¤ø,¸¸,ø¤จดหมายจากเพื่อนรัก¤ø,¸¸,ø¤ by M@nfaNG **กลับบ้านเรา**25/01/12
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ¤ø,¸¸,ø¤จดหมายจากเพื่อนรัก¤ø,¸¸,ø¤ by M@nfaNG **กลับบ้านเรา**25/01/12  (อ่าน 217804 ครั้ง)

YuNJae

  • บุคคลทั่วไป
 :z3:
รู้สึกถึงความบีบคั้นของอารม - -

หนุกมากเลยอ่า แต่อย่าจบเส้าได้มั้ยยย
ข้าน้อยจะตายเอา 555555

เปนกำลังใจนะคนแต่ง!! ^^

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
ต่างคนต่างรู้ใจตัวเองแล้ว มีเพียงความรู้สึกและแผ่นบาง ๆ เท่านั้นที่ขวางกัน :กอด1:

+1 ให้นะครับ สำหรับการบีบคั้นในความรู้สึก

ปล. ให้พ่อเอาโทรศัพท์ ไป แล้วไงใหญ่ยังรับโทรศัพท์พ่อได้ละครับ  :m28:

สาวบ้านนอก

  • บุคคลทั่วไป
 :z3: ขนาดคนโพสยังอ่านข้ามไปเลย ขอบคุณคุณWan ค่ะที่ช่วยสังเกตเห็น :pig4:
ไปแก้ให้แล้วนะคะ คนแต่ง(แก่ๆ)555+ฝากมาขอโทษในความผิดพลาดด้วยค่ะ

วันนี้คงไม่ได้มาลงเพราะตอนต่อไปยังไม่เสร็จค่ะ คาดว่าพรุ่งนี้คงได้มาลง
ขอบคุณสำหรับทุกรีพลาย และทุกๆคลิกที่เข้ามาอ่านด้วยค่ะ :L2:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
จะเป็นแบบเกือบจะรัก แต่แพ้ระยะทาง หรือเปล่า ม่ายยยนะ :sad4:

ออฟไลน์ MeepadA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1069
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ชอบตอนเขียนจดหมายหากันจังเลยครับ  แต่อ่านแล้วอดระแวงไม่ได้   :เฮ้อ:

สาวบ้านนอก

  • บุคคลทั่วไป
โพสไป2รอบแล้วคอม Non responding  :z3:
************************
(ตอนที่ ๒๑)

พอส่งไอ้ใหญ่ขึ้นเครื่องไปแล้วผมก็ตรงกลับบ้านอย่างคนที่ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรต่อ ขับรถไปเหมือนหุ่นยนต์ที่ไม่มีชีวิตจิตใจ เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้ผมรู้สึกตัวขึ้นมาได้ เป็นอ้อยที่โทรศัพท์มาหาผม
 “ฝันเหรอ...”
“ครับ..อ้อยว่าไงครับ”
“ใหญ่กลับไปรึยัง....หรือฝันยังอยู่ด้วยกัน”น้ำเสียงของอ้อยเหมือนลังเลใจที่จะถามกับผมแบบนั้น
“ใหญ่ขึ้นเครื่องไปแล้ว  อ้อยมีธุระอะไรกับมันรึเปล่า”ผมกำลังเซ็งๆ ไม่ค่อยมีอารมณ์จะคุยโทรศัพท์กับใคร “ถ้าไม่มีอะไรผมกำลังขับรถขอวางสายก่อนนะ”
“เอ่อ...งั้นเดี๋ยวอีกสักพักเราโทรไปใหม่แล้วกันนะฝัน” พออ้อยวางสายไปแล้วผมก็อดสงสัยว่าอ้อยมีธุระอะไรกันแน่ถึงได้ทำน้ำเสียงซีเรียสขนาดนั้น   พอกลับไปถึงบ้านผมก็ขึ้นไปนอนทันทีลืมเรื่องอ้อยไปเสียสนิท

จนผมหลับไปพักใหญ่อ้อยก็โทรมาอีกครั้ง “ฝัน..เราเองนะ”
ผมสะลึมสะลือรับสายตั้งสติอยู่พักหนึ่งถึงนึกออกว่าเป็นอ้อยโทรมา “อืม..รู้แล้วมีเรื่องอะไรเหรออ้อย”
 ผมเปิดปากหาวยังอยากจะนอนต่อ  แต่คิดไปคิดมาคุยกันไปเลยก็ดีจะได้รู้เรื่องกันไป อ้อยเงียบไปครู่ใหญ่ก่อนจะพูดเสียงอ่อยๆ “เราจะโทรมาขอโทษเธอ”
“ขอโทษเรื่องอะไร”ผมคิดเท่าไหร่ก็ยังคิดไม่ออกอยู่ดีว่าเรื่องอะไรกันที่อ้อยต้องมาขอโทษผม
“ก็ที่เมื่อวานเราพูดไม่ค่อยดีกับเธอไป  เหมือนเราเอาแต่ใจไปหน่อย” พออ้อยพูดขึ้นมาผมกลับคิดว่าผมต่างหากที่เป็นคนพูดจาห้วนๆใส่อ้อยแล้วยังเดินทิ้งอ้อยไปเลยด้วยซ้ำ อ้อยน่าจะเป็นคนที่ไม่พอใจผมมากกว่า
“ผมลืมไปแล้วอ้อย ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”

ผมรู้สึกว่าตอนนี้เรื่องอะไรสำหรับผมมันก็เป็นเรื่องเล็กไปหมดเสียทุกเรื่องถ้าไม่ใช่เรื่องของไอ้ใหญ่ เสียงอ้อยถอนหายใจเหมือนโล่งอกเบาๆก่อนที่จะพูดต่อด้วยน้ำเสียงร่าเริงขึ้นมาอีกนิด
“ขอบคุณนะฝัน  เรารู้ว่าใหญ่เป็นเพื่อนสนิทของเธอ ยังไงเธอก็ต้องดูแลเป็นพิเศษ”
ผมไม่อยากจะพูดอะไรให้มากไป ยังไงเรื่องของผมกับไอ้ใหญ่ก็เป็นแค่เรื่องของเราสองคนไม่จำเป็นต้องมาอธิบายอะไรให้ใครฟังอยู่แล้ว และผมก็ไม่รู้ว่าที่อ้อยพูดขึ้นมาแบบนี้หมายความจริงๆตามนั้นหรือไม่ใช่  แต่ผมก็ไม่แคร์ผมเลยตอบสั้นๆไปว่า “ใช่”
จากนั้นมันเหมือนผมไม่รู้ว่าจะคุยเรื่องอะไรกับอ้อยต่อไปดี อ้อยเองก็เงียบๆไปจนผมนึกว่าคงไม่มีอะไรแล้ว
“มีอะไรอีกรึเปล่าครับ ถ้าไม่มีผมขอตัวนะอ้อย  พอดีเมื่อกี้นอนอยู่  ยังง่วงๆอยู่เลย”
“ฝัน...เรา...”ฟังน้ำเสียงอ้อยคงยังจะคุยต่อไปอีก ผมเลยล้มตัวนอนลงกะว่าคงจะคุยยาว “อืม..มีอะไรเหรอ”
“เราอยากจะถามเธอ...”อ้อยยังพูดไม่จบแล้วก็เงียบไปอีกครั้ง
ผมเริ่มรู้สึกว่าอ้อยพูดช้าจนผมเริ่มอึดอัด “ถามอะไรครับ”
“ที่เธอเคยบอกว่าจะรอเรา....เธอยังรอเราอยู่รึเปล่า”ถ้าอ้อยมานั่งถามผมต่อหน้าผมก็คงจะรู้ว่าอ้อยรู้สึกอย่างไรกับคำถามนี้แต่เมื่อเราคุยกันทางโทรศัพท์ผมก็ต้องมาหยุดคิดก่อนว่าผมพูดไปเมื่อไหร่ แล้วรอเรื่องอะไรกัน
“อ้อยผมยอมรับนะว่าผมขอโทษที่จำไม่ได้จริงๆว่าพูดไปตอนไหน”
“ก็..วันที่เราไปหาฝันที่บ้าน...วันที่พี่หนุ่ยเค้าบอกกับเราว่าเค้ามีคนที่ชอบอยู่แล้ว...ฝันจำได้มั้ย” ใช้เวลาไม่นานผมก็จำได้ทันทีว่าผมพูดอะไรออกไปแต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าอ้อยมาถามผมเพื่ออะไรกัน “จำได้แล้ว  ก็ผมบอกว่าจะรออ้อยกลับมาเที่ยวสนุกกันต่อยังไงล่ะ”

อ้อยครางเสียงอ่อยๆจนผมรู้สึกได้ “เหรอ...เรื่องนั้นเองเหรอ  เราก็นึกว่า...”แล้วอ้อยก็หยุดเงียบไปอีกครั้ง ผมว่าวันนี้อ้อยดูแปลกๆไปแต่ก็ยังนึกว่าอ้อยจะคุยต่อ แต่อ้อยกลับจบการสนทนาด้วยการบอกผมว่า
“งั้นเราไม่กวนเธอนอนแล้ว  ยังไงพรุ่งนี้เจอกันที่ทำงานแล้วกัน แค่นี้นะ”ผมยังไม่ทันบอกลาอ้อยก็วางสายไปก่อน  ผมไม่รู้ว่าเรื่องระหว่างผมกับอ้อยจะเป็นยังไงต่อ  แต่มันก็คงไม่มีอะไรที่จะไปไกลได้มากกว่านี้แล้ว ได้แต่หวังว่าความเป็นเพื่อนของเราจะยังคงอยู่เหมือนเดิม

พออ้อยวางสายไปแล้วผมถึงได้รู้ว่ามีสายเข้าซ้อนขึ้นมาแต่ผมไม่ได้รับ มันเป็นสายของไอ้ใหญ่ ผมเลยรีบโทรกลับทันที ไม่นานนักไอ้ใหญ่ก็รับสายผม “ใหญ่รึเปล่า...”
กลัวหน้าแตกครับ เสียหน้าไปหลายครั้งหลายหนที่กลายเป็นพ่อมันรับสาย
“อืม.ถึงแล้วนะ ปลอดภัยดีครบ31” แล้วมันก็หัวเราะ ฟังแล้วผมก็ยังงงๆแต่ก็พลอยหัวเราะไปกับมันด้วย “ผิดแล้วมึง...เค้าต้องครบ32 ทำไมมึงมีแค่31”

ไอ้ใหญ่ยังหัวเราะขำได้อยู่คนเดียวต่อไปได้อีก แต่ก็ยังไม่ยอมพูดต่อจนผมต้องถามซ้ำ “เอ้า...บอกมาซิ  ก็กูไม่รู้จริงๆ”
“ก็กูเอากลับมาไม่ครบ....มันมีบางอย่างหล่นหายอยู่ที่กทม.  มึงหาเจอมั้ยล่ะ”
ผมอมยิ้มทันที เข้าใจความหมายที่มันบอกมา ได้ยินเสียงของมันรู้ว่ามันคงยิ้มอยู่ ผมก็มีความสุขไปด้วยหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง ได้แต่นอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียง
“กูเจอแล้วอันนึง  แต่ของกูก็โดนขโมยไปเชียงใหม่ มึงเห็นบ้างหรือเปล่าล่ะ” ไอ้ใหญ่หัวเราะเสียงดัง เราคงหัวเราะและยิ้มได้พร้อมๆกัน “ถ้าอย่างนั้นทั้งมึงและกูก็ครบ32 ซิ ยกเว้นไอ้อันที่ได้มาใหม่มันเป็นของคนอื่นเท่านั้นเอง”

“ใครว่าของคนอื่น...ของคนรักต่างหากล่ะ”
พูดไปเองแล้วก็เขินเองครับเอาผ้ามาคลุมโปง ทำไปได้นะผม ระหว่างเราสองคนไม่เคยมีคำพูดหวานๆให้แก่กันมาก่อนเลย  แต่การพูดแบบนี้มันก็ทำให้ผมมีความสุขอย่างที่ผมคาดไม่ถึง เหมือนกลับไปเป็นเด็กวัยรุ่นอีกครั้ง

เสียงไอ้ใหญ่เขินๆบอกผมว่า “ปริญญาทำให้มึงเปลี่ยนไป คนอื่นเค้าเป็นผู้ใหญ่ขึ้นทำไมมึงน้ำเน่าขึ้นไปได้นะฝัน” ผมกลับไม่โกรธที่มันมาแซวเรื่องปริญญาอีกครั้ง “กูว่าปริญญาทำให้กูฉลาดขึ้นมากกว่า”
แล้วก็พูดต่อ  “ แต่ที่ทำให้กูน้ำเน่าน่ะ...มึงทั้งนั้นเลยไอ้ใหญ่..มึงแล่ะตัวดีเลย”
 ไอ้ใหญ่โวยขึ้นมาว่า “อย่ามาโทษกู” แต่มันก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
ผมได้แต่นอนยิ้มอยู่คนเดียวไม่รู้ว่าไอ้ใหญ่มันจะยิ้มอยู่ด้วยหรือเปล่า แต่มันเป็นความเงียบที่เป็นสุขเมื่อรู้ว่าอีกด้านหนึ่งของสายมีคนๆนั้นรอเราอยู่ด้วยรอยยิ้ม

“แล้วมึงเดินทางเหนื่อยมั้ย  ง่วงรึเปล่า”
“ไม่เหนื่อยเลย หลับตาแป๊ปเดียวก็ถึงแล้ว  แล้วมึงทำอะไรอยู่”
“กูกำลังนอนเล่นบนเตียง  กลับมาก็หลับไปอีกรอบ” บนเตียงยังมีกลิ่นของมันอยู่เลยครับ  หรือว่ากลิ่นมันยังติดอยู่ที่ใจของผมมากกว่า แล้วผมก็พูดขึ้นมาว่า “กลิ่นมึงหอมชื่นใจ” ตามด้วยเสียงหัวเราะของตัวผมเอง ขำกับกระทำและคำพูดของตัวเอง  ผมว่าผมยิ่งพูดมากก็ยิ่งน้ำเน่าอย่างที่ไอ้ใหญ่มันบอกจริงๆด้วย

ผมไม่รู้ว่าไอ้ใหญ่มันจะทำหน้ายังไงแต่มันพูดขึ้นมาว่า “มึงนี่ท่าจะบ้า...กูวางสายก่อนนะ”
“มึงจะไปไหนอีก”เพิ่งจะคุยกันไม่ถึง10นาทีเลยครับ  มันจะทิ้งผมไปแล้ว “น้องออมกลับมาแล้ว ไว้ค่อยเขียนจดหมายคุยกันนะฝัน” ได้ยินเสียงเด็กพูดอยู่จ๋อยๆลอดเข้าโทรศัพท์มา “พ่อใหญ่คุยกับใครคะ”
“แป๊ปนึงนะฝัน..”เสียงไอ้ใหญ่พูดกับน้องออม “พ่อคุยอยู่กับลุงฝันค่ะน้องออม..”
“พ่อๆ..แล้วลุงฝันคือใครคะ” ผมฟังๆดูแล้วไอ้ใหญ่คงไม่มีเวลาคุยกับผมแล้วครับ  คงต้องคุยกันวันอื่นแล้ว
  “ใหญ่ไปหาลูกมึงซะ  กูยอมให้ลูกมึงคนนึง”
แต่ก่อนที่มันจะวางหูไปผมกระซิบบอกมันไปอีกทีว่า “กูเป็นห่วงนะใหญ่”
ไอ้ใหญ่ตอบผมว่า “กูรู้...”
ยังได้ยินเสียงน้องออมพูดอีกว่า “แล้วลุงฝันเค้าคุยอะไรกับพ่อค่ะ” ผมก็อยากรู้ว่าไอ้ใหญ่มันจะตอบน้องออมว่าอะไร แต่ผมก็ต้องวางสายไปอย่างก่อน  เสียดายเหมือนกันที่ได้คุยกับไอ้ใหญ่นิดเดียว  แต่ก็แปลกที่ว่าผมก็ยังอารมณ์ดีอยู่ถึงแม้จะวางสายไปนานแล้ว

ผมยังนอนคิดอะไรอยู่นานทั้งเรื่องของไอ้ใหญ่ เรื่องที่อ้อยโทรมา พอเคลิ้มๆจะหลับก็มีโทรศัพท์มาอีก
 “พี่ฝัน..ผมไรท์รูปลงแผ่นเสร็จแล้วทั้งของพี่ของเฮียจะให้เอาไปให้ที่ไหน”  ไอ้น้องเกี๊ยงมันโทรมาครับคงหมายถึงรูปที่ถ่ายไปเมื่อวาน “มึงเอามาให้กูที่บ้านได้มั้ย กูขี้กียจออกว่ะ” ไหนๆก็ลาหยุดไม่ต้องไปทำงานแล้ว  ก็แทบไม่อยากจะขยับตัวเลยครับ
“ได้พี่ฝัน  แล้วของเฮียล่ะเอาไปด้วยรึเปล่า”ไอ้นี่ก็ถามจุกจิกกวนใจอยู่ได้ “เอามาด้วยเลย เดี๋ยวกูส่งให้มันเอง แค่นี้นะกูจะนอนรอ” แค่พูดนี่ก็จะไม่ไหวแล้วครับตาจะปิดให้ได้

    ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้งห้องก็มืดแล้วครับผมดูเวลา6โมงกว่าแล้ว ไอ้เกี๊ยงนั่งหันหลังให้ผมอยู่ที่หน้าจอทีวีนั่งดูรูปผมอยู่อย่างเงียบๆ  ผมเลยนั่งดูกับมันไปด้วยแต่ก็ไม่ได้เรียกให้มันรู้ตัวว่าผมตื่นแล้ว  ช่วงแรกๆเป็นรูปที่ผมถ่ายกับเพื่อนไม่กี่คนที่มาเช้าๆหน้าตายังดูสดใสอยู่  บางรูปผมไม่รู้ว่าไอ้เกี๊ยงมันแอบถ่ายเมื่อไหร่แต่ผมก็ดูดีนะครับ ผมดูรูปแล้วก็สรุปกับตัวเองได้ว่าผมก็หน้าตาดีพอได้เลย ถึงแม้จะไม่หล่อคมแต่ก็พอเข้าเทรนด์สมัยนี้ตี๋ๆขาวๆ  

รูปเลื่อนมาถึงตอนที่ไอ้ใหญ่มาพอดีรอยยิ้มกว้างของมันสร้างความสดใสให้กับรูปหมู่ขึ้นมาทันที   ยิ่งมันใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวทำให้หน้ามันดูเหมือนนักศึกษารุ่นน้องมากกว่าที่จะเป็นบัณฑิตที่กำลังจะรับปริญญา  ในรูปสายตาของผมที่มองมายังไอ้ใหญ่มันช่างเปิดเผยความรู้สึกเสียจนผมเห็นได้ชัด  รูปนี้ผมยิ้มไม่หุบไม่ยอมมองที่กล้องตาจับจ้องอยู่แต่ที่มันเพียงคนเดียว

รูปถัดๆมาเป็นรูปผมถ่ายคู่กับมันเป็นส่วนใหญ่ มีรูปที่ผมกับมันทำหน้าตาประหลาดๆใส่กัน บางรูปผมดูแล้วก็เผลอหัวเราะเสียงดังจนไอ้เกี๊ยงมันได้ยินเลยหันมามองผม แล้วยกมือไหว้ “อ้าว...หวัดดีพี่ฝัน   ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วก็ไม่เรียก”
ผมขยับเลื่อนตัวมานั่งข้างๆมัน “กูตื่นนานแล้ว ดูรูปไปกับมึงไปด้วย  มึงถ่ายรูปดีนี่หว่าสงสัยเป็นเพราะนายแบบหน้าตาดี” ไอ้เกี๊ยงพยักหน้าเห็นด้วย “ผมว่าแสงดี นายแบบ....เฮียใหญ่ก็หน้าตาดี  ผมก็ฝีมือดีเลยได้ผลงานดีน่ะพี่ ฮ่าๆๆ”
ผมเลยตบหัวมันไปที “มึงจะชมกูคนจ่ายเงินให้มึงซักหน่อยมันลำบากมากหรือไง...ไอ้น้องเวรนี่”
ไอ้เกี๊ยงหัวเราะ “แต่เฮียใหญ่ถ่ายรูปขึ้นนะพี่ ” ผมก็เห็นด้วยกับไอ้เกี๊ยง “อืมม...”

ไอ้ใหญ่มันถ่ายรูปขึ้นจริงๆด้วยครับไปเป็นดาราหนังได้สบาย  รูปในจอยังคงเปลี่ยนไปเรื่อยๆมีทั้งรูปหมู่รูปเดี่ยว รูปคู่ ไอ้เกี๊ยงดึงแขนผม “พี่ๆ..ดูรูปนี้ซิผมชอบมากเลย เวลาดูต่อๆกันเหมือนดูมิวสิควีดีโอเลย”

รูปที่ไอ้เกี๊ยงมันเรียกผมดูเป็นรูปที่ผมกำลังโทรศัพท์อยู่ไม่ได้มองกล้อง ไอ้ใหญ่ยืนห่างออกไปไม่ไกลก็จริงแต่เห็นสายตาที่มันมองมาที่ผม สีหน้าของมันดูก็รู้ว่ามันอารมณ์ไม่ดีเลย  รูปถัดมามันมองกล้องแต่ก็หน้างอผมยังยืนโทรศัพท์อยู่ข้างๆมันตาเหลือบมองกล้อง  แล้วก็เป็นรูปที่ผมจับมือลากมันไปคุยที่โต๊ะ ตามมาด้วยรูปที่ผมลูบหัวมันเราทั้งสองคนยิ้มให้กัน  ได้แต่คิดในใจว่าไอ้เกี๊ยงมันอาชีพหลักเป็นปาปารัสซี่หรือเปล่า

  ไอ้เกี๊ยงเอามือตบเข่าดังฉาด“เฮียใหญ่แกหน้าตาเหมือนเด็กขี้งอนเลย น่ารักจัง  ทำไมผมไม่จีบเฮียแกวะ เสียดายจริงๆ”
ผมเลยตบหัวมันไปอีกที “เดี๋ยวเหอะมึง...ล้ำเส้นแล้วนะ รู้ซะมั่งไหนหัวไหนก้อย” ไอ้เกี๊ยงหันหน้ามามองผม ทำหน้ากวนประสาท “อ๋อพี่ฝันเป็นหัวล่ะซิ หึหึเลยต้องจีบก่อน” คราวนี้ผมเลยเอากำปั้นทุบลงไปที่ท้องมันทีนึง “ลามปามนะมึง ปากดีนักนะ” ต้องทำร้ายน้องกลบเกลื่อนอาการที่ถูกมันรู้ทันครับ

“อูย...ล้อแค่นี้ก็ไม่ได้  รู้ละๆ ว่าของๆใครของใครก็ต้องหวง”ไอ้เกี๊ยงมันเป็นน้องรหัสผมเอง  สนิทกับมันจนมันชอบลืมตัวนึกว่าผมเป็นเพื่อนเล่นมัน  ถึงมันจะก่อกวนประสาทผมมากไปหน่อยแต่มันเป็นคนจิตใจดี ผมก็เลยสามารถพูดกับมันได้ทุกเรื่อง “มึงนี่ชอบรู้ดี...แต่  กูดูออกง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ”

ไอ้เกี๊ยงหัวเราะอยู่ในคอทำเป็นกอดอก “หึหึ...หึหึ”มันเอียงคอมองผมด้วยหางตาแล้วยิ้มกริ่ม เห็นมันทำหน้าแบบนี้แล้วมือมันไปเองครับผลักหัวมันไปอีกรอบ “ดูมึงมาทำหน้ากวนตีน...จะพูดอะไรก็พูดมา”
“พี่ฝันอ่ะ ผมน่วมไปทั้งตัวแล้วนะชอบเล่นแรงๆ  จะดุไปถึงไหน”พอไอ้เกี๊ยงมันโอดครวญ ผมก็หัวเราะ “ก็มึงชอบกวนนี่หว่า  ทำหน้าเป็นรู้ดีไปซะทุกเรื่อง”

มันบ่นพึมพำๆ “ไม่รู้เฮียใหญ่ไปหลงเสน่ห์ได้ยังไง” ผมดูรูปไปด้วยแล้วก็ยิ้ม รูปนี้ผมเอามือจับไหล่ไอ้ใหญ่ไว้ข้างหนึ่งมืออีกข้างจับมือมันไว้  เราหันหน้ามายิ้มให้กันทั้งคู่  ไอ้เกี๊ยงมันพูดลอยๆออกมาว่า“ก็ดูออกกันทั้งคู่ละว้า” ผมหันไปมองหน้ามัน
 “พี่ดูรูปเฮียรูปต่อไปซิ” รูปนี้เป็นตอนที่อ้อยมาถึงไอ้เกี๊ยงมันถ่ายรูปตอนที่ผมกำลังปล่อยมือไอ้ใหญ่พอดี มันหันหน้ามามองผมแววตาของมันดูเศร้า  แต่ผมก็ไม่ได้มองไปทางไอ้ใหญ่เลยตอนนั้น  แต่อีกรูปที่เราเปลี่ยนที่ยืนไอ้ใหญ่ยืนห่างออกจากผมไป  กลับเป็นสายตาของผมที่มองหาไอ้ใหญ่
 “คนอื่นเห็นรึเปล่าผมไม่รู้ แต่พอผ่านเลนส์ ผ่านตาผมแล้ว...มันชัดน่ะพี่” แล้วไอ้เกี๊ยงมันก็แหกปากร้องเพลงของพี่ติ๊กชิโร่ครับ.....ชัดเจน

ปิดตา แต่ยังคงได้ยิน
ปิดหูก็ยังได้กลิ่น ปิดไฟก็เห็นด้วยจินตนาการ
อยากอยู่ ดูแลเธอใกล้ใกล้
โอบกอดและเอาใจใส่ ไม่ให้ใจว้าเหว่ ได้เลย

ชัดเจน นี่แหละรักที่พองเต็มใจ
ที่ไม่ใช่เป็นความรักที่ว่างเปล่า ที่เหงาเหมือนเงาที่เบลอๆ
ชัดเจน นี่แหละรักที่โตเต็มใจ
ที่ไม่ใช่เป็นความรักที่แปลกๆ เหินๆ ห่างๆ
อยากใกล้กัน อยากชิดกัน อยากพูดทุกวัน
ฉันรักเธอ เออ...ชัดเจน....โอ โอ โอ

คิดถึง อยากดึงเธอมาใกล้
แหละนี่คือเรื่องใหญ่ อยากบอกให้เธอเข้าใจ ชัดเจน
เรื่องจริง ไม่ต้องอิง นิยาย
ไม่ต้องรอเมื่อไหร่ อยากบอกให้เธอเข้าใจ...รักเธอ

ชัดเจน นี่แหละรักที่พองเต็มใจ
ที่ไม่ใช่เป็นความรักที่ว่างเปล่า ที่เหงาเหมือนเงาที่เบลอๆ
ชัดเจน นี่แหละรักที่โตเต็มใจ
ที่ไม่ใช่เป็นความรักที่แปลกๆ เหินๆ ห่างๆ
อยากใกล้กัน อยากชิดกัน อยากพูดทุกวัน
ฉันรักเธอ เออ...ชัดเจน....โอ โอ โอ

เธอ...ฉัน...ชัดเจน...เย..เย...เย.........เย...ฮู

รัก รัก รักเธอชัดเจน...


ผมเกือบจะด่ามันไปแล้วครับแต่ภาพแต่ละภาพที่ผมดูอยู่มันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ทำเอาผมพูดไม่ออก  เราอาจจะไม่ได้พูดกันตรงๆถึงความผูกพันของเรา  เราอาจไม่ได้แสดงถึงความรู้สึกออกมามากมาย แต่แววตาของผมและใหญ่ปิดไม่มิดจริงๆ  ชัดเจนไปตามเพลงจนรู้สึกอายไอ้เกี๊ยงมัน  รู้สึกว่าหน้าร้อนวูบวาบ มันคงเหมือนเวลาเราดูรูปที่เราถ่ายกับคนที่เรารัก  ถ้าเรามีความสุขทั้งสีหน้าและแววตาของเราจะแสดงออกมาให้เห็นชัดเจน

กำลังดูรูปอยู่เพลินๆไอ้เกี๊ยงก็พูดขึ้นมาอีก“ดีว่ะ”
ผมหันไปมองหน้าไอ้เกี๊ยงสงสัยว่ามันอารมณ์ไหนกันแน่ “อะไรของมึง...ที่ว่าดี”
มันหันมายิ้มให้ผมทำตาฝันๆ “ก็ความรักของพี่กับเฮียซิ......”
ตาของผมยังจับอยู่ที่รูป   ผมกับไอ้ใหญ่ยืนกอดอกอยู่คนละฝั่งของเสาหันหลังพิงเสา แต่หันหน้ามายิ้มให้กัน   รูปนี้ก็บอกอะไรผมได้ชัดเจนเหมือนกันมันมากระแทกความรู้สึกของผมโดยไม่ทันตั้งตัว   ผมพูดออกไปด้วยความเศร้าลึกๆในใจได้แต่แค่นยิ้มให้กับตัวเอง

“ดียังไงว่ะ....รักกันแต่ก็ได้แค่อยู่ห่างกันคนละฝั่ง...ทำได้แค่มองกันแต่ไปไม่ถึงกันซักที”
  ผมถอนหายใจยาวชันเข่าขึ้นมากอด ความเศร้ามันมาพร้อมความรักได้ยังไงผมก็ยังไม่เข้าใจ

“มันก็ยังดีนะพี่...ถึงจะอยู่ไกลกันแต่เราก็ยังรู้ว่าเรามีคนที่เรารักแล้วก็รักเราอยู่ตรงนั้น...ไม่เหมือนคนเหงาๆอย่างผม” น้ำเสียงของไอ้เกี๊ยงดูเศร้าไม่แพ้ผม “ยืนอยู่ตรงนี้....โดดเดี่ยวคนเดียว....แค่คนในความฝันยังไม่มี”
ไอ้เกี๊ยงมันเข้าสู่โหมดจริงจังเป็นกับเค้าเหมือนกันครับ  มันเองก็คงมีเรื่องในใจเหมือนกัน  ผมโอบไหล่มันไว้ตบไหล่เบาๆปลอบใจมัน “มึงกะกูก็เศร้าพอกันแล่ะไอ้เกี๊ยง”

วันนั้นผมกับไอ้เกี๊ยงเลยเลิกดูรูปแล้วแยกย้ายกันไปด้วยความหดหู่  ผมเอาจดหมายมาเขียนถึงไอ้ใหญ่พร้อมกับจะส่งรูปไปให้มันด้วย

ใหญ่พ่อน้องออม

หวัดดีใหญ่....เหมือนเราเพิ่งเจอกันมาไม่นานเลยนะ  ห่างกันไม่ถึง 24ชั่วโมงกูก็ทนไม่ไหวต้องเขียนจดหมายมาหามึงแล้ว (แต่กูคิดถึงมึงจริงๆนะ)  วันนี้ไอ้เกี๊ยงมันเอารูปที่ถ่ายเมื่อวานมาให้กูกับมึง  เก็บเงินไปเรียบร้อย  ไม่น่าเชื่อว่าเราสองคนจะหน้าตาดีขนาดนี้  นี่ถ้าไม่ติดว่ามึงอยู่เชียงใหม่และไม่ติดว่ากูยังไม่อยากดังไปมากกว่านี้  กูว่าจะส่งรูปเราสองคนไปโมเดลลิ่งหรือค่ายเพลงท่าจะดี  เราจะได้เป็นคู่ดูโอออกอัลบั้มด้วยกัน ฮ่าๆ
เดี๋ยวมึงเปิดดูรูปมึงคงคิดเหมือนกัน  มีรูปที่กูชอบหลายรูปแต่ไม่รู้ว่ามึงดูแล้วจะคิดเหมือนกูมั้ย  ตอนที่กูดูรูปกับน้องเกี๊ยงมันร้องเพลง ชัดเจน ของพี่ติ๊ก ชิโร่ให้กูฟัง มึงเคยฟังรึเปล่า  กูฟังแล้วคิดตามเพลงมันชัดเจนจริงๆนะมึง สำหรับกูมันชัดเจนมากถึงมากที่สุด  กูอยากจะร้องเพลงให้มึงฟังด้วยตัวเอง  แต่ก็ติดตรงที่ว่ากูไม่รู้จะหานิโคลที่ไหนมาร้องคู่กับกู มึงก็ไปหาฟังเอาเองแล้วกันนะ คิดซะว่าเสียงพี่ติ๊กก็เหมือนเสียงกู
โดยเฉพาะท่อนนี้ที่กูอยากร้องให้มึงฟัง

คิดถึง อยากดึงเธอมาใกล้
แหละนี่คือเรื่องใหญ่ อยากบอกให้เธอเข้าใจ ชัดเจน
เรื่องจริง ไม่ต้องอิง นิยาย
ไม่ต้องรอเมื่อไหร่ อยากบอกให้เธอเข้าใจ...รักเธอ

คิดถึงมึงหนักกว่าเดิมอีก....
ฝัน..ชัดเจน

*************
ชัดเจนจริงๆ :impress3:
http://www.4shared.com/embed/58058541/32015290

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-09-2009 17:27:47 โดย คิคิคุคุ »

mecon

  • บุคคลทั่วไป
Re: (นิยาย)๒๑๒๑ จดหม&#
«ตอบ #186 เมื่อ23-09-2009 17:33:32 »

 :m3: :m11: :m1:
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เป็นแฟนกันแล้วนะ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
อิพ่อพระเอกลิเก๊ ลิเก พูดกันออกมาแต่ละคำ หว๊าน หวาน
มดกัดปากแล้ว ฝันแ่ง่งหยอดแต่ละทีนุ้งใหญ่ม้วนไปแปดตลบแล้ว  :o8: คนบ้าๆๆ
พ่อหนุ่มเจี๋ยงใหม่กับ หนุ่มใหญ่เมืองกรุง สาดความหวานให้กันใหญ่เชียว
เอาฟ่ะไหนๆก็ไหนๆแล้วจะย้อนวัยซักหน่อยเป็นไร อย่างกับวัยรุ่่นเลยเนอะ อิอิ
“ก็กูเอากลับมาไม่ครบ....มันมีบางอย่างหล่นหายอยู่ที่กทม.  มึงหาเจอมั้ยล่ะ”
>> นุ้งใหญ่ถ้าอยู่ใกล้ๆนะ จะลากมา :oo1: เลยน่ารักกกกกกกกกกกกกกกก
“ใครว่าของคนอื่น...ของคนรักต่างหากล่ะ”
>> เต็มที่เลยคะ อิอิ ไหนๆก็เปิดเผยกันซะขนาดนี้ ฮิ้ววววววววววววววววว
น้องออมได้พ่อใหม่อีกคนนึงแล้ว อิอิ ลุงฝัน ได้อารมณ์แก่จริงๆ :m20:
พูดไปเองแล้วก็เขินเองครับเอาผ้ามาคลุมโปง ทำไปได้นะผม
>> หึหึ เลือดหนุ่มกันสูบฉีดชิมิ รู้งี้ฉุดน้องใหญ่ซะตั้งนานแล้วเนอะ :m12:
"ปริญญาทำให้มึงเปลี่ยนไป คนอื่นเค้าเป็นผู้ใหญ่ขึ้นทำไมมึงน้ำเน่าขึ้นไปได้นะฝัน”
>> ถึงน้ำจะเน่าแต่ก็ชอบชิมิล่ะ นุ้งใหญ่ อิอิ กี้วๆๆๆ
“เฮียใหญ่แกหน้าตาเหมือนเด็กขี้งอนเลย น่ารักจัง 
ทำไมผมไม่จีบเฮียแกวะ เสียดายจริงๆ”

>> เกี๊ยงถ้ารักชีวิต เก็บปากไว้แตกหน้าหนาวเหอะอิอิ
คนเค้ากำลังข้าวใหม่ปลามัน อย่ามาลามๆ แต่ว่าฝีมือถ่ายรูปของน้องเนี่ย
สุดยอดดดดดดดด แบบนี้นะ ต้องให้พี่ฝัน :beat:รางวัลให้งามๆเลย
แต่แปลกนะเรียกใหญ่ว่าเฮีย แต่เรียกพี่รหัสตัวว่า พี่ 555555 ฮาจริงๆ
“คนอื่นเห็นรึเปล่าผมไม่รู้ แต่พอผ่านเลนส์ ผ่านตาผมแล้ว...มันชัดน่ะพี่”
>> เกี๊ยงบอกไปสิ ที่ดูออกเพราะผมฉลาดนะ พี่ฝัน  :m20:

 :m18:
อ้อยคะ อยากบอกเธอว่า "โส น้ำ หน้า" เป็นที่ซู้ดดดดด :m14:
นาทีนี้มีแต่คำว่าสะใจคะ มาช้าเกินไปแล้วนะคะอ้อยฝันเค้าเห็นทาง
สว่างแล้วคะ ปล่อยๆเค้าไปนะคะ อิอิ

เลิศเอาไปแปดดาวเลยนะคะ เต็มแปดนั่นแหละคะ555
+1 จัดให้คะ   o13
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-09-2009 17:35:31 โดย mecon »

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
 :m1: อร้ายยยยยยยยยยยยยยย ความรักลอยวนรอบตัวสองหนุ่มอย่างชัดเจนที่สุด
กรี๊ดค่ะกรี๊ด กรี๊ดมากๆ ถึงมากที่สุด
รักของฝันกับใหญ่เป็นความรักฉบับซึมลึกใช่มั้ยนี่
ค่อยๆซอกซอนลงไปกลางใจทีละเล็กทีละน้อยจนมันล้นออกมา ให้ทั้งสองคนได้รับรู้ความในใจของกันและกัน
ตกลงนี่บอกรักกันแล้วใช่มิ  :-[
>> “ใครว่าของคนอื่น...ของคนรักต่างหากล่ะ”
>> “กลิ่นมึงหอมชื่นใจ”
ฝันก็กล้าพูดเนอะ พอรู้แบบนี้แล้วน้ำเน่าจริงๆ้ด้วยอ้ะ เน่าสนิทที่สุดเลย
แต่จะว่าไปแล้ว คนเริ่มก่อนก็คือใหญ่นี่นะ
>> “อืม.ถึงแล้วนะ ปลอดภัยดีครบ31”

ตอนนี้ความรักของสองคนคงชัดเจนจริงๆ
ขนาดเกี๊ยงยังมองออก >> “ก็ความรักของพี่กับเฮียซิ......”
ต่อจากนี้ไป คงมีจดหมายกับโทรศัพท์เป็นพยานรักสินะ
ลุ้นจริงๆว่าชีวิตรักของฝันกับใหญ่จะไปต่อยังไง

บวก 1 แต้มนะคะ ขอบคุณมากค่ะ


morrian

  • บุคคลทั่วไป
 :o8: ชัดเจนมากๆด้วยล่ะตอนนี้ หุหุ

น่าประทับใจแบบไม่เศร้าแล้วล่ะคับ

อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกเอมใจจริงๆ  :mc4:

ออฟไลน์ zingiber

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-4
กรี๊ดดดดๆๆๆๆๆ ชัดเจนนนนนน

พอเปิดใจกันปุ๊บก็หวานปั๊บเลยนะเนี่ย อิอิ

โอ๊ยยยย อ่านตอนนี้แล้วเบาหวานขึ้น นั่งเขิลอยู่คนเดียวว :-[ :-[ :-[ :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ O_cha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ชอบมากเลยครับ

ผมอ่านแล้วเหมือนกลับไปเป็นวัยรุ่นอีกครั้งเลย...  เขินจนเอาผ้าคลุมโปง  :)

YuNJae

  • บุคคลทั่วไป
 o13 :-[ :o8:

เป็นแฟนกันแล้ว
ดีใจจจังงง  หวานได้อีกนะ 555

ต่อเร็วๆนะค๊า!!!~~~

ออฟไลน์ Ak@tsuKII

  • Honeymoon
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3845
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-3
กรี๊ด น่ารักมาก ชันเจน แจ่มแจ้งแดงแจ๋แล้วล่ะ  คนรัก ฮิ้ว  ชอบๆ รักของทั้งคู่ที่ค่อยๆซึมลึก และวันนี้ก็ชัดเจนแล้ว  ส่วนซากอ้อย  แอร๊ย นี่ยังดีนะเนี่ยที่ฝันมันพูดปฎิเสธแบบ ซอฟท์ๆ กร๊าก คิดว่าฝันจะแคร์ชีล่ะสิ กร๊ากก ที่มาทำเป็นพูดว่า เข้าใจว่าฝันเป็นเพื่อนสนิทให้อยากให้ฝันบอกว่า กับใหญ่แค่เพื่อนกะเธอคือคนพิเศษรึไง น้องเกี๊ยงน่ารัก งั้นรอพี่หนุ่ยไปช่วยคลายเหงานะ

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
หวาน เวียนวน สับสน จนใจ ...
ไม่มีไรจะพูดเกี๊ยงได้ใจมากลูก
นิว(วันวานยังอยู่ในสายตา แม้วันหน้าจะหากันไม่เจอ...)

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ชัดเจนกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว โอ๊ย....จะหวานกันก็นะ
แล้วเมื่อไรจะได้เจอกัน ฝัน เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าบินไปหาเลย  :m4:

McDeliVery

  • บุคคลทั่วไป
ถึงตอนที่คุยโทรศัพท์เเล้วเอาผ้าห่มคลุม

ทั้งฮา ทั้งเขิน



ขอให้ตอนจบมันเศร้าเลยนะ

ทรมานใจคนอ่านเหลื๊อเกินนน :o12:

zeazaiz

  • บุคคลทั่วไป
 o13ให้ได้อย่างนี้ซี่ เจ้าฝัน
แต่ระยะทางยังเป็นอุปสรรคต่อไป

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
ชอบมากๆ :impress2:

สาวบ้านนอก

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาลงฉลองโฮสใหม่ :mc4:มาอ่านต่อกันเลยค่ะ
*************
(ตอนที่ ๒๒ )

อีกสองวันต่อมาผมก็ได้จดหมายจากไอ้ใหญ่ครับ แต่จดหมายคงจะสวนกันเพราะมันไม่ได้พูดถึงรูปที่ผมส่งไปเลย

ฝันเอ๊ย...หายเมายัง

ถ้ากูบอกว่าสวัสดีก็คงจะซ้ำซาก  งั้นกูพูดทักทายแบบคนลาวดีกว่า..สบายดี...
เป็นไงมั่งฝัน  พอกลับมาเชียงใหม่เหมือนกูกลับจากการชาร์จแบตมาเลย  มันรู้สึกเหมือนกูมีพลังใจเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า  ต้องขอบใจมึงสำหรับทุกอย่าง (รวมทั้งคำพูดเน่าๆของมึง...แต่กูกลับจำได้ดีแล้วเก็บเอามาขำตอนกำลังเครียดๆ)

 กูรู้สึกเหมือนกูไม่ได้แค่ไปรับปริญญามาอย่างเดียว  ที่กูได้มันมากกว่านั้นคือ....ความทรงจำที่ดี  กูอารมณ์ดีซะจนลูกน้องมันทักว่าเสี่ยไปทำอะไรมาหน้าตาเบิกบาน  กูเลยหลอกมันไปว่ากูไปทำสปามา  แต่มันไม่รู้จักหรอกว่าสปาคือกูไปทำอะไร   แต่สปาของกูไปหาทำที่ไหนก็คงไม่มี....เพราะกูไปทำสปาที่หัวใจมา................ฮิ้ววววววววววววว.....ฮ่าๆๆ
   ตายๆๆ..กูเริ่มน้ำเน่าตามมึงไปติดๆ  วันหลังเราสองคนอยู่ด้วยกันคงไม่ได้เพราะยุงมันจะบินว่อนตามกลิ่นน้ำเน่าของเรา แต่กูรู้สึกอย่างนั้นจริงๆนะไอ้ฝัน

    ก่อนกูไปกูก็มีความสุขอย่างหนึ่งที่จะได้เจอมึง เจอเพื่อนๆ  ตื่นเต้นที่จะได้รับปริญญา  แต่ตอนที่เราอยู่ด้วยกันกูมีความสุขยิ่งกว่าอีก  ไม่ว่ามึงจะทำทุกสิ่งทุกอย่างไปเพราะอะไร เพราะเบียร์หลายๆขวดนั่น  เพราะลมของแม่น้ำเจ้าพระยา หรือเพราะปริญญาที่มึงได้รับ  กูก็ขอน้อมรับทุกสิ่งที่มึงทำไว้ด้วยใจ
 กูไม่รู้หรอกว่าอนาคตข้างหน้ามึงกับกูจะเป็นแบบไหน  แต่ที่แน่ๆวันนี้ตอนนี้กูไม่เสียใจเลยที่ได้มีวันดีๆร่วมกับมึง  มึงอ่านแล้วอาจจะงงว่ากูยังไม่หายเมาเบียร์อีกรึไงถึงพร่ำเพ้ออยู่ได้   แต่กูว่าถ้ากูเมาจริงมึงคงเมานานกว่ากูแน่ๆ  พูดมาแต่ละคำทำเอากูใจสั่นเลย...คาดไม่ถึงว่ะ

   ตอนนี้ดึกมากแล้วกูก็เลิกงานนานแล้วด้วย  น้องออมก็เข้านอนไปแล้วหลังจากงอแงอยู่นาน พ่อแม่กูก็เข้านอนไปหมด  ที่นี่มันเงียบมากเลยฝัน มีแค่กูอยู่เพียงคนเดียว.....กูคนเดียวจริงๆ  กูไม่ได้ไปเรียนเหมือนมึง กูไม่ได้มีเพื่อนใหม่เหมือนที่มึงมี  กูไม่ชอบเที่ยวกลางคืนมึงก็รู้   เมื่อก่อนกูเหงาจับใจทำได้ก็แค่เอาจดหมายฉบับเก่าๆของมึงมาอ่านคลายเหงา อ่านซ้ำไปซ้ำมาเพราะมึงไม่ค่อยตอบจดหมายกู  ต่อนี้ไปกูก็คงต้องทำเหมือนเดิมอีก แต่ภายในใจกูมันไม่เหมือนเดิมแล้วฝัน ถึงตอนนี้กูจะยังเหงาแต่กูก็ยังยิ้มได้
 ถ้ากูคิดถึงมึงมากๆแล้วเผลอเขียนจดหมายไปหามึงบ่อยๆมึงอย่าว่ากูนะ
 มึงจะตอบจดหมายกูทุกฉบับหรือเปล่ากูก็ไม่ว่ามึง
มึงจะอ่านจดหมายกูทุกฉบับรึเปล่ากูก็คงไม่รู้
แต่แค่กูได้เขียนไปหามึงกูก็พอใจแล้ว

กูกลับไปย้อนอ่านจดหมายที่กูเขียนตั้งแต่ต้นแล้วแปลกๆว่ะฝัน เอ๊ะหรือว่ากูเมาจริงๆ  หรือว่ากูต้องท่องกลอนท่านสุนทรภู่แบบมึงแล้ว  อายว่ะ....แต่กูไม่แก้แล้วนะ.....เขียนแล้วเขียนเลย จบแค่นี้ดีกว่า

กูไม่รู้กูมาว.....
ใหญ่....หัวใจทำสปา

   อ่านจดหมายใหญ่รวดเดียวแล้วมันหลากหลายอารมณ์บอกไม่ถูกจริงๆครับ อ่านไปก็ยิ้มไป ขำบ้างกับมุกตลกของมัน  แต่พออ่านถึงตอนที่มันบอกว่ามันอยู่คนเดียวแล้วเหงาจับใจ ผมน้ำตาคลอเลย  เหมือนผมรับรู้ถึงใจใหญ่ว่ามันเหงาสุดใจขนาดไหน  ผมเคยได้ยินมาว่า ‘ความรักทำให้เราอ่อนแอ’ ผมก็ยังไม่เข้าใจแต่พอผมมาเจอเรื่องของใหญ่   ผมก็รู้เลยว่าผมหวั่นไหวทุกครั้งกับทุกเรื่องราวของมัน ผมต้องมีน้ำตาหลายครั้งก็เพราะเรื่องของมันผมถึงรู้ว่าผมอ่อนแอลงไปจริงๆ ใหญ่มันอยู่คนเดียวทางนั้นก็คงเหงาน่าดู  แต่ผมก็ดีใจที่จดหมายของผมก็ช่วยให้มันคลายเหงาลงไปได้บ้าง ผมหยิบกระดาษจดหมายมาเขียนถึงมันอีกครั้งทั้งที่เพิ่งจะเขียนไปเมื่อไม่กี่วันก่อน

ใหญ่...เมาดิบ

กูว่ามึงเมาดิบว่ะ....เขียนหากูหวานๆแล้วแก้เกี้ยวว่าเมา   คิดถึงกูอยากเขียนหากูก็บอกมาตรงๆก็ได้  ไม่ต้องบอกว่าเมาหรอก  ยังไงกูก็ร้ากกก......ฮิ้ววววววววววว เขียนแบบนี้แล้วมึงอย่ามาว่ากูเมาอีกนะ ตอนนี้กูมีสติครบถ้วน รับจดหมายมึงมาแล้วมันคันไม้คันมือ  ต้องรีบเอาจดหมายมาเขียนปลอบใจคนขี้เหงา   มึงอย่าเหงาบ่อยนะเพราะมึงเหงาทางนู้นกูคนทางนี้ก็เหงาด้วย  ถ้ามึงยิ้มได้กูก็ยิ้มไปด้วยกันกับมึง
   กว่าจดหมายฉบับนี้ของกูจะไปถึง มึงก็คงได้จดหมายฉบับก่อนของกูแล้ว  ตอนนี้มึงอาจจะดูรูปไปแล้วยิ้มไปแบบกูก็ได้  นึกๆดูแล้วก็แปลกนะใหญ่ เมื่อก่อนเราถ่ายรูปกันน้อยมากๆ ขนาดว่าไปเที่ยวกันเรายังหารูปที่ถ่ายด้วยกันอย่างยาก    รูปที่กูส่งไปให้มึงมันถึงมีค่าสำหรับกูจริงๆ  กูจะบอกกับมึงว่าวันนั้นมันเป็นความทรงจำที่ดีสำหรับกูเหมือนกัน  ถ้าอีกหน่อยเราแก่ๆแล้วเราเอารูปพวกนี้มาดูเราคงมีความสุขนะ 
   ส่วนเรื่องจดหมายที่มึงบอกว่าจะเขียนมาหากูบ่อยๆ   กูจะไปว่ามึงได้ยังไง...กูต้องดีใจมากกว่าที่มึงคิดถึงกู การที่เราได้รู้ว่ามีคนคิดถึงเรามันเป็นความรู้สึกที่มีค่านะ  แต่กูอาจจะเขียนไปหามึงน้อยกว่าก็ไม่ใช่ว่ากูไม่คิดถึงนะ เพียงแต่กูอาจบอกมึงไปไม่หมดเท่าที่กูคิดเท่านั้นเอง กูได้แต่หวังว่าความคิดถึงของกูกับของมึงมันจะเป็นอยู่แบบนี้ไปอีกนานๆ  จนเหมือนกับอากาศที่เราต้องหายใจทุกวัน  ใช่...เราจะคิดถึงกันทุกวัน

   วันนี้อยู่ดีๆพี่ฝ้ายพี่สาวกูก็เข้ามาบอกว่าจะแต่งงาน กูก็ยังงงๆอยู่ที่จริงก็รู้มาตั้งนานแล้วว่าเค้ามีแฟน  กูก็เคยเจอตัวแฟนเค้าแล้วด้วย  แต่ก็ไม่คิดว่าอยู่ดีๆจะคิดแต่งงานขึ้นมา กูก็ยังไม่รู้ว่าต่อไปชีวิตกูจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง  แต่ชีวิตเราก็ยังต้องดำเนินต่อไปใช่ไหมใหญ่  ชีวิตคนอื่นรอบๆตัวเราอาจเปลี่ยนไปแต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าในที่สุดตัวเราเองก็ต้องเปลี่ยนไปด้วย  เหมือนที่แม่มึงป่วยแล้วมึงถึงต้องกลับบ้านยังไงล่ะ

ตอนนี้กูก็ได้แต่หวังว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนไปในทางที่ดี  อย่างน้อยพี่กูก็ได้มีคนดูแลเพิ่มมาอีกหนึ่งคน
วันนี้ขอคุยแค่นี้ก่อนนะใหญ่  อ่านจดหมายกูแล้วนอนหลับฝันดี แล้วไม่เหงานะ

ปล.มึงไปทำสปาหัวใจที่ไหนมา...กูสงสัยว่าเราจะไปทำที่เดียวกัน ...ก็กูก็อารมณ์ดีเหมือนมึงเลย
กูเอง...ฝัน..ของมึง

จดหมายของเราสองคนมันเหมือนความในใจที่เราสื่อถึงกัน  บางทีผมก็รู้สึกว่าการคุยกันต่อหน้าผมยังพูดไม่ได้มากเท่านี้ อาจจะเป็นเพราะเมื่อเราเจอหน้ากันเราถูกเบี่ยงเบนความสนใจไปกับสิ่งอื่นๆคนอื่นๆรอบกาย  ในขณะที่เมื่อเราอยู่คนเดียวกับกระดาษที่อยู่ตรงหน้าความคิดของเรามุ่งอยู่กับคนที่รับสารจากเราเท่านั้น  ความรู้สึกของเราจึงแสดงออกมาเต็มที่

ไม่กี่วันต่อมาไอ้ใหญ่ก็ตอบจดหมายผมมาอีกก็คงส่งสวนทางกันอีกครั้ง

แหวะ....ไอ้ฝันนายแบบ

กูดูรูปตั้งนานพยายามตั้งใจดูก็ไม่เห็นว่ามึงจะหล่อตรงไหน เห็นก็แต่ไอ้ฝันคนหน้าซีดๆคนเดิมสมัยที่อยู่ปี1 ที่มาอ้อนวอนขอเล็คเชอร์กูไปซีร็อกซ์  ที่เห็นชัดๆก็แค่รอยตีนกาเล็กๆบนหน้ามึงที่มันเพิ่มขึ้นมา  ยังดีนะที่มีแค่รอยตีนกาไม่มีตีนกู ฮ่าๆ ล้อเล่น...อย่าโกรธกันนะ 
ฝากบอกน้องเกี๊ยงด้วยว่าเฮียใหญ่ชอบรูปมาก ถ้าไปกทม.เมื่อไหร่จะตกรางวัลให้อย่างงาม  แต่แนะนำน้องให้ไปสมัครเป็นช่างภาพให้หนังสือกอสซิปดาราท่าจะดี กูว่ามันมีแวว  แต่ถ้ามันไปเที่ยวถ่ายใครทุกชอทแบบนี้มันก็มีแววเหมือนกัน..มีแววโดนทุบ...รูปที่มันถ่ายมานี่กูว่ามันรูปส่วนตัวกูมากๆเลยนะ  แต่รวมๆกูก็ชอบรูปที่น้องถ่ายโดยเฉพาะรูปที่มึงมองหน้ากูตอนที่กูมาถึงใหม่ๆกูดูแล้วรู้สึกดีว่ะ  มันทำให้กูรู้ว่ามึงดีใจที่ได้เจอกูอีกครั้ง 

มึงจะเชื่อมั้ยถ้ากูบอกว่ากูดูรูปไปสามรอบแล้วนะรอบแรกดูคนเดียว รอบที่สองเปิดให้ที่บ้านดู รอบที่สามกูมาดูคนเดียวอีกครั้งดูไปก็ยิ้มไป  ถ้ากูได้นั่งดูกับมึงคงสนุกดี ทีแรกกูลืมเรื่องเพลง ‘ ชัดเจน’  ที่มึงบอกมา  แต่พอเอาจดหมายมึงมาอ่านอีกรอบก็มานึกได้เลยไปหาโหลดมาฟัง ฟังไปก็ดูรูปไปด้วย  เพลงเพราะ...ถ้ามึงได้มาร้องให้กูฟังจริงๆกูคงปลื้ม แต่แค่ได้ฟังกูก็ปลื้มจะแย่แล้วว่ะ ขอบคุณสำหรับเพลงที่แนะนำมาให้กูฟัง

 แต่ก่อนกูก็ไม่รู้ว่ากูมีสายตาแบบนี้ให้มึงกูรู้แค่ใจตัวเอง  แต่รูปมันทำให้กูรู้ตัว  ทำไปได้นะกู
แค่นี้นะ...เขียนๆไปแล้วไม่ไหวมันอิน ไม่อยากเพ้อไปมากกว่านี้
ไปละ

ปล.ฝากแสดงความยินดีกับพี่ฝ้ายด้วย...ยินดีกับความรักที่สมหวังของพี่ฝ้าย
ใหญ่.....เพิ่งชัดเจน

 ผมกับใหญ่ไม่ได้โทรหากันอีก  แต่ยังคงส่งจดหมายคุยกันอย่างสม่ำเสมอ  บางครั้งเราก็หวานใส่กัน บางฉบับเราก็คุยเฮฮากันตามปกติแล้วแต่อารมณ์ของแต่ละคนในตอนที่เขียนจดหมาย
 ช่วงนี้ผมเริ่มมีสอบทำให้ต้องแบ่งเวลาไปอ่านหนังสือ  และเพราะพี่สาวผมกำลังจะแต่งงานเรื่องบางเรื่องผมในฐานะน้องชายคนเดียวก็เลยต้องเสนอตัวไปช่วยบ้าง    พี่สาวผมต้องย้ายออกจากบ้านไปอยู่บ้านแฟน  ก็จะเหลือผมกับแม่เพียงสองคนที่อยู่บ้านนี้  อย่างแรกที่ผมต้องทำก็คือผมคงต้องให้เวลากับแม่มากขึ้นกว่าเดิม เรื่องเที่ยวก็คงต้องเพลาๆลงไปบ้าง  แต่ไอ้หนุ่ยมันก็ชอบมาชวนผมออกท่องราตรีเสมอๆ

“เป็นไงวะมึง...หมู่นี้ดูอารมณ์ดีจริงนะ  มีอะไรดีๆรึเปล่า” ไอ้หนุ่ยมันช่างสังเกตครับ  แต่ผมก็ว่าผมอารมณ์ดีอยู่แล้วนะ  วันนี้พี่สาวผมยังอยู่บ้านเลยต้องรีบออกเที่ยวก่อนครับ
“เปล๊า...ก็พี่กูจะแต่งงานมั๊ง  เค้ามีความสุขกูก็เลยพลอยแฮปปี้ไปด้วย” ไอ้หนุ่ยเองก็ดูอารมณ์ดีเหมือนเคย แต่พอพูดเรื่องแต่งงานมันกลับทำหน้าแหยงๆ
“กูไม่เข้าใจ....ทำไมผู้หญิงอยากแต่งงาน”
ไอ้หนุ่ยทำท่ากอดอกแล้วขนลุก “แค่คิดก็บรื๋อ....แล้ว” ผมเห็นท่าทางมันแล้วก็ขำ หรือว่าเพลย์บอยทุกคนต้องกลัวการแต่งงาน

“มึงไม่อยากแต่งงานเหรอ  แล้วกับน้องส้ม..มึงก็ไม่อยากแต่งเหรอ” ไอ้หนุ่ยมันอายุมากกว่าผมหลายปี  การงานก็ค่อนข้างมั่นคง บ้านก็มีแล้ว ถ้าพูดถึงความพร้อมที่จะมีครอบครัว ผมว่ามันพร้อมมากที่สุดแล้ว ยกเว้นก็แต่ตัวของมันเองที่จะแต่งหรือไม่แต่ง
ไอ้หนุ่ยทำหน้าย่น “กูยังไม่อยากแต่ง....แต่ถ้าแต่งหมายถึงมีอะไรกันกับแฟนได้ทุกวัน...กูก็คงเรียกได้ว่าแต่งไปแล้วมั๊ง...ฮ่าๆๆ”
“มึงมันหื่น...พูดออกมาได้  สงสารผู้หญิงที่จะมาเป็นแฟนมึงจริงๆ” แววตาของไอ้หนุ่ยกรุ้มกริ่มขึ้นมาทันทีพอพูดถึงผู้หญิง “มึงก็พูดไป...กูจุ๊กจิ๊กกับแฟนมันผิดตรงไหน  อีกอย่างกูไม่ได้ไปพรากผู้เยาว์ใครนะ  โตๆกันแล้ว”

“ก็แล้วทำไมมึงไม่อยากแต่ง  กูว่าแฟนมึงเค้าก็ต้องคิดอยากจะแต่งนะ”
 ไอ้หนุ่ยยักไหล่ “กูก็ไม่รู้ว่าเค้าอยากแต่งกับกูมั้ย  โลกส่วนตัวกูยังมีเยอะ  ถ้าแต่งเมื่อไหร่กูก็ต้องมั่นใจว่ากูพร้อมที่จะแบ่งส่วนหนึ่งในชีวิตกูให้กับเค้าให้กับลูก” ไอ้หนุ่ยมันก็คิดมากกว่าที่ผมคิดนะครับ ผมถึงชอบคุยกับมัน “หมายความว่ามึงยังไม่เจอคนๆนั้นที่มึงพร้อมจะเสียสละ...งั้นซิ”
ไอ้หนุ่ยกอดอกครุ่นคิด “อืม...ก็อาจใช่  กับส้มกูก็ชอบนะอยู่ด้วยก็มีความสุข คุยกันได้ทุกเรื่อง เข้ากันได้ดีทุกอย่าง นิสัย เซ็กส์   แต่ถ้าถามกูตอนนี้ว่ากูอยากแต่งงานรึยัง ตอบได้ทันทีว่ายังไม่คิด  แต่อนาคตไม่แน่”
“ถ้างั้นมึงก็อย่าไปให้ความหวังเค้านะ  กูสงสารผู้หญิง”พอผมพูดจบไอ้หนุ่ยมันหัวเราะเสียงดัง
 “มึงพูดเหมือนมึงเข้าใจผู้หญิง  มึงไม่รู้อะไรเดี๋ยวนี้...ผู้หญิงเค้าก็สมัยใหม่พอนะ  กูเดาว่าส้มเองก็ยังไม่คิดจะแต่งงานกับกูหรอก”
ผมได้แต่ส่ายหน้า เรื่องนี้ผมก็มีความคิดของผมที่ต่างออกไป “มึงไม่รู้อะไร ผู้หญิงปากกับใจไม่ตรงกันหรอก  ใครเค้าจะบอกกับมึงตรงๆ  ผู้หญิงที่มาคบกับมึงนี่มันไม่มีอนาคตจริงๆ”

“หึหึ...อาจจะจริงของมึง   แต่กูก็คิดแบบนี้ เป็นแบบนี้ เวลาคบกับใครกูก็พูดตรงๆไม่เคยหลอกลวง   ถ้าคบกันแล้วสบายใจก็คบต่อไป  ถ้าเค้าจะไม่มีอนาคตยาวๆกับกู เค้าก็ต้องรู้วันนี้เลย....ว่ามันไม่แน่  จะได้ไม่มาโทษกูทีหลังว่ากูพูดไม่จริง”

ไอ้หนุ่ยพูดเรื่องของมันก็จริงแต่ผมกลับวกมาคิดเรื่องของตัวเองขึ้นมาทันที เหมือนเรื่องที่ไอ้หนุ่ยพูดมันมาจี้ตรงจุดลึกๆในใจผม  ถ้าไอ้ใหญ่มันเป็นผู้หญิง ถ้ามันอยู่ที่นี่ ถ้ามันไม่ใช่ลูกคนโต ถ้าเล็กน้องสาวมันไม่ตาย ถ้าๆๆๆ.....เงื่อนไขร้อยแปดระหว่างผมกับมันเปลี่ยนไป อนาคตของผมกับมันคงมองเห็นได้ชัดเจนกว่านี้   ผมเผลอถอนหายใจ พูดขึ้นมาอย่างลอยๆไม่ได้หวังว่าจะให้ไอ้หนุ่ยตอบ
 “แล้วถ้าคบกันโดยรู้ว่ามันยังมองไม่เห็นอนาคต  เราจะคบกันไปเพื่ออะไรวะหนุ่ย”
**************************************
ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันค่ะ  :bye2:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-09-2009 17:35:19 โดย คิคิคุคุ »

ออฟไลน์ zingiber

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-4
ฝากบอกฝันกะใหญ่ด้วยนะว่าให้เก็บจดหมายให้ดีๆ

เพราะว่า.......................เด๋วมดมันจะขึ้น ฮิ้ววววววววววววววววววว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






namtaan

  • บุคคลทั่วไป
จดหมายฉบับล่าสุดคงไม่ได้สวนทางกันมั้ง
เพราะใหญ่ยังฝากความยินดีให้กับพี่ฝ้าย แสดงว่าใหญ่ก็ต้องได้รับจดหมายฉบับที่ฝันตอบไปครั้งหลังสุดแล้วหละ
แต่คำรำพึงรำพันของฝันตอนท้ายนี่ไม่ค่อยดีเลยนะ
>>  “แล้วถ้าคบกันโดยรู้ว่ามันยังมองไม่เห็นอนาคต  เราจะคบกันไปเพื่ออะไรวะหนุ่ย”
ขอให้คำตอบมันไม่ทำให้ใจหดหู่นะฝัน
บวก 1 แต้ม ขอบคุณสำหรับตอนใหม่ ณ โฮสต์ใหม่ด้วยค่ะ

YuNJae

  • บุคคลทั่วไป
หวานนนนนน

แต่ประโยคสุดท้ายชวนเศร้าได้อีก  TT

สู้ๆนะคนแต่ง

mecon

  • บุคคลทั่วไป
คนเรา..เวลามีค.รักเนี่ย ไม่ต้องพูดแค่มองสีหน้าตาก็ดูออกแล้ว
เอิ่ม...แต่อิมุก  ทำ สปา...หัวใจ ฮิ้วววววววววว เนี่ย  :m20:อยากได้อิซูลินม๊ากมาก
นุ้งใหญ่อิป้าน่ารักกกกกกกกกโดนค.รักโจมตีเข้าไป เหอะๆถึงกับเพ้อเลยรึคะเนี่ย
ตอนนี้เวลาเหงาก็จะเขียนระบายแล้วเน้ ไม่เก็บไว้คนเดียวแล้ว น่ารักกกกกกกกก

ส่วนเจ้าฝัน ค.รักมันก็ดีทั้งนั้นล่ะอย่าคิดมาก เจ้าฝัน ซื่อสัตย์กับหัวใจตัวเอง
ทำค.รักของตัวเองให้มีคุณค่าในทุกๆวัน อะไรๆก็ไม่ต้องกัวแล้วล่ะ
รีบๆทำนะเฟ้ย

+1 จัดให้คะ

zeazaiz

  • บุคคลทั่วไป
กลัวจบเศร้าจัง
+1  o13

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
หวานซะ  :impress2:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ก็เพื่อรอยยิ้มในวันนี้นะเซ่

แอร๊ยยย คำถามส่อแววรันทด เศร้าๆ ไม่เอานะ  :serius2:

ออฟไลน์ Ak@tsuKII

  • Honeymoon
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3845
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-3
ใหญ่ เริ่มน้ำเน่าตามฝันแระ 

น่ารักจริงๆๆ หว๊านนนนนนน หวาน 

ชอบๆๆ  :-[

แต่ประโยคสุดท้ายนี่   :z3:

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
อ่านสองฉบับหลังแล้วมีความสุขกับฝันกะใหญ่

ในที่สุดก็เผยความในใจกับสายตาที่ส่งให้กัน

แล้วอุปสรรคที่ตั้งตระหง่านอยู่ข้างหน้าของทั้งสอง จะฝ่าไปได้ยังไง  :เฮ้อ:

รอจดหมายฉบับต่อไป  +1 ให้เป็นการขอบคุณ

ปล. จะสงสารอ้อยดีไหมน้า

สาวบ้านนอก

  • บุคคลทั่วไป
(ตอนที่๒๓)

 “แล้วถ้าคบกันโดยรู้ว่ามันยังมองไม่เห็นอนาคต  เราจะคบกันไปเพื่ออะไรวะหนุ่ย”

ไอ้หนุ่ยดื่มเหล้าเข้าไปอีกแก้ว มันเหลือบมามองหน้าผมแล้วเงียบไปพักใหญ่ “เพราะว่าชีวิตเรา...มันมีอะไรมากกว่าจุดหมายมั๊ง”
ผมฟังแล้วก็ยังไม่เข้าใจ ได้แต่ขมวดคิ้ว หรือว่าผมดื่มมากเกินไปแล้ว “กูไม่เข้าใจ... Please clarify me ?”

เสียงไอ้หนุ่ยหัวเราะในลำคอ “เสล่อพูดภาษาอังกฤษนะมึง ....ภาษาไทยยังฟังไม่เข้าใจ ทำเป็นพูดต่างด้าว ฮ่าๆๆ”
ผมยิ้มรับคำเหน็บของมันแต่ก็ตอบไปว่า “เออน่า..อธิบายมา..กูโง่...กูเมา”
“ก็ถ้าเรามัวแต่มุ่งเดินไปที่จุดหมายอย่างเดียว   โดยไม่สนใจว่าข้างทางมันจะมีสวนดอกไม้ให้เราได้ชื่นชมหรือไม่  มึงไม่คิดว่าชีวิตเราพลาดโอกาสที่เราจะได้เก็บเกี่ยวความสุขที่มันควรจะได้เหรอ” 
ฟังมันพูดแล้วก็ยังไม่กระจ่าง  ผมต้องร้องขอให้มันแปลให้ฟังเพิ่ม “อธิบายเพิ่ม..ยกตัวอย่าง..อีกนิด” 

“เอางี้กูสมมุตินะ  จุดหมายของคนทั่วๆไปคือการแต่งงานมีความสุขกับครอบครัว หรือไม่ก็เป็นเศรษฐีร่ำรวย  มีชื่อเสียง หรือเป็นนายก  แต่ปัจจุบันมึงดูแล้วหนทางข้างหน้ายังไงก็ไม่มีทางเป็นไปได้  ถ้าเป็นมึงจะทำยังไง?”
พอมันพูดจบเจอคำถามของมันเข้าไป ผมรู้สึกว่า “มึงถามอะไรกูวะ กูคิดไม่ทัน  หลายอย่างเหลือเกิน กูว่าตัวอย่างมึงมากไป” พูดจบเราก็หัวเราะด้วยกัน ก็เมาทั้งคู่นี่ครับแล้วดันมาคุยเรื่องจริงๆจังๆขนาดนี้ ยังดีที่อ้อยไม่มา ถ้ามาผมคงคุยกันแบบผู้ชายได้ไม่ตรงๆเท่านี้

“งั้นสมมุติว่ามึงไม่รักผู้หญิงคนที่มึงคบเท่าไหร่  คือมึงไม่แน่ใจว่ามึงจะแต่งงานกับเค้ามั้ย  มึงจะคบเค้ามั้ย”
 คำถามนี้ผมตอบได้ทันที“กูคงไม่คบ”
 ไอ้หนุ่ยถามกลับทันที “ทำไม....อ้าวงั้นกูเปลี่ยนคำถามอีกรอบ  ถ้ามึงรักแต่มึงไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามึงจะได้แต่งงานกับเค้ามั้ย  มึงจะคบหรือเปล่า”
คำถามนี้ผมก็ถามตัวเองมาตลอดแต่ไม่เคยกล้าตอบตัวเองซักที  ไอ้หนุ่ยเห็นผมนิ่งไปมันเลยพูดว่า “มึงลังเล”
ผมพยักหน้า “มึงไม่แน่ใจ...ใช่มั้ย  ทำไม?” มันถามผมอีกครั้ง แต่มันตอบยากจริงๆครับแค่คำว่าทำไมนี่ล่ะ

“กูตอบมึงได้ว่ากูไม่แน่ใจ  แต่ทำไมนี่..มันพูดยากว่ะ” ไอ้หนุ่ยพยักหน้า “งั้นกูตอบแทนมึงเอง  กูรู้ว่ามึงกลัวความเสียใจ ความผิดหวังในอนาคตน่ะซิ  อีกอย่างคือ...มึงมันดีเกินไปกลัวเค้าจะเสียใจด้วยแหงๆ”  คำพูดของไอ้หนุ่ยมันเหมือนหมอที่กำลังรักษาผมอยู่  หมอยังคงพูดต่อไปแต่ตาของหมอก็มองผมอยู่ตลอดเวลา แต่ตาของหมอเริ่มเยิ้มเพราะปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดเพิ่มเข้าไปทุกทีแล้ว

 “กูอยากจะบอกกับมึงแค่ว่า  เกิดมาเป็นคนมันมีชีวิตเดียวนะ ไอ้โลกหน้ามีจริงหรือไม่มีใครจะรู้  ถ้าพรุ่งนี้อยู่ดีๆไปหาหมอฟัน หมอทำฟันให้มึงไม่ดีติดเชื้อเข้าเส้นกระแสเลือดมึงกลับมาป่วยอยู่ 2วัน แล้วตายไป” ฟังมันยกตัวอย่างแล้วก็ขำครับแต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆผมคงขำไม่ออก   
“มึงตายโดยที่ตัวมึงยังไม่รู้สาเหตุของการตายเลย กูถามมึงอีกทีมึงจะเสียดายไอ้ชีวิตที่กลัวๆกล้าๆของมึงมั้ย  ทำเห้..อะไรก็ไม่ทำ  ตายไปยังตายแบบโคตรซวยอีก” ไอ้หนุ่ยหัวเราะเหมือนเยาะเย้ยโลก
แต่ผมน่ะหัวเราะท่าทางมันมากกว่า“มึงชอบแช่งกู...แต่มึงพูดต่อกูกำลังสนุก”

 สาระในชีวิตบางทีมันก็อยู่แถวๆวงเหล้านี่ล่ะครับ ไอ้หนุ่ยมันทำเป็นขำแล้วเสไปดื่มอีกแก้ว  ผมมองดูเหล้าหมดไปเกือบขวดแล้ว  แต่ไอ้หนุ่ยก็ยังพูดไม่จบ
“กูบอกมึงตรงนี้เลยนะ ถ้ามันไม่ผิดศีลธรรม ไม่ไปคดไปโกงใครเค้า มึงสุขมึงก็สุขเอง มึงทุกข์มึงก็ทุกข์เอง เพราะงั้นอะไรที่มีความสุขมึงทำไป อนาคตจะเป็นอย่างที่ใครๆหรือมึงหวังไว้รึเปล่าก็ช่างอนาคต เอิกซ์ซซซซ.....วันนี้เราต้องมีความสุขให้มากที่สุด...หมดแก้วเว้ย”
 ผมว่าหมอหนุ่ยของผมมันเมาได้ที่แล้วครับ  มาชวนผมหมดแก้วผมก็ไม่รังเกียจครับ

“แล้วถ้ารู้ว่าอนาคตมันจะเป็นอนางอล่ะ  มึงจะสุขได้อยู่อีกเหรอวะ” ผมก็คิดต่อไปได้อีก
แต่ไอ้หนุ่ยถึงเมามันก็ยังไม่ยอมแพ้  “มึงก็วกกลับมาจุดเดิม  ก็คำว่าอนาคตความหมายมันก็บอกอยู่แล้วว่ามันคือวันข้างหน้า.... future น่ะ มึงรู้จักม้าย มันยังมาไม่ถึง  วันนี้ตอนนี้มึงจะไปคิดถึงทำไม เอิกซ์ซซซ..กูว่ากูเมาแล้วว่ะ  มึงหายสงสัยซักทีได้รึยัง”
“งั้นกูขอถามอีกข้อหนึ่ง....มึงว่ามันจะยุติธรรมเหรอถ้าเราจะคิดถึงความสุขของเราคนเดียว  มึงอย่าลืมนะเว้ย  เรื่องบางเรื่องมันต้องมีคู่กรณี  เรามีความสุขแต่เค้ามีความทุกข์กูว่ามันไม่ถูกนะ”

“มึงนี่ช่างเจ้าปัญหาจริงๆ  ก็กูบอกแล้วไงว่าอย่าให้ใครเดือดร้อน ถ้าอีกฝ่ายเค้าเริ่มทุกข์มึงจะสุขได้เหรอ”พูดไปแล้วเวียนหัวครับไม่รู้ว่าคนเมาคุยกันหรือเรื่องที่คุยมันเป็นเรื่องที่น่าเมาก็ไม่รู้ 
“แต่มึงจำเอาไว้อย่างนะ มนุษย์ทุกคนมันเห็นแก่ตัว   ถ้าทุกข์มากๆมันไม่มีใครทนไปได้ตลอดหรอก  แต่ถ้าเค้ายังทนได้อยู่แสดงว่าเค้ายังมีความสุขหรือมีความหวังอยู่บ้าง”

คืนนั้นผมให้ข้อสรุปอะไรกับตัวเองไม่ได้เพราะไอ้หนุ่ยมันพูดเยอะจนผมงง แต่ผมสรุปได้อย่างเดียวว่าแอลกอฮอล์ไม่ได้ทำให้สติสัมปชัญญะของไอ้หนุ่ยเปลี่ยนไป  มันยังเป็นพี่ชายที่ถึงแม้จะดูเป็นคนขี้เล่นไม่เอาจริงเอาจังกับอะไร  แต่มันเป็นก็เป็นที่ปรึกษาของผมได้ดี  แต่จนแล้วจนรอดผมก็ยังไม่เคยเล่าเรื่องไอ้ใหญ่กับผมให้มันฟังซักที ได้แต่คิดว่าถ้าผมจะต้องคุยกับมันเรื่องนี้จริงๆคงเป็นเรื่องที่ดีทีเดียว

   จากวันที่ผมคุยกับอ้อยทางโทรศัพท์  อ้อยก็ดูเหมือนพยายามจะหลบหน้าผม  ทีแรกผมก็ไม่ทันได้สังเกตแต่ด้วยความที่ทำงานด้วยกันเรียนด้วยกัน พอผ่านไปอาทิตย์หนึ่งผมก็เริ่มรู้ตัว กลางวันอ้อยก็ไม่ไปทานข้าวกับผม ตอนไปเรียนอ้อยก็พยายามนั่งห่างจากผม เวลาที่เราทำรายงานกลุ่มร่วมกันอ้อยก็พูดแต่กับคนอื่นแล้วหลีกเลี่ยงที่จะพูดกับผม  ไม่ได้มีผมคนเดียวที่รู้สึกแต่เพื่อนที่เรียนด้วยกันก็คงเห็นแล้วมาถามผม “ฝัน..คุณกับอ้อยทะเลาะอะไรกันเหรอ” พี่ธีที่เรียนด้วยกันถามผมในฐานะที่แกเป็นผู้ใหญ่กว่า
 ผมก็ได้แต่บอกแกไปตรงๆ “ไม่นะพี่  ผมก็ไม่รู้ว่าอ้อยเป็นอะไรไป แต่ผมรับรองว่าไม่ได้โกรธอะไรกันแน่ๆ”
พี่ธียิ้มแล้วสอนผมว่า “คนรักกันก็แบบนี้ มีงอนกันบ้างเราเป็นผู้ชายก็ง้อๆแฟนหน่อยเดี๋ยวเค้าก็หายงอนเอง”

ผมตกใจถึงกับร้องลั่นขึ้นมา “ไม่ใช่แล้วพี่ธี พี่เข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ได้เป็นแฟนกับอ้อย เราเป็นแค่เพื่อนกัน แล้วเรื่องงอนอะไรนั่นไม่ใช่แล้ว  พี่ไปเอามาจากไหนที่ว่าเป็นแฟน”
พี่ธีขมวดคิ้วทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ “ก็สนิทกันขนาดนั้น เห็นเวลาคุยอะไรกันก็ดูเหมือนแฟน ไม่ใช่เหรอ....อ้าวเค้าก็เข้าใจผิดกันหมดซิ” พี่ธีบอกว่า “พี่ว่าแรกๆเหมือนคุณจีบอ้อยนะ  หรือผมจะดูผิดไป”
ผมเลยต้องรีบอธิบายให้พี่ธีฟังจะได้ไปเป็นกระบอกเสียงให้ผมด้วย “ผมยอมรับพี่ว่าผมเคยจีบอ้อยจริงๆ แต่ตอนหลังนี่ผมไม่คิดแล้ว ผมคิดกับเค้าเป็นแบบเพื่อนจริงๆ  ไม่มีอะไรนอกในใดๆทั้งนั้น”

ผมกับพี่ธีคุยกันอยู่นานเรื่องนี้ พี่ธีเป็นคนที่อายุมากที่สุดในรุ่นเราก็คงช่วยแก้ข่าวให้ผมได้แน่ๆ  ผมค่อนข้างไม่สบายใจที่ทุกคนคิดแบบนั้นเพราะอาจเป็นการตัดโอกาสอ้อยที่จะได้เจอคนดีๆ เพราะเค้าอาจคิดว่าอ้อยมีแฟนอยู่แล้วเลยไม่กล้าเข้ามาจีบ “แปลกนะที่คุณเปลี่ยนใจ  หรือว่าคุณมีแฟนแล้ว”
ผมคิดอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะตอบพี่ธีไปตรงๆว่า “ผมมีคนที่ชอบอยู่แล้วครับ”
 พี่ธียังบอกว่า “เหรอ..วันหลังพามาให้รู้จักบ้างซิ”ผมพยักหน้าให้พี่ธี “ครับถ้ามีโอกาสผมจะแนะนำให้รู้จัก” กับเพื่อนๆผมเคลียร์ไปแล้วแต่กับอ้อยเองผมก็คงต้องคุยเหมือนกัน พอเจออ้อยผมเลยขอนัดมาคุย

ใหญ่

ทำไมช่วงนี้ไม่มีจดหมายมึงมาเลย  มีเรื่องอะไรหรือเปล่า หรือว่างานยุ่งมาก หรือน้องออมกวนมึง กูคงจะเดาไม่ถูกถ้ามึงไม่บอกกูมา  มึงอาจจะไม่มีเรื่องอะไรก็ได้แต่กูอาจคิดไปเองใช่มั้ย  กูได้แต่หวังว่าจะเป็นแบบนั้น

ถึงมึงไม่มีเรื่องแต่กูมีเรื่องจะเล่าให้มึงฟังว่ะ  เรื่องนี้เป็นเรื่องของกูแต่ถ้าโดยอ้อมๆมันก็เกี่ยวพันกับมึงอยู่เหมือนกัน กูจะเล่าแล้วนะอาจจะเขียนไม่รู้เรื่องบ้างมึงก็พยายามทำความเข้าใจหน่อยแล้วกัน
วันก่อนกูคุยกับอ้อยเพราะช่วงหลังๆดูเค้าแปลกไป  มึงอย่าๆพึ่งเดาอะไรทั้งสิ้นนะฟังกูก่อน   กูไม่ได้คิดอะไรกับอ้อยแบบเมื่อก่อนแล้วนะ   ถ้ามึงจะถามกูว่าเป็นเพราะมึงใช่มั้ยกูก็ตอบได้อีกว่าไม่ใช่  ถ้ากูจะรักใครซักคนก็เกี่ยวที่ความรู้สึกกูต่อคนๆนั้นมากกว่า  คนอื่นๆไม่เกี่ยวข้องกัน กลับมาเรื่องที่กูคุยกับอ้อยก่อน กูยังไม่อยากออกนอกเรื่องมากไป

 กูถามอ้อยเค้าตรงๆว่าไม่พอใจอะไรกูรึเปล่าถึงทำเหมือนหลบหน้ากู  (เดี๋ยวนี้กูเหมือนไอ้หนุ่ยเข้าไปทุกที  พูดเข้าประเด็นตลอด) เค้าตอบกูว่าเค้าเพิ่งรู้ตัวว่าเค้าชอบกูหลังจากที่เค้าหันไปชอบไอ้หนุ่ยมาพักหนึ่ง  กูเองก็อึ้งไปเหมือนกันนะ  (แต่ทีแรกก็แอบหลงตัวเองดีใจไปเหมือนกัน)  แต่เค้าเริ่มรู้สึกว่าความรู้สึกของกูที่มีต่อเค้าไม่เหมือนเดิม  ซึ่งเค้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร กูก็เลยถามเค้าว่าเค้าโกรธกูที่เปลี่ยนไปหรือไง แต่เค้าบอกกูว่า ไม่ใช่อย่างนั้นแต่เค้าขอใช้เวลาสำรวจตัวเองว่าตอนนี้จิตใจเค้าเป็นยังไงกันแน่ แล้วก็เค้าจะคิดอีกทีว่าเค้าจะคบกับกูในฐานะอะไรยังไงดี

มึงอาจคิดว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องของมึง กูมาเสียเวลามาพล่ามให้มึงฟังทำไม  แต่ที่กูตัดสินใจบอกมึงก็เพื่อที่จะเคลียร์ความรู้สึกของมึงเรื่องอ้อยกับกู   กูยอมรับว่ายังไงกูก็คงจะคบกับอ้อยต่อไป ถึงแม้เค้าจะตัดกูออกจากความเป็นเพื่อนเพราะเรื่องที่กูไม่ได้ชอบเค้าแบบนั้นแล้วก็ตาม กูรู้ว่ามึงคงเข้าใจกู.....

กูยังมีเรื่องมากมายที่อยากคุยกับมึง  เขียนมาหากูนะ มีเรื่องอะไรก็เล่าให้กูได้รู้บ้าง กูขอใช้สิทธิของความคิดถึงและความเป็นห่วงมึง  ให้มึงเล่ามาให้กูฟัง

ฝัน...โดยสิทธิของความคิดถึง


ผมว่าไอ้ใหญ่มันคงเชื่อคนง่ายหรือไม่มันก็พร้อมที่จะเล่าเรื่องให้ผมฟังแล้ว  มันถึงตอบจดหมายผมมา

ฝัน...คนดี
กูได้รับจดหมายมึงมาหลายฉบับแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกตื่นเต้นทุกทีที่ได้เปิดอ่าน  จดหมายของมึงกลายมาเป็นความสุขใจเล็กๆของกูตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้   กูว่ามันสุขจนกลายเป็นความเคยชินของกูไปแล้วจนกูกลัว....กลัวว่าถ้าวันนึงมันไม่มีแล้วหายไปกูจะไหวมั้ย

วันนี้แม่กูเข้าโรงบาลอีกครั้งช่วงก่อนแม่เริ่มอาการไม่ดีอีก  ผลของการทำบอลลูนไม่ช่วยอะไรได้มากเพราะเส้นเลือดแม่อุดตันหลายเส้น  ตอนนี้เส้นอื่นที่ไม่ได้ทำมันกลับมาตันเพิ่มอีก  ช่วงก่อนที่กูหายไปเพราะวุ่นๆเรื่องหาข้อมูลผ่าตัด หมอบอกว่าแม่คงต้องทำบายพาส มึงอาจไม่รู้จักมันก็คือการผ่าตัดเปลี่ยนเส้นเลือดหัวใจใหม่หรือการทำทางเบี่ยงให้กับเส้นเลือดหัวใจ  ก็เหมือนทำถนนเบี่ยงเส้นใหม่ให้เลือดเดินได้สะดวกๆยังไงล่ะ  กูกลัวว่ะฝัน ที่ต้องผ่าตัด..หัวใจนะมึงไม่ใช่ขาใช่แขน....แม่ก็เป็นเบาหวานด้วย อายุก็มากแล้วเดิมร่างกายก็ไม่แข็งแรงอะไร   กูกลัวร่างกายแม่จะรับไม่ไหว 

   น้องออมเองปกติก็ติดยายมาก  พอแม่กูมาป่วยกูเลยต้องดูแลน้องออมแทนต้องเอามานอนห้องกูทุกคืน  บางครั้งกูก็ทำตัวไม่ถูก มึงก็รู้กูไม่เคยเลี้ยงเด็กพอน้องออมงอแงมากๆกูหัวหมุนไปหมด  ความกลัวมันกลับมาอีกครั้งแล้วฝัน กูกลัวว่ากูจะทำทุกอย่างได้ไม่ดีพอสำหรับทุกคน นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่กูไม่อยากเขียนจดหมายหามึงตอนนี้
กูก็คงต้องเผลอระบายความรู้สึกกลุ้มใจให้มึงฟัง  แล้วกูก็รู้นิสัยมึง...มึงก็ต้องมากลุ้มกับกูไปด้วย

ช่วงนี้ถ้ากูไม่ได้ตอบจดหมายมึงไปก็คงเพราะกูยุ่งๆเรื่องพวกนี้แล่ะ มึงไม่ต้องเป็นห่วงนะ ยังไงกูไม่ลืมมึงหรอก

   ส่วนเรื่องอ้อยที่มึงเล่ามา กูไม่มีความเห็นนะเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของมึงกับอ้อย   ยังไงสำหรับกู...อ้อยก็เป็นผู้หญิงที่ดีคนหนึ่งไม่ว่าจะอยู่ในฐานะไหน   กูจะเข้าใจมึงทุกอย่างไม่ว่ามึงจะตัดสินใจเกี่ยวกับอ้อยยังไงก็ตาม แต่กูก็ดีใจที่มึงเล่าเรื่องของมึงกับอ้อยให้กูฟัง  เพราะแสดงว่ามึงก็แคร์ความรู้สึกกู

วันนี้กูขอจบจดหมายเท่านี้ก่อนนะ....แต่ความรู้สึกของกูกับมึงยังไม่จบหรอก...กูรับรอง
ใหญ่...confirm

*******************************
ขอให้คนอ่านทุกท่านมีความสุขค่ะ :3123:

เดี๋ยวจะไปบอกคนเขียนว่าคนอ่านชอบเศร้าๆจะได้เลิกน้ำเน่าซักที :laugh:

ออฟไลน์ ปี้ปี้ปี้~PalmY

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2427
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +273/-1
เย้ย

เอาเศร้ามาทำมายยยยยยยยย T^T  :sad4:

ตอนนี้แบบว่าชอบไอ้พี่หนุ่ยมาก มีสาระ ในความไร้สาระ(อย่างมาก) ตลอด  :z2:
ฝัน ก็ชอบบบ เหมือนบอกความรู้สึกตัวเองไปหน่อยๆ อยากเคลียตัวเอง  :z2:

กะริ๊กกกกกกก

เผ่นนน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด