เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก  (อ่าน 132051 ครั้ง)

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
บทส่งท้าย

หนึ่งปีต่อมา

อิศรา
กลายมาเป็นช่างภาพสารคดีท่องเที่ยว และตระเวนถ่ายภาพสถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงามในภาคเหนือ โดยมีคนนำทางและพลขับเป็นแพทย์ทหารรูปหล่อ

พันตรีนายแพทย์วิษณุ
ได้เลื่อนยศเป็นพันโท และนอกจากรักษาคนไข้แล้วยังทำหน้าที่ขับรถพาช่างภาพผู้น่ารักตระเวนถ่ายภาพทั่วภาคเหนือ และเป็น ส.ห. ควบคุมความประพฤติของช่างภาพอีกหนึ่งตำแหน่งเพราะอิศรายังทำตัวไม่่น่าไว้ใจอยู่เป็นระยะๆ นอกจากนั้น ยังมีความรับผิดชอบพิเศษ ต้องพาอิศราไปสัมผัสแสงสีในตัวเมืองอย่างน้อยเดือนละสองครั้ง และวันเสาร์สิ้นเดือนต้องพา “หนุ่มเมืองกรุงฯ “ ไปผับในเชียงใหม่เดือนเว้นเดือน

วรุฒม์
แม้จะย้ายกลับมาประจำการที่กรุงเทพฯ มีตำแหน่งใหญ่โต แต่ก็ต้องควบตำแหน่ง ส.ห. ควบคุมความประพฤติของคนรักอีกหนึ่งตำแหน่งเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อภีรวัสกับอิศราอยู่ด้วยกัน

ภีรวัส
ยังคงทำงานวิจัยต่อไป และในที่สุดก็ได้ไปทำวิจัยที่อินโดนีเซียจริงๆ แต่ต้องกลับกรุงเทพฯ มารายงานตัวต่อพันโทวรุฒม์ที่กระทรวงกลาโหมเป็นประจำ แต่ไม่ถึงกับต้องทำรายงานการดำรงชีวิตประจำวันมาส่งนายทหารที่รู้ทันทุกอย่างเพราะวรุฒม์มี “สาย” แฝงตัวอยู่ในทีมวิจัยโดยที่ภีรวัสไม่ระแคะระคายแม้แต่นิด

ภีรวัสกับอิศรา
ทำตัวดีขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมากเพราะถูก ส.ห. ยศพันโทของกองทัพบกสองนายคุมเข้มจนแทบกระดิกตัวไม่ได้

หนึ่งปีสี่เดือนต่อมา

อิศรากับภีรวัส ในผับแห่งหนึ่งกลางกรุงเทพฯ

“ภีร์ เบื่อมากเลยนะ ชักจะไม่ไหวแล้ว กระดิกก้นแทบจะไม่ได้ เราหาอะไรสนุกๆ ทำกันเถอะ”
“อย่ามาชวนหาเรื่องถูกด่า”
“แค่อาทิตย์เดียวก็พอ อาศัยจังหวะที่ผู้พันไปราชาการนี่ล่ะ นานๆ ทีสองคนนั่นจะไปราชการพร้อมกัน”
“บอกแล้วไงว่าเลิกเล่นเกมบ้าๆ นี่แล้ว”
“ดูโน่น ที่ตำแหน่งสิบสี่นาฬิกา ใครทำให้นายคนนั้นชวนขึ้นเตียงได้ก่อนเป็นฝ่ายชนะ รางวัลคือไอโฟน เครื่องของเราที่ผู้พันซื้อให้ตกแตกไปเมื่อวาน ถ้าผู้พันกลับมาแล้วไม่เห็นจะโดนดุ”
"มั่นใจมากเลยนะว่าตัวเองจะชนะ"
“ไม่มั่นไม่ใช่อิศรา ครั้งล่าสุดจำได้ไหมว่าใครชนะ"
“แกเล่นสกปรก"
“แสดงว่าแกยอมแพ้"
“หนึ่งอาทิตย์นับเสาร์อาทิตย์หรือเปล่า หรือเฉพาะวันเวลาราชการ”
“แฟนแกกับเมื่อไหร่”
“เย็นวันอาทิตย์”
“เอ ทำไมไม่กลับมาพร้อมกันวะ งั้นเอาหกวัน ผู้พันวิษณุกลับคืนวันเสาร์ ฉันต้องรีบกลับบ้านไปอาบน้ำแก้ผ้ารอให้หมดฉีดยา”
“ไอ้บ้า”
“ฉันเริ่มก่อนนะภีร์ ผลัดกันคนละวัน เล่นตามกติกานะ ห้ามมอมเหล้าเป้าหมายเด็ดขาด"
“ทำไมแกได้วันไปก่อนทุกทีวะ แล้วเรื่องกติกาไม่ต้องมาพูด เพราะแกคงแหกกฎอีกตามเคย”
“เริ่มตอนนี้เลย”
“เฮ่ยไอ้ก้อนอิฐ เดี๋ยวสิ แล้วใครจ่ายค่าเบียร์”
“แกสิ แฟนรวยขนาดนั้น อย่าขี้เหนียวไปหน่อยเลย เรารึนึกว่าเป็นทหารภูธร ที่ไหนได้”

อิศราเดินตรงไปหา 'เป้าหมาย' อย่างมั่นใจ พอใกล้จะถึงตัวก็แกล้งทำเป็นเซไปกระแทกเก้าอี้สตูลหน้าบาร์เหล้า ชายหนุ่มร่างสูงหันมามองแล้วเบิกตากว้าง อิศราขมวดคิ้วนิดหน่อยเพราะเห็นหน้าตาของเป้าหมายใกล้ๆ แล้วทำให้นึกถึงใครคนหนึ่งขึ้นมาทันทีแต่ก็คิดชื่อไม่ออก
“เจ็บไหมครับ"
“ไม่ครับ แต่ผมรู้สึกปวดหัว นึกว่าหายป่วยแล้ว แต่ทำไมเป็นแบบนี้"
“เป็นอะไรหรือครับ"
“น้ำในหูไม่เท่ากันครับ สงสัยต้องเติมน้ำเข้าไปในตัว"
“ผมว่าคุณไปนั่งพักที่เงียบๆ ดีกว่า ไปห้องข้างในสิครับ เขามีห้องให้คนอยากอยู่เงียบนั่งพักด้วยนะครับ เดี๋ยวผมจะหาน้ำเย็นมาให้ดื่ม"
“หรือครับ มีแบบนี้ด้วยหรือ ไปทางไหนครับ ผมเป็นเบลอๆ ลืิมใส่แว่นมาซะด้วยสิ"
“เดี๋ยวผมพาไป เชิญทางนี้ครับ"
“ขอบคุณครับ อืม คุณหน้าตาคุ้นๆ นะครับ ไม่รู้ว่าเราเคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า"
“ไม่เคยครับ"
“ไม่เคยจริงๆ หรือครับ คุณตอบทันที แสดงว่ามั่นใจมาก"
“ผมเป็นคนความจำดี ถ้าผมเจอคุณมาก่อนผมต้องจำได้แน่ คุณไม่เหมือนใครที่ผมเคยรู้จัก"
“ผมอิศราครับ แล้วคุณ...”
“วฤธครับ วฤธ แสนยานุภาพ ผมทำงานอยู่สถานทูตไทยประจำสวิสเซอร์แลนด์"
“หรือครับ ผมกำลังจะไปเที่ยวยุโรปพอดี"
“ไปสิครับ สิ้นเดือนผมก็กลับไปทำงานแล้ว ผมอยู่เจนีวา อพาร์ทเมนท์อยู่ริมแม่น้ำ วิวสวยมาก ห้องตั้งสามห้อง ถ้าไปกลางเดือนหน้าจะเจอพี่ชายผมพอดี พี่เขาจะพาแฟนไปเที่ยว ไปกันหลายคนสนุกดี ขับรถตระเวนเที่ยวให้ทั่ว"
“เกรงใจ"
“ไม่ต้องเกรงใจครับ ถ้าคุณไม่มั่นใจ อาทิตย์หน้าผมจะแนะนำให้รู้จักพี่ชายผมเอาไว้ จะได้ไม่รู้สึกอึดอัด"
“พี่ชายคุณจะว่าไหมเนี่ย"
“ไม่ว่าหรอกครับ พี่รุฒม์ใจดี"
“พี่คุณชื่ออะไรนะ"
“รุฒม์ครับ วรุฒม์"
“พี่คุณทำงานอะไรครับ สงสัยทำงานกระทรวงต่างประเทศ"
“คนละกระทรวงครับ กระทรวงกลาโหม พี่รุฒม์เป็นทหาร"
“มิน่า...”
“มิน่าอะไรหรือครับ"
“เปล่าๆ ครับ อืมม ผมรู้สึกดีขึ้นมากแล้วล่ะ ขอบคุณมากนะครับที่พามานั่ง คุณใจดีจริงๆ"
“ด้วยความยินดีครับ"
“เอ่อ คือว่า...”
“อะไรหรือครับ"
“ผมอยากขอความช่วยเหลือคุณวฤธ ไม่ทราบว่าจะได้ไหมครับ"
“ได้สิครับ"
“คืออย่างนี้ครับ ผมกับเพื่อนที่ทำงานมาเที่ยวด้วยกันมีเรื่องกันนิดหน่อย เพื่อนห่างๆ กันหรอก ไม่สนิทกัน คบกันก็เพราะประโยชน์เรื่องงาน เขาตามจับผิดผม ไม่รู้เป็นอะไร ผมบอกว่าผมมาเที่ยวกับพี่ชายเพื่อนที่ยิมก็ไม่เชื่อ นี่สงสัยกำลังแอบสอดส่องมองผมอยู่ พอผมแยกกับคุณแล้ว เขาต้องตามสืบแน่ๆ เชียว คุณช่วยผมหน่อยได้ไหมครับ"
“ถ้าไม่เหลือบ่่ากว่าแรงผมก็ยินดีครับ"
“คุณเป็นคนใจดีจริงๆ คืออย่างนี้ครับ คุณอย่าบอกเขานะครับว่าตัวเองเป็นใคร แต่ให้บอกว่าเป็นพี่ชายของคนที่ชื่อจอห์น"
“จะให้ผมโกหกหรือ"
“เปล่าโกหกนะ แค่ไม่ให้บอกว่าคุณคือใครจริงๆ แค่บอกว่าชื่ออะไรก็ได้ เป็นพี่ชายของใครก็ได้เอ๊า แต่ไม่ให้บอกว่าเป็นคุณ คือเป็นแบบว่า คนที่ เอ่อ อืม เอายังงี้ เป็นใครก็ได้แต่ไม่ใช่คุณ"
“ไม่ให้เป็นวฤธ แสนยานุภาพ"
“น้องของผู้พันวรุฒม์"
“คุณรู้ได้ยังไงว่าพี่รุฒม์เป็นนายพัน"
“ผมเดาเอา แหม ถ้าเป็นพี่ชายคุณก็ต้องอายุสามสิบอัพแล้วล่ะ คนอายุสามสิบกว่าก็ต้องเป็นผู้พันแล้วละสิ"
“คุณอิศราเก่งจัง"
“คุณวฤธก็เข้าใจอะไรง่ายดี ผมพูดวกไปวนมาไม่ค่อยรู้เรื่องก็ยังเข้าใจ"
“ไม่ใช่หรอกครับ ผมรู้ว่าคุณกำลังกังวลใจ ก็ต้องพูดเข้าใจค่อนข้างยาก"
“ช่วยผมหน่อยนะครับ เห็นแก่ผมเถอะ นี่ผมเครียดมากเลยนะจนต้องกินยา เป็นโรคน้ำในหูไม่สมดุลกันกับไมเกรนยังไม่พอ ต้องมาเจอเพื่อนแบบนี้อีก เฮ้อ"
“ไม่ต้องห่วงครับ ผมยินดีช่วย"
“ขอบคุณครับ คราวนี้ล่ะ เพื่อนร่วมงานผู้ร้ายกาจของผมจะได้รับบทเรียนซะบ้าง"
**********

alterlyx

  • บุคคลทั่วไป
บร๊ะจ้าวว ... ผู้พันน่าร๊ากกกก  :impress2:
ทำไมวันนี้ ผู้พันน่ารักได้ขนาดนี้น๊า

คุณนายสามารถเขียนให้เราไม่ชอบผู้พัน และ ปลื้มผู้พัน แบบสลับตอนเว้นตอนเลยนะเนี่ย
เดี๋ยวก็น่ารัก เดี๋ยวก็น่าหมันไส้ น่ารัก น่าหมันไส้ ๆ ๆ อยู่เงี้ยะตลอด ... สับสนเหลือเกิน
+ให้อีก 1 ... จากที่ยังค้างไว้วันก่อนค่ะ อิอิ

แต่บทส่งท้ายเนี่ย ... เอ่อ ... กลัวภีร์ถูกนายทหารใหญ่ทำโทษจังเลยน๊า  :haun5:

 o13 จบแบบนี้ น่ารักที่สุด  

ออฟไลน์ Ak@tsuKII

  • Honeymoon
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3845
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-3
ขอเม้นท์ ตอน บทสุดท้ายก่อนนะคะ  

อืมม ยังไม่ชอบวรุตอยู่ดี  

คือจะชอบมากกว่านี้  ถ้าวรุตพยายามดิ้นรนกว่านี้

เพื่อให้ภีร์ใจอ่อน ไม่ใช่พอภีร์ปากแข็งก็ล้าถอยแล้ว

จริงๆ ไม่ใช่ว่าภีร์ปากแข็งใจแข็งอะไรมากมาย  

แต่วรุตไม่พยายามต่างหาก  กลับกันกับวิษณุเลยยังดูพยายามชนะใจอิศรามากกว่า

คือไม่ต้องถึงที่วิษณุทำก็ได้แต่ก็นะ พยายามนิดหน่อยก็ยังดี

ไม่เห็นว่าวิธีที่จัดการคนปากแข็งใจแข็งของวรุตมันจะได้ผลตรงไหน

มีแต่ทำให้อะไรเลวร้ายลง  

แล้วเนี่ย ถ้าวิษณุกะอิศราไม่วางแผนช่วย ก็คงจะนิ่งเฉยไม่ทำอะไรสินะ

 คอยว่าภีร์จะทนคิดถึงตัวเองไม่ได้ไปเอง ..... ถ้าภีร์ไม่กลับมาแม่เสรียงก็คงจะนิ่งเฉยต่อไปใช่ไหม

และคงไม่มีโอกาสง้อ

นี่ขนาดมาง้อ ยังไม่เลิกเก๊กอีก  :z6:


ส่วนภีร์ ไม่น่าใจอ่อนง่ายๆเลย  มันน่าจะให้วรุตดิ้นรนอะไรบ้าง   :seng2ped:

แอร๊ยยยยยยยยยยยย  ตอนนี้ขัดใจ  อิศราของเจ๊หายยยยยยยยยยศีรษะไปหนายยยยยยยยยยย   :serius2:

อดฮาเลย   :pigha2:

หนึ่งบวกค่ะ  ขอบคุณที่มาต่อนะคะ ชอบๆ (อิศรา....อารมณ์ส่วนตัวจริงๆเลยตรู  กร๊ากกกกกกก)


เด๋วมาเม้นตอนล่าสุดที่โพสต์ค่ะ (ยังไม่ิ่อ่าน)


edit


อิศราเจ้าเล่ห์จริงๆ  ภีร์งานเข้าแล้ว 


นี่ถ้าสามีรู้ว่าแอบพากันเล่นเกมส์ โดนฉีกอก แน่ๆ



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-10-2009 01:13:01 โดย Ak@tsuKII »

mecon

  • บุคคลทั่วไป
กรีี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
จบแบบไม่ค้างๆคาๆ เสร็จแบบเสร็จสมบูรณ์จริงๆ
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
คุณภีร์ชอบโหดๆก็ไม่บอกนะคะรู้แบบนี้จับทรมานให้จุกถึงคอหอยก็ดีนะ
จะได้สารภาพมาให้หมดปากหมดคำแต่สถานที่สารภาพเนี่ย
เหมาะกับการส่งตัวมากๆ55555 ผู้พันวรุตม์ร้ายจริงๆนะคะ ตัวพ่อมากๆ
แบบนี้สิถึงจะคุมอยู่หมัดอ่ะอิอิ

เหตการณ์ในอนาคตนั่นจะฮาไม่ไหนคะท่านผู้พันแต่ละคน กลายเป็น ส.ห.ส่วนตัวของภรรเมียตัวเองไปล่ะ
เยี่ยมจริงๆ
“เอ ทำไมไม่กลับมาพร้อมกันวะ งั้นเอาหกวัน ผู้พันวิษณุกลับคืนวันเสาร์ ฉันต้องรีบกลับบ้านไปอาบน้ำแก้ผ้ารอให้หมอฉีดยา”
>>แม่อิศราของคนอ่านยังแฮดไม่เปลี่ยนเลยนะคะ สามีไม่ราชการก็ออกเริงราตรี พอสามีจะกลับนอนอ่อยรอพร้อมทำราชการเลยนะคะ
เปรี้ยวไม่มีใครเกิน

ปล. จบแบบนี้สิคะ คนอ่านรักตายเลย เคลียร์มากๆๆเอาไป+1 นะคะพร้อมยกดาวให้ร้อยดวงเลยคะ

ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
มาแปะไว้ก่อนง่วงนอนแล้วเดี๋ยวค่อยมาอ่านครับ

patz

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องนี้จบได้เคลียร์ดีครับ อิอิ

ส่วนเรื่องที่อิศราจะแกล้งภีรวัส ผมว่าคนฉลาดๆอย่างภีรวัสคงจับจุดผิดสังเกตได้แหละ
แต่ที่แน่ๆ เรื่องในผับคืนนี้ ไม่รอดหูรอดตาของ 2 ผู้พันไปได้หรอก หึหึ  :z1:

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
เพื่อนรักหักเลี่ยม ( รัก ) โหดแล้วแบบนี้

บ้านไม่แตกให้รู้ไป หรือว่า พี่นายจะให้เป็นอื่น  :z2:

+1 ให้เป็นปกติครับ

ออฟไลน์ astral

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-5
พี่นายยยย วางระเบิดกันนี่นา อยากเห็นหน้าผู้พันเวลากลับมาจังเลนอ่ะ   :laugh:

ชอบเรื่องนี้จัง 555555555 อ่านแล้วขำกลิ้ง

ออฟไลน์ กุหลาบเดียวดาย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 812
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
ผู้การวรุตม์จูบได้ชัดเจนมาก  ขอบคุณมาก
คุณนายเก่งมาก บทส่งท้ายอย่าลืมมาต่อนะ พล็อตเรื่องคุณนายนี่สุดยอดทุกบททุกตอน คิดได้ไง
เป็นกำลังใจให้กับการทำวิทยานิพนธ์ด้วยนะ

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณนะครับที่ติดตามอ่านมาจนจบ เรื่องนี้ไม่ค่อยได้พิถีพิถันเท่าไหร่เพราะเขียนตอนเซ็งเบื่อๆ ขณะที่ทำวิดยานิพน คือพอทำงานวิชาการจนเบื่อจัดแล้วก็พักยกด้วยการหันมาเขียนนิยาย นึกว่าจะไม่จบซะแล้ว ไม่อยากทิ้งไปกลางคันก็เลยเอาเรื่องนี้ให้จบซะเลย เพราะรักผู้อ่านมาก ก็หวังว่าจะมีคนคิดถึงผมบ้างนะครับ ถ้าคิดถึงกันก็ไปทักทายกันที่เว็บผมก็แล้วกันเนอะ ช่วงนี้คงต้องขอเวลาไปเอาเรื่องเรี่ยนให้จบ แต่บางครั้งบางคราวก็จะเข้ามาสวัสดีทักทายพอให้หายคิดถึงกัน
ขอบคุณทุกท่านที่ลงคอมเมนท์นะครับ คนที่ไม่ลงก็ขอบคุณครับ แค่ชายตามองหรืออ่านนิยายที่ผมโพสก็พอใจแล้ว
ขอบคุณทุกคนที่กดคะแนนให้ และขอบคุณที่ไปโหวตรางวัลเซ็งเป็ดให้นะครับ
ขอบคุณที่อุตส่าห์ซื้อหนังสือ คดีรัก ที่พิพม์ไปตั้งแต่ต้นปีก็ยังมีคนซื้ออีก  :z1:
ขอบคุณบอร์ดเซ็งเป็ดที่ให้โอกาสและพื้นที่ในการแบ่งปันเรื่องราวนิยายให้อ่านนะครับ

เรื่องนี้ไม่มีตอนพิเศษอะไรอีกแล้วนะ เพราะคิดไม่ออก ผู้พันวรุฒม์ได้อึ๊บภีรวัสแล้วมันก็ต้องจบละเนอะ เรื่องต่อไป กำลังชั่งน้ำหนักอยู่ว่าจะเป็นเรื่องที่ออกแนว จริงจัง หรือ โรแมนติกเพ้อฝัน
มีหลายเรื่องเขียนทิ้งเอาไว้สามสี่บทตั้งแต่กลางปีที่แล้วครับ ไม่รู้จะถึงเวลาเหมาะหยิบเรื่องไหนขึ้นมาเขียนต่อให้จบได้เมื่อไหร่

แต่มีตัวอย่างบางตอนนะ ถือซะว่าเป็นหนังตัวอย่างโปรแกรมหน้า
ก่อนไปก็ขอบคุณนะครับ ขอบคุณ

 :L1: เรื่องที่หนึ่ง ออกแนวจริงจัง

หมอชาลีเดินเอื่อยๆ ไปตามทางเดินของโรงพยาบาล เลิกงานแล้วแต่เขายังไม่กลับบ้านเช่นเคย วันนี้เขาตั้งใจว่าจะชวนเอกไปหาอะไรทานที่ร้านอาหารนอกเมือง หมอหนุ่มหยุดหยอดเหรียญตู้เครื่องดื่ม กดซื้อแป็บซี่แม็กซ์หนึ่งกระป๋อง แล้วเดินตรงไปยั้งวอร์ดเด็ก แต่สองเท้าชะงักทันใดเมื่อเห็นชายหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งเดินเข้าไปในวอร์ดก่อนหน้าเขาเพียงไม่กี่อึดใจ
...กัณต์...เขามาทำอะไรที่นี่...ที่วอร์ดเด็ก...หรือว่า...
นายตำรวจหยุดหน้าห้องของเอกเพื่อนของเขาชั่วขณะ ก่อนที่ประตูห้องจะเปิดออก เอกเดินออกมา ส่งยิ้มกว้างให้ วินาทีนั้นชาลีรู้ได้ทันทีว่า กัณต์มาจีบเพื่อนของเขา
...เป็นไปได้ยังไง...กัณต์รู้จักเอกตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมเขาไม่เคยรู้เรื่องเลย...
ชาลีรีบเดินตรงเข้าไป ตั้งใจว่จะต้องรู้ความจริงให้ได้ สองอาทิตย์ที่แล้วเขาตัดสัมพันธ์กับกัณต์ นับแต่วันนั้น กัณต์ก็หายหน้าไป ชาลีคิดในใจว่าหากสองคนนี้จะรู้จักกัน ก็อาจเป็นตอนที่เขาไปดูงานที่นิวซีแลนด์เมื่อสิบวันที่ผ่านมา
"เอก ตกลงจะไปทานข้าวด้วยกันไหม" ชาลีส่งเสียงไปก่อนที่จะเดินถึงตัวเพื่อนเขา กับนายตำรวจหนุ่มที่เขาปฏิเสธรักไปหยกๆ
"ชาลี มาพอดีเลย" เอกยิ้มกว้างให้เพื่อน แล้วหันไปหากัณต์ที่หันหน้ามามองชาลีช้าๆ "สารวัตรครับ นี่ชาลีเพื่อนผม"
กัณต์ยิ้มบางๆ ก้มศรีษะให้เล็กน้อยพร้อมพูดว่า "ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณหมอชาลี"
...ยินดีที่ได้รู้จักหรือ...บ้าสิ...รู้จักกันมาตั้งหลายเดือน ยังมาตีหน้าซื่อทำความรู้จัก...
...จะมาไม้ไหนกันนี่...ดี...หากกัณต์อยากจะเล่นเกม เขาก็จะเล่นเกมด้วยเหมือนกัน...
...แต่เกมของเขา ไม่ใช่เกมเดียวกันกับเกมของตำรวจเจ้าชู้อวดดีคนนี้หรอก...
"เรารู้จักกันแล้วไม่ใช่หรือครับสารวัตร จำผมไม่ได้หรือ ชาลีที่ช่วยผู้กองเป็นพยานคดีทำร้ายร่างกายพลเมืองดีไงครับ ลืมง่ายจังเลยนะ" ชาลียิ้ม พูดเนิบๆ ไม่ได้แสดงอาการน้อยใจที่กัณต์จำไม่ได้แต่อย่างใด
กัณต์ชะงักไปชั่วครู่ นึกไม่ถึงว่าชาลีจะไม่เล่นด้วย "อ้อ...คุณหมอนั่นเอง โลกกลมจังเลยนะครับ ไม่นึกว่าจะเจออีกครั้ง"
...เอาสิ เขาไม่ยอมแพ้หรอก หากชาลีคิดจะฉีกหน้าเขา เขาก็จะบอกเสียเลยว่าเคยมีอะไรกันแล้ว ดูสิจะตีหน้าอย่างไรต่อหน้าเพื่อนสนิท...
"ครับ กลมจริงๆ ไม่นึกว่าสารวัตรจะรู้จักกับเอก" ชาลีหันไปยิ้มให้เพื่อน
"เรารู้จักกับสารวัตรอาทิตย์ที่แล้วนี่เอง ตอนชาลีไปนิวซีแลนด์ สารวัตรพาหลานมาหาหมอที่โรงพยาบาล
"ไม่ยักรู้ว่าสารวัตรมีหลาน" ชาลียิ้มบางให้กัณต์
"ผมก็ไม่ยักรู้ว่าคุณเอกเป็นเพื่อนคุณชาลี" กัณต์ยิ้มมุมปาก "ถ้ายังงั้น ผมขอเชิญคุณชาลีทานข้าวด้วยกันนะครับ หวังว่าคุณเอกคงไม่รังเกียจ" ประโยคหลัง หันมายิ้มนุ่มนวลให้หมอเอก
"ไม่ครับไม่" เอกรีบตอบ "นะชาลี วันนี้สารวัตรจะพาไปที่..."
"เราก็จะมาชวนเอกไปทานข้าวเหมือนกัน" ชาลีรีบแทรก "แต่ไม่นึกว่าจะเจอคนอื่น ตั้งใจว่าจะไปทานกับเพื่อนสนิทกันสองคน แต่ถ้าเอกจะไปทานข้าวกับสารวัตรแล้วก็ไปเถอะ เราต้องขอตัว" นายแพทย์หนุ่มจงใจเน้นเสียงให้นายตำรวจหนุ่มรู้สึกว่าเป็นคนอื่น
"ไปด้วยกันเถอะชาลี" เอกคะยั้นคะยอ
ชาลีลังเล ตอนแรกตั้งใจว่าจะเข้ามาขวางคอสองคนนี้ แต่พอถูกชวนให้ไปทานข้าวด้วยกันเขากลับรู้สึกไม่อยากไปด้วย ใจหนึ่งห่วงเพื่อนกลัวว่าจะโดนกัณต์หรอกให้รักแล้วทิ้ง ใจหนึ่งก็รู้สึกฉุนกัณต์ที่เพิ่งสารภาพรักและถูกเขาทิ้งไปหยกๆ แต่กลับทำท่าราวไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ตอนแรกเขานึกว่ากัณต์จะเสียใจ ที่ไหนได้ ไม่ถึงสองอาทิตย์ กัณต์ก็จีบคนใหม่หน้าตาเฉย หนำซ้ำ จีบเพื่อนสนิทของเขาเสียด้วย และที่แย่ที่สุดคือทำท่าว่าไม่เคยรู้จักเขามาก่อน
...เกลียดจริงๆ ยิ่งมาทำหน้ายิ้มๆ ยิ่งรู้สึกหมั่นใส้ คิดว่าตาตัวเองสวยนักหรือไง มายืนยิ้มทำตาระยิบระยับอยู่ได้ อยากให้มีเข็มฉีดยาอยู่ใกล้ๆ จังเลย จะจับแทงให้ตาบอด...
"ถ้าคุณหมอชาลีไม่อยากไปก็อย่าบังคับเลยครับ คุณหมอคงอยากให้เรามีเวลาเป็นส่วนตัว" กัณต์พูดเสียงนุ่ม
...จะมากเกินไปแล้วนะ พูดกันหน้าไม่อายเลยหรือนี่...
เอกยิ้มเขิน ไม่นึกว่ากัณต์จะพูดตรงไปตรงมาเร็วเช่นนี้ ที่สำคัญ พูดต่อหน้าเพื่อนของเขาเสียด้วย
"ใช่ เอกไปทานข้าวให้อร่อยเถอะ เราจะไปทานกับหมอเชน เขาชวนเรามาหลายครั้งแล้ว" ชาลีอุปโลกชื่อหมอเชนขึ้นมา เอกขมวดคิ้วทำหน้าสงสัยเพราะไม่รู้จักหมอเชน ชาลีไม่รอให้เพื่อนถาม กล่าวอำลาแล้วหันหลังกลับเดินออกจากวอร์ดเด็กโดยเร็ว
...เป็นไงล่ะ...ให้รู้ซะบ้างว่าชาลีไม่ใช่คนที่จะมาข่มกันได้ง่าย...
ชาลีคิดในใจ หันหน้ากลับไปยิ้มให้ทั้งสองอีกครั้ง วินาทีที่เขาเอ่ยชื่อหมอเชน เขาเห็นมุมปากของกัณต์กระตุก...กระตุกอย่างไม่ชอบใจ...
...กัณต์คิดจะทำอะไร มาจีบเอกเพื่อจะแกล้งให้เขาหึง หรือต้องการแก้แค้นเขา หรือมีจุดประสงค์อะไรกันแน่
แต่อย่างไรก็ตาม เขาไม่อาจยอมให้นายตำรวจหนุ่มเจ้าสำราญคนนี้มาทำให้เพื่อนเขาเสียใจเด็ดขาด เอกเป็นคนดีเกินไปที่จะมาเป็นเครื่องมือของกัณต์เพื่อแก้แค้นเขา หากนั่นเป็นสิ่งที่กัณต์กำลังคิดอยู่ตอนนี้
...คืนนี้ล่ะเขาจะถามกัณต์ให้รู้เรื่อง
 
:L2: เรื่องที่สอง ก็ออกแนว จริงจัง (มั๊ง)

เช้าวันถัดมา อาวุธไปหาธงรบถึงที่ทำงาน ทันทีที่เห็นอาวุธ ธงรบก็ทำหน้าบึ้ง จ้องตาอาวุธราวจะกินเลือดกินเนื้อ และถามเสียงห้วน
“เอ็งมาทำไม"
“ธงรบ เรามาคุยดี"
“ข้าไม่มีอะไรจะคุยกับเอ็ง" ธงรบทำหน้าเย็นชา เมินไปมองผนังห้อง
อาวุธถอนหายใจเบาๆ แล้วพูดว่า "ก็ได้ เราจะได้กลับไปบอกอาทิตย์ว่าธงรบไม่ต้องการคุย จะได้เปลี่ยนใจรับข้อเสนอของอาทิตย์โดยไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจ"
ธงรบหันขวับมาหาอาวุธทันที "ข้อเสนออะไร บอกมาเดี๋ยวนี้"
“อยากคุยแล้วหรือธงรบ" อาวุธเสียงเย็น ใบหน้าเรียบนิ่งเช่นเคย
“เอ็งอย่ามาท่ามากเลยวุธ จะพูดอะไรก็พูดมา"
“อาทิตย์มาขอเป็นแฟนกับเรา" อาวุธพูดเนิบนาบ "แบบจริงจัง ย้ายไปอยู่ด้วยกัน ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน"
ธงรบช๊อค รู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่าลงมากลางศีรษะ
...อาทิตย์ ทำไม อาทิตย์คิดอะไรแบบนี้ โหดร้ายจริงๆ...
“แต่เรายังเห็นว่านายกับเราเป็นเพื่อนกัน เราทำแบบนั้นไม่ได้หรอก ก็เลยมาคุยกับนาย"
“แกจะเอายังไง"
“เปล่าธงรบ เราไม่ยังไง นายต่างหาก จะเอายังไง"
“อย่ามาพูดวกไปวนมาใช้ภาษาซับซ้อน ข้าไม่เข้าใจ พูดมาตรงๆ เลยดีกว่า จะพูดแบบนี้ไปพูดกับคชานนท์โน่น" ธงรบกระแทกเสียง โบกมืออย่างฉุนเฉียว
“เราหมายความอย่างที่พูด มาตกลงกันไหมธงรบ เราจะถอยฉากออกไป ให้นายง้ออาทิตย์ได้สบายๆ นายมีเวลาสามเดือน ถ้าสามเดือนอาทิตย์ยังไม่ยอมคืนดี เราจะตกลงเป็นแฟนกับอาทิตย์ และนายก็ต้องตัดใจ เลิกกับอาทิตย์โดยเด็ดขาด" อาวุธพูดช้าๆ ชัดถ้อยชัดคำ น้ำเสียงราบเรียบ
...สามเดือน ทำไมต้องสามเดือน ตอนนั้นอธิคมก็โดนยื่นคำขาดสามเดือน คราวนี้เขาก็เจอเหมือนกัน ทำไมใครๆ ก็ชอบกำหนดเวลาสามเดือนกันนัก...
“แต่อาทิตย์บอกว่าไม่อยากเห็นหน้าข้าเป็นเวลาสามเดือน ห้ามเข้าใกล้รัศมีหนึ่งกิโลเมตร" ธงรบพึมพำ นัยน์ตาเหม่อเลย
อาวุธเบือนหน้าไปกลั้นยิ้ม เห็นทางชนะแบบง่ายๆ ลองธงรบเป็นขนาดนี้ เขากับอาทิตย์แทบไม่ต้องพยายามอะไรเลย แต่เพื่อความแน่ใจ ธงรบต้องโดนหนักๆ จะได้กลับตัวกลับใจอย่างแท้จริง
“เราจะคุยกับอาทิตย์ให้ ว่าให้ยกเลิกกฏอันนี้ ให้โอกาสนายพิสูจน์ตัวเอง นายจะเข้าบ้านเราเมื่อไหร่ก็ได้"
“แล้วทำไมจะต้องเข้าบ้านแก ให้อาทิตย์ออกจากบ้านแกสิวะ" ธงรบเสียงห้วน
“ตามใจ ถ้าทำได้ก็ตามใจ" อาวุธยักไหล่ โยนกุญแจลงบนโต๊ะทำงานของธงรบ "ระหว่างนี้เราจะไปอยู่คอนโด"
อาวุธหันหลังกลับ แต่ก่อนจะถึงประตูห้องทำงานก็หันมามองธงรบอีกครั้งแล้วพูดว่า "แต่ในระหว่างนี้เราไม่สัญญานะว่าจะไม่เจออาทิตย์ เราจะแยกตัวออกไปก็จริงอยู่ แต่ถ้าอาทิตย์ตามเรา ก็ช่วยไม่ได้ แต่ขอสัญญาว่าจะอยู่เฉยๆ จะเลี่ยงให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ อย่างที่บอก เราจะถอย จะอยู่เฉยๆ จะไม่ทำอะไร แต่จำไว้นะธงรบ สามเดือนถ้านายยังทำไม่สำเร็จ เราจะจีบอาทิตย์ทันที และทำทุกวิถีทางที่จะเป็นแฟนกับอาทิตย์แบบจริงจังและใช้ชีวิตร่วมกัน ซึ่งเราคิดว่าคงไม่ยาก ธงรบ สามเดือนเท่านั้น เราให้เวลานายสามเดือน"
...สามเดือนจะไปพออะไรวะ แค่สามเดือนเท่านั้นเอง เวลานิดเดียวในการงอนง้ออาทิตย์ ไอ้คมยังทำกับคุณนุไม่สำเร็จเลย นี่ถ้าไม่โดนยิงปางตายไอ้คมก็ไม่มีทางได้คืนดีกับคุณนุภายในสามเดือนหรอก อาทิตย์ร้ายกว่าคุณนุตั้งเยอะ ท่าทางใจแข็งเด็ดเดี่ยวมากกว่านัก สามเดือนจะไปทำอะไรได้...
...สามเดือนอันยาวนานของอธิคม กลับกลายมาเป็นสามเดือนอันแสนสั้นของธงรบ...
ธงรบนิ่งอึ้งเมื่อนึกถึงเวลาเท่ากันแต่กลับทำให้รู้สึกต่างไปลิบลับ
...ต้องห่างอาทิตย์สามเดือนมันนานต่างกันกับมีเวลาสามเดือนที่ต้องง้อขอคืนดีให้สำเร็จ ที่แย่กว่านั้นมีอาวุธหายใจรดต้นคออยู่ ครบสามเดือนเมื่อไหร่ หากเขาทำไม่สำเร็จ อาวุธจะโดดลงมาแย่งอาทิตย์ทันที...
...อนุภาพที่รักกับอธิคมนักหนา เจออาวุธเข้าก็เขวไปไม่น้อย แล้วที่แยกกับอธิคมก็ไม่ใช่แบบที่อาทิตย์เห็นเขากับภานุวัฒน์อยู่บนเตียงด้วยกัน งานนี้หืดขึ้นคอแท้ๆ เชียว รู้สึกเหนื่อยตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มต้นด้วยซ้ำ...

ธงรบมาหยุดยืนหน้าประตูบ้านของอาวุธ มือกำกุญแจบ้านของเพื่อนไว้แน่น ในใจคิดว่าจะไขกุญแจเปิดประตูเข้าไปเลยหรือเคาะประตูดี
...เฮ้อ ทำไมมันลำบากใจแบบนี้นะ พอเห็นหน้าบึ้งๆ ของอาทิตย์แล้วจะทำยังไงดี...
...เอาวะ ไหนๆ ก็มาแล้ว เป็นไงเป็นกัน วันนี้เขาจะเอาอาทิตย์ออกไปจากบ้านของอาวุธให้ได้...
ธงรบตัดสินใจเสียบกุญแจ ปลดล๊อคเปิดประตูบ้านของอาวุธแล้วเดินเข้าไปเพราะคิดว่า หากกดกริ่ง อาทิตย์คงจะไม่ยอมมาเปิดประตูให้
บ้านของอาวุธสะอาดเรียบร้อยมาก ต่างจากบ้านเขาราวฟ้ากับดิน ในใจก็คิดว่า นี่ก็คงเป็นข้อเปรียบเทียบแรกๆ ที่เห็นได้ชัด ถ้าอาทิตย์เลือก ก็คงเลือกอาวุธกระมัง
...อาวุธทำกับข้าวให้อาทิตย์กินด้วย อาวุธทำกับข้าวเป็น ส่วนเขานั่นหรือ เปิดอาหารกล่องแช่แข็งอุ่นไมโครเวฟยังไม่สุกเลย กินแทบไม่ลง ต้มมาม่าก็เละ ชงกาแฟก็หกเลอะเทอะ...
...เฮ้อ เรามันมีดีตรงไหนวะ สงสัยช่ำชองเรื่องบนเตียงอย่างเดียว...
“อาทิตย์"
ธงรบชะงัก หยุดความคิดของตัวเองไว้ชั่วขณะเมื่อเห็นตี๋หนุ่มสุดที่รักของเขาเดินออกมาจากห้องนอน นุ่งกางเกงขาสั้นสีขาวและเสื้อกล้ามสีดำ ในมือถือโทรศัพท์กำลังกดหมายเลข แต่ครั้นเงยหน้าเห็นธงรบ ชายหนุ่มก็พับโทรศัพท์เก็บเอาไว้ เมินหน้าออกไปมองด้านข้าง เดินหนีออกไปที่ระเบียงด้านหลังบ้าน
“อาทิตย์ ฟังพี่ก่อนสิ" ธงรบรีบเดินตาม
“ผมบอกแล้วว่าห้ามมาให้เห็นหน้า ห้ามเข้าใกล้ในรัศมีหนึ่งกิโลเมตร"
“อ้าว ไหนไอ้วุธบอกว่า...” ธงรบทำหน้าเหรอหรา
...ไอ้วุธนะไอ้วุธ ไหนบอกว่าจะคุยกับอาทิตย์ให้ยกเลิกมาตรการทำโทษชั่วคราว แกนะแก...
“สารวัตรกลับไปซะเถอะ ผมไม่อยากคุย" อาทิตย์เสียงเย็น ยืนกอดอกอยู่ริมระเบียง ตามองลงไปยังแม่น้ำเจ้าพระยาที่กำลังไหลเอื่อยๆ
“แต่พี่อยากคุย อาทิตย์อย่าโกรธพี่เลยนะ มาง้อแล้ว" ธงรบเสียงอ่อน
“ง้อเรื่องอะไรครับ"
“ก็เรื่อง...” ธงรบตะกุกตะกัก "เรื่องที่...”

เรื่องที่สาม _ เรื่องแล่าออกแนวหวานปนเศร้า

จะเล่าตอนที่เจอเดียวให้ฟัง ตอนนั้นมันเป็นเรื่องไม่คาดฝัน ผมคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องบังเอิญ แต่เดียวบอกว่าเป็นพรหมลิขิต เป็นโชคชะตา เป็นบุพเพสันนิวาส สารพัดจะหาเหตุผลมาพูด แต่ผมก็ยังย้ำคำเดิมว่า มันก็เรื่องรักใคร่ธรรมดาๆ ผมอยากลองมีประสบการณ์การมีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเขาซักครั้งก็แค่นั้น
เย็นวันนั้นอากาศร้อนมาก ผมสวมเสื้อกล้ามสีขาว กางเกงขาสั้นลายพรางสีเขียวเข้มตัวเก่ง เพิ่งตัดผมใหม่ๆ หัวเกรียนแบบสกินเฮดอย่างเท่
...เท่และน่ากิน อย่างที่โอ๊ตเพื่อนคู่หูของผมบอก
แต่เดียวนี่สิมาแปลก สวมกางเกงยีนส์รัดรูป มีรอยปะพอน่าดู แต่ที่ดึงดูดความสนใจผมคือบั้นท้ายงอนๆ ที่ลอยเด่นอยู่ใกล้ๆ เพราะกำลังก้มลงเก็บผลไม้หลากชนิดที่หล่นกระจายลงบนพื้น ผมชะงัก หยุดตัวเองทัน เกือบจะชนก้นแน่นๆ ของเดียวซะแล้ว
ที่จริงก็อยากจะช่วยเดียวเก็บอยู่หรอก แต่ตอนนั้นกำลังมองเพลิน เลยลืมทำหน้าที่พลเมืองดี ไอ้โอ๊ตวิ่งมาจากไหนก็ไม่รู้ เสนอหน้าช่วยเหลือเดียวจนหน้าหมั่นใส้
“ไอ้ต้น ยืนเซ่ออยู่ทำไม มาช่วยกันหน่อยสิวะ ไม่มีน้ำใจเลยนะเอ็ง” ไอ้ข้าวโอ๊ตปากไม่ดี
ผมถลึงตาใส่เพื่อนแล้วก้มลงช่วยเก็บของ เดียวขอบคุณเบาๆ แล้วหันไปตอบคำถามไอ้โอ๊ตที่เอาแต่ถามซอกถามแซกจนผมอยากต่อยปากมันซักหมัดให้หยุดพูดไปเลย เดียวบอกว่าซื้อผลไม้ไปให้คนที่มาร่วมงานปาร์ตี้ริมสระกิน
“ซื้อเยอะขนาดนี้คงเหลือบานเบอะ อยากหาคนไปช่วยกินไหมครับ” “ไอ้โอ๊ตออกลายเจ้าชู้
“ได้เลยครับ แต่ว่าไม่ใช่งานปาร์ตี้อย่างที่คุณคิดนะครับ แค่มีนั่งคุยกันสนุกๆ เล่นเกมส์ แล้วก็ทานของว่าง ใครอยากกระโดดลงสระก็ตามสบาย”
“ถ้าไม่รังเกียจ ผมไปแน่” ไอ้โอ๊ตพูดแล้วหันมาหาผม “ว่าไงต้น ไปด้วยกันหรือเปล่า”
ผมทำท่าคิด “อืม ขอคิดดูก่อน”
“จะคิดทำไมวะ ปาร์ตี้ฟรีๆ มีของกิน แล้วเจ้าของงานเขาก็เชิญแล้ว” ไอ้เพื่อนขี้หลีของผมทำท่าอยากไปร่วมงานปาร์ตี้ริมสระจนออกนอกหน้า

ผมหัวเราะแทบกรามค้างเมื่อเราไปถึงงาน "ปารตี้ริมสระ" ไอ้โอ๊ตยืนตะลึงไม่เชื่อสายตา มองมนุษย์เพศชายตัวเล็กๆ อายุ 5-10 ปีใส่กางเกงขาสั้นเล่นน้ำกันอยู่เต็มสระ มีเดียวกับคนอีกห้าหกคอยยืนดูแลอยู่รอบๆ
"เป็นไงล่ะเพื่อน ปาร์ตี้ริมสระ อยากโดดลงไปเล่นน้ำกับเขาไหมล่ะ" ผมเหน็บแนม แล้วหัวเราะเสียงดัง ที่จริงผมก็คาดหวังไม่ต่างกันกับเพื่อนหรอกครับ อันนี้ต้องยอมรับ เห็นก้นเดียวตอนก้มลงเก็บของแล้วก็อยากจะเห็นตอนที่ใส่กางเกงว่ายน้ำเปียกๆ แต่คนที่ "กระสัน" อยากจะมางานปาร์ตี้ริมสระจนออกนอกหน้าคือไอ้โอ๊ต ผมเลยได้ที ล้อมันเล่นซะเลย
"ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้วะ" ไอ้โอ๊ตพึมพำเหมือนคนละเมอ
สรุปแล้วปารตี้ริมสระวันนั้นเป็นปาร์ตี้ของเด็กกำพร้า เดียวกับเพื่อนลงทุนเช่าสระว่ายน้ำของศูนย์กีฬาเพื่อพาเด็กมาว่ายน้ำ วันนั้นผมกับโอ๊ตเลยต้องกลายมา "พี่แผนกแบกหาม" ไปโดยปริยาย เพราะบรรดาพี่เลี้ยงทีมงานของเดียวต่างก็รูปร่างบอบบางกันทั้งนั้น มีแต่เดียวนั่นล่ะที่ "อึ๋ม" กว่าคนอื่น
...คนอะไร ก้นสวยจริงๆ
เฮ้อ...
กิจกรรมเสร็จเอาเมื่อตอนบ่างสี่โมงเย็น เดี๋ยวพาเด็กขึ้นรถสองแถวเตรียมตัวกลับ ชวนผมกับโอ๊ตไปด้วย แต่เพื่อนของผมสงสัยกลัวว่าจะต้องไปช่วยดูแลเด็กที่สถานเลี้ยงกำพร้าเลยหาเหตุผลต่างๆ นาๆ มาอ้าง
"ถ้าเสาร์หน้าว่างก็มา park party ด้วยกันนะครับ" เดี่ยวชวนก่อนส่งสัญญาณให้รถเคลื่อนตัว
เราสองคนยืนโบกมือให้เด็กๆ จนรถสมาชิก pool party ลับสายตา ไอ้โอ๊ตถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเดินคอตกไปที่รถ โดยมีผมคอยล้อเลียน
"สงสัยจริงๆ ว่ะว่า park party นี่มันจะเป็นยังไง แล้วเสาร์ต่อไปจะเป็น nude party หรือเปล่าก็ไม่รู้ เสาร์หน้าเราไปดูกันนะเพื่อน"
"แกไปคนเดียวเถอะ โถ่ พูล ปาร์ตี้ นึกว่าจะได้เห็นก้นสวยๆ ที่ไหนได้" ไอ้โอ๊ตเบ้ปาก
"ทำหน้าเหมือนจะตาย แล้วนี่แกขับรถได้หรือเปล่า" ผมล้อไม่หยุด รู้สึกขำเพื่อนเป็นที่สุด ทั้งที่จริงผมก็คิดเหมือนไอ้โอ๊ตมันเหมือนกัน
...วันนั้นล่ะ เป็นวันแรกที่ผมเริ่มสนใจเดียว ผมตั้งเป้าหมายไว้ว่า ยังไงๆ ผมก็ต้องเห็นก้นสวยๆ ของเดียวให้ได้...
...และต้อง "ได้" ด้วย...
 


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






katawoot

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องที่สี่ _ แนวฆาตรกรรมสื่อรัก

ธาวินโยนปากกาลงบนโต๊ะอย่างหงุดหงิดแล้วหันไปมองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ยังไม่ทันจะพูดอะไร นายตำรวจที่พาเขาเข้ามาให้ห้องชันสูตรศพก็รีบพูดขึ้นมาว่า "ผมบอกคุณแล้ว"
"ผู้กองยื้อเวลาต่ออีกได้ไหมครับ ให้เวลาผมแค่นี้ไม่พอหรอก" ธาวินถามทั้งๆ ที่มีผ้าคุมจมูกอยู่
"เราไม่มีเวลามากนัก เบื้องบนเร่งมา"
"ต้องแถลงข่าวในวันสองวันนี้ให้ได้เลยหรือไง" ธาวินกระแทกเสียง "แล้วถ้ายังงั้นตามตัวผมมาทำไมก็ไม่รู้ ให้ใครชันสูตรแล้วก็เขียนรายงานไปเลยสิว่าถูกแทงเสียชีวิต"
"ฆ่าตัวตาย" อีกฝ่ายแทรก
"ฆ่าตัวตายในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรม" ธาวินเติมคำพูดของนายตำรวจ "เพราะทนไม่ได้ที่ตัวเองกำลังดังถึงขีดสุด และได้เล่นหนังฮอลลีวู้ด บทเด่นประกบกับดาราดังระดับโลก"
"หมอครับ ฟังผมก่อน ผมคิดว่า..."
"ผู้กองนั่นล่ะต้องฟังผม" ธาวินดึงผ้าปิดจมูกลง "คุณก็รู้จักผมมาบ้าง ผมไม่ได้เรียนจบแพทย์ด้วยคะแนนสูงลิ่ว สอนวิชานิติเวชฯ นักเรียนนายร้อยตำรวจมาตั้งหลายปีเพื่อที่จะมาสรุปสาเหตุการตายของผู้หญิงที่ถูกฆาตกรรมแล้วเชื่อว่านี่คือการฆ่าตัวตาย คุณไม่คิดว่ามันอาจจะทำให้ผมรู้สึกโง่บ้างหรือครับ"
"ผมเข้าใจ แต่ผมเป็นตำรวจ ผมพูดไปตามหลักฐาน" นายตำรวจแย้ง "แผลเดียวที่หน้าท้อง แทงลึกเข้าไปจนมิดด้ามแล้วบิด ไม่มีลายมือคนอื่นบนด้ามมีด ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ ผู้ตายนอนหงายอยู่บนพื้น ห้องปิดสนิท กล้องวงจรปิดจับภาพประตูเห็นได้ชัดว่าไม่มีใครเข้าออกเลยในเวลาหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้า คุณจะให้ผมสรุปว่ายังไงล่ะ"
"มันต้องมีอะไรมากกว่านั้น" ธาวินยื่นหน้าเข้าไปใกล้นายตำรวจที่ดึงผ้าปิดจมูกออกเช่นกัน "ผมต้องการเวลามากกว่านี้ ตอนนี้ผมยังชี้ชัดไม่ได้ แต่สัญชาตญาณของคนที่คุ้นเคยกับศพมาหลายปีบอกผมว่านี่ไม่ใช่การฆ่าตัวตาย หรือแม้แต่การฆาตรกรรมแบบง่ายๆ แค่เอามีดแทง"
"ผมไม่ได้เขียนรายงานเพราะสัญชาตญาณ"
"ตำรวจใช้สัญชาติญานกันทุกคน คุณไม่ต้องมาพูดว่าคุณไม่ใช้" ธาวินเถียง "ผมต้องการผ่า และผ่าตรวจอย่างละเอียดด้วย ตับไตไส้พุงทุกอย่าง ทำเทสท์ตามวิธีการของผม"
"ต้องตรวจอะไรอีก"
"ผู้กองเผ่าพงษ์ครับ" ธาวินถอนหายใจ กำลังจะอ้าปากพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับเปลี่ยนใจแล้วเดินจากไปดื้อ ทิ้งให้นายตำรวจหนุ่มมองตามอย่างงงๆ
"คุณหมอ"
"อาจารย์ ผมไม่ใช่หมอ ผมเป็นอาจาร์ยสอนหนังสือ ถ้าให้ผมมาแล้วให้ผมทำแค่นี้ ไม่เรียกว่านี่เป็นงานของหมอหรอก" ธาวินเสียงเข้ม ถอดถุงมือโยนลงถังขยะแล้วล้างมืออย่างกระแทกกระทั้น ทำไม่สนใจนายตำรวจหนุ่มที่เดินมายืนอยู่ข้างๆ
"คดีอาจพลิกผัน ผมจะลองคุยกับสารวัตร" ผู้กองเผ่าพงษ์เสียงอ่อนลง
"เผาวันไหนบอกด้วยนะครับ ผมจะไปเคารพศพ และขอขมาคุณเอวิตราที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้ ผมไม่อยากมีตราบาปไปตลอดชีวิต ว่าตัวเองช่วยอะไรเธอไม่ได้เลย แม้แต่หลังจากที่เธอตายไปแล้ว"
นายตำรวจหนุ่มถอนหายใจ ยืนมองนายแพทย์หนุ่มที่เดินหน้าบึ้งเดินออกไปจากห้องโดยเร็ว แล้วหันไปมองร่างของดาราสาวก่อนจะล้างมือให้เสร็จแล้วเดินตามธาวินไปช้าๆ
...ใจหนึ่งเขาก็เห็นด้วยกับธาวิน แม้หลักฐานจะชัดเจน ชี้ไปยังประเด็นฆ่าตัวตาย แต่สัญชาตญาณตำรวจของเขาก็บอกว่านี่ไม่ใช่อะไรที่ดูเหมือนเป็นคดีง่ายๆ ที่จะปิดคดีได้อย่างรวดเร็ว...

......


เสียงดนตรีจังหวะหนักหน่วงแผดเสียงลั่น ธาวินยืนอยู่ในสถานบันเทิงแห่งนี้มากว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว รู้สึกหายไม่ออกและหูอื้อแทบจะทนไม่ได้ เสียงเบสของเพลงเทคโนแดนซ์ทุ้มหนักกระแทกกระทั้นจนเขารู้สึกเหมือนฟ้ากำลังจะถล่ม นายแพทย์หนุ่มหันซ้ายหันขวามองหาคนที่นัดให้เขาเข้ามาพบในที่แบบนี้ จนแล้วจนเล่าก็ไม่มีวี่แววของแหล่งข่าวคนสำคัญ
...หรือว่าเปลี่ยนใจ เกิดรักตัวกลัวตายในนาทีสุดท้ายเลยเบี้ยวเขาเสียแล้ว...
ธาวินถอนหายใจแรงๆ แล้วตัดสินใจแหวกผู้คนออกไปยังประตูทางเข้า นักเต้นชายหญิงกำลังสนุกสุดเหวี่ยง แม้จะใส่คอนแทกเลนส์แต่แสงไฟวูบวาบทำให้เขามองไม่ถนัด ธาวินรู้สึกเคืองตาจึงกะพริบตาถี่ๆ เขาหยอดน้ำตาเทียมตั้งแต่ออกจากที่ทำงานซึ่งเป็นเวลานานมากแล้ว คงเป็นเพราะใช้สายตามาก ตอนนี้เริ่มรู้สึกเจ็บตา
นายแพทย์หนุ่มโดนนักเต้นร่างใหญ่คนหนึ่งกระแทกจึงเซไปเหยียบเท้าหญิงสาวคนหนึ่ง ธาวินขอโทษแต่ผู้หญิงคนนั้นผลักเขาแรงๆ ด้วยท่าทางอารมณ์เสีย เขาไม่ทันระวังตัวจึงเซไปปะทะกับชายร่างยักษ์ใบหน้าถมึงทึง ธาวินกำลังจะอ้าปากขอโทษแต่ชายคนนั้นชกเข้าที่ท้องของเขาจนจุก
ธาวินตัวงอ ยกมือกุมท้อง รู้สึกเจ็บจนน้ำตาเล็ด แต่เพียงเสี้ยววินาทีนายแพทย์หนุ่มก็รู้สึกโกรธที่โดนทำร้ายแบบไม่มีเหตุผล ครั้นสูดลมหายใจเข้าไปได้เฮือกใหญ่ ชายหนุ่มจึงยืดตัวขึ้นแล้วตวาดชายร่างยักษ์ด้วยความโกรธ แต่ทันใดสายตาก็มองเห็นสิ่งที่อยู่ในมือของฝ่ายตรงข้าม
...นี่ไม่ใช่เรื่องไม่พอใจที่เขาเซไปปะทะ นี่มัน...
...มีด ในมือของชายคนนั้นมีมีด และกำลังจะแทงเขา...
ธาวินถอยทันที ตั้งใจจะหันหลังหนีออกไปจากตรงนั้นให้ได้ แต่ชายหน้าดุคนนั้นเสือกตัวตามมา มือยกขึ้นกำลังจะแทงเขาแต่ทันใดก็ต้องปล่อยมือให้มีดร่วงลงพื้นแล้วกุมเป้าของตัวเอง ใบหน้าเหยเกแสดงความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส ตอนนี้ธาวินถึงได้เห็นว่า มีคนเตะผ่าหมากเจ้ายักษ์ใหญ่ ตามด้วยการฟันมือเข้าที่ซอกคอ ส่งผลให้ชายคนนั้นทรุดตัวคุกเข่าลงกับพื้น
"ไป เร็ว" ผู้ที่เข้ามาช่วยเขาตะโกน ชี้นิ้วไปยังประตูทางออก ส่งสัญญาณให้เขาหนี
ธาวินไม่รีรอ หันหลัง มุ่งตรงไปยังประตูของดิสโก้เธคทันที สองมือทั้งผลักทั้งดันที่ขวางทางอยู่อย่างไม่เกรงใจ สิ่งเดียวที่คิดได้ตอนนี้คือต้องออกไปจากสถานที่แห่งนี้ให้ได้
"ตามผมมา" ทันทีที่พ้นออกมาจากประตู ธาวินก็โดนมือแข็งแรงคว้าหมับที่ข้อมือแล้วลากไปทางด้านข้าง
"เดี๋ยวสิ คุณเป็นใคร" ธาวินร้อง
"ถ้าไม่อยากตาย ตามมาเถอะ" ชายร่างสูงคนนั้นพูดแล้วออกแรงดึง
"ผมมีรถ" ธาวินแย้ง
"ผมก็มี ตามมา" คนที่เข้ามาช่วยธาวินไม่ยอมหยุด ก้าวขายาวๆ จนธาวินต้องวิ่งตามเหยาะๆ
...อะไรกันนี่ เกิดอะไรขึ้น หรือมีใครรู้ว่าเขานัดพบกับปราโมทย์ การนัดพบครั้งนี้เป็นความลับ และเขาก็เชื่อว่าปราโมทย์ก็คงไม่แพร่งพรายให้ใครรู้...
"ผมจะไปเอารถ"
"จะขังตัวเองไว้ในรถหรือไงคุณ คิดหรือว่าจะปลอดภัย" เสียงคนที่ลากเขาพูดโดยที่ไม่หันหน้ากลับมา "ขึ้นรถได้คุณก็ออกไม่ได้ ลานจอดข้างหน้าทั้งจอดเบียดกันขวางกันขนาดนั้น"
...จริงสิ ทำไมเขาลืมนึกถึงข้อนี้ไปนะ...
...แต่ผู้ชายคนนี้ไว้ใจได้แค่ไหน ใครก็ไม่รู้ แล้วรู้ได้ยังไงว่าไอ้ยักษ์คนนั้นจะทำร้ายเรา นี่มันเกิดอะไรขึ้น...

หลังดิสโก้เธคเป็นตรอกเล็กๆ ค่อนข้างมืด รถโฟร์วีลด์สีดำสนิทจอดอยู่ใกล้กันกับรถสปอร์ตบีเอ็มดับบลิวสีบรอนซ์ราวกับเป็นที่จอดรถพิเศษของเจ้าของรถ
ชายร่างสูงนำธาวินไปที่รถโฟร์วีลด์คันใหญ่ มือแข็งแรงยังจับข้อมือเขาไม่ปล่อย นายแพทย์หนุ่มเริ่มรู้สึกแปลกๆ จึงขืนตัวไว้แล้วถามว่า "เดี๋ยวก่อนสิ บอกผมมาก่อนว่ามันเรื่องอะไร และคุณเป็นใคร"
"ผมช่วยคุณไม่ให้โดนแทง"
"ช่วยยังไง ช่วยตอนไหน" ธาวินถาม
"ผมเตะผ่าหมากไอ้ยักษ์ คุณไม่เห็นหรือ ยังรู้สึกอายอยู่เลยนะที่ล้มช้างด้วยวิธีนั้น" คนตอบหันหน้ามาพูดยิ้มๆ ก่อนจะเปิดประตูรถแล้วดันให้ธาวินก้าวขึ้นไป
...ผู้ชายคนนี้หน้าตาดีมาก ดวงตาคมกริบ คิ้วเข้ม จมูกโด่งเป็นสันตรง ปากได้รูป มีรอยแผลเป็นอยู่ที่คางด้านซ้าย ท่าทางเหมือนตำรวจ...
"เชิญครับ ผมรับรองความปลอดภัย"
...แต่เขาสิไม่รู้สึกว่าปลอดภัย รถสองคันนี้จอดอยู่ด้านหลัง หันหน้าออกถนนราวกับพร้อมที่จะขับออกไปได้ทุกเมื่อ และกลางเมืองที่พื้นที่จำกัดเช่นนี้ คนที่จะจอดรถหลังสถานบันเทิงหรูหราเช่นนี้ได้ก็ต้องไม่ธรรมดา...
"เพื่อนผมเป็นเจ้าของเธค บีเอ็มของเขา ฟอร์ดของผม ทีนี้คงตอบคำถามคุณได้แล้วสิ" ชายหนุ่มที่ช่วยเหลือธาวินพูดแล้วยื่นกุญแจให้ "และนี่ คุณก็จะได้มั่นใจว่าผมไม่เอาคุณไปฆ่าที่ไหน"
"แล้วรถ..." ธาวินถาม เพิ่งสังเกตว่าที่ตัวเองถูกดันให้ขึ้นรถนั้นคือที่นั่งด้านคนขับ
"จอดไว้หน้าบ้านคุณนั่นล่ะ พรุ่งนี้ผมไปเอาเอง"
พูดเสร็จ ชายหนุ่มรูปหล่อคนนั้นก็เดินจากไป แต่พอก้าวท้าวไปได้สามสี่ก้าวก็หันมาสั่งเขาสั้นๆ ว่า "เร็วสิครับ"
ธาวินปิดประตูรถ สตาร์ทเครื่องยนต์แล้วเคลื่อนรถออกไปทันที ตาเหลือบมองกระจกมองหลังก็เห็นว่าชายหนุ่มคนนั้นยังยืนมองเข้าอยู่
...เขารู้ว่าบ้านเราอยู่ที่ไหน นี่มันเรื่องอะไรกัน หรือจะเป็นเรื่องการเสียชีวิตของเอวิตรา...
...แต่เขายังไม่ได้ทำอะไรเลย แค่ไปชันสูตรศพของดาราสาวเท่านั้น แล้วก็วางมือไปแล้ว อย่างน้อยก็เป็นที่รู้กันว่าเขาแค่ไปตรวจดูเฉยๆ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญทางนิติเวชที่ได้รับการขอให้ไปช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ ไม่ได้ทำอะไรต่อ ส่วนเรื่องจะช่วยพลตำรวจตรีเกรียงไกรอย่างลับๆ นั้นก็รู้กันอยู่แค่สองคน...
...ไม่สิ มีคนที่รู้อีกคนก็คือร้อยตำรวจเอกชื่อแปลกๆ ที่ได้รับมอบหมายให้ทำงานกับเขา และผู้บังคัญบัญชาของตำรวจคนนั้นก็น่าจะรู้ด้วย...
...หรือว่าชายหนุ่มคนเมื่อกี้คือนายตำรวจคนนั้น แต่แล้วทำไมไม่แนะนำตัว ไม่บอกว่าเป็นใคร แล้วรู้ได้ยังไงว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา และที่สำคัญ รู้จักบ้านของเขาด้วย...

"คุณไม่ได้จอดรถไว้ที่บ้าน" เสียงปลายสายดังขึ้นเมื่อธาวินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย
"คุณเป็นใคร รู้จักบ้านและเบอร์โทรที่ทำงานของผมได้ยังไง" ธาวินถามเสียงห้วน
"ผมเป็นคนช่วยคุณไงครับ" เสียงชายหนุ่มหน้าหล่อคนนั้นหัวเราะเบาๆ
"รถก็จอดอยู่ที่ลานจอดรถหน้าคอนโด ไม่เห็นหรือครับ" ธาวินจงใจเล่นเกม คืนที่ผ่านมาเขาจอดรถไว้ที่หน้าบ้านของรวี "คู่กัด" คนสำคัญของเขาที่เกรียงไกรชอบล้ออยู่เสมอ หลังจากนั้น เขานั่งแท็กซี่ไปยังบ้านพักของนิรันดร แฟนเก่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัย และขอนอนค้างคืนด้วย
...นิรันดรทำท่าเหมือนโดนผีหลอก...
"งั้นหรือ" อีกฝ่ายทำเสียงเหมือนเข้าใจ "เอาล่ะ ถ้าคุณปลอดภัยก็ดีแล้ว งั้นแค่นี้นะครับ อ้อ จะขอบคุณกันบ้างก็ไม่ว่านะครับคุณหมอ"
...ขอบคุณหรือ จะเอาเรื่องสิไม่ว่า...
ธาวินกำโทรศัพท์แน่น รู้สึกฉุกกึกขึ้นมาทันที ตอนนี้เขารู้สึกเป็นฝ่ายเสียเปรียบที่ไม่รู้เรื่องอะไรซักอย่าง แต่ชายหนุ่มคนนั้นดูเหมือนจะรู้อะไรดีไปหมด
...เกิดอะไรขึ้น...






ออฟไลน์ DEMON3132

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-1
คุณนาย หนังสือเรื่องคดีรัก ยังมีขายอยู่รึเปล่าคะ มีขายที่ไหนบ้าง อยากเป็นเจ้าของบ้าง
หรือพอจะมีผู้รู้ที่แนะนำได้บ้างว่าจะหาซื้อได้จากที่ไหน ชื่อเต็ม ๆ ว่าอะไร จะได้หาซื้อถูก
และหนังสือของคุณนายมีพิมพ์ออกมากี่เล่มแล้ว มีเรื่องอะไรบ้าง หาซื้อได้ที่ไหนบ้าง
 :pig4:

gboy

  • บุคคลทั่วไป
 :serius2:
พี่นายจบอย่างงี้อีกละ ต้องจิ้นต่อเนี่ย

แต่ว่าเรื่องต่อไปขอทุกเรื่องได้ไหมอะ

 :impress2:

ไม่ได้โลภนะแค่ชอบไปหมดแค่นั้นเอง

crazy Y

  • บุคคลทั่วไป
จบแบบมีความสุขมากค่ะ


แอบขำกับบทส่งท้าย   


อิศรานี่แอบร้ายนะ

โอ้ยไม่อยากจะคิดว่า  ถ้า  ภีร์ เจอ เหยื่อรายใหม่ พร้อม ผุ้พันวรุฒ์ ตอนไปเจนีวา (ที่บอกว่าพี่ชายจะพาแฟนไปนั่นแหล่ะ) 

งานนี้ มีหวังลงโทษคุมประพฤติ ภีร์ อย่างหนักแน่เลย

teenza

  • บุคคลทั่วไป
จบแบบชัดเจนดี แต่ดันมีตัวละครโผล่เพิ่มมาอีกตัว
หรือจะมีภาคสอง
ตัวอย่างนิยายที่คุณนายเอามาให้อ่านเรียกนำย่อยน่าอ่านทุกเรื่องเลย :oni2:
ขอบคุณคับ

morrian

  • บุคคลทั่วไป
ตอนจบก็ชัดเจนดีนะคับ

แต่ว่าบทส่งท้ายเนี่ย^^

ภีร์ของเราจะเป็นไงต่อไปละเนี่ย

หุหุ  :z1:

รออ่านเรื่องต่อๆไปคับ

patz

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องที่เกริ่นไว้ น่าติดตามทุกเรื่องเลยอะครับ  o13

aimaim

  • บุคคลทั่วไป
น่าอ่านทุกเรื่องเลย แต่พี่ท่านทำให้ค้างอีกแล้วอ่ะ ตอนจบน่ะไม่ค้าง แต่มาค้างบทส่งท้ายอ่ะ  -  - เอาให้จบหมดๆ จิ แบบนี้ต้องลงโทษ จิ้มๆๆๆๆ :z13: :z13: :z13: :z13: :z13:

ออฟไลน์ Resonance

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
โปรแกรมหน้า น่าสนใจมากๆ !! รีบจองตั๋วด่วนเลย  555

mecon

  • บุคคลทั่วไป
จะรอเรื่องต่อไปคะ ชอบเรื่องธาวิน แนวฆาตรกรรมๆแบบนี้
คุณหมอจะโดนลุกหลงได้ยังไงหรอก   :impress2:

จะรอนะคะคุณนายยยยยยยย สู้ๆนะคะ  :กอด1: :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ emmybblood

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
เชียร์ให้ต่อเรื่องอาวุธกะอาทิตย์(?)ให้จบค่ะ  ไหนๆ ก็มีลงมาให้อ่านบ้างแล้ว  :call:    อยากเห็นจุดจบของคนเจ้าชู้อีกคนที่เหลือ

ไม่งั้นมันคันหัวจาย    :serius2:

ออฟไลน์ Ak@tsuKII

  • Honeymoon
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3845
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-3

aimaim

  • บุคคลทั่วไป
เอาล่ะตัดสิใจได้แล้ว อยากได้เรื่องของธงรบกะอาตี๋อาทิตย์ก่อนอ่ะ หุหุ

ออฟไลน์ Mimimimi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
โหวตเรื่องสุดท้ายค่ะ  ชอบเรื่องสืบสวนๆ  พระเอกท่าทางน่ารักด้วย  :mc4:

ออฟไลน์ iGiG

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
ชอบเรื่องนี้มากมายค่า

แต่ละวันตั้งตารออ่านเรื่องนี้เลย เป็นสิ่งปลอบใจเวลาสอบ เอิ๊กๆ

เสียดายจังจบเร็วไปหน่อย อยากอ่านต่อ คุณ KATAWOOT อย่าลืมภาคพิเศษน้า บทส่งท้ายแอบค้าง จริงๆคนที่ไม่รู้น่าจะเป็นอิศรานะคะเนี่ย ซ่าส์นัก 555

รอเป็นกำลังใจให้สำหรับเรื่องใหม่นะคะ โดยเฉพาะเรื่องของธงรบกับอาทิตย์  ><

ปล. ต้องขออภัยที่ไม่ค่อยได้เม้นท์ แต่ก็กด + ตลอดน้า =^^=

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
น่าอ่านทุกเรื่องเลยยยยยยยยยยยยยยย

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
ขอบคุณสำหรับตอนจบค่ะ ที่ชัดเจน.... :laugh:
แบบว่าแก่แล้วขี้เกียจคิดมาก จิ้นมาก ว่าจะเป็นไง บอกกันมาเลยดีกว่า
ส่วนเรื่องใหม่ จัดมาเลยอย่าได้เสีย  รออ่านทุกเรื่องค่ะ o13

Solar cell

  • บุคคลทั่วไป
ตัดสินใจไม่ได้อยากอ่านทุกเรื่อง ทำไงดี

ออฟไลน์ nopkar

  • เป็ด indy
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2159
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-3
ชอบสืบสวนสอบสวน
รองลงมาก็เรื่อง ต้น เดี่ยว ค้าบบบ

ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
จบได้ไม่ค้างคาเลยสนุกดีครับ แต่มีเรื่องให้ลุ้นนิดหนึ่ง ส่วนเรื่องที่มาลงเป็นตัวอย่างก็อยากอ่านเรื่องของธงรบกับอาทิตย์ครับ ส่วนเรื่องอื่นก็แล้วแต่แล้วกันครับ  ขอให้เรื่องเรียนเรียบร้อยแล้วกันนะครับจะได้ปลอดโปร่งซะที ขอบคุณครับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด