¤ø,¸¸,ø¤จดหมายจากเพื่อนรัก¤ø,¸¸,ø¤ by M@nfaNG **กลับบ้านเรา**25/01/12
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ¤ø,¸¸,ø¤จดหมายจากเพื่อนรัก¤ø,¸¸,ø¤ by M@nfaNG **กลับบ้านเรา**25/01/12  (อ่าน 217789 ครั้ง)

สาวบ้านนอก

  • บุคคลทั่วไป
(ตอนที่๑๘)

พอเข้าบ้านมาแล้วต้องใช้เสียงค่อยๆครับไม่งั้นแม่ผมตื่นมาว่าแน่ๆที่กลับมาในสภาพนี้  เราค่อยๆย่องขึ้นบ้านอย่างเงียบๆ  ผมไล่ให้ไอ้ใหญ่ไปอาบน้ำก่อนส่วนผมก็นั่งรอมัน  ตอนนี้ตาสว่างแล้วครับเลยได้แต่นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย เมื่อก่อนผมมีโอกาสเห็นหน้ามันทุกวันเจอกันตลอดเวลา   จนบางครั้งมีความรู้สึกเห็นไอ้ใหญ่ก็เหมือนเห็นตัวเอง  คือใส่ใจบ้างไม่ใส่ใจบ้างรู้แต่ว่าอยู่ตรงนั้น  แต่พอมันแยกไปอยู่ไกลๆในบางครั้งผมก็คิดแวบขึ้นมาว่าชีวิตผมไม่เหมือนเดิมมันมีอะไรบางอย่างหายไป  เรื่องนี้มันกวนใจผมอยู่เสมอๆ ผมก็หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้  

จนกระทั่งผมไปหาใหญ่ที่เชียงใหม่ ผมถึงรู้ว่ามันมีความหมายในชีวิตผมมากจริงๆ  มันคงจะจริงที่ว่าบางครั้งสิ่งต่างๆเมื่ออยู่ใกล้เราจนเกินไป บางทีเราก็ละเลยมองไม่เห็นค่าของมัน  ต้องให้อยู่ห่างออกไปเราถึงจะมองได้ชัดเจนขึ้น  เหมือนคนที่สายตายาวจะเห็นได้ชัดเมื่อมองระยะไกล   ผมคงจะเป็นแบบนั้นเหมือนกัน  

การลาจากเพราะเราอยู่ไกลๆกันมันทำให้เราเหงาและคิดถึงกันก็จริง แต่มันทำให้เรารู้ถึงคุณค่าของกันและกันเมื่อเราได้มาเจอกันมากกว่าครั้งที่เราอยู่ด้วยกันทุกๆวันเสียอีก
“คิดอะไรอยู่เหรอมึง  หรือว่าหลับไปแล้ว”ไอ้ใหญ่มานั่งข้างๆผม กลิ่นสบู่อ่อนๆหอมๆทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายขึ้นแต่ผมก็ยังไม่ง่วง “คิดอะไรเล่นๆ มึงง่วงรึยังล่ะ จะตี1อยู่แล้ว”
ไอ้ใหญ่ตอบผมตาใส “ไม่ง่วง อาบน้ำเข้าไปกูตื่นเลย  ทั้งที่ทีแรกจะหลับให้ได้เลย ไหนมึงเล่าให้กูฟังซิว่าคิดเรื่องอะไรกัน”ไอ้ใหญ่มันสระผม เลยวุ่นวายกับการเช็ดผมให้แห้ง  
“กูเป่าให้เอามั้ย กูมีไดร์นะ รอเดี๋ยว” ไอ้ใหญ่รีบปฏิเสธแต่ผมก็จัดการไปหยิบมาเป่าให้มัน “มึงอยู่เฉยๆ กูจัดการเอง”

เส้นผมของไอ้ใหญ่เส้นเล็กละเอียดนุ่มมือ  เส้นผมยาวขึ้นไปกว่าเดิมมาก กลิ่นหอมของแชมพูสระผมลอยเข้าจมูกผม “มึงจะไว้ผมยาวเหรอ ไว้ยาวๆเหมือนดูเหมือนผู้หญิงเลย”
 ไอ้ใหญ่หัวเราะ “เปล่า...เพียงแต่กูไม่มีเวลาไปตัด แต่ถ้าเหมือนผู้หญิงไม่ดีเหรอ ไว้ผมยาวหน้ากูจะได้ดูหวานๆด้วยไง”
แต่ผมไม่เห็นด้วย “มึงไม่ใช่ผู้หญิงมันจะดีไปได้ยังไง ชอบคิดอะไรแปลกๆ”  

ไอ้ใหญ่บ่นพึมพำ “มึงนี่นอกจากจะดุแล้วยังเอาใจยากอีกด้วยนะ” ผมเอามือผลักหัวมันแรงๆ “เงียบไปเลยมึง ให้กูเป่าให้เสร็จก่อน” ใช้เวลาเป่าไม่กี่นาทีผมมันก็แห้ง ไอ้ใหญ่ได้ทีไล่ผมไปอาบน้ำ
“มึงไปอาบน้ำก่อน กูเหม็นตัวมึงจะแย่แล้ว แล้วรีบมาคุยต่อกับกู....กูจะพยายามไม่หลับ แต่เมื่อกี้ตอนมึงเป่าผมให้กูมันอุ่นๆสบายว่ะ  กูเริ่มเคลิ้มๆแล้ว”
“เออๆ...มึงรอกูก่อนนะอย่าพึ่งนอนล่ะ”ผมรีบวิ่งไปอาบน้ำ สระผม ยังอยากคุยอะไรกับไอ้ใหญ่ตั้งมากมาย แต่พออาบน้ำเสร็จไอ้ใหญ่กลับนอนหลับอยู่บนเตียงไปแล้ว

“ไรว้าหนีกูไปนอนก่อนได้ไง” ตอนนี้ผมไม่ง่วงเลยแล้วมันจะมาหนีไปนอนก่อนแล้วผมจะคุยกับใคร ผมเลยไปเขย่าตัวมันให้ตื่น “ใหญ่ๆ..ตื่นๆๆ มึงมาคุยกับกูก่อนไหนว่ามึงอยากรู้ว่ากูนั่งคิดเรื่องอะไรอยู่ไงล่ะ มึงหลับแล้วเหรอ”
ไอ้ใหญ่ตอบผมทำตาปรือๆ“กูใกล้หลับแล้ว  กูอยากคุยแต่ตากูจะปิดแล้วนี่....โอ๊ววว...” มันหาวขึ้นมาอีกครั้งแล้วก็หลับตาลง
“ก็กูยังไม่ง่วงนี่”ผมพยายามเขย่ายังไงมันก็ไม่ยอมลุก จนปัญญาเลยต้องล้มตัวลงนอนข้างๆมัน
“หูย...เซ็งเลย กูอุตส่าห์รีบอาบ  งั้นมึงฟังแล้วกันกูพูดเอง” ยังไงผมก็ยังมีความพยายามอยู่ดีครับ
 “เออ...กูลืมเอากุหลาบมาโรยเตียงอย่างที่มึงว่า”ผมผลุดลุกขึ้นมาอีกแล้วพยายามดึงแขนทั้งสองข้างของไอ้ใหญ่ให้มันนั่งขึ้นมาจนได้ คราวนี้มันนิ่วหน้าแล้วแต่ก็ยังไม่ยอมตื่นอยู่ดี นั่งตัวโยกโงนเงนไปมาผมต้องดึงมือมันไว้ไม่ให้นอน

“นี่ๆ...กูไม่ได้เอากุหลาบโรยบนเตียงนะ มึงไม่ลุกมาบ่นกูเหรอ”ผมยกเอาเหตุผลบ้าๆมาหลอกมัน แต่มันก็ไม่สนใจสะบัดมือผมออกแล้วล้มตัวลงนอนต่อ แต่ก็ยังพูดอมยิ้มทั้งๆหลับตาว่า“ไม่เป็นไร เอาไว้เราเข้าหอค่อยโรยก็ได้ กูจะนอนนนนน.....”

ท่าทางคืนนี้คงไม่ได้คุยกันแน่ อาจจะเป็นเพราะเบียร์ที่ดื่มเข้าไปเลยทำให้ไอ้ใหญ่มันง่วงมากกว่าปกติ ผมล้มตัวลงนอนไปข้างๆมันอีกครั้ง  แต่ก็ยังข่มตาไม่หลับกลิ้งตัวพลิกไปพลิกมา ในขณะที่คนข้างๆหลับสนิทไปแล้ว ได้ยินเพียงเสียงลมหายใจสม่ำเสมอ
ผมเอามือก่ายหน้าผากเพราะเตียงมันเล็กเกินไปสำหรับผู้ชายสองคนที่จะนอนด้วยกัน ถ้าเอาแขนลงมาตัวของเราก็จะเบียดกันเกินไป  ผมไม่รู้ว่าอะไรทำให้ผมไม่หลับและอยากจะพูด ถึงแม้จะไม่มีใครฟังก็ยังอยากพูด

“แปลกนะใหญ่ แต่ก่อนที่เราอยู่ด้วยกันตลอด กูไม่เคยคิดมาก่อนเลยนะ ว่าเวลามึงไม่อยู่กูจะคิดถึงมึงขนาดนี้”
“แต่นั่นไม่เท่าตอนที่กูรู้ว่ามึงเกิดอุบัติเหตุ มึงรู้มั้ยกูตกใจมากเลยนะ  พออ่านจดหมายกูเป็นห่วงมาก  กลัวว่ามึงจะเป็นอะไรหรือเปล่า” เหมือนผมจะเมาจริงที่พูดอยู่คนเดียวก็ได้  แต่ผมก็พูดต่อไปครับ

“วันนี้ก็เหมือนกัน กูอารมณ์แปรปรวนตลอดเวลาก็เพราะมึง  กูเป็นอะไรไป กูคงบ้าไปแล้วแน่ๆ หึหึ”ผมพลิกตัวนอนตะแคงหันไปดูไอ้ใหญ่  ก็พอดีกับที่มันขยับตัวมาด้านข้างหันหน้ามาทางผมพอดี  แสงจันทร์จากภายนอกลอดเข้ามาในห้องทำให้ผมพอเห็นหน้าไอ้ใหญ่ลางๆ  ตัวมันเองก็หลับสนิทเลยเปิดโอกาสให้ผมได้นอนมองสำรวจหน้ามันง่ายๆ  ตอนที่ใหญ่นอนหลับดูเหมือนเพื่อนกวนๆคนเดิมของผม อาจจะมีแค่ความรู้สึกของผมเองก็ได้   ที่เมื่อมองมันต่างหากล่ะที่เปลี่ยนไป  แต่ผมก็มีความสุขกับช่วงเวลานี้  เวลาที่มันเป็นของผมอย่างแท้จริงไม่มีใครมาแบ่งไปจากผมได้ ผมรำพึงกับตัวเองเบาๆ
“ตอนนี้กูก็คงบ้า พูดคนเดียวก็ได้”

    ไม่รู้เป็นว่าเป็นมนตราของแสงจันทร์ หรือฤทธิ์ของเบียร์ทำให้ผมใจกล้าเอื้อมมือไปที่หน้าไอ้ใหญ่  นิ้วของผมค่อยๆแตะลูบไล้ไปบนใบหน้ามัน สัมผัสอันแผ่วเบาไม่ได้ทำให้มันตื่นขึ้นมา  ผมนึกถึงตอนที่ริมฝีปากขยับพูดในขณะที่นิ้วของผมแตะอยู่  ริมฝีปากที่มีรอยยิ้มให้ผมอยู่เสมอ  ผมค่อยๆเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าที่ยังหลับใหลเหมือนผมละเมอ  ในสมองผมว่างเปล่ารู้แต่ว่าทุกความเคลื่อนไหวมันมาจากใจของผมโดยไม่ผ่านสมองคิดหาเหตุผลอีกต่อไป  ริมฝีปากของผมสัมผัสกับริมฝีปากแดงๆของไอ้ใหญ่อย่างแผ่วเบา  ผมเข้าไปใกล้จนลมหายใจของเราใกล้กัน ผมไม่กลัวว่ามันจะตื่นแค่ทำความต้องการของผมในตอนนี้ที่ไม่มีอะไรมาหยุดไว้ได้

ไม่ได้มีแรงผลักทางเพศใดๆที่ทำให้ผมทำไปแบบนั้น เป็นเพียงรู้สึกอยากสัมผัส ความรู้สึกดีๆที่ผมอยากจะทำกับใหญ่  
 ผมเลื่อนปากมาสัมผัสที่แก้มของมันต่ออย่างย่ามใจ  กลิ่นสะอาดของแป้งเด็กอ่อนๆทำให้ผมรู้สึกดีและไม่อยากหยุด  ไอ้ใหญ่ย่นจมูกเอามือมาปัดที่ปากที่หน้าเหมือนรำคาญที่ผมไปรุกรานกับร่างกายของมัน   แต่ก็ยังนอนขี้เซาไม่ยอมตื่นมารับรู้อะไร   ผมหัวเราะเบาๆกับตัวเองแล้วผละออกจากมันอย่างเสียดาย  ไม่อยากกวนคนนอนหลับอีกต่อไป  แต่ก็ยังอยากที่จะนอนมองหน้ามันอยู่เงียบๆ

อากาศเริ่มเย็นลงไปอีกได้ยินเสียงฝนภายนอกที่ตกลงมาพรำๆ    ไอ้ใหญ่นอนขดตัวงอเป็นกุ้ง ผมดึงเอาผ้าห่มมาห่มให้มัน  แล้วสอดแขนเข้าไปใต้คอให้มันหนุน ใช้มืออีกข้างกอดตัวมันเอาไว้  ไอ้ใหญ่ขยับซุกตัวเข้าหาผมแล้วหลับอย่างสบาย ผมรู้สึกอบอุ่นในใจ ความสุขไหลรินเข้ามาในหัวใจผมอย่างเงียบๆจนเอาแต่นอนยิ้มไปคนเดียว   ผมคิดแค่วันตอนนี้วันนี้คืนนี้ผมขอทำแบบนี้ตามใจตัวเอง ถ้าพรุ่งนี้ไอ้ใหญ่มันตื่นขึ้นมาแล้วมันอาจจะโกรธผม  ผมก็ยอมรับผลของมันทุกประการ  

เมื่อมีไอ้ใหญ่ในอ้อมแขนผม ผมไม่ต้องพูดคนเดียวอีกต่อไปภาษาทางกายของผมมันกำลังพูดทุกอย่างที่ผมไม่เคยพูด ไม่เคยแสดงออกมา ใช้เวลาไม่นานเราต่างหลับสนิทไปทั้งคู่จนไม่รู้เลยว่าฝนหยุดตกไปตั้งแต่เมื่อไหร่

ช่วงนี้ฝนตกเกือบทุกวันโดยเฉพาะตอนเช้าๆอากาศกำลังสบายจนผมไม่อยากลุกจากที่นอนไปทำงาน  แต่วันนี้ผมกลับไม่รู้สึกหนาวซักเท่าไหร่แต่ความรู้สึกปวดเมื่อยแขนกลับเข้ามาแทนที่  แต่ตัวต้นเหตุคงจะไม่รู้สึกเพราะนอนยังนอนหลับสบายแล้วดูเหมือนจะนอนยิ้มเสียด้วยไม่รู้ว่าฝันดีอะไรกัน

  วันนี้ผมลางานจึงไม่ต้องรีบลุกไปอาบน้ำแต่งตัว ดูนาฬิกาพึ่งจะ6โมงกว่าๆแต่ผมก็นอนดึกตื่นเช้าเสียเคย เลยไม่อยากจะนอนต่อ  แสงแดดยามเช้าส่องผ่านเข้ามาทั่วห้องผมแล้ว  หลังจากเมื่อคืนผมแอบดูมันแบบมืดๆมาแล้วเช้านี้ผมเลยต่อภาค2ด้วยการพิจารณาไอ้ใหญ่อีกรอบ   ผมเอามือปัดเส้นผมที่ปรกหน้ามันออก  ก้มลงสูดดมความหอมที่ศีรษะของมัน เอานิ้วพันผมมันเล่นแล้วก็ลูบหัวมันไปยิ้มไป  มีความรู้สึกอยากให้มีเวลาแบบนี้นานๆ   ผมยังไม่อยากคิดว่าถ้ามันตื่นขึ้นมาในสภาพที่มุดอยู่ในอ้อมแขนผมมันจะว่ายังไงบ้าง  

ผมเอามือลูบแก้มมันเบาๆแก้มมันนิ่มเหมือนอย่างกับก้นเด็ก  อยากจะชะโงกหน้าไปหอมแก้มมันอีกเหมือนเมื่อคืนก็กลัวขยับตัวมากไปแล้วมันจะตื่น  แต่อ้อมแขนของผมยังคงโอบกระชับร่างของไอ้ใหญ่ไว้แน่น

ตอนนี้สติสัมปชัญญะของผมครบถ้วน แรงผลักจากเบียร์และความขลังของแสงจันทร์เมื่อคืนหมดไปแล้ว  อีกไม่นานไอ้ใหญ่ก็คงตื่น  หรือถึงเวลาที่ผมก็ต้องตื่นเหมือนกัน  เมื่อคืนมันเหมือนความฝันแต่ก็ช่างเป็นฝันที่แสนสุข  พอพระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมาแสงสว่างก็ทำให้เราเห็นความจริงชัดเจนขึ้น  ความจริงที่เราคอยซ่อนไว้บนสีหน้าอาการที่เหมือนมันไม่มีอะไร    แล้วก็คอยเวลาที่จะออกจากที่ซ่อนยามที่เราอยู่คนเดียว นี่เป็นเหตุผลที่ผมไม่อยากเลือกความจริง

ในที่สุดผมก็เผลอหลับไปอีกครั้งจนได้  มารู้สึกตัวเอาตอนที่ไอ้ใหญ่มันขยับตัวยุกยิก
“อื้อ..ตื่นแล้วเหรอ หลับสนิทเชียวนะมึง”
ไอ้ใหญ่มันพูดอุบอิบๆไม่ยอมมองหน้า ผมเลยฟังไม่ค่อยถนัด “ตื่นนานแล้ว...แต่ลุกไม่ได้”
ผมก็ได้ยินไม่ชัด “มึงพูดอะไร...ทำไมพูดค่อยขนาดนี้ ฮ่าๆ”
ขำท่าทางมันครับทำแปลกๆ  คราวนี้มันเงยหน้าขึ้นมามองผมทำตาเขียวใส่  แล้วพูดช้าๆทีละคำเน้นๆ
“ตื่นนานแล้ว....แต่ลุก..ไม่..ได้” ผมอมยิ้มพยายามกลั้นเสียงหัวเราะไม่ให้ระเบิดออกมา “ก็..ทำไมลุกไม่ได้ล่ะ ขาก็มี” แกล้งเอาแขนรัดมันไว้แน่นกว่าเดิมอีก

พอผมพูดจบไอ้คนมีขาเลยเอาขามันเตะผม ผมไม่ทันตั้งตัวเกือบเอาน้องชายหลบไม่ทัน ถ้าพลาดไปโดนละแย่เลย ขาไอ้ใหญ่เลยเตะไปโดนแค่หน้าแข้ง “เอ๊ย.....เตะได้ไงคนเค้าอุตส่าห์ให้ความอบอุ่นทั้งคืน ..หืม.”
คราวนี้ไอ้ใหญ่เลือดฉีดขึ้นหน้าแดงไปจนถึงใบหูครับหยุดดิ้นไปชั่วคราว “ว่าไงล่ะ...ไม่พูดต่อ ปกติก็เห็นพูดเก่ง  ทำไมวันนี้เงียบไป หืม...”
ผมแอบจับหูแดงๆของมัน “เป็นไรหูแดงเชียว...หึหึ” ไอ้ใหญ่มันคงโกรธผมที่ไปล้อ มันเลยส่ายหน้าหนีมือผม  แล้วเงยหน้าส่งสายตาพิฆาตมาให้ผมอีกรอบ “มึงจะปล่อยกูได้หรือยัง”
ผมทำหน้ากวนๆแล้วพูดกับมันค่อยๆว่า “ขอกอดแบบนี้อีกแป๊ปนะ  แล้ววันหลังจะไม่ขอเลย(กะว่ากอดมันไม่บอกเลยต่างหาก หุหุ)”คราวนี้ไอ้ใหญ่มันเลยเงียบเสียงไป แล้วก็ยอมนอนนิ่งๆ

ผมขยับอ้อมแขนกอดมันแน่นขึ้น มันเองก็ขยับตัวเอาหน้าเข้าซุกซอกคอผม รู้สึกถึงลมหายใจแผ่วๆอยู่ที่คอผม ฝ่ามืออุ่นร้อนของมันแตะอยู่ที่หัวใจผม  เหมือนกับจะบอกผมว่านี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ  เป็นตัวตนเลือดเนื้อของไอ้ใหญ่ที่อยู่ชิดกับผมขนาดนี้ ผมลูบหัวมันไปพูดไป “เมื่อคืนกูอยากคุยกับมึง มึงก็มาหนีกูไปนอน ปล่อยให้กูพูดอยู่คนเดียว มึงก็ไม่ได้ยินอีกว่ากูพูดอะไร”
ไอ้ใหญ่มันพูดกระซิบว่า“มึงก็พูดซิตอนนี้  กูตื่นแล้ว กูอยากฟัง”
ผมถอนหายใจ ผมจะพูดอะไรได้ในตอนนี้ “กูพูดไปหมดแล้ว พูดจนจำไม่ได้ว่าพูดอะไรไปบ้าง ที่กูกอดมึงอยู่นี่ก็แทนคำพูดทั้งหมดแล้วนะ” ไอ้ใหญ่ตอบผมเพียงแค่ว่า “เหรอ...”  เหมือนความเงียบกลับมาเป็นเพื่อนเราอีกครั้งเมื่อเราอยู่ด้วยกันสองคน

ผมนอนกอดมันอยู่อีกพักใหญ่ก่อนที่จะจูบมันที่ศีรษะอีกครั้งก่อนจะตัดสินใจปล่อยมันไป  “กูก็ต้องปล่อยมึงอยู่ดี”เดี๋ยวมันก็ต้องกลับเชียงใหม่แล้ว ไอ้ใหญ่ยังคงเงียบ ผมก้มลงไปดูเห็นขนตามันขยับๆ แสดงว่ามันก็ไม่ได้หลับ  ผมเลยถามมันไปว่า “เครื่องออกกี่โมงนะใหญ่” ผมคลายอ้อมแขนออกแต่ไอ้ใหญ่ยังนอนนิ่งอยู่ที่ตัวผม แต่ก็ตอบผม “บ่ายสามโมงห้าสิบ”
“น่าจะค้างอีกซักคืนไม่น่ารีบกลับเลย”
“มึงก็ต้องทำงานนี่  กูก็ต้องกลับไปทำงาน เราต่างก็มีเรื่องมากมายที่ต้องทำ”
ฟังที่มันพูดแล้วก็เหนื่อยใจ “...จริงของมึง...มึงไปอาบน้ำก่อนซิ  กูขอนอนเล่นก่อน” ไอ้ใหญ่ขยับตัวลุกไปพร้อมกับทิ้งรอยสัมผัสเบาๆที่คางผม กว่าผมจะรู้ว่ามันจูบผม  มันก็วิ่งหนีเข้าห้องน้ำไปแล้ว  ผมลูบรอยสัมผัสที่คางยังรู้สึกอุ่นๆเหมือนจูบยังคงฝังรอยอยู่แล้วก็ยิ้มกับตัวเอง “ไอ้ใหญ่...เปรี้ยวนะมึง”
*********************
จะลุ้นไหวมั้ยไอ้คู่นี่ :try2:

ปล.แก้แล้วค่ะคุณ Ak@tsuKII  ขอบคุณที่ช่วยบอกค่ะ แหะๆ   :pig4:
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-09-2009 21:49:37 โดย คิคิคุคุ »

ออฟไลน์ ปี้ปี้ปี้~PalmY

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2427
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +273/-1
ต้องแยกกันอีกแล้ว  :serius2:

mecon

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
 :o8: :-[
น้องใหญ่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆน่ารักกกกกกกกกกกกกกกก
มีจูบแตะปลายคางด้วยกรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ฝันเอ้ยแกพูดได้แค่คำว่า "เปรี้ยว" เรอะ ทำแบบนี้อ่ะ
มันมากกว่าคำว่าเปรี้ยวอีกนะ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
น้องใหญ่ของคนอ่านโคตรน่ารักกกกไม่น่าเลยเมื่อคืนถ้าไม่ได้ฤทธิ์แอลกอฮอลล์ไปนะ
คงได้ยินคนปากแข็งพูดพร่ำเพ้อโน้นนี่ให้ฟังแล้วอ่ะ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด
น่ารักโคตรๆอิคู่นี้
ฝันเอ้ยเมื่อคืนก็ขโมยหอมไปหลายทีนะน้องใหญ่เค้าช้ำหมด
"ตอนที่ใหญ่นอนหลับดูเหมือนเพื่อนกวนๆคนเดิมของผม
อาจจะมีแค่ความรู้สึกของผมเองก็ได้   ที่เมื่อมองมันต่างหากล่ะที่เปลี่ยนไป"

>>  :m1: เจ้าฝันมีอะไรก็พอจิ นะๆๆๆ ตอนนี้รู้ใจตัวเองรึยังห๊ะ
คิดไงรู้สึกยัไงถ้ามัวแต่กัวค.จริงคอยแต่จะหลบอยู่ในค.ฝัน
ค.สุขที่เห็นมันก็จะเป็นแค่ค.สุขชั่วครั้งชั่วคราวอ่ะนะมันจะไม่สุขแบบสุดๆ ซะที เฮ้ออออ

น้องใหญ่ของอิป้าน่ารักกกเขินหูแดง หน้าแดงเลยลูก
โดนเค้ากอดมาทั้งคืนไม่รู้ตัวอ่ะนะแล้วมาตอนนี้จะมาเขินอะไรกันอีกล่ะคะ

+1 จัดให้คะ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด o13
อยู่ได้แค่วันเดียวเองอ่ะ หวานกันแป็บเดียวเอง เสียดายจัง

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
 :impress2:
คู่นี้นับวันจะยิ่งหวานกันนะเนี่ย ล่นมีทั้งหอม จูบปาก กอด ...
แล้วก็หยอดคำเล็กๆน้อยๆ ยิ่งอ่านถึงช่วงตอนที่ใหญ่นอนไปแล้วมีความสุขจัง
...ในสมองผมว่างเปล่ารู้แต่ว่าทุกความเคลื่อนไหวมันมาจากใจของผมโดยไม่ผ่านสมอง คิดหาเหตุผลอีกต่อไป  ริมฝีปากของผมสัมผัสกับริมฝีปากแดงๆของไอ้ใหญ่อย่างแผ่วเบา ผมเข้าไปใกล้จนลมหายใจของเราใกล้กัน ผมไม่กลัวว่ามันจะตื่นแค่ทำความต้องการของผมในตอนนี้ที่ไม่มีอะไรมาหยุดไว้ได้...
เป็นปลื้มดีแท้แล้วจะรออ่านต่อน๊า
นิว(LOVEis)

ออฟไลน์ Ak@tsuKII

  • Honeymoon
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3845
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-3
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

น่ารักโคดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :o8:

ทั้งกอดจูบลูบคลำ กรี๊ดดดดดดดดดด 

ผมนอนกอดมันอยู่อีกพักใหญ่ก่อนที่จะจูบมันที่ศีรษะอีกครั้งก่อนจะตัดสินใจปล่อยมันไป 
โฮก!! :m25:   

 “เอ๊ย.....เตะได้ไงคนเค้าอุตส่าห์ให้ความอบอุ่นทั้งคืน ..หืม.”
กรี๊ดดดดดดดด  ฝันบ้า  :-[  ชอบตรงคำว่า หืม  นี่แหละ รู้สึกดีชะมัด  มันแฝงความรู้สึก หยอกเอิน เอ็นดู และอบอุ่นดีอ่ะ

“กูพูดไปหมดแล้ว พูดจนจำไม่ได้ว่าพูดอะไรไปบ้าง ที่กูกอดมึงอยู่นี่ก็แทนคำพูดทั้งหมดแล้วนะ”

เจ้าฝัน เจ้าคารมยิ่งนัก  กรี๊ดดดดดดดด  อ้อมกอดที่ใช้แทนคำพูดทุกอย่าง 


ส่วนใหญ่ของเจ้  กรี๊ดดดดดดดด   :man1: ยังน่ารักกกกกกกกกกก  เท่าโลกเสมอ  มีจุ๊บคางฝันด้วย  ตรูจะบ้า 
จะน่ารักไปไหนนนนนนนน  แอร๊ยยยยยยย ถ้าป็นเจ้าฝันจะจับกดแม่มเลย  :oo1:

ส่วนฝัน ขอให้กล้าเผชิญความจริงโดยเร็ววววว   อย่าเอาแต่ฝันอยู่เลย

คิดว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ ทุกอย่างคงเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะฝันหรือใหญ่คงสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลง
เหมือนใจรู้ ทั้งที่ปากยังไม่ได้พูด  ว่าทั้งคู่เป็นคนพิเศษของกันละกัน

ขอบคุณที่มาต่อค่ะ   รอตอน สิบเก้า  :z3:

อ้างถึง
เวลาที่เป็นมันของผมอย่างแท้จริงไม่มีใครมาแบ่งไปจากผมได้

#### คำตรงนี้มันสลับกันป่ะ  น่าจะเป็น เวลาที่มันเป็นของผมอย่างแท้จริงไม่มีใครมาแบ่งไปจากผมได้[/color]

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
ต่างฝ่ายต่างรู้กันอยู่แก่ใจ และรู้ใจอีกฝ่ายไม่มากก็น้อยแล้วสินะ
แต่ด้วยอะไรหลายๆอย่างมันค้ำคอ ค้ำใจอยู่ เลยไม่สามารถบอกกันตรงๆได้
น่าสงสารเหมือนกัน

บวก 1 แต้มนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

McDeliVery

  • บุคคลทั่วไป
เเค่ได้อ่านสองตอนหลัง

ตอนนี้ทำเอาผมหน้าบานเป็นกระด้งเลย  :-[ :o8:

เพื่อนที่ทำงานเเซวใหญ่เลย หาว่ามีเเฟนใหม่

ที่ไหนได้ ความรักในเล้าเล่นเอากาเเฟในเเก้วหวานไปโม๊ดดดดดด

ออฟไลน์ astral

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-5
จูบคางแค่นี้หาว่าเค้าเปรี้ยว ตัวเองทั้งกอดทั้งหอม ไม่เปรี้ยวเลยนะพ่อคุณ 5555  :m20:


morrian

  • บุคคลทั่วไป
" ไอ้ใหญ่  เปรี้ยวนะมึง "

ใหญ่จะเปรี้ยวรึเปล่าไม่รู้

แต่ที่แน่ๆ สองคน หวาน กันมากเลย.... :o8:

YuNJae

  • บุคคลทั่วไป
 :o8:    หวานนนนนน !

ลุ้นด้วยจริงๆเลย  น้องใหญ่ไม่น่าหลับไปก่อนเลยอ่า
จะได้ฟังฝันซะหน่อย

แหมๆ มีจูบคาง ปลื้มมมมม >///<

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






สาวบ้านนอก

  • บุคคลทั่วไป
ได้มาอีกหนึ่งก้าว(๑๙)แล้วนะ  ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่ะ o15

ตอนที่(๑๙)

  แต่พอผมจะลุกขึ้นบ้างกลับต้องลงไปนอนเล่นจริงๆ เพราะลุกขึ้นมาแล้วแขนชาไปหมดต้องค่อยๆงอแขนช้าๆบีบเบาๆให้หายตะคริวกิน จนไอ้ใหญ่ออกมาจากห้องน้ำผมก็ยังนวดแขนอยู่ “ฝันเป็นอะไร...ทำอะไรอยู่”
ไอ้ใหญ่นุ่งผ้าขนหนูมายืนกอดอกดูผมนวด ตามเนื้อตัวยังมีหยดน้ำเกาะอยู่  มันก็ทำตัวเหมือนเคยไม่ชอบเช็ดตัวให้แห้ง  หยดน้ำยังเกาะเต็มใบหน้า

นอนดูมันแต่งตัวล่อแหลมแบบนี้แล้วผมรู้สึกเขินๆยังไงไม่รู้ครับ ทั้งที่แต่ก่อนก็เห็นออกจะบ่อย เลยเผลอกวนมันไป
 “นวด...ไม่รู้จักรึไง” พูดไปแล้วก็รีบหลบตาทำเป็นนวดต่อ
“รู้จัก...ทำไมต้องกวนด้วยวะ กูก็ถามดีๆ”มันพูดเหมือนน้อยใจที่ผมไปกวนมัน เลยต้องง้อมันก่อน
“ไม่ได้กวน...ก็แขนกูเป็นตะคริว ไม่รู้เลย  ว่าเอาแขนไปเป็นหมอนมันจะทำให้เป็นตะคริวไปได้”

ไอ้ใหญ่ทำปากขมุบขมิบ“ดี...สมน้ำหน้า...มาๆช่วยนวดให้ แค่นี้ทำเป็นบ่น”
ไอ้ใหญ่นั่งลงที่เตียงแล้วคว้าเอาแขนผมมาวางที่ตักมันแล้วช่วยนวดให้  มันเอียงคอถามผม“ต้องใช้เคาน์เตอร์เพนมั้ย จะได้ร้อนๆ”
ผมส่ายหน้าแต่ไม่ตอบ นอนมองหน้าไอ้ใหญ่ที่ดูตั้งอกตั้งใจเหลือเกินกับการนวด พยายามดูแค่ที่หน้าไม่ไปดูเนื้อตัวขาวๆของมัน อยากเอื้อมมือไปเช็ดหยดน้ำบนแก้มไอ้ใหญ่ก็ไม่กล้า ไอ้ใหญ่มันขยำไปขยำมาจนผมรู้สึกดีขึ้น แต่ก็ยังสบายจนไม่อยากให้มันเลิกนวด  รู้สึกเพลินจนผมเผลอเอามือลูบเข่ามันที่โผล่พ้นผ้าขนหนูออกมา ไอ้ใหญ่มันเริ่มเหล่มองหน้าผม ผมก็มองหน้ามันแกล้งพูดยิ้มๆ กะว่าจะล้อมันเล่น
“ขาวดีนะเนี่ย”
“เชี่...แล้วไงมึง”ไอ้ใหญ่มันสวนกลับทำหน้าโกรธแยกเขี้ยวใส่ผม แล้วก็เลิกนวดโยนแขนผมทิ้งทันทีลุกขึ้นทำท่าจะหนีผมไป ผมรีบลุกตามแล้วคว้ามือมันเอาไว้ “ล้อเล่นแค่นี้เองทำเป็นโกรธ ก็ขาวจริงๆนี่นา”

เสียงไอ้ใหญ่มันเหมือนโกรธแต่หน้ามันยังซ่อนรอยยิ้มไว้ไม่อยู่เลย “มึงไม่ต้องเลย..ช่วยนวดแล้วยังไม่ดีอีก กูจะไปแต่งตัวแล้ว”
ผมดึงตัวมันมากอด กระซิบมันที่หูว่า“รักดอกจึงหยอกเล่น.....หึหึ” ตอนนี้หูมันแดงมากครับ แล้วมันก็ผลักผมออก
 “มึงนี่ท่าจะบ้า  เมาข้ามวันข้ามคืน”แล้วมันก็คว้าเอาเสื้อผ้าเดินหนีเข้าห้องน้ำไปเลยครับ ผมเห็นแล้วก็ขำ รู้ว่ามันมีอาการแบบนี้ก็แกล้งหยอกมันไปนานแล้วครับ

แต่พอผมอาบน้ำเสร็จออกมาไอ้ใหญ่ก็ลงไปเจ๋อนั่งกินข้าวเช้ากับแม่ผมเรียบร้อยแล้ว ท่าทางกำลังคุยกันอย่างสนุกสนานเสียด้วย  “ฝันเร็วเข้า ชักช้าจริงๆ ใหญ่เค้าต้องกลับแทนที่จะทำอะไรรีบๆเข้า เผื่อเพื่อนอยากไปซื้อของอะไรจะได้พาไป”
 ผมโดนแม่ดุจนได้ แต่ก็จริงของแม่ แต่ว่า “แม่เชยไปแล้ว...เชียงใหม่เจริญจะตาย กรุงเทพมีอะไรเชียงใหม่มีหมด ใช่มั้ยใหญ่” ไอ้ใหญ่พยักหน้ากับแม่ “ใช่ครับ มีหมดทุกอย่างที่นั่น ไม่มีอย่างเดียวเองครับ”

 แม่เลยสงสัย “อะไรเหรอ” ไอ้ใหญ่มันหัวเราะ “ก็ไม่มี...ฝันไงแม่  ที่เชียงใหม่ไม่มีมันไปอยู่กวนผมเหมือนที่กรุงเทพ” แม่เลยหัวเราะ “นั่นซิ   มิน่าที่นี่เลยมีฝันอยู่กวนแม่แทน  อยากเอาไปกวนที่นู่นมั้ยล่ะ”
ไอ้ใหญ่หัวเราะโบกมือเป็นการใหญ่ “ไม่เอาหรอกแม่ มันชอบกวนประสาทผม ขืนผมอยู่กับมันทุกวันแบบแต่ก่อน คงตีกันตาย เดี๋ยวนี้มันดุด้วยไม่รู้กินน้ำตาลมากไปรึเปล่า” ผมเลยได้โอกาสรีบฟ้องแม่

“แม่ไอ้ใหญ่มันว่าแม่เป็นหมา” ไอ้ใหญ่สะดุ้งเลยครับหน้าเสีย  รีบบอกแม่ผมเสียงละล่ำละลัก
 “ผมไม่ได้ว่าแม่นะครับ  ผมว่าไอ้ฝันมันคนเดียว” แม่ได้แต่มองสลับหน้าไปมาระหว่างผมกับไอ้ใหญ่ พูดไม่ทันหรอกครับ ผมต้องรีบเสริมต่อทำสีหน้าให้จริงจัง
“ก็ว่ากูเป็นลูกหมา แม่เป็นแม่กู มึงก็ต้องว่าแม่เป็นหมาด้วยซิ”คราวนี้ไอ้ใหญ่หน้าซีดแก้ตัวไม่ถูก รีบลุกไปยืนไหว้แม่ ทำหน้าตาสำนึกผิดเหมือนจะร้องไห้  แม่ก็เนียนครับทำหน้าเฉย เอ๊ะหรือแม่จะโกรธมันจริงๆ
“แม่ครับผมขอโทษ ผมไม่ได้ว่าแม่จริงๆนะครับ  ผมแค่จะว่าไอ้ฝันมัน เมื่อวานมันดุผมทั้งวันเลย เมื่อคืนก็แกล้งผมด้วย”

ผมเลยรีบโวย  “กูไปแกล้งมึงยังไงเมื่อคืน ไหนมึงบอกมาซิ” ไอ้ใหญ่รีบเถียงตอบ แต่ก็กลับเป็นคนพูดติดอ่างไปซะได้
 “ก็มึงกะ...กะกักตัวกูไว้....ทั้งคืนเลย”มันพูดเสร็จมันก็หน้าแดงครับแล้วไม่ยอมมองหน้าผม เห็นแล้วอยากไปหยิกแก้มมันจริงๆ ตายๆๆ.....นี่ผมคิดอะไรกันนี่  แต่ตอนมันเขินหน้าตามันน่ารักน่าแกล้งมากเลยครับ

คราวนี้ไอ้ใหญ่คุกเข่ากราบที่ตักแม่ผม “แม่ครับใหญ่ขอโทษที่พูดเล่นมากไปจนลามปามไปถึงแม่ด้วย แม่ยกโทษให้ใหญ่นะครับ”ดูมันอ้อนแม่ผมครับ ต่อให้แม่โกรธจริงก็คงใจอ่อนแล้วครับ ก็มันเล่นทำน้ำตาเอ่อคลอเบ้าขนาดนั้น แม่ก็เริ่มขำแต่ก็ลูบหัวมันด้วยความปรานี
“แม่ไม่โกรธหรอกลูก รู้ว่าพูดเล่นกัน แต่วันหลังใหญ่ไปล้อใครก็ดูหน้าดูหลังให้ดีๆนะลูก ผู้ใหญ่บางคนเค้าถือนะ แต่แม่ไม่ว่า”แล้วแม่ก็หัวเราะ ไอ้ใหญ่มันเลยยิ้มออกเลยรีบประจบประแจงเป็นการใหญ่  เข้าไปกอดเอวแม่“ขอบคุณครับแม่ที่ไม่โกรธผม   เดี๋ยวผมออกไปข้างนอกแม่อยากกินอะไรบ้างครับ เดี๋ยวผมจะให้ฝันมันไปซื้อมาให้แม่”

ผมแอบขวางมันที่เอาใจแม่ผมเกินเหตุ  แต่พอดูไปดูมาแล้วมันน่ารักดีครับตัวผมเองยังเขินๆไม่เคยทำกับแม่ตัวเองขนาดนี้  ไอ้ใหญ่มันสนิทกับแม่ผมมากเพราะเคยมาเที่ยวที่บ้านบ่อย  แม่ผมก็รักมันด้วยเพราะมันอ้อนเกินหน้าเกินตาผมนี่แล่ะครับ
“ไม่อยากได้อะไรเลย  แต่ใหญ่มาบ้านแม่ถึงได้เห็นหน้าฝันมันนะ ปกติไม่เคยอยู่ติดบ้านเลย” ผมเริ่มไม่อยู่ในสายตาแม่แล้วครับตอนนี้   แม่กับไอ้ใหญ่ชวนคุยกันเหมือนโลกนี้ไม่มีผม   ผมกินข้าวไปก็มองแม่ลูกสองคนเค้าคุยกันอย่างหมั่นไส้  กำลังคุยกันเพลินๆเสียงโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น “สวัสดีครับ...พ่อเหรอครับ  อ๋อจะพูดกับใหญ่ครับๆ...รอซักครู่ครับพ่อ”
 ผมส่งโทรศัพท์ยื่นให้ไอ้ใหญ่ “พ่อมึงโทรมา”
ไอ้ใหญ่ทำหน้าสงสัยแล้วรับโทรศัพท์ไป   “โหล...พ่อเหรอมีอะไรครับ....อ้าว”
ไอ้ใหญ่หน้านิ่วอีกแล้วครับ แต่ยังมารยาทดีมาขออนุญาตแม่ผมอีก “ขอโทษนะครับแม่..ขอคุยโทรศัพท์หน่อยครับ” ไอ้ใหญ่มันเดินห่างออกไปคุยก็จริงแต่ผมก็ยังได้ยินสียงมันอยู่

“ให้ผมคุยกับน้องออมเองครับ....” ผมหูผึ่งขึ้นมาทันที...น้องออมอีกแล้ว.. “น้องออม..เดี๋ยวก็กลับแล้วนะคะ อย่าดื้อซิคะ รับรองว่ามีของฝากให้แน่ๆ....ไม่ลืมจริงๆค่ะ...สัญญา....” ผมฟังแล้วหงุดหงิด ไม่รู้จะง้องอนกันไปถึงไหนท่าทางจะคุยกันยาวเลยหนีไปเข้าห้องน้ำ  

พอออกมาไอ้ใหญ่ก็วางสายไปแล้วกำลังคุยกันอย่างสนุกสนานกับแม่ผมต่อ
“ฝันพาใหญ่ไปซื้อของไป”พอเดินมาแม่ก็สั่งผมทันที
 “แม่จะเอาอะไรเหรอ เดี๋ยวผมไปซื้อให้ทีหลังก็ได้”แม่ตีผัวะมาที่แขนผม “ไม่ใช่..แม่ไม่ได้อยากได้อะไร พาใหญ่ไปซื้อของให้น้องออม” เอาอีกแล้วน้องออมอีกรอบผมเริ่มงอแงบ้างทำท่าอิดออดไม่อยากไป “ออมไหนล่ะ...ไม่รู้จัก”
แม่ตีผมอีกผัวะ “อย่ามากวน...ก็น้องออมหลานของใหญ่ไง” ผมถึงกับตาสว่าง

หลาน...เป็นหลานเหรอ...อ้าว...แล้วทำไมผมไม่รู้ล่ะ... “หลานมึงเหรอ...น้องออม...ไม่ใช่...ฟะ..แฟน.”ไอ้ใหญ่มันหัวเราะอย่างมีความสุขที่ทำให้ผมเหวอได้ “ก็หลานน่ะซิ...4ขวบแล้ว กำลังพูดเก่ง น่ารักมาก”
ฟังแล้วโมโหต้องถองศอกเข้าไปซักที  “แล้วก็ปล่อยให้กูเข้าใจผิดตั้งนาน  ทำไมไม่บอกกูวะ”
 แม่ผมฟังอยู่ยังสงสัย “แล้วเราไม่รู้เหรอ...ทำไมไม่รู้ เป็นเพื่อนกันยังไง”
ฟังแล้วก็รู้สึกเสียหน้า ผมเลยหันไปฟ้องแม่อีก “ก็มันไม่เล่าให้ผมฟังนี่แม่ แล้วผมจะรู้ได้ไง”

แต่ไอ้ใหญ่มันไม่ยอมแพ้รีบแก้ตัว“ไม่ใช่นะแม่....ผมจะบอกมันแล้ว...ฝันมันก็ไม่ยอมฟังเอง”
แม่เลยหัวเราะ “ดี..แล้วยังมาโวย...นิสัยแบบนี้ประจำ ไม่ค่อยสนใจอะไร พอมารู้ทีหลังก็โอดโอยว่าไม่มีใครบอก...สมน้ำหน้า”
ให้มันได้อย่างนี้ซิ “นี่ไม่มีใครเข้าข้างผมเลยใช่มั้ย...นี่ผมลูกใครกันแน่นี่” คราวนี้แม่ผมเดินหนีไปเลยครับ ไม่เข้าข้างแล้วยังไม่ไยดีอีก “ไปไหนก็ไปกันเถอะใหญ่..รำคาญไอ้ลูกคนนี้ เอาไปไหนไปเลย  เอาไปเชียงใหม่เลยยิ่งดี โตไม่รู้จักโต” แถมด้วยไล่ส่งอีก กรรมของผม

แม่เดินไปแล้วเหลือแต่ผมยืนหน้าเหี่ยวกับไอ้ใหญ่ที่ยังยืนหัวเราะไม่หยุด จนผมชักโมโหต้องเอาขาเตะมันไปที
“โอ๊ย...มาเตะกูทำไม”ไอ้ใหญ่ร้องโวยวายแต่สีหน้ายังยิ้มล้อเลียน ตามด้วยเสียงหัวเราะอีกชุด
“มึงจะขำอะไรวะ..ขำอะไร”
“ก็ขำมึงไง...โตไม่รู้จักโต...แม่มึงพูดถูกที่สุดเลยว่ะ”แล้วมันก็หัวเราะอยู่นั่นจนผมไม่รู้จะทำอย่างไรให้มันหยุดเลยเดินไปเอามืออุดปากมัน “มึงหยุดหัวเราะได้แล้ว ไม่หยุดมีเรื่อง”
ไอ้ใหญ่ไม่ยอมแพ้ดิ้นๆหนีแล้วเอาขาเตะผมไปด้วย ผมเลยเอาแขนรัดมันไว้แล้วเอาขาผมแทรกไปขัดขามันให้เดินไปต่อไม่ได้  
แต่ฤทธิมันมากจริงๆครับ ขนาดผมเอามืออุดไว้ปากไอ้ใหญ่มันก็ยังพูดไม่หยุดครับ ฟังๆได้ว่า “เค้าเรียกหน้าแตกแล้วยังมาพาลอีก” ผมเลยต้องถลึงตาใส่แกล้งขู่มันไปว่า “มึงไม่เลิกกวนกู...เดี๋ยวเจอดีนะมึง”
ไอ้ใหญ่ทำตาขี้เล่นตอบออกมาอย่างไม่แคร์ว่า “กลัวก็ไม่ใช่กูซิ” แถมยังเล่นลิ้นมาเลียมือผมแผล็บๆ
ผมจั๊กจี้เลยเอามือออก แล้วก็เอามือเช็ดกางเกงมัน “อี๋..น้ำลายเพียบเลย..นี่มึงเป็นหวัด2009รึเปล่าวะ”
 เสียงไอ้ใหญ่หัวเราะต่อแล้วยังปากดีท้าทายผมอีก  แถมด้วยยักคิ้วกวนๆให้ผม“ไหนว่าจะเจอดีไง...โธ่นึกว่าแน่”

พอมันพูดท้าทายแบบนั้นผมเลยดึงตัวมันมาปะทะตัวผม  ไอ้ใหญ่ตกใจยืนจ้องหน้าผม
ตอนนี้ดวงตาของมันอยู่ต่อหน้าผมจนเห็นขนตาดำขลับกระพริบถี่ๆ  
จมูกของมันอยู่ใกล้ผมจนเห็นหยดเหงื่อที่เกาะอยู่บนปลายจมูก
 แก้มของมันอยู่ใกล้ผมจนเห็นเส้นเลือดที่กำลังฉีดขึ้นไปทั่วใบหน้า
และริมฝีปากของมันอยู่ใกล้จนเมื่อผมค่อยๆก้มหน้าประทับริมฝีปากลงไปไอ้ใหญ่ไม่ทันส่งเสียงอุทธรณ์ใดๆ  

 ผมไม่คิดว่าเพียงแค่การสัมผัสเบาๆเมื่อคืนมันจะทำให้ผมหาญกล้ามาเรียกร้องรสสัมผัสที่จริงจังต่อในวันนี้ เรายืนจูบกันอยู่ตรงนั้นจนได้ยินเสียงครางจากลำคอของไอ้ใหญ่เบาๆ ฝ่ามือของผมแทรกเข้าไปในเส้นผมอ่อนนุ่มของมัน  มืออีกข้างหนึ่งยังรั้งตัวมันไว้แนบกาย  ผมรู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นแรงของเราทั้งคู่ๆ ผมค่อยๆเลื่อนปากมาสัมผัสแก้มไอ้ใหญ่ไล่มาจนถึงใบหู ซอกคอ และคงทำต่อไปเรื่อยๆถ้าไอ้ใหญ่มันไม่เตือนสติผมด้วยแรงทุบเบาๆที่ไหล่  เสียงกระซิบของไอ้ใหญ่ทำให้ผมดึงสติกลับมาจนได้ “ฝัน...หยุดเถอะ”

ผมปล่อยตัวใหญ่ให้หลุดออกจากวงแขนของผมอย่างอ้อยอิ่ง เราแยกจากกันแล้วต่างคนก็ต่างทำหน้าไม่ถูก ยืนเก้ๆกังๆไม่รู้ว่าจะคุยหรือจะทำยังไงต่อให้หายกระดากจากสิ่งที่ผมทำลงไป ผมแอบเหลือบตามองดูไอ้ใหญ่มันยืนเอามือลูบหน้าก้มหน้าก้มตาถอนหายใจอยู่  ผมกำลังจะเดินไปหามัน “ใหญ่.....”

 “อ้าว...ยังไม่ไปกันอีกเหรอ แม่เห็นเงียบๆนึกว่าออกไปกันแล้วซะอีก เครื่องออกบ่ายสามกว่าไม่ใช่เหรอลูก  เดี๋ยวต้องไปสนามบินอีกนะ จะไปซื้อของก็รีบไปซิ”
แม่เดินลงมาจากข้างบนพอดีเดินเข้าไปถามไอ้ใหญ่มันเลยต้องเงยหน้าหันมาหาแม่ผม  พอแม่เห็นหน้ามันเข้าเท่านั้น
 “ใหญ่ไม่สบายรึเปล่าลูก ทำไมหน้าแดงๆเหมือนคนเป็นไข้เลย ไหนๆตัวร้อนรึเปล่า” แม่เอามือไปจับหน้าผากไอ้ใหญ่ที่ตอนนี้ทำหน้าแปลกๆจะยิ้มก็ไม่ใช่จะร้องไห้ก็ไม่เชิง  ใหญ่รีบอธิบายกับแม่“ผมไม่เป็นไรครับแม่แค่ร้อนๆเฉยๆ”
“อืม....ตัวก็ไม่ร้อนนะ แต่ทำไมหน้าแดง”

 พอแม่พูดจบผมอยากจะหัวเราะขำมันแต่ก็กลัวมันโกรธเลยต้องกลั้นหัวเราะเอาไว้  แต่ก็ยังอดปากเสียไม่ได้
 “มันเขินผมเองแม่” คราวนี้ไอ้ใหญ่ถลึงตาใส่ผม แล้วยกกำปั้นให้ด้วย
 พอแม่หันขวับมาถามไอ้ใหญ่ “เขินเรื่องอะไรกัน” มันรีบเอากำปั้นลงแทบไม่ทัน แล้วเกาหัวแกรกๆ “คือ....คือ...”

 ผมเห็นแล้วก็สงสารเลยต้องรีบช่วยดึงมันขึ้นมาจากหลุมที่เมื่อกี้ผมเพิ่งถีบมันตกลงไปเอง “ผมล้อมันว่าเป็นพ่อลูกอ่อน ไปไหนก็มีน้องออมโทรตาม” ไอ้ใหญ่ถอนใจอย่างโล่งอก  แม่ก็หัวเราะขำท่าทางมัน
“โธ่เอ๊ย...เรื่องแค่นี้  เล่นกันเป็นเด็กๆ อีกหน่อยใหญ่ก็หาแม่ให้น้องออมก็หมดเรื่อง จริงมั้ยลูก”

คราวนี้ทั้งผมและมันขำไม่ออก ได้แต่ยิ้มแหยๆไป  ผมเลยตัดบทพาไอ้ใหญ่ไปข้างนอกดีกว่า “ใหญ่ไปกันเหอะ...แต่ไม่รู้จะกลับมาบ้านอีกรอบทันรึเปล่านะแม่ อาจจะเลยไปสนามบินเลย... ใหญ่มึงลาแม่กูไปเลยดีกว่า” ประโยคสุดท้ายนั่นผมหันไปบอกไอ้ใหญ่ที่ยังยืนทำหน้าประหลาดอยู่
ไอ้ใหญ่เลยเข้าไปไหว้แล้วกอดแม่ผม “ผมไปก่อนนะแม่...แล้วผมจะมาเยี่ยมแม่ใหม่  หรือแม่ไปหาผมที่เชียงใหม่ก็ได้ให้ฝันมันพาไปก็ได้มันเคย...จ๊ากกกก”
ผมต้องรีบหยิกมันก่อนที่มันจะเผลอปากไปบอกแม่ว่าผมเคยไปเยี่ยมมันมาแล้วเพราะแม่ไม่รู้เลยว่าผมไปมาตั้ง 1 วัน แต่ไอ้ใหญ่มันไม่ยอมให้ผมกระทำฝ่ายเดียวมันรีบฟ้องแม่ผมอีกแล้ว “แม่ดูซิไอ้ฝันอยู่ดีๆก็มาหยิกผม....ผมบอกแล้วมันชอบแกล้ง” แม่ก็ยุติธรรมครับพอจำเลยฟ้องเบิกความ แม่ก็ตัดสินความผิดผมแล้วลงโทษทันที แม่เอาฝ่ามือตีผัวะมาที่แขนผมอย่างแรง จนผมกลัวว่าแม่จะเจ็บมือมากกว่าผมเสียอีก
“อู๊ย....เจ็บนะแม่...นี่ลูกนะ...ไม่ใช่ยุง...ตีอยู่ได้...มันเจ็บ” ผมต้องลูบแขนตัวเองเปิดแขนเสื้อดูเห็นเป็นรอยฝ่ามือแดงเป็นปื้น แต่แม่กลับยิ้มชอบใจ

“เออ...ดี ชอบแกล้งเพื่อนดีนัก...ใหญ่แม่ขอร้อง...รีบๆไปกันเถอะทะเลาะกันจนแม่เวียนหัว ใครบอกว่าเมื่อวานเพิ่งไปรีบปริญญาตรีมาเป็นไม่เชื่อ...”  หลังจากนั้นแม่ก็เริ่มเอาเรื่องเก่าๆที่ผมเคยทำวีรกรรมอะไรบ้างออกมารื้อฟื้นตั้งแต่สมัยประถม จนผมเห็นว่ามันจะกลายเป็นรายการแฉแต่เช้าไปแน่ๆ  ท่าทางอยู่ต่อจะเป็นเรื่องยาวจริงๆด้วยผมรีบลากไอ้ใหญ่ขึ้นรถแล้วออกมาจากบ้านอย่างรวดเร็วก่อนที่แม่จะบ่นตามมาอีกหลายชุดใหญ่

พอออกจากบ้านมาได้ผมถึงกับถอนหายใจอย่างสบายใจ “เฮ้อ...หูกูชาเลยว่ะ.....แม่บ่นยาวที่สุดในรอบเดือนนี้เลยนะ  เพราะมึงมาทีเดียว” ผมหันไปแยกเขี้ยวใส่ไอ้ใหญ่ แต่มันกลับยิ้มเยาะผม  ไอ้ใหญ่ถองข้อศอกมาที่แขนผม
“มึงไม่ต้องมาโทษกูเลย....ชอบแกล้งกูดีนักก็สมควรแล้วที่แม่จะลงโทษ”

 ผมหันไปมองหน้ามันแล้วก็กลับมามองที่ถนนขับรถต่อไปแล้วก็พูดว่า “แกล้งก็มี...ไม่แกล้งแต่ทำจริงก็เยอะ....” ผมไม่หันหน้าไปก็จริงแต่ก็รู้ว่ามันหันมามองหน้าผมพักใหญ่แต่ไม่พูดอะไรแล้วก็หันมองออกไปข้างนอกหน้าต่าง  
ผมเลยพูดต่อ“เดี๋ยวมึงก็กลับแล้ว   อยากแกล้งก็ต้องรีบแกล้ง อยากทำอะไรก็ต้องรีบทำ”

เสียงไอ้ใหญ่พูดเบาๆว่า “ที่มึงทำ...มึงเมา...กูรู้”
ผมเหลือบตามาดูไอ้ใหญ่ให้ชัดๆแต่มันยังไม่ยอมมองหน้าผมสนใจแต่วิวด้านนอก ผมตอบมันไปอย่างอารมณ์ดีว่า “มึงเคยฟังนิราศภูเขาทองของท่านสุนทรภู่มั้ย กูจะท่องให้มึงฟัง มึงฟังดีๆนะ” คราวนี้ไอ้ใหญ่หันหน้ามามองผมขมวดคิ้ว ผมหันมายิ้มให้มันอีกครั้งก่อนจะท่องบทกลอนให้มันฟังอย่างช้าๆ

ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก
 สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน
        ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป
      แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืน


พอผมพูดจบรถก็ติดไฟแดงพอดีผมเลยมีโอกาสหันไปหาไอ้ใหญ่ เห็นมันกำลังเอาหลังกำปั้นปิดไว้ที่ปากพอดี  ตัวสั่นไปหมดมองไม่ออกว่าหัวเราะหรือร้องไห้อยู่  ผมเลยดึงมือมันออกจากปาก “มึงเป็นอะไรวะ...”
ไอ้ใหญ่มันเอากำปั้นมาชกแขนผมแล้วก็ปล่อยเสียงหัวเราะออกมา “ฝัน...มึงทั้งเชยทั้งน้ำเน่า”

 ดูมันครับพอผมพูดจริงๆจังๆมันกลับมาขำผม จนผมพูดอะไรต่อไม่ออกเลย คราวนี้เลยกลายเป็นว่าผมงอนมันแทนแต่ก็ไม่รู้จะทำหน้ายังไงเลยต้องหันหน้าหนีทำเป็นมาสนใจกับเส้นทางข้างหน้าต่อไป ทั้งที่ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังขับไปที่ไหนกันแน่
**********************************
 :oni1: ไปตามล่าตอนต่อไปก่อนนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-09-2009 19:30:40 โดย คิคิคุคุ »

zeazaiz

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดด มาเร็วทันใจ :impress2:
ขอบคุณนะจ๊ะ

Kirimanjaro

  • บุคคลทั่วไป
ผมควรจะอ่านหนังสือเตรียมสอบปลายภาคและเริ่มเคลียร์รายงานได้แล้ว

แต่.....


เรื่องนี้สุด ๆ จริง ๆ ครับ

ชอบมาก....  โอยยย


ยิ่งตอนล่าสุด  จูบขนาดนั้นคงรู้ใจกันไปแล้วล่ะ
ซึ้งอ่ะครับ

แต่สังหรณ์ว่าจบเศร้า   :m15:

morrian

  • บุคคลทั่วไป
 :-[

น่ารักทั้งคู่เลย

คืบหน้าไปมากแล้วนะเนี่ย หุหุ

ออฟไลน์ ปี้ปี้ปี้~PalmY

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2427
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +273/-1
ใหญ่มัีนซึ้งจะร้องไห้นี่แหละ
แต่ว่ามันจะดูไม่ดีเลยขำกลบเกลื่อน  :z1:

McDeliVery

  • บุคคลทั่วไป
ได้เเต่ร้องเพลงรอ

เมื่อไหร่จะรักกกก


 :o8:

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
 :impress2: ในที่สุดก็ลงมือกันเสียทีนะคู่นี้ หึหึ
แต่ปิดท้ายตอนได้ฮามาก 555+ เล่นยกสุนทรภู่มาสู้รักเลยนะนั่น
แล้วจะรออ่านต่อ
นิว(งามอย่างผู้ดี)

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
อ่านไปลุ้นไป ความสัมพันธ์กำลังไปได้สวย แต่ต้องห่างกันอีกแล้ว แล้วแบบนี้มันจะก้าวหน้าหรือก้าวหลังเนี่ย

ออฟไลน์ Ak@tsuKII

  • Honeymoon
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3845
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-3
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ตอนนี้อ่านไป  บิดผ้าไป   :o8:    ชอบมากกกกกกก  เอาอีกๆๆๆๆๆ  

เจ้าฝันกรี๊ดดดด  นี่สินะที่บอกว่า มีอะไรทำต้องรีบทำ  ใส่ซะเต็มสตรีมเลย  แม่ยกใหญ่ตีลังกาเขิน :-[

ทั้งกอด จูบ ลูบคลำ  แอร๊ยยยยยยยยย ทำใหญ่เขินหน้าแดงหูแดง อ้ากกกกกกกกก น่ารักกกกกกก

ขาวดีนะ  

โฮก!  เจ้าฝันลวนลามทั้งการกระทำ และคำพูด      :z1:  สภาพใหญ่ก็นะ  เซ่ะซี่เหลือหลาย ดีนะเจ้าฝันมันโฟกัสไปแค่ที่

หน้า ไม่งั้นตบะแตกแน่ๆ   :oo1:  (รึไม่ดีหว่า น่าจะจับกดไปเลย  )

ผมดึงตัวมันมากอด กระซิบมันที่หูว่า“รักดอกจึงหยอกเล่น.....หึหึ”



กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ในที่สุดดดดดดดด


ก็เฉลยเรื่องน้องออมแล้ว  55555   ดีจริงๆๆ  ฝันจะได้เข้าใจถูกซะที  (เหลือแค่เรื่อง ซากอ้อย น่าจะเคลียร์เร็วๆนี้นะ  อิอิ)

เสียงไอ้ใหญ่พูดเบาๆว่า “ที่มึงทำ...มึงเมา...กูรู้”


ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก
 สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน
        ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป
      แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืน


>>>  ฝันบอกรักใหญ่กลายๆแล้ววววววววววววววว  มียกกลอนมาบอกรักกกกกกกก  เน่าจริงๆๆ อย่างที่ใหญ่บอก  

ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ
แหมๆๆ จริงๆๆ ใหญ่ก็คงอยากจะร้องไห้ด้วยความซึ้งใจอ่าแหละ ไม่คิดว่าจะได้ยิน แต่ทำเป็นหัวเราะกลบเกลื่อน  

ฝันงอนแล้ว  

>>> ใหญ่จะง้อไงน้าาา  อิอิ  


 

ขอบคุณทั้งคนเขียน และ คนโพสต์มากๆค่ะ ให้กำลังใจคนโพสต์ในการไปตามต้นฉบับต่อไป  +1  จ้า

ส่วนคนเขียน  ยังเขียนได้ดี แล้วถ่ายทอดอารมณ์ตัวละครออกมาได้ดีมากค่ะ  
อ่านแล้วชอบมากๆๆ  เห็นพัฒนาการของตัวละคร   o13
เป็นกำลังใจให้นะคะ

ปล... อ่านมาซะก็นาน จะเกือบ 20 ตอนแระ แต่ยังไม่รู้จักนามผู้แต่งเลย  ว่านามแฝงอะไรอ่าคะ  
ปล... อย่าจบเศร้านะ    :m15:

 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-09-2009 21:10:32 โดย Ak@tsuKII »

mecon

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดดดดดดดดดดด
ลูกชายฝันของคุณแม่ทำงามหน้า จ้วงจูบเพื่อนกลางบ้าน
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
น่ารักโคดๆๆๆ หาวิธีแกล้งเพือนได้ตามใจตัวเองมากเลยนะคะฝัน
แล้วอีกอย่าง หนูออมคือหลาน กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
คนมันหึงมันหวงไปแล้วนี่นา หน้าแตกเลยมั๊ยคะ แบบนี้  :o8:
หนูใหญ่บอกไปสิคะลูก ว่ายังโสดยังซิงไม่มีแฟน 5555
ไอ้เพือ่นบ้าจะได้เลิกเหวี่ยงทำเป็นสาววัยทองไปได้
ฝันเอ้ย ได้อยู่กันสองต่อสองอ่ะ เอากลอนมาพูดเนี่ย
บอกเป็นคำพูดตรงๆไปได้มั๊ย ว่าไอ้ที่จูบที่หอมที่คลำเนี่ย
ไมได้เมาไม่ได้เล่นๆ แต่จริงจัง พูดไปนะฝัน ทำเป็นป่าว
ส่วนน้องใหญ่ ที่เชียงใหม่มีทุกอย่าแค่ไม่มีไอ้ฝัน อัยยยยย
เอาฝันไปเลี้ยงที่บ้านด้วยมั๊ยคะลูก เฮ้ออออออออออออออออออ

แม่ของฝันเค้ายกให้แล้วนะ เลือกแต่น้องใหญ่นั่นแหละจะรับเลี้ยงป่าว

 :jul3:

+1 จัดให้คะ เลิศ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






namtaan

  • บุคคลทั่วไป
คงรู้ใจกันแล้วหละ ขนาดนี้แล้ว
แต่รู้ใจกันแล้ว จะสานต่อได้มั้ยนี่
ใครจะไปหาใคร จะัยังไงดีหละทีนี้
หรือว่าจะปล่อยให้เป็นเหมือนเดิมอีก
บวก 1 แต้มนะคะ กำลังสนุกมากๆเลยหละ

ออฟไลน์ Ak@tsuKII

  • Honeymoon
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3845
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-3


ใหญ่จับฝันยัดใส่ถุงแล้วพากลับไปเจียงใหม่ด้วยเลย  

ยังไงคุณแม่ก็ยกให้แล้ววว  :laugh:


 :mc1:    

รอฝันกะใหญ่  chapter ๒๐  :call:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-09-2009 02:51:18 โดย Ak@tsuKII »

สาวบ้านนอก

  • บุคคลทั่วไป
(ตอนที่ ๒o)

ผมนั่งเงียบไม่พูดอะไรอยู่นานไอ้ใหญ่มันคงผิดสังเกตเลยเหลือบตามองหน้าผม  แล้วก็ถามว่า “นี่เรากำลังจะไปที่ไหนฝัน” แต่ผมก็ทำไม่รู้ไม่ชี้แกล้งไปเปิดวิทยุฟังเพลง แต่ที่จริงคือ...ผมเองก็ยังนึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะไปที่ไหน ในยุคที่น้ำมันแพงขนาดนี้จะมาทำงอนแล้วขับรถไปเรื่อยๆโดยไม่มีจุดหมายก็จะเป็นการทำร้ายตัวเองและโลกมากเกินไป  เค้ายิ่งรณรงค์ให้ลดการใช้พลังงานเพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อนอยู่ด้วย

“มึงอยากไปไหนล่ะ...คนน้ำเน่าอย่างกูจะพาไป” อยากจะเลิกงอนแต่ก็อดไม่ได้ครับ  กูขอหน่อยนะไอ้ใหญ่ ผมพูดโดยไม่หันไปมองหน้ามันก็ขับรถอยู่นี่ครับหันไปหันมาถึงได้ชนกันตายให้เห็นบ่อยๆ
 แต่ไอ้ใหญ่คงไม่เข้าใจ “พูดกับกูแต่ไม่มองหน้ากู...ดุ..เอาใจยาก..แล้วยังขี้งอนอีกนะมึง”

อารมณ์กูมันเลว กูมันชั่ว กูมันไม่มีดีเข้าแถวมาเลยครับ “เออ...กูมันไม่ดี...น้ำเน่า..เชย....มึงทำไมไม่พูดให้ครบๆล่ะ”
ไอ้ใหญ่หัวเราะชอบใจที่ยั่วให้ผมโกรธได้ “เออใช่....กูลืมไปอีกหลายอย่าง...ช่างประชดประชัน.....กวนตีนด้วย...แล้วก็”
ผมรีบยกมือเป็นปางห้ามญาติ ต้องห้ามไม่ให้มันพูดต่อ  ก่อนที่มันจะขุดคุ้ยนิสัยแย่ๆของผมขึ้นมาจนหมด “พอแล้วๆ.....เซ็ง..ไม่มีอะไรดีซักอย่าง....พูดอะไร ทำอะไรก็ผิด แม่ก็ไม่รัก เพื่อนก็ไม่รัก”

ไอ้ใหญ่หัวเราะอยู่ในคอแล้วก็ส่ายหน้า “มึงนี่ยิ่งโตยิ่งบ้าว่ะ...ปริญญาไม่ช่วยอะไรจริงๆ”

ผมก็ไม่เข้าใจ “มึงเอาอีกคนแล้วนะ  กูไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมวะคนอย่างกูนี่ดูไม่เหมือนคนที่จบปริญญามาได้เลยรึไง”  ผมตีโพยตีพายต่อไปเรื่อยๆ “ไอ้หนุ่ยก็คน  แม่ก็อีก แล้วยังมึงอีก...นี่ใครๆเห็นกูเป็นคนไม่ได้ความขนาดนั้นเลยเหรอ นี่กูน้อยใจแล้วนะ”ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกเสียเซลฟ์ขึ้นมาจริงๆแล้วครับ ทั้งที่ผมก็ฝ่าฟันจนเรียนจบปริญญาตรีมาได้ ถึงเกรดจะไม่สวยเลิศหรูแต่ก็ไม่เคยติดโปร หรือต้องมาสอบซ่อม ไม่เคยสอบได้F แค่ไม่เคยได้ A มาสวยหรูชูสง่าอยู่บนทรานสคริปท์ผมเท่านั้นเอง
 
ไอ้ใหญ่เอื้อมมือจะลูบหัวผมพยายามจะปลอบหรือด่าก็ไม่รู้เพื่อให้ผมหายงอน แต่ผมก็เอาหัวหลบมือมัน ไอ้ใหญ่เลยหัวเราะแล้วส่ายหัวด้วยความระอา “มึงอย่าให้กูต้องเพิ่มนิสัยขี้น้อยใจเพิ่มให้มึงอีกอย่างเลย....แค่นี้ก็มากมายพูดกันไม่จบมาสามวันแปดวันแล้ว” คิ้วผมเริ่มกระตุกด้วยความโมโห กำลังจะโวยวายที่มันมาหาข้อเสียเพิ่มให้ผมอีกจนได้

“แล้วมึงรู้ได้ไงว่าเพื่อนไม่รัก...............” เสียงเบาๆของไอ้ใหญ่ที่พูดต่อมา   ทำให้ผมเปลี่ยนเป็นพูดไม่ออกได้แต่เบือนหน้าไปแอบยิ้มไม่ให้มันเห็น
ผมไม่รู้ว่าสถานการณ์แบบนี้ผมควรจะพูดว่าอะไร หรือไม่ควรพูด ไอ้ใหญ่เองมันก็ไม่พูดอะไรต่อ เราก็เลยเงียบกันอยู่อย่างนั้น   ไอ้ใหญ่มันจะรู้สึกยังไงผมไม่รู้ แต่ผมรู้ตัวเองว่าผมยังไม่หยุดยิ้ม จนผมขับรถมาถึงห้างสรรพสินค้าเปิดใหม่แห่งหนึ่ง พอรถเข้าที่จอดเรียบร้อยไอ้ใหญ่ทำท่าจะลงจากรถผมคว้ามือไอ้ใหญ่ไว้ก่อน แล้วถามสิ่งที่มันพูดค้างๆไว้ว่า
 “ตกลง...เพื่อน...รัก..ใช่มั้ย”

มันหน้าแดงแต่ไม่ตอบอะไรเอามือมาปลดมือผมออกจากแขนมัน  ไอ้ใหญ่ไม่ยอมมองตาผมก้มหน้าพูดเบาๆว่า
 “มึงนี่เข้าใจอะไรยากนะ....ถ้ามึงดูไม่ออก..มึงก็ไม่ต้องรู้ต่อไป” แล้วไอ้ใหญ่ก็ลงไปจากรถ ทิ้งให้ผมนั่งคิดกับคำพูดของมันอยู่ไม่ยอมลงจากรถ จนมันต้องเคาะกระจกเรียกผมลงไป “รีบไปซื้อของกันเถอะ”

ผมเดินตามไอ้ใหญ่ไปซื้อของอย่างมึนๆเบลอๆ  ผมยังไม่กล้าพูดอะไรอีก ความคิดหลายร้อยเรื่องวนเวียนอยู่ในหัวแต่ก็ยังหาทางออกไม่ได้  พอคิดถึงเมื่อคืนและสิ่งที่ผมทำไป คิดถึงรอยจูบเมื่อเช้า  ไอ้ใหญ่ในอ้อมแขนผม แม้กระทั่งกลิ่นแป้งเด็กที่ผมสูดดมจากแก้มของไอ้ใหญ่ยังติดอยู่ในความทรงจำ
และคำถามสุดท้ายที่มันพูดกับผม “แล้วมึงรู้ได้ไงว่าเพื่อนไม่รัก...............” เสียงของไอ้ใหญ่ยังก้องอยู่ในหูผม

บางทีผมก็คิดว่าผมรู้ใจผมแต่ผมไม่รู้ใจมัน  แต่ผมไม่รู้ใจมันจริงหรือเปล่า หรือที่ผ่านมาแม้แต่ใจตัวเองผมก็ไม่เคยรู้มาก่อนเหมือนกัน

มันทำให้ผมออกจะเขินอยู่เหมือนกัน...เมื่อมาลองคิดดูว่าเพื่อนที่รู้จักกันมานานกว่าสี่ปีแล้ว....เพียงข้ามคืนก็จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยทำมาตลอดให้เป็นในรูปแบบที่แตกต่างออกไปผมก็ยังทำตัวไม่ถูกอยู่ดี

 แต่ไอ้ใหญ่ก็ไม่ปล่อยให้ผมคิดอยู่นาน “ฝัน...มึงไม่เคยเดินห้างเหรอ...ทำไมมึงต้องทำท่าแปลกๆด้วยวะ  แล้วเดินช้าแบบนี้กูจะซื้อของทันได้ยังไง  ให้ไวมึง”มันเดินเข้ามาลากแขนผมให้เดินมาทันแล้วชี้ชวนให้ผมช่วยมันเลือกซื้อของฝากกลับบ้าน

 ผมไม่รู้ว่ามันซื้อของอะไรให้ใครบ้างรู้แต่ว่ามันซื้อของมากมายทั้งของกินของใช้ของเล่น เหมือนไม่ได้ซื้อมานานชั่วชีวิต  ใช้เวลาไม่นานผมก็ลืมเรื่องสารพันที่ผมหมกมุ่นครุ่นคิดมาเป็นชั่วโมง  แล้วเริ่มสนุกกับการที่ได้อยู่กับไอ้ใหญ่  เราเดินซื้อของกันจนผมเริ่มหิวเลยลากไอ้ใหญ่ให้ไปหาอะไรกินก่อนเพื่อเป็นการพักเหนื่อยจากการเดินซื้อของหลายชั่วโมง “มึงเป็นบ้านนอกเข้ากรุงตัวจริงแล้วไอ้ใหญ่...ไหนมึงบอกว่าอะไรๆที่เชียงใหม่ก็มีหมด  แล้วไอ้ของที่มึงขนซื้อมาเยอะแยะจนกูช่วยถือจนเมื่อยนี่...บ้านมึงไม่มีขายเหรอ”
“มีทั้งนั้นแหละ...ฮ่าๆๆ” มันกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย หน้าตามีความสุข
“อ้าวปัญญาอ่อนรึเปล่ามึง...แล้วมึงมาขนซื้อทำไม  แล้วก็ต้องหอบขึ้นเครื่องไปให้ลำบากอีก” ที่สำคัญผมก็เหนื่อยด้วยต้องมาช่วยมันหิ้วของ
“ก็มันมีอยู่สองอย่างที่มันไม่มีที่นู่นน่ะซิ”ไอ้ใหญ่พูดไปก็ยักคิ้วใส่ผม “ไหนมึงทายซิ...อะไรเอ่ย??”

เอาแล้วครับไอ้คำถามประเภทอะไรเอ่ย เป็นสิ่งที่ผมเกลียดที่สุด ถ้าคุณตอบถูกคุณจะไม่ภูมิใจหรอกครับเพราะเท่ากับว่าคุณเคยเจอคำถามนี้มาแล้วและคุณรู้คำตอบอยู่แล้ว หรือถ้าคุณตอบได้เองคุณก็จะเหมือนกับพวกเพี้ยนๆที่ตอบคำถามเพี้ยนๆได้   แต่ถ้าคุณตอบไม่ได้ คุณก็อาจจะดูโง่ เพราะไม่รู้จักพลิกแพลงคำถามคำตอบหลายๆมุม ซึ่งบางครั้งเด็กกลับตอบได้เก่งกว่าคุณซะอีก  ความรู้สึกมันแย่พอๆกับคนที่ไปออกรายการผมมันแย่ผมแพ้ป4 ยังไงยังงั้นเลยครับ ผมเลยไม่ยอมทายปัญหาของไอ้ใหญ่
“ไม่เอากูไม่ทาย  เล่นอะไรเป็นเด็ก” จะทายถูกได้ยังไงครับไปเชียงใหม่มาแค่1 วัน
ไอ้ใหญ่หัวเราะ “มึงมันกลัวเสียฟอร์มตลอด กูแค่ถามเล่นๆ”

“ก็นั่นแหละกูจะไปรู้ได้ยังไงว่ามันไม่มีอะไร 2อย่างที่ว่า มึงบอกมาเลยดีกว่า”ที่จริงไม่ค่อยอยากรู้เท่าไหร่ แต่ในเมื่อไอ้ใหญ่มันอยากถามผม  ผมก็เลยอยากรู้ก็ได้ ไอ้ใหญ่กินข้าวเสร็จพอดียกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มแล้วก็เริ่มเฉลยคำถาม
 “อย่างแรก...กูไม่มีเวลา...ทั้งวันกูก็ทำแต่งานไม่มีเวลาไปซื้อของอะไรพวกนี้หรอก” คำตอบมันเหนือความคาดหมายจริงๆ ตอบแบบนี้ใครจะรู้  เฮ้อ...“โธ่เอ๊ย...กูก็นึกว่าอะไร เวลามีเยอะแยะไม่รู้จักไปเองมากกว่า แล้วอย่างที่สองล่ะ”

“อย่างที่สอง.....ก็ไม่มีมึงไง....กูไม่มีเพื่อนไปซื้อของ...กูก็เลยเซ็งไม่อยากไปไหน” ผมยิ้มเลยครับที่ผมก็เป็นหนึ่งในคำตอบของไอ้ใหญ่มันด้วย  แอบภูมิใจนิดหน่อย แต่ก็แอบเขินเลยยกมือเกาหัวแก้เขิน “กูไม่เห็นช่วยอะไรมึงได้เลยซักอย่าง”
“ที่จริงมึงช่วยได้นะ ช่วยจ่ายเงินยังไงล่ะ  แต่ก็ไม่เห็นจ่าย...ไอ้งก”ไอ้ใหญ่มันไม่ยอมให้ผมจ่ายต่างหากล่ะครับพอมันซื้อๆเสร็จมันก็ควักเงินไวมากผมจะไปจ่ายให้ทันได้ยังไง
“กูไม่ได้งก  แต่กูจ่ายไม่ทันมึง ควักมาจ่ายไวอย่างกับไอ้พวกล้วงกระเป๋า” ไอ้ใหญ่หัวเราะกับคำเปรียบเปรยของผมแล้วก็ยกข้อมือดูเวลาตอนนี้มันบ่ายโมงกว่าแล้วครับ
“สงสัยเราต้องไปแล้วล่ะฝัน  จะได้ไม่ต้องรีบๆร้อนๆ มึงจะซื้ออะไรอีกรึเปล่า”  ผมก็ดูเวลาตามมันแล้วก็ใจหาย เวลาของมันกับผมช่างหมดไปอย่างรวดเร็ว  “กูไม่อยากได้อะไร งั้นเราไปกัน”

เราออกจากห้างสรรพสินค้าแล้วตรงไปที่สนามบินกันเลย ตลอดการเดินทางเราคุยกันเรื่องสัพเพเหระทั่วๆไปไม่มีใครเอ่ยพูดเรื่องความรู้สึกระหว่างกันออกมา เหมือนเก็บมันไว้เป็นเรื่องที่เรายังหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึง
 “น้องออมเป็นไงมั่งวะ เลี้ยงยากมั้ย มึงเลี้ยงเป็นเหรอ” ผมไม่ค่อยชอบเด็กเพราะผมทำตัวไม่ถูกเมื่ออยู่กับเด็ก ไม่รู้ว่าควรจะเล่นยังไง คุยยังไง
“ก่อนที่เล็กแม่เค้าจะตาย น้องออมน่ารักมาก เลี้ยงง่าย ไม่งอแงเลย แต่หลังจากที่พ่อแม่เค้าตายไป เค้าจะงอแงมากขึ้น” เสียงไอ้ใหญ่ถอนหายใจ ฟังจากน้ำเสียงที่มันเล่าผมรู้เลยว่ามันค่อนข้างหนักใจกับเรื่องนี้
“กูก็ไปปรึกษาหมอ เค้าก็บอกว่าเด็กจะเรียกร้องความสนใจจากเรามากขึ้นเพราะเค้าจะกลัวว่าจะไม่มีใครรัก  น้องออมเค้าเลยติดกูมาก นี่ยังดีนะตากับยายช่วยเลี้ยง กลางคืนก็ไปนอนกับแม่กู กูเลยพอมีเวลาส่วนตัวบ้าง  แต่กูก็สงสารหลานต้องมากำพร้าตั้งแต่เด็กๆ”

ผมฟังแล้วก็เข้าใจความรู้สึกไอ้ใหญ่ มันเป็นลูกคนโตภาระหน้าที่ต้องดูแลครอบครัวเป็นสิ่งที่มันต้องทำอยู่แล้ว  แต่เรื่องเลี้ยงเด็กเพิ่มขึ้นมาอีกคนมันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครจะคาดคิด “ตอนนี้มึงก็เลยเป็นเหมือนพ่อน้องออมเลยซิ”
ไอ้ใหญ่พยักหน้ายิ้มๆ “กูมีลูกโดยไม่ต้องทำเลยมึง  แต่มึงรู้มั้ยเลี้ยงเด็กนี่มันเหนื่อยนะ  แต่ก่อนกูเคยมาเล่นกับหลานเป็นบางครั้งก็รู้สึกสนุกดี  แต่พอต้องมาดูแลจริงๆจังๆ  เราต้องให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียด ไหนจะต้องสอนสิ่งที่เค้าไม่รู้ไม่เข้าใจ  มันไม่ง่ายเลยมึง”

ฟังดูแล้วตอนนี้ไอ้ใหญ่มันคงเลี้ยงเด็กเก่งพอดูเลยครับ“อีกหน่อยมึงมีลูกของมึงเอง  มึงคงเลี้ยงเก่งเลย”
 ไอ้ใหญ่มันถอนหายใจยาวพูดด้วยน้ำเสียงปลงๆ “กูคงไม่มีหรอก  จะไปมีได้ยังไง” มันเหมือนกับว่าผมวกกลับมาพูดเรื่องที่ไม่น่าจะพูดไปอีกแล้ว  เรื่องที่ละเอียดอ่อนระหว่างผมกับมันมีเพิ่มมากขึ้นทุกที  ผมคงต้องคิดก่อนพูดให้มากกว่านี้ ผมก็เลยยิ้มปลอบใจมันไป “อืม...งั้นมึงก็เลี้ยงหลานไป”

    รถเราเลื่อนเข้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิพอดีอีกไม่นานเราก็ต้องแยกจากกันจริงๆ ผมได้โอกาสเปลี่ยนเรื่องคุย
“มึงกลับไปกูคงเหงา  เมื่อไหร่จะได้มาเจอกันอีกก็ไม่รู้” เหมือนยังมีเรื่องที่อยากคุยกับไอ้ใหญ่อีกเยอะเลยครับ
 “มึงก็เขียนจดหมายไปหากูบ่อยๆซิ แต่มึงมีกิจกรรมทำเยอะแยะมีเวลาเหงาด้วยเหรอ” ถึงแม้ไอ้ใหญ่จะพูดแบบนั้น และถ้าเทียบกันแล้วผมก็ไม่รู้ว่าระหว่างไอ้ใหญ่กับผมใครจะมีกิจกรรมทำมากกว่ากันแต่นั่นมันไม่ได้เป็นเครื่องวัดหรอกครับว่าใครจะเหงามากกว่ากัน

“บางทีมีคนอยู่รอบๆตัวเรามากมาย มีเรื่องที่ต้องทำมากก็จริง แต่มันก็ยังเหงานะมึง”
 ผมรู้สึกว่าแค่คนๆเดียวอยู่กับเราแค่ไม่กี่นาที คุยกับเราไม่ถึงสองประโยคก็อาจทำให้เรามีความสุขไปได้ทั้งวันแล้วนะครับ  จำนวนคนที่อยู่กับเรามันไม่ได้ช่วยหรอกครับเมื่อเราเหงาขึ้นมาถ้าเขาไม่ใช่คนที่เราต้องการ

แต่ผมก็ไม่ได้บอกความรู้สึกนี้ให้กับไอ้ใหญ่ไป  ผมช่วยมันขนข้าวของไปเช็คอินจัดการเรื่องตั๋วเสร็จเราพอมีเวลาเหลือเลยตัดสินใจหาร้านกาแฟนั่งดื่มรออยู่ข้างนอก  เวลาที่ผ่านไปทุกนาทีมันช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วเหมือนเวลาแห่งการลาจากที่เชียงใหม่ย้อนกลับมาเกิดขึ้นอีกครั้ง  เพียงแต่สลับตัวระหว่างผมกับไอ้ใหญ่ที่จากไปเท่านั้นเอง ตัวไอ้ใหญ่เองพูดน้อยลงไปทุกทีเหมือนมันเองก็คิดอะไรอยู่  ปล่อยให้ผมพูดอยู่คนเดียว
“มึงไปถึงแล้วโทรบอกกูด้วยนะ  ไม่ต้องจดหมายมาบอกล่ะว่าถึงแล้ว”
พอผมพูดจบไอ้ใหญ่ยิ้มขึ้นมาทันที“กูอีเอ็มเอสมาบอกก็ได้ เร็วเหมือนกัน”
ผมหัวเราะ“ไอ้บ้า....เดี๋ยวกูออกค่าโทรศัพท์ให้มึงก็ได้”
“กูไม่ได้กลัวเปลือง...กูพูดเล่น ถึงแล้วจะโทรบอก” น้ำเสียงของมันดูเหงาๆเหมือนรอยยิ้มของมัน

 ผมเอื้อมมือไปกุมมือไอ้ใหญ่ไว้แล้วบีบเบาๆ “มีอะไรก็บอกกูมา มึงก็รู้แล้วนี่ว่าสำหรับกูมึงเป็นมากกว่าเพื่อน”
ไอ้ใหญ่เงยหน้าขึ้นสบตาผมตรงๆ “กูไม่อยากเอาเรื่องหนักๆมาให้มึงเป็นกังวลไปด้วย”
“คราวนี้กูบังคับ  มึงต้องบอกกูทุกเรื่อง  ถ้ากูจะกังวลก็เรื่องของกูมึงไม่เกี่ยว” ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง  ผมอยากรับรู้เรื่องทุกเรื่องที่เป็นเรื่องของมัน  “แค่เราอยู่ไกลกันก็พอแล้วนะใหญ่  อย่าต้องให้ห่างไปซะหมดทุกอย่างซิ”

ผมมองหน้าไอ้ใหญ่อยากให้มันรู้ว่าสิ่งที่ผมพูดคือสิ่งที่ผมคิดจริงๆ  ผมยังคงจับมือมันไว้ไม่ยอมปล่อยแล้วพูดต่อ “กูเคยคิดว่าเราไม่น่าอยู่ห่างกัน  แต่ถ้ากูยังติดต่อมึงได้ ถึงจะนานๆครั้ง กูก็ยังพอใจ  ถ้ากูไม่รู้ว่ามึงอยู่ดีมีสุขยังไง มึงคิดว่ากูจะมีความสุขได้เหรอ”
ไอ้ใหญ่ยิ้มเศร้าๆแล้วค่อยๆดึงมือออกจากมือผม “กูมีความสุขนะฝัน  แค่มึงพูดแบบนี้กูก็ดีใจแล้ว  ต่อให้เราต้องแยกกันอยู่แบบนี้ตลอดไปกูก็ไม่เสียใจ”

 ไอ้ใหญ่น้ำตาคลอแต่ใจผมซิพอเห็นน้ำตามัน แค่คำพูดที่มันพูดขึ้นมา ใจผมหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้   เหมือนชีวิตผมกับมันจะต้องเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆไม่มีทางที่จะได้กลับมาอยู่ข้างๆกันอีกแล้ว
 
เสียงประกาศครั้งสุดท้ายจากสนามบินของเที่ยวบินที่ไปเชียงใหม่ดังขึ้น  ไอ้ใหญ่เหลือบดูเวลาอีกครั้ง “กูต้องไปแล้วล่ะ”
ไอ้ใหญ่ลุกขึ้นแล้วเดินมาจับมือผมไว้ มือของมันเย็นเฉียบ  ผมบีบมือมันเบาๆเราเดินจูงมือกันจนมาถึงประตูทางเข้าไปด้านใน
 “มึงต้องดูแลตัวเองนะใหญ่ กูเป็นห่วง ขับรถก็ระวังๆ” หน้าตาของมันซีดเซียว
 ผมดึงตัวมันเข้ามากอดอีกครั้งตบไหล่มันเบาๆแล้วนิ่งอยู่ชั่วขณะ ผมรับรู้ถึงตัวที่สั่นเทาของมันในอ้อมกอดผม  ผมไม่อยากให้มันต้องกลับไป ผมไม่อยากปล่อยมันจากอ้อมแขนของผม  ผมไม่อยากจะกระวนกระวายกับการรอคอยข่าวคราวของมันอีกแล้ว แต่ผมทำอะไรไม่ได้สักอย่าง ได้แต่ปล่อยให้มันจากไป  แต่ละคำพูดของผมมันช่างยากที่จะเอ่ยออกมา

“มึงดูแลตัวเอง ไม่ใช่เพื่อตัวมึงนะ   กูฝากให้มึงดูแลตัวเองก็...เพื่อกูด้วย”
เสียงของผมสั่น พูดไปน้ำตาผมจะไหล ผมอยากจะบอกออกมาว่าถ้ามันเป็นอะไรไปผมคงทนไม่ไหวแต่ผมก็ไม่ได้พูด ผมพยายามปรับอารมณ์ของตัวเองให้สงบลง ได้แต่ข่มความรู้สึกไว้ในใจ   ไอ้ใหญ่ค่อยๆดึงตัวเองออกจากอ้อมกอดผม ตามันแดงๆแต่ก็ยังมีรอยยิ้มให้ผม

“กูคงไม่ได้เห็นมึงยืนส่งจนเครื่องออกเหมือนตอนที่กูไปส่งมึงที่รถทัวร์  กูไปนะฝัน กูมีความสุขมากทั้งสองวันที่เราอยู่ด้วยกัน  ไว้เราเขียนจดหมายคุยกัน ฝากลาแม่มึงด้วย”

ผมยืนมองใหญ่เดินจากไปจนลับตา  พยายามส่งยิ้มให้มันแม้เมื่อไอ้ใหญ่หันหลังจากผมไป  ถึงแม้เราจะอยู่ไกลกันผมก็จะพยายามยิ้มให้ได้  ผมไม่รู้หรอกว่าวันข้างหน้าระหว่างเราจะต้องแยกจากกันนานแค่ไหน  ถ้าชีวิตมันยังไม่ถึงตอนจบเหมือนในนิยาย.....ผมก็ไม่ผิดที่จะยังมีความหวังอยู่เรื่อยๆไม่ใช่หรือ หรือถึงแม้ว่าเรื่องมันจะไม่จบแบบที่ผมหวัง  วันนั้นมันก็ยังมาไม่ถึง...ตอนนี้ถ้าผมเลือกได้ผมก็ขอเลือกที่จะยิ้มไว้ก่อนดีกว่า 
******************************
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ ยังไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องนี้จะจบยังไง แต่เห็นว่าตอนใหม่เขียนไปแค่3บรรทัด :laugh:

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
^
^
เหอๆๆๆ ดูท่าทางจากสิ่งทั้งหลายทั้งปวงที่ดำเนินมาแล้ว
เหมือนมันจะจบเศร้าเลยนะ
แต่อะไรๆก็ไม่แน่ใช่มั้ยจ๊ะ คนแต่งจ๋า
อย่าบีบคั้นหัวใจกันเลยเนอะ

ตอนนี้สองคนก็รู้อยู่แก่ใจกันมากขนาดนี้แล้ว
ถ้าจะตัดสินใจทำให้ชีวิตมีความสุขกว่านี้ก็น่าจะเป็นไปได้นะ

บวก 1 แต้มเช่นเคย ขอบคุณมากค่ะ


zeazaiz

  • บุคคลทั่วไป
 o13 ขอบคุณทั้งคนโพสและคนเขียนจ่ะ

ออฟไลน์ Ak@tsuKII

  • Honeymoon
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3845
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-3
จากกันอีกแล้ว  จากกันทีไร  ใจหายทุกที่เลย  เฮ้อออออ  เหมือนอยู่คนละโลก
จะติดต่อกันที่ก็ยากส์เหลือแสน ต้องคอยลุ้นว่าจะได้รับการตอบกลับจากอีกฝ่ายไหม
เป็นกังวลสารพัดสารเพ  :z3:

ฝันย้ายไปทำงานที่เชียงใหม่ดีมะ จะได้อยู่ใกล้ๆกัน

(แต่ก็เป็นห่วงแม่ของฝันอีก  ถ้าฝันย้ายไปนู่น ไม่มีใครดูแลแม่  แถมยังต้องเรียนอยู่อีก  :z3:)

แหมฝันน่าจะบอกรักและขอใหญ่เป็นแฟนไปตรงๆๆเลย 
แต่ก็คงต่างรับรู้แล้วละนะ  ว่าใจตรงกัน

+1

ปล คนเขียนอย่าจบเศร้าน้าาาา :monkeysad:

mecon

  • บุคคลทั่วไป
จากกันแล้ว แค่คงจากกันไม่ตลอดไปหรอกนะ
เชียงใหม่แค่นี้เอง  :m15:

“แค่เราอยู่ไกลกันก็พอแล้วนะใหญ่  อย่าต้องให้ห่างไปซะหมดทุกอย่างซิ”
>> โหยฝันพูดแบบนี้ เอาแม่มาขอเลยดีกว่าัมั๊ย โคดน่ารัก :กอด1:

“มึงดูแลตัวเอง ไม่ใช่เพื่อตัวมึงนะ   กูฝากให้มึงดูแลตัวเองก็...เพื่อกูด้วย”
>> ใหญ่อิป้าว่านู๋ขนเสื้อผ้าหนีตามเ้จ้าฝันมากทม.เหอะ แม่เจ้าฝันเค้าก็รับเป็นลูกแล้วหนิ
เข้ามาอยู่บ้านเลยกรี๊ดดดดดดด ซึ้งจัง

สองคนนี้สุดๆเลยอ่ะ ฝันมันก็แง้มสี่ห้องหัวใจให้ดูแล้วนะ
นุ้งใหญ่ก็ไมไ่ด้คิดจะปิดบังอะไร เหลือแต่รอคอยวันเวลา
เพื่อค.แน่ใจ หรือเพื่ออะไรหลายๆอย่างชิมิคะลูก :man1:

“ตกลง...เพื่อน...รัก..ใช่มั้ย”
“มึงนี่เข้าใจอะไรยากนะ....ถ้ามึงดูไม่ออก..มึงก็ไม่ต้องรู้ต่อไป”
>> คนบ้าเจ้าฝัน ยกขันหมากไปขอจิ ทำมาปากหวาน
เจ้าชู้ไก่แจ้กับเพื่อนเป็นที่ซู้ดดดดดดดดด

บางทีผมก็คิดว่าผมรู้ใจผมแต่ผมไม่รู้ใจมัน  แต่ผมไม่รู้ใจมันจริงหรือเปล่า
หรือที่ผ่านมาแม้แต่ใจตัวเองผมก็ไม่เคยรู้มาก่อนเหมือนกัน

>> ตอนนี้อ่ะต่างคนต่างหยั่งเชิงกันอยู่ ใหญ่ก็ดูเหมือนจะมีค.หวังอะไรมากขึ้น
เพราะสิ่งที่ฝันแสดงออกมาช่างตรงไปตรงมาแบบไม่ต้องตีความ ใหญ่ควรจะมั่นใจ
ในตัวฝันบ้างได้แล้ว หุหุ เพราะฝันก้ออกนอกหน้าซะขนาดนั้นแล้วไหนจะกอด
จะหอม อะไรอีกล่ะ ถ้าเพื่อนไม่คิดอะไรป่านนี้ตกเตียงไปแล้ว อิอิ
ส่วนฝันต้องแสดงออกให้มากกว่านี้อ่ะนะ หมายถึงทำให้ต่อเนื่อง
เพราะยังไงใหญ่มันก็รักของมันอยู๋แล้วล่ะแต่แค่กัวเลยไม่แสดงออกมาแบบออกนอกหน้าอ่ะนะ


+1 จัดให้คะ ชอบบบบบบ

ออฟไลน์ zingiber

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-4
อ่านเรื่องนี้ทีไร ใจจะขาดดดดดดด :m15:

จะบีบหัวใจคนอ่านไปถึงไหนเนี่ย :o12:

morrian

  • บุคคลทั่วไป
ประทับใจแบบเศร้าๆอะ  :o12:

ออฟไลน์ astral

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-5
จะเศร้าไปไหนคะ  :เฮ้อ:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด