[เรื่องสั้น] Honesty - รักนี้ขอความจริงใจ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] Honesty - รักนี้ขอความจริงใจ  (อ่าน 19240 ครั้ง)

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0


**************************************************************


Honesty - รักนี้ขอความจริงใจ

คืนวันศุกร์...

เสียงดนตรีจากวงที่กำลังเล่นสดอยู่บนเวทีดังกระหึ่มไปทั้งร้าน บีตกลองประสานเข้ากับเสียงกีตาร์ เบสและคีย์บอร์ดเป็นจังหวะเร่งเร้าเอาใจเหล่าผีเสื้อราตรีที่กำลังวาดลีลากันอย่างไม่มีใครยอมใคร ผมยิ้มให้กับสาวน้อยในเสื้อรัดรูปที่จงใจเบียดเนินอกขาวผ่องเข้ากับอกผมระหว่างทางที่เธอจะเดินผ่านไปห้องน้ำก่อนจะปรายตาไปยัง “เขา” ที่กำลังยืนถือขวดเบียร์และโยกตัวตามจังหวะดนตรีอยู่กับเพื่อนอีกสองคนตรงโต๊ะด้านในสุด

แม้ความสลัวบวกกับระยะห่างอาจทำให้มองรายละเอียดได้ไม่ชัดเจน แต่เขาคนนั้นดูเหมาะสมกับคำบรรยายลักษณะว่า “เด็กหนุ่ม” มากกว่า “ชายหนุ่ม” เพราะจากจุดที่ผมยืนอยู่ก็พอบอกได้ว่าเจ้าของเครื่องหน้าที่ลงตัวนั้นดูอ่อนวัยจนไม่น่าเชื่อว่าจะอายุถึงเกณฑ์เข้าผับนี้ได้ เชิ้ตลำลองขนาดพอดีตัวที่เขาใส่ช่วยขับเน้นรูปร่างเพรียวที่ค่อนข้างผอม และเมื่อร่างนั้นขยับตามจังหวะดนตรีก็จะทำให้เกิดหลืบเงาบนร่างจากแสงไฟที่ไม่ได้สว่างไสวนักในร้าน

ภาพนั้นดึงดูดสายตาผมให้มองไปทางเขาบ่อยๆจนเพื่อนที่มาด้วยกันคงรู้เลยทำท่าสะกิดบอกเจ้าตัว ตอนแรกเขาก็แสดงท่าทางไม่ใส่ใจนัก แต่ผมก็เห็นว่านัยน์ตาที่เป็นประกายวาววามล้อแสงไฟคู่นั้นแอบเหลือบมาทางผมเป็นระยะ ผมเลยตั้งใจจ้องอย่างเปิดเผยให้เจ้าตัวรู้ว่าผมมองอยู่จริงๆ เมื่อสายตาเราทั้งคู่ประสานกันเขาก็แสดงท่าทางขัดเขินเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปหาเพื่อนของเขาต่อ แต่ถึงกระนั้นผมก็รู้ดีว่าสายตาคู่นั้นแอบฉวยโอกาสยามเพื่อนๆของเขาเผลอชำเลืองมาทางผมอีกหลายครั้ง

คืนนั้นผมออกมาก่อนที่ผับจะปิดด้วยความเสียดายโดยมีภาพของ “เขา” ประทับแน่นอยู่ในความทรงจำ

....

คืนวันศุกร์ สองสัปดาห์ถัดมา...

หลังเลิกงานผมแวะกลับบ้านเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะขับรถกลับไปยังผับที่ผมได้เจอ “เขา” อีกครั้ง ปกติแล้วผับที่ดนตรีเสียงดังและคนเบียดเสียดแออัดอย่างนั้นไม่ใช่สไตล์ที่ผมชอบ บางทีคงจะเป็นเพราะผมพ้นวัยที่สนุกสนานกับความจอแจและเสียงดังระคายหูเช่นนั้นแล้วก็เป็นได้ แต่ความว้าเหว่ของการต้องอยู่คนเดียวในช่วงหลังๆนี้ก็ทำให้ผมอยากไปเปิดหูเปิดตาในสถานที่ที่ไม่มีคนรู้จักบ้าง ความจริงผมเคยได้ยินเพื่อนนักเที่ยวหลายคนแนะนำร้านนี้มาก่อนแล้วแต่ไม่เคยคิดจะไปแวะไปจนเมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมา และผมคงไม่คิดจะกลับไปที่นั่นอีกถ้าไม่ใช่เพราะผมคาดหวังว่าอาจจะได้เจอ “เขา” เจ้าของนัยน์ตาหวานที่แม้ได้สบตากันจากระยะไกลก็ทำให้ผมหวั่นไหวคนนั้น

หากใครมาตั้งคำถาม ผมเองก็คงตอบไม่ถูกว่าทำไมถึงได้ติดใจ “เขา” นัก และหากวันนี้ได้พบเขาที่ผับนั้นอีกจริงๆผมจะทำอะไรเพื่อสานความสัมพันธ์กับเขามากไปกว่าการส่งสายตาให้หรือเปล่าผมก็ตอบไม่ได้ แต่ถึงกระนั้นผมก็ทนความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองไม่ไหวจึงต้องหาคำตอบด้วยการมุ่งหน้าไปยังผับแห่งนั้นอีกครั้ง

หลังเทียบรถจอดที่หน้าร้านและยื่นกุญแจให้พนักงานเอารถไปจอดให้แล้ว ผมก็ยื่นบัตรให้เจ้าหน้าที่หน้าทางเข้าตรวจก่อนจะก้าวเข้าไปภายใน คงเพราะผมมาตั้งแต่หัวค่ำเกินไปภายในร้านจึงยังพอมีที่ว่างอยู่บ้าง แต่บรรดาขาเที่ยวที่ทยอยตามเข้ามาไม่ขาดสายก็บ่งบอกให้รู้ว่าในไม่ช้าที่ว่างที่พอมีเหลืออยู่คงต้องถูกแย่งกันจับจองจนแทบไม่มีที่ยืนอย่างแน่นอน

ผมเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์และสั่งแจ๊ค แดเนียลส์ ออนเดอะร็อคมาจิบพลางกวาดตามองไปรอบๆร้าน ท่าทางพยับเมฆครึ้มที่ผมเห็นเมื่อตอนขับรถมาที่นี่จะเริ่มแปรสภาพเป็นพายุฝนแล้ว เพราะทุกครั้งที่ประตูร้านเปิดผมจะได้ยินเสียงซ่าของพายุฝนดังไล่หลังเข้ามา และลูกค้าบางรายที่เข้ามาสั่งเครื่องดื่มหรือนั่งอยู่โต๊ะไม่ห่างจากผมก็พากันบ่นกระปอดกระแปดเรื่องเสื้อผ้าและผมที่เปียกชื้นเนื่องจากหลบฝนไม่ทันระหว่างมาที่ร้าน

ผมยืนหันหลังพิงเคาน์เตอร์พลางละเลียดจิบวิสกี้และลอบสังเกตุบรรยากาศในร้านไปเรื่อยๆ หลายคนที่เดินแวะเวียนมาที่เคาน์เตอร์ยิ้มให้ผมพลางส่งสายตาเชิญชวนให้อย่างไม่ปิดบัง แต่ทุกครั้งผมจะเพียงยิ้มบางๆตอบก่อนจะหันกลับมาสนใจแก้วของเหลวในมือ หมุนช้าๆให้ความเย็นกระจายจากก้อนน้ำแข็งไปยังของเหลวทั่วแก้วแล้วยกขึ้นจิบ ผมยังไม่พบคนที่สนใจจากบรรดาชายหญิงมากหน้าหลายตาที่ผลัดเปลี่ยนกันเฉียดกรายเข้ามาในระยะสายตา และสำหรับผม หากไม่ใช่คนที่สามารถดึงดูดความสนใจของผมได้ตั้งแต่แวบแรกผมก็จะไม่เข้าไปทำความรู้จักให้เสียเวลา

“ขอโคโรนาสามขวดครับ”

เสียงที่ใสเด่นขึ้นมาจากเสียงดนตรีในร้านและคำลงท้ายประโยคทำให้ผมเหลือบไปมองคนสั่งอย่างสนใจ เพราะปกติแล้วผมไม่ค่อยเห็นผู้ชายสั่งเบียร์ยี่ห้อนี้นัก และวินาทีที่ได้เห็นเสี้ยวหน้าของผู้เป็นเจ้าของออร์เดอร์ หัวใจผมก็เต้นเร็วขึ้นพร้อมกับความรู้สึกตื่นเต้นที่วาบขึ้นในอกทันที

ดูท่าเจ้าของมือเรียวที่กำลังยื่นมือไปจ่ายเงินและรับขวดเบียร์ใสซึ่งมีซีกมะนาวเสียบอยู่ที่ปากขวดจะรู้ตัวว่ากำลังถูกจับจ้องจึงหันมา นัยน์ตาคู่นั้นฉายแววประหลาดใจขึ้นครู่หนึ่งก่อนเจ้าตัวจะรีบปรับสีหน้าเป็นเหมือนเดิม ถ้าหากผมไม่คิดเข้าข้างตัวเอง ผมคิดว่าเห็นประกายแห่งความยินดีในดวงตาคู่สวยที่หายไปแทบจะในทันทีที่กระพริบตา แต่ถึงกระนั้นผมก็เชื่อว่าผมไม่ได้พลาดสัญญาณนั้นอย่างแน่นอน

ผมยกแก้วเหล้าในมือขึ้นเป็นเชิงทักทาย “เขา” เมื่อได้เห็นใกล้ๆทำให้เห็นว่าใบหน้าเรียวรีที่มีคางแหลมมนนั้นยิ่งดูอ่อยวัยกว่าที่ผมจำได้เมื่อตอนที่มองจากระยะไกลเมื่อคราวก่อนเสียอีก เสื้อเชิ้ตสีขาวที่มีลายพิมพ์กราฟฟิคบนอกเสื้อข้างหนึ่งสะท้อนแสงฟลูออเรสเซนต์ในร้านเป็นสีม่วงอมฟ้าอ่อนๆ ขับใบหน้าเนียนเกลี้ยงเกลาให้ยิ่งดูมีเสน่ห์ลึกลับชวนมอง บนติ่งหูเล็กข้างซ้ายมีตุ้มเพชรใสที่ล้อแสงจนเป็นประกายสวมอยู่

ริมฝีปากอิ่มได้รูปสีสดยกยิ้มตอบก่อนเจ้าตัวจะหลบตาผมแล้วหยิบขวดเบียร์ทั้งสามไปจากเคาน์เตอร์ ผมมองตามทิศทางที่เขาเดินไปเพื่อดูว่าโต๊ะของเจ้าตัวอยู่ที่ไหนแล้วก็เห็นว่าเขามากับเพื่อนก๊วนเดิม ท่าทางเพื่อนสองคนนั้นก็คงจะพอคลับคล้ายคลับคลาผมอยู่บ้างจึงทำท่ากระซิบกระซาบกับเขาก่อนจะตบไหล่เจ้าตัวอย่างหยอกล้อ เขาค่อยๆเอี้ยวคอกลับมามองผมอีกครั้งก่อนจะรีบหันหลบวูบเมื่อผมทำท่าชูแก้วให้ ท่าทางเขินอายเช่นนั้นทำให้ผมอดหัวเราะในคอไม่ได้ ไม่น่าเชื่อว่าจะยังมีคนที่มาเที่ยวผับบาร์สมัยนี้ที่ทำท่าทางไร้เดียงสาได้อย่างเป็นธรรมชาติขนาดนี้อยู่อีก

เวลายิ่งดึกขึ้นเท่าไหร่ ดนตรีที่วงประจำร้านเล่นก็ยิ่งทวีจังหวะความเร่าร้อนมากขึ้นเท่านั้น เรือนร่างของเหล่าขาแดนซ์ที่โยกย้ายร่างกายไปตามจังหวะดนตรีบดบังโต๊ะที่ผมคอยมองอยู่เป็นบางช่วง ดูท่าทาง “เขา” จะกำลังสนุกกับบรรยากาศในร้านอย่างเต็มที่ ผมเองก็โยกคอกับเอานิ้วเคาะเคาน์เตอร์ตามจังหวะดนตรีบ้างเหมือนกัน แต่ผมเพลินกับการมองเขายามที่กำลังสนุกสนานกับเพื่อนๆมากกว่า

เมื่อเพลงสุดท้ายจบลงและนักร้องเอ่ยอำลากับลูกค้าในร้านก่อนจะยกเวทีให้วงที่ต้องขึ้นเล่นต่อไป ผมเห็นนัยน์ตาหวานของคนที่ผมคอยจับจ้องอยู่เหลือบมาทางผมอย่างมีความหมายก่อนเจ้าตัวจะผละจากเพื่อนร่วมโต๊ะ ผมเห็นดังนั้นก็รีบยกแก้วที่เหลือวิสกี้ติดอยู่เพียงก้นแก้วขึ้นดื่มจนหมดแล้วเดินเบียดฝูงคนที่กำลังส่งเสียงจ้อกแจ้กอยู่เพื่อเดินตามทิศที่ “เขา” กำลังเดินไปทันที

เสื้อสีขาวที่เรืองแสงฟลูออเรสเซนต์ของเขาสว่างจนเหมือนกับผิวของเขาเองที่เป็นคนส่องแสงนั้นออกมา และนั่นทำให้ผมไม่คลาดสายตาจากแผ่นหลังที่กำลังเดินหายขึ้นบันไดไปยังชั้นสองของร้าน เมื่อผมเดินตามขึ้นไปก็เห็นเขาเลี้ยวเข้าไปในห้องน้ำจึงเดินตาม แต่แทนที่จะพบเขาอยู่ในนั้น ผมเห็นว่าด้านในห้องน้ำมีประตูอีกบานที่เชื่อมออกไปยังระเบียงได้ ด้วยความมั่นใจว่าเขากำลังรอผมอยู่ที่หลังประตูนั้นผมจึงตรงไปเปิดประตูออก และได้พบว่าเขากำลังยืนรอผมอยู่แล้วจริงๆ เมื่อผมปิดประตูตามหลังมือเรียวขาวสองข้างก็ยื่นมากระชากปกคอเสื้อผมเข้าหาพร้อมกับแนบริมฝีปากร้อนรุ่มตามมาทันที

