ขอโทษทีที่ให้รอนะครับ วันนี้ไปโยคะมาและมีแถมคลาส Tai-Chi กับ Pilates อีกนิด เหนื่อยสุดๆ แล้วก็ตอนบ่ายลงเอยด้วยการนวดแผนไทย
ถ้ามีเงินก็จะไปสปาขัดผิวอาบน้ำแร่แช่น้ำนมต่อให้สบายใจ
สรุปแล้ว ไม่เจอเด็กแว๊นซ์ซักคนครับ ไปซิ่งมอเตอร์ไซด์ตอนเช้า เด็กแวนซ์ยังไม่ตื่น (ถามว่าทำไมไม่ซิ่งมอเตอร์ไซด์ตอนดึก คำตอบก็คือ ง่วงอ่ะ สี่ทุ่มก็ตาปรืออ้าปากหาวแล้ว)
ต่อบทที่ 21 ครับ
“คุณวางแก้วน้ำไว้ด้านที่แขนผมไม่เจ็บสิ”
“คุณก็ลุกขึ้นมาหยิบไปสิครับ”
“ลุกได้ยังไง คนขาหัก แขนหัก” ภีรวัสเม้มปาก เลิกคิดที่จะเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำ
“นั่นไงคุณยังต้องการคนช่วย แม้จะลุกขึ้นมาดื่มน้ำเองยังทำไม่ได้” วรุฒม์เดินเข้าไปใกล้แล้วหยิบแก้วน้ำขึ้นมา ตั้งท่าจะป้อนคนที่นอนป่วยอยู่บนเตียงอีกครั้ง
“ช่วยตามอิศราให้ผมหน่อยนะครับ” ภีรวัสเม้มปาก หลุบตาลงมองมือของตัวเองที่วางอยู่ผ้าห่ม
“ทำไมหรือครับ”
“ผมอยากอยู่กับคนที่ผมสนิทที่สุด ส่วนคุณจะไปไหนก็ไป” ภีรวัสตอบเสียงเย็น
“คุณไม่อยากเห็นหน้าผม” วรุฒม์พยักหน้าเข้าใจ “ได้ ผมจะไปไกลๆ”
เวลาผ่านไปนานพอสมควร ภีรวัสนอนกัดฟัน ตาเหม่อมองเพดาน ตั้งแต่วรุฒม์เดินออกไปจากห้องก็ไม่มีวี่แววว่าอิศราจะเดินเข้ามาหาเขา แสดงให้เห็นว่าวรุฒม์ไม่ได้ไปตามอิศราตามที่เขาบอก จนสายตะวันโด่ง คนที่เดินเข้ามาในห้องคือวิษณุ นายแพทย์หนุ่มบอกว่าอิศรากำลังนอนหลับสบายเลยไม่อยากปลุก
“เป็นยังไงบ้างครับ ผมตั้งใจว่าบ่ายๆ จะย้ายคุณไปที่แม่สะเรียง จะได้ดูแลสะดวก” วิษณุถาม
“ผมรบกวนผู้พันมากเกินไปแล้วครับ เอาผมไปส่งที่โรงพยาบาลอำเภอก็ได้นะครับ พอดีขึ้นผมจะย้ายกลับกรุงเทพฯ เลย”
“วรุฒม์คงไม่ยอม นี่ก็สั่งผมไว้ว่าให้ดูแลคุณให้ดีที่สุด ให้พาคุณไปอยู่ที่โรงพยาบาลทหารในค่าย”
“ไม่ได้นะครับ” ภรีวัสรีบทักท้วง “ผมไม่ใช่ทหาร จะไปนอนอยู่โรงพยาบาลทหารได้ยังไง”
“ถ้าเป็นคำสั่งของผู้บัญชาการกองพันฯ ทำไมจะไม่ได้ล่ะครับ” วิษณุตอบยิ้มๆ “เออแต่ก็แปลกนะ พอสั่งผมไว้แล้วก็หายไปเฉยๆ นี่ก็ไม่เห็นตั้งแต่เช้า”
“เขาคงมีธุระด่วน”
“นั่นสิ ท่าทางมีราชการด่วนจริงๆ ตอนนี้วรุฒม์กำลังยุ่งๆ ครับ แต่ถึงยุ่งก็ยังโทรมาสั่งการผมกับทีมค้นหาคุณให้ทำงานกันแบบไม่ต้องหลับต้องนอน ทั้งที่ประชุมอยู่กับ ผ.บ. ท.บ. กับแม่ทัพภาคฯ ยังแอบหาเวลาโทรมาถามข่าวได้เกือบทุกชั่วโมง นี่ผมยังแปลกใจอยู่เลยนะครับว่าทำไมวรุฒม์มาจากกรุงเทพฯ ได้ เท่าที่รู้ เขาต้องอยู่กับท่านแม่ทัพภาคฯ จนถึงเย็นวันศุกร์” วิษณุพูดไปพลางตรวจดูอาการของภีรวัสไปด้วย ภีรวัสฟังเงียบๆ แล้วพยักหน้าตอบคำถามของวิษณุที่ถามเขาว่าเจ็บหรือไม่เมื่อกดลงเหนือหัวเข่า
“โชคดีนะครับที่คุณไม่ได้เป็นมาลาเรีย แล้วแค่ขาหัก อีกหน่อยก็กลับไปเดินได้สะดวกเหมือนเดิม แต่ระหว่างนี้อาจรำคาญหน่อย”
“อีกนานไหมครับผมถึงจะกลับเข้ากรุงเทพฯ ได้” ภีรวัสถาม
“อยากกลับมากหรือครับ” วิษณุเงยหน้าขึ้นมาถามคนป่วยด้วยใบหน้ายิ้มๆ “พักฟื้นอยู่ที่นี่ก่อนไม่ดีหรือครับ งานวิจัยก็เสร็จแล้ว”
“ผมยังต้องเขียนรายงานต่อครับ ภาคสนามเสร็จแล้วก็จริง แต่ยังมีเรื่องเอกสารที่ต้องทำให้เสร็จ อีกอย่าง ผมต้องเขียน proposalขอทุนงานวิจัยชิ้นใหม่อีก” ภีรวัสพูดเสร็จแล้วถอนหายใจ
“ไม่พักเลยหรือครับ เสร็จงานนี้ต้องทำอีกงานทันทีเลยหรือ พักซักหน่อยดีกว่า อยู่เที่ยวที่นี่ต่อให้หนำใจแล้วค่อยกลับ ผมจะดูแลคุณกับคุณอิศราเอง”
“ขาพิการแบบนี้จะเที่ยวได้ยังไง” ภีรวัสก้มลงมองขาของตัวเอง “ผู้พันชวนอิศราเถอะครับ ผมจะเข้าไปรักษาตัวในกรุงเทพฯ มีคนช่วยดูแลกันหลายคน ทั้งเพื่อน ทั้งญาติ ทั้งครอบครัว แย่งกันดูแลจนไม่หวาดไม่ไหว”
...เขาทนอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ไหวแล้ว เขากำลังจะแพ้ใจตนเอง ถ้าอยู่ห่างวรุฒม์เขาก็คงตัดใจได้ง่ายขึ้น...
...ตกลงเกมนี้เขาแพ้อย่างราบคาบ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เกมหลอกให้รักแล้วทิ้งพังไม่เป็นท่า กลายมาเป็นเกม 'ตกหลุมรักแล้วจำต้องทิ้ง' วรุฒม์ไม่สะทกสะท้าน ไม่อาลัยอาวรณ์เลย เมื่อเขางอนแล้วบอกว่าอยากอยู่กับอิศรา วรุฒม์ก็ยอมไปง่ายๆ ไม่ลังแลแม้แต่นิด...
...วรุฒม์มีใจให้เขาบ้างหรือเปล่า ที่ทำท่าทางเหมือนมีใจให้กับเขานั้นแกล้งทำเท่านั้นหรือ...
หนึ่งอาทิตย์แล้ว อิศรายังไม่ยอมกลับกรุงเทพฯ ภีรวัสนั่งเหงาอยู่คนเดียวในร้านกาแฟริมสระว่ายน้ำในสโมสรหมู่บ้านมัณฑนา ตามองไปรอบๆ อย่างเบื่อหน่ายพร้อมคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
“เรากำลังฮันนี่มูน” อิศราเสียงใสเมื่อคุยโทรศัพท์กับเขาป่ายวานนี้ “ผู้พันวิษณุพาไปดูที่ดินตรงเชิงเขาด้วยล่ะ มีแม่น้ำใสแจ๋วเหมือนถุงยางรุ่นเฟเธอร์ไลท์ไหลผ่าน บรรยากาศโรแมนติกสุดๆ เรารู้สึกเหมือนสามีกำลังพาไปดูสถานที่ก่อสร้างเรือนหอยังไงยังงั้นเลยล่ะภีร์”
“เสียตัวให้เขาไม่รู้กี่ครั้งแต่กี่ครั้งแล้วยังไม่ได้เข้าห้องหอนี่นะ” ภีรวัสอดเหน็บแนมไม่ได้
“ไม่เป็นไร เรายอมท้องก่อนแต่ง” อิศราหัวเราะขำ “ผู้พันวิษณุเป็นคนหวานจริงๆ รู้ไหมภีร์ โรแมนติกซะไม่มี ชวนเรากินข้าวใต้แสงเทียนทุกคืน บางคืนพากันเมคเลิฟใต้แสงจันทร์ด้วย ไอ้เราก็อยากทำใต้แสงอาทิตย์บ้างแต่ผู้พันยังใจไม่ถึงพอ เลยทำได้แค่นั่นกันกลางวันแสกๆ ในห้องนั่งเล่นกับห้องครัว”
“พอทีเถอะอิศรา ไม่อยากฟัง” อิศราทำเสียงฉุนใส่เพื่อน
“เราคิดไม่ผิดที่เลือกผู้พันวิษณุ ถ้าเลือกผู้พันวรุฒม์ป่านนี้คงนั่งเหี่ยวแห้งตายไปแล้ว ผู้พันวรุฒม์งานยุ่งจนไม่เห็นหน้าเห็นตา ป่านนี้คงอยู่ในป่าวิ่งไล่เตะก้นพวกคอมมิวนิสต์อยู่มั๊ง แล้วคนเงียบๆ ขรึมๆ นิ่งๆ แบบนั้นคงทำอะไรโรแมนติกไม่เป็น เข้าทำนอง เท่แต่กินไม่ได้ เลียได้อย่างเดียว”
ภีรวัสถอนหายใจ นึกถึงการสนทนากับเพื่อนเมื่อตอนบ่ายแล้วรู้สึกน้อยใจวรุฒม์ขึ้นมาอีกแล้ว ตั้งแต่เช้ามืดวันนั้นที่สถานีอนามัย วรุฒม์ก็หน้าหน้าไปเลย แม้เขากลับมาพักฟื้นที่แม่สะเรียงวรุฒม์ก็ไม่เคยมาเยี่ยม จนวันที่วิษณุกับอิศราพาเขามาขึ้นเครื่องบินที่สนามบินเพื่อเข้ากรุงเทพฯ ก็ไม่เห็นหน้าวรุฒม์
กลับมาอยู่กรุงเทพฯ เขาไม่ได้ทำอะไรเลย รายงานวิจัยที่เขาควรจะเขียนบทวิเคราะห์ให้เสร็จก็ยังไม่เสร็จ เขาไม่มีสมาธิที่จะทำอะไรทั้งนั้น วันๆ ก็นั่งเล่นอยู่ที่บ้าน ไม่ก็มาที่สโมสรของหมู่บ้านจนเข้าของร้านกาแฟจัดที่นั่งประจำให้ พร้อมหาหมอนมาให้รองขาข้างที่หักอีกต่างหาก
ภีรวัสหันไปกวักมือเรียกพนักงานเพื่อนสั่งเครื่องดื่มเพิ่ม แต่สายตามองไปเห็นวรางคณา เพื่อนที่รู้จักเมื่อครั้งทำวิจัยด้วยกันที่จังหวัดสตูลเดินเข้ามาในสโมสร หญิงสาวยกมือขึ้นโบกทักทายแล้วรีบเดินตรงเข้ามาหาโดยมีชายหนุ่มรูปหล่อคนหนึ่งเดินตามมาติดๆ
“ไปเยี่ยมที่บ้านก็ไม่เจอ คนข้างบ้านบอกว่าให้ลองมาดูที่สโมสร” วรางคณายิ้มกว้างแล้วหันไปแนะนำชายหนุ่มที่มาด้วยให้รู้จัก
“พี่สันต์คะ นี่ภีร์ค่ะ คนที่เคยเล่าให้ฟัง ภีร์ นี่พี่สันต์ เพิ่งจบดอกเตอร์มาหมาดๆ สาขาเดียวกับภีร์ด้วยล่ะ”
“สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักนักวิจัยคนเก่ง เห็นณาบอกว่าคุณภีร์กำลังขอทุนยูเอ็นทำวิจัยที่อินโดนีเซีย” สันต์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ทำให้ภีรวัสอดนึกถึงผู้พันวิษณุไม่ได้
“งานวิจัยล่าสุดยังไม่เสร็จเลยครับ proposal ของอันใหม่เลยยังไม่ได้แตะเลยแม้แต่นิดเดียว” ภีรวัสตอบยิ้มๆ
“อ้าว นึกว่าเสร็จไปแล้ว ถ้ายังงั้นเรื่องวิจัยของยูเอ็นจะทันหรือ” วรางคณาทำตาโต ภีรวัสส่ายหน้า หญิงสาวจึงพูดต่อว่า “ไม่ทันแน่ๆ เลย เท่าที่รู้มา เขากำลังจะเปลี่ยนไดเร็คเตอร์คนใหม่ แล้วคนนี้ไม่ค่อยสนใจฟีลด์ของเราด้วยซ้ำ ได้ยินมาว่าเขาไม่ค่อยชอบคนเอเซีย โอกาสที่เขาจะให้ทุนเราอาจจะน้อย ต้องรีบเสนอให้ทันคนเก่าก่อนที่เขาจะย้าย”
“คงไม่ทันหรอก แต่ช่างเถอะ คราวนี้ไม่ทันก็รอคราวหน้า พิการอยู่แบบนี้จะไปทำอะไรได้” ภีรวัสยักไหล่
“ผมช่วยไหมครับ” วสันต์เสนอตัว
“ณาก็จะช่วย แต่ต้องช่วยผ่านอีเมล์เพราะมะรืนนี้จะไปทำงานโปรเจ็คใหม่ที่ออสเตรเลีย แต่พี่สันต์ช่วยได้เต็มที่ รู้ไหม บ้านอยู่ไม่ไกลกัน ไม่น่าเชื่อเลยเนอะ รู้ยังงี้แนะนำให้รู้จักกันตั้งนานแล้ว จะได้ช่วยกันทำวิจัย”
วรางคณากับวสันต์คุยกับภีรวัสเกือบหนึ่งชั่วโมงจึงขอตัวกลับ แต่ภีรวัสสังเกตเห็นว่าดอกเตอร์หนุ่มคนใหม่ทำท่าไม่อยากกลับขึ้นมาเฉยๆ
“พรุ่งนี้ผมว่าง จะแวะมาหานะครับ จะเอาคอมพิวเตอร์มาด้วย แล้วเริ่มพิมพ์ proposal เลย” วสันต์ทำท่าขึงขัง
“พี่สันต์ทำงานเร็วมาก ถ้าได้สองแรงสองสมองสี่มือช่วยกันทำ รับรองว่าเสร็จทันแน่” วรางคณาชมวสันต์
ภีรวัสพยักหน้าแล้วยิ้มให้ทั้งสองซึ่งลุกขึ้นและเดินจากไปช้าๆ เขามองตามวรางคณาและวสันต์เดินออกไปจากสโมสรหมู่บ้าน และเห็นวสันต์หันมามองเขาอีกสองสามครั้ง หากเป็นเมื่อก่อน เขาคงย้ิมถูกใจที่มีคนมาชอบ และอาจคิด 'เล่นเกม' สนุกๆ อย่างที่เคยเล่น แต่ทว่าตอนนี้ เขาไม่มีคู่แข่งแล้ว อิศราทำท่าจริงจังกับวิษณุ และที่สำคัญ เกมล่าสุดก็จบลงแบบที่ทำเอาเขาเจ็บไม่น้อย จนป่านนี้ยังทำให้รู้สึกเหมือนว่าเป็น 'ฝันร้ายกลางฤดูหนาว'
...เกือบสองอาทิตย์แล้ว เขายังลืมวรุฒม์ไม่ลง แต่วรุฒม์คงลืมเขาไปแล้ว...
...สองอาทิตย์ จะโทรศัพท์มาซักครั้งก็ไม่มี...
...แต่ทำไมต้องโทรมาล่ะ จบก็คือจบ เขาควรจะทิ้งวรุฒม์อย่างที่ควรจะทำ ถึงวรุฒม์จะไม่บอกรักเขาก็ช่างเถอะ แต่มันควรจะจบได้แล้ว แม้จะไม่สวยเท่าไหร่นักแต่จบไปเลยดีกว่าจะมายืดเยื้อ...
...ยืดเยื้อที่ไหน มันจบแบบเด็ดขาดจริงๆ แล้วต่างหาก และเขาไม่ได้เป็นคนทิ้งวรุฒม์ เขาโดนทิ้ง วรุฒม์ทิ้งเขา วรุฒม์เป็นคนทำให้มัน 'จบ' เอง...
...วรุฒม์ เขารักวรุฒม์หรือ แล้ววรุฒม์ล่ะ รักเขาหรือเปล่า...
เมื่อกลับถึงบ้านพักวรุฒม์ก็นอนแผ่หมดแรงทั้งที่อยู่ในชุดฝึก ไม่ถึงห้านาทีวิษณุก็เดินเข้ามาในบ้านแล้วยืนมองเขาเพื่อนด้วยใบหน้ายิ้มๆ
“เปิดบ้านทิ้งไว้ โจรเข้ามาขโมยของนายก็คงไม่รู้”
“ใจรที่ไหนกล้าเข้ามาก็ให้มันรู้ไปสิ” วรุฒม์ตอบเสียงเนือย ตาเหม่อมองเพดาน
“เหนื่อยขนาดนี้เลยหรือรุฒม์ นายทำงานหนักเกินไปหรือเปล่า ไม่เห็นจะต้องลงไปลุยขนาดนี้นี่นา ให้ลูกน้องทำไปสิ ตัวเองเป็นถึงพันโท เป็นผู้บัญชาการกองพันสบายๆ ไม่ชอบ”
“คิดแบบนี้ไง มิน่าคนไข้ถึงล้นโรงพยาบาล”
“เอาอะไรมาพูด คนไข้ของเราทุกรายหายแล้วสบายดีกันทุกคน รวมถึงคนไข้พิเสษที่ขาหักคนนั้นด้วย เท่าที่รู้ ตอนนี้เดินได้เองแล้วโดยไม่ต้องใช้ไม้เท้า พอเดินได้เท่านั้นล่ะ ขับรถร่อนไปมาทั่วกรุงเทพฯ” วิษณุจงใจพูดด้วยเสียงสดชื่นมากกว่าปกติเมื่อพูดถึงภีรวัส
“ดื้อจริงๆ” วรุฒม์บ่นพึมพำ
“อิศราจะตามไปคุม กลัวว่าคุณภีร์จะขับรถไปชนใครเข้า เพราะฉะนั้นอาทิตย์หน้าเราจะไม่อยู่ เราลาหยุดหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ แต่เราจะย้ำพลทหารให้ดูแลนายให้ดีเพราะได้รับรายงานว่าชีวิตนายมั่วไปหมด กินข้าวไม่เป็นเวลา ดื่มเหล้ามากกว่าเดิม นอนดึก แล้วชอบขู่จะเตะลูกน้องจนมันจะกลายเป็นโรคประสาทกันอยู่แล้ว”
“ใครมันกล้าเอาเรื่องเราไปรายงาน จะจับขังคุกให้หมด” วรุฒม์เน้นเสียง ยังนอนอยู่ท่าเดิมไม่ไหวติง
“วรุฒม์ นายจะทำอย่างนี้ไปทำไมวะ เห็นไหมล่ะ ทรมานตัวเองด้วย จะสอนบทเรียบอะไรให้คุณภีรืแบบนี้ จะทำให้เขาทุรนทุรายเพราะคิดถึงตัว คนที่อาการหนักคือนายต่างหาก” วิษณุก้มหน้าลงมองเพื่อน ส่ายหน้าช้าๆ อย่างอ่อนใจ
“เรามั่นใจว่าเราทำถูก”
“เพราะนายไม่เคยทำอะไรพลาด” วิษณุเติม “เรารู้ดีว่านายเก่งและมั่นใจในตัวเองมาก แต่ว่าไม่กลัวเป็นดาบสองคมหรือ อิศราบอกเราว่าตอนนี้คุณภีร์กำลังโดนจีบ”
วรุฒม์เงียบไม่ไหวติง วิษณุปรายตามองเพื่อนแล้วพูดต่อว่า “มีคนเข้ามาช่วยทำวิจัย เป็นดอกเตอร์หนุ่มรูปหล่อ เพื่อนรุ่นพี่ของเพื่อนที่เคยทำงานวิจัยด้วยกัน บ้านอยู่ใกล้กันด้วย ขลุกอยู่ด้วยกันที่สโมสรหมู่บ้านทั้งวัน ทุกวันอีกต่างหาก แต่นานเข้าคงสนิทกันจนไปขลุกอยู่ที่บ้าน” วิษณุเล่าถึงสิ่งที่อิศราเล่าให้เขาฟัง แต่ประโยคหลังเขาเติมเข้าไปเอง
เสียงดังโครม วิษณุสะดุ้งหันไปมองจึงเห็นว่ารองเท้าบู้ทสีดำของวรุฒม์เหยียบอยู่บนโต๊ะไม้เล็กๆ หน้าโซฟาซึ่งตอนนี้พังไปเรียบร้อย
“ทำลายทรัพย์สินของทางราชการโดนปรับนะผู้พันวรุฒม์” วิษณุเตือน
“โต๊ะอะไรเปราะบางเป็นบ้า” วรุฒม์ยันตัวลุกขึ้นยืน “แต่ถ้านายยังพูดอะไรไม่เข้าหูอยู่อีกละก็...”
“ผู้พันวรุฒม์ผู้เคร่งขรึมกลายเป็นอันธพาลไปซะแล้ว” วิษณุอมยิ้ม ไม่มีท่าทางเกรงกลัว
“เราไม่ให้ภีรวัสไปเล่นเกมบ้าๆ แบบนั้นกับใครอีกหรอก ถึงเวลาแล้วที่เราจะจัดการกับคนที่กล้ามาตอแยกับเรา” วรุฒม์ยืนกางขาผงาด มือเท้าสะเอว เสียงทุ้มต่ำ หรี่ตาคากริบลง แล้วเดินหายไปในห้องครัวหลังบ้านเพื่อดื่มน้ำ
“ยังไงก็อย่าให้ดอกเตอร์หนุ่มรูปหล่อคนนั้นถึงตายล่ะ” วิษณุหัวเราะเบาๆ อยู่คนเดียวแล้วตามเข้าไป 'ให้กำลังใจ' เพื่อนต่อ
...ชักสนุกแล้วสิ อยากจะรู้จังเลยว่าใครจะชนะ นักรบของกองทัพไทย หรือนักวิจัยคนเก่งเจ้าแผนการ...
...แต่ที่แน่ๆ เขาขอเป็นกองหนุนเต็มที่ วรุฒม์กับภีรวัสจะได้มีความรักครั้งแรกเสียที...
***21***