ตอนที่ 24 เยี่ยมบ้าน...ชมสวน
...หลังจากงานบายเนียร์ผ่านพ้นไปก็ได้เวลาปั่นงาน มันเป็นอะไรที่งานล้นมือจริงๆ ไหนจะรายงานเล่มใหญ่ 2 เล่ม รายงานประจำสัปดาห์ 2 วิชา และตัวอย่างเพื่อการศึกษารายสัปดาห์(Case-Study) ผมใช้ชีวิตอยู่ที่มหาวิทยาลัยที่ท่าทางไม่ต่างจากชีวิตทำงาน คือไปมหาวิทยาลัยแต่เช้า เรียน เรียน เรียน พอบ่ายก็ทำรายงานจนถึงเย็น บางทีก็ค่ำ พวกผมคิดกันเสมอว่าถ้าทำงานแบบนี้แล้วได้โอทีน่าจะดี
...และหลังจากเจ้าแสบได้รางวัลพิเศษไป แซนเองก็ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของผมมากขึ้น จนผมต้องค่อยปามๆ อยู่เสมอว่าเรายังคงเป็นพี่น้องกัน หลังๆมาช่วงที่ผมทำรายงานผมอนุญาตให้แซนไปเที่ยวเล่นก็ได้ เพราะผมรู้สึกเกรงและสงสารแซนมาก กับการที่ต้องมานั่งดูผมทำรายงาน แซนเองก็ไม่มีอะไรทำเห็นพยายามอ่านหนังสือแต่ก็หลับทุกที มีหลายครั้งที่ผมต้องเอาเสื้อคลุ่มของผมไปห่มให้กลัวมันไม่สบายเดี๋ยวจะแย่ สรุปคือแซนจะมาส่งผมที่ห้องสมุดนั่งเล่นด้วยสักพักก่อนจะกลับไปที่หอเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปเล่นบาสเก็ตบอลกับเพื่อนต่อ พอใกล้เวลาหอสมุดปิดแซนจะมารับผม นานๆทีแซนจะมาอยู่กับผมที่ห้องสมุดแล้วรอกลับพร้อมกัน(ส่วนมากเวลาทำรายงานส่งอาจารย์) ไปกินข้าวกับกลุ่มผมบ้างบางโอกาส ส่วนผมพอทำงานที่ห้องสมุดเสร็จ ไปทานข้าว ก็กลับมาทำงานต่อที่ห้องแซน ตอนนี้ผมขอทางบ้านผมมาอยู่หอกับแซนในช่วงวันจันทร์-วันพุธ พอวันพฤหัสเช้าก็กลับบ้าน
...ตอนนี้ทางบ้านผมรู้จักกับแซนในฐานะเพื่อนผมคนหนึ่งครับ เพราะก่อนที่คุณพ่อกับคุณแม่จะอนุญาตให้ผมมาอยู่หอ คุณพ่อคุณแม่ผมก็อยากเห็นสภาพห้องก่อน และอยากรู้จักคนที่ผมจะมาอยู่ด้วย ท่านบอกว่ากลัวพาเพื่อนพาผมเสียผู้เสียคน วันที่คุณพ่อคุณแม่ผมมาดูที่ห้อง (มาแบบฉับพลันไม่กล่าวก่อน) แซนทำตัวน่าเอ็นดูมากครับ เรียบร้อยแบบที่ผมไม่อยากเชื่อสายตา คุณแม่ผมค่อนข้างชอบแซนมาก ท่านว่าสุภาพ เรียบร้อย แถมเป็นคนสะอาดใช้ได้ ท่านจึงอนุญาตให้ผมอยู่ได้ แถมยังฝากฝังผมกับแซนอีก ผมเครียดเลยฝากกับใครไม่ฝาก ฝากปลาย่างไว้กับแมว เห้อ...
“พี่โอ๊ตตรงนี้ทำอย่างไงอ่ะ” แซนถามขึ้น
“เห้ย อะไรว่ะรายงานกลุ่มแกนะเนี้ย” วันนี้กลุ่มผมที่นั่งในห้องสมุดใหญ่เป็นพิเศษครับ ร่วม 20 ชีวิตได้ อัดกันอยู่ในห้อง ห้องเดียว พวกผมจะเปิดห้องเรียนไว้เพราะพวกผมใช้เสียง และสาเหตที่วันนี้คนมากเพราะกลุ่มของแซนมาทำรายงานด้วย
“โห้พี่ช่วยหน่อยดิ” แซนอ้อน
“ไหนมาดูดิ” ว่าแล้วผมก็ผละออกจากหน้าจอแล็ปท๊อปของผม “อืม...เห้ย ตรงนี้อ่ะ ยังจำไม่ได้เหรอว่าเครื่องมือนี้มีอะไรบ้าง” ผมถามขึ้น มันยิ้มแหยๆ ผมเริ่มมองเพื่อนในกลุ่มมัน ทุกคนหลบหน้าผม “เยี่ยมมากเด็กๆ ไอ้เชษฐได้ไหม”
“ไหนพี่...ตรงนี้ใช่ไหม...” แล้วมันก็พลามของมันไปครับ ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าทำไมเพื่อนมันเรียกกูเกิ้ล มันเล่นอธิบายแบบหนังสือเขียนอย่างไง มันพูดแบบนั้นเลย แน่นมาก
“เออนะ ไอ้เชษฐรู้ถามไอ้เชษฐเอา เข้าใจ” ผมหันไปบอกไอ้แสบแล้วยักคิ้วให้ ทำนองกวนตรีนมันอ่ะครับ
“...” มันไม่ตอบแต่มันทำแก้มป่องประมาณงอนๆ เพื่อนๆผมเห็นก็หัวเราะกันใหญ่
...ผมนั่งมองดูเด็กทำรายงานแล้วคิดถึงตัวเองตอนปี 1 จัง รายงานที่อาจารย์ท่านสั่งพวกแซนไม่ต่างอะไรจากรุ่นผมหรอกครับ โจทย์เดียวกัน แต่ต่างกันตรงที่สมัยผม พออาจารย์สั่งยังไม่ทำกันหรอกครับ ทิ้งไว้อย่างนั้นแหละ มาทำก่อนส่ง 1 วัน แต่ไอ้พวกนี้ได้โจทย์ปุ๊บทำกันเลย ไม่รู้ว่าขยันหรือไอ้แซนบังคับเพื่อที่มันจะได้มาเฝ้าผมได้ก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆรายงานประจำเทอมของปี 1 มาแบบนี้ มันเป็นสัญญาณว่าอีกไม่นานก็จะสอบไฟนอลแล้ว พวกผมยอมรับว่าทำรายงานกันจนลืมวันลืมคืนกันจริงๆ มารู้อีกทีรายงานใหญ่ของพวกผมใกล้เสร็จแล้ว(แอบดีใจนิดๆ)
...ก๊อก ก๊อก
...มีคนมาเคาะประตูกระจกทุกคนหันไปมอง ไม่ใช่ใครครับเด็กปี 3
“หวัดดีครับพี่โอ๊ต”
“เออว่าไง”
“พี่ฝากบอกพวกพี่ๆปี 4 ด้วยว่าบายเนียร์เอก วันที่ 5 มกรา นะพี่”
“เห้ย ถึงตาพวกพี่แล้วเหรอ”
“อืมช่าย ไปแหละพี่ สวัสดีครับ”
“เออๆ โชคดี”
“โห้ รางร้าย ขอเอได้ป่ะ เออปี 1 บอกเพื่อนๆด้วยนะ ไปแล้วพี่”
...และแล้วก็ถึงคราวของพวกผมแล้วหรือ แอบเศร้าเล็กน้อย เพราะงานบายเนียร์ที่มหาวิทยาลัยจัดให้ ผมว่าเหมือนงานสังค์สรรมากกว่า
“เห้ย มึงได้ที่ฝึกงานหรือยัง” เพื่อนผมถามขึ้น “กูได้และ มึงอ่ะ” “เออๆ กูก็ได้ กูฝึกด้วยกันกับไอ้คิว” “กูยังไม่รู้ว่ะ รอจดหมาย” ทุกคนต่างเริ่มสนใจกับคำถามเพราะมันเป็นสิ่งที่พวกผมต้องทำในเทอมหน้า เป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้น ว่าไหม “แล้วโอ๊ตอ่ะ”
“กูรอคำตอบว่ะ” ผมโกหก ผมได้ที่ฝึกงานแล้วครับ แต่ผมไม่อยากให้ไอ้แสบมันถามซักไซ้
“พี่โอ๊ตทำที่ไหน” ว่าแล้ว ไอ้แสบถามขึ้นจริงๆ
“ยังไม่ชัวร์รอคำตอบอ่ะ”
“จังหวัดอ่ะ”
“ก็รอคำตอบไง ทำงานไป” ผมเอ็ดเริ่มรำคาญ
“ว่าแต่อาจารย์ให้ยื่นฝึกงานเร็วเนอะ” เพื่อนผมเริ่มประเด็นใหม่
“ก็ดีไง จะได้มีเวลาเพื่อใครยังไม่ได้จะได้เหลือเทอม 2 อีกเทอม”
“เออว่ะ”
“แม่งจะจบเทอม 1 อยู่แล้ว พวกมึงอ่านหนังสือสอบยัง”
“ไอ้เชี้ยพาเพื่อนเครียด งานยังไม่เสร็จเลย จะเอาเวลาไหนอ่าน”
“เออว่ะ ว่าแต่น้องทำไมมันหาเวลาบายเนียร์แล้วว่ะเหลืออีกตั้งเทอมหนึ่ง”
“อ่าว พวกมึงคร๊าบ งานยังไม่เสร็จนะคร๊าบ ไม่เสร็จไม่จบนะคร๊าบ อย่าลืม” เพื่อนผมแทรกขึ้น บทสนทนาของวันนี้ก็ต้องจบลงไปโดยปริยาย
...หลังจากที่นั่งปั่นรายงานมหาโหดมานานไม่น่าเชื่อว่ามันจะจบลง เป็นรายงานแรกที่เสร็จก่อนกำหนด พวกผมยอมรับว่างงกันมากๆ แต่ไม่เหลืออะไรให้เราวิเคราะห์แล้วจริงๆ เราเปิดอ่านทบทวนกันอยู่หลายรอบ มันเสร็จแล้วจริงๆ เท่ากับว่าพวกผมมีเวลาเหลือ 2 สัปดาห์เพื่อเตรียมตัวในการสอบ เพื่อนในกลุ่มเสนอว่าไหนๆ งานเสร็จแล้วไปกินเลี้ยงฉลองสักหน่อยก็ดี หลังจากไม่ได้ใช้ชีวิตอิสระมาเป็นแรมเดือน สรุปเราไปทานข้าวกันที่ร้านข้าวต้มหน้ามหาวิทยาลัย เนื่องด้วยเวลานี้ก็ทุ่มกว่าๆ เกือบสองทุ่มแล้ว ไม่มีร้านให้พวกเราเลือกมากนัก พวกผมกับเด็กปีหนึ่ง(รายงานกลุ่มแซนเสร็จไปแล้ว 80%) ขี่รถไปกันเป็นกลุ่มพอไปถึงที่ร้าน เราก็จัดการหาที่นั่งแล้วสั่งกันทันที พออาหารถูกยกมาเสิร์ฟโต๊ะผมไม่มีเสียงพูดใดๆ เวลานี้เป็นเวลากินกันจริงๆ
…หลังจากทานข้าวเสร็จพวกผมก็แยกย้ายกลับหอ คืนนี้คงเป็นคืนวันพุธแรกที่ผมได้เตรียมของกับบ้านในวันรุ่งขึ้นเพราะผมใช้เวลาในการทำรายงานแล้วก็นอน มาเก็บของอีกทีก็สายๆ รู้สึกแปลกๆไม่น้อย
...กรี๊ง...กรี๊ง...กรี๊ง
“สวัสดีครับ” ผมทักตามปกติ
“เป็นไงกินข้าวยังโอ๊ต” แม่ผมถาม
“กินแล้วแม่ เพิ่งกลับถึงหอ”
“ทำงานต่อไหม”
“ไม่อ่ะ งานเสร็จแล้ว”
“อืมแล้วนี้แซนอยู่ด้วยไหม”
“มันนอนกลิ้งอยู่ข้างนี้อ่ะแม่”
“เหรอลูก เสาร์นี้ชวนแซนมาบ้านสิ” หูผมได้ยินไม่ผิดใช่ไหม
“โห้ย ไม่ต้องหรอกแม่ ไม่ดีม่าง”
“นิโอ๊ตเราไปอยู่กับเขา เราก็ต้องมีน้ำใจกับเขาบ้าง ถึงจะช่วยค่าน้ำค่าไฟเขาก็เถอะ” แม่ผมเอ็ด แซนมันเป็นลูกรักแม่ผมตั้งแต่เมื่อไร “ชวนมาทานข้าวที่บ้านศุกร์นี้เลย แม่ต้องการคำตอบ”
“ไม่หรอกแม่”
“ถามก่อน”
“แม่ถ้ามาแล้วจะกลับอย่างไง”
“ก็ให้เขานอนบ้านเราก็ได้นิ 2 คืนจะเป็นไรไป” แม่ผมตอบหน้าตาเฉย “ชวนเร็ว”
“แซน” ผมจนปัญญา
“ครับผม” มันตอบพลางส่งสายตาหยาดเยิ้ม --*--“
“แม่พี่ชวนไปทานข้าวที่บ้านศุกร์นี้”
“โอ๊ะโอ้ ขอบคุณครับคุณแม่”
“ไม่ไปใช่ไหม” ผมพูดแทรกเสียงดัง แซนทำหน้างงๆ
“แม่แซน..”
“ไปครับ รบกวนด้วยนะครับ” มันพูดแทรกบ้าง แม่ผมได้ยินแน่นอน
“โอเค โอ๊ตบอกแซนด้วยนะแม่จะรอ แค่นี้นะจ๊ะ” และแล้วแม่ผมก็ตัดสายทิ้ง TT-TT
“พี่โอ๊ตแล้วแซนกลับอย่างไง” แซนถามขึ้น
“เดินกลับ”
“ใจร้าย” แซบตอบพร้อมทำท่าทางคิคุ “แม่ให้แซนค้างด้วยใช่ไหม”
“...” มันได้ยินเหรอ
“อิ อิ เดาถูก”
....ให้ตายผมไม่เข้าใจที่บ้านจริงๆ ทำไมถึงต้องชวนแซนไปบ้านด้วย ผมจะขัดมันอย่างไงนะ ผมเริ่มคิดวางแผน แต่ไม่มีแผนไหนเลยที่จะทำให้แซนไปบ้านผมไม่ได้ เดี๋ยว “มะลิ” ช่วยผมได้ มะลิ เป็นสุนัขที่บ้านผมครับ พันธุ์บางแก้วแท้ หลายๆคนที่รู้จักสุนัขสายพันธุ์นี้ย่อมรู้ดีถึงความรักเจ้านาย หวงของ และความดุ ผมว่าแซนอยู่บ้านผมไม่ได้แน่ แล้วผมจะขับรถมาส่งมันเอง รับรองงานนี้ไม่อยากไปบ้านผมอีกเลย
...และแล้วก็ศุกร์ หลังจากที่ผมเรียนเสร็จ ผมกับแซนแวะทานข้าวเที่ยงกันก่อน แล้วค่อยกลับเข้าหอแซน วันนี้ท่าทางแซนอารมณ์ดีครับเก็บของอย่างสบายใจ มันยังไม่รู้ว่าจะเจอกับอะไร เหอะๆ พอถึงเวลาสมควรผมกับแซนก็ตรงดิ่งไปที่บ้านผมทันที ผมบอกแซนว่าผมจะมาส่งแซนวันเสาร์เพราะผมมีธุระที่มหาวิทยาลัยพอ แต่นั้นไม่ทำให้มันสลดแม้นแต่น้อย
...พอมาถึงบ้านผม พ่อและแม่ผมออกมาต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี ผมเดินเข้ามาดูลาดลาวก่อน เจ้ามะลินอนอยู่ในบ้าน มันกำลังกินอาหารเม็ดของมัน ผมอดนึกถึงภาพตอนที่แซนวิ่งหนีหมาไม่ไหวแล้ว พอแซนไหว้คุณพ่อคุณแม่ผมเสร็จก็ขนของเข้าบ้านครับ ผมมองอย่างใจจดใจจ่อกับภาพที่กำลังจะเกิดขึ้น แซนเดินเข้ามาในบ้านของผม เหมือนเจ้ามะลิจะรู้ครับมันลุกขึ้นแล้วรีบวิ่งไปที่บริเวณประตูทันที ผมยืนเฉยๆไม่ห้ามอะไร(ใครจะห้ามหล่ะ ห้ามก็อดสนุกนะสิ หุ หุ) มะลิวิ่งตรงไปที่ประตู พร้อมพ้นลมหายใจเหมือนมันพบศัตรู มันทวีความสนุกเป็นเท่าตัว บัดนี้มะลิยื่นอยู่ตรงหน้าแซนมันมองหน้าแซนพร้อมพ้นลมหายใจแรงๆ ตอนนี้แซนมีอาการตกใจ หน้าเริ่มถอดสี(เห่าเลยมะลิ เห่าไล่เลย) มะลิวิ่งเข้าไปหาแซนโดยที่พ่อ-แม่ของผมก็กันกันไม่ทัน มะลิเข้าถึงตัวแซนได้อย่างง่ายดาย ภาพที่เห็นคือมันกระดิกหาง แล้วยกมือเท้าทั้งสองข้างตะกุยอากาศ ท่าทางมันดีใจเหมือนเจ้าของกลับมา (เจ้าของแกยื่นอยู่ตรงนี้เฟ้ย ไอ้หมาโง่) ผมมองด้วยอารมณ์เคืองๆ
“เป็นไงฝีมือแม่”
“อะไรนะแม่”
“ออ แม่แกพาไอ้(มะ)ลิไปโรงเรียนสอนสุนัขมา”
“เพื่อ?”
“ก็ให้มันสนิทกับคน เวลาแขกมาจะได้ไม่ไล่กวดเขาไงจ๊ะลูก”
“แล้วถ้าขโมยมามันไม่คาบกุญแจให้เหรอ”
“เวลาวิกาล หมาคงคิดได้แหละ ไป ไป แซนเข้ามาเร็ว” แม่ผมบอกแซน แซนดูสบายใจขึ้น “เออคืนนี้นอนกับพี่โอ๊ตนะ พอดีห้องแขกแม่เอาของไปเก็บยังไม่ได้จัดให้” แม่เสริม
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จบตอนที่ 24
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีครับ...
...สวัสดีทุกท่าน ตอนนี้เป็นตอนแรกหลังจากที่สอบมิดเทอมจบลง ขอขอบคุณทุกกำลังใจและคำแนะนำนะขอรับ พอดีแวะมานั่งอ่านคอมเม้นท์ ยอมรับว่าอ่านคอมเม้นท์แล้วรู้สึกอบอุ่นดีครับ ขอบคุณหลายๆท่านที่เป็นห่วงกับการสอบของผม ขอบคุณพี่ฟิโช้ด้วย อยากบอกว่าที่เห็นมาอัพให้นะ เห็นเพื่อนรออ่านกันนะครับ แล้วเห็นมีข้อความถามว่าจบแล้วเหรอเลยมาอัพให้ ส่วนอีกเหตุผลคือเครียดครับ ยอมรับว่าเครียดมาก วิชาเท็กซ์นะครับ เรียนภาษาอังกฤษล้วนๆ สอบก็เป็นภาษาอังกฤษ แถมโดนอาจารย์กดดันอีกเลยเครียด ก็เลยระบายด้วยการแต่งนิยายนี้แหละ 555+
...หลายท่านคงสงสัยว่าแล้วข้อสอบทำได้ไหม คำตอบคือได้ครับ คิดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ดูจากคำถามเป็นส่วนใหญ่ ว่าตอบได้ไหม ส่วนมากก็ได้โดยเฉพาะข้อสอบเขียน และข้อสอบก็ไม่ยากอย่างที่อาจารย์บอก แต่ก็เคืองอาจารย์อยู่บ้าง ตรงที่อาจารย์เน้นและบอกว่าออกข้อสอบแน่ ไม่ออกเลย ออกที่ไม่เน้น ก็โชคดีที่ผมสรุปทั้งหมด(ผมเป็นคนติวให้เพื่อนๆ เลยต้องสรุปเนื้อหาทั้งหมดก่อนสอนเพื่อนอีกที) เชื่อไหมว่า 5 บท ผมสรุปได้ในกระดาษ A4 ครึ่งหน้า 555+ คงเพราะแรงกดดันอาจารย์แหละ ทำให้ผมและเพื่อนๆตื่นตัวกับการสอบเลยทำได้กัน
...สุดท้าย ช่วงนี้พอมีเวลาว่างแล้วครับเพราะวันแม่ เลยได้อณิสงค์ หยุดเสียหลายวัน แต่หลายวันนี้ก็ติดเกมอยู่ 555+ อย่างไงจะพยายามอัพให้ รอกันบ้างคงไม่ว่านะครับ อิอิ
รัก
โฟล์คเต่า
ป.ล.
...เรื่องเวลาการจัดบายเนียร์และการฝึกงาน อาจไม่ตรงกับความรู้สึกของคนที่เรียนจบสถาบันที่ผมกำลังศึกษาอยู่ก็ต้องขอโทษด้วย เพราะผมเอาเวลาการจัดบายเนียร์และการฝึกงานมาจากอีกมหาวิทยาลัยอื่นนะขอรับ และถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยนะที่นี้ด้วย เพราะข้าพเจ้ายังไม่เคยฝึกงานและไปบายเนียร์รุ่นตนเอง (15 สิงหา นี้เป็นครั้งแรกที่จะได้ไปงานบายเนียร์ ตัวเอง รู้สึกแปลกๆ 555+)