ด้วยความที่ถูกจู่โจมอย่างรวดเร็วทำให้ผมเกือบเสียหลักจึงต้องเอามือข้างหนึ่งยันผนังไว้ขณะอีกข้างรวบเอวผอมบางแล้วดันให้เขาเข้าไปยืนพิงผนัง รสเบียร์จากปลายลิ้นนุ่มที่พยายามจะรุกล้ำเข้ามาในปากทำให้ผมต้องยิ้ม แพขนตางอนยาวของเจ้าของใบหน้าที่กำลังหลับพริ้มขยับไปมา ผมสนองตอบคำขออย่างไร้เสียงของ “เขา” ด้วยการเผยอริมฝีปากให้ แต่ในวินาทีเดียวกันผมก็เปลี่ยนสถานะจากการเป็นคนถูกรุกด้วยการตวัดลิ้นแล้วดูดปลายลิ้นอุ่นของอีกฝ่ายอย่างแรงจนเขาหลุดเสียงครางออกมาด้วยความตกใจ

มือที่เมื่อครู่ยึดปกเสื้อผมไว้แน่นพยายามดันอกผมออกอย่างต่อต้าน ผมจึงผ่อนแรงลงและค่อยๆไล้ปลายลิ้นไปกับเรียวลิ้นของอีกฝ่ายอย่างปลอบโยน มือข้างที่ผมใช้ยันผนังเมื่อครู่ถูกยกขึ้นขยี้ติ่งหูนิ่มเบาๆขณะที่รสจูบเริ่มแปรเปลี่ยนจากดุดันเป็นอ่อนหวานและเย้ายวน ผมดันเข่าข้างหนึ่งเข้าไประหว่างขาเรียวใต้กางเกงยีนส์เข้ารูปและบดคลึงไปมาจนเขาต้องยกแขนที่สั่นสะท้านขึ้นโอบคอผมแน่น

“ดะ...เดี๋ยว...พอก่อน”

เสียงหอบหายใจแผ่วหวิวหลุดจากลำคออีกฝ่ายเมื่อผมปล่อยริมฝีปากที่ถูกจูบจนแดงช้ำให้เป็นอิสระ นัยน์ตาหวานที่พร่ามัวกระพริบถี่ขณะปรือตาขึ้นมองผม ใบหน้าขาวเนียนแดงเรื่อไปถึงคอขณะที่แขนสองข้างโอบรอบคอผมอย่างไร้เรี่ยวแรง

“ทำไมให้หยุดล่ะ คุณพาผมขึ้นมาที่นี่เองนะ”

ผมเอ่ยยั่วก่อนจะก้มลงดูดเม้มผิวเนื้อตรงต้นคอที่มีเหงื่อซึมนิดๆจนเจ้าตัวสะดุ้ง เสียงครางที่ราวกับเจ้าตัวพยายามสะกดกลั้นไม่ให้หลุดออกมายิ่งเร้าอารมณ์จนผมต้องยกเข่าตัวเองที่อยู่หว่างขาของเขาให้สูงขึ้นอีก

“อย่าเข้าใจผิดนะ! คุณ...คุณตามผมมาเองต่างหาก”

“เขา” เอ่ยท้วงด้วยเสียงตะกุกตะกัก แพขนตางอนยาวทั้งสองข้างหลุบลงเพื่อหนีสายตาของผมที่จ้องเขาแน่วนิ่ง แต่ถึงอย่างนั้นผมก็รู้กฎของเกมนี้ดี

ใครรับว่าเป็นฝ่ายเริ่มก่อนถือว่าแพ้ และหากโดนจับได้ง่ายๆมนต์เสน่ห์ของเกมนี้ก็จะหายไปทันที

เสียงสัญญาณบอกเวลาจากนาฬิกาข้อมือของผมดังขึ้นตัดกับความเงียบโดยรอบ เสียงที่ดังค่อยๆแต่เป็นจังหวะหยุดการเคลื่อนไหวของเราทั้งสองไปชั่วครู่ ร่างในอ้อมแขนตวัดสายตาขึ้นสบตากับผมก่อนที่ริมฝีปากสีสดจะคลี่ยิ้มขำ

“นี่คุณตั้งเวลาทั้งที่ออกมาเที่ยวด้วยเหรอ?”

“อืม...พอดีมีธุระสำคัญน่ะ ท่าทางผมจะอยู่ต่อไม่ได้แล้วล่ะ”

ผมเอ่ยก่อนจะปล่อยแขนที่โอบเอวบางให้เป็นอิสระ เรียวคิ้วของคนตรงหน้าขมวดมุ่นทันทีก่อนที่อ้อมแขนรอบคอผมจะกระชับแน่นขึ้น ผมยิ้มมองสีหน้าราวกับเด็กถูกขัดใจนั่นแล้วก็ก้มลงแนบจูบกับริมฝีปากบางเบาๆ

“อย่าดื้อสิครับ เจ้าชายต้องกลับปราสาทแล้วนะ”

ดูท่าทางประโยคยั่วล้อนั่นจะสะกิดต่อมโมโหเข้า แขนเรียวยาวที่โอบรอบคอผมเมื่อครู่จึงเปลี่ยนเป็นผลักผมออกอย่างแรงทันที

“เออ!! จะปราสาทหรือจะคุกที่ไหนก็รีบไสหัวกลับไปเลย! ไอ้บ้า ไอ้คนไม่มีหัวใจ!”

“เขา” ตวาดอย่างโกรธเกรี้ยวก่อนจะหันหลังหนีผม แขนเรียวข้างหนึ่งยกขึ้นปิดปากขณะที่อีกข้างกอดตัวเองไว้ แต่แม้ว่าเจ้าตัวจะพยายามสะกดกลั้นยังไงผมก็ได้ยินเสียงสะอื้นหลุดออกมาอยู่ดี

ใช่ว่าผมจะไม่รู้ว่าคนเมาจะอารมณ์อ่อนไหวง่ายกว่าปกติ แต่...เฮ่อ...ผมไม่ชอบเห็นใครมาร้องไห้ต่อหน้าเสียด้วยสิ

ร่างเพรียวสะดุ้งเมื่อถูกผมดึงตัวมาโอบกอดจากด้านหลังก่อนจะแนบจูบลงที่หางตาของเขาอย่างอ่อนโยน แต่นั่นกลับเป็นการเปิดทำนบน้ำตาที่เจ้าตัวพยายามปิดกั้นไว้ให้ไหลเอ่อออกมา

“คุณน่ะ...ก็....คุณ...ทั้งที่คุณเป็นฝ่ายมองผมก่อนแท้ๆ...ฮึก”

ร่างในอ้อมแขนพูดไปสะอื้นไปจนผมต้องลอบถอนหายใจ พูดอีกก็ถูกอีก ผมเป็นฝ่ายส่งสายตาเชิญชวนเขาก่อนจริงๆไม่ว่าจะเมื่อสองอาทิตย์ก่อนหรือเมื่อหัวค่ำที่ผ่านมา แล้วทั้งที่ “เขา” เป็นฝ่ายกล้าเริ่มเปิดทางให้ผมก็ดันมาทำให้อารมณ์ค้างเติ่งครึ่งๆกลางๆแบบนี้ใครบ้างจะไม่เสียความมั่นใจ แล้วดูท่าทางเขาก็ไม่น่าจะใช่พวกที่ชอบให้ท่าใครเสียด้วยสิ นี่ไม่รู้ว่าเพราะเมาหรือเพราะเพื่อนเชียร์หรือเพราะทั้งสองอย่างกันแน่เขาถึงได้กล้าทอดสะพานให้ผมก่อนแบบนี้

“อย่าร้องสิครับคนดี ผมขอโทษที่วันนี้ผมมีธุระจริงๆ ยังไงเราเจอกันวันหลังก็ได้นี่”

ผมกระซิบข้างหูเขาพร้อมกับโยกตัวร่างในอ้อมแขนอย่างปลอบโยน นัยน์ตาที่แดงช้ำจึงหันมาหาผมก่อนจะเอ่ยถามเสียงแผ่ว

“ถ้างั้นพรุ่งนี้ผมจะได้เจอคุณที่นี่ไหม?”

ผมหมุนตัวคนในอ้อมแขนให้หันมามองกันตรงๆก่อนจะใช้ปลายนิ้วไล้หยาดน้ำตาจากผิวแก้มเนียนให้ ใบหน้าหวานของเขาแสดงทีท่าเขินอายเมื่อถูกผมจ้องตานิ่ง

“...ได้เจอสิ ผมจะคอยอยู่ที่เดิม พรุ่งนี้ก็มองหาผมล่ะ”

ผมลดมือที่เคลียกับผิวแก้มใสก่อนจะก้มลงจูบริมฝีปากได้รูปสีสดอีกครั้ง เมื่อผละออกนัยน์ตาสุกใสคู่นั้นก็มองผมอย่างโหยหาจนผมเกือบจะเปลี่ยนใจ แต่สุดท้ายผมก็หักห้ามใจตัวเองแม้จะเสียดายอย่างสุดแสนแล้วหมุนตัวเดินจากมาได้สำเร็จ

สัมผัสจากริมฝีปากอุ่นและรสของเบียร์โคโรน่ายังคงติดตรึงอยู่บนปลายลิ้นผมจางๆ

....
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-06-2009 20:36:16 โดย bellbomb »

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
ผมยกเบรกมือขึ้นก่อนจะล็อกรถแล้วสาวเท้าเร็วๆไปที่อาคารผู้โดยสารขาเข้า โทรศัพท์มือถือในอกเสื้อไม่ส่งสัญญาณเรียกเข้าทั้งที่ผมกะเวลาผิดจนมาถึงสนามบินช้าไปเกือบครึ่งชั่วโมงทำให้ใจชื้นขึ้นว่าตัวเองไม่ได้มาสาย พอผลักประตูแก้วใสผ่านเข้าไปในอาคารกระจกขนาดใหญ่ผมก็เห็นแถวผู้ที่มารอรับผู้โดยสารเริ่มบางตาแล้ว

ผมมองซ้ายขวาก็ไม่พบใบหน้าคุ้นตา แต่ขณะที่กำลังจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกผมก็เห็นคนที่ผมเฝ้าคิดถึงมานานก้าวออกมาจากห้องน้ำพอดี

ร่างผอมสูงทว่าเตี้ยกว่าผมนิดหน่อยในเสื้อแจ๊กเกตหนังและกางเกงยีนส์ที่ไม่ถึงกับพอดีตัวแต่ก็ช่วยขับเน้นช่วงขาเพรียวยาวกำลังยืนกดโทรศัพท์เหมือนส่งเมสเสจหาใครอยู่ เสี้ยวหน้าด้านข้างที่กำลังขมวดคิ้วจ้องหน้าจออย่างตั้งใจทำให้ผมอดยิ้มอย่างเอ็นดูไม่ได้ ท่าทางที่กำลังสนใจสิ่งที่ได้เห็นบนหน้าจอมากจนไม่ทันสังเกตุเห็นผมที่เดินเข้าไปใกล้ๆทำให้ผมนึกอยากแกล้งขึ้นมา

“เบิร์ดครับ คิดถึงจังเลย”

ร่างในอ้อมแขนที่โดนผมรวบมากอดอย่างกะทันหันอุทานอย่างตกใจจนเกือบทำโทรศัพท์หล่น แต่พอเจ้าตัวหันมาทำตาดุใส่ผมก็ยิ้มตาเป็นมันให้

“ท่าทางที่ปรากจะยังหนาวอยู่นะเนี่ย ตัวเบิร์ดยังเย็นๆอยู่เลย หรือว่าไง?”

“มาสายแล้วยังจะเล่นอะไรเป็นเด็กๆอีก รีบเอากระเป๋าผมไปที่รถได้แล้ว ผมเหนื่อย อยากกลับบ้าน”

แม้คนพูดจะพยายามทำเสียงเรียบแต่ผมก็บอกได้จากความคุ้นเคยว่าเจ้าตัวกำลังหงุดหงิด ผมเลยยอมปล่อยมือและหันไปผลักรถเข็นสนามบินที่มีกระเป๋าเดินทางใบเขื่องสองใบวางอยู่กลับออกไปที่ลานจอดรถแต่โดยดี

ระหว่างที่เข็นรถไปผมก็แอบมองหน้าคนรักที่ไม่ได้เจอกันนานเป็นปีไปด้วย แม้เจ้าตัวจะยังไม่ถอดแจ็กเก็ตหนังออกแต่ผมมองปราดเดียวก็รู้ว่าเบิร์ดผอมซูบไปนิดหน่อย ใต้ขอบตามีรอยคล้ำจางๆเหมือนคนนอนไม่พอ แต่กระนั้นนัยน์ตาสีเข้มที่มักเปล่งประกายอย่างคนที่มั่นใจในตัวเองเต็มเปี่ยมก็ยังดูทรงพลังและมีเสน่ห์ดึงดูดใจไม่เปลี่ยน

ครับ...ผมมีคนรักอยู่แล้ว ผมกับเบิร์ดคบกันมาตั้งแต่สมัยที่ยังเรียนอยู่มหา’ลัย ถ้านับเวลาที่เราคบกันเบ็ดเสร็จตอนนี้ก็หกปีเข้าไปแล้ว และผมก็ไม่เคยรักใครมากเท่าเบิร์ดมาก่อนเลยด้วย

ยกเว้นบางเวลาที่เห็นคนหน้าตาน่ารักถูกใจก็อาจหลงมองตามบ้าง แต่ก็นานๆทีหรอกนะ

“ทำไมถึงมาช้า?”

หลังจากนั่งเงียบมาจนอีกไม่กี่นาทีจะถึงบ้านเบิร์ดก็เอ่ยถามขึ้น ผมเหลือบมองสีหน้าไม่แสดงอารมณ์ของคนข้างตัวก่อนจะกลืนน้ำลาย แม้ดูจากภายนอกจะเหมือนเจ้าตัวแค่ถามเป็นเชิงสนทนาแต่ผมก็รู้ว่านี่เป็นเสียงที่เจ้าตัวชอบใช้เวลารู้ว่าผมปิดบังความลับอะไรอยู่ และขืนผมบอกความจริงออกไปมีหวังระเบิดลงตั้งแต่ยังไม่ถึงบ้านแน่

“ก็ไปเที่ยวกับพวกไอ้เต๋ออยู่ เบิร์ดก็รู้ว่าไอ้พวกนี้เหล้าเข้าปากทีไรหยุดยากจะตาย นี่ผมก็ต้องเอาชื่อเบิร์ดไปขู่มันตั้งนานกว่ามันจะยอมปล่อยผมมาได้”

“เหรอ แต่ทำไมกิตโทรบอกผมว่าเห็นพลไปเที่ยวคนเดียวที่ร้านประจำของหมอนั่นได้ล่ะ?”

เสียงพูดเรื่อยๆของเบิร์ดทำให้ผมรู้สึกเย็นสันหลังวาบขึ้นมา หรือว่า...ตายห่า นี่ขนาดผมอุตส่าห์เลือกร้านที่ไกลวงโคจรของคนรู้จักแล้วนะ ดันเป็นร้านประจำของลูกพี่ลูกน้องแฟนผมหรือนี่

“กิตตาฝาดหรือเปล่า สงสัยเห็นใครท่าทางคล้ายๆผมมากกว่ามั้งเลยนึกว่าเป็นผม”

“หึ แล้วที่หายไปกับเด็กอีกคนที่ชั้นสองของร้านตั้งนานนั่นล่ะ จะให้ผมโชว์ MMS ที่กิตถ่ายรูปคุณจากที่ร้านให้ดูเป็นหลักฐานมั้ย?”

ไอ้เวรประกิต!! อยู่ดีไม่ว่าดีชอบเสือกเรื่องชาวบ้านดีนัก อย่าให้เจอกันคราวหน้านะมึงพ่อจะจับกระทืบให้ไส้แตก!!

บรรยากาศในรถเงียบจนน่าอึดอัดไปตลอดทาง พอผมเลี้ยวเข้าจอดในรั้วบ้านปุ๊บเบิร์ดก็เปิดประตูแล้วเดินนำลิ่วเข้าไปในบ้าน ขณะที่ผมกำลังพะวักพะวนว่าจะตามเข้าไปเลยดีหรือเอากระเป๋าลงมาก่อนก็โดนเสียงเฉียบขาดเรียกไว้

“กระเป๋าทิ้งไว้อย่างนั้นแหละ แล้วก็รีบเข้ามาเร็วๆ”

พอโดนสั่งผมเลยล็อกรถแล้วรีบก้าวตามคนรักเข้าไปในบ้านแต่โดยดี แต่ยังไม่ทันจะปิดประตูตามหลังก็โดนสองแขนล็อกคอแล้วเหวี่ยงให้ล้มลงบนโซฟาก่อนจะโดนร่างเพรียวขึ้นคร่อมทับและแนบริมฝีปากร้อนๆมาปิดปากเสียก่อน

“เบิร์ดครับ...โอ๊ย!!”

ผมครางไม่เป็นภาษาเมื่อโดนอีกฝ่ายใช้ปลายเล็บครูดอย่างแรงไปบนหน้าอกที่โดนถอดกระดุมเสื้อออกตอนไหนไม่รู้ โชคดีว่าเบิร์ดชอบไว้เล็บสั้นเลยไม่ถึงกับจิกเข้าเนื้อ แต่ก็ทำเอาผมแสบๆร้อนๆผิวไปเหมือนกัน ร่างกายท่อนล่างของคนที่คร่อมผมอยู่บดเบียดขึ้นลงอย่างปลุกเร้าจนนอะไรๆของผมที่อารมณ์ค้างเติ่งมาตั้งแต่อยู่ที่ผับลุกพรึ่บขึ้นมาใหม่

“ละสายตาหน่อยไม่ได้เลยใช่มั้ย? เด็กนั่นน่ารักมากเลยรึไง ไหนบอกมาซิ”

เบิร์ดถอยตัวลงก่อนจะก้มลงขบติ่งเนื้อบนหน้าอกผมจนเป็นรอยแดงทั้งสองข้าง พอผมจะยกมือขึ้นสัมผัสเจ้าตัวบ้างก็โดนมือที่ดูบอบบางแต่แรงเยอะเกินคาดดึงเข็มขัดตัวเองมารัดมือผมไว้เหนือหัว แถมการที่เจ้าตัวนั่งคร่อมผมอยู่ทำให้ผมขยับตัวไม่ได้ดั่งใจ ยิ่งดิ้นก็เหมือนจะยิ่งทำให้คนรักที่เคยได้เทควันโดสายดำไม่พอใจหนักเข้าไปอีก สุดท้ายผมเลยหลับตาก่อนจะถอนหายใจยาวอย่างยอมรับชะตากรรมของตัวเอง

“จะมาโทษผมฝ่ายเดียวไม่ได้นะ ก็ช่วงหลังๆนี้เบิร์ดไม่ยอมโทรมาหาผมเลย ผมโทรไปเบิร์ดก็ไม่ค่อยอยากคุยด้วย ผมก็เหงาเป็นเหมือนกันนี่”

แก้ตัวไม่ออกก็ต้องใช้ไม้นี้แหละ ก็เมียผมปล่อยให้ผมเหงาเฝ้าบ้านอยู่คนเดียวมาเป็นปีเลยนี่นา ผมละเกลียดงานคณะติดตามท่านทูตที่เบิร์ดทำอยู่จริงๆ ทั้งที่ผมขอแล้วขออีกว่าให้ลาออกมาทำงานบริษัทเดียวกับผมจะได้ไม่ต้องเดินทางไปไหนไกลๆนานๆก็ไม่เชื่อ

“แล้วพลเลยต้องแก้เหงาด้วยการไปตกเด็กในผับงั้นเหรอ?”

เสียงคนที่นั่งทับผมอยู่เข้มขึ้นจนผมชักเสียวๆ แต่เรื่องอะไรจะยอมรับให้ซวยล่ะ ผมยังไม่อยากถูกน็อคทั้งที่เพิ่งได้เจอหน้าหวานใจหรอกนะ

“นี่ๆ ผมไม่รู้นะว่าไอ้กิตมันบอกเบิร์ดว่าอะไรบ้าง แต่ผมเพิ่งไปผับนั่นเป็นครั้งที่สองเอง อีกอย่างผมไม่เคยมีอะไรกับใครนอกจากเบิร์ดจริงๆ สาบานให้ก็ได้เอ้า”
  
“ไม่เชื่อ อย่างนี้ต้องพิสูจน์”

ผมกลืนน้ำลายเมื่อคนเบื้องบนลุกขึ้นนั่งตัวตรงก่อนจะค่อยๆถอดแจ็ตเกตกับเสื้อตัวในออก ตามด้วยซิปกางเกงที่ไร้ชั้นในอยู่ข้างใต้ เรือนร่างที่อาบย้อมไปด้วยแสงไฟของเบิร์ดขาวโพลนอยู่บนตัวผม ยิ่งเมื่อไล่สายตาลงไปตามแผ่นอกและหน้าท้องแบนราบจนถึงจุดที่แสดงความต้องการของเจ้าตัวผมก็ยิ่งรู้สึกว่าน้องชายของตัวเองมันชักอึดอัดที่โดนทับและอยากออกมารับอากาศภายนอกมากขึ้นทุกที  แต่นัยน์ตาที่หรี่มองผมด้วยประกายดุดันก็ทำให้ผมไม่กล้าขยับตัวหรือแม้แต่จะส่งเสียงทัดทาน

“เก็บกดนักใช่มั้ย งั้นเดี๋ยวผมจะทำให้พลจำได้เองว่าตรงนี้ของพลน่ะผมมีสิทธิ์เคลมได้คนเดียว”

....

เสียงหอบหายใจของเราสองคนประสานกันอย่างเหนื่อยอ่อน ร่างกายเหนียวเหงื่อของสุดที่รักฟุบอยู่บนอกผมทั้งๆที่ไอ้หนูของผมยังคาอยู่ในตัวของเบิร์ดอยู่เลย บทรักเร่าร้อนของสองชั่วโมงก่อนผ่านไปเร็วราวกับฝันโดยที่ผมได้แต่นอนนิ่งๆให้เบิร์ดทำทุกอย่างกับร่างกายตัวเองตามใจ แต่ก็ใช่ว่าผมจะไม่ชอบเวลาเบิร์ดเอาแต่ใจแบบนี้หรอกนะ

ไม่รู้ว่าเบิร์ดเหนื่อยจนเผลอหลับไปหรือยังไง แต่พอผมขยับตัวเพราะความเมื่อยก็ได้ยินเสียงครางในคออย่างไม่พอใจของคนที่นอนทับผมอยู่

“เบิร์ด อย่าเพิ่งหลับสิ แก้มัดให้ผมก่อน”

ผมพยายามขยับตัวในส่วนที่พอจะขยับได้ ซึ่งรวมถึงการยกสะโพกที่ถูกคร่อมอยู่ด้วย แต่ไอ้การทำแบบนั้นดันทำให้ท่อนล่างอุ่นๆของเบิร์ดตอดรัดไอ้หนูของผมจนชักจะเกิดอารมณ์ขึ้นมาอีกทั้งที่โดนขย่มจนแตกในตัวเบิร์ดไปตั้งสามรอบแล้ว นี่ยังไม่รวมที่เบิร์ดแตกในตัวผมก่อนหน้านั้นไปรอบนึงอีกต่างหาก

ปกติเบิร์ดจะเป็นฝ่ายรับตลอดเวลาที่เรามีอะไรกัน ยกเว้นเวลาที่เจ้าตัวโมโหหรืออยู่ในอารมณ์ที่อยากสลับตำแหน่งบ้าง ซึ่งผมก็ไม่ขัดข้องตราบใดที่มันไม่บ่อยจนเกินไป ก็ผมยังไม่อยากเปลี่ยนเป็นฝ่ายรับถาวรนี่คร้าบ

เหมือนเบิร์ดจะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองใช้เข็มขัดพันธนาการผมไว้ เจ้าตัวเลยปรือตาขึ้นก่อนจะยื่นแขนไปปลดเข็มขัดออกจากข้อมือให้ แต่ด้วยความที่ผมโดนมัดในท่านั้นมานาน แถมยังนอนตัวเกร็งตลอดเวลาที่โดนเบิร์ดทำโทษอย่างไม่ปราณีปราศัยเมื่อครู่ ข้อต่อหัวไหล่ผมเลยปวดแปล๊บไปหมดเมื่อพยายามจะยกแขนกลับมากอดคนที่ทำผมหมดแรงไว้

ลิ้นอุ่นๆของเบิร์ดไล้ไปมาบนริมฝีปากผมก่อนจะชอนไชเข้ามาในโพรงปาก และผมก็เผยอปากรับก่อนจะจูบกลับแต่โดยดี สงสัยการได้ปลดปล่อยอารมณ์ออกไปเมื่อครู่จะทำให้แฟนผมอารมณ์ดีขึ้นบ้างแล้ว

“ทีนี้ยังจะกล้านอกใจอีกมั้ย?”

เบิร์ดเท้าแขนขึ้นมองผมตาดุทั้งที่น้ำเสียงมีแววเหนื่อยอ่อน และนั่นก็ทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่าเพราะอะไรผมถึงได้ชอบยั่วแฟนด้วยการทำทีเป็นมีคนอื่นนัก ก็เพราะเวลาเบิร์ดโมโหแล้วจะชอบแสดงอาการหึงหวงอย่างเร่าร้อนแบบนี้ออกมาน่ะสิ และถึงแม้บางทีผมอาจจะเผลอตัวเผลอใจกับใครไปบ้าง แต่เอาเข้าจริงผมก็ทำใจมีอะไรกับคนอื่นนอกจากเบิร์ดไม่ได้หรอก

“ไม่กล้าแล้วครับที่รัก แต่ถ้าคราวหน้าเบิร์ดหายไปนานๆอีกผมก็ไม่รู้ว่าจะทนเหงาคนเดียวไปได้นานแค่ไหนนะ โอ๊ยๆๆ!!”

พูดยังไม่ทันจบประโยคผมก็ต้องแหกปากร้องด้วยความเจ็บ จะไม่ให้แหกปากได้ไงล่ะครับ สุดที่รักผมเล่นจิกเล็บเข้ามาตรงสีข้างเต็มแรงทั้งสองข้างเลยนี่ ถึงเนื้อไม่หลุดติดมือออกมาก็ต้องทิ้งรอยเล็บเขียวช้ำไว้แหงๆ นี่สงสัยกะให้วันพรุ่งนี้ผมลุกไม่ไหวไปทั้งวันเลยมั้งนี่

“งั้นก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นแล้ว ผมทำเรื่องยื่นกับผู้ใหญ่ไปแล้วว่าจะขอกลับมาประจำกระทรวงที่เมืองไทย ไม่ขอติดตามคณะท่านทูตแล้ว”

เบิร์ดว่าก่อนจะผงกหัวขึ้นยิ้มให้ แต่แล้วคิ้วเรียวก็ขมวดมุ่นเมื่อเห็นผมกระพริบตาปริบๆ

“ทำไม? ไม่ดีใจที่ผมบอกว่าจะกลับมาประจำที่นี่หรือไง อยากไปหาเศษหาเลยกับกิ๊กทั้งหลายของคุณอีกล่ะสิ”

“เฮ้ยๆ! อย่าเพิ่งเข้าใจผิดสิ ผมกำลังดีใจต่างหาก เบิร์ดก็รู้ว่าผมขอเบิร์ดเรื่องนี้มานานแค่ไหนแล้ว แต่แบบนี้ก็เหมือนผมไปขัดโอกาสก้าวหน้าของเบิร์ดเลยไม่ใช่เหรอ?”

ผมรีบกดศีรษะที่มีผมนุ่มๆของคนรักลงแนบอก ในใจยังสับสนไม่หาย ความรู้สึกแรกที่ผุดขึ้นมาคือความดีใจแน่นอนอยู่แล้วที่จะได้เห็นหน้าและอยู่ใกล้ๆคนที่รักทุกวัน แต่อาจเพราะอีกด้านหนึ่งผมก็ค่อนข้างชินกับชีวิตคู่ที่มีอิสระเพราะเบิร์ดต้องเดินทางไปต่างประเทศครั้งละนานๆอยู่พอสมควร ตอนนี้มันเลยยังงงๆกับตัวเองอยู่เท่านั้นเอง

“ทำงานในกระทรวงก็ก้าวหน้าได้น่ะ อีกอย่างถ้าเข้าตาจนจริงๆผมให้ลุงช่วยวิ่งเต้นให้ก็ได้ พลลืมแล้วหรือไงว่าลุงผมเป็นใคร?”

พอโดนทักขึ้นมาเลยทำให้นึกขึ้นได้ เออจริง ผมก็ลืมไปสนิทว่าเครือข่ายญาติฝ่ายแม่ของแฟนผมนี่เต็มไปด้วยผู้มีอิทธิพลในวงการทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังเต็มไปหมด ส่วนเหตุผลว่าทำไมผมถึงยังไม่ถูกท่านๆทั้งหลายนั่นจับไปเผานั่งยางโทษฐานเอาหลานชายสุดที่รักมาเก็บไว้เชยชมคนเดียวนี่ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน  

“งั้นต่อไปนี้เบิร์ดก็ไม่ต้องเดินทางไปต่างประเทศทีละนานๆอีกแล้วสิ”

ผมได้ยินเสียงหัวเราะในคอจากคนที่กำลังไล้ปลายนิ้วเขี่ยยอดอกผมไปมาจนขนลุกซู่ เบิร์ดผงกหัวขึ้นหอมแก้มผมก่อนจะยิ้มให้อีกครั้ง แต่ไม่รู้เพราะความเพลียจนตาพร่าหรือเปล่าทำให้ผมรู้สึกว่านัยน์ตาสวยคู่นั้นดูเหี้ยมๆพิกล

“ใช่ เพราะฉะนั้นก็เตรียมบอกลาเด็กๆทั้งหลายในสังกัดของคุณไว้ได้เลยนะ เพราะต่อจากนี้ไปผมจะทำให้พลไม่มีแรงเหลือแม้แต่จะออกไปหาเด็กพวกนั้นไหวเอง”

เอ่ยจบเบิร์ดก็แลบลิ้นเลียริมฝีปากก่อนจะยกตัวขึ้นนั่งคร่อมจุดยุทธศาสตร์ของผมอีกครั้ง แว่บหนึ่งผมนึกถึงใบหน้ามีความหวังของ “เขา” ที่ผับหลังจากผมให้คำสัญญาว่าจะกลับไปพบในคืนวันพรุ่งนี้ แต่แล้วเมื่อคนเบื้องบนเริ่มบดคลึงสะโพกไปมาและก้มลงจูบไซ้ซอกคอผมไปด้วยความสำนึกผิดในใจที่มีต่อเขาคนนั้นก็หายไปทันที

เอาเถอะ ไหนๆตัวจริงของผมก็กลับมาอย่างถาวรแล้วนี่ คงต้อง(พยายาม)บอกลานิสัยเจ้าชู้ของตัวเองให้เด็ดขาดเสียทีก่อนจะเป็นฝ่ายโดนแฟนทำชะตาขาดจะดีกว่าล่ะมั้ง


+---End---+
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-05-2009 22:21:55 โดย bellbomb »

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
เรื่องสั้นคราวนี้เป็นเรื่องตอนเดียวจบในตัวจริงๆไม่มีตอนต่อนะเจ้าคะ (ใครติดตามงานอิป้ามาก่อนจะรู้ว่าอิฉันเขียนเรื่องสั้นเมื่อไรมันได้ต่อขางอกออกมาทุกที) :z3:

คนที่พอคุ้นเคยกับงานเขียนของป้าอยู่บ้างอาจจะรู้สึกว่าพระเอกกับนายเอกเรื่องนี้ค่อนข้างฉีกสไตล์พระ-นายที่ป้าชอบเขียน ซึ่งจริงๆก็ตั้งใจให้ออกมาแบบนั้น (แต่ถ้าใครบอกว่ามันก็ยังเหมือนเดิมนี่คงแซดสุดๆ) โครงเรื่องที่วางไว้ตอนแรกนั้นไม่ใช่แบบนี้ แม้จะมีธีมเรื่องการนอกใจมาเอี่ยวเหมือนกัน แต่คงเพราะฤทธิ์ยาลดน้ำมูก+อาการหวัดที่ติดต่อกันมาหลายวัน หากผลงานที่หลุดออกมาชิ้นนี้มันประหลาดอย่างไรก็คงต้องขอให้ติชมกันมาจะได้รับทราบเป็นแนวทางแก้ไข พอดีอิป้าอยากทำอะไรให้มันแหวกแนวงานเขียนชิ้นอื่นของตัวเองบ้าง อย่างน้อยถ้าคนอ่านเห็นว่าสนุกก็ดีใจแล้วค่า

ขอบคุณคนอ่านทุกคนและคอมเม้นต์ทุกคอมเม้นต์เจ้าค่ะ
  :bye2:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-05-2009 23:23:43 โดย bellbomb »

mecon

  • บุคคลทั่วไป
ถึงจะจบแบบน่าเสียดาย "เขา"คนนั้นของพล
แต่อยากจะบอกว่า เยี่ยมจริงๆคะ ทั้งสำนวน ภาษา
การดำเนินเรื่อง เจ๋งจริงๆ อ่านแล้วแบบ ทั้งพลนี่ก็ประหนึ่ง
เสือออกล่าเหยื่อ แบบมีชั้นเชิงไม่ใช่ว่าจ้องแต่จะตะครุบไปเรื่อย
แต่เลือกเหยื่อชั้นดี มองไปเรื่อยๆแต่มีชั้นเชิง จนเหยื่อหลงติดกับ
ส่วน"เขา" ที่ก็แรงได้อีก ถึงจะเปิดทางให้ราชสีห์เต็มที่แต่ก็นะ
อาจจะเรียกได้ว่า มันช้าไปสักนิด เหอะๆ พ่อเจ้าประคุณเกิดบ่ายเบี่ยงเล่นท่า
ซะนี่ เหยื่อวัยละอ่อนเลยน้ำตาไหลพรากเลยอ่ะ ถ้าเป็นคนอื่นเค้าไม่ปล่อยให้
หลุดมือหรอกนะ
ส่วนเิิบิร์ดนี่แม่เสือดีๆนี่เอง สุดยอดแบบว่าจับคนโกหกได้ชงักนั่น
พร้อมหลักฐานคามือด้วย ซวยเกิ๊นเจ้าพล แล้วเจอบทลงโทษหึงโหด
แบบนี้ จากเสือก็กลายเป็นแค่แมวป่าไปซะงั้น เป็นคู่ sm จริงๆ 55
ดีแล้ว ปล่อยเยาวชนของชาติไปเหอะ เจอแบบนี้ก็ไม่ไหว ถ้าเบิร์ดจับได้
แบบคาตาอ่ะนะ นุ้งวัยละอ่อนจะซวยป่าวๆ

เป็นเรื่องสั้นที่ได้อะไรมากๆคะ ขอบคุณนะคะ +1 จัดให้คะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-05-2009 00:04:19 โดย mecon »

patiharn

  • บุคคลทั่วไป
 :L2:เป็นกำลังใจคนเขียน แต่พระเอกเนี่ยมาแนวนี้บ่อยๆตัวจะลายกลายเป็นเสือจริงเพราะรอยเล็บนะจ๊ะ

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
 :sad4: สงสารเด็กคนนั้น ป้า เขียนเรื่องต่อไปให้เด้กคนนั้นเจอคนดีๆ ที่ไม่ใช่ พลจิ แอร๊ยยยส์ รักเด็กสงสารเด็ก  :z10:

loveorlike

  • บุคคลทั่วไป
 :z1:น้านนนนนนนนนนนนนนน
ไม่ไหวแล้วชอบจังเลย แต่ว่าน่าสงสารเขาคนนั้นที่รออยู่จริงๆเลย
ฮ่าๆๆ...แต่ว่าถ้าตัวจริงร้อนแรงขนาดนี้เห็นทีคงต้องน่าสงสารต่อไปนะจ้า
กีสสสสสสส...ชอบมากมายเลยพี่บีบี
เริงร่าจริงๆได้ข่าวยังไม่ได้ไปอ่านอ๊อฟนะ เป้วิวเลยแอบแซงคิวมาอ่านเรื่องนี้ก่อน
หึหึ....อยากอ่านอีกๆๆๆๆๆๆ :-[

หายป่วยแล้วใช่มั้ยค่ะดูแลตัวเองนะเป็นห่วงๆ กอดดดดดดดดดดด :กอด1:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
แอร๊ยยยยยยยย ชอบเรื่องนี้จังเลยป้า

ธีมเรื่องแบบนี้สนุกดี ความจริง ป้าลากยาวต่อได้นะ อยากอ่านต่ออะ

ส่วนเด็กน้อยคอยรักคนนั้นขอเคลมต่อเองได้ปะ  เค้ารักเด็ก  :o8:

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
เจ้าพลนี่ ให้อิมเมจพระเอกแบบโฉด ๆ ดีจริง ๆ แต่สงสาร "เขา" คนนั้นจัง ป่านนี้จะมีใครมาดามใจรึยังนะ  :impress3:

ออฟไลน์ both^^

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +730/-4
คนเจ้าชู้ต้องเจอแบบนี้หละ

สมกันดี

กร๊ากกกกกกกกกกกกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






น้ำค้าง

  • บุคคลทั่วไป
อุ๊ยตายจริง พระเอกคนนี้ของป้าช่างเจ้าชู้อ่อนโยน ละเมียดละไมจริงๆ สงสารน้องคนนั้นซะแล้ว ที่พี่พลไปสัญญาซะดิบดีถึงคืนพรุ่งนี้  ขืนไปคงโดนเจี๋ยนแหง ท่าทางน้องเบิร์ดแกดุซะขนาดนั้น

เรื่องนี้ฉีกแนวเรื่องที่ผ่านมาของป้าจริงๆ แหละ โดยเฉพาะนายเอกไม่เคยเห็นใครดุขนาดนี้เลย

ออฟไลน์ moonlight

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-0
เหมาะกันดีนะ

ผัวเจ้าชู้ กับเมียดุ  หุหุ

 :L2:หายไว้ๆนะค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
แวะตอบคอมเม้นต์สักนี้ดดด  :pig4:

mecon ขอบคุณค่า คอมเม้นต์ยาวๆอย่างนี้ละชอบอ่านนัก อาจเป็นโชคดีของน้องเขาแล้วละที่เจ้าพลต้องกลับไปหาตัวจริง อิอิ
patiharn   555 ท่าทางพระเอกจะชอบตัวลายล่ะค่ะ ไม่งั้นอยู่กับนายเอกไม่รอดแน่ๆ
Poes   พี่หนึ่งอย่ายุ เดี๋ยวเขียนจริงๆ (เค้าก็รักเด็กสงสารเด็กเหมือนกันนะ แอร๊ยยยส์)
LOVEJUICE  ดีขึ้นเยอะแล้วจ้ะจจ. ว่าแต่สงสัยจะติดใจนายเอกดุๆอย่างนี้ละสิเนี่ย (พี่ก็ชักติดใจแล้วเหมือนกัน :D )
dahlia แอร๊ยยยย ขอรับไว้พิจารณาแต่ไม่สัญญานะคะ แค่นี้ก็เรื่องในกรุหลายเรื่องเลี้ยวง่า
mist  เรื่องของเรื่องก็อยากให้พระเอกมันภาพพจน์ออกมายังงั้นล่ะค่ะ ส่วนน้องคนนั้นสักวันคงได้เจออะไรที่ดีกว่าเจ้าพลแหละนะ -*-   
both^^  อย่างนี้เค้าเรียกคู่สร้างคู่สม ฮา~
น้ำค้าง  ถึงเบิร์ดจะดุแต่ก็ดุเพราะรักน้อ 
moonlight  คนเจ้าชู้มันก็ต้องคู่กับคนดุยังงี้ละ แล้วก็ขอบคุณสำหรับกำลังใจข้ามทวีปด้วยจ้า


ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
 :z13:

มันเป็นการลงโทษที่แสนหวานซะขนาดนี้

หุหุ แล้วจะอดไม่นอกใจบ่อยๆ ได้ไง  :z1:

LiuXin

  • บุคคลทั่วไป
เขียนดีจังค่ะ
ขนาดเป็นตอนสั้นยังทำเอาติดได้เลยนะเนี่ยะ
อยากอ่านเรื่องยาวบ้างจัง อิอิ
 o13

ออฟไลน์ cartoons

  • "ละอองกอ"
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
 :L2: น่ารักดีอ่ะ  แต่ว่านะ สงสารเดะคนนั้นเหมือนกานน้อออออออออออออออออออ







 :กอด1: ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆอีกเรื่องนะคระ



patz

  • บุคคลทั่วไป
สงสารหนุ่มน้อยหน้าใสคนนั้นจัง


แต่ถ้ามีแฟนอย่างเบิร์ด ก็จะไม่ออกไปไหนเลยจริงๆ อิอิ  :z1:

hours

  • บุคคลทั่วไป
อยากให้มีต่อๆๆๆๆ

จะได้มีลุ้นๆๆ

chad69

  • บุคคลทั่วไป
เอา "เขา" คนนั้นไปต่อเป็นเรืองใหม่ก็ได้ครับ รออยู่

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
เอา "เขา" คนนั้นไปต่อเป็นเรืองใหม่ก็ได้ครับ รออยู่

มีสิทธิ์ได้อ่านค่ะ แต่องค์จะมาลงจนได้เขียนเป็นเรื่องราวเมื่อไหร่นั้นคงต้องติดตามกันต่อไป

(เพราะแค่นี้ก็มีเรื่องที่ยังเขียนไม่จบรอคิวอยู่สามเรื่องแล้ว แหะๆ)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






Mplove

  • บุคคลทั่วไป
 :m25: :m25: :m25:

แบบว่า ได้ใจมากเลยค๊าบ555+

มีการผลัดกันซะด้วย-.- :laugh:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
สงสาร "เขา" คนนั้นอ่ะ ๆ

ออฟไลน์ EunSung87

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-2
สงสารเด็กคนนั้น ป้า เขียนเรื่องต่อไปให้เด้กคนนั้นเจอคนดีๆ นะครับ

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
เขาคนนั้น คงมารอเก้อ น่าสงสารจัง ผิดที่อีตาพลนี่แหละ เจ้าชู้  :beat:

Der_Schwammkopf

  • บุคคลทั่วไป
ไม่มาเขียนต่อแล้วเหรอ จะรอต่อไปนะ :เฮ้อ:

OhJa

  • บุคคลทั่วไป
สนุกดีค่ะ พระเอกออกแนวร้ายเงียบ
แต่นายเอกร้ายกว่า 55

สงสารก็แต่หนูน้อยคนนั้นที่ตกเป็นเครื่องมือแบบไม่รู้เรื่องอะไรเลย  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ kny

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-16
แอบเสียดายเขาคนนั้นนะ  แต่ว่าก็ดีแล้วละ พระเอกร้าย จริงๆ :m16:

Akamei

  • บุคคลทั่วไป
กำลังสนุกเลย
จบเร็วจัง
๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
เขา คนนั้น ช่างแรงจริงๆ
เอิ้ก ก ก  ก กก ก

ออฟไลน์ Phing

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
สงสารเด็กคนนั้นอ่ะ
แต่ก็น่ารักดี
จุดจบของคนเจ้าชู้อิอิอิ
 :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-04-2010 09:13:06 โดย Phing »

ออฟไลน์ Pepor

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 396
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-3
เรื่องนี้ก็สนุกดีคะ แอบหักมุมนิดนึง เพราะอ่านตอนแรกคิดว่าพลจะคู่กับ"เขา"เสียอีก แต่มีแฟนโผล่มาตอนเกือบท้ายเรื่อง 
สงสาร "เขา"เหมือนกันค่ะ ที่ต้องรออย่างไม่รู้เรื่องต่อไป
ส่วนพลที่่ได้รับโทษจากเบิร์ด ยังไม่สาสมกับความเจ้าชู้หรอกนะ น่าให้เบิร์ดจับลงโทษให้เข็ด  :beat:

ขอบคุณคนแต่งนะคะ  :3123:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด