The odyssey......มายาริษยา (บทที่ 37 ฺComplete ending 26/3/10)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The odyssey......มายาริษยา (บทที่ 37 ฺComplete ending 26/3/10)  (อ่าน 69987 ครั้ง)

three

  • บุคคลทั่วไป
กรรมมีนกกระทุงเหวมาก่อกวนอีกและ ใครก็ได้ยิงให้ร่วงแล้วย่างเลยครับผม

ออฟไลน์ กิมตี๋หัดขับ

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3

เทวดาหล่อจัง  อยากกินๆ  :oo1:

The Living River Ping

  • บุคคลทั่วไป
ชีวาส ได้เวลาแสดงฝีมือแล้วนะ จัดการ ดูด เอ๊ย ดับ เจ้าผ่องนี่ซะ
เอสเปอร์จะได้เลิกแกล้งเจ้า และหันมาเอาใจปากมหัศจรรย์ของเจ้าเสียที

แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ชีวาส กินแต่ของอร่อย  :-[

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
เอ.....จะให้สู้กันยังไงดีเนอะ ไอ้เราก็เขียนไม่ค่อยจะเป็น

แต่ถ้าจะตัดทิ้งเดี๋ยวก็จะกลายเป็นดราม่าไปอีก ซิกๆ




อ้างถึง
nOn†ღ : ลุ้นต่อเลยจ้า ไม่รู้ว่าจะต้องลุ้นต่ออีกมั้ย

dahlia : มาต่อแล้ว ไม่ค้างแล้วเห็นมั้ย คริๆ

three : เอาเป็นสอยดาวก่อนละกันเนอะ

กิมตี๋หัดขับ : แฮ่ม.....ซับน้ำลายหน่อยจ๊ะ

The Living Rive : แอร๊ยยยยย เม้นนี้แรงนะคะ ให้กิ๊ฟเลยค่ะเพื่อนสาว


ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2




สายฟ้าเบื้องบนฟาดฝ่า


พังทลาย ย่อยยับ......หมดสิ้น


หายนะ....อุบัติ.......เสียสูญ




เหลือเพียงความเจ็บช้ำ......ตรอมตรม











บทที่ 23



“พวกเจ้าไม่มีทางไปถึง ประตูได้”ผู้ซึ่งลอยตัวอยู่กลางอากาศประกาศความต้องการของตนอย่างชัดเจนที่จะขัดขวางทุกทางไม่ให้พวกของไทนอสเดินทางต่อไปยังจุดหมายได้อย่างแน่นอน


“เจ้าเป็นใคร…..ต้องการอะไร” ไทนอสตะโกนถามไป แต่ลำปืนยังคงชี้เล็งไปทางผู้มาเยือน



ผู้มาเยือนยิ้มอย่างดูถูกอีกครั้ง

‘เจ้าพวกมนุษย์นี่มันคิดว่ามันเป็นใครถึงได้กล้ามาถามชื่อข้า’



“เจ้าไม่ต้องรู้หรอก…..เพราะมันไม่จำเป็น” สิ้นเสียงตอบ ปีกเล็กๆที่ส้นเท้าทั้งสองพัดกระพือเร็วขึ้น นำพาร่างขาวนวลนั้นลอยสูงขึ้นไปร่วมสิบเมตร เสียงสวดที่ฟังดูไม่เข้าใจค่อยๆถ่ายเทออกมา ไทนอสไม่รอช้าอีกลั่นไกปืนออกไป กระสุนเกลียวหมุนควงแหวกอากาศเข้าตรงหาเป้าหมายอย่างเร็ว ตามด้วยเวทไฟที่ปั่นรวมตัวเป็นพายุไฟขนาดย่อมเข้าทำร้ายเจ้าคนที่ลอยอยู่นั้น

แต่เพียงเขาโน้มตัวเพียงน้อยนิดก็สามารถหลบกระสุนไปได้แล้ว อีกทั้งพายุไฟนั้นดูเหมือนจะมอดดับไปเมื่อเข้าใกล้ ชายผู้นุ่งอาภรสีขาวมองเหล่ามนุษย์อย่างนิกขัน……


‘เป็นเพียงมนุษย์ หาญมาสู้กับข้าอย่างนั้นรึ’


เสียงสวดทวีเร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าจะเกิดอะไร มีเพียงแอลเท่านั้นที่กระสับกระส่าย เร่งให้ทุกคนรีบจำกัดศัตรูก่อนที่ทุกอย่างจะเสร็จสิ้น แต่ถึงเอสเปอร์จะขว้างมีดไปอย่างไร ทั้งกระสุดแบบต่างๆ หรือแม้กระทั่งเวทย์สายใด ก็ไม่มีทีท่าจะทำให้ชายผู้นั้นหยุดบทสวดได้เลยจนกระทั่ง

เลือดของอสูรที่พึ่งถูกไทนอสเป่าสมองไปค่อยๆไหลย้อนกลับขึ้นมาบนเนินดินที่มีผลึกขนาดใหญ่อยู่บนนั้น แอลกรีดร้องขึ้นพร้อมกับรี่เข้าไปสกัดกั้นไว้

“อย่ามาขวางข้า” เข็มพิษถูกซัดลงมายังแอล แต่โชคดีที่ไทนอสพุ่งเข้าไปรวบตัวคนตัวเล็กให้หลบได้ทัน และนั่นก็ทำให้โลหิตของอสูรนั้นไหลลามไปถึงฐานของผลึกก่อนที่จะถูกดูดเข้าไปจนผลึกนั้นมีสีแดงฉาน

บทสวดสิ้นสุดลงแล้ว พิธีกรรมได้สิ้นสุดลง แอลได้แต่ตัวสั่นไม่อยากนึกถึงเหตุการณ์ที่จะเกิด





ทันใดนั้น



ผลึกสีแดงนั้นค่อยๆสั่นรัวทำเอาแผ่นดินที่รายรอยแตกเป็นเสี่ยง เผยให้เห็นร่างของโกเลมผลึกที่หลับไหลอยู่บนเนินดินนั้นมาแสนนาน จนกระทั่งถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง

ลักษณะของเจ้าโกเลมผลึกในครั้งนี้หาได้ต่างจากเจ้าโกเลมศิลาที่พวกไทนอสได้ประมือครั้งที่แล้ว เพียงแต่ในครั้งนี้วัสดุที่ใช้เสกโกเลมนั้นมาจากเลือดและผลึกมันก็เท่านั้น

เกรย์เห็นดังนั้นจึงฝืนลุกขึ้นเพื่อจัดการ เขาจำเป็นต้องมองหาจุดอ่อนของเจ้าโกเลมเหมือนครั้งก่อน แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ทำอะไร ฮีลก็เข้ามาขวางไว้เสียก่อนพร้อมกับทำหน้าเข้มเป็นเชิงห้ามและบอกว่าเดี๋ยวฮีลจะเป็นคนจัดการเอง

ชายผู้ล่องลอยบนฟ้ามองผลงานของตนอย่างพอใจ ครั้งที่แล้วเขาดูถูกฝีมือเจ้าพวกมนุษย์ไป แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนกัน เขาอุตส่าห์ตั้งใจสร้างสาวกที่แข็งแกร่งที่สุดขึ้นมาอย่างเหนื่อยยาก ไหนจะเลือดของเจ้าหน้ากระทิงที่หายาก ไหนจะบทสวดที่ยาวเสียจนปวดหัวนั่นอีก เขาเองก็นึกอยู่ในใจลึกๆว่าถ้าตัวเองลงมือจัดการซะคงจะง่ายกว่านี้ แต่อีกความคิดกลับขัดว่าตัวเขาเองไม่ควรลดตัวไปยุ่งกับพวกชั้นต่ำให้แปดเปื้อนเสียเปล่า

และนั่นทำให้เขาเลือกใช้สาวกผู้ซื่อสัตว์ตนนี้ โกเลมผลึก จะมีอะไรที่แกร่งไปกว่านี้อีก ไหนจะไอ้หมอผีที่ยังเจ็บอยู่นั่นอีกมันคงไม่สามารถทำอะไรได้อีก งานนี้เขาชนะใสๆ


‘เท่านี้เจ้านายของข้า ก็ไม่ต้องถูกเจ้าพวกนั้นรบกวน’







ทางด้านไทนอสเขาระดมยิงเจ้าโกเลมอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ถึงใช้กระสุนระเบิดที่แรงที่สุกกลับไม่ระคายผิวของเจ้าผลึกยักษ์นี่เลย มันยังคงย่างก้าวเข้ามาอย่างใจเย็น ดวงตาสีแดงสดนั้นมองไปยังเป้าหมายข้างหน้าพร้อมจะทำลายเสมอ……..เป้าหมายที่อันตรายที่สุดในตอนนี้…..ชีวาส

ชีวาสที่กำลังเร่งพลังเวทพร้อมกับร่ายคาถาที่ซับซ้อนอย่างเร่งรีบ ครั้งนี้มันไม่เหมือนครั้งที่แล้ว เขาเองรู้สึกถึงแรงกดดันจากเจ้าโกเลมตัวนั้น หากทำเป็นเล่นมีหวังเขาได้จากไทนอสไปจริงๆ

เอสเปอร์เองก็พยายามในการจักการเป็นอย่างยิ่ง แต่สัตว์มายาของเขาที่มีในตอนนี้คงไม่สามารถทำอะไรเจ้ายักษ์นี้ได้ ฟอกซ์ก็เจ็บอีก มันแย่เสียยิ่งกว่าแย่

แอลเองก็คิดไม่ออก เขาคว้ากองไพ่ออกมา จะใช้ The hanged man ก็ไมได้ บริเวณนี้ไม่มีต้นไม้เลย

โกเลมยักษ์เงื้อมือขึ้นทุบพื้นทำเอาทั่วบริเวณสั่นไหวจนแอลทรงตัวไว้ไม่อยู่ล้มลง เจ้ายักษ์ได้ทีเงื้อมืออีกข้างหมายทำลายคนที่พลาด



ตูม



กระสุนระเบิดกระทบเข้าเต็ๆใบหน้าใหญ่ ถึงแม้จะทำอันตรายใดไม่ได้แต่ก็พอดึงเวลาเอาไว้ได้

“อยู่ข้างๆข้า แอล” ไทนอสบอกเสียงแข็งโอบเจ้าตัวเล็กที่ตัวสั่นไว้ข้างกาย

แรงระเบิดเมือ่กี้ทำให้โกเลมหงุดหงิดขึ้นไปอีกระดับ สำหรับมันเหมือนถูกยุงกัดเข้าที่ใบหน้า แน่นอนมันไม่เจ็บหรอก แต่มันเพียงรำคาญมากก็เท่านั้น มันส่งเสียงร้องลั่น ก่อนจะรัวหมัดไปยังไทนอสและแอล

“ระวังหน่อยสิ…” เกรย์ต่อว่าด้วยเสียงตำหนิ มีกรงกระดูกขาวโผล่ออกมาจากผืนดินคอยป้องกันพวกเขาจากเงื้อมือของโกเลมไว้ ยังดีฮีลที่อุ้มเกรย์ไว้ช่วยใช้น้ำยาเสริมความแข็งแรงให้กระดูก ไม่อย่างนั้นทั้งหมดคงตายไปแล้ว



The tower



ท้องฟ้าที่เคยเงียบสงบบัดนี้ถูกปกคลุมไปด้วยเมฆหมอกสีนิล ประกายไฟพากันวิ่งไปมาระหว่างชั้นบรรยากาศส่งแสงสีขาวเป็นเส้นวิ่งไปมาละลานตา

แอลชูไพ่ the tower ไว้เหนือหัว เร่งสมาธิก่อนที่จะปล่อยสายฟ้าลงมาครั้งแรก



เปรี้ยง



สายฟ้าสีขาวแสบตาฟาดลงยังพื้นที่ข้างๆเจ้ายักษ์นั่น แรงระเบิดทำเอามันเซไปสองสามก้าว แอลหัวเสียที่ไม่สามารถควบคุมสายฟ้าได้อย่างใจ…..พลังของธรรมชาติมันออกจะเกินตัวเขาไปหน่อย



“เจ้าทำบ้าอะไร” เสียงตวาดของฮีลทำเอาแอลเสียความมั่นใจไปอีก ก็แน่ล่ะเล่นส่งสายฟ้ามั่วๆแบบนั้น มันเกือบจะโดนตัวเกรย์เสียแล้ว ดีที่ตนไหวตัวโอบตัวเกรย์ไว้ทัน ไม่อย่างนั้นมีหวังเกรย์คงโดนเศษดินกระแทกเข้าเต็มๆ

แอลก้มหัวขอโทษขอโพย แต่ก็ไม่มีเวลามาก เจ้าโกเลมเริ่มตั้งตัวได้อีกครั้งและครั้งนี้มันหันมาเล่นงานแอลเสียแล้วสิ

“ทางนี้แอล” ไทนอสฉุดแอลวิ่งไปทางชีวาส ที่ตอนนี้มหาเวทย์เข้าสู่ขั้นสุดท้ายแล้ว







อีกฟากหนึ่ง



ศัตรูหน้าหยกเอนตัวกลางอากาศมองการต่อสู้อย่างนึกสนุกที่ได้เห็นพวกมนุษย์วิ่งเสียจนวุ่นไปคนละทาง ทันทีที่โกเลมของเขากระโดดแล้วทิ้งตัวลงกระแทกเล่นเอาทั้งหมดล้มลงตามแรงสั่น

‘หึ ดูซิพวกเจ้าจะทำอะไรได้’

เขามัวแต่มองการต่อสู้เบื้องล่างจนลืมสนใจรอบตัว ซึ่งขณะนี้ เอสเปอร์ได้เกาะเจ้านกอีโมที่พาบินขึ้นมาช้าเบื้องหลัง

เอสเปอร์กระซิบบอกเจ้านกให้กระพือปีกให้น้อยที่สุด แต่นั่นก็เป็นไปได้ยากเนื่องจากตัวของเอสเปอร์เองหนักเหลือทน อีโมส่งเสียงค้านเบาๆ

เอสเปอร์จ้องเขม็งไปยังเป้าหมาย ใกล้เข้าไปใกล้เข้าไป……ตรงนี้อยู่ในระยะหวังผลของเขาแล้ว เอสเปอร์ส่งสัญญาณให้อีโมรักษาระยะห่างไว้ ใบมีดของเขาถูกคว้าออกมาจากซองหนังข้างตัว เอสเปอร์บรรจงเปิดน้ำยาที่ได้จากฮีลก่อนจะเคลือบมันไว้ที่ผิวมีด จนมันมีสีเขียวสด


‘เพียงแค่แผลเล็กๆ’


เอสเปอร์เพ่งสมาธิตั้งมั่นใจที่เป้าหมายตาไม่กระพริบ จนลมหายใจของเขาสม่ำเสมอมั่นคง เขาเงื้อมือแล้วพุ่งมีดออกไป

เสียงมีดแหวกอากาศทำเอาชายผู้ลอยตัวตกใจ เอี้ยวตัวมองยังใบมีดที่เคลื่อนตัวเข้ามา เขาสั่งให้เจ้าปีกจิ๋วหยุดทำงานเพื่อทิ้งตัวหลบ  ทว่าช้าไปเสียแล้ว ใบมีดคบกริบนั้นเฉือนเข้าที่ต้นขาข้างขวาเผยรอยแผลยาวตัดกัยเนื้อที่ขาวเนียนนั้น

แต่ที่แปลกกว่านั้น ของเหลวสีทองที่ลามไหลลงตามช่วงขาเนียนนั้นมันคืออะไรกัน เอสเปอร์ได้แต่เก็บความสงสัยนั้นไว้ในใจ แต่ยังไงก็ช่างเขาทำงานเสร็จสิ้น มันถูกพิษเข้าแล้ว ไม่ว่ายังไงอีกสักพักมันต้องตายแน่

“เจ้าบังอาจ……..” ผู้ถูกทำร้ายกร่นด่าอย่างเกรี้ยวกราด มือขวาล้วงเขาไปยังร่มผ้าควานเข้าหาเข็มพิษออกมาขว้างใส่เอสเปอร์ทันที

ใบมีดอีกอันถูกใช้เพื่อสกัดป้องกันตัวไว้ได้อย่างคล่องตัว แม้ว่าจะใช้ได้เพียงมือเดียวเนื่องจากอีกมือต้องเกาะตัวอีโมเอาไว้ แต่เพียงแค่นั้นก็เพียงพอ เอสเปอร์เพียงแค่รอเวลา…..เวลาที่พิษซึมเข้าสู่หัวใจ

“โกเลม จัดการขั้นเด็ดขาดซะ”  เมื่อเห็นว่าจัดการคนตรงหน้าไม่ได้โดยง่าย อีกทั้งพลังส่วนใหญ่ก็ใช้เรียกโกเลมไปเสียเกือบหมด

โกเลมเงยหน้ารับคำสั่ง ดวงตาฉายประกายวาววับ โลหิตที่เคลือบกายาถูกดึงมารวมไว้ที่ปลายหมัด

เอสเปอร์ได้ยินดังนั้นจึงหันไปสนใจข้างล่างแทน ปล่อยเจ้าบ้านี่ไว้เดี๋ยวมันก็ตายเอง เขาสั่งอีโมให้พาตนลงไปยังพื้นอย่างเร็ว

“จะไปไหน….ข้ายังไม่ได้คิดปัญชีกับเจ้า” หมัดขาวๆซัดเข้าตรงกลางใบหน้าเล่นเอาเอสเปอร์หงายหลังไป




ด้านล่าง



เจ้าโกเลมวิ่งตรงเข้าหาพวกไทนอสที่ตั้งกำแพงรอหน่วงถ่วงเวลาให้ชีวาสซึ่งเหลือบทร่ายอีกเพียงไม่กี่บทเท่านั้น

เกรย์บอกให้ฮีลพาเขาไปข้างหน้าพร้อมกับเรียกกำแพงกระดูกออกมาอีกสามชั้นซ้อน ฮีลที่ใช้มือขวาโอบเกรย์ไว้มั่นไม่ยอมให้อีกคนต้องเจ็บอีกต่อไป เขาจะปกป้องเอาไว้เอง

ไทนอสเล็งกระบอกปืนไป ยิงกระสุนระเบิดออกไปต่อเนื่องหวังให้ลดแรงของโกเลมที่วิ่งเข้ามาอย่างไม่คิดชีวิต



เปรี้ยง



สายฟ้าจากแอลยังฟาดลงมาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ายังไม่ถูกเป้าหมายนักแต่อนุภาพมันก็แรงพอที่จะเห็นว่าโกเลมนั้นโอนเอนไปตามแรงระเบิด

โกเลมใกล้เข้ามาแล้ว……มันใช้ไหล่เข้ากระแทกป่นกำแพงกระดูกเป็นผงสลายไป มันเง้อมือขึ้นสูง แสงสีแดงสว่างแผ่ออกมาจากกำปั้นทั้งสอง พลันทุบลงใจกลางกลุ่มนักเดินทาง

ไทนอสรวบเอาแอลแนบเข้ากับอกเขาแน่น เช่นเดียวกับเกรย์ที่ปิดหลังเข้าบดบังสิ่งที่จะเกิดขึ้น

ฉับพลันที่ฝ่ามือกระทบลงกับพื้น แสงสว่างได้แผ่ออกก่อนเหล่าผลึกทั้งหลายได้รวมใจโผล่ขึ้นมาเป็นวงกว้าง
ตามติดด้วยการระเบิดพลีชีพของโกเลมที่แผ่รัศมีกว้างออกไป ผลักกระแทกผู้คนรอบข้างให้กระเด็นถอยไป


“ชีวาส”


เอสเปอร์ที่เกาะอยู่บนอีโมร้องอย่างใจเสียที่เห็นภาพชีวาสปลิวตกลงไปยังรอยแยกที่ดำมืดนั้น

เขาปลดอีโมส่งกลับยังมิติของมันทิ้งตัวปล่อยให้ตัวดิ่งลงเพื่อลดแรงต้านอากาศ






แล้วทั้งสองก็ร่วงหล่นลงสู่ความมืดอันมืดมิด

ออฟไลน์ กิมตี๋หัดขับ

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3
มาอ่านแล้วจร้า   อ้ายยยย คู่พระคู่นางได้เสียกันแร้นนนน  :oo1:

แต่เทวดาสุดหล่ออย่าเพิ่งตายนะ ยังไม่ทันโชว์เสียวเลยจะตายแร้นเหรอ  :oo1:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
แยกกันเป็นคู่ๆ แอร๊ยยยยยยยยย หุ หุ หุ  :z1:

The Living River Ping

  • บุคคลทั่วไป
ชีวาส ~ เอสเปอร์ ตกลงไปในร่องดำมืด หุหุ

อ คลำดีๆนะ ช รอเจ้าอยู่ คุคุคิคิ


:m10:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
^
^
^
ป้า รีบน คิดอะไรอยู่นั่น

ป่านนี้ไทนอส กับ แอล จะเป็นอย่างไงบ้างเนี่ย
คนแต่งไปไหนค่ะ  :z3:

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
ไม่ได้หายไปไสหรอกเจ้า

เพียงแค่ช่วงนี้อยู่ในโหมด ซึมเศร้ามากไปหน่อย

(ก็แค่อ่านเรื่องน้องนิน แล้วอินซะ ซิกๆ)


เลยไม่รู้ว่าจะแต่งเรื่องตัวเองไปทางไหนดี











บทที่ 24





ท่ามกลางความมืดมิดแห่งคืนเดือนแรม คืนที่ฟ้าไร้ดาว เมฆหมอกสีดำปกคลุมทั่วท้องนภา มีเพียงแสงเรืองรองจากบรรดาเศษผลึกที่แตกกระจายเป็นเสี่ยง สายลมเอื่อยที่พัดโชยนั้นไม่ได้ช่วยให้ใจของชายหนุ่มเย็นลงเลย


“เมื่อไรแอลจะฟื้นเสียที” น้ำเสียงที่เจือด้วยความร้อนรนดังขึ้นในที่พักชั่วคราวที่ถูกกางไว้อย่างลวกๆ


ฮีลที่กำลังปรุงยาอยู่หันมามองอย่างหงุดหงิด จะไม่ให้อารมณ์เสียได้อย่างไรในเมื่อเขาเองพึ่งบอกไปอยู่เมื่อกี้ว่าต้องใช้เวลาสักพัก และไหนอาการของเกรย์อีก นี่คงไม่คิดสนใจเลยสินะ

“……..” ฮีลหันกลับไปสนใจการปรุงยาต่อโดยไม่ได้พูดคำใดๆออกไป ภายในห้องนั้นช่างเงียบงันมีเพียงเสียงขวดแก้วกระทบดังกรุ้งกริ้ง กับเสียงบดยาของฮีลเพียงเท่านั้น


ไทนอสนั่งอยู่ข้างๆเตียงผู้ป่วยที่กำลังหลับใหลอย่างไม่ได้สติ ร่างน้อยนั้นหลับตาลงนอนนิ่ง มีเพียงหน้าอกเนียนขาวนั้นที่กระเพื่อมขึ้นลงเป็นจังหวะบ่งบอกว่ายังหายใจ รอยแผลยาวสีแดงหลายแผลกรีดยาวตามลำตัว แขน และขา ตัดกับผิวขาวนั้นอย่างเด่นชัด ไทนอสบรรจงกุมมือแอลไว้มั่น พร้อมกับสวดภาวนาให้คนตัวเล็กตรงหน้าตื่นขึ้นมาอย่างปลอดภัย


‘เพราะข้า……ข้าปกป้องเจ้าไม่ได้’








ตูม…



เสียงระเบิดดังลั่น แรงระเบิดผลักร่างทั้งสองให้ปลิวออกไป ไทนอสกอดรัดร่างเล็กนั้นไว้แน่ไม่ยอมปล่อย เศษผลึกจากร่างโกเลมแตกออกเป็นเสี่ยงกระจายตามแรงระเบิดพุ่งเข้าหาพวกเขาเหมือนห่าฝน ไทนอสได้แต่กอดแอลเอาไว้ ใช้ร่างกายของเขาป้องกันเอาไว้………คนที่เขาห่วงใยมากที่สุด

จนทุกอย่างสงบลง ไทนอสที่นอนนิ่งอยู่รีบดันตัวคลอยอ้อมกอดออก ร่างของแอลถูกอาบไปด้วยเลือด รอยแผลกรีดยาวไปตามร่างจนเสื้อผ้าขาดลุ่ย แอลหมดสติไปแล้ว ร่ากายของเขาทิ้งลงตามแรงโน้มถ่วงโลก ลำคอบางเรียวถูกประครองให้นอนอยู่ในอ้อมแขนไทนอส ชายผู้กำลังใจเสียกับเหตุการณ์ที่เกิด


“แอล”


เสียงร้องนั้นดังพอที่จะทำให้ศัตรูหน้าใสมองเห็นเป้าหมายที่ไม่ยอมตายเสียที เขาสั่งการให้ปีกจิ๋วพาเขาโฉบเข้าใกล้เพื่อจัดการขั้นเด็ดขาดเสียที


‘ตายยากเสียจริงไอ้พวกมนุษย์’


เข็มพิษอันใหม่ถูกเตรียมไว้พร้อมปลิดชีพ และครั้งนี้มันคงไม่โชคดีรอดไปเหมือนครั้งที่แล้วได้อีก เมื่องานเสร็จข้าก็คงได้รางวัลมากเสียจนสบายไปทั้งชาติแล้ว

ผู้รุกรานยิ้มกระหยิ่ม ขว้างอาวุธเข้าใส่ไทนอสเต็มแรง










ควันสีขาวที่กำลังพุ่งออกมาจากหม้อปรุงยาส่งกลิ่นหอมไปทั่วที่พัก ฮีลค่อยๆตักของเหลวเหล่านั้นลงขวดอย่างระวัง ก่อนที่จะบรรงปิดฝาไว้อย่างเรียบร้อย

และก็ถึงเวลาที่เขาต้องตรวจอาการของแอลอีกรอบ ฮีลถอนหายใจเล็กน้อย เพราะเขาต้องเจอหน้าไทนอส…..และทุกครั้งที่พบมันยิ่งตอกย้ำถึงความรู้สึกของเกรย์ ที่ไม่ว่าอย่างไร ไม่ว่าวันไหน ก็ไม่มีทางที่จะเปลี่ยนแปลงใจของเกรย์ไปได้สักครั้ง

ฮีลลงมือตรวจดูอาการของแอลเป็นรอบที่สามของวัน อาการของแอลไม่น่าเป็นห่วงนักพักผ่อนอีกสองสามวันก็คงสามารถเดินได้ ฮีลเองก็ตกใจในพลังชีวิตของคนตัวเล็กคนนี้ ตามปกติแล้วคนที่ดูอ่อนแอแบบนี้ไม่น่าที่จะฟื้นฟูตัวได้เร็วขนาดนี้ แต่ก็นั่นอีกล่ะ คงเพราะได้กำลังใจดีล่ะมั้ง ฮีลหันไปมองไทนอสด้วยหางตาอย่างไม่ชอบใจนัก


‘เจ้ารักคนผิดจริงๆ เกรย์’




หลังจากตรวจอาการแอลเสร็จแล้ว ฮีลก็เร่งไปยังอีกฟากของที่พัก

เกรย์นอนนิ่งอยู่บนเตียงอีกฟากหนึ่งของที่พัก รอยแผลเก่าจกาการทำร้ายตัวเองยังคงเด่นชัดกลางหน้าอกขาว แต่แผลนี้หาได้ใช่เหตุผลที่เขาต้องกลับมานอนนิ่งแบบนี้อีก…..รอยแผลอันใหม่ตรงต้นขานั่นเสียอีก ไหนจะรอยกรีดที่ข้อมืออีกเล่า แน่นอนต้องไม่ลืมรอยแผลที่กรีดผ่านเส้นเลือดใหญ่ที่ลำคอนั่นอีก

ฮีลก้นลงนั่งข้างๆเกรย์พลางลูบไล้ตามใบหน้าซีดขาวนั้นอย่างห่วงใย รอยแผลต่างๆเหล่านั้นยิ่งกระตุ้นให้ฮีลเข้าใจชัดถึงความในใจของเกรย์




รู้ว่าเกรย์รักไทนอสมากเพียงไหน




ฮีลจัดการเทน้ำยาที่ปรุงเสร็จใหม่ๆลงไปยังบาดแผลต่างๆ และปล่อยให้มันจัดการอาการต่างๆไป เขาก้มลงมองหน้ากากกระดูกที่เกรย์ใส่ไว้ประจำ ก่อนจะเอื้อมมือถอดมันออกช้าๆ

ภาพที่เห็นแม้ว่าจะไม่ผิดจากที่คิดไว้นัก แต่ก็ทำเอาหมอหนุ่มใจหายเสียไม่ได้ ผลของการใช้พลังแห่งความมืดมักต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยนเสมอ……และนั่นคือสิ่งที่เกรย์กำลังประสบ



‘เจ้าต้องการพลังมากขนาดนั้นเชียว’


‘เจ้าทำเพื่อมันมากเกินไปแล้ว’



ชายหนุ่มอดใจที่จะเสียน้ำตาออกมาไม่ได้ที่เห็นคนที่ตนรักต้องเจ็บปวด ขวดน้ำยาอีกอันถูกราดลงบนใบหน้าซีกนั้นจนชุ่มก่อนที่น้ำยาจะซึมลงใบบนผิวหนังและเริ่มออกฤทธิ์



ชายหนุ่มโน้มตัวลงประทับริมฝีปากเบาๆอย่างไม่นึกรังเกียจ พร้อมกับคำสัญญาที่ตั้งมั่นไว้ในใจ



‘ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป…..เกรย์……ข้าสัญญา’











เข็มอาบยาพิษด้ามนั้นวิ่งตรงดิ่งเข้าสู่เป้าหมาย ชายผู้ระรานยิ้มให้กับความสำเร็จของตน ไทนอสผู้ไม่ทันระวังตัวหาได้ใว่ใจกับสิ่งรอบข้าง อันตรายใกล้เข้ามา เข้ามา



ฟ้าว



แหลมกระดูกที่พุ่งเข้ามากระทบเข้ากับเข็มพิษจนมันเบี่ยงออกไปทิศอื่นได้อย่างทันท่วงที ศัตรูหน้าหยกหันไปมองอย่างไม่สบอารมณ์

เกรย์ยืนอยู่ตรงนั้นห่างออกไปห้าร้อยเมตร ในมือมีแหลมกระดูกเตรียมรอไว้อีกสองอันพร้อมโจมตีอย่างห้าวหาญ แต่ใครจะรู้กันว่าชายหนุ่มต้องฝืนไว้แค่ไหน ลำพังแค่ยืนเองก็เหนื่อยเสียจะแย่ ไหนจะต้องดึงพลังออกมาใช้อีก

“เจ้า….” ผู้รุกรานสบถออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว บินพุ่งตรงเข้ามาหาเกรย์ทันที

“เกรย์ระวัง” ฮีลที่นอนทรุดอยู่ข้างๆเกรย์ร้องเตือน

แต่มันช่างยากเสียเหลือเกินที่คนอ่อนแรงย่างเกรย์จะสู้ได้ เขาถูกมือยาวเรียวนั้นคว้าเข้าที่คอแล้วยกขึ้นอย่างง่ายดาย เท้าทั้งสองที่กวัดแกว่งในอากาศทำเอาชายเสื้อขาวยิ้มออกมาได้อีกครั้ง

“รักมันมากใช่ไหม เจ้านั่นน่ะ”

เกรย์พยายามดิ้นอย่างสุดความสามารถ ในขณะที่เขากำลังลอยไปอยู่ข้างหลังไทนอสที่กำลังร่ายเวทรักษาเบื้องต้นให้แอลอย่างเอาเป็นเอาตาย

“แต่ดูมันสิ…..โถ่….ข้าล่ะสงสารเจ้าเสียจริง”

“เอาเถอะนะ…..ไหนๆมันก็ไม่ได้สนใจเจ้าปล่อยให้มันตายเสียเถอะ”

เข็มพิษอีกดอกโผล่ออกมาเตรียมพร้อมปลิดชีพไทนอสอีกครั้ง เขาอดสะใจไม่ได้ที่เห็นเกรย์ดิ้นรนใหญ่ ปากที่อ้าออกพยายามเปล่งเสียงที่พอจะจับความได้ว่า “อย่า” สายตาที่สั่นไหวด้วยความกลัว กลัวการสูญเสีย มันช่างน่าอภิรมนัก

“บอกลาคนรักเจ้าได้เลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

มือที่ถือเข็มนั้นเงื้อขึ้น



“เจ้าทำอะไรน่ะ”

ศัตรูหน้าหยกรู้สึกปกติทันที เขาไม่สามารถขยับตัวได้ ไม่สิ รู้สึกเหมือนถูกบีบคอเอาไว้อีกด้วย รู้สึกตัวอีกทีก็เกือบถูกแหลมกระดูกของเกรย์แทงเข้าเสียแล้ว

“เจ้าทำอะไรข้า”

เขาสะบัดแขนออกไปอย่างแรงปล่อยให้เกรย์กลิ้งไปคลุกฝุ่น เขาย่างก้าวเข้าหาอย่างหงุดหงิดพร้อมกับซัดเข้าที่ท้องเกรย์อีกทีหนึ่ง



อีกแล้ว เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวตัวได้อีกแล้ว

เกรย์ค่อยๆยันตัวเองให้ลุกขึ้นอย่างยากลำบาก ในมือเหลือแหลมกระดูกอีกหนึ่ง และเขาคงต้องรีบจัดการก่อนที่เขาจะทนไม่ไหว



ฉึก



เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นอีกครา

“เจ้า…..โอ้ยยยยย”

เกรย์แทงแหลมกระดูกนั้นเข้าที่ขาของตน แต่ที่น่าแปลกนั่นคือที่ขอของฝ่ายตรงข้ามกลับมีแผลชนิดเดียวกันและตำแหน่งตรงกันกับของเกรย์เสียด้วยสิ



“มาดูซิ…..ว่าใครจะอึดกว่ากัน”

เกรย์แค่นพยายามพูดอย่างยากเย็น สายตาเขาเริ่มพล่าเลือน แต่เขาต้องอดทนไว้……ยังไม่หมดหน้าที่เขา

แหลมกระดูกถูกดึงออกมาจากต้นขาชายหนุ่ม เลือดสีแดงสดพุ่งกระฉูดขึ้นมาเป็นสาย เสียงร้องของทั้งสองต่างแข่งกันร้องดังก้อง

เกรย์ไม่รอช้า ใช้ปลายแหลมนั้นกรีดเข้าที่ข้อมือตนเองตัดเข้าที่เส้นเลือดใหญ่ และต่อด้วยที่ลำคอของตน เลือดสีแดงไหลรินท่วมร่างเขาเป็นสาย ไม่แตกต่างนักกับอีกฝ่ายที่บัดนี้ถูกย้อมไปด้วยของเหลวสีทองเช่นเดียวกัน

ทั้งสองยืนนิ่งอยู่กับที่ปล่อยโลหิตของตนให้ไหลหลั่งออกไปเรื่อยๆ คนที่ล้มก่อนนั่นคือผู้แพ้ แม้ว่าเกรย์เองในขณะนี้จะไม่มีแรงเหลือแล้วก็ตามแต่เขายังต้องอยู่…..ถ้าเขาล้มลงก่อนนั่นหมายถึงโอกาสที่อีกฝ่ายจะหลุดออกจากวิชาของเขา และสามารถทำร้ายไทนอสอีกครั้ง

อนิจจาที่เกรย์นั้นไม่ได้สนใจเสียงตะโกนของฮีลที่ร้องขอตั้งแต่เห็นเกรย์แทงกระดูกลงที่ขาของตน ชายหนุ่มร้องขอให้เกรย์หยุด แต่เสียงนั้นกับไปไม่ถึงยังเกรย์ ฮีลนึกโกรธตัวเองที่ถูกแรงระเบิดจะกระดูกขาหักทั้งสองข้าง ถึงแม้จะดื่มน้ำยาประสานกระดูกเข้าแล้วแต่ก็ยังไม่สามาถเดินได้ เขาจึงได้แต่ใช้มือคลานเข้าไปเรื่อยๆ



“เกรย์ ไม่นะ”

ฮีลร้องออกมาพร้อมกับหยดน้ำตาที่พร่างพรูเมื่อเห็นคนอันเป็นที่รักล้มลงนอนแช่กองเลือดอยู่อย่างนั้น



ชายผู้โชกไปด้วยโลหิตทองย่างสามขุมเข้าใกล้เกรย์มากขึ้นอย่างคาดโทษ ไม่ว่าเสียงของฮีลจะขอร้องอย่างไรเขาก็ไม่สนใจทั้งนั้นรู้เพียงเขาต้องจัดการไอ้คนที่ทำให้เขาเสียหน้าถึงขนาดนี้

เสียท่าให้พวกมนุษย์ รู้ถึงไหนอายถึงนั่น

แหลมกระดูกของเกรย์ถูกหยิบขึ้นมาอีกครั้ง เขาเล็งไปยังศีรษะของเกรย์หมายจะให้มันจบในทีเดียว




“อย่า…..” ฮีลร้องขอสุดเสียง













‘ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป…..เกรย์……ข้าสัญญา’



ยิ่งฮีลนึกถึงเหตุการณ์นี้เท่าใดเขายิ่งนึกได้ว่าพวกเขานั้นโชคดีเพียงใดที่รอดมาได้โดยปลอดภัย นี่พิษที่เขาให้เอสเปอร์ไม่ออกฟทธิ์จนมันล่าถอยไปก่อนล่ะก็….พวกเราคงตายกันหมดแล้ว



พูดถึงเอสเปอร์……เจ้าจะเป็นอย่างไรกัน


ชีวาส…..พวกเจ้ายังปลอดภัยใช่ไหม




“เจ้ายังไม่นอนหรอฮีล” เสียงของไทนอสดึงเอาความคิดของฮีลกลับมา

ฮีลมองไปยังต้นเสียง ไทนอสยังอยู่ตรงนั้น ข้างๆแอล


‘ทำไมข้าต้องไม่พอใจด้วย’


“ไม่” ฮีลตอบสั้นๆห้วนๆ







“แล้วเจ้าอย่าลืมข้อตกลงของเราเสียล่ะ…..ไทนอส”

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Kirimanjaro

  • บุคคลทั่วไป
ดูจากพฤติการณ์ของชีวาส
เปลี่ยนเป็นชื่อเรื่อง

มนตร์ริษยา

แทนดีมั้ยครับ
หรือว่า

ชุลมุนเทใจรักอ้ายไทนอส

หรือว่าสั้น ๆ ง่าย ฟังอินเตอร์ดีด้วย

THE SWINKING



กร๊ากกกก


ออฟไลน์ กิมตี๋หัดขับ

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
จัดไปอย่าให้เสีย

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ท่าทางจุดหมายปลายทางที่ตั้งหน้าตั้งตาจะไปกันเนี่ย ไปไม่ถึงแล้วมั้ง
วิกฤตการณ์ความรักหนักหน่วงขนาดนี้   :laugh:

The Living River Ping

  • บุคคลทั่วไป
แอร๊ยยยยยยย ละครเด็ดเจ็ดสี มายาริษยาตาร้อน แย่งกันจังไทนอสเนี่ย

แล้วป่านนี้ ชีวาส จะไปตกระกำลำบากมากมาย เสียก็ไม่รู้
เอสเปอร์ จะไว้ใจให้ทำงานใหญ่ได้หรือไม่นะ แบบจัดการโซ้ยๆๆ เลยน่ะ


ปล. ฮึ พาดพิงเลยนะ ฮึ

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
มาละจ้า......ลุ้นๆกัน





บทที่ 25





‘เจ็บจัง…..’




สิ่งแรกที่แอลเองรู้สึกได้นั่นคือความเจ็บปวดที่แล่นไปทั่วร่างจนอดร้องออกมาไม่ได้ ทั้งแขน ขา ลำตัว เหมือนมีใบมีดนับสิบคอยกรีดแทงอยู่ เขาออกแรงลองขยับตัวแต่แขนมันหนักเหลือเกิน…..ลองออกแรงฮึดอีกทีแอลก็สามารถยกแขนนั้นลอยพ้นเตียงได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดอย่างสุดแสนสาหัส

“เจ้ารีบทำอะไรสักอย่าสิ” น้ำเสียงที่คุ้นเคยดังแว่วเข้าหูของแอล

“ข้ากำลังลงมือ เจ้าไปทางนู้นได้แล้ว……อย่าลืมสัญญาที่ให้ไว้” อีกเสียงหนึ่งพูดตัดบท

แต่แอลไม่ได้สนใจคำพูดเหล่านั้นนัก เขาอ้าปากกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด แขนที่พึ่งเคลื่อนไหวเมื่อกี้มันปวดมากจนกล้ามเนื้อเต้นออกมาเป็นจังหวะ ฮีลจัดการเทน้ำยาระงับปวดไปยังแผลต่างๆ ทิ้งไว้สักพักแอลจึงสงบลง

“ไปได้แล้ว” ฮีลออกปากไล่อีกคนที่ยืนมองอยู่ข้างๆอย่างเป็นห่วง

ตอนนี้แอลรู้สึกเบาขึ้นมาก ความเจ็บปวดนั้นทุเลาลงไปมาก เขาค่อยเพ่งมองไปข้างกายเขา ปรับสายตาที่พร่าเลือนให้จับโฟกัสได้ ภาพตรงหน้าค่อยๆชัดขึ้น

“ฮีล……” แอลเรียกชื่อคนที่ยืนข้างเขา แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ว่า คนที่มักอยู่ข้างๆเขานั้นหายไปไหนเสีย

“เจ้าเจ็บหนัก อย่าพึ่งถามอะไรมาก ดื่มยานี่เสีย” ฮีลบอกด้วยน้ำเสียงเรียบๆเหมือนดั่งเคยท่เป็นประจำ

แอลถูกพยุงตัวขึ้นมาด้วยแขนแกร่งของฮีล น้ำยาสีใสค่อยๆถูกรินลงไปช้าๆ เพื่อไม่ให้คนตัวเล็กสำลักได้ แอลกว่าวขอบคุณฮีลหลังจากที่หมอหนุ่มทำการป้อนน้ำให้เขาเสียจนหมดแก้ว

“เอ่อ แล้วท่านไทนอส……” แอลเอ่ยปากถามทันที ทำเอาฮีลตีหน้าบึ้งอีกครั้งเมื่อได้ยินชื่อไทนอส

ถึงแม้จะไม่ได้คำตอบจากปากฮีล แต่แอลเองก็เห็นเข้าเสียแล้ว ไทนอสอยู่ตรงนั้น นั่งอยู่ข้างๆเตียงของเกรย์ที่นอนซมอยู่ แต่ไม่ทันที่แอลจะเอ่ยปากอะไรอีก ฮีลรีบจัดแจงโน้มตัวคนไข้ลงนอน และทันทีที่หัวลงแนบกับหมอนอันนุ่มนั้น ความอ่อนล้าก็เริ่มออกผลให้หมอดูตัวน้อยหลับไปในที่สุด






แอลตกใจตื่นขึ้นมาอีกครั้งกลางดึก ในท่พักชั่วคราวนั้นมีเพียงแสงไปจากผลึกขนาดจิ๋วที่แขวนไว้อยู่ตรงกลางที่พัก ถึงแสงสว่างจะไม่ได้มากนักแต่ก็พอให้เห็นได้ทั่วที่พัก ไทนอสนอนหลับอยู่ที่เก้าอี้ข้างๆเตียงของเกรย์ เกรย์เองก็ยังคงนอนนิ่งอยู่อย่างนั้น แอลขยับตัวเล็กน้อยหมายจะยันตัวขึ้นนั่ง แต่ความเจ็บปวดก็มากเกินกว่าที่เขาจะทำได้ แอลจึงทำได้เพียงนอนนิ่งๆคิดทบทวนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเพียงลำพัง

แอลนอนพลิกตัวไปมาอย่างคนคิดไม่ตก เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย ฮีลเองก็ไปเอ่ยปากเล่าเสียด้วย เท่าที่เขาจำได้นั้นรู้เพียงเกิดระเบิดขึ้นแล้วท่านไทนอสก็เข้ามาโอบตัวเขาไว้……..และหลังจากนั้นก็จำอะไรอีกไม่ได้ แล้วท่านเอสเปอร์กับท่านชีวาสเล่า จะเป็นอย่างไร พวกเขาหายไปไหนกัน

พูดถึงไทนอสแอลก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปยังคนตัวใหญ่ที่นั่งเอนตัวหลับกับเก้าอี้อย่างอ่อนเพลีย ตามแขนขาของเขามีผ้าพันแผลพันรอบป้องกันบาดแผลไว้จากการติดเชื้อ เปลือกตาที่ปิดลงนั้นนิ่งสงบ มุมปากที่มักยกขึ้นอย่างมีเล่ห์บักนี้กลับเหยียดตรง ดูๆไปเหมือนเสือร้ายที่ถูกถอดเขี้ยวเล็บออกไป ใครจะเชื่อล่ะว่าใบหน้าของหนุ่มเจ้าเสน่ห์ยามหลับไหลจะเป็นเพียงชายหนุ่มธรรมดาๆ เพียงเท่านั้น

แต่ก็นั่นล่ะที่กลับทำให้แอลใจสั่น ทั้งดีใจที่เห็นเขาคนนั้นปลอดภัยไม่เป็นอะไรมาก มันคงแย่ถ้ารู้ว่าคนที่เข้ามาปกป้องเรานั้นเป็นอะไรไปเสีย มันคงจะรู้สึกผิดไปชั่วชีวิต อีกใจของแอลกลับน้อยใจ ที่เขาคนนั้นไม่เห็นมาดูแลตนบ้าง ครั้งที่แล้วก็เห็นเพียงแต่ฮีล และครั้งนี้ ก็กลับไปนั่งเฝ้าเกรย์เสีย

แอลสะบัดหัวไล่ความคิดบ้าๆออกไป แปลใจตัวเองเหมือนกันที่กล้าคิดอะไรแบบนี้ ชั่วเวลาหนึ่งที่แอลนึกอิจฉาเกรย์ที่ได้ไทนอสไปเฝ้าไข้ อีกชั่วขณะหนึ่งที่คิดว่าชีวาสอาจไม่กลับมาหาพวกเขาอีก


‘คิดบ้าอะไรอยู่นะเรานี่’


แอลต่อว่าตัวเอง พลางนึกรังเกียจตนเองในใจ








สองวันผ่านไปอาการของแอลดีขึ้นมาก เขาสามารถเดินเองได้แล้ว แต่ถึงกระนั้นไทนอสเองก็ยังไม่เข้ามาเยี่ยมเจ้าโหรเลยสักครั้ง ทั้งๆพื้นที่ในที่พักนั้นช่างน้อยนิด ไม่ได้ยากเลยที่จะเดินมาเพียงสองสามก้าว สิ่งนี้รบกวนจิตใจของแอลเป็นอย่างมากจนเขาอดใจไม่ไหว ตั้งใจเข้าไปถามให้รู้เรื่อง

ทางไทนอสเมื่อเห็นแอลตรงเข้ามาก็ก้มหน้าก้มตาทายาให้เกรย์ต่อ แม้ว่าตอนนี้เกรย์ยังไม่ได้สติ แต่สภาพร่างกายโดยรวมถือว่าเบาใจได้ เหลือเพียงให้เวลาพักฟื้นอีกสักหน่อยเท่านั้น

“ทะ….ท่าน…ไท…..นอส” เอาเข้าจริงๆแอลกลับพูดติดๆขัดๆเหมือนเดิมอีกเสียนี่ ทำเอาตัวเองไม่พอใจที่ทุกครั้งที่ใกล้ไทนอสต้องเกิดอาการแบบนี้เสียทุกครั้ง

คนถูกเรียกค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา ใบหน้าที่แกล้งทำเป็นเรียบเฉยนั้น ทำได้ไม่ดีนัก จนแอลเองก็พอจะมองออก ว่าต้องมีเรื่องอะไรที่ปิดบังเขาเอาไว้

“มีอะไรแอล” ไทนอสพยายามปรับเสียงให้เป็นปกติ แต่ก็ยังมีความสั่นไหวเจือปนอยู่ในนั้น

“คือ……..ขะ……ข้า” แอลอึกอักสักพักก่อนจะเลี่ยงคำถามไปถึงสุขภาพของเกรย์แทน ซึ่งไทนอสตอบกลับมาเพียงสองสามคำแล้วหันไปลงมือทายาต่อ

แอลมองภาพข้างหน้าอย่างเจ็บใจ เขาหันหลังเดินออกไปข้างนอก คิดย้อนไปถึงครั้งที่ผ่านมา ไทนอสเองก็คอยดูแลเกรย์เหมือนกัน

นึกๆ อารมณ์น้อยใจมันก็เกิดขึ้นมาอีกจนได้








“เจ้าไม่เป็นไรแล้ว”

น้ำเสียงทุ้มต่ำทักขึ้น แอลหันไปมองทางคุณหมอที่นั่งอยู่นั้นมองมาอย่างสงสัย แอลตอบขอบคุณที่ช่วยรักษาตน และบอกว่าตอนนี้อาการตนดีขึ้นแล้ว สามารถเดินได้เอง และยังตบท้ายด้วยคำชื่นชมหมอฮีลว่าช่างเก่งเสียจริงๆ

ฮีลไม่ตอบอะไรเพียงพยักหน้าและขมวดคิ้วราวกับคิดอะไรอยู่ เขาชวนแอลให้นั่งลงข้างๆ ก่อนจะเริ่มการสนทนา

“เจ้าสามารถล่วงรู้ เรื่องของพวกชีวาส และ เอสเปอร์ ไหม”

แอลส่ายหน้าอย่างหมดปัญญา ใช่ว่าเขาไม่ได้อยากรับรู้ความเป็นไปของเพื่อนร่วมเดินทาง แต่จากการทดลองทำนายอยู่หลายครั้งผลที่ออกมาก็เหมือนๆเดิม นั่นคือ ไพ่บอกให้พวกเขาเดินทางกันต่อไป โดยไม่ได้กล่าวถึงพวกชีวาสและเอสเปอร์เลยสักนิด และถึงแม้แอลอยากจะหายตัวไปหาแต่ไพ่ประจำตัวของทั้งสองก็ไม่ยอมออกมาให้แอลจับได้เลย เหมือนกับทั้งคู่ไม่ได้อยู่บนโลกนี้เสียแล้ว




ทั้งคู่นิ่งเงียบไปอีกสักพักจนได้ยินเสียงร้องตะโกนของไทนอสจับได้ความว่า เกรย์ฟื้นแล้ว

และก็เป็นฮีลที่เด้งขึ้นยืนทันที





เกรย์ที่ลืมตาในขณะนี้คงเรียกได้ว่ามีสติไม่สมบูรณ์นัก เขาเพ้อถึงไทนอสอยู่ตลอดเวลา บางครั้งก็ร้องไห้ อีกช่วงหนึ่งกลับยิ้มออกมา ที่สำคัญเขาไม่ยอมปล่อยมือที่จับไทนอสไว้ออกเลย ฮีลเห็นดังนั้นก็พอโล่งใจไปเปราะหนึ่ง อย่างน้อยอาการทางกายก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด เขาเข้าไปตรวจอาการอีกครั้งด้วยความยากลำบาก ก็เกรย์น่ะสิคอยปัดเขาตลอดปากก็บ่น “ไม่เอาๆ” มันทำลายความรู้สึกดีๆของหมอหนุ่มเสียหมดสิ้น แต่ฮีลก็ไม่สนใจเขาเตรียมใจมาก่อนแล้ว ตีหน้าเรียบเฉยลงมือตรวจจนเสร็จสิ้น พร้อมยัดยาอีกขวดลงปากคนเจ็บที่พึ่งหมดแรงหลับไป

“อาการไม่น่าเป็นห่วง อีกห้าวันคงพอเคลื่อนไหวได้เอง” ฮีลบอกไทนอสขณะเก็บอุปกรณ์ใส่กระเป๋า

“ข้าไม่รู้จะขอบใจเจ้าอย่างไรดี” ไทนอสตอบอย่างจริงใจ ถ้าไม่ได้ฮีลล่ะก็ทั้งแอล คง……..

“เจ้าแค่ทำตามข้อตกลงเพียงเท่านั้น ไทนอส….อ้อ เจ้ายังไม่รู้สินะแอล” ฮีลพูดเมื่อเห็นแอลทหน้าสงสัย

“ค่าจ้างในการรักษาครั้งนี้คือ คนรับใช้……และเจ้า แอล เจ้าต้องมารับใช้ข้า….ไม่มีคำว่าแต่” ฮีลบอกเสียงเรียบ และรีบเดินหนีออกไปทางประตูก่อนจะสั่งให้แอลไปกางที่พักชั่วคราวขึ้นมาอีกหลังหนึ่ง

แอลยืนนิ่งอย่างไม่เข้าใจ เขามองไทนอสหมายจะถาม….แต่หมุ่มเจ้าเบือนหน้าหนีไปอีกทาง


“ท่าน…..ท่าน..”




“ข้าขอโทษแอล…..มันไม่มีทางเลือก”



คำตอบที่ได้มานั้นมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย เจ้าโหรน้อยปล่อยน้ำตาที่เอ่อล้นไหลลงมาเป็นสาย รีบเดินออกไปทันที









น้อยใจ



นั่นคือสิ่งที่แอลรู้สึก

เขามีค่าเป็นเพียงสิ่งของแลกเปลี่ยน……เพื่อให้ฮีลรักษาเกรย์เพียงเท่านั้น




ไม่เข้าใจ

แล้วที่ไทนอสแสดงออกมาล่ะมันหมายความว่าอย่างไร…..ไทนอสชอบเขาไม่ใช่หรือแต่ทำไม…….

หรือเขาไม่ได้ชอบเรา

เพียงแค่เล่นไปวันๆ อย่างที่เคย





ฮีลนั่งมองแอลที่ค่อยๆจัดกางที่พักอย่างคนไม่มีชีวิต ประกายสดใสที่เคยมีอยู่นั้นดับหายไปตั้งแต่เขาตั้งข้อตกลงบ้าๆนั้นขึ้นมา เห็นแบนี้ฮีลนึกอยากเดินเข้าไปบอกยกเลิกสัญญานัก



แต่พอนึกถึงคนที่นอนอยู่



เขากลับฝืนนั่งทนกับความรู้สึกผิดต่อไป



‘ข้าขอโทษ แอล……ข้าขอโทษ’




ภายในที่พักหลังเดิม ไทนอสที่พึ่งทายาให้เกรย์เสร็จนั่งเอนตัวอย่างอ่อนใจ เขาคิดถึงแต่ดวงตาที่ฉ่ำไปด้วยน้ำตาคู่นั้น คิดแล้วนึกโกรธตัวเองนักที่ทำให้คนๆนั้นเสียใจ อยากจะเข้าไปปลอบ อยากจะเข้าไปบอก “มันไม่ใช่แบบนั้น”


แต่รอยแผลทั่วร่างของเกรย์ก็กลับความคิดของไทนอสเสียใหม่


“เกรย์มันไม่เคยทำเพื่อใครมากเท่านี้มาก่อน” คำพูดของฮีลดังก้องอยู่ในหัว ยิ่งทำให้เขาสับสน

“ถ้าไม่มีเกรย์ ป่านนี้เจ้าตายไปนานแล้ว …… ไทนอส”


ไทนอสถอนหายใจออกมาก่อนจะเอนตัวลง กลั้นน้ำตาที่เอ่อนองออกมากองที่ขอบตานั้นไว้ ทั้งๆที่มือข้างหนึ่งของเขาถูกจับไว้มั่นด้วยมือของคนเจ็บ ที่ขณะนี้ นอนยิ้มอยู่อย่างมีความสุขในฝัน








เมื่อรอยยิ้ม…..ซ้อนทับบนคราบน้ำตา

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ว๊ากกกกกกกกกกก ทำไมมันเป็นอย่างนี้ล่ะ ชิชะ  :z3:

เจ้าฮีล   :beat:

เจ้าไทนอส   ตบๆๆๆๆๆๆๆๆ :beat:

The Living River Ping

  • บุคคลทั่วไป

น้ำหยดลงหิน ทุกวันหินมันยังกร่อน

เห็นไหม ไม่มีใครจะใสซื่อเกิน ชีวาส อีกแล้ว ชริ  :laugh:

ออฟไลน์ กิมตี๋หัดขับ

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3
 :o8:

เห็นด้วยกะ รีบน  ไม่มีใคร เลิศสะแมนแตน เท่าชีวาส อีแร้น

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
แหะๆ หายไปนานโขเลย ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ

อ่านต่อกันเลยเนอะ







บทที่ 26





เสียงร้องในลำคอของเกรย์ปลุกไทนอสให้ตื่นขึ้นในรุ่งเช้าวันถัดมา เกรย์รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกปวดไปทั่วร่าง ปากและลำคอแห้งผากด้วยอาการขาดน้ำไปมาก ไหนจะสารอาหารที่ขาดไปเนื่องจากต้องนอนนิ่งแบบนี้อีก ทั้งหมดนั้นมันทำให้เขาไม่สบายตัวนัก

“เจ้าตื่นแล้ว” ไทนอสดีใจ รีบร้องเรียกฮีลที่อยู่อีกฟากหนึ่งมาดูอาการ


เกรย์จ้องไทนอสเขม็ง……


“เจ้า……ไม่เป็นอะไรใช่ไหม” น้ำเสียงของเกรย์เบาจนแทบจะไม่ได้ยิน ไทนอสจึงโน้มตัวเอาหูของตนเข้าไปใกล้ๆ

เกรย์พูดซ้ำอีกครั้ง เขาพยายามที่จะพูดให้ดังขึ้น ไทนอสตอบกลับมาว่าไม่เป็นไรพลางลูบหัวเกรย์ไปมาด้วยความเป็นห่วง

“ตื่นแล้วหรอ” น้ำเสียงทุ้มต่ำไร้อารมณ์ดังขึ้น ทำเอาไทนอสชักมือกลับมาข้างตัว

ฮีลเดินเข้ามานิ่งๆวางน้ำยาลงบนโต๊ะพร้อมกับย้ำให้ไทนอสให้ยาและอาหหารตามเวลาแล้วเดินออกมาโดยไม่ได้พูดกับเกรย์สักคำ และนั่นก็ทำให้เกรย์ประหลาดใจอยู่เล็กน้อย

“เจ้าทานน้ำก่อนนะ….เดี๋ยวแอลคงเอาอาหารมาให้” ไทนอสพยุงร่างคนเจ็บเอนตัวขึ้น อีกมือเอียงแก้วน้ำเข้าปากเล็กๆอันนั้นอย่างระวัง เป็นเกรย์เสียอีกที่จ้องหน้าไทนอสไม่วางตา ทำเอาสำลักน้ำเข้าไปอึกใหญ่ จนไทนอสต้องรีบลูบหลัง กว่าจะหยุดไอได้ก็เล่นเอาเหนื่อย

เกรย์เองก็แสบจมูกและคอไปหมด ถึงกระนั้นเขาเองกลับมีความสุข การที่ชายในฝันได้มาดูแลเขาอย่างนี้ช่างเป็นอะไรที่วิเศษนัก ไหนจะมือใหญ่ที่เกาะตรงเอวคอยพยุงไว้ ไหนจะสายตาอ่อนโยนชวนหลงใหลคู่นั้น ช่วงเวลานั้นเกรย์อธิฐานในใจขอให้เป็นแบบนี้เรื่อยไป……..เขายอมเจ็บปวดแบบนี้ไปตลอดกาล…..


‘แต่มันจะเป็นจริงได้หรือ’





ไม่นานนักแอลก็เดินถือถาดอาหารเข้ามาด้วยท่าทีฝืนทน ไทนอสเกือบเผลอปล่อยมือออกจากเกรย์เมื่อเห็นขอบตาของโหรตัวน้อยมีน้ำใสๆเอ่อนอง

“เจ้าสะบายดีนะแอล” เกรย์ถามขึ้นเมื่อเห็นท่าทีของสหายแปลกไป

“…..ข้า…ไม่เป็นไรท่านเกรย์” แอลก้มหน้าก้มตาตอบ…

“จะรีบไปไหนล่ะมาทานด้วยกันสิ” เกรย์ชวน

แอลเหลือบตามองไทนอสชั่วขณะหนึ่ง และขณะนั้นเองที่ไทนอสเองก็มองมาที่แอล นับเป็นเพียงชั่ววินาทีที่สายตาของทั้งสองประสานกัน



แววตาของแอลนั้นเต็มไปด้วยคำถาม



ส่วนอีกคนที่มีคำตอบ กลับซ่อนมันไว้



แอลหลบสายตาทันที เขาก้มหน้าต่อแล้วบอกปัดเกรย์โดยบอกว่าตนต้องไปช่วยงานของฮีลอีกคงไม่มีเวลา ก่อนจะเดินออกไปเงียบๆ ทิ้งให้เกรย์ทำหน้าสงสัยในท่าทางที่เปลี่ยนไปของแอล

“แอลเป็นอะไรไป ไทนอส” คำถามนี้ของเกรย์เล่นเอาไทนอสสะอึกไปเหมือนกัน ก่อนจะบ่ายเบี่ยงให้เกรย์ทานข้าวเสียแล้วจะได้ให้ยาต่อ ทั้งสองพูดคุยกันต่ออีกสักพักจนเกรย์เผลอหลับไปด้วยความอ่อนแรง





ไทนอสเก็บจานชามที่เหลือรวบเข้าด้วยกันให้เรียบร้อยก่อนที่จะยกเดินออกมายังที่พักอีกหลังหนึ่ง

“ข้าเอาของมาคืน”

แอลที่กำลังง่วนกับการบดสมุนไพรรีบวางมือหันหน้ามามองคนที่พูดทันที และต้องหลบสายตาไปทางอื่นเสียเมื่อเห็นไทนอสไม่ได้สนใจตน ไทนอสเพียงวางของเหล่านั้นไว้แล้วหันหลังเดินจากไป

สักพัก….จนกระทั่งแอลไม่ได้ยินเสียงเดินแล้ว เขาเงยหน้ามองตรงที่เดิมอีกครั้ง…….ไทนอสออกไปแล้ว

นัยน์ตาของแอลชื้นขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ คำตอบของเขาเองมันถูกเฉลยขึ้นมาอย่างง่ายๆ จากที่เคยถามตัวเองไว้ ว่าเขารักไทนอสจริงหรือเปล่า…….จากที่เคยเตือนตัวเองให้ห้ามใจอย่าได้ปล่อยใจไปกับไทนอส

แอลรู้แล้วว่ามันสายเกินจะหยุดใจได้

มันช่างเงียบเหลือเกิน จากที่เคยมีคนคอยมากวนใจ……จากที่เคยมีคนชวนพูดเรื่องนั้นเรื่องนี้เสมอ

ในตอนนี้กลับเงียบงัน……..







วันรุ่งขึ้นฮีลตกใจตื่นขึ้นด้วยเสียงกรีดร้องของเกรย์ เขาใจเสียนึกว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกรีบลุกจากที่นอนมุ่งตรงไปยังอีกฟากทันที

“อย่ามองนะไทนอส….ออกไป…ข้าบอกว่าอย่ามองไง” เกรย์ร้องตะโกนไล่ไทนอส มือทั้งสองกุมอยู่ที่ใบหน้าของตน ก้มหน้าห้มตาร้องลั่น

“เจ้าเป็นอะไรเกรย์ เจ็บตรงไหน” ไทนอสเองก็ตกใจที่จู่ๆเกรย์ก็ร้องขึ้นมา แถมยังไล่เขาให้ออกไปอีกด้วย

“เกินอะไรขึ้น” ฮีลโผล่เข้ามาด้วยท่าทางร้อนใจ เขาไม่รอคำตอบถลาเข้าประกบคนไข้ทันทีเมื่อเห็นเกรย์ปิดบังใบหน้าแบบนั้นก็พอจะเดาออก

“เจ้าใจเย็นๆเกรย์ เอามือออกก่อน” ฮีลปรับน้ำเสียงให้อ่อนโยนลง เขาอื้อมไปจับมือของเกรย์ที่ยังแข็งขืนปิดบังใบหน้าไว้

เสียงกรีดร้องดังขึ้นอีกครั้ง เกรยืร้องไม่หยุดไล่ทั้งสองให้ออกไปให้พ้น

“เป็นอะไรไป ข้าไม่เห็นเจ้าจะเป็นอะไรสักนิด” ฮีลปลอบต่อ พลางคว้าเอาผลึกใกล้ๆตัวมาถือไว้ข้างหน้าเกรย์ อีกมือก็ออกแรงดึงที่ข้อมือคนไข้ให้ออกจากใบหน้า

“ได้เวลารับความจริงแล้วเกรย์” ฮีลออกแรงดึงเต็มที่ มือของเกรย์หลุดออกมาพร้อมกับเสียงร้องของเกรย์

“ก็ไม่เห็นมีอะไรนี่” ไทนอสเพ่งพินิจใบหน้าที่กำลังหลับตาแน่น ขับให้น้ำในตาไหลลงอาบแก้ม

“ลืมตาสิเกรย์” ฮีลบรรจงปล่อยมือเกรย์ลงวางอย่างเบามือ ก่อนที่จะกระตุ้นให้คนข้างหน้าลืมตาอีกครั้ง เกรย์เองค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ และมองที่ภาพสะท้อนในผลึกอย่าไม่น่าเชื่อ

ภาพของชายหนุ่มร่างผอมปรากฏอยู่ในนั้น ใบหน้าของเขาขาวซีด ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนที่ขณะนี้แวววับไปด้วยน้ำตา แก้มทั้งสองที่เปียกแฉะไป

เกรย์จ้องไปอย่างไม่เชื่อตัวเอง

“เห็นมั้ย ไม่เห็นมีอะไรเลย” ฮีลลูบใบหน้าซีกนั้นอีกครั้ง ก่อนจะทิ้งให้เกรย์อยู่กับไทนอสต่อ



ถึงตรงนี้ชายหนุ่มอดคิดไปเองเสียไม่ได้



ถ้าหากเกรย์หายดีแล้ว เขายังจะได้มาพูดกับเกรย์หรือเปล่า

ถ้าหากไม่มีอาการป่วยแล้ว…..เขายังมีข้ออ้างใดที่จะเข้าหาได้

แต่เขาก็มีเหตุผลมากพอ……ที่ยอมทำทุกทางให้เห็นรอยยิ้มของคนๆนั้น


แม้ว่าการกระทำนั้นจะทำให้เขาเองเสียใจมากแค่ไหนก็ตาม





ฮีลเทส่วนประกอบของน้ำยาจากถุงข้างกาย ผลึกที่เหลือก้นถุงเพียงไม่กี่อันไหลลงไปยังเครื่องบด เขาอดเสียดายเสียไม่ได้ กว่าที่จะเก็บผลึกเหล่านี้มาได้นับว่าค่อนไปกว่าแปดปีทีเดียว แต่มันจะสำคัญอย่างไรล่ะในเมื่อเขาเองมีของที่สำคัญยิ่งกว่าที่ต้องรักษา


‘หวังว่ายาชุดนี้จะทำให้อาการหายขาด’


หมอหนุ่มได้แต่หวังในใจให้เป็นแบบนั้น ทั้งนี้มันต้องขึ้นกับเกรย์เองด้วย หากเกรย์เองให้ความร่วมมือดี อาการคงไม่กลับมากำเริบอีก คงต้องอธิบายให้เข้าใจเสียที






“ข้าทำเสร็จแล้วฮีล” แอลนำขวดเปล่าที่ล้างเสร็จเป็นที่เรียบร้อยนำขวดแก้วเหล่านั้นกลับมาบรรจุน้ำยาที่ปรุงใหม่

“อืม”

ฮีลตอบรับเพียงสั้นๆ พร้อมกับสั่งให้แอลรีบนำน้ำยาที่เสร็จแล้วใส่ลงไปในขวดเหล่านั้น ส่วนเขานั่งพักพิงเก้าอี้จิบน้ำไปเรื่อยๆ

“ทำไมเจ้าถึงเลือกข้าเป็นสิ่งตอบแทน”

ฮีลเองถึงกับตกใจเมื่อได้ยินแอลถามเอาซึ่งๆหน้าแบบนี้

“ข้าอยากมีคนรับใช้บ้างน่ะสิ”

เขาโกหกไป แต่แอลก็มองมาเหมือนไม่เชื่อ

“แล้วทำไมถึงต้องเป็นข้า” น้ำเสียงที่ถามต่อไม่ใช่ถามด้วยความโกรธ เพียงแต่แฝงไว้ด้วยความเศร้า

ฮีลมองแอลอย่างสงสาร  แต่ต้องข่มใจไว้

“เจ้าอย่าถามอะไรให้มากเลย แค่รู้ไว้ว่าเจ้าเป็นหนี้ชีวิตข้าก็พอ” ฮีลแสร้งทำเป็นโกรธ ต่อว่าแอลเข้าให้ แต่ก็ต้องรีบออกคำสั่ง และหลบหน้าไปข้างนอกเมื่อเห็นแอลทำท่าจะร้องให้อีกครั้ง





ปล่อยให้แอลทำงานอย่างเงียบๆเพียงลำพัง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ทำไมทำกับ แอลตัวน้อย ของเราแบบนี้  :serius2:

The Living River Ping

  • บุคคลทั่วไป
แอล นางเอกนักนะ ชริ ฮีลใช้ให้หนัก
ใช้ให้ไปจัดที่นอนสำหรับสองคน..เดี๋ยวนี้

หุหุ (ฮีล ซะที ซะทีสิ)  :oo1:

ออฟไลน์ thanagorn

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 117
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
   
        ใส่ชื่อเรื่องแล้วหรอครับ

          มิน่าละหาตั้งค่อนวันค่อนคืนไม่เข้าไม่รู้นะเนี่ย

           ดีใจที่หาเจอ....... :o12: :o12: :o12: :o12:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
แอร๊ยยยยย แอล หายไปไหนค่ะ แอล นะ หรือว่าไปดักตบชีวาสอยู่  o18

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
โหๆ

ไม่ได้มาต่อตั้งนานเลยเนอะ

ด้วยเหตุที่ว่า ต่างๆ นาๆ

เอาเหอะๆ มาอ่านกันต่อเลยดีกว่า ลืมกันยังนิ เอามาครึ่งหนึ่งก่อนเนอะ เดี๋ยวมาอีกแน่ จุ๊บๆ









บทที่ 27



ภายในที่พักยามค่ำคืน แอลนั่งวางไพ่เรียงกันเป็นครึ่งวงกลม ไพ่เหล่านั้นค่อยๆถูกหงายขึ้นถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ แอลแอบถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ในรอบหลายวันที่ผ่านมาเขาพร่ำทำนายไพ่อยู่หลายเพลา แต่ผลที่ได้นั้นไม่ช่วยให้รับรู้หรือเข้าใจเรื่องต่างๆได้เลย ทั้งชีวาสและเอสเปอร์ที่ไม่รู้ชะตากรรม ไหนจะเรื่องของไทนอสอีก…..


หลายวันที่ผ่านมาทั้งสี่ได้เคลื่อนพลสู่หอคอยแห่งธอร์อีกครั้ง แค่การเดินทางในครั้งนี้เป็นไปอย่างเชื่องช้ากว่าเดิมนัก ทั้งสภาพเกวียนที่ถูกระเบิดจนยากที่จะซ่อมให้สมบูรณ์ ไหนจะสภาพร่างกายของเกรย์อีกแต่ยังดีที่มีไทนอสคอยช่วยเหลืออยู่ไม่ขาดทำให้เกรย์ไม่ได้ลำบากอะไรมากนัก


เป็นอีกสามคนที่เหลือต่างหากที่ต่างพากันเงียบ ฮีลที่เอาแต่ปรุงยา จับโน่นผสมนี่อยู่เรื่อยอย่างไม่รู้จักเหนื่อย ไหนจะคอยหางานป้อนให้แอลคอยรับใช้ตลอดไม่ให้แอลมีเวลาว่างพอที่จะเข้าใกล้ไทนอสได้ เรียกได้ว่าไทนอสไปซ้ายฮีลจะสั่งให้แอลไปทางขาวเสีย แต่ถึงกระนั้นก็มีบ้างที่แอลต้องเผชิญหน้ากับไทนอสตามลำพัง


“ท่าน….ทะ…ไทนอส” แอลตกใจเมือพบว่าเขาเกือบเดินชนไทนอสที่โผล่ออกมาหลังผลึกก้อนใหญ่

“แอล” อีกฝ่ายก็ดูตกใจไม่แพ้กัน ไทนอสหันหลังกลับทันที


ไม่ว่าแอลจะเรียกอีกสักกี่ครั้งไทนอสก็ไม่ยอมหันกลับไป เขากลัวตัวเอง กลัวเหลือเกินว่าจะห้ามใจไว้ไม่อยู่

แค่ได้มองดวงตานั้น…..ดวงตาที่เคยเปล่งปลั่งดุจดวงดาวยามราตรี ต้องมัวหมองนองไปด้วยน้ำตาแบบนั้น เขาคงทนไม่ได้ที่จะเข้าไปโอบกอดคนตัวเล็กนั้นไว้เสีย











“ไทนอส”

“หืม” ไทนอสที่ถูกเรียกตอบกลับไปโดยไม่หันมองคนที่ทัก เขายังมองตรงนิ่งครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ในหัว เกรย์มองใบหน้านั้นก่อนที่จะดึงเอาคนตัวใหญ่กว่านอนลงที่ตักของเขาเอง

“อย่าคิดมากสิ” เกรย์ลูบใบหน้านั้นอย่างแผ่วเบา คลึงนิ้วทั้งสองข้างไปมาตรงขมับหวังบรรเทาความตึงเครียดที่ไทนอสแสดงออกมาทางสีหน้า


ถ้าเป็นเมื่อก่อนไทนอสคงลุกหนีไปแล้ว แต่ในครั้งนี้ไม่ใช่ เขาปล่อยให้เกรย์นวดคลึงไปเรื่อยๆ บางทีเขาเองอาจจะคิดมากไปจนปวดหัวไปหมด


ขอพักสักหน่อยแล้วกัน




สายลมเย็นไหลผ่านร่างของคนทั้งสองไปอย่างช้าๆ ริมทะเลสาบกระจกแห่งนี้มีเพียงเกรย์และไทนอสเท่านั้นที่นั่งรับลมในยามเย็น ข้ามฟากออกไปอีกฝั่งของแหล่งน้ำหากมองให้ดีจะเห็นหอคอยเล็กๆตั้งอยู่ไกลออกไป นั่นคือจุดหมายของการเดินทางในครั้งนี้ เกรย์มองหอคอยแห่งนั้นพลางคิดเรื่องต่างๆมากมาย



ถ้าการเดินทางครั้งนี้จบลง ไทนอสจะกลับไปเหมือนเดิมอีกหรือไม่



แล้วที่ไทนอสกลับมาทำดีกับข้านั้นมันหมายความว่าอย่างไร



แล้วการหลบหน้าแอลนั่นอีก



คิดได้แค่นั้นน้ำตาก็ไหลออกมาอีกจนได้ เกรย์เองก็ไม่ใช่คนโง่ที่ไหนที่จะมองไม่ออกว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับความสัมพันธ์ของทั้งสี่คน ที่มันค่อยๆเปลี่ยนแปลง

น้ำตาหยดหนึ่งร่วงลงจากใบหน้าขาวซีดนั้นหล่นลงเกือบกระทบใบหน้าของคนที่หลับอยู่ดีที่เกรย์ใช้มือรับมันไว้ได้ ก่อนที่จะใช้มือเช็ดน้ำตาตนเองอย่างลวกๆ พร้อมกับกลั้นเสียงร้องให้เบาที่สุด เขาเพียงไม่อยากรบกวนไทนอสในตอนนี้ อยากเพียงแค่ปล่อยให้เขาได้พักผ่อนอย่างสบาย



ข้าควรต้องปล่อยเจ้าไปใช่ไหม



คำถามเดิมๆผุดขึ้นกลางใจของหมอผีหนุ่มอีกครั้ง เกรย์เจ็บใจทุกคั้งที่เห็นสายตาไทนอสที่แอบลอบมองแอลอยู่ห่างๆ สายตาที่เต็มไปด้วยคาวมรัก ความห่วงใย



แต่สายตาที่มองมาที่เขากลับว่างเปล่า



ท่าทีที่เคยกระฉับกระเฉง นัยน์ตาเต็มไปด้วยประกาย ในตอนนี้มันไม่มีเหลือแล้ว ซึ่งเกรย์เองไม่ชอบเอาเสียเลยที่ไทนอสกลายเป็นแบบนี้

คนที่เคยเป็นเหมือนแสงอาทิตย์อันร้อนแรงคนนั้นได้หายไป เหลือเพียงตะวันที่อ่อนแรงในยามเย็นเพียงเท่านั้น



“เจ้าอย่าทำแบบนี้เลยไทนอส” เกรย์พูดออกมาเบาๆ เพียงเพราะเขารู้ว่าอีกคนนั้นไม่มีทางได้ยินอย่างแน่นอน




ใช่




เกรย์นั้นไม่กล้าพอที่จะพูดออกไปตรงๆ เพราะอีกครึ่งใจของเขาเองเรียกร้องให้ไทนอสอยู่กับเขาแบบนี้ไปตลอด




แม้เพียงร่างกายก็ตาม



สายลมเย็นพักผ่านทั้งสองไปอีกครั้ง และยิ่งทวีความหนาวเย็นไว้ในตัว เกรย์ตัวสั่นอย่างห้ามไว้ไม่อยู่ เขาค่อยๆบรรจงยกศีรษะของคนอันเป็นที่รักขึ้นและวางลงอย่างแผ่วเบาบนพื้น แล้วจึงเอนตัวลงซบเข้ากับอกแน่นๆนั้นพร้อมกับโอบแขนรัดลำตัวอีกคนไว้ให้พออบอุ่น








ข้าขอเพียงได้อยู่ใกล้เจ้าแบบนี้ก็พอ

The Living River Ping

  • บุคคลทั่วไป

หล่นไปไหนแล้วคุณ ขึ้นมา ขึ้นมา

ออฟไลน์ กิมตี๋หัดขับ

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3
ชีวาสหายไปหนายยยยยยยยยยยยยย

เฮ้อ ฉงฉานเกรจัง :กอด1:

ออฟไลน์ thanagorn

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 117
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1

      สองคนนั้นสงสัยตกเหวแห่งความสุขแน่ๆเลยไม่อยากขึ้นซักที :oo1:

      เนอะท่านพี่รีบน :z13: :z13:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ทำไมไม่ทันเห็นว่า มาต่อแล้วอะ  :z3:

แอลน้อย ก็ยังต้องเล่นบทเศร้าเหมือนเดิม ไทนอส นี่ ไม่ไหวๆ แย่ๆๆๆๆๆ  :beat:

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
สวัสดีอีกครั้งเจ้า

ครั้งนี้มาต่อให้นะจ๊ะ เอายาวกว่าเดิมหน่อยเพราะครั้งที่แล้วสั้นไปหน่อย

ขอบคุณ ทุกท่านที่คอยติดตามเน่อเจ้า ซึ้งใจๆ


ปล. ไหงมีแต่คนไม่ชอบไทนอส แล้วถามหาชีวาส กันจัง ชิๆ















บทที่ 28




ไม่ไกลห่างนักจากทะเลสาบ ฮีลยืนมองทั้งสองด้วยสายตาเศร้าหมอง เขายืนตรงนี้ได้นาน พอรู้ว่าเกิดอะไร ถึงแม้จะไม่ได้ยินเสียง แต่เพียงภาพที่เห็นมังเองก็ฟ้องอะไรได้หลายอย่างในตัวของมัน ครู่หนึ่งที่เขาเองเกือบเผลอเดินเข้าไปดึงตัวเกรย์กลับมา แต่เพียงเห็นใบหน้าอันเป็นสุขนั้นมันทำให้เขาต้องหยุดลง สิ่งที่เขาทำได้ในตอนนี้ คงได้เพียงมองดูเท่านั้น



อีกด้านหนึ่ง แอลเองได้แต่จ้องมองภาพใบหน้าของตนที่สะท้อนในทะเลสาบกระจกซึ่งผิวน้ำของมันนิ่งใสเสียจนสะท้อนสิ่งต่างๆออกมาได้อย่างเถรตรง ใบหน้าของแอลในตอนนี้ต่างออกไปจากเคย แอลที่เคยเป็นในวันนี้มันไม่มีอีกแล้ว ความรู้สึกแบบนี้หรือที่เขาเรียกกันว่าเสียใจ



ความรู้สึกนี้หรือ ที่เขาเรียกว่ารัก





นี่ใช่ไหมที่เขาเรียกกันว่ารัก…….ที่ข้าไม่เคยได้รู้จัก รู้สึกกับใครสักที


นี่ใช่ไหม…..ที่ข้ามีใจให้เจ้าแบบนี้………..ทุกเวลา กับสิ่งที่มีในหัวใจ




แอลแค่นหัวเราะตัวเองอย่างเศร้าๆ ทำไมหนอก่อนหน้าที่จะเจอท่านไทนอส ตนเองกลับเรียกร้องอยากมีความรักเสียเหลือทน มันอดไม่ได้เสียทีเดียวที่ทนเห็นคนอื่นๆมีรักกันไปหมด แต่ตนเองกลับไม่มี


แต่แล้วพอมาเจอกับตนเองเข้าจริงกลับไม่เป็นดังฝัน



มาถึงตอนนี้หัวใจของเขากลับเรียกร้องไม่อยากรู้จักกับมันเลย……ความรัก



มันเจ็บปวดเหลือเกิน……เจ็บเหลือเกิน






หยดน้ำใสๆค่อยๆไหลรินจากดวงตาสวยคู่นั้นหยดลงบนผืนน้ำ ทำเอาภาพสะท้อนของเขาเองแตกกระจายเป็นวงคลื่นที่ค่อยๆขยายตัวออกไป ก่อนที่จะค่อยเปลี่ยนเป็นภาพใหม่ของใครบางคน


แอลรู้สึกแปลกใจกับสิ่งที่เห็น แต่ยิ่งเพ่งเท่าไรก็ยิ่งเลือนราง คลื่นน้ำไม่ยอมนิ่งเสียที รู้แต่ว่าเขาคุ้นหน้าคนๆนี้เสียด้วย


แต่ก่อนที่คลื่นน้ำจะนิ่ง แอลเองได้ยินเสียงแว่วจนต้องลุกขึ้นยืนมองไปรอบๆตัว แต่ก็ไม่พบอะไร


เวลานี้ตะวันใกล้ลับฟ้าไปแล้ว อากาศเริ่มเย็นตัวลงยิ่งทำให้โหรตัวน้อยหวั่นใจขึ้นมาเมื่อรู้ว่าอยู่เพียงลำพัง ยิ่งต่างที่ต่างถิ่นแบบนี้ยิ่งไว้ใจอะไรได้ยาก



เปรี้ยง




เสียงฟ้าผ่า ดัง แว่วเข้ามากระทบโสตถึงแม้จะไม้ได้ดังมากเหมือนเสียงนี้มีต้นกำเนิดจากที่ไกลๆ แต่ก็ทำเอาคนขวัญอ่อนตกใจเสียจนทำกองไพ่หล่นลงพื้นเสียจนกระจัดกระจาย


“อ๊ะ”


มีเพียงไพ่ทั้งสามที่หงายหน้าออกมาให้เห็น  The moon The emperor และ The tower

“ท่านเกรย์ ท่านไทนอส” แอลเห็นดังนั้นก็รู้ว่าคงเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นเป็นแน่แท้ เขารีบรวมไพ่ไว้ก่อนที่จะรีบเคลื่อนย้ายตัวไปหาไทนอสทันที













“เกรย์!!! ระวัง”



เสียงของฮีลที่ดังลั่นปลุกให้ทั้งสองตื่นจากการหลับใหล เกรย์ที่งัวเงียลืมตาขึ้นกลับเห็นฮีลที่ยืนอยู่เบื้องหน้า ที่แปลกคือเขาได้กลิ่นเหม็นไหม้เหมือนเนื้อถูกเผา แต่ยังไม่ทันที่จะคิดอะไรอีกคำตอบนั้นก็ถูกเฉลย

ฮีลหันกลับมาเผยรอยไหม้ที่ถูกสายฟ้าผ่าลงเป็นแนวยาวเฉียงลงจากบ่ามาเอว กลิ่นเนื้อไหม้ยิ่งทำให้ฮีลรู้สึกแย่ ไทนอสที่ตั้งสติได้รีบคว้าเอาปืนคู่ใจเตรียมพร้อมการโจมตี

“ฮีลเจ้าบาดเจ็บ” เกรย์รีบเข้าไปดูอาการพร้อมกับเร่งให้หมอหนุ่มรักษาตัว
“เจ้าบ้า ห่วงตัวเองก่อนเถอะ” ฮีลตะโกนก่อนจะคว้าเอาเกรย์หลบจากสายฟ้าอีกเส้นที่พุ่งตรงมา



เปรี้ยง



ก้อนผลึกที่ถูกพลังงานไฟฟ้ามหาศาลเข้าไปถึงกับทนไม่อยู่ระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ

ไทนอสไม่รอช้ากระหน่ำยิงลงไปยังผืนน้ำตรงตำแหน่งที่สายฟ้าโผล่ออกมา



“ท่านไทนอส” จังหวะเดียวกันที่แอลปรากฎออกมาพร้อมกับใช้ไพ่ The tower ส่งสายฟ้าช่วยไทนอสอีกแรง ถึงแม้จะไม่ตรงเป้าเสียทีเดียวแต่อานุภาพของมันก็เล่นเอาน้ำกระจายไปตูมใหญ่

“พวกท่านไม่เป็นไรนะ” แอลถามทั้งเกรย์และฮีลที่ลุกขึ้นมาตั้งท่าพร้อมกัน

“มันตัวอะไร….คิเมร่าหรือเปล่า” ไทนอสออกปากถาม

“ไม่ใช่…..ข้าเองก็ไม่รู้”


เปรี้ยง


สายฟ้าอีกเส้นฟาดผ่านตรงเข้ามา แต่ครั้งนี้ทุกคนเตรียมพร้อมอยู่แล้วจึงรับได้อย่างง่าย แต่ไม่ว่าไทนอส ฮีล และเกรย์จะตอบโต้ไปเท่าไร ก็เหมือนไม่เกิดผลอะไร ไม่มีร่องรอยของเลือด ไม่มีแม้กระทั่งสัญญาณของสิ่งมีชีวิตที่อยู่ใต้น้ำ


“ข้าว่าต้องลงไปลากมันออกมาจากน้ำเสียแล้ว” ไทนอสว่าอย่างเลือดร้อน หมดความอดทนในการรอ

“อย่าท่านไทนอส มันจะยิ่งแย่น่ะสิ” แอลดึงเสื้อห้ามไว้แต่ก็เอาชนะแรงคนตัวใหญ่ไม่ได้

“อย่าไทนอส ข้าขอร้องล่ะ” เกรย์เข้ามาช่วยอีกแรง

“ถอยออกมาเร็วเข้า” ฮีลออกแรงลากทั้งสามออกมาให้พ้นจากระยะสายฟ้า เขาเองสังเกตสักระยะจนพอรู้ว่า สายฟ้าพวกนั้นถูกปล่อยออกมาตำแหน่งเดิมๆ และระยะทำลายของมันก็ไปไม่ได้ไกลเสียด้วย

“มันจะไม่มาตามพวกเราหรือ” แอลถามฮีล เขาเองยังไม่ไว้ใจนัก

“ไม่รู้ ข้าว่าพวกเรารีบเดินทางต่อเร็วเข้า แล้วจัดเวรยามคอยระวังด้วย…..อ้อแน่นอนไม่ใช่เจ้าเกรย์” ฮีลเอ่ยปากห้ามเกรย์อย่างรู้ดีว่า เกรย์ต้องเสนอตัวเฝ้าเวรอย่างแน่นอน ทำเอาคนถูกห้ามทำหน้าไม่พอใจ

“เจ้าเสียพลังไปเยอะแล้ววันนี้…..ข้าจะเฝ้ากะแรกเอง” ฮีลสั่งเสร็จก็รีบเก็บของขึ้นเกวียนทันที

“เจ้าเองก็เจ็บเหมือนกัน ข้าเฝ้าเวรเองดีกว่าเจ้าพักเสียเถอะ” แต่ไทนอสเห็นรอยแผลของฮีลจึงออกตัวเพื่อทำหน้าที่แทน

“ไม่มีแต่…ฮีล เจ้าไปพักเสีย ทั้งหมดนั่นล่ะ” แล้วไทนอสก็เร่งให้ทุกคนที่เหลือเข้าเกวียนให้หมดก่อนจะขึ้นนั่งบนที่บังคับค่อยๆขับเคลื่นเกวียนออกไปยังถนนที่เรียงรายไปด้วยก้อนผลึกน้อยใหญ่ที่คอยส่องแสงริมทาง







ภายใต้ท้องฟ้าสีนิลนั้นเอง แสงผลึกส่องประกายสะท้อนลงสู่ผิวน้ำที่ควรนิ่งสนิทราวกระจกที่ส่องสะท้อนอย่างงามตา เพียงแต่ยามนี้กลับมีคลื่นน้ำเกิดขึ้นซ้ำๆ ตรงตำแหน่งเดิม



วงแล้ว วงเล่า ที่คลื่นน้ำนั้นแผ่กระจายออกไปทุกทิศ





แรงขึ้น




และแรงขึ้น

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด