ตอนที่ 18 กฎต้องห้าม
...น้องครับรู้ไหมกฎสำคัญของการมีน้องรหัสมีอะไรบ้าง นอกจากน้องต้องค่อยดูแลรุ่นน้อง คอยเตือนสติ คอยติวหนังสือแล้ว กฎสำคัญที่สุดระหว่างพี่รหัสกับน้องรหัสคือ
“ห้ามเป็นแฟนกันโดยเด็ดขาด”
...เพราะถ้าเกิดคบกันแล้วเลิกกัน ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องจะขาดสะบั้นลงทันที...
...ผมได้แต่ก้มหน้ามองโต๊ะ อึ้งกับคำพูดที่พึ่งได้ยิน แซนรักผม สิ่งที่ผมพยายามจะหนีหรือถอยห่างมันมากที่สุด แต่ตอนนี้มันกลับไม่เป็นอย่างนั้น ผมไม่กล้ามองหน้าแซน เสียงที่ดังในใจคือผมต้องไปจากที่นี้ ตรงนี้ แต่ขาผมไม่ทำตามความต้องการของหัวใจ
"ผู้หญิงคนนั้น...จะทำให้ชีวิตพี่เลวร้าย" แซนพูดขึ้นหลังจากที่เงียบไปนาน "อย่ายุ่งกับเธอ" แซนกำชับ ผมไม่เข้าใจความหมายที่แซนกำลังสื่อ แต่ความรู้สึกกดดันจากภายนอก สายที่มองผมกับแซนลดลงแล้ว ผมมองไปรอบๆท่าทางหลายคนจะเข้าใจในคำอธิบายของแซน แต่ไม่ใช่ผม ไม่นานหนักซีอิ้วกรอบก็ถูกลำเลียงมายังเบื้องหน้า ผมกับแซนลงมือทานโดยไม่มีคำพูดใดๆอีกเลยจนกระทั้งทานเสร็จและกลับถึงหอ
"พี่ไม่เข้าห้องนะ" ผมพูดขึ้นเมื่อรถจักรยานยนต์จอดเข้าที่ของมัน
"พี่ผมขอโทษ"
"..."
"ผมอยากให้พี่รู้ ผมความรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ”
“กับเรื่องอะไร เรารักพี่ หรือ เรื่องแพรว” ผมหันไปมองหน้าแซน แซนดูเกร็งๆ “ตอบมาสิ ว่าเรื่องไหน”
“ผมรักพี่” แซนตอบเสียงหนักแน่น “เรื่องแพรวที่พูดต่อมา ผมพูดเพราะผมรู้ว่าพี่ยังปิดกลั้นตัวเองกับสังคม ผมเลยพยายามแก้ต่างให้”
“แต่แกก็รู้ว่าพี่ไม่อยากให้แก...ให้แกรักผู้ชาย” ผมพูดออกไปด้วยความรู้สึกเจ็บปวด หนึ่งความรู้สึกที่เจ็บปวดที่รักคนที่ชอบแต่ไม่อาจรักได้ กับอีกหนึ่งความสึกกับชีวิตของตนเองที่ผ่านมา “ชีวิตรักของเกย์มันไม่มีอะไรดีหรอก อย่ามารักพี่เลยแซน”
“ได้ไงอะ! ที่พี่ยังเป็นเกย์ได้เลย”
“ก็เพราะพี่เป็นเกย์ พี่ถึงรู้ไงว่ามันแย่แค่ไหน แกเคยเห็นเกย์คู่ไหนรักกันยังยืนบ้าง”
“แล้วพี่คิดว่าความรักของชายหญิงมันยังยืนหรือไง ถ้ายังยืนเขาจะหย่ากันทำไม”
“แซนเราห่างกันสักพักเถอะ” ผมตัดใจพูดออกไป “ความรู้สึกที่แกรู้สึกกับพี่ตอนนี้มันอาจเกิดจาก พี่กับแกใกล้กันมากเกินไป” ผมพูดจบผมหันหลังเดินตรงไปที่รถทันที
“ผมจะพิสูจน์ให้พี่ดู ว่าผมรักพี่จริง” นั้นเป็นคำพูดของแซนที่ผมได้ยิน ก่อนที่ผมจะออกจากที่นั้น ผมขับรถโฟล์คเต่าคู่ใจออกมาโดยไม่หันกลับไปมองข้างหลัง คำพูดของรุ่นพี่ยังดังก้องอยู่ในหู ผมไม่อยากจบความสัมพันธ์เพียงเท่านี้ ถ้าแซนเป็นเหลนของเพื่อนผม ผมคงรับรักได้ แต่นี้สายของผมเอง คำถามที่ผมเคยถามรุ่นพี่ด้วยความสนุกปาก แต่ตอนนี้สิ่งนี้มันกับกลายเป็นกรงขังความรู้สึกผม ทำไมผมต้องเกิดอยากรักษากฎบ้าๆนี้ด้วย
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อีกด้านหนึ่ง
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
...ผมยืนมองรถของคนที่ผมเคารพและรักจากผมไป ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเรื่องราวจึงเป็นแบบนี้ พี่โอ๊ตที่ผมรู้จักไม่ใช่แบบนี้ เหตุผลของเขาคืออะไรทำไมถึงไม่อาจบอกผมได้ ตอนนี้ผมรู้สึกปวดใจและเจ็บใจ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ น้ำตาผมค่อยๆไหลลงมาโดยที่ผมไม่รู้ตัว เมื่อรถลับตาไปไกล ไกลเกินกว่าจะมองเห็นผมค่อยๆเดินขึ้นห้องไป ภายในใจพยายามคิดหาทางออกที่เหมือนมันจะมืดแปดด้าน ผมนอนลงบนเตียงปล่อยให้น้ำตามันไหลไปเรื่อยๆ...
...ฝนตกปอยๆ บรรยากาศที่อึมครึม เทียบไม่ได้กับใจผม ผมหลับไปตอนไหนไม่อาจทราบได้ รู้เพียงว่าตอนนี้เช้าแล้ว ทุกๆเช้าในเวลานี้พี่โอ๊ตจะมาที่ห้องเพื่อปลุกผมไปเรียน แต่วันนี้ไร้วี่แววของพี่เขา ผมได้แต่นอนมองดูนาฬิกาไปเรื่อยจนเลยเวลาเข้าเรียน ผมไม่อยากทำอะไรผมขอนอนอยู่ตรงนี้ ผมรู้สึกหมดแรง หมดแรงกายและแรงใจ ผมขอนอนอยู่ตรงนี้ก็พอ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อีกด้านหนึ่ง
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
...วันนี้ฝนพร่ำตั้งแต่เช้า ผมทำธุระส่วนตัวตามปรกติก่อนขับรถเข้ามหาวิทยาลัย ผมขับรถเข้ามาทางที่ต้องผ่านหอของแซนด้วยความเคยชิน พอรู้ตัวต้องขับเลยเข้ามหาวิทยาลัยไปเลย
...วันนี้ผมเข้าเรียนความรู้สึกเหมือนอะไรขาดหายไป เพื่อนหลายคนร่วมทั้งอาจารย์ทักว่า วันนี้ดูผมแปลกๆ ดูเงียบๆซึมๆ ผมก็ได้แต่ยิ้มแหยๆ เวลาผ่านไป 3 ชั่วโมงยอมรับว่าวันนี้ผมไม่ได้อะไรเลย ภายในใจคิดถึงแต่เรื่องของแซน ถ้าพักเที่ยงเจอแซนจะทำอย่างไง ถ้าแซนมาทักจะทำอย่างไง สารพัดสาระเพ ผมเลยสรุปว่าวันนี้ผมจะเกาะกลุ่มเพื่อนให้มากที่สุด วันนี้ขอเป็นวันของเพื่อน พอเลิกเรียน ผมกับพรรคพวกเดินลงมายังโรงอาหารใต้ตึกที่ประจำของพวกเรา ต่างคนก็ต่างไปเลือกซื้ออาหารกลางวันของแต่ละคน ผมเดินตรงไปยังร้านสุกี้ สั่งสุกี้แห้งไก่ กับลุงเจ้าของร้าน ก่อนเข้าร้านไปช่วยรับออเดอร์ลูกค้า ผมกับลุงร้านนี้ค้อนข้างสนิทกัน แต่ก่อนผมจะมาช่วยงานลุงอยู่บ่อยๆ เพื่อแก้เซ็ง
“อ่าวพี่โอ๊ต”
“ดีเชษฐ์”
“รู้จักกับลุงเหรอ”
“เปล่า มาช่วยแกนะ จนสนิทกัน กินไรอ่ะ”
“สุกี้ทะเลน้ำ” ผมจดลงบิล
“อืม เลิกเรียนแล้วเหรอ”
“ครับ เออพี่แล้วไอ้แซนไม่มาเหรอ”
“วันนี้พี่ไม่ได้ไปรับนะ มันไม่มาเหรอ”
“อืมพี่ปรกติมันมานนะ หรือพี่รับมันตลอด”
“อืมประมาณนั้น”
“แล้วทำไมวันนี้พี่ไม่รับมัน”
“เออ...”
“ทะเลาะกันเหรอ”
“...”
“มีอะไรก็คุยกันดีๆ ไอ้แซนถึงแม้มันจะงี่เง่า แต่มันใช้เหตุผลเป็นหลักนะพี่”
“เออรู้แล้วนะ”
...หลังจากนั้นผมรับออเดอร์อีก 2-3 คน อาหารที่ผมสั่งก็ได้ ผมจ่ายตังค์แล้วขอตัวลา ผมเดินออกไปรวมตัวกับกลุ่มเพื่อน รู้สึกไม่อยากทานเลย ทั้งๆที่หิวอยู่แท้ๆ ในหัวผมมีแต่แซน ตอนนี้มันจะทำอะไรอยู่ มันจะทานข้าวหรือยัง แล้วทำไมวันนี้มันไม่มาเรียน หรือเพราะเรื่องเมื่อวาน ผมเริ่มไม่สบายใจกับการกระทำของผม
“กูไปก่อนนะ” ผมบอกเพื่อนๆ แล้วออกจากมหาวิทยาลัยตรงไปที่หอแซนทันที
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จบตอนที่ 18
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีครับ
...อยากบอกว่า “อารมณ์เสีย” ทีมงานช่วยดูหน้าเว็ปได้ไหมครับ พิมพ์ไปมันจะขึ้นข้างบนทุกทีเลยอ่ะครับ สุดท้ายก็ต้องมานั่งพิมพ์ผ่านเวิร์ด พอลงแล้วจะปรับรายละเอียดก็ยากมาก อยากตอบเม้นท์ก็ตอบไม่ได้ ช่วยดูทีนะครับ ขอบคุณครับ
...อีกเรื่อง ผมมีข้าวร้ายจะบอก ว่า...2 สัปดาห์ถัดจากนี้ ผมคงไม่ได้อัพเรื่องให้นะครับ เนื่องจากเข้าสู่เทศกาลการปั่นรายงาน และสอบ ดังนั้น 2 สัปดาห์ต่อจากนี้ ผมขอลาหยุดนะครับ แต่ไม่แน่จะหนีมาอัพให้ได้หรือเปล่า ถ้าแว๊ปมาได้ จะมาอัพให้ครับ
...สุดท้ายขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม ผมไม่อาจลงรายละเอียดหรือตอบกระทู้ของแต่ละคนให้ได้ ก็เอาเป็นว่าผมจะพยายามต่อไปและขอขอบคุณทุกกำลังใจนะครับ
โฟล์คเต่า