เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เกมหัวใจ: เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก  (อ่าน 132028 ครั้ง)

ออฟไลน์ astral

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-5
นิยายพี่นายทุกเรื่องมันต้องมีอะไรซับซ้อนซ่อนเงื่อนให้ปวดเศียรเวียนเกล้าทุกที่ไปสิน่า  :serius2:

patz

  • บุคคลทั่วไป
งานเข้าทั้งภีรวัส ทั้งอิศราเลย คราวนี้

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
สองคนนี้น่าจะโดนให้หนักกว่านี้นะ ชอบหลอกคนดีนัก :angry2:

Siri_nan

  • บุคคลทั่วไป
อืม แอบรอลุ้นให้เพื่อนได้กันเองซะเลย  :really2: อิอิ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

โอกาส!

เจ้สอง  :bye2:

ปล. เห็นด้วยเรื่อง พ.ต.ม.ล.พล  ณ นคร  อ่านแล้วตกกะใจ

ม.ล. นับจากทางพ่อ มิใช่หรอคะ

หรือนายคนนี้จะเอานามสกุลแม่มาใช่?

ออฟไลน์ K2KARN

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3084
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +393/-6
น่าปวดหัวจริงๆ เกมนี้ = =;
 o22

ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
ชักจะยุ่งใหญ่แล้ว ทั้งคนใหม่คนเก่า

morrian

  • บุคคลทั่วไป
น่าปวดเศียร เวียนเฮด ซะยิ่งกระไร  :really2:

รอตอนต่อไปค้าบผม

mecon

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด
งานเข้ายกแพ็คคะพี่น้อง
ถ้าเวลาไมเปลี่ยนอะไรๆอาจเป็นไปได้
นี่ทั้งเวลาและศึกนอกศึกใจรอจ่อคิวอยู่
สงสารคุณภีร์ทำไมต้องมาเจอเครื่องบินสามลำชนกันแบบนี้ด้วยนะ
เฮ้อ งานนี้คุณภีร์ท่าทางจะอากาศหนักจะใช้วิธีเงียบๆสยบค.เคลื่อนไหว
ของผู้พันพลรึ แล้วไหนจะเกมส์ล่าคุณ วรุตม์อีกล่ะ กรรมจริงๆ
ผู้พันพลกับผู้พันวรุตม์ เป็นญาติกัน เรื่องแดงแน่ๆแม้แต่เพื่อนเลิฟอย่างอิศราก้อไม่รอด
งานนี้โดยแฉกลางป่าแน่คะ อิอิ

+1 จัดให้นะคะคุณนาย คิดฮอดแต่กอดบ่ได๋ :กอด1:

J๐ly

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ย



มันส์ มันส์




 :really2: :really2: :really2:


มาต่อไวไวนะ จ้ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






crazy Y

  • บุคคลทั่วไป
มาลงชื่อสมัครเป็น แฟนนิยาย คุณนาย



เรื่องชักจะยุ่งเหยิงแล้ว เริ่มพีคขึ้น พีคขึ้น 


ต่อด่วนนะค่ะ  จะลงแดงแล้ว

ออฟไลน์ lune

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 688
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2
คงถึงเวลาชดใช้กรรมที่เคยก่อ ของสองหนุ่มกระมัง :amen:
 แต่ขอให้มีคู่ที่สมหวังนะคะ :call:
   :L2: ส่งกำลังใจมาเช่นเคย  :L2:

Zarch_Chabu_Chabu

  • บุคคลทั่วไป
 :z2:งานเข้าแล้วไหมหล่ะคุณภีร์
ปล.ค่อยๆคิดค่อยๆทำทีละเรื่องนะครับพี่นาย

ออฟไลน์ Resonance

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ยิ่งอ่านยิ่งหนุก จะเป็นยังไงต่อไปน้อ เดาเรื่องไม่ถูกเลย   555      o13


katawoot

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 8 ครับ ขอโทษทีนะครับที่มาโพสช้า ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ และขอบคุณสำหรับคำแนะนำทุกอย่างครับ
ป.ล. ยศและนามสกุลของ พันตรีพล ในเรื่องเปลี่ยนแล้วนะครับ  :z1: ตอนตั้งชื่อตัวละครใช้สมองคิดแต่ซีกเดียวเลยไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่ ขอบคุณที่ช่วยชี้แนะ

Chapter 8

ภีรวัสชะงักเมื่อมองลงไปจากสถานีตรวจอากาศแล้วเห็นพันตรีพลกำลังเดินขึ้นเนินมาช้าๆ ชายหนุ่มหันซ้ายหันขวา กำลังหาทางหลบนายทหารหนุ่ม แต่พลมองเห็นเสียก่อน ภีรวัสจึงจำต้องยิ้มให้
“กำลังจะกลับหรือครับ หรือกำลังจะหลบผม”
...โลกกลมอีกแล้ว ดอยมีตั้งหลายดอย ทำไมต้องเจอพลอีกนะ เดินมุ่งมาหาเขาเหมือนรู้ว่าอยู่ที่นี่...
“กำลังจะหลบ” ภีรวัสเมินหน้าออกไปมองด้านข้าง “ถ้าคุณอยากได้ยินผมตอบแบบนี้ ผมก็จะตอบให้ได้ยินสมใจอยาก”
“ภีร์ ผมขอโทษ” พลเสียงอ่อนลง
“ผมเพียงแต่ตกใจที่จู่ๆ ก็เจอคุณอยู่บนดอย เป็นใครก็ต้องแปลกใจ คุณทำเหมือนรู้ว่าผมอยู่ที่นี่ ตามสะกดรอยหรือครับ” ภีรวัสทำหน้างอน
“เปล่า มีคนบอกว่าคุณอยู่ที่นี่ ผมก็เลยมาหา”
“งั้นหรือครับ” ภีรวัสทำหน้าไม่เชื่อ ในใจนึกเข่นเขี้ยวอิศรายิ่งนัก
“ผมมาธุระกับเพื่อน พอดีเจอเพื่อนสนิทคุณยืนอยู่ริมถนน ยังไม่ทันได้ถาม เขาก็บอกว่าคุณอยู่บนนี้”
...ไอ้ก้อนอิฐ แสบนักนะ...
“ภีร์ ผมไม่ได้อยากจะเร่งรัดคุณหรอกนะ แต่ผมยอมรับคุณตรงๆ นะครับว่า เมื่อเห็นหน้าคุณแล้ว ผมก็ร้อนรุ่ม เมื่อคืนแทบนอนไม่หลับ เห็นแต่หน้าคุณลอยไปลอยมา พยายามบอกตัวเองว่าคุณไม่รักผมแล้ว แต่ผมก็ทำใจไม่ได้ เตือนตัวเองว่าให้รอเวลาอีกซักหน่อย แต่ใจผมมันไม่ยอมรอ” พลทำหน้าเศร้า เสียงออดอ้อน “อย่างน้อย ตลอดเวลาที่คุณมาทำงานอยู่ที่นี่ ขอให้ผมได้ใช้เวลาอยู่กับคุณบ้างนะครับ”
...ไม่ได้หรอก เวลายิ่งมีน้อย แล้วนี่วิษณุจะว่าอย่างไร และเขาเองจะทำยังไงดี เขาต้องพิชิตใจวิษณุให้ได้ภายในหนึ่งเดือน หากมีพลมาคอยตื๊อเขาอยู่แบบนี้ อาจไม่สำเร็จ...
ภีรวัสยืนนิ่ง พยายามไตร่ตรองหาวิธีเอาตัวรอดจากสถานการณ์กระอักกระอ่วนใจเช่นนี้ เขาต้องทำงานวิจัยอยู่ที่นี่สองเดือนกว่า ยังไงก็หนีพลไม่พ้น แต่เมื่องานวิจัยภาคสนามเสร็จก็ต้องกลับเข้ากรุงเทพฯ จึงไม่ต้องมาคอยกังวลเรื่องพลอีก แต่ตอนนี้ ต้องให้ผ่านเดือนแรกไปได้เสียก่อน พอรู้ผลแพ้ชนะเกมการแข่งขันระหว่างเขากับอิศราค่อยว่ากันอีกที
"ผู้พันพลครับ" ภีรวัสสูดลมหายใจลึก "ผมรู้ดีว่าตัวเองผิดที่อยู่ดีๆ ก็เกิดประสาทเสียกลัวความสัมพันธ์และเลือกงานมาก่อนความรัก เพราะฉะนั้นผมจะยอมรับคำขอของคุณ แต่ว่าขออะไรผมอย่างได้ไหมครับ"
พลพยักหน้า รอฟังว่าภีรวัสจะเล่นเกมอะไรกับเขาต่อไป
"ผู้พันอย่าเพิ่งเร่งรัดผมมากนัก ยังไงผมก็ขอทำงานวิจัยชิ้นนี้ให้เสร็จก่อน ขอผมซักครั้ง งานวิจัยชิ้นนี้สำคัญกับผมมาก ผมอยากทุ่มเทให้กับมัน เลยอาจให้เวลาคุณมากไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ หนึ่งอาทิตย์ ผมต้องให้เวลาผู้พันบ้าง"
"ขอผมสองวันก็พอ"
...ไม่ได้หรอก สองวันเลยหรือ ไม่ได้นะ...
"อย่าเพิ่งกำหนดแบบนั้นเลยนะครบ" ภีรวัสยื่นมือไปแตะแขนของนายทหารหนุ่ม "ถ้างานมันติดพันก็อาจมีเวลาให้ไม่เต็มวัน แต่ถ้าว่างๆ ก็อาจใช้เวลาด้วยกันเกินสองวันติดต่อกัน" ภีรวัสต่อรอง
"ผมขอแค่เลิกงาน แต่วันเสาร์อาทิตย์ไหนคุณว่างก็..."
"บางทีผมต้องนั่งทดลองอะไรหลายอย่าง ถ้าอุปกรณ์ทำงานผิดพลาดก็ต้องทุ่มเวลาแก้ไข เวลามันไม่แน่นอน" ภีรวัสรีบแทรก พยายามรักษาระดับน้ำเสียงให้เป็นปกติ
"ผมจะคอยอยู่ช่วย"
"ขอบคุณครับ แต่คุณต้องทำงาน" ภีรวัสลูบแขนของพล "อย่างที่ผมบอก อย่าเร่งรัดกันมากนัก ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างสบายๆ"
ภีรวัสรู้ดีว่าพลต้านทานสัมผัสเขาไม่ค่อยได้ เขารู้สึกได้เลยว่ากล้ามเนื้อแขนของพลกระตุก หายใจแรงขึ้น และหากเขายื่นปากไปจูบ พลก็จะควบคุมตนเองไม่ได้ ภีรวัสจึงบีบต้นแขนอีกฝ่ายแล้วดึงเข้ามาใกล้
"ผมยอมรับว่าผมก็คิดถึงผู้พัน" ภีรวัสทำเสียงทุ้มต่ำ "แต่ตอนนี้ขอเวลาผมเข็นงานวิจัยนี้ให้เสร็จ แล้วเรามาทบทวนความสัมพันธ์กันใหม่"
พลหายใจหนัก การได้อยู่ใกล้ชิดกับภีรวัสในที่ลับตาคนเช่นนี้ทำให้เขารู้สึกหวั่นไหว ในใจที่เตรียมตัวมาเป็นอย่างดีเริ่มเขว แต่ก็เตือนตัวเองว่าต้องอดทน เกมนี้เขาจะแพ้อีกไม่ได้ ภีรวัสทำกับเขาครั้งนั้นยังจำได้ไม่ลืม หลายเดือนผ่านมาที่ตามหาชายหนุ่ม เขาได้รู้อะไรดีๆ หลายอย่าง
 ...คราวนี้ภีรวัสต้องได้รับบทเรียนบ้าง...
พลรับปากแล้วชวนภีรวัสกลับลงไปยังหมู่บ้านเพื่อสมทบกับอิศราและนั่งรอวิษณุ  

เมื่ออยู่กันตามลำพัง ภีรวัสจึงมีโอกาส "เอาเรื่อง" คนปากมาก
"ไปบอกเขาทำไมว่าไออยู่บนสถานี"
"เขาถาม" อิสรายักไหล่ ตอบเสร็จก็หันหน้าไปมองด้านอื่น
"แน่ใจนะไอ้เตี้ย ดูตาแกก็รู้ว่าโกหก มีใครเคยสอนไหมว่าเวลาตอแหล อย่าขยับลูกตาไปมา" ภีรวัสกระชากเสียง
 "ยังไงเขาก็รู้อยู่ดี หนีไม่พ้นหรอก ไม่ว่าเราจะบอกหรือไม่บอก วันนี้ท่านนายพลคนรักแท้ก็ต้องเจอนายจนได้ กรรมตามสนองแล้วพีวีซีเอ๊ย"
"พูดไปเถอะ ถ้าจะว่ากรรมตามสนอง นายก็ไม่ต่างกันหรอก เผลอๆ กรรมนายเยอะกว่าอีก" ภีรวัสถอนหายใจ หันไปมองพลที่กำลังซื้อน้ำดื่ม
"กลับกันหรือยังอิศ เหนียวตัวอยากอาบน้ำเต็มที" ภีรวัสเปลี่ยนเรื่อง
"รอเดี๋ยว หมอวิษณุบอกให้รอ"
"อะไรนะ มาได้ยังไง แล้วตอนนี้อยู่ไหน" ภีรวัสขึ้นเสียงสูงแต่คุมระดับความดังไม่ให้ดังเกินไป
"เหาะมามั๊ง" อิศราพูดกวน แล้วทำสีหน้ายิ้มๆ นัยน์ตาวูบวาบ "มากับท่านนายพล นายคงยังไม่รู้อะไร"
"รู้อะไร" ภีรวัสถาม หากในใจได้คำตอบแล้ว
...อย่าบอกนะว่าพลกับวิษณุเป็นเพื่อนกัน...
...ถ้าอย่างนั้น!...
...โอ๊ย แย่แล้ว...
"คุณอิศรา" ภีรวัสทำเสียงเข้ม "เข้าใจอะไรไหม พันตรีพล เดชาวุธ เป็นเพื่อนกับพันตรีนายแพทย์วิษณุ ชาญยุทธ แล้วทั้งสองคนนี่จะเป็นอะไรกับพันโทวรุฒม์ แสนยานุภาพ"
อิศราขมวดคิ้ว นิ่งไปหลายอึดใจ ภีรวัสนั่งรอเวลาให้อิศรานึกอะไรได้
...เพื่อนเขาเข้าใจอะไรช้าเช่นเคย...
"ตาเถรช่วย" ในที่สุด อิศราก็อุทานเบาๆ
"ตาเถรหรือสมภารก็ช่วยไม่ทันแล้วล่ะอิศราเอ๊ย"
"ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่ได้ งานนี้เราจะป๊อกตั้งแต่ยังไม่เด้งไม่ได้นะภีร์" อิศราทำหน้าตื่นตระหนก
"แป๊ก" ภีรวัสแก้ภาษาของอิศราเพราะรู้อยู่ว่าเพื่อนมักจะพูดอะไรผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาตกใจ "หมายความว่าจอดตั้งแต่ยังไม่ได้แจว ถ้าพลเอาเรื่องวีรกรรมของเราไปบอกผู้พันวรุตม์กับหมอวิษณุ เกมนี้ก็จบ"
"ต้องกำจัดท่านนายพล" อิศราพึมพำ
"กำจัดยังไงไอ้เตี้ย เอาปืนไปจ่อยิงหัวให้ตายแล้วเราลากศพไปทิ้งลงหน้าผาดีไหม" ภีรวัสเสียงเข้ม อยากจะถีบอิศราให้ตกเก้าอี้นัก
"งั้นก็ขอร้องผู้พันพลไปตรงๆ บอกว่าขอเวลาอีกเดือนค่อยลงทัณฑ์แกดีไหม ระหว่างนี้ก็เงียบๆ ไว้ ขออีกเกม เกมสุดท้าย แล้วเราสองคนจะกลับตัวกลับใจเป็นคนรักจริงหวังแต่ง เป็นคนดีของสังคม"
"ยังทำเป็นพูดเล่น" ภีรวัสเบ้ปาก
...กลัวจะมองหน้าวรุฒม์กับวิษณุไม่ติดนะสิ...
...เอ๊ะ ทำไมเขามารู้สึกแคร์ด้วยเล่า แต่ก่อนไม่เคยสนใจ...
...วิษณุไม่เท่าไหร่ แต่วรุฒม์นี่สิ คนเรียบนิ่งเคร่งขรึมแบบนั้นจะมีปฏิกิริยาอย่างไรนะ...
"โอ๊ย ปวดหัวจริงๆ ภีรวัสเอ๊ย เราว่าเกมนี้ปวดหัวยิ่งกว่าครั้งไหนๆ แบบนี้ไอ้คำที่เขาพูดว่าพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสคงใช้ไม่ได้" อิศราถอนหายใจ ทำหน้ามุ่ย หันซ้ายหันขวาอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี
"คุยอะไรกันอยู่ครับ น่าสนุก" พลเดินกลับมาที่สองหนุ่ม ยื่นน้ำอัดลมให้อิศรากับภีรวัสคนละขวด ภีรวัสหันไปยิ้มมุมปากให้นายทหารที่ยิ้มกว้างดูมีความสุขยิ่งนัก แต่ทว่า ชายหนุ่มรู้สึกว่าตัวเองเห็นประกายตาของพลฉายแววแปลกๆ เพียงชั่วเสี้ยววินาที
...ประกายตาเหมือนคนที่กำลังต้องการแก้แค้นศัตรู...
...ที่พลบอกว่ารู้อะไรดีๆ จากตอนที่ตามหาเขา พลรู้อะไรบ้าง เขาต้องล้วงหาข้อมูลจากพลให้ได้...
"ร้อนจังเลยนะครับ" อิศราพูดโพล่งขึ้นมา "บ้านเมืองเราเข้าขั้นวิกฤติแล้วหรือยังไง โลกก็ร้อน ทำให้คนร้อน" ภีรวัสอมยิ้ม เข้าใจคำพูดแฝงนัยของเพื่อนที่สื่อความกับเขาว่า 'ภีรวัส แกฉลาดกว่า คิดเร็วเข้า ตอนนี้เข้าขั้นวิกฤติ กำลังร้อนใจ'
...พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาศ ทำยาก แต่ก็น่าลอง...
"ไหนๆ ก็เจอกันแล้ว ไปทานข้าวเย็นด้วยกันนะครับผู้พัน" ภีรวัสหันไปยิ้มอบอุ่นให้พลที่นั่งลงใกล้ๆ แทบจะไหล่ชนกัน
"เราปวดท้อง สงสัยต้องขอตัว" อิศรารีบพูดขึ้นมา
พลเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ แต่พลันก็เปลี่ยนเป็นสีหน้ายิ้มแย้มแล้วบอกตกลง "พอถึงบ้าน ผมจะรีบไปรับ จะพาภีร์ไปทานข้าวเคล้าเสียงดนตรีเพราะๆ ที่ร้านอาหารสวยๆ บรรยากาศดีๆ "
"ขอบคุณครับ คืนนี้ผมให้เวลาคุณเต็มที่" ภีรวัสตอบยิ้มๆ อิศราหันมามองเพื่อนแล้วแอบยกนิ้วให้ สื่อความหมายว่าขอชมเชย
ทั้งสามนั่งเงียบอยู่ชั่วครู่ก็ได้ยินเสียงรถ พลชะเง้อคอมองออกไปนอกร้านขายของจึงเห็นรถของวิษณุตรงมา ทั้งหมดจึงลุกขึ้นแล้วเดินออกไปยืนรออยู่ริมถนน อิศราจึงได้โอกาสแอบกระซิบกับภีรวัสว่า "ทุ่มทั้งตัวเลยหรือวะภีร์ ระวังเชือกจะพันคอนะที่รัก"
"ยูเป็นหนี้บุญคุณไออยู่นะจะบอกให้ จำเอาไว้" ภีรวัสตอบเสียงเข้ม
"จ้า บุญคุณครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก ข้าน้อยจะจำใส่ก้นเอาไว้" อิศรายักคิ้ว ทำหน้าทะเล้นก่อนจะหัวเราะร่าเริงตามสไตล์เพราะรู้ว่าตั้งแต่เด็กเรียนมัธยมมาด้วยกันจนจบปริญญาโท ภีรวัสแก้ปัญหาได้เสมอ

อิศราคุยเจื้อยแจ้วกับวิษณะตลอดทางที่กลับเข้าตัวอำเภอ ส่วนพลเอาแต่นั่งมองภีรวัสยิ้มๆ สายตาบ่งบอกความในใจยิ่งนัก
...เกมนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด ตอนแรกที่คุยกับอิศราว่าเป็นทัวร์นาเมนท์ใหญ่นั้นเห็นจะจริง...
...พลคิดจะทำอะไรนะ ถ้าเขาเป็นคนพล เขาจะคิดทำอะไรหากโดนทิ้งแล้วมาเจอกันอีกครั้ง
...แก้แค้นสิ เรื่องอะไรจะปล่อยให้ลอยนวล...
...โอย ทำไมต้องมาเจอกันอีกตอนนี้...

ร่างสูงของชายหนุ่มสองคนเดินทอดน่องไปตามถนนริมอ่างเก็บน้ำบนเขา ลมค่อนข้างแรงทำให้ผมของภีรวัสปลิวยุ่งเหยิง พลแตะแขนให้ชายหนุ่มหยุดเดินแล้วอ้อมมายืนบังลมให้ ภีรวัสเงยหน้าขึ้นมองและไม่ทันจะได้พูดอะไร พลก็ยกมือขึ้นปัดผมที่ตกลงมาปรกหน้า
"ผู้พัน เดี๋ยวใครเห็น" ภีรวัสเอียงหน้าหนี
"ใครจะเห็น มีเราแค่สองคน" พลยิ้มบางๆ
"ใครว่า" ภีรวัสหันซ้ายหันขวา มองเห็นคนอีกสองสามคู่อยู่ใต้ต้นไม้ใกลๆ
"เมื่อไหร่จะตัดผมเสียที ผมยาวแล้ว"
"ชอบไว้ผมทรงนี้" ภีรวัสพึมพำ "ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องมาจับ"
"ชอบสิครับ" พลแทรก "ถึงจะตัดทรงสกินเฮดผมก็ชอบ อะไรที่เป็นคุณ ผมชอบทั้งนั้น"
"อย่ามาปากหวาน" ภีรวัสทำท่าอาย ในใจเต้นตึกตักเพราะกำลังตัดสินใจว่าจะ "เล่นเกม" ใหม่กับพลดีหรือไม่
...เกมปิดปาก อิศราบอกว่ากำจัดพลทิ้งไป แต่สถานการณ์แบบนี้เขาจะทำอะไรได้ วิธีเดียวที่คิดออกตอนนี้ก็คือ พลต้องไม่พูดอะไรกับวิษณุกับวรุตม์เรื่องวีรกรรมของเขากับอิศรา...
...วีรกรรมการแข่งขัน หลอกให้รักแล้วหักอก...
...ต้องทุ่มทั้งตัวเลยหรือภีร์...เสียงของอิศราดังแทรกขึ้นมาในหัว
...ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก แต่อาจต้อง "ยอม" พลบ้าง...
พลแตะแขนภีรวัสให้เดินไปนั่งที่ม้านั่งริมน้ำ ชายหนุ่มเดินตามไปโดยง่าย ห่อไหล่เล็กน้อย จนนายทหารหนุ่มอดใจไม่ได้ ยกมือขึ้นโอบหลวมๆ
"ไม่นะครับ บอกแล้วไงว่ากลัวคนเห็น" ภีรวัสพูดแต่ก็ไม่ได้เบี่ยงตัวหลบ
"ผมก็บอกแล้วไงว่าไม่มีใครเห็นหรอก" พลยิ้มอย่างอารมณ์ดี
"ตามใจ อยากทำอะไรก็ทำ อยากดึงผมเข้าไปกอดไปจูบก็ทำได้เลย ทำมันกลางแจ้งนี่ล่ะ" ภีรวัสพูดเสียงเรียบ
พลอมยิ้ม ยอมลดแขนลง รอให้ภีรวัสนั่งลงบนม้านั่งเสียก่อนแล้วค่อยหย่อนตัวลงนั่งใกล้ๆ ไหล่ชิดไหล่ หันไปมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของคนที่เคยหลอกให้เขารักแล้วทิ้งเขาไปอย่างไม่ใยดี
ความรู้สึกหลากหลายประดังขึ้นมาในใจ แม้เขาจะบอกตัวเองว่าภีรวัสกำลังแกล้งทำ แต่อีกใจหนึ่งก็บอกว่าชายหนุ่มไม่ได้เสแสร้ง ภีรวัสเองก็อาจจะมีใจกับเขาอยู่บ้าง ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงที่เขาคบกับภีรวัสนั้นช่างเป็นธรรมชาติยิ่งนัก และหากจะพูดว่าเป็นการแสดงละคร ภีรวัสก็เป็นนักแสดงที่เก่งกาจสมควรได้รับรางวัลตุ๊กตาทอง และเขาก็ยินดีที่ได้ร่วมแสดง
"เกลียดผมไหมครับ" ภีรวัสถามขึ้นมา
...ผมเกลียดคุณไม่ลงหรอกภีร์...
"ทำไมคิดว่าผมจะเกลียด" พลย้อนถาม
ภีรวัสหลุบตามองผิวน้ำที่ต้องแสงไฟสีทอง แล้วหันมามองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ แล้วถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะหันหน้ากลับไปมองจุดเดิม
"ผมควรจะโดนเกลียด" ภีรวัสพูดสั้นๆ แล้วนั่งเงียบ
...ภีรวัส จะคุณมาไม้ไหนกันอีก ทำไมถึงได้ชอบเล่นกับหัวใจคนอื่นแบบนี้...
...ลืมทุกอย่าง แล้วเริ่มต้นกันใหม่ดีไหม เขาควรจะลองเสี่ยงกับภีรวัสอีกซักครั้งดีหรือไม่...
"ผมเกลียดคุณไม่ลงหรอกภีร์ แม้จะเกิดอะไรขึ้น ผมก็ไม่มีวันเกลียดคุณ ผมรักคุณ คุณก็รู้ก็เห็นแล้ว" พลยื่นหน้าเข้าไปใกล้ชายหนุ่มที่นั่งก้มมองผิวน้ำระยิบระยับของอ่างเก็บน้ำ "ถ้าคุณยังไม่พร้อมผมก็จะยังไม่พูดอะไรอีก สบายใจได้ แต่อย่าตัดผมทิ้งไปนะ ให้ผมได้อยู่ใกล้ๆ บ้าง"
ภีรวัสยื่นมือมาวางบนหลังมือของพล ลูบไล้เบาๆ สัมผัสอ่อนโยนทำให้พลเลือดสูบฉีดขึ้นมาทันใด ในใจพยายามควบคุมตนเองไม่ได้ดึงร่างของชายหนุ่มเข้ามากอดแล้วจูบอย่างเร่าร้อนเหมือนครั้งที่เคยคบกัน
"ที่คุณบอกว่ารู้อะไรดีๆ ตอนที่ตามหาผม หมายความว่ายังไงหรือครับ" ภีรวัสกัดฟัน ตัดสินใจถามพลไปตรงๆ "ผมคงชื่อเสียงแย่มาก คงทำความผิดไว้ คงไม่เหลืออะไรจะให้ชื่นชม"
พลเบือนหน้าออกไปด้านข้าง ลอบหายใจหนักๆ สิ่งที่เขารู้มาทำให้เขาสับสน ใจหนึ่งก็อยากจะบอกว่าไม่จริง อีกใจหนึ่งก็บอกว่าไม่สนกับอดีตร้ายๆ ของชายหนุ่ม ส่วนอีกใจหนึ่งก็ระแวงว่าภีรวัสอาจกำลังพยายามปั่นหัวเขาอยู่ ภีรวัสเป็นคนฉลาด และท่าทางไม่จนมุมใครง่ายๆ
"บอกมาสิครับ พูดมาเลยตรงๆ ถ้าสิ่งไม่ดีเกี่ยวกับผมที่คุณรู้มาเป็นความจริง ทำไมยังจะมายุ่งกับผมอีก คนเลวไม่ควรจะมีใครมารักมาชอบ" ภีรวัสเงยหน้าขึ้นมาพูดกับพลด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
นายทหารหนุ่มคาดไม่ถึงว่าภีรวัสจะตรงไปตรงมาถึงขนาดนี้ ภีรวัสดูเคร่งขรึม แตกต่างไปจากที่เคยเห็นทำหน้ายิ้มๆ เกือบตลอดเวลา
"คงมีคนบอกผู้พันว่าผมชอบหักอกคนใช่ไหมครับ" ภีรวัสดับเครื่องชน "ผมกับอิศราพนันกันว่าใครจะชนะในเกมหลอกให้รักแล้วทิ้ง คุณคงเคยได้ยินมาแบบนี้ ใครกันที่พูดถึงผมแบบนี้ ผู้พันคงเชื่อเขาเสียสนิท พฤติกรรมผมคงเห็นได้อย่างชัดเจน แล้วตอนที่เราอยู่ด้วยกัน มีอะไรกัน ก็คงเป็นส่วนหนึ่งของการเล่นเกมสนุกๆ"
...บีบน้ำตาหน่อย ใครจะแสดงได้เก่งเท่าภีรวัสไม่มีอีกแล้ว...
...แย่จังเลย ทำไมรู้สึกเจ็บๆ เวลาพูดความจริง ทำไม่รู้สึกเริ่มจะเกลียดตัวเองเข้าให้แล้ว...
"ภีร์" พลคราง รู้สึกตกใจที่ภีรวัสพูดออกมาเช่นนี้
"เวลาเห็นใครโผล่เข้ามาแสดงท่าทางสนใจผม ผู้พันคงอยากที่จะทำเหมือนคนอื่นๆ ที่เขาบอกผู้พันมา ว่าให้ระวังคนชื่อภีรวัสเอาไว้ หมอนี่ร้ายกาจ ชอบหักอกคนอื่น ผู้ชายคนนี้ไม่มีหัวใจ ไม่มีความรู้สึก ไม่เคยซึ้งถึงความรัก"
...ภีรวัส ไหนๆ จะว่าตัวเองแล้วก็เอาให้สุดๆ ไปเลย นี่ไงล่ะ ที่บอกว่าทุ่มสุดตัวเพื่อเอาชนะอิศรา...
...บ้าจริงๆ ตอนนี้ทำไมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองร้ายกาจอย่างนี้...
"อย่าพูดแบบนี้สิครับ ผมไม่ได้คิดจะทำแบบนั้น" พลถอนหายใจอีกครั้ง
...นี่เขาจะแพ้ภีรวัสและแพ้ใจตัวเองตั้งแต่เริ่มต้นเลยหรือนี่...
"เชิญตามสบายเลยครับ ไหนๆ ชื่อเสียงผมก็เสียแล้ว แค่คุณตามหาผมไม่กี่เดือนก็ได้รู้อะไรดีๆ จากคนตั้งหลายคน ผมก็ไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว"
...ใครกันที่พลไปเจอ ใครกัน หรือว่าพงศธร...
...ไม่น่าจะใช่ พงศธรเป็นคนเงียบๆ เป็นสุภาพบุรุษ ไม่น่าใช่...
...หรืออาจจะเป็นชาครินธ์ รายนั้นท่าทางไม่เบา ตอนที่เขาบอกเลิก ชาครินธ์แทบจะหักคอเขาเสียให้ได้ ท่าทางแค้นเขาไม่ใช่น้อย...
พลกับภีรวัสนั่งเงียบอยู่ครู่ใหญ่ ต่างคนต่างปล่อยให้ความคิดล่องลอย จนลมพัดแรงมากขึ้นกว่าเดิม ภีรวัสห่อไหล่ แสดงให้รู้ว่าเริ่มหนาว
...เอาล่ะ ไม้ตาย ลองดูซิว่าพลจะทนได้หรือเปล่า...
ชายหนุ่มเอนตัวแนบร่างบึกบึนของนายทหาร วางศรีษะลงบนไหล่กว้าง แล้วสอดมือเข้าไปคล้องแขนของคนที่นั่งอยู่ข้างๆ พึมพำเรียกชื่อของอีกฝ่ายเบาๆ
พลก้มหน้าลงมองคนที่ซบอยู่กับไหล่ของเขา ใจเต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะ จุดอ่อนของเขาอยู่ตรงนี้ ทุกครั้งที่ได้รับสัมผัสอ่อนโยนจากภีรวัส เขาก็ใจอ่อน
อ่อนทั้งใจ อ่อนทั้งกาย
"ภีร์"
...จูบซักหน่อย ขอเน้นๆ ซักครั้งเถอะ...
...พล ขอโทษนะครับ...
ภีรวัสเงยหน้าขึ้นมา ยื่นปากไปประทับรอบจูบที่คางสากๆ ของนายทหาร แล้วหลับตาพริ้ม นับเลขช้าๆ รอเวลาที่พลจะก้มลงมาประกบปากเขา
...หนึ่ง สอง สาม...
...อืมมม...

****8***
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-09-2009 20:29:22 โดย katawoot »

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
Chapter 9

อิศราตื่นแต่เช้า แล้วเดินไปเปิดประตูห้องนอนของภีรวัส โผล่หน้าเข้าไปดูว่าเพื่อนตื่นหรือยัง ปกติเขาตื่นสายกว่าภีรวัส แต่วันนี้ตั้งใจตื่นแต่เช้าเพราะอยากถามเพื่อนเรื่องการออกเดทกับพลเมื่อคืน
"ว่าไง ภีร์ หายไปทั้งคืน เสียตัวไปเรียบร้อยแล้วสิ" อิศราหัวเราะ ภีรวัสนอนคุมโปงอยู่บนเตียง เขารู้ว่าเพื่อนตื่นแล้ว ภีรวัสไม่เคยตื่นสาย และยิ่งคุมโปงก็แสดงว่ากำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะลุกขึ้นมาดีหรือไม่
"เปล่า เมื่อคืนเขามาส่งตอนตีหนึ่ง" ภีรวัสเสียงอู้อี้ "แล้วอยากจะรู้มากทำไมรีบนอน ทำไม่ไม่นั่งคอยฟังตั้งแต่เมื่อคืน"
"ได้ผลหรือเปล่า" อิศราเดินเข้ามานั่งข้างเตียง
"ได้ผลอะไร"
"อ้าว ก็ปิดปากท่านนายพลไง" อิศราทำตาโต "กำจัดผู้พันพลไม่ให้มาทำลายการแข่งขันทัวร์นาเมนท์เกมพิชิตรัก ด ทหารรูปหล่อของเรา"
"อะไรนะ ท ทหารไม่ใช่หรือ" ภีรวัสหันหน้ามามองอิศราที่นั่งทำหน้ายิ้มๆ ตาฝันเฟื่อง
"ด ทหาร ไม่เข้าใจหรือไง แกนี่สมองช้าจริงๆ" อิศราตำหนิภีรวัส
"อ๋อ..." ภีรวัสเข้าใจทันใดในเสี้ยววินาที "ฉลาดเล่นคำกับเขาเป็นเหมือนกันนะ"
"มั่นใจได้แค่ไหนวะ ว่าท่านนายพลจะไม่มาทำให้การแข่งขันพังพินาศ" อิศรายังทำหน้าสงสัย "เราละกลัวจริงๆ เรากะจะพิชิตผู้พันวรุฒม์ให้ได้ภายในอาทิตย์หน้า"
"อยากชนะมากหรือไง เรามีเวลาหนึ่งเดือน อาทิตย์หน้าเข้าอาทิตย์ที่สาม แน่ใจหรือว่าจะทำได้ ไม่เห็นหรือว่าผู้พันวรุฒม์นิ่งจะตาย" ภีรวัสเตือน
"ไม่ได้หรอก ปล่อยไว้นานเดี๋ยวจะช้ำ ต้องกินตอนที่สดๆ" อิศราเปรียบเปรย "ได้ข่าวว่า..."
"ข่าวอะไร"
อิศราถอนหายใจ "ที่ท่านนายพลมานี่ก็เพราะมารับงานต่อจากผู้พันวรุฒม์นะสิ ผู้พันของเราจะย้ายกลับกรุงเทพฯ แล้ว เซ็งจริงๆ"
ภีรวัสนิ่ง สมองเริ่มคิดว่าจะทำอย่างไรดี สิ้นเดือนอิศราก็กลับกรุงเทพฯ เขาต้องอยู่ต่ออีกหนึ่งเดือน พลก็ย้ายมาอยู่ที่นี่และก็คงไม่ยอมปล่อยให้เขาอยู่เฉยๆ แน่นอน ส่วนอิศราเมื่อกลับกรุงเทพฯ แล้วก็คงไม่ปล่อยผู้พันวรุฒม์เช่นกัน เมื่อครู่เขาเป็นประกายตาบางอย่างของอิศราดังจะบอกว่า คราวนี้ เพื่อนของเขาคงเตรียมตัวแหกกฎ หากควบคุมความต้องการของตัวเองไม่ได้
...กฏที่ว่า "หลอกให้รักแล้วหักอก และห้ามกลับไปคบกับคนที่ทิ้งไปแล้วโดยเด็ดขาด"

วรุฒม์ยืนมองพลอยู่เป็นเวลานานแล้วจึงเดินเข้าปา มือแตะไหล่อีกฝ่ายให้ตื่นจากภวังค์
"กำลังคิดว่าควรจะย้ายมาอยู่ที่นี่ดีหรือไม่ดีงั้นหรือพล" วรุฒม์ถามเพื่อนยิ้มๆ
"เลือกได้ที่ไหน" พลส่ายหน้า "เป็นลูกคนใหญ่คนโตก็ใช่ว่าจะดีนะ ถูกบีบจนใจจะขาดอยู่แล้ว"
"เป็นผู้บัญชาการกองพันฯ ใครบ้างไม่ชอบ"
"นายก็รู้ว่าเราชอบอยู่ในกระทรวงฯ ไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อถึงส่งเรามาไกลถึงขนาดนี้" พลถอนหายใจ
"หาประสบการณ์มั๊ง" วรุฒม์หัวเราะเบาๆ เมื่อนึกถึง 'ปูมหลัง' ของเหตุการณ์โยกย้าย
"พ่อแกล้งเรามากกว่า พ่อตั้งใจจะให้เราออกห่างจาก..." พลถอนหายใจแล้วเลิกพูด เปลี่ยนมาถามวรุฒม์เรื่องใหม่
"รุฒม์ ขอถามอะไรอย่าง นายคิดว่าไง ถ้าสมมุติว่านายเจอคนที่นายรัก แต่เขาไม่รักนาย"
"รักเขาข้างเดียว" วรุฒม์หรี่ตาใช้ความคิด แต่กลับถามพลแทนที่จะตอบคำถาม "ตกลงนายรักเขาข้างเดียวหรือเขารักนายข้างเดียว ผู้บัญชาการทหารบอกถึงได้ส่งลูกชายคนเล็กมาไกลถึงเพียงนี้"
"โธ่ ไม่ใช่เรื่องนั้นซักหน่อย นั่นมันเรื่องไร้สาระ" พลส่ายหน้าด้วยความเหนื่อยใจ "โอ๊ย เรื่องนั้นไม่อยากจะพูด"
วรุฒม์หัวเราะ เขารู้เรื่องของเพื่อนดี "พ่อนายทำถูกแล้วล่ะ ปัญหาของนายมันค่อนข้างละเอียดอ่อน ออกมาไกลจากเขาก็ดี พ่อนายจะได้จัดการอะไรๆ ได้ง่ายขึ้น"
พลถอนหายใจหนักๆ แล้วเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ไม้ตัวใหญ่หน้าบ้านพักของวุฒม์ ตาเหม่อหมองออกไปอย่างไร้จุดหมาย
"ไม่ใช่เรื่องนั้น" พลแย้ง "เรื่องอื่น"
"เรื่องอะไร เล่าให้เราฟังสิ" วรุฒม์ถาม
"เรายังบอกไม่ได้ เราแค่ถามความเห็นนาย"
วรุฒม์มองเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันอย่างครุ่นคิดก่อนจะตอบว่า "รักเขาข้างเดียวมันทรมานนะพล ถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยง ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องพยายามเลี่ยงเหมือนกัน"
"นายยังจะรักเขาหรือเปล่า ทั้งๆ ที่เขาก็ทำกับนายไว้เจ็บแสบ"
"สรุปแล้ว ตอนนี้นายกำลังรักใครบางคนแต่เขาไม่รักตอบ หนำซ้ำยังทำให้นายเจ็บ" วรุฒม์สรุป "มิน่า ตอนปลายปีที่หายๆ ไปก็เพราะอย่างนี้ใช่ไหม ไม่เล่าให้กันฟังเลยนะ"
"เรื่องมันน่าอาย ใครจะกล้าเล่า" พลเหยียดปาก "อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้ ไม่เคยนึกเลยนะรุฒม์ ทันทีที่เราบอกรักเขา ไม่กี่วันหลังจากนั้น เขาก็ทิ้งเราเลย หายหน้าไปเฉยๆ ตัดเยื่อไม่เหลือใยแม้แต่นิดเดียว ทั้งที่ก่อนหน้านี้รักกับเราอย่างดูดดื่ม เขาเป็นอะไรของเขาก็ไม่รู้ เราก็ไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วตอนนี้ก็มาบอกเราว่าไม่พร้อม ร้ายกาจจริงๆ แต่เราก็ยังรักเขาอยู่ ไม่รู้ว่าทำไม"
"ใจคนมันสลับซับซ้อน นายมาคิดวิเคราะห์มันให้กระจ่างชัดภายในวันสองวันหรือเดือนสองเดือนไม่ได้หรอก ตอนนี้ไปนอนก่อนเถอะ วันหลังค่อยคิดต่อ" วรุฒม์ปลอบเพื่อน ชักจะรู้สึกว่าพลอาการหนักกว่าที่คิด ปกติพลเป็นคนร่าเริง แต่เขาสังเกตว่า เจอพลคราวนี้ เพื่อนของเขาเปลี่ยนไปมาก
"ใช่ เราไม่เข้าใจเขาจริงๆ เขาซับซ้อนจริง" พลเสียงทุ้มต่ำ พยายามเก็บกดอารมณ์
"เอาเถอะ อีกหน่อยนายก็จะรู้สึกดีขึ้นเอง เวลามันก็น่าจะช่วยได้นี่ อยู่ที่นี่เงียบสงบ แต่อย่าปล่อยให้ใจฟุ้งซ่านมากนักก็แล้วกัน เบื่อก็ชวนวิษณุไปหาอะไรทำ แต่ว่ารายนั้นช่วงนี้ก็ไม่ค่อยว่างเท่าไหร่ เขากำลังยุ่งเพราะไปปิ๊งคนน่ารักสองคนพร้อมๆ กัน ตัดสินใจเลือกใครไม่ได้เหมือนเคย"
พลยิ้มมุมปาก ก่อนจะพูดขึ้นมาเบาๆ ว่า "อย่าให้เป็นเหมือนเราก็แล้วกัน เตือนๆ วิษณุไว้ด้วย นายเองก็เถอะ"
วรุฒม์มองพลนิ่งอยู่ชั่วครู่ ในใจรู้สึกสงสัยว่าพลหมายความว่าอย่างไร ทำไมจะต้องระวัง
...หรือบางทีพลแค่จะเตือนเพือนเพราะตัวเองอกหักมาก่อน...
...เขาไม่เคยอกหักเพราะเขาไม่เคยรักใคร อย่างน้อยก็ไม่มีความสัมพันธ์กับใครจริงจังพอที่จะทำให้เสียใจได้เมื่อเลิกคบกัน...
...เวลาอกหักนี่ มันเสียใจมากเพียงใดกันนะ...
...เวลาผิดหวังในความรัก มันเจ็บปวดแค่ไหน ทำไมพลถึงดูเศร้าได้ถึงเพียงนี้ แล้วใครทำให้เพื่อนเขาเสียใจ...


บทที่ 9  ยังมีต่อ ขอไปล้างรถมอเตอร์ไซด์ก่อนนะคร้าบ เดี๋ยวสก๊อยส์ไม่กล้านั่งเพราะกลัวก้นเปื้อน  :z1:  :m20:

gboy

  • บุคคลทั่วไป

 :z13:
 :z13:
 :z13:
จิ้ม
จิ้ม
จิ้ม

 o22
เยอะอะ


ออฟไลน์ Resonance

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
กำลังใจก่อนสอบ  5555    o13

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
ต่อ บทที่ 9 จนจบครับ

อิศรานอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง สลับกับการถอนหายใจเบาๆ เป็นระยะจนคนที่นั่งอยู่บนพื้นใกล้ๆ อดบ่นไม่ได้
“รูจมูกตีบตันเฉียบพลันหรือไงอิศรา พ่นลมหายใจอยู่ได้ กระดาษเราปลิวกระจัดกระจายหมดแล้ว” ภีรวัสพูดเกินจริงๆ มือวางเอกสารรอบๆ ตัวเพื่อเรียงให้เป็นระเบียบ แล้วเขียนหมายเลขกำกับ
“เอหนึ่ง เอสอง เอสาม เอสี่ไปไหนวะ” ภีรวัสพึมพำ “บีหนึ่ง บีสอง...”
“ผู้พันวิษณุนี่จะเอายังไง ดูไปก็ชอบนาย แต่ดูอีกทีก็เหมือนจะจีบเรา นี่กะจะฟันเราทั้งสองคนเลยหรือนี่" อิศราทำเสียงสงสัย
“เจ้าชู้ ดูก็รู้ว่าเจ้าชู้แบบเนียนๆ ตาวิบวับขนาดนั้น ซีห้า ซีหก ซีเจ็ด กราฟศูนย์หนึ่ง กราฟศูนย์สอง ชิบหาย กราฟศูนย์สามหมึกไม่ชัด” ภีรวัสตอบอิศราแล้วเรียงเอกสารต่อ
“ที่น่าเจ็บใจก็คือผู้พันวรุฒม์ก็ดูเหมือนจะช่วยเพื่อน เช้าวันนี้มาชวนเราออกไปเที่ยว แล้วถามถึงนายว่าอยู่ไหน ตอนก็แรกก็นึกว่าอยากจะเจอนาย เรารึอุตส่าห์หึง ที่ไหนได้ จะมานัดนายให้ผู้พันวิษณุ”
“แล้วไม่ดีหรือ” ภีรวัสตอบแล้วนับหมายเลขเอกสารต่อ
“ก็คงดีหรอก” อิศราพูด เอียงคอคิด แล้วลุกขึ้นนั่ง มองภีรวัสตาไม่กะพริบ “แต่ว่าเรารู้สึกทะแม่งๆ เมื่อกี้ตอนที่ยูอาบน้ำ ผู้พันโทรมา ไอรึก็หลงดีใจ แต่กลับมานัดไอให้ผู้พันวิษณุเสียนี่ ยิ่งเล่ายิ่งงง ยูมีสมองมากกว่า ลองวิเคราะห์ ให้หน่อยซิว่ามันหมายความว่ายังไง”
“สอง ฮื่อ ทำไมสอง” ภีรวัสพึมพำ
“หรือว่าผู้พันวรุฒม์กะจะฟันเราทั้งสองเหมือนกัน” อิสราพูดโพล่งขึ้นมาเสียงดังในทันใด
“ไอ้เตี้ย หยุดพูดได้ไหมวะ ข้านับเลขผิดหมดแล้ว” ภีสวัสตวาด โยนปากกาลงบนพื้น
“นับยากที่ไหน แกนับอยู่แค่เอหนึ่ง เอสอง บีหนึ่ง บีสอง ไม่เห็นถึงเอ็กซ์ วาย แซดซักที” อิศรากระแทกเสียง “มาช่วยกันคิดก่อน เดี๋ยวคืนนี้นอนไม่หลับ ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเสียตัวให้ใครก่อนดีระหว่างผู้พันวิษณุผู้ร่าเริง หรือผู้พันวรุฒม์ผู้เคร่งขรึม หรือว่า พร้อมกันเลย เป็นทรีซัม”
“ไอ้ศาลาวัดเอ๊ย คิดแบบนี้ไง สมองเลยเหลือให้ใช้สำหรับวิเคราะห์เพียงน้อยนิด” ภีรวัสส่ายหน้า
“หรือแกว่าไม่แปลก”
“แปลกนะแปลก” ภีรวัสยักไหล่ “แต่ไม่เห็นจะเป็นปัญหานี่นา หรือแกกลัวแพ้”
“เราแค่สงสัย” อิศราถอนหายใจ แล้วเอนตัวลงนอนก่อนจะเงียบไป
...เราก็สงสัยเหมือนกันอิศราเอ๊ย ขอบใจนะที่เปิดประเด็นขึ้นมา...
...วรุฒม์ไม่ใช่คนโง่ และท่าทางฉลาดกว่าที่เห็นด้วย แต่ศึกครั้งนี้เขาแพ้ไม่ได้ ต่อให้มีวรุฒม์เรียงหน้าเข้ามาเป็นกองทัพ ภีรวัสก็แพ้ไม่ได้...
...เกมนี้น่าจะเรียกได้ว่าสุดยอดแห่งเกมตั้งแต่เคยเล่นมา...

ภีรวัสตัดสินใจว่าเขาน่าจะเป็นฝ่ายบุกและลองเล่นเกมรุกดูสักครั้ง แทนที่จะนั่งใจตุ้มๆ ต่อมๆ รอว่าจะเกิดอะไรขึ้น พลซึ่งเป็นตัวแปรคนสำคัญก็ไม่น่าไว้วางใจ ตอนนี้อาจจะยังไม่ปริปาก แต่ใครจะรู้แน่ หากเขาทำอะไรโจ่งแจ้ง แสดงให้พลเห็นอย่างชัดเจนว่ากำลัง ‘หว่านเสน่ห์’ ให้วิษณุรัก พลอาจจะไม่อยู่เฉยก็ได้
ภีรวัสยืนอยู่หน้าอาคารเล็กๆ ในค่ายศรพิทักษ์ซึ่งเป็นหน่วยแพทย์ทหาร แต่เป็นที่เรียกกันว่า โรงพยาบาลทหาร วันนี้ดูแปลกไปเพราะมีคนเดินเข้าออกกันวุ่นวาย ชายหนุ่มเดินเข้าไปในอาคาร มุ่งตรงไปยังห้องตรวจของพันตรีนายแพทย์วิษณุ แต่ครั้นพ้นหัวมุมทางเดินก็ต้องชะงักเมื่อร่างสูงสง่าของนายทหารในชุดพรางสีเขียวซึ่งยืนอยู่กลางทางเดินหันมาเห็นและทักเขาด้วยเสียงอ่อนโยน
...วรุฒม์ ไหนอิศราบอกว่าวรุฒม์ชวนไปเที่ยว ตอนนี้ได้เวลาเลิกงานแล้วนี่นา...
“ไม่สบายหรือครับ” วรุฒม์เดินเข้ามาใกล้
ภีรวัสแกล้งไอ ทำท่าเจ็บคอเล็กน้อย แล้วเงยหน้าขึ้นยิ้มบางๆ ให้นายทหารรูปหล่อ
“วิษณุไม่ว่างครับ กำลังอยู่ที่ห้องฉุกเฉิน พอดีมีอุบัติเหตุ บาดเจ็บกันหลายราย หมอกำลังช่วยกันอยู่”
“ทหารโดนลูกระเบิดกับหรือครับ” ภีรวัสไม่รู้จะถามอะไร จึงโพล่งออกไปโดยไม่คิด นึกถึงทหาร เขาก็นึกถึงรถถังกับปืนกลและระเบิด...
วรุฒม์หัวเราะเบาๆ แล้วปฏเสธ บอกว่ารถของทหารอาสาประสบอุบัติเหตุตกเขา มีผู้บาดเจ็บสาหัสกันหลายคน แพทย์กำลังทำงานช่วยเหลือคนเจ็บอย่างเต็มที่
“ผู้พันก็คงไม่ว่าเพราะมีเรื่องนี้ เลยพาอิศราไปเที่ยวไม่ได้” ภีรวัสพูดเบาๆ
“ผมโทรไปบอกคุณอิศราแล้ว” วรุฒม์ตอบยิ้มๆ แล้วถามภีรวัสว่า “แล้วนี่อาการเป็นยังไงบ้างครับ ผมว่าไปหาหมอกันเถอะ โรงพยาบาลอำเภอก็อยู่ไม่ไกล เดี๋ยวผมจะพาไป”
“ไหนว่าผู้พันยุ่ง”
“ตอนนี้ไม่ยุ่งแล้วครับ ตอนที่บอกคุณอิสรานั้นน่ะยุ่งจริง คุณอิศราเลยไปกับพลแทน ไม่รู้ว่าเคยรู้จักกันมาก่อน คุณอิศราอยากถ่ายรูปแม่น้ำ พลเลยอาสาพาไป”
...ไปกับพลหรือ พลจะพูดอะไรกับอิศราบ้าง แล้วอิศราจะเฟอะฟะพูดอะไรออกมาแบบไม่คิดหรือเปล่า ปากยิ่งไม่มีหูรูดอยู่ด้วย...
“อ้อ พลรู้จักคุณภีรวัสด้วย โลกกลมจังเลยนะครับ ไม่นึกเลยว่าจะมาเจอกันได้กลางป่ากลางเขาแบบนี้”
...เห็นด้วย กลมจริงๆ กลมจนอยากเตะให้เหมือนลูกบอล...
“ผมอาการดีขึ้นแล้วครับ” ภีรวัสยิ้ม
อาการดีขึ้นเร็วนะครับ” วรุฒม์เปรย
“พอเข้ามาในโรงพยาบาล ได้กลิ่นยาก็รู้สึกดีขึ้นเลยครับ” ภีรวัสหัวเราะเบาๆ กับการพูดเล่นของตัวเอง “ที่จริงไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่รู้สึกปวดหัวนิดหน่อย จะหาหมอก็กระไรอยู่ อีกอย่างที่นี่โรงพยาบาลทหาร เขาไม่ตรวจพลเรือนไม่ใช่หรือครับ”
“ถ้าพลเรือนชื่อภีรวัส ผมว่าแพทย์ทหารชื่อวิษณุตรวจแน่ๆ ครับ” วรุฒม์หัวเราะเบาๆ แล้วผายมือเชิญให้ภีรวัสเดินออกไปอีกทาง แล้วพูดขึ้นว่า “ผมจะเข้าป่าพาทหารเข้าไปฝึกปฏิบัติการเกือบสองอาทิตย์ คงไม่ได้เจอคุณภีรวัสกับคุณอิศรา”
“อะไรนะ ไม่ได้นะ” ภีรวัสเผลออุทาน แต่ก็รีบกลบเกลื่อนว่า “เอ่อ ผมหมายความว่า อะไรนะ”
“ตอนแรกนึกว่าจะสบาย รอพลมาเปลี่ยนงาน ไม่ค่อยมีอะไรทำ แต่ผู้บังคับบัญชาสั่งมา ผมก็ต้องไป”
“แล้วผู้พันวิษณุ...” ภีรวัสห่วงตัวเอง
“ไม่ไปครับ มีเฉพาะผมกับพล”
...ไชโย คราวนี้วิษณุเสร็จเขา อิสราแพ้เห็นๆ ผู้พันวรุฒม์เข้าป่าสองอาทิตย์ โอกาสจะตกหลุมรักและบอกรักอิศราก็หมดไป...
...แต่ว่า พลอยู่กับวรุฒม์สองอาทิตย์แบบนั้น เกิดพลไม่รักษาสัญญา หลุดปากพูดอะไรไปล่ะ...
...จะแคร์อะไร กว่าวรุฒม์จะกลับมา เขาเชื่อว่าวิษณุต้องลงเอยกับเขาเรียบร้อยแล้ว เขาก็จะกลายเป็นผู้ชนะเกมรอบนี้ จากนั้นก็โยนทิ้งไปเหมือนคนอื่นๆ ที่ผ่านมา กลับกรุงเทพฯ อิสรากับเขาก็หาเหยื่อยรายใหม่อีก

*****9****

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
บทที่8 ช่วงแรกๆ ตาลาย ปวดตาไปหมดเลย :z3:
อ่านแล้วเวียนหัวแทนคนเจ้าชู้ อีรุงตุงนังดีแท้ๆ o18

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






mecon

  • บุคคลทั่วไป
 :serius2:
อะไรเนี่ย มึนมากมายคะ ถ้าสองหนุ่มไปเข้าป่า
แล้วไมหมอวิษณุต้องเสร็จภีร์ด้วยล่ะ อ้าวแล้วไหน
บอกว่าจะแข่งกันจีบวรุตม์ไง แล้วตอนนี้ไม่จีบแล้วรึ
หันมาแข่งกันจีบกับอิศราที่จะจับวรุตม์แทน กรี๊ดดดมึนๆงงๆ
รู้เกมส์เปลี่ยนไปตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย เพราะมีพลเป็นตัวแปรชิมิ
แผนเลยต้องเปลี่ยนตามอ่ะ คือเมนหลักนะคือผู้พันวรุตม์แน่ๆ
แต่มีหมอวิษณุมาขั้น แ้ล้วไหนจะผู้พันพลอีก เลยต้องจัดการหมอก่อน
เพราะอีกสองหน่อนั่นไม่อยู่ อิศราก็จะหง่าวรอผู้พันวรุตม์เกมส์นี้ไม่ง่ายแหะ
ซับซ้อนด้วย
แต่ว่าคุณภีร์เนี่ยร้ายมากๆ น่าสงสารอิศรานะ โดนด่าว่า "ไอ้เตี้ย" อ่ะโคดน่าสงสาร
แต่ได้ใจคำว่  "ด ทหาร "  :m20: :m20: คนอ่านจะบ้าตายคิดได้ไงคะ สุดยอดด

+1 จัดให้คะ สู้ๆนะคะไปล้างรถมอไซด์ขัดให้สะอาดๆ ขัดเบาะให้ลื่นๆนะคะ
เวลาเบรคน้องสก๊อตจะได้ไหลมาตามเบาะ หุหุ ของชอบชิมิคะ :z1:

crazy Y

  • บุคคลทั่วไป
ตอน 8 นี่งงๆเหมือนรีบน ค่ะ

 ภี บอกว่าต้องจีบ ผู้พัน วิษณุให้ได้ใน 1 เดือน  แต่ช่วงแรก ไม่ใช่นี่นา โอ๊ย สวยงง ค่ะ

เอ๊ะรึว่าอ่านข้ามตอนไหนไป   ต้องกลับไปอ่านใหม่แระ

ว่าแต่ว่า พลนี่ น่าสนใจนะ  หึหึ

morrian

  • บุคคลทั่วไป
 :really2:

มึนๆงงๆ คับ รึว่าผมอ่านข้ามตอนไหนไปรึเปล่าหว่า  :m28:

ผมเข้าใจว่า สองคนจะแย่งกันจีบวรุตม์ แล้วไหง ภีร์ ถึงจะพิชิต วิษณุ ไปซะแล้วล่ะ

อืม ๆๆ หรือว่าเปลี่ยนเกมใหม่ แข่งกันจีบ แทนที่จะ แย่งกันจีบใช่มะคับ

 :z2:

ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
มาแปะไว้ก่อนแต่ก็ชักจะงงแล้วครับ สองหนุ่มเนี่ยตกลงจะจีบใครกันแน่วรุฒหรือวิษณุกันแน่แล้วมาเฉลยหน่อยนะครับ ขอบคุณครับแล้วอย่ามัวแต่ล้างมอร์ไซด์เพลินล่ะ

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
มาแปะไว้ก่อนแต่ก็ชักจะงงแล้วครับ สองหนุ่มเนี่ยตกลงจะจีบใครกันแน่วรุฒหรือวิษณุกันแน่แล้วมาเฉลยหน่อยนะครับ ขอบคุณครับแล้วอย่ามัวแต่ล้างมอร์ไซด์เพลินล่ะ

ตอนกลางๆ บทที่เจ็ดครับ สองหนุ่มเปลี่ยนกฏใหม่หลังจากที่พลโผล่เข้ามา แข่งกันจีบ โดยมีเดิมพันเป็น เทรดมิลล์หนึ่งเครื่อง
ต่อไปก็ก็มีพลิกเกมอีกครับ อ่านดีๆ นะ
แต่ก็อย่างว่าล่ะ ผู้อ่านคงอายุมากกันแล้วใช่ไหมเนี่ย เลยจำเนื้อเรื่องไม่ค่อยได้เนอะ

mecon

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] เกมหัวใจ:
«ตอบ #115 เมื่อ15-09-2009 20:41:24 »

ู^
^

ตอนกลางๆ บทที่เจ็ดครับ สองหนุ่มเปลี่ยนกฏใหม่หลังจากที่พลโผล่เข้ามา แข่งกันจีบ โดยมีเดิมพันเป็น เทรดมิลล์หนึ่งเครื่อง
ต่อไปก็ก็มีพลิกเกมอีกครับ อ่านดีๆ นะ
แต่ก็อย่างว่าล่ะ ผู้อ่านคงอายุมากกันแล้วใช่ไหมเนี่ย เลยจำเนื้อเรื่องไม่ค่อยได้เนอะ

:a14: :a14: ชิส์
ถึงจะรักคนแต่งแต่ขอนิดส์คะ  :beat: :z6:
ทำร้ายจิตใจคนอ่าน  :o12: ไม่ได้ร้อนตัวนะแต่...  :angry2:
"วันนี้แกเป็นคนเสนอเปลี่ยนแผน งั้นก็เอาฤกษ์ของวันนี้" อิศราไม่ยอม "และวันนี้แกก็ไปกับหมอวิษณุ ก็ให้ถือว่าเป็นไปตามสถานการณ์ของวันนี้"
"จะเอาผู้พันวรุฒม์ให้ได้ใช่ไหมอิศ" ภีรวัตม์เสียงแข็ง ยกมือขึ้นกอดอก
"ฮื่อ" อิศราพยักหน้า ทำตาหลุกหลิก มองซ้ายมองขวา บิดตัวไปมา
ภีรวัสหรี่ตาลงช้าๆ ลองอิศราได้แสดงท่าทางแบบที่กำลังทำอยู่ตรงหน้าขณะนี้ ยังไงเพื่อนเขาก็ไม่ยอม อาการแบบนี้เขาคุ้นดีตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลาย เขารู้ดีว่าอิศรากำลังสื่อว่า "ไม่สน ฉันจะเอา ฉันไม่ยอม"
"ได้" ภีรวัสยื่นหน้าเข้ามาใกล้ "ภีรวัสไม่หวั่นหรอก"
"หนึ่งเดือน"
"กฏเดิม" ภีรวัสย้ำ
"ใครแพ้ เทรดมิลล์หนึ่งเครื่อง" อิศราตกลงเรื่องเดิมพัน
"ยี่ห้อตามแต่คนชนะจะเลือก"
"ได้"

อ้อสรุปว่าตอนนี้ต่างคนต่างจีบรึ คุณภีร์ต้องจีบหมอวิษณุ ส่วนอิศราจีบวรุตม์
ให้ได้ภายใน 1 เดือนรึคะ กรี๊ดดดดดดดดดเพราะมีผู้พันพลมาแทรก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-09-2009 20:55:47 โดย mecon »

ออฟไลน์ Resonance

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
จะบอกว่าเรา จำชื่อตัวละครไม่ได้ -*- ไม่เป็นหนักกว่าหรอกหรอ   

กว่าจะนึกได้ว่าใครเป็นใครเนี่ยะ อ่านเลยไปค่อนตอนเห็นจะได้     :z2:

ออฟไลน์ astral

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-5
คิคิ

อิศราอุทานแก่มากอ่ะพี่นาย 55555

 :laugh:

teenza

  • บุคคลทั่วไป
 o2
โอย เปลี่ยนกฎไปมาตามแทบไม่ทัน ต้องเกาะติดสถานการณ์กันทุดชอตเลยทีเดียว
แต่แหมเกมหลอกให้รักแล้วทิ้งนี่ มันน่าโดนตลบหลังจริงๆ ยังงี้ต้องให้ทหารรูปหล่อทั้งสาม  :impress2:จัดการตลบหลังโลด

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
เกมส์นี้ยุ่งเหมือนลิงแก้แหเลยพี่นาย

เป็นกำลังใจให้เสมอนะครับ สู้ต่อไปอย่าทิ้งนะครับเรื่องเรียน เสียดาย

+1 ให้อีกเช่นเคย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด