วันนี้นอนไม่หลับเลย อีกทั้งพรุ่งนี้ยังมีงานแต่เช้าอีก
เฮ้อเลยไม่หลับเลยดีกว่าเนอะ
วันนี้มาพร้อมเปิดตัวพ่อหนุ่มๆทั้งหลายมาดูซิจะเป็นยังไงกันบ้างคนนี้ เอสเปอร์คนเก่ง เป็นไงเอ่ย เถื่อนไปมั้ยอะส่วนคนนี้พี่หมอฮีล love love อิอิเอาล่ะเกริ่นมานานละมาอ่านกันต่อเลยดีกว่าเดียวป้าๆ จะหาว่าค้ากำไรเกินงามอีก คริๆ
ปล. มีคนรู้ทันชิบทที่ 19หมอหนุ่มออกแรงบืบให้แรงขึ้นไปอีกเมื่อเห็นท่าทีของอีกฝ่ายดิ้นรน คำขอร้องต่างๆไม่ทำให้เขาใจอ่อนลงสักนิด มันไม่น่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้เลย
“ปล่อยข้านะ” คนร้ายบิดข้อมือไปมา แต่ยิ่งกับทำให้ตนเองเจ็บปวดมากกว่าเดิม
ปล่อย……ฮีลเองไม่มีความคิดที่จะปล่อยคนที่ไม่รู้ค่าของชีวิตไปแบบนี้หรอก เขานึกพลางหัวเราะเบาๆ คนสมัยนี้ก็แปลก ทั้งๆที่รักชีวิตตัวเองเหลือเกินแต่กับชีวิตคนอื่นเล่า……กลับเห็ยเป็นเรื่องสนุก คิดจะทำอย่างไรก็ได้เสียอย่างนั้น ไอ้สงครามบ้าๆนั่นก็อีก
‘สมควรแล้วที่พระเจ้าลงโทษ’“ข้าบอกให้ปล่อยข้า ฮีล”
ฮีลส่งเสียฮึดฮัดในลำคออย่างไม่สบอารมณ์ ออกแรงดึงคนร้ายเข้ามาใกล้ตัวกว่าเดิม คนตัวเล็กโผปลิวเข้ามาอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ปล่อยคนร้ายอย่างเจ้าน่ะหรอ ฮึ”
“อะไร….ข้าเพียงแค่จะช่วยทุกคน” คนร้ายตัวเล็กโกหก เขาเองไม่กล้าสบตาฮีลโดยตรง ได้แต่ก้มหน้าก้มตา
“ก่อนจะโกหก เจ้าควรคิดให้ดีก่อนนะว่าข้าเป็นหมอ ไม่มีน้ำยาไหนที่ข้าไม่รู้จัก โดยเฉพาะของๆข้า” ฮีลใช้มืออีกข้างเชยคางผู้ร้ายขึ้นมาสบตา แม้กระนั้นอีกคนกลับเบือนหน้าหนี
“ข้าไม่ได้…….”
“ฉลาดมากนะเจ้า…..วางยานอนหลับทุกคนให้หลับไปก่อน…..แกล้งหมดสติไปด้วยอีกคนจะได้ไม่ถูกสงสัย….พอได้เวลาก็ลุกมาลงมือ….ฆ่า” ฮีลพูดอย่างใส่อารมณ์ และพยายามเน้นคำว่า ฆ่า ด้วยสียงอันดังจนอีกคนตกใจ
“ข้า….ข้า…ข้าไม่…..” คนร้ายพูดด้วยเสียงอันสั่น ความกลัวเริ่มเข้ารุมเร้า หากทุกคนตื่นมา หากไทนอสรู้เข้า
‘มันคงจบ’“บอกมาเสียทีทำไมเจ้าทำแบบนี้” ฮีลเข้นหาคำตอบ ถึงแม้เขาเองจะพอเดาได้ แต่ในใจลึกเขากลับอยากฟังจากปากของอีกคนเสียมากกว่า
แต่อีกคนก้มหน้าเงียบ ฮีลสังเกตเห็นว่าตัวสั่นเล็กน้อย น่าเสียดายหากมีแสงสว่างกว่านี้อีกนิด ฮีลเองคงเห็นหยดน้ำที่หยดลงพื้นดินเป็นแน่แท้
“เจ้าเปลี่ยนไปมากจริงๆ……..” ฮีลปล่อยมือของเขาออก ถึงแม้อยากจะทำใจแข็งแต่พอเห็นอีกคนต้องเป็นแบบนี้ เขาเองก็อดใจอ่อนเสียไม่ได้
“
เกรย์……ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะทำเรื่องแบบนี้ได้” น้ำเสียงของฮีลแฝงความผิดหวังไว้
มาถึงจุดนี้เกรย์กลั้นน้ำตาอีกต่อไปไม่ไหวแล้ว ตลอดมาเขายังเชื่อว่า ฮีลคือคนที่เข้าใจเขามากที่สุด……แต่มาถึงตอนนี้เขารู้แล้วว่าไม่มีใครเลยที่จะเข้าใจและพร้อมที่จะยืนอยู่ข้างเดียวกับเขา
“ใช่ ข้ามันชั่วแบบนี้ เจ้ามีปัญหาอะไร” เกรย์บอกไปอย่างน้อยใจ น้ำตาไหลลงอาบหน้ากากกระดูกสีขาวเป็นสาย
“เจ้าอย่ามาพูดแบบนี้นะ….นี่มันชีวิตคนนะเกรย์ไม่ใช่เรื่องเล่น” หมอหนุ่มตอบกลับอย่างฉุนๆ
“ข้าเพียงแค่…..” ชั่วเวลาหนึ่งเกรย์เกิดคิดอยากบอกกับฮีลเสียทีว่าทั้งหมดนั้นเพื่ออะไร แต่เขากลับพูดออกไปไม่ได้ ทุกครั้งที่เห็นใบหน้าที่ชวนหงุดหงิดอันนั้น มันทำเขาไม่กล้าบอกไป
“เพราะไทนอส ฮึ” ฮีลที่พอจะรู้อะไรอยู่แล้วต่อความให้จบประโยคพร้อมกับแค่นหัวเราะในลำคอ
แต่การกระทำนั้นมันเหมือนใบมีดที่กรีดซ้ำรอยแผลเดิมของเกรย์เข้าไปอีก
“ใช่แล้วจะทำไม” เกรย์เริ่มขึ้นเสียงบ้าง เขาม่สนใจกลัวพรรคพวกที่เหลือจะตื่นขึ้นมารับรู้อีกต่อไป…
“เจ้ามันก็แค่……”
“อย่ามาว่าข้าเป็นอีตัว” เกรย์ตะคอกดักทางไว้ได้ เขาหายใจเข้าออกแรงๆด้วยความโกรธที่เพื่อนรักที่คบกันมานาน กลับไม่เข้าใจเลยว่าเขาต้องการอะไร
“เจ้าไม่เข้าใจข้าหรอกว่าข้ารู้สึกยังไง” บัดนี้เกรย์เริ่มร้องไห้อีกครั้ง นั่นทำให้ฮีลเองเผลอเอื้อมมือไปเพื่อปลอบ….อย่างที่เคยทำ
“ไม่ต้อง…..เจ้าไม่รู้หรอกฮีลว่าตั้งแต่วันที่เจ้าไล่ข้าออกมา……จนถึงวันนี้ข้าเหงามากแค่ไหน….ข้าต้องอยู่คนเดียวมาตลอด” เกรยืปัดมือของหมอหนุ่มออกไปอย่างไม่ใยดี
“ตลอดแปดปีที่ผ่านมาเจ้ารู้ไหมว่าข้ารู้สึกอย่างไร เจ้าไม่รู้หรอกว่าการได้แค่มองคนที่รักมันรู้สึกอย่างไร”
“เจ้าไม่รู้หรอกการที่เห็นคนที่รัก ควงคู่กับคนอื่นนั้นมันเจ็บปวดแค่ไหน”
“และเจ้าคงไม่รู้หรอกว่าข้ารู้สึกอย่างไร…..ในเมื่อความพยายามของข้าที่เฝ้าติดตามไทนอสนั้นมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย……ความพยายามของข้าสูญเปล่า”
เกรย์เพ้อพร่ำสิ่งต่างๆที่อักดอั้นในใจออกมาพร้อมทั้งน้ำตาตลอดแปดปีที่ผ่านมาเขาฝึกอย่างหนักเพียงเพื่อหวังในตำแหน่งคนสนิทของผู้สูงศักดิ์ จากนายทหารชั้นต่ำ เกรย์ค่อยๆไต่เจ้าขึ้นมาด้วยลำแข้งของตันเองจนกระทั่งเขาได้ยืนอยู่เคียงข้างไทนอสได้สำเร็จ
แต่นั่นกลับเป็นมีดสองคมที่ทำร้ายตัวเองเข้าไปใหญ่ การได้พบเจอใกล้ชิดนั่นมันช่างชื่นมื่นก็จริงอยู่ แต่มันจะมีประโยชน์อะไรในเมื่อไทนอสเองไม่เคยคิดที่จะสนใจในตัวเกรย์เลยเพียงสักครั้ง
“ความรักมันเป็นอย่างไรหรือฮีล” เกรย์ทรุดนั่งลงอย่างอ่อนแรง
“หากจับมือกันจะรู้สึกอย่างไรหรือ” ถึงตรงนี้เกรย์ใช้มือทั้งสองข้างประสานเข้าด้วยกันเสมือนคนรักที่คอยจับมือกันไว้ แต่แน่ล่ะเกรย์ยังคงไม่รู้ว่ามันรู้สึกอย่างไร
“หากถูกกอดจะรู้สึกอย่างไรหรือ” เกรย์ตั้งคำถามต่อไป มือทั้งสองข้างเปลี่ยนมากอดร่างกายที่ผ่ายผอมของตัวเองแทน
“รู้สึกอย่างไร……รู้สึกอย่างไร” เกรย์พูดซ้ำๆพรางโยกตัวเองไปมาราวกับไทนอสได้โอบกอดเขาไว้
“โถ่เกรย์” ฮีลเอ่ยออกมาเบาๆ
“แล้วจูบเล่า……รสชาติมันเป็นอย่างไรกัน” เกรย์ลุกขึ้นเดินเข้าไปหาเพื่อนเก่า เขาหยุดยืนอยู่ข้างหน้าฮีลพอดี
“ข้าเหนื่อยเหลือเกิด ฮีล” คนตัวเล็กเอนตัวไปซบลงกับอกหนานุ่นของชายหนุ่มอย่างที่เคยเป็นประจำยามเขาไม่สบายใจ
“ข้าเหนื่อยเหลือเกิน”
ฮีลค่อยๆยกแขนขึ้นรอบตัวเกรย์เอาไว้หมายจะปลอบใอย่างที่เคยทำตอนเด็ก
“ข้าไม่อยากทนต่อแล้ว” แต่เกรย์กลับผลักตัวออกจาก
ฮีลขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจความหมาย
เกรย์ฉีกยิ้มออกมาอย่างที่ไม่เคยเป็น มือขวาของเขาวางตรงหน้าแข้งก่อนที่จะล้วงเข้าไปดึงกระดูกแท่งยาวออกมา
“ฝากบอกลาคนอื่นด้วย”
“เกรย์…..ไม่…..”กลางค่ำคืนที่เงียบสงบนั้นถูกรบกวนด้วยเสียงร้องลั่นของชายหนุ่มผู้หนึ่ง ผู้ที่ซึ่งกำลังจะเสียดวงใจของเขาไป
“ไม่นะเกรย์ เจ้าทำอะไรแบบนี้” ฮีลใช้มือดึงกระดูกที่ปักเข้ากลางอกของอีกคนออกไปเลือดสีแดงพุ่งกระฉูดตามการเต้นของหัวใจ ร่างของเกรย์ถูกย้อมจนเป็นสีแดงส่งกลิ่นคาวคละคลุ้ง
“ปะ..ปล่อยข้าไปเถอะ” เกรย์เอ่ยอย่างหมดแรง
ทั้งแรงใจและแรงกาย
แต่ฮีลไม่ฟังคำขอ น้ำยาห้ามเลือดถูกเทราดลงไปเพื่อรักษา
“ไม่…..ไม่” เกรย์ใช้แรงเฮือกสุดท้ายจับแขนของฮีลไว้ พร้อมกับส่ายหน้าไปมา
“ไม่เกรย์เจ้าต้องอยู่กับข้า….ได้ยินไหมเจ้าต้องอยู่กับข้า” ฮีลเอ่ยพร้อมน้ำใสๆที่ไหลล้นมาจากตา น้ำยาของเขาเริ่มออกฤทธิ์แล้ว แต่ความเสียหายนั่นช่างน่ากลัวนัก
“ฝากบอกไทนอสด้วย……ว่า…ข้าระ…รัก” คำพูดของเกรย์ทำเอาชายหนุ่มห้ามใจไม่ให้ปล่อยโฮออกมาไม่ไหว ฮีลหยิบน้ำยาอีกขวดออกมารินเข้าปากของเกรย์ทีละนิดจนหมด
“เจ้าบอกเขาเองนะ…….เจ้าต้องอยู่ต่อเพื่อบอกด้วยตัวเอง” ฮีลลูบใบหน้าเกรย์อย่างอ่อนโยน เมื่อเห็นว่าเกรย์นิ่งลงเขาก็ดีใจ ลงมือดึงน้ำยาขวดที่สามออกมาเทราดบาดแผลอีกครั้ง
บาดแผลทางร่างกายนั้นทุเลาลงแล้วแต่จิตนั้นเล่า
“เกรย์ตื่นสิ”
“เกรย์”
ฮีลตบใบหน้านั้นเบาๆเมื่อเห็นอีกคนปิดตา สภาพตอนนี้หมออย่างเขายังไม่อาจฟันธงไปได้ว่าจะปลอดภัย เขาไม่ยอมให้เกรย์จากไปง่ายๆแบบนี้หรอก…..ไม่มีทาง
“อืม” เกรย์ส่งเสียงครางในลำคอก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นมา
“ไทนอส” ถึงแม้น้ำเสียงจะดูโรยแรง แต่มันกลับแฝงความดีใจเอาไว้
“ใช่ข้าเอง เจ้าต้องอยู่นะเกรย์อยู่กับข้า….ไทนอสคนนี้คงบ้าตายหากไม่มีเจ้า”
“จะ…เจ้าอยากให้ข้า…..”
“ใช่เกรย์….อย่าไปไหนเลย”
“อยู่กับข้า…..เกรย์”
น้ำตาใสๆไหลลงมาอีกครั้งเพียงแต่ครั้งนี้มันเป็นน้ำตาของความดีใจ เกรย์กอดไทนอสไว้แน่นราวกลับกลัวจะหลุดหายไปไหนอีก
ฮีลใช้น้ำยาขวดที่สี่ก่อนจะกอดรัดอีกคนอย่างแนบแน่น ก่อนจะเปล่งเสียงกระซิบออกมาข้างใบหูอีกคน
“ใช่แล้วเกรย์…..อยู่กับข้า…..ไทนอสผู้นี้จะดูแลเจ้าเอง”