บทที่ 12 ครับ
ขอโพสแค่นี้ก่อนนะครับ ตอนนี้ต้องขอลาไปทำวิดยานิพนให้เสร็จครับเพราะกำลังเข้าขั้นวิกฤติ อาการหนักมาก ต้องรือทำใหม่หมด เหมือนต้องกลับมาเริ่มจากศูนย์ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านนะครับ บทที่เหลือๆ อีกสองโหลจะเข้ามาโพสให้อ่านต่อจนจบครับ (ถ้าได้พิมพ์จนจบ ตอนนี้เขียนจบแล้วด้วยลายมือสวยๆ แต่พิมพ์ไม่ค่อยไหวครับ)
ขอบคุณครับ
Heart Game Chapter 12
วันนี้ภีรวัสกับอิศราเดินทางเข้ามายังตัวอำเภอเพื่อซื้อของ ขณะที่นั่งดื่มกาแฟ ภีรวัสบอกกับเพื่อนว่าจะไปห้องน้ำ แต่ความจริงตั้งใจจะไปโทรศัพท์ถึงพันโทวรุฒม์เพราะฝ่ายนั้นโทรศัพท์มาหาแต่เขาไม่กล้ารับต่อหน้าเพื่อน มือของภีรวัสที่กำลังจะกดโทรศัพท์กลับวรุฒม์ชะงัก มองอิศราอย่างครุ่นคิดเมื่อเห็นเพื่อนแสดงอาการแปลกออกไป ปกติอิศราไม่เคยนั่งนิ่ง แต่ตอนนี้เพื่อนของเขานั่งเหม่อลอย ราวกำลังหนักใจอะไรบางอย่าง ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น โทรศัพท์ของภีรวัสก็สายเรียกเข้าอีกครั้ง ชายหนุ่มสะดุ้งเพราะเปิดระบบสั่นขอเครื่องเอาไว้แทนการเปิดเสียง
"พล" ภีรวัสพึมพำ "โทรมาทำไมอีก"
"พล มีอะไรหรือครับ" ภีรวัสตัดสินใจรับสาย เพราะหากไม่ทำเช่นนั้น พลคงโทรไม่หยุด
"คุณรับสายผมแบบนี้หรือภีร์" เสียงพันตรีพลน้อยใจ
"งั้นก็วางสายแล้วลองโทรมาใหม่สิครับ คราวนี้ผมจะรับโทรศัพท์แบบที่คุณอยากจะได้ยิน" ภีรวัสเสียงเย็น ตายังจ้องมองอิศราที่นั่งเบื่ออยู่คนเดียวและยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มช้าๆ
"ผมขอโทษ" พลเสียงอ่อนลง "ผมเพียงแต่คิดถึงคุณมาก"
"ช่างเถอะครับ ผมก็ขอโทษเหมือนกัน ตอนนี้รู้สึกกำลังหงุดหงิด" ภีรวัสเสียงอ่อนลงเช่นกัน "แล้วนี่โทรศัพท์ได้หรือครับ ไหนว่าเข้าป่า ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์"
"พอดีมีโอกาสแวะมาที่ฐานวิทยุครับ เลยได้แอบใช้โทรศัพท์" พลหัวเราะ "รู้สึกเหมือนเป็นเด็กเลยพอมาถึงฐาน แต่ละคนก็รีบควักโทรศัพท์ออกมากด วรุฒม์ก็เหมือนกัน รีบเปิดเป้ควานหาโทรศัพท์ได้ก่อนเพื่อน แต่คงผิดหวังเพราะเห็นทำหน้าซึมๆ ผมโชคดีกว่า"
ภีรวัสขมวดคิ้ว พยายามนึกตามว่าพลพูดอะไรแฝงนัยหรือไม่
...โชคดีกว่า...โชคดีกว่าวรุฒม์ที่โทรหาเขาแล้วไม่ได้รับสายอย่างนั้นหรือ...
"ฝึกลำบากไหมครับ" ภีรวัสถามสั้นๆ
"ไม่หรอกครบั ฝึกปฏิบัติการร่วมไม่ได้ซ้อมรบเต็มรูปแบบ อีกอย่าง มีวรุฒม์เป็นคนบัญชาการ ผมไม่เหนื่อยหรอก ผมแค่เป็นคนคอยยืนอยู่ข้างๆ คอยช่วย คอยตอบคำถามเวลาวรุฒม์อยากได้คำแนะนำ อยากได้ความคิดเห็น" พลพูดด้วยน้ำเสียงสดชื่น
...พอกันที ทำไมพลจะต้องพูดถึงวรุฒม์ด้วนนะ...
"เหมือนคุณโทรมาเล่าเรื่องผู้พันวรุฒม์ให้ผมฟัง ทำไมเราต้องคุยกันถึงเรื่องคนอื่นล่ะครับ" ภีรวัสถาม
"วรุฒม์เป็นเพื่อนสนิทผม เลยอดดึงเข้ามาเกี่ยวไม่ได้ ถ้าภีร์ไม่อยากพูดถึง ผมก็จะไม่พูด" พลตอบด้วยน้ำเสียงธรรมดา "แต่เขาชอบพูดถึงคุณอยู่เรื่อย เหมือกกับกำลังสนใจคุณอยู่"
ภีรวัสถอนหายใจเบาๆ เพราะพลไม่ยอมเลิกพูดถึงวรุฒม์ จะด้วยจงใจหรือไม่รู้สึกตัวก็ไม่รู้ ภีรวัสไม่อยากจะเอาต่อไปอีกแล้ว ตอนนี้เขาต้องรีบยุติการสนทนา
...เผื่อวรุฒม์จะโทรมาอีก...
"ผมไม่ยักรู้ว่าเขาสนใจผม ไม่เห็นแสดงออก แต่บอกแล้วไงครับว่าตอนนี้ผมกำลังทุ่มเวลาและความสนใจให้กับงานวิจัย ผมต้องทำงานแข่งเวลา เรื่องอื่นผมไม่อยากให้เข้ามารบกวน"
"ผมกลัววาจะเสียคุณให้วรุฒม์" พลพูดเสียงเศร้า
"พล เลิกพูดถึงผู้พันวรุฒม์เถอะ" ภีรวัสเสียงเข้มขึ้น "ถ้ายังอยากจะคบกับผมอยู่ อย่าเอาเขามาเกี่ยวข้องด้วย"
"ครับ" พลรับคำง่ายๆ "ผมจะไม่ให้วรุฒม์มายุ่งกับเราสองคนเด็ดขาด เพราะผมรักคุณ ผมจะรักคุณจนตาย"
หลังจากจบการสนทนากับพล ภีรวัสก็ถอนหายใจแรงๆ เพราะรู้ว่าพลพูดกำกวม ตอนนี้เขายังวางใจไม่ได้ แม้พลจะยอมรับข้อเสนอของเขจา แต่พลก็พูดเหมือนกับขู่เขาว่าจะเปิดเผยเรื่องราวในอดีตให้วรุฒม์ได้รู้
..หากเขาคิดจะทำกับวรุฒมฺเหมือนกับที่ทำกับพล...
...หากเขาจะตกลงปลงใจไปกับวรุฒม์จริงๆ...
...แล้วนี่เขารู้สึกกับวรุฒม์อย่างไรและมากแค่ไหนกันนะ เกมหลอกให้รักแล้วทิ้งที่กำลังเล่นแข่งกับอิศราอยู่ตอนนี้จะจบลงแบบที่เคยจบมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งหรือเปล่า...
...ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกไม่ค่อยมั่นใจ...
...ทำไมพลจะต้องโผล่มาด้วย...
..."ผมจะรักคุณจนตาย"...
คำพูดสุดท้ายของพลยังดังก้องอยู่ในหู
เมื่อภีรวัสเดินกลับมาที่โต๊ะ อิศราก็กลับมาเป็นคนเดิมด้วยการพูดคึกคะนอง นัยน์ตาเต้นระริก
"ภีร์ ไม่นึกเลยว่าแม่สะเรียงจะมีผู้ชายหล่อๆ เยอะแยะแบบนี้ มาไม่เสียเที่ยวจริงๆ อยากเสียหนุ่มขึ้นมาทันทีให้ตายสิ"
"อิศ นายนี่จริงๆ เลย" ภีรวัสถอนหายใจ แล้วหันไปมองตามสายตาของอิศราแลวตำหนิเพื่อนเสียงดุ "ไอ้บ้ากาม นั่นเด็กนักเรียนใส่กางเกงขาสั้นอยู่เลยนะ"
"แล้วแกเถียงหรือเปล่าว่าเด็กมันโต" อิศราแย้ง "เด็กมัธยมก็จริง แต่ดูสิ เบ้อเริ่มเฮิ่มเชียว น้องกินข้าวกับอะไรว๊า ตัวถึงได้ใหญ่ได้ใจขนาดนี้ หน้าตาน่ารักซะไม่มี น่าเอาไปสอนให้รู้จักความรัก"
"สอนแพทย์ทหารยังไม่พอ จะสอนเด็กมัธยมด้วย คนแบบนี้เขาเรียกว่าเป็นคนแบบไหนว๊า" ภีรวัสเหน็บแนม ทำหน้าหมั่นใส้เพื่อน
"หมายความว่ายังไงพีวีซี" อิศราหันหน้ามาเอาเรื่อง
"แกมีอะไรกับนายแพทย์ทหาร พันตรีวิษณุแล้วใช่หรือไม่" ภีรวัสเสียงห้วน จ้องหน้าอิศรานิ่ง
"มีอะไรหมายความว่ายังไง" คราวนี้อิศราไม่หลบตา จ้องตาเพื่อนกลับเช่นกัน
"หมายความว่ามีความสัมพันธ์ทางเพศกันแล้วใช่หรือเปล่า" ภีรวัสพูดเสียงหนักแน่น ชัดถ้อยชัดคำ
"ความสัมพันธ์ทางเพศ" อิศราทวนคำ กำลังจะทำหน้าใสซื่อ แต่ภีรวัสรู้ทัน จึงกระแทกเสียงว่า
"แกให้เขาฟันแล้วก็บอกมาเถอะ กล้าทำก็ต้องกล้ารับ กล้าหน้าด้านก็ต้องกล้าที่จะไม่อาย"
"เอาอะไรมาพูด" อิศรายังปากแข็ง "พูดแบบนี้เราเสียหายนะภีร์"
"เสียประตูนะสิ ไอ้คนขี้ขโม" ภีรวัสหน้าบึ้ง "ถ้าเป็นแบบนี้ต้องเปลี่ยนคู่ในการเล่นเกม นายคู่กับผู้พันวิษณุไปเลย ส่วนเราเปลี่ยนมาคู่กับผู้พันวรุฒม์ เราไม่ขอบของมีตำหนิ"
"ไม่ได้" อิศราเสียงแข็ง
"ทำไมจะไม่ได้"
"เพราะแกจะแพ้ทันที เกมนี้จะจบภายในวันนี้พรุ่งนี้ อีกหนึ่งอาทิตย์ก็ต้องทิ้งสองคนนั้น" อิศราพูดเสร็จก็ถอนหายใจเสียงดัง แล้วกัดริมฝีปาก นัยน์ตาครุ่นคิดเหมือนที่ภีรวัสแอบมองเมื่อครู่ใหญ่ที่ผ่านมา
"หมายความว่า..."
"แกนี่ชอบหมายความว่าจริงๆ เลย" อิศรากระแทกหลังพิงพนักเก้าอี้แรงๆ
"หมายความว่ายังไงอิศรา" ภีรวัสเสียงเข้ม เริ่มจะทนอิศราไม่ไหว "หมายความว่ายังไง บอกมาเดี๋ยวนี้ว่าหมายความว่ายังไง"
"เฮ้อ ภีร" อิศราถอนหายใจเฮือกใหญ่ "ก็หมายความว่า ผู้พันวิษณุบอกรักเราแล้วนะสิวะ"
"ไอ้เศษก้อนอิฐ" ภีรวัสโวยลั่น "ไอ้ก้อนกรวด"
"เฮ้ย เบาๆ สิวะ คนหันมามองแล้ง อายเค้า" อิศราทำเสียงปรามเพื่อนที่ลุกขึ้นเดินออกจากร้านกาแฟทันใด
"ภีร์ รอเดี๋ยวสิเพื่อนรัก" อิศราร้องเรียกภีรวัสที่เดินลิ่วๆ ไปตามทางเดินข้างถนน "มันเป็นอุบัติเหตุ นายต้องเข้าใจนะเพื่อน เราโดนผู้พันวิษณุหลอกล่อรังแก เราไม่คิดว่าเขาจะไวไฟขนาดนั้น"
"ถ้าเรียกเขาว่าไวไฟ แล้วจะเรียกแกว่ายังไง" ภีรวัสหันไปตะคอกอิศรา
"ก็เรียกว่าไวไฟพอๆ กันสิ" อิศรายักไหกล่ "ทีตัวเองล่ะ ยังแอบนอนกับดอกเตอร์สินธพ จำไม่ได้หรือ"
"นั่นมันคนละเรื่อง ไม่ต้องมารื้อฟื้นอดีต" ภีรวัสตอบห้วนๆ "ไหน เอาหลักฐานมาให้ฟังซิ"
"ไม่ได้หรอก" อิศราส่ายหน้า
"ทำไมจะไม่ได้ ตกลงแกจะเอายังไง" ภีรวัสหน้าบึ้งตึง เริ่มจะทนไม่ไหว เวลาเถียงกับอิศรา มาดนิ่งๆ ที่เคยมีประจำมักจะหลุดอยู่บ่อยๆ
"บอกว่าไม่ได้ก็ไม่ได้เถอะ" อิศราทำหน้ามุ่ย ยืนบิดตัวไปมา "ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็แล้วกัน"
"แล้วข้าจะชนะได้ยังไงวะ ในเมื่อผู้พันวิษณุบอกรักแก จะมีประโยขน์อะไรอีก ทำแบบนี้มันผิดฝาผิดตัวไปหมดเลย นอนกับคนของตัวเองก็ว่าไปยัง นี่บังอาจมานอนกับเป้าหมายของคู่แข่ง แกควรจะทำให้ผู้พันวรุฒม์บอกรัก ไม่ใช่ผู้พันวิษณุ เห็นไหมล่ะ บอกว่าให้จับคู่กับผู้พันวิษณุไปตั้งแต่แรกก็จะเอาผู้พันวรุฒม์อยู่นั่นล่ะ"
"นี่ก็ยังจะเอาผู้พันวรุฒม์อู่" อิศราพูดหน้าตาเฉย ทำให้ภีรวัสพ่นลมหายใจออกมาดังๆ แล้วกรอกตาอย่างเหนื่อยหน่ายกับความดื้นรั้นของเพื่อน
"แล้วนี่ไอต้องมาเสียเวลากับผู้พันวิษณุ ถ้าไอคู่กับผู้พันวรุฒม์ ป่านนี้ก็คงชนะแกไปแล้ว"
"น้อยๆ หน่อย สำคัญตัวเองมากไปหรือเปล่า" อิศราเบ้ปาก
"แกไม่รู้สึกละอายบ้างหรือไงอิศ ตอนที่กำลังถอดเสื้อผ้าไม่รู้สึกผิดบ้างหรือไง" ภีรวัสชี้หน้าอิศรา
"รู้สึกเสียวๆ" อิศราทำหน้ากวนอารมณ์ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีหน้าอ้อนวอน "บางทีเขาอาจแค่บอกรักตอนที่กำลังไคลแมกซ์ก็ได้นะภีร์ บอกแล้วไง คิดซะว่ามันไม่ได้เกิดขึ้น มาตั้งต้นกันใหม่ ยืดเวลาต่ออีกซักสองสามอาทิตย์ก็ได้ ทุกอย่างมีทางออกนะภีร์นะ เราจะเลื่อนเวลากลับกรุงเทพฯ ช้าไปอีกหน่อย จะอยู่ช่วยนายทำวิจัยให้นานกว่าเดิม"
"ตอแหล" ภีรวัสเริ่มจะหมดความอดทน
"อะไรวะ นี่ก็ไม่ได้ นั่นก็ไม่เอา แล้วจะเอายังไง" อิศราขึ้นเสียง
"จบ" ภีรวัสเสียงกร้าว "ให้เรื่องนี้มันจบไป ถือซะว่าไม่ได้แข่ง เกมนี้ไม่นับ เราเลิกยุ่งกับสองคนนั่น ทำเสมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น"
ภีรวัสวางหมากสุดท้ายเพื่อเอาชนะอิศรา ซึ่งเขารู้ดีว่ายังไงๆ ฝ่ายนั้นก็ไม่ยอมแน่
"ไม่ได้ เราไม่หยุด เราจะอยู่ต่ออีกสองสามอาทิตย์" อิศราเสียงแข็ง
"เป็นเพื่อนแกนี่ปวดหัวจริงๆ เลย" ภีรวัสยกมือตบหน้าผากตัวเอง ถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้ง ยืนนิ่งอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะทำเสียงเย็น ยื่นคำขาดกับอิศราว่า "ยังไงๆ ก็ต้องเปลี่ยนคู่นะอิศรา"
"บอกแล้วไง ถ้าไอเปลี่ยนมาจับคู่กับผู้พันวิษณุ ไอก็ชนะวันนี้ทันที แล้วจะแข่งกันต่อมีประโยชน์อะไร ยูนี่พูดไม่รู้เรื่องจริงๆ เลย ทำไมเข้าใจอะไรยากแบบนี้วะ" อิศราถอนหายใจแรงๆ ทำหน้าอ่อนอกอ่อนใจกับภีรวัส
"ตัดผู้พันวิษณุออกไป" ภีรวัสทำหน้านิ่ง แล้วพูดช้าๆ ชัดๆ ว่า "นายจับคู่กับพล"
"บ้า" อิศราโวยวายทันใด "ไม่เอาด้วยหรอก ท่านนายพลเขาหมกมุ่นกับแกขนาดนั้น ไม่แฟร์นี่หว่า ฉันไม่รบในสมรภูมิที่ไม่ทางชนะหรอก เสียแรงเปล่า"
"งั้นก็จบตามที่มันควรจะเป็น เรายอมให้นายชนะก็ได้" ภีรวัสพูดด้วยเสียงจริงจังแล้วยื่นมือออกไป "เอาหลักฐานมาแสดงเดี๋ยวนี้เลยว่าผู้พันวิษณุบอกรัก"
"นี่ภีรวัส มายืนเถียงกันข้างถนนว่าเราจะเอาทหารคนไหนแบบนี้ เดี๋ยวสายทหารมาได้ยินเข้า เอาไปบอกสามทหารเสือนั่น เราจะแย่นะ" อิศราเสียงอ่อนลงเมื่อเห็นว่าภีรวัสเอาจริง
...จะให้เอาหลักฐานมาแสดงได้ยังไง เขากดปุ่มโทรศัพท์ผิด โทรศัพท์เครื่องใหม่เอี่ยมเขายังไม่คุ้นเคย แทนที่จะบันทึกเสียงกลับบันทึกภาพ กล้องคุณภาพดีมาก ทุกอย่างชัดแจ๋วราวกับถ่ายทำด้วยกล้องถ่ายดีวีดียังไงยังงั้น โทรศัพท์วางไว้บนโต๊ะบ้างที่นอน มุมกล้องดี จับภาพทุกท่วงท่าชัดเจน
...อิศรา ผมรักคุณ...
...บ้าจริงๆ เลย ผู้พันวิษณุ พูดยังงั้นออกมาได้ยังไง พูดจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ พูดออกมาง่ายๆ แบบนี้จะเชื่อได้ยังไง...
อิศรานั่งๆ นอนๆ อยู่กับบ้านทั้งวันเพราะไม่มีอารมณ์จะทำอะไร ภีรวัสทำปั้นปึ่งกับเขามาได้สองวันแล้ว ตื่นเช้าก็ขนอุปกรณ์ทดบลองออกไปทำวิจัย เย็นก็กลับมาแล้วเอาแต่นั่งทำงาน คราวนี้ภีรวัสงอนนานกว่าเคย และดูท่าจะโกรธกว่าครั้งอื่นๆ ปกติหากเขากับภีรวัสทะเลาะกัน ไม่ถึงวันก็ดีกันแล้ว แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งไหนๆ
..."ให้เวลาสามวันนะอิศ ตัดสินใจให้ได้" ภีรวัสยื่นคำขาด "พล หรือจบเกม"...
"เฮ้อ" อิศราถอนหายใจแล้วเอนตัวลงนอนบนเปลหน้าบ้านแล้วแกว่งตัวไปมาช้าๆ ในหัวนึกถึงคำพูดของภีรวัสกับวิษณุสลับกันไปมา
..."รอจนสองคนนั้นกลับออกมาจากป่าก่อนได้ไหมล่ะภีร์"...อิศรายังต่อรอง
..."พล หรือจบเกม"...
...พันตรีพลนั่นหรือ ไม่มีทางที่พลจะบอกรักเขา ต่อให้มีเวลาครึ่งปีก็ไม่มีทาง...
..."อิศรา ผมรักคุณ"...
...แล้วนี่เขาคิดยังไงกับวิษณุ อุตส่าห์หลบหน้ามาตั้งสองวันแล้ว วิษณุก็ยังตามตื๊อเขาอยู่ แล้วก็บอกว่ารักอยู่นั่นล่ะ คนอะไร พอได้บอกรักแล้วก็เร่งรัด ไม่รีรอ ไม่ลังเล มุ่งมั่นเหลือเกิน...
..."คุณหลบหน้าผมหรืออิศรา คุณกลัวอะไร กลัวที่ผมบอกรักคุณหรือครับ"...
...วิษณุรักเขาจริงๆ หรือเปล่า แล้วผู้พันวรุฒม์ล่ะ ผู้ชายคนนั้นชอบใคร เขายังพอจะมีหวังที่จะชนะภีรวัสหรือไม่หากเขายังจะดันทุรังต้องการผู้พันวรุฒม์จริงๆ...
ลมเย็นพัดมาเอื่อยๆ อากาศเย็นสบายทำให้อิศราเริ่มง่วงหลังจากนอนคิดอะไรอยู่เป็นเวลานาน แต่ชายหนุ่มหลับไปได้ไม่นานก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นเมื่อมีเสียงรถทหารวิ่งเข้ามาจอดหน้าบ้าน ทหารหนุ่มผิวคล้ำหน้าดุคนหนึ่งกระโดดลงจากรถ เดินตรงเข้ามาหาเขาอย่างเร่งรีบ ยกมือขึ้นวันทยาหัตถ์อย่างเข้มแข็งแล้วพูดว่าผู้พันวรุฒม์สั่งให้เขามาบอกข่าวสำคัญมากแก่ภีรวัส
ข่าวที่ทำให้อิศราตกใจแทบหล่นลงจากเปล...
*** 12 ***