ๊กตกใจหน้าเหวอเชียว...รีบถามใหญ่เลยว่าแกมาไหม....."
"..........."
"........แล้วนี่กุ๊กมันบอกรึป่าวล่ะว่ามากับผู้ชายด้วยนะ....."
".......เออ..ๆ..ช่างเถอะ.....พวกแกเที่ยวให้สนุกล่ะกัน...." ....ผมวางสายจากเพื่อนแล้วนึกในใจ....เออ..แล้วกุ๊กจะโทรมาบอกผม
ทำไมว่ะ....แต่ก็ช่างมันเถอะกุ๊กจะไปไหน....หรือไปกับใครก็ช่าง........
.......แล้วผมก็ได้มีโอกาศคุยกับเพื่อนผมที่มาจากต่างประเทศแบบจริงจังในค่ำของวันหนึ่ง....เพื่อนผมบอกว่า
สนใจไปทำงานด้วยกันไหมเพราะตอนนี้ที่ออฟฟิศมันเปิดรับพนักงานอยู่.....ผมก็เลยตอบไปว่าเออเอาซิเดี๋ยวจะส่งเรซุเม่ไปให้.....
ตอนนั้นผมก็ไม่ได้จริงจังอะไรหรอกครับ.....แค่คิดว่าเออลองดูล่ะกันถ้าได้ก็ไปไม่เห็นมีอะไรเสียหาย....แล้วอีกอย่างถ้าได้ไปจริง..
ๆ...ก็ดี..จะได้ไปให้พ้น..ๆกับเรื่องเดิม..ๆ..ที่คอยมารบกวนหัวใจผมซะที......
........หลังจากที่เพื่อนผมบินกลับไปแล้วเกือบเดือนมันก็โทรมาบอกว่าให้ผมเตรียมตัวให้ดีเพราะ HR ที่นั่น
จะโทรมาสัมภาษ 2-3 วันนี้....ช่วงนั้นผมเตรียมตัวไว้อย่างดีกะว่าถ้าโทรมาตอนไหนก็พร้อมตลอด.......แล้ว HR ก็โทรมาสัมภาษผม
ในเย็นของวันศุกร์ซึ่งตรงกับงานเลี้ยงที่ออฟฟิศผมพอดี......จำได้ว่าตอนนั้นตื่นเต้นมากเพราะเค๊าโทรมาสัมภาษตอนที่ผมกำลังช่วย
น้อง..ๆ..แต่งตัวไปปาร์ตี้แฟนซีที่ออฟฟิศพอดี.....แต่ทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปด้วยดี....ผมตอบคำถามได้หมดไม่ว่าจะเป็นภาษาไทย
หรือภาษาอังกฤษ.....หลังจากนั้นข่าวคราวของออฟฟิศเพื่อนผมก็หายเงียบไป.....ประมาณ 2 อาทิตย์ทาง HR ก็โทรมาให้ผมส่ง
เอกสารเพิ่มเติมเพื่อทำเอกสารรับรองการทำงานของที่โน่น.......แล้วก็เงียบหายไปอีกประมาณ 2 อาทิตย์ถัดมา HR ก็โทรมาบอกว่า
ให้ผมไปรับตั๋วเครื่องบิน......ผมได้ยินแล้วทั้งตื่นเต้นทั้งดีใจ......ผมบอกพวกพี่แก้วพวกนั้นตกใจใหญ่หาว่าผมล้อเล่น....แต่พอผม
ยืนยันว่าจริงพี่แก้วกับน้อง..ๆ.ร้องไห้กันใหญ่ ผมเลยบ่อน้ำตาแตกไปด้วยอีกคน....แต่ทุกคนก็ยินดีกับผมด้วย.....
ทางบ้านผมก็ห่วงไม่อยากให้ไปเหมือนกัน....แต่ทุกคนก็เคารพในการตัดสินใจของผม.............ผมตัดสินใจอยู่นานว่าจะบอกกุ๊กดี
ไหม.....พี่แก้วบอกว่าให้บอกกุ๊กเถอะเพราะไม่รู้ว่าผมจะไปนานขนาดไหน......ผมเลยโทรไปบอกกุ๊กว่าผมจะไปต่างประเทศแล้ว.....
ตอนแรกกุ๊กก็ไม่เชื่อเหมือนกันแต่พอผมยืนยันว่าจริง....กุ๊กเงียบไปแป๊ปนึง....แล้วกุ๊กก็ถามผมว่าจะไปจริงเหรอ.....ผมตอบไปว่า
อืม.....แล้วกุ๊กก็บอกว่าจะไปวันไหนจะไปส่ง.....
.............ในตอนแรกความมุ่งมั่นที่จะไปมันเกินร้อยสำหรับผม...แต่ผมกลับมีความรู้สึกกลัวและลังเลอยู่
ลึก..ๆ...ในใจ....ว่าสิ่งที่ผมคิดและตัดสินใจนั้นจะถูกต้องไหม....แต่พอคิดถึงเรื่องของกุ๊กขึ้นมา....ผมก็คิดว่าดีแล้วล่ะที่ตัดสินใจ
ไป....เรื่องระหว่างผมกับกุ๊กจะได้จบลงไปจริง..ๆ..
ซะที......วันที่ผมบินกุ๊กมาถึงที่สนามบินก่นผมซะอีก.....ก่อนขึ้นเครื่องกุ๊กเข้ามาคุยกับผมแล้วยื่นกรอบรูปที่มีข้อความและรูปของกุ๊ก
อยู่ด้านในมาให้ผมบอกว่าขอกอดทีได้ไหม.....กุ๊กไม่ตอบแต่เดินเข้ามากอดผมไว้...........ที่ผมถามไปแบบนั้นก็เพราะผมคิดว่านี่คง
เป็นสัมผัสสุดท้ายระหว่างเรา......
เครื่องบินทยานขึ้นสู่ท้องฟ้าแล้ว.....ผมมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วบอกกับตัวเองเบา..ๆ.......ลาก่อนความหลัง....ลาก่อนนะไทย
แลนด์.....