พิมพ์หน้านี้ - เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: katawoot ที่ 31-08-2009 20:38:50

หัวข้อ: เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 31-08-2009 20:38:50
--- ขอบคุณบอร์ดเซ็งเป็ดสำหรับการให้โอกาสนักเขียนโพสนิยายของตัวเองครับ และขอบคุณผู้อ่านที่รักและเคารพอย่างสูงที่เข้ามาอ่านครับผม ---
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0


ภีรวัส – หนุ่มลูกครึ่ง รูปหล่อ ฉลาด ซ่อนความร้ายกาจไว้ภายใต้ใบหน้ายิ้มๆ งานประจำคือเป็นนักวิจัยอิสระ งานอดิเรกคือหลอกให้หนุ่มหลงรักแล้วหักอก
อิศรา – ช่างภาพแฟชั่นหนุ่มที่รูปหล่อยิ่งกว่านายแบบแฟชั่น ซ่อนความร้ายกาจไว้ภายใต้บุคลิกร่าเริงสนุกสนาน งานประจำทำเมื่ออยากอยากทำ แต่งานอดิเรกคือหลอกให้หนุ่มหลงรักแล้วหักอกแข่งกับภีรวัสเพื่อนสนิท
เกมการแข่งขันครั้งสำคัญเริ่มต้นขึ้นอย่างไม่คาดฝันเมื่อทั้งสองตกรถเที่ยวสุดท้ายแล้วมีนายทหารหนุ่มรูปหล่อชื่อพันโทวรุฒน์ขับรถผ่านมา
ภีรวัสกับอิศราเป็นเพื่อนสนิทกัน และชอบเล่นเกมหลอกให้รักแล้วหักอกแข่งกันมาตลอด
กฎของเกมนี้มีอยู่ว่า แต่ละคนจะมีเวลากับเป้าหมายคนละหนึ่งอาทิตย์สลับกันไป ช่วงเวลาที่คนหนึ่งกำลัง 'กระทำภารกิจพิชิตใจหนุ่ม' อยู่นั้น อีกคนหนึ่งจะเข้ามาวุ่นวายก่อกวนไม่ได้เด็ดขาด ห้าม 'นอน' กับเป้าหมายภายในเดือนแรก และต้องเลิกภายในสามเดือน และที่สำคัญ "ห้ามตกหลุมรัก"
คำขวัญ - ใช้รูปร่างหน้าตาเป็นอาวุธ ใครสะดุดต้องสะกดให้หลงรัก และเมื่ออีกฝ่ายบอกรักแล้ว ต้องทิ้ง และห้ามหวนกลับไปคบกันอีก
 แต่เมื่อเป้าหมายใหม่ของเพื่อนรักทั้งสองเป็นนายทหารหนุ่มรูปหล่อคมเข้ม ห้าว และเท่ มากกว่าเป้าหมายคนเก่าๆ กฏที่มีไว้จึงถูกแหกกระจุยกระจาย การแข่งขันสนุกๆ จึงกลายมาเป็นการสู้รบแบบกองโจรแบบเอาเป็นเอาตาย เรื่องวุ่นๆ จึงตามมาอีกนับไม่ถ้วน ที่แย่กว่านั้น พันโทวรุฒม์ ที่ซ่อนความร้ายกาจภายใต้ใบหน้ายิ้มๆ เป็นสุภาพบุรุษ รู้ทันสองหนุ่มที่บังอาจมากระตุกหนวดเสือ เกมตลบหลังจึงเริ่มขึ้น

เรื่องนี้ค่อนข้างบ้าๆ บอๆ เพ้อฝัน อ่านเอาสนุก แก้เซ็งนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่เสียสละเวลาเข้ามาอ่านครับ



*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ  แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
 ทิพย์โมบอร์ดนิยาย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 1 (31/8/09)
เริ่มหัวข้อโดย: gboy ที่ 31-08-2009 20:42:49
^
^
^
^
^
จิ้มพี่นาย

นิยายใหม่น่าหนุกเนอะ
 :impress2:
+1 ให้ด้วยแล้วเน้อ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 1 (31/8/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 31-08-2009 20:47:56
 :z13:
กระซวกคุณนายยยยยยยยยยยยยยยย

สู้ๆคะจะเป็นกำลังใจให้  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 1 (31/8/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 31-08-2009 21:05:06

Chapter 1

ตำบลแม่คง - 17.11 น. 
"ไอ้พีวีซีเอ้ย ไม่เห็นจะต้องถ่อสังขารมาไกลถึงขนาดนี้ กะอีแค่เขียนสารคดี ไปหาข้อมูลเอาจากเน็ตก็ได้ ก๊อบ ปี้ แอนด์ เพศ น่ะ รู้จักหรือเปล่า" เสียงอิศราบ่นเน้นหนักคำเลียนเสียงภาษาอังกฤษเป็นพิเศษ "ไม่รู้จะลากช่างภาพมือหนึ่งของเอเชียมาตกระกำลำบากทำไม สิ้นเปลืองทรัพยากรมนุษย์ เกิดไอเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมา ใครจะรับผิดชอบ" อิศรา ชายหนุ่มหน้าคมลากกระเป๋าไปตามถนนลูกรัง เดินไปบ่นไปไม่ยอมหยุด "ลำบากลำบนจริงๆ เมื่อไหร่จะถึงก็ไม่รู้ ทำไมยูไม่ติดต่อให้เขามารับ ลิมูซีนพิคอัพน่ะ รู้จักไหม..."
"อย่ามาบ่นนะไอ้ก้อนอิฐ ถ้าแกไม่มัวแต่จีบหนุ่ม เราก็ไม่ตกเครื่องบิน" อีกฝ่ายรีบแทรกเสียงเข้ม เวลาอารมณ์เสีย ชื่อของเพื่อนอิศรากลายเป็นก้อนอิฐ "มัวแต่ให้ท่าเขาอยู่นั่น เป็นไงล่ะ ขึ้นเครื่องไม่ทัน ต้องวิ่งลงจากเครื่องมาซวยกับแกด้วย" ภีรวัสเหลืออด ทนนิ่งต่อไปไม่ไหวแล้ว พลาดเครื่องบินเที่ยวนั้นพวกเขาต้องแกร่วรอเที่ยวบินใหม่อีกหลายชั่วโมง
"ใครจะไปรู้ พ่อคุณพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย เป็นฝรั่งภาษาอะไรพูดภาษาญี่ปุ่นอาโนเนะ แกก็ไร้ประโยชน์สิ้นดี ลูกครึ่งญี่ปุ่นอะไรพูดภาษาพ่อตัวเองไม่ได้" อิศรายกเท้าเตะก้อนกรวดอย่างอารมณ์เสีย "นี่ถ้าไม่หล่อ ไม่ยอมตกเครื่องบินเด็ดขาด"
"เฮ้ย ระวังสิโว้ย เดี๋ยวโดนหัว" ภีรวัสโวยวาย
"คนละทางเลยไอ้ทรพี แกอยู่ทางโน้น ฉันเตะไปทางนี้ ก้อนหินมันคงยูเทิร์นไปตกใส่หัวแกได้หรอก"
"ฝุ่นมันปลิวเข้าตา"
สองหนุ่มเถียงกันไม่ยอมหยุด การเดินทางอันยาวนานทำให้ทั้งสองเหนื่อยอ่อน กว่าจะหารถจากอำเภอแม่สะเรียงมาถึงตำบลแม่คงได้ก็แทบแย่  หนำซ้ำรถจากแม่คงยังไม่ยอมเข้าไปส่งที่หมู่บ้านแคมป์สน จุดหมายปลายทางของภีรวัสนักวิจัยหนุ่มผู้ลากอิศราเพื่อนคู่หูช่างภาพแฟชั่นมือดีของประเทศมาช่วยงาน
ปกติภีรวัสไม่ค่อยพูดมากเท่าอีกฝ่าย ชายหนุ่มค่อนข้างเป็นคนนิ่งเงียบ ตรงกันข้ามกับอิศราที่โวยวายเก่ง หากเวลาเช่นนี้ สองหนุ่มก็กลายมาเป็นคนปากจัดเหมือนกันโดยอัตโนมัติ ทุกครั้งที่เกิดความเซ็งขึ้น สองหนุ่มเห็นพ้องต้องกันว่าต้องทะเลาะกันเพื่อไล่ความเซ็งออกไป
"ภีร์ นี่เย็นมาแล้วนะ เดินอีกกี่เอเคอร์กว่าจะถึงแคมป์สงฆ์นี่"
"แคมป์สน เรียกอะไรไม่เคยถูกซะทีเลย" ภีรวัสแทรก
"เออ เออ แล้วแน่ใจนะว่า คุณลุงนุมิตรอะไรของเอ็ง เขาจะรอรับเรา ไม่ใช่พอไปถึงแล้วลุงเขาไม่อยู่ ซวยตายห่_"
"ลุงนิมิตร" ภีรวัสถอนใจ "เขาก็อยู่บ้านเขาสิ จะไปไหน บ้านเขาอยู่แค้มป์สน เลิกบ่นเสียทีเถอะ รำคาญ"
"ไม่ได้บ่น...ถาม..." อิศราหันมาถลึงตาใส่เพื่อน "ใครจะไปรู้ กลัวว่าจะเหมือนในหนัง แค้มป์ซนอะไรนี่ พอเราไปถึงก็เงียบสงัด ไม่มีใครอยู่ หรือถ้ามีก็เป็นคนที่ตาขวางๆ ทื่อๆ น่ากลัว นี่ยังไม่รู้เลยว่าพักที่ไหน น้ำอุ่นมีหรือเปล่าไม่รู้ บ้านป่าเมืองเถื่อน บอกแล้วให้ไปทำสารคดีท่องเที่ยวที่เชียงใหม่ นี่มาทำสารคดีทำลายธรรมชาติเปลือกโลกสั่นไกวไหวกระเพื่อมที่ไหนไม่รู้"
"หุบปากซะทีเถอะอิศรา เอาเท้าเดิน ไม่ต้องเอาปากเดินได้หรือเปล่า"
"กำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็ม ด๊อคเตอร์นวพล กำลังจะเสร็จไออยู่แล้ว" อิศราโอดครวญ
"หยุดบ่นได้แล้วน่า พอกลับกรุงเทพฯ ก็ดำเนินการต่อ ถ้าเก่งจริง จะกลัวทำไม" ภีรวัสพูดเสียงเรียบ
"ต้องทดเวลาออกไปอีกสองอาทิตย์นะ" อิศราหันมามองภีรวัส "แล้วด๊อคเตอร์รูปหล่อเซ็กซี่ขนาดนั้น วางใจไม่ได้ พวกนักศึกษาสมัยนี้ทั้งแรดทั้งใจถึงจะตาย ยูไม่รู้อะไร เด็กๆ พวกนั้นจีบอาจารย์เป็นว่าเล่น ยิ่งอาจารย์หล่อๆ อย่างนี้ ไอกลัวด๊อคเตอร์นวพลจะไม่ทันนักเรียน ไม่รอดถึงปิดเทอม จะเสียผู้ใหญ่ซะก่อน" อิศราบ่น
"กลัวแพ้ล่ะสิ" ภีรวัสเหยียดปาก
"น้อยๆ หน่อยคุณภีรวัส พูดอะไรคิดซะบ้าง ครั้งล่าสุดไอเป็นฝ่ายชนะ จำได้ไหมเพื่อน" อิศรายื่นมือไปผลักชายหนุ่มที่เดินนำหน้า
"ยูเล่นมอมเหล้าเขานี่หว่า"
"เปล่ามอม แค่ชวนให้ดื่มพอครึ้มๆ กระตุ้นให้เขาคายคำพูดออกมา ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์"
ภีรวัสจำตอนที่อิศราวิ่งเข้ามาในห้องทำงานของเขาได้ พ่อเพื่อนตัวดีรีบเปิดไฟล์บันทึกเสียงในโทรศัพท์ให้เขาฟัง...คำสารภาพรักของธีรเดช ทันตแพทย์หนุ่ม เหยื่อรายล่าสุดของอิศรา...
คราวนั้นเขาแพ้ เพราะพงศธร คนที่เขาคบด้วยค่อนข้างเป็นคนเงียบขรึมและเก็บความรู้สึก แม้ตอนที่เขาบอกเลิก พงศธรยังนั่งนิ่ง เม้มปาก ก้มหน้าไม่ยอมพูดจา แต่สายตาของกัปตันหนุ่มดูเจ็บปวดและขมขื่น ภาพนั้นยังติดตาเขาอยู่ไม่คลาย ไม่นึกว่าพงศธรจะเสียใจมากขนาดนั้น การที่พงศธรไม่ยอมพูดยอมจาหรือแสดงอารมณ์โวยวายออกมา ทำให้เขาเขาอดรู้สึกผิดไม่ได้
"พีวีซี...เสียงรถ...รถ...รถจริงๆ ด้วย" อิศราส่งเสียงลั่น กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ "นึกว่าจะตายกลางป่ากลางเขาซะแล้ว"
"เบาๆ หน่อย แล้วหยุดกระโดดหยองหยอยซะที เดี๋ยวเขาเห็นเข้านึกว่าแกเป็นคนบ้า รีบเร่งเครื่องหนีกันพอดี" ภีรวัสกระทบกระเทียบ
"สวรรค์ทรงโปรด ราชรถมาเกย ว่าแล้วเชียว คนดีอย่างอิศราตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่จม ขนาดตกระกำลำบากเลือดปากแทบกระเด็น สวรรค์ยังส่งราชรถมาเทียบ" อิศราพร่ำ "ที่สำคัญ...ว้าว ตาหาน" อิศรารำพึงโดยใช้สำนวนแผลงๆ เช่นเคยทำให้ภีรวัสหันตาม
ราชรถของอิศราเป็นรถจี๊บสีเขียวขี้ม้าซึ่งกำลังวิ่งเข้ามาใกล้ คนขับเป็นชายหนุ่มในชุดเครื่องแบบทหาร มองไกลๆ หน้าตาหล่อเหลาเอาการ
"โอ้ ว้าว...เทพบุตรหลุดออกมาจากป่า หล่อขั้นเทพ" อิศราหันหน้ามายักคิ้วหลิ่วตาให้เพื่อนรัก "คนนี้ไอจองนะภีร์ ไอเห็นก่อน"
"ทะเร่อทะร่าไป ระวังได้กินลูกตะกั่วนะก้อนอิฐ" ภีรวัสเตือนเพื่อน เขามักเรียกอิศราว่า ก้อนอิฐ ขณะที่อิศราก็ล้อเลียนเขาว่า พีวีซี ซึ่งที่จริงแล้วชื่อเล่นของเขาคือ พีเจ มีแต่อิศราเท่านั้นที่เรียกเขาว่าพีวีซีบ้าง พีวีบ้าง หรือหากอารมณ์เสียมากๆ ก็จะมีการเรียกชื่อเด็ดๆ อีกหลายชื่อ
"อา...มาไม่เสียเที่ยว" อิศราตะลึง เมื่อรถทหารเข้ามาใกล้ ชะลอความเร็วแล้วจอดลงข้างสองหนุ่ม ทหารหนุ่มที่เห็นจากระยะไกลเมื่อสักครู่ ยิ่งดูใกล้ยิ่งหล่อเข้ม ใบหน้าคมสัน คิ้วดกดำพาดตรงเหนือดวงตาคมกริบ จมูกโด่ง โหนกแก้มสูง ริมฝีปากอิ่มเต็ม คางแข็งแรงบึกบึน ไรหนวดที่เพิ่งโกนใหม่ๆ เขียวครึ้ม แขนแข็งแรงวางค้างอยู่ที่พวงมาลัย เครื่องแบบลายพรางทหารยิ่งทำให้ผู้สวมใส่ดูคร้ามเข้มมากกว่าเดิม
"จะไปไหนกันครับ" เสียงห้าวทุ้มเอ่ยถาม เสียงของทหารหนุ่มต่ำมาก เหมือนเสียงเบสของเครื่องเสียงที่มีคลื่นความถี่สั่นสะเทือน ทำให้ใจเต้นตึกตักเหมือนเวลายืนอยู่หน้าลำโพง
"ไปที่..." อิศรารีบตอบ แต่กลับสะดุด นึกไม่ออกว่าจุดหมายคือที่ใด เพราะทุกทีเขาเป็นคนตามภีรวัส
ชายหนุ่มหันหน้าไปมองเพื่อน ภีรวัสจึงตอบว่า "ไปแคมป์สนครับ ผมมาทำวิจัยและเขียนสารคดี พอดีมาถึงแม่คง รถหมด เลยลงที่ปากทาง"
"ขอติดรถคุณทหารไปด้วย ไม่ทราบว่าจะได้ไหมครับ" อิศรายิ้มกว้าง
"ได้สิครับ เดี๋ยวผมจะไปส่งให้ อีกไม่ไกลครับ ไม่ถึงห้ากิโล"
"ห้ากิโล" อิศราอุทาน ทำตาโต "นี่ถ้าเดินไปคงตายกันพอดี โชคดีนะครับมีอัศวินขี่ม้าขาวมาช่วย"
"ม้าเขียวต่างหาก" ภีรวัสหมั่นใส้เพื่อนรัก อทแทรกไม่ได้
"ผมชื่ออิศราครับ เป็นช่างภาพ ถือโอกาสมาช่วยเพื่อนเรื่องวิจัยสารคดี" อิศราแนะนำตัว แต่ไม่ยอมแนะนำภีรวัส
นักวิจัยหนุ่มยืนฟังอิศราอยู่เงียบๆ แต่ในใจด่าและตำหนิเพื่อนว่า...ถูกลากมาสิไม่ว่า แล้ววิจัยสารคดีมีที่ไหน อิศราชอบรวบคำสั้นๆ ทำให้ภาษาวิบัติไม่พอ ยังสร้างความเข้าใจผิดอีก...
"ผมพันโทวรุตม์ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก" นายทหารตอบยิ้มๆ แล้วมองไปยังชายหนุ่มอีกคนที่ปีนขึ้นไปนั่งเบาะหลัง
"ผมภีรวัสครับ" ชายหนุ่มยิ้มบางๆ สบตาอิศราแวบหนึ่ง ระฆังการแข่งขันดังขึ้นอัตโนมัติ เป็นที่เข้าใจดีระหว่างเขากับอิศราว่า ชายหนุ่มตรงหน้าคือ 'เป้าหมาย' รายใหม่
"เริ่มได้ สองต่อหนึ่ง" อิศราหันมาพูดเบาๆ กับภีรวัส
พันโทวรุตม์เลิกคิ้ว ไม่เข้าใจที่อิศราพูด "มาจากกรุงเทพฯ กันหรือครับ"
"ใช่ครับ เพิ่งมาถึงแม่สอดตอนบ่ายๆ กว่าจะนั่งรถเมล์หวานเย็นถึงแม่สะเรียงก็แทบแย่ ทีนี้รถจากแม่สะเรียงมาเอ่อ..."
"แม่คง" เสียงหนึ่งแทรกขึ้นจากเบาะหลัง
"เลยต้องนั่งสองแถวจากแม่สะเรียงมาแม่คน จ้างเขาก็ไม่ยอม บอกว่าต้องวิ่งรับคนตามรายทาง พอถึงปากทางก็เลยต้องลงเดินเข้าตำบลแคมป์สนนี่ล่ะครับ" อิศราอธิบาย หันมาสบตาให้ภีรวัสเมื่อพูดถึงตอนที่บอกทหารหนุ่มว่า 'แค้มป์สน' ดังจะบอกเพื่อนให้รู้ว่า...เห็นไหม เขาบอกชื่อจุดหมายปลายทางได้ถูกต้อง...
"หมู่บ้านแค้มป์สน ตำบลแม่คง" ภีรวัสแก้ให้ถูก เพื่อนรักของเขาหันหน้ามาถลึงตาใส่ ทำปากขมุบขมิบพูดว่า "ไอ้ภีร์" โดยไม่ออกเสียง
...หลายแม่เหลือเกิน อิศราชักจะงง...
ตอนนี้ภีรวัสรู้แล้วว่าอิศราจะใช้ตัวตนจริงๆ ของตัวเองมาใช้ในกลยุทธ์รอบนี้ นั่นคือภาพลักษณ์สนุกสนานร่าเริง น่ารัก มาล่อหลอกให้เป้าหมายหลงรัก...
เพราะฉะนั้น ตัวเขาจะใช้บุคลิกเรียบนิ่งสยบความเคลื่อนไหว ปกติเขาไม่เคยใช้กลวิธีนี้กับผู้ชายที่อายุมากกว่าท่าทางเงียบขรึมเป็นสุภาพบุรุษ แต่คราวนี้ ลองดูสักครั้ง หากอิศราจะใช้ตัวตนจริงๆ มาเล่มเกมนี้ เขาก็จะใช้ตัวตนจริงๆ ของตัวเองเหมือนกัน จะได้สมน้ำสมเนื้อ ภาพลักษณ์เรียบนิ่ง ขรึมๆ เย็นๆ เขามักจะใช้กับผู้ชายเจ้าชู้ เจ้าสำราญ เพราะผู้ชายประเภทนั้น มักจะชอบอะไรที่ท้าท้าย และ 'ได้ยาก' เขารู้ว่าผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่ เงียบขรึม มักชอบคนที่สดใสร่าเริง เพราะจะทำให้รู้สึกมีชีวิตชีวา
"ผู้หมวดไปทำอะไรที่แค้มป์สนครับ" อิศราถาม
ภีรวัสหัวเราะหึๆ ในลำคอ อิศราหันมาถลึงตาใส่อีกครั้ง เพราะเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองพลาด เรียกยศทหารผิด
"ไปคุยเรื่องงานกับผู้ใหญ่บ้านครับ" นายทหารหนุ่มตอบสั้น   
"เอ่อ...แล้วผู้กองพักอยู่ไกลจากที่นี่หรือเปล่าครับ เผื่อผมกับภีร์จะขอเชิญมาทานอาหารเลี้ยงขอบคุณที่ช่วยเหลือเรา" อิศราเพิ่มยศให้วรุตม์อีกหนึ่งขั้น
"ผมพักอยู่ที่ค่ายเทพสิงห์ในแม่สะเรียงครับ ให้ผมเลี้ยงต้อนรับคุณทั้งสองคนจะดีกว่า ในฐานะเพื่อนใหม่" พันโทวรุตม์หันหน้ามายิ้มให้ภีรวัสที่นั่งกอดอกนิ่งอยู่เบาะหลัง
"ขอบคุณครับผู้กอง ไม่นึกเลยว่าจะเจอคนใจดีกลางป่ากลางเขาอย่างนี้" อิศรายิ้มกว้างจนตาหยี
"ยินดีครับ ยินดีที่ได้รู้จัก" เจ้าของเสียงห้าวทุ้มลึกกล่าวอย่างอารมณ์ดี
แวบหนึ่ง ภีรวัสเห็นสายตานายทหารหนุ่มเหลือบมองเขาในกระจกมองหลัง ชายหนุ่มก้มหน้าทำเป็นหลบตา ซ่อนใบหน้าที่กำลังอมยิ้มไว้
รอบแรก...ภีรวัสบอกตัวเองว่าเขาได้ไปก่อนหนึ่งแต้ม จากสัญชาตญาณ เขารู้ได้ทันทีว่าพันตรีวรุตม์ "ปิ๊ง" เขา ไม่ใช่อิศรา
"ผู้กองครับ แถวนี้มีจุดชมวิวสวยๆ ไหมครับ ผมอยากถ่ายรูปสวยๆ จะได้เอาไปอวดคนกรุงให้เห็นว่าธรรมชาติต่างจังหวัดสวยงามมากแค่ไหน"
"มีครับ ผมรู้จักจุดชมวิวสวยๆ หลายที่"
"เดินทางไปลำบากไหมครับ ถ้าเดินเท้าจากแค้มป์สนจะใช้เวลากี่ชั่วโมงครับ" อิศราแกล้งตีหน้าซื่อ
...อิศรา ตอแหล อยากจะนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปสิไม่ว่า อย่างอิศรานั่นหรือจะเดินขึ้นเขา ถนัดแต่เดินห้างติดแอร์...
"เดินไหวหรือ" ภีรวัสอดแทรกไม่ได้
"ถ้าไม่ไกลนักก็ไหว" อิศราหันมายิ้มให้เพื่อน ทั้งที่กัดฟัน "เดินสองสามกิโลสบายมาก"
...เดินขึ้นดอยที่ไหนสองสามกิโลเมตร...ภีรวัสเบ้ปาก
"ไว้วันเสาร์อาทิตย์ผมว่าง จะพาไปครับ รับรองว่าสวยมากจนคุณทั้งสองคนต้องตาค้าง"
"จริงนะครับ ขอบคุณผู้กองมากครับ ธรรมชาตินี่มันสวยจริงๆ เฮ้อ...สดชื่น" อิศราดีใจ หันไปมองข้างทาง หลับตาพริ้ม สูดลมหายใจอย่างสดชื่น
ภีรวัสส่ายหน้า อิศรากำลังเดินหมากตาแรก คิดว่าวิธีนี้จะใช้ได้ผลเช่นครั้งที่ผ่านๆ มา เขากระแอมเบาๆ สองครั้ง สื่อสารกับเพื่อนสนิทที่มีเพียงเขากับอิศราเท่านั้นที่เข้าใจกันว่า ‘ตอแหล’
"เป็นอะไรหรือภีร์" อิศราหันหน้ามาเบาะหลัง ยิ้มบางๆ ทำหน้าตาห่วงใย "อะไรติดคอ หรือไม่สบาย บอกแล้วว่าอย่านอนดึก"
ภีรวัสเหลือบตาขึ้นมอง บอกตัวเองว่ายอมอิศราไปก่อน เดี๋ยวค่อยคิดบัญชีเมื่อถึงที่พัก
"ภีร์เขาไม่ค่อยได้ออกมาสัมผัสธรรมชาติต่างจังหวัดครับ อยู่แต่กับแสงสีกรุงเทพฯ เลยป่วยบ่อยๆ" อิศราหันไปยิ้มอ่อนโยนให้กับวรุตม์
...ไอ้ก้อนอิฐ จะมากเกินไปแล้ว แหกกฏหรือไง...
ภีรวัสเข่นเขี้ยว หรี่ตามองเพื่อนตัวดีที่นั่งยิ้มแป้นอยู่ข้างคนขับ
กฏการแข่งขันข้อหนึ่งมีอยู่ว่า จะตอแหลอะไรก็ทำไป แต่ห้ามใส่ร้ายคู่แข่ง
...กล้าดียังไง...
จะว่าไป นายทหารหนุ่มคนนี้นับได้ว่าหน้าตาหล่อเหลาที่สุดในบรรดา 'เป้าหมาย' ทั้งหมดที่ทั้งสองเคยพบมา ท่าทางมีการศึกษา บุคลิก ลักษณะท่าทางดูดีมากกว่าทหารทั่วๆ ไป แม้แต่ผิวพรรรณก็ดูดี ที่สำคัญ 'นามสกุลใหญ่' ยศและชื่อที่ปักอยู่บนหน้าอกประกาศให้เห็นชัดเจน
ภีรวัสเริ่มตระหนักว่า เกมปั่นหัวให้รักรอบนี้ อิศราท่าทางจะต้องการชนะเป็นอย่างยิ่ง แบบนี้เดิมพันต้องสูง
ชายหนุ่มเริ่มใช้ความคิดวางแผนกลยุทธ์ว่าจะสู้กับอิศราแบบไหนดี เพื่อนแสดงให้เห็นแล้วว่าไม่สนใจกฏกติกาทั้งสิ้น รูปแบบอาจจะต้องเปลี่ยนไป
...แบบนี้ต้องรอดูซักระยะ ค่อยหาทางแก้เกม ลองดูไปก่อนว่าอิศราจะมาไม้ไหน...
"พอดีทำงานหนักไม่ค่อยได้พักผ่อนครับ เชื้อโรคสกปรกเลยชอบเข้ามาติดคอโดยไม่มีเหตุผล" นักวิจัยหนุ่มจงใจกระทบ
ได้ผล อิศราขมวดคิ้ว รู้ว่าภีรวัสจงใจเปรียบเขาเป็นเชื้อโรค
...ข้อเสียของอิศราอยู่ตรงนี้ ใจร้อน ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยได้...
"แต่อยู่ที่นี่จะดีขึ้นครับ กรุงเทพฯ มลภาวะเยอะ ที่แค้มป์สนอากาศสดชื่น สูดโอโซนได้เต็มที่ ถือว่าเป็นการฟอกปอด"
"ใช่ครับ ฟอกปอด ยิ่งคนสูบบุหรี่ เที่ยวกลางคืนดึก ยิ่งต้องสัมผัสกับธรรมชาติ" ภีรวัสเออออ ถือโอกาสสั่งสอนผีเสื้อราตรีที่นั่งทำหน้ายิ้มระรื่นอยู่ข้างคนขับ ทำเป็นไม่สนใจที่เขาตั้งใจพูดกระทบ
"ผู้กองครับ ตอนกลางคืนที่นี่หนาวมากไหมครับ นี่พระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน แต่ก็รู้สึกเย็นๆ แล้ว" อิศราทำหูทวนลม ไม่ได้ยินคำพูดกระทบกระเทียบ
"ก็พอสมควรครับ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยหนาวเท่าไหร่ เดือนหน้าสิจะเริ่มหนาวมากกว่านี้ ตอนเช้าแทบมองไม่เห็นอะไรเลยครับ หมอกลงจัด"
"ได้บรรยากาศ ผมจะได้ตื่นมาถ่ายรูปแสงแดดยามเช้าที่ส่องกระทบน้ำค้างยามเช้าเป็นประกาย มีม่านหมอกเป็นฉากหลัง" อิศราพูด ตาเป็นประกาย
"ตื่นทันหรืออิศรา" ภีรวัสอดขวางไม่ได้
ทั้งที่เมื่อสักครู่อิศราทำเป็นไม่สนใจที่โดนกระทบกระเทียบ แต่คราวนี้ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่โดนเพื่อนขัดคออยู่เรื่อย "ทันสิ ปกติเราเป็นคนตื่นเช้าอยู่แล้ว" ชายหนุ่มพูดหน้าตาเฉย ก่อนหันไปยิ้มกับคนขับที่กำลังฟังทั้งสองคุยกัน "แต่บางวันก็สายบ้าง ถ้าทำงานดึก"
...เที่ยวดึกสิไม่ว่า...ภีรวัสต่อความอยู่ในใจ แทนที่จะพูดออกมา
...ปราณีอิศราเสียบ้างก็ดี นี่แค่ยกแรก ยังมีเวลาอีกหลายอาทิตย์...
ภีรวัสตั้งใจว่าเมื่อไปถึงที่พักต้องตกลงเรื่องกฏเกณฑ์กับอิศราเสียใหม่ เอาให้ชัดเจน เล่นมาสู้รบในรูปแบบกองโจรแบบนี้เขาไม่ชอบ
***1***
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 1 (31/8/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 31-08-2009 21:20:54
Chapter 2

อิศราเดินไปมาพลางอธิบายสถานการณ์และข้อตกลงให้เพื่อนที่นั่งฟังอย่างสงบ แต่แล้ว ในที่สุดภีรวัสก็ทนไม่ไหวเพราะอิศราพูดน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรงเช่นเคย
“สรุปแล้ว นายจะงาบผู้พันวรุตม์คนเดียว ใช่หรือไม่”
“ใช่” อิศรายอมรับหน้าตาเฉย ตอบเสียงชัดเจน “เราเห็นก่อน”
“ไม่แฟร์นี่นา” ภีรวัสบ่น
“ทำไมจะไม่แฟร์ ยูไม่เคยชอบคนในเครื่องแบบไม่ใช่หรือ” อิศราเสียงดังขึ้น
“ไม่นึกเลยว่าอิศราจะขี้ขลาดตาขาว จนถึงลดศักดิ์ศรีลงมาขอผู้ชายเสียดื้อๆ เพราะกลัวแพ้เพื่อน” ภีรวัสทำเสียงเยาะๆ ใช้กลยุทธ์เดิมซึ่งเคยใช้ได้ผลเสมอ อิศราไม่เคยอดทนกับคำสบประมาทได้เลย
“แกจะเอายังไงภีร์” อิศราเสียงแข็ง สรรพนามเรียกเพื่อนเปลี่ยนไปตามอารมณ์
“ก็อย่างเคย ใครดีใครได้” ภีรวัสยักไหล่
“ได้เลย แล้วอย่ามานั่งน้ำตาเช็ดศอกเพราะแพ้อิศรานะเพื่อน” อิศราพูดอย่างมั่นใจ “เพราะเราคิดว่า ผู้พันวรุตม์ปิ๊งเราล่ะ ยิ้มให้เราตลอด”
“เรียกยศเขาถูกแล้วหรือ” ภีรวัสเบ้ปาก “นี่ถ้าไม่ได้ยินเราเรียกว่าผู้พัน ยูก็คงเรียกเขาว่าจ่าต่อไปซินะ”
“รู้ได้เองโว๊ย ตอนแรกไม่ทันได้ยินเขาบอกยศ มัวแต่หลงมองใบหน้าหล่อๆ อกกว้างๆ กับเป้านูนๆ” อิศราอมยิ้ม
“แต่ก่อนอื่น ต้องทดสอบเสียก่อนว่าเขาเป็น PLU หรือเปล่า” ภีรวัสลุกขึ้นเดิน เอามือไขว้หลัง ท่าทางใช้ความคิด
“ต้องทดสอบทำไม แค่มองตาก็รู้แล้ว เราว่าเป็นชัวร์ เพียงแต่ปกปิดไว้มิดชิด แต่ดวงตาเป็นประตูของหัวใจ เรามองออก” อิศราแย้ง
“ทำเป็นเก่ง” ภีรวัสส่ายหน้า “แล้วตอนที่เกือบโดนอีตาเลขารัฐมนตรีเกือบเข้าให้ล่ะ มองตาเขาอีท่าไหนถึงอ่านผิด”
“ไอ้นั่นมันใส่แว่นตาหนาเตอะนี่หว่า มองเห็นไม่ชัด” อิศราแก้ตัว “ผิดเป็นครูไงล่ะภีร์ แต่ผู้พันวรุตม์เรามองไม่ผิด หัวใจเราสัมผัสได้ ว่าเขาก็กระหายไออุ่นจากตัวของเรา”
“แล้วกติกา” ภีรวัสถามย้ำ ทั้งที่รู้ดีว่าอิศราได้เปิดฉากไปแล้ว และแสดงให้เห็นว่าไม่สน ‘กติกา’ ที่เคยตกลงกันเป็นประจำ
“กติกาก็คือไม่มีกติกา no rules ลองทำแบบนี้ซักทีเถอะภีรวัส จะได้สนุกกว่าเดิม ท้าทายด้วย ชักเบื่อกฎเดิมๆ แล้วนะ” อิศราเบ้ปาก
ภีรวัสเอียงหน้าไตร่ตรองชั่วครู่แล้วพยักหน้า “แต่ก็อย่าให้ถึงขนาดสู้กันแบบกองโจรนะอิศรา ไม่งั้นจะหาว่าภีรวัสร้ายไม่ได้” นักวิจัยหนุ่มขู่เพื่อน
“ได้เลยพีวีซี คราวนี้ล่ะ จะได้รู้กันว่า ฉันหรือแก  you or me ข้าหรือเอ็ง ใครจะเป็นหนึ่งในยอดยุทธภพตลบหลังผู้ชาย ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“ใช้คำผิดนะคุณอิดโรย ต้องพูดว่า ยอดยุทธจักร หลอกให้รักแล้วทิ้ง” ภีรวัสแก้คำพูดของเพื่อนให้ถูก แล้วทั้งสองก็หัวเราะกันอย่างสนุกสนานเมื่อนึกถึงเหยื่อรายใหม่
เกมหัวใจจึงเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ ณ บัดนั้น!

‘เหยื่อรายใหม่’ ของหนุ่มเมืองกรุงทั้งสองกำลังเดินอยู่ข้างถนนกลางป่า พันโทวรุตม์เดินมาหยุดยืนอยู่หน้าเพิงไม้เก่าๆ ที่หญิงชาวบ้านกำลัวนั่งขายของป่าแล้วซื้อเนื้องูเพื่อนำกลับไปให้เพื่อนที่ค่ายทหาร
นายทหารหนุ่มยื่นธนบัตรใบละหนึ่งร้อยบาทให้หญิงวัยกลางคนและบอกว่าไม่ต้องทอนเงิน ทำให้คนขายยิ้มกว้างด้วยความดีใจและยกมือไหว้พร้อมกล่าวขอบคุณเสียยกใหญ่ นอกจากนั้นยังชมวรุตม์ว่าเป็นทหารหน้าตาดีและยังใจดีอีกด้วย พร้อมทั้งขออวยพรให้ได้แฟนสวยๆ มีลูกหลายๆ คน วรุตม์อมยิ้มแล้วเดินชมสินค้าที่ชาวบ้านนำมาวางขาย ก่อนจะหันหลังเดินย้อนกลับไปที่รถ แต่พลันก็ได้ยินเสียงชายหนุ่มสองคนเถียงกันดังแว่วๆ ภาษาไทยสำเนียงชาวกรุงเทพฯ ชัดเจน ทำให้วรุตม์หันไปมอง จึงเห็นว่าเป็นภีรวัสกับอิศรายืนอยู่ใต้ต้นไม้ไม่ไกลนัก ภีรวัสยืนกอดอก เอียงคอมองเพื่อนด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ส่วนอิศรายืนเท้าสะเอว ท่าทางกำลังอารมณ์เสีย

“ไอ้โง่ บอกแล้วก็ไม่เชื่อ เถียงอยู่ได้ เป็นไงล่ะ พระอาทิตย์มันไม่ยอมคอย ตกดินไปก่อนซะแล้ว พรุ่งนี้ต้องกลับมาอีก” อิศราน้ำเสียงฉุนเฉียว ก่อนจะหยุดพูดเพราะเห็นว่าภีรวัสไม่ตอบโต้ สายตามองเลยไหล่เขาไปด้านหลังพร้อมกับยิ้มบางๆ ทำให้อิศราหันไปมองด้วย และเมื่อเห็นว่าเป็นใครก็ปรับสีหน้าทันที
“สวัสดีครับผู้พัน กลางป่ากลางเขาแบบนี้ยังเจอกันได้อีก ป่ากลมจริงๆ นะครับ” อิศราพูดตลก แล้วหัวเราะเบาๆ
“ผมแวะซื้อของให้เพื่อนครับ” วรุตม์ตอบ ปรายตาไปมองภีรวัสพร้อมกับค้อมศีรษะให้ แล้วหันมายิ้มกับอิศรา
“มานานแล้วหรือครับ” อิศราถาม “ไม่รู้ว่ามาถึงทันได้ยินเราคุยกันหรือเปล่าน๊อ”
...เขาไม่เรียกว่าคุยหรอก เขาเรียกว่าทะเลาะ...
ภีรวัสเถียงเพื่อนอยู่ในใจ ก้มลงหยิบกระเป๋าที่วางกองอยู่บนพื้น รอดูท่าทีของอิศราอยู่ว่าจะทำอย่างไรต่อไป
“คือเรามาถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกดินครับ แต่พอดีผมเฟอะฟะ มัวแต่หานั่นหานี่ เลยช้าไป ไม่ทันภาพสวยๆ เป็นช่างภาพได้ยังไงไม่รู้” อิศราค้นของในเป้ ทำหน้ามุ่ย แล้วถอนหายใจ
...เล่นบทน่าสงสาร ทั้งที่เมื่อกี้โวยวายตำหนิเขาเสียยกใหญ่ ใครจะเล่นละครเก่งเท่าอิศราไม่มีอีกแล้ว...
ภีรวัสยังนิ่ง ปล่อยให้อิศราพูดอยู่คนเดียว ในใจคิดว่า พันตรีวรุตม์ดูเป็นคนสุขุมเยือกเย็น ไม่น่าจะชอบคนพูดมาก
“นี่ไม่รู้จะมีรถรับจ้างผ่านมาเมื่อไหร่ ชักจะหิวข้าวแล้ว” อิศราทำหน้าหนักใจ
...ตอแหล เมื่อกี้เพิ่งกินขนมกับผลไม้ในเป้ไปจนหมด ตามด้วยน้ำครึ่งขวด เรอออกมาเสียงดังจนเสือสิงห์กระทิงแรดได้ยินไปทั่วป่า...
“ผมไปส่ง ติดรถผมไปก็ได้ครับ” วรุตม์เสนอ
“อิศไปกับผู้พันเถอะ” ภีรวัสพูดขึ้นหลังจากยืนนิ่งมาตลอด
“อ้าว ทำไมล่ะครับ” วรุตม์เลิกคิ้ว
“ผมรอเพื่อน” ภีรวัสตอบสั้นๆ
...เล่นบทผู้เสียสละ ให้เพื่อนได้มีโอกาสอยู่กับชายหนุ่มที่หมายปอง วรุตม์ต้องพอมองออก อีกไม่นาน เขาจะเล่นบทผู้เสียสละอีกที แล้วสร้างประเด็นอะไรบางอย่างสะกิดใจวรุตม์ให้นึกย้อนกลับมาถึงเหตุการณ์วันนี้ วรุฒม์ก็จะนึกอะไรออก และเขาก็จะทำคะแนนได้เหนือกว่าอิศรา...
อิศราหันมามองภีรวัส หรี่ตาลงช้าๆ ประเมินท่าทีของเพื่อน พร้อมทั้งถามคำถามเพื่อนในใจ ซึ่งมีคู่หูอย่างภีรวัสเท่านั้นที่เข้าใจการสื่อสารเงียบๆ จากเขาได้ว่า...แกจะทำอะไรของแกวะ...
“พอดีลุงที่เราไปพักอยู่ด้วยเขายังไม่ออกมาจากปางตองครับ ยังอยู่ข้างในโน่นอยู่เลย” ภีรวัสหันไปด้านที่เพิ่งเดินออกมาจากถนนลูกรังเล็กๆ ซึ่งเขากับอิศราพลาดการจับภาพพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า “พอลุงออกมาแล้วไม่เจอ เดี๋ยวจะเป็นห่วง”
...ร้ายนักนะไอ้ภีรวัส ทำตัวเป็นคนที่ห่วงใยคนอื่น หวังจะเรียกคะแนนประทับใจ...
“งั้นผมรอเป็นเพื่อนภีร์ ผู้พันไปก่อนเถอะครับ” อิศราพูดเสียงนุ่ม หันไปยิ้มบางๆ ให้ภีรวัส “ขอบคุณนะครับ ผู้พันใจดีจริงๆ นี่ถ้าไม่ห่วงเพื่อน ผมจะไม่ยอมให้ผู้พันเสียน้ำใจเด็ดขาด”
“ผมรอด้วย จะได้ไปพร้อมกันทั้งหมด” วรุฒม์พูด
“อ๋อ ไม่เป็นไรครับ ลุงเขามีรถ” อิศรารีบตอบ แล้วมองภีรวัสด้วยหางตา เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเบือนหน้าออกไปด้านข้างเพื่ออมยิ้ม ซึ่งเขารู้ดีว่าท่าทางแบบนี้ คือท่าทางที่เพื่อนยิ้มเยาะเพราะเขาทำอะไรพลาดไป
...แหม พลาดครั้งเดียวมาทำเป็นเยาะ ใครจะนึกได้ทันวะ เมื่อครู่บอกว่ารอรถรับจ้าง ตอนนี้ความจริงก็คือว่า ‘ลุง’ ที่ ‘มาด้วยกัน’ นั้นมีรถ...
พันโทวรุฒม์ขอตัวกลับ แต่ก่อนจากไป นายทหารหนุ่มรูปหล่อที่กลายมาเป็น ‘เหยื่อรายใหม่ที่ยังไม่รู้ชะตากรรมตัวเอง’ รับอาสาว่าจะพาไปชมจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินสวยๆ จึงนัดให้สองหนุ่มมารอเขาที่ประตูทางเข้าหมู่บ้านในวันพรุ่งนี้ประมาณห้าโมงเย็น

อิศรามองตามรถของวรุฒม์ด้วยใบหน้าบึ้งตึง ก่อนจะหันมามองภีรวัสตาขวาง
“เป็นไงล่ะ ราชรถไปโน่นแล้ว เพราะแกจริงๆ อดได้นั่งรถสบายๆ แล้วนี่จะกลับยังไง ค่ำแล้ว ลุงของแกที่กำลังจะขับรถมารับ อีกนานหรือเปล่าล่ะถึงจะมา” อิศราเอาเรื่องเพื่อน
“แล้วทำไมไม่ไปกับเขา”
“ไปได้ยังไง ไอก็กลายเป็นคนทิ้งเพื่อนนะสิ เสียคะแนนชิบหายวายวอด” อิศราขึ้นเสียง
“งั้นก็อย่าบ่น” ภีรวัสเสียงเข้ม ยกเป้ขึ้นแบกแล้วสั่งเพื่อนด้วยคำเดียวสั้นๆ “เดิน”
อิศราฟึดฟัดเมื่อโดนดุนหลังให้ออกเดิน หนุ่มสำอางชาวกรุงที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเดินไปช้าๆ ปากก็บ่นไปตลอดทาง โดยมีภีรวัสคอยพูดแทรกสั้นๆ เป็นระยะ
“เอายังงี้ วิธีนี้อาจจะไม่ค่อยเวิร์คเพราะเกมการแข่งขันของเรายังอยู่ในขั้น implementation เราลองมากลับมาใช้วิธีการเดิมก่อน แล้วค่อยปรับเปลี่ยนนโยบาย” อิศราหันมาพูดกับภีรวัส “ผลัดกันคนละวัน”
“คนละวันได้ยังไง พรุ่งนี้ไปดูพระอาทิตย์ตกดินด้วยกันทั้งหมด” ภีรวัสแย้ง
“งั้นก็เหอะ หมายความว่า อีกฝ่ายที่ไม่ได้เป็นเจ้าของวัน ก็ให้ทำเฉยๆ อย่ายุ่ง อย่าแทรก อย่าทำคะแนน อย่าทำตัวเด่น ต้องเล่นกันแบบแฟร์ แบบว่านั่งเป็นตุ๊กตา ไม่มีชีวิต” อิศราเสนอทางออก
“แกคงทำได้หรอก” ภีรวัสเบ้ปาก
“เริ่มพรุ่งนี้ เป็นวันของเราก่อน” อิสราสรุปง่ายๆ
“แกเอาบรรทัดฐานอะไรมาสรุปว่าพรุ่งนี้เป็นวันของแก” ภีรวัสเสียงเข้ม
“เพราะข้าเป็นคนนำเสนอแผนการณ์ไงล่ะ” อิศราเสียงดังขึ้นทันใด “ข้าคิดได้ก่อน เพราะฉะนั้นควรได้วันไปก่อน อีกอย่าง พรุ่งนี้เป็นวันคู่ เอ็งก็รู้ว่าข้าถูกโฉลกกับวันคู่ แม่หมอก็เคยทัก จำไม่ได้หรือไง”
“แม่หมอทักว่าแกจะไร้คู่ อยู่เดียวดาย” ภีรวัสเตือนความจำ
“แล้วแม่หมอทำไมบอกว่าถูกโฉลกเลขคู่วะ” อิศราทำท่าคิด แล้วสะบัดหัว “ไม่รู้ล่ะ พรุ่งนี้วันคู่ เป็นวันของอิศราก่อน ภีรวัสเอาวันคี่”
“ขี้เกียจเถียง” ภีรวัสถอนหายใจ ยอมให้อิศราเช่นเคย
“จำไว้นะ ห้ามทำคะแนน” อิศราหันมาย้ำ
“เออๆ” ภีรวัสทำเสียงเหนื่อยหน่าย กรอกตาไปมา “ทีเมื่อวานบอกว่าสู้กันแบบไร้กติกา พอวันนี้เห็นท่าทางตัวเองจะแพ้ รีบเปลี่ยนกติกาใหม่เลยนะไอ้ก้อนอิฐ”
“แล้วค่อยกลับไปใช้ข้อตกลงอันแรก ดูสถานการณ์ situation เป็นบรรทัดฐาน หรือ ภาษาอังกฤษเรียกว่า ruler base ลองดูซักอาทิตย์ก่อนก็แล้วกัน” อิศรายักไหล่ ทำเป็นไม่สนใจคำเหน็บแนมของเพื่อนคู่หูก่อนจะพูดว่า “นี่ ภีร์ เราต้องเดินอีกไกลไหมเนี่ย มืดแล้วนะ เดี๋ยวได้เดินตกถนนกันหรอก”
“ห้ากิโลไมล์มั๊ง”
“โอ๊ย พระเจ้าช่วยกล้วยปิ้ง ห้ากิโลไมล์ขาดใจตายพอดี” อิศราโวยวาย “จริงๆ เล๊ย เสียดายราชรถที่ทหารรูปหล่อหุ่นดีขับให้นั่ง ทำไมอิศราจะต้องมาตกระกำลำบากเพราะไอ้เพื่อนสมองตื้นด้วยว๊า”
“เขาใส่ชุดทหารยังมองออกอีก”
“พรางแค่ไหน ตาเรดาร์อย่างอิศราก็มองทะลุ คนหุ่นดีนะพีวีซี เสื้อผ้ามันปกปิดไม่มิดหรอกน้อง” อิศราอวด แล้วเริ่มอธิบายรูปร่างของวรุฒม์ในจินตนาการของตัวเองอย่างละเอียดจนคนฟังทนไม่ได้
“หุบปากทีเถอะคุณอิฐศาลา ถ้าใช้เท้าเดินอย่างเดียวจะไม่เมื่อยเท่าเดินไปพูดไป”
“ไม่หุบ ใครจะทำไม” อิศราไม่ยอม ยังบ่นต่ออีกหลายกระบุงโกย จนใกล้จะถึงที่พักจึงหมดฤทธิ์ เดินโซซัดโซเซหอบแฮกๆ ตามหลังภีรวัส แทบจะไม่มีแรงหายใจ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 2 (31/8/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mayoomay ที่ 31-08-2009 21:27:54
จิ้มเรื่องใหม่ค่ะ  :z13:... ดูท่าทางจะดุเดือด
จะติดตามเป็นกำลังใจค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 2 (31/8/09)
เริ่มหัวข้อโดย: LoveNineTeen ที่ 31-08-2009 22:09:17
ว้าวววววววววววววววววววววววววววววววว เรื่องใหม่มาแล้ว  :mc4:

น่าติดตามเหมือนเดิม สุดท้ายเพื่อนจะรักกันเองป่ะ 55555


ปล.เค้ายังแอบหวังว่าจะได้อ่านลิงน้อยปากแดงตอนพิเศษอยู่นะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 2 (31/8/09)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 31-08-2009 22:37:57
ตามกันมาติด ๆ พี่นาย

เปิดเรื่องมาก็ฝุ่นตลบเลย คู้ซี้จะกลายเป็นศตรูก็คราวนี้แหละ

+1 เป็นกำลังใจ ให้พี่นายไว้ดูเล่น  :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 2 (31/8/09)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 31-08-2009 22:56:21

เข้ามาทักทายเรื่องใหม่คะ

แหม่ๆๆๆๆ  ทะเลาะกันเหมือนเพื่อนดิฉันเลย  แข่งกันแย่งจับผู้ชาย  คนหนึ่งก็เจ้าแผนการเหมือนพีวีซี  อีกคนก็อิศราชัดๆ

อ่านไป ก็เห้นหน้าเพื่อนลอยมา  ดีใจจังเลย

ขอบคุณนะคะที่ลงนิยายให้อ่านอีกครั้ง

เจ้สอง  :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 2 (31/8/09)
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 31-08-2009 23:02:01
เห็นเลขสวยเลยช่วยจิ้ม 1112 แล้ว :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 2 (31/8/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 31-08-2009 23:54:51
 :o8: กรี๊ดดดดดดดดดคุณก้อนอิฐ คุณพีวีซี
แต่ละชื่อ เฮ้ออออ ผู้พันจ๋า เลือกเอานะคะจะปล้ำใคร
แต่ละคนอ่อยกันคนละแบบ น่ารักอิอ่ะเป็นที่สุด

 :กอด1: +1 จัดให้คะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 2 (31/8/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Loidelohm ที่ 31-08-2009 23:59:45
ยางมะด้ายอ่านเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
จิ้มให้ตัวเลขเยอะๆไว้ก่อนนะครับ
ค่อยอ่านอีกที
พี่นายสบายใจยังครับ
สู้ ซู่ ส้า ซ่า เน้ออออออออออ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 2 (31/8/09)
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 01-09-2009 05:40:09
เข้ามาอ่านเรื่องใหม่ด้วยคนครับ

ไม่น่าเชื่อว่า ภีร์ กับ อิศ จะคบกันเป็นเพื่อนได้อะ อะไรจะแข่งขันกันขนาดน้านนนน



เป็นกำลัวใจให้ครับผม  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 2 (31/8/09)
เริ่มหัวข้อโดย: yaoifan ที่ 01-09-2009 08:15:28
มาเจิมและจิ้มเรื่องใหม่ ให้ค่ะ

นึกว่าจะหายไปนานกว่านี้

ขอบคุณที่ยังคิดถึงชาวเล้าค่ะ o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 2 (31/8/09)
เริ่มหัวข้อโดย: alterlyx ที่ 01-09-2009 08:40:24
สุดยอด ... เป็นเสือผู้ไม่เคยสิ้นลายจริง ๆ  o13
สำนวนและวาจาเชือดเฉิน ... ความคิดร้ายลึก ... เจตนารมย์ร้ายกาจแบบนี้
แค่อินโทรมาก็มันส์ส์ส์ส์ เหลือเกิน

 :L2: มารอตามอ่าน พ่อพีวีซี กะ ก้อนอิฐ ไปเรื่อยๆนะคะ ... ให้ 1 แทน กำลังใจ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 2 (31/8/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 01-09-2009 09:02:13
ขอบคุณสำหรับการต้อนรับครับ ต่อบทที่ 2 ให้จบนะครับ

ตลอดเวลาที่เดินทางไปชมพระอาทิตย์ตกดินภีรวัสทำตัวเป็นตุ๊กตา ไม่พูดไม่จาอะไรสักคำ แต่เขารู้ว่าวรุตม์แอบปรายตามองเขาบ่อยๆ เมื่อเป็นเช่นนี้เขาจึงค่อนข้างมั่นใจว่าคงเอาชนะอิศราได้ ดังนั้น จึงปล่อยให้อิศราทำคะแนนเต็มที่ แม้แต่ตอนนั่งมองพระอาทิตย์ลับเหลี่ยมเขาภีรวัสก็เอาแต่นั่งนิ่ง
“ดื่มน้ำไหมภีร์ เห็นนั่งเงียบ คงคอแห้ง” อิศราอดแหย่เพื่อนไม่ได้
...แกนั่นล่ะควรดื่ม พูดอยู่ได้ไม่รู้จักเจ็บคอ...
ภีรวัสส่ายหน้ายิ้มๆ แล้วเอนตัวลงนอนหงาย มองไปยังท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีทองเพราะดวงตะวันกำลังคล้อยต่ำลงเรื่อยๆ
“พระอาทิตย์สวยจังเลยนะครับผู้พัน สวยแบบนี้ไง ผมถึงได้รักและหลงไหลธรรมชาติจนอยากจะย้ายมาอยู่ต่างจังหวัด”
ทันใด เสียงภีรวัสไอขึ้นมาดังๆ เป็นการขัดจังหวะ ซึ่งมีเพียงตัวเองและอิศราเท่านั้นที่เข้าใจ
...ไอสองครั้ง คือ ตอแหล
...ไอสามครั้ง คือ หมั่นใส้มาก
...ไอติดต่อกันหลายครั้งเป็นชุดๆ คือการด่าเป็นชุดๆ แบบที่คนฟังต้องปิดหู เพราะทนฟังไม่ได้
“เป็นอะไรหรือภีร์ อะไรติดคอ” อิศราหันหน้ามาทำตาห่วงใย “เสียดาย ลืมพกลูกอมมาให้ด้วย”
“คุณภีรวัสคงจะหนาว” วรุตม์หันมายิ้มให้บางๆ “เดี๋ยวผมจะไปเอาเสื้อที่รถมาให้นะครับ”
พูดเสร็จ นายทหารรูปหล่อคมเข้มก็ลุกขึ้นไปที่รถ ทิ้งให้สองหนุ่มจ้องตากันเขม็ง
“หนาวไหมอิศ คงไม่หรอกมั๊ง แต่เราหนาวจริงๆ เลยรู้หรือเปล่า หนาวจนผู้พันต้องไปเอาเสื้อมาคลุมให้ เสื้อทหารเท่ๆ ของคนเท่ๆ สวมแล้วคงรู้สึกเหมือนเจ้าของเสื้อโอบกอดเอาไว้” ภีรวัสล้อเลียน
“เดี๋ยวไอหนาวบ้าง” อิศราตอบหน้านิ่งๆ เม้มปาก
“เลียนแบบ” ภีรวัสยิ้มเยาะ
“คราวนี้ผู้พันจะใช้อ้อมแขนของจริงโอบกอดเราไว้ ไม่ใช่อ้อมแขนแบบ virtual แบบที่แกจะได้”
“ผู้พันวรุตม์โอบแกเมื่อไหร่ ปลุกขึ้นมาดูหน่อยนะ จะนอนรอซักหลายตื่น อยากดูเป็นบุญตาเหมือนกัน อย่างน้อยก็ครั้งหนึ่งในชีวิต”
“ไม่ต้องมาเหน็บแนมเลยนะพีวี ขอประกาศให้รู้เดี๋ยวนี้ว่า ผู้พันวรุฒน์เป็นของข้า” อิศราทำท่าหวง
“ยังก่อน ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะ”
“ยังไงๆ ก็เป็นของอิศรา งานนี้อิศราชนะแน่ๆ”
ภีรวัสหัวเราะเยาะๆ ในลำคอแล้วถามอิศราที่มั่นอกมั่นใจนักหนาวา “สมมุตินะอิศ สมมุติว่านายได้ผู้พันแล้ว นายจะทิ้งภายใน 1 อาทิตย์เหมือนเคยหรือเปล่า”
“อืม” อิศราทำท่าคิด แล้วหันมาถามเพื่อน “แล้วยูคิดว่าไง ควรจะคงไว้ซึ่งกฏเดิมหรือควรปรับเปลี่ยนให้เข้ากับเป้าหมาย จะว่าไป ผู้พันก็เท่ ไม่เคยนึกเลยว่าหนุ่มต่างจังหวัดจะหล่อล่ำเร้าใจขนาดนี้”
...พันโทวรุฒม์ไม่ใช่หนุ่มต่างจังหวัด นามสกุลของวรุฒม์นั่นน่ะใหญ่ไม่ใช่เล่น อิศราไม่รู้อะไร...
“สองอาทิตย์ เมื่อเป้าหมายบอกรักแล้วมีเวลาเชยชมแค่สองอาทิตย์ แล้วต้องเลิกอย่างเด็ดขาด” ภีรวัสทวนกติกาด้วยน้ำเสียงและใบหน้าจริงจัง
“แล้วอีกคนห้ามตลบหลังกลับไปยุ่งกับของที่ถูกทิ้งแล้ว เข้าใจ๋” อิศราเติม ยกนิ้วชี้ขึ้นมาส่ายไปมาตรงหน้า เป็นท่าทางประกอบการตกลงกันกันด้วยคำพูดว่า ‘ห้ามแหกกฏเด็ดขาด’
***2***
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 2 (1/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: teenza ที่ 01-09-2009 10:06:34
 :mc4:

เข้ามาเจิมนิยายเรื่องใหม่ของคุณนาย มาไวดีจัง โฮ่ยคิดถึง :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 2 (1/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Resonance ที่ 01-09-2009 10:16:24
ตามมาอ่านๆ   อิอิ  :-[  :-[

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 2 (1/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: gboy ที่ 01-09-2009 10:39:40
คิดถึง(นิยาย)พี่นายที่สุด

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 2 (1/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 01-09-2009 11:35:24
สนุกดี
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 2 (1/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 01-09-2009 13:28:07
 :z3: ทำไมต้องจีบแล้วทิ้งงงง....ไม่เข้าใจจริงๆ
รักจริงๆบ้างไม่ได้หรือไงคุณพี่นาย..... :m16:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 2 (1/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 01-09-2009 13:43:35
นิยายใหม่มาแล้ววววววววววววววววววววววววววว
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ:
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 01-09-2009 14:12:33
สองหนุ่มคะ คิดรึว่า ผู้พันท่านจะเป็นพวก "หล่อล่ำ ปล้ำง่ายอ่ะ"
เผลอๆไม่เพื่อนอิฐ หรือเพื่อนภีร์เนี่ยแหละที่ต้องเป็นฝ่ายโดนปล้ำ
หรือว่าจะโดนพร้อมๆกันทั้งสองคน :laugh:

สู้ๆนะคะคุณนายยยยยยยย คุณนายลืมแปะกฏอ่ะคะ  :m23:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 2 (1/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 01-09-2009 16:43:40
:mc4:
+ 1 ฉลองให้กับเรื่องใหม่ของพี่นาย ><

เรื่องนี้เริ่มมาก็ลุ้นล่ะ
สองหนุ่มแย่งกันเองแบบนี้ ,, ระวังล่ะพันโทวรุฒม์จะเล่นตลบหลัง
ปรากฎได้ทั้งสองคน หรือไม่เอาเลยกันแน่ ? ฮ่าๆๆ ,,
นามสกุลใหญ่โตอีก โอ๊ววว  :-[

คนในเครื่องแบบอีกแล้ว พี่นาย   :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 2 (1/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 01-09-2009 21:46:30
แข่งกันมาแบบนี้ตลอดเลยเหรอเนี่ย หัวใจอับเฉาจังไม่เคยรักใครจริง  :call:

อยากอ่านมุมของผุ้พันตอนตลบหลัง 2 หนุ่มบ้างจังเลยพี่นาย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 2 (1/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 01-09-2009 21:57:12
ยังไม่ทันไร เพื่อนรักก็ฆ่ากันด้วยคำพูดแล้ว

พี่นายเนี่ย  o13 จริง ๆ แต่ยัง + มิได้ รอก่อนนะครับ

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ:
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 01-09-2009 22:35:55
สองหนุ่มคะ คิดรึว่า ผู้พันท่านจะเป็นพวก "หล่อล่ำ ปล้ำง่ายอ่ะ"
เผลอๆไม่เพื่อนอิฐ หรือเพื่อนภีร์เนี่ยแหละที่ต้องเป็นฝ่ายโดนปล้ำ
หรือว่าจะโดนพร้อมๆกันทั้งสองคน :laugh:
สู้ๆนะคะคุณนายยยยยยยย คุณนายลืมแปะกฏอ่ะคะ  :m23:
โดนพร้อมกันทั้งสองคนได้ไง น่าเกลียดเป็นที่สุด
ขอบคุณที่เตือนเรื่องกฏนะครับ ลืมอ่ะะ นึกว่าแปะไปแล้ว (ปกติเป็นคนไม่ค่อยชอบกฏเกณฑ์ ขอบแต่กด)  :pigha2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 2 (1/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 01-09-2009 22:46:41
^
^

โดนพร้อมกันทั้งสองคนได้ไง น่าเกลียดเป็นที่สุด
ขอบคุณที่เตือนเรื่องกฏนะครับ ลืมอ่ะะ นึกว่าแปะไปแล้ว (ปกติเป็นคนไม่ค่อยชอบกฏเกณฑ์ ขอบแต่กด)  :pigha2:

จริงอ่ะคุณนายยยยยยยยยยย เด๋วส่งคนไป :oo1: ซะนิ  :laugh:

รักษาสุขภาพด้วยนะคะ สู้ๆคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 2 (1/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 01-09-2009 22:59:02
3

ชายหนุ่มโชคร้ายผู้ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเดินกลับมาพร้อมกับเสื้อลายพรางสีเขียวเข้มสองตัว วรุฒม์ยังไม่รู้ว่าขณะที่เขาเดินกลับเอาเสื้อที่รถ ตัวเองได้เป็นหัวข้อของการถกกันระหว่างอิศรากับภีรวัสและเป็น ‘เป้าหมาย’ ใหม่ของเกมสนุกที่สองคนนี้เล่นกันอยู่เป็นประจำ
“ผมเอามาเผื่อคุณอิศราด้วยครับ กลัวว่าจะหนาว” วรุฒม์ยิ้ม แล้วนั่งลงตรงกลางระหว่างทั้งสองหนุ่ม “แล้วนี่จะเริ่มงานกันเมื่อไหร่ครับ”
“ก็ทันทีที่พร้อมครับ” อิศราตอบคลุมๆ
เสียงไอดังขึ้นเบาๆ เป็นจังหวะสองครั้งติดต่อกัน เงียบไปสองอึดใจแล้วไออีกสองครั้ง อิศราปรายตาไปมองภีรวัสอย่างขวางๆ เพราะโดนด่า
...ไอ้โง่ งี่เง่า ซื่อบื้อ เฟอฟะ...คำใดคำหนึ่งจำนวนสี่ค่ำที่ภีรวัสด่าเขาผ่านทางเสียงไอเพราะเขาตอบคำถามไม่ได้เรื่อง
“ไม่สบายหรือเปล่าครับ เห็นไอหลายครั้งแล้ว ผมรู้จักหมอคนนึง จะแนะนำให้” วรุฒม์ห่วงใย
“ไม่เป็นไรครับ แค่มีอะไรคันๆ สะกิดที่คอ เลยอดไอไม่ได้ ขอบคุณผู้พันที่เป็นห่วง กลับบ้านแล้วผมดื่มน้ำร้อนล้างสิ่งสกปรกออกไปก็คงหาย” ภีรวัสตอบด้วยใบหน้ายิ้มๆ
เสียงกระแอมดังขึ้นทางด้านซ้ายมือของนายทหารหนุ่ม เรียกร้องความสนใจให้วรุฒม์หันไปมอง
“คุณอิศราก็ดูท่าเจ็บคอเหมือนกัน สงสัยอากาศที่นี่ไม่เหมาะกับคนกรุงเทพฯ”
“เราคงเหมาะกับมลภาวะ เลยไม่มีภูมิต้านทานอากาศบริสุทธิ์” ภีรวัสพูดเล่นขันๆ ทำให้ผู้พันหนุ่มหัวเราะออกมา
...หล่อ เท่ เข้มบาดใจ ยิ่งเห็นรอยยิ้มกว้างๆ ยิ่งทำให้ใจแทบละลาย สมแล้วที่เป็นเป้าหมายระดับแพลตตินั่มของเขากับอิศรา...
อิศราเหยียบยิ้มมุมปากเล็กน้อย ไม่ค่อยจะรู้สึกขำกับมุขตลกของเพื่อน เขารู้ตัวดีว่าตัวเองฉลาดสู้ภีรวัสไม่ได้ บางทีพูดอะไรไม่ค่อยคิด หรือหลุดปากพูดเรื่องที่ไม่ค่อยได้เรื่อง
...ก็ไม่รู้จริงๆ นี่นาจะให้ทำยังไง คนคิดยังไงก็พูดออกมายังงั้น ไม่ได้คิดวางแผนเหมือนภีรวัส รายนั้น ในหัวเป็นไปด้วยแผนการณ์ซับซ้อน...
“เราคอยคนทำทางอยู่ครับ จุดแรกที่ต้องเดินทางไปคือดอยหัวหมด”
“ดอยอะไรชื่อแปลกประหลาด” อิศราแทรก
“ไกลมากนะครบ ต้องพักค้างแรมกันด้วย อย่างน้อยก็ต้องค้างกันในป่าระหว่างเดินทาง สองคืนสามวัน” วรุฒม์เป็นห่วง
“นอนกันในป่านั่นเลยหรือ” อิศราเบ้ปาก สีหน้าไม่สู้ดี
“ก็ต้องนอนในป่าสิครับคุณอิศ เรามาทำวิจัยนะ ไม่ได้มาท่องเที่ยวเธค” ภีรวัสชะโงกหน้าไปคุยกับเพื่อน
“ไอเป็นช่างภาพ ไม่ใช่นักเดินป่า”
“ไหนว่าชอบธรรมชาติไง” ภีรวัสดักคอเพื่อน
...เอาอีกแล้ว ไอ้ผีลาวัด ชอบกระแนะกระแหนอีกแล้ว...
อิศราถอนหายใจแรงๆ ลืมวางมาดอวดวรุฒม์ไปชั่วขณะ
“มีลูกหาบหรือยังครับ” วรุฒม์ถาม
“ไม่ต้องใข้ครับ ตั้งใจจะแบกเป้กันไปเอง” ภีรวัสส่าหน้ายิ้มๆ แล้วแอบมองอิศรา
...เดี๋ยวเถอะ ไอ้ก้อนอิฐต้องโวยวายแน่...
“ภีร์ ไม่ได้คุยกันแบบนี้มาก่อนนี่นา” จริงดังคาด อิศราโวยวายขึ้นมาเบาๆ เพราะอยู่ต่อหน้าวรุฒม์ แต่หากคุยกับเพื่อนสองต่อสอง ป่านนี้ภีรวัสก็คงต้องยกมืออุดหูไปแล้ว
“ทำไม กลัวลำบากหรือไง” ภีรวัสท้วง
“เปล่า” อิศรารู้ตัวว่าโวยวายมากเกินไป อาจจะทำให้วรุฒม์รู้สึกว่าเขาสำอางจนทำอะไรไม่ได้ เดี๋ยวจะเสียคะแนน “เราก็แค่ไม่ได้เตรียมอุปกรณ์เดินป่ามาครบทุกอย่าง ภีร์จะบอกกันหน่อยก็ไม่ได้”
“ผมให้ยืม ผมมีอุปกรณ์เดินป่าครบทุกอย่างครับ” วรุฒม์เสนอความช่วยเหลือ
“ถุงนอนด้วยหรือเปล่าครับ” อิศราถามเสียงนุ่ม แต่พลันก็นึกได้ว่าไม่น่าถามเลย ทหารที่มีอุปกรณ์เดินป่าทุกอย่างก็ต้องมีถุงนอนอยู่แล้ว
...เดี๋ยวเถอะ ไอ้พีวีซีได้เหน็บแนมอีกแล้ว...
“อ้าว อิศไม่ได้เตรียมถุงนอนมาเลยหรือ อุปกรณ์เบสิกเลยนะนั่น” ภีรวัสพูดขึ้นมาทันที
...ไอ้พีวี คอยดูนะ รอให้อยู่กันตามลำพังก่อนเถอะ พ่อจะลุยให้เละเลยทีเดียวเชียว...
“กลัวหนาว” อิศรายักไหล่ แล้วหันมาพูดกับนนายทหาร “แล้วถุงนอนของทหารก็คงหนากว่าถุงนอนพลเรือนจริงไหมครับ คงอุ่นดี ผมเป็นคนขี้หนาว ต้องการความอบอุ่น”
...ถุงนอนพลเรือน พูดออกมาได้ ตัวเองเคยจับถุงนอนซักครั้งหรือเปล่าก็ไม่รู้ อย่างอิศรานั่นหรือ เคยนอนแต่บนเตียงนุ่มๆ ในห้องเปิดแอร์เย็นฉ่ำ แล้วคลุมโปงด้วยผ้านวมหนาๆ...
“จะเอาอะไรบอกได้เลยนะครับ เดี๋ยวผมจะเอามาให้ พรุ่งนี้เลิกงานผมจะแวะ...”
“ผมไปเอาเองก็ได้ครับ” อิศรารีบแทรก
“จะไปเอายังไงอิศ รถก็ไม่มี” ภีรวัสขัดคอ วรุฒม์หัวเราะเบาๆ แล้วพูดกับอิศราว่า “เลิกงานผมมารับก็ได้ครับ ไปเลือกได้เลยว่าจะเอาอะไรบ้าง ผมพักที่กรมทหารไม่ไกลจากคุณสองคนเท่าไหร่”
“งั้นภีร์รอเราอยู่ที่บ้านนะ ไปจัดการเรื่องคนนำทางให้เสร็จๆ ไป เราไปกับผู้พันไม่นานหรอก” อิศรารีบดักทาง บอกภีรวัสกลายๆ ว่า
...อย่าได้คิดแหยมเป็นเด็ดขาด อย่าได้คิดจะตามไปด้วย...
“อืม พรุ่งนี้มันวันอะไรน๊า” ภีรวัสเตือนความจำเพื่อน
“วันพุธครับ” วรุฒม์ตอบ
“วันไหนก็ช่าง เราไม่สน” อิศรายักไหล่
ภีรวัสยอมเงียบ ไม่ขัดคออิศราอีกต่อไป แค่นี้เพื่อนของเขาก็คิ้วผูกโบว์แล้ว เย็นนี้คงถูกด่าเสียยกใหญ่ ข้อหาทำลาย ‘ความน่าพึงพอใจ’ ของอิศราในสายตาของเป้าหมาย
...เป้าหมายที่ชื่อพันโทวรุฒม์ คนแรกที่เขาเห็นว่าอ่านยากที่สุดในบรรดาเหยื่อของเกมสนุก ‘หลอกให้รักแล้วทิ้ง’ ที่เขากับอิศราเล่นกันมาตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย คนแรกที่เขายังไม่กล้าทำนายตอนจบเหมือนที่เคยทำเสมอกับเหยื่อคนอื่นๆ ก่อนหน้านี้...

พันโทวรุฒม์ แสนยานุภาพ จอดรถหน้าบ้านไม้หลังเล็กยกพื้นสูงที่แฝงตัวอยู่ท่ามกลางต้นไม้ร่มรื่น บ้านเงียบสนิทไร้เงาของชายหนุ่มผู้ร่าเริงทั้งสองคน
นายทหารหนุ่มยอมรับว่าภีรวัสกับอิศราเป็นสีสันให้กับชีวิตเงียบๆ ของเขาในตำบลเล็กห่างไกลความเจริญแห่งนี้ หลายเดือนที่เขามาทำงานในแถบภาคเหนือตอนบน เขาเริ่มจะรู้สึกเบื่อ งานที่ทำใกล้จะเสร็จแล้วแต่ก็ยังไปไหนไม่ได้ ต้องรอให้คนใหม่มารับช่วงต่อ ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน พันตรีหม่อมหลวงพล อัครเดชา ผู้เป็นทั้งเพื่อนและญาติทางฝ่ายมารดา
วรุฒม์ชะเง้อมองบนบ้านแล้วเดินอ้อมไปด้านข้าง ลัดเลาะตามแนวพุ่มไม้ไปหยุดยืนอยู่ลานลานหญ้ากว้างห่างจากตัวบ้านพอประมาณ มองดูอุปกรณ์แปลกๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนวางอยู่บนโต๊ะปีกไม้ตัวใหญ่ใต้ร่มไม้ครึ้ม ความจริงเขาไม่ค่อยเข้าใจเรื่องงานวิจัยที่ภีรวัสทำเท่าใดนัก อิศรานั้นเป็นช่างภาพ แต่มาช่วยภีรวัสทำงาน ทั้งสองดูสนิทกันแต่ก็ดูขวางๆ กันอยู่ในที เข้าทำนองเพื่อนรักเพื่อนคู่กัด
...น่ารักทั้งสองคน แต่ถ้าให้เลือก เขาก็พอจะมีใจให้คนหนึ่งมากกว่าอีกคน...
...แต่มีอะไรบางอย่างที่วรุฒม์รู้สึกแปลกๆ เขายังบอกไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ เขาคิดว่าสองหนุ่มไม่ได้แสดงท่าทีสนใจเขาแบบธรรมดาๆ อย่างที่คนอื่นที่แสดงความสนใจเขา...
"อิศราไปซื้อของยังไม่กลับครับ" เสียงหนึ่งดังขึ้นด้านหลัง วรุฒม์หันไปตามเสียงนุ่มของภีรวัสจึงเห็นว่าชายหนุ่มอยู่ในชุดเสื้อกล้ามสีดำ กางเกงยีนส์พอดีตัวสีซีด มีรอยปะอยู่สามสี่จุด
ภีรวัสมีมัดกล้ามพองาม ตอนแรกเขานึกว่ารูปร่างผอมเพรียวเพราะเห็นแต่สวมเสื้อผ้าตัวโคร่ง แต่ครั้นเห็นตอนนี้จึงรู้ว่าชายหนุ่มซ่อนรูปไม่เบา
...ผิวขาวสะอาด เนียน น่าลูบไล้...
...รอยยิ้มนั้นดูลึกลับ ราวกับซ่อนความในใจบางอย่างเอาไว้ อะไรที่เจ้าตัวไม่อยากให้เขารู้ หรือไม่อยากให้รู้ในตอนนี้…
"คุณภีรวัสกำลังทดลองอะไรหรือครับ นี่คงเป็นส่วนหนึ่งในงายวิจัย" วรุตม์ถาม
"เอ่อ...อธิบายยังไงดี" ภีรวัสเอียงหน้า พยายามเรียบเรียงคำพูด
"ยังไม่ต้องอธิบายก็ได้ครับ เรายังมีเวลาจะทำความรู้จักและคุยกันอีกนาน" วรุฒม์พูดยิ้มๆ "ถ้าคุณภีรวัสยังไม่รีบกลับกรุงเทพฯ เสียก่อน"
“ก็คงหนึ่งเดือนเป็นอย่างน้อย สามเดือนเป็นอย่างมากครับ” ภีรวัสตอบแล้วเดินเข้ามาใกล้นายทหาร ยิ้มให้บางๆ แล้วก้มลงหยิบท่อสเตนเลสยาวขนาดหนึ่งฟุตจำนวนสามท่อมาเสียบต่อกัน บิดเกลียวแล้วล๊อคให้แน่น วรุฒม์ยืนมองเงียบๆ สลับกับการมองหัวไหล่และต้นคอของชายหนุ่ม
“ไม่หนาวหรือครับ” วรุฒม์เอ่ยขึ้นมาเบาๆ
ภีรวัสส่ายหน้า สายตายังจับอยู่ที่อุปกรณ์ทดลองในมือ แล้วอธิบายว่า
“นี่คือตัววัดความสั่นสะเทือนของเปลือกโลก ต่อสายเข้ากับเครื่องนั้น” ภีรวัสชี้มือไปยังกล่องอลูมีเนียมที่วางอยู่บนโต๊ะ “แล้วก็นั่งคอยเป็นชั่วโมงๆ เพื่อสังเกตเข็มกระดิกไปกระดิกมา”
ภีรวัสประกอบอุปกรณ์ชิ้นใหญ่เสร็จแล้วเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้วรุฒม์ จากนั้นจึงประกอบอุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ วรุฒม์เดินเข้ามาใกล้แล้วชะโงกหน้ามองสิ่งที่นักวิจัยหนุ่มกำลังทำอย่างสนใจ จึงไม่รู้ว่ามีใครคนหนึ่งยืนมองอยู่อย่างไม่สบอารมณ์

อิศรารู้สึกอิจฉาภีรวัส ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าวรุฒม์แอบชำเลืองมองภีรวัสอยู่บ่อยๆ เขายอมรับในใจว่าเพื่อนของเขามีเสน่ห์กว่า ภีรวัสดูมี ‘มิติ’ มากกว่าเขา มีอะไรน่าค้นหา ในขณะที่เขาดู ‘แบนๆ’  ไม่มีเหลี่ยมมุมอะไรให้ตื่นเต้น อิศราแย้งตัวเองอยู่เสมอว่าเพราะเขาเป็นคนสนุกสนานร่าเริง ตรงไปตรงมา คิดอะไรก็พูดและแสดงออกไปแบบนั้น จึงกลายเป็นว่าเปิดเผยมากเกินไป ไม่เหลืออะไรให้ค้นหาเหมือนภีรวัสที่ดูลึกลับกว่า
...แต่เกมนี้เขาไม่ยอมแพ้ จะว่าไป หากนับสถิติกันจริงๆ เขามีคะแนนรวมชนะภีรวัสด้วยซ้ำ แต่เกมนี้คือจุดสุดยอด เหมือนแข่งโอเลมปิกส์ ไม่ใช่กีฬาแห่งชาติเหมือนที่ผ่านมา...
“ทำอะไรกันอยู่ครับ” อิศราทำลายความเงียบ พันโทวรุฒม์เงยหน้าขึ้นและหันมายิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน รอยยิ้มที่อิศราคิดว่าสามารถทำให้ทั้งกายและใจของเขาละลายได้ไม่ยาก
“หายไปไหนอิศ” ภีรวัสถามโดยไม่เงยหน้า ผู้พันมารอตั้งนานแล้วฦ”
“ไปถ่ายรูป” อิสราตอบสั้นๆ
“ไปกันหรือยังครับ” วรุฒม์ถามอิศราแล้วหันมาชวนภีรวัส “คุณภีรวัสไปด้วยกันไหมครับ ขากลับผมจะพาไปทานอาหารที่ร้านริมแม่น้ำ บรรยากาศสวยมาก อาหารก็อร่อย”
“เชิญตามสบายครับ ผมขอทำนี่ให้เสร็จ คงต้องใช้เวลาอีกพอสมควร” ภีรวัสเงยหน้าขึ้นมายิ้มบางๆ ให้วรุฒม์แล้วหันไปหาเพื่อนซี้แล้วส่งสายตาบ่งบอกความหมายว่า ‘เห็นไหมล่ะ วันนี้เรายอมให้เฉยๆ หรอก’
อิศราพยักหน้าแล้วชวนวรุฒม์เดินไปที่รถ ก่อนจะหันมาถามเพื่อนอย่างห่วงใยว่า “จะเอาอะไรหรือเปล่าภีร์ เราจะซื้อของมาฝากนะ จะรีบกลับ กลัวภีร์หิว”
...ไม่ต้องมาแกล้งทำเป็นห่วงใยหรอกอิศรา ร้อยวันพันปีเคยซื้อของกินมาฝากที่ไหน มีแต่จะให้เขาเตียมอาหารไว้รอละสิ นี่สงสัยกะทำคะแนน แสดงให้หนุ่มเห็นว่าเป็นคนห่วงใยเพื่อน...
“ขอบใจนะอิศ แต่ไม่ต้องหรอก เราทำอาหารเองก็ได้ จะทำอะไรอร่อยๆ ไว้รอนะ เผื่ออิศจะหิวตอนดึกๆ”
...เจอภีรวัสซะบ้างเถอะอิศรา ผู้พันวรุฒม์จะต้องทึ่งในตัวเราแน่...
“แค่ได้ยินก็อยากทานแล้ว” อิศราหัวเราะเบาๆ แต่นัยน์ตาลุกวาบ ในใจด่าเพื่อนว่า
...แกทำอาหารเป็นที่ไหน พูดออกมาได้ จะทำอะไรอร่อยๆ ไว้คอย เจียวไข่ก็ยังไหม้ ทำอะไรก็กินไม่ลง หนอยแน่ะ นี่คงคิดจะทำคะแนนกับวรุฒม์ละสิ คอยดูนะ กลับมาจะโวยวายให้ลั่นบ้าน...

วรุฒม์เชิญอิศราขึ้นรถแล้วขับออกมาจากบ้านพักของสองหนุ่ม นายทหารใช้ความเร็วปากกลาง ไม่นานก็เลี้ยวรถเข้ากรมทหาร อิศราหันไปมองรอบๆ อย่างตื่นเต้น สายตาสอดส่ายหาอาหารตา
...ทหารทั้งนั้นเลย เท่ๆ แมนๆ ลานตาไปหมด มิน่า ใครๆ ถึงได้ชอบคนในเครื่องแบบ...
“บ้านพักผมอยู่หลังค่ายครับ เข้าไปอีกไกลพอสมควร” วรุตม์พูดเสียงนุ่มนวล “แต่ผมขอแวะกองพันก่อน ไม่นานหรอกครับ ไม่กี่นาที”
“เชิญตามสบายครับ ผมจะนั่งรอที่รถก็ได้” อิศราหันไปมองตามมือของวรุฒม์ที่ชี้ไปยังอาคารข้างหน้า พลันสายตาก็เห็นทหารร่างสูงคนหนึ่งกำลังจะเดินขึ้นบันได หน้าตาหล่อคมเฉียบขาดพอๆ กับผู้พันวรุฒม์ ต่างกันตรงที่ใบหน้าขาวกว่าเห็นได้ชัด นายทหารคนนั้นชะงัก แล้วโบกมือให้ วรุฒม์โบกมือตอบ ส่วนอิศรานั้นส่งยิ้มกว้างให้ รู้สึกได้ทันทีว่าเห็นนายทหารหน้าขาวส่งรอยยิ้มพึงพอใจตอบกลับมา
...อะไรจะขนาดนั้น มาอยู่บ้านป่าบ้านดอยได้ไม่กี่วัน เจอเทพบุตรชุดเขียวเข้าให้ตั้งสองคน...
วรุฒม์จอดรถแล้วรีบเดินตรงไปยังอาคารสีขาว อิศราเห็นว่านายทหารคนใหม่นั้นมองเพื่อนและเขาสลับไปมา ในใจอยากจะเดินตามวรุฒม์ไปทันทีแล้วเข้าไปแนะนำตัวเอง
“ว่าไงรุฒม์ ไม่ได้เจอตั้งหลายวัน” พันตรีนายแพทย์วิษณุทักเพื่อน แล้วเหลือบตามองชายหนุ่มหน้าขาวที่นั่งอยู่ในรถของวรุฒม์
“สบายที่สุด ตอนนี้เราไม่ค่อยมีอะไรทำแล้ว นี่ก็รอแต่พล ไม่รู้จะมาถึงเมื่อไหร่” วรุฒม์ตอบ
“อิจฉาจริงๆ เราสิเหนื่อยแทบแย่ คนไข้ก็เยอะ” วิษณุถอนหายเบาๆ “อยู่ที่นี่ตั้งนาน ทหารก็ป่วยได้ป่วยดี เจอแต่ละคน ไม่อยากจะพูด ไม่มีอะไรสดชื่นให้มองเลย”
“งั้นก็ย้ายเข้ากรุงเทพฯ สิ ไปทำงานที่โรงพยาบาลภูมิพลฯ จะได้มีอะไรเจริญหูเจริญตา” วรุฒม์ประชดยิ้มๆ อดหันไปมองตามสายตาของเพื่อนไม่ได้ เพราะวิษณุพูดกับเขา แต่ตามองเลยไหล่เขาไปยังด้านหลัง
“ไม่ต้องแล้วล่ะ” วิษณุยักไหล่ ในใจอยากจะถามเพื่อนถึงคนที่นั่งอยู่ในรถนัก แต่ก็อดใจเอาไว้ได้
“เรามาเอาของ ต้องรีบไปแล้ว เอาไว้คุยกันที่หลังนะ” วรุฒม์รีบเดินเข้าไปในประตูทางเข้า ครั้นพอเดินไปได้ไม่เท่าไหร่ก็หันมาพูดกับเพื่อนว่า “ไว้มีโอกาสจะแนะนำให้รู้จัก”
วิษณุไม่ตอบ แต่กลับยิ้มกว้าง มองตามวรุฒม์ที่เร่งฝีเท้าเร็วกว่าเดิม
...แทบจะรอไม่ไหวแล้วเพื่อน อยากจะกระโดดลงบันไดไปแนะนำตัวเองเสียเดี๋ยวนี้...

อิศรานั่งรอวรุฒม์อย่างใจเย็นและสบายใจ ตามองซ้ายมองขวาดู “ประชากรชุดเขียว” เดินผ่านไปมาอย่างเพลิดเพลิน รู้สึกไม่เสียดายที่อุตส่าห์ ‘โกงโควต้าวันจีบหนุ่ม’ มาจากภีรวัส เขาได้อยู่กับวรุฒม์สองต่อสอง ได้ไปเยี่ยมบ้านพักของวรุฒม์ ได้เห็นทหารหนุ่มๆ แทบทุกวัยตั้งแต่หนุ่มน้อยจนถึงหนุ่มใหญ่ ได้พบนายทหารหล่อพอๆ กับวรุฒม์
...แค่ได้พบแค่นั้นหรือ แค่ได้มองอยู่ห่างๆ แค่ได้เห็นว่าฝ่ายนั้นส่งสายตาเจ้าชู้มาหาเขาในระยะหนึ่งหกสิบเมตรยังงั้นหรือ...
...ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่ได้ ต้อง ‘รู้จัก’ ไม่ใช่แค่ ‘เห็น’ เดี๋ยวเสียชื่ออิศราหมด...
ไม่ถึงห้านาทีวรุฒม์ก็กลับมาที่รถแล้วพาอิศราไปที่บ้านพัก ถุงนอนและอุปกรณ์เดินป่าของวรุฒม์วางอยู่ในห้องนั่งเล่นชั้นล่าง ทั้งสองใช้เวลาไม่นานก็ออกจากบ้าน มุ่งตรงไปยังหน้าค่ายทหาร วรุฒม์บอกว่าจะพาอิศราไปทานอาหารเพราะอิศราเผลอบ่นว่าหิว
...หิววรุฒม์ต่างหากล่ะ...
อิศราเผลอถอนหายใจอย่างเซ็งๆ เมื่อนึกถึงตอนที่เดินเข้าไปในบ้านพักของวุฒม์และมองเห็นพืชผักสวนครัวที่ปลูกเอาไว้บริเวณหน้าบ้านแล้วอุทานว่า ‘โอ้โห น่ากินจัง เห็นแล้วหิวขึ้นมาทันทีเลยครับ’
วรุฒม์บอกว่าพลทหารที่มาดูแลบ้านพักเป็นคนปลูกและบางครั้งก็ทำอาหารให้เขาทาน อิศราบอกว่าหากปลูกพืชผักสวนครัวแล้วมีอะไรพร้อมเพรียงขนาดนี้เขาก็จะทำอาหารทานทุกวัน
‘อยากทานเมื่อไหร่ก็ได้ทาน ผมจะทานทุกวันเลย เห็นแล้วรู้สึกหิว’ อิศราพูดไปหัวเราะไป ตามองต้นกล้วยหอมที่ออกผลดกเต็มเครือ วรุฒม์เลยชวนให้เขารีบออกจากบ้านเพื่อไปทานอาหาร ทั้งๆ ที่เขาอยากชวนนายทหารเข้าบ้านแล้วไม่ต้องออกมาอีก
เมื่อกำลังจะผ่านอาคารสีขาวหลังใหญ่ที่พบกับเพื่อนของวรุฒม์ อิสราก็มีความคิดดีๆ ขึ้นมาทันใด ในใจนึกถึงภีรวัส หากเพื่อนเขารู้ว่าเจอ ‘อีกคน’ ที่สุสีกับวรุฒม์ ภีรวัสคงชวนเขาเล่นเกม ‘แข่งกันจีบ’ แทนที่จะเล่น ‘แย่งกันจีบ’ อย่างที่กำลังทำอยู่
แทบทุกครั้งที่เล่นเกมสนุก เขากับภีรวัสจะมี ‘เหยื่อ’ สองคนเสมอ เขากับเพื่อนจะตกลงกันว่าจะใช้เวลาเท่าใดที่จะทำให้เหยื่อตกหลุมรักและบอกรัก และเมื่อคนโชคร้ายคนนั้นสารภาพรักก็จะต้องมีหลักฐานไปแสดงให้คู่แข่งรู้ว่าชนะแล้ว หลังจากนั้นหนึ่งอาทิตย์ก็จะต้องทิ้ง และห้ามหวนกลับไปคบกันอีก
“เกมบ้าๆ” ภีรวัสเคยบ่นเมื่อเล่นครั้งแรกๆ
“เกมบ้าๆ แล้วแกแข่งทำไม” อิศราตอกกลับ
“ก็ไม่อยากแพ้แกนี่นา” ภีรวัสให้เหตุผล
...วันที่ภีรวัสได้วรุฒม์ไปครอง เขาก็ต้องหง่าวอยู่คนเดียว เพื่อนของวรุฒม์นี่ล่ะจะเป็นตัวแทนแก้เหงาให้เราได้...
อิศราคิดอย่างชั่วร้าย ตั้งใจจะว่าจะจีบนายทหารรูปหล่อคนนี้ลองดู เขาแทบไม่ต้องสงสัยเลยว่าฝ่ายนั้นสนใจเขาหรือไม่ แม้จะยืนอยู่ห่างกันขนาดนั้น เพื่อนของวรุฒม์ก็ส่งสายตาหวานๆ มาให้ นัยน์ตาวิบวับนั้นแสดงออกถึงความในใจอย่างชัดเจน
“ไม่ชวนเพื่อนของผู้พันไปทานข้าวด้วยกันหรือครับ” อิศราหยั่งเชิง
“ใครครับ” วรุฒม์เลิกคิ้ว แล้วนึกออกทันที “อ้อ วิษณุ เห็นกำลังรีบ ผมยังไม่ได้แนะนำให้รู้จัก วิษณุเป็นแพทย์ทหารครับ ย้ายมาอยู่นี่ได้หลายปีแล้ว”
“ค่ายทหารมีคนเยอะจนต้องมีโรงพยาบาลเลยหรือครับ” อิศราถาม วรุฒม์จึงอธิบายเกี่ยวกับค่ายทหารให้ฟังอย่างคร่าวๆ อิศรารู้สึกเจ็บคอขึ้นมาทันใด จึงไอถี่ๆ จนวรุตม์หันมามองด้วยสายตาห่วงใย
"ท่าทางจะแพ้อากาศ ผมว่าคุณอิศราไปพบหมอดีกว่านะครับ โชคดีวิษณุเข้าเวรพอดี"
"ไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ พอกลับถึงบ้านก็หาย" อิศราตอบ ตามมาด้วยการไอพอเป็นพิธี
"หายนะหายแน่ แต่ผมว่าให้หมอดูก่อนดีกว่า ไม่ต้องเสียเงิน" วรุตม์เลี้ยวรถเข้าไปจอดที่หน้าอาคาร อิศราแกล้งทำอิดออดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะลงจากรถแต่ก็ยังยืนนิ่ง จนวรุฒม์แตะศอกของชายหนุ่มที่เกิดป่วยขึ้นมากระทันหันแล้วชี้มือไปยังอาคารที่อยู่ทางด้านซ้าย พยักหน้าให้อิศราเดินไปกับเขา
"ผมกลัวถูกหมอฉีดยา ไม่ชอบถูกฉีดยา มันเจ็บ" อิศราทำหน้าเหมือนเด็กกลัวหมอ
"อาการแค่นี้ไม่ถึงกับถูกฉีดยาหรอกครับ" วรุตม์ส่งยิ้มอ่อนโยน "มาเถอะ เดี๋ยวหมอจะกลับซะก่อน"
***3***

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 3 (1/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 01-09-2009 23:55:38
งานนี้น่าจะสองคู่ชู้ชื่นนะ :really2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 3 (1/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 02-09-2009 00:14:31
 o13 พ่ออิฐน้อย โกงวันจนได้สินะคนเราเด๋วเพื่อนรักก้อกลับมาคิดดอกทบต้นหรอก
ส่วนคุณภีร์ อ่อยเก่งจัง น่ารักอ่ะ มาดนิ่งๆ มีฟอร์มแต่ไม่ไว้ตัวเนี่ย น่าปล้ำได้อีก 555

+1 จัดให้คุณนายนะคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 3 (1/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: alterlyx ที่ 02-09-2009 08:31:22
คุณภีร์ น่าค้นหาจริงๆค่ะ  :impress2:
อิศรา ดูออกง่ายไปหน่อย พูดมากไปนิด

แต่รวมๆแล้ว ชอบรัก3เศร้า ... มากกว่า 2 คู่ชู้ชื่น อีกน๊า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 3 (1/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 02-09-2009 08:47:38
หืม... นี่ขนาดว่าอิศราเป็นคนตรงๆแล้วนะ ยังแอบมีแผนการซ่อนไว้ได้อีกนะเนี่ย ร้ายจริงๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 3 (1/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: yaoifan ที่ 02-09-2009 09:30:00
 :z13:ด้วยความหมั่นไส้ คุณเจ้านาย หรือจะเรียกว่า คุณนาย หรือ เจ้าคุณนาย ดี

เรียกคุณนายมันฟังแปลกๆ เรียก คุณเจ้านายค่อยดูดีหน่อย

หรืออยากจะให้เรียกอย่างอื่น อิอิ :z2:



หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 3 (1/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 02-09-2009 16:36:05
 o13 o13 o13



ชอบ มากมาย เรยยยย


อ่าน เเล้ว ไม่สาระ เรยยยย


ใข้ความคิด แบบ สุด ๆๆๆๆ เรยยย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 3 (1/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Zarch_Chabu_Chabu ที่ 02-09-2009 20:31:09
 :sad4:สนุกมากครับพี่นาย ดูมีชีวิตชีวามากเลย
ปล.ขอโทษที่หายไปนานนะครับ ตอนนี้จะกลับมาติดตามเหมือนเดิมหล่ะ ขยันๆต่อไปนะครับ :z2: :z2: o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 3 (1/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 02-09-2009 20:40:22
บทที่ 4 ครับ

Chapter 4

คนที่กลัวหมอยืนถอนหายใจเบาๆ เมื่อเดินมาถึงหน้าห้องพยาบาล หมอในชุดทหารสวมทับด้วยเสื้อกาวน์สีขาวกำลังฉีดยาเข้าไปที่ต้นแขนของทหารหน้าอ่อนนายหนึ่ง
...ดูดีๆ แพทย์ทหารคนนี้หล่อลากดินไม่แพ้ทหารคนที่พาเขาเข้ามา...
อิศราถอนหายใจช้าๆ บอกตัวเองว่ายอมเจ็บสักครั้ง แลกกับการได้ใกล้ชิดหมอทหารที่ห้าวเข้มถูกใจ
พันโทวรุฒม์รอจนทหารนายนั้นเดินออกมาจากห้องแล้วจึงเคาะประตู โผล่หน้าเข้าไปคุยอะไรสั้นๆ กับวิษณุ ก่อนจะหันมาหาอิศราแล้วบอกให้เข้าไปข้างใน
"ผมจะคอยอยู่ข้างนอก"
"เข้าไปด้วยกันสิครับ" อิศราชวน แต่กลั้นหายใจ ภาวนาขออย่าให้วรุฒม์ตามเข้าไปเลย
"กลัวหรือครับ แค่นี้เอง คงไม่ต้องให้ผมพาเข้าไปหรอก หมอคนนี้ใจดี" วรุตม์หัวเราะเบาๆ แล้วเปิดประตูให้ชายหนุ่มแล้วพยักหน้าให้อิศราเดินเข้าไป แล้วปิดประตูเบาๆ

พันตรีนายแพทย์วิษณุ สูงประมาณ 180 เซ็นติเมตร ผิวขาวจัดราวกับคนไม่เคยออกแดด ตาคมกริบ คิ้วเข้ม จมูกโด่งเป็นสันตรง คางบึกบึน ใบหน้าคมเข้ม สะอาด เกลี้ยงเกลา ยิ่งดูใกล้ๆ ยิ่งหล่อ
"สวัสดีครับคุณอิศรา อาการเป็นยังไงบ้างครับ" เสียงทุ้มๆ เนิบๆ ถามคนไข้ที่ยังยืนนิ่งไม่ไหวติง
"ก็เจ็บคอนิดหน่อยครับ" อิศราพูดเสียงเบาหวิว
"อะไรนะครับ" วิษณุได้ยินไม่ถนัด จึงเอียงหูเข้ามาใกล้
...กลิ่นตัวหอมมาก ใส่น้ำหอมด้วยหรือ ทหารอะไรฉีดน้ำหอมโปโล...
"เจ็บคอ" อิศราพูดค่อยกว่าเดิม
วิษณุยิ้มมุมปาก แล้วผายมือให้ชายหนุ่มร่างเล็กนั่งลงบนเตียงตรวจ อิศรายังไม่ขยับ นายแพทย์หนุ่มจึงแตะศอกคนไข้ให้รู้สึกตัว
"ขอตรวจหน่อยนะครับ" พลยกสเต็ทโธสโคปวางแนบลงบนอกของอิศราแล้วบอกให้ชายหนุ่มหายใจเข้าออกแรงๆ จากนั้นขยับไปด้านหลัง มือซ้ายแตะที่ไหล่ของชายหนุ่มเบาๆ ส่วนอีกมือสเต็ทโธสโคปวางแนบลงกับแผ่นหลังของอิศราซึ่งตอนนี้กำลังหายใจเข้าออกไม่เป็นจังหวะ
"หายใจเข้าครับ" เสียงทุ้มๆ สั่ง "แล้วหายใจออก"
อิศรารู้สึกประหม่า ได้ยินคำสั่งหมอแต่ทำตามไม่ถูก
"คุณอิศราครับ หายใจเข้าลึกๆ ครับ ไม่ต้องกลั้น"
"ผมเปล่า" อิศราตอบเสียงเบา
"หายใจเข้าออกเป็นจังหวะนะครับ" หมอวิษณุก้มลงพูดข้างหู
...ใจจะขาดอยู่แล้ว สั่นหวิวจนแทบไม่รู้สึกว่ากำลังเต้นอยู่ แต่ถึงหัวใจเต้นก็เต้นไม่เป็นจังหวะ...
...ทำไมรู้สึกแบบนี้...
..."ถอดเสื้อออกด้วยครับ"...
...อะไรนะ ต้องถอดเสื้อด้วยหรือ ตรวจแค่นี้เอง ไม่ได้เอ็กซเรย์ซักหน่อย แล้วจะต้องถอดกางเกงด้วยไหมเนี่ย...
"ต้องถอดด้วยหรือครับ" อิศราถามเพื่อความมั่นใจ
"ถอดอะไรครับ" วิษณุเลิกคิ้วแสดงอากาสงสัย
...ตายจริง เมื่อกี้หูแว่วหรอกหรือ...
อิศราอาย ใบหน้าร้อนผ่าว รู้สึกเงอะงะอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่เคยนึกเลยว่าคนที่ "คล่อง" อย่างเขาต้องกลายมาเป็นหนุ่มน้อยไร้เดียงสาวางท่าทางไม่ถูกเอาดื้อๆ นี่หากภีรวัสมาเห็น คงโดนล้อไม่จบสิ้น...
"แปลกจริง ตัวก็ไม่ร้อน ทำไมหน้าแดงๆ" วิษณุพูดเสียงค่อย ก้มหน้าลงมาใกล้แล้วพูดว่า "ขอตรวจช่องปากหน่อยนะครับ คุณอิศราอ้าปากกว้างๆ"
นายแพทย์หนุ่มหันไปหยิบไฟฉายและแผ่นกดลิ้น แต่อิศรารีบปฏิเสธ
"ผมไม่เป็นอะไรแล้วครับคุณหมอ คือว่ามันคันๆ คอนิดหน่อย แค่ไอค๊อกแค๊ก" พูดเสร็จ อิศราก็ไอให้ฟัง
"ถึงต้องดูช่องปากไงครับ" วิษณุยิ้ม ในมือถืออุปกรณ์เตรียมพร้อม
"แต่ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นแล้ว"
...แต่กำลังจะกลายเป็นโรคหัวใจแทน เห็นหน้าหมอหล่อขั้นเทพแบบนี้แล้วจะเป็นลม วรุตม์ก็หล่อ วิษณุก็หล่อ เวลาเจอคนหล่อเขามักควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้ รู้สึกมีพลังบางอย่างพุ่งออกมากระแทกจนเขาซวนเซ แทบจะลงไปนอนกองกับพื้น...
"อืม ผมวินิจฉัยไม่ได้ ตัวก็ไม่ร้อน คุณอิศราก็ดูสบายดี ไม่เห็นจะป่วยตรงไหน เพียงแต่หัวใจเต้นแรงผิดปกติไปหน่อย สงสัยต้องวัดความดัน"
...ไม่ต้องหรอกหมอ ถ้าวัดความดันตอนนี้คงพุ่งกระฉูดจนมาตรวัดแทบระเบิด หัวใจนั้นเล่า แม้เริ่มกลับมาเต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอบ้าง แต่ก็ยังเต้นแรงกว่าปกติอยู่ดี...
"คือว่า ถ้าผมนอนพักหน่อยก็คงหายมั๊งครับคุณหมอ" อิศราสรุปเอง วิษณุพยักหน้าเห็นด้วย แต่ก็ยังแสดงความห่วงใย
"พรุ่งนี้ถ้ารู้สึกไม่ดี ก็มาให้ผมตรวจนะครับ"
...อ๋อ มาแน่ นั่นมันเป็นแผนของเขาอยู่แล้ว ตามที่ตกลงกับเพื่อนคู่หู วันนี้เป็นวันของเขาที่จะได้ใช้เวลากับผู้พันวรุฒม์ พรุ่งนี้เป็นวันของภีรวัส เขาจึงว่างไม่มีอะไรทำ ที่ยอมเข้ามาในห้องตรวจก็เพราะอยากทำความรู้จักกับคนหล่อ เผื่อชวนออกไปเที่ยวด้วยกันในวันที่เขาว่างเว้นจากเกมหัวใจที่กำลังแข่งกับภีรวัสอยู่ จะได้ไม่นั่งเหงาอยู่คนเดียว...

เดี๋ยะมีต่อ ขอไปซิ่งมอเตอร์ไซด์กวนเมืองหน่อยนะครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 4 (2/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: gboy ที่ 02-09-2009 20:44:17
พี่นายครับ

เอาเรื่องจริงมาแต่งป่ะ

แล้วพี่นายเป็นก้อนอิฐแหง :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 4 (2/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 02-09-2009 20:47:30
มีไปซิ่งมอไซด์ก่อนอีกนะคุณพี่  :z3:
แหมแต่เจอหมอหล่อขนาดนี้ เป็นเราก็หัวใจเต้นไม่ปกติเหมือนกัน :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 4 (2/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: momentam ที่ 02-09-2009 20:51:36
มาเร็วๆ น๊าาาา
 :z2:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 4 (2/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 02-09-2009 20:55:30
ร้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยที่สุด
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 4 (2/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Zarch_Chabu_Chabu ที่ 02-09-2009 21:19:22
 :angry2:อย่างพี่นายอ่ะนะ ต้องเป็น ภีรวัส แน่นอน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 4 (2/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 02-09-2009 22:17:18
ไม่คิดว่าเราจะเป็นวรุฒม์บ้างหรือเนี่ย แถวบ้านใครๆ ก็ชมว่าผมสุภาพอ่อนโยนอบอุ่นเคร่งขรึมเป็นผู้ใหญ่  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 4 (2/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 02-09-2009 22:51:42

เอ่อ  คุณหมอวิษณุขา

แบบว่าเดี๋ยน  เอ่อ  เดี๋ยนปวดไตอะคะ  สงสัยคงต้องทั้งตรวจภายในภายนอก  อร๊ายยยยยยยยย  เขิน

อร๊างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

เจ้สอง  :-[

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 4 (2/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: tama_zaa ที่ 02-09-2009 23:20:55

เอ่อ  คุณหมอวิษณุขา

แบบว่าเดี๋ยน  เอ่อ  เดี๋ยนปวดไตอะคะ  สงสัยคงต้องทั้งตรวจภายในภายนอก  อร๊ายยยยยยยยย  เขิน

อร๊างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

เจ้สอง  :-[




เจ้ครับ

แบบว่า หมอวิษณุไม่ว่าง

เอาหมอพรทิพย์ก่อนได้ไหม

แบบว่า...เอ่อ...

/แอบหลบไปให้ห่างจากฝ่าเท้าเจ้สอง สามร้อยเมตร
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 4 (2/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 03-09-2009 03:05:03
โอย เจอทั้งทหารหล่อ ทั้งหมอหล่อโฮกแบบนี้
ใจไม่เต้นไม่รู้จะว่าไงแล้วค่ะคุณหมอ  :impress2:


ครบคู่แล้ว ! อิศรากับคุณหล่อนี่ล่ะเหมาะสม  :-[



พีเอส ,, เรื่องนี้ขอจบแบบเคลียร์ๆได้มั้ยอ่ะพี่นาย ,,
จบแบบเรื่องที่ผ่านมามันชวนจิ้นไปเอง อันนี้ขอแบบกระจ่างชัดนะ  o18
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 4 (2/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: beboy ที่ 03-09-2009 10:14:49
ชอบครับ  สนุกดี
ติดตามทุกเรื่องเลยครับ  ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 4 (2/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 03-09-2009 10:33:06
กรี๊ดดดพ่อก้อนอิฐพ่ายแพ้ต่อฟีโรโมนของคุณหมอหนุ่มซะราบคาบเลยนะคะ
อะไรกันแค่แตะนิดๆหน่อยๆถึงกับธาตุไฟจะแตกเลยรึคะ ครึๆ
แบบนี้ถ้าเพื่อนรักรู้ล่ะก้อคงหัวเราะเอาแย่ ไหนว่าเสน่ห์ของอิศราไม่เป็นสองรองใครไงล่ะคะ โธ่ๆๆๆ คราวหน้าแก้ผ้าใหม่ เอ้ยแก้ตัวใหม่นะคะ หนุ่มน้อย

+1 ให้คุณนายคะ เราว่าคุณนายไม่เหมือนคุณภีร์หลอกคะแต่คุณนายเหมือน ธงรบเรื่องโน้นมากกว่า เจ้าชู้ตัวป๋อ :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 4 (2/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mma419109 ที่ 03-09-2009 15:31:12
         ยังไม่ได้อ่านมาจิ้มโหวตให้ก่อน ช่วงนี้เนตไม่ค่อยปกติอ่ะ


           :man1:คิดถึงน้องชายเสมอนะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 4 (2/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 03-09-2009 15:44:56
มีตัวละครมาเพิ่มอีก 1 แอบเชียร์ภีรวัสนะพี่นาย อะหุๆ  :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 4 (2/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 03-09-2009 21:32:45
มาต่อบทที่ 4 ครับ พิมพ์ได้ช้ามากครับเพราะกำลังแก้วิดยานิพนไปด้วย ตอนนี้แก้เสร็จแล้ว รออาจารย์ตรวจงานก็คงจะมีเวลาพิมพ์ที่เขียนๆ ไว้ล่ะครับ ไว้กลับจากต่างจังหวัดจะมาโพสต่อนะครับ หรือถ้าไปต่างจังหวัดแล้วหาเน็ตเล่นได้ก็จะโพสให้อ่านกันครับ
รับรองว่าตอนจบเรื่องนี้กระจ่างแจ้งแดงแจ๋ชัดเจนแจ๋วแหววไม่เหลืออะไรให้ต้องจินตนาการอย่างแน่นอนที่สุดเลยทีเดียวเชียว
ป.ล. เรื่องนี้เป็นนิยายจินตนาการล้วนๆ ไม่ได้อ้างอิงจากชีวิตหรือบุคลิกลักษณะนิสัยของผู้ใดทั้งสิ้น ตัวละครทุกตัวในเรื่องสร้างขึ้นมาหมด
 :pig4:  :กอด1:

ต่อ บทที่ 4

...อ๋อ มาแน่ นั่นมันเป็นแผนของเขาอยู่แล้ว ตามที่ตกลงกับเพื่อนคู่หู วันนี้เป็นวันของเขาที่จะได้ใช้เวลากับผู้พันวรุฒม์ พรุ่งนี้เป็นวันของภีรวัส เขาจึงว่างไม่มีอะไรทำ ที่ยอมเข้ามาในห้องตรวจก็เพราะอยากทำความรู้จักกับคนหล่อ เผื่อชวนออกไปเที่ยวด้วยกันในวันที่เขาว่างเว้นจากเกมหัวใจที่กำลังแข่งกับภีรวัสอยู่ จะได้ไม่นั่งเหงาอยู่คนเดียว...

พันโทวรุฒม์จอดรถลงหน้าบ้านพักของอิศรากับภีรวัส บ่ายนี้เขาชวนทั้งสองหนุ่มไปเที่ยวทุ่งดอกบัวตอง อิศรากับภีรวัสดูตื่นเต้นมากเพราะไม่เคยเห็น แต่เมื่อตกลงเวลาแน่นอน อิศรากลับบอกให้ภีรวัสไปคนเดียว
วรุฒม์รู้สึกแปลกใจ ทุกครั้งที่เจอกัน เขามักจะเห็นสองหนุ่มอยู่ด้วยกันเสมอ แต่เมื่อเขาเข้าไปหา คนใดคนหนึ่งจะแยกตัวออกไปเงียบๆ ไม่อิศราก็ภีรวัส
“คุณอิศราไปไหนครับ" วรุฒน์ถามภีรวัส
“นอนหลับอยู่ครับ" ภีรวัสตอบยิ้มๆ ขณะที่ก้มลงผูกเชือกรองเท้า
“คุณอิศราน่าจะไปด้วย รับรองว่าต้องได้ภาพสวยๆ"
“ผมก็ชวน แต่ว่าอิศเกิดง่วงนอนขึ้นมาเฉยๆ สงสัยเมื่อคืนนอนน้อย" ภีรวัสให้เหตุผล
“ถ้ายังงั้น คืนนี้ฝากคุณภีรวัสเตือนคุณอิศราให้นอนเยอะๆ พรุ่งนี้วันเสาร์ผมจะพาไปเที่ยวน้ำตก เห็นบอกว่าอยากเล่นน้ำตกไม่ใช่หรือครับ"
“รบกวนผู้พันจังเลย" ภีรวัสทำหน้าเกรงใจ
“รบกวนที่ไหนกัน วันหยุดผมก็ออกเที่ยวเป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ไปแล้วจะเสียดายนะครับ น้ำตกสวยมาก ไม่ค่อยมีใครรู้จัก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยยังไม่ได้ประชาสัมพันธ์ด้วยซ้ำ คุณอิศราไม่ควรพลาด ฝีมือถ่ายภาพเก่งๆ ต้องได้ภาพสวยๆ" วรุฒม์ย้ำเรื่องถ่ายภาพอีกครั้ง
“ถ้ายังงั้นคืนนี้ผมจะกำชับให้อิศรานอนให้เต็มอิ่ม" ภีรวัสพยักหน้า
วรุมฒ์อมยิ้มแล้วผายมือเชิญภีรวัสให้ไปขึ้นรถ นายทหารออกรถช้าๆ แล้วชวนภีรวัสคุยถึงเรื่องการวิจัย และจบลงด้วยการถามคำถามที่เขาสงสัย
“หรือว่าคุณอิศรารู้สึกประดักประเดิดที่อยู่ด้วยกันทั้งสามคน"
“เปล่า เปล่านะครับ ไม่มีอะไร" ภีรวัสรีบปฏิเสธ
“ผมก็ถามไปยังงั้น ไม่มีอะไรเหมือนกันครับ เพียงแต่แปลกใจที่เวลาเจอกัน ไม่คุณก็คุณอิศรามักจะปลีกตัวออกไป" วรุฒม์พูดตรงๆ
ภีรวัสอมยิ้ม ไม่รู้จะตอบผู้พันวรุฒม์ว่าอย่างไรดี ในใจก็คิดว่าเมื่อกลับไปถึงบ้านเห็นทีจะต้องคุยกับอิศราเสียแล้ว

ทันทีที่ภีรวัสกลับมาถึงที่พักก็รีบวิ่งขึ้นบันไดมาคุยกับอิศราเรื่องวรุฒม์
"ผู้พันวรุฒม์ฉลาดกว่าที่คาด แค่ไม่กี่วันเขาก็สงสัย ถ้าเป็นแบบนี้ ไม่นานคงความแตก" ภีรวัสแสดงความเห็น
อิศรานั่งลงบนเก้าอี้ ตามองไปยังความมืดข้างนอกบ้าน แล้วพูดว่า "เราต้องเปลี่ยนแผน ทำเหมือนที่ตกลงกันตอนแรก จีบพร้อมกันซะเลย ใครดีใครได้ คนชนะเอาผู้พันไป"
"จะดีหรืออิศ"
"กลัวละสิท่า ยอมแพ้ตอนนี้เลยก็ได้นะคุณผีลาวัด" อิศรายิ้มเยาะ
"ไม่มีทาง คนอย่างภีรวัสหรือจะกลัวคุณอิฐศาลา" ภีรวัสรีบสวน
สองหนุ่มยืนประจันหน้า ตามองตาอย่างไม่ยอมกัน
"กำหนดเวลาเลยไหมละ มีเวลาหนึ่งเดือน ต้องทำให้ผู้พันวรุฒม์บอกรักให้ได้" ภีรวัสท้า
"ได้เลยภีร์" อิศรารับคำท้า "เกมนี้ถือว่าเป็นสุดยอดการแข่งขันตั้งแต่เรารู้จักกันมา ว่าแต่ว่าไม่มีรางวัลเดิมพันหรือไง"
"เทรดมิลหนึ่งเครื่อง" ภีรวัสเสนอของที่ตัวเองอยากได้เพราะลู่่วิ่งสายพานที่บ้านเริ่มเก่าแล้ว
"ไอ้บ้า เล่นกันเป็นแสนเลยหรือวะ" อิศราโวยวาย "เอาแค่เลี้ยงดินเนอร์ที่ร้านแพงที่สุดในกรุงเทพฯ ไม่ก็ตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวเกาะสมุยซักในไม่ได้หรือ"
"กลัวแพ้ละสิ" ภีรวัสยิ้มเยาะอิศราบ้าง
"No street ไม่มีทาง คนอย่างอิศราไม่เคยหวั่น เอางั้นก็ได้ ใครแพ้ ซื้อเทรดมิลให้คนชนะ เอายี่ห้ออะไรดีว๊า" อิศรารับคำท้าแล้วเอียงคอทำท่าคิด
"Nautilus นำเข้าจากอเมริกา" ภีรวัสยิ้ม ทำตาฝันเฟื่อง
"เอาลักกี้เฟลมก็พอแล้ว" อิศรากระแทกเสีียงแดกดัน "จะลงทุนกันมากไปหรือเปล่าเนี่ย"
"ไม่มากไปหรอก อย่าลืมนะ คนนี้ถือว่าเป็นเหยื่อประเภทกระดูกชิ้นโตที่สุด"
"ฉันไม่ชอบแทะกระดูก ฉันชอบเอ็น" อิศราขยิบตาแล้วหัวเราะชอบใจ "เอายี่ห้อที่เขาขายตามห้างเซ็นทรัลเถอะ ที่พูดนี่ไม่ใช่กลัวแกหรอกนะ และไม่ได้กลัวแพ้ด้วย แต่สนับสนุนรัฐบาล ไทยช่วยเศรษฐกิจไทย"
"ได้" ภีรวัสพยักหน้า เริ่มจะรู้สึกเสียดายเงิน ไม่ว่าจะเป็นเงินตัวเองหรือเงินเพื่อน "กลับไปกรุงเทพฯ ต้องรีบเคลียร์พื้นที่ห้องนั่งเล่นรอเทรดมิลล์เครื่องใหม่ซะแล้ว"
ภีรวัสหัวเราะ ทำหน้ามั่นใจเต็มที่จึงโดนเพื่อนชกเข้าที่ต้นแขน
"อย่ามั่นใจมากนัก จำไม่ได้หรือว่าสถิติอิศราดีกว่าพีรวัส" อิศราเตือนความจำ
"อ๋อ แน่ล่ะ แกใช้วิธิสกปรกมอมเหล้าเป้าหมายด้วยนี่หว่า"
"แกไม่ได้ห้ามไม่ให้ใช้อุปกรณ์ประกอบการแข่งขันนี่นา บอกแล้วไง ใครดีใครได้" อิศรายักคิ้ว ก่อนจะหัวเราะเสียงดังลั่น
"แต่คราวนี้สถิติจะต้องเปลี่ยนแปลง" ภีรวัสประกาศพร้อมชูมือขึ้น "เราจะต้องเป็นผู้คว้าชัยในโอลิมปิกส์แม่สะเรียงเกมส์"
"อย่าฝัน" อิศราท้วง ดึงมือเพื่อนลง
เสียงหัวเราะของสองหนุ่มดังประสานกัน ตามด้วยเสียงพูดทับถมอีกฝ่ายดังแทรกขึ้นมาเป็นระยะ เกมสนุกของภีรวัสกับอิศรากำลังเข้าสู่ช่วงเข้มข้น
...เกมสนุกรอบใหม่ที่มีโอกาสพลิกผันแบบเดาตอนจบไม่ได้

อิศราอ้าปากค้างเมื่อเห็นรถของพันโทวรุฒม์จอดลงหน้าบ้านแต่ะคนที่ก้าวลงมาจากรถก่อนคือพันตรีนายแพทย์วิษณุ
"อาการดีขึ้นหรือยังครับ ทานยาตามแพทย์สั่งหรือเปล่า" วิษณุยิ้มกว้าง เดินเข้ามาใกล้อิศราแล้วชะงักไปชั่วครู่เมื่อเงยหน้าขึ้นมองบนระเบียงแล้วเห็นร่างของชายหนุ่มอีกคนเดินออกมาจากประตูบ้าน
"เพื่อนผมขอไปด้วย คุณอิศรากับคุณภีรวัสคงไม่รังเกียจ" วรุฒม์เดินตามมาหยุดยื่นอยู่ข้างวิษณุ แหงนหน้ามองภีรวัสที่กำลังเดินลงบันได
เมื่อภีรวัสลงมาถึงพื้น วรุฒม์แนะนำทั้งหมดให้รู้จักกัน ภีรวัสแอบหันไปทำตาขวางใส่อิศราเมื่อรู้ว่าวิษณุกับอิศรารู้จักกันมาก่อนแล้ว
"ทำไมไม่เล่าให้ฟัง" ภีรวัสแอบกระซิบข้างหูเพื่อนขณะเดินไปขึ้นรถ
"แกไม่ถามนี่หว่า" อิศรายักไหล่ ตอบเสียงเบาแล้วรีบเดินนำหน้าเพื่อไปให้ถึงรถก่อน แต่เมื่อไปถึง วิษณุเปิดประตูด้านหลังแล้วเชิญอิศราขึ้นนั่งคู่กับตัวเอง ภีรวัสยิ้มชอบใจ ปรายตามองเพื่อนพร้อมส่งรอยยิ้มเยาะให้ ก่อนจะขึ้นนั่งคู่คนขับ
...คราวนี้อิศราลำบากหน่อยล่ะ เพราะเขาสังเกตเห็นว่าวิษณุแสดงท่าทางสนใจอิศราอย่างเปิดเผย เพราะฉะนั้นจึงทำให้อิศราจีบวรุฒม์ไม่สะดวก...

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 4 ต่อ (3/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 03-09-2009 22:40:04

สองคู่ ชู้ชื่น อิอิ

อยากดูตอนที่ละครเรื่องนี้พลิกผลันคะ

ท่าจะมันส์  อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 4 ต่อ (3/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Zarch_Chabu_Chabu ที่ 03-09-2009 23:03:28
บอกได้คำเดียวว่าแร้งงงงงงงค์!
ปล.พี่นายครับงานวิจัยผมก็ใกล้จะเสร็จแล้วนะครับ สงสัยจะได้รับปริญญาพร้อมกันแน่เลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 4 ต่อ (3/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 03-09-2009 23:24:12
เฮ้อ คุณหมวิษณุท่าทางจะติดใจคนไข้ที่ป่วยเก๊นะเนี่ย
ตามมาดูใจถึงที่เลย หมอกัน แผนการรุกคืบพร้อมๆกับเพื่อนภีร์มีอันโดนคุณหมอมาเป็นตัวแปรของแผนการแล้วมั๊ยล่ะ
ส่วนท่านผู้พัน ฉลาดจังเลยนะแต่จริงๆการสลับกันแบบโจ่งแจ้งแบบนี้อ่ะก้อจับสังเกตได้ไม่ยากหรอกเนอะ
หนุ่มน้อยล่าสวาทเปลี่ยนแผนรุกพร้อมกันนะดีแล้ว จะได้เสร็จเป็นแพคคู่  :m20:

สู้ๆนะคะคุณนาย :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 4 ต่อ (3/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 03-09-2009 23:27:05
คู่นี้ท่าทางชุลมุนดี แต่คุณพี่นายสัญญาเรื่องตอนจบค่อยเบาใจหน่อย
ไอ้เรื่องก่อนๆคาใจมากมายจนบัดนี้ :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ:
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 07-09-2009 02:02:13
ผู้พันคร่า จะจีบใครเลือกเอาเลยนะคะก่อนตลาดจะวาย  :laugh:
ส่วนคุณหมอคะ ชอบใครเลยลุยเลยคะ

ปล.รอคอยเดะแว๊นซ์ต่อไปคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 4 ต่อ (3/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Fujitaga ที่ 07-09-2009 10:39:56
ดูท่าสับรางกันลำบากหน่อยนะคับ
แต่ก็แข่งขันกันสุดฤทธิ์

อย่าให้พลิกคู่อีกนะคับ  งานนี้อะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 4 ต่อ (3/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 07-09-2009 11:34:46
งานนี้สองคู่แหงมๆ แต่ไม่เอาแบบเรื่องที่แล้วน่ะ ยังแอบมึนอยู่เลย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 4 ต่อ (3/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 07-09-2009 15:42:02
สับรางไม่ทันแล้ว 5555  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 4 ต่อ (3/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 07-09-2009 18:39:53
แหมแข่งกันเรื่องความรักแบบนี้



สุดยอดจิงๆๆๆ



แต่งานนี้ท่าจะเหนื่อยวรุตน์ท่าจะรู้แกว
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 4 ต่อ (3/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 09-09-2009 00:41:20

ห้าวันแล้วที่ฉันรอเธออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ

เจ้สอง  :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 4 ต่อ (3/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 09-09-2009 09:44:00
 :sad4: รอด้วยคน หายไปซิ่งมอไซด์ที่ไหนเนี่ย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 4 ต่อ (3/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: teenza ที่ 09-09-2009 12:03:56
"ฉันไม่ชอบแทะกระดูด ฉันชอบเอ็น" เอ็นไรเหรอ  :-[

อ่านแล้วเชียร์ ให้พีวีซีคู่กับวรุฒ และก้อนอิฐคู่กับวิษณุ

อย่าขัดใจผมนะคุณนาย ขอร้องนะเนี่ย อิอิ o18
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 4 ต่อ (3/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 09-09-2009 13:05:37
สวัสดีครับ มาต่างจังหวัดครับ ตัดขาดจากโลกภายนอกไปชั่วขณะเพราะกล้ำกลืนฝืนทำวิดยานิพน แต่แอดไวเซอร์ให้รื้อทำใหม่อีกแล้ว แววจะเสร็จสมบูรณ์ในสิ้นเดือนนี้ไม่ค่อยจะแจ่มใสเท่าไหร่นัก
ว่าแล้วก็โพสนิยายซะเลย หายเซ็งไปอีกล่ะ
เพิ่งรู้ว่าใช้มือถือต่อเข้ากับคอมแล้วใช้เน็ตของมือถือผ่านคอมได้ด้วยล่ะ จีพีอาร์เอสทำแบบนี้ก็ได้


บทที่ 4 ต่อให้จบบทแล้วครับ

"แกไม่ถามนี่หว่า" อิศรายักไหล่ ตอบเสียงเบาแล้วรีบเดินนำหน้าเพื่อไปให้ถึงรถก่อน แต่เมื่อไปถึง วิษณุเปิดประตูด้านหลังแล้วเชิญอิศราขึ้นนั่งคู่กับตัวเอง ภีรวัสยิ้มชอบใจ ปรายตามองเพื่อนพร้อมส่งรอยยิ้มเยาะให้ ก่อนจะขึ้นนั่งคู่คนขับ ในใจก็คิดว่าคราวนี้อิศราคงลำบาก เพราะเขาสังเกตเห็นว่าวิษณุแสดงท่าทางว่าสนใจอิศราอย่างเปิดเผย เพราะฉะนั้นจึงดึงความสนใจของอิศราไม่ให้จีบวรุฒม์ได้สะดวก
"คุณอิศราเคยล่องแพยางหรือเปล่าครับ" วิษณุหันมาถามอิศราหลังจากที่วรุฒม์เล่าเรื่องน้ำตกให้ฟังว่าการไปเที่ยวชมน้ำตกครั้งนี้เป็นการ 'อุ่นเครื่อง' ในการไปเที่ยวน้ำตกอีกแห่งที่อยู่ลึกเข้าไปในป่าและมีวิธีเดินทางเข้าไปถึงได้เพียงทางเดียวคือถ่อแพเข้าไป
"ไม่เคยครับ" อิศราตอบไปตามตรง "ภีร์ช่ำชองมากกว่า พายเรือเก่ง เขาชอบกีฬาทางน้ำ"
ภีรวัสที่นั่งสิ่งมาตลอดทางสะดุ้ง หันขวับไปมองเพื่อนเพราะโดนอิศราจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว
...อิศราจะมาไม้ไหนกันนี่ ก็รู้อยู่ว่าเขาว่ายน้ำไม่เป็น...
"เอ่อ ก็พอพายได้ครับ ไม่เก่งนักหรอก ถ้าน้ำเชี่ยวก็ไม่ไหวเหมือนกัน ผมไม่คุ้นกับแพยาง ถนัดแต่เรือแคนู" ภีรวัสออกตัว
"พายไม่ยากหรอกหรอก น้ำก็ไม่เชี่ยวจนน่ากลัว ที่สำคัญ มีคนเก่งอยู่ด้วยทั้งคน" วิษณุตอบยิ้มๆ แล้วชี้ไปยังวรุฒม์
"วิษณุก็เก่งครับ" วรุฒม์ตอบ
"วรุฒม์ผ่านการล่องแก่งระดับยากที่สุดของแม่น้ำหลายสายมาหลายประเทศ ปีนเขาก็เยี่ยม ไว้ว่างๆ ชวนกันไปปีนเขาก็ได้" วิษณุยังพยายามชวนไปเที่ยว
"ดีครับ น่าสนใจ" ภีรวัสรีบตอบ "ผมชอบปีนเขา อิศราก็ชอบเป็นชีวิตจิตใจ"
...ไอ้บ้า...อิศราทำปากขมุบขมิบใส่ภีรวัสเพราะฝ่ายนั้นรู้ดีว่าเขากลัวความสูง
"ดีเลยครับ" วิษณุหันมายิ้มให้อิศรา "ถ้ายังงั้นช่วงวันหยุดยาวสามวัน เราเข้าป่าไปแคมป์ปิ้งดีไหมครับ แล้วปิดท้ายด้วยการปีนเขา อ้อ โรยตัวลงไปชะง่อนผาดูพระอาทิตย์ตกดินด้วย ผมรู้จักที่หนึ่ง วิวสวยมาก ผมรับประกันว่าคุณอิศราจะต้องชอบ"
...ต้องช๊อคแน่ๆ สิไม่ว่า...
อิศรายิ้มแหยๆ ยังไม่กล้าปฏิเสธเพราะกลัวเสียคะแนน วรุฒม์หันมายิ้มแล้วพูดว่าเห็นด้วย
"ชอบเที่ยวกันจังเลยนะครับ" อิศราพูดยิ้มๆ หันไปมองวรุฒม์กับวิษณุสลับไปมา แล้วแอบถลึงตาใส่ภีรวัสที่นั่งทำหน้ายิ้มๆ ก่อนจะพูดว่า "พอเที่ยวปีนเขาเสร็จ คราวถัดไป ไปล่องแก่งน้ำเชี่ยวๆ กันดีไหมครับ คราวนี้ได้ผจญภัยครบทุกรูปแบบ"
...อย่าหวังว่าภีรวัสจะหวั่นนะอิศรา รู้ว่าเพื่อนไม่ถูกกับน้ำ จะมาชวนให้ล่องแก่ง กะจะทำให้เราขายหน้าวรุฒม์ละสิ...
ภีรวัสสบตาอิศรา สื่อสารกันเงียบๆ แบบที่เขาทั้งสองคนเท่านั้นที่เข้าใจกันและกัน
...จ้างให้ก็ทำให้เขาปีนเขาไม่ได้หรอก หัวเด็ดตีนขาดอิศราก็ไม่ยอมขาสั่นแขนสั่นแล้วกลายเป็ฯอัมภาตต่อหน้าวรุฒม์เด็ดขาด เสียคะแนนหมด...
...แล้วทำไมสองคนนี้ชอบเล่นอะไรกันโลดโผนนักนะ เฮ้อ ชอบทหารมันต้องเสี่ยงแบบนี้หรือนี่...
"เอ๊ะ เป็นทหารนี่ได้โดดร่มหรือเปล่าครับ" ภีรวัสเปลี่ยนเรื่อง ตั้งใจล้ออิศราเล่นให้รู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ
"ภีร์" อิศราทำเสียงปรามเพื่อน
"แชมป์ดิ่งพสุธาตัวจริงอยู่นี่แล้วครับคุณภีรวัส" วิษณุตบไหล่วรุฒม์
"อยากโดดร่ม" ภีรวัสพูดเบาๆ แล้วหันไปมองอิศราช้าๆ "นะอิศนะ คิดถึงตอนที่เราไปเที่ยวนิวซีแลนด์แล้วคิดถึงตอนที่อิศชวนเราไปโดดบันจี้จัมพ์ โดดร่มคงสนุกกว่าบันจีจัมพ์แน่ๆ เลย"
อิศรายิ้มอย่างเยือกเย็น แล้วตอบเพื่อนเบาๆ เช่นกัน "ใช่ ไว้ว่างๆ ชวนผู้พันไปโดดร่มกัน แล้วต่อด้วยไปดำน้ำลึกที่สิมิลัน นะภีร์นะ" อิศรากับภีรวัสพากันไปไกลเรื่อยๆ
วิษณุหัวเราะชอบใจที่ทั้งสองหนุ่มชอบการผจญภัยแบบเขากับเพื่อน วรุฒม์ไม่พูดอะไร เอาแต่อมยิ้ม แล้วหันไปสนใจกับการขับรถ แต่เขาแอบสังเกตเห็นแววตาของภีรวัสและอิศราที่มองกันแล้วก็อดสงสัยไม่ได้
...สองคนนี้คุยกันแปลกๆ...
***chapter 4****
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 4 ต่อ (3/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 09-09-2009 13:15:09
บทที่ 5

Heart Game Chapter 5

ภีรวัสและอิศราโบกมือให้นายทหารทั้งสอง รอจนรถของวรุฒม์ลับตาไปแล้วจึงหันมาเผชิญหน้ากัน
"แกจะเอายังไงวะภีร์ ก็รู้อยู่ว่าเพื่อนกลัวความสูง ยังจะไปปีนเขาอยู่ได้" อิศราโวยวายใส่ภีรวัส
"แกเริ่มก่อนนะไอ้ก้อนอิฐ รู้ทั้งรู้ว่าเราว่ายน้ำไม่เป็น นี่กะจะให้เพื่อนตกน้ำตะกุยตะกายแล้วผู้พันวรฒม์จะได้หัวเราะเยาะละสิท่า" ภีรวัสโต้ แล้วเดินขึ้นบันไดบ้าน โดยมีอิศราตามไปติดๆ
"แล้วนี่จะทำยังไงดี" อิศราโอดครวญ "ถ้าไปปีนเขา เราต้องตัวแข็งทื่อเป็นก้อนอิฐแน่ๆ เลย"
"ตอนพูดไม่รู้จักคิด ก็บอกไปสิว่ากลัวความสูง ผู้พันวรุฒม์คงเข้าใจ" ภีรวัสแนะนำ แกล้งทำหน้าห่วงใยก่อนจะตบท้ายว่า "เข้าใจว่าแกปวดเปียกไม่เหมาะจะเป็นแฟนทหาร คราวนี้เขาจะหันมามองภีรวัสผู้คล่องแคล่วเหมือนเลียงผา"
"รอให้ไปล่องแก่งก่อนเถอะ จะถีบให้ตกน้ำ"
"เมื่อไหร่ละคุณอิฐศาลา ที่แน่ๆ อีกไม่กี่อาทิตย์ เราจะไปปีนเขากัน แถมมีการโรยตัวลงไปนั่งกันที่ชะง่อนผา ดูทิวทัศน์เบื้องล่าง ลมตีขึ้นมาเย็นๆ ถอดร้องเท้า แล้วห้อยขาลงไปแกว่งเล่นที่ความสูงหนึ่งพันแปดร้อยฟุตเหนือระดับน้ำทะเล Dead Sea เดท ซีๆ ตาย เห็นๆ" ภีรวัสล้อเลียนอิศราแล้วหัวเราะชอบใจ เดินไปเปิดตู้เย็น หยิบขวดน้ำขึ้นมาดื่ม ปล่อยให้อิศราทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ ทำหน้าราวจะขาดใจตาย
"คอยดูนะ ฉันจะขอให้ผู้พันชวนเราไปล่องแก่งน้ำเชี่ยวเร็วๆ นี้ล่ะ จะคอยดูแกตกน้ำตะโกนโหวกเหวกตาเหลือกกระเสือกกระสนดิ้นทุรนทุรายตะกุยตะกายหาหลักยึด" อิศราพึมพำแล้วเงยหน้ามองเพื่อนรักเพื่อนแค้นด้วยสายตาอาฆาต
"สรุปแล้ว วันนี้ใครชนะ" ภีรวัสทำเป็นไม่ได้ยินที่เพื่อนขู่
"อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง" อิศราเสียงเข้ม ด้วยตระหนักดีกว่าวันนี้เป็นวันของภีรวัสที่ทำคะแนนได้มากกว่าเขา
"จะว่าไป ผู้พันวิษณะก็หล่อไม่น้อย เอายังงี้ไหมอิศ เรากลับมาแข่งกันรูปแบบเดิม ไหนๆ ก็มีหนุ่มตั้งสองคน ดูซิว่าผู้พันวรุฒม์กับผู้พันวิษณุ ใครจะเป็นคนบอกรักเราก่อนกัน" ภีรวัสเสนอ
"ยูคู่กับผู้พันวิษณะ ไอคู่กับผู้พันวรุฒม์" อิศรารีบตกลง
"ได้ไง เห็นอยู่ชัดๆ ว่าผู้พันวิษณุเขาชอบนาย การออกไปเที่ยวด้วยกันสี่คนวันนี้ก็ออกจะชัดเจนว่าผู้พันวรุฒม์เอียงมาทางเรา เพราะฉะนั้น เราคู่ผู้พันวรุฒม์ นายคู่ผู้พันวิษณุนั่นดีแล้ว win win situation มีโอกาสชนะเท่าๆ กัน
"ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีเลย อยากฮุบผู้พันวรุฒม์ไว้คนเดียวละสิ ผู้พันวรุฒม์ยศสูงกว่า เราไม่ยอม เราจะเอาพันโท เราไม่เอาพันตรี"
ภีรวัสยักไหล่ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้อิศราแล้วพูดว่า "ก็บอกแล้วไงว่าใครดีใครได้"
"ใช่" อิศราจ้องตาภีรวัสนิ่ง "เพราะฉะนั้น ไม่ต้องมาเบี่ยงเบนเป้าหมาย เอาแผนเดิม"
"น่าเสียดายผู้พันวิษณุ" ภีรวัสอมยิ้ม พูดทิ้งท้ายแล้วเดินเข้าห้องนอน ปล่อยให้อิศรานั่งนิ่ง แววตาครุ่นคิด
...ยอมแพ้ตั้งแต่ตอนนี้ไม่ได้หรอก นี่เพียงยกที่สองเอง...
...วิษณุจะโผล่มาทำไมก็ไม่รู้...
...ตัวเองเป็นคนอ่อยเขาทำไมเล่า จะมาบ่นทำไม...
...ก็ตอนนั้นคิดแต่เพียงว่าจะเก็บผู้พันวิษณุเอาไว้เป็นของเล่นแก้เหงาเวลารอโควต้า 'วันผลัดกันจีบ' นี่นา แต่ทำไมมันเริ่มจะยุ่งๆ ก็ไม่รู้...

วิษณุทิ้งตัวลงนอนบนเตียง ยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก ตาเหม่อมองเพดาน ภาพใบหน้าของภีรวัสกับอิศราผัดเปลี่ยนกันลอยเข้ามาในห้วงความคิดของเขา
นายทหารหนุ่มยอมรับว่าตอนแรกที่เจอกับอิศรา เขารู้สึกชอบทันทีเพราะความสดใสร่าเริงมีชีวิตชีวาของชายหนุ่มร่างเล็ก แต่ครั้นเมื่อเจอกันภีรวัส เขาก็ปฏิเสธตัวเองไม่ได้ว่ารู้สึกชอบภีรวัสด้วย
...สองคนน่ารักสูสีกัน ถ้าจะให้เลือกก็เป็นอะไรที่ตัดสินใจได้ยาก เข้าทำนองรักพี่เสียดายน้อง...
...แต่ปัญหาใหญ่อยู่ที่ว่า สองคนนั้น ดูเหมือนจะไปชอบผู้ชายคนเดียวกัน...
...วรุฒม์...
...ปัญหาของเขาคือวรุฒม์ เขาต้องไปตกลงกับเพื่อน ไปพูดตรงๆ วรุฒม์เป็นคนรักเพื่อน เสียสละทุกอย่างให้เพื่อน เป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัยเรียน...

วรุฒม์เดินออกมาหยุดยืนรอภีรวัสและอิศราที่หน้าร้านอาหาร ในใจอดคิดไม่ได้ว่าหลังจากการไปชมน้ำตกวันนั้นแล้ว สองหนุ่มยิ่งมีอะไรแปลกๆ มากกว่าเดิม แทนที่จะผลัดกันปลีกตัวออกไปเวลาเจอหน้าเขา แต่คราวนี้ดูเหมือนจะเกาะติดเขาพร้อมๆ กันทั้งสองคน ทำเหมือนจะแย่งกันเรียกร้องความสนใจ
เย็นนี้เขาตั้งใจจะชวนอิศราออกมาทานอาหารเย็นด้วยกัน เพราะรับปากวิษณุไว้แล้วว่าจะกันอิศราออกมาเพื่อเปิดโอกาสให้เพื่อนได้ทำความรู้จักกับภีรวัสแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ
ขณะที่รอภีรวัสกับอิศราเข้าห้องน้ำ วรุฒม์ปล่อยใจให้นึกถึงการสนทนากับวิษณุเมื่อบ่ายวานซืน วิษณุเดินเข้ามาหาเขาในห้องทำงานและพูดถึงความต้องการของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา
"เรานึกว่านายชอบคุณอิศราเสียอีก" วรุฒม์พูดขึ้นหลังจากที่ยืนฟังเพื่อนพูดจนจบ
 "ก็ด้วย" วิษณุยอมรับ
"วิษณุ" วรุฒม์อุทาน
"อย่ามองเราด้วยสายตาแบบนั้นสิวะ" วิษณุถอนหายใจ "รุฒม์ นายก็เห็นว่าเราทำงานที่โรงพยาบาลในค่ายทหาร วันๆ เจอแต่คนไข้เป็นทหารหัวเกรียนไม่มีชีวิตชีวา เมืองนี้มันเล็กนิดเดียว แล้วอยู่ๆ ก็มีคนน่ารักสองคนโผล่เข้ามา สเป็คเราทั้งสองคนเลยนะ"
"อยากฮุบเอาไว้ทั้งสองคนละสิ"
"เปล่า" วิษณุปฏิเสธเสียงเบา "เราอยากลองทำความรู้จักทั้งสองคน ดูซิว่า จะถูกใจใครมากกว่ากัน"
"แล้วคนที่นายไม่เลือก ค่อยให้เป็นของเรางั้นหรือ" วรุฒม์ตอบเสียงเข้ม
"แล้วนายชอบใคร" วิษณุถาม และเมื่อเห็นวรุฒม์ยังนิ่งไม่ตอบคำถามทันที เขาจึงพูดต่อว่า "เห็นไหมล่ะ นายก็ยังตัดสินใจไม่ได้เหมือนกัน"
วรุฒม์นิ่ง ก่อนจะลุกขึ้นไปยืนกอดอกมองไปนอกหน้าต่าง ตอบเพื่อนในใจว่า
...ความจริงเขาตัดสินใจแล้ว เพียงแต่ว่ามีอะไรบางอย่างที่เขายังอยากจะพิสูจน์ดูเสียก่อน สัญชาตญาณของเขาบอกว่ามีอะไร 'แปลกๆ' อยู่ในสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น...
"นะ รุฒม์ เห็นแก่เพื่อนเถอะ นายแค่ย้ายมาอยู่นี่ไม่กี่เดือน อีกหน่อยก็กลับกรุงเทพฯ แล้ว โอกาสจะเจอใครในกรุงเทพฯ ก็เยอะ รูปร่างหน้าตาฐานะชาติตระกูลอย่างนาย ใครๆ ก็ไม่ปฏิเสธ" วิษณุเล่นบทขอร้องเพื่อน
"ตัวเองก็ไม่ต่างกัน" วรุฒม์เบ้ปาก หันไปมองเพื่อนที่ทำหน้าตาน่าสงสาร
"แต่เราทำงานในค่ายทหารนะ โอกาสจะเจอแบบนี้มีที่ไหน ขอให้ได้มีโอกาสกระชุ่มกระชวยหัวใจบ้างสิ"
"อีกไม่นานเขาก็กลับกรุงเทพฯ คิดจะคบกันแค่เดือนสองเดือนหรือยังไง" วรุฒม์ถาม
"เรื่องนั้นค่อยว่ากัน" วิษณุตอบ "แต่เรามีความรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้ที่คนใดคนหนึ่งอาจจะยอมย้ายมาอยู่ต่างจังหวัด หากว่าความรักเบ่งบานจนอยากจะใช้ชีวิตร่วมกัน"
"ฝันเฟื่อง"
"หรือนายไม่เคยคิด" วิษณุหันไปมองวรุฒม์ที่ยืนกอดอกและไม่ตอบคำถามเขา
...วิษณุ เขาคิดมาได้ระยะหนึ่งแล้วว่าน่าจะถึงเวลาที่จะลองมีความสัมพันธ์จริงจังดูสักครั้ง ความจริงแล้ว ที่ผ่านมาเขาพบเจอใครหลายคน อย่างที่วิษณุพูด ผู้ชายในเครื่องแบบ รูปร่างหน้าตา ฐานะและชาติตระกูลอย่างเขา ดึงดูดใจคนรอบข้างได้ไม่ยาก ไม่ว่าหญิงหรือชาย แต่เขาต้องยอมรับว่า วันนั้น ที่ริมถนนเปลี่ยวกลางหุบเขา กามเทพแผงศรรักปักอกเขาไปเต็มๆ...
...นี่นะหรือที่เขาเรียกว่ารักแรกพบ...
วิษณุนิ่งเงียบเช่นกันเพราะรอฟังคำตอบจากวรุฒม์ นายแพทย์หนุ่มรู้จักวรุฒม์ดี เวลาสิบกว่าปีที่เป็นเพื่อนกัน วรุฒม์ยอมให้เพื่อนเสมอ และคราวนี้ เขาอยากจะ 'ขอ' วรุฒม์อีกครั้ง แม้ไม่กล้าเรียกว่าเป็นครั้งสุดท้าย แต่เขากล้าพูดว่าเป็นครั้งสำคัญ
วรุฒม์นิ่งเงียบไปนาน วิษณุมั่นใจว่าเพื่อนไม่ปฏิเสธ หากวรุฒม์นิ่งแล้วถอนหายใจเบาๆ สองสามครั้ง แสดงว่าเป็นคำตอบตกลง

"คราวหน้าเราต้องเลี้ยงผู้พันแล้วนะภีร์ ตั้งแต่มาถึง ผู้พันเลี้ยงต้อนรับเราอย่างดี จนเรารู้สึกชักจะละอายใจแล้วนะเนี่ย" เสียงร่าเริงของอิศราดังขึ้นมาก่อนตัว ทำให้วรุฒม์เลิกคิดเรื่องของวิษณุ หันไปยิ้มบางๆ ให้ชายหนุ่มหน้าขาวที่แหงนหน้ามองเขาด้วยแววตาสดใส
อิศราเป็นคนคุยเก่ง สนุกสนาน ร่าเริง เปิดเผย ตรงไปตรงมา เข้าใจง่าย ค่อนข้างต่างจากภีรวัสที่เอาแต่ทำหน้ายิ้มๆ พูดอะไรเขาต้องคิดตามดีๆ
"น่าจะชวนหมอวิษณุมาด้วย" ภีรวัสพูดยิ้มๆ สบตาวรุฒม์แวบหนึ่งแล้วหันไปมองลูกค้าร้านอาหารที่เดินผ่านไปมา
"อ้าว ก็หมอโทรมาชวน ภีร์ปฏิเสธทำไมล่ะ" อิศราท้วง
"เราไม่ได้ปฏิเสธ" ภีรวัสหันไปพูดกับอิศราเสียงนุ่ม แต่นัยน์ตาลุกวาบ "แต่เรานึกว่าอิศอยากให้เรามาเป็นเพื่อน"
...มากับผู้พันวรุฒม์ ใครจะอยากให้แกมาเป็นเพื่อน...
อิศราถลึงตาใส่คู่หูคู่เถียง ทำปากขมุบขมิบ ในใจก็บอกตัวเองว่าหากไม่มีวรุฒม์ยืนอยู่ด้วย ป่านนี้เขากับภีรวัสคงออกงิ้วผสมลิเกไปแล้ว
"คืนนี้ผมพาคุณภีรวัสกับคุณอิศรามาแล้ว ไว้คราวหลังให้วิษณุเป็นเจ้ามือสิครับ รายนั้นรู้ที่กินที่เที่ยวดีๆ เยอะแยะ"
"เกรงใจจริงๆ" ภีรวัสพูดขึ้นมาเบาๆ "เลี้ยงทีต้องเลี้ยงสองคน"
"งั้นแยกกันเลี้ยง" อิศราเสนอ "ภีร์ไปทานข้าวกับหมอวิษณุ เราไปทานกับผู้พันวรุฒม์"
ภีรวัสหรี่ตามองอิศรา พยายามทำความเข้าใจความหมายแฝงที่คิดว่าเพื่อนกำลังพยายามสื่อว่า 'ให้จับคู่...ครู่ใครคู่มัน'
"เราไม่มีเงินเยอะ เวลาเลี้ยงตอบแทนจะได้ประหยัด เพราะผู้พันทานไม่เยอะ" อิศราหันมายิ้มกว้างให้วรุฒม์
"ใครบอก" วรุฒม์อมยิ้ม "พอดีวันนี้ผมยังไม่ค่อยหิวมาก เพราะตอนเที่ยงทานไปเยอะแล้ว เย็นนี้เลยทานได้นิดหน่อย".
"ผู้พันหมอวิษณุท่าทางไม่น่าเป็นคนทานจุ ตัวไม่ใหญ่เท่าผู้พัน ถ้าอิศอยากจะประหยัดเงิน ก็ต้องชวนหมอวิษณุไปล่ะ" ภีรวัสแสดงความเห็น
...คิดจะยัดเยียดผู้พันวิษณุให้เราดื้อๆ แบบนี้เลยหรืออิศรา แผนสูงนักนะ...
อิศราทำท่าคิดอยู่ชั่วครู่ แล้วยิ้มแพรวพราว ก่อนจะพูดออกมาว่า หากเป็นเช่นนั้น เขาจะยอมทุ่มทุน เลี้ยงอาหารเย็นทั้งวรุฒม์และวิษณุสองคนพร้อมกันเลยทีเดียว
"เพราะผู้พันดีกับเรามาก มาอยู่นี่ไม่กี่อาทิตย์ ต้อนรับดีจนผมไม่อยากกลับกรุงเทพฯ"
"ไม่คิดถึงแสงสีนีออนหรือไฟดิสโก้วูบวาบหรืออิศ" ภีรวัส 'เล่นแรง' ขึ้นด้วยการประชดหน้ายิ้มๆ
"เราชอบแสงดาวระยิบระยับมากว่า อยู่ไปชักหลงไหลธรรมชาติ" อิศราตอบแล้วหัวเราะร่าเริง
...กินอิศราไม่ลงหรอกเพื่อนเอ๋ย เรื่องดันทุรังหาทางออก อิศราไม่เป็นสองรองใคร...

ระหว่างทางกลับบ้าน อิศราชวนวรุฒม์กับภีรวัสคุยเสียงเจื้อยแจ้วแบบที่ภีรวัสเคยเหน็บแนมว่าคุยได้จนลิงหลับ วรุฒม์ตอบด้วยประโยคสั้นๆ แต่ส่วนมากมักจะหัวเราะขำที่สองหนุ่มคุยกันมากกว่า เขาพยายาม 'เก็บข้อมูล' ของอิศรากับภีรวัสให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ เพื่อนำไป 'วิเคราะห์' และตอบคำถามข้อสงสัยที่เขามีอยู่ในใจเพราะเขารู้สึกว่า ชายหนุ่มทั้งสองกำลังเล่นเกมอะไรบางอย่าง เช่น แย่งกันจีบเขาหรืออะไรทำนองนั้น เพื่อพิสูจน์ว่าใครมีเสน่ห์มากกกว่ากัน สองคนนี้เป็นเพื่อนรักกันก็จริง แต่ก็ดูชอบเอาชนะกันอยู่ในที
...หรือว่าเขากำลังจะกลายเป็นของเล่นของคนน่ารักสองคนแล้วหรือนี่...
**5**
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 5 (9/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 09-09-2009 14:08:18
หวัดดีคุณนายยยยยยยยยยยยมาทันใช้ เอ้ยมาทันใจ :o8:

สองหนุ่มเส็ดแน่ๆ ถ้าคุณหมอวิษณุรุกเมื่อไหร่ ลูกแกะสองคนเนี่ย
แทนที่จะคุมเกมส์จะกลายเป็นแค่หมากสองตัวในเกมส์แน่ๆ
แล้วตอนนี้ผู้พันก้อนะฉลาดได้ถ้วยอีก หุหุวิเคราะมาถูกทาง
เพื่อนรักสองคนเหมือนจะรักกันมากแต่เรื่องแย่งซีนเนี่ย
ไม่มีใครเกินใคร อิอิ แล้วยิ่งมีคุณหมอมาเป็นตัวแทรกอีก
ขอผู้พันกันแบบซึ่งๆหน้า มีการเลือกไม่ถูกอีกนะคุณหมอ
นาทีนี่ถ้าได้ใครจริงๆก้อเอาไปเหอะคระๆ เด๋ซคุณหมอจะ
ไม่ได้บริหาเสน่ห์กันพอดี

+1 จัดให้คุณนายคะ คิดตึ๋ง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 5 (9/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 09-09-2009 14:09:18
ถ้าจับได้แบบนี้ วรุฒน์จะจัดการยังไงเนี่ย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 5 (9/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: alterlyx ที่ 09-09-2009 14:14:05
สุดยอดดดดดดด +1  o13

ทำไมแต่ละตัว ถึงได้มีบุคคลิกและเสน่ห์แตกต่างกันได้ลงตัวขนาดนี้น๊า
แค่ได้อ่านก็เลือกไม่ถูกเหมือนกัน ว่าถ้าเป็นคนนึงในเรื่อง แล้วจะเลือกใครดี ... ดึงดูดได้เท่าเทียมกันจริง ๆ
อ่านแล้วมันส์, สนุก, สะใจ, แรง, โดน ... โอ่ยยย จะหาคำไหนมาชมดีค่ะเนี่ย คิดไม่ออก เหอ ๆ

อ่านไปอ่านมา ... นึกอยากให้ภีรวัสกับอิศราเมามาย แล้วได้กันเองจังเล้ยยยย  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 5 (9/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 09-09-2009 14:27:22
เพื่อนๆ2คู่นี้รักกันมาจริงๆ  พอมาชุลมุนสลับคู่ไม่รู้ใครชอบใครแบบนี้น่าสนุกแฮะ :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 5 (9/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 09-09-2009 14:32:10
เพื่อนรัก เพื่อนแรง จริงๆ คู่นี้

แต่ดูท่าเกมส์นี้ เริ่มจะยากจริงๆแล้วสิ เพราะผู้พันนี่ก็ใช่ย่อยอยู่ มองออกด้วยว่ามีอะไรแปลกๆ ไม่รู้ว่าผู้พันหมอจะรู้สึกเหมือนผู้พันรึเปล่า




อีกอย่างที่อยากรู้คือ คนที่อยู่ในใจผู้พันวรุฒม์ คือใครน้า...
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 5 (9/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 09-09-2009 17:19:35
 :laugh:  สองคนนี่ทำยังเด็กเลย มาติดตามเรื่องใหม่ครับผมเป็นกำลังใจให้นะครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 5 (9/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: gboy ที่ 09-09-2009 19:42:23
ร้ายไม่มีใครเกิน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 5 (9/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 09-09-2009 23:20:07
เป็นกำลังใจให้เสมอครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 5 (9/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 10-09-2009 07:03:31
ใครจะเคี้ยวใคร เจอคนรู้ทัน ทีนี้เอ้ย...

+1 ให้พี่นาย แล้วรอตอนต่อไป 1126 แล้วนะพี่นาย ยังหา....ไม่เจออีกเหรอ :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 5 (9/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 10-09-2009 14:59:08

คร้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย จะยอมเป็นของเล่นอยู่ฝ่ายเดียว

คนนะ  ไม่ใช่ตุ๊กตา

เนอะว่ามะ?
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 5 (9/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 10-09-2009 16:22:30
บทที่ 6 ครับ
ขอบคุณที่เสียสละเวลามาอ่าน มาคอมเมนท์ และกดคะแนนให้ครับ (แม้คะแนนได้เกิน 1000 มาพอประมาณแล้วก็ไม่มีวี่แววจะหาเมียได้ซักที สงสัยต้องไปดาวน์บ้านที่หมู่บ้าน Golden Beam ดีกว่า)

Chapter 6

โลกมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 12,756 กิโลเมตร แต่ภีรวัสกลับเห็นว่าโลกกลมๆ ใบนี้ช่างเล็กนัก เขากำลังจะข้ามถนน แต่ทันทีที่เห็นชายหนุ่มร่างสูงก้าวลงจากรถวอลโว่โฟร์วีลด์สีเงินและจำได้ว่าเป็นใคร ก็ต้องรีบหันหน้าเข้าหาแม่ค้าขายเครื่องดื่มแล้วทำทีเป็นกำลังจะสั่งน้ำปั่น
ภีรวัสได้ยินเสียงปิดประตูรถ ในใจนับหนึ่งถึงสิบ รอเวลาว่าคนที่ก้าวลงจากรถที่จอดข้างฟุตบาธคงจะเดินไปพ้นรัศมีการมองเห็น ชายหนุ่มคิดเข้าข้างตัวเอง เมื่อครู่ที่กำลังจะข้ามถนน เขายกมือขึ้นป้องใบหน้าจากแสงแดด พันตรีหม่อมหลวงพล เจ้าของรถวอลโว่คงมองไม่เห็นเขา
"โลกกลมจังเลยนะครับดอกเตอร์ภีรวัส" เสียงห้าวดังขึ้นข้างหู "มาไกลถึงที่นี่ ผมก็โชคดีได้เจอคนที่อยากเจอที่สุด"
"ขอน้ำแตงโมปั่นหนึ่งแก้วครับ" ภีรวัสสั่งเครื่องดื่มเบาๆ ทำทีไม่ได้ยินที่อีกฝ่ายพูด
"ผมเกือบจะจ้างนักสืบตามหาคุณซะแล้ว ไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้เจอตัวง่ายๆ แบบนี้"
"ไม่เอาหวานนะครับ" นักวิจัยหนุ่มทำเป็นหูทวนลม
"ภีรวัส บอกผมซิว่าทำไม" พลถามเสียงต่ำ "ผมทำอะไรผิด อยู่เฉยๆ คุณก็หายหน้าไป"
"ผมมีโปรเจ็คด่วนต้องไปทำ" ภีรวัสถอนหายใจเบาๆ แล้วหันไปเผชิญหน้ากับ "โจทย์เก่า" ช้าๆ
"คุณจงใจหลบหน้าผม"
"เปล่า" ภีรวัตนปากแข็ง
"แล้วทำไมไม่บอกผมซักคำ"
"คุณไปราชการต่างจังหวัดไม่ใช่หรือ ตอนนั้นผม..."
"โทรศัพท์ก็มี" พลแทรก "จะโทรไปบอก จะฝากข้อความเอาไว้ หรือรับโทรศัพท์ของผม หรือโทรกลับผม แก้ตัวยังไงก็ฟังไม่ขึ้นหรอก และที่สำคัญ คุณเปลี่ยนเบอร์โทร จงใจหนีหน้าผมชัดๆ"
"ไม่ได้แก้ตัว" ภีรวัสปฏิเสธ "ผมให้เหตุผล"
"ถ้ายังงั้น บอกเหตุผลจริงๆ ที่คุณหนีผมไปมาซิ บอกให้ผมได้ยินต่อหน้า บอกให้ผมได้ยินชัดๆ"
"จะมาบีบให้ผมพูดทำไมก็ไม่รู้ อะไรที่แล้วก็แล้วไปเถอะผู้พัน" ภีรวัสตัดบท หันไปรับเครื่องดื่มจากแม่ค้า แล้วก้าวเท้าเดินจะข้ามถนน
"เดี๋ยวสิภีร์" พลคว้าแขนชายหนุ่ม "บอกผมมาก่อน"
"ผู้พันพล อะไรที่ผ่านมาก็ให้ผ่านไปเสียเถอะ อย่าให้ย้อนเวลากลับไปอีกเลย ผมไม่อยากพูดอะไรที่..."
"ให้ผมบอกเหตุผลไหมล่ะ ที่คุณหายไปเพราะคุณหมดสนุกแล้ว"
"อะไรนะ" ภีรวัสหันขวับมามองนายทหารหนุ่มที่ยืนจับแขนเขาไม่ยอมให้ข้ามถนน
"ผมตามหาคุณมาหลายเดือน เลยได้รู้อะไรดีๆ จะว่าโชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่รู้ที่ผมไปรู้จักกับคนอีกสองสามคนที่รู้จักคุณกับ..."
ภีรวัสกลั้นหายใจรอฟังคำพูดของผู้พันหนุ่มที่จงใจทิ้งช่วง
"กับคู่หู"
"ใคร" ทั้งที่เข้าใจว่พลหมายถึงอิศรา แต่ภีรวัสก็แกล้งทำเป็นอยากรู้
"ผมไม่ยอมหรอกภีร์ อยู่ๆ จะมาทิ้งผมไม่ได้ ไม่ใช่แบบนี้ ไม่ใช่การกระทำที่ไม่มีเหตุผลแบบนี้ คุณก็รู้ว่าผมรักคุณ กว่าสามเดือนที่เราคบกัน มันเป็นช่วงเวลาที่พิเศษที่สุดของผม ผมไม่เข้าใจจริงๆ กำลังไปกันได้ดี พอผมบอกรักคุณ คุณก็หายไป ผมไม่เข้าใจ คุณจะกลัวอะไร คุณเองก็ทำท่าว่าอยากมีความสัมพันธ์แบบคู่รัก แต่ทำไมพอผมจริงจัง คุณถึงได้ตัดเยื่อใยผมแบบนี้"
ภีรวัสกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น เห็นแววตามั่นคงแฝงด้วยความเจ็บปวดของพลแล้วทำให้พูดอะไรไม่ออก พลเป็นคนที่สองที่ทำให้เขารู้สึกหวั่นไหว และเป็นคนที่สองที่จริงจังกับความสัมพันธ์มาก นับตั้งแต่พงศธร นักบินหนุ่มที่เขาทิ้งไปเมื่อปีที่แล้ว และจนป่านนี้ ฝ่ายนั้นก็ยังทำใจไม่ได้
...ชักจะยุ่งกันไปใหญ่แล้ว ทำยังไงดี...
"ผู้พันครับ ขอเวลาผมอีกซักหน่อย" ภีรวัสเปลี่ยนท่าที "จริงอย่างที่คุณพูด ผมคงกลัว คงสับสน ไม่มั่นใจ เพราะฉะนั้น ขอเวลาให้ผมอีกนิด ได้ไหมครับ"
"คุณต้องการขอเวลา หรือต้องการยื้อเวลา" พลเสียงเข้ม
"โธ่ อย่ามาว่ากันแบบนี้สิ ผมจะยื้อเวลาไปทำไม มันไม่มีเหตุผล"
"หรือคุณเจอคนใหม่" พลถามเสียงเรียบ ในใจอยากจะพูดว่า "เหยื่อรายใหม่" ด้วยซ้ำ
"เจอใครที่ไหนกัน ผมทำแต่งาน โครงการวิจัยที่กำลังทำอยู่กว่าจะได้ทุนมาก็เลือดตาแทบกระเด็น ผมไม่มีเวลาไปทำอะไรอย่างอื่นหรอก" ภีรวัสแก้ตัว ภาพใบหน้าคร้ามเข้มของพันตรีวรุตม์ฉายวาบขึ้นมาในหัว
...ตายล่ะ หากผู้พันพลมายุ่งกับเราตอนนี้ มีทางแพ้อิศราเห็นๆ ไม่ได้การ ต้องทำอะไรซักอย่าง...
"ผู้พันครับ ผมก็รู้สึกแย่เหมือนกันที่จากมา ผมรู้ว่ามันเป็นเรื่องที่อธิบายยาก แต่ผู้พันคงไม่รู้ว่าผมเจออะไรหนักเหมือนกัน มันมีอะไรในชีวิตหลายเรื่องที่ผมต้องรับมือ เห็นภายนอกผมดูมีความสุข สนุกสนานร่าเริง แต่ข้างใน..." ภีรวัสตีหน้าเศร้า
"ทำไมคุณไม่บอกผม ไม่คุยกับผม" เสียงของพลอ่อนลง
"ผมไม่อยากรั้งคุณไว้ คนดีๆ อย่างผู้พัน ไม่น่าจะต้องมาเสียเวลากับผม"
"อย่าพูดยังงั้นสิครับ"
"ผู้พันครับ ขอเวลาให้ผมจัดการเรื่องต่างๆ ให้เรียบร้อยก่อนนะครับ อย่าเพิ่งเร่งรัดอะไรเลย เรายังมีเวลากันอีกเยอะ ผมต้องทำงานวิจัยให้เสร็จเสียก่อน หากชิ้นนี้สำเร็จ ก็จะเป็นผลงานที่จะช่วยผมให้มีโอกาสได้ทุนอีกโครงการใหญ่ของยูเอ็น งานนี้สำคัญกับผมมาก ผมตั้งตารอมาเกือบห้าปี ผมไม่อยากพลาด ผมขอโทษ ผมอยากได้เวลาอีกซักนิด เผื่อเราจะได้เริ่มต้นกันใหม่"
พลมองใบหน้าคมเข้มของภีรวัสนิ่ง เขายอมรับว่าหลงไหลชายหนุ่มมาก ใบหน้าหล่อเหลาของภีรวัสตรึงใจเขาตั้งแต่แรกเจอ เรือนร่างหอมกรุ่น ผิวกายเนียนละเอียด สัมผัสทุกสัมผัสของภีรวัสฝังลึกในใจเขาจนยากจะลืมได้
"นะครับผู้พัน ผมคงต้องอยู่ที่นี่ซักพัก รอทำวิจัยเสร็จ กลับเข้ากรุงเทพฯ เราก็ค่อยสานสัมพันธ์กันต่อ เราสองคนยังมีเวลากัน รอผมอีกซักหน่อย ไม่เกินสองเดือนผมก็ทำวิจัยเสร็จ"
"ผมย้ายมาประจำที่นี่" พันตรีพลพูดเสียงเบา
...โอยตายแล้ว...
ภีรวัสอึ้ง ยิ้มให้พลบางๆ เพราะไม่รู้ว่าพูดอะไรดี แรกที่เจอพลแล้วเขาต้องตกใจนั้น ตอนนี้ตกใจมากกว่าเดิมเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายย้ายมาประจำการที่นี่ และเวลาสามเดือนที่เขาต้องทำงานวิจัยที่ภาคเหนือก็คงไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คาด
...ต้องเผด็จศึกผู้พันวรุตม์ให้ได้ภายในหนึ่งเดือน กลับไปตกลงกับอิศราใหม่ กำหนดเวลาให้สั้นลง เพราะหากปล่อยเวลาให้ผ่านไป เขามีทางแพ้มากกว่าชนะ...

ทันทีที่แยกกับพล หรือจะเรียกให้ถูก ทันที่พลปล่อยตัวเขา ภีรวัสก็รีบโทรศัพท์หาอิศรา แต่โทรศัพท์ไม่มีสัญญาณ ติดต่ออย่างไรก็ไม่ได้ ชายหนุ่มจึงรีบตรงกลับบ้าน โดยหวังว่าอิศราคงนอนหลับอยู่บนเปลหน้าบ้านเช่นเคย
"ผู้พันวิษณุ" ภีรวัสพึมพำเมื่อเห็นคนที่นั่งอยู่บนม้าหินอ่อน ทันทีที่เห็นเขา วิษณุก็ยิ้มกว้าง รีบเดินตรงเข้ามาหา แล้วบอกว่ามารอตั้งนานแล้ว ไม่มีใครอยู่บ้าน
"ผมไม่ทราบว่าอิศราไปไหนครับ วันนี้เราตกลงกันว่าต่างคนต่างแยกไปทำธุระส่วนตัว" ภีรวัสพูด ทันทีที่วิษณุเดินเข้ามาถึงตัว
"ผมไม่ได้มาหาคุณอิศรา" วิษณุยิ้มพราว "ผมมาชวนคุณภีรวัสไปทานข้าว"
"ยังไม่ถึงเวลาอาหารเย็นเลย" ภีรวัสท้วง ยกข้อมือขึ้นดูเวลา ทำสีหน้าเป็นปกติ ไม่แสดงออกว่าตกใจ
"ไปเดินเล่นริมแม่น้ำกันก่อนก็ได้ครับ พอหิวแล้วก็ลงเรือ ออกไปทานอาหารกัน"
...ลงเรือหรือ ไปทานอาหารอะไรกันกลางน้ำ...
"ร้านนี้อร่อยมากครับ เป็นแพที่ลอยไปตามน้ำ นั่งทานกันบนแพเล็กๆ ของใครของมัน ล่องไปเรื่อยๆ บรรยากาศสดชื่น ในกรุงเทพฯ หาแบบนี้ไม่ได้เลยนะครับ"
...คงกินลงหรอก นั่งแพไปก็ตัวสั่นไป กลัวตกน้ำ...
"คือว่า..." ภีรวัสอึกอัก
"อย่าปฏิเสธเลยนะครับ ให้ผมได้เป็นเจ้าภาพพาคุณภีรวัสสัมผัสธรรมชาติบริสุทธิ์ซักครั้งเถอะ รายการนี้ผมภูมิใจนำเสนอ" วิษณุยิ้มไม่ยอมหุบ ท่าทางกระตือรือร้นจนภีรวัสไม่กล้าปฏิเสธ
...นึกว่าปิ๊งอิศราเสียอีก ทำไมมาเป็นแบบนี้ไปได้ ถ้าวิษณุมาจีบเรา ก็ยิ่งเป็นการเปิดโอกาสให้อิศราได้ใช้เวลากับผู้พันวรุฒม์อย่างสะดวก ไหนจะพลที่จู่ๆ ก็โผล่เข้ามาเป็นตัวแปรอีก ทำไมเกมการแข่งขันกับอิศราครั้งนี้ถึงมีแต่เราที่เจออุปสรรคกันนะ...
"กลับมาเหนื่อยๆ คุณภีรวัสไปอาบน้ำให้สดชื่น ผมจะรออยู่ข้างล่าง เสร็จแล้วจะได้ไปกันเลย อย่าปฏิเสธน้ำใจทหารบ้านป่าเลยนะครับ นานๆ ได้มีโอกาสทานอาหารมื้อพิเศษกับเขาซักที"
"ครับ" ภีรวัสพยักหน้าแล้วเดินขึ้นไปบนบ้านช้าๆ แม้จะยังรู้สึกมึนๆ กับสถานการณ์ที่เกิดพลิกผันขึ้นมาเสียดื้อๆ แต่ก็ยังพยายามคิดหาทางเอาตัวรอด
"เอ่อ ผู้พันคุณหมอวิษณุครับ" ภีรวัสชะงัก หันไปหาคนที่ยืนมองเขาอยู่ที่เชิงบันได
"เรียกผมวิษณุเฉยๆ ก็ได้ ไม่ต้องเรียกเต็มยศขนาดนั้น" วิษณุยิ้มพราวเช่นเคย
"ผมอยากขอความช่วยเหลือผู้พัน พอดีเพื่อนเดินทางมาจากกรุงเทพฯ เขาอยากเที่ยวชมธรรมชาติ แต่ว่าผมไม่มีเวลาว่างและก็ไม่ค่อยรู้ทางเท่าไหร่ ไม่ทราบว่าผู้พันพอจะมีเวลา..."
"พาเที่ยว" วิษณุแทรก "ได้สิครับ ผมรับรองเต็มที่ ว่าแต่ว่า คุณภีรวัสอย่ามัวแต่ทำงานจนไม่มีเหลือเวลาไปเที่ยวกับผมบ้าง"
"ไม่ต้องห่วง ผมจะใช้บริการวิษณุทัวร์ให้คุ้มค่าตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ ผู้พันอย่าเพิ่งเบื่อก็แล้วกัน"
...ลองผลักพลให้วิษณุดูซักหน่อย แม้จะเป็นขั้วเดียวกัน แต่ก็น่าลอง เผื่อวิษณุจะเข้าใจผิด คิดว่าพลเป็นฝ่ายตรงข้าม ดูๆ ไปพลก็ไม่ได้ห้าวเข้มเหมือนวิษณุหรือวรุตม์ ไม่แน่ วิษณุอาจจะถูกใจพลก็ได้ อย่างน้อยก็เป็นการซื้อเวลาให้กับตัวเขาเอง แต่หากไม่ได้ผล ก็พยายามยัดเยียดให้อิศราเป็นการหันเหความสนใจ...
...แต่พลเคยเจออิศราแล้ว ไม่เห็นมีวี่แววจะชอบอิศราสักนิด และท่าทางอิศราจะมาดมั่นกับวรุฒม์มาก เรื่องนี้อาจจะไม่ง่ายอย่างที่คิด...
...ปวดหัวจริงๆ เลย ให้ตายสิ...

อิศรานั่งหัวสั่นหัวคลอนอยู่บนเบาะรถจี๊บทหารที่กำลังทะยานไต่ขึ้นไปบนเขา โชคดีด้านที่เขานั่งอยู่ติดกับภูเขา และเหวลึกอยู่ทางด้านฝั่งคนขับ ในใจอดด่าตัวเองไม่ได้ที่เกิดเผลอพูดขึ้นว่าอยากถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกดินสวยๆ พันตรีวรุตม์เลยเสนอตัวพาขึ้นมายังดอยที่เขาต้องบอกกับตัวเองว่า ยังไงก็ไม่ขึ้นมาอีกเด็ดขาด ถนนลูกรังแคบแสนแคบไต่ขึ้นมาบนเขาสูงลิบ มองออกไปนอกรถเห็นแต่ท้องฟ้ากว้างใหญ่สุดสายตา ขาขึ้นไม่เท่าไหร่เพราะเขานั่งฝั่งซ้าย แต่ขาลงนี่สิ ด้านที่เขานั่งเป็นเหวลึก ห่างจากขอบถนนไม่กี่เมตร แม้จะลงจากเขาตอนพลบค่ำ มองไม่เห็นหุบเหวเบื้องล่างชัดเจน ทว่า เขารู้ดีว่าตัวเองคงรู้สึกกลัวมากขึ้นกว่าเดิม เพราะยิ่งมองไม่เห็น แต่การขับรถลงเขาตอนมืดๆ ยิ่งทวีความหวาดเสียว เพราะประสาทรับรู้อยู่ว่า พ้นขอบถนนนั้นเป็นเหวลึก
"น่าเสียดายที่คุณภีรวัสไม่ได้มาด้วย" จู่ๆ วรุตม์ก็พูดโพล่งขึ้นมาหลังจากที่ขับรถเงียบๆ มาชั่วขณะ อิศราหันหน้าไปมองอย่างสงสัย ผู้พันหน้าคมจึงพูดต่อว่า "คุณอิศราจะได้มีเพื่อนคุย ผมคุยไม่เก่ง คุณอิศราจะได้ไม่ต้องนั่งเบื่อ"
...ไม่ได้นั่งเบื่อ นั่งเกร็งและกลัวต่างหาก...
อิศราตะโกนอธิบายอยู่ในใจ แล้วพูดออกมาว่า "ผมไม่ได้เบื่อ คือว่า เอ่อ กำลังชื่นชมธรรมชาติอยู่ครับ"
"พอถึงยอดดอย จะต้องตาค้าง วิวสวยมากเลยนะครับ แต่ว่าที่ที่เราจะไปแคมป์ปิ้งกันสวยกว่าที่นี่"
"ครับ อยากเห็นใจจะขาด" อิศรายิ้ม แล้วหันเกร็งมือจับข้างเบาะแน่นเพราะวรุตม์เข้าโค้งแรงๆ
"อีกหน่อยก็ถึงแล้วครับ"
...โอย ใจจะขาดอยู่แล้ว อย่าอาเจียนออกมานะอิศรา ห้ามทำอะไรขายหน้าเด็ดขาด...
"คุณอิศรากับคุณภีรวัสท่าทางสนิทกันมาก" วรุตม์เปลี่ยนเรื่อง
...จะมาชวนคุยอะไรตอนนี้ เขาอ้าปากแทบจะไม่ไหวแล้ว...
"ครับ" อิศราตอบรับสั้นๆ
"รู้จักกันมานานแล้วหรือครับ"
อิศราพยักหน้า พยายามทำหน้าให้เป็นปกติมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยิ่งใกล้ถึงยอดดอยตามที่วรุตม์บอก ถนนยิ่งแคบและชัน วรุตม์กลับเร่งความเร็วรถขึ้น ตอนนี้เขาหูอื้อ แทบไม่ได้ยินที่อีกฝ่ายถาม
"ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยหรือครับ"
...โอย ทำไมจะมาอยากรู้ตอนนี้นะ นั่งเงียบมาตั้งนาน เกิดจะมาซักอะไรเขาตอนนี้...
"เปล่าครับ" อิศราตอบ รู้สึกว่าตัวเองเสียงสั่น
"นานกว่าเรียนมหาวิทยาลัยเลยหรือครับ นึกแล้วเชียว" วรุตน์หันมายิ้มให้บางๆ
...อย่าหันหน้ามาสิผู้พัน เดี๋ยวรถได้ตกเขากันพอดี ไม่กลัวบ้างหรือไงนะ...
"ผมก็รู้จักกับวิษณุมาตั้งแต่ก่อนเข้า จ.ป.ร. เหมือนกันครับ มาแยกกันตอนเรียนจบ แต่ท่าทางคุณอิศรากับคุณภีรวัสเป็นเพื่อนสนิทที่แทบไม่เคยแยกกันเลย ใช่ไหมครับ"
...ไม่ไหวแล้ว จะให้อ้าปากตอบผู้พันวรุตม์ เขาต้องอาเจียนแน่ๆ เลย...
"ชะ...ใช่...ครับ" อิศราเริ่มตะกุกตะกัก
"ถึงแล้วครับ" ทันที่ที่อิศราตอบคำถาม นายทหารหนุ่มก็จอดรถ อิศรายังนั่งนิ่ง ตอนนี้ไม่ได้ยินคำพูดของวรุตม์ต่อไปอีกแล้วเพราะเขารู้สึกกำลังหน้ามืดจะเป็นลม
"คุณอิศราครับ ถึงแล้วครับ" วรุตม์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้เพราะอีกฝ่ายไม่ไหวติง
...อิศรากลัวความสูง ตอนนี้เขารู้แล้วว่าคนที่บอกว่าชอบปีนเขานั้นเป็นโรคกลัวความสูง...
...เอ ไม่ใช่สิ อิศราไม่ได้บอก ภีรวัสต่างหากเป็นคนพูด สองคนนี้ดูเหมือนจะแกล้งอะไรกันซักอย่าง มีอะไรกันนะ เขาต้องรู้ให้ได้ และหากว่าอิศรากลัวความสูง ถ้าเช่นนั้น ที่อิศราบอกว่าภีรวัสชอบล่องแก่ง ฝ่ายนั้นก็คงกลัวน้ำ หรือว่ายน้ำไม่เป็นละสิ...
...อืม ชักจะสนุกแล้วล่ะ...
วรุฒน์ลงจากรถ เดินอ้อมมาหยุดยืนอยู่ข้างประตูฝั่งอิศรา ชายหนุ่มหน้าซีด กำลังหายใจแรง ใบหน้ามองตรงไปข้างหน้า จนเขาเรียกชื่อเบาๆ อีกครั้ง จึงหันมามองเขาช้าๆ
"ถึงแล้วครับ ได้เวลาพอดี พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน" วรุตม์เปิดประตูรถ แล้วหลุบตาลงมองมือของชายหนุ่มที่กำขอบเบาะรถจนเกร็ง
"ผู้พัน" อิศราเสียงแผ่ว
"ลงก่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมหยิบกล้องให้" วรุตม์แตะแขนอิศราให้ขยับตัว ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ แล้วก้าวเท้าลงจากรถ แต่ครั้นเท้าแตะพื้นก็เข่าอ่อน ทำท่าจะทรุดฮวบ วรุตม์สอดแขนเขาโอบเอว รัดเอาร่างอ่อนปวกเปียกของอิศราเอาไว้ได้ก่อนที่ชายหนุ่มจะลงไปกองกับพื้น
...ขายหน้าจริงๆ เลยเรา แต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว แขนขาไม่มีแรงเลย...
...แต่แขนของผู้พันวรุตม์ทำไมแข็งแรงจัง ทหารอะไรกลิ่นตัวหอมน่าดม ตัวก็อุ่น อยากจะซุกหน้าเข้ากับอกกว้างแล้วหลับซักงีบ...
"เป็นอะไรครับ ไม่สบายหรือเปล่า ไปนั่งพักตรงโน้นก่อนดีกว่า" วรุตม์พยุงอิศรา ฝ่ายนั้นเลยได้โอกาสโอบร่างแกร่งของนายทหารยึดไว้แน่น
"ผมไม่ไหวแล้ว" อิศราเริ่มรู้สึกดีขึ้นเพราะเมื่อรถจอด เท้าเหยียบพื้น อาการหวาดกลัวความสูงก็เริ่มหายไปโดยอัตโนมัติ แต่การได้แนบชิดกับวรุตม์เช่นนี้ทำให้เขาไม่อยากขยับตัว
"แข็งใจเดินหน่อยนะครับ ไปนั่งพักตรงโน้นให้ลมโกรก จะได้รู้สึกสบายขึ้น" วรุตม์พาอิศราเดินช้าๆ ครั้นอิศราเห็นจุดที่นายทหารจะพาไปนั่งก็เริ่มจะเข่าอ่อนอีกครั้ง หากกายท่อนบนกลับฝืนตัวเอาไว้
"เอ่อ ผมรู้สึกดีขึ้นแล้วครับ ไปนั่งตรงโน้นก็ได้" อิศราบุ้ยปากไปอีกด้าน
"ตรงนั้นเห็นวิวชัดเจนที่สุดแล้วครับ จะได้ภาพสวยๆ คุณอิศรานั่งรอผมซักครู่ ผมจะไปเอากล้องมาให้" วรุตม์ทำไม่รู้ไม่ชี้ พาอิศราเดินไปจนถึงโขดหินใกล้หน้าผาจนได้
อิศราไม่อาจขัดขืน ทันที่ที่ถึงโขดหิน เขาก็ทรุดตัวลงนั่งกับพื้น หันหลังให้หน้าผา พิงโขคหินเหมือนจะให้เป็นที่กำบัง
...โอย ใจจะหยุดเต้นอยู่แล้ว ทำไมวรุตม์ไม่รู้สึกสงสารเขาบ้างเลยหรือ ทำหน้ายิ้มๆ อยู่ได้ ดูไม่ออกหรือยังไงว่าเขากลัวความสูง...
...อ้าว ไม่อยากให้วรุตม์รู้นี่น่า เขามองไม่ออกก็ดีแล้วนี่ จะได้ไม่หน้าแตก แล้วนี่จะหาเหตุผลอะไรมาอธิบายอาการที่กำลังเป็นอยู่นี่ล่ะ...
...ภีร์นะภีร์ ไม่น่าเลย คอยดูนะ จะยุให้ผู้พันวรุตม์ชวนไปล่องแก่ง ดูซิ จะมีสภาพเหมือนเราหรือเปล่า...
 :L1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 6 (10/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: gboy ที่ 10-09-2009 18:10:03
 :L1:
รักพี่นาย

มาup บ่อยๆนะครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 6 (10/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: morrian ที่ 10-09-2009 18:47:30
มาสมัครเป็นแฟนนิยายด้วยคนค้าบผม :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 6 (10/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 10-09-2009 18:53:19
ท่าทางงานนี้คนชอบเล่นเกมส์จะเจ็บหนักนะเนี่ยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 6 (10/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Zarch_Chabu_Chabu ที่ 10-09-2009 21:15:54
 o13ชักเข้มข้นแล้วสิครับ
ปล.ขยันๆนะครับพี่นายทั้งเรื่องเรียนแล้วก็เรื่องนิยยาย :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 6 (10/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 10-09-2009 21:29:19
 :laugh: แต่ละคนบาปกรรมตามทันกันจริงๆ
รายคุณภีร์เนี่ย ซวยสองต่อ เหอะๆคิดแผนจนปวดประสาท
ผู้พันพลโหยมีเชื้อมีสายด้วยนะเนี่ย แต่พอเกมส์จบภีร์ก็เขี่ยถึง
ตอนนี้ถึงเวลามาเอาคืนแล้วสินะโลกโคตรกลมคราวนี้ล่ะ
จะยื้อเวลาหรือขอเวลาอะไรอีก อีกอย่างผู้พันพลดูท่าจะอ่านออกซะแล้วนะ
่ว่าตัวเองเนี่ยเป็นแค่เหยื่อนี่ถ้ารู้สักนิดว่า เหยื่อรายใหม่ของสองคู่หูนั่นคือใครนะ
เจอดัดหลังๆแน่ๆสองแสบ เล่นกับหัวใจคนอื่นเนี่ย บาปกรรมมันตามมาซะ
ส่วนหมอวิษณุ คนนี้ก็ออกแนวอยากเล่นเกมส์หัวใจของตัวเองด้วย
เดี๊ยะๆไม่รู้อะไรซะแล้วมาเล่นกับไฟ เพื่อนตัวช่วยแยกคุณอิศราส่วนตัวเองก้อเข้า
มาตีด่านคุณภีร์ งานนี้ท่าจะมันส์ ไปกินข้าวล่องแพ เอาให้สะจิตเลยนะคะ
แต่ละคนๆ ฮาๆกันทั้งนั้น

+1 ใ้ห้คุณนายคะรักษาสุขภาพด้วย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 6 (10/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 10-09-2009 21:44:56
คนใหม่กับคนเก่าดันเป็นพี่น้องกัน  :jul3:

แล้วเรื่องที่จะทำกัน ฝ่ายตรงข้ามก็รู้หมดแล้ว ทำไงดี

เป็นกำลังใจให้นะครับ พี่นาย ถึงยังหาไม่ได้ ก็พยายามต่อไป 2000

อาจจะเจอ  :z2: ว่าแต่ยัง + ไม่ได้ ยังไม่ 24 ชม.เลย ติดไว้ก่อนนะครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 6 (10/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 10-09-2009 22:33:44
ไม่คิดว่าภีรวัสจะแหลเก่งขนาดนี้ 555 โจทก์เก่าดันรู้จักโจทก์ใหม่นี่สิ น่ากลัว หุหุ  :m20:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 6 (10/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 11-09-2009 02:56:25
รู้สึกว่าเกมครั้งนี้ จะอีรุงตุงนังเกินคาดเดาของภีร์ล่ะสินะ ไม่รู้ว่าจะมีใคร ที่ทั้งสองคนรู้จัก โผล่มาอีกไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 6 (10/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 11-09-2009 09:24:05
+เป็นกำลังใจให้เสมอครับ+
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 6 (10/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 11-09-2009 13:14:36
o13ชักเข้มข้นแล้วสิครับ
ปล.ขยันๆนะครับพี่นายทั้งเรื่องเรียนแล้วก็เรื่องนิยยาย :beat: :beat:

เรื่องเรียนกำลังจะตายแล้วครับ ตอนนี้ใกล้ถอดใจแล้ว คิดจะขอทำเรื่องดร๊อปหรือเปลี่ยนหัวข้อให้สิ้นเรื่อง แต่ติดอยู่ที่ว่าเทอมนี้มีเวลาเหลือแค่สี่สิบห้าวันที่จะลุยทำหัวข้อใหม่ จะรอดหรือเปล่าก็ไม่รู้ ใครพอจะกรุณาอ่านบทแปลให้ผมได้บ้างไหมครับ จำนวน 26 หน้า และผมอยากจะขอถามคำถามสามคำถามหลังจากที่คุณได้อ่านแล้ว ใครพอมีเวลาและช่วยได้ช่วยบอกหน่อยนะครับ จะส่งเมล์ไฟล์ไปให้ ขอบคุณครับ ตอนนี้ผมพิมพ์ไปได้ไม่เท่าไหร่ บางทีอาจต้องชะงักรออ่านนิยายเรื่องนี้หน่อยนะครับ ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 7 (11/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 11-09-2009 13:19:38
เวลาที่ทำงานเรื่องเรียนกระอักจนจุกคอหอยแล้วก็มาโพสนิยายนี่ล่ะ อย่างน้อยทำให้รู้สึกสบายใจและผ่อนคลายขึ้น ได้ยิ้มมุมปากนิดๆ ขอบคุณที่เสียสละเวลามาอ่านนะครับ

บทที่ 7

"อาหารไม่อร่อยหรือครับ" วิษณุเงยหน้าขึ้นถามภีรวัส เขาสังเกตเห็นชายหนุ่มนั่งนิ่งตั้งแต่ลงแพแล้ว
"อร่อยครับ" ภีรวัสตอบเสียงเบา หันไปมองรอบๆ แพอย่างระแวง
"ปล่อยซักวันเถอะครับ"
ภีรวัสเลิกคิ้ว ไม่เข้าใจที่นายทหารหนุ่มพูด วิษณะจึงพูดต่อว่า "รูปร่างก็ดี ไม่เห็นจะอ้วนตรงไหน ไม่ต้องลดน้ำหนักก็ได้ ผมว่าคุณภีรวัสน่าจะทานให้เยอะๆ ด้วยซ้ำ"
"ผมเปล่า"
"อ้าว ผมนึกว่าที่ทานน้อยๆ เพราะกำลังไดเอ็ท" วิษณุแปลกใจ
"เปล่า"
"บรรยาศดีไหมครับ แพเล็กๆ พอนั่งกันได้สองคน ล่องไปเรื่อยๆ ตามแม่น้ำช้าๆน้ำใสแจ๋ว อยากได้อะไรเพิ่ม แค่ชักธงขึ้น" วิษณุเอื้อมมือไปดึงเชือกที่ผูกอยู่กับเสาข้างๆ ออกแล้วชักธงสีแดงขั้นยอดเสา "พนักงานก็พายเรือมาจากแพใหญ่ มารับออเดอร์"
"ดีครับ" ภีรวัสตอบเสียงเบา
"คุณภีรวัสรู้ไหมครับ น้ำใสขนาดนี้ ที่จริงลึกเป็นสิบๆ เมตร ลึกมากพอที่จระเข้อเมซอนมาอาศัยอยู่ได้เลยทีเดียว" วิษณุยิ้มกว้าง ยื่นมือลงไปจุ่มน้ำ "สะอาดด้วย ไม่มีมลพิษ์เจือปนเหมือนคลองในกรุงเทพฯ"
"น่าเล่น" ภีรวัสฝืนยิ้ม แค่ได้ยินว่าลึก เขาก็อยากหาเสื้อชูชีพมาใส่เสียเดี๋ยวนี้
"ไว้มีโอกาส ผมจะพาไปพายเรือเล่น พอร้อนก็ลงเล่นน้ำให้เย็นสะบาย" วิษณุการท่องเที่ยวเสนอโปรแกรม
"ครับ ดีครับ"
...โอย จะไม่ไหวแล้ว ทำไมแพเป็นสั่นๆ แบบนี้ ที่แย่ก็คือ แพลำนี้พ่วงเป็นลำสุดท้าย หากเกิดเชือกที่ผูกอยู่ขาดขึ้นมาจะทำยังไงดี...
วิษณุชวนภีรวัสคุยตลอดทาง ทุกครั้งชายหนุ่มตอบเพียงสั้นๆ เพราะมีสาเหตุจากอาการกลัวน้ำ วิษณุเป็นคนคุยเก่ง ภีรวัสยอมรับว่าหากเป็นสภานการณ์ปกติเขาต้องสนุกสนานกับการสนทนาเป็นอย่างมาก
ยิ่งพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน ทัศนียภาพรอบด้านก็ยิ่งสวยงาม แสงสีทองส่องต้องผิวน้ำระยิบระยับเป็นประกาย ลมเย็นเอื่อยๆ นกกาบินกลับรังพร้อมส่งเสียงร้องไพเราะยิ่งนัก ภีรวัสอยากดื่มด่ำกับบรรยาศพิเศษสุดเช่นนี้ แต่เขาควบคุมตัวเองไม่ได้ สิ่งเดียวที่เขาทำได้ตอนนี้คือนั่งนิ่งๆ ไม่ไหวติง
โชคดีที่การรับประทานอาหารมื้อพิเศษสิ้นสุดลงเมื่อพระอาทิตย์ตกดินพอดี เมื่อแพเทียบท่า ภีรวัสรีบกระโดดขึ้นฝั่งแล้วรีบตรงลิ่วไปนั่งพักที่เก้าอี้ปีกไม้ตัวใหญ่หน้าร้านอาหาร โดยมีวิษณุเดินยิ้มกว้างตามมาติดๆ
"ที่จริง เขามีอีกเที่ยวนะครับ สำหรับคนที่อยากทานรอบค่ำ นั่งทานใต้แสงไฟสลัว ได้บรรยากาศไปอีกแบบ" วิษณุนั่งลงข้างๆ "ไว้คราวหน้า มาลองให้ครบทุกบรรยากาศ"
...บรรยากาศสยองละสิ ล่องแพไปกลางน้ำลึกตอนมืด น่ากลัวยิ่งกว่าตอนมีแสงสว่างเสียอีก...
"ดีครับ" ภีรวัสตอบเสียงเบา รู้สึกดีขึ้นมากเมื่อได้ขึ้นมาอยู่บนบก
"อยากกลับเลยไหมครับ หรืออยากไปเดินย่อยอาหาร" วิษณุถาม
"เป็นรายการปิดท้ายการนำเที่ยวเย็นนี้หรือเปล่าครับ"
"เปล่า" วิษณะยิ้มพราว "ผมจัดรายการเพิ่มได้อีกหลายอย่าง ถ้าคุณภีรวัสยังไม่อยากลับบ้าน บอกแล้วไงครับ ผมจะพาเที่ยว"
"กลางป่าแบบนี้มีที่เที่ยวด้วยหรือครับ" ภีรวัสสงสัย
" อย่าพูดเป็นเล่นไปนะครับ กลางป่าแบบนี้ล่ะมีผับด้วย บรรยากาศดีมากจนคุณภีรวัสอาจไม่อยากไปผับในกรุงเทพฯ อีกเลยก็ได้ ผับอยู่บนเนินเขา มองไปทางไหนก็เห็นแต่ภูเขาสุดลูกหูลูกตา มองขึ้นไปบนท้องฟ้าก็มีแต่ดาวเต็มไปหมด ลมเอื่อยๆ เย็นสบายกว่าห้องแอร์ ดนตรีคลอเบาๆ"
...ทหารอะไร โรแมนติกซะไม่มี...
...ไม่น่าเชื่อ ห้าวเข้มอย่างผู้พันวิษณุจะเป็นคนโรแมนติก...
"แค่นึกภาพตามก็สัมผัสบรรยากาศแล้วครับ"
"ไปเลยไหมครับ" วิษณุชวน
"ผมยังไม่ได้บอกเพื่อน กลัวอิศราเป็นห่วง อีกอย่าง พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้น เลยคิดว่าเอาไว้วันหลังจะดีกว่าไหมครับ" ภีรวัสจำใจปฏิเสธ
...วิษณุเป็นคนน่ารัก หากใกล้ชิดมากกว่านี้ เป็นไปได้หรือไม่ว่า...
...ไม่ได้ วิษณุจะมาทำให้เขวไม่ได้ หากวิษณุแทรกเข้ามาแบบนี้ เขาก็จะไม่มีเวลาสู้กับอิศราในการพิชิตผู้พันวรุฒม์ ไหนจะพลอีก เวลาที่มีอยู่ก็น้อยนิด...

ขณะที่กำลังกล่าวขอบคุณวิษณุสำหรับการพาไปทานอาหารเย็นมื้อพิเศษและกำลังจะกล่าวอำลา รถของวรุฒม์ก็เล่นเข้ามาจอดหน้าบ้าน เห็นอิศรานั่งยิ้มแป้นมาแต่ไกล ภีรวัสก็รู้สึกหมั่นใส้เพื่อนยิ่งนัก
"นึกว่าหายไปไหน ที่แท้ก็มาพาคุณภีรวัสไปทานอาหารเย็น" พันตรีวรุฒม์หันไปยิ้มให้เพื่อนหลังจากทักทายกันสั้นๆ และรู้ว่าวิษณุพาภีรวัสไปล่องแพทานอาหาร
"ที่โปรดของวิษณุเลยล่ะครับ" วรุตม์หันไปบอกภีรวัส
"บรรยากาศยอมเยี่ยมมากเลยล่ะอิศ เสียดายที่อิศไม่ได้ไปด้วย" ภีรวัสบอกเพื่อน
"ไว้คราวหน้าให้วิษณุพาไปอีกสิครับ" วรุฒม์พูดยิ้มๆ กับวิษณุ สายตาที่มองกันมีเฉพาะตัวเองกับเพื่อนเท่านั้นที่เข้าใจ
"พระอาทิตย์ลับเหลี่ยมเขาบนดอยคงสวยมาก" ภีรวัสเปรย
"คราวหลังผมจะพาไปอีก ที่จริงวันนี้กะจะชวนคุณภีรวัสไปด้วยกัน แต่มาถึงบ้านกลับไม่เจอ ผมเลยไปกับคุณอิศราสองคน"
"สวยจนแทบลืมหายใจเลยล่ะภีร์" อิศราอวด "เรานั่งตะลึงตลอดทาง ภีร์ก็คงเหมือนกันใช่ไหม"
"คุณภีรวัสก็ดื่มด่ำกับธรรมชาติจนนั่งนิ่งแทบไม่ได้แตะอาหาร" วิษณุเสริม
"ก็บรรยากาศดีนี่ครับ" ภีรวัสหัวเราะเสียงเบาแล้วหันไปสบตากับอิศรา เป็นที่เข้าใจกันเองว่า วันนี้รอดตัวไปได้อีกวัน คราวต่อไป คงต้องเลี่ยงที่จะพาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการเผยจุดอ่อน

ภีรวัสกับอิศรายืนมองรถของสองทหารหนุ่มที่ขับออกไปจนลับตาแล้วจึงหันหน้าเข้าหากัน ภีรวัสซึ่งเป็นฝ่ายที่ร้อนใจเริ่มก่อน
"อิศ เราขอเสนอให้เปลี่ยนกฏ"
"กฏอะไรอีก นี่เปลี่ยนมาสองรอบแล้วนะ กลัวแพ้หรือไง"
"เปล่า" ภีวัสยักไหล่ "แต่เพื่อความสนุก และเราก็ไม่มีเวลามาก ไอขอเสนอให้มีการกำหนดเวลาสำหรับการแข่งขัน"
"ชาตินึงหรือไง" อิศราแดกดัน
"หนึ่งเดือน"
"บ้าหรือ หนึ่งเดือน เร็วตายห่..." อิศราโวยวาย
"งั้นแกก็เอาผู้พันวิษณุไปทิ้งที่อื่นสิ อะไรวะ ตัวเองเป็นคนอ่อยหมอวิษณุมาเอง แล้วมาปล่อยให้มาเกาะแกะเราได้ยังไง" ภีรวัสขึ้นเสียง
"ดูๆ ไปหมอวิษณุก็ไม่ได้ด้อยกว่าผู้พันวรุฒม์เลยนะภีร์ เป็นเพื่อนกันเหมือนเราสองคนอีกด้วย ถ้าสมมุติว่ากลับมาใช้ฟอร์แมตเดิมล่ะ คือว่า ต่างคนต่างมีเป้าหมายของตัวเอง ใช้เวลาหนึ่งเดือน ใครทำให้เป้าหมายรักได้ก่อน คนนั้นก็เป็นคนชนะ แทนที่จะมาแย่งคนๆ เดียวกันแล้วมีตัวแปรโผล่เข้ามาแทรกแซงการแข่งขัน" อิศราทำท่าครุ่นคิดก่อนจะสรุปว่า "ยูคู่กับหมอวิษณุ ไอคู่กับผู้พันวรุตม์"
"ไม่ได้นะ ยูคู่กับหมอวิษณุ" ภีรวัสแย้งขึ้นมาทันควัน
"ทำไมไม่ได้ ก็เห็นๆ ว่าหมอวิษณุเขาชอบยู เรารึอุตส่าห์ใจดี เสียสละให้ ทั้งๆ ที่เห็นว่าเพื่อนมีทางชนะมากกว่า เราก็ยังยอม" อิศราให้เหตุผล
"น้อยๆ หน่อยไอ้ก้อนอิฐ" ภีรวัสเสียงเข้ม "นายรู้จักกับหมอวิษณุมาก่อนโดยที่ไม่บอกเรา ไปรู้จักกันตอนไหนไม่รู้ ไม่เล่าให้ฟังแม้แต่นิด กะจะหาเบี้ยใบ้รายทางเก็บเอาไว้ตอนที่ตัวเองหง่าวไม่มีอะไรทำในวันที่เราได้โควต้าผู้พันวรุฒม์ใช่ไหมล่ะ รู้ทันหรอก"
"วันนี้แกเป็นคนเสนอเปลี่ยนแผน งั้นก็เอาฤกษ์ของวันนี้" อิศราไม่ยอม "และวันนี้แกก็ไปกับหมอวิษณุ ก็ให้ถือว่าเป็นไปตามสถานการณ์ของวันนี้"
"จะเอาผู้พันวรุฒม์ให้ได้ใช่ไหมอิศ" ภีรวัตม์เสียงแข็ง ยกมือขึ้นกอดอก
"ฮื่อ" อิศราพยักหน้า ทำตาหลุกหลิก มองซ้ายมองขวา บิดตัวไปมา
ภีรวัสหรี่ตาลงช้าๆ ลองอิศราได้แสดงท่าทางแบบที่กำลังทำอยู่ตรงหน้าขณะนี้ ยังไงเพื่อนเขาก็ไม่ยอม อาการแบบนี้เขาคุ้นดีตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลาย เขารู้ดีว่าอิศรากำลังสื่อว่า "ไม่สน ฉันจะเอา ฉันไม่ยอม"
"ได้" ภีรวัสยื่นหน้าเข้ามาใกล้ "ภีรวัสไม่หวั่นหรอก"
"หนึ่งเดือน"
"กฏเดิม" ภีรวัสย้ำ
"ใครแพ้ เทรดมิลล์หนึ่งเครื่อง" อิศราตกลงเรื่องเดิมพัน
"ยี่ห้อตามแต่คนชนะจะเลือก"
"ได้"

วรุฒม์ชะเง้อมองหน้าบ้านเมื่อได้ยินเสียงเรียก ครั้นเห็นว่าใครมายืนเกาะรั้วอยู่ก็เลิกคิ้วด้วยความแปลกใจแล้วเปิดประตูออกไปก่อนจะพูดขึ้นว่า "มาทำไมไม่บอกวะ"
"เซอร์ไพรซ์" คนยืนเกาะรั้วอยู่ยิ้มกว้าง "เห็นนายบ่นว่าเมื่อไร่เราจะมาซะที คราวนี้จะได้เลิกบ่น"
วรุตม์ไม่ตอบ เดินไปเปิดประตูให้เพื่อนแล้วถามว่าพักที่ไหน
"คืนนี้ขอนอนบ้านนายก่อน พรุ่งนี้จะไปนอนบ้านคุณอา นี่สามทุ่มแล้ว ไม่อยากไปกดกริ่งเรียกบ้านโน้น แล้วนี่หายไปไหนมา แวะมาสองรอบแล้วก็ไม่เจอ โทรไปก็ไม่ติด วิษณุก็เหมือนกัน"
"ไปทานข้าวมา" วรุฒม์ตอบสั้นๆ
"เป็นอะไร ทำท่าเนือยๆ เรามาแล้ว นายก็ได้กลับกรุงเทพฯ เสียที เห็นบ่นว่าเบื่อเมืองเล็กๆ จะแย่"
"ทำไมรีบมา" วรุฒม์ถาม
"เอ้าไอ้นี่ ยังจะมาถาม แต่ก่อนเร่งยิกๆ พอมาแล้วกลับมาถาม"
"ไม่เห็นมีของ"
"เดี๋ยวตามมา ที่จริงเรามาดูที่ทาง ยังไงก็ต้องกลับกรุงเทพฯ ก่อน ปลายๆ อาทิตย์หน้าถึงจะได้ย้ายมาอย่างเป็นทางการ"
วรุฒม์ยืนนิ่ง คิดอะไรอยู่ชั่วครู่ แล้วพูดขึ้นมาว่า "เดือนหน้าค่อยมาก็ได้ ไม่ต้องรีบ"
"นายนี่จริงๆ ปกติยิ่งเป็นคนเข้าใจยาก ยิ่งทำให้งงอีก"
"แค่เป็นห่วง ไม่อยากให้เร่งรีบ จะได้เคลียร์อะไรทางโน้นให้เสร็จเรียบร้อย" วรุฒม์ยักไหล่ เดินไปเปิดตู้เย็น แล้วมานั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกับเพื่อนพร้อมกับยื่นแก้วน้ำให้
"ก็ว่ายังงั้นล่ะ ถึงจะได้รีบกลับกรุงเทพฯ ไปเคลียร์ให้เสร็จ แล้วรีบย้ายมาให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้"
"เราต่างหากต้องงง" วรุตม์มองหน้าเพื่อนนิ่ง "นายเป็นคนช้าเอง ท่านั้นท่านี้อยู่เป็นนานสองนาน ไม่ย้ายซักที อยู่ดีๆ ก็จะรีบ"
"นายก็เหมือนกัน อยู่ดีๆ ก็จะไม่รีบ" อีกฝ่ายตอบ
"ช่างเถอะ มาเมื่อไหร่ก็มา" วรุฒม์ตัดบท "แต่เราคงอยู่ต่ออีกหน่อย"
"เฮ้ย ไม่รีบกลับเข้าไปรายงานตัวหรือวะ"
"ลาพักร้อนซะเลย ทำงานมาหลายปีไม่เคยหยุด คราวนี้ขอหยุดยาวซักหน่อย"
"คงยาวมากไม่ได้หรอกรุตม์ เราได้ยินมาว่าพ่อกำลังจะดึงตัวนายไปกลาโหมฯ คราวนี้ท่าทางเอาจริง"
"ถ้าเราไม่ไป ใครจะมาบังคับได้" วรุตม์ยักไหล่ไม่สนใจ
"ผบ. ทบ. เลยนะเพื่อน ท่านยอมใครที่ไหน"
"เราก็ไม่ยอมเหมือนกัน" วรุฒม์เสียงเข้ม ใบหน้าเรียบนิ่งเมื่อพูดถึงผู้เป็นบิดาของเพื่อนที่มีศักดิ์เป็นลุง "พ่อนาย ไม่ใช่พ่อเรา"
"เอาล่ะ ยอมไม่ยอมก็ค่อยว่ากันอีกที ขอนอนพักเอาแรงซักหน่อย พรุ่งนี้มีศึกต้องสู้"
"ศึกอะไร" วรุตม์เงยหน้ามองเพื่อนที่ลุกขึ้นบิดเอวอย่างเหนื่อยล้า
"ศึกเก่า" อีกฝ่ายยักไหล่ "ไม่นึกไม่ฝันว่าจะมาเจอคนที่ตามหามาตั้งหลายเดือน ทำกับเราแสบมาก คราวนี้เราจะสั่งสอนให้รู้สำนึก"
วรุตม์มองเพื่อนเงียบๆ ท่าทางเพื่อนไม่อยากจะเล่าต่อ เพราะพูดเสร็จก็ยืนนิ่งเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง เขาจึงบอกให้ไปอาบน้ำพักผ่อน
"รุตม์ ขอบใจนะที่มาช่วยเรื่องงาน ไม่ได้นาย เราก็คงหัวหมุนน่าดู"
"ไม่เป็นไหรหรอก เป็นทั้งเพื่อนเป็นทั้งญาติกัน ไม่ช่วยกันแล้วจะช่วยใคร" วรุตม์ยิ้ม "ว่าแต่นายเถอะ พล เรื่องอะไรก็ปล่อยๆ ไปซะบ้าง พักหลังดูเครียดๆ นะ หาแฟนซักคนเถอะ จะได้มีความสุข"
"จะสุขจะเศร้าเดี๋ยวก็รู้" พันตรีพลพึมพำ

ขณะที่รอภีรวัส อิศราก็เดินถ่ายภาพตามหมู่บ้านชาวเขาไปเรื่อย วันนี้เขากับเพื่อนขึ้นมาบนดอย โชคดีที่เป็นดอยไม่สูงมากนั้น ถนนลาดยางกว้าง มีรถสัญจรไปมาพอประมาณ ไม่ใช่ถนนลูกรังไต่เขาสูงชันเหมือนวันก่อนที่หลวมตัวไปกับพันตรีวรุตม์
เมื่อนึกถึงนายทหารหนุ่ม อิศราก็ต้องถอนหายใจ เขายอมรับว่าชอบพันตรีวรุตม์มาก เป็นความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูก ลึกๆ แล้วเขาไม่อยากเล่นเกม "หลอกให้รักแล้วหักอก" อย่างที่กำลังทำอยู่ ไม่ว่าเขาจะแพ้หรือชนะ ท้ายที่สุดเขาทั้งสองคนก็ต้องเลิกกับ "เหยื่อ" ของเกมหัวใจครั้งนี้ และห้ามหวนกลับไปคบอีกเป็นเด็ดขาด
หากต้องจากกันเขาคงเสียดายวรุตม์มาก สัมผัสที่ได้รับจากนายทหารเมื่อประคองเขาเมื่อตอนที่อยู่บนภูเขาทำให้รู้สึกอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่อยากจะนึกเลยว่า หากมีความสัมพันธ์ทางกายกันแล้ว เขาจะตัดใจจากวรุตม์ได้หรือไม่ เพียงแค่โอบเอวไม่กี่นาทียังรู้สึกได้ถึงเพียงนี้
อิศรานั่งพักอยู่ที่เพิงขายของข้างถนนแล้วยกข้อมือขึ้นมาดูเวลา ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขายอมออกมาต่างจังหวัดกับภีรวัสนานเกินสองอาทิตย์ ภีรวัสต้องโน้มน้าวเขาอยู่นาน กว่าจะตกลงมาเป็นเพื่อนช่วยงานวิจัยที่เขาเองก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าใดนักว่าเพื่อนทำอะไร และแม้แต่อยู่บนเครื่องบินขณะที่เดินทางมาจังหวัดน่านเขาก็บ่นมาตลอดทางว่าภีรวัสพาเขามาลำบากลำบน แต่ครั้นพบกับวรุตม์และได้รับการต้อนรับแบบที่เขาไม่คาดคิดก็ให้รู้สึกขอบคุณโชคชะตายิ่งนัก ความหวาดหวั่นว่าจะมีแต่ความเบื่อหน่ายที่ต้องมาจมอยู่ในป่ากลับกลายเป็นความสนใสมีชีวิตชีวา
ทว่า...เขากลับมีความรู้สึกทุกข์ใจแทรกเข้ามาด้วย เมื่อนึกถึงว่า หากเวลาหนึ่งเดือนมาถึง เกมหัวใจเกมนี้จบลง เขาก็จะต้องจากคนที่เขามีความรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก คนแรกที่เขาคิดว่าอาจจะพัฒนาเป็นอะไรที่ลึกซึ้งได้มากกว่านี้
...เกมนี้ชักจะไม่ค่อยสนุกเสียแล้ว...
...ทุกครั้ง เขาจะมุ่งมั่นเอาชนะภีรวัสให้ได้ หลายครั้งเขาพบกับคนที่เขาค่อนข้างชอบเป็นพิเศษแต่ในที่สุดเมื่อเกมจบเขาก็ตัดใจได้ แต่คราวนี้ ทำไมมีความรู้สึกว่าคงจะยากกว่าทุกครั้ง...
...ตอนนี้เขาไม่รู้สึกมุ่งเอาชนะเพื่อนเท่าใดนัก หากมุ่งเอาชนะตนเอง และที่สำคัญ เอาชนะใจของวรุตม์...

ขณะที่ใจล่องลอยถึงนายทหารหนุ่มรูปหล่อ อิศราก็ได้ยินเสียงรถ เมื่อหันไปมอง เขาต้องยิ้มกว้างออกมาเมื่อเห็นรถจี๊บทหารสีเขียวกำลังวิ่งเข้ามาใกล้
...คิดถึงทหาร ทหารก็มา...
...ใครกันนะ ถ้าเป็นวรุตม์ เขาจะถือว่าเป็นฟ้าลิขิต...
"ผู้พันวิษณุ" อิศราพึมพำเมื่อเห็นคนที่นั่งอยู่ในรถ แม้จะผิดหวังเล็กน้อย แต่เขาก็ลุกขึ้นยืนแล้วก้าวออกมาจากเพิงขายของข้างถนนให้คนที่ขับรถมามองเห็น
แต่คนที่นั่งมากับวิษณุทำให้เขาต้องขมวดคิ้ว เพราะชายหนุ่มคนนั้นดูคุ้นตามาก ใบหน้าขาวสะอาด คิ้วเข้ม ตาเรียวเล็ก จมูกโด่ง ปากแดง ไรหนวดครึ้ม
...ตายแล้ว อดีตของภีรวัส มาได้ยังไงเนี่ย...
พันตรีนายแพทย์วิษณุจอดรถตรงหน้าอิศราแล้วส่งยิ้มกว้างมาให้ ก่อนจะลงจากรถเดินเข้ามาหาโดยมีชายหนุ่มหน้าขาวคนนั้นตามมาติดๆ
"เจอกันอีกแล้ว เห็นใกลๆ ผมยังนึกอยู่เลยว่าเด็กขายของฝากให้นักท่องเที่ยวทำไมน่ารักจัง " วิษณุส่งยิ้ม ทำตาวิบวับ "พอเข้ามาใกล้ถึงเห็นว่าเป็นคุณอิศรานี่เอง"
"ผมรู้ว่าเป็นผู้พันตั้งแต่ไกลๆ โน่นแล้วล่ะครับ พอเห็นรถเลี้ยวโค้งมาก็รู้เลยว่าใช่" อิศราพูดยิ้มๆ
"ตาดีขนาดนั้นเชียว" วิษณุเลิกคิ้ว ทำหน้าแปลกใจ
"เปล่าครับ หูดีต่างหาก ได้ยินเสียงรถเป็นทำนองเพลงเจ้าชู้ก็นึกหน้าผู้พันออกทันที"
"ว๊า ไหงคิดแบบนี้ล่ะครับ" วิษณุแกล้งทำหน้าไม่พอใจ "คุณอิศราเข้าใจผมผิด"
"หรือครับ น่าจะจริง ผมชอบมองคนผิดตลอด ต้องลองมองผู้พันใหม่ซะแล้ว" อิศราพยักหน้าเห็นด้วย
"อ้อ ลืมแนะนำเพื่อนให้รู้จัก" วิษณุหันไปหาคนที่เดินมาหยุดยืนอยู่ข้างๆ "เพื่อนผมมาจากกรุงเทพฯ ครับ พันตรีพล เดชาวุธ ลูกชายคนเล็กของท่านผู้บัญชาการทหารบก"
"สวัสดีครับคุณอิศรา ไม่ได้เจอกันนาน" พลทัก
...ใช่แล้ว พันตรีพลคนนี้นี่เอง ทหารคนแรกที่ภีรวัสมีความสัมพันธ์ด้วยจาก "เกมหัวใจชายในเครื่องแบบ" เมื่อต้นปี เขาหักอกตำรวจ ภีรวัสหักอกทหาร พอจบเกม ก็พากันไปเที่ยวญี่ปุ่นสองอาทิตย์ กลับมาเมืองไทย ภีรวัสต้องเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ เพราะพลไม่ยอมโดนทิ้ง
"อ้าว รู้จักกันด้วยหรือครับ" วิษณุทำหน้าแปลกใจ
"คุณอิศราอาจจะจำเราไม่ได้" พลตอบเพื่อนเจือรอยยิ้มบางๆ แล้วหันหน้ามาทางอิศรา "แต่ผมจำได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อนสนิทคุณอิศรา"
"นายรู้จักคุณภีรวัสด้วยหรือ" วิษณุแปลกใจมากกว่าเดิม
"ภีร์ อยู่ที่สถานีตรวจอากาศครับ กำลังนั่งสมาธิ" อิศรารีบรายงาน จะว่าไป เขากับพลก็ "รู้จัก" กันในระดับหนึ่ง เพราะแรกเริ่มนั้น เขาจับคู่กับพล แต่อาทิตย์ต่อมา ก็เปลี่ยนกับภีรวัสเพื่อความเหมาะสมเพราะต่างคนต่างบ้านใกล้กัน ถือว่าสะดวกต่อการแข่งขัน
"ภีร์กับคุณอิศราแทบไม่เคยห่างกัน เป็นเพื่อนสนิทกันมาก และชอบทำอะไรด้วยกันเสมอ ช่วยเหลือกันทุกเรื่อง" พลพูดเสียงเรียบ
"อ๋อ เราพอมองออก" วิษณุพยักหน้า
"แหม จะมีเพื่อนไว้ทำไมใช่ไหมครับ" อิศรายิ้มกว้าง แต่แวบหนึ่งคิดว่าเห็นประกายตารู้ทันของพล
...ที่คิดไว้เมื่อครู่ว่าเกมนี้ชักจะไม่ค่อยสนุก คราวนี้เขาเปลี่ยนใจแล้ว โอกาศที่เขาจะชนะภีรวัสมีอยู่เห็นๆ หากพลเข้ามาแทรก เพื่อนเขาก็จะมีอุปสรรคในการ "ทำงาน" กับวิษณุ ผู้ที่ท่าทางจะรักใครได้ง่ายเหลือเกิน...
"งั้นเราแยกกับนายตรงนี้นะ ขอไปทักทายภีร์ซะก่อน นายจะกลับเมื่อไหร่ค่อยโทรบอก ขอตัวนะครับคุณอิศรา" พลก้มศรีษะให้แล้วแยกตัวไปทันที
"ไม่น่าเชื่อ" วิษณุมองตามหลังร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ทสีฟ้าอ่อนกับกางเกงยีนส์ที่กำลังเดินดุ่มๆ ไปตามทางเดิน
"โลกกลมจริงๆ"
"เขารู้จักกันดีด้วยครับ" อิศราพูดขึ้นเบาๆ ทำให้วิษณุหันกลับมามอง ทำหน้าแปลกใจยิ่งกว่าเดิม
"ขนาดไหนครับ" วิษณุถาม
"อืม ผู้พันต้องไปถามเขาเอง เท่าที่ผมรู้ น่าจะลึกซึ้งพอสมควร" อิศราอมยิ้ม แล้วเปลี่ยนเรื่อง "ว่าแต่ว่า มาทำอะไรที่นี่กันครับ"
วิษณุตอบว่ามาหาเพื่อนที่เป็นแพทย์อาสา และจะชวนกันไปเลี้ยงต้อนรับพล คราวนี้คนที่แปลกใจคืออิศราเมื่อวิษณุบอกว่า พลจะย้ายมาประจำการที่ค่ายศรพิทักษ์แทนวรุตม์ที่มาช่วยราชการชั่วคราว
"หมายความว่าผู้พันวรุฒม์ก็จะต้องย้ายกลับไป..."
"กรุงเทพฯ" วิษณุตอบ "คุณอิศรายังไม่ทราบหรือครับว่าวรุฒม์ไม่ได้ประจำการที่นี่"
"พอดีไม่ได้ถาม" อิศราเสียงเบา รู้สึกว่าตัวเองพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย
"พลจะย้ายมาอาทิตย์หน้าครับ" วิษณุพูดต่อ
"อาทิตย์หน้า" อิศราทวนคำพูด
"ครับ" วิษณุตอบสั้นๆ แล้วอดรู้สึกใจแปลบไม่ได้เมื่อเห็นแววตาผิดหวังของชายหนุ่มหน้าขาวที่ยืนอยู่ใกล้ๆ
อิศราเงียบไปชั่วครู่ในใจคิดว่า 'ไม่ได้การ ต้องเรียกประชุมกับภีรวัสเป็นการด่วน'
"คุณอิศราคงผิดหวัง เพิ่งรู้จักกับวรุฒม์" วิษณุกล่าวเสียงเรียบ
"แต่ผู้พันวิษณุยังประจำการอยู่ที่นี่ไม่ใช่หรือครับ เจ็บไข้ได้ป่วยก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีหมอรักษา" อิศราปรับสีหน้าให้ร่าเริง เมื่อครู่เขาคิดว่าเห็นแววตาน้อยใจของนายแพทย์ทหารที่ปกติยิ้มแย้มอยู่เป็นนิจ ตอนนี้วิษณุทำหน้านิ่งเรียบ ทำราวกับว่ารู้สึกผิดหวังที่เห็นเขาทำหน้าเศร้าเมื่อรู้เรื่องของวรุฒม์กับพล
"แต่ก็ไม่เป็นไรนี่ใช่ไหมครับ อีกไม่นาน คุณอิศรากับคุณภีรวัสก็จะกลับกรุงเทพฯ ผมกับพลเสียอีกต้องอยู่ที่นี่ต่อ"
อิศราบอกตัวเองว่า ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาก็คงจะพูดเล่นสนุกๆ กับภีรวัสว่า สถานการณ์แบบนี้ ก็ต้องเปลี่ยนแผน แย่งกันจีบวรุตม์เช่นที่ตกลงกันไว้ตอนแรก ใครดีใครได้ พอ "เหยื่อ" บอกรักแล้วก็ทิ้งเช่นเคย
...แต่ตอนนี้ ชักไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น...
...ความจริง เขาต้องกลับเข้ากรุงเทพฯ ก่อนภีรวัสเพราะทิ้งงานนานเกินเดือนไม่ได้ ภีรวัสเป็นนักวิจัย และวางแผนจะอยู่ที่นี่สองเดือนเป็นอย่างน้อย สมมุติว่า "เกมหลอกให้รักแล้วหักอก" ที่มีวรุตม์และวิษณุเป็นเป้าหมายจบลงภายในหนึ่งเดือนตามที่ตกลงกัน เมื่อวรุตม์ย้ายกลับเข้ากรุงเทพฯ เขาก็กลับกรุงเทพฯ พอดี และภีรวัสยังต้องทำวิจัยต่ออีกเดือนกว่าๆ นั่นก็เป็นโอกาสดีที่เขาจะสานสัมพันธ์ต่อกับวรุตม์ และวิษณุเองก็สานสันพันธ์ต่อกับภีรวัสได้...
...แต่...
...แต่มีพลแทรกเข้ามาเป็นตัวแปร ภีรวัสจะทำอย่างไร...
...อ้อ เกือบลืมไป เมื่อพลจะย้ายมาแทนวรุตม์อาทิตย์หน้า ก็แสดงว่าเวลาหนึ่งเดือนที่ตกลงไว้กับภีรวัสก็ต้องเปลี่ยนไปอีกหรือนี่ จะบ้าหรือ เพิ่งรู้จักกันสองอาทิตย์ จะให้รีบเผด็จศึกวรุตม์ภายในอาทิตย์ที่จะถึงนี้ได้อย่างไร ท่าทางนิ่งๆ ขรึมๆ แบบนั้น เขายอมรับว่าไม่ค่อยมั่นใจเท่าใดนัก มีเวลาสองสามเดือนอย่างเคยค่อยมั่นใจกว่า...
...โอยปวดหัว ตกลงเกมรักครั้งนี้จะสนุกเหมือนเคยหรือเปล่านี่...
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 7 (11/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: alterlyx ที่ 11-09-2009 13:44:38
^
^
โอ้ยยยยย ขอปวดหัวด้วยคนนะค่ะ ... อะไรมันจะอิรุงตุงนัง ขนาดนี้เนี้ยะ  o2
ยิ่งอ่าน ต้องยิ่งรีบนึกภาพตามให้ทัน

คุณนาย วางเรื่องได้รวบรัด รวดเร็วมากเลย ... แทบแยกประสาทไม่ทัน เหอะๆ
แต่ก็กลับสนุก เร้าใจ อึดอัด ไม่ขาดไม่เกิน ครบรส ลงตัว
โอ้ยยยย ๆ ๆ นับวันยิ่งสนุกมากขึ้นเรื่อย ๆ ... ปวดหัว ปวดตับกันมากขึ้นเรื่อยๆ ซะด้วย
ไม่รู้ตอนหน้า ต้องกินยา ทัมใจ ก่อนอ่านรึป่าว

+1 ให้ค่ะ ..... เชียร์สุดตัว :interest:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 7 (11/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 11-09-2009 13:47:02
 :mc4:  เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  ตามอ่านทันแล้วค่า

สนุกมาก  เขียนดีมากๆค่า   o13  ชอบๆๆ ฮาสองเพื่อนรักจริงๆๆๆ กินกันไม่ลงจริงๆๆ  
ฮาทุกตอนเลย  โดยเฉพาะเห็นเวลาสองคนฮึ่มๆใส่กัน    :m20:


ดูท่าจะมีแววยุ่งเหยิงตามมา  5555  ตายแน่ๆๆเลย จะรอดมะเนี่ย  ภีร์กะก้อนอิฐ

ขอ เป็น FC อิศรา  เน้อชอบๆๆๆ สดใส ใสซื่อ(โง่)  เหมือนเด็กดี  :man1:

ส่วนวิษณุ  ตอนแรกน่ะแอบเชียร์ให้พิชิตใจอิศราได้  เหอๆๆ  แต่พ่อคุณมันดันเจ้าชู้ ว่าไม่รู้จะเลือกเอาคนไหนอีก ไปจีบภีรร์อีกคน

เชอะ สะบัดบ๊อบใส่เลย   :beat:

รอตอนต่อไปจ้า  เป็นกำลังใจนะคะ  ไว้จะตามมาเม้นท์บ่อยๆ

+1


------------------
ขอไปอ่านตอนเจ็ดก่อนค่า







E d i t   ตอน 7

โอ๊ยๆๆๆ  อิศราน่ารักกกกกกกกกกก :m3:  (อารมณ์ส่วนตัวมาก หุหุ)

จะเป็นยังไงเนี่ย  เรื่องราวดูพันอิรุงตุงนังมากๆๆ 

พลก็ดูจะไม่ปล่อยง่ายๆๆ ตายแน๋ๆๆ  ภีร์เอ๊ย!  :pigha2:

ส่วนวิษณุ  แหมๆๆ มีทำหน้าน้อยจวย ปวดตับ  คึคึ 





หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 7 (11/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 11-09-2009 14:26:37
555 ดูวุ่นวายยกกำลังสามกันไปเลย

ปล. ขอติงนิดนะคับ พันตรีหม่อมหลวงพล ณ นคร เนี่ย

สกุล ณ นคร ไม่ใช่สกุลที่สืบเชื้อสายมาจากพระมหากษัตริย์ แต่สืบเชื้อสายมาจากเจ้าเมืองนคร

ดังนั้นคนในสกุลนี้ จะใช้คำนำหน้า ว่า ม.จ., ม.ร.ว. หรือม.ล. ไม่ได้ ต้องเป็น นาย นาง นางสาว และ

คนที่มีคำหน้านำหน้าว่า ม.จ., ม.ร.ว. หรือม.ล. ชื่อราชสกุลจะต้องไม่ลงท้ายด้วย ณ อยุธยา อีกด้วย 

และสำหรับคนที่มีชื่อราชสกุลลงท้ายด้วย ณ อยุธยา เนื่องมาจาก เค้าไม่มีคำนำหน้าเป็น ม.จ., ม.ร.ว. หรือม.ล.

เป็นเพียงแค่ นาย นาง นางสาว เพื่อแสดงว่าบุคคลนั้นสืบเชื้อสายราชสกุลนั้นๆมา เลยต้อง มีคำว่า ณ อยุธยา ต่อท้ายชื่อราชสกุล
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 7 (11/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 11-09-2009 15:30:13
นิยายพี่นายทุกเรื่องมันต้องมีอะไรซับซ้อนซ่อนเงื่อนให้ปวดเศียรเวียนเกล้าทุกที่ไปสิน่า  :serius2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 7 (11/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 11-09-2009 20:00:48
งานเข้าทั้งภีรวัส ทั้งอิศราเลย คราวนี้
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 7 (11/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 11-09-2009 22:18:11
สองคนนี้น่าจะโดนให้หนักกว่านี้นะ ชอบหลอกคนดีนัก :angry2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 7 (11/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_nan ที่ 11-09-2009 22:28:42
อืม แอบรอลุ้นให้เพื่อนได้กันเองซะเลย  :really2: อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 7 (11/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 11-09-2009 22:44:31

โอกาส!

เจ้สอง  :bye2:

ปล. เห็นด้วยเรื่อง พ.ต.ม.ล.พล  ณ นคร  อ่านแล้วตกกะใจ

ม.ล. นับจากทางพ่อ มิใช่หรอคะ

หรือนายคนนี้จะเอานามสกุลแม่มาใช่?
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 7 (11/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 12-09-2009 03:18:50
น่าปวดหัวจริงๆ เกมนี้ = =;
 o22
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 7 (11/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 12-09-2009 05:24:42
ชักจะยุ่งใหญ่แล้ว ทั้งคนใหม่คนเก่า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 7 (11/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: morrian ที่ 12-09-2009 12:57:20
น่าปวดเศียร เวียนเฮด ซะยิ่งกระไร  :really2:

รอตอนต่อไปค้าบผม
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 7 (11/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 12-09-2009 13:57:42
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด
งานเข้ายกแพ็คคะพี่น้อง
ถ้าเวลาไมเปลี่ยนอะไรๆอาจเป็นไปได้
นี่ทั้งเวลาและศึกนอกศึกใจรอจ่อคิวอยู่
สงสารคุณภีร์ทำไมต้องมาเจอเครื่องบินสามลำชนกันแบบนี้ด้วยนะ
เฮ้อ งานนี้คุณภีร์ท่าทางจะอากาศหนักจะใช้วิธีเงียบๆสยบค.เคลื่อนไหว
ของผู้พันพลรึ แล้วไหนจะเกมส์ล่าคุณ วรุตม์อีกล่ะ กรรมจริงๆ
ผู้พันพลกับผู้พันวรุตม์ เป็นญาติกัน เรื่องแดงแน่ๆแม้แต่เพื่อนเลิฟอย่างอิศราก้อไม่รอด
งานนี้โดยแฉกลางป่าแน่คะ อิอิ

+1 จัดให้นะคะคุณนาย คิดฮอดแต่กอดบ่ได๋ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 7 (11/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: J๐ly ที่ 12-09-2009 23:29:51
โอ้ย



มันส์ มันส์




 :really2: :really2: :really2:


มาต่อไวไวนะ จ้ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 7 (11/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: crazy Y ที่ 13-09-2009 09:28:54
มาลงชื่อสมัครเป็น แฟนนิยาย คุณนาย



เรื่องชักจะยุ่งเหยิงแล้ว เริ่มพีคขึ้น พีคขึ้น 


ต่อด่วนนะค่ะ  จะลงแดงแล้ว
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 7 (11/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: lune ที่ 13-09-2009 18:43:07
คงถึงเวลาชดใช้กรรมที่เคยก่อ ของสองหนุ่มกระมัง :amen:
 แต่ขอให้มีคู่ที่สมหวังนะคะ :call:
   :L2: ส่งกำลังใจมาเช่นเคย  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 7 (11/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Zarch_Chabu_Chabu ที่ 13-09-2009 22:27:34
 :z2:งานเข้าแล้วไหมหล่ะคุณภีร์
ปล.ค่อยๆคิดค่อยๆทำทีละเรื่องนะครับพี่นาย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 7 (11/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Resonance ที่ 14-09-2009 04:17:57
ยิ่งอ่านยิ่งหนุก จะเป็นยังไงต่อไปน้อ เดาเรื่องไม่ถูกเลย   555      o13

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 7 (11/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 15-09-2009 11:09:23
บทที่ 8 ครับ ขอโทษทีนะครับที่มาโพสช้า ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ และขอบคุณสำหรับคำแนะนำทุกอย่างครับ
ป.ล. ยศและนามสกุลของ พันตรีพล ในเรื่องเปลี่ยนแล้วนะครับ  :z1: ตอนตั้งชื่อตัวละครใช้สมองคิดแต่ซีกเดียวเลยไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่ ขอบคุณที่ช่วยชี้แนะ

Chapter 8

ภีรวัสชะงักเมื่อมองลงไปจากสถานีตรวจอากาศแล้วเห็นพันตรีพลกำลังเดินขึ้นเนินมาช้าๆ ชายหนุ่มหันซ้ายหันขวา กำลังหาทางหลบนายทหารหนุ่ม แต่พลมองเห็นเสียก่อน ภีรวัสจึงจำต้องยิ้มให้
“กำลังจะกลับหรือครับ หรือกำลังจะหลบผม”
...โลกกลมอีกแล้ว ดอยมีตั้งหลายดอย ทำไมต้องเจอพลอีกนะ เดินมุ่งมาหาเขาเหมือนรู้ว่าอยู่ที่นี่...
“กำลังจะหลบ” ภีรวัสเมินหน้าออกไปมองด้านข้าง “ถ้าคุณอยากได้ยินผมตอบแบบนี้ ผมก็จะตอบให้ได้ยินสมใจอยาก”
“ภีร์ ผมขอโทษ” พลเสียงอ่อนลง
“ผมเพียงแต่ตกใจที่จู่ๆ ก็เจอคุณอยู่บนดอย เป็นใครก็ต้องแปลกใจ คุณทำเหมือนรู้ว่าผมอยู่ที่นี่ ตามสะกดรอยหรือครับ” ภีรวัสทำหน้างอน
“เปล่า มีคนบอกว่าคุณอยู่ที่นี่ ผมก็เลยมาหา”
“งั้นหรือครับ” ภีรวัสทำหน้าไม่เชื่อ ในใจนึกเข่นเขี้ยวอิศรายิ่งนัก
“ผมมาธุระกับเพื่อน พอดีเจอเพื่อนสนิทคุณยืนอยู่ริมถนน ยังไม่ทันได้ถาม เขาก็บอกว่าคุณอยู่บนนี้”
...ไอ้ก้อนอิฐ แสบนักนะ...
“ภีร์ ผมไม่ได้อยากจะเร่งรัดคุณหรอกนะ แต่ผมยอมรับคุณตรงๆ นะครับว่า เมื่อเห็นหน้าคุณแล้ว ผมก็ร้อนรุ่ม เมื่อคืนแทบนอนไม่หลับ เห็นแต่หน้าคุณลอยไปลอยมา พยายามบอกตัวเองว่าคุณไม่รักผมแล้ว แต่ผมก็ทำใจไม่ได้ เตือนตัวเองว่าให้รอเวลาอีกซักหน่อย แต่ใจผมมันไม่ยอมรอ” พลทำหน้าเศร้า เสียงออดอ้อน “อย่างน้อย ตลอดเวลาที่คุณมาทำงานอยู่ที่นี่ ขอให้ผมได้ใช้เวลาอยู่กับคุณบ้างนะครับ”
...ไม่ได้หรอก เวลายิ่งมีน้อย แล้วนี่วิษณุจะว่าอย่างไร และเขาเองจะทำยังไงดี เขาต้องพิชิตใจวิษณุให้ได้ภายในหนึ่งเดือน หากมีพลมาคอยตื๊อเขาอยู่แบบนี้ อาจไม่สำเร็จ...
ภีรวัสยืนนิ่ง พยายามไตร่ตรองหาวิธีเอาตัวรอดจากสถานการณ์กระอักกระอ่วนใจเช่นนี้ เขาต้องทำงานวิจัยอยู่ที่นี่สองเดือนกว่า ยังไงก็หนีพลไม่พ้น แต่เมื่องานวิจัยภาคสนามเสร็จก็ต้องกลับเข้ากรุงเทพฯ จึงไม่ต้องมาคอยกังวลเรื่องพลอีก แต่ตอนนี้ ต้องให้ผ่านเดือนแรกไปได้เสียก่อน พอรู้ผลแพ้ชนะเกมการแข่งขันระหว่างเขากับอิศราค่อยว่ากันอีกที
"ผู้พันพลครับ" ภีรวัสสูดลมหายใจลึก "ผมรู้ดีว่าตัวเองผิดที่อยู่ดีๆ ก็เกิดประสาทเสียกลัวความสัมพันธ์และเลือกงานมาก่อนความรัก เพราะฉะนั้นผมจะยอมรับคำขอของคุณ แต่ว่าขออะไรผมอย่างได้ไหมครับ"
พลพยักหน้า รอฟังว่าภีรวัสจะเล่นเกมอะไรกับเขาต่อไป
"ผู้พันอย่าเพิ่งเร่งรัดผมมากนัก ยังไงผมก็ขอทำงานวิจัยชิ้นนี้ให้เสร็จก่อน ขอผมซักครั้ง งานวิจัยชิ้นนี้สำคัญกับผมมาก ผมอยากทุ่มเทให้กับมัน เลยอาจให้เวลาคุณมากไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ หนึ่งอาทิตย์ ผมต้องให้เวลาผู้พันบ้าง"
"ขอผมสองวันก็พอ"
...ไม่ได้หรอก สองวันเลยหรือ ไม่ได้นะ...
"อย่าเพิ่งกำหนดแบบนั้นเลยนะครบ" ภีรวัสยื่นมือไปแตะแขนของนายทหารหนุ่ม "ถ้างานมันติดพันก็อาจมีเวลาให้ไม่เต็มวัน แต่ถ้าว่างๆ ก็อาจใช้เวลาด้วยกันเกินสองวันติดต่อกัน" ภีรวัสต่อรอง
"ผมขอแค่เลิกงาน แต่วันเสาร์อาทิตย์ไหนคุณว่างก็..."
"บางทีผมต้องนั่งทดลองอะไรหลายอย่าง ถ้าอุปกรณ์ทำงานผิดพลาดก็ต้องทุ่มเวลาแก้ไข เวลามันไม่แน่นอน" ภีรวัสรีบแทรก พยายามรักษาระดับน้ำเสียงให้เป็นปกติ
"ผมจะคอยอยู่ช่วย"
"ขอบคุณครับ แต่คุณต้องทำงาน" ภีรวัสลูบแขนของพล "อย่างที่ผมบอก อย่าเร่งรัดกันมากนัก ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างสบายๆ"
ภีรวัสรู้ดีว่าพลต้านทานสัมผัสเขาไม่ค่อยได้ เขารู้สึกได้เลยว่ากล้ามเนื้อแขนของพลกระตุก หายใจแรงขึ้น และหากเขายื่นปากไปจูบ พลก็จะควบคุมตนเองไม่ได้ ภีรวัสจึงบีบต้นแขนอีกฝ่ายแล้วดึงเข้ามาใกล้
"ผมยอมรับว่าผมก็คิดถึงผู้พัน" ภีรวัสทำเสียงทุ้มต่ำ "แต่ตอนนี้ขอเวลาผมเข็นงานวิจัยนี้ให้เสร็จ แล้วเรามาทบทวนความสัมพันธ์กันใหม่"
พลหายใจหนัก การได้อยู่ใกล้ชิดกับภีรวัสในที่ลับตาคนเช่นนี้ทำให้เขารู้สึกหวั่นไหว ในใจที่เตรียมตัวมาเป็นอย่างดีเริ่มเขว แต่ก็เตือนตัวเองว่าต้องอดทน เกมนี้เขาจะแพ้อีกไม่ได้ ภีรวัสทำกับเขาครั้งนั้นยังจำได้ไม่ลืม หลายเดือนผ่านมาที่ตามหาชายหนุ่ม เขาได้รู้อะไรดีๆ หลายอย่าง
 ...คราวนี้ภีรวัสต้องได้รับบทเรียนบ้าง...
พลรับปากแล้วชวนภีรวัสกลับลงไปยังหมู่บ้านเพื่อสมทบกับอิศราและนั่งรอวิษณุ  

เมื่ออยู่กันตามลำพัง ภีรวัสจึงมีโอกาส "เอาเรื่อง" คนปากมาก
"ไปบอกเขาทำไมว่าไออยู่บนสถานี"
"เขาถาม" อิสรายักไหล่ ตอบเสร็จก็หันหน้าไปมองด้านอื่น
"แน่ใจนะไอ้เตี้ย ดูตาแกก็รู้ว่าโกหก มีใครเคยสอนไหมว่าเวลาตอแหล อย่าขยับลูกตาไปมา" ภีรวัสกระชากเสียง
 "ยังไงเขาก็รู้อยู่ดี หนีไม่พ้นหรอก ไม่ว่าเราจะบอกหรือไม่บอก วันนี้ท่านนายพลคนรักแท้ก็ต้องเจอนายจนได้ กรรมตามสนองแล้วพีวีซีเอ๊ย"
"พูดไปเถอะ ถ้าจะว่ากรรมตามสนอง นายก็ไม่ต่างกันหรอก เผลอๆ กรรมนายเยอะกว่าอีก" ภีรวัสถอนหายใจ หันไปมองพลที่กำลังซื้อน้ำดื่ม
"กลับกันหรือยังอิศ เหนียวตัวอยากอาบน้ำเต็มที" ภีรวัสเปลี่ยนเรื่อง
"รอเดี๋ยว หมอวิษณุบอกให้รอ"
"อะไรนะ มาได้ยังไง แล้วตอนนี้อยู่ไหน" ภีรวัสขึ้นเสียงสูงแต่คุมระดับความดังไม่ให้ดังเกินไป
"เหาะมามั๊ง" อิศราพูดกวน แล้วทำสีหน้ายิ้มๆ นัยน์ตาวูบวาบ "มากับท่านนายพล นายคงยังไม่รู้อะไร"
"รู้อะไร" ภีรวัสถาม หากในใจได้คำตอบแล้ว
...อย่าบอกนะว่าพลกับวิษณุเป็นเพื่อนกัน...
...ถ้าอย่างนั้น!...
...โอ๊ย แย่แล้ว...
"คุณอิศรา" ภีรวัสทำเสียงเข้ม "เข้าใจอะไรไหม พันตรีพล เดชาวุธ เป็นเพื่อนกับพันตรีนายแพทย์วิษณุ ชาญยุทธ แล้วทั้งสองคนนี่จะเป็นอะไรกับพันโทวรุฒม์ แสนยานุภาพ"
อิศราขมวดคิ้ว นิ่งไปหลายอึดใจ ภีรวัสนั่งรอเวลาให้อิศรานึกอะไรได้
...เพื่อนเขาเข้าใจอะไรช้าเช่นเคย...
"ตาเถรช่วย" ในที่สุด อิศราก็อุทานเบาๆ
"ตาเถรหรือสมภารก็ช่วยไม่ทันแล้วล่ะอิศราเอ๊ย"
"ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่ได้ งานนี้เราจะป๊อกตั้งแต่ยังไม่เด้งไม่ได้นะภีร์" อิศราทำหน้าตื่นตระหนก
"แป๊ก" ภีรวัสแก้ภาษาของอิศราเพราะรู้อยู่ว่าเพื่อนมักจะพูดอะไรผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาตกใจ "หมายความว่าจอดตั้งแต่ยังไม่ได้แจว ถ้าพลเอาเรื่องวีรกรรมของเราไปบอกผู้พันวรุตม์กับหมอวิษณุ เกมนี้ก็จบ"
"ต้องกำจัดท่านนายพล" อิศราพึมพำ
"กำจัดยังไงไอ้เตี้ย เอาปืนไปจ่อยิงหัวให้ตายแล้วเราลากศพไปทิ้งลงหน้าผาดีไหม" ภีรวัสเสียงเข้ม อยากจะถีบอิศราให้ตกเก้าอี้นัก
"งั้นก็ขอร้องผู้พันพลไปตรงๆ บอกว่าขอเวลาอีกเดือนค่อยลงทัณฑ์แกดีไหม ระหว่างนี้ก็เงียบๆ ไว้ ขออีกเกม เกมสุดท้าย แล้วเราสองคนจะกลับตัวกลับใจเป็นคนรักจริงหวังแต่ง เป็นคนดีของสังคม"
"ยังทำเป็นพูดเล่น" ภีรวัสเบ้ปาก
...กลัวจะมองหน้าวรุฒม์กับวิษณุไม่ติดนะสิ...
...เอ๊ะ ทำไมเขามารู้สึกแคร์ด้วยเล่า แต่ก่อนไม่เคยสนใจ...
...วิษณุไม่เท่าไหร่ แต่วรุฒม์นี่สิ คนเรียบนิ่งเคร่งขรึมแบบนั้นจะมีปฏิกิริยาอย่างไรนะ...
"โอ๊ย ปวดหัวจริงๆ ภีรวัสเอ๊ย เราว่าเกมนี้ปวดหัวยิ่งกว่าครั้งไหนๆ แบบนี้ไอ้คำที่เขาพูดว่าพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสคงใช้ไม่ได้" อิศราถอนหายใจ ทำหน้ามุ่ย หันซ้ายหันขวาอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี
"คุยอะไรกันอยู่ครับ น่าสนุก" พลเดินกลับมาที่สองหนุ่ม ยื่นน้ำอัดลมให้อิศรากับภีรวัสคนละขวด ภีรวัสหันไปยิ้มมุมปากให้นายทหารที่ยิ้มกว้างดูมีความสุขยิ่งนัก แต่ทว่า ชายหนุ่มรู้สึกว่าตัวเองเห็นประกายตาของพลฉายแววแปลกๆ เพียงชั่วเสี้ยววินาที
...ประกายตาเหมือนคนที่กำลังต้องการแก้แค้นศัตรู...
...ที่พลบอกว่ารู้อะไรดีๆ จากตอนที่ตามหาเขา พลรู้อะไรบ้าง เขาต้องล้วงหาข้อมูลจากพลให้ได้...
"ร้อนจังเลยนะครับ" อิศราพูดโพล่งขึ้นมา "บ้านเมืองเราเข้าขั้นวิกฤติแล้วหรือยังไง โลกก็ร้อน ทำให้คนร้อน" ภีรวัสอมยิ้ม เข้าใจคำพูดแฝงนัยของเพื่อนที่สื่อความกับเขาว่า 'ภีรวัส แกฉลาดกว่า คิดเร็วเข้า ตอนนี้เข้าขั้นวิกฤติ กำลังร้อนใจ'
...พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาศ ทำยาก แต่ก็น่าลอง...
"ไหนๆ ก็เจอกันแล้ว ไปทานข้าวเย็นด้วยกันนะครับผู้พัน" ภีรวัสหันไปยิ้มอบอุ่นให้พลที่นั่งลงใกล้ๆ แทบจะไหล่ชนกัน
"เราปวดท้อง สงสัยต้องขอตัว" อิศรารีบพูดขึ้นมา
พลเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ แต่พลันก็เปลี่ยนเป็นสีหน้ายิ้มแย้มแล้วบอกตกลง "พอถึงบ้าน ผมจะรีบไปรับ จะพาภีร์ไปทานข้าวเคล้าเสียงดนตรีเพราะๆ ที่ร้านอาหารสวยๆ บรรยากาศดีๆ "
"ขอบคุณครับ คืนนี้ผมให้เวลาคุณเต็มที่" ภีรวัสตอบยิ้มๆ อิศราหันมามองเพื่อนแล้วแอบยกนิ้วให้ สื่อความหมายว่าขอชมเชย
ทั้งสามนั่งเงียบอยู่ชั่วครู่ก็ได้ยินเสียงรถ พลชะเง้อคอมองออกไปนอกร้านขายของจึงเห็นรถของวิษณุตรงมา ทั้งหมดจึงลุกขึ้นแล้วเดินออกไปยืนรออยู่ริมถนน อิศราจึงได้โอกาสแอบกระซิบกับภีรวัสว่า "ทุ่มทั้งตัวเลยหรือวะภีร์ ระวังเชือกจะพันคอนะที่รัก"
"ยูเป็นหนี้บุญคุณไออยู่นะจะบอกให้ จำเอาไว้" ภีรวัสตอบเสียงเข้ม
"จ้า บุญคุณครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก ข้าน้อยจะจำใส่ก้นเอาไว้" อิศรายักคิ้ว ทำหน้าทะเล้นก่อนจะหัวเราะร่าเริงตามสไตล์เพราะรู้ว่าตั้งแต่เด็กเรียนมัธยมมาด้วยกันจนจบปริญญาโท ภีรวัสแก้ปัญหาได้เสมอ

อิศราคุยเจื้อยแจ้วกับวิษณะตลอดทางที่กลับเข้าตัวอำเภอ ส่วนพลเอาแต่นั่งมองภีรวัสยิ้มๆ สายตาบ่งบอกความในใจยิ่งนัก
...เกมนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด ตอนแรกที่คุยกับอิศราว่าเป็นทัวร์นาเมนท์ใหญ่นั้นเห็นจะจริง...
...พลคิดจะทำอะไรนะ ถ้าเขาเป็นคนพล เขาจะคิดทำอะไรหากโดนทิ้งแล้วมาเจอกันอีกครั้ง
...แก้แค้นสิ เรื่องอะไรจะปล่อยให้ลอยนวล...
...โอย ทำไมต้องมาเจอกันอีกตอนนี้...

ร่างสูงของชายหนุ่มสองคนเดินทอดน่องไปตามถนนริมอ่างเก็บน้ำบนเขา ลมค่อนข้างแรงทำให้ผมของภีรวัสปลิวยุ่งเหยิง พลแตะแขนให้ชายหนุ่มหยุดเดินแล้วอ้อมมายืนบังลมให้ ภีรวัสเงยหน้าขึ้นมองและไม่ทันจะได้พูดอะไร พลก็ยกมือขึ้นปัดผมที่ตกลงมาปรกหน้า
"ผู้พัน เดี๋ยวใครเห็น" ภีรวัสเอียงหน้าหนี
"ใครจะเห็น มีเราแค่สองคน" พลยิ้มบางๆ
"ใครว่า" ภีรวัสหันซ้ายหันขวา มองเห็นคนอีกสองสามคู่อยู่ใต้ต้นไม้ใกลๆ
"เมื่อไหร่จะตัดผมเสียที ผมยาวแล้ว"
"ชอบไว้ผมทรงนี้" ภีรวัสพึมพำ "ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องมาจับ"
"ชอบสิครับ" พลแทรก "ถึงจะตัดทรงสกินเฮดผมก็ชอบ อะไรที่เป็นคุณ ผมชอบทั้งนั้น"
"อย่ามาปากหวาน" ภีรวัสทำท่าอาย ในใจเต้นตึกตักเพราะกำลังตัดสินใจว่าจะ "เล่นเกม" ใหม่กับพลดีหรือไม่
...เกมปิดปาก อิศราบอกว่ากำจัดพลทิ้งไป แต่สถานการณ์แบบนี้เขาจะทำอะไรได้ วิธีเดียวที่คิดออกตอนนี้ก็คือ พลต้องไม่พูดอะไรกับวิษณุกับวรุตม์เรื่องวีรกรรมของเขากับอิศรา...
...วีรกรรมการแข่งขัน หลอกให้รักแล้วหักอก...
...ต้องทุ่มทั้งตัวเลยหรือภีร์...เสียงของอิศราดังแทรกขึ้นมาในหัว
...ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก แต่อาจต้อง "ยอม" พลบ้าง...
พลแตะแขนภีรวัสให้เดินไปนั่งที่ม้านั่งริมน้ำ ชายหนุ่มเดินตามไปโดยง่าย ห่อไหล่เล็กน้อย จนนายทหารหนุ่มอดใจไม่ได้ ยกมือขึ้นโอบหลวมๆ
"ไม่นะครับ บอกแล้วไงว่ากลัวคนเห็น" ภีรวัสพูดแต่ก็ไม่ได้เบี่ยงตัวหลบ
"ผมก็บอกแล้วไงว่าไม่มีใครเห็นหรอก" พลยิ้มอย่างอารมณ์ดี
"ตามใจ อยากทำอะไรก็ทำ อยากดึงผมเข้าไปกอดไปจูบก็ทำได้เลย ทำมันกลางแจ้งนี่ล่ะ" ภีรวัสพูดเสียงเรียบ
พลอมยิ้ม ยอมลดแขนลง รอให้ภีรวัสนั่งลงบนม้านั่งเสียก่อนแล้วค่อยหย่อนตัวลงนั่งใกล้ๆ ไหล่ชิดไหล่ หันไปมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของคนที่เคยหลอกให้เขารักแล้วทิ้งเขาไปอย่างไม่ใยดี
ความรู้สึกหลากหลายประดังขึ้นมาในใจ แม้เขาจะบอกตัวเองว่าภีรวัสกำลังแกล้งทำ แต่อีกใจหนึ่งก็บอกว่าชายหนุ่มไม่ได้เสแสร้ง ภีรวัสเองก็อาจจะมีใจกับเขาอยู่บ้าง ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงที่เขาคบกับภีรวัสนั้นช่างเป็นธรรมชาติยิ่งนัก และหากจะพูดว่าเป็นการแสดงละคร ภีรวัสก็เป็นนักแสดงที่เก่งกาจสมควรได้รับรางวัลตุ๊กตาทอง และเขาก็ยินดีที่ได้ร่วมแสดง
"เกลียดผมไหมครับ" ภีรวัสถามขึ้นมา
...ผมเกลียดคุณไม่ลงหรอกภีร์...
"ทำไมคิดว่าผมจะเกลียด" พลย้อนถาม
ภีรวัสหลุบตามองผิวน้ำที่ต้องแสงไฟสีทอง แล้วหันมามองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ แล้วถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะหันหน้ากลับไปมองจุดเดิม
"ผมควรจะโดนเกลียด" ภีรวัสพูดสั้นๆ แล้วนั่งเงียบ
...ภีรวัส จะคุณมาไม้ไหนกันอีก ทำไมถึงได้ชอบเล่นกับหัวใจคนอื่นแบบนี้...
...ลืมทุกอย่าง แล้วเริ่มต้นกันใหม่ดีไหม เขาควรจะลองเสี่ยงกับภีรวัสอีกซักครั้งดีหรือไม่...
"ผมเกลียดคุณไม่ลงหรอกภีร์ แม้จะเกิดอะไรขึ้น ผมก็ไม่มีวันเกลียดคุณ ผมรักคุณ คุณก็รู้ก็เห็นแล้ว" พลยื่นหน้าเข้าไปใกล้ชายหนุ่มที่นั่งก้มมองผิวน้ำระยิบระยับของอ่างเก็บน้ำ "ถ้าคุณยังไม่พร้อมผมก็จะยังไม่พูดอะไรอีก สบายใจได้ แต่อย่าตัดผมทิ้งไปนะ ให้ผมได้อยู่ใกล้ๆ บ้าง"
ภีรวัสยื่นมือมาวางบนหลังมือของพล ลูบไล้เบาๆ สัมผัสอ่อนโยนทำให้พลเลือดสูบฉีดขึ้นมาทันใด ในใจพยายามควบคุมตนเองไม่ได้ดึงร่างของชายหนุ่มเข้ามากอดแล้วจูบอย่างเร่าร้อนเหมือนครั้งที่เคยคบกัน
"ที่คุณบอกว่ารู้อะไรดีๆ ตอนที่ตามหาผม หมายความว่ายังไงหรือครับ" ภีรวัสกัดฟัน ตัดสินใจถามพลไปตรงๆ "ผมคงชื่อเสียงแย่มาก คงทำความผิดไว้ คงไม่เหลืออะไรจะให้ชื่นชม"
พลเบือนหน้าออกไปด้านข้าง ลอบหายใจหนักๆ สิ่งที่เขารู้มาทำให้เขาสับสน ใจหนึ่งก็อยากจะบอกว่าไม่จริง อีกใจหนึ่งก็บอกว่าไม่สนกับอดีตร้ายๆ ของชายหนุ่ม ส่วนอีกใจหนึ่งก็ระแวงว่าภีรวัสอาจกำลังพยายามปั่นหัวเขาอยู่ ภีรวัสเป็นคนฉลาด และท่าทางไม่จนมุมใครง่ายๆ
"บอกมาสิครับ พูดมาเลยตรงๆ ถ้าสิ่งไม่ดีเกี่ยวกับผมที่คุณรู้มาเป็นความจริง ทำไมยังจะมายุ่งกับผมอีก คนเลวไม่ควรจะมีใครมารักมาชอบ" ภีรวัสเงยหน้าขึ้นมาพูดกับพลด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
นายทหารหนุ่มคาดไม่ถึงว่าภีรวัสจะตรงไปตรงมาถึงขนาดนี้ ภีรวัสดูเคร่งขรึม แตกต่างไปจากที่เคยเห็นทำหน้ายิ้มๆ เกือบตลอดเวลา
"คงมีคนบอกผู้พันว่าผมชอบหักอกคนใช่ไหมครับ" ภีรวัสดับเครื่องชน "ผมกับอิศราพนันกันว่าใครจะชนะในเกมหลอกให้รักแล้วทิ้ง คุณคงเคยได้ยินมาแบบนี้ ใครกันที่พูดถึงผมแบบนี้ ผู้พันคงเชื่อเขาเสียสนิท พฤติกรรมผมคงเห็นได้อย่างชัดเจน แล้วตอนที่เราอยู่ด้วยกัน มีอะไรกัน ก็คงเป็นส่วนหนึ่งของการเล่นเกมสนุกๆ"
...บีบน้ำตาหน่อย ใครจะแสดงได้เก่งเท่าภีรวัสไม่มีอีกแล้ว...
...แย่จังเลย ทำไมรู้สึกเจ็บๆ เวลาพูดความจริง ทำไม่รู้สึกเริ่มจะเกลียดตัวเองเข้าให้แล้ว...
"ภีร์" พลคราง รู้สึกตกใจที่ภีรวัสพูดออกมาเช่นนี้
"เวลาเห็นใครโผล่เข้ามาแสดงท่าทางสนใจผม ผู้พันคงอยากที่จะทำเหมือนคนอื่นๆ ที่เขาบอกผู้พันมา ว่าให้ระวังคนชื่อภีรวัสเอาไว้ หมอนี่ร้ายกาจ ชอบหักอกคนอื่น ผู้ชายคนนี้ไม่มีหัวใจ ไม่มีความรู้สึก ไม่เคยซึ้งถึงความรัก"
...ภีรวัส ไหนๆ จะว่าตัวเองแล้วก็เอาให้สุดๆ ไปเลย นี่ไงล่ะ ที่บอกว่าทุ่มสุดตัวเพื่อเอาชนะอิศรา...
...บ้าจริงๆ ตอนนี้ทำไมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองร้ายกาจอย่างนี้...
"อย่าพูดแบบนี้สิครับ ผมไม่ได้คิดจะทำแบบนั้น" พลถอนหายใจอีกครั้ง
...นี่เขาจะแพ้ภีรวัสและแพ้ใจตัวเองตั้งแต่เริ่มต้นเลยหรือนี่...
"เชิญตามสบายเลยครับ ไหนๆ ชื่อเสียงผมก็เสียแล้ว แค่คุณตามหาผมไม่กี่เดือนก็ได้รู้อะไรดีๆ จากคนตั้งหลายคน ผมก็ไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว"
...ใครกันที่พลไปเจอ ใครกัน หรือว่าพงศธร...
...ไม่น่าจะใช่ พงศธรเป็นคนเงียบๆ เป็นสุภาพบุรุษ ไม่น่าใช่...
...หรืออาจจะเป็นชาครินธ์ รายนั้นท่าทางไม่เบา ตอนที่เขาบอกเลิก ชาครินธ์แทบจะหักคอเขาเสียให้ได้ ท่าทางแค้นเขาไม่ใช่น้อย...
พลกับภีรวัสนั่งเงียบอยู่ครู่ใหญ่ ต่างคนต่างปล่อยให้ความคิดล่องลอย จนลมพัดแรงมากขึ้นกว่าเดิม ภีรวัสห่อไหล่ แสดงให้รู้ว่าเริ่มหนาว
...เอาล่ะ ไม้ตาย ลองดูซิว่าพลจะทนได้หรือเปล่า...
ชายหนุ่มเอนตัวแนบร่างบึกบึนของนายทหาร วางศรีษะลงบนไหล่กว้าง แล้วสอดมือเข้าไปคล้องแขนของคนที่นั่งอยู่ข้างๆ พึมพำเรียกชื่อของอีกฝ่ายเบาๆ
พลก้มหน้าลงมองคนที่ซบอยู่กับไหล่ของเขา ใจเต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะ จุดอ่อนของเขาอยู่ตรงนี้ ทุกครั้งที่ได้รับสัมผัสอ่อนโยนจากภีรวัส เขาก็ใจอ่อน
อ่อนทั้งใจ อ่อนทั้งกาย
"ภีร์"
...จูบซักหน่อย ขอเน้นๆ ซักครั้งเถอะ...
...พล ขอโทษนะครับ...
ภีรวัสเงยหน้าขึ้นมา ยื่นปากไปประทับรอบจูบที่คางสากๆ ของนายทหาร แล้วหลับตาพริ้ม นับเลขช้าๆ รอเวลาที่พลจะก้มลงมาประกบปากเขา
...หนึ่ง สอง สาม...
...อืมมม...

****8***
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 7 (11/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 15-09-2009 11:30:12
Chapter 9

อิศราตื่นแต่เช้า แล้วเดินไปเปิดประตูห้องนอนของภีรวัส โผล่หน้าเข้าไปดูว่าเพื่อนตื่นหรือยัง ปกติเขาตื่นสายกว่าภีรวัส แต่วันนี้ตั้งใจตื่นแต่เช้าเพราะอยากถามเพื่อนเรื่องการออกเดทกับพลเมื่อคืน
"ว่าไง ภีร์ หายไปทั้งคืน เสียตัวไปเรียบร้อยแล้วสิ" อิศราหัวเราะ ภีรวัสนอนคุมโปงอยู่บนเตียง เขารู้ว่าเพื่อนตื่นแล้ว ภีรวัสไม่เคยตื่นสาย และยิ่งคุมโปงก็แสดงว่ากำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะลุกขึ้นมาดีหรือไม่
"เปล่า เมื่อคืนเขามาส่งตอนตีหนึ่ง" ภีรวัสเสียงอู้อี้ "แล้วอยากจะรู้มากทำไมรีบนอน ทำไม่ไม่นั่งคอยฟังตั้งแต่เมื่อคืน"
"ได้ผลหรือเปล่า" อิศราเดินเข้ามานั่งข้างเตียง
"ได้ผลอะไร"
"อ้าว ก็ปิดปากท่านนายพลไง" อิศราทำตาโต "กำจัดผู้พันพลไม่ให้มาทำลายการแข่งขันทัวร์นาเมนท์เกมพิชิตรัก ด ทหารรูปหล่อของเรา"
"อะไรนะ ท ทหารไม่ใช่หรือ" ภีรวัสหันหน้ามามองอิศราที่นั่งทำหน้ายิ้มๆ ตาฝันเฟื่อง
"ด ทหาร ไม่เข้าใจหรือไง แกนี่สมองช้าจริงๆ" อิศราตำหนิภีรวัส
"อ๋อ..." ภีรวัสเข้าใจทันใดในเสี้ยววินาที "ฉลาดเล่นคำกับเขาเป็นเหมือนกันนะ"
"มั่นใจได้แค่ไหนวะ ว่าท่านนายพลจะไม่มาทำให้การแข่งขันพังพินาศ" อิศรายังทำหน้าสงสัย "เราละกลัวจริงๆ เรากะจะพิชิตผู้พันวรุฒม์ให้ได้ภายในอาทิตย์หน้า"
"อยากชนะมากหรือไง เรามีเวลาหนึ่งเดือน อาทิตย์หน้าเข้าอาทิตย์ที่สาม แน่ใจหรือว่าจะทำได้ ไม่เห็นหรือว่าผู้พันวรุฒม์นิ่งจะตาย" ภีรวัสเตือน
"ไม่ได้หรอก ปล่อยไว้นานเดี๋ยวจะช้ำ ต้องกินตอนที่สดๆ" อิศราเปรียบเปรย "ได้ข่าวว่า..."
"ข่าวอะไร"
อิศราถอนหายใจ "ที่ท่านนายพลมานี่ก็เพราะมารับงานต่อจากผู้พันวรุฒม์นะสิ ผู้พันของเราจะย้ายกลับกรุงเทพฯ แล้ว เซ็งจริงๆ"
ภีรวัสนิ่ง สมองเริ่มคิดว่าจะทำอย่างไรดี สิ้นเดือนอิศราก็กลับกรุงเทพฯ เขาต้องอยู่ต่ออีกหนึ่งเดือน พลก็ย้ายมาอยู่ที่นี่และก็คงไม่ยอมปล่อยให้เขาอยู่เฉยๆ แน่นอน ส่วนอิศราเมื่อกลับกรุงเทพฯ แล้วก็คงไม่ปล่อยผู้พันวรุฒม์เช่นกัน เมื่อครู่เขาเป็นประกายตาบางอย่างของอิศราดังจะบอกว่า คราวนี้ เพื่อนของเขาคงเตรียมตัวแหกกฎ หากควบคุมความต้องการของตัวเองไม่ได้
...กฏที่ว่า "หลอกให้รักแล้วหักอก และห้ามกลับไปคบกับคนที่ทิ้งไปแล้วโดยเด็ดขาด"

วรุฒม์ยืนมองพลอยู่เป็นเวลานานแล้วจึงเดินเข้าปา มือแตะไหล่อีกฝ่ายให้ตื่นจากภวังค์
"กำลังคิดว่าควรจะย้ายมาอยู่ที่นี่ดีหรือไม่ดีงั้นหรือพล" วรุฒม์ถามเพื่อนยิ้มๆ
"เลือกได้ที่ไหน" พลส่ายหน้า "เป็นลูกคนใหญ่คนโตก็ใช่ว่าจะดีนะ ถูกบีบจนใจจะขาดอยู่แล้ว"
"เป็นผู้บัญชาการกองพันฯ ใครบ้างไม่ชอบ"
"นายก็รู้ว่าเราชอบอยู่ในกระทรวงฯ ไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อถึงส่งเรามาไกลถึงขนาดนี้" พลถอนหายใจ
"หาประสบการณ์มั๊ง" วรุฒม์หัวเราะเบาๆ เมื่อนึกถึง 'ปูมหลัง' ของเหตุการณ์โยกย้าย
"พ่อแกล้งเรามากกว่า พ่อตั้งใจจะให้เราออกห่างจาก..." พลถอนหายใจแล้วเลิกพูด เปลี่ยนมาถามวรุฒม์เรื่องใหม่
"รุฒม์ ขอถามอะไรอย่าง นายคิดว่าไง ถ้าสมมุติว่านายเจอคนที่นายรัก แต่เขาไม่รักนาย"
"รักเขาข้างเดียว" วรุฒม์หรี่ตาใช้ความคิด แต่กลับถามพลแทนที่จะตอบคำถาม "ตกลงนายรักเขาข้างเดียวหรือเขารักนายข้างเดียว ผู้บัญชาการทหารบอกถึงได้ส่งลูกชายคนเล็กมาไกลถึงเพียงนี้"
"โธ่ ไม่ใช่เรื่องนั้นซักหน่อย นั่นมันเรื่องไร้สาระ" พลส่ายหน้าด้วยความเหนื่อยใจ "โอ๊ย เรื่องนั้นไม่อยากจะพูด"
วรุฒม์หัวเราะ เขารู้เรื่องของเพื่อนดี "พ่อนายทำถูกแล้วล่ะ ปัญหาของนายมันค่อนข้างละเอียดอ่อน ออกมาไกลจากเขาก็ดี พ่อนายจะได้จัดการอะไรๆ ได้ง่ายขึ้น"
พลถอนหายใจหนักๆ แล้วเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ไม้ตัวใหญ่หน้าบ้านพักของวุฒม์ ตาเหม่อหมองออกไปอย่างไร้จุดหมาย
"ไม่ใช่เรื่องนั้น" พลแย้ง "เรื่องอื่น"
"เรื่องอะไร เล่าให้เราฟังสิ" วรุฒม์ถาม
"เรายังบอกไม่ได้ เราแค่ถามความเห็นนาย"
วรุฒม์มองเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันอย่างครุ่นคิดก่อนจะตอบว่า "รักเขาข้างเดียวมันทรมานนะพล ถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยง ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องพยายามเลี่ยงเหมือนกัน"
"นายยังจะรักเขาหรือเปล่า ทั้งๆ ที่เขาก็ทำกับนายไว้เจ็บแสบ"
"สรุปแล้ว ตอนนี้นายกำลังรักใครบางคนแต่เขาไม่รักตอบ หนำซ้ำยังทำให้นายเจ็บ" วรุฒม์สรุป "มิน่า ตอนปลายปีที่หายๆ ไปก็เพราะอย่างนี้ใช่ไหม ไม่เล่าให้กันฟังเลยนะ"
"เรื่องมันน่าอาย ใครจะกล้าเล่า" พลเหยียดปาก "อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้ ไม่เคยนึกเลยนะรุฒม์ ทันทีที่เราบอกรักเขา ไม่กี่วันหลังจากนั้น เขาก็ทิ้งเราเลย หายหน้าไปเฉยๆ ตัดเยื่อไม่เหลือใยแม้แต่นิดเดียว ทั้งที่ก่อนหน้านี้รักกับเราอย่างดูดดื่ม เขาเป็นอะไรของเขาก็ไม่รู้ เราก็ไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วตอนนี้ก็มาบอกเราว่าไม่พร้อม ร้ายกาจจริงๆ แต่เราก็ยังรักเขาอยู่ ไม่รู้ว่าทำไม"
"ใจคนมันสลับซับซ้อน นายมาคิดวิเคราะห์มันให้กระจ่างชัดภายในวันสองวันหรือเดือนสองเดือนไม่ได้หรอก ตอนนี้ไปนอนก่อนเถอะ วันหลังค่อยคิดต่อ" วรุฒม์ปลอบเพื่อน ชักจะรู้สึกว่าพลอาการหนักกว่าที่คิด ปกติพลเป็นคนร่าเริง แต่เขาสังเกตว่า เจอพลคราวนี้ เพื่อนของเขาเปลี่ยนไปมาก
"ใช่ เราไม่เข้าใจเขาจริงๆ เขาซับซ้อนจริง" พลเสียงทุ้มต่ำ พยายามเก็บกดอารมณ์
"เอาเถอะ อีกหน่อยนายก็จะรู้สึกดีขึ้นเอง เวลามันก็น่าจะช่วยได้นี่ อยู่ที่นี่เงียบสงบ แต่อย่าปล่อยให้ใจฟุ้งซ่านมากนักก็แล้วกัน เบื่อก็ชวนวิษณุไปหาอะไรทำ แต่ว่ารายนั้นช่วงนี้ก็ไม่ค่อยว่างเท่าไหร่ เขากำลังยุ่งเพราะไปปิ๊งคนน่ารักสองคนพร้อมๆ กัน ตัดสินใจเลือกใครไม่ได้เหมือนเคย"
พลยิ้มมุมปาก ก่อนจะพูดขึ้นมาเบาๆ ว่า "อย่าให้เป็นเหมือนเราก็แล้วกัน เตือนๆ วิษณุไว้ด้วย นายเองก็เถอะ"
วรุฒม์มองพลนิ่งอยู่ชั่วครู่ ในใจรู้สึกสงสัยว่าพลหมายความว่าอย่างไร ทำไมจะต้องระวัง
...หรือบางทีพลแค่จะเตือนเพือนเพราะตัวเองอกหักมาก่อน...
...เขาไม่เคยอกหักเพราะเขาไม่เคยรักใคร อย่างน้อยก็ไม่มีความสัมพันธ์กับใครจริงจังพอที่จะทำให้เสียใจได้เมื่อเลิกคบกัน...
...เวลาอกหักนี่ มันเสียใจมากเพียงใดกันนะ...
...เวลาผิดหวังในความรัก มันเจ็บปวดแค่ไหน ทำไมพลถึงดูเศร้าได้ถึงเพียงนี้ แล้วใครทำให้เพื่อนเขาเสียใจ...


บทที่ 9  ยังมีต่อ ขอไปล้างรถมอเตอร์ไซด์ก่อนนะคร้าบ เดี๋ยวสก๊อยส์ไม่กล้านั่งเพราะกลัวก้นเปื้อน  :z1:  :m20:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 9(15/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: gboy ที่ 15-09-2009 11:37:56

 :z13:
 :z13:
 :z13:
จิ้ม
จิ้ม
จิ้ม

 o22
เยอะอะ

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 9(15/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Resonance ที่ 15-09-2009 11:41:01
กำลังใจก่อนสอบ  5555    o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 9(15/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 15-09-2009 12:33:59
ต่อ บทที่ 9 จนจบครับ

อิศรานอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง สลับกับการถอนหายใจเบาๆ เป็นระยะจนคนที่นั่งอยู่บนพื้นใกล้ๆ อดบ่นไม่ได้
“รูจมูกตีบตันเฉียบพลันหรือไงอิศรา พ่นลมหายใจอยู่ได้ กระดาษเราปลิวกระจัดกระจายหมดแล้ว” ภีรวัสพูดเกินจริงๆ มือวางเอกสารรอบๆ ตัวเพื่อเรียงให้เป็นระเบียบ แล้วเขียนหมายเลขกำกับ
“เอหนึ่ง เอสอง เอสาม เอสี่ไปไหนวะ” ภีรวัสพึมพำ “บีหนึ่ง บีสอง...”
“ผู้พันวิษณุนี่จะเอายังไง ดูไปก็ชอบนาย แต่ดูอีกทีก็เหมือนจะจีบเรา นี่กะจะฟันเราทั้งสองคนเลยหรือนี่" อิศราทำเสียงสงสัย
“เจ้าชู้ ดูก็รู้ว่าเจ้าชู้แบบเนียนๆ ตาวิบวับขนาดนั้น ซีห้า ซีหก ซีเจ็ด กราฟศูนย์หนึ่ง กราฟศูนย์สอง ชิบหาย กราฟศูนย์สามหมึกไม่ชัด” ภีรวัสตอบอิศราแล้วเรียงเอกสารต่อ
“ที่น่าเจ็บใจก็คือผู้พันวรุฒม์ก็ดูเหมือนจะช่วยเพื่อน เช้าวันนี้มาชวนเราออกไปเที่ยว แล้วถามถึงนายว่าอยู่ไหน ตอนก็แรกก็นึกว่าอยากจะเจอนาย เรารึอุตส่าห์หึง ที่ไหนได้ จะมานัดนายให้ผู้พันวิษณุ”
“แล้วไม่ดีหรือ” ภีรวัสตอบแล้วนับหมายเลขเอกสารต่อ
“ก็คงดีหรอก” อิศราพูด เอียงคอคิด แล้วลุกขึ้นนั่ง มองภีรวัสตาไม่กะพริบ “แต่ว่าเรารู้สึกทะแม่งๆ เมื่อกี้ตอนที่ยูอาบน้ำ ผู้พันโทรมา ไอรึก็หลงดีใจ แต่กลับมานัดไอให้ผู้พันวิษณุเสียนี่ ยิ่งเล่ายิ่งงง ยูมีสมองมากกว่า ลองวิเคราะห์ ให้หน่อยซิว่ามันหมายความว่ายังไง”
“สอง ฮื่อ ทำไมสอง” ภีรวัสพึมพำ
“หรือว่าผู้พันวรุฒม์กะจะฟันเราทั้งสองเหมือนกัน” อิสราพูดโพล่งขึ้นมาเสียงดังในทันใด
“ไอ้เตี้ย หยุดพูดได้ไหมวะ ข้านับเลขผิดหมดแล้ว” ภีสวัสตวาด โยนปากกาลงบนพื้น
“นับยากที่ไหน แกนับอยู่แค่เอหนึ่ง เอสอง บีหนึ่ง บีสอง ไม่เห็นถึงเอ็กซ์ วาย แซดซักที” อิศรากระแทกเสียง “มาช่วยกันคิดก่อน เดี๋ยวคืนนี้นอนไม่หลับ ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเสียตัวให้ใครก่อนดีระหว่างผู้พันวิษณุผู้ร่าเริง หรือผู้พันวรุฒม์ผู้เคร่งขรึม หรือว่า พร้อมกันเลย เป็นทรีซัม”
“ไอ้ศาลาวัดเอ๊ย คิดแบบนี้ไง สมองเลยเหลือให้ใช้สำหรับวิเคราะห์เพียงน้อยนิด” ภีรวัสส่ายหน้า
“หรือแกว่าไม่แปลก”
“แปลกนะแปลก” ภีรวัสยักไหล่ “แต่ไม่เห็นจะเป็นปัญหานี่นา หรือแกกลัวแพ้”
“เราแค่สงสัย” อิศราถอนหายใจ แล้วเอนตัวลงนอนก่อนจะเงียบไป
...เราก็สงสัยเหมือนกันอิศราเอ๊ย ขอบใจนะที่เปิดประเด็นขึ้นมา...
...วรุฒม์ไม่ใช่คนโง่ และท่าทางฉลาดกว่าที่เห็นด้วย แต่ศึกครั้งนี้เขาแพ้ไม่ได้ ต่อให้มีวรุฒม์เรียงหน้าเข้ามาเป็นกองทัพ ภีรวัสก็แพ้ไม่ได้...
...เกมนี้น่าจะเรียกได้ว่าสุดยอดแห่งเกมตั้งแต่เคยเล่นมา...

ภีรวัสตัดสินใจว่าเขาน่าจะเป็นฝ่ายบุกและลองเล่นเกมรุกดูสักครั้ง แทนที่จะนั่งใจตุ้มๆ ต่อมๆ รอว่าจะเกิดอะไรขึ้น พลซึ่งเป็นตัวแปรคนสำคัญก็ไม่น่าไว้วางใจ ตอนนี้อาจจะยังไม่ปริปาก แต่ใครจะรู้แน่ หากเขาทำอะไรโจ่งแจ้ง แสดงให้พลเห็นอย่างชัดเจนว่ากำลัง ‘หว่านเสน่ห์’ ให้วิษณุรัก พลอาจจะไม่อยู่เฉยก็ได้
ภีรวัสยืนอยู่หน้าอาคารเล็กๆ ในค่ายศรพิทักษ์ซึ่งเป็นหน่วยแพทย์ทหาร แต่เป็นที่เรียกกันว่า โรงพยาบาลทหาร วันนี้ดูแปลกไปเพราะมีคนเดินเข้าออกกันวุ่นวาย ชายหนุ่มเดินเข้าไปในอาคาร มุ่งตรงไปยังห้องตรวจของพันตรีนายแพทย์วิษณุ แต่ครั้นพ้นหัวมุมทางเดินก็ต้องชะงักเมื่อร่างสูงสง่าของนายทหารในชุดพรางสีเขียวซึ่งยืนอยู่กลางทางเดินหันมาเห็นและทักเขาด้วยเสียงอ่อนโยน
...วรุฒม์ ไหนอิศราบอกว่าวรุฒม์ชวนไปเที่ยว ตอนนี้ได้เวลาเลิกงานแล้วนี่นา...
“ไม่สบายหรือครับ” วรุฒม์เดินเข้ามาใกล้
ภีรวัสแกล้งไอ ทำท่าเจ็บคอเล็กน้อย แล้วเงยหน้าขึ้นยิ้มบางๆ ให้นายทหารรูปหล่อ
“วิษณุไม่ว่างครับ กำลังอยู่ที่ห้องฉุกเฉิน พอดีมีอุบัติเหตุ บาดเจ็บกันหลายราย หมอกำลังช่วยกันอยู่”
“ทหารโดนลูกระเบิดกับหรือครับ” ภีรวัสไม่รู้จะถามอะไร จึงโพล่งออกไปโดยไม่คิด นึกถึงทหาร เขาก็นึกถึงรถถังกับปืนกลและระเบิด...
วรุฒม์หัวเราะเบาๆ แล้วปฏเสธ บอกว่ารถของทหารอาสาประสบอุบัติเหตุตกเขา มีผู้บาดเจ็บสาหัสกันหลายคน แพทย์กำลังทำงานช่วยเหลือคนเจ็บอย่างเต็มที่
“ผู้พันก็คงไม่ว่าเพราะมีเรื่องนี้ เลยพาอิศราไปเที่ยวไม่ได้” ภีรวัสพูดเบาๆ
“ผมโทรไปบอกคุณอิศราแล้ว” วรุฒม์ตอบยิ้มๆ แล้วถามภีรวัสว่า “แล้วนี่อาการเป็นยังไงบ้างครับ ผมว่าไปหาหมอกันเถอะ โรงพยาบาลอำเภอก็อยู่ไม่ไกล เดี๋ยวผมจะพาไป”
“ไหนว่าผู้พันยุ่ง”
“ตอนนี้ไม่ยุ่งแล้วครับ ตอนที่บอกคุณอิสรานั้นน่ะยุ่งจริง คุณอิศราเลยไปกับพลแทน ไม่รู้ว่าเคยรู้จักกันมาก่อน คุณอิศราอยากถ่ายรูปแม่น้ำ พลเลยอาสาพาไป”
...ไปกับพลหรือ พลจะพูดอะไรกับอิศราบ้าง แล้วอิศราจะเฟอะฟะพูดอะไรออกมาแบบไม่คิดหรือเปล่า ปากยิ่งไม่มีหูรูดอยู่ด้วย...
“อ้อ พลรู้จักคุณภีรวัสด้วย โลกกลมจังเลยนะครับ ไม่นึกเลยว่าจะมาเจอกันได้กลางป่ากลางเขาแบบนี้”
...เห็นด้วย กลมจริงๆ กลมจนอยากเตะให้เหมือนลูกบอล...
“ผมอาการดีขึ้นแล้วครับ” ภีรวัสยิ้ม
อาการดีขึ้นเร็วนะครับ” วรุฒม์เปรย
“พอเข้ามาในโรงพยาบาล ได้กลิ่นยาก็รู้สึกดีขึ้นเลยครับ” ภีรวัสหัวเราะเบาๆ กับการพูดเล่นของตัวเอง “ที่จริงไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่รู้สึกปวดหัวนิดหน่อย จะหาหมอก็กระไรอยู่ อีกอย่างที่นี่โรงพยาบาลทหาร เขาไม่ตรวจพลเรือนไม่ใช่หรือครับ”
“ถ้าพลเรือนชื่อภีรวัส ผมว่าแพทย์ทหารชื่อวิษณุตรวจแน่ๆ ครับ” วรุฒม์หัวเราะเบาๆ แล้วผายมือเชิญให้ภีรวัสเดินออกไปอีกทาง แล้วพูดขึ้นว่า “ผมจะเข้าป่าพาทหารเข้าไปฝึกปฏิบัติการเกือบสองอาทิตย์ คงไม่ได้เจอคุณภีรวัสกับคุณอิศรา”
“อะไรนะ ไม่ได้นะ” ภีรวัสเผลออุทาน แต่ก็รีบกลบเกลื่อนว่า “เอ่อ ผมหมายความว่า อะไรนะ”
“ตอนแรกนึกว่าจะสบาย รอพลมาเปลี่ยนงาน ไม่ค่อยมีอะไรทำ แต่ผู้บังคับบัญชาสั่งมา ผมก็ต้องไป”
“แล้วผู้พันวิษณุ...” ภีรวัสห่วงตัวเอง
“ไม่ไปครับ มีเฉพาะผมกับพล”
...ไชโย คราวนี้วิษณุเสร็จเขา อิสราแพ้เห็นๆ ผู้พันวรุฒม์เข้าป่าสองอาทิตย์ โอกาสจะตกหลุมรักและบอกรักอิศราก็หมดไป...
...แต่ว่า พลอยู่กับวรุฒม์สองอาทิตย์แบบนั้น เกิดพลไม่รักษาสัญญา หลุดปากพูดอะไรไปล่ะ...
...จะแคร์อะไร กว่าวรุฒม์จะกลับมา เขาเชื่อว่าวิษณุต้องลงเอยกับเขาเรียบร้อยแล้ว เขาก็จะกลายเป็นผู้ชนะเกมรอบนี้ จากนั้นก็โยนทิ้งไปเหมือนคนอื่นๆ ที่ผ่านมา กลับกรุงเทพฯ อิสรากับเขาก็หาเหยื่อยรายใหม่อีก

*****9****
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 9(15/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 15-09-2009 12:54:20
บทที่8 ช่วงแรกๆ ตาลาย ปวดตาไปหมดเลย :z3:
อ่านแล้วเวียนหัวแทนคนเจ้าชู้ อีรุงตุงนังดีแท้ๆ o18
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 9(15/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 15-09-2009 14:50:16
 :serius2:
อะไรเนี่ย มึนมากมายคะ ถ้าสองหนุ่มไปเข้าป่า
แล้วไมหมอวิษณุต้องเสร็จภีร์ด้วยล่ะ อ้าวแล้วไหน
บอกว่าจะแข่งกันจีบวรุตม์ไง แล้วตอนนี้ไม่จีบแล้วรึ
หันมาแข่งกันจีบกับอิศราที่จะจับวรุตม์แทน กรี๊ดดดมึนๆงงๆ
รู้เกมส์เปลี่ยนไปตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย เพราะมีพลเป็นตัวแปรชิมิ
แผนเลยต้องเปลี่ยนตามอ่ะ คือเมนหลักนะคือผู้พันวรุตม์แน่ๆ
แต่มีหมอวิษณุมาขั้น แ้ล้วไหนจะผู้พันพลอีก เลยต้องจัดการหมอก่อน
เพราะอีกสองหน่อนั่นไม่อยู่ อิศราก็จะหง่าวรอผู้พันวรุตม์เกมส์นี้ไม่ง่ายแหะ
ซับซ้อนด้วย
แต่ว่าคุณภีร์เนี่ยร้ายมากๆ น่าสงสารอิศรานะ โดนด่าว่า "ไอ้เตี้ย" อ่ะโคดน่าสงสาร
แต่ได้ใจคำว่  "ด ทหาร "  :m20: :m20: คนอ่านจะบ้าตายคิดได้ไงคะ สุดยอดด

+1 จัดให้คะ สู้ๆนะคะไปล้างรถมอไซด์ขัดให้สะอาดๆ ขัดเบาะให้ลื่นๆนะคะ
เวลาเบรคน้องสก๊อตจะได้ไหลมาตามเบาะ หุหุ ของชอบชิมิคะ :z1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 9(15/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: crazy Y ที่ 15-09-2009 17:41:59
ตอน 8 นี่งงๆเหมือนรีบน ค่ะ

 ภี บอกว่าต้องจีบ ผู้พัน วิษณุให้ได้ใน 1 เดือน  แต่ช่วงแรก ไม่ใช่นี่นา โอ๊ย สวยงง ค่ะ

เอ๊ะรึว่าอ่านข้ามตอนไหนไป   ต้องกลับไปอ่านใหม่แระ

ว่าแต่ว่า พลนี่ น่าสนใจนะ  หึหึ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 9(15/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: morrian ที่ 15-09-2009 18:41:57
 :really2:

มึนๆงงๆ คับ รึว่าผมอ่านข้ามตอนไหนไปรึเปล่าหว่า  :m28:

ผมเข้าใจว่า สองคนจะแย่งกันจีบวรุตม์ แล้วไหง ภีร์ ถึงจะพิชิต วิษณุ ไปซะแล้วล่ะ

อืม ๆๆ หรือว่าเปลี่ยนเกมใหม่ แข่งกันจีบ แทนที่จะ แย่งกันจีบใช่มะคับ

 :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 9(15/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 15-09-2009 19:53:41
มาแปะไว้ก่อนแต่ก็ชักจะงงแล้วครับ สองหนุ่มเนี่ยตกลงจะจีบใครกันแน่วรุฒหรือวิษณุกันแน่แล้วมาเฉลยหน่อยนะครับ ขอบคุณครับแล้วอย่ามัวแต่ล้างมอร์ไซด์เพลินล่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 9(15/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 15-09-2009 20:35:01
มาแปะไว้ก่อนแต่ก็ชักจะงงแล้วครับ สองหนุ่มเนี่ยตกลงจะจีบใครกันแน่วรุฒหรือวิษณุกันแน่แล้วมาเฉลยหน่อยนะครับ ขอบคุณครับแล้วอย่ามัวแต่ล้างมอร์ไซด์เพลินล่ะ

ตอนกลางๆ บทที่เจ็ดครับ สองหนุ่มเปลี่ยนกฏใหม่หลังจากที่พลโผล่เข้ามา แข่งกันจีบ โดยมีเดิมพันเป็น เทรดมิลล์หนึ่งเครื่อง
ต่อไปก็ก็มีพลิกเกมอีกครับ อ่านดีๆ นะ
แต่ก็อย่างว่าล่ะ ผู้อ่านคงอายุมากกันแล้วใช่ไหมเนี่ย เลยจำเนื้อเรื่องไม่ค่อยได้เนอะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ:
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 15-09-2009 20:41:24
ู^
^

ตอนกลางๆ บทที่เจ็ดครับ สองหนุ่มเปลี่ยนกฏใหม่หลังจากที่พลโผล่เข้ามา แข่งกันจีบ โดยมีเดิมพันเป็น เทรดมิลล์หนึ่งเครื่อง
ต่อไปก็ก็มีพลิกเกมอีกครับ อ่านดีๆ นะ
แต่ก็อย่างว่าล่ะ ผู้อ่านคงอายุมากกันแล้วใช่ไหมเนี่ย เลยจำเนื้อเรื่องไม่ค่อยได้เนอะ

:a14: :a14: ชิส์
ถึงจะรักคนแต่งแต่ขอนิดส์คะ  :beat: :z6:
ทำร้ายจิตใจคนอ่าน  :o12: ไม่ได้ร้อนตัวนะแต่...  :angry2:
"วันนี้แกเป็นคนเสนอเปลี่ยนแผน งั้นก็เอาฤกษ์ของวันนี้" อิศราไม่ยอม "และวันนี้แกก็ไปกับหมอวิษณุ ก็ให้ถือว่าเป็นไปตามสถานการณ์ของวันนี้"
"จะเอาผู้พันวรุฒม์ให้ได้ใช่ไหมอิศ" ภีรวัตม์เสียงแข็ง ยกมือขึ้นกอดอก
"ฮื่อ" อิศราพยักหน้า ทำตาหลุกหลิก มองซ้ายมองขวา บิดตัวไปมา
ภีรวัสหรี่ตาลงช้าๆ ลองอิศราได้แสดงท่าทางแบบที่กำลังทำอยู่ตรงหน้าขณะนี้ ยังไงเพื่อนเขาก็ไม่ยอม อาการแบบนี้เขาคุ้นดีตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลาย เขารู้ดีว่าอิศรากำลังสื่อว่า "ไม่สน ฉันจะเอา ฉันไม่ยอม"
"ได้" ภีรวัสยื่นหน้าเข้ามาใกล้ "ภีรวัสไม่หวั่นหรอก"
"หนึ่งเดือน"
"กฏเดิม" ภีรวัสย้ำ
"ใครแพ้ เทรดมิลล์หนึ่งเครื่อง" อิศราตกลงเรื่องเดิมพัน
"ยี่ห้อตามแต่คนชนะจะเลือก"
"ได้"

อ้อสรุปว่าตอนนี้ต่างคนต่างจีบรึ คุณภีร์ต้องจีบหมอวิษณุ ส่วนอิศราจีบวรุตม์
ให้ได้ภายใน 1 เดือนรึคะ กรี๊ดดดดดดดดดเพราะมีผู้พันพลมาแทรก
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 9(15/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Resonance ที่ 15-09-2009 21:09:13
จะบอกว่าเรา จำชื่อตัวละครไม่ได้ -*- ไม่เป็นหนักกว่าหรอกหรอ   

กว่าจะนึกได้ว่าใครเป็นใครเนี่ยะ อ่านเลยไปค่อนตอนเห็นจะได้     :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 9(15/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 15-09-2009 21:34:29
คิคิ

อิศราอุทานแก่มากอ่ะพี่นาย 55555

 :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 9(15/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: teenza ที่ 15-09-2009 21:48:27
 o2
โอย เปลี่ยนกฎไปมาตามแทบไม่ทัน ต้องเกาะติดสถานการณ์กันทุดชอตเลยทีเดียว
แต่แหมเกมหลอกให้รักแล้วทิ้งนี่ มันน่าโดนตลบหลังจริงๆ ยังงี้ต้องให้ทหารรูปหล่อทั้งสาม  :impress2:จัดการตลบหลังโลด
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 9(15/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 15-09-2009 22:28:46
เกมส์นี้ยุ่งเหมือนลิงแก้แหเลยพี่นาย

เป็นกำลังใจให้เสมอนะครับ สู้ต่อไปอย่าทิ้งนะครับเรื่องเรียน เสียดาย

+1 ให้อีกเช่นเคย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 9(15/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 15-09-2009 23:01:40


แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยส์

เข้ามาบอกว่า เราอ่านรุ้เรื่อง  เราจำชื่อตัวละครได้  เราตามทัน

แสดงว่า เรามิแก่ ชิมิเคอะ

me/ เตรียมน้ำเย็นมาหนึ่งแก้ว  หยดอุทัยทิพย์สองหยด  แล้วยกดื่ม  แหม่ๆ ชื่นใจจริงเชียวแม่คู้ณณณณณณณณณณณณณณ

ประแป้งหน้าลายพร่อย ก่อนตลบมุ้งไว้ใต้ฟูกแล้ว พนมมือสวดมนตร์ ก่อนเข้านอน

ปล. ชิบหาย หรือ ฉิบหาย กันแน่คะ?  อันนี้ไม่ทราบจริงๆ แต่คาดว่าน่าจะเป็นอย่างหลังนะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 9(15/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Zarch_Chabu_Chabu ที่ 15-09-2009 23:17:41
 :angry2:ว่า 2 คนนี้ร้ายแล้วนะ ผมว่าคนแต่งนี่ร้ายยิ่งกว่าอีก :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 9(15/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 15-09-2009 23:23:58
วางแผนกันซักซ้อนเกิ้นนนน คิดตามไม่ทันเลยอะ
ขอตามอ่านไปเรื่อยๆละกันนะครับ แหะๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 9(15/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 16-09-2009 02:28:37
เก่งกันทุกคนเลยอ่ะ แผนซ้อนแผนกันให้วุ่น

จะมีก็แต่อิศราคนเดียวมั้งที่ดู จะไม่ค่อยทันเกมคนอื่นสักเท่าไหร่

ยังไงก็ตามเอาใจช่วยหนุ่มภี ต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 9(15/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: luftwafe ที่ 16-09-2009 13:04:19
คืองี้เลยน่ะคับพี่น้อง

เล่นให้ พ่อวรุฒ "ยศพันโท" นี่จะดูแก่ไปหน่อยไหมง่ะ

้ถ้าเทียบกับไอ้คุณพี่ชายของเราที่ตอนนี้ดำรงยศ "ร้อยเอก" อยู่ นี่ ก็อายุจะ 30 อยู่ร่อมร่อ

ถึงจะจบจปร.ก็ไม่น่ายศขึ้นไวซะขนาดนั้น เพราะทหารไม่เหมือนตำรวจ ยศทหารขึ้นตามวาระ แต่ตำรวจ หลังยศ "ร้อยตำรวจเอก" จะขึ้นอยู่กับผลงาน เส้น การเงิน(ซื้อตำแหน่งได้ เราคอนเฟิร์ม) และความพอใจของนาย

ยกตัวอย่างใกล้ ๆ ไอ้พี่ชาย เข้าเรียน เตรียมทหารตอน ม.5 อายุ 18 ปี เรียนเตรียมทหารไป 2 ปี เรียน จปร. อีก 5 ปี (แต่รุ่นใหม่เรียนเตรียมทหาร 3 ปี ต่อเหล่า อีก 4 ปี) กว่าเฮียท่านจะสำเร็จ ก็ 25 ถ้วน ๆ เรียนชั้นนายร้อยต่อ 1 ปี เป็น 26 ขวบ ไต่เต้ามาถึง ผู้กอง (ขี้) ก็ จะ 30 แล้้วคับพี่น้อง

จากค่าความซ้ำที่เห็นในหน่วยที่พี่ชายประจำอยู่ ไอ้ท่านผู้พันทั้งหลาย อายุ เฉลี่ย 38 Up ทั้งน้านนนนนนนนนน (แถมมีเมีย เมียน้อย และ กิ๊กตามกันเปงพรวน)

ผู้พันวรุฒน่าจะอายุอานาม ประมาณ 35 - 40 ได้แล้ว

มันแก่เกินแกงไปไหมง่ะ :serius2:

ขอทราบอายุที่แท้จริงของผู้พันวรุฒหน่อยก็จะดีคับ  :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 9(15/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 17-09-2009 00:15:32
อ้ากกก  อิศรา(ของเจ้)น่าร้ากกกกกกกกกกกกกก  o4 นิสัยเหมือนเด็กดี คิดยังไงก็แสดงอย่างนั้น ไม่มีเหลี่ยม
ภีร์ก็น่ารัก อิอิ  เป็นคนฉลาด และเป็นผู้ใหญ่กว่าอิศราเยอะ
ช้อบ ชอบ สองเพื่อนซี้  ฮาดี ถึงจะเป็นคู่แข่งกัน แต่สองคนก็รักกันมากกกกก

แล้วเนี่ย อิศราออกไปกะพล 555 ตายๆๆ หากพลหลอกถามอะไรจะทันเค้าไหมเนี่ย 555+ o18

แอบสงสารพลเหมือนกันนะ  ส่วนภีร์ แหลได้อีก  นี่ดาราเจ้าบทบาทยังอาย  5555
ขอบคุณมากค่ะ  หนึ่งบวก  รอตอนต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 9(15/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 17-09-2009 08:18:10
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยส์
เข้ามาบอกว่า เราอ่านรุ้เรื่อง  เราจำชื่อตัวละครได้  เราตามทัน
แสดงว่า เรามิแก่ ชิมิเคอะ เตรียมน้ำเย็นมาหนึ่งแก้ว  หยดอุทัยทิพย์สองหยด  แล้วยกดื่ม  แหม่ๆ ชื่นใจจริงเชียวแม่คู้ณณณณณณณณณณณณณณ ประแป้งหน้าลายพร่อย ก่อนตลบมุ้งไว้ใต้ฟูกแล้ว พนมมือสวดมนตร์ ก่อนเข้านอน
ปล. ชิบหาย หรือ ฉิบหาย กันแน่คะ?  อันนี้ไม่ทราบจริงๆ แต่คาดว่าน่าจะเป็นอย่างหลังนะ
ขอแสดงความยินดีที่อ่านรู้เรื่องและจำตัวละครได้ครับ แล้วก็ขอบคุณมากที่ท้วงเรื่องการใช้คำ จะไปตรวจสอบดูครับ
ส่วนเรื่องแก่นั่นไม่แก่หรอกครับ ชอบดื่มน้ำหยดอทัยทิพย์กับประแป้งหน้าลายพร้อย จะเรียกว่าแก่ได้ยังไงกัน ใครๆ เขาก็ทำ แถวบ้านผมเอาแป้งใส่มือ แล้วเอาหวีจิ้มๆ ลงไปแล้วเอามาจิ้มที่แก้มให้เป็นลายๆ จุดๆ เท่สุดๆ

คืองี้เลยน่ะคับพี่น้อง เล่นให้ พ่อวรุฒ "ยศพันโท" นี่จะดูแก่ไปหน่อยไหมง่ะ ้ถ้าเทียบกับไอ้คุณพี่ชายของเราที่ตอนนี้ดำรงยศ "ร้อยเอก" อยู่ นี่ ก็อายุจะ 30 อยู่ร่อมร่อ ถึงจะจบจปร.ก็ไม่น่ายศขึ้นไวซะขนาดนั้น เพราะทหารไม่เหมือนตำรวจ ยศทหารขึ้นตามวาระ แต่ตำรวจ หลังยศ "ร้อยตำรวจเอก" จะขึ้นอยู่กับผลงาน เส้น การเงิน(ซื้อตำแหน่งได้ เราคอนเฟิร์ม) และความพอใจของนาย ยกตัวอย่างใกล้ ๆ ไอ้พี่ชาย เข้าเรียน เตรียมทหารตอน ม.5 อายุ 18 ปี เรียนเตรียมทหารไป 2 ปี เรียน จปร. อีก 5 ปี (แต่รุ่นใหม่เรียนเตรียมทหาร 3 ปี ต่อเหล่า อีก 4 ปี) กว่าเฮียท่านจะสำเร็จ ก็ 25 ถ้วน ๆ เรียนชั้นนายร้อยต่อ 1 ปี เป็น 26 ขวบ ไต่เต้ามาถึง ผู้กอง (ขี้) ก็ จะ 30 แล้้วคับพี่น้อง
จากค่าความซ้ำที่เห็นในหน่วยที่พี่ชายประจำอยู่ ไอ้ท่านผู้พันทั้งหลาย อายุ เฉลี่ย 38 Up ทั้งน้านนนนนนนนนน (แถมมีเมีย เมียน้อย และ กิ๊กตามกันเปงพรวน)
ผู้พันวรุฒน่าจะอายุอานาม ประมาณ 35 - 40 ได้แล้ว
มันแก่เกินแกงไปไหมง่ะ :serius2:
ขอทราบอายุที่แท้จริงของผู้พันวรุฒหน่อยก็จะดีคับ  :bye2:

ผู้พันวรุฒม์อายุ 35 ปีครับ ตอนแรกวางไว้ 34 และเป็นพันตรี และเป็นเสนาธิการทหารบก แต่ถามน้องคนหนึ่งที่เป็นทหารเขาบอกว่า 34 เป็นพันตรีนี่น้อยไป อายุขนาดนี้ (34) ควรจะเป็นพันโทได้แล้ว เพราะเขาเองอายุย่าง 27 ก็เป็นร้อยโทแล้ว เขาบอกว่าอีกไม่เกินสามปีเขาก็ร้อยเอก สามีเขากำลังจะเป็นพันเอก อายุ 38 ปี ผมก็เลยขยับอายุให้วรุฒม์เป็น 35 ปีครับ
แต่เรื่องของเรื่องคือ น้องที่เป็นทหารที่ผมปรึกษาเขานี่พ่อค่อนข้างใหญ่พอสมควร แล้วถ้าวรุฒม์เป็นหลานผู้บัญชาการทหารบกและเป็นคนเก่ง เรื่องยศนี่ก็ไปได้เร็วครับ อีกอย่างนิยายเนอะ พระเอกต้องหล่อเว่อร์ เก่งเว่อร์ รวยเว่อร์ เพราะผู้เขียนชอบเพ้อฝัน 555 :pigha2:
ขอบคุณครับ
ป.ล. แต่ว่า 35 นี่ไม่แก่เกินแกงนะคร้าบบ ตอนผม 35 นี่ทั้งฟิตทั้งเท่ซะ  :laugh: ผ่านไปนานหลายปีก็ยังรู้สึกเหมือนเดิม  :pigha2: เคยเห็นป่ะ คนอายุ 37 ยืนเทียบกับคนอายุ 25 แล้วให้คนที่ไม่รู้จักทายว่าอายุห่างจากคนที่อายุ 25 เท่าไหร่ เขาตอบมาว่าห่างกัน 3 ปี อ่ะ  :jul3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 9(15/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 17-09-2009 08:19:23
Chapter 10

วันนี้ผิดแผน แทนที่จะได้ออกไปล่องแพกับพันตรีวรุฒม์แต่กลับเป็นพันตรีนายแพทย์วิษณุ แต่อิศรากลับไม่รู้สึกเบื่อ ตลอดการเดินทาง วิษณุทำให้เขามีความสุข ได้หัวเราะเพลิดเพลิน จนเขาเกือบลืมไปว่า ตัวเองต้องพยายามทำคะแนนกับวรุฒม์เพื่อเอาชนะภีรวัส
วิษณุให้เหตุผลว่า วรุฒม์ต้องประชุมด่วนเรื่องการซ้อมรบ เลยขอให้ตัวเองมาเป็นไกด์แทน วิษณุถามถึงภีรวัส อิศราเลยบอกว่าเพื่อนขลุกอยู่กับการวิจัยทั้งวัน พอขึ้นดอยไปติดตั้งอุปกรณ์ทดลองก็ต้องนั่งเฝ้าบันทึกผลทั้งวัน อิศราเคยไปนั่งเป็นเพื่อน เขาหลับแล้วหลับอีก งานของภีรวัสก็ยังไม่เสร็จ บางทีเขาก็แปลกใจเพื่อนที่นั่งเงียบอยู่ได้เป็นสองสามชั่วโมง จดบันทึกอะไรสองสามบรรทัดแล้วนั่งต่ออีกสามชั่วโมง พักหลังๆ หากรู้ว่าวันที่ภีรวัสต้องนั่งบันทึกผลจากเครื่องกลมๆ ดำๆ ที่เขาเคยบอกว่าเหมือนหัวกระโหลกของดาร์ดเวเดอร์ เขาก็จะเลี่ยงไม่ไปกับภีรวัสเด็ดขาด
ผู้พันวิษณุหุ่นดีมาก รูปร่างสูง กล้ามเนื้อสวยจนอิศราอยากยื่นมือไปลูบไล้ เสื้อกล้ามสีขาวตัวเล็กชุ่มเหงื่อยิ่งทำให้ดูเซ็กซี่ อิศรานอนมองจนเพลิน รอถึงตาของตัวเองเป็นคนถ่อแพ
“คืนนี้พักที่นี่ไหมครับ บรรยากาศดีๆ แบบนี้ผมว่าคุณอิศราน่าจะลองพักบนแพ” วิษณุชวน
“จะปลอดภัยหรือครับ” อิศราถามหน้าซื่อ
“มากับทหาร กลัวอะไร โจรที่ไหนจะกล้ามาทำอะไร” วิษณุยิ้ม
“ใครว่ากลัวโจร”
“งั้นกลัวอะไรครับ แถวนี้ไม่มีผีหรอก สัตว์ดุร้ายก็ไม่มี เราพักบนแพ ปลอดภัยไว้ใจได้” วิษณุรับประกันความปลอดภัย
“กลัวเสือล่าเหยื่อ” อิสราทำหน้ายิ้ม นัยน์ตาเต้นระริก ตรงกันข้ามกับคำพูดที่แสดงความกังวลใจ
“คุณอิสราไม่ไว้ใจผมนี่เองว่าจะดูแลคุณได้” วิษณุแกล้งทำหน้ามุ่ย
“เปล่า” อิสราปฏิเสธ “เพียงแต่ผมไม่ได้บอก...”
“ไม่ต้องขออนุญาตผู้ปกครองหรือกครับ แต่ถ้ากลัวคุณภีรวัสเป็นห่วงก็โทรไปบอก”
“ผมไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามา” อิศราให้เหตุผล
...คงไม่ได้ใส่เสื้อผ้าหรอกครับคุณอิศรา...
วิษณุยิ้ม แล้วบอกว่ามีกางเกงเลและเสื้อยืดหลายตัวอยู่ในรถ เรื่องเสื้อผ้านั้นไม่มีปัญหา
“สบู่ ยาสีฟัน ยาสระผมมีหมด” วิษณุรับประกัน
“โลชั่นบำรุงผิวล่ะครับ” อิศรายิ้ม พูดล้อเล่น
“ผมจะหามาให้ รับรองว่ามีแน่ เพียงแต่ว่าเลือกยี่ห้อไม่ได้ จะให้ทาให้ด้วยก็ได้นะครับ ทหารพร้อมบริการประชาชน” วิษณุรับปาก
...ภีร์คงฆ่าเราตาย พักค้างคืนกับวิษณุนี่นะ ถ้าค้างก็จะถือว่าเขาผิดกฏการแข่งขันอย่างมหันต์ โทษทัณฑ์คือประหารอย่างเดียวโดยไม่ต้องไต่สวน...
...เฮ้อ อยากให้ฝนตกฟ้าคะนองทั่วอำเภอแม่สะเรียงจริงๆ จะได้มีข้ออ้างว่าติดฝน กลับไม่ได้ ต้องค้าง หรือไม่ก็...
...เอ๊ะ รถยากแตกก็ได้นี่นา รถยากแตกแล้วยางอะไหล่ก็ไม่มี อู่ซ่อมรถก็ปิด ไม่มีรถก็กลับบ้านไม่ได้...
...ยิ่งดูใกล้ๆ ผู้พันวิษณุยิ่งเร้าใจ สูสีกับผู้พันวรุฒม์ แต่ฝ่ายนั้นดูนิ่งจนบางทีทำลายความมั่นใจของเขาได้พอสมควร...

กว่าภีรวัสจะกลับถึงที่พักก็ค่ำ เขาโทรศัพท์หาอิศราก็ไม่ติด ฝนตั้งเค้าว่าจะตกหนัก ลมกระโชกแรงจนกิ่งไม้หน้าบ้านพักหักลงมา ภีรวัสเก็บอุปกรณ์การวิจัยให้เรียบร้อยและกำลังจะอาบน้ำก็ได้รับโทรศัพท์จากพล พอรู้ว่าอิศรายังไม่กลับที่พัก พลจึงถามภีรวัสด้วยความห่วงใย
“ให้ผมไปอยู่เป็นเพื่อนไหม่ภีร์ เขาว่าพายุจะแรง ฝนฟ้าคะนองที่นี่จะหนักมากนะครับ กลางป่ากลางเขา เผื่อไฟดับ คุณจะได้ไม่อยู่คนเดียว”
“ผมไม่ใช่สาวน้อยไม่เคยออกจากเมืองหลวงนะครับ จะได้นั่งตัวสั่นกลัวเสียงฟ้าร้อง” ภีรวัสตอบแล้วหัวเราะเบาๆ
“ผมรู้ว่าคุณเป็นคนเข้มแข็ง แต่มีเพื่อนก็ดีกว่าไม่มี ไหนคุณบอกว่าอิศรายังไม่กลับ”
“ขอบคุณนะครับ แต่ว่าผมอยู่ได้” ภีรวัสปฏิเสธ
“มะรืนนี้ก็จะเข้าป่าแล้ว พรุ่งนี้ผมอยากเจอคุณอีกครั้งก่อนจะไม่ได้เจอกันอีกเกือบสองอาทิตย์” พลทำเสียงอ้อน
“พรุ่งนี้ผมต้องขึ้นดอยแต่เช้า กว่าจะลงมาก็ค่ำอีกแล้ว ต้องนั่งเฝ้าเครื่องคอยบันทึกผลการทดลองทั้งวัน”
“ภีร์” พลเรียกชื่ออีกฝ่ายด้วยนำ้เสียงอ่อนโยน “ค่ำผมก็จะมา จะให้ไปรับก็ยังได้ ดอยไหนครับ”
ภีรวัสพยายามปฏิเสธ แต่นายทหารหนุ่มไม่ยอมท่าเดียว ภีรวัสจึงต้องโอนอ่อนผ่อนตาม เขายอมรับว่าไม่ค่อยอยากจะแข็งกับพลมากเท่าไหร่นัก อย่างน้อยก็ในตอนนี้
...แต่รอให้เรื่องนี้จบก่อนเถอะ เขาเคยทิ้งพลมาแล้ว เขาจะทิ้งอีกเป็นครั้งที่สอง เอาให้เสียศูนยืไปเลย ตื๊อดีนัก...

อิศรานั่งกอดเข่าอยู่ที่ริมแพ สายตายิ้มๆ มองฝนที่กำลังตกปรอยๆ คำอธิษฐานของเขาได้รับการตอบสนองจากสิ่งศักดิ์สิทธ์เบื้องบนอย่างรวดเร็ว เมื่อเสร็จสิ้นจากการล่องแพและเดินเท้าย้อนกลับมาที่จุดลงแพซึ่งวิษณุจอดรถเอาไว้ ฝนก็เทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา วิษณุบอกว่าฝนหนักขนาดนี้ขับรถลุยโคลนกลับเข้าตัวเมืองไม่ได้ เสียงต่อรถติดหล่มและโคลนถล่มและอาจมีน้ำป่าด้วย อิศราจึงอุทานขึ้นมาว่า “ว๊า แล้วนี่คงต้องนอนค้างกันที่นี่จริงๆ นะสิ” ส่วนวิษณุก็ทำหน้าหนักใจแล้วตอบว่า “คงต้องอย่างนั้นล่ะครับ”
สรุปแล้ว อิศราก็ได้ค้างคืนบนแพริมน้ำสนใจหวัง โดยมีเหตุผลพอเพียงมารองรับ หากภีรวัสมาเอะอะโวยวาย เขาก็จะสามารถเถียงได้ว่าเป็นเพราะฝนตกหนักและมีความจำเป็น
“หนาวไหมครับ” วิษณุถามขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่ม แล้วนั่งลงข้างๆ อิศรา
อิศราส่ายหน้าแทนคำตอบแล้วพูดว่า “แต่รู้สึกเย็นสะท้านยังไงก็ไม่รู้”
“ฝนตกอย่างนี้ ตกดึกจะหนาวมากครับ” วิษณุเตือน
“หนาวก็มีผ้าห่ม จะกลัวอะไร” อิศรายักไหล่แล้วหันไปมองสายฝนตกกระทบผิวน้ำของแม่น้ำเบื้องหน้า
“แต่ผ้าห่มมีผืนเดียวนี่สิครับ” วิษณุพูดขึ้นเบาๆ เงยหน้าขึ้นมองชายคา
“ขอบคุณผู้พันที่จะสละผ้าห่มให้ผมนะครับ” อิศรายิ้มกว้าง นัยน์ตาแฝงแววขี้เล่น
“ผมยังไม่ได้พูดอะไรซักคำ” วิษณุอมยิ้ม
“พาผมมาแล้วก็ต้องรับผิดชอบความเป็นอยู่ของผมสิ ไหนว่าเป็นทหารต้องบริการประชาชน ไม่งั้นเราก็ไปขอเปิดห้องเพิ่มอีกหนึ่งห้อง”
“ห้องเขาเต็มหมดแล้ว ทีนี่มีแพพักแค่ 10 แพ”
“ว๊า แย่จังเลย แล้วทำยังไงดีล่ะเนี่ย ผมแย่งผ้าห่มผู้พันมาแล้ว ผู้พันอาจจะหนาวตาย” อิศราทำหน้าหนักใจ
“ไม่ยากหรอกครับ ไม่ต้องเป็นห่วง ผมเอาเสื้อทหารคลุมตัวก็ได้ ตอนฝึกเจอหนักกว่านี้ ชายชาติทหารไม่เคยกลัวหนาว” วิษณุพูดยิ้มๆ แล้วเอนตัวนอนแผ่กับพื้นข้างๆ อิศราที่ยังคงนั่งกอดเข่ามองสายฝนอย่างครุ่นคิด
...มากับทหารตัวบึกขนาดนี้เขาไม่กลัวหนาวหรอก...
...เอาไงดี หากผิดกฏครั้งนี้แล้วภีรวัสเกิดรู้เข้า ต้องแย่แน่ๆ...
...แต่ก็ใช่ว่าเขากับภีรวัสไม่เคยผิดกฏ ครั้งหนึ่งเขาจับได้ว่าภีรวัสอยู่กับ ดร. สินธพถึงเช้าวันจันทร์ นอนอยู่ด้วยกันที่หัวหินทั้งๆ ที่ควรจะเอา ดร. สินธพกลับมาส่งมอบให้เขาที่กรุงเทพฯ ก่อนหกทุ่มคืนวันอาทิตย์ เพราะสัปดาห์ต่อมาเป็นโควต้า “เวลา” ของเขาตามกฎ “แย่งกันจีบ”
ตอนนั้นก็ตกลงก็คือว่า ต่างคนต่างมีเวลาผลัดกันทำคะแนนคนละหนึ่งอาทิตย์เพื่อพิชิตใจดอกเตอร์หนุ่มรูปหล่อของสภาวิจัยแห่งชาติ การแข่งขันครั้งนั้น ดร. สินธพเลือกภีรวัส เขาเลยโวยวาย่า “เพราะแกเล่นนอกรูปแบบ” ภีรวัสเถียงหน้าตาเฉยว่า “มันเผลอไปหน่อย แล้วก็ ดร. สินธพไม่ยอมปล่อยไอกลับกรุงเทพฯ เอง ช่วยไม่ได้ นั่นก็หมายความว่าเขาเลือกไอแล้วตั้งแต่อาทิตย์นั้น”
แต่คราวนี้ไม่ได้มีเป้าหมายคนเดียวกัน ต่างคนต่างมีคู่ และกติกาก็คือทำให้คู่ของตัวเองบอกรักให้ได้ ใครสำเร็จก่อนคนนั้นชนะ
...แต่กฏไม่ได้ตกลงกันว่า ห้ามนอนกับคู่ของอีกฝ่ายนี่หว่า ไม่เคยได้ยินภีรวัสพูดอะไรเลย...
“คิดอะไรอยู่หรือครับ” วิษณุถาม นิ้วเขี่ยวแผ่นหลังของอิศราเบาๆ
...ก็กำลังคิดว่าจะเสียตัวให้ผู้พันดีหรือไม่ดีนะสิครับ...
“ผู้พัน” อิศราขยับตัวหนีเล็กน้อยพอเป็นพิธี เขายอมรับว่าสัมผัสของผู้พันนายแพทย์วิษณุทำให้เขาใจสั่นไหวอยู่ไม่ใช่น้อย
“คิดว่าเราจะนอนกันยังไง” อิศราตอบ “ผมไม่เคยนอนเตียงไม้ไผ่ กลัวตก”
...เราก็นอนด้วยกันสิครับ รับรองว่าไม่ตกเพราะผมจะกอดคุณเอาไว้แนบอก...
“ผมไม่เห็นจะกังวลเลย คุณก็ไม่น่าจะต้องกังวลเลยนี่ครับ” วิษณุพูดด้วยเสียงทุ้่มต่ำ มองเสี้ยวหน้าด้านข้างของชายหนุ่มอย่างหลงไหล เขายอมรับว่าตัวเองเอนเอียงมาทางอิศรามากแล้ว ชายหนุ่มเป็นคนสดใสร่าเริง อยู่ใกล้ๆ แล้วสดชื่นเพราะคุยเก่งและเปิดเผย ตรงไปตรงมา ภีรวัสนั้นดูซับซ้อนและอ่านยาก คนแบบนั้นเหมาะกับวรุฒม์
“ผ้าห่มก็มีผืนเดียว” อิศราย้อนกลับมาพูดเรื่องผ้าห่มอีก
“ถ้ากลัวไม่พอ ผมมีแถมให้ รับรองว่าคืนนี้ไม่หนาว” วิษณุพูดขึ้นเบาๆ นิ้วที่เขี่ยแผ่นหลังของอิศราเริ่มเปลี่ยนเป็นไล้ขึ้นไปตามแนวสันหลังของชายหนุ่ม
...พอกันที ไม่ไหวแล้ว ขอทดสอบผู้พันวิษณุก่อนก็แล้วกันนะภีรวัส ยกโทษให้เพื่อนด้วย...
อิศราหันหน้ามาหาวิษณุ สบตากันอยู่ชั่วครู่ กระแสไฟฟ้าแล่นไปทั่วร่างเมื่อวิษณุลดมือลงมาแล้วสอดเข้าไปใต้ชายเสื้อของเขา นาบฝ่ามือร้อนๆ บนผิวเนื้อ ก่อนจะลูบไล้เบาๆ ผสมกับการกดมือหนักๆ เป็นครั้งคราว
ตอนนี้อะไรจะมาฉุดก็เอาไม่อยู่เสียแล้ว ร่างทั้งสองเหมือนมีแม่เหล้กดึงดูด ประกายตาของสองหนุ่มฉายแววปรารถนาเด่นชัด วิษณุยื่นมือไปดึงแขนของอิศราให้เอนตัวลง พร้อมกับยันตัวขึ้นไปพบกันครึ่งทาง แล้วตวัดเอาร่างของชายหนุ่มเข้าสู่อ้อมกอด ปากบดขยี้ปากแดงๆ ของอีกฝ่ายอย่างหนักหน่วง

ภายนอกสายฝนโปรยปราย ฟ้าร้องครืนๆ เป็นครั้งคราว ในห้องบนแพ ร่างเปลือยเปล่าสองร่างเกี่ยวกระหวัดรัดกันแน่น เสียงครวญครางดังประสานกัน ตามมาด้วยเสียงเอี๊ยดอ๊าดของแคร่ไม้ไผ่ที่ดังขึ้นๆ เป็นจังหวะ แข่งกันเสียงของคนสองคนที่พากันกระโจนเข้าสู่ห้วงอารมณ์ปรารถนา

ภีรวัสโยนเป้สะพายเข้าไปในรถกระบะขับเคลื่อนสี่ประตูสีดำทะมึนแล้วถอนหายใจเบาๆ พลดันทุรังขึ้นดอยมารรับเขาจนได้ ที่แย่ไปกว่านั้นไม่ได้มาคนเดียว
“หิวข้าวหรือยังครับ” วรุฒม์ถามขณะที่เดินเข้ามาใกล้ ภีรวัสหันไปยิ้มให้บางๆ แล้วตอบว่ายังไม่หิว
“กำลังจะชวนไปทานข้าวที่ร้านคุ้มเจ้าหลวงพอดี”
“อาหารอร่อยอีกแล้วสิใช่ไหมครับ อยู่ที่นี่นานผมคงอ้วนแน่ๆ” ภีรวัสพูดเล่น ถึงไปทานร้านอาหารบ่อยๆ ก็ไม่กลัวอ้วนเพราะทานไม่มากและเลือกทานแต่ผัก “พอดีผมคิดว่าจะทำอาหารง่ายๆ ทานที่บ้าน”
“ภีร์ทำอาหารอร่อย” พลเดินตามมาหยุดยืนข้างหลังภีรวัสแล้วพูดขึ้นเบาๆ
“เมื่อไหร่จะได้ทานอาหารฝีมือคุณภีรวัส” วรุฒม์กล่าวยิ้มๆ เช่นเคย
“วันนี้เลยไม่ดีหรือ” พลตอบแทน
“เหนื่อยจะแย่ กว่าจะกลับถึงบ้านก็ค่ำ ไม่สงสารกันบ้างเลย” ภีรวัสทำหน้าตาท่าทางเหนื่อยอ่อนอย่างที่พูด
“ก็ไหนคุณว่าจะทำอาหาร” พลถาม
“ก็ใช่ แต่ผมจะทำสลัด” ภีรวัสยักไหล่ “แล้วจะให้เลี้ยงแขกด้วยสลัดได้ยังไง แขกพิเศษตั้งสองคน ต้องเป็นอาหารพิเศษหน่อยสิครับ”
“งันวันที่กลับออกจากป่า ผมขอทวงคำสัญญา ขออาหารอร่อยๆ ซักมื้อ” วรุฒม์สรุป
“ได้เลยครับ” ภีรวัสให้สัญญาแล้วชวนนายทหารทั้งสองกลับ
เกือบตลอดทาง ภีรวัสเอาแต่เอนตัวนอน ทำท่าอยากพักผ่อน ทั้งที่จริงไม่ได้เหนื่อยอะไรมากมาย วันนี้เขานั่งหลับมาทั้งวันและตื่นทุกสองชั่วโมงเพื่อจดบันทึกผลการทดลองแล้วหลับต่อ
พลคุยกับวรุฒม์เป็นปกติและปรายตามามองภีรวัสเป็นครั้งคราว ฝ่ายที่แกล้งนั่งหลับตานั้นความจริงหูผึ่ง ฟังทุกอย่างที่นายทหารทั้งสองคุยกัน
“นายรู้จักกับคุณภีรวัสนานแค่ไหน” วรุฒม์ถามพลด้วยเสียงเบาๆ น้ำเสียงธรรมดา แต่คนที่ถูกถามถึงกลั้นหายใจรอฟังคำตอบของ 'อดีต' คนที่เคยอกหักเพราะน้ำมือของตัวเอง
“ปีกว่าๆ ได้แล้วมั๊ง” พลยักไหล่
“ดูท่าสนิทกันนะ ไม่เคยเห็นเล่าให้ฟัง”
“ก็รู้จักกันผิวเผิน ที่จริงก็ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง วิษณุก็ไม่รู้” พลตอบเสียงเรียบ ทำให้ภีรวัสนึกขอบคุณฝ่ายนั้นอยู่ในใจ
วรุฒ์เลิกถามแล้วชวนคุยเรื่องอื่น ภีรวัสจึงหายใจได้สะดวก และเมื่อถึงที่พัก ภีรวัสก็รีบกระโดดลงจากรถ หันไปยิ้มให้พลอย่างอ่อนโยนที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อเป็นการมัดใจชายหนุ่ม
“คุณอิศราคงยังไม่กลับ จะให้อยู่เป็นเพื่อนรอก่อนไหมครับ” พลถาม
“บอกแล้วไงว่าผมไม่ใช่เด็ก ผมอยู่บ้านคนเดียวได้หรอกน่า” ภีรวัสตอบยิ้มๆ
“ผมรู้ว่าคุณเก่ง” พลพูดสั้นๆ แล้วหันไปบอกให้วรุฒม์ออกรถ ทิ้งให้ 'คนเก่ง' ยืนขมวดคิ้วมองตามอย่างครุ่นคิด
...พลกำลังจะบอกอะไร และหากเขามองไม่ผิด สายตาของพันโทวรุฒม์มีคำถามหลายข้อ...
...บ้าจริงๆ พลจะทำให้เสียงเรื่องหรือเนี่ย...

ภีรวัสเดินขึ้นบ้าน รู้สึกแปลกใจที่อิศรายังไม่กลับ เมื่อคืนอิศราติดฝน ค้างคืนกับวิษณุที่รีสอร์ท จนถึงค่ำของอีกวันก็ยังไม่กลับ
“รับรองว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยูไม่ต้องห่วง อิศรามีคุณธรรมประจำใจ ไม่เหมือนคนที่แอบกกดอกเตอร์หนุ่มคนั้นหรอก” อิศรายืนยันความบริสุทธิ์ใจ ลงท้ายด้วยการเหน็บแนมภีรวัสแล้ววางสายโทรศัพท์ไปเมื่อตอนเที่ยง
...ใครจะเชื่ออิศรา อยู่กันสองต่อสองที่รีสอร์ทกับผู้ชายอย่างวิษณุซึ่งท่าทางไม่เบาเหมือนกัน ส่วนเพืี่อนของเขานั่นหรือ ไวไฟยิ่งกว่าน้ำมันหรือแก๊สแอลพีจีเสียอีก...

ภีรวัสอาบน้ำเสร็จอิศราก็กลับถึงบ้านโดยมีรถสองแถวรับจ้างมาส่ง
“ไอไปเที่ยวต่อ กลับตั้งแต่เช้าแล้ว เห็นยูไม่อยู่ก็คิดว่าคงไปทำวิจัย ไปเที่ยวคนเดียว ไม่ได้ไปกับหมอวิษณุหรอก แยกกันตั้้งแต่เช้าแล้ว แต่ว่าเขาก็ชวนนะ แต่ไอปฏิเสธไป ยูรู้จักหาโซ่ล่ามเอาไว้บ้างสิ ปล่อยให้มาเกาะแกะเราอยู่ได้” อิศรารีบอธิบายแล้วถือโอกาสตำหนิภีรวัส
“นอนกับเขาหรือเปล่า” ภีรวัสถามไปตรงๆ เพราะรู้ว่าหากอิศราอธิบายอะไรให้ฟังโดยไม่ต้องคาดคั้นถาม สิ่งที่พูดมักจะเป็นเรื่องโกหกเกือบทั้งหมด
“เปล๊า” อิสราตอบเสียงสูงแล้วทิ้งตัวลงบนเตียง “อยากให้นอนกับเขาหรือไง”
“ถ้าแกได้เสียกับผู้พันวิษณุนะไอ้ก้อนอิฐ ฉันจะไปนอนกับผู้พันวรุฒม์ทันที ศึกครั้งนี้ต้องห้ำหั่นกันถึงตาย” ภีรวัสทำหน้าขึงขัง ชะโงกหน้าไปพูดกับเพื่อนที่นอนหลับตานิ่งอยู่บนเตียง
...ขอบตาของอิศราคล้ำราวกับอดนอน หมายความว่ายังไง...
“ว่าไงอิศ” ภีรวัสเสียงเข้ม
“เออๆ” อิศราทำเสียงตอบรับแต่ไม่ยอมลืมตา
...ไม่กล้าสบตา อิศรานอนกับวิษณุแน่ๆ ลองอยู่ด้วยกันทั้งคืนแบบนั้น ไม่รอดอิศราหรอก...
ภีรวัสเปลี่ยนใจ ตอนแรกที่คิดจะบอกเพื่อนว่าพันโทวรุฒม์จะไปราชการสองอาทิตย์ ตอนนี้เขาเปลี่ยนใจดีกว่า แต่ก่อนอื่นขอทดสอดเสียก่อนว่าอิศรารู้เรื่องหรือไม่
“ว่าแต่นายเถอะ มัวแต่เป็นชู้กับคนของคนอื่นแบบนี้ ของตัวเองล่ะจะว่าไง”
“สัปดาห์หน้านี่ล่ะ เราจะเผด็จศึกผู้พันวรุฒม์ให้ได้ เราจะชวนผู้พันไปเที่ยวน้ำตก แกล้งทำเป็นตกน้ำให้ผู้พันลงไปช่วย แล้วก็จะปล้ำซะเลย แล้วสัปดาห์ถัดไป เขาก็จะต้องสารภาพรักเรา อิศราชนะใสๆ” อิศราตอบอย่างมั่นใจตนเอง แต่ภีรวัสจับน้ำเสียงบางอย่างของเพื่อนได้
...อิศราดูไม่ค่อยมั่นใจมากนัก เวลาอิศรามั่นใจมากๆ มักจะตามด้วยเสียงหัวเราะเป็นชุดๆ...
“ง่วงแล้ว หลับก่อนนะ” อิศราเปลี่ยนเป็นเสียงอู้อี้เพราะพลิกตัวซุกหน้าลงกับหมอน
“อ้าว ไม่อาบน้ำหรืออิส ขี้เหร่แล้วยังสกปรกอีก” ภีรวัสถามแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้เพื่อน จมูกสูดดได้กล่ินสบู่กลิ่นแปลกๆ หอมกรุ่น
...ยืนยัน นั่งยัน นอนยัน อิศราอาบน้ำมาใหม่ๆ ต้องอาบมาจากรีสอร์ท หรือไม่ก็บ้านพักของวิษณุแน่ๆ ไอ้เพื่อนตัวดี ไอ้ขี้โกง ระวังตัวให้ดีเถอะ...
ภีรวัสย่นจมูก มองอิศราตาขวาง ในใจอยากจะทุบหลังเพื่อนให้หนักๆ แล้วฟาดด้วยหมอนโทษฐานที่แหกกฏหน้าตาเฉยทั้งที่ตัวเองเป็นคนสร้างข้อตกลงขึ้นมาเอง
...อิศรายังไม่รู้ว่าวรุฒม์จะเข้าป่าไปฝึกปฏิบัติการทางการทหาร รอก่อนเถอะ จะหัวเราะให้ฟันหักตอนที่อิศราทำหน้าเหรอหราหาตัววรุฒม์ไม่เจอ...
***10***
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 9(15/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 17-09-2009 08:21:08
Chapter 11

ภีรวัสพับโทรศัพท์เก็บแล้วหันไปมองบ้านพักหลังเล็กของเขากับอิศราด้วยสีหน้ายิ้มๆ คนขี้เซายังนอนหลับไม่ตื่น อิศราเป็นคนนอนตื่นสาย และตื่นมาก็คงหน้ามุ่ยที่ติดต่อวรุฒม์ไม่ได้ หรือหากแม้จะติดต่อได้ วรุฒม์ก็คงนั่งอยู่บนรถทหารมุ่งเข้าป่า
พลโทรศัพท์มาหาเขา กล่าวอำลำไปฝึกปฏิติบัตการ ทำเหมือนจะออกสู่สมรภูมิจริงๆ ภีรวัสต้องพูดให้กำลังใจแล้วบอกว่ากลับออกมาจากป่าเขาจะทำอาหารมือพิเศษให้ทานตามที่สัญญาไว้
“ผมอยากทานกันสองคน” พลออดอ้อน
“คุณเป็นคนไปบอกผู้พันวรุฒม์เองนะ” ภีรวัสเสียงเข้ม
“ครับ ผมยอมรับ แต่ก็ช่างเถอะ วรุฒม์ก็เพื่อนผม มีอะไรเราคุยกันได้ ผมไม่กีดกันเขาหรอก แต่ผมก็อยากมีเวลากับคุณสองต่อสองบ้าง” พลยอมรับ
...พลตั้งใจจะบอกอะไรเขา ขู่เขาหรือ พูดเหมือนจะเตือนเขาว่าตัวเองกับวรุฒม์ไม่สนที่จะมีแฟนคนเดียวกัน...
...บ้าหรือ อิศราต่างหาก ไม่ใช่เขา ตกลงกันแล้วว่าอิศราคู่กับวรุฒม์ เขาคู่กับวิษณุ...
...แล้วนี่วิษณุหายไปไหน ถ้าเป็นแบบนี้เขาต้องแพ้อิศราแน่ๆ พอๆ ที่อิศราอาจต้องแพ้เขา สรุปแล้ว อาจจะไม่มีใครชนะ ครบกำหนดหนึ่งเดือนที่ตกลงไว้ อาจจะไม่มีใครได้ลงเอยกัน...
...เฮ้อ คราวนี้ทำไมมันวุ่นวายกว่าทุกครั้ง ผิดแผนไปหมดเลย...
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 11 (17/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: alterlyx ที่ 17-09-2009 08:51:00
เอ๊ะ Chapter 11 ทำไมสั้นจัง  :a5:

 :laugh: อิศรา นี่แรงได้ใจจริง ๆ ... ทำคะแนนกันใหญ่
สุดท้าย หมอวิษณุ ก็ดูแลความปลอดภัยให้อิศราไม่ได้นะเนี่ย ... ถูกเสืองับไปจนได้ เหอะๆ
ช่วงหลังๆนี่ คะแนนผู้พันวรุฒม์ จะโดนทิ้งห่างไปเรื่อยๆแล้วนะคะ ... มัวทำอะไรอยู่
สงสารก็แต่ ภีรวัส งานก็เยอะ พลก็คอยเกาะแกะ หาช่องทำคะแนนก็ลำบาก ..... เฮ้ออออ

+1 ให้ความโกลาหลที่สม่ำเสมอค่ะ  o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 11 (17/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 17-09-2009 09:03:20
วุ่นวายขนาดนี้ หมู่ 5 ไปเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 11 (17/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: gboy ที่ 17-09-2009 09:32:04
 :really2:
แผนใครเป็นแผนใครเนีย

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 11 (17/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 17-09-2009 10:34:16
สงสัยงานนี้ไม่มีผู้แพ้ ผู้ชนะจริง ๆ

เอ....รึว่าคนชนะจะเป็น นายทหารหนุ่มหล่อ

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 11 (17/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 17-09-2009 12:20:47
รับทราบครับ งั้นก็ลุ้นกันต่อไป
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 11 (17/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 17-09-2009 12:26:33
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด
บอกได้คำเดียวว่า  คุณอิศรา แร๊ด แรด โดนใจม๊ากมาก
อากาศเย็นๆตอนฝนตกไม่ทำให้หนาวแต่มันสะท้านใจ กรี๊ดดดคิดได้ไงฟ่ะ :o8:
แล้วนี่ก็ใจอ่อนเสร็จคุณหมอวิษณุไปซะล่ะ กรั่กๆ คนเราหน้าไม่อดเปรี้ยวไ้ว้กินหวานเลย
มาทำแบบนี้นึกว่าเพื่อนภีร์เค้าจะไม่รู้สึกไงย๊ะว่าตัวเองอ่ะ แหกกฏ ซุงแหลเป็นวักเป็นเวง
ส่วนอิคุณหมอวิศณุหายหน้าหายตาไปจากคุณภีร์เพราะว่า กำลังเคลิ้มกับเสน่ห์ของก้อนอิฐชิมิ
บอกว่ามาเหอะ น่ารักไปทั้งตัวขนาดนั้น หุหุ
ส่วนคุณภีร์ก็นะ เหมือนมีผู้คุมวิญญาณตามมาหลอกหลอนตลอดเวลาเลยอ่ะ
อิอิ มีผู้พันพลของเตือนตลอดกรั่กๆแบบนี้ก็นะ จะอ่อยใครก็ไม่ถนัด
อีกอย่างอิคุณหมอวิษณุก็หนีหน้าไปไหนแล้วก็ไม่รู้ เฮ้ออ
มีแต่แผนเด็ดเรื่องที่ว่า ผู้พันวรุตม์ไม่อยู่เท่านั้นแหละ มีเวลาปลุกปล้ำ เอ้ย
วางแผนให้หมอวิศณุสารภาพมากจม แต่ตอนนี้ฝ่ายตัวเองก็ไม่ง่ายแล้วนะ
ใครจะรู้ว่า เืพื่อนอิศอ่ะ วางยาเสน่ห์หมอไว้รึป่าว กรั่กๆ ท่าทางหมอคงหลงแล้ว
ก็คงไม่หายไปเร็วๆนี้หรอก หุหุ

สองหนุ่มน้อย เจอผิดกับดักตัวเองเค้าแล้วไงล่ะ

+1 จัดให้คะ คุณนายที่ยังหล่อฟิ้ว หุ่นเฟิร์มเป็นหนุ่มอายุ 28  :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 11 (17/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: luftwafe ที่ 17-09-2009 12:36:16
ไปถามพี่ชายมาอย่างละเอียด เกี่ยวกับการเลือนยส ทหารเค้าเลือนทุกปี ตอนนี้ ไอ้พี่ชาย อาุยุ 28 ยศร้อยเอก ถ้า 35 เปงพันโทไม่แปลกถ้ามันเก่ง พ่อใหญ่ ใกล้นาย

เมื่อวานถามมันว่า

"ทำไมเฮียไม่ได้เปงผู้พันกะเค้าซักที"

ไอ้เฮียก็ตอบอย่างฉะฉานเลยคับว่า

"เคยบอกช่ายม่ะ ว่าถ้าเอ็งจะมีแฟนเปงคนในเครื่องแบบ ห้ามมียศต่ำกว่าข้า ถ้าข้าเปงผู้พัน เอ็งก็ชวดตั่ง แต่นักเรียนนายร้อย ยันผู้กองเลยน่ะเฟร้ย!!!"

จริงของมันคับพี่น้อง 55555

แต่ทหารไทยงานเยอะมาก ทำงานตั่งแ่ต่ 6 โมง เช้า บางที 2 ทุ่มยังไม่เลิก คนไม่ค่อยพอ ยิ่งช่วงฝึกทหารใหม่ เช้าก็ต้องตื่นก่อนพลทหาร จะนอนก็ต้องนอนทีหลัง ไหนจะงานกองพัน เวลาว่างก็หมดไปกับการนอน กะ กิน

ความจริงเราเองก็อยากมีพี่ชายเท่ ๆ หล่อเว่อร์ เก่งเว่อร์ รวยเว่อร์ เหมือนผู้พันวรุต พอหันมาดูพี่ชายตัวเองแล้วเซ็งเป็ด :seng2ped:
หน้าอย่างเถื่อน ตาอย่างดุ ทำเก็กขรึม ดุ หวงน้องสาว ลูกน้องกลัวกันทั้งกองพัน แต่ขอโทษวันเสาร์อาทิตย์ตื่นอย่างเช้ามานั่งดูดรากอนบอล ช่อง 3 แถมในห้องมีโมเดลดรากอนบอลเพียบ เพื่อนชวนไปหลีสาวไม่ไป บอกว่างานยุ่ง ที่จริงมันนั่งดูการ์ตูนอยู่บ้านพักนายทหารคับพี่น้อง บางทีได้ยินมันคุยกับหุ่นโงกุลด้วยง่ะ นี่ก็เพิ่งยืม DVD Kamen Rider Den-O ของเราไปดู จะบร้าาาาาาาาา

ใครก็ได้ช่วยมาจีบมันทีเถอะ ก่อนที่ทหารทั้งหน่วยจะเป็นแบบมัน เพราะตอนนี้โรคติดการ์ตูนเริ่มลามไปถึงไอ้ผู้หมวดข้างบ้าน ขึ้นไปถึงผู้พันแล้วคับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 11 (17/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 17-09-2009 12:51:19
me/ กำลังอ่านตอน 11 อยู่ดีๆ  จู่ๆก็...

 :a5:

 o22

 :z3:

ปล. ขอบคุณที่ใช้คำว่า "ลมกระโชก"  เก่งจริงๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 11 (17/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: crazy Y ที่ 17-09-2009 14:48:46
งานนี้ มีหวัง อิศรา จะแพ้แน่ เพราะ อาจติดใจในชั้นเชิงเด็ดมัดใจ ชาย ของ วิษณุ

แต่ คู่ของ ภีรวัส เนี่ยะต้องลุ้นต่อว่าจะลงเอยกะใครแน่
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 11 (17/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 17-09-2009 16:25:24
ใครจะแพ้ ใครจะชนะนะเนี่ยเกมนี้


ว่าแต่ ตอน 11 ทำไมมาแค่นี้ละคร้าบบบบบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 11 (17/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Resonance ที่ 17-09-2009 16:36:21
กลับจากฝึกมาจะเป็นไงมั่งเนี่ยะ

ชอบพันโทวรุฒมากๆเลย ดัดหลังภีรให้ได้นะ 555  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 11 (17/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: morrian ที่ 17-09-2009 19:54:46
ถ้าสองเกลอนี้โดนทิ้งบ้าง จะเป็นไงน๊ออ??

ว่าแต่ว่า  ตอนนี้ 11 สั้นมากอะค้าบ   :serius2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 11 (17/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 17-09-2009 21:41:16
สั้นผิดวิสัยพี่นาย อิศราทำแต้ม (แบบขี้โกง) นำไปแล้วแบบนี้ เมื่อไหร่จะถึงคราวภีร์บ้างอ่ะพี่นาย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 11 (17/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 17-09-2009 22:04:47
ตอนที่ 11 ยังมีอีกใช่ไหมครับ พี่นาย รออยู่นะครับ

+1 ให้เป็น 1140 แล้วนะครับ พี่นายยยยย....... :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 11 (17/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 17-09-2009 22:44:53
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด  อิศร๊าาาาาาาาาาาาาาาา :a5:

ไวไฟจริงๆ
เสร็จตาคนโลเลวิษณุจนได้  เอาเหอะ    :z3:

ดูท่าวิษณุจะเป็นคนหลงเมียอยู่ กร๊ากกกก  :laugh:

หนึ่งบวกจ้า  รอตอนต่อไป 

รักอิศรา รักภีร์ (แต่น้อยกว่าอิศรา555)




 

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 11 (17/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 18-09-2009 21:04:06
ขอโทษนะครับ ขัดข้องทางเทคนิกบางประการ บทที่ 11 มาแล้วครับ ขอบคุณครับ

Chapter 11

ภีรวัสพับโทรศัพท์เก็บแล้วหันไปมองบ้านพักหลังเล็กของเขากับอิศราด้วยสีหน้ายิ้มๆ คนขี้เซายังนอนหลับไม่ตื่น อิศราเป็นคนนอนตื่นสาย และตื่นมาก็คงหน้ามุ่ยที่ติดต่อวรุฒม์ไม่ได้ หรือหากแม้จะติดต่อได้ วรุฒม์ก็คงนั่งอยู่บนรถทหารมุ่งเข้าป่า
พลโทรศัพท์มาหาเขา กล่าวอำลำไปฝึกปฏิติบัตการ ทำเหมือนจะออกสู่สมรภูมิจริงๆ ภีรวัสต้องพูดให้กำลังใจแล้วบอกว่ากลับออกมาจากป่าเขาจะทำอาหารมือพิเศษให้ทานตามที่สัญญาไว้
“ผมอยากทานกันสองคน” พลออดอ้อน
“คุณเป็นคนไปบอกผู้พันวรุฒม์เองนะ” ภีรวัสเสียงเข้ม
“ครับ ผมยอมรับ แต่ก็ช่างเถอะ วรุฒม์ก็เพื่อนผม มีอะไรเราคุยกันได้ ผมไม่กีดกันเขาหรอก แต่ผมก็อยากมีเวลากับคุณสองต่อสองบ้าง” พลยอมรับ
...พลตั้งใจจะบอกอะไรเขา ขู่เขาหรือ พูดเหมือนจะเตือนเขาว่าตัวเองกับวรุฒม์ไม่สนที่จะมีแฟนคนเดียวกัน...
...บ้าหรือ อิศราต่างหาก ไม่ใช่เขา ตกลงกันแล้วว่าอิศราคู่กับวรุฒม์ เขาคู่กับวิษณุ...
...แล้วนี่วิษณุหายไปไหน ถ้าเป็นแบบนี้เขาต้องแพ้อิศราแน่ๆ พอๆ ที่อิศราอาจต้องแพ้เขา สรุปแล้ว อาจจะไม่มีใครชนะ ครบกำหนดหนึ่งเดือนที่ตกลงไว้ อาจจะไม่มีใครได้ลงเอยกัน...
...เฮ้อ คราวนี้ทำไมมันวุ่นวายกว่าทุกครั้ง ผิดแผนไปหมดเลย...

ภีรวัสคิดไว้ไม่ผิด ทันทีที่อิศรารู้ว่าวรุฒม์เข้าป่าไปฝึกปฏิบัติการทางทหารก็โวยวายเสียงลั่นตามนิสัย
“ไอ้บ้าศาลาวัด ทำไมไม่บอก”
“บอกอะไร” ภีรวัสทำหน้าเหรอหรา
“แกรู้ใช่ไหมว่าผู้พันวรุฒม์ไปราชการ” อิศราเค้นเสียงออกมาตามไรฟัน ทำท่าราวจะกัดภีรวัสแล้วฉีกทึ้งเป็นชิ้นๆ
“จะไปตรัสรู้ได้ยังไง แฟนตัวเอง ทำไมไม่รู้เรื่องรู้ราว มัวแต่ยุ่งเป็นชู้กับคนของชาวบ้าน”
“พูดให้ดีๆ นะไอ้ท่อพีวีซี” อิศราชีหน้า
“หรือไม่จริง ยอมรับซะเถอะว่านายกับหมอวิษณุทำอย่างว่ากันแล้ว” ภีรวัสคาดคั้น
“ไม่ยอมรับโว๊ย แน่จริงก็จับข้าไปตรวจภายในดูสิ หาดูว่ามีอะไรของผู้พันหลงเหลืออยู่ในตัวข้าหรือเปล่า” อิศราท้า
“แหวะ ขยะแขยง ไม่ใช้ถุงยางเลยหรือ” ภีรวัสแสยะปาก
...หาได้ที่ไหน บนแพริมแม่น้ำกลางป่ากลางเขาแบบนั้นมีหล่อลื่นก็ดีถมไปแล้ว ผู้พันนี่ก็กระไร เตรียมไม่ครบ ขาดๆ เกินๆ นี่คงกะจะฟันเขาตั้งแต่มาพาเขาไปล่องแพแล้วละสิ หรือว่ามีถุงยางอยู่แต่ไม่ยอมใช้ ส่วนเรื่องเจลนี่ยังไงก็ต้องใช้นะ ผู้พันวิษณุได้รับสมบัติติดตัวมาจากพ่อมาอย่างมากมายมหาศาล เขายอมขนาดนั้นก็เต็มที่แล้ว ขืนไม่มีอุปกรณ์ 'อำนวยความสะดวก' เขาคงขาดใจตาย...
“ฮึ ผู้พันวรุฒม์ไปทำไมไม่บอก” อิศรากระแทกตัวลงนั่ง บ่นพึมพำ หน้าบึ้ง
...บอกแล้ว ตอนที่พลโทรศัพท์มา ผู้พันวรุฒม์ฝากให้บอกอิศราด้วย แต่เขาไม่บอกเอง...
“เขาคงโทรหานายไม่ติดมั๊ง ก็มัวแต่ไปมั่วอยู่ที่รีสอร์ทกลางป่า โทรศัพท์จะมีสัญญาณที่ไหน” ภีรวัสเหน็บแนม
“ปากไม่ดี” อิศราตวัดเสียง มองเพื่อนด้วยสายตาขุ่นเคือง
“งั้นจบ” ภีรวัสพูดออกมาดังๆ
“อะไร” อิศราเลิกคิ้ว ทำเสียงสูง
“ก็ผู้พันวรุฒม์เข้าป่าสองอาทิตย์ ยังไงๆ ยูก็ปิดคดีไม่ได้ เราชนะอยู่เห็นๆ แข่งกันต่อทำไม เสียเวลา” ภีรวัสสรุป
“ได้ไงล่ะ แกพิชิตใจผู้พันวิษณุได้แล้วหรือ เขาบอกรักแกแล้วหรือ ตราบใดที่ผู้พันวิษณุยังไม่ตกลงปลงใจไปกับแก เกมก็ยังไม่จบ” อิศราลุกขึ้น โวยวายเสียงดังยิ่งกว่าเดิม
“หูอื้อว่ะอิศ ถึงหน้าตาให้ แต่แกไม่ต้องออกงิ้วขนาดนี้ก็ได้” ภีรวัสถอยหลัง ยกมือปิดหู แล้วพูดต่อว่า “งั้นวันนี้เราจะไปโรงพยาบาล ชวนผู้พันออกไปดินเนอร์ด้วยกัน แล้วเสนอตัวให้ซะเลย จะได้จบๆ กันไป”
“อย่าลืมหลักฐานก็แล้วกัน ไม่มีหลักฐานเป็นภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียง ไม่ถือว่าชนะ” อิศราเตือนเพื่อนถึงกฏแห่งการเป็นผู้ชนะ
“เอาคลิปตอนนั่นกันด้วยไหมล่ะ” ภีรวัสประชดแล้วเดินขึ้นบ้าน ปล่อยให้อิศรายืนนิ่ง มือล้วงกระเป๋ากางเกง กำโทรศัพท์เครื่องเล็กเอาไว้แน่น
...คลิปหรือภีร์ ภาพเคลื่อนไหวและเสียงที่มีคำว่า ผมรักคุณ...
...รักจริงหรือ...
...หรือว่ารักเพราะพูดออกมาตอนที่กำลังเสียวซ่าน วิษณุนะวิษณุ...
...ทำยังไงดีล่ะทีนี้...

ภีรวัสหน้ามุ่ยเมื่อมาถึงโรงพยาบาลในค่ายศรพิทักษ์แล้วพบว่าพันตรีนายแพทย์วิษณุออกเวรไปแล้ว วันนี้เขาเสียเวลารอรถรับจ้างพาเขาลงจากสถานีตรวจสภาพอากาศบนดอย กว่าจะถึงตัวเมืองก็เกือบห้าโมงเย็น ภีรวัสเสียดายที่ลืมนึกถึงเรื่องเบอร์โทรศัพท์เคลืี่อนที่ของวิษณุไปเสียสนิท คิดแต่เพียงว่าในตัวอำเภอเล็กๆ สถานที่แต่ละแห่งไม่ไกลกันเท่าไหร่นัก ไปมาสะดวก อยากจะคุยกันก็ไปหากันได้ง่ายๆ ปั่นจักรยานไม่กี่นาทีก็ถึง
...แต่เขาก็มาถึงโรงพยาบาลหลังเวลาเลิกงานของวิษณเพียงแค่สองนาที ไม่เจอตัวเสียแล้ว...
“ปกติผู้พันอยู่ต่อค่ะ แต่วันนี้เห็นรีบกลับก่อนเวลาตั้งสิบนาที” พยาบาลบอกภีรวัส
“มีเบอร์โทรศัพท์ของผู้พันไหมครับ” ภีรวัสถาม พยาบาลเขียนเบอร์โทรศัพท์ให้ แถมด้วยหมายเลขบ้านพักนายทหาร
“ไปไกลหน่อยค่ะ อยู่แถวท้ายสุดในค่าย เบอร์ที่บ้านไม่มีบ้านเพิ่งสร้างเสร็จ ผู้พันเพิ่งย้ายเข้า”
ภีรวัสกล่าวขอบคุณพยาบาลผู้ใจดีแล้วเดินออกมาหยุดยืนอยู่หน้าอาหารหลังเล็ก เปิดเป้สะพายออก ก้มลงควานหาโทรศัพท์ ชายหนุ่มลองโทรสองครั้งแต่ไม่มีสัญญาณ เขาคิดว่าวิษณุคงปิดเครื่อง
...งั้นไปหาที่บ้านซะเลย จะได้แปลกใจ...
ภีรวัสเดินไปที่จักรยาน แต่่ทันใดก็ลังเลเพราะเห็นว่าการจะตามไปถึงที่พักของแพทย์หนุ่มดูท่าจะเป็นการลงทุนมากเกินไปสักหน่อย ทว่าอีกใจหนึ่งก็แย้งว่า
...ไม่เห็นจะแปลก คนต่างจังหวัดไปเยี่ยมกันที่บ้านเป็นเรื่องปกติ ปั่นจักรยานเล่นไปเรื่อย ผ่านหน้าบ้านก็ตะโกนทักทายกัน...
...แต่หาผู้พันไม่อยู่บ้านล่ะ เลิกงานแล้วแพทย์หนุ่มท่าทางเจ้าสำราญแบบนั้นจะตรงกลับบ้านเลยหรือ อุตส่าห์รีบออกจากที่ทำงานก่อนเวลาตั้งสิบนาที คงไม่ไปนั่งทอดอารมณ์อยู่ที่บ้าน ถ้าเป็นผู้พันวรุฒม์ก็ว่าไปอย่าง...
...แล้วตอนนี้ผู้พันวรุฒม์กำลังทำอะไรอยู่นะ ทำงานหรือนั่งพัก และหากนั่งพัก จะนั่งคุยกับพลหรือเปล่า คุยเรื่องอะไรกัน พลจะพูดเรื่องในอดีตขึ้นมาหรือเปล่าก็ไม่รู้...
 
ร่างเปลือยเปล่า กล้ามเนื้อแกร่งสองร่างแยกออกจากัน ต่างคนต่างนอนแผ่หรา หายใจหอบกระชั้น เนื้อเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ แต่เพียงไม่ถึงนาที ร่างหนากำยำของคนที่ตัวใหญ่กว่าก็พลิกขึ้นทับร่างขาวสะอาดของอีกฝ่าย
“หนัก ผู้พันตัวหนัก ผมจะจะขาดใจตายก่อน” คนที่อยู่ข้างล่างผลักอกแกร่ง ทำหน้าเหมือนจะขาดใจ
“ให้ขาดใจตายคาอกผมเลย จะได้ไม่ไปแบ่งใจให้ใครอีก” คนที่อยู่ข้างบนเสียงนุ่ม
“ปากหวาน จริงใจหรือเปล่าก็ไม่รู้ เจอกันไม่นาน ผู้พันก็บอกรักแล้ว ผู้พันรักคนง่ายอย่างนี้เลยหรือครับ” อิศราเอียงหน้าหนี ทำปากยื่นอย่างน้อยใจ
“คนที่ทำให้ผมควบคุมตัวเองไม่ได้ขนาดนี้ คนที่พิเศษแบบที่ผมไม่เคยพบมาก่อน คนที่ทำให้หัวใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ ไม่แปลกหรอกครับ” วิษณุก้มหน้าลงซุกไซร้ซอกคอของชายหนุ่ม ปากเลื่อนไปเม้มติ่งหูขาวสะอาด แล้วเปลี่ยนเป็นไล้ลิ้นเบาๆ ใต้ใบหู
“อย่า” อิศราห้ามเสียงสั่น ร่างกายอ่อนระทวย
“อย่าหยุดใช่ไหมครับ” วิษณุเสียงแตกพร่า ไฟปรารถนาเริ่มคุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้ง
“ผู้พัน ตอบผมมาก่อน”
“ตอบอะไรครับ” วิษณุถามเสียงเบา
“ก็...”
“ก็ตอบไปแล้ว” วิษณุรุกล้ำหนักขึ้น มือบีบเค้นแก้มก้นของอีกฝ่ายที่เริ่มหายใจแรง
“ผู้พันคงพูดเฉพาะตอนอยู่บนเตียง เวลาอยากเชยชม เวลาเสร็จสมอารมณ์หมาย เวลาถึงจุดสุดยอด” อิศราเสียงกระเส่า พูดเสร็จก็ต้องครางเบาๆ เมื่อนายแพทย์ทหารรูปหล่อสอดมือเข้าไปในซอกด้านหลัง แล้วบดนิ้วหนักๆ
“ลองดูผมต่อไปสิครับ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์” วิษณุฉกลิ้นลงบนยอดอกเนียนสะอาดของอิศราที่แอ่นขึ้นท้่าทายตามอารมณ์ที่กำลังจะกระเจิดกระเจิงอีกครั้ง
“แล้วคุณล่ะอิศรา คุณคิดยังไงกับผม”
อิศราหลับตา ภาพของภีรวัสโผล่เข้ามาแต่เขารีบสลัดออกไปโดยเร็ว
...เลยเถิดมาขนาดนี้แล้ว ผิดกฏก็ต้องผิดกฏ”
“อิศรา” วิษณุเสียงสั่น
“ผู้พัน ถุงยางล่ะครับ” อิศราถามเสียงกระท่อนกระแท่น
“ไม่มีครับ”
“นี่ไม่ใช่กลางป่านะ ทุกอย่างควรจะพร้อมไม่ใช่หรือ”
“เมื่อกี้ก็ไม่ได้ใช้ คุณไม่เห็นบ่น” วิษณุทำเสียงหวาน
“ก็...”
อิสราเผยอปาก ร้องครางเสียงกระเส่าเพราะทั้งปากทั้งลิ้นของวิษณุทำงานไม่หยุดหย่อน ส่วนมือแข็งแรงของนายทหารหนุ่มก็ไม่อยู่นิ่งเช่นกัน
ที่จริงแล้ว ทั้งเนื้อทั้งตัวของวิษณุก็ไม่อยู่เฉยๆ ร่างกายกำยำล่ำสันบดเบียดเข้ากับร่างของอิศรา ส่ายไปมา เสียดสีกันจนร้อนเร่าแทบจะลุกเป็นไฟ
...ต่อให้ใครเอาน้ำเย็นมาราด เขาก็ไม่หายร้อน สัมผัสของวิษณุรุนแรงหนักหน่วง แต่ก็อ่อนโยนและออดอ้อนไปพร้อมๆ กัน...
...ตายแล้วอิศรา ทำไมเผลอตัวเผลอใจไปได้ถึงขนาดนี้...
“ผู้พันวิษณุ” อิศราคราง
“อิศราครับ เป็นของผมเถอะนะ” วิษณุออดอ้อน
“โดนฉีดยาไปตั้งหลายครั้ง ยังไม่คิดว่าเป็นของผู้พันอีกหรือ” อิศราเสียงกระเส่า
“ผมรักคุณ”
...โอยตายแล้ว ทำไมมาบอกรักอีกแล้ว ทำยังไงดีละทีนี้...
อิศราเม้มปาก ส่ายหน้าไปมาเพราะมือซุกซนของนายแพทย์ทหารไม่ยอมหยุดนิ่ง ปากและจมูกของวิษณุสำรวจร่างกายของเขาต่ำลงไปเรื่อยจนทำให้อิศราใกล้จะควบคุมตวเองไม่ไหว ต้องแอ่นกายขึ้นรับสัมผัสเร่าร้อนจากชายหนุ่มที่พร่ำแต่บอกรักเขาไม่หยุดหย่อน
"อิศรา ผมรักคุณ"

***11***


หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 11 (18/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 18-09-2009 21:56:45
 :haun4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 11 (18/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 19-09-2009 00:19:59
ขอบคุณที่มาต่อค่ะ

  วิษณุหื่นจริงๆ  อิศรารับศึกหนัก :pighaun:

แป๊บเดียวนี่ล่อไปสอง  :z1:

ส่วนภีร์  โธ่ๆๆๆ น่าสงสาร อุสาห์ถ่อไปหา 

อิตาวิษณุดอดหนี จิ๊จ๊ะ กะอิศราซะได้

ลุ้นต่อไป



 :man1: รักกกกกก อิศรา  หนุบหนับๆ



หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 11 (18/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 19-09-2009 01:36:17
นี่ถ้าอิศราเลือกจับคุ่กับผู้พันหมอ ก็คงชนะไปแล้วสิเนาะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 11 (18/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: morrian ที่ 19-09-2009 14:40:56
คู่นี้หื่นดีจริงๆ  :m25:

ของภีร์ กะวรุตม์ ขอหวานๆนะคับ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 11 (18/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 19-09-2009 18:36:41
คู่นี้ out of game ไปเลยยยยยย เลยแต่พลกับวรุตม์ สู้กับภีร์ก็พอ 55555
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 11 (18/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: iGiG ที่ 19-09-2009 20:37:44
เดินเรื่องได้น่าติดตามทุกตอนเลยค่า ตั้งหน้าตั้งตารอตอนต่อไปนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 11 (18/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 19-09-2009 23:57:35
คุณก้อนอิฐคะโดนหมอฉีดยามาหลายรอบเนี่ย
ท่าทางจะติดใจถอนตัวไม่ขึ้นเลยสินะคะ ทำผิดกฏแหกคอก
ได้เสียกับเป้าหมายเพื่อซะเองแบบเนี่ย จะเอาค.จิ้นที่ไหนไปให้ ผู้พันวรุตม์ล่ะคะ
แล้วเพื่อนภีร์หาเป้าหมายให้ทั่วจะนึกมั๊ยเนี่ยมาว่านอนกกเพื่อนตัวเองอยู่คะ
อะไรกัน...เกมส์นี้โคดจะยุ่งเหยิง แล้วคุณหมอนี่ก็พร่ำบอกรักแล้วด้วย
ไอ้ค.ชัวร์ว่าหมอจะไม่ไปบอกรักเพื่อนนะมันก็แน่อยู่แล้ว หมอรักหมอหลงซะขนาดนั้น เวงกำจริงๆ

+1 จัดให้นะคะ มาดูว่า ภีร์จะแก้เกมส์ครั้งนี้ยังไง เหมือนฟ้าดินไม่เป็นใจเลยนะเนี่ย อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 11 (18/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 21-09-2009 12:08:59
บทที่ 12 ครับ
ขอโพสแค่นี้ก่อนนะครับ ตอนนี้ต้องขอลาไปทำวิดยานิพนให้เสร็จครับเพราะกำลังเข้าขั้นวิกฤติ อาการหนักมาก ต้องรือทำใหม่หมด เหมือนต้องกลับมาเริ่มจากศูนย์ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านนะครับ บทที่เหลือๆ อีกสองโหลจะเข้ามาโพสให้อ่านต่อจนจบครับ (ถ้าได้พิมพ์จนจบ ตอนนี้เขียนจบแล้วด้วยลายมือสวยๆ แต่พิมพ์ไม่ค่อยไหวครับ)

ขอบคุณครับ
 :z3:
Heart Game Chapter 12

วันนี้ภีรวัสกับอิศราเดินทางเข้ามายังตัวอำเภอเพื่อซื้อของ ขณะที่นั่งดื่มกาแฟ ภีรวัสบอกกับเพื่อนว่าจะไปห้องน้ำ แต่ความจริงตั้งใจจะไปโทรศัพท์ถึงพันโทวรุฒม์เพราะฝ่ายนั้นโทรศัพท์มาหาแต่เขาไม่กล้ารับต่อหน้าเพื่อน มือของภีรวัสที่กำลังจะกดโทรศัพท์กลับวรุฒม์ชะงัก มองอิศราอย่างครุ่นคิดเมื่อเห็นเพื่อนแสดงอาการแปลกออกไป ปกติอิศราไม่เคยนั่งนิ่ง แต่ตอนนี้เพื่อนของเขานั่งเหม่อลอย ราวกำลังหนักใจอะไรบางอย่าง ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น โทรศัพท์ของภีรวัสก็สายเรียกเข้าอีกครั้ง ชายหนุ่มสะดุ้งเพราะเปิดระบบสั่นขอเครื่องเอาไว้แทนการเปิดเสียง
"พล" ภีรวัสพึมพำ "โทรมาทำไมอีก"
"พล มีอะไรหรือครับ" ภีรวัสตัดสินใจรับสาย เพราะหากไม่ทำเช่นนั้น พลคงโทรไม่หยุด
"คุณรับสายผมแบบนี้หรือภีร์" เสียงพันตรีพลน้อยใจ
"งั้นก็วางสายแล้วลองโทรมาใหม่สิครับ คราวนี้ผมจะรับโทรศัพท์แบบที่คุณอยากจะได้ยิน" ภีรวัสเสียงเย็น ตายังจ้องมองอิศราที่นั่งเบื่ออยู่คนเดียวและยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มช้าๆ
"ผมขอโทษ" พลเสียงอ่อนลง "ผมเพียงแต่คิดถึงคุณมาก"
"ช่างเถอะครับ ผมก็ขอโทษเหมือนกัน ตอนนี้รู้สึกกำลังหงุดหงิด" ภีรวัสเสียงอ่อนลงเช่นกัน "แล้วนี่โทรศัพท์ได้หรือครับ ไหนว่าเข้าป่า ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์"
"พอดีมีโอกาสแวะมาที่ฐานวิทยุครับ เลยได้แอบใช้โทรศัพท์" พลหัวเราะ "รู้สึกเหมือนเป็นเด็กเลยพอมาถึงฐาน แต่ละคนก็รีบควักโทรศัพท์ออกมากด วรุฒม์ก็เหมือนกัน รีบเปิดเป้ควานหาโทรศัพท์ได้ก่อนเพื่อน แต่คงผิดหวังเพราะเห็นทำหน้าซึมๆ ผมโชคดีกว่า"
ภีรวัสขมวดคิ้ว พยายามนึกตามว่าพลพูดอะไรแฝงนัยหรือไม่
...โชคดีกว่า...โชคดีกว่าวรุฒม์ที่โทรหาเขาแล้วไม่ได้รับสายอย่างนั้นหรือ...
"ฝึกลำบากไหมครับ" ภีรวัสถามสั้นๆ
"ไม่หรอกครบั ฝึกปฏิบัติการร่วมไม่ได้ซ้อมรบเต็มรูปแบบ อีกอย่าง มีวรุฒม์เป็นคนบัญชาการ ผมไม่เหนื่อยหรอก ผมแค่เป็นคนคอยยืนอยู่ข้างๆ คอยช่วย คอยตอบคำถามเวลาวรุฒม์อยากได้คำแนะนำ อยากได้ความคิดเห็น" พลพูดด้วยน้ำเสียงสดชื่น
...พอกันที ทำไมพลจะต้องพูดถึงวรุฒม์ด้วนนะ...
"เหมือนคุณโทรมาเล่าเรื่องผู้พันวรุฒม์ให้ผมฟัง ทำไมเราต้องคุยกันถึงเรื่องคนอื่นล่ะครับ" ภีรวัสถาม
"วรุฒม์เป็นเพื่อนสนิทผม เลยอดดึงเข้ามาเกี่ยวไม่ได้ ถ้าภีร์ไม่อยากพูดถึง ผมก็จะไม่พูด" พลตอบด้วยน้ำเสียงธรรมดา "แต่เขาชอบพูดถึงคุณอยู่เรื่อย เหมือกกับกำลังสนใจคุณอยู่"
ภีรวัสถอนหายใจเบาๆ เพราะพลไม่ยอมเลิกพูดถึงวรุฒม์ จะด้วยจงใจหรือไม่รู้สึกตัวก็ไม่รู้ ภีรวัสไม่อยากจะเอาต่อไปอีกแล้ว ตอนนี้เขาต้องรีบยุติการสนทนา
...เผื่อวรุฒม์จะโทรมาอีก...
"ผมไม่ยักรู้ว่าเขาสนใจผม ไม่เห็นแสดงออก แต่บอกแล้วไงครับว่าตอนนี้ผมกำลังทุ่มเวลาและความสนใจให้กับงานวิจัย ผมต้องทำงานแข่งเวลา เรื่องอื่นผมไม่อยากให้เข้ามารบกวน"
"ผมกลัววาจะเสียคุณให้วรุฒม์" พลพูดเสียงเศร้า
"พล เลิกพูดถึงผู้พันวรุฒม์เถอะ" ภีรวัสเสียงเข้มขึ้น "ถ้ายังอยากจะคบกับผมอยู่ อย่าเอาเขามาเกี่ยวข้องด้วย"
"ครับ" พลรับคำง่ายๆ "ผมจะไม่ให้วรุฒม์มายุ่งกับเราสองคนเด็ดขาด เพราะผมรักคุณ ผมจะรักคุณจนตาย"

หลังจากจบการสนทนากับพล ภีรวัสก็ถอนหายใจแรงๆ เพราะรู้ว่าพลพูดกำกวม ตอนนี้เขายังวางใจไม่ได้ แม้พลจะยอมรับข้อเสนอของเขจา แต่พลก็พูดเหมือนกับขู่เขาว่าจะเปิดเผยเรื่องราวในอดีตให้วรุฒม์ได้รู้
..หากเขาคิดจะทำกับวรุฒมฺเหมือนกับที่ทำกับพล...
...หากเขาจะตกลงปลงใจไปกับวรุฒม์จริงๆ...
...แล้วนี่เขารู้สึกกับวรุฒม์อย่างไรและมากแค่ไหนกันนะ เกมหลอกให้รักแล้วทิ้งที่กำลังเล่นแข่งกับอิศราอยู่ตอนนี้จะจบลงแบบที่เคยจบมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งหรือเปล่า...
...ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกไม่ค่อยมั่นใจ...
...ทำไมพลจะต้องโผล่มาด้วย...
..."ผมจะรักคุณจนตาย"...
คำพูดสุดท้ายของพลยังดังก้องอยู่ในหู

เมื่อภีรวัสเดินกลับมาที่โต๊ะ อิศราก็กลับมาเป็นคนเดิมด้วยการพูดคึกคะนอง นัยน์ตาเต้นระริก
"ภีร์ ไม่นึกเลยว่าแม่สะเรียงจะมีผู้ชายหล่อๆ เยอะแยะแบบนี้ มาไม่เสียเที่ยวจริงๆ อยากเสียหนุ่มขึ้นมาทันทีให้ตายสิ"
"อิศ นายนี่จริงๆ เลย" ภีรวัสถอนหายใจ แล้วหันไปมองตามสายตาของอิศราแลวตำหนิเพื่อนเสียงดุ "ไอ้บ้ากาม นั่นเด็กนักเรียนใส่กางเกงขาสั้นอยู่เลยนะ"
"แล้วแกเถียงหรือเปล่าว่าเด็กมันโต" อิศราแย้ง "เด็กมัธยมก็จริง แต่ดูสิ เบ้อเริ่มเฮิ่มเชียว น้องกินข้าวกับอะไรว๊า ตัวถึงได้ใหญ่ได้ใจขนาดนี้ หน้าตาน่ารักซะไม่มี น่าเอาไปสอนให้รู้จักความรัก"
"สอนแพทย์ทหารยังไม่พอ จะสอนเด็กมัธยมด้วย คนแบบนี้เขาเรียกว่าเป็นคนแบบไหนว๊า" ภีรวัสเหน็บแนม ทำหน้าหมั่นใส้เพื่อน
"หมายความว่ายังไงพีวีซี" อิศราหันหน้ามาเอาเรื่อง
"แกมีอะไรกับนายแพทย์ทหาร พันตรีวิษณุแล้วใช่หรือไม่" ภีรวัสเสียงห้วน จ้องหน้าอิศรานิ่ง
"มีอะไรหมายความว่ายังไง" คราวนี้อิศราไม่หลบตา จ้องตาเพื่อนกลับเช่นกัน
"หมายความว่ามีความสัมพันธ์ทางเพศกันแล้วใช่หรือเปล่า" ภีรวัสพูดเสียงหนักแน่น ชัดถ้อยชัดคำ
"ความสัมพันธ์ทางเพศ" อิศราทวนคำ กำลังจะทำหน้าใสซื่อ แต่ภีรวัสรู้ทัน จึงกระแทกเสียงว่า
"แกให้เขาฟันแล้วก็บอกมาเถอะ กล้าทำก็ต้องกล้ารับ กล้าหน้าด้านก็ต้องกล้าที่จะไม่อาย"
"เอาอะไรมาพูด" อิศรายังปากแข็ง "พูดแบบนี้เราเสียหายนะภีร์"
"เสียประตูนะสิ ไอ้คนขี้ขโม" ภีรวัสหน้าบึ้ง "ถ้าเป็นแบบนี้ต้องเปลี่ยนคู่ในการเล่นเกม นายคู่กับผู้พันวิษณุไปเลย ส่วนเราเปลี่ยนมาคู่กับผู้พันวรุฒม์ เราไม่ขอบของมีตำหนิ"
"ไม่ได้" อิศราเสียงแข็ง
"ทำไมจะไม่ได้"
"เพราะแกจะแพ้ทันที เกมนี้จะจบภายในวันนี้พรุ่งนี้ อีกหนึ่งอาทิตย์ก็ต้องทิ้งสองคนนั้น" อิศราพูดเสร็จก็ถอนหายใจเสียงดัง แล้วกัดริมฝีปาก นัยน์ตาครุ่นคิดเหมือนที่ภีรวัสแอบมองเมื่อครู่ใหญ่ที่ผ่านมา
"หมายความว่า..."
"แกนี่ชอบหมายความว่าจริงๆ เลย" อิศรากระแทกหลังพิงพนักเก้าอี้แรงๆ
"หมายความว่ายังไงอิศรา" ภีรวัสเสียงเข้ม เริ่มจะทนอิศราไม่ไหว "หมายความว่ายังไง บอกมาเดี๋ยวนี้ว่าหมายความว่ายังไง"
"เฮ้อ ภีร" อิศราถอนหายใจเฮือกใหญ่ "ก็หมายความว่า ผู้พันวิษณุบอกรักเราแล้วนะสิวะ"
"ไอ้เศษก้อนอิฐ" ภีรวัสโวยลั่น "ไอ้ก้อนกรวด"
"เฮ้ย เบาๆ สิวะ คนหันมามองแล้ง อายเค้า" อิศราทำเสียงปรามเพื่อนที่ลุกขึ้นเดินออกจากร้านกาแฟทันใด
"ภีร์ รอเดี๋ยวสิเพื่อนรัก" อิศราร้องเรียกภีรวัสที่เดินลิ่วๆ ไปตามทางเดินข้างถนน "มันเป็นอุบัติเหตุ นายต้องเข้าใจนะเพื่อน เราโดนผู้พันวิษณุหลอกล่อรังแก เราไม่คิดว่าเขาจะไวไฟขนาดนั้น"
"ถ้าเรียกเขาว่าไวไฟ แล้วจะเรียกแกว่ายังไง" ภีรวัสหันไปตะคอกอิศรา
"ก็เรียกว่าไวไฟพอๆ กันสิ" อิศรายักไหกล่ "ทีตัวเองล่ะ ยังแอบนอนกับดอกเตอร์สินธพ จำไม่ได้หรือ"
"นั่นมันคนละเรื่อง ไม่ต้องมารื้อฟื้นอดีต" ภีรวัสตอบห้วนๆ "ไหน เอาหลักฐานมาให้ฟังซิ"
"ไม่ได้หรอก" อิศราส่ายหน้า
"ทำไมจะไม่ได้ ตกลงแกจะเอายังไง" ภีรวัสหน้าบึ้งตึง เริ่มจะทนไม่ไหว เวลาเถียงกับอิศรา มาดนิ่งๆ ที่เคยมีประจำมักจะหลุดอยู่บ่อยๆ
"บอกว่าไม่ได้ก็ไม่ได้เถอะ" อิศราทำหน้ามุ่ย ยืนบิดตัวไปมา "ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็แล้วกัน"
"แล้วข้าจะชนะได้ยังไงวะ ในเมื่อผู้พันวิษณุบอกรักแก จะมีประโยขน์อะไรอีก ทำแบบนี้มันผิดฝาผิดตัวไปหมดเลย นอนกับคนของตัวเองก็ว่าไปยัง นี่บังอาจมานอนกับเป้าหมายของคู่แข่ง แกควรจะทำให้ผู้พันวรุฒม์บอกรัก ไม่ใช่ผู้พันวิษณุ เห็นไหมล่ะ บอกว่าให้จับคู่กับผู้พันวิษณุไปตั้งแต่แรกก็จะเอาผู้พันวรุฒม์อยู่นั่นล่ะ"
"นี่ก็ยังจะเอาผู้พันวรุฒม์อู่" อิศราพูดหน้าตาเฉย ทำให้ภีรวัสพ่นลมหายใจออกมาดังๆ แล้วกรอกตาอย่างเหนื่อยหน่ายกับความดื้นรั้นของเพื่อน
"แล้วนี่ไอต้องมาเสียเวลากับผู้พันวิษณุ ถ้าไอคู่กับผู้พันวรุฒม์ ป่านนี้ก็คงชนะแกไปแล้ว"
"น้อยๆ หน่อย สำคัญตัวเองมากไปหรือเปล่า" อิศราเบ้ปาก
"แกไม่รู้สึกละอายบ้างหรือไงอิศ ตอนที่กำลังถอดเสื้อผ้าไม่รู้สึกผิดบ้างหรือไง" ภีรวัสชี้หน้าอิศรา
"รู้สึกเสียวๆ" อิศราทำหน้ากวนอารมณ์ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีหน้าอ้อนวอน "บางทีเขาอาจแค่บอกรักตอนที่กำลังไคลแมกซ์ก็ได้นะภีร์ บอกแล้วไง คิดซะว่ามันไม่ได้เกิดขึ้น มาตั้งต้นกันใหม่ ยืดเวลาต่ออีกซักสองสามอาทิตย์ก็ได้ ทุกอย่างมีทางออกนะภีร์นะ เราจะเลื่อนเวลากลับกรุงเทพฯ ช้าไปอีกหน่อย จะอยู่ช่วยนายทำวิจัยให้นานกว่าเดิม"
"ตอแหล" ภีรวัสเริ่มจะหมดความอดทน
"อะไรวะ นี่ก็ไม่ได้ นั่นก็ไม่เอา แล้วจะเอายังไง" อิศราขึ้นเสียง
"จบ" ภีรวัสเสียงกร้าว "ให้เรื่องนี้มันจบไป ถือซะว่าไม่ได้แข่ง เกมนี้ไม่นับ เราเลิกยุ่งกับสองคนนั่น ทำเสมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น"
ภีรวัสวางหมากสุดท้ายเพื่อเอาชนะอิศรา ซึ่งเขารู้ดีว่ายังไงๆ ฝ่ายนั้นก็ไม่ยอมแน่
"ไม่ได้ เราไม่หยุด เราจะอยู่ต่ออีกสองสามอาทิตย์" อิศราเสียงแข็ง
"เป็นเพื่อนแกนี่ปวดหัวจริงๆ เลย" ภีรวัสยกมือตบหน้าผากตัวเอง ถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้ง ยืนนิ่งอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะทำเสียงเย็น ยื่นคำขาดกับอิศราว่า "ยังไงๆ ก็ต้องเปลี่ยนคู่นะอิศรา"
"บอกแล้วไง ถ้าไอเปลี่ยนมาจับคู่กับผู้พันวิษณุ ไอก็ชนะวันนี้ทันที แล้วจะแข่งกันต่อมีประโยชน์อะไร ยูนี่พูดไม่รู้เรื่องจริงๆ เลย ทำไมเข้าใจอะไรยากแบบนี้วะ" อิศราถอนหายใจแรงๆ ทำหน้าอ่อนอกอ่อนใจกับภีรวัส
"ตัดผู้พันวิษณุออกไป" ภีรวัสทำหน้านิ่ง แล้วพูดช้าๆ ชัดๆ ว่า "นายจับคู่กับพล"
"บ้า" อิศราโวยวายทันใด "ไม่เอาด้วยหรอก ท่านนายพลเขาหมกมุ่นกับแกขนาดนั้น ไม่แฟร์นี่หว่า ฉันไม่รบในสมรภูมิที่ไม่ทางชนะหรอก เสียแรงเปล่า"
"งั้นก็จบตามที่มันควรจะเป็น เรายอมให้นายชนะก็ได้" ภีรวัสพูดด้วยเสียงจริงจังแล้วยื่นมือออกไป "เอาหลักฐานมาแสดงเดี๋ยวนี้เลยว่าผู้พันวิษณุบอกรัก"
"นี่ภีรวัส มายืนเถียงกันข้างถนนว่าเราจะเอาทหารคนไหนแบบนี้ เดี๋ยวสายทหารมาได้ยินเข้า เอาไปบอกสามทหารเสือนั่น เราจะแย่นะ" อิศราเสียงอ่อนลงเมื่อเห็นว่าภีรวัสเอาจริง
...จะให้เอาหลักฐานมาแสดงได้ยังไง เขากดปุ่มโทรศัพท์ผิด โทรศัพท์เครื่องใหม่เอี่ยมเขายังไม่คุ้นเคย แทนที่จะบันทึกเสียงกลับบันทึกภาพ กล้องคุณภาพดีมาก ทุกอย่างชัดแจ๋วราวกับถ่ายทำด้วยกล้องถ่ายดีวีดียังไงยังงั้น โทรศัพท์วางไว้บนโต๊ะบ้างที่นอน มุมกล้องดี จับภาพทุกท่วงท่าชัดเจน
...อิศรา ผมรักคุณ...
...บ้าจริงๆ เลย ผู้พันวิษณุ พูดยังงั้นออกมาได้ยังไง พูดจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ พูดออกมาง่ายๆ แบบนี้จะเชื่อได้ยังไง...

อิศรานั่งๆ นอนๆ อยู่กับบ้านทั้งวันเพราะไม่มีอารมณ์จะทำอะไร ภีรวัสทำปั้นปึ่งกับเขามาได้สองวันแล้ว ตื่นเช้าก็ขนอุปกรณ์ทดบลองออกไปทำวิจัย เย็นก็กลับมาแล้วเอาแต่นั่งทำงาน คราวนี้ภีรวัสงอนนานกว่าเคย และดูท่าจะโกรธกว่าครั้งอื่นๆ ปกติหากเขากับภีรวัสทะเลาะกัน ไม่ถึงวันก็ดีกันแล้ว แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งไหนๆ
..."ให้เวลาสามวันนะอิศ ตัดสินใจให้ได้" ภีรวัสยื่นคำขาด "พล หรือจบเกม"...
"เฮ้อ" อิศราถอนหายใจแล้วเอนตัวลงนอนบนเปลหน้าบ้านแล้วแกว่งตัวไปมาช้าๆ ในหัวนึกถึงคำพูดของภีรวัสกับวิษณุสลับกันไปมา
..."รอจนสองคนนั้นกลับออกมาจากป่าก่อนได้ไหมล่ะภีร์"...อิศรายังต่อรอง
..."พล หรือจบเกม"...
...พันตรีพลนั่นหรือ ไม่มีทางที่พลจะบอกรักเขา ต่อให้มีเวลาครึ่งปีก็ไม่มีทาง...
..."อิศรา ผมรักคุณ"...
...แล้วนี่เขาคิดยังไงกับวิษณุ อุตส่าห์หลบหน้ามาตั้งสองวันแล้ว วิษณุก็ยังตามตื๊อเขาอยู่ แล้วก็บอกว่ารักอยู่นั่นล่ะ คนอะไร พอได้บอกรักแล้วก็เร่งรัด ไม่รีรอ ไม่ลังเล มุ่งมั่นเหลือเกิน...
..."คุณหลบหน้าผมหรืออิศรา คุณกลัวอะไร กลัวที่ผมบอกรักคุณหรือครับ"...
...วิษณุรักเขาจริงๆ หรือเปล่า แล้วผู้พันวรุฒม์ล่ะ ผู้ชายคนนั้นชอบใคร เขายังพอจะมีหวังที่จะชนะภีรวัสหรือไม่หากเขายังจะดันทุรังต้องการผู้พันวรุฒม์จริงๆ...
ลมเย็นพัดมาเอื่อยๆ อากาศเย็นสบายทำให้อิศราเริ่มง่วงหลังจากนอนคิดอะไรอยู่เป็นเวลานาน แต่ชายหนุ่มหลับไปได้ไม่นานก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นเมื่อมีเสียงรถทหารวิ่งเข้ามาจอดหน้าบ้าน ทหารหนุ่มผิวคล้ำหน้าดุคนหนึ่งกระโดดลงจากรถ เดินตรงเข้ามาหาเขาอย่างเร่งรีบ ยกมือขึ้นวันทยาหัตถ์อย่างเข้มแข็งแล้วพูดว่าผู้พันวรุฒม์สั่งให้เขามาบอกข่าวสำคัญมากแก่ภีรวัส
ข่าวที่ทำให้อิศราตกใจแทบหล่นลงจากเปล...

*** 12 ***

 :z3:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 12 (21/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 21-09-2009 12:29:07
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
อย่าบอกนะว่าผู้พันพลเป็นอะไรไปอ่ะ ม่ายนะ  :sad4:
แล้วเกมส์นี้จะจบลงที่ตรงไหนล่ะ ถ้าไม่มีพลแล้ว โธ่ๆ ผู้พันพล
จะมาเป็นอะไรตอนนี้นะ น่าสงสารอ่ะยังไม่สมหวังในค.รักเลยนะ
จะเป็นอะไรไปซะแล้วรึ

ส่วนเรื่องเกมส์อ่ะ คุณก้อนอิฐคะ  :เฮ้อ: ไหนๆหมอวิษณุเค้าก็กู่ก้อง
บอกรักชัดทั้งภาพและเสียงแบบนั้นแล้วอ่ะ จะมีดื้อดึงไม่ยอมเปลี่ยนคู่
หรือว่าไม่ยอมจบเกมส์ง่ายๆได้ยังไงกันนะ เพื่อนภีร์เค้าไม่มีทางเลือกเลยนะ
แล้วอีกอย่างตัวเองคิดจะกินรวบผู้พันวรุตม์อีกคนเหรอ มันไม่งายหรอกนะ
อย่าให้เหล่าทหารกล้าตีกันเพราะแย่งหนุ่มเนี่ยอ่ะนะ ไม่ใช่ค.คิดที่ดีเลย
เพื่อนเค้ารักกันจะตาย แค่คิดก็ยากแล้วอ่ะว่าวรุตม์จะยอมให้ตัวเองโดนปั่นหัวอ่ะ
ส่วนหมอวิษณุก็นะ บ้าบอที่สุด หลงอิศราหัวปักหัวปรำเลยชิมิ  :o8: คนบร้าๆๆๆ

ปล.  :กอด1: ให้กำลังใจคุณนายนะคะ สู้ๆ อย่าพึ่งท้อนะคะเรื่องธีลิส รักษาสุขภาพด้วย   :L2:
+1 จัดให้คะ งานนี้เห็นคุณภีร์ฟิวส์ขาดทีนึงเฮ้ออออ น่ากัวนะเนี่ย ส่วนนุ้งก้อนอิฐก็มัวแต่คิดอยู่ว่า
จะเลือกไงดี
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 12 (21/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 21-09-2009 12:40:26
เผลออ่านข้ามตอนไป แล้วมาเอะใจตรงคำว่าเสียตัวๆ....ป๊าดดดรีบกลับไปย้อนอ่านแทบไม่ทัน :z1:
รอดูคู่ต่อไปที่จะลงเอยกันว่าเมื่อไหร่ o18


แต่ไอ้ตอนท้ายๆนี่มันยังไงกันล่ะฝากมาบอกแสดงว่ายังไม่ตายซิ ยังไม่ได้จบเกมกันเลยจะเป็นอะไรไปได้ไง:serius2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 12 (21/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 21-09-2009 12:41:45
ผมจะรักคุณจนวันตาย

 :-[

แอบเชียร์พลขึ้นมาหน่อยนึง 5555

เริ่มรำคาญอิศราเล่นนอกกติกา อยากให้คุณหมอตามตื้อหนักๆ จนไม่มีเวลาไปมองหาใครอื่นเลยเลย

พี่นายทำธีซิส สู้ๆ นะคะ เวลาเมื่อปีก่อนก็เผชิญสถานการณ์เดียวกันเหมือนกันเลย เกือบเอาตัวไม่รอด =='
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 12 (21/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: morrian ที่ 21-09-2009 13:05:03
ชักไม่ชอบก้อนอิฐมากขึ้นเรื่อยๆละ  :m16:

เชียร์ คู่ ภีร์ กะ วรุฒม์ เท่าน้านนน  :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 12 (21/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 21-09-2009 16:06:35
คำว่า "ผมจะรักคุณจนวันตาย" บางทีก็ฟังแล้วหวานนะ แต่ฟังอีกทีดูเศร้าๆยังไงไม่รู้อ่ะ

เรื่องวุ่นวายมากๆเรยอ่ะ เพื่อนซี้สองคนนี่ยังไงอ่ะ....
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 12 (21/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Resonance ที่ 21-09-2009 18:48:40
นายก้อนอิฐนี่เอาแต่ใจตัวเองจิงๆ เหอๆๆ

โอ้ยแล้วผู้พันมีไรจะบอกภีร์เนี่ยะ ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง    :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 12 (21/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 21-09-2009 19:00:52

หืมม????????เกิดอะไรขึ้นทำไม วรุษ ถึงให้ทหารมาส่งข่าวภีร์
รึจะเกิดอะไรขึ้นกะพล ??


ส่วนอิศของเจ้ :กอด1: เอาใจยากจริงๆๆ ปวดหัวแทนภีร์เลยวุ้ย!!  :z3:
แล้วเนี่ยหลบหน้าหลบตา วิษณุ วิษณุไม่เศร้าแย่เหรอ 

เชียร์ให้เลือกจบเกมส์นะ เพื่อตัวภีร์กะอิศราด้วย
ถ้าเกิดสองหนุ่มรู้เรื่องเมื่อไหร่จะแย่เอา  โดยเฉพาะภีร์

ถ้าเกิดยังฝืนเล่นเกมส์ต่อ วิษณุจะไม่เข้าใจผิดแย่เหรอ  แล้วถ้ายิ่งมารู้ความจริงว่าเป็นเพียงของเล่นของทั้งคู่เสียใจแย่เลย

 แล้ว อิศรานั่นแหละที่จะต้องมาเสียใจเอง

เพราะไงๆเท่าที่ดูก็ให้ใจวิษณุไปเยอะแล้วนี่(เพียงแต่ยังไม่มั่นใจกะคำบอกรักของวิษณุเท่านั้น)

ถึงไม่ยอมจบเกมส์ เพราะกลัวที่จะต้องจากวิษณุ


ส่วนภีร์  อืมม์  คนนี้โดนบีบหน้าเหลืองเลย เพราะโดนขนาบข้าง ทั้งวรุต และ พล
 
จะออกตัวอะไรมากไปก็ไม่ได้  กลัวความแตก  จะจบเกมส์ก็ติดพี่เพื่อนที่แสนเอาใจยาก 

จะเดินเกมส์ต่อก็ใช่ว่าจะมี ด้วยมีชะนักติดหลัง

จะเป็นยังไงต่อไปเนี่ย  สงสารพลเหมือนกันนะ  :sad11:

ให้กำลังใจเรื่องวิดยานิพนค่ะ  สู้ๆๆ +1
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 12 (21/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: gboy ที่ 21-09-2009 19:04:48
 o22

ยุ่งกันเข้าไป
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 12 (21/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 21-09-2009 20:36:07
เกมนี้มันยุ่งเหยิงจริงๆ เฮ้อ...



เป็นกำลังใจ สำหรับการแก้วิทยานิพนธ์นะครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 12 (21/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 21-09-2009 23:48:12

ว้ายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

สร้อยมุกที่จะใส่กับชุดดำของเดี้ยนอยู่ไหนคะเนี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ช้อย...  ช้อย....  รีบเอามาให้ฉันด่วน  เร็วเข้า

ฉันต้องรีบแต่งไปงานนาย.....  อิอิ

เจ้สอง  :bye2:

ปล. สู้ๆ เรื่อง thesis แล้วคุณจะรู้ว่า มันก็แค่กระดาษเปล่า หนึ่ง ปึ้ง! อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 12 (21/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: luftwafe ที่ 22-09-2009 02:05:42
เอ็ม 150 ฉลาม และ กระทิงแดง ขอ เปงกำลังใจให้กับผู้ที่กำลังทำวิทยานิพนจ์ทุกท่าน (รวมทั้งตัวเราด้วย อิอิ)



เอา!! พวกเรา โต้รุ่ง...ยกซดครับพี่น้อง

หัวอกเดียวกัน เข้าใจ ๆ  :serius2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 12 (21/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 22-09-2009 02:51:13
ชักอยากให้จบเกมส์แล้วสิ สองเกลอเนี่ยจะแตกคอกันซะก่อน เป็นกำลังใจให้นะครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 12 (21/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 23-09-2009 00:35:03
เป็นกำลังใจให้เสมอครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 12 (21/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 23-09-2009 00:51:11
ลุ้นให้เรื่องลงตัวมากกว่านี้
ตอนนี้ไม่อยากเดา  :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 12 (21/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: *SparklinG* ที่ 23-09-2009 17:28:15
 :-[ เข้ามาอ่านแล้วแบบ อร้างงง เรื่องนี้ สุดยอด สนุกมากๆคะ ลุ้นจนตัวโก่งเลย เป็นกำลังใจให้นะคะ +1 o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 12 (21/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Zarch_Chabu_Chabu ที่ 25-09-2009 23:32:57
 :angry2:ทหารทั้ง2เล่นอะไรกันอีกเนี่ย
ปล.ขยันๆปั่นนะครับพี่นาย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 12 (21/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: lune ที่ 26-09-2009 12:00:31
ค้างไว้แบบว่า คนอ่าน  o22
  แต่ก็ขอ ส่งกำลังใจ(ที่เหลือ) มาให้นะคะ
      :L2:  :ped149: :ped149:  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 12 (21/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Fujitaga ที่ 26-09-2009 12:58:44
เรื่องชักจะยุ่งเข้าไปใหญ่แล้วคับ แต่ถ้าว่ากันจริง ๆ แล้ว
ผมว่า อิศรา กับภีรวัส ถ้าแน่ใจตัวเองหน่อยว่ารักเค้าจริง ก็
น่าจะง่ายกว่านี้ เล่นเกมส์กับหัวใจคนอื่นเนี่ย....
มันน่านักนะ

แล้วตอนนี้มีข่าวจากผู้พันอีก จะเป็นข่างแบบไหนกันนะ
อยากรู้แล้วซิ พี่นาย พยายามเข้านะคับ ทั้งเรื่องต่อ
นิยายและวิทยานิพนธ์ด้วยแหละ สู้ ๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 12 (21/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 28-09-2009 14:18:33
คิดถึงคนเจ้าชู้ไม่รู้ตัวแถวนี้จัง  :o10:

แล้วนี่คุณภีร์จะได้เสียกับใครบ้างมั๊ยนะ

เพราะก้อนอิฐเพื่อนรัก นำโด่งไปล่ะ  :jul3:

กดบวกแก้คิดถึง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 12 (21/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: aimaim ที่ 29-09-2009 11:58:35
miss you  :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 12 (21/9/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 01-10-2009 19:41:07
Heart Game Chapter 13

"ทำใจดีๆ ไว้นะภีร์ พลเขาไปดีแล้ว ไปสวรรค์แล้ว หมดทุกข์หมดโศกเสียที" อิศราบีบไหล่ภีรวัสที่ยืนก้มหน้าอยู่เชิงบันไดของโรงพยาบาลเล็กๆ ในค่ายทหาร พยายามปลอบเพื่อน "เขาคงไม่อาฆาตนายหรอก"
"ปากไม่ดี" ภีรวัสเงยหน้าขึ้นมาทำตาดุใส่เพื่อน "ยังจะมีหน้ามาล้อเล่นอีก"
"แล้วจริงหรือเปล่าล่ะ" อิศราตอบ "ถามจริงๆ เถอะ นายเสียใจมากแค่ไหนที่พลจากไป"
"เสียใจสิอิศ ถึงเราไม่ได้รักพลสุดหัวใจ แต่คนที่รู้จักตายทั้งคน เราก็เสียใจสิ เราก็มีหัวใจเหมือนกันนะ" ภีรวัสพูดเสียงเศร้า
"นึกว่าเราสองคนไม่มีหัวใจ" อิศราพูดสั้นๆ แล้วหันไปมองร่างสูงสง่าในชุดเครื่องแบบของพันโทวรุฒม์ที่กำลังเดินมาหาช้าๆ
"แล้วผู้พันวรุฒม์รูปหล่อจะมีหัวใจหรือเปล่าน๊า ถ้ามี หัวใจเขาจะมอบให้ใคร อิศราหรือภีรวัส" อิศราพึมพำ ภีรวัสหันไปมองตามอิศราแล้วรีบปรับสีหน้า
วรุฒม์แสดงความเสียใจกับภีรวัสและเล่าเหตุมาณ์ที่พรากชีวิตของพลให้สองหนุ่มฟังอย่างคร่าวๆ พร้อมตำหนิตัวเองที่ไม่สามารถช่วยเพื่อนได้
"ถ้าผมไปถึงเร็วกว่านั้นอีกซักหน่อย ก็อาจช่ายพลได้"
"ไหนว่าเป็นแค่การฝึกปฏิบัติการทางทหารไงครับ ไม่ใช่การซ้อมรบเต็มรูปแบบ ทำไมต้องมีการลาดตระเวนด้วย" ภีรวัสถาม
"อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ" วรุฒม์ตอบ "ทหารเป็นรั้วของชาติ เรื่องแบบนี้เลี่ยงไม่ได้ ที่สำคัญ เราอยู่ติดชายแดนไทย-พม่า โอกาสเจอกับสถานการณ์แบบนี้ยิ่งมีเยอะ" วรุฒม์อธิบาย
"พวกทหารพม่ากล้าทำถึงขนาดนี้หรือ ใจกล้าสู้กับทหารไทยจนฆ่ากันตายขนาดนี้หรือ เขาไม่กลัวกระทบความสัมพันธ์ทางการฑูตกับไทยหรือไง" ภีรวัสพำพำเบาๆ
"ไม่ใช่ทหารพม่าครับ พวกนี้เป็นกบฎต่อต้านรัฐบาล หนีการสู้รับกับทหารพม่า เราพยายามผลักดันให้ออกไป แต่ยังไงไม่รู้เกิดการปะทะกัน พลเป็นด่านหน้า เจอกับพวกนั้นก่อน แล้วอีกอย่าง พลคุมทหารหมู่เล็กๆ ก็เลยโดนหนัก แล้วก็ไม่คุ้นเคยกับพื้นที่เพราะเป็นเสนาธิการทหาร ทำงานอยู่แต่ในกระทรวง" วรุฒม์ถอนหายใจ น้ำเสียงเศร้าสร้อยเมื่อพูดถึงเพื่อนผู้ล่วงลับ
"เขาพูดอะไรถึงผมก่อนตายหรือเปล่าครับ" ภีรวัสถามเสียงเบา วรุฒม์ส่ายหน้าแล้วบอกว่าเมื่อไปถึงพลก็เสียชีวิตแล้ว เขาจึงพยายามเอาศพพลกับทหารอีกสองนายออกมาจากพื้นที่สู้รบ
"ผู้พันก็บาดเจ็บ" อิศรามองต้นแขนของวรุฒม์ที่พันผ้าพันแผลสีขาว รู้สึกอยากจะยื่นมือไปแตะ
"ผมเจ็บนิดหน่อย แค่โดนยิงถากๆ" วรุฒม์ตอบ
"แต่พลตาย" ภีรวัสเสียงสั่น พูดเบาๆ กับตัวเอง แต่เขาคิดว่าวรุฒม์ได้ยิน
"คุณห่วงพลมากนะครับ" วรุฒม์พูดเสียงเรียบ ใบหน้าเคร่งขรึม ภีรวัสมัวแต่ก้มหน้ามองพื้นจึงไม่เห็นว่าใบหน้าคร้ามเข้มของวรุฒม์นั้นเคร่งเครียด กรามขบกันจนขึ้นเป็นสันนูน ดวงตาคมกริบคู่นั้นฉายแววกร้าวปนเศร้า
วรุฒม์บอกว่าศพของพลจะถูกนำกลับเข้ากรุงเทพฯ เลย และตัวเองกับวิษณุจะเดินทางไปด้วยพร้อมกับท่านผู้บัญชาการทหารบก คุณพ่อของพลที่กำลังดูศพลูกชายอยู่
"ตอนนี้พ่อของพลกับญาติผู้ใหญ่กำลังดูศพอยู่ อีกซักหน่อยคุณภีรวัสก็เข้าไปได้ครับ ผมจะพาเข้าไป"
ภีรวัสปฏิเสธ โดยให้เหตุผลว่าเขาไม่กล้าและไม่อยากจะจดจำพลในสภาพเช่นนั้น
"ผมเข้าใจ" วรุฒ์ตอบสั้นๆ แล้วขอตัวกลับเข้าไปในโรงพยาบาล ทิ้งให้สองหนุ่มยืนอยู่ด้วยกันอย่างเศร้าๆ
"สงสารพลจังเลย" อิศราถอนหายใจ "จะไปทั้งที เขาน่าจะได้พูดอะกับภีร์บ้างนะ เรารู้ว่าเขารักภีร์มาก"
...ผมจะรักคุณจนวันตาย คำพูดประโยคสุดท้ายที่พลพูดกับเขายังดังก้องอยู่ในหูอย่างชัดเจน...
"ต่อจากนี้เราก็ไม่ต้องกลัวว่าพลจะเปิดเผยเรื่องราวในอดีตให้ผู้พันวรุฒม์รู้" ภีรวัสพูดด้วยน้ำเสียงเลื่อนลอย ตาเหม่อมองออกไปยังลานจอดรถหน้าโรงพยาบาลแล้วน้ำตาก็เริ่มไหล
"ไอ้บ้า" อิศราหันขวับมาดุเพื่อน "คิดแบบนี้ได้ยังไง"
...เขารู้สึกผิด รู้สึกผิดจริงๆ แวบหนึ่งเขาคิดอย่างที่พูดออกไปเมื่อครู่ แต่ก็เพียงวินาทีเดียวเท่านั้น...
...หากย้อนเวลากลับไปได้ เขาก็ไม่ได้อยากจะให้พลเสียชีวิตหรอก ใครจะไปกล้าคิดแบบนั้นได้ เรื่องเปิดเผยอดีตหรือไม่ จะว่าไปก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่นัก ยังไงๆ เขากับวรุฒม์หรือวิษณุก็คงไม่ได้ลงเอยกัน ท้ายที่สุด อิศรากับเขาก็คงหาใครคนใหม่เป็นเหยื่อเล่นเกมสนุกสนานไร้สาระเกมนี้ต่อไปอีกเรื่อยๆ...
...สนุกสนาน ไร้สาระอย่างนั้นหรือ บ้าจริงๆ ตอนนี้ชักเริ่มไม่สนุกแล้วนะอิศรา แต่ไร้สาระนั่นน่ะใช่...
...ไร้สาระจริงๆ แย่จริงๆ แย่มาก...

ภีรวัสเก็บอุปกรณ์การทดลองสำหรับงานวิจัยแล้วเดินออกมายังถนนใหญ่เพื่อรอรถกลับที่พัก แต่ไม่นานก็เห็นรถทหารสีเขียววิ่งมาแต่ไกล ชายหนุ่มรู้ได้ทันทีว่าเป็นวรุฒม์ นายทหารบอกว่าตั้งใจมาหาภีรวัสเพื่อจะถามว่าจะเข้ากรุงเทพฯ พร้อมกับเขาและวิษณุหรือไม่
"อย่าเลยครบ ผมขอไปเคารพศพที่วัดวันเผาเลยดีกว่า ถ้าเดินทางไปพร้อมกัน ครอบครัวพลจะสงสัยว่าผมเป็นใคร" ภีรวัสส่ายหน้า
"ไม่มีพีธีเผาศพหรอกครับ" วรุฒม์ตอบ "พลเป็นคริสต์ มีพิธีฝังศพที่สุสานตอนบ่ายวันเสาร์"
ภีรวัสพยักหน้ารับรูแล้วยกอุปกรณ์การวิจัยขึ้นวาวบนเบาะหลังรถของวรุฒม์ นายทหารหนุ่มคว้ากระเป๋าของภีรวัสขึ้นมาถือแล้วรอจนชายหนุ่มจัดของเสร็จจึงยื่นกระเป๋าให้ พร้อมกับพูดว่า
"ผมนึกว่าคุณสนิทกับพลมาก"
"จนต้องรู้ว่าเขานับถือศาสนาคริสต์หรือครับ" ภีรวัสถามเสียงเบา แต่ไม่รอฟังคำตอบจากวรุฒม์ ชายหนุ่มเดินอ้อมด้านหลังของรถไปยังที่นั่งอีกด้าน แล้วขึ้นนั่งบนรถ รอให้วรุฒม์ขึ้นประจำที่คนขับ วรุฒม์เลิกพูดเกี่ยวกับเรื่องของพล แต่เปลี่ยนมาถามเรื่องการทำวิจัยของภีรวัสแทน
"งานไปได้เร็วกว่าที่คิดครับ ผมอาจทำเสร็จก่อนเวลาที่วางแผนเอาไว้" ภีรวัสตอบพร้อมกับยิ้มบางๆ
"แล้วจะกลับกรุงเทพฯ เลยใช่หรือเปล่าครับ"
ภีรวัสพยักหน้า วรุฒม์จึงพูดต่อว่า "ผมคงต้องอยู่ทำงานที่นี่ต่ออีกซักระยะ จนกว่าเขาจะหาคนมาแทนพลได้ แต่ถ้าได้ย้ายกลับกรุงเทพฯ คงมีโอกาสได้เจอคุณภีรวัสอีก"
"ผมคงต้องเดินทางบ่อยๆ ครับ โปรเจ็คหน้าอาจได้ไปทำวิจัยที่ต่างประเทศ เผลอๆ อาจจะเป็นกลางป่าที่ไหนบนเกาะเล็กๆ ของอินโดนีเซีย"
"ขนาดนั้นเลยหรือครับ แย่จัง" วรุฒม์อุทาน
"ดีต่างหาก" ภีรวัสแย้ง "ผมได้ทุนทำวิจัย มีงานทำ จะเรียกว่าแย่ได้ยังไง ผู้พันอยากให้ผมตกงาน ไม่มีอะไรทำหรือครับ"
"ไม่ครับ" วรุฒม์ส่ายหน้า ยิ้มมุมปาก มองเสี้ยวหน้าด้านข้างของภีรวัสแล้วเงียบไป เพราะอีกฝ่ายพูดเสร็จก็นั่งนิ่ง มองข้างทางอย่างสนใจ
แต่ในใจของนายทหารหนุ่มพูดต่อว่า...ไม่ครับ ผมไม่ปล่อยให้คุณอยู่ว่างๆ หรอก คุณกับเพื่อนต้องมีอะไรสนุกๆ ทำแน่...

วันนี้ภีรวัสหยุดทำงานวิจัยหนึ่งวัน ชายหนุ่มเอาแต่นั่งๆ นอนอยู่ใต้ร่มไม้ ปล่อยให้อิศรางุ่นง่านอยู่คนเดียวเพราะไม่มีอะไรทำและไม่มีคนจะคุยด้วย
"ตกลงจะเอายังไงภีร์" ในที่สุด อิศราก็ทนไม่ได้ เดินไปกระแทกตัวนั่งลงข้างๆ ภีรวัสแล้วถามเสียงเซ็งๆ
"ตกลงอะไร"
"ก็เรื่องนั้น จะเอายังไง ตอนนี้ไม่เหลือเป้าหมายอยู่ซักคน ผู้พันวิษณุก็เข้ากรุงเทพฯ พร้อมกับผู้พันวรุฒม์ งานศพของท่านนายพลก็บ่ายวันเสาร์ กว่าจะได้กลับแม่สะเรียงก็คงวันอาทิตย์"
"ใครเขาจะกลับมาเลย กะเวลาไม่เข้าท่า" ภีรวัสพูดขัดคอ
"แล้วแกรู้หรือเปล่าล่ะว่าเขากลับมาวันไหน จะได้ทดเวลาถูก" อิศราขึ้นเสียง "พูดอะไรผิดนิดหน่อยไม่ได้เลยนะ"
ภีรวัสถอนหายใจดังๆ แล้วโยนหนังสือในมือลงกับพื้นหญ้า ยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มก่อนจะเอนตัวลงนอนบนเปล แกว่งไปมาช้าๆ ตามองไปยังยอดไม้ที่กำลังโอนไหว จนอิศราทนไม่ได้กับบุคลิกเนิบนาบของเพื่อน
"คุณผีลาวัด"
ภีรวัสยังไม่ตอบ เพราะทำเป็นไม่ได้ยินที่เพื่อนจงใจเรียกชื่อแบบแผลงๆ ชายหนุ่มหลับตาลง ยกแขนขึ้นก่ายหน้าผาก ถอนหายใจช้าๆ ราวกับยั่วประสาทอิศราซึ่งเป็นคนมีความอดทนน้อยให้ใจขาดตายเพราะไม่ได้คำตอบเสียที
"ไอ้ภีร์"
"คิดไม่ออก" ภีรวัสพูดสั้นๆ
"โธ่เว้ย แล้วทำท่าคิดอยู่ได้" อิศราโวยวาย
"สงสัยคงต้องหยุดเกมไปก่อนซักระยะ รอดูสถานการณ์จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง" ภีรวัสขยายความ
"แล้วผู้พันวิษณุจะเอายังไง" อิศรายังไม่หายข้องใจ "เขาตื๊อเราหนักแล้วนะ วันที่จะเข้ากรุงเทพฯ ก่อนขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปกับท่านนายพลเขาก็มาหาเรา มาชวนให้แกไปด้วย มานั่น มานี่เรา"
"เลิกเรียกพลแบบนั้นซะที" ภีรวัสทำเสียงไม่พอใจ
"ทำไม"
"เราไม่อยากได้ยินเรียกเขาเล่นๆ แบบนี้อีก"
"ทำไมต้องเลิก คนเคยเรียกยังไง เคยเป็นยังไงก็ต้องเป็นยังงั้น ไม่เห็นแปลก ตายแล้วจะให้ตายเลยหรือไง" อิศราเถียงลั่น
"เราอยากจะลืมเขา" ภีรวัสตอบเสียงเบา
"จะลืมทำไม คนไม่ได้เกลียดกันซักหน่อย หรือนายเกลียดพล"
"เปล่า"
"หรือว่ารัก"
"เปล่า"
"แล้วนายรักใคร" อิศราหลอกถามภีรวัส "หรือว่ารักผู้พันวรุฒม์ หรือผู้พันวิษณุ"
"ไม่รักใครทั้งนั้น" ภีรวัสเสียงห้วน ลืมตาขึ้นมามองอิศราตาขวางแล้วพูดว่า "ว่าแต่ตัวเองเถอะ รักผู้พันวรุฒม์หรือผู้พันวิษณุ"
"ทั้งสองคน" อิศรายักไหล่ พูดหน้าตาเฉย ภีรวัสส่ายหน้า ถอนหายใจแล้วหลับตาลงเหมือนเดิม ทำเป็นเลิกต่อปากต่อคำกับอิศรา
"เขาบอกว่ารักเราอีกแล้ว รู้สึกจะเอาจริง ตอนแรกเห็นท่าทางเป็นคนเจ้าชู้ ตาแพรวพราว นึกว่าพอได้เราแล้วก็จะเลิก นึกว่าบอกว่ารักเพราะตอนนั้นกำลังไคลแม๊กซ์ นึกว่า..." อิศราถอนหายใจ "นึกว่าเขาชอบนายเสียอีก"
ภีรวัสไม่ตอบอะไร ยังคงนอนนิ่งอยู่ในเปล อิศราถูกปล่อยให้นั่งเงียบๆ คนเดียวครู่ใหญ่แล้วจึงพูดต่อ "นี่ถ้าเป็นผู้หญิง ผู้พันวิษณุคงกลับไปเอาพ่อแม่มาขออิศราแน่ๆ เลย เกิดมาเป็นอิศรานี่มันลำบากจริงๆ อ้อ ภีร์ ตกลงนายจะไปฝังท่านนายพลจริงๆ หรือ ไปวันไหน จะไปวันฝังเลยหรือไปก่อน แล้วจะอยู่กรุงเทพฯ อีกหน่อยหรือเปล่า แล้ว..."
"อิศรา หยุดถาม หยุดพูดซักหน่อยได้หรือเปล่า ผีเจาะปากมาให้พูดกี่รู ไม่เหนื่อยพูดบ้างหรือไง" ภีรวัสดุเพื่อนช่างจ้อ
"ผู้พันวิษณุเจาะต่างหาก ปวดปากไปหมดเลย คนอะไร ทั้งใหญ่ทั้งยาว ไม่เคยพบเคยเจอ" อิศราพูดสัปดน "แต่รูที่สอง จะให้ผู้พันวรุฒม์เจาะ อยากรู้จริงๆ ว่าผู้พันวรุฒม์จะขนาดไหน"
"อิศ" ภีรวัสเหวี่ยงมือมาตีเพื่อนทั้งที่ยังหลับตา "ขออยู่เศร้าๆ ได้หรือเปล่า"
"เชิญ เชิญตามสบาย เศร้าเสียให้พอ คิดให้ดีๆ ถึงสิ่งที่ตัวเองทำเอาไว้ แล้วตัดสินใจให้ได้นะว่าจะเอายังไงต่อไป คิดได้แล้วค่อยมาขอคำแนะนำจากเรา" อิศรากระแทกเสียงแล้วลุกเดินกลับไปนั่งที่ระเบียงบ้านพัก เป็นที่เข้าใจกันระหว่างทั้งสองว่า หากเป็นเรื่องสำคัญหรือซับซ้อน อิศรามักจะปล่อยให้ภีรวัสเป็นคนตัดสินใจ
...คิดดีๆ นะภีร์ ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งไหน วิษณุหรือวรุฒม์ เลือกเอาซักคน เขาไม่อยากเลือกก่อน เขาสับสนเหลือเกิน...

ภีรวัสกับอิศรายืนอยู่ด้านหลังสุดของแถวที่ร่วมงานประกอบพิธีฝังศพของพันตรีพล อิศราขยับตัวยุกยิกจนภีรวัสต้องหันไปดุ
"นี่งานศพนะอิศ ไม่ใช่เธค หยุดเต้นได้แล้ว รำคาญจริงๆ"
"ใครว่าเต้น ชะเง้อมองหาผู้พันต่างหาก มายืนทำไมแถวหลัง ไอมองอะไรไม่เห็นเลย" อิศราบ่น พยายามเขย่งเท้ามองไปยังด้านหน้า
ภีรวัสเห็นวิษณุกับวรุฒม์ในชุดเครื่องแบบเต็มยศยืนอยู่แถวที่สองหลังนายทหารระดับสูงหลายคน ใบหน้าของนายทหารทั้งสองเรียบนิ่งราวรูปปั้น แต่แวบหนึ่งเขาเห็นวรุฒม์หันหลังมาเหมือนจะมองหาใครสักคน แล้วหันกลับไปยืนนิ่งเช่นเดิม
"รู้ยังงี้ไม่เกิดมาเตี้ยซะก็ดี" อิศราเลิกยุกยิกเพราะรู้ว่าเขย่งไปก็ไม่มีประโยชน์ คนที่ยืนอยู่แถวหน้าล้วนแต่ตัวสูงใหญ่
พีธีศพใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็เสร็จสิ้น แขกที่มาร่วมงานต่างทยอยกลับ ภีรวัสลากแขนอิศราเดินไปยังลานจอดรถของสุสาน แต่ฝ่ายนั้นยังหันซ้ายหันขวามองหานายทหารทั้งสองคน
"ผู้พัน" ในที่สุดอิศราก็พูดขึ้น ทำให้ภีรวัสอดหันไปมองไม่ได้เพราะอยากรู้ว่า 'ผู้พัน' ที่อิศราเรียกนั้นคือใคร
วิษณุวิ่งเหยาะๆ ตามมา ร่างสูงใหญ่ในชุดเครื่องแบบทหารเต็มยศทำให้นายแพทย์ทหารหนุ่มดูแปลกตาไปจากที่เคย
"หล่อจริงๆ ให้ตายสิ หล่อพอๆ กับตอนไม่ใส่เสื้อผ้าเลยล่ะ แล้วผู้พันวรุฒม์ในชุดเต็มยศจะหล่อขนาดไหนนะ" อิศราพึมพำแล้วยิ้มกว้างให้วิษณุ แต่โดนเพื่อนกระแนะกระแหนว่า
"สำรวมหน่อยนะอิศ นี่งานศพ ไม่ต้องยิ้มโชว์ฟันสามสิบสองซี่ก็ได้"
"ยุ่ง" อิศราหุบยิ้มทันควัน หันไปว่าเพื่อนเสียงเข้ม ก่อนจะหันมายิ้มให้วิษณุ โชว์ฟันแค่ ‘สิบหกซี่’
"คิดถึงจังเลย"
"คิดถึงผมหรือครับ" อิศราถามวิษณุ "หรือว่าคิดถึงภีรวีสด้วย"
วิษณุยิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วบอกว่าคิดถึงทั้งสองคนเพราะอิศรากับภีรวัสเป็นเพื่อนรักกัน
"น่าคิดนะ ผู้พันวิษณุพูดแบบนี้ น่าคิด" อิศราเอียงคอ ทำท่าตามคำพูด
"ผมนึกว่าคุณสั้งสองคนจะไม่มา" วิษณุก้มลงมองอิศราแล้วเงยหน้าหันไปมองภีรวัสแล้วพูดว่า"วรุฒม์มองหาก็ไม่เจอ คุณอิศรายืนอยู่ตรงไหนครับ"
"มองยังไงก็ไม่เจอผมหรอก" อิศราตอบ "ผมซ่อนอยู่หลังสุดครับ ผมก็มองหาผู้พันไม่เห็นเหมือนกัน เห็นแต่ไหล่คนข้างหน้า"
"ดีนะที่ไม่เห็นแต่เอวเค้า" ภีรวัสอดเหน็บแนมเพื่อนไม่ได้ แล้วขอตัวกลับ แต่วิษณุบอกให้รอก่อน
"ผมจะวิ่งไปตามวรุฒม์"
"อย่าเลยครับผู้พัน คนเยอะขนาดนี้ เสียเวลาผู้พันเปล่าๆ ผู้พันคงยุ่งช่วยดูแลแขก" ภีรวีสทักท้วง
"ไม่ต้องห่วงครับ ตระกูลพลเป็นตระกูลใหญ่ แขกเลยเยอะ แต่ครอบครัวเขาก็มีคนเยอะเหมือนกันไม่ถึงกับต้องให้เพื่อนลูกชายมาช่วยหรอกครับ อย่าเพิ่งกลับเลย วรุฒม์อุตส่าห์มองหา"
"มองหาทั้งสองคน หรือคนใดคนหนึ่งครับ" อิศราถามขึ้นมา แล้วปรายตาไปมองภีรวัสแวบหนึ่ง
"ทั้งสองคนสิครับ ก็คุณเป็นปลาท่องโก๋กันแบบนี้ มองหาคนหนึ่งก็ต้องเจออีกคน" วิษณุตอบแล้วย้ำว่า "รออยู่นี่นะครับ ผมไปตามวรุฒม์เดี๋ยวเดียว"
"อิศราเพื่อนรัก จะยังเป็นปลาท่องโก๋กับเราไหม เราจะไปแล้วนะ" ภีรวัสมองตามวิษณุ พูดกับเพื่อนโดยไม่หันมามองหน้า
"ฉันเคย say no ได้ที่ไหน รู้ๆ กันอยู่ว่าแกบังคับฉันตลอดปี" อิศราพูดตอบเพื่อนทั้งๆ ที่กำลังมองตามวิษณุเช่นกัน แล้วเพื่อนคู่หูทั้งสองก็หันหลังกลับ เดินลิ่วตรงไปยังลานจอดรถทันที
***End of chapter 13***
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ:
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 01-10-2009 20:32:30
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:
พูดได้คำเดียวว่าสงสารพล
ทำไมภีรวัสต้องอยากลืมด้วยล่ะ ทำอะไรกับเค้าไว้เยอะก็แบบนี้ล่ะ
แต่ว่าผู้พันวรุตม์จะรุ้มั๊ยนะว่าคุณภีร์อ่ะยิ่งกว่ารู้จักอีก เฮ้ออออออ
ก่อนอิฐเพื่อนรัก็ไม่มีสลดเลยเนอะ เอิ่มดีกันจริงๆ

งานนี้ผู้พันวรุตม์มีแผนอะไรเด็ดๆมั๊ยคะ จัดมาหน่อยนะ
อยากดัดหลังสองหนุ่มเหลือเกิน
 :เฮ้อ:

+1 ได้แล้น
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 13 (1/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: alterlyx ที่ 01-10-2009 20:41:05
 :a5: ช็อคคค ไม่คิดว่า คุณนายจะตัดคู่แข่ง โดยการหยิบยื่นความตายให้ .... โถ พลผู้น่าสงสาร
ถึงจะแลดูอิรุงตุงนัง ก็ยังอยากให้พลอยู่ปั่นป่วน เกมหัวใจต่อไปนะค่ะ .... ไม่น่าอายุสั้นเลยน๊า  :m15:

อิศราแรงจริงๆ ได้คุณหมอไปแล้วก็ยังไม่ยอมจบเกมส์
สงสารภีร์ตลอดเลยค่ะ ปวดหัวเพราะอดีตโผล่มาไม่เท่าไหร่ ต้องปวดใจเพราะอดีตตายซะงั้น
อะไรก็เกิดขึ้นได้ ในนิยายคุณนาย ... โอ้ววว ไม่ไหวจะคาดเดา
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 13 (1/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: gboy ที่ 01-10-2009 21:26:15
 o22

ผู้พันตายแล้วอะ

 :sad2:

ฮือๆ


หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 13 (1/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: *SparklinG* ที่ 01-10-2009 21:37:27
 :a5: สงสารพล พลดูเป็นคนดีมากกกกก ไม่น่าตายเร็วเลย.... ขอให้ภีรคิดได้ไวๆ ว่าเลิกเกมส์ซะเถอะ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 13 (1/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 01-10-2009 21:37:51
 ภีรวัส คือ กุญแจ

เจ้สอง  :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 13 (1/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 01-10-2009 21:46:22
เรื่องนี้ถึงตายเลยเหรอ แรงงง :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 13 (1/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 01-10-2009 21:51:49
อะไรเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยย ?????????????

โอ๊ย  เศร้า สงสารพล แค่โดนทิ้งมาแล้วยังไม่พอ ผิดหวังในความรักยังไม่พอ

ไปโดยไม่ได้ร่ำลา ภีร์ซักคำ  ไหนว่าจะกลับมาทานอาหารที่ภีร์ทำไง

 :m15:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 13 (1/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 02-10-2009 00:18:22
สงสารพลนะครับ และก็เชียร์ให้เลิกเล่นเกมส์กันเถอะไม่งั้นจะยุ่งกันใหญ่
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 13 (1/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 02-10-2009 07:44:31
โอย... ตอนแรก ที่บอกว่าพลตาย นึกว่าเป็นแผนหลอกๆที่จะแก้เกมของวรุฒม์ซะอีก สงสารพลจังเลย เฮ้อ...
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 13 (1/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: J๐ly ที่ 02-10-2009 10:05:00
โฮกกกก


ได้อ่านซักที ๆ





นี่ ๆ ๆ   ผู้พันวรุตม์  มีแผนอะไรรึเปล่าเนี่ยย


รู้สึกแปลก ๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 13 (1/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 02-10-2009 10:34:22
Heart Game Chapter 14

ภีรวัสกลับมาทำงนวิจัยต่อได้หนึ่งอาทิตย์แล้วโดยไม่มีอิศราตามกลับมาด้วยเพราะไปทำงานด่วนที่ต่างประเทศ ชายหนุ่มรู้สึกปวดศีรษะและตัวร้อนจึงไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลประจำอำเภอ แต่เมื่อเดินลงจากอาหารเพื่อตรงไปยังประตูทางออกของโรงพยาบาลก็เจอกับพันตรีนายแพทย์วิษณุโดยบังเอิญ นายทหารหนุ่มรีบตรงเข้ามาหาและตัดพ้อต่อว่าภีรวัสที่แอบหนีไปเมื่อวันงานพิธีฝังศพพล
"ผมรอแล้ว อิศราปวดท้องกระทันหันครับ เลยต้องรีบกลับ" ภีรวัสแก้ตัว
"วรุฒม์ผิดหวังมากที่ไม่ได้เจอคุณ"
ภีรวัสหลบตาวิษณุ ในใจอยากจะถามกลับว่าวิษณุพูดเล่นหรือพูดจริง แต่ก็เปลี่ยนใจทำเป็นนิ่งเงียบ
"แล้วนี่ทำไมต้องมาหาหมอที่นี่ครับ ทำไมไม่ไปให้ผมตรวจให้" วิษณุหลุบตาลงมองถุงยาในมือของภีรวัส
"ผมเป็นพลเรือน ไม่ใช่ทหาร ไปหาแพทย์ทหารในค่ายได้ยังไงล่ะครับ"
"พลเรือนพิเศษครับ ไม่เป็นไร ผมรับเป็นคนไข้พิเศษ" วิษณุตอบเสียงนุ่ม
"ผมนึกว่าอิศราเป็นพลเรือนพิเศษของผู้พันเสียอีก" ภีรวัสเงยหน้าขึ้นมองวิษณุ จึงเห็นว่าแววตาของนายแพทย์หนุ่มเปลี่ยนไปเป็นเศร้าหม่น
"คุณอิศราหลบหน้าผม ไม่ยอมรับโทรศัพท์ผมบ้างเลย ไม่โทรหาผมด้วย"
"อิศราไปทำงานด่วนที่ญี่ปุ่นครับ พอเสร็จจากงานศพพล ลูกค้าก็เรียกไปทำงบาน เลยต้องไป" ภีรวัสอธิบาย
"แล้วคุณอิศราจะกลับมาช่วยคุณภีรวัสทำงานอีกหรือเปล่าครับ" วิษณุถามเสียงเหงาๆ
"ผมไม่ทราบครับ ยังไม่ได้คุยกัน" ภีรวัสโกหก ความจริงอิศราจะหาเขาทันทีที่กลับมาถึงประเทศไทย และจะอยู่กับเขาจนเก็บข้อมูลสำหรับงานวิจัยเสร็จสิ้น
"ผมกลับมาตั้งแต่วันจันทร์บ่าย งานไม่ค่อยยุ่ง เวลาว่างก็เยอะ ไม่มีคุณทั้งสองคนแล้วรู้สึกเหงาๆ"
"ผมมัวแต่ยุ่งอยู่กับงานวิจัย ไปนั่งเฝ้าอุปกรณ์การทดลองบนดอยทั้งวัน" ภีรวัสยิ้มบางๆ แล้วทำท่าจะก้าวเดินต่อ วิษณุจึงรีบชวนไปทานอาหารเย็นด้วยกัน
"นะครับ ผมจะพาไปล่องแพนทานอาหารอร่อยๆ ไม่ใช่ที่เดิมนะครับ ที่ใหม่ ล่องไปตามลำน้ำเล็กๆผ่านป่าเขาลำเนาไพร คุณภีรวัสจะต้องเพลินจนไม่อยากกลับ"
"ผม..." ภีรวัสอึกอัก อยากจะปฏิเสธ "ผมปวดหัวตัวร้อน กลัวว่าจะ..."
"ไปกับแพทย์ทหารทั้งคนจะกลัวอะไร" วิษณุทำหน้าจริงจัง แต่นันย์ตาระยิบระยับ "รับรองว่าผมจะดูแลคุณอย่างดี"
...เฮ้อ อะไรกันนี่ อิศราจะรู้ไหมว่าวิษณุมาทำท่าแบบนี้ใส่เรา...
...แล้วนี่เกิดอะไรขึ้น วิษณุทำเศร้าเป็นคิดถึงอิศรา แต่ก็มาชวนเราไปทานข้าวสองต่อสองในบรรยากาศโรแมนติก...
"วรุฒม์ต้องทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ ต่ออีกซักระยะครับ อาทิตย์หน้าคงได้กลับ เขาบ่นว่าอยากกลับมาจะแย่ แต่พ่อของพลขอให้อยู่ต่อ" วิษณุเล่าเรื่องวรุฒม์ให้ภีรวัสฟังและเดินไปที่รถ ส่วนภีรวัสเอาแต่พยักหน้ารับรู้ด้วยท่าทางเนือยๆ
"เขาก็โทรหาคุณภีรวัสนะครับ แต่ไม่ติด"
"ผมไม่ค่อยเปิดโทรศัพท์ครับ จะเปิดก็ต่อเมื่อจะใช้โทรหาใคร ผมชอบใช้สมาธิทำงานเงียบๆ" ภีรวัสตอบ
"เหมือนคุณอิศรา" วิษณุพยักหน้า "คุณสองคนนี่เหมือนกันจริงๆ"
ภีรวัสปรายตาไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ แล้วนิ่งเงียบ วิษณุเคลื่อนรถออกจากช่องจอดรถโดยไม่พูดอะไรอีก จนถึงทางประตูทางออกของโรงพยาบาลจึงถามขึ้นว่า "ไม่คิดจะโทรหาวรุฒม์บ้างหรือครับ"
ภีรวัสไม่ตอบทันใด รอให้วิษณุเลี้ยว รอให้วิษณุเลี้ยวรถเข้าถนนสายเล็กๆ เรียบไปตามคลองเสียก่อนจึงตอบคำถามด้วยการถามกลับ
"ทำไมผู้พันอยากให้ผมคุยกับผู้พันวรุฒม์นัก"
"ผมนึกว่าคุณอยากจะรู้เรื่องวรุฒม์" วิษณุตอบยิ้มๆ
...ทำไมจะไม่อยากรู้ แต่ตอนนี้คือโค้งสุดท้ายของเกมหลอกให้รักแล้วทิ้งที่เขาเล่นแข่งกันกับอิศรา โค้งสุดท้ายที่เขาต้องทิ้ง "เหยื่อ" แม้การแข่งขันครั้งนี้ผลแพ้ชนะไม่ชัดเจนเท่าใดนัก แต่เขาตระหนักแล้วว่าคงต้องให้เกมจบลงแบบนี้...
...อิศรากำลัง 'ทิ้ง' วิษณุ ส่วนเขาต้องวางมือจากวรุฒม์...
...เสียดาย เจ็บ โล่งอก...
...เขารู้สึกอย่างไรกันแน่ แต่ก่อนเมื่อถึงโค้งสุดท้ายของเกม เขากับอิศรารู้สึก 'สนุก' อย่างเดียว แต่ตอนนี้กลับมึความรู้สึกแปลกๆ ที่ชี้ชัดไม่ได้ ไม่แน่ใจ สับสน และที่สำคัญ รู้สึกหวิวๆ ในหัวใจ...

อิศราก้าวเดินฉับๆ ออกมาจากด่านตรวจคนเข้าเมืองของสนามบินตรงไปยังสายพานรับกระเป๋าเดินทาง แต่ต้องชะงีกเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของพันโทวรุฒม์ยืนอยู่ไม่ไกล นายทหารหนุ่มหันมาเห็นอิศราแล้วยิ้มกว้าง ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหา
"ผมมาส่งคุณป้าไปนิวซีแลนด์ครับ เลยมาเดินเล่นเรื่อยเปื่อย ไม่นึกว่าจะเจอคุณอิศรา" วรุฒม์พูดยิ้มๆ แล้วเดินนำอิศราไปหยุดยืนข้างสายพานรับกระเป๋า
"นึกว่าผู้พันมารอรับคนพิเศษ" อิศราหยั่งเชิง
"ก็อยากมารับอยู่เหมือนกันครับ แต่ยังไม่มี"
"คิดจะมีใหมครับ" อิศราถามยิ้มๆ
"มีก็ดีเหมือนกันครับ" วรุฒม์ทอดสายตามองอิศราชั่วครู่แล้วหันไปมองสายพานกระเป๋า จากนั้นจึงถามขึ้นว่า "กระเป๋าคุณอิศราเป็นแบบไหนครับ ผมจะช่วยยก"
"สีแดงสดครับ มีริบบิ้นสีฟ้าสะท้อนแสงผูกเอาไว้เป็นพวง" อิศราหัวเราะเบาๆ อย่างอารมณ์ดี วรุฒม์หันมาเลิกคิ้วอย่างไม่เชื่อ แต่อิศราพยักหน้ายืนยันว่าไม่ได้พูดเล่น
"ไปไหนก็สะดวกสบาย เห็นชัดเจน ไม่ต้องกลัวหลงกับใคร ไม่ต้องกลัวลืม" อิศราเล่าไปพลางส่ายหัวไปมาไม่หยุดนิ่ง "ไม่เหมือนกระเป๋าภีรวัส สีดำสนิท ไม่มีลวดลายอะไรแม้แต่นิดเดียว เวลาไหลมาตามสายพานกว่าจะหาเจอก็ยกกระเป๋าคนนั้นคนนี้จนหมดแรง มีครั้งหนึ่ง ตอนไปเที่ยวฝรั่งเศส เอากระเป๋าใครก็ไม่รู้ไปโรงแรม เลยต้องใส่เสื้อผ้ารัดติ้ว หายใจแทบไม่ออก"
วรุฒม์หัวเราะ นึกภาพตาม สองหนุ่มคงโวยว่ายลั่นโรงแรมเมื่อรู้ว่าหยิบกระเป๋าผิด
...ภีรวัสใส่เสื้อผ้ารัดติ้วจะเป็นยังไงนะ ทุกทีเห็นใส่แต่เสื้อผ้าตัวใหญ่ๆ...
"ภีร์ไม่ชอบเสื้อผ้าตัวเล็ก เขาบอกว่าอึดอัด แล้วชอบแต่สีทึมๆ เหมือนผู้พันนี่ล่ะ" อิศราเล่าต่อเจื้อยแจ้วจนเหลือบมองไปเห็นกระเป๋าตัวเองจึงชี้นิ้วแล้วทำท่าดีใจ
"นั่นไงๆ ของผม"
"ทราบแล้วครับ" วรุฒม์หันไปพูดยิ้มๆ กับชายหนุ่มแล้วยืนรออย่างใจเย็น พลางปรายตาไปมองอิศราอย่างขำๆ ที่ทำท่ายุกยิกราวกับอยากจะวิ่งไปคว้ากระเป๋าของตัวเอง
"ผมไปส่งนะครับ" จู่ๆ วรุฒม์ก็พูดขึ้นมา
"อะไรนะครับ" อิศราถามเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองได้ยินไม่ผิด
"ผมจะไปส่ง" วรุฒม์พูดชัดๆ "แวะทานอะไรก่อน แล้วผมจะขับรถไปส่งที่บ้าน ถือซะว่าเป็นการเลี้ยงต้อนรับ"
"จะดีหรือครับ" อิศราพูดขึ้นช้าๆ ในใจนึกถึงคำพูดของภีรวัสที่โทรศัพท์ข้ามประเทศคุยกันก่อนขึ้นเครื่องบินที่โตเกียว
"โอเค นายชนะ ตอนนี้ก็ถึงเวลาทิ้งสองคนนั่น"
"ตัดสินใจดีแล้วหรือภีร์"
"อยากให้ตัดสินใจก็ตัดสินใจแล้วไง เกมนี้จบแค่นี้"
"เพิ่งเล่นมาไม่เท่าไหร่เลยนะ"
"ไอ้ก้อนอิฐ อย่ามาเรื่องมากมีปัญหานะ เราจะยอมเชื่อที่บอกว่าผู้พันวิษณุบอกรักนายโดยไม่ต้องดูหลักฐาน"
"ใครจะไปเรื่องมากกับแก ถามนิดถามหน่อยไม่ได้"
อิศราอดถอนหายใจไม่ได้ การสนทนาระหว่างเขากับภีรวัสจบลงด้วยการเถียงกันเช่นเคย จนพนักงานประจำประตูทางออกขึ้นเครื่องบินต้องเดินมาตามตัวเขาให้ขึ้นเครื่อง
...เฮ้อ ภีรวัสเอ๊ย เรื่องมันจบได้ง่ายๆ ก็ดีนะสิ แล้วนี่เพื่อนจะรู้หรือเปล่าว่าผู้พันวรุฒม์มาดักเจอเราที่สนามบิน...
...มาเดินเล่น ฮึ คงเชื่อได้หรอก อิศราไม่ค่อยฉลาดนักก็จริง แต่คราวนี้ อิศราเข้าใจไม่ผิดเด็ดขาด...
...เอาไงดีวะ จะถามภีรวัสให้ช่วยตัดสินใจให้ก็ไม่ได้...

ในที่สุด อิศราก็มานั่งอยู่ในร้านอาหารบรรยาศดีชานเมืองกับพันโทวรุฒม์ที่กำลังทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย
"ผู้พันทานเยอะเหมือนกันนะเนี่ย โชคดีที่ผมไม่หลวมตัวเลี้ยงข้าวผู้พันตอนอยู่ที่แม่คน"
"แม่คงครับ" วรุฒม์แก้คำพูดของอิศรา
"แม่คงก็แม่คง ก็แหมมันหลายแม่เหลือเกิน ผมจำได้ไม่หมด ไปแม่สะเรียงไม่ใช่ง่ายๆ นะครับ ต้องไปลงเครื่องที่แม่สอด นั่งรถผ่านแม่เมย แวะเข้าห้องน้ำที่แม่ป่าละเมาะ ถึงแม่สะเรียงก็ต้องเช่ารถไปแม่คง ดีนะที่ไปจบลงที่แคมป์สน ไม่ใช่แม่ไม่สน ผมยังกลัวเลยว่าจะไปผิดที่" อิศราเล่าไปยิ้มไป
"ไปกับผมสิ วันศุกร์ผมจะกลับค่าย นั่งรถไปด้วยกัน" วรุฒม์ชวน "ผมจะพาแวะระหว่างทางอีกหลายๆ แม่ คุณอิศราจะได้ถ่ายภาพสวยๆ ให้ครบทุกแห่ง"
"หมายความว่าขับรถไปจากกรุงเทพฯ นี่หรือครับ"
วรุฒม์พยักหน้า ส่งยิ้มกว้างให้อิศรา แล้วยื่นนิ้วมาแตะนิ้วของชายหนุ่ม แล้วพูดขึ้นว่า "เดินทางไปด้วยกัน ขอรับรองว่าจะไม่ทำให้คุณอิศราเบื่อ"
"ไม่เบื่อหรอกครับ กลัวแต่ว่าผู้พันจะทนผมไม่ได้ ถีบผมตกรถกลางทางเพราะรำคาญที่ผมพูดไม่หยุด" อิศราหัวเราะแก้เขิน ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมจึงรีบหดมือกลับ
...ก็เพราะสะท้านไปทั้งตัวไงเล่า สัมผัสเบาๆ ของวรุฒม์เล่นเอากล้ามเนื้อกระตุกไปทั้งตัว...
...ภีรวัส ทำไมแกต้องตัดสินใจแบบนี้ จะเลิกเกมการแข่งขันครั้งนี้จริงๆ หรือเพื่อน...
"ผมไม่โหดร้ายขนาดนั้นหรอกครับ อย่างมากก็แค่ปิดปากคุณอิศราเอาไว้" วรุฒม์หัวเราะขำ
...ด้วยปากของผู้พันใช่ไหมล่ะ อิศรารู้ทันหรอก...
...อดทนเอาไว้นะอิศรา อดทนเอาไว้...
...แล้วนี่ทำไมผู้พันวรุฒม์ยิ้มได้ยิ้มดี แต่ก่อนเห็นทำหน้าขรึมๆ จะยิ้มก็ยิ้มมุมปากบางๆ คราวนี้ยิ้มกว้างเห็นฟันขาวสะอาด ดูสดชื่นร่าเริง ไม่รู้หรือว่าตัวเองมีเสน่ห์มากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก เพื่อนก็เพิ่งเสียชีวิตมาแค่อาทิตย์กว่าๆ ยังจะมาทำเป็นอารมณ์ดีอยู่ได้...
"เอ่อ คือว่าผมยังบอกไม่ได้หรอกครับ ต้องดูงานเสียก่อน คือมันยังไม่แน่นอน แบบว่า ลูกค้าเขายังไม่คอนเฟิร์มว่างานที่ไปถ่ายทำกันที่ญี่ปุ่นจะเรียบร้อย" อิศราตัดสินใจในที่สุด
"ค่อยตอบผมทีหลังก็ได้ครับ" วรุฒม์ยักไหล่แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วพูดเสียงทุ้มกว่าเดิมว่า "เย็นพรุ่งนี้ผมจะรอคำตอบ"
"หมายความว่ายังไงครับ" อิศราพึมพำเสียงเบา รู้สึกพูดไม่ออกขึ้นมาทันใด
"คืนพรุ่งนี้ไปหาอะไรดื่มแล้วฟังเพลงเพราะๆ กันนะครับ" วรุฒม์ยิ้มมุมปากบางๆ เช่นที่เคยทำ
...ตอบเยสหรือโนดีน๊อ...
...ภีรวัสไม่อยู่แถวนี้ จะส่ายหน้าหรือพยักหน้า ใครจะมารู้อะไรด้วย...
...เผื่อเกิดอะไรไม่คาดฝันขึ้นมาล่ะ เรื่องมันจะยิ่งยุ่งมากกว่านี้...
...ยุ่งก็ยุ่งสิ ไหนๆ ก็ยุ่งมาจนขนาดนี้แล้ว ยุ่งต่ออีกนิดจะเป็นไรไป เดี๋ยวภีร์ก็แก้ปัญหาได้เอง...
...ติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก นาฬิกาในหัวจะดังขึ้นมาทำไมวะ...
อิศราถอนหายใจเบาๆ เมื่อเสียงสองเสียงในหัวเริ่มถกเถียงกันอย่างหนัก ตามองวรุฒม์อย่างคิดคำนึง นายทหารกำลังก้มหน้าใช้ช้อนตักอาหารช้าๆ  ท่าทางผ่อนคลาย
...แล้ววิษณุล่ะ วิษณุกำลังทำอะไรอยู่ หากเราไปดื่มกับวรุฒม์คืนพรุ่งนี้แล้วเกิดเลยเถิด เขาจะทำยังไงดีกับวิษณุ...
...แล้วจะทำยังไงดีกับภีรวัส...
...แต่ที่สำคัญ เขาจะทำยังไงดีกับตัวเอง...

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 13 (1/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: gboy ที่ 02-10-2009 10:39:44
 :z13:
มาแล้ว
มาแล้ว

+1 ให้เลย

ปล วิดยานิพลไปถึงไหนแล้วครับ

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 13 (1/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 02-10-2009 10:43:40
:z13: มาแล้ว มาแล้ว +1 ให้เลย ปล วิดยานิพลไปถึงไหนแล้วครับ
ขอบคุณครับ วิดยานิพนไปถึงตอนที่กำลังจะเริ่มทำใหม่ครับ ตอนนี้กำลังทำใจอยู่ด้วยการซิ่งมอเตอร์ไซด์เล่น :m15: :monkeysad: :sad11: :t3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 14 (2/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: alterlyx ที่ 02-10-2009 11:10:24
ผิดฝา ผิดตัว  :a5:

ทำไม อะไรๆมันกลับตาลปัต ได้ขนาดนี้ เนี้ยะ  o22

ไม่อยากจะเชื่อว่า ผู้พันวรุฒม์ ไปดักรอ อิศรา ... แอบเสียใจที่คอยเชียร์
วางแผนอะไรไว้กับ วิษณุรึป่าวคะเนี่ย ... โอ๊ย ยุ่งเหยิงได้อีก ... มาต่อให้ว่อง อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 14 (2/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: gboy ที่ 02-10-2009 11:13:40
:z13: มาแล้ว มาแล้ว +1 ให้เลย ปล วิดยานิพลไปถึงไหนแล้วครับ
ขอบคุณครับ วิดยานิพนไปถึงตอนที่กำลังจะเริ่มทำใหม่ครับ ตอนนี้กำลังทำใจอยู่ด้วยการซิ่งมอเตอร์ไซด์เล่น :m15: :monkeysad: :sad11: :t3:
:a5:
กำ
แล้วเมื่อไหร่จะจบเนี่ย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 14 (2/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 02-10-2009 11:48:05
พี่นายฆ่าคนนนนนนนนนนน การีสสสสสสสสสสสสส

พลไม่น่าเลย  :monkeysad:

มีความรุ้สึกว่าอิศรากับภีร์ กะลังโดนแผนตลบหลังยังไงพิกล
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ:
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 02-10-2009 12:56:24
ตอนนี้กลิ่นตุๆแหะ สองหนุ่มนี่ำกำลังเล่นเกมส์อะไรกันเนี่ย
ทางคุณภีร์กับหมอวิษณุไม่ห่วงหรอกเพราะคุณภีร์  ชีเก่งแล้วก็ฉลาด :laugh:
ควบคุมอารมณ์ได้ รู้อ่ะนะว่าคุณหมอนี่มันของๆเพื่อน ฟันเพื่อนมาแล้น

แต่คุณก้อนอิฐนี่ดิ แหม่่่่่ๆๆๆทำเป็นคิด อยากไปอ่ะจิ
...ตอบเยสหรือโนดีน๊อ...
...ภีรวัสไม่อยู่แถวนี้ จะส่ายหน้าหรือพยักหน้า ใครจะมารู้อะไรด้วย...

>>ผู้ชายสำคัญกว่าเพื่อนเสมอคะ เอาผะจายก่อนแล้วค่อยไปเคลียร์กับเพื่อน
นี่แหละสิ่งที่อิศราคิดได้  :laugh: เจอหนุ่มแตะเนื้อต้องตัวเข้าหน่อย
อั๊ยยยยย งานนี้จะรอดมั๊ยคะเนี่ย ได้โดนคุณภีร์ชี้หน้าว่าเป็น"วันทอง"สองใจแน่ๆอิอิ

+1 จัดให้คะ เกมส์นี้สองหนุ่มโดนปั่นหัวชิมิคะ
โอม...สาธุๆ สู้ๆนะคะคุณนายยยย เราหัวอกเดียวกัน  :m15:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 14 (2/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: J๐ly ที่ 02-10-2009 13:24:17


เห้อ ๆๆๆ


2   หนุ่มเรา




โดน เอาคืนแร้วสิเนี่ย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 14 (2/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 02-10-2009 13:50:57
ดูท่า จะโดนดัดหลังซะแล้ว 

ภีร์ยังไม่น่าห่วงเท่าไหร่  แต่ อิศราของเจ้ :man1:  เนี่ยสิ  ยิ่งฉลาดน้อยอยู่ด้วย 
จะตามเกมเค้าทันม๊ายยยยยย :z3:

...ยุ่งก็ยุ่งสิ ไหนๆ ก็ยุ่งมาจนขนาดนี้แล้ว ยุ่งต่ออีกนิดจะเป็นไรไป เดี๋ยวภีร์ก็แก้ปัญหาได้เอง...

อิศรานี่เหมือนเด่ะ ที่ต้องคอยให้พี่ตามแก้ปัญหาให้  คิดแทนตลอดเวลา 5555   

ภีร์เป็นพี่เลี้ยงอิศรานี่เอง   :laugh:  ฮิศราน่ารักกกก เจื้อยแจ้วตลอดเวลา

หนึ่งบวกค่ะ ชอบๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 14 (2/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 02-10-2009 15:26:25
กลับกลายเป็นว่าตอนนี้ ภีรวัส กับ อิศรา อยากจะจบเกม แต่ผู้พันวรุฒม์จะเล่นเกมต่อสินะ

ดูๆแล้ววุ่นๆดีเหมือนกันนะ


รออ่านตอนต่อไป พร้อมกับเป็นกำลังใจให้เริ่มงานวิทยานิพนธ์ใหม่อย่างไร้อุปสรรคนะครับผม  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 14 (2/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: *SparklinG* ที่ 02-10-2009 17:07:15
+1 แต่ค้างจริงๆ อยากให้ต่อเร็วๆจัง อยากรู้ว่าภีรกับวรุฒจะได้มารักกันมั้ย :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 14 (2/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 02-10-2009 17:30:14

สลับบุคลิก?
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 14 (2/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: baroona59 ที่ 02-10-2009 17:47:10
สนุก

สนุก

สนุก

สนุก

สนุก o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 14 (2/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Resonance ที่ 02-10-2009 18:09:51
ผู้พันวางแผนอะไรอยู่รึป่าวเนี่ยะ 


รออ่านๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ     o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 14 (2/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: moon ที่ 02-10-2009 19:23:14
คาดว่าน่าจะโดยดัดหลังกันทั้งคู่มั้ง

แล้ว ภีม กับ อิศ จะแก้เกมทันไหมเนี๊ยะ

ลุ้นกันต่อไป
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 14 (2/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 02-10-2009 21:16:05
คิดถึงผู้อ่านทุกคน มีใครคิดถึงผมบ้างไม๊น๊อ

Heart Game Chapter 15

ภีรวัสยอมรับว่าตัวเองตกใจที่หันหลังไปมองรถที่แล่นเข้ามาจอดช้าๆ แล้วเห็นว่าคนที่ก้าวลงมาคือวรุฒม์ แต่เขาก็รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ นายทหารร่างบึกบึนอยู่ในชุดเครื่องแบบครึ่งท่อน เสื้อยืดสีเขียวซีดที่กำลังสวมอยู่ค่อนข้างรัดรูป เผยให้เห็นแผ่นอกแข็งแกร่งเต็มไปด้วยมัดกล้าม
...เกือบสองอาทิตย์ที่ไม่ได้เจอหน้าวรุฒม์ เขารู้สึกว่าวรุฒม์ดูเปลี่ยนไป ผิวขาวขึ้น ไรหนวดครึ้มเหมือนไม่ได้โกนมาหลายวัน แก้มดูซูบลง แต่นัยน์ตานี่สิ ดูเปลี่ยนไปจริงๆ...
"ในที่สุดก็เจอตัว คุณมานั่งเงียบๆ อยู่นี่เอง" วรุฒม์ยิ้มบางๆ แล้วเดินเข้ามาทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ภีรวัสแล้วพูดเสียงต่ำว่า "คุณหลบหน้าผมหรือเปล่า"
"ทำไมต้องหลบครับ" ภีรวัสถามกลับด้วยเสียงเรียบ ใบหน้ายิ้มๆ ก่อนจะหันไปมองอุปกรณ์ที่กำลังทำการวิจัย แล้วก้มลงจดบันทึกบนสมุดเล่มเล็กในมือ
"งานศพพล คุณไม่รอพบผม"
"พอดีอิศราปวดท้องไม่สบายครับ เลยต้องรีบไป" ภีรวัสตอบเหมือนที่เคยตอบวิษณุแล้วอธิบายเพิ่มเติมว่า "แล้วผมก็รับกลับมาทำงานวิจัยต่อ วันๆ ก็ขลุกอยู่บนนี้ นั่งจดบันทึกการทดลอง ไม่ได้เปิดโทรศัพท์ แล้วก็รู้สึกว่าแถวนี้ไม่มีสัญญาณด้วยครับ"
"ผมอยากจะคุยกับคุณแทบแย่" วรุฒม์พูดเสียงเบา อมยิ้มมุมปากเช่นเคย แต่นัยน์ตาวิบวับ "แต่ไม่เป็นไร ผมกลับมาแล้ว ได้คุยกันจริงๆ ไม่ใช่ทางโทรศัพท์ ดีกว่าเป็นไหนๆ"
ภีรวัสพยักหน้าเห็นด้วย แล้วก้มลงจดบันทึกต่อทั้งที่เพิ่งจดไป วรุฒม์เหลือบตามองแล้วอมยิ้ม กำลังจะทักท้วงว่าชายหนุ่มจดบันทึกตัวเลขเดิมเหมือนกับที่เพิ่งจดไปเมื่อครู่ แต่ก็เปลี่ยนใจถามถึงเรื่องการวิจัยของภีรวัสแทน อธิบายให้นายทหารฟังอย่างคร่าวๆ แล้วสรุปปิดท้ายว่า
"คงเสร็จเร็วกว่าที่คิดราวสองอาทิตย์"
"จะกลับกรุงเทพฯ เลยหรือเปล่าครับหรือจะอยู่เที่ยวต่อ ผมอาสาพาเที่ยว" วรุฒม์เสนอตัว
"ผมยังไม่แน่ใจครับ บางทีอาจต้องไปทำวิจัยอยู่กลางป่าบนเกาะเล็กๆ ที่ไหนแถวทางใต้ของอินโดนีเซียเสียด้วยซ้ำ" ภีรวัสหาทางออกที่ได้เตรียมไว้
"แต่คุณก็คงไม่อยู่กลางป่าอินโดนีเซียนานจนเกินไปใช่ไหมครับ อีกไม่กี่เดือนก็ได้เจอกันอีก ผมรอได้" วรุฒม์ยักไหล่ แล้วนั่งนิ่งมองออกไปยังทุงหญ้าโล่งเบื้องหน้า
"อิศราบ่นคิดถึงผู้พัน" ภีรวัสเปลี่ยนแผน พยายามจะผลักวรุฒม์ออกจากตัว
"ผมก็เพิ่งแยกกับคุณอิศราที่กรุงเทพฯ ทำไมคิดถึงกันเร็วจัง" วรุฒม์ทำเสียงสงสัยแล้วเท้าแขนลงกับพื้นหญ้า เอนตัวไปทางด้านหลังแล้วแหงนหนามองท้องฟ้าสีครามราวกับเพลิดเพลินกับธรรมชาติยิ่งนัก
ภีรวัสขมวดคิ้ว รู้สึกฉุนอิศราขึ้นมาทันใด เพื่อนเขาควรจะมาหาเขาแล้วตั้งแต่เมื่อวานซืน แต่อิศราบ่นว่าตั้งแต่กลับจากญี่ปุ่นก็ยุ่งเสียจนไม่มีเวลาจะทำอะไร จึงขอเคลียร์งานจนถึงสุดสัปดาห์ เช้าวันจันทร์ถึงจะเดินทางมาแม่สะเรียง
...ที่ยุ่งๆ ในกรุงเทพฯ ก็เพราะอยู่กับผู้พันวรุฒม์นี่หรือ ไอ้เพื่อนเจ้าเล่ห์ งาบทั้งวิษณุและวรุฒม์เลยหรือนี่...
"หิวข้าวแล้ว ไปทานข้าวด้วยกันนะครับ" วรุฒม์ชวน "อย่าปฏิเสธเลย ผมไม่ให้คุณตอบปฏิเสธหรอก ยังไงก็จะจี้ตัวขึ้นรถไปทานข้าวด้วยกันให้ได้"
ภีรวัสยังคงก้มหน้ามองสมุดบันทึก ไม่ตอบโต้นายทหารที่คิดว่ากำลังเปลี่ยนท่าทีไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด พูดมากขึ้น พูดยาวขึ้น นัยน์ตาวิบวับกว่าเดิม และท่าทางไม่อ่อนโยนเนิบนาบเหมือนเดิมเท่าไหร่นัก แต่รู้สึกดูกร้าวขึ้น
...พูดเองเออเอง ทำตัวเป็นผู้นำ และมีแววว่าจะชอบบังคับให้ได้ทุกอย่างดังใจ...
...คงคุมภีรวัสได้หรอก ไม่รู้หรือไง เขาเป็นคนดื้อเงียบไม่ใช่เล่น เรื่องที่ใครจะมาอยู่เหนือเขานั้นอย่าได้หวัง...
...แต่ครั้งนี้เขาจะยอมไปทานข้าวด้วย ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้นนะ...

หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จวรุฒม์ขับรถมาส่งภีรวัสที่บ้านพัก แล้วก็ลงจากรถมายืนคุยต่อที่หน้าบ้าน ไม่มีท่าท่าจะกลับง่ายๆ อากาศหนายเย็นจนภีรวัสต้องห่อไหล่
"หนาว" ภีรวัสพูดขึ้น หันหน้าไปมองบ้านพักเหมือนจะบอกกับนายทหารว่าอยากจะเข้าบ้านแล้ว
"คุณภีร์คงไม่ชินกับอากาศหนาว อยู่ต่ออีกหน่อยสิครับ จะได้ชิน" วรุฒม์คุยต่อ ทำเป็นไม่สนใจท่าทีของภีรวัส
"จะแข็งตายสิไม่ว่า" ภีรวัสพูดโดยไม่มองหน้าของวรุฒม์ สายตาจับอยู่ที่ใต้คางของนายทหาร หนวดเคราของวรุฒม์เริ่มขึ้นครึ้ม
...ทำไมไม่โกน คางสากๆ แบบนี้ ไปจูบซุกไซร้ซอกคอใครก็คงระคายเคืองไปหมด...
"ผมชอบอากาศหนาว สบายตัวดี อากาศร้อนทำให้เหงื่อออก เหนอะหนะ" วรุฒม์พูดยิ้มๆ ยกมือขึ้นเท้าเอวแล้วแหงนหน้าสูดอากาศสดชื่น
"ผมชอบอากาศสบายๆ" ภีรวัสตอบ และในใจคิดว่าหากวรุฒม์จะยังคุยเรื่องอากาศนอกบ้านอยู่แบบนี้ เขาก็จะหนีเข้าบ้านเสียดื้อๆ
"เข้าไปคุยในบ้านกันเถอะครับ คุณภีร์คงหนาวแล้ว" วรุฒม์ก้มหน้าลงมายิ้มอ่อนโยนให้ภีรวัสที่เลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจที่ได้ยินวรุฒม์เรียกชื่อเขาสั้นๆ
"ขอผมเรียกว่าภีร์นะครับ อยากเรียกชื่อเล่น คุณเรียกผมสั้นๆ ว่ารุฒม์ก็ได้ เราจะได้สนิทกัน"
...ชื่อเล่นเขาคือพีเจต่างหาก แต่เขาไม่บอกหรอก ไม่อยากใกล้ชิดมากกว่านี้ เขากำลังจะทิ้งวรุฒม์อยู่แล้ว จะให้สนิทกันได้ยังไง...
"ดึกแล้ว ผู้พันไม่รีบกลับหรือครับ ค่ายทหารก็อยู่อีกไกล ทางก็เปลี่ยว ขับรถกลางคืนมันอันตราย" ภีรวัสท้วงขึ้นมาเบาๆ แล้วอดนึกตำหนิตัวเองไม่ได้ว่าพูดอะไรไม่เข้าท่า ทหารขับรถกลางคืนจากแคมป์สนกลับค่ายนี่นะอันตราย ทหารเขาคงกลัวหรอก
"เพิ่งสามทุ่มเองนะครับ ดึกที่ไหนกัน แล้วค่ายก็อยู่ไม่ไกล ผมขับรถแค่ไม่ถึงสิบห้านาทีก็ถึง คงไม่มีข้าศึกมาคอยซุ่มโจมตีหรอกครับ คุณภีร์ไม่ต้องห่วงความปลอดภัยของชายชาติทหารอย่างผมหรอก ห่วงตัวเองเถอะ" วรุฒม์พูดยิ้มๆ
...หมายความยังไง ห่วงตัวเอง...
"เข้าไปคุยกันข้างในเถอะครับ" วรุฒม์จับแขนของภีรวัสแล้วออกแรงดึงให้เดินตาม ชายหนุ่มตาค้าง ไม่นึกว่าคนเคร่งขรึมเรียบนิ่งอย่างวรุฒม์จะทำแบบนี้ มือใหญ่แข็งแรงส่งผ่านความร้อนมายังผิวกายของเขาทันที จนภีรวัสรู้สึกได้ว่าความหนาวเย็นแปรเปลี่ยนเป็นอบอุ่นในชั่วเสี้ยววินาที
"ผู้พัน คือว่า..."
"ไม่เชิญแขกเข้าบ้านหรือครับ ผมอุตส่าห์เลี้ยงอาหารเย็น" วรุฒม์อมยิ้ม
"อ๋อ ที่เลี้ยงอาหารเย็นผมก็เพราะต้องการอะไรตอบแทนนี่เอง"
"เปล่า" วรุฒม์ส่ายหน้า "ขออะไรร้อนๆ ดื่มซักถ้วยหน่อยเหนอะครับ อากาศเย็นจะแย่ ขับรถกลับค่ายตอนกลางคืน เดี๋ยวผมได้หนาวตายกลางทาง"
"ไหนว่าไม่ต้องห่วงชายชาติทหาร ขับรถกลับค่ายแค่นี้เอง"
"แต่ไม่ใช่เรื่องอุณหภูมิครับ" วรุฒม์หยุดเดิน หันมายิ้มให้ภีรวัส มือที่จับแขนของชายหนุ่มยังไม่ปล่อย แต่กลับยกมืออีกข้างขึ้นมาจับไหล่ภีรวัสแล้วบีบเบาๆ "ตอนนี้ผมกำลังต้องการความอบอุ่น"
"งั้นก็เชิญครับ ผมจะชงกาแฟร้อนๆ ให้ซักแก้ว" ภีรวัสขยับตัว แต่ถูกนายทหารร่างกำยำตรึงเอาไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง
"กาแฟร้อนๆ ทำให้ผมหายหนาวไม่ได้หรอก" วรุฒม์พูดเสียงสั่นพร่าแล้วยืนนิ่ง สะกดภีรวัสด้วยแววตาลึกซึ้งอยู่นานหลายอึดใจ และในที่สุด วรุฒม์ก็ทำในสิ่งที่ภีรวัสกำลังหวาดหวั่น
...ไหนๆ ก็จะทิ้งวรุฒม์แล้ว เกมกำลังจะจบ ขอส่งท้ายซักทีเถอะ อิศราอยู่กรุงเทพฯ ถ้าเราไม่พูด เพื่อนก็คงไม่รู้อะไร...
...พอคืนนี้ผ่านไป เขาจะทิ้งวรุฒม์อย่างเด็ดขาด ถ้าการหลบหน้าไม่ได้ผล เขาจะบอกผู้พันรูปหล่อคนนี้ไปตรงๆ...
...แต่ว่าจากนั้น เขาจะทำยังไงกับตัวเองดี โอย สับสนเหลือเกิน...


หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 15 (2/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 02-10-2009 21:45:28
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
คุณพีเจ จะฟัน เอ้ย จะปล่อยเลยตามเลยรึคะ
กรี๊ดดดดดดดดดดดดเอาวะ ขนาดเพื่อนอิฐยังนอกเกมส์ได้เลย
อิอิ ผู้พันก็นะ ว๊อนเหลือเกิ๊นมามาดใหม่ ทั้งคำพูดและสายตาวิบวับ
คนที่ชอบอากาศเย็นแต่ขาดความอบอุ่นทางใจมาหาเอากับนักวิจัยเมืองกรุงแบบนี้
คุณภีร์คะ จัดการเลยคะ อย่าให้รอด :m20:

ปล.คิดสิคะ... คิดถึงม๊ากมากหนุ่มแว๊นเนี่ย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 15 (2/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: gboy ที่ 02-10-2009 21:58:16
 :seng2ped:

มาต่อด่วน


ค้างเลยอะ

ปล คิดถึงคนแต่งม๊ากมาก

แต่แค่คิดถึงนิยายมากกว่าเท่านั้นเอง
 :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 15 (2/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 02-10-2009 22:04:13

เดินหน้า-ถอยหลัง

อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 15 (2/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 02-10-2009 22:20:09
เล่นอะไรกันคะ 4 คนนี้
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 15 (2/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 02-10-2009 22:26:18
 :sad4: โอ๊ย คุณนาย ไม่ไหวแล้วคะ ยิ่งอ่านยิ่งเครียด

ผู้พัน วรุฒน์เปลี๊ยนไป๊~~~!!~  ร้ายกาจ ร้ายกาจ

คุณภรี อย่าตามเกมส์นะคะ   (แต่ว่าถ้าไม่ตามเกมส์ก็ไม่มันสิ)

- เพื่อนจะตีกันก็งานนี้รึป่าวนี่  เครียดๆ - 

 :L2:  แต่ดอกไม้นี้ให้ กำลังใจคุณนายคะ   ของให้ วิทยานิพน ผ่านพ้นไปด้วยดีนะคะ สู้ๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 15 (2/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 02-10-2009 22:32:13
งานนี้ท่าทางจะเจอแผนซ้อนแผน
คนที่โดนเล่นเกมเองจะเป็นสองหนุ่มภีรวัสกับอิสราซะแล้วมั๊ง :jul3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 15 (2/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: alterlyx ที่ 02-10-2009 22:43:28
เจ๊ยยยย อะไรกันนี่  o22

เอาเลย คุณภีร์ ไหนๆก็จะเลิกกันแล้ว ... หลอกฟันผู้พันเลยค่ะ เชียร์สุดใจ  :a2:
ไม่ว่าผู้พันจะมาไม้ไหน ในเมื่อตั้งใจจะจบ ก็ปิดเกมส์ตามแบบฉบับตัวเองเลยค่ะ .... อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดล่ะน๊า ...  
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 15 (2/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 02-10-2009 22:45:08
ทั้งสองคน จะรู้ไหมว่าถูกซ้อนแผนเข้าแล้ว

+1 ให้พี่นายนะครับ หายไปหลายวันอ่านที่เดียวคุ้ม ๆ จริง ๆ  :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 15 (2/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: *SparklinG* ที่ 02-10-2009 22:49:33
+1 ไปเลย กรี้ดๆๆ รักคนแต่ง อยากรู้..อ้ากกก รีบมาต่อนะคะ วรุฒน์!!! ภีรสู้ๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 15 (2/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 03-10-2009 00:18:49
โอยๆๆๆ จบตอนได้ค้างคาใจจริงๆครับ มาต่อไวๆน้า...  :haun4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 15 (2/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 03-10-2009 09:52:59

พอกันเลยเพื่อนรักคู่นี้ 

ปล. ตอนนี้อิศราไม่มีซีนออกเลย  คิดถึง  อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 15 (2/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: J๐ly ที่ 03-10-2009 12:33:18
อึ๋ย  ค้างได้ น่า  :m31: มาก ๆ




ฮ่า ฮ่า ฮ่า


คิดถึงคนแต่งจังค้าบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 15 (2/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Resonance ที่ 03-10-2009 21:29:00
โอ๊ยยยย  ค้างงงง      o22




ผู้พันจะดัดหลัง2คนนี้ป่าวหว่าาาา
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 15 (2/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Zarch_Chabu_Chabu ที่ 04-10-2009 15:22:38
 o18ดูๆไป ผู้พันน่ะมีอะไรๆซ่อนอยู่อีกน่าสงสัย แต่ที่ร้ายกว่าคนแต่งนี่สิไม่รู้ว่าจะกล้งอะไรคอ่านอีก มันน่า :beat: นัก
ปล.ตั้งใจทำวิทยานิพนธ์นะครับพี่นาย( อย่าขี้เกียจเหมือนผม)5555 o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 15 (2/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 04-10-2009 20:22:00
o18ดูๆไป ผู้พันน่ะมีอะไรๆซ่อนอยู่อีกน่าสงสัย แต่ที่ร้ายกว่าคนแต่งนี่สิไม่รู้ว่าจะกล้งอะไรคอ่านอีก มันน่า :beat: นัก
ปล.ตั้งใจทำวิทยานิพนธ์นะครับพี่นาย( อย่าขี้เกียจเหมือนผม)5555 o13


ทำไมชอบมองผมในแง่ไม่ดีด้วยนะ เคยแกล้งอะไรใครที่ไหน ว่ากันแบบนี้เดี๋ยวก็ให้ตัวละครตายอีกซักตัวหรอก จะได้เหลือตัวเลือกน้อยๆ  :sad11:
เรื่องวิดยานิพนไม่ขี้เกียจเท่าไหร่หรอกครับ เพียงแต่ไม่ค่อยมีอารมณ์ทำเท่านั้นเอง  :t3:

Heart Game Chapter 16

พันตรีนายแพทย์วิษณุหันไปมองคนที่เดินเข้ามาหาแล้วยิ้มให้บางๆ จากนั้นจึงนั่งนิ่งมองผิวน้ำสะท้อนกับแสงแดดยามบ่ายต่อไป
“คนไข้ไม่เยอะ หมอเลยอู้งานมานั่งเหม่อริมน้ำ” วรุฒม์ยืนกอดอก ก้มหน้าลงมองเพื่อน
“ออกเวรแล้ว” วิษณุตอบเสียงเนือยๆ
“แล้วทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ อะไรที่ต้องทำ ไม่ไปทำหรือ”
“ทำแบบนี้ดีแล้วหรือรุฒม์” วิษณุหันไปถามเพื่อนหลังจากนั่งนิ่งไตร่ตรองคำถามของวรุฒม์อยู่ชั่วครู่
“ดีสิ” วรุฒม์พยักหน้า “นี่เป็นวิธีเดียวที่จะแยกปลากท่องโก๋คู่นั้น”
“จะได้ผลเร๊อ” วิษณุถาม
“นายไม่ได้เรียนกลยุทธ์การสู้รบหรือวะ ข้าศึกหวาดระแวงกัน แตกคอกัน ระส่ำระสาย รวมกลุ่มกันไม่ได้ เราก็ชนะ”
“อิศราหลบหน้าเรา ไม่ยอมรับโทรศัพท์ ไม่ยอมโทรกลับ ไม่โทรมา” วิษณุถอนหายใจ
“แสดงว่านายเลือกแล้ว” วรุฒม์เดินอ้อมายืนอยู่ข้างหน้าเพื่อน ก้มลงมองวิษณุด้วยใบหน้าเคร่งขรึม คนที่นั่งนิ่งอยู่พยักหน้าช้าๆ แล้วถามวรุฒม์ด้วยคำถามเดียวกัน
“หนามยอก ต้องเอาหนามบ่ง ก่อนจะรักก็ต้องได้บทเรียนสอนใจ จะได้ซึ้ง”
“แล้วถ้าเขาเกิดฮึดสู้”
“ฮึดสู้ก็ปราบ” วรุฒม์ยิ้มมุมปาก ตาลุกวาบ “กล้ามาเล่นกับผู้บัญชาการกองพัน ก็ต้องโดนหนักหน่อย”
“นายมั่นใจมากเลยนะ” วิษณุยังดูหนักใจ “เรายอมรับว่าเราไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่”
“นายเป็นอะไรวะวิษณุ ไม่น่าเชื่อ คนเจ้าชู้แพรวพราวอย่างนาย กลายมาเป็นแบบนี้ได้”
“เจ้าชู้ที่ไหน” วิษณุแย้ง “นายต่างหาก เจ้าชู้เงียบ นายเคยลงเอยกับใครที่ไหน มีแต่ได้แล้วทิ้ง ไม่เคยจริงจังกับความรัก ไม่เคยมีความสัมพันธ์กับใคร เราก็แค่...”
วรุฒม์อมยิ้ม รอฟังเพื่อนพูดต่อ แต่วิษณุก็เงียบไปอีก ราวกับว่ากำลังตัดสินใจว่าจะพูดต่อดีหรือไม่
“แค่ลอยไปลอยมา” วรุฒม์พูดแทน
“อายุก็ขนาดนี้แล้วนะรุฒม์ เรายอมรับว่าอยู่ที่นี่เรารู้สึกเหงาๆ วันๆ เจอแต่ทหารหัวเกรียน”
“นายก็เลยต้องการอะไรที่สดใส มีชีวิตชีวา แน่ใจแล้วหรือว่าสีสันในชีวิตของนายจะพ้นหน้าหนาว ยังไงๆ เขาก็ต้องกลับกรุงเทพฯ แล้วนี่ก็ยังไม่แน่ใจว่าเขาจะมาหรือเปล่า หรือนายจะย้ายเข้าไปประจำที่กรุงเทพฯ จะทำขนาดนั้นเลยหรือ”
“เป็นนายจะทำไหม” วิษณุถามกลับ
“ถ้ารักมาก ก็ไม่แน่” วรุฒม์ยักไหล่ “แต่เราไม่เคยรักใคร ไม่เคยรู้สึกว่าชีวิตขาดใครไม่ได้ เพราะฉะนั้น ตอนนี้ยังไม่มีคำตอบ แต่ที่แน่ๆ เด็กเกเรสองคนนั้นต้องเจอดีซักหน่อย ตอนนี้คงจะเริ่มระแวงกัน พอแตกคอกันแล้ว เราก็แบ่งกำลังกันเข้าโจมตี”
“อย่าให้ถึงตายนะเพื่อน” วิษณุเงยหน้าขึ้นมองวรุฒม์ “ข้ากลัวว่าผลลัพท์จะลงเอยเป็นโศกนาฏกรรม เดี๋ยวได้ขาดใจตายกันจริงๆ”
“รู้จักกันมานาน เราเคยทำอะไรพลาดหรือเปล่า” วรุฒม์พูดอย่างมั่นใจ หันไปมองผิวน้ำระยิบระยับ สายตามาดมั่นกับแผนการณ์ใหม่ที่ผุดขึ้นมาในความคิด
...ภีรวัส อิศรา เจ้าเล่ห์กันนัก ต้องเจอวรุฒม์ซักหน่อย...

อิศราทิ้งตัวลงนอนแผ่บนพื้นระเบียงหน้าบ้านอย่างเหนื่อยอ่อน แล้วโวยวายตามเคยว่าการเดินทางมาบ้านแคมป์สนนั้นหนักหนาสาหัสที่สุดในชีวิต
“นี่ภ้าไม่คิดว่าเขาเป็นเพื่อน ฉันไม่ยอมทรมานสังขารของตัวเองเด็ดขาด” อิศราถอนหายใจเฮือกใหญ่
“งั้นหรือ” ภีรวัสทำเสียงเยาะ
“ก็เออสิ” อิศราตอบ “นี่รู้หรือเปล่า ตอนลงเครื่องที่แม่สอด มีฝรั่งตามจีบเราด้วยล่ะ หล่อเท่ซะไม่มี ถ้าไม่คิดว่าภีร์อยู่คนเดียว เราจะค้างที่แม่สอดให้เขาสอดใส่ซักคืน”
“นี่ถ้าต้องไปต่อรถที่แม่กด ก็คงเสียเวลาอีกคืนละสินะ” ภีรวัสเหน็บแนม
“มีด้วยหรือ แต่ทั้งสอดทั้งกด ตายแน่ๆ เลยนะภีร” อิศรายันศอกขึ้นมานอนเอนตัวมองภีรวัสด้วยสายตาสงสัย
“มีแม่ดันด้วย”
“มีแม่ส่ายด้วยหรือเปล่า” อิศราเบิกตากว้าง “ที่เชียงรายมีแม่สายจำได้ไหม ตอนที่เราไปเที่ยวสามเหลี่ยมทองแดงแล้วมัวแต่อ่อยนายอำเภอจนตกเครื่องบิน เราถึงได้รู้ว่าอำเภอแม่สายนี่อาภรรพ์จริงๆ ไปไหนมาไหนในเขตตัวอำเภอก็ไปสายทุกที ตกรถไม่รู้กี่ครั้งต่กี่ครั้ง”
“ไม่ใช่อาถรรพ์หรอก ปัญหาอยู่ที่แกต่างหาก” ภีรวัสชี้หน้าทะเล้นของอิศรา
“เฮ้อ รักเมืองเหนือจริงๆ เล๊ย” อิศราเอนตัวลงนอนแผ่นเช่นเดิม “แล้วนี่จะมีอำเภอ ตำบล หรือหมู่บ้านแม่สั่นด้วยหรือเปล่าวะ ดันลืมเอาไวเบรเตอร์มาซะนี่”
ภีรวัสส่ายหน้า มองเพื่อนปากคะนองที่นอนหัวเราะลั่นเหมือผีเข้าอยู่บนพื้น ร่ำๆ อยากจะยกเท้าขึ้นกระทืบ คดีความที่อิศราก่อไว้ที่กรุงเทพฯ ยังไม่ได้สำเร็จโทษด้วยซ้ำ แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับวรุฒม์เมื่อคืนวันศุกร์ภีรวัสก็เปลี่ยนใจ
...ถือว่าเจ๊ากันไปก็แล้วกัน ตอนนี้เริ่มแผนการณ์ใหม่...
“ผู้พันวิษณุเทียวมาหานายตั้งหลายครั้ง ท่าทางเหมือนจะตรอมใจนาย” ภีรวัสเปรยขึ้นมา
“เราทิ้งเขาแล้วนะภีร์ สองอาทิตย์แล้ว” อิศราตอบเบาๆ แล้วพลิกตัวนอนคว่ำ ยกมือเท้าคางมองภีรวัสตาแป๋ว “แล้วนี่เอายังไงต่อ”
“นายผิดกติกาอะไรหรือเปล่า” ภีรวัสอดหยั่งเชิงถามเรื่อง วรุฒม์เจอกับอิศราที่กรุงเทพฯ ไม่ได้
“ผิดกติกาอะไร” อิศราเลิกคิ้ว ทำตาใสซื่อ
...แกล้งทำ หรือมันไม่รู้จริงๆ ดูๆ ไปอิศราก็ค่อนข้างซื่อบื๊อ แต่ดูอีกทีก็เหมือนเป็นคนที่ฉลาดมากจนจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน...
“กติกาที่ว่า เมื่อทิ้งเหยื่อแล้ว ห้ามอีกฝ่ายตลบหลัง กลับไปคบกันเหยื่อของคู่แข่ง”
“เราเคยทำที่ไหน” อิศราเสียงแข็ง จ้องตาภีรวัสนิ่ง “สถิติที่ผ่านมาก็รู้ๆ กันอยู่ คนที่เราทิ้งทุกคนเราทิ้งแล้วทิ้งเลย มีแต่ท่านนายพลนี่ล่ะที่วกกลับเข้ามายุ่งกับนาย อันนี้เราไม่ถือนะ เพราะเห็นว่าเขาเข้ามาเอง นายไม่ได้แอบดอดเข้าไปหาเพราะเสียดาย”
“เรานี่หมายถึงแก หรือหมายถึงเราทั้งสองคน” ภีรวัสถามเพื่อนให้กระจ่าง
“เราคือเราสองคน และ ฉันคือไอไม่ถือ” อิศราลงเสียงหนัก ชี้นิ้วไปยังภีรวัสและชี้หน้าตัวเอง
“แน่ใจนะ”
“อือ” อิศราพยักหน้าแล้วพลิกตัวลงนอนหงาย กางแขนออกบิดขี้เกียจพร้อมส่งเสียงประกอบท่าทางอย่างน่าหมั่นใส้
“แล้วทำไมอยู่กรุงเทพฯ ซะนาน หลังจากกลับจากญี่ปุ่นแล้วนายขลุกอยู่กับใคร”
“งานซิวะ” อิศราตอบสั้นๆ แล้วส่งเสียงดังกว่าเดิม “โอ๊ย ปวดเอว อยากนวดสปาอโรมารอเธอมาปี้จังเล๊ย”
“เดี๋ยวนวดให้ไหมไอ้ก้อนอิฐ” ภีรวัสเสียเข้ม “นวดหน้าด้วยฝ่าเท้าฟรีๆ เอาหรือเปล่า”
“เฮ่ยๆ อย่านะภีร์” อิศราเด้งตัวลุกขึ้นมาทันใด “อะไรล่ะเนี่ย ผีเข้าหรือไง”
“บอกมาเดี๋ยวนี้ แกนอนกับผู้พันวรุฒม์แล้วใช่หรือไม่ ที่อยู่กรุงเทพฯ แกมีอะไรกับเขาแล้วใช่หรือเปล่า ทำไมอุบเอาไว้ ทำไมโกหก ทำไมไม่บอกเพื่อน แกผิดกติกา” ภีรวัสเสียงดัง หน้าตาเอาเรื่อง
“บ้า พูดอะไรบ้าๆ” อิศวาโวยวายเสียงดังไม่แพ้กัน “แล้วแกอยู่นี่ คงให้ผู้ฟันวิษณุกินไปแล้วละสิ”
“อันธพาล แกไม่ต้องมาคิดว่าคนอื่นจะเหมือนตัวเอง แกนี่ขอบแหกกฎจริงๆ งานไหนงานนั้น ต้องใช้เล่ห์กลทุกครั้ง”
“เขาเรียกกลวิธี” อิศราเถียง “เราไม่ได้มีอะไรกับผู้พันวรุฒม์”
“สาบานไหมล่ะ”
“สาบานให้ฟ้าผ่าก้นเลยเอ้า” อิศรายกมือไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์
“ฟ้าคงอยากผ่าหรอก” ภีรวัสกระแทกเสียง เดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ใกล้บันไดอย่างกระแทกกระทั้น “ก้นเหล็กตระเวนใช้งานมาทั่วร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ ผ่าไปก็เท่านั้น เสียประจุไฟฟ้าเฉยๆ”
“หมายความว่ายังไง” อิศราไม่เข้าใจ
ภีรวัสนั่งนิ่ง หยุดตอบโต้ แต่มองเพื่อนตาขวาง อิศราลังเลชั่วครู่ ก่อนจะถอนหายใจแรงๆ แล้วยอมรับเพียงบางส่วนว่า
“ผู้พันมาดักรอเราที่สนามบิน จะให้ทำยังไงเล่า ยืนจังก้าถือปืนกลรอดักยิงอยู่แบบนั้น วิ่งหนีก็ไม่ได้ รู้ไหม เขาบอกว่ามาส่งป้าไปเมืองนอกก็เลยมาเดินเล่น ที่สนามบินเนี่ย ขาออกกับขาเข้ามันอยู่กันคนละชั้นไม่ใช่หรือวะ ผู้พันจะมาเดินชมสนามบินแถวๆ สายพานรับกระเป๋าเที่ยวบินเราทำไม”
“เล่ามาให้หมด” ภีรวัสเสียงดุ
“คืออย่างนี้นะ” อิศรากระแอมพอเป็นพิธี “พอเราเดินออกมา ผู้พันวรุฒม์ก็หันมาเห็น ตอนแรกเรานึกว่าไม่ใช่เพราะไม่ได้สวมเครื่องแบบ ตอนเขาใส่ชุดพลเรือนเนี่ยดูแปลกไปกว่าเดิม เหมือนนายแบบยังไงยังงั้น แล้วยิ้มมากกว่าเดิม คือว่านึกภาพตอนที่อยู่กลางป่ากลางเขาไม่ได้เลยล่ะภีร์ ตอนที่ยืนอยู่ในสนามบินนี่ไม่เหมือนตอนทำหน้านิ่งๆ ขรึมๆ แล้วเอาแต่อมยิ้มลึกลับเหมือนพระเอกหนังฆาตรกรรม ที่นี้เราก็เลยถามว่า...”
“พอๆ ไม่ต้องเล่าแล้ว” ภีรวัสยกมือขึ้นห้าม “กระโดดข้ามไปถึงตอนแกถอดเสื้อผ้ายั่วเขาเลย”
“บ้า บอกแล้วไงว่าเรากับเขาไม่ได้มีอะไรกัน เราอยากทำจะตายเลยรู้หรือเปล่า แต่เราคิดถึงแต่ผู้พันวิษณุที่รออยู่ที่นี่ ก็เลย...” อิศราหุบปาก หยุดพูดทันที ในจังหวะเดียวกันที่ภีรวัสหันขวับมาชี้นิ้วแล้วทำตาขวาง
“ไหนว่าทิ้งผู้พันวิษณุแล้ว”
“ก็ทิ้งแล้ว” อิศรายักไหล่ “แต่ใจมั้นคิดถึง ทำไงได้”
“แล้วแกจะเอาใครอิศ บอกมาซิว่าจะเอาใคร ให้แกเลือกก่อนก็ได้” ภีรวัสถามเสียงอ่อนใจ
“ก็ไหนว่าจบเกมแล้วไง ตอนนี้ถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว จะต้องให้เลือกอะไรอีกเล่า” อิศราเบ้ปาก ถอนหายใจหนักๆ ในใจคิดว่า
...เสียดาย การแข่งขันเกมนี้ เสียดายจริงๆ ตอนจบไม่เห็นรู้สึกสนุกเหมือนทุกครั้ง...
“จบเกม แต่แกก็ยังแอบไปยุ่งกับผู้พันวรุฒม์” ภีรวัสพูดเสียงเข้มแล้วลุกขึ้น วิ่งลงจากบันไดไป ปล่อยให้อิศราถอนหายใจหนักยิ่งกว่าเดิมเพราะเห็นภีรวัสทำท่าโกรธมากกว่าครั้งไหนๆ
แต่อิศราไม่รู้ว่าเพื่อนของตัวเองที่เดินจ้ำอวออกไปยังถนนหน้าบ้านนั้นเม้มปากแน่นด้วยความรู้สึกสับสนเหมือนกัน
...จบเกม แต่ก็ยังแอบไปยุ่งกับผู้พันวรฒม์...
...การเข่งขันเกมนี้ เจ็บจริงๆ...

อิศรากับภีรวัสยืนอยู่หน้าค่ายทหาร สองหนุ่มรอให้ทหารเวรรักษาความปลอดภัยที่ประตูทางเข้าติดต่อเข้าไปหาพันโทวรุฒม์ให้ออกมาพบ
“แน่ใจแล้วนะภีร์” อิศราทำหน้ามุ่ย
“เราคุยกันมาแล้วนะอิอศ อย่ามากลับลำอะไรตอนนี้”
“เฮ้อ เวรกรรม” อิศราถอนหายใจ “ตกลงนี่เรียกว่าเราทิ้งเขา หรือยืดเกมต่อ สับสนไปหมดแล้ว”
“เรียกว่าปรับเปลี่ยนรูปแบบต่างหาก สอนมวยผู้พันวรุฒม์ ให้เขาเลือกคนใดคนหนึ่ง ถ้าเขาเลือกแล้ว คนที่ถูกเลือกต้องเป็นคนปิดพิธีแข่งขัน” ภีรวัสทำเสียงเข้ม แววตาแน่วแน่จริงจัง
“มั่นใจจังเลยนะ” อิศราเบ้ปาก “แกนี่ดับเครื่องชน ไม่กลัวชนรถถึงหรือยังไง”
“รถถังมาโน่นแล้ว เตรียมตัวให้ดีนะอิศ อย่าลืมที่บอกเอาไว้ล่ะ” ภีรวัสย้ำ
“เออๆ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว อิศราขอเดินหน้าอ้าขาให้รถถังกระแทกซักครั้งสองครั้ง โดนเข็นหมอฉีดยามาครั้งสองครั้ง โดนปืนใหญ่รถถังยิงซักสองสามทีคงไม่สึกหรอเท่าไหร่หรอก”
ภีรวัสหันไปเขม่นตาใส่เพื่อนที่ยังอุตส่าห์พูดทะลึ่ง แล้วหันไปกลับไปมองวรุฒม์ในชุดลายพรางสีเขียวที่เดินเข้ามาหาอย่างสง่าผ่าเผย
...เราไม่มั่นใจเท่าไหร่หรอกอิศรา คราวนี้ไม่มั่นใจเต็มร้อยจริงๆ แต่อยากขอลองดูอีกซักครั้ง บางที ครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้าย แล้วเราจะอำลาวงการ ไม่เอาแล้วการแข่งขันเกมหลอกให้รักแล้วทิ้งบ้าบอแบบนี้...
“ทำไมไม่เข้าไปหาผมครับ ไม่ก็โทรมาบอกให้ผมไปรับที่บ้านก็ได้ มาพร้อมหน้ากันทั้งสองคนแล้ว ผมกับวิษณุจะได้เลี้ยงต้อนรับ” วรุฒม์ยิ้มกว้าง มองหน้าสองหนุ่มสลับกัน
...เอ๊ะ ประกายตาของวรุฒม์ที่เขาเห็นเพียงชั่วเสี้ยววินาทีเมื่อครู่ทำไมเป็นแบบนั้น...
ภีรวัสหรี่ตามอง รู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่างแต่ก็รีบสลัดทิ้งไป เข้าเรื่องที่เตรียมมาทันที
“เรามาคุยกับผู้พันเรื่องสำคัญ เรื่องของเราสามคน”
“อย่ามายืนคุยหน้าค่ายเลยครับ ไปข้างในเถอะ หรือไม่ก็ไปตรงโน้น” วรุฒม์ชี้มือไปยังศาลาหลังเล็กๆ ทางด้านขวามือ ห่างจากประตูค่ายทหารประมาณหนึ่งร้อยเมตร ภีรวัสไม่ตอบ เดินนำหน้าไปก่อนโดยมีอิศราเดินตามไปติดๆ และมีวรุฒม์เดินล้วงกระเป๋ารั้งท้ายตามมาอย่างใจเย็น
...ข้าศึกบุก ใจกล้าบุกถึงถิ่นเหมือนกันนี่นะ แต่เขาก็เตรียมตั้งรับเอาไว้แล้วอย่างดี คราวนี้ล่ะ จะตีให้แตกกระเจิง รู้จักวรุฒม์น้อยไปซะแล้ว...

เมื่อทั้งสามคนเข้าไปยืนในศาลาหน้าค่ายทหาร ภีรวัสก็ไม่รีรอ เปิดฉากทันทีว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกำลังยุ่งเหยิงเพราะวรุฒม์ไม่มีท่าทีชัดเจน ดังนั้น เขาจึงขอให้วรุฒม์ตัดสินใจว่าจะเลือกคบกับใครระหว่างเขากับอิศรา วรุฒม์พยายามพูดเลี่ยงแต่ภีรวัสไม่ยอม พยายามบีบให้วรุฒม์เลือกให้ได้ นายทหารหนุ่มยืนนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ ทำท่าหนักใจ แล้วในที่สุดก็ตอบคำถามของภีรวัส
"ผมรักคุณทั้งสองคน รักเท่ากัน" วรุตม์พูดด้วยใบหน้านิ่งๆ ก่อนจะเติมว่า "เริ่มรักพร้อมๆ กัน"
อิศราอึ้ง ไม่นึกว่าจะได้ยินคำพูดนี้ออกจากปากนายทหาร ส่วนภีรวัสเม้มปากแน่น ในใจรู้สึกเจ็บแปลบที่ได้ยินวรุตม์พูดออกมาหน้านิ่งๆ เขาเคยคิดลึกๆ ว่าที่ผ่านมา วรุฒม์ชอบเขา ไม่ใช่อิศรา ท่าทางของวรุตม์บอกเช่นนั้น เท่าที่สังเกต อิศราเองก็ดูเหมือนจะรับรู้ความจริงข้อนี้อยู่เหมือนกัน
...แต่ทำไม ตอนนี้ผู้พันวรุฒม์ถึงมาบอกว่ารักทั้งสองคน เป็นไปได้ยังไง…
"ผู้พันหลายใจ" ในที่สุดอิศราก็ทำลายความเงียบ
"ผมรู้ว่ามันลำบากใจสำหรับคุณทั้งสองคน" วรุตม์พูดเสียงเรียบ ยอมเสี่ยงที่จะเล่นไปตามเกม ทั้งที่เขาเองก็ยังไม่แน่ใจว่าเกมที่เขาเริ่มเล่นนั้นจะออกมารูปแบบไหน "ผมก็ลำบากใจเหมือนกัน"
...นี่คือวิธีเดียวเท่านั้นที่จะยืนยันว่าใครรักเขาจริง วิธีเดียวที่จะจัดการกับคนเจ้าเล่ห์ วิธีเดียวที่จะดัดหลังคนที่มาทำให้เขารัก คนใจกล้าที่อาจหาญมาตอแยกับหัวใจนักรบอย่างเขาได้ คราวนี้ล่ะ จะได้รับบทเรียนเสียบ้าง ลองดูสิว่าจะใจแข็ง โกหกตัวเองไปได้นานสักเพียงใด...
"ลำบากมากเลยล่ะทีนี้ ผู้พันกำลังจะทำให้เพื่อนสองคนมองหน้ากันไม่ติด" อิศราพูดต่อ หันไปมองภีรวัส คาดคั้นให้เพื่อนพูดอะไรเสียบ้าง
จากที่เคยเข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย ภีรวัสไม่ยอบรับลูกต่อ ชายหนุ่มหันหลัง เดินหนีไปเสียดื้อๆ
"ภีร์..." อิศราร้องเรียก แล้วหันมาคาดโทษพันตรีวรุตม์ "ผู้พันตัดสินใจใหม่นะ ตัดสินใจดีๆ เลือกให้ได้ซักคน อย่าจับปลาสองมือ เดี๋ยวจะไม่เหลือให้จับ" อิศราหันหลังกลับ เดินตามเพื่อนไปช้าๆ
วรุตม์ยังยืนหน้านิ่ง อมยิ้มเล็กน้อย แม้จะยอมรับว่าตัวเองหนักใจอยู่พอสมควร แต่เขาก็เลือกที่จะดำเนินภารกิจนี้ต่อไป
...ภารกิจดัดหลังคนเจ้าเล่ห์...
...คิดว่าเก่งนักนะ คราวนี้เจอความร้ายกาจของเขาบ้างเสียเถอะ จะเอาให้ร้องไห้น้ำตาเช็ดหัวเข่าเลย คอยดูสิ...

***16***
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 16 (4/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: gboy ที่ 04-10-2009 20:35:10
 :a5:
งะ่่ ตอนแรกนึกว่า.....

ไหงกลับตาลปัตรอย่างงี้

เรื่องวิดยานิพนไม่ขี้เกียจเท่าไหร่หรอกครับ เพียงแต่ไม่ค่อยมีอารมณ์ทำเท่านั้นเอง  :t3:
พี่นายครับ
แถวบ้านผมเรียก แถ

 :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 16 (4/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: alterlyx ที่ 04-10-2009 20:53:00
บร๊ะเจ้า ผู้พัน ที่แท้ก็ ... ร้ายลึก เสือซ่อนเล็บ คมในฝัก น้ำนิ่งไหลลึก แผ่นดินไม่ไร้เท่าใบพุทรา     o22




ผู้พันกลายมาเป็น แบบนี้ ....... เหมาะสมที่สุด ถูกใจชะมัด +1 ให้ซะเลย  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 16 (4/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: *SparklinG* ที่ 04-10-2009 21:14:24
ผู้พันแอบน่ากลัวอย่างมาก :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 16 (4/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 04-10-2009 21:28:39
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ฮาโคด :m20: :laugh: :pigha2:
ถูกจิตถูกใจที่ซู้ดดดดดดดดดดดดดดดดด

ผู้พันหน้าหยกคะมีแผนร้ายกาจมากๆเลยนะคะ
เท่าที่ดูเนี่ย อยากจะง้างคนปากแข็งคนไหนล่ะคะ
ถ้าไม่ใช่คุณภีร์ ได้ :oo1: กันแล้วชิมิ เอิ๊ก :o8: สมใจ
แต่ก็ต้องทำตามแผนชิมิคะ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เจ้าเล่ห์เป็นที่สุดจะหักปีก เพื่อสาวสองคนนั้นอ่ะ ให้ยอมสิโรราบ
ต้องมาแบบเหนือเมฆโจมตีแบบทุกทิศทุกทางกรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด
แต่ที่แน่ๆ เด็กเกเรสองคนนั้นต้องเจอดีซักหน่อย ตอนนี้คงจะเริ่มระแวงกัน
พอแตกคอกันแล้ว เราก็แบ่งกำลังกันเข้าโจมตี”

>> ฉลาดโคด คือถ้ารักแล้วตามตื้อตามง้อแบบ เคสอื่นๆนะ สองหนุ่มนี่ก็คงหนีคงเงียบเหมือนเคย
เลยต้องใช้วิธีใหม่ เอาค.ลังเลคาดคั้นให้จงได้จะได้รู้ซะทีว่าจริงๆแล้ว
สองหนุ่มนั่นคิดไงกันแน่ งานนี้เส็ดแน่ :oo1:

"แม่สอดให้เขาสอดใส่ซักคืน” แม่กด แม่ดัน แม่ส่าย แม่สั่น
>>> มุกโคดฮา  :m20: :laugh: เอาไปสิบดาวคะคนแ่ต่ง
ฮามากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

“โอ๊ย ปวดเอว อยากนวดสปาอโรมารอเธอมาปี้จังเล๊ย”

>>  :pighaun: :m20: :laugh:
เป็นสาวเป็นนางถึงไม่ซิงก็เถอะ พรืดออกได้ลูก แม่ก้อนอิฐ
“พอๆ ไม่ต้องเล่าแล้ว” ภีรวัสยกมือขึ้นห้าม
“กระโดดข้ามไปถึงตอนแกถอดเสื้อผ้ายั่วเขาเลย”

>> พวกไก่เห็นตีนงู งูเห็นลูกกระเดือยของไก่  :m20: ดักคอซะหัวทิ่มเลย

...นี่คือวิธีเดียวเท่านั้นที่จะยืนยันว่าใครรักเขาจริง วิธีเดียวที่จะจัดการกับคนเจ้าเล่ห์
วิธีเดียวที่จะดัดหลังคนที่มาทำให้เขารัก คนใจกล้าที่อาจหาญมาตอแยกับหัวใจนักรบอย่างเขาได้
 คราวนี้ล่ะ จะได้รับบทเรียนเสียบ้าง ลองดูสิว่าจะใจแข็ง โกหกตัวเองไปได้นานสักเพียงใด...

>> หุหุ คุณภีร์จะเล่นตามเกมมั๊ยเนี่ย ปล่อยให้ผู้พันกล้ามใหญ่ามาปั่นหัวลองเชิงอยู่เนี่ย อิอิ

+1 จัดให้คะ อิศราแฮดได้โล่ห์ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 16 (4/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Zarch_Chabu_Chabu ที่ 04-10-2009 21:57:12
 :laugh:เจอตอเข้าแล้วไหมหล่ะคุณภีร์55555
ปล. o18ไม่เคยมองพี่นายในแง่ไม่ดีเลยนะครับ ไม่เค้ยยยยไม่เคยจริงๆ    อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 16 (4/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Resonance ที่ 04-10-2009 23:15:56
นั่นๆๆ  ว่าแล้วๆๆๆ    :a5:  ผู้พันนิจริงๆ้เลย 555





ปล. เข้าใจคุณคนเขียนนะคะ ก็มันไม่มีอารมณ์นี่เนอะ จะให้เขียนก็อาจจะออกมาไม่ดี  555
ไงก็สู้ๆเน้อ !!    :3123:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 16 (4/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 05-10-2009 08:33:54
ผู้พันร้ายยยยยยไม่ใช่เล่น  :z1:

รอดูต่อไป ว่าภีรวัสจะแก้เกมนี้ได้ยังไง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 16 (4/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 05-10-2009 10:05:08
ผู้พันเป้นเสือซุ่มเงียบนี่เอง แล้วตกลงสรุปว่าผู้พันก็ตกหลุมรักเข้าแล้วจริงๆ แล้วซีคราวนี้  อย่าเล่นแรงมากน้าพี่นาย เดวภีร์งอนบินไปอินโดฯ แล้วผู้พันจะหง่าวอยุ่คนเดียว  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 16 (4/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 05-10-2009 13:49:37

ตอนนี้คาดไม่ถึงจริง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 16 (4/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 05-10-2009 19:21:50
เข้ามาให้กำลังใจผู้พันค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 16 (4/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 05-10-2009 19:45:35
ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านนะครับ ขอบคุณที่กดคะแนนให้ ขอบคุณที่โหวตคะแนนเซ็งเป็ดอวอร์ดให้ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและลงคอมเมนท์ มีความสุขทุกครั้งที่ได้อ่านคอมเมนท์ของทุกคนนะครับ
และมีความสุขที่ได้โพสนิยาย โดยเฉพาะตอนที่พระเอกกับนายเอกเริ่มจะงอนกัน  :m20:

Heart Game Chapter 17

อิศรามาเดินเล่นในตลาดสดยามเช้าคนเดียว วันนี้เขากัดฟันตื่นขึ้นมาแต่เช้ามืดและเดินเท้ามาจากบ้านพักจนถึงตลาดริมแม่น้ำซึ่งผู้คนเดินกันขวักไขว่ด้วยหวังว่าความจอแจของตลาดยามเช้าจะทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง
คืนที่ผ่านมา ภาพของชายหนุ่มสี่คนผลัดกันเข้ามารบกวนจิตใจ วรุฒม์กับใบหน้าเคร่งขรึม รอยยิ้มบางๆ อ่านยาก เดาใจไม่ถูก แม้จะพูดว่ารักเขากับภีรวัสออกมาตรงๆ แต่อิศราก็ยังสงสัยอยู่ดีว่า วรุฒม์มีอะไรลึกๆ มากกว่านั้น
ภาพใบหน้าที่สองคือภีรวัสทำหน้าตาดุๆ เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อเขา รักเพื่อนก็รัก แต่ความรักแบบคนรักนี่มันก็สำคัญเหมือนกัน
จากนั้นภาพใบหน้าของวิษณุก็เข้ามาแทรก หน้าคมเข้มหล่อเหลา อ่อนโยน อารมณ์ดี แต่ก็ดูหม่นหมองหากจะผิดหวังจากเขา คำบอกรักของวิษณุดูจริงจังและน่าเชื่อมาก แต่เขาก็ยังสองจิตสองใจ ไม่กล้าที่จะเชื่อวิษณุเต็มร้อย
ภาพใบหน้าสุดท้ายคือคนในอดีต ดร. ปริวัต เหยื่อคนหนึ่งที่เคยโดนเขาสลัดรักเมื่อเกือบสองปีก่อน ตอนที่แข่งขันเกม 'หลอกให้รัก หักอกด๊อกเตอร์' แข่งกับภีรวัส ตอนนั้นเขายอมรับว่าตัวเองหวั่นไหวมากพอสมควรกับปริวัต แต่เกมการแข่งขันก็คือเกม กติกาต้องเป็นกติกา ภีรวัสจะบีบคอเขาให้ขาดใจตายอยู่แล้วเมื่อรู้ว่าเขาผิดกฏไม่ยอมทิ้งปริวัตภายในเวลาสองอาทิตย์ตามที่ตกลงกัน เขาจึงห้อง 'โหดร้าย' กับหมอหนุ่มผู้อ่อนโยน ภาพใบหน้าของปริวัตยังติดตาเขาอยู่จนเท่าทุกวันนี้ ตอนนั้นเขาเกือบจะตกลงใจมีความสัมพันธ์จริงจังแบบคู่รักกับปริวัตไปแล้ว
ภาพอดีตเริ่มย้อนกลับมา เขาจำคำพูดของปริวัตได้ทุกคำ

"สนุกมากหรือไงกับเกมไร้สาระของคุณ" ปริวัตกระชากเสียง "สนุกที่ได้ปั่นหัวผมให้หลงรักเพื่อคุณจะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ชนะเพื่อนคุณใช่ไหม" หมอหนุ่มหน้าเข้มบีบแขนอิศราแล้วเขย่าแรงๆ ชายหนุ่มยังนิ่ง อ้ำอึ้ง ไม่ยอมสบตา
"ตอบมาสิ บอกว่าคุณแค่อยากจะเล่นๆ กับหัวใจของผม"
อิสราไม่รู้จะพูดอย่างไรดี ที่ผ่านมาเขารู้สึกสับสนและไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน เกมสนุกที่เล่นแข่งกันกับเพื่อนคู่หู ตอนนี้กำลังจะกลายเป็นละครชีวิตเศร้า
"อิศรา ถ้าไม่รักผม คุณน่าจะบอกผมตั้งแต่แรก ไม่น่าปล่อยให้มันมาไกลถึงขนาดนี้ ไม่น่าต้องรอให้ผมรักคุณมากจนผมอาจจะลืมคุณไม่ได้" ปรวัตตัดพ้อ เสียงขมขื่น
"หมอ ผมขอโทษ" ในที่สุด อิศราก็เอ่ยขึ้นมาเสียงกระท่อนกระแท่น
"ขอโทษที่เกมการละเล่นกับหัวใจของผมถึงเวลาหยุดแล้วใช่ไหม คุณจะได้ไปหาเกมอื่นเล่นต่อ" ปรวัตปล่อยมือ ก้าวถอยหลัง นัยน์ตาปวดร้าว เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะรักอิศรามากขนาดนี้
"ตัวตนจริงๆ ของคุณเป็นยังไงอิศรา ที่ผ่านมาคุณสวมบทบาทไหนอยู่"
...หมอปริวัต ที่ผ่านมานั่นคือตัวตนของผมจริงๆ ตั้งแต่วันที่ผมผิดกฎของการแข่งขัน นั่นล่ะคือตัวตนผมจริงๆ...
อิศราได้แต่ร่ำร้องในใจ

อิศราตื่นจากภวังค์เมื่อมีมือใหญ่แข็งแรงวางลงบนไหล่ ชายหนุ่มตัวแข็ง กลั้นหายใจ พยายามเดาว่าเป็นใครขณะที่หันไปมองช้าๆ
“ผู้พันวิษณุ” อิศราพึมพำเรียกชื่อคนที่เขาเดาเมื่อครู่ซึ่งเขาเดาถูก
“โชคดีที่เช้าวันนี้ผมมาเดินตลาด”
“ผู้พันทำกับข้าวด้วยหรือครับ” อิศราถามด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง
“เปล่าครับ มาซื้อโจ๊กกับกาแฟ”
“ทำไมไม่ชงเอง” อิศราไม่รู้จะพูดอะไรต่อดีจึงถามคำถามไม่เข้าท่า
“เจ้านี้อร่อยครับ อร่อยยิ่งกว่าร้านใหญ่ๆ เสียอีก คุณอิศราไปลองดูสิครับ” วิษณุคว้าข้อมือของชายหนุ่มแล้วดึงให้เดินตามโดยไม่รอฟังคำทักท้วง อิศราเดินตามอย่างว่าง่ายแต่ก็พยายามดึงมือออก
“เดี๋ยวคนเห็น ผู้พันจะเสียชื่อ” อิศราพูดเบาๆ
“เสียอย่างได้อย่าง ผมยอมแลก” วิษณุหันมายิ้มแล้วลดความเร็ว ยอมปล่อยมือของอิศรา ลดความเร็วมาเดินเคียงข้างชายหนุ่มร่างเล็กที่ก้มหน้าอย่างอึดอัด
“จะคุ้มกันหรือครับ” อิศรายังคงพูดพึมพำ
“ก็ลองแลกดูหน่อยสิครับ ไม่ลองจะรู้ได้ยังไง”
“ผู้พันกล้าหรือ คุณก็รู้ว่าผมเป็นยังไง” อิศราเงยหน้าขึ้นมองวิษณุ
“ผมยังไม่รู้ ยังไม่รู้ทั้งหมด ผมถึงต้องการค้นหาไงครับ” วิษณุพูดเสียงจริงจัง “คุณจะให้โอกาสผมเข้าไปค้นหาหรือเปล่าล่ะ”
“แล้วคิดว่าไง ผู้พันไม่เคยเข้ามาหรือไง” อิศราทำเสียงเข้ม ทำหน้างอนแล้วเร่งความเร็วเดินนำหน้านายแพทย์ทหาร
“เคยครับ” วิษณุหัวเราะแล้วเร่งฝีเท้าตาม “ผมอยากจะเข้าอีก เข้าแล้วเข้าอีก”
“ทะลึ่ง” อิศรากระแทกเสียง แต่อมยิ้ม ก้าวเท้ายาวและเร็วขึ้น จนวิษณุเตือนให้เลี้ยวซ้ายเพื่อตรงไปยังร้านกาแฟ ตลอดทาง อิศราได้ยินวิษณุพูดทุกคำแต่ไม่ตอบแม้แต่คำเดียว ในใจพยายามคิดและตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรดีกับนายแพทย์ทหารคนนี้
...วันนี้วิษณุว่าง จะพาไปล่องเรือชมธรรมชาติแล้วแวะน้ำตก ทานอาหารอร่อยร้านบรรยากาศโรแมนติกกลางป่า แล้วไปเดินชมตลาดของชาวเขา ตอนเย็นไปนั่งดูพระอาทิตย์ตกดินด้วยกัน...
...จะตอบตกลงดีหรือเปล่า หายไปทั้งวันแบบนี้ภีรวัสต้องสงสัยแน่ๆ...
...ช่างภีรวัส ไหนๆ ก็ผิดกติกาการแข่งขันแล้ว การแข่งขันก็พังไม่เป็นท่า ขอแหกกฏให้กระจุยกระจายไปเลยก็แล้วกัน...

ภีรวัสจดบันทึกข้อมูลแล้วเดินไปนั่งเอนตัวใต้ต้นไม้เพื่อนอนพัก รอเวลาไปตรวจอุปกรณ์รอบต่อไป วรุฒม์เดินมานั่งลงเงียบๆ ข้างเขาเช่นเคย วันนี้ทั้งวัน นายทหารหนุ่มตามติดเขาไม่ยอมห่าง หลังจากเหตุการณ์ 'บีบให้เลือก' หน้าค่ายทหารเมื่อสองวันที่ผ่านมา วรุฒม์ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“งานผมน่าเบื่อนะครับผู้พัน มานั่งอยู่กับผมแบบนี้ทั้งวัน สองชั่วโมงก็ลืมตาขึ้นมาทีแล้วเดินจดบันทึกค่าเครื่องวัด แล้วก็นั่งหลับต่อ” ภีรวัสทนไม่ไหว ทำลายความเงียบขึ้นมา
“อย่าลืมซิครับ ผมเป็นทหาร เรื่องไปนั่งซุ่มอยู่เงียบๆ นานๆ แบบนี้เรื่องเล็กน้อย ผมเป็นทหาร ฝึกมาดี ตอนเรารอเวลาซุ่มโจมตีข้าศึกเราต้องอดทน” วรุฒม์ตอบยิ้มๆ เช่นเคย
“อ๋อ” ภีรวัสทำเสียงเข้าใจ แล้วก้มหน้าอ่านบันทึกของตัวเอง ไม่พูดอะไรต่อ วรุฒม์ก็นั่งเงียบเช่นกัน สองหนุ่มนั่งอยู่เฉยๆ กว่าครึ่งชั่วโมง จนคนที่ทนไม่ได้คือภีรวัส
“ผู้พันครับ คุณยังมายุ่งอะไรกับผมอีก” ภีรวัสอึดอัดเมื่อรู้สึกได้ว่าวรุฒม์มองเขาไม่วางตา “ตกลงคุณจะรวบทั้งสองคนจริงๆ หรือ”
“ผมพูดอย่างนั้นหรือ” วรุฒม์เลิกคิ้วถาม ใบหน้ายังเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้มบางๆ
“คุณเป็นคนพูดเองว่ารักทั้งสองคน”
“ผมตอบคำถามของคุณ” วรุฒม์ยักไหล่ “แต่ผมก็ไม่ได้บอกว่าจะรับคุณเป็นแฟนพร้อมกันทั้งสองคน”
“รับเป็นแฟน ฮึ” ภีรวัสทำเสียงไม่พอใจในลำคอ แล้วก้มหน้าลงทำเป็นอ่านหนังสือ พลิกกระดาษไปเรื่อยๆ ก่อนจะพูดขึ้นมาเบาๆ ว่า “คนหลายใจ”
“คุณบังคับให้ผมเลือก ผมเป็นลูกผู้ชายพอ ผมต้องตอบไปตามความเป็นจริง”
“ดีครับ” ภีรวัสปิดหนังสือ เงยหน้าขึ้นมายิ้มให้วรุฒม์ “พูดกันตรงๆ ก็ดีเหมือนกัน ผมกับอิศราจะได้ตัดสินใจง่ายๆ ว่าจะเอายังไงต่อ”
“แต่คุณก็ต้องคิดถึงตัวแปรด้วย”
“เช่นอะไร” ภีรวัสถามทันที
“เช่นใครต่างหาก” วรุฒ์แก้
“ผู้พันวิษณุชอบอิศรามาก อิศราบอกว่าผู้พันวิษณุบอกรักตั้งหลายครั้ง” ภีรวัสเข้าใจว่าตัวแปรคือวิษณุ
“แล้วคุณอิศราเชื่อหรือครับ” วรุฒม์เลิกคิ้วถาม
...ร้ายกาจมาก ผู้ชายหน้านิ่งๆ อย่างผู้พันวรุฒม์ร้ายมากกว่าที่เขาคิด จะมาเล่นเกมสงครามประสาทกับเขาหรือ จะมากไปแล้วนะ...
“นั่นสิ” ภีรวัสพยักหน้าเห็นด้วย “ขอบคุณที่ถาม แล้วผมควรจะเชื่อที่ผู้พันวรุฒม์พูดหรือเปล่า”
“คุณเป็นนักวิจัย คงต้องลองวิเคราะห์ดู” วรุฒม์หัวเราะเบาๆ “เชื่อที่การกระทำมากกว่าคำพูดจะดีกว่าครับ”
“แต่คนบางคนคำพูดกับการกระทำมักจะไม่ตรงกัน คนบางคนพูดอย่างทำอย่าง ปากอย่างใจอย่าง ต่อหน้าแบบหนึ่ง ลับหลังก็เป็นอีกแบบ” ภีรวัสพูดกระทบ แต่ทันทีที่พูดจบก็ไม่ค่อยแน่ใจว่ากระทบวรุฒม์หรือกระทบตัวเองกันแน่
วรุฒม์ไม่ตอบ เอาแต่อมยิ้มแล้วสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ เหมือนกำลังสูดเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าไปให้เต็มปอด จากนั้นเอนตัวลงนอนราบ หนุนแขนตัวเอง ทอดสายตามองภีรวัสอย่างครุ่นคิดแล้วหลับตาลง ปิดฉากการสนทนารอบแรกกับชายหนุ่ม
...รอบแรกผมพูด รอบต่อไปคือการกระทำ เดี๋ยวภีรวัสก็รู้ว่าคำพูดและการกระทำของเขาจะเหนือชั้นขนาดไหน...

อิศรากับภีรวัสต่างนั่งเขี่ยอาหารตรงหน้าอย่างเบื่อๆ เย็นวันนี้ทั้งสองชวนกันหลบหน้านายทหารทั้งสองคนมาทานข้าวที่ร้านอาหารบนดอยนอกตัวอำเภอ
“รู้สึกเหมือนเป็นคอมมิวนิสต์กำลังหนีการจับกุมของทางการจริงๆ เลย” อิศราวางช้อนแล้วหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม “พอทหารจับตัวเราได้ จะถูกยิงเป้าหรือเปล่าก็ไม่รู้”
“แกโดนทั้งสองคนยิงมาแล้ว จะกลัวอะไรอีก”
“บอกแล้วไงว่ายัง” อิศราเสียงห้วน “ปรับปรำกันอยู่ได้ ไอ้นี่กัดไม่ยอมปล่อย”
“คิดว่าจะเชื่อหรือไอ้ก้อนอิฐ คนอย่างแกไม่มีทางปล่อยให้ปืนใหญ่สองกระบอกหลุดมือหลุดปากไปได้หรอก ที่ขลุกอยู่ด้วยกันในกรุงเทพฯ โดนยิงไปกี่ประตู”
“ทหารนะ ไม่ใช่นักฟุตบอล” อิศรากระแทกเสียง “พูดกับแกนี่ไม่รู้เรื่องจริงๆ บอกแล้วไงว่าไม่มีอะไรกัน ไม่มีอะไรกัน ไม่มีอะไรกัน ฉันเคยโกหกแกที่ไหน”
“ไม่เคยโกหก แต่ชอบตอแหลเป็นกิจวัตร” ภีรวัสกระแทกช้อนลงบนจาน หยิบน้ำขึ้นมาดื่มเหมือนกัน
“ผู้พันวิษณุกำลังต้อนเราจะจนมุมอยู่แล้วนะภีร์ ตามตื้อทั้งเช้ากลางวันเย็น เมื่อคืนเราเกือบเสียตัว ดีนะที่ใช้ความฉลาดเอาตัวรอดมาได้” อิศราเบี่ยงเบนประเด็น
...เสียไปสองครั้งต่างหาก วิษณุไม่รู้ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน เวลามีอะไรกันต้องเบิ้ลทุกครั้ง แล้วก็พร่ำแต่พูดว่ารักว่าหลง...
...อ้อ ไม่หลงได้ยังไง ใครได้อิศราเป็นติดใจทุกราย...
...แต่วรุฒม์ทำไมดูเหมือนจะเอนไปทางภีรวัส...
...นี่เขาจะแพ้ภีรวัสจริงๆ หรือ...
“นายจะทำพังก็เพราะใจอ่อนกับเข็มฉีดยาของแพทย์ทหารนี่ล่ะ เราแทคทีมฮึดสู้กับผู้พันวรุฒม์ในโค้งสุดท้ายนี่จะแพ้ไม่ได้นะอิศ นายอย่าทำให้เสียเรื่อง”
“รู้แล้วๆ” อิศราเบ้ปาก แล้วก้มหน้าลงมองพื้นโต๊ะ หยิบช้อนขึ้นมาเขี่ยอาหารในจานต่ออย่างไม่่รู้จะทำอะไรดี
...สู้กับวรุฒ์ท่าทางจะชนะยาก เกมสำคัญครั้งนี้เจาเริ่มจะถอดใจแล้ว มีแต่ภีรวัสนั่นล่ะที่ยังดันทุรัง...

เสียงรถจอดหน้าบ้านทำให้อิศราชะเง้อมอง แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นว่าคนที่ลงจากรถคือพันโทวรุฒม์ซึ่งอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์สีซีด
“ภีรวัสไปทำวิจัยครับ นั่งเฝ้าหุ่นยนต์อวกาศเช่นเคย คงกลับค่ำๆ” อิศรารีบบอก
“ผมไม่ได้มาหาคุณภีรวัส” วรุฒม์ตอบพร้อมกับยิ้มพราว
“งั้นมาหาใครครับ” อิศราทำหน้าเหรอหรา ในใจก็ด่าตัวเองต่อว่า จะมาหาใครวะ ก็มาหาแกนะสิ
“วันนี้หยุด ผมรู้สึกเหงา เลยมาหาเพื่อนคุย” วรุฒม์อมยิ้มในแบบฉบับของตัวเอง แล้วลงนั่งข้างอิศราจนไหล่แทบชนไหล่ “คุณอิศราเหงาไหมครับ”
อิศราส่ายหน้าเร็วๆ กระเถิบตัวออกห่างอีกเล็กน้อยเพราะรู้สึกถึงไออุ่นจากตัวของวรุฒม์ ชายหนุ่มนิ่งไปหลายวินาทีก่อนจะถามว่าวรุฒม์จะมาชวนไปเที่ยวหรือหาอะไรอร่อยๆ ทาน แต่นายทหารหนุ่มปฏิเสธแล้วบอกว่าแค่อยากมานั่งคุยกันสองคนเท่านั้น
“ไปนั่งเล่นริมย้ำหลังบ้านดีกว่าครับ ใต้ต้นไม้ เย็นสบาย บรรยากาศดี” วรุฒม์ชวน
“ตรงนี้ก็สบาย” อิศราอิดออด
“ก็ได้” วรุฒม์พยักหน้า “ถ้าอากาศเย็นลงมากๆ จะได้ไปนั่งคุยกันในบ้าน”
“งั้นไปนั่งคุยที่ริมน้ำก็ได้ครับ ดีเหมือนกัน จะได้รอดูพระอาทิตย์ตกดิน ผมชอบดูพระอาทิตย์ตกดิน มันลูกใหญ่ดี” อิศราลุกขึี้น หันซ้ายหันขวา แล้วก้มลงหยิบเอาหมอนมากอดไว้แนบอกเพราะไม่รู้จะทำอะไรดี
...เดี๋ยวก็ลากผู้พันสุดหล่อเข้าบ้านซะเลย อยู่เฉยๆ ก็หล่อพอแล้ว นี่มาทำหน้าหล่อแบบยิ้มๆ อีก จะมาไม้ไหนละเนี่ย ตามไม่ทัน...
วรุฒม์บอกว่าจะเดินไปหยิบเสื่อกับขวดน้ำดื่มที่รถ แต่ก่อนไป นายทหารหันมาแล้วแกล้งทำหน้าดุแบบยิ้มๆ ใส่อิศราพร้อมกับพูดว่า
“รออยู่ตรงนี้นะครับ อย่าไปไหน ถ้าแอบวิ่งเข้าไปหลบในบ้าน ผมจะพังประตูเข้าไปลากตัวออกมา”
“ผมจะร้องให้คนช่วย” อิศราทำปากยื่น
...ลองได้บุกเข้าไปในบ้านสิ เขาไม่ยอมให้ถูกลากตัวออกมาได้ง่ายๆ หรอก เขาจะไปหลบอยู่บนเตียงในห้องนอน...
“ไม่กลัวคนรู้หรือครับ” วรุฒม์หัวเราะเบาๆ แล้วเดินไปที่รถ ทิ้งให้อิศราถอนหายใจเบาๆ เมื่อนึกถึงคำพูดของนายทหารที่เปลี่ยนท่าทีไม่เว้นแต่ละวันจนเขาตั้งตัวไม่ติด
...ไม่กลัวคนรู้ยังงั้นหรือ 'คน' ที่ผู้พันวรุฒม์พูดถึงนี่คือ 'คน' ไหนนะ 'คน' ภีรวัส หรือ 'คน' วิษณุ....
...แต่ 'คน' ไหนก็ไม่อยากให้รู้ทั้งนั้น แค่นี้ก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว...

วิษณุสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ แล้วเดินเข้าไปหาภีรวัสที่ยืนซื้อเครื่องดื่มอยู่หน้าร้านขายของชำในหมู่บ้านบนดอยห่มหมอก นักวิจัยหนุ่มทำหน้าแปลกใจแต่ก็รีบปรับสีหน้าเช่นเคย วิษณุยอมรับว่าภีรวัสควบคุมตัวเองได้เก่งมาก เก่งพอๆ กับวรุฒม์ และอ่านยากพอๆ กัน
“ทหารที่แม่สะเรียงนี้ห่วงใยประชาชนดีจริงๆ นะครับ ไปไหนก็คอยดูแลไม่ห่าง” ภีรวีสเอียงคอมองวิษณุด้วยสีหน้ายิ้มๆ
“ผมอยากดูแล”
“อยากดูแลทั้งสองคน หรือคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษ” ภีรวัสถาม
“คุณภีร์คิดว่าไงครับ” วิษณุถามกลับ
“คิดไม่ออก ผมสับสน” ภีรวัสยักไหล่ “ผู้พันบอกรักอิศรา แต่มารับผมถึงบนดอย อิศรารู้จะคิดยังไง”
“หรือคุณจะให้ผมบอกรักคุณด้วย ถึงจะแวะมารับกลับบ้านได้” วิษณุตอบกลับแบบตรงไปตรงมาด้วยใบหน้ายิ้มๆ ตามที่ได้รับการ 'สอน' มา
“ผู้พันหลายใจ” ภีรวัสตำหนินายแพทย์ทหาร แต่ใบหน้ายังมีรอยยิ้มบางๆ อยู่เช่นเดิม
“ผมกำลังอยู่ในช่วงสับสน อันนี้ผมต้องยอมรับตามตรง” วิษณุยักไหล่ “แล้วคุณภีร์ล่ะครับ ไม่รู้สึกสับสนบ้างหรือ”
“สับสนทำไมครับ ไม่เห็นมีอะไรซับซ้อนให้ต้องคิดมาก” ภีรวัสยักไหล่เหมือนกันแล้วออกเดินไปทางถนนกลางหมู่บ้านอย่างช้าๆ โดยมีวิษณุเดินเคียงข้าง
“แสดงว่าคุณภีร์เลือกแล้ว”
“ต้องเลือกหรือครับ แล้วที่ว่าเลือกนี่ เลือกอะไร” ภีรวัสทำไม่รู้ไม่ชี้
“วรุฒ์ม์เลือกแล้ว ผมก็ต้องเลือกบ้าง คนเราอยู่ท่ามกลางการเลือกอะไรต่างๆ ตลอดเวลา ตื่นเช้ามาก็เลือกว่าจะสวมเสื้อผ้าตัวไหน จะทานอะไร จะทำอะไร” วิษณุพูดเสียงเรียบ ก่อนจะนิ่งไปชั่วครู่แล้วหันมาพูดกับภีรวัสด้วยเสียงจริงจังว่า “จะเลือกรักใคร”
“ความรัก เลือกกันได้ด้วยหรือครับ” ภีรวัสพูดโดยไม่มองหน้าวิษณุ ตามองปลายเท้าตัวเอง
“ได้สิครับ เมื่อมีตัวเลือกมากกว่าหนึ่ง เราก็ต้องเลือก”
ภีรวัสไม่ตอบ ยังคงเดินต่อไปอย่างช้าๆ ในใจคิดว่า
...ตัวเลือกมีแค่คนเดียว คนเดียวเท่านั้น เพียงแต่เขาต้องเลือกว่าจะกระโจนลงไปในเหวรัก หรือตะกายหนีไปให้ไกล ตัดใจแล้วไม่หันกลับไปมองอีก...
...หรือเกมหลอกให้รักแล้วทิ้งจะกลายมาเป็นเกมหัวใจสานใยรัก หรือเกมหนีรัก หรือเกมเอาชนะใจตัวเอง...
“ผมเลือกคุณ ผมตัดสินใจแล้ว” วิษณุยื่นหน้าเข้ามากระซิบเบาๆ ข้างหูภีรวัส แล้วส่งสายตาหวานซึ้งให้ชายหนุ่ม ก่อนจะปล่อยประโยคเด็ด “วรุฒม์เลือกคุณอิศราไปแล้ว ตกลงปลงใจกับผมเถอะนะครับ เราสี่คนจะได้มีความสุขสมหวังกันเสียที...

***17***

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 17 (5/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Resonance ที่ 05-10-2009 19:58:53
...อ้อ ไม่หลงได้ยังไง ใครได้อิศราเป็นติดใจทุกราย...
...แต่วรุฒม์ทำไมดูเหมือนจะเอนไปทางภีรวัส...




หมายความว่าไงนายก้อนอิฐ !!!!
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 17 (5/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: alterlyx ที่ 05-10-2009 20:07:11
เฮ้ยยย ไม่จิงอ่ะ ตลก ... ตลกแล้ว คุณหมอ   :a5:
ผู้พันวรุฒม์จะเลือก อิศราได้ยังไง ... ผู้พันคงเสี้ยมสอนมาให้พูดตามสคริปสินะ ... เราไม่หลงกลหรอก  :laugh:

... อยู่เฉยๆ ก็หล่อพอแล้ว นี่มาทำหน้าหล่อแบบยิ้มๆ อีก จะมาไม้ไหนละเนี่ย ตามไม่ทัน...
หล่อเลือกได้ ... ระวังเถอะพ่อพระเอก ... ระวังอิศ กับ ภีร์ จะรุมเลือกหมอวิษณุ 555+
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 17 (5/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 05-10-2009 20:23:16

ยกนี้ ภีรวัส เป๋ ชัวร์!!!

แต่ก็ไม่อยากจะเชื่อว่า เป๋ จน พ่าย

^
^
ว้าย เม้นต์ยาวเกินอีกแระส์  :m31:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 17 (5/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: crazy Y ที่ 05-10-2009 21:38:55
งานเข้าล่ะซิทีนี้   


สองผู้พันนี่แอบร้ายลึก เอาคืนแบบ เข็มขัดสั้น คาดไม่ถึงเล๊ย


ลุ้นค่ะ ลุ้นว่าผลจะเป็นไง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 17 (5/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: gboy ที่ 05-10-2009 21:52:35
 :confuse:
ยิ่งอ่านยิ่งงง

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 17 (5/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 05-10-2009 22:01:13
แผนของผู้พันวรุฒม์นี่ล้ำลึกเหมือนกันนะเนี่ย ทีนี้ก็รอดูภีรวัสนี่แหละ ว่าจะยังไงต่อ ถ้าดูที่อิศราคงไม่ไหว เพราะคนไหนๆอิศราก็ได้หมดอะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 17 (5/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 05-10-2009 22:05:53
 :o12: ฮากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก คุณนายใจร้ายยย

หรือเราอินบท คุณภรี มากเกินไป  *0* 
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 17 (5/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 05-10-2009 22:16:33
เม้นสองตอนรวบ
CH 16
กร๊ากกกกกกกกกกก  อิศราน่ารักกกกกกกกกกกกกกก

เอาใจไปเลย ช้อบ ชอบ เวลามีบทอิศรา ได้ฮาตลอด555+

แม่ส่าย แม่สอด แม่กด แม่ดัน  5555 +   :laugh:
------------------------
CH 17

เชียร์สองเพื่อนเลิฟ อิศ+ภีร์ 555+

กำลังจะโดนสองทหารปั่นหัวกลับเหรอ

เราก็หนีกลับ กทม เลยให้  555+ :m20:

_________________
CH 18  :call: หนึ่งบวกค่ะ





---------------------
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 17 (5/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 05-10-2009 23:02:14
เกมส์นี้แลกกันอย่างถึงพริกถึงขิงเลย

เอามารอดูว่าสุดท้าย ใครจะเป็นพริก ใครจะเป็นขิง

+1 ให้พี่นายนะครับ รอบทต่อไปอยู่ครับ  :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 17 (5/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: J๐ly ที่ 05-10-2009 23:11:05
อร้ายยยย


วรุฒ ร้ายจริง

 :serius2: :serius2:



---------------------------------------------------


อยากบอกคนเขียนนิดนึง

ว่าแต่ละบท

ดูไม่ค่อยเชื่อมกับบทเก่าซักเท่าไหร่เลยอ่ะ คือจบตอนจะตัดบทไปอีกฉากนึงก้อได้นะแต่อธิบายตอนเก่านึดนึง
อย่างเช่นตอนที่ 15 ถ้าวรุฒ มีไรกับ ภีร์อ่ะ
น่าจะอธิบายมากกว่านั้นนิดนึงอ่ะ
แต่มาอธิบาย ในตอน 16 นิดเดียว เราเลยว่ามันดูกำกวมมากไปนิดนึงอ่ะ

:really2: :really2: :really2:


บอกตามความรู้สึกเฉย ๆ นะ  ไม่ได้จะอะไรนะ

ยังไงก็อ่านแหละ   ซา-หนุก ๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 17 (5/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 05-10-2009 23:22:22
วรุฒน์สั่งสอนเพื่อนมาดีเหลือเกิน คารวะ 1 จอก ซู้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 17 (5/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 05-10-2009 23:23:14
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด
งานนี้มีแหกตาแน่ๆ เอิ๊กซ์ ฉลาดไม่มีใครเกิด  :m32:
เที่ยวเฝ้าเที่ยวตามตื้อ สลับกันไปมา
แต่ไหงคู่คุณหมอถึงได้ฉีดยากันบ่อยๆล่ะคะ ครึๆ
ไหนว่าจบเกมส์แล้วไง อิศราเอ้ย ถึงจะแฮดแบบไม่ต้องจ่ายค่าตัว
แต่ความแรงเนี่ย แร๊งสมใจแต่ไม่มีมั่วแน่นอน
“คุณจะให้โอกาสผมเข้าไปค้นหาหรือเปล่าล่ะ”
“แล้วคิดว่าไง ผู้พันไม่เคยเข้ามาหรือไง”
“ผมอยากจะเข้าอีก เข้าแล้วเข้าอีก”

> สมกันจริงๆ แหมๆ วัวเคยค้า ม้าเคยข..่ม  อ่ะนะ มีหยอดมีง้อมีงอนกันด้วย
น่ารักกกกกกกกกกกกก
..ช่างภีรวัส ไหนๆ ก็ผิดกติกาการแข่งขันแล้ว การแข่งขันก็พังไม่เป็นท่า
ขอแหกกฏให้กระจุยกระจายไปเลยก็แล้วกัน...

>> ทั้งปีคะเพื่อน ผู้ชายสำคัญกว่าเพื่อนเสมอ กฏก็เ่ช่นกันมีไว้แหก  :laugh:
..เดี๋ยวก็ลากผู้พันสุดหล่อเข้าบ้านซะเลย อยู่เฉยๆ ก็หล่อพอแล้ว
นี่มาทำหน้าหล่อแบบยิ้มๆ อีก จะมาไม้ไหนละเนี่ย ตามไม่ทัน...

>> นี่ล่ะคะ แฮดตัวแม่ อิอิ ตอนแรกก็เล่นตัวนะคะกลัวผู้พันจะลากเข้าบ้าน
อิอิ แต่ถ้าเวลานั้นมาถึง อิศราก็พร้อมที่จะแหกกฏคระ อั๊ยยยยยย
“รออยู่ตรงนี้นะครับ อย่าไปไหน ถ้าแอบวิ่งเข้าไปหลบในบ้าน
ผมจะพังประตูเข้าไปลากตัวออกมา”
“ผมจะร้องให้คนช่วย”

>  แหม รักคุณอิศราจัง แฮดไม่มีขาดไม่มีเกิน ฮาๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ผู้พันขราาาาาาา อย่าบีบคุณภีร์มากไปสิคะ สงสารเค้าบ้างอะไรบ้าง
เค้าแค่ดื้อมากไปหน่อยเท่านั้น อิอิ แบบนี้ต้องยืนยันด้วยการกระำทำอีกรอบ
ดีมั๊ยเนี่ย :oo1: :z1:

สู้ๆคะ  +1 จัดให้คะ  o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 17 (5/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: teenza ที่ 05-10-2009 23:30:26
มันส์หยดเลยเกมส์นี้
เอ้าเชียร์ผู้พันวรุฒิให้ปราบเด็กเกเรสองคนให้อยู่หมัด :110011:
ปล อีหนูอิฐแร๊งงงงงงงงงงงงงจริงๆ แต่ละคำที่หลุดออกมา
ปลอีกที สะใจกับการดัดหลัง หุหุ :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 17 (5/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: aimaim ที่ 06-10-2009 11:38:10
ผู้พันวรุตม์นี้ช่างสอนเพื่อนได้ดีจริงๆ เอิ๊กๆ

สองหนุ่มโดนทหารเล่นงานคืนก็งานนี้แหละ อิอิ

+1 ฟอร์ ยู ค่ะ คุณนาย ^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 17 (5/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 06-10-2009 11:59:34
ถึงพี่นายยยยย

ทำไมฉากกุ๊กกิ๊กของภีร์กับผู้พันมันโดนตัดฉับๆ ล่ะค้าาาาาา ทีนายอิศรากับคุณหมอบรรยายพองามเลย  o18
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 17 (5/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 06-10-2009 13:01:50
+เป็นกำลังใจให้เสมอและตลอดไปครับ+
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 17 (5/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 06-10-2009 14:08:25
ปราบเด็กพยศให้อยู่หมัดนะผู้พัน

อยากรู้ว่าอิศจะหม่ำผู้พันสุดหล่อสำเร็จมั้ย
แอบเชียร์นู๋อิศนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 17 (5/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Zarch_Chabu_Chabu ที่ 06-10-2009 18:39:08
นิสัย :angry2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 17 (5/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: morrian ที่ 06-10-2009 20:37:50
ภีร์เลือกผู้พันรุฒน์อยู่แล้ว เพราะในใจเลือกคนนี้ตั้งแต่ต้น

ผู้พันนี่สิ กลับจะมาสมคบกะหมอดัดหลังสองคนนี้

เสี้ยมให้หมอมาบอกกะภีร์ว่า วรุฒน์เลือกอิศราไปแล้ว -_-''

นี่ถ้าภีร์เชื่อตามนั้น และยอมตัดใจยอมให้วรุฒน์สมหวังกะอิศรา

แล้วหนีไปอยู่เกาะอินโดไม่กลับ ,,,, ผู้พันวรุฒน์จะหนาวว  :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 17 (5/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 06-10-2009 21:56:24
อร้ายยยย วรุฒ ร้ายจริง อยากบอกคนเขียนนิดนึง ว่าแต่ละบท ดูไม่ค่อยเชื่อมกับบทเก่าซักเท่าไหร่เลยอ่ะ คือจบตอนจะตัดบทไปอีกฉากนึงก้อได้นะแต่อธิบายตอนเก่านึดนึง
อย่างเช่นตอนที่ 15 ถ้าวรุฒ มีไรกับ ภีร์อ่ะ
น่าจะอธิบายมากกว่านั้นนิดนึงอ่ะ แต่มาอธิบาย ในตอน 16 นิดเดียว เราเลยว่ามันดูกำกวมมากไปนิดนึงอ่ะ
บอกตามความรู้สึกเฉย ๆ นะ  ไม่ได้จะอะไรนะ ยังไงก็อ่านแหละ   ซา-หนุก ๆ
ขอบคุณครับสำหรับความคิดเห็นและคำแนะนำครับ
นั่นสินะ แล้ววรุฒม์มีอะไรกับภีร์หรือเปล่่าอ่ะ
อิ อิ จงใจให้กำกวมครับ จะได้มีอะไรคิดเล่นเพลินๆ  :pigha2:
ถึงพี่นายยยยย

ทำไมฉากกุ๊กกิ๊กของภีร์กับผู้พันมันโดนตัดฉับๆ ล่ะค้าาาาาา ทีนายอิศรากับคุณหมอบรรยายพองามเลย  o18

พอดีสองคนนี้ไม่ชอบทำอะไรโฉ่งฉ่างน่ะครับ  :z1:

ขอบคุณนะครับ วันนี้ไปเข้าคลาสโยคะจูเนียร์มา แทบตาย เทรนเนอร์ก็เอาแต่พูดว่ายืนขาให้สุดๆ เข่าอย่างอ เหยียดให้ตรง สูดลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะ ยกแขนซ้ายขึ้น ยืดให้ตรง
หารู้ไม่ คนทำตามงง ซ้ายขวาข้างไหนวะเนี่ย ก็เทรนเนอร์หันหน้าเข้าหาเรา เลยหลงซ้ายหลงขวา หันไปมองคนข้างๆ ก็เก้ๆ กังๆ พอๆ กัน เผลอแป๊ปเดียว เฮ่อ ลืมหายใจ ขาแขนยืดให้ตรงไม่ได้ซักข้าง
สนุกดี พรุ่งนี้ไปต่ออีก เพราะฉะนั้นอาจโพสนิยายได้ช้าหน่อยนะครับ เพราะพักนี้มีภารกิจหลายอย่าง ทั้งโยคะ ทั้งยกน้ำหนัก ทั้งซิ่งมอเตอร์ไซด์ ทั้งทำวิดยานิพน ทั้งหาเมีย  :-[ :o8: ทั้งหาเงินซื้อโทรศัพท์แทนเครื่องใหม่เอี่ยมที่เพิ่งหายไปเมื่อเช้า  :m15: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 17 (5/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 06-10-2009 22:02:35
Heart Game Chapter 18

เมื่อกลับถึงบ้านแล้วเห็นอิศรานั่งซึมเหมือนกำลังคอยเขาอยู่ ภีรวัสก็กระแทกเท้าปึงปังเดินเข้าไปยังห้องครัว เปิดประตูตู้เย็น หยิบน้ำดื่มออกมาพร้อมกระแทกปิดแรงๆ อิศราตามเข้ามา รอจนภีรวัสดื่มน้ำหมดแก้วแล้วจึงตัดสินใจพูดถามขึ้นว่า
“โกรธเราหรือภีร์”
“เปล่า” ภีรวัสตอบห้วน “จะไปโกรธแกทำไม”
“เรามีเรื่องจะสารภาพ” อิศราเสียงอ่อนลง “เรานั่งคิดอยู่ตั้งแต่บ่ายแล้ว คิดไปคิดมาหลายตลบ คราวนี้เราขอเป็นคนตัดสินใจบ้าง ยืมหัวนายคิดมาตั้้งหลายครั้งแล้ว เอ่อ คือว่า...”
“ไม่ต้องพูดแล้วอิศ อยากได้ผู้พันวรุฒม์ก็เอาไปเลย เราไม่สนแล้วล่ะ” ภีรวัสยักไหล่แล้วเดินเข้าห้อง โดยมีอิศราเดินตามพร้อมกับทักท้วงว่า
“ยังไม่ได้ฟังเราสารภาพเลย”
“อยากจะได้ผู้พันวิษณุด้วยก็ได้นะ เราไม่สนเหมือนกัน ไม่สนทั้งสองคนนั่นล่ะ”
“ภีร์ ไม่รักใครเลยหรือ หนึ่งในสองคนนี่น่ะ ไม่รู้สึกตึ๊กตั๊กๆ กับใครบ้างหรือไง” อิศราเสียงอ่อน
“ไม่” ภีรวัสหันไปพูดเสียงชัดเจน “จบก็คือจบ พอก็คือพอ เราเลิกเล่นเกมบ้าๆ นี้แล้ว จะเร่งทำวิจัยให้เสร็จ จะได้กลับกรุงเทพฯ เสียที”
“คืออย่างนี้ บ่ายนี้ผู้่พันวรุฒม์มาหาเราแล้วก็ เอ่อ...แล้วก็บอกเราว่า...” อิศราอึกอัก
“บอกแล้วไงว่าไม่ต้องพูด  ไม่ต้องสารภาพอะไรทั้งนั้น ไม่อยากฟัง ไม่ว่ายังไง เราก็ไม่สนทหารสองคนนั่น” ภีรวัสเม้มปาก นิ่งไปหลายอึดใจ แล้วจึงพูดชัดเจนช้าๆ กับอิศรากับอิศราว่า “เรารู้แล้วว่าเรารักพล ถ้าพลไม่ตายจากไป เราก็คงไม่รู้ใจตัวเอง”
อิศราตะลึง ไม่นึกว่าภีรวัสจะพูดออกมาเช่นนี้
“โกหก อย่ามาโกหกกันนะภีร์” อิศราเสียงเบา
“เรารักพล หลายวันมานี่เรารู้สึกทรมานมาก พลรักเราอย่างจริงใจ แต่เรากลับทำลายหัวใจของพลย่อยยับ แล้วตอนที่หมดลมหายใจก็ไม่ได้อำลากัน เรานอนคิดอยู่ทุกคืนว่าคำพูดสุดท้ายของพลก่อนตายคือเรียกชื่อเรา” ภีรวัสปล่อยให้น้ำตาเอ่อล้นออกมาจากขอบตา แล้วเบือนหน้าหนี เดินเข้าไปในห้องนอนแล้วปิดประตูลงเบาๆ ทิ้งให้อิศรายืนอึ้งอยู่หน้าห้อง
...แกยังสารภาพความในใจได้เลยภีร์ ทำไมไม่ให้เราสารภาพบ้าง...

พันตรีนายแพทย์วิษณุอึ้งไปทันทีเมื่อมาชวนภีรวัสไปทานอาหารเย็นแล้วได้ยินว่าอิศราเดินทางกลับกรุงเทพฯ ไปแล้ว ตามบท เขาควรจะทำเป็นแปลกใจเล็กน้อยแล้วพูดว่าวรุฒม์คงตามไปใช้เวลาช่วงสุดสัปดาห์ด้วยกันในกรุงเทพฯ แต่เขาก็ไม่พูด
“อาทิตย์หน้าผมก็คงทำงานวิจัยเสร็จ แล้วผมก็จะกลับกรุงเทพฯ เลย” ภีรวัสพูดยิ้มๆ แล้วขึ้นนั่งบนรถของวิษณุ
“จะทิ้งผมไว้ที่นี่หรือครับ” วิษณุทำหน้าน้อยใจ
“คิดถึงก็ตามไปสิครับ ผมกับอิศราจะได้เลี้ยงผู้พันบ้าง อยู่ที่นี่ ผู้พันดูแลเราอย่างดี ทั้งพาไปเที่ยว ทั้งพาไปทานอาหารอร่อย”
“แล้วผมก็ต้องกลับแม่สะเรียงอยู่ดี” วิษณุถอนหายใจ “แย่จริงๆ เลย คุณภีร์ไม่คิดจะย้ายมาอยู่ที่นี่ซักพักหรือครับ ซักเดือนสองเดือน ถือว่าเป็นการพักผ่อน”
“บอกแล้วไงว่าผมคงต้องทำงานวิจัยชิ้นต่อไป”
“พักซักหน่อยสิครับ”
“พักก็ไม่ได้เงิน” ภีรวัสยักไหล่ ปิดประตูรถ ดึงเข็มขัดนิรัภัยรัดแล้วหันไปมองวิษณุที่กำลังเคลื่อนรถออกจากหน้าบ้านพัก ใบหน้าของนายทหารดูเคร่งขรึม แววตาครุ่นคิด ท่าทางหนักใจกับอะไรบางอย่าง
“อิศราเขาชินกับชีวิตเมืองกรุงครับ เคยอยู่แต่เมืองใหญ่ๆ ผู้พันก็คงพอจะมองออกว่าอิศราคงเข้ากับเมืองเล็กกลางป่ากลางเขาไม่ได้ ในกรุงเทพฯ มีอะไรให้ทำมากกว่าที่นี่” ภีรวัสจงใจพูดให้วิษณุหนักใจมากกว่าเดิม ตอนนี้เขาแน่ใจแล้วว่าวิษณุรักอิศราเข้าให้แล้ว และที่ทำมาเป็นจีบเขาอยู่นี่ก็อาจมีเหตุผลก็คือพยายามตัดใจจากอิศรา หรือไม่ก็เสียสละให้เพื่อน
...วรุฒม์เลือกอิศรา ในที่สุดวรุฒม์ก็เลือกอิศรา ทำไมนะหรือ ก็เพราะ...
...ไม่ เขาไม่อยากจะรู้ว่าเพราะอะไร จะรักก็รักไป วรุฒม์จะรักใครมันก็เรื่องของวรุฒม์ ถ้าเขาต้องการมีความรักจริงๆ เขาจะย้อนกลับไปหา ดร. สินธพ ไปง้อซักหน่อย ดร. สินธพไม่ปฏิเสธเขาแน่ๆ...

“นายนี่มันดันทุรังจริงๆ เลย” วิษณุส่ายหน้า “ไม่คิดหรือว่ามันจะยุ่งมากกว่าเดิม เราไม่อยากเล่นละครบ้าๆ นี่ต่อไปอีกแล้วนะรุฒม์ เราจะไปตามอิศรา” วิษณุประกาศก้อง
“ตามใจ” วรุฒม์ยักไหล่ ตกลงปล่อยให้วิษณุเลิกดำเนินการตามแผนอย่างง่ายๆ
“แล้วนายจะเอายังไงต่อไป” วิษณุอดอยากรู้ต่อไปไม่ได้
“ไม่เอายังไง” วรุฒม์เม้มปาก หันออกไปมองนอกหน้าต่าง “ขึ้นอยู่กับเขามากกว่า ดูซิว่าจะใจแข็งได้นานขนาดไหน”
“เราว่าเขารักนายนะ” วิษณุแสดงความเห็น
“แล้วจะมั่นใจได้ยังไงวิษณุ จะแน่ใจได้ยังไงว่าสองคนนั่นไม่ได้กำลังแสดงละครอยู่ จะรู้ได้ยังไงว่าเราไม่ได้เป็นเหยื่อของการเล่นเกมหลอกให้รักแล้วทิ้ง”
“คงรู้เองมั๊ง ถ้าปล่อยให้หัวใจสัมผัสเองก็คงจะรู้เอง” วิษณุพูดเบาๆ ทั้งที่รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจเท่าใดนัก วรุฒม์ไม่ตอบอะไร หันหลังเดินออกจากห้องทำงานของนายแพทย์ทหารเพื่อนสนิท แล้วเดินออกไปนอกอาคาร แต่พลันก็ต้องชะงักเมื่อเห็นร่างคุ้นตาปั่นจักรยานมาจอดที่หน้าตึก
“ผู้พันวิษณุอยู่หรือเปล่าครับ” ภีรวัสมองเห็นวรุฒม์ จึงถามขึ้นด้วยน้ำเสียงสดชื่น นายทหารหนุ่มนิ่งไปชั่วอึดใจแล้วพยักหน้า ก่อนจะเดินเข้าไปหาภีรวัสช้าๆ แล้วพูดว่า
“วิษณุกำลังจะไปกรุงเทพฯ ครับ”
...คนฉลาดอย่างภีรวัสต้องเข้าใจได้ง่ายๆ จากคำพูดของเขาว่าวิษณุจะไปกรุงเทพฯ ทำไม...
“อ๋อ หรือครับ แบบนี้ก็สวนทางกับอิศรานะสิ” ภีรวัสตอบ เลิกคิดอย่างแปลกใจ
...วรุฒม์คิดจะปั่นหัวเขาหรือไง ไม่มีทางหรอก...
“คุณอิศราเพิ่งกลับเข้ากรุงเทพฯ จะกลับมาอีกแล้วหรือครับ” วรุฒม์ถามยิ้มๆ
“ไม่อยากให้กลับมาหรือครับ” ภีรวัสทำหน้าสงสัย
“อยากสิครับ ผมเพียงแต่ไม่เข้าใจว่าทำไมจะรีบกลับ วิษณุกำลังจะไปหา”
...หมายความว่ายังไง วรุฒม์ดูไม่แคร์เลยว่าเพื่อนจะไปหาคนของตัวเอง...
“ดูผู้พันไม่รู้สึกอะไรที่เพื่อนจะไปหาแฟนของตัวเอง” ภีรวัสหยั่งเชิง
“อย่าเพิ่งเรียกว่าแฟนเลยครับ” วรุฒม์หัวเราะเบาๆ “ตอนนี้เพิ่งเริ่มจีบกัน ผมยังไม่กล้าพูด กลัวจะผิดหวัง”
“เพิ่งจีบ” ภีรวัสเลิกคิ้ว
วรุฒม์พยักหน้า ปรับสีหน้าให้เคร่งขรึมแล้วพูดช้าๆ ชัดๆ กับภีรวัสว่า “แย่จังเลย ผมกับวิษณุต้องกลายมาเป็นคู่แข่งกัน แต่ก็ไม่เป็นไร ผมต่อให้วิษณุไปก่อน จากนั้นจะเป็นทีของผมบ้าง เราเป็นเพื่อนรักกัน ก็ต้องเล่นกันแฟร์ๆ”
ภีรวัสรู้สึกเจ็บแปลบที่ขั้วหัวใจอีกแล้ว วรุฒม์ทำท่าจริงจังกับตัวเองมาก หนำซ้ำวิษณุที่มาขอคบหาดูใจกับเขาเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ตอนนี้กลับเปลี่ยนไปเฉยๆ
“ขอให้โชคดีนะครับ” ภีรวัสอวยพร ยิ้มให้วรุฒม์บางๆ แล้วยกจักรยานหันกลับ ขึ้นนั่งเตรียมปั่น แต่นายทหารยื่นมือมาจับท้ายรถเอาไว้แล้วถามขึ้นมาว่า
“อ้าว ไม่เข้าไปหาวิษณุหรือครับ”
“ไว้คราวหลังก็ได้ครับ ผู้พันกำลังจะเข้ากรุงเทพฯ ผมไม่อยากกวน” ภีรวัสยิ้มกว้าง ปกปิดความรู้สึกน้อยใจ แล้วปั่นจักรยานจากไปทันทีโดยไม่หันกลับมามองวรุฒม์ที่ยืนล้วงประเป๋ากางเกง ทำหน้านิ่งเรียบมองตามชายหนุ่มผู้มีทิฐิยิ่งกว่าใครที่เขาเคยรู้จัก
...ภีรวัสนะภีรวัส ปากแข็งจริงๆ คอยดูเถอะ เขาจะทำให้ร้องให้จนต้องวิ่งเข้ามาซบอกและอ้อนวอนให้เขาเช็ดน้ำตาให้...

อิศราอุทานเสียงดังเมื่อได้ยินเสียงของภีรวัสในโทรศัพท์บอกเขาถึงเรื่องที่วิษณุกับวรุฒม์กลายมาเป็นคู่แข่งกันเพื่อจีบตัวเอง
“แกแน่ใจหรือภีร์ สองคนนั่นเอาจริงหรือ ไม่ใช่แค่เขาอยากแก้แค้นเราหรอกนะ หรือว่าเขาคิดจะ...”
“จะยังไงก็แล้วแต่ จริงหรือเล่น แกก็ต้องหลบให้ดี อย่าใจอ่อนเด็ดขาด อย่าเสียดายความหล่อล่ำจนพ่ายแพ้ต่ออารมณ์ดิบของตัวเอง” ภีรวัสสั่งเพื่อน
“ต้องทำขนาดนั้นเลยหรือภีร์” อิศราโอดครวญ “นี่ยังนึกภาพจินตนาการ sexual fantasy อยู่เลยนะว่า สองทหารบึกบึนผลัดกันประกบแซนวิชเรา”
“ไอ้ก้อนอิฐ” ภีรวัสตวาด
“จ้า รู้แล้ว ดุฉิบหาย” อิศรารับคำแล้วบอกว่าต้องรีบวางหูเพราะตอนนี้กำลัง 'คั่ว' เหยื่อรายใหม่อยู่
“แกยังไม่เข็ดหรืออิศ” ภีรวัสถอนหายใจ
“ตอนแรกว่าจะเข็ด แต่พอเห็นหล่อๆ ล่ำๆ ไอก็ทนไม่ได้ ก้นมันกระดิกทันที” อิศราหัวเราะคิกคักแล้ววางสายสนทนากับเพื่อน
...เราก็พูดไปยังงั้นล่ะภีร์ เข็ดสิ ทำไมจะไม่เข็ด นอนไม่หลับมาตั้งหลายวัน เกมบ้าๆ แบบนี้ไม่เอาอีกแล้ว อย่างน้อยก็อีกหลายปีล่ะ...
...แล้วไม่ต้องมาสั่งอิศราเลย คราวนี้เขาจะปล่อยใจให้เป็นอิศระ ยอมทำตามหัวใจของตัวเองดูซะที เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าเขาก็มีหัวใจที่รักใครได้เหมือนกัน...

ภีรวัสเก็บอุปกรณ์ทดลองงานวิจัยใส่กล่องให้เรียบร้อย และจัดกระเป๋าให้พร้อมกับสำหรับการเดินทางกลับกรุงเทพฯ จากนั้นจึงแบกเป้เดินออกมาจากบ้านพัก ตั้งใจว่าจะไปเที่ยวสักสองสามวันเป็นการสั่งลา เมื่อสองวันที่แล้วเขาพบกับปลัดอำเภอแม่สะเรียงในตลาดและได้ทำความรู้จักกัน ปลัดอำเภอแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวเดินป่าให้ ภีรวัสจึงตั้งใจว่าจะไปกางเต้นท์พักแรมบนภูเขา และถือโอกาสนอนคิดไตร่ตรองถึงเรื่องต่างๆ ที่กำลังรบกวนจิตใจเขาอยู่ในขณะนี้ เขาตั้งใจว่าจะแขวนเปลนอนเล่นอยู่กลางป่า รอบข้างมีแต่ต้นไม้ ไม่มีใครกวนใจ
...ไม่มีใบหน้าคมเข้มของใครบางคนที่คอยทำให้เขาหวั่นไหวและว้าวุ่น...
ภีรวัสใช้เวลาเดินเท้าไม่ถึงครึ่งวันก็มาถึงจุดที่ปลัดอำเภอแนะนำไว้ว่าควรใช้เป็นที่พักแรม ลานหญ้ากว้างบนเขารายล้อมด้วยต้นไม้เขียวขจีทำให้ภีรวัสชื่นชอบเป็นอย่างมาก และยิ่งโชคดีเมื่อเดินไปไม่ไกลเป็นธารน้ำใสสะอาดน่าเล่น ภีรวัสเดินไปตามลำน้ำไม่ถึงสิบนาทีก็พบว่ามีกระท่อมเก่าๆ อยู่หลังหนึ่ง ซึ่งคิดว่าคงจะเป็นกระท่อมที่คนเก็บของป่าสร้างเอาไว้เป็นที่พักแรม
ชายหนุ่มใช้เวลาเกือบตลอดทั้งบ่ายเดินสำรวจพื้นที่รอบๆ และชื่นชมกับธรรมชาติจนเต็มที่แล้วเดินย้อนกลับมาที่ลานหญ้าซึ่งกางเต้นท์ทิ้งเอาไว้ ก่อนจะลงมือทำอาหารง่ายๆ รับประทาน จากนั้นจึงเอนตัวลงนอนมองท้องฟ้าสีครามอย่างผ่อนคลาย
แต่ไม่นาน ใบหน้าของคนห้าคนก็ฉายทาบขึ้นมามาบนผืนฟ้ากว้างใหญ่
วรุฒม์ วิษณุ อิศรา ดร. สินธพ และ พล
ใบหน้านิ่งๆ ของวรุฒม์ ดวงตาคมกริบ นัยน์ตาวิบวับปนแข็งกร้าวแบบที่เขาอ่านแทบอ่านไม่ออกว่าเจ้าตัวคิดอะไรอยู่
วิษณุกับใบหน้าสดชื่น ร่าเริง เป็นมิตร ยิ้มกว้างเห็นฟันขาวสะอาด
อิศรากับใบหน้าทะเล้น ปากขยับพูดเจื้อยแจ้วอยู่ตลอดเวลา
ดร. สินธพ กับใบหน้าอ่อนโยน นัยน์ตาหวานซึ้ง ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นเจ็บปวด ขมขื่นเมื่อโดนเขาทิ้ง
และ พล กับใบหน้าเจ็บปวด...
เจ็บปวดกับการที่ถูกเขาปฏิเสธรัก และเจ็บปวดจากบาดแผลก่อนสิ้นชีวิต...

ภาพในอดีตเมื่อเกือบสองปีที่แล้วหวนกลับมา

ภีรวัสพับโทรศัพท์เก็บแล้วถอนหายใจ หากอิศรารู้ว่าเขาผิดกฎ จะต้องถูกเพื่อนรักเหยียบแน่นอน แค่สามอาทิตย์เขาก็ผิดกฎไปหลายข้อ เริ่มจากไปทานข้าวกับ ดร. สินธพในช่วงอาทิตย์ที่เป็นเวลาของอิศรา นอนกับสินธพไปแล้วตั้งแต่อาทิตย์ที่สาม และที่สำคัญ เขาเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลัง 'ชักจะชอบ' หมอหนุ่มคนนี้มากขึ้นทุกวัน ซึ่งแบบนี้หมายความว่าเป็นระยะอันตรายของการใกล้ตกหลุมรัก
สินธพกระชับอ้อมแขน ดึงภีรวัสเข้าไปแนบอก ก้มหน้าลงกระซิบข้างหูเบาๆ
"ภีร์ พรุ่งนี้อย่าเพิ่งกลับเลยนะครับ อยู่ต่ออีกซักคืน เช้าวันจันทร์ค่อยกลับ"
ภีรวัสอยากจะพยักหน้า แต่หากค้างคืนวันอาทิตย์ต่อ เขาก็จะใช้เวลาที่ตกลงกันไว้เกินไปหลายชั่วโมง หกโมงเช้าของวันจันทร์เป็นเวลาเริ่มต้นอาทิตย์ของอิศรา หากเพื่อนรักรู้ เขาคงแย่
...แต่เช้าวันจันทร์อิศราก็ต้องไปทำงาน ถ้าอิศราจะ 'ดำเนินการ' กับเป้าหมายก็ต้องรอจนกว่าอิศราหรือ ดร. สินธพจะเลิกงาน...
อีกเสียงหนึ่งในความคิดของภีรวัสประท้วง
"เอ่อ ไม่ได้หรอกครับ เช้าตรู่วันจันทร์ผมมีนัด ต้องรีบเข้าออฟฟิส ยังไงคืนนี้ก็ต้องกลับเข้ากรุงเทพฯ"
"แต่คุณบอกว่าคุณไม่เคยทำนัดเช้านี่นา"
ภีร์วัสตาโต พลาดไปถนัด สินธพเป็นคนความจำดี
"เอ่อ คือพอดี แขกวีไอพีครับ เลยต้องไป อย่าลืมนะครับ ผมเป็นพีอาร์ของโรงแรม ลูกค้าสำคัญที่สุด"
"ผมไม่ให้คุณไป" สินธพกระชับแขนแน่นเข้า เบียดอกกว้างเข้ามาจนแทบเป็นเนื้อเดียวกันกับแผ่นหลังของชายหนุ่ม "คืนนี้จะกักตัวไว้ที่นี่ ไม่ให้กลับ พรุ่งนี้อยากดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกัน"
...ตายล่ะ ทำยังไงดี...
ภีร์วัสพยายามใช้ความคิด บางครั้งเขาก็นึกเบื่อที่จะเล่นเกมนี้เสียแล้ว เขายอมรับว่าหลังๆ ที่ผ่านมา เขารู้สึกดีกับ 'เหยื่อ' สองสามคน แต่พอสองเดือนผ่านไป ไม่ถึงกลางเดือนที่สามก็ต้องตัดความสัมพันธ์ ทั้งที่ลึกๆ ก็เสียดายอยู่เหมือนกัน

...พลกับสินธพเป็นสองคนในจำนวนหลายคนที่เขาเคยคบมาซึ่งเขารู้สึกดีด้วยเป็นพิเศษ ภีรวัสอดคิดไม่ได้ว่า หากช่วงเวลาที่ใด้คบกับทั้งสองคนนั้นยาวนานเกินสามเดือน และเขาคบด้วยความมุ่งหวังที่จะมีความรักอย่างจริงจัง เขาก็คงมีความสุขยิ่งนัก...
...พลเป็นคนโรแมนติกและจริงจังกับทุกอย่าง ตอนที่พลบอกรักเขา พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน เขายืนอยู่ที่หน้าผาริมทะล ลมทะเลพัดมาเอื่อยๆ พลคุกเข่าลงแล้วกอดเอวเขาไว้ เงยหน้าขึ้นมามองด้วยสายตาที่เขาไม่มีวันลืม บอกรักเขาด้วยเสียงนุ่มนวลอ่อนโยน...
...และวันที่เขาบอกเลิกพล เขาก็ไม่มีวันลืมสายตาคู่นั้น...
...หากเขาเห็นสายตาของพลวันที่พลเสียชีวิต เขาก็คงไม่มีวันลืมเช่นกัน...
...คำพูดประโยคสุดท้ายของพลที่เขาได้ยินทางโทรศัพท์นั้นไม่อาจลบเลือนไปได้...
… “ผมจะรักคุณจนวันตาย”...
...คนเราจะรักใครจนวันตายได้จริงๆ หรือ...

***18***
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 18 (6/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: teenza ที่ 06-10-2009 22:33:40
อ่านตอนนี้แล้วแอบเศร้า
เกมนี้เล่นไปเจ็บไป
ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นไงนะ
ขอบคุณ คุณนาย เป็นกำลังใจให้กับการทำthesis และหาเมีย :z1: อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 18 (6/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: alterlyx ที่ 06-10-2009 22:42:16
สับสนวุ่นวาย ... จับต้นชนปลายไม่ถูก  o22 o22

บทจะเล่นเกมส์รุก ก็สนุก เร้าใจดีอยู่แล้วน๊า
พอเปลี่ยนมาลองเชิงคู่ต่อสู้กันหมด ... เกมส์ชะงักแบบนี้ ... อึดอัดสุดๆ
สงครามจิตวิทยา .... จะทำให้กลายเป็น เกมส์ที่มีแต่ผู้แพ้ มั้ยเนี่ย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 18 (6/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: *SparklinG* ที่ 06-10-2009 22:59:44
 :pig4:  ตอนนี้เศร้าดีแท้.... TT W TT
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 18 (6/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Zarch_Chabu_Chabu ที่ 06-10-2009 23:21:31
 :sad4:เศร้า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ:
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 06-10-2009 23:29:30
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดเจ้า่ป่าเจ้าเขา
งานนี้รู้สึกคุณภีร์กลายเป็นเหยื่อของเกมส์ซะเอง
ทำไมหนออยู่ๆผู้ชายที่เล็งไว้ก็เปลี่ยนไปปุบปับดันไปแข่งกันจีบ
เพื่อนก้อนอิฐซะอย่างนั้น โหยยยยยยโคตรเสียหน้า โคตรเสียใจ
โคตรเสียเชิง เฮ้อ ทำแบบนี้คุณผู้พันคงคิดดีแล้วชิมิคะ
จะดัดนิสัยเด็กดื้อให้ทำอะไรใ้ช้ใจมากกว่าสมองบ้าง
อย่าเล่นกับใจคนอื่นง่ายๆ คิดจะทิ้ง คิดจะรักมันไม่ได้ตัดกันให้ขาดฉับๆ
ง่ายดายแบบนั้นซะหน่อย :เฮ้อ: ขนาดกับเพื่อนก้อนอิฐ ภีร์ยังปากแข็ง
ใจแข็งเลยเน้ งานนี้ต้องทำใจเย็นเข้า่ข่มสุดพลัง
“คงรู้เองมั๊ง ถ้าปล่อยให้หัวใจสัมผัสเองก็คงจะรู้เอง”
>> คุณหมอเยี่ยมจริงๆ รอก้อนอิฐกลับมาคืนรังนะคะคุณหมอ อย่าดีแตกล่ะ
ถึงอิศราจะแฮดแต่ก็ใจอ่อนอยู่นะ ไม่เหมือนอีกรายนั่น
“แย่จังเลย ผมกับวิษณุต้องกลายมาเป็นคู่แข่งกัน แต่ก็ไม่เป็นไร
ผมต่อให้วิษณุไปก่อน จากนั้นจะเป็นทีของผมบ้าง เราเป็นเพื่อนรักกัน ก็ต้องเล่นกันแฟร์ๆ”

>> เกมส์ใหม่ เงื่อนไขใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น หึหึ ยิ่งกว่าปั่นหัวอีกเน้อ
เพราะมันกำลังจะบั่นทอนจิตใจและความเชื่อมั่นของตัวเอง เหมือนว่า...
ที่ผ่านๆมา คุณภีร์ทำอะไรผิด หรือพลาดไปตรงไหนกัน ถึงไม่สามารถใช้เสน่ห์
ที่มีของตัวเอง ดึงดูดผู้พันคนนี้ได้เลย เ้ฮ้อออออออออ เสียหน้านะเนี่ย คุณภีร์ :กอด1:

...ภีรวัสนะภีรวัส ปากแข็งจริงๆ คอยดูเถอะ
เขาจะทำให้ร้องไห้จนต้องวิ่งเข้ามาซบอกและอ้อนวอนให้เขาเช็ดน้ำตาให้...

>> คุณภีร์นะเหรอ จะทำ เหอะๆ แต่ถ้าร้องไห้กับตัวเองอ่ะไม่แน่
เพราะดูท่า ตอนนี้กำลังจะเหงาสุดๆ สับสนสุด อ่อนแอด้วย เฮ้อออออออออ
จะมีใครมาปลอบใจมั๊ยเนี่ย
“จะยังไงก็แล้วแต่ จริงหรือเล่น แกก็ต้องหลบให้ดี อย่าใจอ่อนเด็ดขาด
 อย่าเสียดายความหล่อล่ำจนพ่ายแพ้ต่ออารมณ์ดิบของตัวเอง

>> ชมเพื่อนซะฮา คนอ่านจะบ้าตาย :m20: :laugh: :pigha2:

“นี่ยังนึกภาพจินตนาการ sexual fantasy อยู่เลยนะว่า
สองทหารบึกบึนผลัดกันประกบแซนวิชเรา”

>> แหมๆแม่คุณเปรี้ยวสมใจคนอ่านจริ๊งจริง

+1 คนแต่งผู้มากกิจกรรม ภาระกิจแยะเชียว แต่ภาระกิจตามล่าหาภรรยาเนี่ย
ขอให้บรรลุไวไวนะคะ ส่วนเรื่องโทรศัพท์ คิดเสียว่าของนอกกายนะคะหายแล้วหาใหม่เน้อ
(นะโมๆ)  



หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 18 (6/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: gboy ที่ 06-10-2009 23:34:39
 :sad4:
เศร้าอะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 18 (6/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 06-10-2009 23:38:27
กรรมมันติดจรวดจิงๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 18 (6/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: aimaim ที่ 07-10-2009 01:16:52
 :sad4: :sad4: ทนไม่ไหวแล้ว ( วิ่งไปซบอกคุณนายร้องไห้ได้ไหมเนี่ย )  :o12:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 18 (6/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: kunkai ที่ 07-10-2009 01:45:30
อิศรา   ตอนแรกเหมือนจะร้าย
ไปๆมาๆ   ภีรวัสร้ายยิ่งกว่า
เอาแต่ใจ   ไม่ฟังใคร :เฮ้อ:
อย่างนี้ต้องให้น้ำตาตก   ชอกช้ำระกำใจถึงจะสาสม(อินไปหน่อย   แหะๆ) :m16:
 :pig4:ค้าบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 18 (6/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Resonance ที่ 07-10-2009 01:52:57
เล่นแง่กันเข้าปายยยย    :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 18 (6/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 07-10-2009 06:20:46
ภีรวัสใจร้อนเกินไปอะ แทนที่จะฟังคำสารภาพจากอิศราบ้าง

อิศราก็เหมือนกัน น่าจะกะล่อนๆหน่อย สารภาพแบบไม่มีเกริ่นนำ หรือบอกประโยคสำคัญๆไปเลยก็ได้



แต่ก็นะ ถ้าเป็นอย่างที่ว่าจริง เรื่องมันก็ไม่ยุ่ง ไม่น่าติดตามอย่างตอนนี้สิเนาะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 18 (6/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 07-10-2009 10:19:48

กดบวกให้คนเขียนที่ท่าทางจะยุ่งมากกกกกกกกกกกกกกก  กดบวกให้พลกับฉากคุกเข่ากอดเอวบอกรัก

ถ้าเป้นเราโดนทำแบบนั้นบ้าง  แม่จะสลัดผ้าทิ้งแถวนั้นเลยคะ

ไม่รอช้า

แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยส์ เม้นต์ยาวอีกแระส์

แต่ไม่เป็นไร เพื่อพล คนน่ารัก  :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 18 (6/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 07-10-2009 10:26:06
Heart Game Chapter 19

อิศราพยายามเรียบเรียงคำพูดให้เข้าใจง่ายเพราะตระหนักดีว่าตัวเองเป็นคนพูดจาสับสนหากตกอยู่ในสถุานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน น้ำเสียงของชายหนุ่มร้อนรนเมื่อเล่าเรื่องของภีรวัสให้วิษณุฟัง
“ภีร์ไม่เคยหายไปนานขนาดนี้เลยนะครับผู้พัน ถึงจะโกรธผมยังไงก็ไม่เคยงอนให้วกันเกินครึ่งวัน เราคุยกันทุกวันวันละหลายครั้ง แต่ส่วนมากคุยกันไม่ค่อยนานเพราะทะเลาะกันเสียก่อน ถ้าคุยนานก็ไม่เกินสิบห้านาที วันนี้ผมโทรหาเท่าไหร่ก็ไม่ติด แต่ว่าจะติดได้ยังไงเนอะ ในเมื่อภีร์เข้าไปกางเต้นท์ในป่า แต่เห็นพวกบริษัทโทรศัพท์โฆษณาว่าอยู่ไหนๆ ก็โทรได้ สรุปแล้วคงโกหกประชาชน แต่ภีร์บอกว่าจะไปแค่สองวันเอง ผมไม่รู้ว่าสองวันนี่คือสองคืนสามวันหรือสามสองวันหนึ่งคืน แต่ที่แน่ๆ นี่มันสามวันครึ่งแล้วนะครบ ไม่รู้จะโดนเสือลากไปกินหรือเปล่า”
“คุณอิศราครับ คงไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ” วิษณุแทรกหลังจากทำใจเย็นฟังอิศราพูดมานานพอสมควร รู้สึกฉุนปนขำที่อิศราพูดถึงเพื่อนแบบนั้น “ผมจะรีบบอกวรุฒม์ให้ตามหา”
“อ้าว แล้วผู้พันจะไม่สนใจช่วยตามหรือครับ” อิศราโวยวาย “จะโยนให้คนอื่นเฉยเลยหรือ”
“ตามสิครับ ก็ช่วยกันนี่ล่ะ” วิษณุตอบ “คุณอิศราไม่ต้องเป็นห่วง”
“ผมกลัวว่าภีร์จะหลงป่า เดินข้ามไปพม่า โดนทหารพม่าจับไปทรมานเพราะนึกว่าเป็นสายลับ คราวนี้ล่ะแย่เลย ยิ่งภีร์ชอบทำหน้าทำตาลึกลับอยู่ด้วย”
“คุณอิศรา” วิษณุทำเสียงเข้ม “ผมบอกแล้วไงว่าไม่ต้องเป็นห่วง”
“บอกตอนไหน” อิศราถาม
“ก็...” วิษณุกำลังจะตอบ แต่ก็เปลี่ยนใจเพราะคิดว่าคงต้องคุยกันอีกยาว “ผมจะรีบตามหา”
“ผมจะรีบไปช่วย” อิศราพูด
“อย่ามาเที่ยวบินบ่ายนะครับ มาเที่ยวบินสายๆ จะได้ไม่ถึงเย็น ผมเป็นห่วง พอถึงแม่สอดแล้วให้รีบโทรหาผม อย่าเถลไถลแวะตามแม่อื่นๆ เด็ดขาด”
“โดยเฉพาะแม่ป่าละเมาะ” อิศราหัวเราะเบาๆ รู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้างเมื่อได้บอกเล่าเรื่องราวการหายตัวไปของภีรวัสให้วิษณุฟัง
“ผมกลัวแต่ว่าคุณจะหลงไปตำบลแม่หลายใจนะสิครับ”
“อย่ามาแนะนำแหล่งเที่ยวแห่งใหม่นะ จะหาผมไม่เตือน เดี๋ยวก็ไปจริงๆ หรอก” อิศราทำเสียงไม่พอใจ “ว่าแต่ผู้พันเถอะ อยู่ห่างกันแบบนี้ ห้ามคิดอะไรนอกลู่นอกทางเด็ดขาด”
วิษณุรับปากแล้วรีบวางสายก่อนจะเร่งเดินไปดักรอวรุฒม์ที่หน้าห้องประชุม นายแพทย์หนุ่มรออยู่เกือบยี่สิบนาทีวรุฒม์ก็เดินออกมา หน้าตาเคร่งเครียด ทันทีที่เห็นวิษณุที่ยืนรออยู่จึงพูดว่า
“ต้องรีบเข้ากรุงเทพฯ นายมีอะไร มารอทำไม”
“คุณภีรวัสหาย” วิษณุพูดสั้นๆ
“หาย” วรุฒม์เลิกคิ้วแล้วเปลี่ยนเป็นขมวดคิ้ว “หมายความว่ายังไง”
“คุณอิศราบอกว่าคุณภีรวัสไปเดินป่าและหายไปสามวันแล้ว ติดต่อไม่ได้ ที่จริงเราแวะไปดูที่บ้านทุกวันตอนค่ำๆ ก็ไม่เห็นกลับบ้านซักคืน”
“นายไปทำไม” วรุฒม์พูดเสียงห้วน
“คุณอิศราวานให้เราช่วยไปดูเพื่อน” วิษณุตอบ “แล้วทำหน้าดุทำไมล่ะเนี่ย”
“แล้วรอจนถึงป่านนี้ ทำไมไม่คิดอะไรได้ตั้งแต่ตอนไม่เห็นกลับบ้าน” วรุฒม์เสียงห้วนยิ่งกว่าเดิมแล้วเดินเร็วแทบจะเป็นวิ่งตรงไปยังห้องทำงานของตัวเอง
“เราก็นึกว่าเขาจะไปเที่ยวสั่งลาแล้วกลับบ้านค่ำๆ ไม่มีอะไรมาก เพราะวันศุกร์คุณภีรวัสก็จะย้ายกลับกรุงเทพฯ อยู่แล้ว”
“อะไรนะ” วรุฒม์หันขวับมามองวิษณุที่เดินตามหลังมาติดๆ สามสี่วันที่ผ่านมาเขามีงานยุ่งมากจนแทบไม่มีเวลากระดิกตัวทำอย่างอื่น
...ตอนนี้วิษณุมาบอกเขาว่าภีรวัสหายตัวไป หรือจะเรียกให้ถูกว่าหลงป่า ส่วนเขาก็ต้องเดินทางเข้ากรุงเพทฯ ด่วน และภีรวัสก็จะกลับกรุงเทพฯ...
“วิษณุ” วรุฒม์ถอนหายใจออกมาแรงๆ มือที่กำลังจับลูกบิดประตูห้องทำงานค้างเติ่ง ตามองป้ายชื่อหน้าห้องทำงานตัวเองแล้วหันมาหาเพื่อนช้าๆ พูดด้วยเสียงหนักใจว่า “เราต้องเข้ากรุงเทพฯ กับท่านแม่ทัพภาค นายเอาผู้กองอนันต์กับหมวดสกลไป สองคนนั้นชำนาญพื้นที่ หาให้พบ ไม่พบไม่ต้องกลับมา”
“ดุจริงแฮะ” วิษณุทำหน้ามุ่ย “เป็นห่วงเขาละสิ”
“เจอตัวแล้วจะดุให้ดู ไปเดินป่าแม่ฮ่องสอนคนเดียวแบบนี้ไม่กลัวตายหรือยังไง” วรุฒม์เค้นเสียง ขบกราม ท่าทางเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด

วรุฒม์ยอมรับว่าใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ตลอดเวลาที่ประชุมอยู่ในกรุงเทพฯ เขาแทบหาเวลาเป็นส่วนตัวไม่ได้ หนำซ้ำผู้บัญชาการทหารบก พ่อของพลก็สั่งให้เขาอยู่ข้างกายเพื่อช่วยเรื่องงานสำคัญจนเวลาผ่านไปถึงสองทุ่มครึ่งจึงมีโอกาสได้คุยกับวิษณุ
“ยังไม่เจออีกหรือวิษณุ สองทุ่มครึ่งแล้วนะ ตั้งแต่บ่ายจนถึงตอนนี้ไม่ได้เรื่องอะไรเลยหรือไง” วรุฒม์น้ำเสียงฉุนเฉียว
“กำลังระดมกำลังตามหากันอยู่ นายไม่ต้องเป็นห่วง” วิษณุตอบ
“ไม่ห่วงได้ยังไง นี่วันที่สี่แล้วนะ”
“คืนที่สาม” วิษณุพูดเสียงเบา “คุณภีรวัสเขาคงเตรียมอาหารไปพอหรอกน่า ไม่แน่ เขาอาจจะกลับมาพรุ่งนี้ก็ได้”
“วิษณุ เดินป่าคนเดียวสามคืนสี่วันนี่นะ เป็นนายจะทำไหม อาจจะทำเพราะนายเป็นทหาร แต่คุณภีรวัสเป็นหนุ่มกรุงเทพฯ”
“ถ้าเป็นคุณอิศรานั่นอาจไปเช้าเย็นกลับ” วิษณุโต้ “แต่คุณภีรวัสเป็นนักวิจัย ท่าทางสมบุกสมบันมากกว่า นายอย่าเพิ่งกังวลมากเกินไปเลยน่า แล้วไม่ต้องโทรมาทุกชั่วโมงก็ได้ ไหนบอกว่างานยุ่งมาก หาเวลาแทบไม่ได้ยังไงล่ะ ได้เรื่องยังไงจะติดต่อกลับไป รับรองว่าจะเอาของรักของนายไปส่งให้ถึงที่”
“วิษณุ” วรุฒม์กระชากเสียง แต่ปลายสายวางหูไปเสียแล้ว นายทหารหนุ่มจึงได้แต่กัดฟัน แต่ก็ต้องรียบเก็บโทรศัพท์เมื่อหันไปเห็นผู้บัญชาการทหารบกพ่อของเพื่อนรักกวักมือเรียก
...ของรักของเขายังงั้นหรือ จะเรียกยังงั้นก็ใช่ แต่จะเรียกว่าเป็นคนขโมยหัวใจเขาไปจะถูกกว่า...

วิษณุตื่นขึ้นมารับโทรศัพท์ตั้งแต่เช้ามืด คนที่โทรมาต่อว่าเขาทันทีที่รับสายด้วยเสียงงัวเงีย
“นี่เพิ่งตีห้าครึ่งนะรุฒม์ คนค้นหาก็ต้องนอนบ้างสิ” วิษณุบ่น
“แล้วนี่พักกันที่ไหน นอนกันยังไง จะออกไปหาต่ออีกเมื่อไหร่”
“นายเป็นห่วงพวกเราด้วยหรือว่าจะนอนกันยังไง หรือกลัวว่าพวกเราจะกลับมานอนในเมือง แต่เราว่านายห่วงคุณภีร์มากกว่ามั๊ง” วิษณุประชด
“อย่าประชดนะวิษณุ เราไม่ชอบ” วรุฒม์เสียงเข้ม
“นายก็อย่าเร่งนัก” วิษณุทำเสียงเข้มเหมือนกัน “นี่ผู้กองอนันต์กับผู้หมวดสกลแทบไม่ได้นอน เอาทหารมาลาดตระเวนตามหาหัวใจให้ผู้บัญชาการกองพัน แม่ทัพภาคฯ รู้เดี๋ญวได้โดนจับขังคุกทหารกันหมดหรอก คนไข้เราก็นอนพะงาบๆ อยู่ที่โรงพยาบาล”
“ปากเก่งขึ้นนะวิษณุ ตั้งแต่เป็นแฟนกับอิศรานายรู้จักพูดนะ” วรุฒม์เหน็บแนม
วิษณุส่ายหน้าช้าๆ รู้สึกว่าวรุฒม์กำลังจะกลายเป็นคนเจ้าอารมณ์และไม่มีเหตุผลขึ้นมาทันใด เท่าที่รู้จักกันมา เพื่อนของเขาเป็นคนเคร่งขรึม สุขุม รอบคอบ นิ่งและลุ่มลึก แต่ตอนนี้ดูหงุดหงิด ฉุนเฉียย และพาล
ยังไม่ทันที่วิษณุจะได้พูดอะไรต่อมือนุ่มๆ ของคนที่นอนอยู่ข้างๆ ก็ยกขึ้นป่ายปะอยู่บนใบหน้าของเขาและในที่สุดก็คว้าโทรศัพท์จากมือของเขาไปและกดตัดสาย
“เลิกคุยซะที มานอนกอดกันเถอะ” อิศราพูดเสียงอู้อี้ แล้วซุกเข้ากับอกของวิษณุ
นายแพทย์ทหารหนุ่มอมยิ้มแล้วดึงร่างอุ่นๆ ของอิศราเข้ามา รัดด้วยท่อนแขนแข็งแรงจนอีกฝ่ายดิ้นขลุกขลัก วิษณุคลายวงแขนออก แต่ชายหนุ่มขี้เล่นกลับล้วงมือเข้าไปในกางเกงของเขาแล้วเกาะกุม 'ส่วนนั้น' เอาไว้
“อุ่นดี” อิศราพูดเบาๆ
อิศราบอกว่าชอบทำแบบนี้เพราะทำให้นอนหลับสบาย วิษณุก็เห็นด้วย มืออุ่นๆ ของอิศราที่กุมส่วนนั้นของเขาเอาไว้วทำให้เขาหลับสบายเช่นกัน พอๆ กับการที่เขาได้สอดมือเข้าไปเกาะกุมบั้นท้ายเนียนๆ ของชายหนุ่มเอาไว้ตอนนอน
...อิศรากำลังเติมเต็มชีวิตของเขา และเขาก็อยากให้ชีวิตของวรุฒม์ได้รับการเติมเต็มบ้าง หัวใจของวรุฒม์แห้งแล้งมานานเกินไปแล้ว และเขาหวังว่า คราวนี้ทุกอย่างคงเป็นไปได้ด้วยดี...

อิศราเหนื่อยแสนเหนื่อยแต่ก็พยายามเดินตามกลุ่มค้นหาภีรวัสให้ทัน วิษณุดูเหมือนจะเดินช้าลงเพราะห่วงเขา จนในที่สุดก็เดินย้อนกลับมาแล้วบอกว่าเมื่อถึงที่พัก จะให้อิศราคอยอยู่ที่หน่วยวิทยุบนเขา
“จะทิ้งผมใว้กลางป่ายังงั้นหรือ ผมไม่ยอมหรอก” อิศราทำปากยื่นอย่างไม่พอใจ พร้อมกับทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเพราะรู้สึกเจ็บเท้าเป็นอย่างมาก
“ผมสงสารคุณ ไม่อยากให้ลำบากกว่านี้” วิษณุพูดเสียงอ่อนโยน
“ผมแข็งแรงยังกับแรดป่า ผู้พันไม่ต้องมาห่วง ผมจะไปตามหาเพื่อน” อิศรายังดันทุรัง
“ผมรู้ว่าคุณเป็นห่างคุณภีรวัส แต่เราเคลื่อนที่ได้ช้ากว่าที่ควร ถ้าคุณรออยู่ที่นี่การค้นหาก็จะเร็วขึ้น” วิษณุอธิบายด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ
“ผู้พันว่าผมเป็นตัวถ่วง” อิศราหน้ามุ่ย ก้มหน้าลงมองพื้นหญ้า
“เปล่านะครับ” วิษณุปลอบ “ผมเป็นห่วงคุณ เจ็บเท้าจะแย่อยู่แล้ว นี่สงสัยคงถลอกจนเป็นแผล”
“รู้ได้ยังไง” อิศราเสียงอ่อย
“ทำไมผมจะไม่รู้ ผมเป็นหมอนะครับ”
“หมอวิเศษหรือยังไง ไม่ได้ถอดรองเท้าออกมาตรวจ รู้ได้เลยหรือว่าเท้าผมเป็นแผล” อิศราพูด ในใจนึกสงสัยอย่างที่พูดจริงๆ
“เดี๋ยวผมทำแผลให้ ไปให้ถึงตรงโน้นก่อน” วิษณุบุ้ยปากไปยังสันเขาและทหารทีมค้นหาที่เดินนำหน้าไปก่อน “นะครับที่รัก ถึงหน่วยวิทยุแล้วคุณพักรออยู่ที่นั่น”
“แล้วคืนนี้” อิศราทำหน้าเศร้า
“ต้องดูสถานการณ์ก่อน คุณไม่ได้อยู่คนเดียวหรอก มีทหารประจำหน่วยอยู่ด้วย ไม่ต้องกลัว”
“กลัวว่าผมจะเดินละเมอออกไปปล้ำทหารยามนะสิ” อิศราเบ้ปากแล้วออกเดินทางต่อ วิษณุหัวเราะเบาๆ แล้วท้าทายอิศรา ก่อนจะคาดโทษเอาไว้ว่าหากนอกใจเขา จะจับยิงเป้า
“ไม่กลัวหรอก จะจับผมยิงเป้า จะฆ่าผมหมกป่า ผมก็ไม่กลัว ผมจะหนีเข้ากรุงเทพฯ”
“ก็ถ้าคุณโดนผมยิงเป้าหรือถูกฆ่าหมกป่าแล้วจะหนีเข้ากรุงเทพฯ ได้ยังไง” วิษณุท้วง
“ไม่รู้ล่ะ ถ้าผู้พันโหดร้ายกับผม ไม่ว่ายังไง ผมก็จะไม่อยู่ด้วย” อิศราตอบเสียงสะบัด
“แสดงว่า ถ้าผมดีกับคุณ รักคุณคนเดียว ตามใจคุณทุกอย่าง คุณจะอยู่ที่นี่กับผมใช่หรือเปล่าครับ” วิษณุยิ้ม ถามคำถามที่เขาอยากได้คำตอบแล้วกลั้นหายใจรอฟัง
“ไม่รู๊” อิศราส่ายศีรษะ ปฏิเสธเสียงสูงแล้วก้มหน้าเดินต่อไปโดยไม่พูดจา โดยมีนายทหารร่างสูงเดินตามมาไม่ห่างด้วยใบหน้ายิ้มๆ
...ผมไม่ให้คุณไปไหนหรอกอิศรา ส่วนเรื่องจะไปทำเจ้าชู้กับใครที่ไหนนั้นอย่าหวังเลย เป็นของผมแล้วก็ต้องเป็นของผมคนเดียว...

วรุฒม์ยิ่งหงุดหงิดมากกว่าเดิมเมื่อติดต่อวิษณุหรือคนอื่นๆ ในทีมค้นหาภีรวัสไม่ได้ เขาแทบไม่มีสมาธิในการประชุม จนแม่ทัพภาคฯ ปรายตามองเขาบ่อยๆ เมื่อตอบคำถามวนไปวนมาจนผู้ช่วยของเขาต้องเป็นคนพูดแทน ครั้นถึงเวลาทานอาหารกลางวัน วรุฒม์ปลีกตัวออกไปโทรศัพท์ แต่ก็ยังติดต่อใครไม่ได้อยู่ดี นายทหารหนุ่มอารมณ์เสียมากจึงยกมือขึ้นทุบผนังด้วยความขุ่มเคือง พร้อมๆ กับที่มีมือวางทาบบนไหล่
“”โทรหาใครหรือวรุฒม์” เสียงของผู้บัญชาการทหารบกดังขึ้น วรุฒม์สะดุ้ง หันหน้าไปยิ้มแห้งๆ แล้วบอกว่าโทรหาวิษณุ
“มีเรื่องอะไรกัน”
“เปล่าครับ” วรุฒม์ตอบโดยไม่คิดเพราะลืมตัว แต่ก็รีบยืดตัวตรงเพราะท่านผู้บัญชาการฯ ขมวดคิ้วทำหน้าไม่พอใจที่เพื่อนของลูกชายซึ่งมีศักดิ์เป็นญาติกันด้วยนั้นตอบอะไรไม่เข้าท่า
“ผมเป็นห่วงเรื่องที่ขอร้องให้วิษณุช่วยทำครับ ติดต่อไม่ได้ตั้งแต่สายๆ แล้วครับ” วรุฒม์ตอบใหม่
“ลุงถึงถามว่าเรื่องอะไร”
“เรื่องตามหาคนครับ” วรุฒม์ตอบชัดถ้อยชัดคำสมกับเป็นทหาร แต่ก็ยังขยักเอาไว้ไม่บอกว่าเป็นใคร
“ที่นี้ลุงก็คงต้องถามต่อว่าตามหาใคร”
“เพื่อนครับ ชื่อ...” วรุฒม์อ้ำอึ้ง
“หือ” ท่านผู้บัญชาการทหารบกเลิกคิ้วรอฟัง แต่เพื่อนของลูกชายยังไม่ตอบจึงเติมเอาเองว่า “เพื่อนหรือแฟน”
วรุฒม์ถอนหายใจเบาๆ รู้สึกอึดอัดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน พ่อของพลทำหน้านิ่งเรียบอยู่ชั่วครู่แล้วพูดในสิ่งที่ทำให้พันโทหนุ่มแทบจะตะโกนออกมาด้วยความยินดี
“งั้นก็กลับไปช่วยวิษณุตามหาซะ อยู่นี่แล้วขวางหูขวางตา ไหนๆ บ่ายนี้ก็จะเสร็จประชุมแล้ว แต่ก่อนไป มอบหมายงานให้เรียบร้อย คงไม่ยากหรอกมั๊งเพราะผู้พันทรงศักดิ์เป็นคนช่วยพูดช่วยอธิบายมาตลอดแล้วนี่นะ ลุงจะคุยกับท่านแม่ทัพภาคฯ ให้”
“ครับผม ขอบคุณครับ” วรุฒม์ยืนตรง ยกมือทำความเคารพผู้บัญชาการทหารบกแล้วรีบหันหลังเดินจากไปเพื่อจัดการเรื่องต่างๆ ให้เรียบร้อย

วิษณุเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเมื่อใกล้ถึงกระท่อมไม้เก่าๆ ริมลำธาร ในใจได้แต่ภาวนาว่าจะเจอภีรวัสอยู่ในกระท่อมตามที่คาดเดา เมื่อสองชั่วโมงที่ผ่านมา เขาได้รับรายงานจากหน่วยวิทยุว่าปลัดอำเภอแม่สะเรียงแจ้งมาว่าได้แนะนำเส้นทางเดินป่าให้แก่ภีรวัส นักวิจัยหนุ่มที่เขาเพิ่งทำความรู้จักกันในร้านอาหารในตัวอำเภอเมื่อห้าวันที่แล้ว
วิษณุนำหน่วยค้นหา 'หัวใจ' ของเพื่อนรักเดินทางมาจนถึงลานหญ้าใกล้กับสันเขาและพบเต้นท์ขาดๆ กองอยู่ใต้ต้นไม้รวมทั้งร่องรอยของคนพักค้างแรม เขาจึงมั่นใจว่าเป็นจุดที่ภีรวัสมาพัก พอๆ กับที่กังวลใจว่าอาจจะเกิดอะไรไม่ดีขึ้นกับชายหนุ่ม หมวดสกลสันนิษฐานว่าภีรวัสคงเจอลดกระโชกแรงจนเต้นท์พัง จึงอาจไปหาที่พักแห่งอื่น
“ไม่มีครับผู้พัน แต่คุณภีรวัสคงพักที่นี่แน่ๆ แปลแขวนอยู่ในกระท่อม ข้าวของทุกอย่างวางไว้เป็นระเบียบ ผมคาดว่าเมื่อคืนคงไม่ได้พักอยู่ที่นี่” หมวดสกลรีบรายงาน
“ทำยังไงดี” วิษณุพึมพำ ในใจถามตัวเองว่าจะบอกวรุฒม์ยังไงดี อีกไม่่นานฝ่ายนั้นก็คงติดต่อศูนย์วิทยุและสั่งการให้คนวิทยุมาถามเขาจนได้
“ผู้พันครับ ผู้พันวรุฒม์ต้องการพูดด้วย” ทันใด ร้อยเอกอนันต์ก็เดินเข้ามาใกล้แล้วยื่นวิทยุสื่อสารให้
“คิดว่าเขาจะไปไหนอนันต์” วิษณุถาม แต่หมวดสกลพูดแทรกขึ้นมาว่า
“ผมว่าต้องเดินไปตามลำธารนี้แน่”
“จริงสิ” วิษณุพยักหน้า แล้วพูดกับวรุฒม์ “เราเจอร่องรอยแล้วรุฒม์”
“เจอร่องรอยยังงั้นหรือ ทำไมยังไม่เจอตัวอีก ถ้าเป็นตัวประกัน ป่านนี้คงตายไปแล้ว” วรุฒม์เสียงห้วน วิษณุส่ายหน้าแล้วเดินออกห่างจากผู้ช่วยทั้งสอง
“สองวันแล้วนะวิษณุ ทำไมยังไม่ได้เรื่องกันอีก” เสียงของวรุฒม์ร้อนรน
“ครับท่าน เรากำลังตามหาอยู่” วิษณเริ่มฉุน “บอกแล้วไงว่าเจอร่องรอยแล้ว อีกหน่อยก็คงเจอตัว เราว่ารุณภีรวัสคงตามลำน้ำลงไปทางตีนเขา อาจจะกลัวหลงทาง”
“นายรีบตามไป” วรุฒม์สั่ง “นี่ใกล้ค่ำแล้ว จะลำบากเรื่องที่หลับที่นอน เรากำลังออกจากกรุงเทพฯ ไปช่วยอีกแรง”
“ขอบใจที่เป็นห่วงเรื่องที่หลับที่นอน” วิษณุกระแทกเสียงแล้วเลิกการสนทนา เดินย้อนกลับมาหาผู้กองอนันต์กับหมวดสกล แล้วยื่นวิทยุสื่อสารให้ ก่อนจะสั่งให้ทุกคนตามหาภีรวัสโดยใช้เส้นทางตามธารน้ำมุ่งลงไปทางทิศใต้
“แล้วคุณอิศราล่ะครับ” หมวดสกลถามด้วยความห่วงใย
...นั่นสิ อิศราอยู่ที่บ้านพักหลังเล็กของหน่วยวิทยุกับพลทหารสองคน ซึ่งบังเอิญหน้าตาค่อนข้างดี ป่่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง พลทหารสองนายนั้นจะเอาตัวรอดได้ไหมเขาไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ เขาไม่อยากทิ้งอิศราเอาไว้...
...ไม่ไว้ใจเลยจริงๆ...
วิษณุถอนหายใจเบาๆ อยากสั่งให้ทีมค้นหาล่วงหน้าไปก่อน ส่วนเขาจะย้อนกลับไปรับอิศรา แต่เมื่อนึกถึงภีรวัสที่กำลังเดินบุกป่าฝ่าดงไปเรื่อยๆ ก็อดสงสารไม่ได้
...สงสารวรุฒม์ที่ทำเสียงเหมือนกำลังจะคลั่ง...
...เฮ้อ ความรักหนอความรัก ทำไมมันทำกับคนได้ถึงเพียงนี้ เขาไม่อยากจะนึกเลยว่า หากภีรวัสเป็นอะไรไป วรุฒม์จะคลั่งขนาดไหน ตอนที่พลเสียชีวิต วรุฒม์เสียใจมากที่เพื่อนจากไป แต่ก็เก็บความรู้สึกเอาไว้มิดชิดสมกับที่เป็นวรุฒม์ หากวรุฒม์เสียภีรวัส เพื่อนของเขาจะควบคุมอารมณ์ตัวเองได้เพียงใด แต่เห็นได้ชัดว่าตั้งแต่รู้ว่าภีรวัสหายไป วรุฒม์ควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้...

****19***
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 18 (6/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 07-10-2009 10:40:53
ูู^
^

นึกว่าใครปาด   :z1: ว้าววววววววมาแล้ววววว  :mc4: เด๋วมาเม้นตอนสิบเก้าจ้า  ขอไปอ่านก่อน


สงครามจิตวิทยา .... จะทำให้กลายเป็น เกมส์ที่มีแต่ผู้แพ้ มั้ยเนี่ย
เห็นด้วย  ถ้ายังเป็นแบบนี้เห็นที่คงมีแต่ผู้แพ้  

มันยุ่งยากนัก งั้นเราก็กลับไปทำงานวิจัยของเราดีกว่าภีร์  

ไม่ต้องสนใจมันแระ

ชักหมั่นไส้ วรุต ขึ้นมาหน่อยแระ  

อยากจะให้วิ่งไปซบอกเหรอ  ชิส์ หนีไปเลย

ยังอยากจะเล่นสงครามก็เล่นไปคนเดียวเถอะ  ตบๆๆๆๆ

คงหนุ่มเย้ยเลย   (เข้าข้างสองเพื่อนเลิฟเต็มที)


ส่วนอิศราของเจ้  จุ๊บๆๆๆ  น่ารักกกกกก  

แต่ตอนนี้ดูอิศราเครียดๆหน่อยๆเนอะ  

+1 ค่ะ  
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 19 (7/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 07-10-2009 10:53:40
มีคนคลั่ง (รัก) ขึ้นมาแล้ว ดีใจจัง สะจรายยยยยย  :laugh:

อิศราตกลงเป็นแฟนกะคุณหมอแล้วดีจัง เรื่องนี้ไม่มีหลายคู่ให้คนอ่านต้องเดาเอาเอง ตอนนี้ก็เหลือแต่ตามหาภีร์ให้เจอ (ภีร์ตั้งใจหนีไปซ่อนอ่ะป่าวเน้อ)

พี่นายงานยุ่งจนน่าอิจฉา อิอิ :impress2: หาเมีย เมียไม่มีมีแต่กิ๊กอ่ะป่าวคับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 19 (7/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 07-10-2009 11:26:54
กำลังสนุกเลย ตามหาหัวใจกันเป็นการใหญ่ หวังว่าทุกคนจะสมหวังนะ :laugh:

ปล.ขอตอนจบที่ถูกใจคนอ่านเถอะนะคะ ขอร้อง.....
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 19 (7/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: aimaim ที่ 07-10-2009 11:52:58
เอาล่ะสิผู้พันที่รัก คลั่งให้ตายไปเลย กร๊ากกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 19 (7/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 07-10-2009 12:22:44

ว่าจะกดบวก  เสียแต่ว่ามันกดซ้ำภายใน ๑๒ ชม ไม่ได้ อิอิ

ปล. เอ... ชั่วโมงมันเขียนย่อว่าไงคะ? ชม/ชม./ช.ม.  แล้ว เชียงใหม่ล่ะ ย่อยังไง  :really2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 19 (7/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 07-10-2009 12:23:27
 :m1: :m11: :m3:
คุณอิศรามีซะมีเป็นตัวเป็นตนซะทีนะคะ
ไม่ต้องเที่ยวไปเล่นเกมส์หัวใจกับใครอีกแล้วนะ
ถึงจะยังแฮดตามวัยและยังคะนองปากเหมอืนเคย
แต่ก็ยังแสดงอาการห่วงหวงคุณหมอวิษณุเหมือนเคย
ก็นะเจอคุณซะมีดักทางเรื่องแวะตามแม่ๆเนี่ย โคดจะฮา
ไก่เห็นทีนงู  งูเห็นนมไก่จริงๆ ให้ตายเถอะ

ส่วนคุณภีร์หายไปไหนนะเนี่ย ทำคนเค้าเป็นห่วงเนี่ย
เพื่อนอิศก็จะกระโดดงับหัวซะมีอยู่แล้ว เพราะห่วงเพื่อน
แล้วนี่ถ้ารู้ว่าผู้พันเจ้าเล่ห์นั่นควบคุมตัวเองไม่ได้อย่างที่เคยเป็นมาก่อน
แถมยังวีนไม่สนหน้าอินหน้าพรหมณ์แบบนี้คงไม่ต้องบอกนะคะ คุณภีร์
ว่าตอนนี้ใครคุมเกมส์อยู่กันแน่ แต่่ว่า...คุณภีร์หายตัวไปไหนคะเนี่ย
ไปติดใจหนุ่มทาร์ซานในป่าที่ไหนกันนะถึงได้หายไปเลยเนี่ย :เฮ้อ:

สู้ๆนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 19 (7/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: alterlyx ที่ 07-10-2009 12:24:15
อย่าบอกนะ ..

ว่า ..

ภีร์ ..

หนีตาม แฟนใหม่ ไปพม่าแล้ว  :laugh:


ถึง ภีร์จะผิด ที่ไปหลอกเอาความรักของคนอื่น มาเล่มเกมส์แบบนี้
แต่ก็ไม่ใจร้ายเท่า ...
ผู้พันที่รู้คำตอบของหัวใจดีอยู่แล้ว ... ยังดึงดันจะแก้เกมส์คืนอีก ... น่าจับลดขั้นจริงๆพับผ้า  :haun5:


ปล. คุณนาย ... เรื่องต่อไป ขอ ตบจูบๆ ได้ป่าวค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 19 (7/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Resonance ที่ 07-10-2009 12:29:21
ภีร์ ไปอยู่ไหนละเนี่ยะ !!!

พอกันเลยแฮะทั้งผู้พันทั้งภีร์   :เฮ้อ:




เอาละสิเรื่องราวเริ่มเข้มข้นขึ้นแล้ว !! 

เป็นกำลังใจให้นะคะ ^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 19 (7/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 07-10-2009 13:01:43
...นั่นสิ อิศราอยู่ที่บ้านพักหลังเล็กของหน่วยวิทยุกับพลทหารสองคน ซึ่งบังเอิญหน้าตาค่อนข้างดี ป่่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง พลทหารสองนายนั้นจะเอาตัวรอดได้ไหมเขาไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ เขาไม่อยากทิ้งอิศราเอาไว้..

<<<< ทำไมปั๋วไม่ไว้ใจเมียเลยล่าาาาาาา  เห็นอิศราเป็นคนยังไงหรือ (ก็แรดน่ะสิ by วิษณุและคนอ่าน)   กลัวภรรเมียตัวเองจะไปจับพลทหารหนุ่มปล้ำซะงั้น  :laugh: :pigha2:  อย่างฮา 

อิศราน่ารักอีกแล้ว เอาไปหนึ่งจุ๊บ  :man1:


ชอบทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก เป็นไงละวรุต  หึหึ
อยากกดบวกให้ แต่กดมะได้ เพิ่งกดไป
 :L2:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 19 (7/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 07-10-2009 13:11:22
หึ หึ วรุฒม์คิดจะตลบหลังซ้อนแผนคืน แต่กลับกลายเป็นคนที่กระวนกระวายจนเก๊กหลุดเองซะงั้น


หวังว่าภีร์คงไม่เป็นอะไรไปหรอกเนาะ เป็นห่วงเหมือนกันอะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 19 (7/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 07-10-2009 13:23:47
ดูท่าทางวรุฒน์จะเป็นเอามาก
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 19 (7/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: teenza ที่ 07-10-2009 14:05:59
เอาละสิกลายเป็นวรุฒิที่คลั่งแทน
อะ งั้นตอนนี้ก็ลุ้นแค่พีเจกับวรุฒิแล้วดิ เพราะอีกคู่ชัดเจนขนาดนั้น
ปล อยากกดบวกให้คุณนายในความขยันทั้งที่ยุ่งแต่ก็อัพนิยายอย่างสมำเสมอ แต่ไม่รู้ว่าตัวเองกดได้ยังที่สำคัญไม่รู้กดยังไง :z3:
ใครรู้pmมาบอกหน่อย :sad4:

อะ รับทราบคับ ขอบคุณที่มาไขข้อข้องใจ :pig4:
v
v
v
v
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 19 (7/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 07-10-2009 14:54:22
^
^
ขออนุญาตใช้พื้นที่นะคะ  จะได้ทราบโดยทั่วกัน

คนที่จะกดบวกโหวตได้เนี้ย ต้องโพสต์อย่างน้อย 250 เม้นต์ ก่อนคะ

เข้าใจตามนั้นเนอะ

เจ้สอง  :bye2:

ปล. ไม่เกี่ยวกับโหวตเซ้งเป็ดอะวอร์ดนะคะ

อันนั้นน่ะ รักใครชอบใคร ส่งชื่อเข้าร่วมรับโหวตได้เลยคร้า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 19 (7/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: morrian ที่ 07-10-2009 15:50:38
ขอบคุณเจ๊สองนะคับที่ไขข้อข้องใจผมด้วย ^^ งมโข่งมาตั้งนานว่าทำไมตัวเองถึง

กดบวกให้ใครไม่ได้เลย

มารอลุ้นความรักระหว่างผู้พันรุฒน์ กะน้องภีร์ นะคับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 19 (7/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Zarch_Chabu_Chabu ที่ 07-10-2009 18:57:49
 :o8:เจอคนแต่งขยันอย่างนี้สงสัยต้องให้รางวัลซะแล้วหล่ะครับ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 19 (7/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 07-10-2009 20:02:28
:o8:เจอคนแต่งขยันอย่างนี้สงสัยต้องให้รางวัลซะแล้วหล่ะครับ :กอด1:

อยากได้ iPhone G3s และ  Honda CB400 สีขาว ครับ  :z1:

ปล อยากกดบวกให้คุณนายในความขยันทั้งที่ยุ่งแต่ก็อัพนิยายอย่างสมำเสมอ แต่ไม่รู้ว่าตัวเองกดได้ยังที่สำคัญไม่รู้กดยังไง :z3:
ใครรู้pmมาบอกหน่อย :sad4:
บ้านอยู่ไหนอ่ะครับ จะไปสอนวิธีกดให้  :pigha2:

อย่าบอกนะ ..
ปล. คุณนาย ... เรื่องต่อไป ขอ ตบจูบๆ ได้ป่าวค่ะ
ว๊า คิดว่าเรื่องต่อไปจะเป็นนิยายชีวิตแนว realism ไม่ใช่โรแมนติกเพ้อฝันแบบที่เคยแต่งมา แต่ตบจูบมีครับ เขียนไว้ได้ครึ่งเรื่องแล้วแต่ทิ้งไว้แล้วหนึ่งปี ยังไม่ได้ไปหยิบปัดฝุ่น ขอไปหาข้อมูลฝึกปฏิบัติภาคสนามก่อนนะครับแล้วถึงจะเขียนต่อได้ ตบจูบนี่ไม่เคยมีประสบการณ์ เคยแต่ฟาดแล้วบิด หยิกแล้วกัด ฟัดแล้วแทง  :z1:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 19 (7/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 07-10-2009 20:18:19
อีกสองตอนจบครับ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะครับ

Heart Game Chapter 20

เมื่อเดินทางใกล้ถึงตัวอำเภอแม่สะเรียง วรุฒม์ก็ได้รับข่าวดีจากวิษณุว่าพบตัวภีรวัสแล้ว ขณะนี้อยู่ทีสถานีอนามัยตำบลเสาหิน แต่หลังจากข่าวดี วิษณุก็แจ้งข่าวร้ายด้วย
“คุณภีร์ขาหัก แล้วก็แขนซ้น เลยนอนพักอยู่ซอกหินริมลำธาร โชคดีที่...” วิษณุกำลังอธิบายอาการของภีรวัสแต่วรุฒม์ใจร้่อนจึงรีบถามแทรกว่า
“โชคดีอะไร”
ยังไม่ทันที่วิษณุจะตอบ วรุฒม์ก็ได้ยินเสียงของอิศราดังเข้ามาในโทรศัพท์ น้ำเสียงร้อนร้นและกังวลใจของชายหนุ่มยิ่งทำให้เขาตกใจ
“ภีร์ อย่าตายนะเพื่อน แกอย่าเป็นอะไรนะ ทำใจดีๆ เอาไว้”
“คุณอิศรา” วิษณุหันไปปรามคนที่เอะอะโวยวาย
“ทำไมวิษณุ ภีรวัสเป็นอะไร” วรุฒม์รีบถาม
“ก็ไม่เป็นอะไรมาก แค่มีไข้” วิษณุตอบไม่เต็มเสียงเท่าใดนัก
“แล้วทำไมคุณอิศราโวยวายดังลั่น ภีรวัสอาการหนักยังงั้นหรือ เป็นมาลาเรียหรือเปล่า”
“ยังไม่รู้”
“ไม่รู้ยังไง นายเป็นหมอ” วรุฒม์เสียงดังจนคนขับรถรับจ้างสะดุ้ง “ไม่ต้องหันมามอง ตั้งใจขับรถ ไปเสาหินให้เร็วที่สุด” วรุฒม์หันไปสั่งคนขับรถแล้วคาดคั้นวิษณุต่อ เสียงของอิศารายังคงดังแทรกเข้ามาในโทรศัพท์เป็นระยะ สลับกับเสียงของวิษณุที่ตอบคำถามวรุฒม์และปรามอิศรา
“คุณอิศราครับ อย่าไปยุ่ง ถอยออกมาก่อน อะไรนะรุฒม์ นายมาถึงก็รู้เอง พอแค่นี้ก่อนนะ มัวแต่คุยกับนาย คุณภีร์อาการหนักพอดี เราต้องช่วยอนามัยตำบลดูคนเจ็บซะก่อน คุณอิศรามานั่งตรงนี้เถอะครับ” วิษณุรีบวางสาย ปล่อยให้วรุฒม์นึกภาพความโกลาหลเอาเอง
“เร็วกว่านี้หน่อยได้หรือเปล่า ผมกำลังจะรีบไปดูคนเจ็บ” วรุฒม์เร่งคนขับรถอีก
“โธ่ เร็วที่สุดแล้วครับคุณทหาร เดี๋ยวก็ถึง เร็วกว่านี้เดี๋ยวได้ตกข้างทางกันพอดี” คนขับรถเริ่มเสียงเข้ม ทำใจดีสู้เสือเพราะนายทหารหน้าดุทำเหมือนจะขย้ำคอเขาเสียให้ได้

อากาศในตำบลเสาหิน ตำบลเล็กๆ ทางตอนเหนือของอำเภอแม่สะเรียงเย็นลงมากว่าเดิมเพราะดึกแล้ว อิศรานั่งหน้าบึ้งอยู่ที่ม้านั่งหน้าห้องทำแผลของสถานีอนามัยตำบลเพราะฉุนที่วิษณุไล่ให้เขาออกจากห้องพยาบาล เขาต้องการยืนอยู่เคียงข้างภีรวัสเพื่อเป็นกำลังใจให้เพื่อนแต่นายแพทย์ทหารบอกว่า “เกะกะ”
“พูดออกมาได้ ไม่รักษาน้ำใจกันบ้างเลย ทิ้งเราไว้ที่หน่วยวิทยุ นี่ถ้าไม่บังคับให้พลทหารจุ๊ยขับมอเตอร์ไซด์มาส่ง ป่านนี้คงทิ้งเราทั้งคืน ไม่ทันได้ดูใจเพื่อน แล้วยังมาว่าเราเกะกะอีก” อิศราบ่นอยู่คนเดียว แล้วนั่งเงียบ สลับกับการเดินไปเดินมา ไม่นานก็เห็นรถกระบะคั้นหนึ่งเข้ามาด้วยความเร็ว ก่อนจะจอดพรืดหน้าอนามัย ประตูรถเปิดออก วรุฒม์พุ่งออกมาเหมือนธนูพุ่งออกจากแล่ง วิ่งตึงตังเข้ามาในสถานีอนามัย ไม่ได้มองเขาที่นั่งอยู่หน้าประตูทางเข้าห้องพยาบาลด้วยซ้ำ
“ออกไปข้างนอกก่อนรุฒม์ เกะกะ” เสียงของวิษณุดังขึ้นทันที
“ภีรวัสเป็นยังไงบ้าง” น้ำเสียงของวรุฒม์ร้อนรน กังวล และห่วงใย
อิศราพ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ได้ยินเสียงของวรุฒม์เต็มหู ได้เห็นลักษณะของวรุฒม์เต็มตา ตอนนี้เขาแน่ใจเสียยิ่งกว่าแน่ว่าวรุฒม์นั้้น 'เสร็จ' ภีรวัสเสียแล้ว
...รักภีรวัสเข้าไปเต็มๆ...
...ทีนี้ก็เหลืออยู่คำถามเดียวก็คือว่า ภีรวัสจะทิ้งผู้พันวรุฒม์หรือไม่ เมื่อไหร่ อย่างไร...
“รุฒม์ ออกไป” เสียงของวิษณุดังเฉียบขาด
อิศราลุกขึ้นยืน กอดอก และหันหลังให้ห้องพยาบาล มองฝ่าออกไปในความมืด ไม่นานก็รู้สึกถึงไออุ่นของผู้ชายร่างใหญ่มายืนอยู่ข้างๆ ลมหายใจหนักหน่วง ผสมกับเสียงถอนหายใจหนักๆ ทำให้อิศรารู้ได้ทันทีว่าเป็นใคร
“ทำไมปล่อยให้เพื่อนไปเดินป่าคนเดียว ไม่ห้ามเอาไว้” เสียงห้าวดังขึ้นเบาๆ
...แน่ะ มาหาเรื่องเขาอีก...
“แล้วทำไมผู้พันไม่ดูแลคนของตัวไว้ดีๆ” อิศราพูดโดยไม่หันไปมองอีกฝ่าย
“คุณภีรวัสไม่ใช่คนของผม” วรุฒม์แย้งแล้วเงียบไป ประหนึ่งว่ากำลังพยายามปรับอารมณ์
...มาดนิ่งๆ สุขมลุ่มลึกไม่เหลือเลยหรือเนี่ย ท่าทางแบบนี้อยากให้ภีรวัสมาเห็นนัก...
“คุณอิศราครับ คุณรู้หรือเปล่า แถวนี้คือป่าชายแดนไทย-พม่า เกิดอะไรขึ้นมาไม่ใช่แค่หลงป่า หรือโดนโจรป่าปล้นจี้นะครับ” วรุฒม์ปรับนำ้เสียงให้อ่อนลง
“มีข่มขืนด้วยหรือ” อัศราหันไปทำหน้าตาตกใจ
“คุณอิศรา” วรุฒม์อุทาน ส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อหูตัวเองว่าชายหนุ่มจะยังทำเป็นพูดเล่น
“รู้อย่างนี้ไปหลงป่ากับภัร์ด้วยก็ดี”
“คุณอิศราครับ ที่ผมพูดก็เพราะว่าเป็นห่วง”
“ผมจะบอกภีร์ให้ครับ” อิศราทำเสียงเรียบนิ่ง ใบหน้าเฉยเมย “หรือผู้พันอยากจะบอกเองก็ตามใจ แต่ต้องรีบบอกนะ เพราะว่าทันทีที่ภีร์แข็งแรงพอเดินทางได้ ผมจะพาเพื่อนเข้ากรุงเทพฯ ต่อให้ต้องเช่าเฮลิคอปเตอร์ไปส่งผมก็จะทำ”
“ไม่ต้องหรอกครับ เรื่องนั้นผมจะจัดการให้เอง” วรุฒม์ยิ้มมุมปาก แต่ทว่าเป็นยิ้มค่อนข้างขื่น เขารู้ว่าอิศรากำลังประชด
“แฟนเก่าภีร์เป็นหมอ ชื่อ สินธพ เป็นหมอที่เก่งมากด้วยล่ะ ผู้พันไม่ต้องห่วง แค่โทรไปบอก หมอสินธพก็จะรีบเสกมนต์หายตาแว๊บมารักษาภีร์ทั้งตัวและหัวใจ แถมทำกายภาพเป็นบริการหลังการขายด้วยอีกต่างหาก”
“งั้นหรือครับ” วรุฒม์ถามเสียงต่ำ
...ไม่มีทาง สินธพจะเป็นใครมาจากไหนเขาไม่สน แต่หมอคนเดียวที่เขาไว้ใจให้รักษาภีรวัสคือนายแพทย์พันตรีวิษณุเท่านั้น และคนที่จะทำกายภาพบำบัดให้ภีรวัสก็คือเขาเอง...
...จะบำบัดทั้งกายและใจเลยทีเดียว...

ในความรู้สึกของวรุฒม์เวลาผ่านไปนานเหมือนใช้เวลาทั้งคืน เขาหันไปมองอิศราก็พบว่าชายหนุ่มร่างเล็กนั่งพิงเสาหลับอยู่ ท่าทางไม่ค่อยสบายเท่าใดนัก วรุฒม์จึงเดินไปหยิบหมอนจากห้องปฐมพยาบาลอีกห้องหนึ่งของสถานีอนามัยมาสอดเข้าใต้ศีรษะของชายหนุ่ม
...ใบหน้าของอิศราดูเด็กมาก เด็กกว่าอายุจนเหมือนนักศึกษามหาวิทยาลัย แก้มแดงระเรื่อ จมูกเล็กๆ ค่อนข้างรั้น ปากแดงจัด คางบุ๋ม หน้าตาน่ารัก ต่างจากภีรวัสโดยสิ้นเชิง ใบหน้าคมเข้มของภีรวัสนั้นตรึงตาตรึงใจเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่พบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประกายตาลุ่มลึกคู่นั้นที่ท้าทายให้เขาค้นหาสิ่งที่ซ่อนเอาไว้...
...ภีรวัสรักเขาจริงๆ หรือเปล่า หรือเขาจะกลายมาเป็นของเล่นในเกมสนุกๆ ที่ภีรวัสแข่งขันกับเพื่อนเหมือนกับที่พลเคยโดนมาแล้ว แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เขามั่นใจว่าตัวเองรักภีรวัสเข้าไปแล้วจริงๆ ตลอดทางจากกรุงเทพฯ มาแม่สะเรียงเขามีแต่ตัว หัวใจนั้นเล่ามาถึงก่อนตั้งนานแล้ว...
“ทำเป็นเรื่องใหญ่กันไปได้ แค่ขาหักกับแขนหัก แล้วก็เป็นไข้” วิษณุเดินออกมาหยุดยืนอยู่หน้าวรุฒม์ที่ยังคงนั่งเหม่ออยู่หน้าห้องพยาบาลแต่ก็รู้สึกตัวโดยเร็ว จึงลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในห้องพยาบาลแต่วิษณุขวางเอาไว้โดยให้เหตุผลว่าภีรวัสหลับอยู่เพราะฤทธิ์ยา
“อย่าเพิ่งเข้าไปทานเลยรุฒม์ ให้คุณภีร์พักผ่อนเถอะ นายเข้าไปเดี๋ยวได้ตื่นกันพอดี”
“เราแค่ไปยืนดู” วรุฒม์ตอบแล้วผลักแขนวิษณุออกให้พ้นทาง
...รู้แล้ว ไม่บอกก็รู้ว่าอยากจะเข้าไปยืนดูใจจะขาด เราก็ห้ามไปยังงั้นเอง...
วิษณุอมยิ้ม มองตามเพื่อนแล้วหันไปมองอิศราที่ตอนนี้นอนขดตัวอยู่บนม้านั่งริมระเบียง
“อิศรา คุณนี่ก็ใช่ย่อย” วิษณุก้มหน้าลงไปใกล้ใบหน้าอ่อนเยาว์ของชายหนุ่ม “ผมจะทำยังไงกับคุณดีนะ”
อิศราเหมือนได้ยิน ทำเสียงอืออาแล้วขยับตัวยุกยิกเปลี่ยนท่านอน ก่อนจะพึมพำเบาๆ ว่า “อย่านะผู้พัน อย่านะ”
...ผู้พันไหน มีสองคน อิศราหมายถึงผู้พันวรุฒม์หรือผู้พันวิษณุ แล้วนี่รักเขาจริงหรือเปล่า หรือเขาเป็นเพียงของเล่นในเกมสนุกๆ ที่อิศราแข่งกับภีรวัส และตอนนี้ใกล้จะถึงตอบจบหรือยัง...
...เขาไม่อยากให้จบ เขาอยากให้ชีวิตการเป็นแพทย์ทหารในอำเภอเล็กๆ แห่งนี้มีชีวิตชีวา แต่การมาหลงรักอิศรานี้ก็เสี่ยงพอสมควร...
...เฮ้อ ทำยังไงดี...

ภีรวัสลืมตาขึ้นมาช้าๆ รู้สึกปวดศีรษะแทบจะระเบิด ปากและคอแห้งผาก เจ็บขาและแขนจนอยากจะร้องตะโกนนออกมาดังๆ แต่ไม่มีแรง ต่างจากคืนแรกที่เขาลื่นล้นใกล้กับโขดหินริมลำธารในป่า คืนนั้นเขาร้องด้วยความเจ็บปวดจนคอแห้ง พยายามกระเสือกกระสนกับกระท่อมแต่ไปได้ไม่ถึงครึ่งทาง ต้องทิ้งร่างซุกตัวนอนอยู่ข้างซอกหินขนาดใหญ่ที่ใช้เป็นที่พักเอาแรงชั่วคราว ด้วยตั้งใจว่าจะกัดฟันเดินทางต่อในวันรุ่งขึ้น แต่ทว่า เขาเจ็บขาเกินกว่าจะพาร่างของตัวเองกลับกระท่อมเก่าๆ ที่ใช้เป็นที่พักชั่วคราวได้ จึงนอนรอให้คนมาช่วย ในระหว่างนั้นก็อาศัยดื่มน้ำในลำธารใสๆ ประทังชีวิต
ตอนนั้นเขากลัวความตายเป็นที่สุด และเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้นก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงพล
...พลตายจากเขาไปและเขาก็รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น การอยู่เงียบๆ คนเดียวกลางป่าในสภาพแบบนั้นทั้งวันและคืนทำให้เขาได้คิดไตร่ตรองและตระหนักว่า ในหัวใจของเขามีความรักที่เป็นความรักจริงจังได้ก่อตัวขึ้น...
...แต่จะมีใครเชื่อเขาบ้าง ที่ผ่านมา เขาเล่นกับหัวใจคนอื่นมาหลายราย ตอนนี้หากจะรักใครจริงๆ คนที่เขารักจะเชื่อเขาหรือเปล่า เขามั่นใจแล้วว่าทั้งวิษณุและวรุฒม์รู้ทันเขากับอิศราและช่วงหลังจากที่พลเสียชีวิต วรุฒม์กับวิษณุก็คงเล่นเกมตลบหลัง แต่ทั้งที่รู้ เขาก็ยังรู้สึกสับสน ไม่แน่ใจ...
...วรุฒม์เลือกอิศราไปแล้ว คุณตกลงปลงใจกับผมเสียงเถอะ...
เสียงของวิษณุยังดังก้องอยู่ในโสตประสาท
...โกหก วิษณุโกหก...
“ภีร์ แกยังไม่ตายหรือเนี่ย” เสียงของอิศราดังขึ้นเบาๆ
“ไอ้ก้อนอิฐ แกซิตาย นี่วิญญาณแกมาเยี่ยมฉันใช่ไหมเนี่ย อย่ามาชวนไปอยู่ด้วยนะ ฉันยังไม่อยากไปอยู่กับแก” ภีรวัสพึมพำ ทำตาขวางมองเพื่อนที่ยืนอยู่ข้างเตียง แล้วก้มหน้าลงมาใกล้
“ไอไม่ยอมตายคนเดียวหรอก ถ้าจะตกนรกก็ต้องไปด้วยกัน”
“ใครว่าเราจะตกนรก เราจะไปขึ้นสวรรค์” ภีรวัสยิ้มบางๆ
“คงได้ขึ้นหรอก ที่เราสองคนทำมาเนี่ย เทวดาคงไม่ยอมผ่อนปรนให้ นอกเสียจากเราจะทำอะไรชดใช้” อิศรายักคิ้วแล้วถอยหลังออกห่างพร้อมพูดว่า “เดี๋ยวมานะ”
“จะไปไหนอิศ หิวน้ำ คอแห้ง เอาน้ำมาให้กินก่อน” ภีรวัสเรียกเพื่อนเสียงเบา ทั้งที่จริงอยากจะตะโกนแต่ก็ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง

วรุฒม์สะดุ้งตื่นทันทีเมื่อโดนสะกิดคางพร้อมๆ กับที่หูได้ยินเสียงของวิษณุดังขึ้นมาข้างๆ
“อิศรา ทำอะไร” วิษณุถาม ยกศีรษะขึ้นมามองอิศราซึ่งนักคุกเข่าอยู่ข้างๆ วรุฒม์และมือแตะอยู่ที่ใต้คางของเพื่อนเขา ทำเหมือนกำลังจะลูบไล้
“ผมกำลังปลุกผู้พัน” อิศราหันมามองตาแป๋ว แล้วก้มหน้าพูดกับวรุฒม์ “ตื่นสิผู้พัน คนป่วยเขาอยากดื่มน้ำ คอแห้งจนจะขาดใจตายอยู่แล้ว”
วรุฒม์เด้งตัวลุกขึ้นนั่งแล้วรีบยันตัวลุกขึ้นเดินออกจาห้องทันที ส่วนวิษณุยันศอกขึ้นมานอนตะแคงมองอิศราที่เปลี่ยนมานั่งขัดสมาธิมองอยู่ด้วยใบหน้ากึ่งยิ้มกึ่งงอน
“ทำไมถามผมแบบนั้น คิดว่าผมจะทำอะไรผู้พันวรุฒม์หรือ ผู้พันคิดอะไรอกุศล แบบนี้ไม่ไว้ใจกันนี่นา ผมยังไว้ใจผู้พันเลย นอนติดกันกับผู้พันวรุฒม์สองต่อสองผมยังไม่ว่าซักคำ”
“โธ่ อิศรา ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ แล้วผมนอนกับวรุฒม์จะมาคิดอะไรไม่เข้าท่า ผมกับวรุฒม์เป็นเพื่อนกันนะครับ เหมือนๆ กับที่คุณกับคุณภีรวัสเป็นเพื่อนกัน คิดจะทำอะไรกันได้ยังไง” วิษณุทำหน้าอ้อน
“ไม่รู้สิ ผมยังเคยคิดที่จะเป็นของภีร์เลย ผู้พันก็อาจคิดจะเป็นของผู้พันวรุฒม์” อิศราสะบัดหน้า
“อิศรา” วิษณุอุทาน “แล้วทำไมไม่คิดว่าวรุฒม์จะอยากเป็นของผมล่ะ”
“อ๋อ คุณอยากได้ผู้พันวรุฒม์ยังงั้นหรือ”
“ไม่ใช่ จะบ้าหรือ” วิษณุทำหน้ากึ่งขันกึ่งคาดไม่ถึงว่าจะได้ยินชายหนุ่มกล่าวหาเขาซึ่งๆ หน้า
“ผู้พันหาว่าผมบ้า แสดงว่าไม่รักผมแล้ว” อิศรายังทำหน้างอน
“ใครบอก คุณนี่หาเรื่องผมจริงๆ เลย” วิษณุขยับตัวเข้ามาใกล้ชายหนุ่ม มือแข็งแรงคว้าแขวนของอิศราแต่ฝ่ายนั้นสะบัดค่อยๆ
“คุณต่างหากหาเรื่องผม มาปรักปรำผมว่าจะลักหลับผู้พันวรุฒม์” อิศราทำเสียงขุ่นเครื่อง
“เปล่านะครับ”
“เปล่าที่ไหน คุณพูดว่า อิศรา ทำอะไรน่ะ” อิศราหันมาทำตาเอาเรื่อง “พูดยังกับว่าผมจะเที่ยวได้ไปทำอะไรใครเขาไปทั่ว”
“ผมไม่เคยคิด” วิษณุเสียงอ่อน ขยับตัวเข้ามาใกล้คนขี้งอน คราวนี้โอบกอดร่างของอิศราเอาไว้ แทนที่จะจับแขนเอาไว้ข้างเดียว
“แน่ใจนะ”
“แน่ใจสิครับ” วิษณุตอบเสียงเบาแล้วซุกไซร้แก้มขาวๆ ของชายหนุ่ม ในใจอดพูดกับอิศราไม่ได้ว่า
...คิดสิ ตอนทิ้งให้อยู่กับพลทหารที่หน่วยวิทยุตอนไปค้นหาภีรวัส ผมกลัวแทบตายว่าคุณจะไปเล่นเกมบ้าๆ แบบนี้กับพลทหารสองคนนั้น เกมหลอกให้รักแล้วทิ้ง ปั่นหัวคนให้หลงแล้วผลักใสไล่ส่ง เกมแบบนี้คิดได้ยังไง...
“ผมมีแฟนน่ารัก ก็ต้องหึงหวงเป็นธรรมดา”
“ไม่ต้องมาระแวงเลยนะ” อิศราทำเสียงกระเง้ากระงอด “ถ้าระแวง ผมจะทำประชด”
“ไม่หรอกครับ ขอเพียงแต่คุณรักผมคนเดียว รักผมจริง และไม่คิดทิ้งผมเมื่อชนะพนันกับเพื่อนแล้ว”
“อะไรนะ” อิศราเสียงสูง เบิกตากว้าง
“เอ่อ...” วิษณุอึกอัก รู้สึกตัวว่าพลาดที่หลุดปากพูดอะไรออกไป
“ผู้พันเจ้าเล่ห์ ฮึ” อิศราหันหน้าหนี พยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมแขนแข็งแรงวิษณุที่กอดรัดแน่นขึ้น
“โธ่ ที่รักครับ ผมก็พูดไปยังงั้นเอง”
“ผู้พันรู้ได้ยังไง”
“ผมเปล่า” วิษณุพยายามคิดหาทางออก แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจพูดความจริงบางส่วน “วรุฒม์บอกผมมา ผมไม่รู้ว่าเขาไปรู้มาได้ยังไง แต่ผมรักคุณจริงๆ นะครบ ผมอดกังวลไม่ได้ว่าจะโดนคุณทิ้ง คุณน่ารักมีเสน่ห์แบบนี้ ผมคิดไม่ได้”
“นี่คงคิดว่าผมจะรวบหัวรวบหางพลทหารสองคนนั้นด้วยสิท่า” อิศราผลักอกวิษณุ
“เปล่่านะครับ ไม่เคยคิด จะไปคิดแบบนั้นทำไมครับ คุณคนเดียวจะไปทำอะไรผู้ชายสองคนได้” วิษณุทำเสียงออดอ้อน “อิศราจ๋า รู้ไหม ผมไม่เคยรู้สึกอย่างนี้กับใครมาก่อน ทั้งที่หวั่นใจ ไม่แน่ใจ หวาดระแวง แต่ผมก็พยายามบอกตัวเองว่าความรักครั้งนี้คงเป็นรักที่แท้จริง ผมอายุขนาดนี้แล้ว ไม่ใช่หนุ่มน้อย ผมอยากจะมีรักแท้กับใครซักคน ผมบอกตัวเองเสมอว่ามันเสี่ยงมาก แต่ผมก็พ่ายแพ้ต่อใจตัวเอง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมก็ขอให้ได้รักคุณ แล้วคุณล่ะ จะรักผมได้หรือเปล่า”
“ฮื่อ” อิศราก้มหน้า ซุกเข้ากับซอกคอของนายทหารหนุ่ม “ไม่รักจะยอมโดนฉีดยามาจนก้นแทบพรุนแบบนี้หรือ”
“งั้นเช้านี้มาฉีดยารักษาก้นพรุนซักเข็มนะ” วิษณุเสียงสั่นพร่า
“อย่านะ เดี๋ยวใครมาเห็น” อิศราห้ามแต่มือเริ่มปลดตะขอกางเกง
“งั้นผมจะไปล๊อคประตู วรุฒม์คงไม่กลับมาอีกแล้วล่ะ อย่างน้อยก็อีกหลายชั่วโมง”
“แล้วอนามัยตำบล” อิศราทักท้วง
“เขามาทำงานกันเก้าโมงเช้า มีเวลาถมเถ จะฉีดยาซักสองสามรอบก็ยังทัน” วิษณุเริ่มหายใจหอบถี่ ตอนนี้อารมณ์กำลังกระเจิดกระเจิงเพราะความปรารถนา “มารักกันเถอะ อิศรา”
“ก็รักแล้วนี่ไงครับ จะมัวแต่พูดอยู่ทำไม” อิศราตอบเสียงอู้อี้ ก่อนจะถูกประกบปากไม่ให้พูดอะไรต่อ วิษณุหัวเราะเบาๆ ในลำคอ แล้วเริ่มบรรเลงเพลงรักอย่างไม่รีรอเพราะอยาก 'ฉีดยา' ให้คนรักเต็มที่

***20***
(http://upic.me/i/zv/soildie_smal.jpg)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 19 (7/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: gboy ที่ 07-10-2009 20:25:55
 :z13:
จิ้มพี่นาย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 20 (7/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 07-10-2009 20:54:35
วุ้ยๆๆ ผู้พันหมอนี่ก็นะ ชวนกันฉีดยาแต่เช้ามืดเชียว  :haun4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 20 (7/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 07-10-2009 21:21:36
กรี๊ดดดดดดดดดดดดคุณอิศรามันต้องให้ได้แบบนี้สิคะ
อั๊ยยยยยยยน่ารักเป็นที่สุดไม่ดื้อด้วยเน้ ถึงจะคงค.แร๊ดแรดไว้
แต่ก็นะ อยากให้หมอฉีดยาบ่อยๆวันละหลายๆหน น่ารักโคดๆๆๆ
หนุ่มร้ายๆตอนนี้ก็มาหลงคารมคุณหมอแล้น จบไปหนึ่งคู่ อั๊ยย

“อย่านะผู้พัน อย่านะ”

>> แม้ตอนนอนยังละเมอฝัน..ลามกอีก เฮ้อคุณหมอล่ะ
ได้ไปแล้วดูแลดีๆนะคะ ลูกแมวตัวนี้เหมือนจะเชื่อง
แต่จริงๆก็เปรี้ยวเป็นที่สุด
“ผมกำลังปลุกผู้พัน” อิศราหันมามองตาแป๋ว แล้วก้มหน้าพูดกับวรุฒม์ “
ตื่นสิผู้พัน คนป่วยเขาอยากดื่มน้ำ คอแห้งจนจะขาดใจตายอยู่แล้ว”

>> กำลังจะปลุกคนหรือกำัลังจะปล้ำคนคะเนี่ย อิอิ

ส่วนอีกคู่ คนนอกอ่ะมองออกแล้วนะคะเหลือแต่ว่าสองคนนี้ยังจะเล่น
เกมส์กันไม่เลิกอยู่รึป่าวเหมือนผู้พันไม่ยอมใจอ่อนซะทีนะ
แล้วคุณภีร์ก็ดื้อด้วยเฮ้อออออออออออออ

 o13 เอาไปสิบดาว(มยุรี) เลิศเป็นที่สุด

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 20 (7/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 07-10-2009 21:23:35
 :laugh:  โอ๊ยยยยยยย  ฮาอิศราอีกแล้ว

ออกแนวพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง  วิษณุต้องเรียนรู้ลูกล่อลูกชนอีกเยอะนะเนี่ยอยู่กะอิศรา  :m20:

วิษณุคงปวดหัวไปอีกนานแน่ๆๆๆ  ดีว่าเป็นคนใจเย็นและตามใจเอาใจเมียเป็นที่สุด

 :haun4:  แล้วก็โดนฉีดยาอีกคนได้

ส่วนอีกคู่ คงไม่มีปัญหาไรแล้วมั๊ง ถ้ารุฒน์ง้อ แล้วภีร์ยอมใจอ่อนอ่านะ

ปล คิดถึงพลจัง เฮ้ออออ เรื่องมันเศร้า :m15:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 20 (7/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 07-10-2009 22:18:13
ความรักมันมาบรรจบลงที่สถานนีอนามัย  :z2:

+1 ให้พี่นาย เป็นกำลังใจให้กับที่ยังคิดหาเมียอยู่ นึกว่าเลิกคิดซะแล้ว  :jul3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 20 (7/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: *SparklinG* ที่ 07-10-2009 22:26:27
+1 หงะ ภีรเกือบตายเลยนะนั่น แต่แหม่อิศรากับวิษณุก็ยังมีอารมณ์มาฉีดยากันอีกเนอะ o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 20 (7/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: aimaim ที่ 07-10-2009 22:27:59
ฮิ้ว~~~!!  แหมๆ ผู้พันวรุตม์เจ้าค่ะ เป็นไงล่ะที่นี้อิอิ แทบคลั่งตาย กร๊ากกกกกกกกกกกกก

แต่คู่อิศรากะผู้พันวิษณุนี้ เริ่มจะต๊องแบบหวานๆ แฮะ เหอๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 20 (7/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: morrian ที่ 07-10-2009 22:42:20
คนแต่งขยันจริงๆเลยคับ มาต่อให้อย่างต่อเนื่อง

อีกตอนเดียวก็จบแล้วหรอคับ หรือยังไง ^^

คู่อิศรากะผู้พันหมอ นำโด่งไปไกลแล้วววว

ลุ้นคู่ภีร์กะผู้พันรุฒน์จะได้บอกความในใจกันซะที

เฮ้อออ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 20 (7/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 07-10-2009 22:47:46

เหลืออีกราย

แต่ไม่รู้ทำไมไม่อยากให้รักกันเลย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 20 (7/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 07-10-2009 23:01:41
 :jul3: อิศราแก่นเซี้ยวมากค่ะ สุดยอดจริงๆ
อยากมีเพื่อนแบบนี้ซักคน คงไม่มีเวลาเบื่อหน่ายเลย :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 20 (7/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 07-10-2009 23:30:44
พี่นาย บทหวานๆ เง้างอนกันระหว่างผู้พันกับภีร์จะมีวันเกิดขึ้นเหมือนคู่ของหมอกับอิศราไหมเนี่ย นึกภาพคู่นี้ง้องอนกันแบบนี้ไม่ค่อยออกเลย  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 20 (7/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 08-10-2009 00:06:45
ทำไมรีบตัดจบแบบนี้ล่ะคร๊า :serius2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 20 (7/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Zarch_Chabu_Chabu ที่ 08-10-2009 00:42:35
อยาก :beat:พี่นายโดยไม่มีเหตุผล5555555 :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 20 (7/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: aimaim ที่ 08-10-2009 07:51:24
 :z13: :z13: :z13: จิ้มๆๆ คุณนาย -  - สงสัยต้องพิมพ์ "คุณ" กับ "นาย" ห่างกันหน่อยดีกว่า พอติดกันแล้ว มันดูพิกลๆ ยังไงก้ไม่รู้อ่ะนะ เหอๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 20 (7/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 08-10-2009 07:57:14
เข้ามา กด พี่นายก่อน

รูปนั้นอ่ะ พี่นายตอนเพิ่งคลอดเหรอคะ  :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 20 (7/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 08-10-2009 07:59:11
เหลืออีกราย แต่ไม่รู้ทำไมไม่อยากให้รักกันเลย  :เฮ้อ:
ผมก็ว่ายังงั้นล่ะ
เดี๋ยวจัดให้คร้าบบบบ  o18
อยาก :beat:พี่นายโดยไม่มีเหตุผล5555555 :o8:
ซาดิสม์ (แต่ชอบ อิ อิ ชอบแบบเจ็บๆ)
เข้ามา กด พี่นายก่อน  รูปนั้นอ่ะ พี่นายตอนเพิ่งคลอดเหรอคะ
คิดถึงจังเลย  :L2: รูปนั้นคือรูปปัจจุบันครับ ไม่รู้อะไร ยิ่งอายุมากยิ่งหน้าใส :z1:

Heart Game Chapter 21

 เมื่อเห็นเงาของชายร่างสูงใหญ่ปรากฏขึ้นที่ประตูห้อง ภีรวัสก็รีบหลับตาลงทันใด เขาแทบจะกลั้นหายใจเมื่อพันโทวรุฒม์ก้มหน้าลงมาแทบจะชิดแก้ม ลมหายใจอุ่นๆ ของนายทหารปะทะผิวแก้มของเขาเบาๆ
“คุณภีรวัสครับ ภีรวัส ภีร์” วรุฒม์เรียกเสียงทุ้ม แต่คนที่นอนป่วยอยู่บนเตียงไม่ไหวติง
“ภีร์” วรุฒม์ทอดเสียงอย่างอ่อนโยน พร้มกับยกมือขึ้นมาแตะหน้าผากและซอกคอของภีรวัส
สัมผัสของวรุฒม์ช่างอ่อนโยนจนคนที่แกล้งหลับอยากจะลืมตาขึ้นมามอง วรุฒม์ถอยห่างออกไป ภีรวัสได้ยินเสียงกุกกักและไม่นานนายทหารหนุ่มก็กลับมายืนอยู่จุดเดิมพร้อมกับกระซิบเบาๆ ว่า “ดื่มน้ำหน่อยนะครับ”
ภีรวัสเผลอส่ายหน้าช้าๆ แต่เพียงชั่ววินาทีก็นิ่งเป็นรูปปั้น ใบหน้าเอียงไปด้านซ้าย ปากเม้ม มือกำแน่น ตัวเกร็ง หูได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของวรุฒม์ พร้อมกับรู้สึกว่ามือแข็งแรงสอดเข้ามาใต้ลำคอแล้วช้อนศีรษะเขาดันขึ้น
“ดื่มน้ำเถอะครับ คอแห้งขนาดนี้ ดื่มน้ำหน่อยจะได้รู้สึกดีขึ้น” วรุฒม์ออกแรงดันแต่คนป่วยทำตัวแข็งฝืนเอาไว้ “อย่าดื้อซิครับ ผมรู้ว่าคุณตื่นแล้ว เลิกเล่นเป็นเด็กเถอะน่า” วรุฒม์พูดยิ้มๆ มองหน้าของภีรวัสซึ่งเปิดเปลือกตาช้าๆ
...แน่ะ เจ็บขนาดนี้ยังมองเขาตาขวาง...
“ผมไม่หิว”
“ผมไม่ได้เอาข้าวให้ทาน ไม่หิวก็ไม่เป็นไร แค่จะให้คุณดื่มน้ำ” วรุฒม์อมยิ้ม ไม่นึกว่าภีรวัสจะดื้อแบบเด็กๆ เช่นนี้ ภาพของชายหนุ่มตอนนี้ดูขัดกับภีรวัสที่เขาเคยพบมาตลอดหลายเดือน
“ผมไม่กระหาย ไม่อยากดื่ม” ภีรวัสใช้คำพูดให้ถูกต้อง
“ไม่อยากดื่มก็ต้องดื่ม” วรุฒม์ทำหน้าขึงขัง น้ำเสียงเอาจริง จ้องตาผู้ป่วยอย่างคาดคั้นดังจะบอกว่าขัดเขาได้หรอก ยังไงๆ เขาก็จะเอาน้ำให้ดื่มจนได้
“คุณมาห่วงใยผมทำไม มาห่วงอะไรตอนนี้”
...วรุฒม์หายไปตั้งหลายวัน ไม่ใยดีเขาเลย ตั้งแต่วันนั้นแล้ว วรุฒม์ไม่ไปหาเขาด้วยซ้ำ ทั้งที่เขากำลังจะย้ายกลับกรุงเทพฯ อยู่แล้ว แม้แต่ตอนที่เขานอนหมดแรงอยู่กลางป่า คนที่ตามหาเขาจนพบกลับเป็นวิษณุ ขณะที่กำลังนอนเจ็บอยู่ข้างซอกหิน ได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาใกล้ เขาอุตส่าห์ดีใจ คิดว่าจะเป็นคนที่เขาอยากเจอ แต่กลับเป็นคนอื่นที่แสดงท่าทีห่วงใย...
“ผมก็ห่วงคุณมาตลอดนั่นล่ะ โกรธผมหรือที่ผมไม่ได้เป็นคนไปตามหาคุณ ตอนนั้นผมติดราชการอยู่ที่กรุงเทพฯ”
“คุณมาบอกผมทำไม” ภีรวัสถามเสียงเย็นชา
“ดื่มน้ำก่อนสิครับ แล้วผมจะบอก” วรุฒม์ต่อรอง ยกแก้วน้ำจ่อปากภีรวัส แต่ชายหนุ่มเบือนหน้าหนี
“ผมดื่มเองได้” ภีรวัสดื้อดึง
วรุฒม์ถอนหายใจเบาๆ แล้วพยักหน้า ก่อนจะวางแก้วน้ำไว้ที่โต๊ะข้างเตียง ถอยหลังมาสองเก้า ยกมือขึ้นกอดอกมองคนป่วยที่พยายามเอื้อมมือหยิบแก้วแต่หมดปัญญาที่จะเอื้อมถึง
“ให้ผมช่วยหยิบแก้วน้ำให้ไหมครับคุณภีรวัส” วรุฒม์พูดขึ้นมาเสียงเรียบ “แค่หยิบแก้วน้ำคุณก็ทำไม่ได้ หยุดดื้อเสียงเถอะ”
“คุณวางแก้วน้ำไว้ด้านที่แขนผมไม่เจ็บสิ”
“คุณก็ลุกขึ้นมาหยิบไปสิครับ”
“ลุกได้ยังไง คนขาหัก แขนหัก” ภีรวัสเม้มปาก เลิกคิดที่จะเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำ
“นั่นไงคุณยังต้องการคนช่วย แม้จะลุกขึ้นมาดื่มน้ำเองยังทำไม่ได้” วรุฒม์เดินเข้าไปใกล้แล้วหยิบแก้วน้ำขึ้นมา ตั้งท่าจะป้อนคนที่นอนป่วยอยู่บนเตียงอีกครั้ง
“ช่วยตามอิศราให้ผมหน่อยนะครับ” ภีรวัสเม้มปาก หลุบตาลงมองมือของตัวเองที่วางอยู่ผ้าห่ม
“ทำไมหรือครับ”
“ผมอยากอยู่กับคนที่ผมสนิทที่สุด ส่วนคุณจะไปไหนก็ไป” ภีรวัสตอบเสียงเย็น
“คุณไม่อยากเห็นหน้าผม” วรุฒม์พยักหน้าเข้าใจ “ได้ ผมจะไปไกลๆ”

เดี๋ยวมาต่อครับ ขอไปซิ่งมอเตอร์ไซด์เล่นกับไปฝึกโยคะก่อนนะ
 :z2:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 21 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: aimaim ที่ 08-10-2009 09:04:46
 :z10: :z10: อยากจับคุณ นาย มัดจัง อิอิ ( มัดให้ติดกับหน้าคอม ไม่ต้องไปไหนเลย เหอๆๆ )
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 21 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: alterlyx ที่ 08-10-2009 09:59:03
 :impress2: โหหหห คุณนาย ไปฟิตมาจากไหนคะเนี่ย ... ได้อ่านหลายตอนติด ชื่นใจจังเลย
สงสัย อยากลงเรื่องใหม่มากแล้วล่ะสิ อิอิอิ

ใครอยู่บ้านใกล้ๆคุณนาย ช่วยขโมยมอเตอไซด์ไปซ่อนไว้ซักระยะได้มั้ยค่ะ (เลียนแบบธีรดนย์)
เขียนตอนน่ารักๆทีไร ............... ก็หายไปซิ่งมอไซด์เรื่อยเลย ...

วุ้ย ค้างงงงงงงงงงงง   :a5:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 21 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: kunkai ที่ 08-10-2009 10:43:47
 :3130:ไปด้วยคนจิ
ชอบเหมือนกันค้าบ
ขับไปที่สวนสาธารณะ
เย็นสบายทำให้อารมณ์ดี

แต่....
ตอนนี้ค้างง่า :เฮ้อ:
รีบกลับมาต่อนะค้าบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 21 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 08-10-2009 11:13:08
 :serius2:

พี่นายยยยยยยยยยยยยยยยยย ค้างงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 21 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 08-10-2009 11:31:45

ตัดต่อยังไม่เสร็จ?
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 21 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 08-10-2009 11:42:00
คุณ นาย  มาต่อแค่นี้  ก็ฆ่ากันเลยดีกว่า

ฮึ๊ยๆๆๆๆ   คนกำลังอินค่ะ..... :o12:


ให้กำลัง อีก >/////<  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 21 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 08-10-2009 12:49:53
ไม่ได้มาอ่านนานเลย เรื่องใกล้จบแล้วหรือครับยังคงวุ่นวายไม่หยุดนะสองคู่เนี้ย เป็นกำลังใจให้นะครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 21 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: teenza ที่ 08-10-2009 14:16:28
วิญญาณนางเอกหนังไทยเข้าสิงพีเจซะแล้ว มีงอน มีงอน
อยากรู้ ผู้พันวรุฒิจะไล่ผียังไง
เอ๊ะ หรือไล่ยังงี้ดี :impress2: หุหุ
ปล คุณนายจะสอนกดผมเหรอ :-[ ถ้ารูปนั้นคือคุณนายเดี๋ยวผมส่งแผนที่ไปให้เลย เอร๊ยยยยยยยยยอายวะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 21 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: aimaim ที่ 08-10-2009 14:20:35
ไปแว้นถึงไหนนี่ ตั้งแต่เช้าแระ  :z3: :z3: อยากอ่านต่อง่ะ TT^TT
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 21 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 08-10-2009 14:47:37
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ผู้พันคะปล่อยให้คนป่วยดื้ออยุ่ได้ยังไงคะ
จับกรอกน้ำด้วยปากเลยคระ อั๊ยยยยยยยยย
วิธีนี้ได้ผลชงักอาการดื้อโดยแท้
คุณภีร์ก็พูดไล่ไปงั้นแหละตามประสาคนป่วย
น้อยอกน้อยใจเป็นธรรมดาจะไปตามเืพื่อนที่กำลัง
เข้าด้ายเข้าเข็มอยู่ได้ยังไงกัน ก้อนอิฐคงมีแรงยกแก้วน้ำ
ป้อนเพื่อนหรอก  :m20:

ขยันมากกกกกกกกกกกก ไปซิ่งแมงกะไซด์ขอให้เจอเดะแว๊นซ์
หล่อๆนะคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 21 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 08-10-2009 17:17:09
หึๆ อิศราไม่ว่างหรอก ตอนนี้เครื่องยนต์คงกำลังทำงาน ลูกสูบเดินเครื่องเต็มที่อยู่  :haun4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 21 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: morrian ที่ 08-10-2009 18:17:23
ขี่มอไซต์กะฝึกโยคะเสร็จแล้ว

ก็มาโพสต่อเลยนะค้าบบบบบ

รออ่านต่ออยู่นะคับ ^^ :call:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 21 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: aimaim ที่ 08-10-2009 18:25:12
สงสัยฝึกโยคะเพลินจนลืมไปแล้วมั้งเนี่ย จุดธูปเรียกแล้วนะ  :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 21 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Zarch_Chabu_Chabu ที่ 08-10-2009 19:04:31
 :m16:ค้างอ่ะ:m31: อย่าให้ต้องไปทวงถึงที่นะครับ :angry2: :beat: :beat: :z6:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 21 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: crazy Y ที่ 08-10-2009 19:17:42
ถ้าดื้อนัก  ก็ป้อนด้วยปากไปเลยผู้พัน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 21 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 08-10-2009 19:55:21
ขอโทษทีที่ให้รอนะครับ วันนี้ไปโยคะมาและมีแถมคลาส Tai-Chi  กับ Pilates อีกนิด เหนื่อยสุดๆ แล้วก็ตอนบ่ายลงเอยด้วยการนวดแผนไทย
ถ้ามีเงินก็จะไปสปาขัดผิวอาบน้ำแร่แช่น้ำนมต่อให้สบายใจ  :really2:

สรุปแล้ว ไม่เจอเด็กแว๊นซ์ซักคนครับ ไปซิ่งมอเตอร์ไซด์ตอนเช้า เด็กแวนซ์ยังไม่ตื่น (ถามว่าทำไมไม่ซิ่งมอเตอร์ไซด์ตอนดึก คำตอบก็คือ ง่วงอ่ะ สี่ทุ่มก็ตาปรืออ้าปากหาวแล้ว)

ต่อบทที่ 21 ครับ

“คุณวางแก้วน้ำไว้ด้านที่แขนผมไม่เจ็บสิ”
“คุณก็ลุกขึ้นมาหยิบไปสิครับ”
“ลุกได้ยังไง คนขาหัก แขนหัก” ภีรวัสเม้มปาก เลิกคิดที่จะเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำ
“นั่นไงคุณยังต้องการคนช่วย แม้จะลุกขึ้นมาดื่มน้ำเองยังทำไม่ได้” วรุฒม์เดินเข้าไปใกล้แล้วหยิบแก้วน้ำขึ้นมา ตั้งท่าจะป้อนคนที่นอนป่วยอยู่บนเตียงอีกครั้ง
“ช่วยตามอิศราให้ผมหน่อยนะครับ” ภีรวัสเม้มปาก หลุบตาลงมองมือของตัวเองที่วางอยู่ผ้าห่ม
“ทำไมหรือครับ”
“ผมอยากอยู่กับคนที่ผมสนิทที่สุด ส่วนคุณจะไปไหนก็ไป” ภีรวัสตอบเสียงเย็น
“คุณไม่อยากเห็นหน้าผม” วรุฒม์พยักหน้าเข้าใจ “ได้ ผมจะไปไกลๆ”

เวลาผ่านไปนานพอสมควร ภีรวัสนอนกัดฟัน ตาเหม่อมองเพดาน ตั้งแต่วรุฒม์เดินออกไปจากห้องก็ไม่มีวี่แววว่าอิศราจะเดินเข้ามาหาเขา แสดงให้เห็นว่าวรุฒม์ไม่ได้ไปตามอิศราตามที่เขาบอก จนสายตะวันโด่ง คนที่เดินเข้ามาในห้องคือวิษณุ นายแพทย์หนุ่มบอกว่าอิศรากำลังนอนหลับสบายเลยไม่อยากปลุก
“เป็นยังไงบ้างครับ ผมตั้งใจว่าบ่ายๆ จะย้ายคุณไปที่แม่สะเรียง จะได้ดูแลสะดวก” วิษณุถาม
“ผมรบกวนผู้พันมากเกินไปแล้วครับ เอาผมไปส่งที่โรงพยาบาลอำเภอก็ได้นะครับ พอดีขึ้นผมจะย้ายกลับกรุงเทพฯ เลย”
“วรุฒม์คงไม่ยอม นี่ก็สั่งผมไว้ว่าให้ดูแลคุณให้ดีที่สุด ให้พาคุณไปอยู่ที่โรงพยาบาลทหารในค่าย”
“ไม่ได้นะครับ” ภรีวัสรีบทักท้วง “ผมไม่ใช่ทหาร จะไปนอนอยู่โรงพยาบาลทหารได้ยังไง”
“ถ้าเป็นคำสั่งของผู้บัญชาการกองพันฯ ทำไมจะไม่ได้ล่ะครับ” วิษณุตอบยิ้มๆ “เออแต่ก็แปลกนะ พอสั่งผมไว้แล้วก็หายไปเฉยๆ นี่ก็ไม่เห็นตั้งแต่เช้า”
“เขาคงมีธุระด่วน”
“นั่นสิ ท่าทางมีราชการด่วนจริงๆ ตอนนี้วรุฒม์กำลังยุ่งๆ ครับ แต่ถึงยุ่งก็ยังโทรมาสั่งการผมกับทีมค้นหาคุณให้ทำงานกันแบบไม่ต้องหลับต้องนอน ทั้งที่ประชุมอยู่กับ ผ.บ. ท.บ. กับแม่ทัพภาคฯ ยังแอบหาเวลาโทรมาถามข่าวได้เกือบทุกชั่วโมง นี่ผมยังแปลกใจอยู่เลยนะครับว่าทำไมวรุฒม์มาจากกรุงเทพฯ ได้ เท่าที่รู้ เขาต้องอยู่กับท่านแม่ทัพภาคฯ จนถึงเย็นวันศุกร์” วิษณุพูดไปพลางตรวจดูอาการของภีรวัสไปด้วย ภีรวัสฟังเงียบๆ แล้วพยักหน้าตอบคำถามของวิษณุที่ถามเขาว่าเจ็บหรือไม่เมื่อกดลงเหนือหัวเข่า
“โชคดีนะครับที่คุณไม่ได้เป็นมาลาเรีย แล้วแค่ขาหัก อีกหน่อยก็กลับไปเดินได้สะดวกเหมือนเดิม แต่ระหว่างนี้อาจรำคาญหน่อย”
“อีกนานไหมครับผมถึงจะกลับเข้ากรุงเทพฯ ได้” ภีรวัสถาม
“อยากกลับมากหรือครับ” วิษณุเงยหน้าขึ้นมาถามคนป่วยด้วยใบหน้ายิ้มๆ “พักฟื้นอยู่ที่นี่ก่อนไม่ดีหรือครับ งานวิจัยก็เสร็จแล้ว”
“ผมยังต้องเขียนรายงานต่อครับ ภาคสนามเสร็จแล้วก็จริง แต่ยังมีเรื่องเอกสารที่ต้องทำให้เสร็จ อีกอย่าง ผมต้องเขียน proposalขอทุนงานวิจัยชิ้นใหม่อีก” ภีรวัสพูดเสร็จแล้วถอนหายใจ
“ไม่พักเลยหรือครับ เสร็จงานนี้ต้องทำอีกงานทันทีเลยหรือ พักซักหน่อยดีกว่า อยู่เที่ยวที่นี่ต่อให้หนำใจแล้วค่อยกลับ ผมจะดูแลคุณกับคุณอิศราเอง”
“ขาพิการแบบนี้จะเที่ยวได้ยังไง” ภีรวัสก้มลงมองขาของตัวเอง “ผู้พันชวนอิศราเถอะครับ ผมจะเข้าไปรักษาตัวในกรุงเทพฯ มีคนช่วยดูแลกันหลายคน ทั้งเพื่อน ทั้งญาติ ทั้งครอบครัว แย่งกันดูแลจนไม่หวาดไม่ไหว”
...เขาทนอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ไหวแล้ว เขากำลังจะแพ้ใจตนเอง ถ้าอยู่ห่างวรุฒม์เขาก็คงตัดใจได้ง่ายขึ้น...
...ตกลงเกมนี้เขาแพ้อย่างราบคาบ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เกมหลอกให้รักแล้วทิ้งพังไม่เป็นท่า กลายมาเป็นเกม 'ตกหลุมรักแล้วจำต้องทิ้ง'  วรุฒม์ไม่สะทกสะท้าน ไม่อาลัยอาวรณ์เลย เมื่อเขางอนแล้วบอกว่าอยากอยู่กับอิศรา วรุฒม์ก็ยอมไปง่ายๆ ไม่ลังแลแม้แต่นิด...
...วรุฒม์มีใจให้เขาบ้างหรือเปล่า ที่ทำท่าทางเหมือนมีใจให้กับเขานั้นแกล้งทำเท่านั้นหรือ...

หนึ่งอาทิตย์แล้ว อิศรายังไม่ยอมกลับกรุงเทพฯ ภีรวัสนั่งเหงาอยู่คนเดียวในร้านกาแฟริมสระว่ายน้ำในสโมสรหมู่บ้านมัณฑนา ตามองไปรอบๆ อย่างเบื่อหน่ายพร้อมคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
“เรากำลังฮันนี่มูน” อิศราเสียงใสเมื่อคุยโทรศัพท์กับเขาป่ายวานนี้ “ผู้พันวิษณุพาไปดูที่ดินตรงเชิงเขาด้วยล่ะ มีแม่น้ำใสแจ๋วเหมือนถุงยางรุ่นเฟเธอร์ไลท์ไหลผ่าน บรรยากาศโรแมนติกสุดๆ เรารู้สึกเหมือนสามีกำลังพาไปดูสถานที่ก่อสร้างเรือนหอยังไงยังงั้นเลยล่ะภีร์”
“เสียตัวให้เขาไม่รู้กี่ครั้งแต่กี่ครั้งแล้วยังไม่ได้เข้าห้องหอนี่นะ” ภีรวัสอดเหน็บแนมไม่ได้
“ไม่เป็นไร เรายอมท้องก่อนแต่ง” อิศราหัวเราะขำ “ผู้พันวิษณุเป็นคนหวานจริงๆ รู้ไหมภีร์ โรแมนติกซะไม่มี ชวนเรากินข้าวใต้แสงเทียนทุกคืน บางคืนพากันเมคเลิฟใต้แสงจันทร์ด้วย ไอ้เราก็อยากทำใต้แสงอาทิตย์บ้างแต่ผู้พันยังใจไม่ถึงพอ เลยทำได้แค่นั่นกันกลางวันแสกๆ ในห้องนั่งเล่นกับห้องครัว”
“พอทีเถอะอิศรา ไม่อยากฟัง” อิศราทำเสียงฉุนใส่เพื่อน
“เราคิดไม่ผิดที่เลือกผู้พันวิษณุ ถ้าเลือกผู้พันวรุฒม์ป่านนี้คงนั่งเหี่ยวแห้งตายไปแล้ว ผู้พันวรุฒม์งานยุ่งจนไม่เห็นหน้าเห็นตา ป่านนี้คงอยู่ในป่าวิ่งไล่เตะก้นพวกคอมมิวนิสต์อยู่มั๊ง แล้วคนเงียบๆ ขรึมๆ นิ่งๆ แบบนั้นคงทำอะไรโรแมนติกไม่เป็น เข้าทำนอง เท่แต่กินไม่ได้ เลียได้อย่างเดียว”
ภีรวัสถอนหายใจ นึกถึงการสนทนากับเพื่อนเมื่อตอนบ่ายแล้วรู้สึกน้อยใจวรุฒม์ขึ้นมาอีกแล้ว ตั้งแต่เช้ามืดวันนั้นที่สถานีอนามัย วรุฒม์ก็หน้าหน้าไปเลย แม้เขากลับมาพักฟื้นที่แม่สะเรียงวรุฒม์ก็ไม่เคยมาเยี่ยม จนวันที่วิษณุกับอิศราพาเขามาขึ้นเครื่องบินที่สนามบินเพื่อเข้ากรุงเทพฯ ก็ไม่เห็นหน้าวรุฒม์
กลับมาอยู่กรุงเทพฯ เขาไม่ได้ทำอะไรเลย รายงานวิจัยที่เขาควรจะเขียนบทวิเคราะห์ให้เสร็จก็ยังไม่เสร็จ เขาไม่มีสมาธิที่จะทำอะไรทั้งนั้น วันๆ ก็นั่งเล่นอยู่ที่บ้าน ไม่ก็มาที่สโมสรของหมู่บ้านจนเข้าของร้านกาแฟจัดที่นั่งประจำให้ พร้อมหาหมอนมาให้รองขาข้างที่หักอีกต่างหาก
ภีรวัสหันไปกวักมือเรียกพนักงานเพื่อนสั่งเครื่องดื่มเพิ่ม แต่สายตามองไปเห็นวรางคณา เพื่อนที่รู้จักเมื่อครั้งทำวิจัยด้วยกันที่จังหวัดสตูลเดินเข้ามาในสโมสร หญิงสาวยกมือขึ้นโบกทักทายแล้วรีบเดินตรงเข้ามาหาโดยมีชายหนุ่มรูปหล่อคนหนึ่งเดินตามมาติดๆ
“ไปเยี่ยมที่บ้านก็ไม่เจอ คนข้างบ้านบอกว่าให้ลองมาดูที่สโมสร” วรางคณายิ้มกว้างแล้วหันไปแนะนำชายหนุ่มที่มาด้วยให้รู้จัก
“พี่สันต์คะ นี่ภีร์ค่ะ คนที่เคยเล่าให้ฟัง ภีร์ นี่พี่สันต์ เพิ่งจบดอกเตอร์มาหมาดๆ สาขาเดียวกับภีร์ด้วยล่ะ”
“สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักนักวิจัยคนเก่ง เห็นณาบอกว่าคุณภีร์กำลังขอทุนยูเอ็นทำวิจัยที่อินโดนีเซีย” สันต์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ทำให้ภีรวัสอดนึกถึงผู้พันวิษณุไม่ได้
“งานวิจัยล่าสุดยังไม่เสร็จเลยครับ proposal ของอันใหม่เลยยังไม่ได้แตะเลยแม้แต่นิดเดียว” ภีรวัสตอบยิ้มๆ
“อ้าว นึกว่าเสร็จไปแล้ว ถ้ายังงั้นเรื่องวิจัยของยูเอ็นจะทันหรือ” วรางคณาทำตาโต ภีรวัสส่ายหน้า หญิงสาวจึงพูดต่อว่า “ไม่ทันแน่ๆ เลย เท่าที่รู้มา เขากำลังจะเปลี่ยนไดเร็คเตอร์คนใหม่ แล้วคนนี้ไม่ค่อยสนใจฟีลด์ของเราด้วยซ้ำ ได้ยินมาว่าเขาไม่ค่อยชอบคนเอเซีย โอกาสที่เขาจะให้ทุนเราอาจจะน้อย ต้องรีบเสนอให้ทันคนเก่าก่อนที่เขาจะย้าย”
“คงไม่ทันหรอก แต่ช่างเถอะ คราวนี้ไม่ทันก็รอคราวหน้า พิการอยู่แบบนี้จะไปทำอะไรได้” ภีรวัสยักไหล่
“ผมช่วยไหมครับ” วสันต์เสนอตัว
“ณาก็จะช่วย แต่ต้องช่วยผ่านอีเมล์เพราะมะรืนนี้จะไปทำงานโปรเจ็คใหม่ที่ออสเตรเลีย แต่พี่สันต์ช่วยได้เต็มที่ รู้ไหม บ้านอยู่ไม่ไกลกัน ไม่น่าเชื่อเลยเนอะ รู้ยังงี้แนะนำให้รู้จักกันตั้งนานแล้ว จะได้ช่วยกันทำวิจัย”
วรางคณากับวสันต์คุยกับภีรวัสเกือบหนึ่งชั่วโมงจึงขอตัวกลับ แต่ภีรวัสสังเกตเห็นว่าดอกเตอร์หนุ่มคนใหม่ทำท่าไม่อยากกลับขึ้นมาเฉยๆ
“พรุ่งนี้ผมว่าง จะแวะมาหานะครับ จะเอาคอมพิวเตอร์มาด้วย แล้วเริ่มพิมพ์ proposal เลย” วสันต์ทำท่าขึงขัง
“พี่สันต์ทำงานเร็วมาก ถ้าได้สองแรงสองสมองสี่มือช่วยกันทำ รับรองว่าเสร็จทันแน่” วรางคณาชมวสันต์
ภีรวัสพยักหน้าแล้วยิ้มให้ทั้งสองซึ่งลุกขึ้นและเดินจากไปช้าๆ เขามองตามวรางคณาและวสันต์เดินออกไปจากสโมสรหมู่บ้าน และเห็นวสันต์หันมามองเขาอีกสองสามครั้ง หากเป็นเมื่อก่อน เขาคงย้ิมถูกใจที่มีคนมาชอบ และอาจคิด 'เล่นเกม' สนุกๆ อย่างที่เคยเล่น แต่ทว่าตอนนี้ เขาไม่มีคู่แข่งแล้ว อิศราทำท่าจริงจังกับวิษณุ และที่สำคัญ เกมล่าสุดก็จบลงแบบที่ทำเอาเขาเจ็บไม่น้อย จนป่านนี้ยังทำให้รู้สึกเหมือนว่าเป็น 'ฝันร้ายกลางฤดูหนาว'
...เกือบสองอาทิตย์แล้ว เขายังลืมวรุฒม์ไม่ลง แต่วรุฒม์คงลืมเขาไปแล้ว...
...สองอาทิตย์ จะโทรศัพท์มาซักครั้งก็ไม่มี...
...แต่ทำไมต้องโทรมาล่ะ จบก็คือจบ เขาควรจะทิ้งวรุฒม์อย่างที่ควรจะทำ ถึงวรุฒม์จะไม่บอกรักเขาก็ช่างเถอะ แต่มันควรจะจบได้แล้ว แม้จะไม่สวยเท่าไหร่นักแต่จบไปเลยดีกว่าจะมายืดเยื้อ...
...ยืดเยื้อที่ไหน มันจบแบบเด็ดขาดจริงๆ แล้วต่างหาก และเขาไม่ได้เป็นคนทิ้งวรุฒม์ เขาโดนทิ้ง วรุฒม์ทิ้งเขา วรุฒม์เป็นคนทำให้มัน 'จบ' เอง...
...วรุฒม์ เขารักวรุฒม์หรือ แล้ววรุฒม์ล่ะ รักเขาหรือเปล่า...

เมื่อกลับถึงบ้านพักวรุฒม์ก็นอนแผ่หมดแรงทั้งที่อยู่ในชุดฝึก ไม่ถึงห้านาทีวิษณุก็เดินเข้ามาในบ้านแล้วยืนมองเขาเพื่อนด้วยใบหน้ายิ้มๆ
“เปิดบ้านทิ้งไว้ โจรเข้ามาขโมยของนายก็คงไม่รู้”
“ใจรที่ไหนกล้าเข้ามาก็ให้มันรู้ไปสิ” วรุฒม์ตอบเสียงเนือย ตาเหม่อมองเพดาน
“เหนื่อยขนาดนี้เลยหรือรุฒม์ นายทำงานหนักเกินไปหรือเปล่า ไม่เห็นจะต้องลงไปลุยขนาดนี้นี่นา ให้ลูกน้องทำไปสิ ตัวเองเป็นถึงพันโท เป็นผู้บัญชาการกองพันสบายๆ ไม่ชอบ”
“คิดแบบนี้ไง มิน่าคนไข้ถึงล้นโรงพยาบาล”
“เอาอะไรมาพูด คนไข้ของเราทุกรายหายแล้วสบายดีกันทุกคน รวมถึงคนไข้พิเสษที่ขาหักคนนั้นด้วย เท่าที่รู้ ตอนนี้เดินได้เองแล้วโดยไม่ต้องใช้ไม้เท้า พอเดินได้เท่านั้นล่ะ ขับรถร่อนไปมาทั่วกรุงเทพฯ” วิษณุจงใจพูดด้วยเสียงสดชื่นมากกว่าปกติเมื่อพูดถึงภีรวัส
“ดื้อจริงๆ” วรุฒม์บ่นพึมพำ
“อิศราจะตามไปคุม กลัวว่าคุณภีร์จะขับรถไปชนใครเข้า เพราะฉะนั้นอาทิตย์หน้าเราจะไม่อยู่ เราลาหยุดหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ แต่เราจะย้ำพลทหารให้ดูแลนายให้ดีเพราะได้รับรายงานว่าชีวิตนายมั่วไปหมด กินข้าวไม่เป็นเวลา ดื่มเหล้ามากกว่าเดิม นอนดึก แล้วชอบขู่จะเตะลูกน้องจนมันจะกลายเป็นโรคประสาทกันอยู่แล้ว”
“ใครมันกล้าเอาเรื่องเราไปรายงาน จะจับขังคุกให้หมด” วรุฒม์เน้นเสียง ยังนอนอยู่ท่าเดิมไม่ไหวติง
“วรุฒม์ นายจะทำอย่างนี้ไปทำไมวะ เห็นไหมล่ะ ทรมานตัวเองด้วย จะสอนบทเรียบอะไรให้คุณภีรืแบบนี้ จะทำให้เขาทุรนทุรายเพราะคิดถึงตัว คนที่อาการหนักคือนายต่างหาก” วิษณุก้มหน้าลงมองเพื่อน ส่ายหน้าช้าๆ อย่างอ่อนใจ
“เรามั่นใจว่าเราทำถูก”
“เพราะนายไม่เคยทำอะไรพลาด” วิษณุเติม “เรารู้ดีว่านายเก่งและมั่นใจในตัวเองมาก แต่ว่าไม่กลัวเป็นดาบสองคมหรือ อิศราบอกเราว่าตอนนี้คุณภีร์กำลังโดนจีบ”
วรุฒม์เงียบไม่ไหวติง วิษณุปรายตามองเพื่อนแล้วพูดต่อว่า “มีคนเข้ามาช่วยทำวิจัย เป็นดอกเตอร์หนุ่มรูปหล่อ เพื่อนรุ่นพี่ของเพื่อนที่เคยทำงานวิจัยด้วยกัน บ้านอยู่ใกล้กันด้วย ขลุกอยู่ด้วยกันที่สโมสรหมู่บ้านทั้งวัน ทุกวันอีกต่างหาก แต่นานเข้าคงสนิทกันจนไปขลุกอยู่ที่บ้าน” วิษณุเล่าถึงสิ่งที่อิศราเล่าให้เขาฟัง แต่ประโยคหลังเขาเติมเข้าไปเอง
เสียงดังโครม วิษณุสะดุ้งหันไปมองจึงเห็นว่ารองเท้าบู้ทสีดำของวรุฒม์เหยียบอยู่บนโต๊ะไม้เล็กๆ หน้าโซฟาซึ่งตอนนี้พังไปเรียบร้อย
“ทำลายทรัพย์สินของทางราชการโดนปรับนะผู้พันวรุฒม์” วิษณุเตือน
“โต๊ะอะไรเปราะบางเป็นบ้า” วรุฒม์ยันตัวลุกขึ้นยืน “แต่ถ้านายยังพูดอะไรไม่เข้าหูอยู่อีกละก็...”
“ผู้พันวรุฒม์ผู้เคร่งขรึมกลายเป็นอันธพาลไปซะแล้ว” วิษณุอมยิ้ม ไม่มีท่าทางเกรงกลัว
“เราไม่ให้ภีรวัสไปเล่นเกมบ้าๆ แบบนั้นกับใครอีกหรอก ถึงเวลาแล้วที่เราจะจัดการกับคนที่กล้ามาตอแยกับเรา” วรุฒม์ยืนกางขาผงาด มือเท้าสะเอว เสียงทุ้มต่ำ หรี่ตาคากริบลง แล้วเดินหายไปในห้องครัวหลังบ้านเพื่อดื่มน้ำ
“ยังไงก็อย่าให้ดอกเตอร์หนุ่มรูปหล่อคนนั้นถึงตายล่ะ” วิษณุหัวเราะเบาๆ อยู่คนเดียวแล้วตามเข้าไป 'ให้กำลังใจ' เพื่อนต่อ
...ชักสนุกแล้วสิ อยากจะรู้จังเลยว่าใครจะชนะ นักรบของกองทัพไทย หรือนักวิจัยคนเก่งเจ้าแผนการ...
...แต่ที่แน่ๆ เขาขอเป็นกองหนุนเต็มที่ วรุฒม์กับภีรวัสจะได้มีความรักครั้งแรกเสียที...

***21***
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 21 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 08-10-2009 19:57:42
Heart Game Chapter 22 The End

ภีรวัสหยุดพูดเมื่อเห็นวสันต์หยุดพิมพ์ตามคำพูดของเขา วสันต์มาช่วยเขาทำงานตั้งแต่บ่ายและใช้เวลาทำ research proposal เพื่อเสนอขอทุนทำการวิจัยด้วยกันมาแล้วกว่าสามชั่วโมง
“หยุดทำไมครับ” ภีรวัสถาม แล้วหันหลังมองตามวสันต์
“คุณคนนั้นเขาจ้องเราอยู่นานแล้ว เขารู้จักคุณภีร์หรือครับ” วสันต์มองข้ามไหล่ของภีรวัสไปยังอีกฟากหนึ่งของสระว่ายน้ำ
“ผู้พัน” ภีรวัสอุทานเบาๆ
“ผู้พัน” วสันต์ทวน “เป็นทหารหรือครับ หรือว่าตำรวจ ผมจะโดนฆ่าไหมเนี่ย ท่าทางเหมือนอยากจะกินเลือดกินเนื้อผม”
“แค่คนเคยรู้จักกันครับ” ภีรวัสยักไหล่ หันมาสนใจงานตรงหน้า ทำเหมือนว่าวรุฒม์ไม่สลักสำคัญอะไรเลย
“ต่อนะครับ” ภีรวัสพูดกับวสันต์ แต่ชายหนุ่มยังอึกอัก
“ไม่พักกันหน่อยหรือครับ คนรู้จักกัน น่าจะทักทายกันบ้าง” วสันต์ถาม
“เขาไม่เห็นเข้ามาทักผมเลย อย่าสนใจเลยครับ สนใจเรื่องของเราดีกว่า” ภีรวัสยื่นมือไปแตะแขนของดอกเตอร์หนุ่มที่ยิ้มแห้งๆ แล้วอดไม่ได้ที่จะหันไปมองคนหน้าดุซึ่งยืนล้วงกระเป๋ามองอยู่อีกฟากหนึ่งของสระ
วสันต์ทำงานต่อแต่ภีรวัสกลับพูดวกไปวนมาจนวสันต์ต้องหยุดพิมพ์อยู่บ่อยๆ จนในที่สุดชายหนุ่มจึงบอกให้ภีรวัสพัก
“อย่าเพิ่งพักเลยครับ ทำต่อให้เสร็จเถอะ” ภีรวัสยังดันทุรังไม่หยุด
“ผมว่าคุณเหนื่อยมากเกินไปแล้วล่ะ คุณรู้ไหมครับว่าคุณพูดสมมุติฐานอันเดิมมาสองสามครั้งแล้ว ส่วนข้อตกลงเบื้องต้นของการวิจัยนี่ก็ไม่ได้เข้ากับประเด็นเลย ตัวแปรนำขัดแย้งกับตัวแปรกตาม ผมว่าคุณชักจะเบลอแล้วนะครับ” วสันต์พับจอคอมพิวเตอร์ลงแล้วลุกขึ้น บอกว่าจะไปสั่งเครื่องดื่ม
“แตงโมปั่นเหมือนเคยนะครับ” วสันต์ยิ้มแล้วพูดต่อว่า “อ้อ ผู้พันหน้าดุคนนั้นหายไปแล้ว คงฉุนที่คุณไม่ยอมทัก”
ภีรวัสหันขวับไปมอง แล้วรู้สึกอารมณ์ขุ่นเคืองขึ้นมาทันที
...จะเล่นสงครามประสาทกับเขาหรือไง มายืนจ้องแล้วหายตัวไป ทำยังงี้ต้องการอะไรกันแน่...
“วันนี้พอแค่นี้ก่อนดีกว่านะครับ พรุ่งนี้คุณวสันต์พักก็ได้ มาเสียเวลาอยู่กับผมหลายวันแล้ว คุณวสันต์อาจจะอยากไปทำอะไรอย่างอื่น”
“จริงๆ ที่นี่ก็บรรยากาศดี มาที่นี่ก็เหมือนพักผ่อน สโมสรหมู่บ้านของคุณภีร์เหมือนรีสอร์ทยังไงยังงั้น” วสันต์หันไปมองรอบๆ อย่างอารมณ์ดี “ผมยินดีมาทุกวัน”
ภีรวัสไม่ตอบ เอาแต่นั่งยิ้ม และเมื่อวสันต์เดินเข้าไปในร้านกาแฟเขาก็อดหันไปมองรอบๆ ไม่ได้ พลันสายตาปะทะเข้ากับสายตาคมกริบของพันโทวรุฒม์ที่โผล่มายืนอยู่หน้าเคาท์เตอร์บาร์เครื่องดื่มใกล้สระว่ายน้ำ
...ถ้าขาไม่เจ็บ จะวิ่งไปถามเดี๋ยวนี้เลยว่ามาทำไม แล้วถ้ามาเพื่อจะยืนมองเขาอยู่แบบนี้ก็ไม่ต้องมาเลยจะดีกว่า...
ภีรวัสทำปากยื่นด้วยความไม่พอใจแล้วเมินหน้าหนีจากวรุฒม์ ทำเป็นไม่รับรู้ว่าวรุฒม์ยืนอยู่ตรงนั้น แต่เขากลับไม่เข้าใจว่าทำไมรู้สึกใจเต้นตึกตักอย่างควบคุมไม่ได้
...ใจเต้นเพราะโกรธหรือเพราะน้อยใจ วรุฒม์ไม่เคยแคร์เขาเลย แม้เขามาอยู่กรุงเทพฯ ตั้งนานก็ไม่เคยสนใจใยดี แล้วจู่ๆ ก็โผล่มายืนทำเป็นรูปปั้นจ้องเขาตาเขม็ง...
...คิดว่าตัวเองเท่นักหรือไง คอยดูสิ เขาจะแกล้งหวานกับวสันต์ให้ดู...

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 22 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: alterlyx ที่ 08-10-2009 20:11:11
บร๊ะเจ้า คุณนาย ฟิตมากกกก   o13
อยากจะ +3 ให้ ... แต่ ต้องสะสมไปวันละ 1 นะคะ อิอิ

สมน้ำหน้าวรุฒม์จริงๆ ที่มั่นใจตัวเองเกินไปแบบนี้
คิดว่า ภีร์จะมาง้อตัวเองก่อนรึไง .... ไม่มีทางซะหร้อกกกก
... เพราะ ภีร์เจ็บขา เอริ้กกกก ๆ

ชวนเรากินข้าวใต้แสงเทียนทุกคืน บางคืนพากันเมคเลิฟใต้แสงจันทร์ด้วย
ไอ้เราก็อยากทำใต้แสงอาทิตย์บ้างแต่ผู้พันยังใจไม่ถึงพอ

^^ อิศราแร๊งงงงง ได้ใจ น่าหมันเขี้ยวจริง ๆ ^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 22 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Resonance ที่ 08-10-2009 20:41:16
รอดูชะตากรรมของนายวสัตน์ เหอๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 22 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: lune ที่ 08-10-2009 21:14:15
เตรียม  :mc4: ได้แล้วมังคะ
ชอบบทท้ายๆ นะคะ
อยาก +10 ให้
แต่ขอโทษ ยังไม่มีสิทธิค่ะ  :monkeysad:
ไว้มีสิทธิเมื่อไหร่ จะใช้สิทธินั้นทันทีค่ะ
ฝาก  :L2: ไว้ก่อนนะคะ

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 22 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 08-10-2009 22:05:55
ชอบตอนพระเอกมาง้องอนแบบนี้จังเลย อย่ารุนแรงกับพี่วสันต์มากนะพี่นาย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 22 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 08-10-2009 22:10:37
ทำไมจบไวล่ะ  :call: สาธุคราวนี้ตอนจบขอให้รู้เรื่องที่เหอะ :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 22 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 08-10-2009 22:19:12
ตั้งแง่กันไปตั้งแง่กันมาอยู่ได้เนอะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 22 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Mimimimi ที่ 08-10-2009 22:31:29
สวัสดีค่ะ  เพิ่งเคยโพสต์ครั้งแรกนะคะ หลังจากที่เคยสมัครทิ้งไว้นานแล้ว
ตามอ่านเรื่องของพี่นายมาหลายเรื่องแล้วค่ะ
ชอบสไตล์การเขียนแบบนี้มากเลย  คือ มันไม่วัยรุ่นจ๋าดีค่ะ
จริงๆแอบตามไปที่เวปพี่นายด้วยแหละ  อิอิ  :o8:
ถ้าโพสต์ครบตามกำหนดแล้ว สัญญาจะมากด +1 ให้เรื่อยๆนะคะ
อันนี้เป็นสาเหตุอีกอันนะเนี่ย ที่คิดจะเริ่มโพสต์
จริงๆไม่ค่อยกล้าเข้ามาคุยอ่ะ  เห็นดูสนิทๆกันทั้งนั้นเลย

ยินดีที่ได้รู้จักค่าทุกคน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 22 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: teenza ที่ 08-10-2009 22:31:37
สุขสมไปหนึ่งคู่
อีกคู่ก็พ่อแง่แม่งอน
แต่ใจตรงกันแบบนี้ ลงเอยกันชัวร์
บวกหนึ่งให้คุณนายไปเลย 1184+1=1185
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 22 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: gboy ที่ 08-10-2009 23:06:13
 :seng2ped:
พี่นายอะ

มาเพื่อค้าง


รีบมาต่อเลย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 22 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: *SparklinG* ที่ 08-10-2009 23:24:53
 :m31:ค้างอย่างรุนแรงอ้ากกกก เชียร์ภีร เอาเลยลูก สู้ๆ เอาคืนเลย ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 22 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 08-10-2009 23:31:33

สงสัยคงต้องโยคะต่อกันสักอาทิตย์ เส้นสายจะได้ไม่ยึด อิอิ
^
^
เกี่ยวกับนิยายไหมนั้น  ?
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 22 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 08-10-2009 23:44:14
ขัดใจ แม่ยก เป็นที่สุ๊ดดดดดดดดดดดดดดดด~~~~

 :L2:  แต่ยังไงก็ ยังให้กำลังใจคุณ นาย เสมอ อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 22 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 08-10-2009 23:57:53
อุม่ายยยย ทำไมจบตอนแบบนี้ล่ะคร้าบบบบ มาต่อให้ไวเลย นะครับ ๆ ๆ  :m5:


จากตอนที่ 21/2
อ้างถึง
“พอทีเถอะอิศรา ไม่อยากฟัง” อิศราทำเสียงฉุนใส่เพื่อน
สงสัยไม่เจอเด็กแว้น เลยเซ็งๆเบลอๆ อิอิ



ปล.อิตาด็อกเตอร์วสันต์ จะชะตาขาดไหมนะ  :z1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 22 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 09-10-2009 00:09:49
หึหึ งานนี้เสร็จแน่ๆคะคุณภีร์ อย่ามาใช้ลูกไม้ตื้นๆกับท่านผู้พันนะคะ
ถ้าท่านจับได้ว่าคุณภีร์แกล้งยั่วล่ะก้อ โดนจับขังลืมแน่ๆคะ อิอิ :oo1:
ผู้พันก็แปลกนะชอบทรมานตัวเอง รักเค้าชอบเค้าก็ไปง้อคนเจ็บหน่อยจิ
นี่เล่นทำตามคำประชดซะไม่มีดีเลยนะเนี่ย
แล้วยังบ้าพลังมาวีนใส่ลูกน้องอีก อั๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ฮอร์โมนขึ้นๆลงๆ 5555

ส่วนคุณอิศราดื่มน้ำ...ผึ้งพระจันทร์ ไปกี่รอบแล้วคะเนี่ย
หวานกันจังเลยนะ อิอิคุณหมอก็เอาใจเมียซะเหลือเกิน
ไม่ขาดตกบกพร่องอะไร เลยเป็นคุณสามีมือใหม้ได้เพียบพร้อมมากๆ

“เราคิดไม่ผิดที่เลือกผู้พันวิษณุ ถ้าเลือกผู้พันวรุฒม์ป่านนี้คงนั่งเหี่ยวแห้งตายไปแล้ว
ผู้พันวรุฒม์งานยุ่งจนไม่เห็นหน้าเห็นตา ป่านนี้คงอยู่ในป่าวิ่งไล่เตะก้นพวกคอมมิวนิสต์อยู่มั๊ง
แล้วคนเงียบๆ ขรึมๆ นิ่งๆ แบบนั้นคงทำอะไรโรแมนติกไม่เป็น เข้าทำนอง เท่แต่กินไม่ได้ เลียได้อย่างเดียว
>> ทะลึ่งตึงตังซะไม่มีแม่คนนี้ อั๊ยยยยยยยยยยย :o8: :-[
สามีพาไปดูที่ดิน ก็เปรียบค.ใสของแม่น้ำซะหมดรูปเลยคะ

+1 จัดให้คะ  อะไรกับเด็กแว๊นก็มะเจอ โหยยยยยยยยยยยยยย
งั้นลองไปแว๊นตอนหัวค่ำนะคะเผื่อได้ติดไม้ติดมือมา 55
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 22 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: aimaim ที่ 09-10-2009 00:39:21
 :angry2: อะไรเนี่ย ค้างอ่ะ อย่างแรงเลยด้วย  :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 22 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 09-10-2009 01:43:39
กรี๊ดดดดดดดดดดด อิศรา ฮันนี้มูนนนนนนนนน กะสามีเหรอลูกกกกกกกกกกก 

โอ๊ยยยยยยยยยยย อย่างฮา น้ำใสเหมือนถุงยาง  ช่างเปรียบนัก  555555 

+1 ค่ะ 
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 22 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 09-10-2009 09:55:23
สงสัยคงต้องโยคะต่อกันสักอาทิตย์ เส้นสายจะได้ไม่ยึด อิอิ
เกี่ยวกับนิยายไหมนั้น  ?

เกี่ยวครับ  :pigha2:เพราะได้ไอเดียว่า นายเอกน่าจะปลง แล้วก็ไปโยคะ ฝึกสมาธิ
สวัสดีค่ะ  เพิ่งเคยโพสต์ครั้งแรกนะคะ หลังจากที่เคยสมัครทิ้งไว้นานแล้ว
ตามอ่านเรื่องของพี่นายมาหลายเรื่องแล้วค่ะ
ชอบสไตล์การเขียนแบบนี้มากเลย  คือ มันไม่วัยรุ่นจ๋าดีค่ะ
จริงๆแอบตามไปที่เวปพี่นายด้วยแหละ  อิอิ  :o8:
ถ้าโพสต์ครบตามกำหนดแล้ว สัญญาจะมากด +1 ให้เรื่อยๆนะคะ
อันนี้เป็นสาเหตุอีกอันนะเนี่ย ที่คิดจะเริ่มโพสต์
จริงๆไม่ค่อยกล้าเข้ามาคุยอ่ะ  เห็นดูสนิทๆกันทั้งนั้นเลย

ยินดีที่ได้รู้จักค่าทุกคน
ยินดีต้อนรับครับ  :กอด1: ขอบคุณที่ชมครับ ตัวจริงยังวัยรุ่นครับ แต่ชอบเขียนภาษาผู้ใหญ่ เพราะผู้อ่านอายุมากกันแล้วครับ น่าจะ 30 อัพปลายๆ ไม่ก็ 40 กันแล้วมั๊ง

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 22 (8/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 09-10-2009 10:00:25
ทำไมจบไวล่ะ  :call: สาธุคราวนี้ตอนจบขอให้รู้เรื่องที่เหอะ :laugh:

ห่วงเรื่องตอนจบจังนะคร้าบบบ เรื่องไหนๆ ก็เห็นรู้เรื่องทุกทีอ่ะ
(Katawoot สนับสนุนให้เด็กไทยใช้จินตนาการ)

ต่อ

...ใจเต้นเพราะโกรธหรือเพราะน้อยใจ วรุฒม์ไม่เคยแคร์เขาเลย แม้เขามาอยู่กรุงเทพฯ ตั้งนานก็ไม่เคยสนใจใยดี แล้วจู่ๆ ก็โผล่มายืนทำเป็นรูปปั้นจ้องเขาตาเขม็ง...
...คิดว่าตัวเองเท่นักหรือไง คอยดูสิ เขาจะแกล้งหวานกับวสันต์ให้ดู...

ภีรวัสเดินโขยกเขยกช้าๆ ไปตามทางเดินเท้าข้างถนนในหมู่บ้าน เขาฝากคอมพิวเตอร์ไว้ที่ร้านกาแฟ วสันต์รบเร้าจะไปส่งที่บ้านแต่เขาบ่ายเบี่ยงเช่นเคยโดยให้เหตุผลว่าต้องการออกกำลังกาย
อีกไม่กี่ซอยก็ถึงบ้าน ภีรวัสได้ยินเสียงรถแล่นมาจอดด้านหลังจึงหันไปมอง แวบหนึ่งเขาคิดว่าเป็นรถของวรุฒม์ และเมื่อคนขับลงมาจากรถ สิ่งที่เขาคิดก็เป็นจริง
วรุฒม์อยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์สีน้ำเงินเข้ม หวีผมเรียบ ใบหน้าเกลี้ยงเกลา ท่าทางสบายๆ ต่างจากใบหน้าเคร่งเครียดที่เห็นใกลๆ ในสโมสรหมู่บ้านราวเป็นคนละคน
“ผมไปส่งไหมครับ” วรุฒม์เดินเข้ามาหาภีรวัสช้าๆ ถามด้วยใบหน้ายิ้มๆ แบบที่เคยทำตอนแรกๆ เมื่อรู้จักกัน
“ไม่เป็นไร ขอบคุณครับ”
“คุณอยากเดินออกกำลังกาย” วรุฒม์พยักหน้า “จริงสิ ไม่งั้นคงให้ ดร. วสันต์ไปส่งแล้ว”
“คุณทำอะไรเค้า” ภีรวัสถามเสียงห้วน
“โอ้โห คุณคิดว่าผมร้ายกาจขนาดนั้นเชียว” วรุฒม์เลิกคิ้ว หัวเราะเบาๆ แล้วส่ายหน้า
“คุณจ้องเขาเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ ไม่ให้คิดยังงั้นได้ยังไง”
“มาเถอะ ขึ้นรถ ผมจะไปส่ง อย่ามาออกกำลังกายตอนนี้เลย” วรุฒม์ยื่นมือไปแตะแขนของภีรวัส
“คุณวสันต์ผมยังไม่ให้ไปส่งเลย” ภีรวัสเบี่ยงตัวหนี
“คุณวสันต์ไม่ใช่ผม และผมก็ไม่ใช่คุณวสันต์” วรุฒม์พูดเสียงเข้ม เปลี่ยนจากสีหน้ายิ้มๆ เป็นเคร่งขรึม “และคุณวสันต์คงไม่ใจกล้าและแข็งแรงพอที่จะอุ้มคุณไปขึ้นรถ”
“แล้วคุณกล้าและแข็งแรงยังงั้นสิ” ภีรวัสยิ้มเยาะ
“ผมเอาจริงนะภีรวัส ถ้าคุณยังเป็นแบบนี้เห็นทีผมจะต้องจัดการขั้นเด็ดขาด” วรุฒม์ยังทำหน้าเคร่ง
“จะจัดการยังไงครับ คุณจะทำอะไรผม ที่นี่ไม่ใช่ค่ายทหารกลางป่า คุณมาใช้อำนาจในหมู่บ้านจัดสรรไม่ได้หรอก” ภีรวัสเอียงหน้าเถียง ทำหน้าเคร่งเหมือนกัน
“ผมจะไปทำอะไรคุณได้” วรุฒม์ยักไหล่
“งั้นคุณจะจัดการขั้นเด็ดขาดยังไง” ภีรวัสถาม
วรุฒม์นิ่งไปนานครึ่งนาที มองหน้าภีรวัสราวกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง ก่อนจะก้มหน้าลงมาใกล้ใบหน้าของชายหนุ่มจนแทบจะได้ยินลมหายใจของอีกฝ่าย แล้วพูดขึ้นเสียงเบาแต่หนักแน่น
“ผมรักคุณ ผมรักคุณคนเดียวไม่ใช่อิศรา และผมไม่มีทางให้คุณทิ้งผมหรอก”
ภีรวัสกลั้นหายใจ ตะลึง เพราะไม่คิดว่าจู่ๆ จะได้ยินคำพูดนี้ออกมาจากปากของวรุฒม์
“นี่ไงครับหลักฐาน” วรุฒม์ยื่นโทรศัพท์ให้ภีรวัส “คุณจะได้เอาไปยืนยันกับคู่หูว่าคุณชนะ แต่เรื่องที่จะให้เกมจบลงแบบที่เคยทำนั่นน่ะ อย่าหวังเลย คนอย่างพันโทวรุฒม์ไม่ยอมโดนทิ้ง ผมไม่เคยบอกรักใคร และการบอกรักครั้งแรกของผมต้องไม่จบลงแบบละครชีวิตเศร้าเด็ดขาด”
“คุณจะเอายังไง” ภีรวัสพึมพำเสียงเบาหวิว
“ผมไม่เอายังไง คุณนั่นล่ะจะเอายังไง จะกลับตัวกลับใจ จะรักผมตอบ หรือจะหลอกปั่นหัวผู้ชายไร้เดียงสาคนที่ชื่อวสันต์ คนที่ยังไม่รู้ชะตากรรมตัวเองว่ากำลังจะกลายเป็นเหยื่อรายต่อไป “
“ใครว่า” ภีรวัสพึมพำค่อยยิ่งกว่าเดิม
“อะไรนะครับ” วรุฒม์เอียงหูเข้ามาใกล้เพราะไม่ได้ยินชัดเจน แต่ภีรวัสยืนนิ่ง ไม่ยอมพูดซ้ำอีกครั้ง “พูดอีกทีสิครับคุณภีรวัส ผมไม่ได้ยิน”
“พูดอะไร” ภีรวัสถาม
“ก็ตอบคำถามผม”
“คุณถามว่าอะไร ผมจำไม่ได้แล้ว” ภีรวัสยักไหล่ เริ่มจะตั้งตัวได้หลังจากที่ตะลึงเพราะวรุฒม์ 'จัดการขั้นเด็ดขาด'
...จัดการขั้นเด็ดขาดด้วยการบอกรักเขานี่หรือ รักเขาจริง หรือจะแกล้งเขากันแน่ แกล้งมาบอกว่ารัก พอเขาบอกว่ารักตอบ วรุฒม์ก็จะหัวเราะชอบใจว่าดัดหลังเขาได้สำเร็จ...
“ผมถามว่าคุณจะเอายังไง จะรักผมตอบหรือไม่”
ภีรวัสพูดไม่ออก รู้สึกสับสนในใจยิ่งนัก ไม่เคยนึกเลยว่าตัวเองจะต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ใจหนึ่งเขาเชื่อที่วรุฒม์พูดอย่างสนิทใจ ไม่สงสัยเลยแม้แต่นิด นัยน์ตาของวรุฒม์นิ่ง น้ำเสียงหนักแน่นจริงจังมาก แต่อีกใจหนึ่งนั้เขากลับหวาดกลัว
กลัวว่าจะโดนอย่างที่ตัวเองเคยทำกับคนอื่น...
...ขอทดสอบวรุฒม์และทดสอบหัวใจตัวเองอีกซักหน่อยเถอะ เขาต้องการความมั่นใจ...
“ผมยังไม่มั่นใจ ยังไม่รู้ว่าจะเอายังไง” ภีรวัสพูดเสร็จแล้วต้องกลั้นหายใจ ตามองลำคอของวรุฒม์ ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตาดวงตาคมกริบคู่นั้น แต่เขารู้สึกได้ทันทีว่าวรุฒม์ตัวเกร็งขึ้นมาทันใด กล้ามเนื้อต้นคอกระตุก ลมหายใจดังขึ้น และคิดว่าได้ยินเสียงพันโทวรุฒม์กัดฟัดกรอด
“คุณไปรักคนอื่นเถอะ ผมยังไม่พร้อม สำหรับผมมันก็แค่เกม”
...จะมากไปหรือเปล่าภีรวัส...
...ไม่มากไปหรอก ถ้าวรุฒม์รักเราจริง เขาต้องไม่หยุดอยู่แค่นี้ เขาต้องไม่ถอดใจทันที ชายชาติทหารต้องไม่ยอมแพ้ง่ายๆ...
"อ๋อ มันเป็นแค่เกมหัวใจ” วรุฒม์พูดเสียงเข้ม พยายามควบคุมอารมณ์ “ผมเข้าใจแล้ว”
ภีรวัสยังไม่ยอมสบตาวรุฒม์ ชายหนุ่มหันหลังแล้วเดินจากไปช้าๆ ทิ้งให้วรุฒม์ยืนนิ่งอยู่ใต้ต้นไม้เพียงคนเดียว แต่ครั้นเดินไปได้หลายก้าวเขากลับอยากจะหันหลังไปมองหน้านายทหารหนุ่มอีกครั้ง อยากเห็นว่าใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มของวรุฒม์จะเป็นอย่างไร แต่เขาก็ไม่กล้า
...เขากลัว...กลัวว่าวรุฒม์จะหันหลังเดินกลับไปที่รถทันที ไม่ยืนมองตามเขาอย่างอาลัยอาวรณ์ เหมือนเช้าวันนั้นที่สถานีอนามัยตอนที่เขาบอกวรุฒม์ไปให้พ้นหน้า วรุฒม์ก็เดินไปทันทีโดยไม่รีรอ...
...แล้วทำไมจะต้องยืนมองอย่างอาวรณ์ล่ะ วรุฒม์ควรจะรั้งเขาเอาไว้ ไม่ยอมให้เขาเดินหนีสิถึงจะถูก...
...นี่หรือคือการทดสอบหัวใจรักของคน ทำแบบนี้ถูกต้องแล้วหรือภีรวัส ทำไมต้องมาทำกันแบบนี้ เมื่อไหร่จะเลิกเล่นเกม...
ภีรวัสถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความสับสน ที่คิดเอาไว้เมื่อครู่ว่าจะขอทดสอบวรุฒม์และทดสอบหัวใจตัวเองอีกนิด ตอนนี้เขาเปลี่ยนใจแล้ว
...จะเป็นยังไงช่างมัน จะโดนดัดหลังและถูกทิ้งอย่างไม่ใยดีก็ช่างมัน อย่างน้อยนี่จะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาจะได้บอกรักใครอย่างที่หัวใจพร่ำร้องมาตลอดหลายอาทิตย์ที่ผ่านมา...
...รักจริงๆ ครั้งแรก ไม่ใช่รักหลอกๆ...
ภีรวัสสูดลมหายใจเข้าลึกๆ หันหลังช้าๆ พร้อมที่จะเผชิญกับความจริง พร้อมที่จะเปิดเผยความรู้สึกของตัวเอง และพร้อมที่จะสู้หน้าวรุฒม์ ผู้ชายที่ได้หัวใจของเขาไป
...เกมหัวใจจะได้จบลงเสียที...

    ************

ไปดูบินผาดแผลง Thunderbirds ที่ดอนเมืองก่อนนะครับ วันนี้ตอนบ่ายโมง ฝูง F16 มาบินโชว์

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 22 ต่อจนจบ (9/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 09-10-2009 10:27:23
ค้างแบบสมบูรณ์แบบเลย

แต่ตอนทำงานอยู่ดี ผูงบินธันเดอร์ซ้อมบินผาดโผน คนเลิกทำงานวิ่งไปเกาะกระจกดูกันหมดเลย ปลื้มๆๆๆๆๆ นักบินหล่อ อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 22 ต่อจนจบ (9/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 09-10-2009 10:33:36
ค้างแบบสมบูรณ์แบบเลย

แต่ตอนทำงานอยู่ดี ผูงบินธันเดอร์ซ้อมบินผาดโผน คนเลิกทำงานวิ่งไปเกาะกระจกดูกันหมดเลย ปลื้มๆๆๆๆๆ นักบินหล่อ อิอิ
เขาบิดผาดแผลงกันอยู่บนฟ้าด้วยความเร็วสุดพรรณา ยังมองเห็นนักบินอีก
ตาหากินจริงๆ เลย

ตอบจบมีสองเวอร์ชั่นครับ เวอร์ชั่น เอ กับ เวอร์ชั่น บี กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะลงเวอร์ชั่นไหน
อิ อิ
อยากรู้หน่อยน่า
ความสุขเล็กๆ น้อยๆ ของผู้เขียน (ที่เห็นผู้อ่านอยากรู้)  :z1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 22 ต่อจนจบ (9/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Resonance ที่ 09-10-2009 10:35:23
อยากดู แต่อยู่้บ้านนอก อดเลย  -*-

ว่าแต่ อย่าแกล้งคนอ่านหลายคนอ่านจะลงแดงตาก่อนเน้อ  :m31:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 22 ต่อตอนจบ (9/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 09-10-2009 11:36:57
..จะเป็นยังไงช่างมัน จะโดนดัดหลังและถูกทิ้งอย่างไม่ใยดีก็ช่างมัน อย่างน้อยนี่จะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาจะได้บอกรักใครอย่างที่หัวใจพร่ำ ร้องมาตลอดหลายอาทิตย์ที่ผ่านมา...
...รักจริงๆ ครั้งแรก ไม่ใช่รักหลอกๆ...

โผเข้าหาอ้อมอกล่ำๆของผู้พันเลยภีร์ 555 มัวแต่คิดหยุมหยิมอยู่ได้


พี่นายเอานักบินมาฝากฝูงนึงดิ  :laugh:

ตอนจบยังมีออปชั่นให้เลือกอีก จะซับซ้อนไปถึงไหนคะ  (แต่ถ้าแฮปปี้ทั้งคู่ก็รับหมด 5555)



หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 22 ต่อตอนจบ (9/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 09-10-2009 12:05:41

อายจังเลย  ถ้าจะบอกว่า เคยเป็นอย่างภีรวัส  :o8:

โคตรอึดอัด

อร๊างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงค์
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 22 ต่อตอนจบ (9/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: aimaim ที่ 09-10-2009 12:37:10
ดูท่าคุณ นายของเราจะสนุกนะเนี่ย -  - ชิชะ งอนแล้ว มันค้างอ่ะ งุงิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 22 ต่อตอนจบ (9/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Mimimimi ที่ 09-10-2009 13:30:48
 :monkeysad: ไม่ใช่ว่าหันกลับมาก็ไม่เจอแล้วนะคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 22 ต่อจนจบ (9/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 09-10-2009 13:32:38
ค้างแบบสมบูรณ์แบบเลย

แต่ตอนทำงานอยู่ดี ผูงบินธันเดอร์ซ้อมบินผาดโผน คนเลิกทำงานวิ่งไปเกาะกระจกดูกันหมดเลย ปลื้มๆๆๆๆๆ นักบินหล่อ อิอิ
เขาบิดผาดแผลงกันอยู่บนฟ้าด้วยความเร็วสุดพรรณา ยังมองเห็นนักบินอีก
ตาหากินจริงๆ เลย

ตอบจบมีสองเวอร์ชั่นครับ เวอร์ชั่น เอ กับ เวอร์ชั่น บี กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะลงเวอร์ชั่นไหน
อิ อิ
อยากรู้หน่อยน่า
ความสุขเล็กๆ น้อยๆ ของผู้เขียน (ที่เห็นผู้อ่านอยากรู้)  :z1:

ป่าวๆๆ ที่ว่าหล่อเพราะผมดูข่าวช่อง 3 เมื่อวานน่ะ เลยเห็นว่านักบินหล่อ อิอิ

ตอนจบน่ะ ได้โปรดเถอะ ลงมันทั้งสองเวอร์ชั่นนั้นแหละคับ น่ะๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 22 ต่อตอนจบ (9/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: กุหลาบเดียวดาย ที่ 09-10-2009 13:44:10
เมนท์แรกในบอร์ดให้คุณนาย ฉลองล็อกอินใหม่ สมัครได้เสียที

หลังจากแอบตาม แอบอ่านมานาน ชอบมาก ชอบทุกอย่างที่เป็นคุณนาย

พอสูงวัยแล้วชอบอ่านอะไรที่เบาเบา สนุกสนานมากกว่า

ขอบคุณนะคะ  สำหรับนิยายดีดีที่มีให้กัน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 22 ต่อตอนจบ (9/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 09-10-2009 14:43:41
ค้างด้วยเช่นกันครับ

อยากอ่านตอนจบทั้ง 2 เวอร์ชั่นเลยอะครับ อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 22 ต่อตอนจบ (9/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: aimaim ที่ 09-10-2009 15:28:43
^
^
^
^
โอ๊ะ เห็นด้วยกันกับรีบนเจ้าค่ะ หิหิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 22 ต่อตอนจบ (9/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 09-10-2009 16:29:39
ค้างอีกแล้ว ตีตายเลย :serius2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 22 ต่อตอนจบ (9/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 09-10-2009 17:48:04
มารอลุ้นครับ เอจะเลือกแบบไหนดีแบบ เอ แล้วกันนะครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 22 ต่อตอนจบ (9/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 09-10-2009 18:16:40
ยินดีต้อนรับผู้อ่านสูงวัยคนใหม่ครับ
เมนท์แรกในบอร์ดให้คุณนาย ฉลองล็อกอินใหม่ สมัครได้เสียที หลังจากแอบตาม แอบอ่านมานาน ชอบมาก ชอบทุกอย่างที่เป็นคุณนาย พอสูงวัยแล้วชอบอ่านอะไรที่เบาเบา สนุกสนานมากกว่า ขอบคุณนะคะ  สำหรับนิยายดีดีที่มีให้กัน

วันนี้ไปดูธันเดอร์เบิร์ด คนมหาศาลทุกเพศทุกวัยทุกขนาด ถ่ายรูปมาแล้วล่ะครับ ได้มาแต่ท้องฟ้า เลยหันมาถ่ายรูปคนบนพื้นดินดีกว่า เครื่องบินมันบินเร็วมาก สุดที่จะใช้กล้องจิ๋วๆ ของเราถ่ายได้ทัน แต่พอดีมีทหารอากาศสองคนยืนอยู่ข้างหน้า เลยเพลินไปเลย

ต่อ ตอนจบ ออฟชั่น A นะครับ เพราะไม่อยากให้คนที่ค้างได้เสร็จสมอารมณ์หมาย

...จะเป็นยังไงช่างมัน จะโดนดัดหลังและถูกทิ้งอย่างไม่ใยดีก็ช่างมัน อย่างน้อยนี่จะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาจะได้บอกรักใครอย่างที่หัวใจพร่ำร้องมาตลอดหลายอาทิตย์ที่ผ่านมา...
...รักจริงๆ ครั้งแรก ไม่ใช่รักหลอกๆ...
ภีรวัสสูดลมหายใจเข้าลึกๆ หันหลังช้าๆ พร้อมที่จะเผชิญกับความจริง พร้อมที่จะเปิดเผยความรู้สึกของตัวเอง และพร้อมที่จะสู้หน้าวรุฒม์ ผู้ชายที่ได้หัวใจของเขาไป
...เกมหัวใจจะได้จบลงเสียที...

“ผู้พันวรุฒม์” ภีรวัสพึมพำแล้วต้องรีบกัดริมฝีปาก น้ำตาเอ่อขึ้นมาในดวงตาอย่างควบคุมไม่ได้
...วรุฒม์เดินกลับไปที่รถ กำลังเปิดประตูจะก้าวขึ้นนั่งบนรถ เขาไม่ยืนมองตามเราแม้แต่นิดเดียว ไม่อาลัยอาวรณ์แม้แต่น้อย ไม่เลย...
...เหมือนครั้งนั้นที่สถานีอนามัย เขาบอกให้หายหน้าไป วรุฒม์ก็หายไป แม้กระทั้งวันที่เขาขึ้นเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ วรุฒม์ก็ไม่มาง้อ จนถึงกรุงเทพฯ และเวลาผ่านไปตั้งหลายอาทิตย์วรุฒม์ก็ไม่แคร์ วันนี้ แค่คำพูดของเขาไม่กี่ประโยค วรุฒม์ก็ล้มเลิกความตั้่งใจ...
...มาบอกว่ารัก พอโดนปฏิเสธก็ถอดใจ นี่นะหรือที่ว่ารักเขา...
...นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมทุกอย่างลงเอยแบบนี้ นี่่ใช่ไหมที่เขาเรียกว่ากรรมตามสนอง ใครทำอะไรไว้ก็ต้องได้รับผลตอบแทนแบบนั้น เราหลอกให้คนรักแล้วก็ทิ้ง และตอนนี้ เราก็พ่ายแพ้ตัวเอง...
...พ่ายแพ้เกมหัวใจ...

ป.ล. ถ้าจบแบบนี้ต้องถูกว่าแน่ๆ เลย อันนี้คือออฟชั่น เอ นะครับ ที่แพลนเอาไว้แต่เดิมเป็นแบบนี้ล่ะครับ
แต่พอไปนั่งโยคะแล้วก็รู้ว่า เออ ชีวิตคนเรามันต้องมีความสุขนะ พอสูดลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะแล้วก็คิดได้ว่า น่าจะให้ตัวละครของเรามีความสุขบ้าง

ต่อ ออฟชั้น B ต้องต่ออีกบทนะครับ ยาวไปอีกหน่อยคงไม่ว่ากัน

 อิศราเดินนำวิษณุเข้ามาในบ้านของเพื่อนสนิทแล้วส่ายหน้าเมื่อเห็นภีรวัสนอนหลับไหลอยู่บนโซฟากลางห้องรับแขก
“นอนอ้าซ่าเปิดประตูรอโจรใจทรามเข้ามาข่มขืน ช่างไม่กลัวเลยนะภีร์” อิศราบ่น
“อิศราครับ พูดยังงั้นกับเพื่อนได้ยังไงครับ” วิษณุปราม
“ผมพูดเล่น” อิศราทำหน้ามุ่ยใส่นายแพทย์ทหาร “ที่จริงผมจะพูดว่า จะเอาคุณผีลาวัดไปเผาวัดไหนดี”
วิษณุส่ายหน้ายิ้มๆ แล้วถอนหายใจ การได้อยู่กับอิศรามาช่วงเวลาหนึ่งทำให้เขาเรียนรู้เกี่ยวกับชายหนุ่มผู้ร่าเริงและช่างพูดคนนี้ได้มากขึ้น แต่อย่างหนึ่งที่เขาได้เรียนรู้มากที่สุดคือต้องคอย 'คุม' อิศราไว้ดีๆ เพราะอิศราไม่ได้เป็นคนเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้และพร้อมที่จะ 'ซ่าส์' ได้ทุกเวลา นอกจากนั้นเขายังค้นพบว่าตัวเองนั้นเป็นคนขี้หึงอย่างมากและแทบจะทนไม่ได้ที่เห็นอิศราชายตามองผู้ชายคนอื่นซึ่งอิศราให้เหตุผลว่า “ก็แค่อาหารตา มองเล่นๆ ไปยังงั้นล่ะ”
“ผู้พันครับ ตกลงเพื่อนของผู้พันนี่เขาคิดว่าตัวเองแน่มากหรือไง เกิดภีรวัสประชดรักด้วยการไปตกลงปลงใจเป็นแฟนกับ ดร. วสันต์เรื่องมันจะยุ่งกว่าเดิม” อิศราทำเสียงอ่อนใจ
“วรุฒม์บอกว่ามั่นใจ เขาจัดการ ดร. วสันต์แล้ว” ทั้งที่พูดแบบนี้ แต่วิษณุกลับทำหน้าไม่สู้ดีนัก
“ทหารมั่นเกินร้อย” อิศราถอนหายใจ “งั้น ชักอยากให้ภีร์ไปหวนกลับไปคืนดีกับแฟนเก่า ดร. สินธพที่ทั้งหล่อทั้งรวยซะแล้ว ดูซิ ผู้พันวรุฒม์จะทำหน้ายังไง”
“แต่คุณก็เห็นใช่ไหมล่ะว่าคุณภีร์ก็...”
“มีสภาพไม่ต่างจากผู้พันวรุฒม์ ผู้พันจะพูดยังงี้ใช่ไหม โอ๊ย ไม่เข้าใจสองคนนี้จริงๆ รักกันทำไมไม่นอนด้วยกันซะเลยให้สิ้นเรื่อง ได้เสียกันหน่อยขี้คร้านจะรักกันดูดดื่ม” อิศราโวยวายโดยมีวิษณุยืนฟังอยู่เงียบๆ เพราะเร่ิมจะชินกับการพูดและการคิดของคนรัก
“แบบนี้มันต้องจัดการขั้นเด็ดขาด” อิศราพูดโพล่งขึ้นหลังยืนใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“เด็ดขาดอะไรอีกครับ วรุฒม์ก็เด็ดขาด คุณก็จะเด็ดขาด ผมกลัวมันจะยุ่งเด็ดขาดนะสิ” วิษณุแย้ง
“เด็ดขาดแบบเด็ดขาดจริงๆ” อิศราเสียงค่อยลง มองตาวิษณุ “ภีร์เป็นคนชอบเอาชนะ และเป็นผู้แพ้ไม่ได้ ผมรู้จักดี”
“ผมเชื่อ” วิษณุพยักหน้า
“ผู้พันไม่ต้องมาประชดนะ เดี๋ยวเถอะ เดี๋ยวบังคับให้ใช้ถุงยางซะเลย จะมาบ่นไม่ได้นะ” อิศราทำหน้าง้ำ
“ถ้าบังคับให้ผมสวมถุงยาง ผมจะไม่ใช้เควาย”
“ถ้าผู้พันไม่ใช้เควาย ผมจะถอดกางเกงหันหลังให้ผู้พันเฉพาะวันขึ้นสิบห้าค่ำ”
“อย่านะครับที่รัก” วิษณุทำตาออดอ้อน “ผมแค่พูดเล่น”
“แสดงว่าผู้พันไม่เชื่อผมงั้นสิ”
“อ้าว เมื่อกี้บอกว่าเชื่อก็โดนว่า พอบอกว่าพูดเล่นก็โดนว่า” วิษณุประท้วงเสียงอ่อน
“ผมหมายความว่า ไม่เชื่อผมที่รู้จักภีรวัสเป็นอย่างดี คืออย่างนี้ เอ่อ เดี๋ยวนะ ขอผมเรียบเรียงความคิดก่อน” อิศราดึงแขนวิษณุออกมายังด้านนอก หน้าประตูทางเข้าห้องรับแขกแล้วพูดว่า “อืม ถ้าทำให้ภีรวัสอยากจะเอาชนะ มันก็อาจจะสำเร็จ คือว่า หากภีร์คิดว่าจะเสียผู้พันวรุฒม์ไป ภีร์จะฮึดสู้เพื่อแย่งกลับคืน ภีร์เป็นคนไม่ยอมแพ้ ภีร์ชอบเอาชนะ ถ้าชนะได้ภีร์จะไม่ถอย เพราะว่าภีร์ไม่ยอมให้ใคร ถ้าหากว่าจะแพ้ภีร์จะไม่ฮึดสู้”
“อิศรา ผมยังไม่เข้าใจอยู่ดี” วิษณุส่ายหน้า
“ผู้พันนี่เข้าใจอะไรยากจัง” อิศราถอนหายใจ “ก็หมายความว่าต้องทำให้ภีร์หึง”
“หึงใคร”
“ใครที่ผู้พันคิดว่าภีร์อยากจะเอาชนะล่ะครับ” อิศรายิ้ม ทำหน้าตาฉลาดล้ำลึก รู้สึกชอบใจที่วิษณุทำหน้างงๆ อย่างพยายามใช้ความคิด
“ผม” วิษณุตอบ
“จะบ้าหรือผู้พัน ไม่ต้องทุ่มตัวเองเข้ามายุ่งเลย” อิศราหน้าง้ำ “ผมต่างหากที่ภีร์ชอบเอาชนะ ภีร์จะอยากเอาชนะผู้พันทำไมเล่า”
“มิน่า แต่ก่อนคุณสองคนพนันกันว่าใครหลอกให้ผมกับวรุฒม์บอกรักได้ก่อนคนนั้นเป็นคนชนะ แต่ผมกลับไปบอกรักคุณแทนที่จะบอกรักคุณภีรวัส” วิษณุยักคิ้ว แล้วขยับตัวออกห่างเพราะอิศราทำท่าจะฟาดเขา
“ผู้พันเอาอะไรมาพูด” อิศรายังปากแข็ง
“จนป่านนี้แล้ว ยอมรับซะเถอะครับ วรุฒม์เขาเล่าให้ผมฟังหมดแล้ว เรื่องที่คุณจะแกล้งทำเป็นไปจีบวรุฒม์ให้คุณภีรวัสหึงแล้วตามไปแย่งกลับคืนนั่นนะผมยอมให้ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก”
“ผู้พันไม่ใว้ใจผม”
...กลัวว่าจะเล่นเกินบทบาทนะสิ...
วิษณุส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ไว้ใจสิครับ แต่ผมว่าเอาแผนผมดีกว่า”
“ไหนบอกว่าไม่เข้าใจ” อิศราทำหน้าบึ้ง
“ทำไมผมจะไม่เข้าใจ คุณพูดไม่ค่อยรู้เรื่องผมก็เข้าใจอยู่ดี” วิษณุพูดไปยิ้มไป
“ผู้พัน จะมากไปแล้วนะ” อิศราถลึงตาเพราะโดนล้อ
“ผมใช้หัวใจฟังนี่ครับ ไม่ว่าจะพูดวกไปวนมายังไงผมก็เข้าใจเพราะผมรักคุณ” วิษณุหยอดคำหวานแล้วเดินเข้าไปโอบเอวชายหนุ่มที่ยืนทำหน้างออยู่ใกล้ๆ “ผมจะจีบคุณภีรวัส ทำให้วรุฒม์หึง ในขณะเดียวกันก็ทำให้คุณภีรวัสหนักใจและต้องเลือก ต้องตัดสินใจ ทีนี้ คนเดียวที่คุณภีรวัสต้องเลือกก็คือวรุฒม์”
“ก็ไม่เห็นต่างจากแผนของผมเท่าไหร่”
“ต่างสิครับ มันเป็นกลยุทธ์ทางจิตวิทยาที่ตีกรอบให้คุณภีรวัสต้องถอยหลังจนมุม” วิษณุจงใจพูดให้คนรักงง
“ไม่เห็นเข้าใจเลย” อิศราขมวดคิ้ว
“เชื่อผมเถอะ แผนของผมไม่พลาดหรอก”
“ผู้พันอย่าไปหลงชอบภีร์จริงๆ ล่ะ” อิศราทำเสียงคาดคั้น
“โธ่ ผมรักคุณคนเดียว” วิษณุเสียงหวาน “ผมชอบคุณมาตั้งแต่แรกแล้ว ไม่งั้นจะยอมเสียตัวให้คุณหรือครับ”
“บ้า” อิศราทุบอกนายทหารปากหวาน
“ผมไม่อยากให้คุณเสี่ยงที่จะทะเลาะกับเพื่อนและผิดใจกัน”
“ผมกับภีร์สนิทกันมาก ยังไงเราก็ไม่ผิดใจกันจนเกลียดกันหรอก” อิศราพูดอย่างมั่นใจ
“เชื่อผมเถอะ ให้ผมวางแผนซักครั้งนะ คุณสองคนวางแผนกันมาหลายครั้งแล้ว ผมเป็นช้างเท้าหน้า คุณตามผมซักหน่อย” วิษณุพูดยิ้มๆ
“งั้นก็ได้ แต่ผมขอเป็นคนชี่ช้างบ้างนะ” อิศราทำตาวาวแล้วหัวเราะสดใส
“จะขี่ม้าขี่ช้างอะไรก็ตามใจ ผมเคยขัดใจคุณที่ไหน”
“งั้นเริ่มเลย” อิศราพยักหน้าแล้วเดินไปกระแทกตัวนั่งลงข้างโซฟาที่ภีรวัสกำลังนอนหลับ วิษณุเดินตามมาอย่างงงๆ พยายามใช้ความคิดอย่างรวดเร็วเพื่อให้ทันอิศรา และไม่กี่วินาทีก็คิดออกว่าฝ่ายนั้นต้องการให้เล่นบททะเลาะกัน
...แล้วเขาก็เปลี่ยนใจมาชอบภีรวัสแทน...
...ชักสนุกแล้วสิ แต่ยังไงก็ตาม ขอให้ได้ผลทีเถอะ...

***22***

Heart Game

อิศราทำเสียงดุใส่วิษณุ และนายทหารก็รับลูกด้วยการทำเสียงหงุดหงิด เสียงดังขึ้นๆ จนปลุกให้ภีรวัสตื่นขึ้นมานั่งมองทั้งสองคนด้วยสีหน้างงๆ
“ตามใจผู้พัน ถ้าไม่อยากไปก็อยู่ที่นี่เถอะ อยากอยู่ก็อยู่ซะให้พอใจ ผมไปคนเดียวก็ได้” อิสรากระแทกเสียงแล้วหันมาพูดกับภีรวัส “ไปก่อนนะภีร์ ได้หมอพิเศษมาดูแลแล้วนี่ คงหายวันหายคืนซะที”
ภีรวัสยังไม่ทันจะได้พูดอะไรอิศราก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากบ้าน วิษณุถอนหายใจเบาๆ ยกมือขึ้นคลึงขมับแล้วมองภีรวัสเหมือนจะขอความเห็นใจ
“ผมขอโทษที่มาทะเลาะกันให้คุณภีร์เห็น”
“เรื่องอะไรครับ” ภีรวัสถาม
“ผมชวนให้มาเยี่ยมคุณ แต่อิศราอยากไปชอปปิ้ง บอกว่าคุณไม่เป็นอะไรมาก แล้วก็หึงผมว่าทำไมจะต้องมาใส่ใจคุณมากเกินไป” วิษณุเสียงอ่อน
“ผมก็ไม่ได้เป็นอะไร”
“แต่คุณเอาแต่เก็บตัว ทำแบบนี้ไม่ได้นะครับ” วิษณุทำหน้าห่วงใย ขยับเข้าไปใกล้ภีรวัส “ผมเป็นห่วงคุณ ไม่อยากให้คุณต้องมากักตัวเองอยู่แต่ในบ้านแบบนี้”
“ผมเจ็บขาอยู่ ผู้พันก็เห็น จะให้ออกไปเที่ยวเล่นได้ยังไง” ภีรวัสพูดยิ้มๆ
“แต่คุณก็ไม่ออกไปนั่งเล่นอยู่ที่สโมสรหมู่บ้านเหมือนเคย” วิษณุทอดเสียงนุ่มนวล “คุณภีร์ครับ ผมคิดว่าผมเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น มีอะไรคุยกับผมบ้างก็ได้นะ อย่างน้อยมีคนให้คุยด้วย มีคนรับฟัง มีคนเป็นเพื่อนคิด คุณจะได้สบายใจ”
“ผู้พัน” ภีรวัสพึมพำ ถอนหายใจเบาๆ แล้วมองหน้าวิษณุนิ่ง ก่อนจะพูดขึ้นว่า “มาทำแบบนี้อิศราจะโกรธเอานะครับ”
“เขาก็โกรธผมตลอดนั่นล่ะ มองใครก็ไม่ได้ คุณอิศราหึงผมมาก ทั้งที่คนหึงน่าจะเป็นผม ไม่ว่าไปที่ไหน อิศราก็ชายตาเจ้าชู้มองคนนั้นคนนี้ไปทั่ว ผมต้องคอยหวาดระแวง แทบไม่ต้องทำอะไรเลย ยิ่งผมกลับแม่สะเรียงย่ิงแทบอยากจะติดกล้องวงจรปิดคอยสังเกตดูอิศราตลอดเวลา แต่ขนาดนี้นะครับ เขายังหาว่าผมคิดแต่จะนอกใจ”
“อย่าคิดมากสิครับ” ภีรวัสปลอบ พอจะนึกภาพอิศราออก เพื่อนเขาไวไฟใช่ย่อยที่ไหน
“บางที เอ่อ ผมคิดว่า ผมไม่เหมาะกับอิศรา” วิษณุก้มหน้า พูดเสียงน้อยใจ นิ่งไปครู่ใหญ่แล้วเงยหน้าขึ้นมาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังกับภีรวัสว่า “คุณต่างหากที่ดูจริงจัง ผมขอสารภาพว่า พักหลังมานี่ ผมคิดถึงคุณอยู่ไม่ใช่น้อย”
“ผู้พัน” ภีรวัสอึ้ง ไม่นึกว่าวิษณุจะพูดออกมาเช่นนี้
“ผมรู้ว่าไม่ควรพูด ทำแบบนี้ผมจะทำให้อิศรากับวรุฒม์ไม่พอใจ แต่ทำยังไงได้ ผมอยากพูดสิ่งที่อยู่ในใจ” วิษณุถอนหายใจแรงๆ ประกอบการแสดงซึ่งพักหลังชักจะลื่นไหลไปตามบทได้ง่ายๆ
“เราอย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้กันเลยนะครับ” ภีรวัสเตือน
“ต้องพูดสิครับ ผมเป็นคนปากกับใจตรงกัน รู้สึกยังไงก็พูดออกมายังงั้น ผมไม่อยากให้เวลามันเสียไปโดยเปล่าประโยชน์” วิษณุแย้ง “คุณภีร์ครับ ได้โปรดให้โอกาสผมอีกซักครั้งได้ไหมครับ อย่าหาว่าผมเป็นคนใจโลเลเลย ขอโอกาสให้ผมซักครั้ง ขอให้เราสองคนลองศึกษากันดูบ้าง ผมอยากจะให้เราถอยกลับไปอีกซักหลายๆ ก้าว เริ่มต้นกันใหม่ แต่ท้ายที่สุดคุณจะตัดสินใจยังไงผมก็จะยอมรับ” วิษณุรุกหนักเมื่อเห็นว่าภีรวัสนั่งนิ่งเงียบ
“ผมเชื่อว่าผมจะทำให้คุณรักผมได้”

เดี๋ยวมีต่อครับ จะได้หายอารมณ์ค้าง
แต่ว่าขอไปดูหนังที่ SX cinema ก่อนนะครับ แล้วขอไปซิ่งมอเตอร์ไซด์ตอนกลางคืนซักคืน เผื่อจะมีสก๊อยหล่นตามทาง จะได้เก็บมาดูเล่น  :pigha2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 23 (9/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: morrian ที่ 09-10-2009 19:23:55
 :a5:  ค้าง

ทำมาย ไม่ให้มันจบๆไปเลยละค้าบ

รออ่านอยู่นะคับ^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 23 (9/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 09-10-2009 20:20:23
จบแบบไหนก็ชอบหมดเลยคะ 

แต่ เวอร์ B ดีกว่า คุณ นายจะได้ แต่งต่อ  ฮ่าๆๆ


>/////////////<  อยากอ่านอีก อ่านอีก อ่านอีก 
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 23 (9/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: aimaim ที่ 09-10-2009 21:07:00
เอาเวอร์ชั่น B ว่าแต่ไปซิ่งแถวไหนอ่ะ
เผื่อจะทำตัวเป็นสก๊อย ให้คุณ นาย เก็บไปเล่น อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 23 (9/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 09-10-2009 21:28:02
 :a14: ค้างได้อีกแล้ว เชอะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 23 (9/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: teenza ที่ 09-10-2009 21:40:55
อิศรากับวิษณุเถียงกันน่ารักดี
เวอร์ชั่นบีนะดีแล้ว
รอลุ้นต่อไป
ปล คุณนายเปลี่ยนรสนิยมแล้วเหรอ ปกติจ้องตีหัวเด็กแว๊นเอามาทำเป็นสก๊อย นี่เอาสก๊อยเลยเหรอ  :z1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 23 (9/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 09-10-2009 21:50:22
เอา รีบไปรีบมานะครับ พี่นาย แต่ขากลับ หวังหรือว่าจะได้สก๊อย เกาะหลังมานะ  :z2:

+1 ให้พี่นายอีกตามเคย จะคอยดูว่าแผนที่คิดขึ้นใหม่ของหมอหนุ่มจะสำเร็จหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 23 (9/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: gboy ที่ 09-10-2009 21:52:06
 o22

จอมค้างแห่งศตวรรษ


 :seng2ped:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 23 (9/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 09-10-2009 22:57:05
ปกติภีรวัสหัวไวจะตาย เรื่องผิดปกติแบบนี้น่าจะจับไต๋ได้ง่าย แต่คงเพราะไม่สบายและแรงใจถดถอยล่ะสิ เลยตกหลุมผู้พันหมอซะหมดท่าเลย อิอิ

ค้างเหมือนกัน แต่ก็รออ่านตอนต่อไปครับ



ปล.จะเก็บสก๊อยมาดูเล่น หรือเอามาเป็นหัวข้อวิทยานิพนธ์ครับ เอิ๊กๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 23 (9/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Resonance ที่ 09-10-2009 23:41:43
o22

จอมค้างแห่งศตวรรษ


 :seng2ped:



ก็อปมาๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 23 (9/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: *SparklinG* ที่ 10-10-2009 00:09:02
 :impress2: เรื่องชักจะสนุกน่าติดตามมากขึ้นแล้วซิเนี่ย :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 23 (9/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 10-10-2009 00:20:48
เซ็ง วรุตว่ะ   :seng2ped:

ไม่เห็นจะพยายามอะไรเลยกะความรักตัวเองเลย

ทั้งที่พยายามนิดหน่อย แสดงให้ภีร์มั่นใจก็ได้ตัวภีร์ไปแล้ว 

คอยแต่จะอยากให้ภีร์วิ่งไปซบอกเอง  แล้วไปกันท่าคนอื่น(วสันต์)จะมีประโยชน์อะไร  :z6:

คิดว่าพอพูดคำว่ารัก แค่นั้นแล้วจะเพียงพอ แล้วคงได้ทุกอย่างมา  แต่ไม่พยายามทำอะไรเลย

เหอะ จะมั่นใจตัวเองเกินไปเลย  ชักอยากให้ภีร์คุ่คนอื่นแล้วสิ

ส่วนของคนปํ่วเมีย  เถียงกันฮามากมาย

ฮา  :m20:   วิษณุอยากเป็นช้างเท้าหน้าเหรอ  แต่อิศราเจ๋งกว่า เป็น ควาญช้าง   :pigha2:

บ้านนี้เมียใหญ่



หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 23 (9/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 10-10-2009 01:26:28
กรีีดดดดดดดดดดดดดดดด
อิศราน่ารักน่าปล้ำมากกกกกกกกกกกก
คุณหมอคาดสายตาไม่ได้เลยหนะสิก็เพราะ อิศราชอบผู้ชายหน้าตาดีทุกคนแต่รักคุณหมอคนเดียว ฮิ้ววววววววววววววว

ส่วนคุณภีร์อั๊ยยยยอยากเป็นนางเอกช่องหลากสีก็ไม่บอก แต่พระเอกของคุณภีร์ โหดชะมัด
ไม่ตบไม่จูบ แหมเสียดาย แถมเชื่อฟังอีกต่างหาก ไม่ง้อ ไม่ตื้อ ไม่บังคับ
ชาตินี้จะได้รับประทานคุณภีร์แต่เพียงผู้เดียวมั๊ยล่ะคะเนี่ย อิอิ
ต้องให้คุณหมอสามีของเพื่อนรักช่วยตีบทให้แตกกระจุยเชียวนะคะเนี่ย

+1 จัดให้นะคะ ไปดู F16 มาแล้วยังไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือมาเลยรึคะเนี่ย
ยังต้องไปตะรอนๆยามค่ำคืนอีก อั๊ยยยยน่าเห็นใจคนอยากมีภรรยานะ o18
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 23 (9/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: aimaim ที่ 10-10-2009 11:21:40
รอคอย ลอยคอ เฝ้ามอง เมียงมอง  :serius2: ยังไม่มีอีกเหรอ ไปแว้นถึงไหนเนี่ย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 23 (9/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: crazy Y ที่ 10-10-2009 18:47:02
เค้าหลงรักอิศรา แล้วอ่ะตะเอง   ทำไงดี  :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 23 (9/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: aimaim ที่ 10-10-2009 19:07:31
 :z3: :z3: :z3: หายไปไหนแง้ :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 23 (9/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: กุหลาบเดียวดาย ที่ 10-10-2009 21:47:28
ฮือฮือ ฮึกฮือ คุณนายช่างยั่วจริง
บ้านอยู่ไหน จะส่งลูกชายวัยสิบเก้าสุดหล่อไปยั่ว
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทที่ 23 (9/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 10-10-2009 22:03:43
มาแล้วครับ
ฮือฮือ ฮึกฮือ คุณนายช่างยั่วจริง บ้านอยู่ไหน จะส่งลูกชายวัยสิบเก้าสุดหล่อไปยั่ว
เดี๋ยว PM  ไปบอกแผนที่บ้านอย่างละเอียดเลยครับ  :pigha2: :pigha2:

“วรุฒม์หรือครับ” วิษณุเสี่ยงที่จะพูดถึงวรุฒม์เพื่อดูท่าทีของภีรวัส “เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง อีกสองสามวันวรุฒม์ก็ต้องย้ายกลับกรุงเทพฯ แล้ว พอไปถึงแม่สะเรียง วรุฒม์ก็คงขนของขึ้นรถกลับกรุงเทพฯ พอดี แต่ผมจะกันไม่ให้วรุฒม์มารบกวนคุณ ผมขอสัญญา”
“แต่ว่า...”
“อย่ามีแต่เลยครับภีร์ อย่าปฏิเสธความหวังดีของผมเลยนะครับ อย่าปฏิเสธตัวเอง” วิษณุยื่นหน้าเข้ามาใกล้หูของภีรวัสแล้วกระซิบเบาๆ

วรุฒม์ยืนขบกรามมองดูชายหนุ่มสองคนที่นั่งอยู่บนแคร่ไม้หน้าบ้านพักหลังเล็ก วิษณุกำลังนวดเท้าให้ภีรวัสซึ่งกำลังอ่านหนังสือ เขารู้มาสามวันแล้วว่าภีรวัสกลับมาพักฟื้นที่แม่สะเรียง โดยมี 'แพทย์ทหาร' เพื่อนของเขาดูแลอย่างใกล้ชิด
...ทำไมอิศราปล่อยให้วิษณุมาทำแบบนี้...
…“ผมไม่สน จะไปทำอะไรกันที่ไหนก็เชิญ คนอย่างอิศราจะหาผู้ชายคนใหม่เมื่อไหร่ก็ได้ เอาให้หล่อให้ล่ำให้ใหญ่กว่าผู้พันก็ได้สบายมาก”...อิศราตอบเสียงสะบัดเมื่อเขาคุยโทรศัพท์ด้วยเมื่อวานนี้
...แปลก วิษณุกับอิศราดูรักกันอยู่ดี จู่ๆ วิษณุก็เปลี่ยนไปเฉยๆ อิศราซึ่งแต่ก่อนดูท่าทางหึงหวงวิษณุ ตอนนี้กลับทำไม่แยแส...
...คิดว่าวรุฒม์โง่หรือไง ก่อนจะทำอะไรกันแบบนี้ไม่ปรึกษาเขาเลยแม้แต่น้อย แผนตื้นๆ คิดว่าจะหลอกเขาได้ยังงั้นหรือ แต่เอาเถอะ วิษณุกับอิศราก็คงอยากช่วยเขากระมัง จะยกโทษให้ซักครั้ง...
...ส่วนภีรวัส เขาจะจัดการเอง...
แต่ทั้งที่รู้ว่าวิษณุแกล้งทำ วรุฒม์ก็อดหึงหวงไม่ได้ ยิ่งเห็นสัมผัสกันอ่อนโยนแบบนั้นยิ่งทำให้วรุฒม์แทบบ้า
“รุฒม์” วิษณุอุทานขึ้นเสียงเบาๆ มือที่กำลังทายาให้ภีรวัสชะงัก ส่วนคนเจ็บก็ลดหนังสือที่อ่านอยู่ลงทันใด เงยหน้ามองวิษณุด้วยสายตารู้ทัน วิษณุบอกเขาว่าวรุฒม์จะย้ายกลับกรุงเทพฯ หนึ่งวันหลังจากเขามาถึงแม่สะเรียง แต่ตอนนี้ วรุฒม์มายืนอยู่ใกล้ๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ มาอย่างเงียบเชียบ ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงรถแล่นเข้ามาจอด
“มีเรื่องฉุกเฉินที่โรงพยาบาล นายไม่รู้เรื่องหรือวิษณุ” วรุฒม์เสียงเข้ม จ้องตาเพื่อน
“เราออกเวรแล้ว” วิษณุยักไหล่แล้วเก็บขวดยา หันไปพูดกับภีรวัสด้วยเสียงอ่อนโยน “เดี๋ยวก็ดีขึ้นแล้วครับ คุณภีร์ต้องเดินบ่อยๆ ยืดเส้นยืดสายบ้าง กล้ามเนื้อจะได้คลายตัว แต่ถ้ายังตึงอยู่ ผมจะมานวดให้อีก”
...หมั่นใส้ อยากจะกระชากคอเสื้อของวิษณุแล้วลากออกไปโยนทิ้งที่ิริมถนน จะเล่นละครเกินบทบาทไปแล้วนะ...
“ปวดต้นคอจังเลยครับ” ภีรวัสยกมือขึ้นบีบต้นคอตัวเอง ทำเป็นไม่สนใจวรุฒม์
“ก็คุณภีร์นั่งอ่านหนังสือนานเกินไป เดี่ยวผมนวดให้” วิษณุลุกขึ้นยืน เดินอ้อมมานั่งลงด้านหลังของภีรวัส แต่วรุฒม์เดินเข้ามานั่งอยู่ใกล้ๆ แล้วทำตาขวางใส่เพื่อน
“นายว่างหรือรุฒม์ เห็นยุ่งมาหลายวัน”
“ว่างแล้ว” วรุฒม์ตอบเสียงห้วน “เราว่านายไปดูที่โรงพยาบาลเถอะ เขากำลังต้องการแพทย์”
“ไม่เห็นมีใครตาม” วิษณุไม่มีท่าทีจะใส่ใจ
“ผู้บัญชาการกองพันกำลังตามนายอยู่นี่ไง ไม่สิ พันโทวรุฒม์กำลังสั่งให้นายกลับไปทำงานที่โรงพยาบาล” วรุฒม์ถลึงตาใส่วิษณุซึ่งยังคงทำหน้ายิ้มๆ แต่ในที่สุดก็ก้มลงพูดกับภีรวัสเบาๆ
“เดี๋ยวผมกลับมานะครับคุณภีร์ ผู้บัญชาการกองพันท่านสั่งมาแล้ว ไม่ไปเดี๋ยวจะโดนขังคุกทหาร”
“แต่นี่ไม่ใช่เวลาทำงาน แล้วก็ใกล้ถึงเวลาท่านอาหารเย็นแล้ว ผู้พันคงหิว” ภีรวัสน้ำเสียงห่วงใย พยายามไม่หันไปมองวรุฒม์ แต่เขารู้ว่าฝ่ายนั้นกำลังทำหน้าบึ้ง
เขาไม่อยากให้วิษณุทิ้งเขาให้อยู่กับวรุฒม์ตามลำพัง
...เพราะอะไร...
...เพราะกลัวโดนวรุฒม์ดุ หรือเพราะกลัวจะแพ้ใจตัวเอง...

ในที่สุดวิษณุก็ต้องไป วรุฒม์นั่งเงียบมองจนรถของวิษณุลับตาก่อนจะหันมาถามภีรวัสด้วยเสียงราบเรียบว่า “เจ็บแผลหรือเปล่าครับ”
ภีรวัสส่ายหน้าแล้วยกหนังสือขึ้นมาอ่าน แสดงให้อีกฝ่ายเห็นว่าไม่ต้องการสนทนาด้วย วรุฒม์ไม่พูดอะไรต่อ นั่งนิ่งเงียบมองธรรมชาติรอบข้างอย่างใจเย็น แต่คนที่อ่านหนังสือกลับอ่านไม่รู้เรื่อง ใจเต้นตึกตัก อยากจะเงยหน้าขึ้นมาแล้วหันไปมองว่านายทหารผู้เคร่งขรึมกำลังทำอะไรอยู่ถึงได้เงียบเช่นนี้
“ผมคิดถึงคุณมาก” จู่ๆ วรุฒม์ก็พูดขึ้นมาเบาๆ “คุณคงโกรธที่เห็นผมเงียบไป”
“นึกว่าคุณย้ายกลับเข้าไปประจำที่กรุงเทพฯ แล้ว” ภีรวัสพูดขึ้นมา
“ผมเข้าใจว่าคุณงอน” วรุฒม์ไม่ตอบคำถามของภีรวัสที่เบี่ยงเบนประเด็นออกไปพูดเรื่องอื่น
“ทำไมผมต้องโกรธ” ภีรวัสยอมกลับมาพูดเรื่องที่วรุฒม์เริ่ม
“เพราะผมไม่ได้มาง้อคุณ” วรุฒม์ตอบ
“ผมไม่ได้งอน ไม่มีเหตุผลที่ผมต้องงอน เพราะฉะนั้นจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่คุณต้องมาง้อ” ภีรวัสยักไหล่ ตายังจ้องอยู่ที่หนังสือราวกับสนใจเป็นอย่างยิ่ง แต่สองตามองไม่เห็นตัวหนังสือแม้แต่ตัวเดียว
“มีสิครับ” วรุฒม์ขยับเข้ามาใกล้จนได้ยินเสียงหายใจหนักๆ “เพราะคุณคิดว่าผมไม่ได้รักคุณ ไม่แคร์คุณ ไม่ห่วงคุณ”
“อย่ามาพูดเองเออเองนะผู้พัน”
“งั้นหรือ คุณคิดยังงั้นหรือ ตอบผมทีสิครับว่าคุณไม่รู้สึกทุรนทุรายคิดถึงผม”
“ผมไม่ได้คิดถึงคุณเลย”
“ถ้ายังงั้นกลับมาทำไม”
...วิษณุหลอกเขานะสิ ไหนบอกว่ามาถึงแม่สะเรียงได้วันเดียววรุฒม์ก็จะย้ายกลับกรุงเทพฯ...
...หรือเพราะจะได้มาอยู่ใกล้ๆ วรุฒม์ แม้จะเป็นเวลาช่วงสั้นๆ แค่วันเดียวหรือแม่กระทั้งครึ่งวัน และหวังลึกๆ ว่าวรุฒม์จะมาง้อ...
...เขามาพักฟื้นต่างหาก การได้พักฟื้นกลางธรรมชาติบริสุทธิ์จะช่วยให้อาการบาดเจ็บของเขาดีขึ้น...
“ผู้พันวิษณุชวนผมมา”
“คุณก็เลยมา” วรุฒม์พูดต่อ “เพราะคุณรักวิษณุ”
“ใครบอก” ภีรวัสพึมพำ เผลอตัวปฏิเสธ ในใจเขานั้นยอมรับว่าไม่เป็นตัวของตัวเองเวลาอยู่ใกล้วรุฒม์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่ที่วรุฒม์บอกรักเขา
“อ้าว คุณไม่ได้รักวิษณุหรอกหรือครับ” วรุฒม์ทำเสียงแปลกใจข
“คุณอยากให้ผมตอบว่ายังไง” ภีรวัสพูดกับวรุฒม์โดยที่ยังก้มหน้ามองหนังสือ
“ตอบตามที่ใจคุณคิดสิครับ” วรุฒม์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้มากจนจมูกแทบจะชนแก้มของอีกฝ่าย “ผมอยากรู้ว่าคุณจะคิดเหมือนผมหรือเปล่า”
“คุณจะคิดอะไรผมไม่รู้”
“คุณรู้ว่าผมคิดอะไร”
“ผมไม่ใช่ผู้วิเศษจะได้อ่่านใจคนออก”
“ผมรู้ว่าคุณเข้าใจว่าผมคิดยังไง”
“ดูคุณมั่นใจมากเลยนะ”
“ก็พอสมควร”
“ผมไม่ได้รักใคร ผมไม่อยากคิดเรื่องนี้ให้ปวดหัว” ภีรวัสยักไหล่ แล้วขยับตัวออกห่างวรุฒม์ซึ่งขยับตามทันที
“โกหก”
“ทำไมผมต้องโกหก” ภีรวัสวางหนังสือลง กระเถิบออกห่างวรุฒม์อีก และหันหน้ามาเผชิญหน้ากับนายทหารผู้มั่นใจในตัวเอง
“เพราะคุณหวาดระแวง กลัวว่าจะโดนคนอื่นทำกับตัวอย่างที่ตัวเองเคยทำกับคนอื่น” วรุฒม์เสียงเข้ม
“ทำไมผมต้องระแวง มีเหตุผลเพียงพอและเหมาะสมที่จะทำให้ผมระแวงหรือครับ” ภีรวัสเอียงหน้าถาม เผยรอยย้ิมเยาะๆ
“หยุดเล่นถามคำถามย้อนผมได้แล้วภีรวัส” วรุฒม์ถอนหายใจ “ผมรอมานานแล้ว ผมจะไม่รออีกต่อไป”
“คุณรออะไร ทำไมต้องรอ หมายความว่ายังไง” ภีรวัสยังคงถามคำถามต่อ
“เพราะผมต้องการคำตอบ” วรุฒม์ขยับตามภีรวัสซึ่งขยับตัวหนีทันทีเช่นกัน
“คุณอยากได้คำตอบอะไร”
“คำตอบที่ว่าคุณจะเอายังไงกับผม” วรุฒม์รุกหนัก ขยับชิดตัวชายหนุ่มและจับมือของภีรวัสเอาไว้
ภีรวัสขยับหนีวรุฒม์อีก แต่คราวนี้นั่งอยู่ชิดขอบของแคร่ไม้ที่สูงประมาณเกือบสองฟุต ภีรวัสหันไปมองอย่างระวังเพราะกลัวตก
“แล้วจะให้ผมเอายังไงกับคุณ” ภรีวัสยังคงเล่นลิ้น ตั้งใจว่าจะไม่ยอมจนคำพูดง่ายๆ วิธีการนี้เขาเคยใช้ได้ผลมาตลอด นั่นก็คือการตอบคำถามคนที่ซักไซร้ไล่เลียงเขาด้วยการใช้คำถามวนไปวนมา อีกไม่นาน คนที่ซักเขาก็จะปวดหัวและอ่อนอกอ่อนใจเลิกซักไปเอง
“คุณนี่จริงๆ เลย” วรุฒม์ส่ายหน้า ขยับเข้ามานั่งเบียดภีรวัสจนชิดตัว แต่ครั้นเห็นภีรวัสทำท่าจะขยับตัวก็รีบท้วงขึ้นว่า “ระวังตกนะครับ ตกลงลงไปนั่นน่ะจะเจ็บมากๆ เลยล่ะ คุณกำลังขาหัก กระดูกจะไม่ต่อติดกัน ต้องเข้าเฝือกใหม่ จะอยู่ในสภาพนี้ต่ออีกหลายเดือน”
...รู้จักภีรวัสน้อยไปซะแล้ว...
ภีรวัสไม่ตอบ จู่ๆ ก็ยกขาลงวางกับพื่้นแล้วขยับตัวพยายามยันตัวลุกขึ้น แต่เพราะเจ็บแผลและเรี่ยวแรงมีไม่พอชายหนุ่มจึงเข่าอ่อน เซไปด้านข้าง ก่อนจะล้มลงกับพื้น
...วรุฒม์ไม่คว้าเขาไว้เลย นั่งมองดูเขาล้มต่อหน้าต่อตา ถ้ากอดเขาเอาไว้ก็คงไม่ทรุดฮวบแบบนี้หรอก...
...แต่อย่าหวังว่าจะได้ยินภีรวัสร้องเจ็บซักคำนะ...
ภีรวัสหน้านิ่วคิ้วขมวด เม้มปากแน่น พยายามจะยันตัวลุกขึ้นแต่ก็หมดปัญญา เส้นเอ็นขาขวากระตุก เจ็บจนสะท้านไปทั้งตัว
“เจ็บไหมครับ” วรุฒม์ลุกขึ้นมาช้าๆ แล้วนั่งยองๆ ข้างภีรวัส ถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ มือยื่นมาแตะแขนของชายหนุ่ม แต่ภีรวัสสะบัดแขนแล้วขยับหนีออกห่าง
...อะไรจะดื้อขนาดนี้ เจ็บจนน้ำตาเล็ด นั่งกองอยู่กับพื้น ไม่ร้องแม้แต่คำเดียว แล้วยังทำท่าอวดดีอีก นี่นะหรือคือภีรวัส...
...พยศแบบนี้ล่ะที่เขาชอบ...
วรุฒม์ส่ายหน้ายิ้มๆ ก่อนจะอ้อมมาทางด้านหลังของภีรวัส สอดแขนเข้ารัดรอบอกแล้วดึงตัวคนขาเจ็บให้ลุกขึ้น
“อย่ามายุ่ง” ภีรวัสห้ามเสียงห้วน วรุฒม์ไม่สนใจ อ้อมมาทางด้านหน้าของภีรวัส ย่อตัวแล้วยกคนเจ็บขึ้นพาดบ่า
“ผู้พัน จะทำอะไร” ภีรวัสโวยวาย
“ถ้าดิ้น ผมจะทิ้งคุณลงเดี๋ยวนี้” วรุฒม์เสียงกร้าว ใช้แขนรัดขาข้างที่ไม่เจ็บของภีรวัสเอาไว้แน่นเพราะชายหนุ่มเริ่มดิ้นทันทีที่ถูกเขาห้าม
“แน่จริงก็ทิ้งสิ ไม่ต้องขู่ผมหรอก” ภีรวัสเสียงกร้าวไม่แพ้กัน
วรุฒม์ไม่สนใจ แบกชายหนุ่มเดินขึ้นไปบนบ้านแล้วตรงไปยังห้องนอน
...พอกันที เล่นเกมกันมานานแล้ว คราวนี้เขาจะจัดการภีรวัส 'ขั้นเด็ดขาดจริงๆ' เสียที
“ผู้พันวรุฒม์ คุณจะทำอะไร” ภีรวัสโวยวายเมื่อมองเห็นประตูห้องนอนของตัวเอง
“ลองทายดูซิครับว่าผมจะทำอะไร”
“อย่ามาทำอะไรบ้าๆ นะ” ภีรวัสทุบเข้าที่กลางหลังของนายทหารหนุ่มแล้วเริ่มดิ้นมากกว่าเดิม
“โอ๊ย” วรุฒม์ร้องเบาๆ แต่ก็ไม่ยอมหยุด นายทหารร่างใหญ่ใช้เท้าถีบประตูห้องนอนที่เปิดแง้มเอาไว้ แล้วเดินไปหยุดยืนอยู่กลางห้อง ตามองไปยังเตียงขนาดใหญ่ปูด้วยผ้าปูเตียงสีเขียวเข้มลายทางขาว
“คุณคิดว่าผมจะทำอะไรล่ะ”
“จะไปรู้คุณหรือ ปล่อยผมลงไปนะผู้พัน อย่ามาเล่นอะไรแผลงๆ แบบนี้” ภีรวัสสั่งเสียงเข้ม
“ใครว่าผมเล่น” วรุฒม์ตอบ “ผมเอาจริง คุณต่างหากที่ควรจะเลิกเล่นได้แล้ว เลิกเล่นกับหัวใจของคน เลิกเล่นกับหัวใจของตัวเอง เลิกเล่นกับความรักและหัวใจของผม”
“ทำไมคิดว่าผมเล่น” ภีรวัสเสียงอ่อนลง
“บอกมาก่อนสิว่า จริงๆ แล้วคุณคิดยังไงกับผม ถ้าไม่ยังงั้นผมก็จะไม่ปล่อยคุณลงเด็ดขาด” วรุฒม์ยื่นคำขาด
“ไม่หนักก็แบกไป” ภีรวัสท้า
วรุฒม์ยืนนิ่งเงียบ ขยับเปลี่ยนมือที่จับต้นขาของภีรวัส มืออีกข้างกดเอวของชายหนุ่มเอาไว้ให้แนบแน่นกับบ่ากว้างของเขา และเริ่มใช้มือด้านที่จับต้นขาของภีรวัสลูบไล้เบาๆ
“ปล่อยนะ” ภีรวัสเสียงแผ่ว กายสะท้านเพราะสัมผัสของวรุฒม์ แต่ในขณะเดียวกันก็เริ่มหายใจไม่ออกเพราะท้องกดอยู่กับไหล่แข็งแกร่งของนายทหาร
“ว่าไงครับ” วรุฒม์ถามขึ้นมาค่อยๆ
“ว่าไงอะไร” ภีรวัสยังปากดี
“บอกผมมาสิว่าคุณจะยอมผมหรือยัง เลิกเล่นอะไรบ้าๆ ซะเถอะ แล้วเปิดหัวใจที่แท้จริงออกมา ถ้าคุณยังไม่ยอม ผมจะแบกคุณไว้แบบนี้ ถ้าผมหมดแรง เราก็ล้มลงกับพื้นพร้อมๆ กันทั้งสองคน”
“ตามใจ” ภีรวัสพูดเสียงเย็น พาดตัวนิ่ง แต่เม้มริมฝีปากแน่นเพราะเริ่มจุก
...บ้าจริงๆ คนอะไรก็ไม่รู้ เอาพลังมาจากไหนมากมาย ไม่หนักบ้างหรือไงนะ แล้วนี้ ถ้าขึ้นทับบนตัวเขามิขาดใจตายหรือ...
“คุณภีรวัสครับ ไม่มีคู่ไหนที่เหมาะสมกันเท่าเราสองคนหรอก แล้วที่จะเล่นละครจู๋จี๋กับวิษณุเพื่อนยั่วผมนั่นน่ะ ไม่ได้ผลหรอก แผนตื้นๆ แบบนี้ผมมองแวบเดียวก็รู้” วรุฒม์พูดขึ้่นมา
“อ๋อเก่ง”
“ผมรู้ทันคุณมาตั้งนานแล้ว”
“ร้ายกาจ”
“ผมว่าคุณร้ายกว่า” วรุฒม์สวนทันที “คุณคิดหรือว่าจะพนันกับอิศราเรื่องเอาชนะผม จะหลอกให้ผมบอกรักแล้วเขี่ยผมทิ้ง คิดหรือว่าผมจะยอม”
“ไม่ยอมก็อย่ายอมสิ” ภีรวัสเสียเบาหวิว เริ่มจะหายใจอึดอัด
“ผมมีค่าแค่เครื่องวิ่งสายพานเครื่องเดียวเท่านั้นหรือครับ” วรุฒม์เสียงเข้มขึ้น “ไม่คิดหรือว่าผมน่าจะมีราคามากกว่านั้น”
“อิศรา ไอ้เศษก้อนอิฐ” ภีรวัสเค้นเสียง เริ่มดิ้นเพราะใกล้จะหายใจไม่ออก
“คุณภีร์ครับ รักก็บอกว่ารัก ยอมรับเสียเถอะ ลองให้โอกาสหัวใจตัวเองซักครั้ง ผมก็อายุไม่น้อยแล้ว ไม่เคยรักใคร คุณก็ไม่เคยรักใคร อย่าระแวงผมต่อไปอีกแล้ว ไม่ต้องกลัวว่าพอบอกรักผมแล้วจะโดนทิ้ง โดนแก้แค้น โดนดัดหลัง ผมไม่ได้เป็นคนร้ายกาจแบบนั้น”
...แบบนี้นะไม่เรียกว่าร้ายกาจ สังหรณ์ใจตั้่งแต่เรียกแล้วเชียวว่าวรุฒม์ไม่ใช่หมูๆ...
“คุณ ว่า ผม ร้ายกาจ งั้นสิ” ภีรวัสพูดเสียงกระท่อนกระแท่น
“บอกสิว่าคุณรักผม ไม่งั้นได้ยืนอยู่กันแบบนี้จนหมดแรง ล้มลงกับพื้นไม้แข็งๆ” วรุฒม์คาดคั้น “เจ็บนะครับ เจ็บมากๆ ด้วย”
“ผู้พัน ผม หายใจ ไม่ออก” ภีรวัสเริ่มจะไม่ไหว เสียงกำลังขาดห้วง
“งั้นก็รีบพูดสิครับ” วรุฒม์อมยิ้ม รู้ว่าตัวเองใกล้วจะชนะแล้ว
ภีรวัสยังเงียบ
“คุณภีรวัสครับ”
“รัก”
“อะไรนะครับ” วรุฒม์ยิ้มกว้างกว่าเดิม
“โอย” ภีรวัสคราง
วรุฒม์กดร่างของคนที่อยู่บนบ่าให้แนบลงมามากกว่าเดิม คราวนี้ภีรวัสพยายามดิ้น ขย้ำเสื้อของเขาแน่นกว่าเดิม ก่อนจะตะกุยตะกายแผ่นหลังของเขา
“ภีรวัส ผมรักคุณ” วรุฒม์อมยิ้ม เสียงทุ้มต่ำ ตามองไปที่เตียง สมองคิดล่วงหน้าว่าจะวางภีรวัสลงบนเตียงท่าไหนดี “คุณล่ะ รักผมบ้างไหม รักจริงๆ นะครับ ไม่ใช่รักเล่นๆ”
“รัก” ภีรวัสคราง “วางลงซะที”
“ยอมหรือยัง”
“ยอมแล้ว” ภีรวัสจำใจต้องพูดเพราะใกล้จะทนไม่ไหว
...โหดร้ายที่สุด ไม่คิดนิึกว่าคนหน้านิ่งๆ ขรึมๆ บุคลิกสง่า เยือกเย็น เป็นสุภาพบุรุษอย่างวรุฒม์จะทำอะไรร้ายกาจได้ถึงขนาดนี้...
...เกมหัวใจเกมนี้ เขาพ่ายแพ้อย่างยับเยิน...
...คราวนี้ไม่ได้แพ้อิศรา แต่แพ้วรุฒม์...

ภีรวัสสูดอากาศเข้าไปเฮือกใหญ่เมื่อวรุฒม์วางเขาลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา แต่ไม่กี่อึดใจ นายทหารหนุ่มร่างแกร่งกำยำก็โถมตัวลงมานอนทับเขาเอาไว้ ภีรวัสยกมือขึ้นผลักอกของวรุฒม์ แต่ร่างบึกบึนของวรุฒม์ไม่ขยับแม้แต่นิด
...โอย จะฆ่ากันให้ตายเลยหรือนี่ เขาผิดมากเลยหรือไง เมื่อกี้แบก ตอนนี้ทับ ต้องลงโทษกันอีกกี่รอบ...
“ผู้พัน อย่านะ”
วรุฒม์หัวเราะเบาๆ ในลำคอแล้วเบี่ยงตัวลงนอนเคียงข้างภีรวัส สอดแขนแข็งแรงกอดรัดชายหนุ่มเอาไว้แน่น
“ผู้พัน ปล่อยนะ” ภีรวัสเสียงดัง
“หยุดสั่งผมเสียที คุณรู้ไหมว่าผมเป็นถึงผู้บัญชาการกองพัน” วรุฒม์ยังคงหัวเราะ รัดแขนแน่นยิ่งกว่าเดิม แล้วซุกหน้าเข้ากับซอกคอของภีรวัส
“ยิ่งบอกให้ผมปล่อย ผมจะยิ่งกอด”
“งั้นก็กอดแน่นๆ เลย” ภีรวัสกระแทกเสียง “ถ้าผมบอกให้กอด ผู้พันจะปล่อยหรือไง”
“ลองสั่งผมอีกทีสิครับ” วรุฒม์เสียงอู้อี้ จมูกโด่งคมซุกไซร้ซอกคอขาวสะอาดของภีรวัส แล้วเปลี่ยนไปเป็นบดปากลงกับผิวเนียนใต้บนหูสลับกับเม้มติ่งหูนุ่มๆ ของชายหนุ่มที่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดของเขา
“ปล่อยผมเดี๋ยวนี้” ภีรวัสสั่งเสียงเบาทั้งที่รู้ว่าไม่มีประโยชน์
“ครับผม” วรุฒม์ตอบรับเสียงพร่า แต่หาได้ทำตามไม่ อารมณ์ปรารถนากำลังโหมกระพือ ร่างกายของเขาสั่นสะท้านพอๆ กับที่ภีรวัสสั่นสะท้านเพราะสัมผัสเสน่หาที่ได้รับจากเขา
...รอต่อไปไม่ไหวแล้ว เขาอยากสัมผัสภีรวัสเหลือเกิน เวลาผ่านมานานเหลือเกิน ปากอิ่มเต็มแดงระเรื่อที่ยิ้มบางๆ ดูลึกลับตรึงตาตรึงใจตั้งแต่แรกพบริมถนนเล็กๆ กลางป่าวันนั้น ลำคอขาวสะอาด ต้นแขนเนียนน่าลูบไล้ รูปร่างที่มีมัดกร้ามพองามที่เขาอยากกอดมาตั้งนานตอนนี้นอนระทวยอยู่ใต้ร่างของเขา อีกไม่นาน เขาก็จะได้สัมผัสร่างเปลือยเปล่าของภีรวัสทุกตารางนิ้ว ต่อให้ฟ้าจะถล่มลงมาเสียเดี๋ยวนี้เขาก็ไม่สนใจ
“ทำไมยังไม่ปล่อยอีก จะไปไหนก็ไปไกลๆ เลยนะ" ภีรวัสทำเสียงดุ คราวนี้วรุฒม์ไม่ยอมปล่อย แขนแข็งแรงยังโอบรัดชายหนุ่มเอาไว้แน่น "ทำไมยังไม่ไปอีก สองครั้งที่แล้วพอบอกให้ไปก็ไปง่ายๆ"
“งอนผมเพราะอย่างนี้เองหรือ" วรุฒม์ยิ้มพราว นัยน์ตาวิบวับ
“ทำไมผมต้องงอน"
“ถ้าไม่งอนแล้วเรียกว่าอะไร"
“ถ้าผมบอกให้ผู้พันอย่างมายุ่งกับผมเลย ไม่ต้องมาให้เห็นหน้าอีกเลย ไม่ต้อง...”
“พูดไปก็เท่านั้น" วรุฒม์หัวเราะเบาๆ "ไม่มีประโยชน์หรอกครับ เพราะผมเลิกคิดที่จะทรมานคุณแล้ว และอีกอย่าง ผมไม่อยากจะรอต่อไปอีกแล้ว แค่นี้ก็พอ"
“พออะไร" ภีรวัสหรี่ตามองหน้านายทหารที่ทำหน้ายิ้มกรุ้มกริ่มแล้วพยายามยื่นจมูกเข้ามาหอมแก้ม และทันใดก็นึกอะไรออก "ผู้พัน คุณแกล้งใช่ไหม"
“แกล้งอะไรครับ" วรุฒม์เลิกคิ้ว
“เจ้าเล่ห์ที่สุดเลย" ภีรวัสออกแรงผลักอกของวรุฒม์ให้ออกห่าง แต่ร่างกายแกร่งกำยำของผู้บัญชาการกองพันเจ้าเล่ห์ไม่ขยับเขยื้อน แต่ทว่า กลับกอดรัดแน่นยิ่งกว่าเดิม
“โอย หายใจไม่ออก กระดุมเสื้อกับเข็ดขัดทหารมันกดตัวผม ผู้พัน ขยับออกไปนะ" ภีรวัสเริ่มดิ้น
“ถ้ายังงั้นผมจะถอดชุดทหารออก จะได้กอดกันสบายๆ" วรุฒม์ยิ้ม ส่งสายตาวิบวับ ใบหน้าตอนนี้ต่างจากใบหน้าเคร่งขรึมที่เคยเห็นโดยสิ้นเชิง
“ผมจะไม่เชื่ออะไรผู้พันอีกแล้ว"
“ยังกับตัวเองไม่เคยเจ้าเล่ห์ยังงั้นล่ะ ถ้าผมไม่ทำแบบนี้่ แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าคุณไม่หลอกผม ผมพิจารณาเห็นว่าคุณทุรนทุรายเพราะคิดถึงผมและได้รับบทเรียนเพียงพอแล้ว ตอนนี้เราก็ไม่ต้องรีรออะไรอีกแล้วล่ะ" วรุฒม์เสียงทุ้มต่ำ นัยน์ตาวาว ยื่นปากเข้ามาจูปแก้มของภีรวัสจนได้ "ผมก็ทรมานเหมือนกันนะครับภีรวัส ผมนั่งนับรอเวลาเป็นชั่วโมงๆ เพื่อจะได้มาเจอคุณอีก ที่ผมหายไปก็เพราะอยากให้เราคิดถึงกันมากๆ จนรู้สึกว่าทนไม่ไหวแล้ว ยังไงๆ ก็ต้องมาเจอกันและรักกันให้ได้"
“ทำแบบนี้ คิดว่าตัวเองเก่งนักนะ" ภีรวัสเมินไม่มองหน้าวรุฒม์
“แล้วได้ผลไหมล่ะ คุณกล้าพูดหรือเปล่าว่าคุณไม่คิดถึงผม ตอนที่อยู่ในหมู่บ้าน คุณหันมามองผมเดินมาขึ้นรถด้วยน้ำตาคลอเบ้าทำไม คุณกัดริมฝีปากอย่างเจ็บปวดและเสียใจที่ผมหันหลังเดินหนีมาเฉยๆ แล้วพอคุณเปิดประตูรั้วบ้านคุณก็นั่งร้องให้อยู่หน้าประตูบ้าน ผมอยากจะเข้าไปปลอบซะตอนนั้นเลยรู้ไหมครับ แต่ว่าผมจ้องใจแข็ง ให้คุณได้ค้นหาหัวใจตัวเอง"
“คุณรู้...” ภีรวัสพึมพำ
“ผมเป็นทหารนะครับ เรื่องดักซุ่มรอโจมตีข้าศึกนั่นน่ะผมถนัด คุณกัดริมฝีปากแล้วก็ขว้างรองเท้าแตะมาประตูรั้วด้วย" วรุฒม์หัวเราะเบาๆ
“คุณเห็น...”
“ผมมีกล้องส่องทางไกลอยู่ในรถ"
“ร้าย ร้ายที่สุด ร้ายกาจ"
“ก็ต้องร้ายอย่างผมนี่ล่ะ ถึงจะเอาคุณอยู่" วรุฒม์ยิ้ม "ตอนนี้เราต่างคนต่างรู้ใจตัวเองและรู้ใจกันแล้ว เพราะฉะนั้น ก็ถึงเวลาที่เราจะรักกันอย่างจริงจังเสียที คุณห้ามคิดที่จะมาเล่นเกมหลอกให้รักแล้วทิ้งเด็ดขาด เพราะถ้าคุณทำกับผมแบบนั้น รับรองว่าจะไม่มีแผ่นดินอยู่"
“อย่ามาร้ายให้มากนักนะผู้พันวรุฒม์" ภีรวัสทำหน้าดุ
“ยังไม่ได้คิดบัญชีเลยนะที่คุณกอดแขน ดร. วสันต์คนนั้นนะ แกล้งทำเป็นหวานกันเพื่อจะทำให้ผมหึงใช่ไหมล่ะ ผมรู้ทันหรอก"
“ไม่อยากพูดด้วยแล้ว" ภีรวัสเบ้ปาก
“ภีร์ครับ เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะครับ คราวนี้ไม่มีเกมหัวใจให้เล่นอีกแล้ว มีแต่หัวใจแท้จริงของเราสองคน หัวใจที่ผมมอบให้คุณและคุณก็มอบให้ผม” วรุฒม์เสียงแหบพร่า ไม่รอให้ภีรวัสตอบเพราะเขาทนไม่ไหวต่อไปอีกแล้ว ปากแดงๆ ของชายหนุ่มอยู่ใกล้มากจนเขาต้องรีบประกบปากเอาไว้แล้วบดริมฝีปากเพื่อถ่ายทอดความอบอุ่นให้กันและกัน เสียงภีรวัสครางอืออาเบาๆ ยิ่งกระตุ้นเขาให้ฮึกเหิมมากกว่าเดิม ลิ้นสอดเข้าไปสัมผัสกระหวัดเกี่ยวกับลิ้นของชายหนุ่ม ตวัดดุนดันและดูดดื่มจนหนำใจแล้วจึงยอมให้ตัวเองและภีรวัสสูดลมหายใจเติมอากาศเข้าไปเฮือกใหญก่อนจะโผเข้าหากันอีก ครั้งแล้วครั้งเล่า
...จบเสียที เกมหัวใจที่เล่นกันสนุกๆ จากนี้ไป มีแต่หัวใจของเขากับภีรวัสที่จะถ่ายเทความรักให้กันและกัน...


ห้ามค้างกันอีกนะ ไม่เคยเขียนเรื่องไหนแล้วตอนจบมันชัดเจนสุดๆ อย่างนี้เลยนะเนี่ย

บทส่งท้าย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทส่งท้าย (10/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: gboy ที่ 10-10-2009 22:19:59
 :z13:
จิ้มพี่นาย

ไปอ่านก่อน
เดี๋ยวกับมาเม้นท์

เย้ ไม่ค้างละ

แต่ว่าขอตอนพิเศษอย่างด่วน

ปล ไม่ได้โลภนะแค่อยากรุ้เฉยๆ

+1 ให้ด้วยค้าบบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทส่งท้าย (10/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 10-10-2009 22:50:20
บทส่งท้าย

หนึ่งปีต่อมา

อิศรา
กลายมาเป็นช่างภาพสารคดีท่องเที่ยว และตระเวนถ่ายภาพสถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงามในภาคเหนือ โดยมีคนนำทางและพลขับเป็นแพทย์ทหารรูปหล่อ

พันตรีนายแพทย์วิษณุ
ได้เลื่อนยศเป็นพันโท และนอกจากรักษาคนไข้แล้วยังทำหน้าที่ขับรถพาช่างภาพผู้น่ารักตระเวนถ่ายภาพทั่วภาคเหนือ และเป็น ส.ห. ควบคุมความประพฤติของช่างภาพอีกหนึ่งตำแหน่งเพราะอิศรายังทำตัวไม่่น่าไว้ใจอยู่เป็นระยะๆ นอกจากนั้น ยังมีความรับผิดชอบพิเศษ ต้องพาอิศราไปสัมผัสแสงสีในตัวเมืองอย่างน้อยเดือนละสองครั้ง และวันเสาร์สิ้นเดือนต้องพา “หนุ่มเมืองกรุงฯ “ ไปผับในเชียงใหม่เดือนเว้นเดือน

วรุฒม์
แม้จะย้ายกลับมาประจำการที่กรุงเทพฯ มีตำแหน่งใหญ่โต แต่ก็ต้องควบตำแหน่ง ส.ห. ควบคุมความประพฤติของคนรักอีกหนึ่งตำแหน่งเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อภีรวัสกับอิศราอยู่ด้วยกัน

ภีรวัส
ยังคงทำงานวิจัยต่อไป และในที่สุดก็ได้ไปทำวิจัยที่อินโดนีเซียจริงๆ แต่ต้องกลับกรุงเทพฯ มารายงานตัวต่อพันโทวรุฒม์ที่กระทรวงกลาโหมเป็นประจำ แต่ไม่ถึงกับต้องทำรายงานการดำรงชีวิตประจำวันมาส่งนายทหารที่รู้ทันทุกอย่างเพราะวรุฒม์มี “สาย” แฝงตัวอยู่ในทีมวิจัยโดยที่ภีรวัสไม่ระแคะระคายแม้แต่นิด

ภีรวัสกับอิศรา
ทำตัวดีขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมากเพราะถูก ส.ห. ยศพันโทของกองทัพบกสองนายคุมเข้มจนแทบกระดิกตัวไม่ได้

หนึ่งปีสี่เดือนต่อมา

อิศรากับภีรวัส ในผับแห่งหนึ่งกลางกรุงเทพฯ

“ภีร์ เบื่อมากเลยนะ ชักจะไม่ไหวแล้ว กระดิกก้นแทบจะไม่ได้ เราหาอะไรสนุกๆ ทำกันเถอะ”
“อย่ามาชวนหาเรื่องถูกด่า”
“แค่อาทิตย์เดียวก็พอ อาศัยจังหวะที่ผู้พันไปราชาการนี่ล่ะ นานๆ ทีสองคนนั่นจะไปราชการพร้อมกัน”
“บอกแล้วไงว่าเลิกเล่นเกมบ้าๆ นี่แล้ว”
“ดูโน่น ที่ตำแหน่งสิบสี่นาฬิกา ใครทำให้นายคนนั้นชวนขึ้นเตียงได้ก่อนเป็นฝ่ายชนะ รางวัลคือไอโฟน เครื่องของเราที่ผู้พันซื้อให้ตกแตกไปเมื่อวาน ถ้าผู้พันกลับมาแล้วไม่เห็นจะโดนดุ”
"มั่นใจมากเลยนะว่าตัวเองจะชนะ"
“ไม่มั่นไม่ใช่อิศรา ครั้งล่าสุดจำได้ไหมว่าใครชนะ"
“แกเล่นสกปรก"
“แสดงว่าแกยอมแพ้"
“หนึ่งอาทิตย์นับเสาร์อาทิตย์หรือเปล่า หรือเฉพาะวันเวลาราชการ”
“แฟนแกกับเมื่อไหร่”
“เย็นวันอาทิตย์”
“เอ ทำไมไม่กลับมาพร้อมกันวะ งั้นเอาหกวัน ผู้พันวิษณุกลับคืนวันเสาร์ ฉันต้องรีบกลับบ้านไปอาบน้ำแก้ผ้ารอให้หมดฉีดยา”
“ไอ้บ้า”
“ฉันเริ่มก่อนนะภีร์ ผลัดกันคนละวัน เล่นตามกติกานะ ห้ามมอมเหล้าเป้าหมายเด็ดขาด"
“ทำไมแกได้วันไปก่อนทุกทีวะ แล้วเรื่องกติกาไม่ต้องมาพูด เพราะแกคงแหกกฎอีกตามเคย”
“เริ่มตอนนี้เลย”
“เฮ่ยไอ้ก้อนอิฐ เดี๋ยวสิ แล้วใครจ่ายค่าเบียร์”
“แกสิ แฟนรวยขนาดนั้น อย่าขี้เหนียวไปหน่อยเลย เรารึนึกว่าเป็นทหารภูธร ที่ไหนได้”

อิศราเดินตรงไปหา 'เป้าหมาย' อย่างมั่นใจ พอใกล้จะถึงตัวก็แกล้งทำเป็นเซไปกระแทกเก้าอี้สตูลหน้าบาร์เหล้า ชายหนุ่มร่างสูงหันมามองแล้วเบิกตากว้าง อิศราขมวดคิ้วนิดหน่อยเพราะเห็นหน้าตาของเป้าหมายใกล้ๆ แล้วทำให้นึกถึงใครคนหนึ่งขึ้นมาทันทีแต่ก็คิดชื่อไม่ออก
“เจ็บไหมครับ"
“ไม่ครับ แต่ผมรู้สึกปวดหัว นึกว่าหายป่วยแล้ว แต่ทำไมเป็นแบบนี้"
“เป็นอะไรหรือครับ"
“น้ำในหูไม่เท่ากันครับ สงสัยต้องเติมน้ำเข้าไปในตัว"
“ผมว่าคุณไปนั่งพักที่เงียบๆ ดีกว่า ไปห้องข้างในสิครับ เขามีห้องให้คนอยากอยู่เงียบนั่งพักด้วยนะครับ เดี๋ยวผมจะหาน้ำเย็นมาให้ดื่ม"
“หรือครับ มีแบบนี้ด้วยหรือ ไปทางไหนครับ ผมเป็นเบลอๆ ลืิมใส่แว่นมาซะด้วยสิ"
“เดี๋ยวผมพาไป เชิญทางนี้ครับ"
“ขอบคุณครับ อืม คุณหน้าตาคุ้นๆ นะครับ ไม่รู้ว่าเราเคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า"
“ไม่เคยครับ"
“ไม่เคยจริงๆ หรือครับ คุณตอบทันที แสดงว่ามั่นใจมาก"
“ผมเป็นคนความจำดี ถ้าผมเจอคุณมาก่อนผมต้องจำได้แน่ คุณไม่เหมือนใครที่ผมเคยรู้จัก"
“ผมอิศราครับ แล้วคุณ...”
“วฤธครับ วฤธ แสนยานุภาพ ผมทำงานอยู่สถานทูตไทยประจำสวิสเซอร์แลนด์"
“หรือครับ ผมกำลังจะไปเที่ยวยุโรปพอดี"
“ไปสิครับ สิ้นเดือนผมก็กลับไปทำงานแล้ว ผมอยู่เจนีวา อพาร์ทเมนท์อยู่ริมแม่น้ำ วิวสวยมาก ห้องตั้งสามห้อง ถ้าไปกลางเดือนหน้าจะเจอพี่ชายผมพอดี พี่เขาจะพาแฟนไปเที่ยว ไปกันหลายคนสนุกดี ขับรถตระเวนเที่ยวให้ทั่ว"
“เกรงใจ"
“ไม่ต้องเกรงใจครับ ถ้าคุณไม่มั่นใจ อาทิตย์หน้าผมจะแนะนำให้รู้จักพี่ชายผมเอาไว้ จะได้ไม่รู้สึกอึดอัด"
“พี่ชายคุณจะว่าไหมเนี่ย"
“ไม่ว่าหรอกครับ พี่รุฒม์ใจดี"
“พี่คุณชื่ออะไรนะ"
“รุฒม์ครับ วรุฒม์"
“พี่คุณทำงานอะไรครับ สงสัยทำงานกระทรวงต่างประเทศ"
“คนละกระทรวงครับ กระทรวงกลาโหม พี่รุฒม์เป็นทหาร"
“มิน่า...”
“มิน่าอะไรหรือครับ"
“เปล่าๆ ครับ อืมม ผมรู้สึกดีขึ้นมากแล้วล่ะ ขอบคุณมากนะครับที่พามานั่ง คุณใจดีจริงๆ"
“ด้วยความยินดีครับ"
“เอ่อ คือว่า...”
“อะไรหรือครับ"
“ผมอยากขอความช่วยเหลือคุณวฤธ ไม่ทราบว่าจะได้ไหมครับ"
“ได้สิครับ"
“คืออย่างนี้ครับ ผมกับเพื่อนที่ทำงานมาเที่ยวด้วยกันมีเรื่องกันนิดหน่อย เพื่อนห่างๆ กันหรอก ไม่สนิทกัน คบกันก็เพราะประโยชน์เรื่องงาน เขาตามจับผิดผม ไม่รู้เป็นอะไร ผมบอกว่าผมมาเที่ยวกับพี่ชายเพื่อนที่ยิมก็ไม่เชื่อ นี่สงสัยกำลังแอบสอดส่องมองผมอยู่ พอผมแยกกับคุณแล้ว เขาต้องตามสืบแน่ๆ เชียว คุณช่วยผมหน่อยได้ไหมครับ"
“ถ้าไม่เหลือบ่่ากว่าแรงผมก็ยินดีครับ"
“คุณเป็นคนใจดีจริงๆ คืออย่างนี้ครับ คุณอย่าบอกเขานะครับว่าตัวเองเป็นใคร แต่ให้บอกว่าเป็นพี่ชายของคนที่ชื่อจอห์น"
“จะให้ผมโกหกหรือ"
“เปล่าโกหกนะ แค่ไม่ให้บอกว่าคุณคือใครจริงๆ แค่บอกว่าชื่ออะไรก็ได้ เป็นพี่ชายของใครก็ได้เอ๊า แต่ไม่ให้บอกว่าเป็นคุณ คือเป็นแบบว่า คนที่ เอ่อ อืม เอายังงี้ เป็นใครก็ได้แต่ไม่ใช่คุณ"
“ไม่ให้เป็นวฤธ แสนยานุภาพ"
“น้องของผู้พันวรุฒม์"
“คุณรู้ได้ยังไงว่าพี่รุฒม์เป็นนายพัน"
“ผมเดาเอา แหม ถ้าเป็นพี่ชายคุณก็ต้องอายุสามสิบอัพแล้วล่ะ คนอายุสามสิบกว่าก็ต้องเป็นผู้พันแล้วละสิ"
“คุณอิศราเก่งจัง"
“คุณวฤธก็เข้าใจอะไรง่ายดี ผมพูดวกไปวนมาไม่ค่อยรู้เรื่องก็ยังเข้าใจ"
“ไม่ใช่หรอกครับ ผมรู้ว่าคุณกำลังกังวลใจ ก็ต้องพูดเข้าใจค่อนข้างยาก"
“ช่วยผมหน่อยนะครับ เห็นแก่ผมเถอะ นี่ผมเครียดมากเลยนะจนต้องกินยา เป็นโรคน้ำในหูไม่สมดุลกันกับไมเกรนยังไม่พอ ต้องมาเจอเพื่อนแบบนี้อีก เฮ้อ"
“ไม่ต้องห่วงครับ ผมยินดีช่วย"
“ขอบคุณครับ คราวนี้ล่ะ เพื่อนร่วมงานผู้ร้ายกาจของผมจะได้รับบทเรียนซะบ้าง"
**********
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทส่งท้าย (10/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: alterlyx ที่ 10-10-2009 23:04:56
บร๊ะจ้าวว ... ผู้พันน่าร๊ากกกก  :impress2:
ทำไมวันนี้ ผู้พันน่ารักได้ขนาดนี้น๊า

คุณนายสามารถเขียนให้เราไม่ชอบผู้พัน และ ปลื้มผู้พัน แบบสลับตอนเว้นตอนเลยนะเนี่ย
เดี๋ยวก็น่ารัก เดี๋ยวก็น่าหมันไส้ น่ารัก น่าหมันไส้ ๆ ๆ อยู่เงี้ยะตลอด ... สับสนเหลือเกิน
+ให้อีก 1 ... จากที่ยังค้างไว้วันก่อนค่ะ อิอิ

แต่บทส่งท้ายเนี่ย ... เอ่อ ... กลัวภีร์ถูกนายทหารใหญ่ทำโทษจังเลยน๊า  :haun5:

 o13 จบแบบนี้ น่ารักที่สุด  
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทส่งท้าย (10/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 11-10-2009 00:51:23
ขอเม้นท์ ตอน บทสุดท้ายก่อนนะคะ  

อืมม ยังไม่ชอบวรุตอยู่ดี  

คือจะชอบมากกว่านี้  ถ้าวรุตพยายามดิ้นรนกว่านี้

เพื่อให้ภีร์ใจอ่อน ไม่ใช่พอภีร์ปากแข็งก็ล้าถอยแล้ว

จริงๆ ไม่ใช่ว่าภีร์ปากแข็งใจแข็งอะไรมากมาย  

แต่วรุตไม่พยายามต่างหาก  กลับกันกับวิษณุเลยยังดูพยายามชนะใจอิศรามากกว่า

คือไม่ต้องถึงที่วิษณุทำก็ได้แต่ก็นะ พยายามนิดหน่อยก็ยังดี

ไม่เห็นว่าวิธีที่จัดการคนปากแข็งใจแข็งของวรุตมันจะได้ผลตรงไหน

มีแต่ทำให้อะไรเลวร้ายลง  

แล้วเนี่ย ถ้าวิษณุกะอิศราไม่วางแผนช่วย ก็คงจะนิ่งเฉยไม่ทำอะไรสินะ

 คอยว่าภีร์จะทนคิดถึงตัวเองไม่ได้ไปเอง ..... ถ้าภีร์ไม่กลับมาแม่เสรียงก็คงจะนิ่งเฉยต่อไปใช่ไหม

และคงไม่มีโอกาสง้อ

นี่ขนาดมาง้อ ยังไม่เลิกเก๊กอีก  :z6:


ส่วนภีร์ ไม่น่าใจอ่อนง่ายๆเลย  มันน่าจะให้วรุตดิ้นรนอะไรบ้าง   :seng2ped:

แอร๊ยยยยยยยยยยยย  ตอนนี้ขัดใจ  อิศราของเจ๊หายยยยยยยยยยศีรษะไปหนายยยยยยยยยยย   :serius2:

อดฮาเลย   :pigha2:

หนึ่งบวกค่ะ  ขอบคุณที่มาต่อนะคะ ชอบๆ (อิศรา....อารมณ์ส่วนตัวจริงๆเลยตรู  กร๊ากกกกกกก)


เด๋วมาเม้นตอนล่าสุดที่โพสต์ค่ะ (ยังไม่ิ่อ่าน)

edit


อิศราเจ้าเล่ห์จริงๆ  ภีร์งานเข้าแล้ว 


นี่ถ้าสามีรู้ว่าแอบพากันเล่นเกมส์ โดนฉีกอก แน่ๆ



หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทส่งท้าย (10/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 11-10-2009 01:55:45
กรีี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
จบแบบไม่ค้างๆคาๆ เสร็จแบบเสร็จสมบูรณ์จริงๆ
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
คุณภีร์ชอบโหดๆก็ไม่บอกนะคะรู้แบบนี้จับทรมานให้จุกถึงคอหอยก็ดีนะ
จะได้สารภาพมาให้หมดปากหมดคำแต่สถานที่สารภาพเนี่ย
เหมาะกับการส่งตัวมากๆ55555 ผู้พันวรุตม์ร้ายจริงๆนะคะ ตัวพ่อมากๆ
แบบนี้สิถึงจะคุมอยู่หมัดอ่ะอิอิ

เหตการณ์ในอนาคตนั่นจะฮาไม่ไหนคะท่านผู้พันแต่ละคน กลายเป็น ส.ห.ส่วนตัวของภรรเมียตัวเองไปล่ะ
เยี่ยมจริงๆ
“เอ ทำไมไม่กลับมาพร้อมกันวะ งั้นเอาหกวัน ผู้พันวิษณุกลับคืนวันเสาร์ ฉันต้องรีบกลับบ้านไปอาบน้ำแก้ผ้ารอให้หมอฉีดยา”
>>แม่อิศราของคนอ่านยังแฮดไม่เปลี่ยนเลยนะคะ สามีไม่ราชการก็ออกเริงราตรี พอสามีจะกลับนอนอ่อยรอพร้อมทำราชการเลยนะคะ
เปรี้ยวไม่มีใครเกิน

ปล. จบแบบนี้สิคะ คนอ่านรักตายเลย เคลียร์มากๆๆเอาไป+1 นะคะพร้อมยกดาวให้ร้อยดวงเลยคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทส่งท้าย (10/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 11-10-2009 05:46:28
มาแปะไว้ก่อนง่วงนอนแล้วเดี๋ยวค่อยมาอ่านครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทส่งท้าย (10/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 11-10-2009 05:59:23
เรื่องนี้จบได้เคลียร์ดีครับ อิอิ

ส่วนเรื่องที่อิศราจะแกล้งภีรวัส ผมว่าคนฉลาดๆอย่างภีรวัสคงจับจุดผิดสังเกตได้แหละ
แต่ที่แน่ๆ เรื่องในผับคืนนี้ ไม่รอดหูรอดตาของ 2 ผู้พันไปได้หรอก หึหึ  :z1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทส่งท้าย (10/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 11-10-2009 06:42:07
เพื่อนรักหักเลี่ยม ( รัก ) โหดแล้วแบบนี้

บ้านไม่แตกให้รู้ไป หรือว่า พี่นายจะให้เป็นอื่น  :z2:

+1 ให้เป็นปกติครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทส่งท้าย (10/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 11-10-2009 08:59:03
พี่นายยยย วางระเบิดกันนี่นา อยากเห็นหน้าผู้พันเวลากลับมาจังเลนอ่ะ   :laugh:

ชอบเรื่องนี้จัง 555555555 อ่านแล้วขำกลิ้ง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทส่งท้าย (10/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: กุหลาบเดียวดาย ที่ 11-10-2009 09:28:25
ผู้การวรุตม์จูบได้ชัดเจนมาก  ขอบคุณมาก
คุณนายเก่งมาก บทส่งท้ายอย่าลืมมาต่อนะ พล็อตเรื่องคุณนายนี่สุดยอดทุกบททุกตอน คิดได้ไง
เป็นกำลังใจให้กับการทำวิทยานิพนธ์ด้วยนะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทส่งท้าย (10/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 11-10-2009 11:55:53
ขอบคุณนะครับที่ติดตามอ่านมาจนจบ เรื่องนี้ไม่ค่อยได้พิถีพิถันเท่าไหร่เพราะเขียนตอนเซ็งเบื่อๆ ขณะที่ทำวิดยานิพน คือพอทำงานวิชาการจนเบื่อจัดแล้วก็พักยกด้วยการหันมาเขียนนิยาย นึกว่าจะไม่จบซะแล้ว ไม่อยากทิ้งไปกลางคันก็เลยเอาเรื่องนี้ให้จบซะเลย เพราะรักผู้อ่านมาก ก็หวังว่าจะมีคนคิดถึงผมบ้างนะครับ ถ้าคิดถึงกันก็ไปทักทายกันที่เว็บผมก็แล้วกันเนอะ ช่วงนี้คงต้องขอเวลาไปเอาเรื่องเรี่ยนให้จบ แต่บางครั้งบางคราวก็จะเข้ามาสวัสดีทักทายพอให้หายคิดถึงกัน
ขอบคุณทุกท่านที่ลงคอมเมนท์นะครับ คนที่ไม่ลงก็ขอบคุณครับ แค่ชายตามองหรืออ่านนิยายที่ผมโพสก็พอใจแล้ว
ขอบคุณทุกคนที่กดคะแนนให้ และขอบคุณที่ไปโหวตรางวัลเซ็งเป็ดให้นะครับ
ขอบคุณที่อุตส่าห์ซื้อหนังสือ คดีรัก ที่พิพม์ไปตั้งแต่ต้นปีก็ยังมีคนซื้ออีก  :z1:
ขอบคุณบอร์ดเซ็งเป็ดที่ให้โอกาสและพื้นที่ในการแบ่งปันเรื่องราวนิยายให้อ่านนะครับ

เรื่องนี้ไม่มีตอนพิเศษอะไรอีกแล้วนะ เพราะคิดไม่ออก ผู้พันวรุฒม์ได้อึ๊บภีรวัสแล้วมันก็ต้องจบละเนอะ เรื่องต่อไป กำลังชั่งน้ำหนักอยู่ว่าจะเป็นเรื่องที่ออกแนว จริงจัง หรือ โรแมนติกเพ้อฝัน
มีหลายเรื่องเขียนทิ้งเอาไว้สามสี่บทตั้งแต่กลางปีที่แล้วครับ ไม่รู้จะถึงเวลาเหมาะหยิบเรื่องไหนขึ้นมาเขียนต่อให้จบได้เมื่อไหร่

แต่มีตัวอย่างบางตอนนะ ถือซะว่าเป็นหนังตัวอย่างโปรแกรมหน้า
ก่อนไปก็ขอบคุณนะครับ ขอบคุณ

 :L1: เรื่องที่หนึ่ง ออกแนวจริงจัง

หมอชาลีเดินเอื่อยๆ ไปตามทางเดินของโรงพยาบาล เลิกงานแล้วแต่เขายังไม่กลับบ้านเช่นเคย วันนี้เขาตั้งใจว่าจะชวนเอกไปหาอะไรทานที่ร้านอาหารนอกเมือง หมอหนุ่มหยุดหยอดเหรียญตู้เครื่องดื่ม กดซื้อแป็บซี่แม็กซ์หนึ่งกระป๋อง แล้วเดินตรงไปยั้งวอร์ดเด็ก แต่สองเท้าชะงักทันใดเมื่อเห็นชายหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งเดินเข้าไปในวอร์ดก่อนหน้าเขาเพียงไม่กี่อึดใจ
...กัณต์...เขามาทำอะไรที่นี่...ที่วอร์ดเด็ก...หรือว่า...
นายตำรวจหยุดหน้าห้องของเอกเพื่อนของเขาชั่วขณะ ก่อนที่ประตูห้องจะเปิดออก เอกเดินออกมา ส่งยิ้มกว้างให้ วินาทีนั้นชาลีรู้ได้ทันทีว่า กัณต์มาจีบเพื่อนของเขา
...เป็นไปได้ยังไง...กัณต์รู้จักเอกตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมเขาไม่เคยรู้เรื่องเลย...
ชาลีรีบเดินตรงเข้าไป ตั้งใจว่จะต้องรู้ความจริงให้ได้ สองอาทิตย์ที่แล้วเขาตัดสัมพันธ์กับกัณต์ นับแต่วันนั้น กัณต์ก็หายหน้าไป ชาลีคิดในใจว่าหากสองคนนี้จะรู้จักกัน ก็อาจเป็นตอนที่เขาไปดูงานที่นิวซีแลนด์เมื่อสิบวันที่ผ่านมา
"เอก ตกลงจะไปทานข้าวด้วยกันไหม" ชาลีส่งเสียงไปก่อนที่จะเดินถึงตัวเพื่อนเขา กับนายตำรวจหนุ่มที่เขาปฏิเสธรักไปหยกๆ
"ชาลี มาพอดีเลย" เอกยิ้มกว้างให้เพื่อน แล้วหันไปหากัณต์ที่หันหน้ามามองชาลีช้าๆ "สารวัตรครับ นี่ชาลีเพื่อนผม"
กัณต์ยิ้มบางๆ ก้มศรีษะให้เล็กน้อยพร้อมพูดว่า "ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณหมอชาลี"
...ยินดีที่ได้รู้จักหรือ...บ้าสิ...รู้จักกันมาตั้งหลายเดือน ยังมาตีหน้าซื่อทำความรู้จัก...
...จะมาไม้ไหนกันนี่...ดี...หากกัณต์อยากจะเล่นเกม เขาก็จะเล่นเกมด้วยเหมือนกัน...
...แต่เกมของเขา ไม่ใช่เกมเดียวกันกับเกมของตำรวจเจ้าชู้อวดดีคนนี้หรอก...
"เรารู้จักกันแล้วไม่ใช่หรือครับสารวัตร จำผมไม่ได้หรือ ชาลีที่ช่วยผู้กองเป็นพยานคดีทำร้ายร่างกายพลเมืองดีไงครับ ลืมง่ายจังเลยนะ" ชาลียิ้ม พูดเนิบๆ ไม่ได้แสดงอาการน้อยใจที่กัณต์จำไม่ได้แต่อย่างใด
กัณต์ชะงักไปชั่วครู่ นึกไม่ถึงว่าชาลีจะไม่เล่นด้วย "อ้อ...คุณหมอนั่นเอง โลกกลมจังเลยนะครับ ไม่นึกว่าจะเจออีกครั้ง"
...เอาสิ เขาไม่ยอมแพ้หรอก หากชาลีคิดจะฉีกหน้าเขา เขาก็จะบอกเสียเลยว่าเคยมีอะไรกันแล้ว ดูสิจะตีหน้าอย่างไรต่อหน้าเพื่อนสนิท...
"ครับ กลมจริงๆ ไม่นึกว่าสารวัตรจะรู้จักกับเอก" ชาลีหันไปยิ้มให้เพื่อน
"เรารู้จักกับสารวัตรอาทิตย์ที่แล้วนี่เอง ตอนชาลีไปนิวซีแลนด์ สารวัตรพาหลานมาหาหมอที่โรงพยาบาล
"ไม่ยักรู้ว่าสารวัตรมีหลาน" ชาลียิ้มบางให้กัณต์
"ผมก็ไม่ยักรู้ว่าคุณเอกเป็นเพื่อนคุณชาลี" กัณต์ยิ้มมุมปาก "ถ้ายังงั้น ผมขอเชิญคุณชาลีทานข้าวด้วยกันนะครับ หวังว่าคุณเอกคงไม่รังเกียจ" ประโยคหลัง หันมายิ้มนุ่มนวลให้หมอเอก
"ไม่ครับไม่" เอกรีบตอบ "นะชาลี วันนี้สารวัตรจะพาไปที่..."
"เราก็จะมาชวนเอกไปทานข้าวเหมือนกัน" ชาลีรีบแทรก "แต่ไม่นึกว่าจะเจอคนอื่น ตั้งใจว่าจะไปทานกับเพื่อนสนิทกันสองคน แต่ถ้าเอกจะไปทานข้าวกับสารวัตรแล้วก็ไปเถอะ เราต้องขอตัว" นายแพทย์หนุ่มจงใจเน้นเสียงให้นายตำรวจหนุ่มรู้สึกว่าเป็นคนอื่น
"ไปด้วยกันเถอะชาลี" เอกคะยั้นคะยอ
ชาลีลังเล ตอนแรกตั้งใจว่าจะเข้ามาขวางคอสองคนนี้ แต่พอถูกชวนให้ไปทานข้าวด้วยกันเขากลับรู้สึกไม่อยากไปด้วย ใจหนึ่งห่วงเพื่อนกลัวว่าจะโดนกัณต์หรอกให้รักแล้วทิ้ง ใจหนึ่งก็รู้สึกฉุนกัณต์ที่เพิ่งสารภาพรักและถูกเขาทิ้งไปหยกๆ แต่กลับทำท่าราวไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ตอนแรกเขานึกว่ากัณต์จะเสียใจ ที่ไหนได้ ไม่ถึงสองอาทิตย์ กัณต์ก็จีบคนใหม่หน้าตาเฉย หนำซ้ำ จีบเพื่อนสนิทของเขาเสียด้วย และที่แย่ที่สุดคือทำท่าว่าไม่เคยรู้จักเขามาก่อน
...เกลียดจริงๆ ยิ่งมาทำหน้ายิ้มๆ ยิ่งรู้สึกหมั่นใส้ คิดว่าตาตัวเองสวยนักหรือไง มายืนยิ้มทำตาระยิบระยับอยู่ได้ อยากให้มีเข็มฉีดยาอยู่ใกล้ๆ จังเลย จะจับแทงให้ตาบอด...
"ถ้าคุณหมอชาลีไม่อยากไปก็อย่าบังคับเลยครับ คุณหมอคงอยากให้เรามีเวลาเป็นส่วนตัว" กัณต์พูดเสียงนุ่ม
...จะมากเกินไปแล้วนะ พูดกันหน้าไม่อายเลยหรือนี่...
เอกยิ้มเขิน ไม่นึกว่ากัณต์จะพูดตรงไปตรงมาเร็วเช่นนี้ ที่สำคัญ พูดต่อหน้าเพื่อนของเขาเสียด้วย
"ใช่ เอกไปทานข้าวให้อร่อยเถอะ เราจะไปทานกับหมอเชน เขาชวนเรามาหลายครั้งแล้ว" ชาลีอุปโลกชื่อหมอเชนขึ้นมา เอกขมวดคิ้วทำหน้าสงสัยเพราะไม่รู้จักหมอเชน ชาลีไม่รอให้เพื่อนถาม กล่าวอำลาแล้วหันหลังกลับเดินออกจากวอร์ดเด็กโดยเร็ว
...เป็นไงล่ะ...ให้รู้ซะบ้างว่าชาลีไม่ใช่คนที่จะมาข่มกันได้ง่าย...
ชาลีคิดในใจ หันหน้ากลับไปยิ้มให้ทั้งสองอีกครั้ง วินาทีที่เขาเอ่ยชื่อหมอเชน เขาเห็นมุมปากของกัณต์กระตุก...กระตุกอย่างไม่ชอบใจ...
...กัณต์คิดจะทำอะไร มาจีบเอกเพื่อจะแกล้งให้เขาหึง หรือต้องการแก้แค้นเขา หรือมีจุดประสงค์อะไรกันแน่
แต่อย่างไรก็ตาม เขาไม่อาจยอมให้นายตำรวจหนุ่มเจ้าสำราญคนนี้มาทำให้เพื่อนเขาเสียใจเด็ดขาด เอกเป็นคนดีเกินไปที่จะมาเป็นเครื่องมือของกัณต์เพื่อแก้แค้นเขา หากนั่นเป็นสิ่งที่กัณต์กำลังคิดอยู่ตอนนี้
...คืนนี้ล่ะเขาจะถามกัณต์ให้รู้เรื่อง
 
:L2: เรื่องที่สอง ก็ออกแนว จริงจัง (มั๊ง)

เช้าวันถัดมา อาวุธไปหาธงรบถึงที่ทำงาน ทันทีที่เห็นอาวุธ ธงรบก็ทำหน้าบึ้ง จ้องตาอาวุธราวจะกินเลือดกินเนื้อ และถามเสียงห้วน
“เอ็งมาทำไม"
“ธงรบ เรามาคุยดี"
“ข้าไม่มีอะไรจะคุยกับเอ็ง" ธงรบทำหน้าเย็นชา เมินไปมองผนังห้อง
อาวุธถอนหายใจเบาๆ แล้วพูดว่า "ก็ได้ เราจะได้กลับไปบอกอาทิตย์ว่าธงรบไม่ต้องการคุย จะได้เปลี่ยนใจรับข้อเสนอของอาทิตย์โดยไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจ"
ธงรบหันขวับมาหาอาวุธทันที "ข้อเสนออะไร บอกมาเดี๋ยวนี้"
“อยากคุยแล้วหรือธงรบ" อาวุธเสียงเย็น ใบหน้าเรียบนิ่งเช่นเคย
“เอ็งอย่ามาท่ามากเลยวุธ จะพูดอะไรก็พูดมา"
“อาทิตย์มาขอเป็นแฟนกับเรา" อาวุธพูดเนิบนาบ "แบบจริงจัง ย้ายไปอยู่ด้วยกัน ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน"
ธงรบช๊อค รู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่าลงมากลางศีรษะ
...อาทิตย์ ทำไม อาทิตย์คิดอะไรแบบนี้ โหดร้ายจริงๆ...
“แต่เรายังเห็นว่านายกับเราเป็นเพื่อนกัน เราทำแบบนั้นไม่ได้หรอก ก็เลยมาคุยกับนาย"
“แกจะเอายังไง"
“เปล่าธงรบ เราไม่ยังไง นายต่างหาก จะเอายังไง"
“อย่ามาพูดวกไปวนมาใช้ภาษาซับซ้อน ข้าไม่เข้าใจ พูดมาตรงๆ เลยดีกว่า จะพูดแบบนี้ไปพูดกับคชานนท์โน่น" ธงรบกระแทกเสียง โบกมืออย่างฉุนเฉียว
“เราหมายความอย่างที่พูด มาตกลงกันไหมธงรบ เราจะถอยฉากออกไป ให้นายง้ออาทิตย์ได้สบายๆ นายมีเวลาสามเดือน ถ้าสามเดือนอาทิตย์ยังไม่ยอมคืนดี เราจะตกลงเป็นแฟนกับอาทิตย์ และนายก็ต้องตัดใจ เลิกกับอาทิตย์โดยเด็ดขาด" อาวุธพูดช้าๆ ชัดถ้อยชัดคำ น้ำเสียงราบเรียบ
...สามเดือน ทำไมต้องสามเดือน ตอนนั้นอธิคมก็โดนยื่นคำขาดสามเดือน คราวนี้เขาก็เจอเหมือนกัน ทำไมใครๆ ก็ชอบกำหนดเวลาสามเดือนกันนัก...
“แต่อาทิตย์บอกว่าไม่อยากเห็นหน้าข้าเป็นเวลาสามเดือน ห้ามเข้าใกล้รัศมีหนึ่งกิโลเมตร" ธงรบพึมพำ นัยน์ตาเหม่อเลย
อาวุธเบือนหน้าไปกลั้นยิ้ม เห็นทางชนะแบบง่ายๆ ลองธงรบเป็นขนาดนี้ เขากับอาทิตย์แทบไม่ต้องพยายามอะไรเลย แต่เพื่อความแน่ใจ ธงรบต้องโดนหนักๆ จะได้กลับตัวกลับใจอย่างแท้จริง
“เราจะคุยกับอาทิตย์ให้ ว่าให้ยกเลิกกฏอันนี้ ให้โอกาสนายพิสูจน์ตัวเอง นายจะเข้าบ้านเราเมื่อไหร่ก็ได้"
“แล้วทำไมจะต้องเข้าบ้านแก ให้อาทิตย์ออกจากบ้านแกสิวะ" ธงรบเสียงห้วน
“ตามใจ ถ้าทำได้ก็ตามใจ" อาวุธยักไหล่ โยนกุญแจลงบนโต๊ะทำงานของธงรบ "ระหว่างนี้เราจะไปอยู่คอนโด"
อาวุธหันหลังกลับ แต่ก่อนจะถึงประตูห้องทำงานก็หันมามองธงรบอีกครั้งแล้วพูดว่า "แต่ในระหว่างนี้เราไม่สัญญานะว่าจะไม่เจออาทิตย์ เราจะแยกตัวออกไปก็จริงอยู่ แต่ถ้าอาทิตย์ตามเรา ก็ช่วยไม่ได้ แต่ขอสัญญาว่าจะอยู่เฉยๆ จะเลี่ยงให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ อย่างที่บอก เราจะถอย จะอยู่เฉยๆ จะไม่ทำอะไร แต่จำไว้นะธงรบ สามเดือนถ้านายยังทำไม่สำเร็จ เราจะจีบอาทิตย์ทันที และทำทุกวิถีทางที่จะเป็นแฟนกับอาทิตย์แบบจริงจังและใช้ชีวิตร่วมกัน ซึ่งเราคิดว่าคงไม่ยาก ธงรบ สามเดือนเท่านั้น เราให้เวลานายสามเดือน"
...สามเดือนจะไปพออะไรวะ แค่สามเดือนเท่านั้นเอง เวลานิดเดียวในการงอนง้ออาทิตย์ ไอ้คมยังทำกับคุณนุไม่สำเร็จเลย นี่ถ้าไม่โดนยิงปางตายไอ้คมก็ไม่มีทางได้คืนดีกับคุณนุภายในสามเดือนหรอก อาทิตย์ร้ายกว่าคุณนุตั้งเยอะ ท่าทางใจแข็งเด็ดเดี่ยวมากกว่านัก สามเดือนจะไปทำอะไรได้...
...สามเดือนอันยาวนานของอธิคม กลับกลายมาเป็นสามเดือนอันแสนสั้นของธงรบ...
ธงรบนิ่งอึ้งเมื่อนึกถึงเวลาเท่ากันแต่กลับทำให้รู้สึกต่างไปลิบลับ
...ต้องห่างอาทิตย์สามเดือนมันนานต่างกันกับมีเวลาสามเดือนที่ต้องง้อขอคืนดีให้สำเร็จ ที่แย่กว่านั้นมีอาวุธหายใจรดต้นคออยู่ ครบสามเดือนเมื่อไหร่ หากเขาทำไม่สำเร็จ อาวุธจะโดดลงมาแย่งอาทิตย์ทันที...
...อนุภาพที่รักกับอธิคมนักหนา เจออาวุธเข้าก็เขวไปไม่น้อย แล้วที่แยกกับอธิคมก็ไม่ใช่แบบที่อาทิตย์เห็นเขากับภานุวัฒน์อยู่บนเตียงด้วยกัน งานนี้หืดขึ้นคอแท้ๆ เชียว รู้สึกเหนื่อยตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มต้นด้วยซ้ำ...

ธงรบมาหยุดยืนหน้าประตูบ้านของอาวุธ มือกำกุญแจบ้านของเพื่อนไว้แน่น ในใจคิดว่าจะไขกุญแจเปิดประตูเข้าไปเลยหรือเคาะประตูดี
...เฮ้อ ทำไมมันลำบากใจแบบนี้นะ พอเห็นหน้าบึ้งๆ ของอาทิตย์แล้วจะทำยังไงดี...
...เอาวะ ไหนๆ ก็มาแล้ว เป็นไงเป็นกัน วันนี้เขาจะเอาอาทิตย์ออกไปจากบ้านของอาวุธให้ได้...
ธงรบตัดสินใจเสียบกุญแจ ปลดล๊อคเปิดประตูบ้านของอาวุธแล้วเดินเข้าไปเพราะคิดว่า หากกดกริ่ง อาทิตย์คงจะไม่ยอมมาเปิดประตูให้
บ้านของอาวุธสะอาดเรียบร้อยมาก ต่างจากบ้านเขาราวฟ้ากับดิน ในใจก็คิดว่า นี่ก็คงเป็นข้อเปรียบเทียบแรกๆ ที่เห็นได้ชัด ถ้าอาทิตย์เลือก ก็คงเลือกอาวุธกระมัง
...อาวุธทำกับข้าวให้อาทิตย์กินด้วย อาวุธทำกับข้าวเป็น ส่วนเขานั่นหรือ เปิดอาหารกล่องแช่แข็งอุ่นไมโครเวฟยังไม่สุกเลย กินแทบไม่ลง ต้มมาม่าก็เละ ชงกาแฟก็หกเลอะเทอะ...
...เฮ้อ เรามันมีดีตรงไหนวะ สงสัยช่ำชองเรื่องบนเตียงอย่างเดียว...
“อาทิตย์"
ธงรบชะงัก หยุดความคิดของตัวเองไว้ชั่วขณะเมื่อเห็นตี๋หนุ่มสุดที่รักของเขาเดินออกมาจากห้องนอน นุ่งกางเกงขาสั้นสีขาวและเสื้อกล้ามสีดำ ในมือถือโทรศัพท์กำลังกดหมายเลข แต่ครั้นเงยหน้าเห็นธงรบ ชายหนุ่มก็พับโทรศัพท์เก็บเอาไว้ เมินหน้าออกไปมองด้านข้าง เดินหนีออกไปที่ระเบียงด้านหลังบ้าน
“อาทิตย์ ฟังพี่ก่อนสิ" ธงรบรีบเดินตาม
“ผมบอกแล้วว่าห้ามมาให้เห็นหน้า ห้ามเข้าใกล้ในรัศมีหนึ่งกิโลเมตร"
“อ้าว ไหนไอ้วุธบอกว่า...” ธงรบทำหน้าเหรอหรา
...ไอ้วุธนะไอ้วุธ ไหนบอกว่าจะคุยกับอาทิตย์ให้ยกเลิกมาตรการทำโทษชั่วคราว แกนะแก...
“สารวัตรกลับไปซะเถอะ ผมไม่อยากคุย" อาทิตย์เสียงเย็น ยืนกอดอกอยู่ริมระเบียง ตามองลงไปยังแม่น้ำเจ้าพระยาที่กำลังไหลเอื่อยๆ
“แต่พี่อยากคุย อาทิตย์อย่าโกรธพี่เลยนะ มาง้อแล้ว" ธงรบเสียงอ่อน
“ง้อเรื่องอะไรครับ"
“ก็เรื่อง...” ธงรบตะกุกตะกัก "เรื่องที่...”

เรื่องที่สาม _ เรื่องแล่าออกแนวหวานปนเศร้า

จะเล่าตอนที่เจอเดียวให้ฟัง ตอนนั้นมันเป็นเรื่องไม่คาดฝัน ผมคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องบังเอิญ แต่เดียวบอกว่าเป็นพรหมลิขิต เป็นโชคชะตา เป็นบุพเพสันนิวาส สารพัดจะหาเหตุผลมาพูด แต่ผมก็ยังย้ำคำเดิมว่า มันก็เรื่องรักใคร่ธรรมดาๆ ผมอยากลองมีประสบการณ์การมีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเขาซักครั้งก็แค่นั้น
เย็นวันนั้นอากาศร้อนมาก ผมสวมเสื้อกล้ามสีขาว กางเกงขาสั้นลายพรางสีเขียวเข้มตัวเก่ง เพิ่งตัดผมใหม่ๆ หัวเกรียนแบบสกินเฮดอย่างเท่
...เท่และน่ากิน อย่างที่โอ๊ตเพื่อนคู่หูของผมบอก
แต่เดียวนี่สิมาแปลก สวมกางเกงยีนส์รัดรูป มีรอยปะพอน่าดู แต่ที่ดึงดูดความสนใจผมคือบั้นท้ายงอนๆ ที่ลอยเด่นอยู่ใกล้ๆ เพราะกำลังก้มลงเก็บผลไม้หลากชนิดที่หล่นกระจายลงบนพื้น ผมชะงัก หยุดตัวเองทัน เกือบจะชนก้นแน่นๆ ของเดียวซะแล้ว
ที่จริงก็อยากจะช่วยเดียวเก็บอยู่หรอก แต่ตอนนั้นกำลังมองเพลิน เลยลืมทำหน้าที่พลเมืองดี ไอ้โอ๊ตวิ่งมาจากไหนก็ไม่รู้ เสนอหน้าช่วยเหลือเดียวจนหน้าหมั่นใส้
“ไอ้ต้น ยืนเซ่ออยู่ทำไม มาช่วยกันหน่อยสิวะ ไม่มีน้ำใจเลยนะเอ็ง” ไอ้ข้าวโอ๊ตปากไม่ดี
ผมถลึงตาใส่เพื่อนแล้วก้มลงช่วยเก็บของ เดียวขอบคุณเบาๆ แล้วหันไปตอบคำถามไอ้โอ๊ตที่เอาแต่ถามซอกถามแซกจนผมอยากต่อยปากมันซักหมัดให้หยุดพูดไปเลย เดียวบอกว่าซื้อผลไม้ไปให้คนที่มาร่วมงานปาร์ตี้ริมสระกิน
“ซื้อเยอะขนาดนี้คงเหลือบานเบอะ อยากหาคนไปช่วยกินไหมครับ” “ไอ้โอ๊ตออกลายเจ้าชู้
“ได้เลยครับ แต่ว่าไม่ใช่งานปาร์ตี้อย่างที่คุณคิดนะครับ แค่มีนั่งคุยกันสนุกๆ เล่นเกมส์ แล้วก็ทานของว่าง ใครอยากกระโดดลงสระก็ตามสบาย”
“ถ้าไม่รังเกียจ ผมไปแน่” ไอ้โอ๊ตพูดแล้วหันมาหาผม “ว่าไงต้น ไปด้วยกันหรือเปล่า”
ผมทำท่าคิด “อืม ขอคิดดูก่อน”
“จะคิดทำไมวะ ปาร์ตี้ฟรีๆ มีของกิน แล้วเจ้าของงานเขาก็เชิญแล้ว” ไอ้เพื่อนขี้หลีของผมทำท่าอยากไปร่วมงานปาร์ตี้ริมสระจนออกนอกหน้า

ผมหัวเราะแทบกรามค้างเมื่อเราไปถึงงาน "ปารตี้ริมสระ" ไอ้โอ๊ตยืนตะลึงไม่เชื่อสายตา มองมนุษย์เพศชายตัวเล็กๆ อายุ 5-10 ปีใส่กางเกงขาสั้นเล่นน้ำกันอยู่เต็มสระ มีเดียวกับคนอีกห้าหกคอยยืนดูแลอยู่รอบๆ
"เป็นไงล่ะเพื่อน ปาร์ตี้ริมสระ อยากโดดลงไปเล่นน้ำกับเขาไหมล่ะ" ผมเหน็บแนม แล้วหัวเราะเสียงดัง ที่จริงผมก็คาดหวังไม่ต่างกันกับเพื่อนหรอกครับ อันนี้ต้องยอมรับ เห็นก้นเดียวตอนก้มลงเก็บของแล้วก็อยากจะเห็นตอนที่ใส่กางเกงว่ายน้ำเปียกๆ แต่คนที่ "กระสัน" อยากจะมางานปาร์ตี้ริมสระจนออกนอกหน้าคือไอ้โอ๊ต ผมเลยได้ที ล้อมันเล่นซะเลย
"ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้วะ" ไอ้โอ๊ตพึมพำเหมือนคนละเมอ
สรุปแล้วปารตี้ริมสระวันนั้นเป็นปาร์ตี้ของเด็กกำพร้า เดียวกับเพื่อนลงทุนเช่าสระว่ายน้ำของศูนย์กีฬาเพื่อพาเด็กมาว่ายน้ำ วันนั้นผมกับโอ๊ตเลยต้องกลายมา "พี่แผนกแบกหาม" ไปโดยปริยาย เพราะบรรดาพี่เลี้ยงทีมงานของเดียวต่างก็รูปร่างบอบบางกันทั้งนั้น มีแต่เดียวนั่นล่ะที่ "อึ๋ม" กว่าคนอื่น
...คนอะไร ก้นสวยจริงๆ
เฮ้อ...
กิจกรรมเสร็จเอาเมื่อตอนบ่างสี่โมงเย็น เดี๋ยวพาเด็กขึ้นรถสองแถวเตรียมตัวกลับ ชวนผมกับโอ๊ตไปด้วย แต่เพื่อนของผมสงสัยกลัวว่าจะต้องไปช่วยดูแลเด็กที่สถานเลี้ยงกำพร้าเลยหาเหตุผลต่างๆ นาๆ มาอ้าง
"ถ้าเสาร์หน้าว่างก็มา park party ด้วยกันนะครับ" เดี่ยวชวนก่อนส่งสัญญาณให้รถเคลื่อนตัว
เราสองคนยืนโบกมือให้เด็กๆ จนรถสมาชิก pool party ลับสายตา ไอ้โอ๊ตถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเดินคอตกไปที่รถ โดยมีผมคอยล้อเลียน
"สงสัยจริงๆ ว่ะว่า park party นี่มันจะเป็นยังไง แล้วเสาร์ต่อไปจะเป็น nude party หรือเปล่าก็ไม่รู้ เสาร์หน้าเราไปดูกันนะเพื่อน"
"แกไปคนเดียวเถอะ โถ่ พูล ปาร์ตี้ นึกว่าจะได้เห็นก้นสวยๆ ที่ไหนได้" ไอ้โอ๊ตเบ้ปาก
"ทำหน้าเหมือนจะตาย แล้วนี่แกขับรถได้หรือเปล่า" ผมล้อไม่หยุด รู้สึกขำเพื่อนเป็นที่สุด ทั้งที่จริงผมก็คิดเหมือนไอ้โอ๊ตมันเหมือนกัน
...วันนั้นล่ะ เป็นวันแรกที่ผมเริ่มสนใจเดียว ผมตั้งเป้าหมายไว้ว่า ยังไงๆ ผมก็ต้องเห็นก้นสวยๆ ของเดียวให้ได้...
...และต้อง "ได้" ด้วย...
 

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก บทส่งท้าย (10/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 11-10-2009 11:58:09
เรื่องที่สี่ _ แนวฆาตรกรรมสื่อรัก

ธาวินโยนปากกาลงบนโต๊ะอย่างหงุดหงิดแล้วหันไปมองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ยังไม่ทันจะพูดอะไร นายตำรวจที่พาเขาเข้ามาให้ห้องชันสูตรศพก็รีบพูดขึ้นมาว่า "ผมบอกคุณแล้ว"
"ผู้กองยื้อเวลาต่ออีกได้ไหมครับ ให้เวลาผมแค่นี้ไม่พอหรอก" ธาวินถามทั้งๆ ที่มีผ้าคุมจมูกอยู่
"เราไม่มีเวลามากนัก เบื้องบนเร่งมา"
"ต้องแถลงข่าวในวันสองวันนี้ให้ได้เลยหรือไง" ธาวินกระแทกเสียง "แล้วถ้ายังงั้นตามตัวผมมาทำไมก็ไม่รู้ ให้ใครชันสูตรแล้วก็เขียนรายงานไปเลยสิว่าถูกแทงเสียชีวิต"
"ฆ่าตัวตาย" อีกฝ่ายแทรก
"ฆ่าตัวตายในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรม" ธาวินเติมคำพูดของนายตำรวจ "เพราะทนไม่ได้ที่ตัวเองกำลังดังถึงขีดสุด และได้เล่นหนังฮอลลีวู้ด บทเด่นประกบกับดาราดังระดับโลก"
"หมอครับ ฟังผมก่อน ผมคิดว่า..."
"ผู้กองนั่นล่ะต้องฟังผม" ธาวินดึงผ้าปิดจมูกลง "คุณก็รู้จักผมมาบ้าง ผมไม่ได้เรียนจบแพทย์ด้วยคะแนนสูงลิ่ว สอนวิชานิติเวชฯ นักเรียนนายร้อยตำรวจมาตั้งหลายปีเพื่อที่จะมาสรุปสาเหตุการตายของผู้หญิงที่ถูกฆาตกรรมแล้วเชื่อว่านี่คือการฆ่าตัวตาย คุณไม่คิดว่ามันอาจจะทำให้ผมรู้สึกโง่บ้างหรือครับ"
"ผมเข้าใจ แต่ผมเป็นตำรวจ ผมพูดไปตามหลักฐาน" นายตำรวจแย้ง "แผลเดียวที่หน้าท้อง แทงลึกเข้าไปจนมิดด้ามแล้วบิด ไม่มีลายมือคนอื่นบนด้ามมีด ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ ผู้ตายนอนหงายอยู่บนพื้น ห้องปิดสนิท กล้องวงจรปิดจับภาพประตูเห็นได้ชัดว่าไม่มีใครเข้าออกเลยในเวลาหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้า คุณจะให้ผมสรุปว่ายังไงล่ะ"
"มันต้องมีอะไรมากกว่านั้น" ธาวินยื่นหน้าเข้าไปใกล้นายตำรวจที่ดึงผ้าปิดจมูกออกเช่นกัน "ผมต้องการเวลามากกว่านี้ ตอนนี้ผมยังชี้ชัดไม่ได้ แต่สัญชาตญาณของคนที่คุ้นเคยกับศพมาหลายปีบอกผมว่านี่ไม่ใช่การฆ่าตัวตาย หรือแม้แต่การฆาตรกรรมแบบง่ายๆ แค่เอามีดแทง"
"ผมไม่ได้เขียนรายงานเพราะสัญชาตญาณ"
"ตำรวจใช้สัญชาติญานกันทุกคน คุณไม่ต้องมาพูดว่าคุณไม่ใช้" ธาวินเถียง "ผมต้องการผ่า และผ่าตรวจอย่างละเอียดด้วย ตับไตไส้พุงทุกอย่าง ทำเทสท์ตามวิธีการของผม"
"ต้องตรวจอะไรอีก"
"ผู้กองเผ่าพงษ์ครับ" ธาวินถอนหายใจ กำลังจะอ้าปากพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับเปลี่ยนใจแล้วเดินจากไปดื้อ ทิ้งให้นายตำรวจหนุ่มมองตามอย่างงงๆ
"คุณหมอ"
"อาจารย์ ผมไม่ใช่หมอ ผมเป็นอาจาร์ยสอนหนังสือ ถ้าให้ผมมาแล้วให้ผมทำแค่นี้ ไม่เรียกว่านี่เป็นงานของหมอหรอก" ธาวินเสียงเข้ม ถอดถุงมือโยนลงถังขยะแล้วล้างมืออย่างกระแทกกระทั้น ทำไม่สนใจนายตำรวจหนุ่มที่เดินมายืนอยู่ข้างๆ
"คดีอาจพลิกผัน ผมจะลองคุยกับสารวัตร" ผู้กองเผ่าพงษ์เสียงอ่อนลง
"เผาวันไหนบอกด้วยนะครับ ผมจะไปเคารพศพ และขอขมาคุณเอวิตราที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้ ผมไม่อยากมีตราบาปไปตลอดชีวิต ว่าตัวเองช่วยอะไรเธอไม่ได้เลย แม้แต่หลังจากที่เธอตายไปแล้ว"
นายตำรวจหนุ่มถอนหายใจ ยืนมองนายแพทย์หนุ่มที่เดินหน้าบึ้งเดินออกไปจากห้องโดยเร็ว แล้วหันไปมองร่างของดาราสาวก่อนจะล้างมือให้เสร็จแล้วเดินตามธาวินไปช้าๆ
...ใจหนึ่งเขาก็เห็นด้วยกับธาวิน แม้หลักฐานจะชัดเจน ชี้ไปยังประเด็นฆ่าตัวตาย แต่สัญชาตญาณตำรวจของเขาก็บอกว่านี่ไม่ใช่อะไรที่ดูเหมือนเป็นคดีง่ายๆ ที่จะปิดคดีได้อย่างรวดเร็ว...

......


เสียงดนตรีจังหวะหนักหน่วงแผดเสียงลั่น ธาวินยืนอยู่ในสถานบันเทิงแห่งนี้มากว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว รู้สึกหายไม่ออกและหูอื้อแทบจะทนไม่ได้ เสียงเบสของเพลงเทคโนแดนซ์ทุ้มหนักกระแทกกระทั้นจนเขารู้สึกเหมือนฟ้ากำลังจะถล่ม นายแพทย์หนุ่มหันซ้ายหันขวามองหาคนที่นัดให้เขาเข้ามาพบในที่แบบนี้ จนแล้วจนเล่าก็ไม่มีวี่แววของแหล่งข่าวคนสำคัญ
...หรือว่าเปลี่ยนใจ เกิดรักตัวกลัวตายในนาทีสุดท้ายเลยเบี้ยวเขาเสียแล้ว...
ธาวินถอนหายใจแรงๆ แล้วตัดสินใจแหวกผู้คนออกไปยังประตูทางเข้า นักเต้นชายหญิงกำลังสนุกสุดเหวี่ยง แม้จะใส่คอนแทกเลนส์แต่แสงไฟวูบวาบทำให้เขามองไม่ถนัด ธาวินรู้สึกเคืองตาจึงกะพริบตาถี่ๆ เขาหยอดน้ำตาเทียมตั้งแต่ออกจากที่ทำงานซึ่งเป็นเวลานานมากแล้ว คงเป็นเพราะใช้สายตามาก ตอนนี้เริ่มรู้สึกเจ็บตา
นายแพทย์หนุ่มโดนนักเต้นร่างใหญ่คนหนึ่งกระแทกจึงเซไปเหยียบเท้าหญิงสาวคนหนึ่ง ธาวินขอโทษแต่ผู้หญิงคนนั้นผลักเขาแรงๆ ด้วยท่าทางอารมณ์เสีย เขาไม่ทันระวังตัวจึงเซไปปะทะกับชายร่างยักษ์ใบหน้าถมึงทึง ธาวินกำลังจะอ้าปากขอโทษแต่ชายคนนั้นชกเข้าที่ท้องของเขาจนจุก
ธาวินตัวงอ ยกมือกุมท้อง รู้สึกเจ็บจนน้ำตาเล็ด แต่เพียงเสี้ยววินาทีนายแพทย์หนุ่มก็รู้สึกโกรธที่โดนทำร้ายแบบไม่มีเหตุผล ครั้นสูดลมหายใจเข้าไปได้เฮือกใหญ่ ชายหนุ่มจึงยืดตัวขึ้นแล้วตวาดชายร่างยักษ์ด้วยความโกรธ แต่ทันใดสายตาก็มองเห็นสิ่งที่อยู่ในมือของฝ่ายตรงข้าม
...นี่ไม่ใช่เรื่องไม่พอใจที่เขาเซไปปะทะ นี่มัน...
...มีด ในมือของชายคนนั้นมีมีด และกำลังจะแทงเขา...
ธาวินถอยทันที ตั้งใจจะหันหลังหนีออกไปจากตรงนั้นให้ได้ แต่ชายหน้าดุคนนั้นเสือกตัวตามมา มือยกขึ้นกำลังจะแทงเขาแต่ทันใดก็ต้องปล่อยมือให้มีดร่วงลงพื้นแล้วกุมเป้าของตัวเอง ใบหน้าเหยเกแสดงความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส ตอนนี้ธาวินถึงได้เห็นว่า มีคนเตะผ่าหมากเจ้ายักษ์ใหญ่ ตามด้วยการฟันมือเข้าที่ซอกคอ ส่งผลให้ชายคนนั้นทรุดตัวคุกเข่าลงกับพื้น
"ไป เร็ว" ผู้ที่เข้ามาช่วยเขาตะโกน ชี้นิ้วไปยังประตูทางออก ส่งสัญญาณให้เขาหนี
ธาวินไม่รีรอ หันหลัง มุ่งตรงไปยังประตูของดิสโก้เธคทันที สองมือทั้งผลักทั้งดันที่ขวางทางอยู่อย่างไม่เกรงใจ สิ่งเดียวที่คิดได้ตอนนี้คือต้องออกไปจากสถานที่แห่งนี้ให้ได้
"ตามผมมา" ทันทีที่พ้นออกมาจากประตู ธาวินก็โดนมือแข็งแรงคว้าหมับที่ข้อมือแล้วลากไปทางด้านข้าง
"เดี๋ยวสิ คุณเป็นใคร" ธาวินร้อง
"ถ้าไม่อยากตาย ตามมาเถอะ" ชายร่างสูงคนนั้นพูดแล้วออกแรงดึง
"ผมมีรถ" ธาวินแย้ง
"ผมก็มี ตามมา" คนที่เข้ามาช่วยธาวินไม่ยอมหยุด ก้าวขายาวๆ จนธาวินต้องวิ่งตามเหยาะๆ
...อะไรกันนี่ เกิดอะไรขึ้น หรือมีใครรู้ว่าเขานัดพบกับปราโมทย์ การนัดพบครั้งนี้เป็นความลับ และเขาก็เชื่อว่าปราโมทย์ก็คงไม่แพร่งพรายให้ใครรู้...
"ผมจะไปเอารถ"
"จะขังตัวเองไว้ในรถหรือไงคุณ คิดหรือว่าจะปลอดภัย" เสียงคนที่ลากเขาพูดโดยที่ไม่หันหน้ากลับมา "ขึ้นรถได้คุณก็ออกไม่ได้ ลานจอดข้างหน้าทั้งจอดเบียดกันขวางกันขนาดนั้น"
...จริงสิ ทำไมเขาลืมนึกถึงข้อนี้ไปนะ...
...แต่ผู้ชายคนนี้ไว้ใจได้แค่ไหน ใครก็ไม่รู้ แล้วรู้ได้ยังไงว่าไอ้ยักษ์คนนั้นจะทำร้ายเรา นี่มันเกิดอะไรขึ้น...

หลังดิสโก้เธคเป็นตรอกเล็กๆ ค่อนข้างมืด รถโฟร์วีลด์สีดำสนิทจอดอยู่ใกล้กันกับรถสปอร์ตบีเอ็มดับบลิวสีบรอนซ์ราวกับเป็นที่จอดรถพิเศษของเจ้าของรถ
ชายร่างสูงนำธาวินไปที่รถโฟร์วีลด์คันใหญ่ มือแข็งแรงยังจับข้อมือเขาไม่ปล่อย นายแพทย์หนุ่มเริ่มรู้สึกแปลกๆ จึงขืนตัวไว้แล้วถามว่า "เดี๋ยวก่อนสิ บอกผมมาก่อนว่ามันเรื่องอะไร และคุณเป็นใคร"
"ผมช่วยคุณไม่ให้โดนแทง"
"ช่วยยังไง ช่วยตอนไหน" ธาวินถาม
"ผมเตะผ่าหมากไอ้ยักษ์ คุณไม่เห็นหรือ ยังรู้สึกอายอยู่เลยนะที่ล้มช้างด้วยวิธีนั้น" คนตอบหันหน้ามาพูดยิ้มๆ ก่อนจะเปิดประตูรถแล้วดันให้ธาวินก้าวขึ้นไป
...ผู้ชายคนนี้หน้าตาดีมาก ดวงตาคมกริบ คิ้วเข้ม จมูกโด่งเป็นสันตรง ปากได้รูป มีรอยแผลเป็นอยู่ที่คางด้านซ้าย ท่าทางเหมือนตำรวจ...
"เชิญครับ ผมรับรองความปลอดภัย"
...แต่เขาสิไม่รู้สึกว่าปลอดภัย รถสองคันนี้จอดอยู่ด้านหลัง หันหน้าออกถนนราวกับพร้อมที่จะขับออกไปได้ทุกเมื่อ และกลางเมืองที่พื้นที่จำกัดเช่นนี้ คนที่จะจอดรถหลังสถานบันเทิงหรูหราเช่นนี้ได้ก็ต้องไม่ธรรมดา...
"เพื่อนผมเป็นเจ้าของเธค บีเอ็มของเขา ฟอร์ดของผม ทีนี้คงตอบคำถามคุณได้แล้วสิ" ชายหนุ่มที่ช่วยเหลือธาวินพูดแล้วยื่นกุญแจให้ "และนี่ คุณก็จะได้มั่นใจว่าผมไม่เอาคุณไปฆ่าที่ไหน"
"แล้วรถ..." ธาวินถาม เพิ่งสังเกตว่าที่ตัวเองถูกดันให้ขึ้นรถนั้นคือที่นั่งด้านคนขับ
"จอดไว้หน้าบ้านคุณนั่นล่ะ พรุ่งนี้ผมไปเอาเอง"
พูดเสร็จ ชายหนุ่มรูปหล่อคนนั้นก็เดินจากไป แต่พอก้าวท้าวไปได้สามสี่ก้าวก็หันมาสั่งเขาสั้นๆ ว่า "เร็วสิครับ"
ธาวินปิดประตูรถ สตาร์ทเครื่องยนต์แล้วเคลื่อนรถออกไปทันที ตาเหลือบมองกระจกมองหลังก็เห็นว่าชายหนุ่มคนนั้นยังยืนมองเข้าอยู่
...เขารู้ว่าบ้านเราอยู่ที่ไหน นี่มันเรื่องอะไรกัน หรือจะเป็นเรื่องการเสียชีวิตของเอวิตรา...
...แต่เขายังไม่ได้ทำอะไรเลย แค่ไปชันสูตรศพของดาราสาวเท่านั้น แล้วก็วางมือไปแล้ว อย่างน้อยก็เป็นที่รู้กันว่าเขาแค่ไปตรวจดูเฉยๆ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญทางนิติเวชที่ได้รับการขอให้ไปช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ ไม่ได้ทำอะไรต่อ ส่วนเรื่องจะช่วยพลตำรวจตรีเกรียงไกรอย่างลับๆ นั้นก็รู้กันอยู่แค่สองคน...
...ไม่สิ มีคนที่รู้อีกคนก็คือร้อยตำรวจเอกชื่อแปลกๆ ที่ได้รับมอบหมายให้ทำงานกับเขา และผู้บังคัญบัญชาของตำรวจคนนั้นก็น่าจะรู้ด้วย...
...หรือว่าชายหนุ่มคนเมื่อกี้คือนายตำรวจคนนั้น แต่แล้วทำไมไม่แนะนำตัว ไม่บอกว่าเป็นใคร แล้วรู้ได้ยังไงว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา และที่สำคัญ รู้จักบ้านของเขาด้วย...

"คุณไม่ได้จอดรถไว้ที่บ้าน" เสียงปลายสายดังขึ้นเมื่อธาวินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย
"คุณเป็นใคร รู้จักบ้านและเบอร์โทรที่ทำงานของผมได้ยังไง" ธาวินถามเสียงห้วน
"ผมเป็นคนช่วยคุณไงครับ" เสียงชายหนุ่มหน้าหล่อคนนั้นหัวเราะเบาๆ
"รถก็จอดอยู่ที่ลานจอดรถหน้าคอนโด ไม่เห็นหรือครับ" ธาวินจงใจเล่นเกม คืนที่ผ่านมาเขาจอดรถไว้ที่หน้าบ้านของรวี "คู่กัด" คนสำคัญของเขาที่เกรียงไกรชอบล้ออยู่เสมอ หลังจากนั้น เขานั่งแท็กซี่ไปยังบ้านพักของนิรันดร แฟนเก่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัย และขอนอนค้างคืนด้วย
...นิรันดรทำท่าเหมือนโดนผีหลอก...
"งั้นหรือ" อีกฝ่ายทำเสียงเหมือนเข้าใจ "เอาล่ะ ถ้าคุณปลอดภัยก็ดีแล้ว งั้นแค่นี้นะครับ อ้อ จะขอบคุณกันบ้างก็ไม่ว่านะครับคุณหมอ"
...ขอบคุณหรือ จะเอาเรื่องสิไม่ว่า...
ธาวินกำโทรศัพท์แน่น รู้สึกฉุกกึกขึ้นมาทันที ตอนนี้เขารู้สึกเป็นฝ่ายเสียเปรียบที่ไม่รู้เรื่องอะไรซักอย่าง แต่ชายหนุ่มคนนั้นดูเหมือนจะรู้อะไรดีไปหมด
...เกิดอะไรขึ้น...





หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 11-10-2009 12:21:54
คุณนาย หนังสือเรื่องคดีรัก ยังมีขายอยู่รึเปล่าคะ มีขายที่ไหนบ้าง อยากเป็นเจ้าของบ้าง
หรือพอจะมีผู้รู้ที่แนะนำได้บ้างว่าจะหาซื้อได้จากที่ไหน ชื่อเต็ม ๆ ว่าอะไร จะได้หาซื้อถูก
และหนังสือของคุณนายมีพิมพ์ออกมากี่เล่มแล้ว มีเรื่องอะไรบ้าง หาซื้อได้ที่ไหนบ้าง
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: gboy ที่ 11-10-2009 12:22:35
 :serius2:
พี่นายจบอย่างงี้อีกละ ต้องจิ้นต่อเนี่ย

แต่ว่าเรื่องต่อไปขอทุกเรื่องได้ไหมอะ

 :impress2:

ไม่ได้โลภนะแค่ชอบไปหมดแค่นั้นเอง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: crazy Y ที่ 11-10-2009 12:27:03
จบแบบมีความสุขมากค่ะ


แอบขำกับบทส่งท้าย   


อิศรานี่แอบร้ายนะ

โอ้ยไม่อยากจะคิดว่า  ถ้า  ภีร์ เจอ เหยื่อรายใหม่ พร้อม ผุ้พันวรุฒ์ ตอนไปเจนีวา (ที่บอกว่าพี่ชายจะพาแฟนไปนั่นแหล่ะ) 

งานนี้ มีหวังลงโทษคุมประพฤติ ภีร์ อย่างหนักแน่เลย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: teenza ที่ 11-10-2009 13:39:10
จบแบบชัดเจนดี แต่ดันมีตัวละครโผล่เพิ่มมาอีกตัว
หรือจะมีภาคสอง
ตัวอย่างนิยายที่คุณนายเอามาให้อ่านเรียกนำย่อยน่าอ่านทุกเรื่องเลย :oni2:
ขอบคุณคับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: morrian ที่ 11-10-2009 13:53:24
ตอนจบก็ชัดเจนดีนะคับ

แต่ว่าบทส่งท้ายเนี่ย^^

ภีร์ของเราจะเป็นไงต่อไปละเนี่ย

หุหุ  :z1:

รออ่านเรื่องต่อๆไปคับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 11-10-2009 13:54:16
เรื่องที่เกริ่นไว้ น่าติดตามทุกเรื่องเลยอะครับ  o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: aimaim ที่ 11-10-2009 14:14:52
น่าอ่านทุกเรื่องเลย แต่พี่ท่านทำให้ค้างอีกแล้วอ่ะ ตอนจบน่ะไม่ค้าง แต่มาค้างบทส่งท้ายอ่ะ  -  - เอาให้จบหมดๆ จิ แบบนี้ต้องลงโทษ จิ้มๆๆๆๆ :z13: :z13: :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Resonance ที่ 11-10-2009 14:55:00
โปรแกรมหน้า น่าสนใจมากๆ !! รีบจองตั๋วด่วนเลย  555
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 11-10-2009 15:45:28
จะรอเรื่องต่อไปคะ ชอบเรื่องธาวิน แนวฆาตรกรรมๆแบบนี้
คุณหมอจะโดนลุกหลงได้ยังไงหรอก   :impress2:

จะรอนะคะคุณนายยยยยยยย สู้ๆนะคะ  :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: emmybblood ที่ 11-10-2009 16:14:46
เชียร์ให้ต่อเรื่องอาวุธกะอาทิตย์(?)ให้จบค่ะ  ไหนๆ ก็มีลงมาให้อ่านบ้างแล้ว  :call:    อยากเห็นจุดจบของคนเจ้าชู้อีกคนที่เหลือ

ไม่งั้นมันคันหัวจาย    :serius2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 11-10-2009 16:28:58
vote  อาทิตย์ ธงรบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: aimaim ที่ 11-10-2009 18:36:43
เอาล่ะตัดสิใจได้แล้ว อยากได้เรื่องของธงรบกะอาตี๋อาทิตย์ก่อนอ่ะ หุหุ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Mimimimi ที่ 11-10-2009 21:20:02
โหวตเรื่องสุดท้ายค่ะ  ชอบเรื่องสืบสวนๆ  พระเอกท่าทางน่ารักด้วย  :mc4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: iGiG ที่ 11-10-2009 21:22:06
ชอบเรื่องนี้มากมายค่า

แต่ละวันตั้งตารออ่านเรื่องนี้เลย เป็นสิ่งปลอบใจเวลาสอบ เอิ๊กๆ

เสียดายจังจบเร็วไปหน่อย อยากอ่านต่อ คุณ KATAWOOT อย่าลืมภาคพิเศษน้า บทส่งท้ายแอบค้าง จริงๆคนที่ไม่รู้น่าจะเป็นอิศรานะคะเนี่ย ซ่าส์นัก 555

รอเป็นกำลังใจให้สำหรับเรื่องใหม่นะคะ โดยเฉพาะเรื่องของธงรบกับอาทิตย์  ><

ปล. ต้องขออภัยที่ไม่ค่อยได้เม้นท์ แต่ก็กด + ตลอดน้า =^^=
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 11-10-2009 21:23:50
น่าอ่านทุกเรื่องเลยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 12-10-2009 09:23:30
ขอบคุณสำหรับตอนจบค่ะ ที่ชัดเจน.... :laugh:
แบบว่าแก่แล้วขี้เกียจคิดมาก จิ้นมาก ว่าจะเป็นไง บอกกันมาเลยดีกว่า
ส่วนเรื่องใหม่ จัดมาเลยอย่าได้เสีย  รออ่านทุกเรื่องค่ะ o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 12-10-2009 10:16:06
ตัดสินใจไม่ได้อยากอ่านทุกเรื่อง ทำไงดี
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 12-10-2009 14:14:55
ชอบสืบสวนสอบสวน
รองลงมาก็เรื่อง ต้น เดี่ยว ค้าบบบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 12-10-2009 15:01:31
จบได้ไม่ค้างคาเลยสนุกดีครับ แต่มีเรื่องให้ลุ้นนิดหนึ่ง ส่วนเรื่องที่มาลงเป็นตัวอย่างก็อยากอ่านเรื่องของธงรบกับอาทิตย์ครับ ส่วนเรื่องอื่นก็แล้วแต่แล้วกันครับ  ขอให้เรื่องเรียนเรียบร้อยแล้วกันนะครับจะได้ปลอดโปร่งซะที ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 12-10-2009 15:21:18
วุ้ย! ดีใจจัง

มีนิยายอีกตั้ง สี่เรื่องที่ต้องรออ่าน อิอิ

ขอบคุณคะ

ชอบตอนจบแบบ B มากกว่า ดูเป็นนิยายดี  แบบแรกทื่อไป ไม่ไหวๆ

แต่ก็แอบสะใจลึกๆ  ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: McDeliVery ที่ 12-10-2009 16:57:33
เห็นด้วยกับคอมเมนท์ข้างบนอย่างเเรงครับ

555+  :m20: :laugh:


เเอบอ่านมาบ้างเล็กน้อย มาเร่ง ๆ อ่านตอนมีเวลา

ยังไงผมก้โหวตให้กับผู้กองธงรบกับตี๋น้อยเบนซ์ดำ  :laugh:

ถ้าให้ดี พ่วงสารวัตอาวุธกับน้องชายสารวัตรอธิคมด้วยนะครับ  ผมยังไม่ลืม  o18



ป.ล. เหมือนจะเป็น ภาค 3 เลยเนาะ อิอิ  งั้นขอคุณตฤณกะอัสนัยเเถมด้วยละกันนะครับ พี่นาย  :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: จริงใจ ที่ 12-10-2009 21:24:35
อ่านจบแล้ว สนุกสนานเหมือนเดิมเลย คุณนาย  ไม่ทำให้คนอ่านผิดหวัง

แต่เรื่องต่อไป ขอ ธงรบ+อาทิตย์  ก่อนเน้อ  รอมาเนิ่นนานเต็มทีแว้ว :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: aimaim ที่ 12-10-2009 21:28:18
อยากรู้ว่า จะเอาเรื่องใหม่มาลงเมื่อไรอ่ะ หุหุ อยากอ่านนิยายของพี่นายอ่ะ ^^ :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 13-10-2009 23:52:58
ตามมาจิ้มบวก อุอุ 

อยากอ่านตอนพิเศษอิศราจัง (ตาใส)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 14-10-2009 12:50:29
อยากให้พี่นาย เป็น พีวีซี เอ้ย ภีรวัสจัง

อยากให้พี่นาย โอ ดอ นอ กด 555

ปล. บวกไปเรื่อย ๆ อีก แต้มพอ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ┠┨ ¡ Þ Þ ☻ ❣ ╰╰ ที่ 14-10-2009 19:54:12
อ๊ายยยยย...เรื่อง  นี้  เพิ่งอ่านดั้ย  3  ตอนเอง.....


แต่ดั้ยข่าวว่า  จะมีต่อ  อีก  หลายเรื่อง......(  แอบดูมา  )


กิกิ.....ต้องรีบปัยอ่านต่อล่ะน่ะเจ้าค่ะ.....สู้ๆ...สู้เมื่อแม่....


ขอฝากเนื้อ  ฝากตัส  เป็น  แฟน  คลับ  พี่  นาย  ด้วยคนน่ะเจ้าค่ะ....
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pug5 ที่ 15-10-2009 00:12:38
หนุกดี :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 15-10-2009 08:21:04
อยากให้พี่นาย เป็น พีวีซี เอ้ย ภีรวัสจัง
อยากให้พี่นาย โอ ดอ นอ กด 555 ปล. บวกไปเรื่อย ๆ อีก แต้มพอ
สาธุ ขอให้สมพรปาก (แต่ท่าทางจะยากส์)  :เฮ้อ: แต่ก็ไม่หมดกำลังใจครับ
อ๊ายยยยย...เรื่อง  นี้  เพิ่งอ่านดั้ย  3  ตอนเอง..... แต่ดั้ยข่าวว่า  จะมีต่อ  อีก  หลายเรื่อง......(  แอบดูมา  )
กิกิ.....ต้องรีบปัยอ่านต่อล่ะน่ะเจ้าค่ะ.....สู้ๆ...สู้เมื่อแม่....
ขอฝากเนื้อ  ฝากตัส  เป็น  แฟน  คลับ  พี่  นาย  ด้วยคนน่ะเจ้าค่ะ....

ยินดีต้อนรับครับ ขอบคุณครับสำหรับกำลังใจ สู้เพื่อแม่อยู่แล้วครับ (และสู้เพื่อเมีย)  :pigha2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 15-10-2009 12:36:22
มาจิ้ม  :z13: พี่นาย

มารอตอนพิเศษ พิเศษ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 15-10-2009 17:51:34
ก๊ากกกกกกกก!!!
ตอนจบเล่นของใกล้ตัวไปแล้วววววว 5555
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 15-10-2009 23:42:26
เรื่องอะไรก็ได้เฮีย ที่จบเเบบ happy & clear  :call:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 16-10-2009 11:25:07
เรื่องอะไรก็ได้เฮีย ที่จบเเบบ happy & clear  :call:

ก็แฮปและปี้ และเคลียร์ทุกเรื่องนะแหล่ะ  :z1:

ขอบคุณครับ (อย่าลืมคิดถึงคนเขียนวันละนิด จิตแจ่มใสนะครับ)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: McDeliVery ที่ 17-10-2009 01:52:25
เห็นเสธ.ต๊อดเเล้วคิดถึงเรื่องนี้เลยครับ

[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 18-10-2009 00:13:52
เรื่องอะไรก็ได้เฮีย ที่จบเเบบ happy & clear  :call:

ก็แฮปและปี้ และเคลียร์ทุกเรื่องนะแหล่ะ  :z1:

ขอบคุณครับ (อย่าลืมคิดถึงคนเขียนวันละนิด จิตแจ่มใสนะครับ)

555 คนเขียนเเอบหื่น

อ่ะ...งั้นขอเรื่อง 4 เลยนะเฮีย แนวฆาตรกรรมอ่ะ ช้อบชอบ   o18

เอาให้เร็ว อย่าอู้ๆ  :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pimkihae ที่ 10-01-2010 11:24:18
เมื่อวานนั่งอ่านรวดเดียว ถึงตี 3
สนุกมากกกกค่ะ เมื่อคืนเม้นไม่ไหว
มาเม้นต่อวันนี้ค่ะ
ผู้พันฉลาดจริงๆ ตามเกมส์ได้ทัน
แถมภีร์ยังถูกเอาคืนอีก แต่ก้อเอาคืนเพราะรักอ่ะเนอะ
ไม่งั้นเดี๋ยวภีร์จะไม่เข็ด
ชอบคู่อิศราด้วยอ่ะ แก่นเซี้ยวจริงๆแม่คนนี้
บทส่งท้ายแอบค้างนิดดหนึ่ง (จริงๆก้อไม่ค่อยค้างหรอกค่ะ)
ที่ค้างเพราะว่าถ้าเกิดผู้พันรู้มาว่า
นายเอกทั้ง2แอบมาเที่ยวและใช้แผนเดิมอีก
จะโดนทำโทษอย่างไง หึหึ

ขอบคุณไรเตอร์มากๆๆนะค่ะ :กอด1:
ที่แต่งเรื่องดีดี น่ารักๆ ให้อ่าน
เป็นกำลังใจให้สำหรับเรื่องต่อๆไปค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: N19T ที่ 13-01-2010 12:46:22
อ่านเรื่องนี้จบไปเมื่อวานซีน แต่ยังไม่ได้ comment ให้กำลังใจผู้แต่งเลย
วันนี้พอมีเวลา เลยถือโอกาสกลับมาถ่ายทอดความรู้สึกจากผู้อ่านคนนึงนะค่ะ

เรื่องนี้ดำเนินเรื่องได้ดีนะค่ะ theme ของเรื่องแปลกดีด้วย ( การเล่นเกมส์กันแบบนี้ก็มีด้วยแฮะ )
อ่านแล้ว ชอบตัวละครที่ชื่อ ภีร์ มากที่สุดค่ะ ดูน่าค้นหา และ เข้มแข็ง เด็ดเดี่ยวมาก แต่ก็แฝงไว้ด้วยความอ่อนโยน
ที่สำคัญเป็นคนฉลาด และ อดทนเพื่อจะให้ได้มาซึ่งความแน่ใจในบางสิ่งบางอย่าง เหมาะกับผู้พันมากๆ พอฟัดพอเหวี่ยงกัน 555+
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 13-01-2010 15:04:54
ฮ่าๆ ในที่สุดก็อ่านจนจบ

ดีแล้วครับที่ต้องมีคนคอยคุมพฤติกรรม
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Saint De Jupiter ที่ 16-02-2010 02:35:59
บอกได้คำเดียวว่า o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: duchess ที่ 15-03-2010 02:59:16
ไม่มีตอนพิเศษต่อหรอครับ ?  o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 15-03-2010 21:11:20
อ่านจนตาแฉะ หนุกมาก ๆ เลย

เดี๋ยวนี้ทำไมข้าน้อยหันมาชอบเนื้อเรื่องแนวนี้หว่า งงตัวเอง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Phelyra ที่ 15-05-2010 22:12:20
ขอบคุณนะค่ะ :3123:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mayuree ที่ 17-05-2010 00:06:33
แหม..คูแรกก็ออกแนวฮาดี แต่คู่หลังก็จริงจังรู้ทันกันไปหมด
ดีคู่แสบสมควรโดนปราบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 18-05-2010 02:45:30
 :laugh5:รักวุ่นวาย ของสองหนุ่ม ภีร์ก็ปากแข็งฉลาดเป็นกรด อิศราก็เวิ่นเว้อฮาดีแบบโก๊ะๆ มาเจอทหารหนุ่มปราบสะอยู่หมัดเลย ตอนอ่านไปแอบร้องไห้ที่พลตายด้วย เพราะก่อนตายได้โทรมาหาภีร์บอกว่าจะรักภีร์ไปจนตาย เฮ้ออได้ตายเลย แต่ก็เล่นเอาภีร์เสียศูนย์เลย
พีเอสซึ. :m21:แอบเห็นด้วยกับหลาย ๆ คน ว่าวรุฒดูมั่นใจตัวเองเกินไป ไม่พยายามง้อเท่าไหร่ คิดว่าจะดัดนิสัยภีร์มากไป ภีร์ไม่น่ายอมง่าย ๆ เลยชริ ขอบคุึณสำหรับผลงานดี ๆ อีกเรื่องค่ะคุณนาย (+1 ให้คุณนายค่ะ อ่านผลงานมาเกือบครบล่ะ เพิ่งมีโอกาสได้กดได้ กดให้ทีนึงเลย เอ้า)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Laxxeez ที่ 22-05-2010 14:16:20
แสบด้วยกันทั้งคู่ แต่ก็สนุกมากเลยนะคับ :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pure_ka ที่ 09-06-2010 21:17:51
 o13 o13

สนุกมากๆเลยค่ะ  นับถือจริงๆ แต่งกี่เรื่อง ก็สนุกมาก
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Annetemis ที่ 22-06-2010 01:21:59
สนุกทุกเรื่องจริง ๆ ขอบคุณนะค่ะ :3123:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: va_yu ที่ 22-06-2010 20:08:05
ทำไมเราพลาดเรื่องนี้หว่า...
สนุกมากค่ะ อ่านรวดเเดียวจบ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: silw ที่ 22-07-2010 05:41:27
มาลงชื่อเป็นคนอ่านค่าาา ตามอ่านรวดเดียวจบ กินเวลาเกือบสี่ชม

สนุกมาก ทั้งหัวเราะ ทั้งเศร้า ทั้งมึนเคล้ากันไป ยังไงก็ขอบคุณสำหรับเรื่องราวสนุกๆ และจะติดตามผลงานต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก THE END & Coming Attractions (11/10/09)
เริ่มหัวข้อโดย: วิหคท่องนภา ที่ 07-08-2010 19:59:44
 :laugh:ฮ่าๆๆ  เดี๋ยวจะเจอ แสนยานุภาพ ของคุณพี่ชายเข้าให้



เรื่องของธงรบ นกว่ารอให้อาวุธมีเจ้าของแล้ว ธงรบก็ยังไม่ได้คืนดีกับตี๋เล็ก 555 มีเรื่องมาแทรกตลอดอ่ะ
หัวข้อ: Re: เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 01-12-2010 12:47:00
สนุกมากค่า  อิอิ
หัวข้อ: Re: เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 20-12-2010 18:30:03
สนุกมากเลยค่า เคยเห็นเรื่องนี้ผ่านๆ ผ่านไปผ่านมาไม่ได้อ่านซะที วันนี้ได้โอกาส...มัน์มากเค่อะ
หัวข้อ: Re: เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก
เริ่มหัวข้อโดย: aummiiz-junniiz ที่ 23-12-2010 21:59:04
สนุกมากเลยค่ะ จะตามอ่านเรื่องของพี่นายทุกเรื่องเลย ><

เรื่องนี้แอบไม่เคลียร์น้า ก้อนอิฐวางแผนไรอีก ตัดจบดื้อดื้อเลย  ค้างคา  ไม่มีตอนพิเศษหน่อยหรอคะ
แอบลุ้นมาก ถ้าพี่ตัดจบแบบ A คงเศร้ามากมาย ถูกแล้วค่ะ ชีวิตเราต้องมีความสุขบ้าง 55

เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ ขอบคุณที่เขียนผลงานดีดีให้ได้อ่านค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ♥Täsinä→l3€LL♥ ที่ 26-12-2010 12:35:34
 :z1:
สนุกมากเลยค่ะ
 :z1:
หัวข้อ: Re: เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก
เริ่มหัวข้อโดย: DeJavu~ ★ ที่ 02-04-2011 21:22:15
จบแบบค้างๆๆๆปะเนี่ย

ชอบทำให้คนอ่านลุ้นจนฉี่เหนียวยัีนหยดสุดท้ายทุกทีเลย 555

อ่านตั้งแต่ตอนแรกยันตอบจบ ก้อยังไม่ก้อชอบวรุต อยู่อ่า

เพราะว่า วรุต ฉลาดเกินไป555

แต่ว่าภึร์ทำไมใจอ่อนง่ายจัง น่าจะเอาให้อีตาวรุต  ให้หนักๆๆกว่านี้

คู่ วิษณุ กับ อิส เนี่ย ก้อดู น่ารักใสๆๆเนี่ย แบบ ฮาฮาดีนะ (ปั้นใจแอบชอบคู่นี้มากๆๆ)

ส่วนคู่ วรุต กับ  ภีร์เนี่ย จริงจรัง แอบ ซิเรียส ปะ ก้อทั้งคู่ฉลาดกัน เป็นกรด อีกคนก้อเป็นนักวิฉัย ส่วนอีกคนเป็นถึงผู้พัน แหมม มันสมน้ำสมเนื้อจริงๆๆ เลยนะเนี่ย

ถ้าภีร์ท้องได้นะ ลูกออกมาต้องดกแน่ๆๆ

ขอบคุนมากๆๆๆครับ



หัวข้อ: Re: เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก
เริ่มหัวข้อโดย: pure_ka ที่ 02-07-2011 18:27:14
สนุกมากเลยค่ะ  ติดตามอ่านทุกเรื่องเลย  แล้วเรื่องนี้่ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ^^
หัวข้อ: Re: เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก
เริ่มหัวข้อโดย: J_Dargon ที่ 16-10-2011 00:47:14
สนุกมากค่ะ
หัวข้อ: Re: เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 07-03-2012 20:39:23
เรื่องนี้ใช้เวลาอ่านแปปเดียวแค่สองวัน ^ ^" ดำเนินเรื่องน่ารักดีนะครับ แอบชอบคุณอิศราอ่ะ ดูแก่น ๆ น่ารักดี >,<"
เรื่องนี้ชวนให้เครียดเป็นบางครั้ง แต่ชอบตอนที่ผู้พันกับพีเจงอลกันอ่ะครับ น่ารักดี อยากให้มีคนมาง้อมั่ง 5555
ขอบคุณสำหรับเนื่องราวดี ๆ ที่นำมาแบ่งปันกันนะครับ :))
หัวข้อ: Re: เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก
เริ่มหัวข้อโดย: timtam ที่ 04-06-2012 21:50:23
ยังอ่านไม่จบ แต่จะค่อยๆอ่านไปน่ะค่ะ  สนุกมากเลย ชอบการดำเนินเรื่องและตัวละครมากเลยค่ะ ><

คุณคนแต่งเก่งมากเลย เดี๋ยวจะมาทยอยอ่านน่ะค่ะ

ขอบคุณมากค่ะที่แต่งนิยายสนุกๆมาให้อ่าน  :pig4:
หัวข้อ: Re: เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 23-12-2012 01:07:10
เพิ่งหาเรื่องนี้เจอ
มันส์ และลุ้นทุกตอนค่ะ
ขำกร๊ากกกอิศราอยู่หลายประโยค
มีคนแบบนี้จริงๆ สงสัยต้องฮากันทุกวัน
แต่ถ้าเราเป็นคนที่พวกเขาแข่งกันจีบ เราคงเศร้าเนอะ
สงสาร พล
หัวข้อ: Re: เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 22-05-2014 19:52:51
 o13
หัวข้อ: Re: เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก
เริ่มหัวข้อโดย: owo.balloon ที่ 22-05-2014 21:01:37
 :o8: อ่านแล้วแอบเขินอ่ะ
หัวข้อ: Re: เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก
เริ่มหัวข้อโดย: penda ที่ 03-06-2014 12:42:25
สนุกมากเลยค่ะพี่นาย แต่ก็แอบหน่วงจิต อึดอัดจริงๆให้ตายเหอะ ลุ้นสุดๆว่าตอนต่อไปจะเป็นไง
น้องก็ตะบี้ตะบันอ่านมันรวดเดียวเลย แต่แอบรู้สึกวรุฒ(สะกดไงจำไม่ได้ ขอโทษค่ะ)บทน้อยกว่าวิษณุนะคะ ฮ้าๆ
ทั้งๆที่ดูตามบทนำวรุฒเด่นกว่าเห็นๆ พระเอกโดนแย่งซีนอ่ะ ฮ้าๆ
แล้วก็เห็นด้วยกับความเห็นบางเม้นว่า บทส่งท้าย คนที่ไม่รู้น่าจะเป็นอิศ เพราะนางช่างแสบจนอยากให้โดนคุมความประพฤติให้หนักเลย
 แล้วอีกอย่างคนชวนเล่น ก็เป็นอิศ(อีกแล้ว)ด้วย หึหึหึหึ

ขอโหวตให้พี่นายแต่งเรื่อง"ฆาตกรรมสื่อรัก" ก่อนนะคะ อยากอ่านมากแนวสืบสวน
อ่านตัวอย่างแล้วสนุกมากเลยค่ะ แต่ขอจบhappy end & clear นะคะ please~
(หรือพี่นายแต่งลงบอร์ดไปแล้วแต่น้องไม่รู้หว่า พี่นายแปะลิ้งค์นิยายเรื่องอื่นไว้บ้างซิ่คะ แปะไว้หน้าแรก รีฯแรกไปเลยค่ะ )

ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆมาให้ชาเล้าอ่านกันนะคะ สู้ๆทั้งเรื่องงาน นิยายแล้วก็หัวใจนะคะพี่
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 12-11-2015 20:55:58
ขอบคุณค่ะ
ที่จริงอยากให้จบแบบ A ที่คนเขียนตั้งใจไว้แต่แรกมากกว่า
เราไม่ค่อยถูกจริตกับคนแบบภีร์กับอิศราเท่าไร
แต่พอมาเป็นนิยายมันเลยดูซอฟท์ลง พอมองให้มันผ่านๆข้ามๆไปได้
ส่วนเรื่องการเขียน คนเขียนเก่งค่ะ อ่านลื่นไหลดี ^^

หัวข้อ: Re: เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก
เริ่มหัวข้อโดย: armchair2535 ที่ 13-11-2015 02:14:11
ไม่ชอบอิฐ  วรุฒ  คือถ้านี่เป็นนายเอก  จะเทให้หมดทุกคนเลย
หัวข้อ: Re: เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 13-11-2015 23:01:52
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก
เริ่มหัวข้อโดย: GMT101 ที่ 25-06-2017 11:27:54
 :mew1: