ได้มาอีกหนึ่งก้าว(๑๙)แล้วนะ ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่ะ
ตอนที่(๑๙)
แต่พอผมจะลุกขึ้นบ้างกลับต้องลงไปนอนเล่นจริงๆ เพราะลุกขึ้นมาแล้วแขนชาไปหมดต้องค่อยๆงอแขนช้าๆบีบเบาๆให้หายตะคริวกิน จนไอ้ใหญ่ออกมาจากห้องน้ำผมก็ยังนวดแขนอยู่ “ฝันเป็นอะไร...ทำอะไรอยู่”
ไอ้ใหญ่นุ่งผ้าขนหนูมายืนกอดอกดูผมนวด ตามเนื้อตัวยังมีหยดน้ำเกาะอยู่ มันก็ทำตัวเหมือนเคยไม่ชอบเช็ดตัวให้แห้ง หยดน้ำยังเกาะเต็มใบหน้า
นอนดูมันแต่งตัวล่อแหลมแบบนี้แล้วผมรู้สึกเขินๆยังไงไม่รู้ครับ ทั้งที่แต่ก่อนก็เห็นออกจะบ่อย เลยเผลอกวนมันไป
“นวด...ไม่รู้จักรึไง” พูดไปแล้วก็รีบหลบตาทำเป็นนวดต่อ
“รู้จัก...ทำไมต้องกวนด้วยวะ กูก็ถามดีๆ”มันพูดเหมือนน้อยใจที่ผมไปกวนมัน เลยต้องง้อมันก่อน
“ไม่ได้กวน...ก็แขนกูเป็นตะคริว ไม่รู้เลย ว่าเอาแขนไปเป็นหมอนมันจะทำให้เป็นตะคริวไปได้”
ไอ้ใหญ่ทำปากขมุบขมิบ“ดี...สมน้ำหน้า...มาๆช่วยนวดให้ แค่นี้ทำเป็นบ่น”
ไอ้ใหญ่นั่งลงที่เตียงแล้วคว้าเอาแขนผมมาวางที่ตักมันแล้วช่วยนวดให้ มันเอียงคอถามผม“ต้องใช้เคาน์เตอร์เพนมั้ย จะได้ร้อนๆ”
ผมส่ายหน้าแต่ไม่ตอบ นอนมองหน้าไอ้ใหญ่ที่ดูตั้งอกตั้งใจเหลือเกินกับการนวด พยายามดูแค่ที่หน้าไม่ไปดูเนื้อตัวขาวๆของมัน อยากเอื้อมมือไปเช็ดหยดน้ำบนแก้มไอ้ใหญ่ก็ไม่กล้า ไอ้ใหญ่มันขยำไปขยำมาจนผมรู้สึกดีขึ้น แต่ก็ยังสบายจนไม่อยากให้มันเลิกนวด รู้สึกเพลินจนผมเผลอเอามือลูบเข่ามันที่โผล่พ้นผ้าขนหนูออกมา ไอ้ใหญ่มันเริ่มเหล่มองหน้าผม ผมก็มองหน้ามันแกล้งพูดยิ้มๆ กะว่าจะล้อมันเล่น
“ขาวดีนะเนี่ย”
“เชี่...แล้วไงมึง”ไอ้ใหญ่มันสวนกลับทำหน้าโกรธแยกเขี้ยวใส่ผม แล้วก็เลิกนวดโยนแขนผมทิ้งทันทีลุกขึ้นทำท่าจะหนีผมไป ผมรีบลุกตามแล้วคว้ามือมันเอาไว้ “ล้อเล่นแค่นี้เองทำเป็นโกรธ ก็ขาวจริงๆนี่นา”
เสียงไอ้ใหญ่มันเหมือนโกรธแต่หน้ามันยังซ่อนรอยยิ้มไว้ไม่อยู่เลย “มึงไม่ต้องเลย..ช่วยนวดแล้วยังไม่ดีอีก กูจะไปแต่งตัวแล้ว”
ผมดึงตัวมันมากอด กระซิบมันที่หูว่า“รักดอกจึงหยอกเล่น.....หึหึ” ตอนนี้หูมันแดงมากครับ แล้วมันก็ผลักผมออก
“มึงนี่ท่าจะบ้า เมาข้ามวันข้ามคืน”แล้วมันก็คว้าเอาเสื้อผ้าเดินหนีเข้าห้องน้ำไปเลยครับ ผมเห็นแล้วก็ขำ รู้ว่ามันมีอาการแบบนี้ก็แกล้งหยอกมันไปนานแล้วครับ
แต่พอผมอาบน้ำเสร็จออกมาไอ้ใหญ่ก็ลงไปเจ๋อนั่งกินข้าวเช้ากับแม่ผมเรียบร้อยแล้ว ท่าทางกำลังคุยกันอย่างสนุกสนานเสียด้วย “ฝันเร็วเข้า ชักช้าจริงๆ ใหญ่เค้าต้องกลับแทนที่จะทำอะไรรีบๆเข้า เผื่อเพื่อนอยากไปซื้อของอะไรจะได้พาไป”
ผมโดนแม่ดุจนได้ แต่ก็จริงของแม่ แต่ว่า “แม่เชยไปแล้ว...เชียงใหม่เจริญจะตาย กรุงเทพมีอะไรเชียงใหม่มีหมด ใช่มั้ยใหญ่” ไอ้ใหญ่พยักหน้ากับแม่ “ใช่ครับ มีหมดทุกอย่างที่นั่น ไม่มีอย่างเดียวเองครับ”
แม่เลยสงสัย “อะไรเหรอ” ไอ้ใหญ่มันหัวเราะ “ก็ไม่มี...ฝันไงแม่ ที่เชียงใหม่ไม่มีมันไปอยู่กวนผมเหมือนที่กรุงเทพ” แม่เลยหัวเราะ “นั่นซิ มิน่าที่นี่เลยมีฝันอยู่กวนแม่แทน อยากเอาไปกวนที่นู่นมั้ยล่ะ”
ไอ้ใหญ่หัวเราะโบกมือเป็นการใหญ่ “ไม่เอาหรอกแม่ มันชอบกวนประสาทผม ขืนผมอยู่กับมันทุกวันแบบแต่ก่อน คงตีกันตาย เดี๋ยวนี้มันดุด้วยไม่รู้กินน้ำตาลมากไปรึเปล่า” ผมเลยได้โอกาสรีบฟ้องแม่
“แม่ไอ้ใหญ่มันว่าแม่เป็นหมา” ไอ้ใหญ่สะดุ้งเลยครับหน้าเสีย รีบบอกแม่ผมเสียงละล่ำละลัก
“ผมไม่ได้ว่าแม่นะครับ ผมว่าไอ้ฝันมันคนเดียว” แม่ได้แต่มองสลับหน้าไปมาระหว่างผมกับไอ้ใหญ่ พูดไม่ทันหรอกครับ ผมต้องรีบเสริมต่อทำสีหน้าให้จริงจัง
“ก็ว่ากูเป็นลูกหมา แม่เป็นแม่กู มึงก็ต้องว่าแม่เป็นหมาด้วยซิ”คราวนี้ไอ้ใหญ่หน้าซีดแก้ตัวไม่ถูก รีบลุกไปยืนไหว้แม่ ทำหน้าตาสำนึกผิดเหมือนจะร้องไห้ แม่ก็เนียนครับทำหน้าเฉย เอ๊ะหรือแม่จะโกรธมันจริงๆ
“แม่ครับผมขอโทษ ผมไม่ได้ว่าแม่จริงๆนะครับ ผมแค่จะว่าไอ้ฝันมัน เมื่อวานมันดุผมทั้งวันเลย เมื่อคืนก็แกล้งผมด้วย”
ผมเลยรีบโวย “กูไปแกล้งมึงยังไงเมื่อคืน ไหนมึงบอกมาซิ” ไอ้ใหญ่รีบเถียงตอบ แต่ก็กลับเป็นคนพูดติดอ่างไปซะได้
“ก็มึงกะ...กะกักตัวกูไว้....ทั้งคืนเลย”มันพูดเสร็จมันก็หน้าแดงครับแล้วไม่ยอมมองหน้าผม เห็นแล้วอยากไปหยิกแก้มมันจริงๆ ตายๆๆ.....นี่ผมคิดอะไรกันนี่ แต่ตอนมันเขินหน้าตามันน่ารักน่าแกล้งมากเลยครับ
คราวนี้ไอ้ใหญ่คุกเข่ากราบที่ตักแม่ผม “แม่ครับใหญ่ขอโทษที่พูดเล่นมากไปจนลามปามไปถึงแม่ด้วย แม่ยกโทษให้ใหญ่นะครับ”ดูมันอ้อนแม่ผมครับ ต่อให้แม่โกรธจริงก็คงใจอ่อนแล้วครับ ก็มันเล่นทำน้ำตาเอ่อคลอเบ้าขนาดนั้น แม่ก็เริ่มขำแต่ก็ลูบหัวมันด้วยความปรานี
“แม่ไม่โกรธหรอกลูก รู้ว่าพูดเล่นกัน แต่วันหลังใหญ่ไปล้อใครก็ดูหน้าดูหลังให้ดีๆนะลูก ผู้ใหญ่บางคนเค้าถือนะ แต่แม่ไม่ว่า”แล้วแม่ก็หัวเราะ ไอ้ใหญ่มันเลยยิ้มออกเลยรีบประจบประแจงเป็นการใหญ่ เข้าไปกอดเอวแม่“ขอบคุณครับแม่ที่ไม่โกรธผม เดี๋ยวผมออกไปข้างนอกแม่อยากกินอะไรบ้างครับ เดี๋ยวผมจะให้ฝันมันไปซื้อมาให้แม่”
ผมแอบขวางมันที่เอาใจแม่ผมเกินเหตุ แต่พอดูไปดูมาแล้วมันน่ารักดีครับตัวผมเองยังเขินๆไม่เคยทำกับแม่ตัวเองขนาดนี้ ไอ้ใหญ่มันสนิทกับแม่ผมมากเพราะเคยมาเที่ยวที่บ้านบ่อย แม่ผมก็รักมันด้วยเพราะมันอ้อนเกินหน้าเกินตาผมนี่แล่ะครับ
“ไม่อยากได้อะไรเลย แต่ใหญ่มาบ้านแม่ถึงได้เห็นหน้าฝันมันนะ ปกติไม่เคยอยู่ติดบ้านเลย” ผมเริ่มไม่อยู่ในสายตาแม่แล้วครับตอนนี้ แม่กับไอ้ใหญ่ชวนคุยกันเหมือนโลกนี้ไม่มีผม ผมกินข้าวไปก็มองแม่ลูกสองคนเค้าคุยกันอย่างหมั่นไส้ กำลังคุยกันเพลินๆเสียงโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น “สวัสดีครับ...พ่อเหรอครับ อ๋อจะพูดกับใหญ่ครับๆ...รอซักครู่ครับพ่อ”
ผมส่งโทรศัพท์ยื่นให้ไอ้ใหญ่ “พ่อมึงโทรมา”
ไอ้ใหญ่ทำหน้าสงสัยแล้วรับโทรศัพท์ไป “โหล...พ่อเหรอมีอะไรครับ....อ้าว”
ไอ้ใหญ่หน้านิ่วอีกแล้วครับ แต่ยังมารยาทดีมาขออนุญาตแม่ผมอีก “ขอโทษนะครับแม่..ขอคุยโทรศัพท์หน่อยครับ” ไอ้ใหญ่มันเดินห่างออกไปคุยก็จริงแต่ผมก็ยังได้ยินสียงมันอยู่
“ให้ผมคุยกับน้องออมเองครับ....” ผมหูผึ่งขึ้นมาทันที...น้องออมอีกแล้ว.. “น้องออม..เดี๋ยวก็กลับแล้วนะคะ อย่าดื้อซิคะ รับรองว่ามีของฝากให้แน่ๆ....ไม่ลืมจริงๆค่ะ...สัญญา....” ผมฟังแล้วหงุดหงิด ไม่รู้จะง้องอนกันไปถึงไหนท่าทางจะคุยกันยาวเลยหนีไปเข้าห้องน้ำ
พอออกมาไอ้ใหญ่ก็วางสายไปแล้วกำลังคุยกันอย่างสนุกสนานกับแม่ผมต่อ
“ฝันพาใหญ่ไปซื้อของไป”พอเดินมาแม่ก็สั่งผมทันที
“แม่จะเอาอะไรเหรอ เดี๋ยวผมไปซื้อให้ทีหลังก็ได้”แม่ตีผัวะมาที่แขนผม “ไม่ใช่..แม่ไม่ได้อยากได้อะไร พาใหญ่ไปซื้อของให้น้องออม” เอาอีกแล้วน้องออมอีกรอบผมเริ่มงอแงบ้างทำท่าอิดออดไม่อยากไป “ออมไหนล่ะ...ไม่รู้จัก”
แม่ตีผมอีกผัวะ “อย่ามากวน...ก็น้องออมหลานของใหญ่ไง” ผมถึงกับตาสว่าง
หลาน...เป็นหลานเหรอ...อ้าว...แล้วทำไมผมไม่รู้ล่ะ... “หลานมึงเหรอ...น้องออม...ไม่ใช่...ฟะ..แฟน.”ไอ้ใหญ่มันหัวเราะอย่างมีความสุขที่ทำให้ผมเหวอได้ “ก็หลานน่ะซิ...4ขวบแล้ว กำลังพูดเก่ง น่ารักมาก”
ฟังแล้วโมโหต้องถองศอกเข้าไปซักที “แล้วก็ปล่อยให้กูเข้าใจผิดตั้งนาน ทำไมไม่บอกกูวะ”
แม่ผมฟังอยู่ยังสงสัย “แล้วเราไม่รู้เหรอ...ทำไมไม่รู้ เป็นเพื่อนกันยังไง”
ฟังแล้วก็รู้สึกเสียหน้า ผมเลยหันไปฟ้องแม่อีก “ก็มันไม่เล่าให้ผมฟังนี่แม่ แล้วผมจะรู้ได้ไง”
แต่ไอ้ใหญ่มันไม่ยอมแพ้รีบแก้ตัว“ไม่ใช่นะแม่....ผมจะบอกมันแล้ว...ฝันมันก็ไม่ยอมฟังเอง”
แม่เลยหัวเราะ “ดี..แล้วยังมาโวย...นิสัยแบบนี้ประจำ ไม่ค่อยสนใจอะไร พอมารู้ทีหลังก็โอดโอยว่าไม่มีใครบอก...สมน้ำหน้า”
ให้มันได้อย่างนี้ซิ “นี่ไม่มีใครเข้าข้างผมเลยใช่มั้ย...นี่ผมลูกใครกันแน่นี่” คราวนี้แม่ผมเดินหนีไปเลยครับ ไม่เข้าข้างแล้วยังไม่ไยดีอีก “ไปไหนก็ไปกันเถอะใหญ่..รำคาญไอ้ลูกคนนี้ เอาไปไหนไปเลย เอาไปเชียงใหม่เลยยิ่งดี โตไม่รู้จักโต” แถมด้วยไล่ส่งอีก กรรมของผม
แม่เดินไปแล้วเหลือแต่ผมยืนหน้าเหี่ยวกับไอ้ใหญ่ที่ยังยืนหัวเราะไม่หยุด จนผมชักโมโหต้องเอาขาเตะมันไปที
“โอ๊ย...มาเตะกูทำไม”ไอ้ใหญ่ร้องโวยวายแต่สีหน้ายังยิ้มล้อเลียน ตามด้วยเสียงหัวเราะอีกชุด
“มึงจะขำอะไรวะ..ขำอะไร”
“ก็ขำมึงไง...โตไม่รู้จักโต...แม่มึงพูดถูกที่สุดเลยว่ะ”แล้วมันก็หัวเราะอยู่นั่นจนผมไม่รู้จะทำอย่างไรให้มันหยุดเลยเดินไปเอามืออุดปากมัน “มึงหยุดหัวเราะได้แล้ว ไม่หยุดมีเรื่อง”
ไอ้ใหญ่ไม่ยอมแพ้ดิ้นๆหนีแล้วเอาขาเตะผมไปด้วย ผมเลยเอาแขนรัดมันไว้แล้วเอาขาผมแทรกไปขัดขามันให้เดินไปต่อไม่ได้
แต่ฤทธิมันมากจริงๆครับ ขนาดผมเอามืออุดไว้ปากไอ้ใหญ่มันก็ยังพูดไม่หยุดครับ ฟังๆได้ว่า “เค้าเรียกหน้าแตกแล้วยังมาพาลอีก” ผมเลยต้องถลึงตาใส่แกล้งขู่มันไปว่า “มึงไม่เลิกกวนกู...เดี๋ยวเจอดีนะมึง”
ไอ้ใหญ่ทำตาขี้เล่นตอบออกมาอย่างไม่แคร์ว่า “กลัวก็ไม่ใช่กูซิ” แถมยังเล่นลิ้นมาเลียมือผมแผล็บๆ
ผมจั๊กจี้เลยเอามือออก แล้วก็เอามือเช็ดกางเกงมัน “อี๋..น้ำลายเพียบเลย..นี่มึงเป็นหวัด2009รึเปล่าวะ”
เสียงไอ้ใหญ่หัวเราะต่อแล้วยังปากดีท้าทายผมอีก แถมด้วยยักคิ้วกวนๆให้ผม“ไหนว่าจะเจอดีไง...โธ่นึกว่าแน่”
พอมันพูดท้าทายแบบนั้นผมเลยดึงตัวมันมาปะทะตัวผม ไอ้ใหญ่ตกใจยืนจ้องหน้าผม
ตอนนี้ดวงตาของมันอยู่ต่อหน้าผมจนเห็นขนตาดำขลับกระพริบถี่ๆ
จมูกของมันอยู่ใกล้ผมจนเห็นหยดเหงื่อที่เกาะอยู่บนปลายจมูก
แก้มของมันอยู่ใกล้ผมจนเห็นเส้นเลือดที่กำลังฉีดขึ้นไปทั่วใบหน้า
และริมฝีปากของมันอยู่ใกล้จนเมื่อผมค่อยๆก้มหน้าประทับริมฝีปากลงไปไอ้ใหญ่ไม่ทันส่งเสียงอุทธรณ์ใดๆ
ผมไม่คิดว่าเพียงแค่การสัมผัสเบาๆเมื่อคืนมันจะทำให้ผมหาญกล้ามาเรียกร้องรสสัมผัสที่จริงจังต่อในวันนี้ เรายืนจูบกันอยู่ตรงนั้นจนได้ยินเสียงครางจากลำคอของไอ้ใหญ่เบาๆ ฝ่ามือของผมแทรกเข้าไปในเส้นผมอ่อนนุ่มของมัน มืออีกข้างหนึ่งยังรั้งตัวมันไว้แนบกาย ผมรู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นแรงของเราทั้งคู่ๆ ผมค่อยๆเลื่อนปากมาสัมผัสแก้มไอ้ใหญ่ไล่มาจนถึงใบหู ซอกคอ และคงทำต่อไปเรื่อยๆถ้าไอ้ใหญ่มันไม่เตือนสติผมด้วยแรงทุบเบาๆที่ไหล่ เสียงกระซิบของไอ้ใหญ่ทำให้ผมดึงสติกลับมาจนได้ “ฝัน...หยุดเถอะ”
ผมปล่อยตัวใหญ่ให้หลุดออกจากวงแขนของผมอย่างอ้อยอิ่ง เราแยกจากกันแล้วต่างคนก็ต่างทำหน้าไม่ถูก ยืนเก้ๆกังๆไม่รู้ว่าจะคุยหรือจะทำยังไงต่อให้หายกระดากจากสิ่งที่ผมทำลงไป ผมแอบเหลือบตามองดูไอ้ใหญ่มันยืนเอามือลูบหน้าก้มหน้าก้มตาถอนหายใจอยู่ ผมกำลังจะเดินไปหามัน “ใหญ่.....”
“อ้าว...ยังไม่ไปกันอีกเหรอ แม่เห็นเงียบๆนึกว่าออกไปกันแล้วซะอีก เครื่องออกบ่ายสามกว่าไม่ใช่เหรอลูก เดี๋ยวต้องไปสนามบินอีกนะ จะไปซื้อของก็รีบไปซิ”
แม่เดินลงมาจากข้างบนพอดีเดินเข้าไปถามไอ้ใหญ่มันเลยต้องเงยหน้าหันมาหาแม่ผม พอแม่เห็นหน้ามันเข้าเท่านั้น
“ใหญ่ไม่สบายรึเปล่าลูก ทำไมหน้าแดงๆเหมือนคนเป็นไข้เลย ไหนๆตัวร้อนรึเปล่า” แม่เอามือไปจับหน้าผากไอ้ใหญ่ที่ตอนนี้ทำหน้าแปลกๆจะยิ้มก็ไม่ใช่จะร้องไห้ก็ไม่เชิง ใหญ่รีบอธิบายกับแม่“ผมไม่เป็นไรครับแม่แค่ร้อนๆเฉยๆ”
“อืม....ตัวก็ไม่ร้อนนะ แต่ทำไมหน้าแดง”
พอแม่พูดจบผมอยากจะหัวเราะขำมันแต่ก็กลัวมันโกรธเลยต้องกลั้นหัวเราะเอาไว้ แต่ก็ยังอดปากเสียไม่ได้
“มันเขินผมเองแม่” คราวนี้ไอ้ใหญ่ถลึงตาใส่ผม แล้วยกกำปั้นให้ด้วย
พอแม่หันขวับมาถามไอ้ใหญ่ “เขินเรื่องอะไรกัน” มันรีบเอากำปั้นลงแทบไม่ทัน แล้วเกาหัวแกรกๆ “คือ....คือ...”
ผมเห็นแล้วก็สงสารเลยต้องรีบช่วยดึงมันขึ้นมาจากหลุมที่เมื่อกี้ผมเพิ่งถีบมันตกลงไปเอง “ผมล้อมันว่าเป็นพ่อลูกอ่อน ไปไหนก็มีน้องออมโทรตาม” ไอ้ใหญ่ถอนใจอย่างโล่งอก แม่ก็หัวเราะขำท่าทางมัน
“โธ่เอ๊ย...เรื่องแค่นี้ เล่นกันเป็นเด็กๆ อีกหน่อยใหญ่ก็หาแม่ให้น้องออมก็หมดเรื่อง จริงมั้ยลูก”
คราวนี้ทั้งผมและมันขำไม่ออก ได้แต่ยิ้มแหยๆไป ผมเลยตัดบทพาไอ้ใหญ่ไปข้างนอกดีกว่า “ใหญ่ไปกันเหอะ...แต่ไม่รู้จะกลับมาบ้านอีกรอบทันรึเปล่านะแม่ อาจจะเลยไปสนามบินเลย... ใหญ่มึงลาแม่กูไปเลยดีกว่า” ประโยคสุดท้ายนั่นผมหันไปบอกไอ้ใหญ่ที่ยังยืนทำหน้าประหลาดอยู่
ไอ้ใหญ่เลยเข้าไปไหว้แล้วกอดแม่ผม “ผมไปก่อนนะแม่...แล้วผมจะมาเยี่ยมแม่ใหม่ หรือแม่ไปหาผมที่เชียงใหม่ก็ได้ให้ฝันมันพาไปก็ได้มันเคย...จ๊ากกกก”
ผมต้องรีบหยิกมันก่อนที่มันจะเผลอปากไปบอกแม่ว่าผมเคยไปเยี่ยมมันมาแล้วเพราะแม่ไม่รู้เลยว่าผมไปมาตั้ง 1 วัน แต่ไอ้ใหญ่มันไม่ยอมให้ผมกระทำฝ่ายเดียวมันรีบฟ้องแม่ผมอีกแล้ว “แม่ดูซิไอ้ฝันอยู่ดีๆก็มาหยิกผม....ผมบอกแล้วมันชอบแกล้ง” แม่ก็ยุติธรรมครับพอจำเลยฟ้องเบิกความ แม่ก็ตัดสินความผิดผมแล้วลงโทษทันที แม่เอาฝ่ามือตีผัวะมาที่แขนผมอย่างแรง จนผมกลัวว่าแม่จะเจ็บมือมากกว่าผมเสียอีก
“อู๊ย....เจ็บนะแม่...นี่ลูกนะ...ไม่ใช่ยุง...ตีอยู่ได้...มันเจ็บ” ผมต้องลูบแขนตัวเองเปิดแขนเสื้อดูเห็นเป็นรอยฝ่ามือแดงเป็นปื้น แต่แม่กลับยิ้มชอบใจ
“เออ...ดี ชอบแกล้งเพื่อนดีนัก...ใหญ่แม่ขอร้อง...รีบๆไปกันเถอะทะเลาะกันจนแม่เวียนหัว ใครบอกว่าเมื่อวานเพิ่งไปรีบปริญญาตรีมาเป็นไม่เชื่อ...” หลังจากนั้นแม่ก็เริ่มเอาเรื่องเก่าๆที่ผมเคยทำวีรกรรมอะไรบ้างออกมารื้อฟื้นตั้งแต่สมัยประถม จนผมเห็นว่ามันจะกลายเป็นรายการแฉแต่เช้าไปแน่ๆ ท่าทางอยู่ต่อจะเป็นเรื่องยาวจริงๆด้วยผมรีบลากไอ้ใหญ่ขึ้นรถแล้วออกมาจากบ้านอย่างรวดเร็วก่อนที่แม่จะบ่นตามมาอีกหลายชุดใหญ่
พอออกจากบ้านมาได้ผมถึงกับถอนหายใจอย่างสบายใจ “เฮ้อ...หูกูชาเลยว่ะ.....แม่บ่นยาวที่สุดในรอบเดือนนี้เลยนะ เพราะมึงมาทีเดียว” ผมหันไปแยกเขี้ยวใส่ไอ้ใหญ่ แต่มันกลับยิ้มเยาะผม ไอ้ใหญ่ถองข้อศอกมาที่แขนผม
“มึงไม่ต้องมาโทษกูเลย....ชอบแกล้งกูดีนักก็สมควรแล้วที่แม่จะลงโทษ”
ผมหันไปมองหน้ามันแล้วก็กลับมามองที่ถนนขับรถต่อไปแล้วก็พูดว่า “แกล้งก็มี...ไม่แกล้งแต่ทำจริงก็เยอะ....” ผมไม่หันหน้าไปก็จริงแต่ก็รู้ว่ามันหันมามองหน้าผมพักใหญ่แต่ไม่พูดอะไรแล้วก็หันมองออกไปข้างนอกหน้าต่าง
ผมเลยพูดต่อ“เดี๋ยวมึงก็กลับแล้ว อยากแกล้งก็ต้องรีบแกล้ง อยากทำอะไรก็ต้องรีบทำ”
เสียงไอ้ใหญ่พูดเบาๆว่า “ที่มึงทำ...มึงเมา...กูรู้”
ผมเหลือบตามาดูไอ้ใหญ่ให้ชัดๆแต่มันยังไม่ยอมมองหน้าผมสนใจแต่วิวด้านนอก ผมตอบมันไปอย่างอารมณ์ดีว่า “มึงเคยฟังนิราศภูเขาทองของท่านสุนทรภู่มั้ย กูจะท่องให้มึงฟัง มึงฟังดีๆนะ” คราวนี้ไอ้ใหญ่หันหน้ามามองผมขมวดคิ้ว ผมหันมายิ้มให้มันอีกครั้งก่อนจะท่องบทกลอนให้มันฟังอย่างช้าๆ
ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก
สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน
ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป
แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืน
พอผมพูดจบรถก็ติดไฟแดงพอดีผมเลยมีโอกาสหันไปหาไอ้ใหญ่ เห็นมันกำลังเอาหลังกำปั้นปิดไว้ที่ปากพอดี ตัวสั่นไปหมดมองไม่ออกว่าหัวเราะหรือร้องไห้อยู่ ผมเลยดึงมือมันออกจากปาก “มึงเป็นอะไรวะ...”
ไอ้ใหญ่มันเอากำปั้นมาชกแขนผมแล้วก็ปล่อยเสียงหัวเราะออกมา “ฝัน...มึงทั้งเชยทั้งน้ำเน่า”
ดูมันครับพอผมพูดจริงๆจังๆมันกลับมาขำผม จนผมพูดอะไรต่อไม่ออกเลย คราวนี้เลยกลายเป็นว่าผมงอนมันแทนแต่ก็ไม่รู้จะทำหน้ายังไงเลยต้องหันหน้าหนีทำเป็นมาสนใจกับเส้นทางข้างหน้าต่อไป ทั้งที่ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังขับไปที่ไหนกันแน่
**********************************
ไปตามล่าตอนต่อไปก่อนนะคะ