คำสารภาพของเด็กขาย ภาค "ดินกะชล" ตอนพิเศษ ถวายเพล (8 กันยายน 2015)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คำสารภาพของเด็กขาย ภาค "ดินกะชล" ตอนพิเศษ ถวายเพล (8 กันยายน 2015)  (อ่าน 432398 ครั้ง)

ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2

ออฟไลน์ DIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +405/-0
ตอนนี้มีเวลาเลยรีบเขียนมาโพสอ่ะครับ เด๋วเดือนหน้าจะยุ่งโคดๆ... ตรุษจีนอีกตะหาก... :mc4: :mc4: :mc4:

..................................................

ตอนที่ 29 ความลับในความหลัง

เอ้ก-อี้-เอ้ก-เอ้ก!!!... เอ้ก-อี้-เอ้ก-เอ้ก!!!...

ผมตื่นขึ้นมาเพราะเสียงไก่ที่ป้าไอ้ชลเลี้ยงไว้ดังออกมาจากหลังบ้าน... อากาศที่อำเภอพระธาตุ เย็นสบายสดชื่น แต่คนที่สบายกว่าผม เห็นจะเป็นไอ้ชลที่ นอนหนุนไหล่ซุกอกผมอยู่อย่างสบาย... แถมมือนึงยังล้วงลงไปกำไอ้ดินน้อยที่ตื่นผงกหัวหงึกหงัก ตามสัญชาตญานตอนเช้าไว้หลวมๆ อย่างกับเป็นของเล่นอันหวงแหนของมันซะอีก...

มองทะลุมุ้งลวดออกไปที่หน้าต่าง ฟ้ายังไม่สว่างดีนัก... “ออกไปวิ่งออกกำลังกายดีกว่า...” ผมนึก... ก้มลงดูได้ชลที่หลับตาพริ้มในท่าสบายของมัน คือนอนตะแคงซ้ายเอาหัวหนุนใหล่ข้างขวาของผมไว้ ขาข้างขวาก่ายกอดขาผมไว้ มือข้างขวากำอยู่ที่ไอ้ดินน้อย... ผมมานอนกับมันทีไร มันก็นอนท่านี้ทุกที...

“ชล ชล... ตื่นยัง...”

ไอ้ชลทำหน้ามุ่ยไม่ยอมลืมตาขึ้นมา แต่กำไอ้ดินน้อยแน่นเข้า แถมมีการรูดขึ้นลงเบาๆ ตามลำอีกต่างหาก... มันพึมพัมบอกเหมือนยังไม่อยากตื่นเท่าไร เสียงอู้อี้

“เดี๋ยวให้กูนอนต่ออีกหน่อยนะ... เดี๋ยวกูดูดให้”

ผมหัวเราะหึๆ เพราะกิจวัตรของมันก็คือตื่นขึ้นมาดูดกระเจี๊ยวผมล้างหน้าไก่ตอนเช้าก่อนผมกลับหอทุกวันที่ผมมานอนกับมัน วันนี้มันคงละเมอ...

ยกมือขึ้นมาเขกหัวมันเบาๆ “กูจะไปวิ่งออกกำลังกาย... มึงไปกะกูปะ”

มันส่ายหน้าดิก... “ม่าย... มึงไปเหอะ...” แต่มันยังไม่ยอมปล่อยท่อนKผมออกจากมือมัน แถมกำเริบ คลึงเม็ดมุกเล่นอย่างเคยมือ...

“มึงปล่อยKกูดิ” ผมบอกมัน... แต่มันส่ายหัว พูดออกมาหน้าตาเฉย...

“มึงไปเหอะ ถอดKมึงไว้นี่ก็ได้ ไม่หายหรอก”

ผมหัวเราะกับคำพูดของมัน “ไอ้เวร... เดี๋ยวกูเอายัดปากมึงเลย... ปล่อยได้แล้ว”

มันหัวเราะ... เงยหน้าขึ้นมาจูบที่คางผมทีนึง ก่อนจะเอียงหน้า หันแก้มให้ผม... เป็นทำนองว่าหอมมันทีนึงมันถึงจะยอม ถ้าผมไม่ทำมันก็จะหาเรื่องแกล้ง หรือไม่ก็งอนผมไปหลายชั่วโมง... จนผมต้องยอม เอาจมูกชนแก้มขาวๆ ของมันไปข้างละที แล้วมันก็เลื่อนตัวลงไปดูดหัวบานๆ ของKผมแรงๆ อีกหลายที...กว่ามันจะยอมปล่อยมือออกจากKผม...

ผมนุ่งผ้าเช็ดตัวออกไปล้างหน้าแปรงฟันทำธุระที่ห้องน้ำ ก่อนจะมารื้อกระเป๋าเดินทางเอากางเกงบอลขาสั้นกับเสื้อยืดคอกลมออกมาใส่ ก่อนจะหันไปคว้ารองเท้าผ้าใบคู่โปรดที่ผมเอาติดมาด้วย เดินถือออกไปใส่ที่หน้าประตู เดินลงบันไดไปข้างล่าง... ก็เจอกับป้าไอ้ชลกำลังทำกับข้าวอยู่พอดี

“อ้าว ดิน... ตื่นแต่เช้าเลยจะไปไหนล่ะแล้ว... ชลล่ะ” ป้ามองไปข้างหลัง เพราะคิดว่าไอ้ชลลงมาพร้อมผม

“มันยังนอนอยู่เลยครับ ป้า... ผมว่าจะออกไปวิ่งออกกำลังกายหน่อยครับ”

ป้าพยักหน้า... “ดี ออกกำลังกายไว้ จะได้สุขภาพดี แข็งแรง... ไปเถอะ”

อะไรบางอย่างในสายตาของป้า กับน้ำเสียงและคำพูดทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ เหมือนกัน แต่ก็ไม่อยากคิดมาก เพราะผมไม่ได้คิดอะไรกับไอ้ชลนี่ครับ (หรือเปล่าวะ...) ผมเดินแยกออกไปทางประตูหน้าบ้าน... วิ่งออกกำลังกายไปตามทางเลียบแม่น้ำโขง... อากาศตอนเช้าต้นหน้าหนาวในเดือนตุลาคม เย็นสดชื่น...

พระอาทิตย์เริ่มขึ้นทางฝั่งแม่น้ำโขง ผมวิ่งไปเรื่อยจนได้เหงื่อและระยะทางไกลพอสมควร จึงผ่อนการวิ่งลงช้าๆ เป็นเดินเร็วๆ และในที่สุดก็เหลือแค่ทอดน่องเอื่อยๆ... จนกระทั่งถึงที่นึงเป็นลานกว้างริมแม่น้ำ... มีคนเอาขอนไม้มาตั้งไว้ ด้วยเจตนาอะไรไม่รู้ ผมก็เลยลงไปวิดพื้น กับซิทอัพเล่นกล้ามหน้าท้องอยู่พักใหญ่ จนเหนื่อย จึงค่อยนั่งเล่น มองไปรอบๆ มีบ้านปลูกห่างๆ กัน ไม่ค่อยมีรถยนต์วิ่งไปมาเท่าไร มีแต่ รถมอเตอร์ไซค์ กับจักรยานที่ผ่านไปมา แต่ก็นานๆ จะมีสักคัน

รำคาญกับเสื้อที่ชุ่มเหงื่อติดตัว ผมเลยถอดออก นั่งบนขอนไม้มองแม่น้ำที่ไหลเชื่ยวจากฤดูน้ำหลาก คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย... จนกระทั่ง

“สวัสดีค่า... รูปหล่อ นั่งดูอะไรอยู่ นั่งด้วยคนได้ป่ะ”

ผมสะดุ้ง หันมามอง เห็นรถจักรยานจอดอยู่ริมถนน สองคนที่คงจะขี่จักรยานมาด้วยกัน กำลังเดินลงมา คนเดินนำหน้า อายุน่าจะประมาณสามสิบได้แล้ว... นุ่งผ้าซิ่น ใส่เสื้อแขนกระบอก เอวลอยสีค่อนข้างสด ผมยาวมัดรวบเป็นมวยอยู่ด้านหลัง ใบหน้าดูกร้าน แต่แต่งหน้าเข้ม...ไม่ต้องบอกก็รู้... ถ้าอยู่กรุงเทพฯ ก็อาจจะเป็นหนึ่งในลูกค้าของผม...

ครับ เธอเป็นสาวประเภทสอง...

ส่วนอีกคนที่เดินตามหลังมาเป็นเด็กสาว ผู้หญิงแท้ๆ น่าจะอายุรุ่นๆ ราว สิบห้าสิบหกปี แต่งตัวเรียบง่ายด้วยเสื้อทรงแขนกระบอกกับผ้าซิ่นเหมือนคนแรก...

ประเดี๋ยวเดียว ทั้งสองคนก็มายืนอยู่ตรงหน้า... ผมยิ้มให้ “สวัสดีครับ”

ไม่ต้องรอให้เชื้อเชิญ... เธอก็นั่งลงที่ขอนไม้ท่อนที่ผมนั่งอยู่ แต่ยังห่างพอสมควร แต่เด็กสาวยังไม่กล้านั่ง...
“อ้าว คนที่ไหนเนี่ยะ... พี่ชื่อบุญพริ้งนะ... ส่วนนังนี่เป็นหลานน้า ลูกพี่สาวพี่เอง ชื่อ บัว”

เด็กสาวยิ้มให้ผมใบหน้านวลรูปไข่รวบผมตึงผูกเป็นหางม้าไว้ด้านหลัง ตาโตสวย ท่าทางขึ้อายพอสมควร... ผมยิ้มตอบก้มหัวให้นิดนึง เป็นการทักทาย... ก่อนจะหันไปคุยกับคนน้า “ครับ ผมมาจากกรุงเทพฯ มาเที่ยวงานออกพรรษากับเพื่อนครับ เพื่อนมีป้าเป็นคนที่นี่”

“เหรอ... เพื่อนชื่อไรล่ะ...”

“ชลครับ ชื่อเต็มๆ ว่าสายชล”

เธอทำหน้าคิดนิดนึง... แล้วก็พยักหน้า... “อ๋อ... หลานป้าเร” เธอรู้จักป้าของไอ้ชลด้วย... อย่างว่าละครับ คนต่างจังหวัด ส่วนใหญ่จะรู้จักกัน ข่าวสารในชุมชนกระจายถึงกันไปทั่ว

พี่บุญพริ้ง ชวนผมคุยออกรสชาด พยายามจะลวนลามผมนิดหน่อยด้วยคารมของสาวต่างจังหวัด แต่คนที่ผ่านชั่วโมงบินมาเยอะอย่างผม ไม่ตกหลุมแกง่ายๆ หรอกครับ ผมก็คุยเลี่ยงๆ ไป... กำลังนึกว่าจะหาทางชิ่งกลับบ้านได้ยังไง... ระฆังช่วยก็มาพอดี

“ดิน... มึงมานั่งทำอะไรที่นี่” เสียงเรียกจากบนถนน... ไอ้ชลนั่นเอง มันขับรถมอเตอร์ไซค์มาจอด... มองลงมาด้วยประกายตาหวงแหน... ก่อนจะหันไปทักสาวรุ่นพี่

“อ้าวพี่ทิ้งเองเหรอครับ... นึกว่าไอ้ดินมันคุยอยู่กับใคร”

เห็นพี่บุญพริ้งค้อนไอ้ชลน้อยๆ เพราะได้ยินไอ้ชลมันเรียกพี่เค้าว่า “พี่ทิ้ง” จนผมงง หน้าตาเลิ่กลั่ก... เด็กสาวที่มากับพี่พริ้ง (ทิ้ง) หัวเราะคิกคัก บอกเบาๆ “น้าทิ้งเค้าชอบให้คนเรียกว่า บุญพริ้ง แต่พี่ชลไปเรียกชื่อเดิมแกเลยไม่ชอบอ่ะ”

“อีบัว... ไม่ต้องพูดมากก็ได้” พี่ทิ้ง (พริ้ง) หันมาบอกหลานสาว เสียงเข้ม ตวัดค้อนนิดนึง... แล้วหันไปบอกไอ้ชล “พี่นึกว่าหนุ่มที่ไหนมาเที่ยวคนเดียว... ที่แท้ก็ เพื่อนนนน... น้องชลเองเหรอ” พิ่ทิ้งลากเสียงยาวตรงคำว่าเพื่อนอย่างจงใจ... ผมว่าแกคงดูสายตาไอ้ชลออกละครับ เหมือนคำพูดปัจจุบันที่ว่า “ผีมันเห็นผีด้วยกัน” แหละครับ

“กลับบ้านเถอะดิน ป้าทำกับข้าวเสร็จแล้ว แกรอกินข้าวอยู่ เดี๋ยวแกจะรอนาน... ไปก่อนนะ พี่ ทิ้ง!! บัว”
เสียงไอ้ชลกระแทกตรงคำว่า “ทิ้ง” อย่างจงใจจนเจ้าของชื่อหันมาค้อนเสียจนน่ากลัวคอจะหัก...

ผมกันมายิ้มให้ทั้งสองคน... ก่อนจะถูกไอ้ชลมันดึงแขนขึ้นไปค่อนข้างแรงจนผมรู้สึกได้... พอไปถึงรถมันก็ยื่นกุญแจให้ผมพร้อมกับบอกเสียงห้วน... “มึงขับ...”

ผมรับกุญแจมาจากมันโดยดี... อมยิ้มกับท่าทางของไอ้ชล... เวลามันหึง น่ารักดีครับ... พักหลังผมไม่ค่อยทำอะไรให้มันหึง หรืออารมณ์เสียด้วยเรื่องอย่างนี้เท่าไรนัก (ไม่ทำให้มันรู้เห็นอ่ะครับ)

ขึ้นคร่อมรถสตาร์ทเครื่อง พอไอ้ชลมันขึ้นซ้อนได้ ผมก็ขับออกมาจากตรงนั้น... โดยไม่ลืมที่จะหันไปยิ้มให้สองคนนั้นอีกที... แล้วผมก็ต้องเจ็บแปลบที่พุง เพราะไอ้ชลมันเอานิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ จิกเนื้อขึ้นมานิดนึง แล้วบีบแรงๆ

“อูยซซซ มึงมาหยิกกูทำไม” ผมร้องออกมา

“เจ้าชู้นะมึง... ต่อหน้าต่อตา” ไอ้ชลทำเสียงเขียว...

“กูไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย... พี่เค้ามาคุยด้วย กูก็คุยกับเค้าเท่านั้นเอง” ผมบอกเมื่อเห็นมันทำท่าอย่างกะน้องษาไม่มีผิด แต่เฮ้ย!!!... ไอ้ชลมันไม่ใช่น้องษานี่หว่า...ทำไมผมต้องอธิบายให้มันฟังด้วยวะ...

มือที่โอบเอวผมไว้ เลื่อนปรู๊ดลงไปที่เป้า สอดเข้าไปในขอบกางเกงบอลผ้าร่มที่มีซับในเป็นกางเกงในในตัว... กำไอ้ดินน้อยไว้เต็มกำมือ... บีบหนักๆ...

“กูหวง... อย่ามายุ่งกะของกู... ท่าทางพี่ทิ้งมองมึงเมื่อกี้... อย่างกะจะแก้ผ้า เอาKมึงออกมาดูดได้อยู่แล้ว...”

“อ้าว... ไม่รู้นี่หว่า” ผมล้อมันเล่น “ไม่งั้นกูถลกให้พี่เค้าดูดไปแล้ว”

ไอ้ชลเอาปากกัดที่ไหล่ผม พร้อมกับบีบลำท่อนของผมแรง จนผมครางอู้... เสียงมันกล่าวสำทับ

“นอกจากเรื่องงาน... กูยอมให้น้องษาคนเดียวแหละ... นอกนั้นถ้ากูรู้นะมึง...”

ผมหัวเราะลั่น... กับท่าทางและน้ำเสียงของมัน... แต่ก็อดเสียววูบกับคำพูดของมันไม่ได้... แมร่ง ทำไมวันนี้ไอ้ชลมันมีแววโหดนักวะ...

กับพี่บุญทิ้ง (พริ้ง) น่ะ ผมไม่สนใจหรอกครับ แค่ไอ้ชลคนเดียว เมื่อวานผมก็โดนมันรีดไปสามรอบแล้ว ไม่นับบนรถทัวร์... แต่ประกายตาของน้องบัวสิครับ มันแปลกๆ ยังไงพิกลเหมือนกัน... มีทั้งประกายค้นหา...ท้าทาย... และลองดีอยู่ไม่น้อยเลยละครับ...

จนกลับมาถึงบ้านที่ป้าไอ้ชลเตรียมอาหารเช้าไว้เสร็จเรียบร้อย... ผมพยายามที่จะไม่คิดถึงเรื่องนี้ เพราะมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ก็ไอ้ชลมันติดกะผมเป็นปาท่องโก๋ขนาดนั้น จะเอาเวลาที่ไหนไปทำเรื่องล่ะครับ....

..........................................................

เฮ้อ... เรื่องที่เล่าตอนนี้ กะตอนหน้า ไม่รู้ว่าถ้าไอ้ชลมันอ่านอยู่ มันจะว่าอะไรผมหรือเปล่าสิครับ เพราะจริงๆ เป็นเรื่องที่ผมไม่เคยยอมรับกับมันสักครั้งในตอนนั้น ไม่ว่ามันจะคาดคั้นถามผมแค่ไหนก็ตาม...
รับได้ไง... รับก็เละสิครับ!!!

..........................................................

 :z1: :z1:
เอาความลับมาเปิดเผยกันเลยนะครับ เนี่ยะ...

เมิงอย่าโกรธกรูน้า... ชล เรื่องมันตั้งยี่สิบกว่าปีแล้ว....

ดิน
..........................................................

Loidelohm

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องมันยี่สิบกว่าปี รวมที่อาบน้ำฝนมาด้วยแล้วเนี่ยะ
อื๋อ....พี่ดินแก่กว่าเราไม่กี่ปีเองนะเนี่ย
ว๊ากๆๆๆๆๆๆ
แต่ประสปการณ์ขั้นเทพ
ว่าแต่ตอนนี้อ่ะ กระสุนยังโออยู่มั้ยครับพี่ อิอิ
 :z1:

teenza

  • บุคคลทั่วไป
พี่ดิน พี่ชลฝากมาบอกว่า ยี่สิบปีล้างแค้นไม่สาย :laugh:

รักแรง หึงแรง ของเขาแรงจริงๆ

ว่าแต่พี่ดินเหอะตอนนี้กระสุนยังแรงเหมือนเดิมปะ :jul3:(ล้อเล่นคับอย่าโกรธน้า)

รอตอนหน้าอย่างจดจ่อ :z2:

edit สงสัยป้าพี่ชลคงได้ยินเสียงปริศนาแน่ๆ :z1: เสาเรือนยังสะเทือนเลยนิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-01-2010 11:48:59 โดย teenza »

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1

andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
แบบนี้K.ดินก็อายุไม่ห่างจากป้าขวัญเท่าไรนัก   อิอิ

ป๋อหลอ   ป้ากินเด็กเป็นประจำจ๊ะ

ออฟไลน์ DIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +405/-0
แบบนี้K.ดินก็อายุไม่ห่างจากป้าขวัญเท่าไรนัก   อิอิ

ป๋อหลอ   ป้ากินเด็กเป็นประจำจ๊ะ

หุ หุ สรุปแล้ว ทั้งคนอ่านคนเขียน... รุ่นราวคราวเดียวกันเลยใช่ไหมครับ... ถ้า เป็นรุ่นเที่ยวเธค The Palace ตรงวิภาวดีตัดกับ แยกสุทธิสาร ละก็... ถูกต้องละคร๊าบ...

 :pig2: คนรุ่นเดียวกันอ่ะครับ.... หุ หุ  

:mc4: :mc4:

ส่วนเรื่องที่ถามว่า ยังแรงเหมือนเดิมป่ะ... หุ หุ ต้องลองครับ ต้องลอง....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-01-2010 15:13:02 โดย DIN »

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
ถามพี่ดินว่า ถ้าตอนนี้พี่ชลรู้อ่ะ

จิทำไง

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50

Loidelohm

  • บุคคลทั่วไป
พี่ดิน ตอน The Palace  ยังอยู่อ่ะ
เค้าอายุ 18 เองนะ
เหอ เหอ......

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ DIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +405/-0
พี่ดิน ตอน The Palace  ยังอยู่อ่ะ
เค้าอายุ 18 เองนะ
เหอ เหอ......


บวก ลบ คูน หาร... ออกมาเป็น เลยแยกเกษตรไปไกล... ใกล้เข้าหลักสี่ หรือไม่แน่ เพิ่งผ่านหลักสี่อ่ะ... 

ถ้าเป็นตอนนั้น มันรู้... หุ หุ ไม่อยากคิด

ถ้าเป็นตอนนี้ มันคงหัวเราะ แล้วด่า ไอ้เฒ่าลามก... หุ หุ

ออฟไลน์ kasarus

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
รอลุ้นตอนต่อไปว่าจะโดนแค่น้าคนเดียว
หรือเป็นพระยาเทครัวเสร็จทั้งน้าทั้งหลาน
 :pig4:

ออฟไลน์ naiin

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-9
น่าสงสารชลนะ รักคนเจ้าชู้แถมมีเจ้าของแบบถาวรอีก คิดถึงชลนะ

ออฟไลน์ DIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +405/-0
น่าสงสารชลนะ รักคนเจ้าชู้แถมมีเจ้าของแบบถาวรอีก คิดถึงชลนะ

ใจร้ายอ่ะ ลำเอียงด้วย... แล้วตอนที่ ไอ้ดินมันถูกหักอกไป เจียนตาย...ไม่ยักกะสงสาร
งงต้วเองเหมือนกันครับ เขียนเรื่องของตัวเอง แต่คนอ่านสงสารคนอื่น... เฮ้อ เวงกำ

 :m15: :m15:

ออฟไลน์ DIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +405/-0
อ่านตอนนี้แล้ว คนอ่านจะเริ่มเกลียดไอ้ดินหรือเปล่าน้า...

อย่าเกลียดผมนะ นะ นะ ผมยังรักคนอ่านของผมทุกคนเลยครับ

ดิน
.......................................................................

ตอนที่ 30 สะหวันนะเขต

ตอนทานข้าวเช้า ไอ้ชลมันชวนให้ผมทานโน่นทานนี่ ตักอาหารให้อยู่ตลอดเวลา จนผมเขินป้าไอ้ชล... แต่พอผมหันไป ก็เห็นแกมองมาอยู่แล้วและดูเหมือนจะนั่งอมยิ้มเห็นดีเห็นงามไปกับหลานอีกต่างหาก...

หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ ไอ้ชลมันก็พาผมไปไหว้พระธาตุพนม อันเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ของทั้งชาวไทยและชาวลาว พระธาตุองค์ใหม่ สร้างขึ้นแทนองค์เดิมที่พังทลายลงในปี 2518 “เป็นพุทธเจดีย์ที่บรรจุพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนพระอุระ) ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีรูปทรงสี่เหลี่ยม ประดับตกแต่งด้วยศิลปะลวดลายอันวิจิตรประณีตทั้งองค์” (คัดลอกจาก http://www.thatphanom.com/his_002.php) โดยที่องค์เดิมมีการจัดสร้างสถูปครอบไว้ รวมทั้งเศษอิฐเศษปูนจากองค์พระธาตุองค์เดิม...

ไอ้ชลบอกว่า พรุ่งนี้ที่เป็นวันออกพรรษาจะมีพิธีการรำบวงสรวงพระธาตุมันพาผมไปกราบนมัสการพระธาตุที่ในวัดและคนจะเยอะ มันเลยพาผมไปไหว้ก่อน เราไปซื้อดอกไม้ธูปเทียนที่ทางวัดจัดทำไว้มานั่งคุกเข่าไหว้ทางด้านทิศตะวันออก กล่าวคำนมัสการพระธาตุ ดังนี้ครับ “กปณคิริสฺมิ ปพฺพเต มหากสฺสเปน ฐาปิตํ พุทฺธอุรงฺคธาตุ สิรสา นมามิ” แปลว่า “ข้าพเจ้าขอนมัสการ พระบรมอุรังคธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่พระมหากัสสปเถระเจ้า นำมาฐาปนาไว้ ณ ภูกำพร้า ด้วยเศียรเกล้า” (คัดลอกจาก http://www.heritage.thaigov.net/religion/pratat/index06.htm นะครับ)

หลังจากไหว้พระธาตุแล้ว ไอ้ชลก็พาผมไปที่มุกดาหารอีกครั้งนึง คราวนี้มันพาผมข้ามไปฝั่งลาวหรือ สะหวันนะเขต (Savannakhet) สมัยโน้น สะหวันนะเขตไม่มีอะไรมากนัก (ถึงปัจจุบันก็ไม่ค่อยมีอะไร) เป็นจังหวัดชายแดนของลาว อยู่กันอย่างสงบเงียบ มีตลาดเล็กๆ ค้าไม้กับของป่าที่คนเอามาขาย ไอ้ชลพาผมไปเดินตลาด (จำไม่ได้แล้วครับ ว่าอยู่ตรงไหน) มีร้านขายเครื่องเงินอยู่สองสามร้าน... ไอ้ชลมันเดินเข้าไปยืนมองๆ อยู่ที่ตู้โชว์พวกเครื่องประดับเงิน ก่อนจะหันมาบอก

“มึงรอกูอยู่แถวนี้ก่อนนะ...”

ผมพยักหน้าให้มัน ก่อนจะเดินดูอะไรไปเพลินๆ แต่แล้วผมก็ต้องสะดุ้ง เมื่อได้ยินเสียงคนทักผมเป็นภาษาอีสาน

“อ้ายดิน มาเที่ยวฝั่งนี้เหมือนกันเหรอจ๊ะ...”

หันไปดู นึกว่าใคร... “บัว” หลานสาวพี่บุญพริ้งนั่นเอง วันนี้ฉายเดี่ยว...

“ครับ... พี่มาเที่ยวฝั่งนี้ แล้วบัวล่ะครับ มาคนเดียวเหรอ...” ผมหันมองไปรอบๆ

“จ้ะ... บัวมีน้าอีกคน เค้าแต่งงานแล้วข้ามมาอยู่ฝั่งนี้กับผัวเค้าจ๊ะ... อ้ายดินมาคนเดียวเหรอ” น้องบัว ถามผมกลับบ้าง

“เปล่าครับ... พี่มากับชล... แต่เค้าไปซื้อของร้านโน้น...” ผมชี้มือบอก

“บัวนึกว่าอ้ายมาคนเดียว บัวจะรับอาสาพาเที่ยวสะหวันนะเขตเอง...” น้องบัวทำท่าเสียดาย แต่ก็ชม้ายตาเป็นนัย...ของอย่างนี้มีเหรอครับ ผมจะดูไม่ออก... ท่าทางน้องบัวคงจะชอบผมบ้างแหละครับ เพราะผมดูแตกต่างจากหนุ่มๆ แถวนี้ โดยเฉพาะ...ฝั่งนี้

“ดิน คุยอยู่กับใคร... อ้าว... บัวเองเหรอ...” ไอ้ชลเดินกลับมาพอดี พอเห็นว่าผมคุยอยู่กับบัว เด็กสาวที่คืนกลับสู่ท่าทางขี้อายอย่างรวดเร็ว... ก็ยิ้มให้ท่าทางไอ้ชลคงจะไม่มีอคติกับน้องบัวเท่าไรนัก เพราะเห็นว่ายังเด็กอยู่นั่นเอง...

“จ้ะ... พอดีบัวมาเดินเล่นฝั่งนี้เหมือนกัน... เห็นอ้ายดินยืนดูของอยู่คนเดียว เลยเข้ามาทักน่ะจ้ะ... อ้ายชลซื้อของเสร็จแล้วหรือจ๊ะ” บัวถามเหมือนเด็กถามผู้ใหญ่

“ฮื่อ... แต่มีปัญหานิดหน่อย เจอบัวก็ดีแล้ว... พี่ต้องพาป้าผินไปหาหมอฝั่งโน้น พี่ฝากไอ้ดินด้วยละกันนะ” มันบอกเด็กสาว ก่อนหันมาบอกผม “กูไปไม่นานหรอก เดี๋ยวมา... ป้าผินแกปวดท้องมาก...”

“กูไปกับมึงก็ได้นะ ชล” ผมบอก “มีอะไรกูจะได้ช่วยมึงได้”

“ไม่ต้องหรอก มึงข้ามไปมาลำบาก” ก็จริงของมัน เพราะผมต้องทำใบผ่านแดนยุ่งยาก แต่ไม่รู้ทำยังไงไอ้ชลมันไม่เห็นต้องทำเหมือนผม...

เฮ้ย... แต่มึงฝากกูไว้กับน้องบัว ไม่เป็นการฝาก แมวไว้ให้ปลาย่างดูแลเหรอวะ... (ถ้าเป็นสมัยนี้ ก็ต้องบอกว่า ฝากหลินปิงให้ดูแลหน่อไม้ หุ หุ) ประโยคสุดท้ายผมถามเสียงดัง... อยู่ในใจ... มองตามไอ้ชลที่เดินเร็วๆ หายกลับไปทางเก่า...

คราวนี้ก็เหลือผมสองคนกะน้องบัว...

“ไปไหนดีล่ะครับ” ผมถาม

“อ้ายดินอยากไปไหนล่ะจ๊ะ”

“ไม่รู้ดิ... แต่พี่ชอบดูชีวิตชาวบ้านๆ น่ะ” ผมบอก เพราะจริงๆ ผมก็ชอบอย่างนั้น

น้องบัวพยักหน้า เอื้อมมือมาจับข้อมือผมให้เดินไปกะน้องเค้าอย่างไม่เคอะเขิน น้องเค้าไม่เขิน แล้วผมจะเขินไปทำไมล่ะครับ... ผมเดินตามน้องบัวไปอย่างง่ายๆ

น้องเค้าพาผมไปที่จักรยานคันนึง หันมาถามผม... “อ้ายดินขี่เป็นหรือเปล่าจ๊ะ...”

ผมพยักหน้ายิ้มให้ แล้วขึ้นไปนั่งคล่อมอาน... น้องบัวขึ้นนั่งซ้อนด้านหลังโดยนั่งไขว้ขาไปด้านนึง แล้วเอามือมาจับเอวผมเอาไว้อีกต่างหาก... ก่อนจะชี้ให้ผมขี่ไปตามทาง
เราขี่จักรยานเที่ยวไปตามถนนเล็กถนนน้อย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นถนนลูกรังสีแดงสลับกับทางดินธรรมดา ลัดเลาะไปตามบ้านต่างๆ สังเกตดูน้องบัวค่อนข้างรู้จักคนอยู่พอสมควร มีทักทายกับบ้านบางหลังอย่างสนิทสนม...จนกระทั่งมาถึงหนองน้ำแห่งหนึ่ง ค่อนข้างกว้าง มีกอดอกบัวหลวงขึ้นเต็มทั้งดอกทั้งใบ... ข้างหนองน้ำ ด้านนึงเป็นต้นไม้ใหญ่ ใต้ต้นไม้มีสะพานทอดยาวลงไปในหนอง กับเรือลำไม่ใหญ่นัก จอดอยู่เหมือนจะสำหรับเอาไว้ลงไปเก็บดอกบัวในหนองน้ำ

“พักนั่งเล่นตรงโน้นก่อนก็ได้จ้ะ อ้ายดิน”

ผมจอดจักรยานตั้งขาตั้งเรียบร้อย เดินตามน้องบัวที่ลงไปนั่งห้อยขาที่สะพานเรียบร้อยแล้ว... ทรุดตัวลงไปนั่งข้างๆ...

“อ้ายดินขี่จักรยานมานาน เหนื่อยไหมจ๊ะ...” น้องบัวหันมาถาม

“ไม่เหนื่อยเท่าไรหรอกครับ...” ผมหันไปดูรอบๆ... ก่อนจะสูดลมหายใจสะอาดๆ เข้าไปเต็มปอด “ที่นี่สวยจังเลยครับ”

“อ้ายชอบเหรอจ๊ะ...”

“ครับ ยิ่งมีคนพามาน่ารักๆ อย่างนี้ด้วย” ผมบอกพร้อมกับหันไปมองสบตาน้องบัวด้วยสายตาเป็นประกายระยิบ เล่นเอาเด็กสาวหน้าเป็นสีชมพูระเรื่อ

“อ้ายพูดอะไรก็ไม่รู้... บัวยังเด็กอยู่นะ” น้องบัวบ่นอุบอิบ แต่ก็ไม่มีทีท่าโกรธเคืองอะไร

“พี่พูดจริง... ขอบคุณนะครับ ที่พาพี่เที่ยวแทนไอ้ชลมัน... ไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อไร”

“คงอีกสักพักละจ้ะ... เพราะเรือมีไม่กี่ลำ” น้องบัวบอก ก่อนจะพูดต่อ “น้าทิ้งบอกว่า อ้ายดิน กับอ้ายชลเป็นคู่รักกัน...”

ผมเกือบสะดุ้ง... “เราเป็นเพื่อนทำงานที่เดียวกันครับ...” (เพียงแต่เพื่อนเอาเพื่อนเท่านั้นเอง... หุ หุ)

“นั่นสิ ผู้บ่าวกับผู้บ่าวจะเป็นคู่รักกันได้ยังไง... อ้ายชลไม่เหมือนน้าทิ้งสักหน่อย” น้องบัวพยักหน้าอย่างไร้เดียงสา

เราคุยกันอยู่พักใหญ่ แล้วผมก็นึกอะไรขึ้นมาได้... “ไปพายเรือเก็บฝักบัวเล่นกันไหมครับ น้องบัว” ผมชวนเล่นๆ

น้องบัวหันมามองหน้าผม ก่อนจะพยักหน้าง่ายๆ... “ก็ได้จ้ะ”

แล้วเราสองคนก็ลงไปพายเรือ... ผมน่ะ ไม่ได้คิดว่าจะเก็บฝัก หรือดอกบัวอะไรกันหรอกนะครับ... แต่ผมสนใจสาวน้อยชื่อบัวคนนี้ตะหาก... ท่าทางน้องเค้าก็ไม่ได้รังเกียจผมนี่ครับ

อาศัยเคยพายเรือมาบ้าง จึงไม่ยากที่ผมจะพายเรือพาน้องบัว เข้าไปกลางหนองน้ำที่มีทั้งดอกทั้งใบขึ้นสูงจนเกือบท่วมหัวเราสองคนที่นั่งอยู่ในเรือ คนข้างนอกมองมาถ้าไม่สังเกตก็จะไม่เห็น

พอถึงกลางหนองน้ำ ผมก็เอาพายราน้ำให้เรือหยุดจอดนิ่งๆ น้องบัวหันมามองตาโต สงสัย... ผมยิ้มให้ก่อนจะบอก...

“อยากคุยกับบัว ไม่ให้ใครเห็นน่ะครับ รู้ไม๊ว่าน้องบัวน่ะน่ารัก”

น้องบัวหน้าแดง “อ้ายดิน พูดอะไรก็ไม่รู้”

ผมค่อยขยับเข้าไปใกล้น้องบัว จนชิด... จับมือน้องเค้าขึ้นมา “พี่พูดจริงนะ... ไม่นึกว่ามานครพนม พี่จะได้เจอคนน่ารักๆ อย่างน้องบัวน่ะครับ”

น้องบัวอายม้วน... ผมถือโอกาสยกมือน้องเค้าขึ้นจูบ เล่นเอาเด็กสาวตัวแข็ง... พยายามจะดึงมือกลับ แต่เสืออย่างผมไม่ปล่อยให้เนื้อสมันหลุดไปง่ายๆ หรอกครับ... ผมยึดมือน้องเค้าไว้แน่น

“พี่มีความสุขจังครับ... น้องบัวรู้สึกอย่างพี่หรือเปล่า”

น้องบัวก้มหน้านิ่ง... ก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ... ผมดึงน้องเค้าจะเข้ามากอด...แต่น้องบัวขืนตัวไว้

“อ้ายดิน อย่ารังแกบัวสิจ๊ะ... เรากลับกันเถอะ เดี๋ยวอ้ายชลกลับมาแล้วจะหาอ้ายดินไม่เจอ...”

ผมลืมนึกถึงไอ้ชลไปเลย... แต่ก็ยังกระซิบถาม... “แล้วพี่จะเจอน้องบัวอย่างนี้ได้อีกเมื่อไรครับ”

น้องบัวเงยหน้าขึ้นมามองผม... ก่อนจะกระซิบเบาๆ “............................................................” (คำพูดของน้องเค้า ผมขออุบไว้ก่อนนะครับ เดี๋ยวจะไม่สนุก หุ หุ)

ผมฉวยโอกาสนั้นก้มลงจูบที่ริมฝีปากของสาวน้อยอย่างรวดเร็ว เล่นเอาน้องบัวตัวอ่อนเปียก... ถ้าไม่ติดว่าอยู่ในเรือลำเล็ก และไอ้ชลมันกำลังจะมา ผมก็คงใช้สถานที่นี้ฝากรักน้องเค้าไปแล้วละครับ แต่ไม่เป็นไร... โอกาสหน้ายังมี... ถ้าเป็นอย่างที่น้องบัวบอกผม...

เราสองคนพายเรือกลับมาที่ฝั่ง ก่อนจะขี่จักรยานกลับมาที่ ตลาดที่เราเจอกันเมื่อตอนเช้า...

รออยู่พักใหญ่... ไอ้ชลก็ประคองป้าผินที่ท่าทางอ่อนระโหยกลับมา... มันประคองหญิงชราเข้าไปที่ห้องแถวที่พัก ครู่ใหญ่มันก็กลับออกมาหาผม...

“เป็นไงบ้างวะ” ผมถาม

“อาหารเป็นพิษน่ะ... คนแถวนี้กินอาหารไม่ค่อยระวังเท่าไร” ไอ้ชลบอก... “แล้วมึงล่ะ ไปเที่ยวไหนมาบ้าง แล้วน้องบัวหายไปไหนล่ะ” มันหันมองไปรอบๆ

“บัวกลับไปแล้ว... ก็ไปขี่รถเที่ยวแถวๆนี้แหละ...” ผมบอกมัน

ไอ้ชลพยักหน้ายื่นของชิ้นนึง ส่งให้ผม “อ่ะ... กูซื้อให้มึง”

เป็นกำไลข้อมือเงิน ค่อนข้างหนัก เพราะเป็นเงินตัน ไม่มีลายตีโค้งเข้าหากัน  คล้ายๆ กับตัว C หัวท้ายทำเป็นรูปดอกบัวครับ เป็นที่พอสอดข้อมือเข้าไปทางข้างๆ ได้ไม่ต้องสอดเข้าทางปลายมือ ผมเอามาสรวมได้พอเหมาะกับข้อมือผมพอดี

“มึงชอบไม๊” มันถาม...

ผมยิ้มให้... “นึกยังไง...”

“กูชอบ อยากให้มึงใส่... มึงใส่เงินแล้วเท่ห์ดี”

ผมหัวเราะ... “อือ... ก็ดี...” เอามือยีหัวมัน ก่อนกระซิบ “ขอบใจนะ”

ไอ้ชลยิ้มจนนัยน์ตาหยี... เหมือนเด็กๆ ที่ถูกตามใจ... ก่อนจะบอกผม “ปะ... เดี๋ยวกูพามึงไปเที่ยวต่อ...”

ผมพยักหน้า... เราเดินเที่ยวกันอีกพักใหญ่ จนเกือบเย็น จึงค่อยลงเรือกลับมาที่ฝั่งมุกดาหาร ก่อนจะขับรถกลับมาที่อำเภอพระธาตุ...

..............................................................

วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม 2009

ผมมองอำเภอพระธาตุ ที่เพิ่งมาถึง เรื่องราวต่างๆ แต่หนหลัง ไหลกลับเข้ามาในหัวสมองผมราวกับดูหนังย้อน พยายามจะมองหาสิ่งที่พอจะคุ้นตาจากคราวโน้น... แต่ดูเหมือนว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง ราวกับจะเปลี่ยนแปลงไปจนหมดสิ้น คงเหลือแต่พระธาตุพนม องค์ศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งเด่นสง่าเป็นที่สักการะของคนทั้งสองฝั่งโขงกับแม่น้ำโขงอันเปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชีวิตคนทั้งสองฝั่งในหลายๆ ประเทศที่แม่น้ำสายยาวนี้ไหลพาดผ่าน

พรุ่งนี้ ก็จะเป็นวันออกพรรษา เป็นวันที่ชาวบ้านทั้งสองฝั่งโขงจะจัดงานบวงสรวงพระธาตุ พร้อมกับริ้วขบวนอันสวยงามและการฟ้อนรำเพื่อเป็นการสักการะแด่องค์พระธาตุพนมอันเป็นที่สถิตย์ของพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนพระอุระ) ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

เรื่องราวความหลังของผม จุดที่สำคัญจุดนึงก็เกิดขึ้นในวันนั้น วันขึ้นสิบห้าค่ำเดือนสิบเอ็ดของ เมื่อยี่สิบสามปีที่แล้วนั่นเองครับ

เดี๋ยวตอนหน้ามาดูกันครับ...ว่า อะไรบ้างที่เกิดขึ้นในวันนั้น...  เป็นอีกวันนึง ที่ผมจำไม่ลืมเลยละครับ...

...........................................................

ชล... ถ้าเมิงอ่านตอนนี้แล้ว มึงจะลงโทษกรูยังไงก็ได้ :beat: แต่อย่าทำแบบเรื่อง Frozen Flower นะโว้ย กรูกลัว.... :กอด1:

...........................................................

ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
ยังไม่รู้ว่าจะออกมาในรูปแบบไหน แต่ถ้าคุณชลยังอยู่ก็ให้อภัยคุณดินเถอะนะครับใจคนยากแท้หยั่งถึง แล้วจะรออ่านต่อไปครับ

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
แหมนึกว่าดินจะกินบัวซะแล้ว

คริคริ

andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
 :z1:
คิดว่าคุณดินจะกินน้องบัวกลางสระ   แค่คิดไปเองนะ    อิอิ

gypsy

  • บุคคลทั่วไป
ตามอ่านทันแล้ว  :laugh:

ชอบชลมากเลยอ่ะ น่ารักที่สุดเลย

แต่ยังไม่เคยเห็นพี่ดินบอกรักพี่ชลเลย

 :เฮ้อ:

ขอไปตามอ่านภาคแรกก่อนนะคับ

ออฟไลน์ NUTTYZERO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1044
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ MIkz_hotaru

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-4
ตอนหน้ามีได้เสียแน่ๆ :z3:
ก็อย่างว่านะ พี่ดินเป็นผู้ชาย
และไม่ได้ รัก พี่ชล
 :o12: เจ็บปวด

genieposh

  • บุคคลทั่วไป
 พี่ดินก็ เจ้าชู้จริงๆเลย (โกรธแทนพี่ชล)

 ตอนหน้าไม่อยากนึกเลย ทำกันด้าย  :z3:

 ปล.มีแอบจิกพี่ชลอีกนะเนี่ย

SoYiLovE

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ:  :m15: :monkeysad:

แล้วอย่างนี้จะไม่ให้สงสารชลได้อย่างไรอ่ะ พี่ดิ๊นนนนนนนนน

อยากรู้จัง ปัจจุบันนี้พี่ดินอยู่ก๊ะใคร


ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
พี่ดินอ่ะ ปูสงสารพี่ชลนะเนี่ย

แต่อย่างว่าอ่ะ พี่ดินยังไงก็ผู้ชายธรรมดา ถ้าไม่มีก็แปลก

แต่ยังไงก็สงสารพี่ชลอ่ะ  :impress3:

สงสัยจังเรื่องมันยี่สิบกว่าปีมาแล้วนี้ บวกกะอายุพี่ดิน

แล้วพี่ดินอายุเท่่าไหร่เนี่ย

ตอนนี้ปูอายุ 25 จะห่างกันเท่าไหร่น้อ

JkrR

  • บุคคลทั่วไป
^
^

ผมอายุ23 แต่ผมเรียก "ลุงดิน"อะครับ  o18

รอลุ้นตอนหน้า ว่าบัวจะได้ปักลงดินตรงไหน แหะๆๆ

ออฟไลน์ amito

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-0
คุณดินนะคุณดิน มีชลอยู่ใกล้ยังไม่วายเก็บดอกบัวแซมผม :angry2: สัญชาติญาณคนเจ้าชู้ เชอะ :z6:

ออฟไลน์ kasarus

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
เรื่องมันก็ผ่านมาตั้งยี่สิบกว่าปีแล้ว
คุณชลเค้าคงไม่โกรธคุณดินแล้วหละครับ

teenza

  • บุคคลทั่วไป
บัวจะงามได้ก็ต้องอาศัย ดิน และนำ(ชล)
แต่บัวนี้อยากได้แต่ดิน :beat: (จัดการแทนพี่ชล)
รอดูตอนหน้าบัวได้ดินแล้วจะงามแค่ไหน :z1:

ปล ชอบตอนจบของFrozen Flower มากๆ เลียนแบบดีมะพี่ชล :laugh:

jobisuka

  • บุคคลทั่วไป
แล้วน้องบัวชีจะไม่แหกหรอคะ อย๊ายยย

ออฟไลน์ DIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +405/-0
หวัดดีครับ... ไม่ได้มีบทร้อนแรงกันซะนาน...  วันนี้เลยขอเรียก Rating หน่อยครับ...เด๋วจะลืม

 :oo1:

รักคนอ่านของผมทุกคนเลยครับ อ่านแล้วก็เม้นท์ หรือโหวตให้กำลังใจกันบ้างนะครับ... ดิน

ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ ครับ

...........................................................

ตอนที่ 31 ความสัมพันธ์

ที่พักที่ผมกับน้องๆ เข้าพัก เป็นโรงแรมเล็กๆ มีอยู่สิบกว่าห้อง ติดแม่น้ำโขง พวกน้องๆ จองกันมาแล้ว สี่ห้องก็เลยแยกย้ายกันเข้าพัก ผมพักกับลูกน้องผู้ชายคนนึงอายุไล่ๆ กัน...พร้อมกับคนขับรถที่ขอมาอาบน้ำ แต่ผมบอกว่าก็นอนในนี้แหละ ไม่ต้องไปนอนเมื่อยที่รถ... ก็เลยเอาถุงนอนมาปูที่พื้นข้างๆ (อย่าคิดมากนะครับ ผมไม่กินไก่วัด โดยเฉพาะ ไม่สเป็คอีกต่างหาก)

จัดแจงเรื่องที่พักเรียบร้อย เราก็ออกมาเดินเที่ยวกัน ผมพยายามสอดส่ายสายตามองหาสิ่งที่ควรจะเป็นจุดสังเกต ที่พอจะจำได้ แต่ก็ได้แค่เค้าลางๆ เท่านั้น... มีแต่ถนนที่ทอดยาวจากพระธาตุจนถึงฝั่งโขงที่พอจะจำได้บ้าง... เอาน่ะ... แค่นี้ก็พอจะไหวมั๊ง... ผมนึก...

เราเดินกันจนเมื่อย น้องบางคนแยกไปไหว้พระธาตุฯ ส่วนผมกับน้องอีกบางส่วนแยกกลับมาที่พัก อาบน้ำเตรียมตัวรอ ไม่นาน พวกที่แยกไปก็กลับมา... เข้าไปอาบน้ำบ้าง พอเสร็จ พวกเราก็ไปทานข้าวเย็นกันที่ร้านอาหารริมโขง... ก่อนจะกลับมานอน... (ก่อนนอน ก็มีการนับเลขกันนิดหน่อย พอเป็นกระสัยครับ)

แต่วันนี้ ต่างกับวันโน้น เมื่อยี่สิบสามปีที่แล้ว ลิบลับ...

............................................................................

เรากลับมาถึงบ้านป้าไอ้ชลก็ค่ำแล้ว ป้าทำกับข้าวเสร็จเรียบร้อย สามคนนั่งทานอาหารเย็นกันอย่างเอร็ดอร่อย ระหว่างนั้นไอ้ชลเล่าถึงอาการของป้าผินที่มันช่วยพามาหาหมอที่ฝั่งไทยตอนกลางวัน ป้าไอ้ชลทำท่าตกใจ เพราะแกเองก็รู้จักป้าผินเหมือนกัน แต่ไอ้ชลบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก

“ออกพรรษาแล้ว ป้าจะไปเยี่ยมแกสักหน่อย ไม่ได้ข้ามไปฝั่งโน้นนานแล้วเหมือนกัน”

ป้าไอ้ชลพูด... ก็อย่างที่บอกแหละครับ คนสองฝั่งโขง (หรือ “ฝั่งของ” ในภาษาลาว) นั้นรู้จักเป็นพี่น้องกันมาหลายชั่วอายุคนจนแยกไม่ออกไม่ว่าแต่ละฟากจะมีการปกครองอย่างไร แต่คนของทั้งสองฝั่งกลับมีความสัมพันธ์ที่แน่นหนาไม่เคยคลอนแคลน

ทานอาหารเย็นเสร็จ ผมกับไอ้ชลก็ออกมาเดินเล่นที่ถนนหน้าพระธาตุ ที่อาบด้วยแสงสปอตไลท์ จนขาวสว่างโพลนเด่นเป็นสง่า น่าเลื่อมใส...

เราเดินมาบนถนนที่ทอดยาวจากองค์พระธาตุไปจนถึงฝั่งโขง มีคนเดินเล่นอยู่พอสมควรเพราะพรุ่งนี้จะเป็นวันออกพรรษา มีงานบวงสรวงพระธาตุที่ถือว่าเป็นงานใหญ่อีกงานนึง นอกเหนือไปจากงานสมโภชตอนเดือนสาม

“พรุ่งนี้ตอนเช้า จะมีขบวนแห่ จากหน้าประตูฝั่งแม่น้ำโขง เดินมาตามทางนี้ ไปจนถึงวัด แล้วก็จะรำบวงสรวงกันตรงลานหน้าวัด” ไอ้ชลบอก... ตั้งแต่เดินออกมาจากบ้าน มันอธิบายงานบวงสรวงพระธาตุให้ผมฟังอย่างละเอียด

เราเดินเล่นกันจนเริ่มดึก ผู้คนเริ่มบางตา อากาศเริ่มเย็นลง จึงค่อยเดินกลับมาที่บ้าน...

อาบน้ำเสร็จ... ไอ้ชลมันก็มานอนกอดผมที่เตียง... ในท่าเดิม... กำลังจะเคลิ้มหลับไอ้ชลมันก็บีบเบาๆ ที่ลำท่อนของผมที่มันกำอยู่ก่อนแล้ว ก่อนจะรูดขึ้นรูดลงจนมันเริ่มขยับตัว พองขึ้น...

“ซนนะมึง...” ผมพึมพำทั้งยังหลับตา...

ไอ้ชลหัวเราะคิกคัก... “กูคิดว่ามึงหลับแล้ว...”

“เกือบแล้วละ... มึงจะทำไม”

“กูมีของเล่นใหม่อ่ะ...” มันบอก พร้อมกับขยับตัวลุกขึ้นไปรื้ออะไรกุกกักที่กระเป๋ากางเกงที่มันใส่ไปลาววันนี้ ไม่นาน มันก็กลับมาที่เตียง

ส่งของที่มันถืออยู่ในมือให้ผม... จากแสงจันทร์สลัวๆ ที่ลอดเข้ามาทางหน้าต่าง... มันไม่ชัดนักหรอก แต่ผมก็รู้ว่ามันเป็นวงกลมคล้ายกำไล เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณสองนิ้ว ทำด้วยวัตถุอะไรสักอย่าง เรียบลื่นสีขาวนวล

“อะไรวะ” ผมทำท่างง...

“กำไล... กูซื้อมาให้มึง... ทำจากงาช้างเชียวนะมึง”

ผมทำท่างงๆ “ก็มึงให้กำไลเงินกูมาแล้วไง แล้วอันนี้มันก็เล็กจะตาย... กูจะใส่ได้ไง”

ไอ้ชลหัวเราะหึๆ... “กูไม่ได้ซื้อให้มึงใส่ข้อมือ”

“อ้าว... แล้วมึง...” ผมนึกอะไรขึ้นมาได้ “นี่... มึงอย่าบอกนะว่าซื้อมา...”

ไอ้ชลยิ้มในความมืด... “ก็ใช่น่ะสิ...” คว้ากำไลคืนแล้วเลื่อนตัวลงไปนอนพังพาบตรงหว่างขา ผมมองตามมันก่อนจะผงกหัวขึ้นมาเอาศอกเท้าที่นอน ดูไอ้ชลมันเล่นกับKผม... (จริงๆ ก็ชอบด้วยแหละ หุ หุ) เห็นมันเอากำไลสวมเข้ากับท่อนKผมรูดลงไปจนถึงโคน ขยับให้เข้าที่ มันหลวมนิดๆ กับขนาดของKผมที่กึ่มๆ อยู่ห้าหกสิบเปอร์เซ็นต์แบบนี้

“พอดีเลย” มันบอกผม

“เด๋วKกูแข็งมันก็รัดแน่นดิ”

ไอ้ชลไม่ตอบ จับKผมรูดสองสามที จุ๊บที่หัวบานๆ ก่อนจะอ้าอมเข้าไปไว้ในปาก... ใช้ลิ้นตวัดไล้เลียไปมาด้วยลีลาการ “อมK” ขั้นเทพ... ได้ผลครับ... Kผมผงาดแกร่ง แข็งขึ้นมาทันใจ

“อูยซซซซ” ผมคราง เพราะไอ้ห่วงกำไลที่หลวมๆ อยู่ตอนแรก พอKผมแข็งเพิ่มขนาดขึ้นมา กลับกลายเป็นกำไลที่รัดโคนKผมจนเส้นเลือดเส้นเอ็นปูดโปน... หัวKที่บานอยู่แล้ว กลับบานขึ้นไปอีก แดงก่ำเหมือนชมพู่ม่าเหมี่ยวลูกเขื่องๆ

“คับไปเหรอ ดิน...” ไอ้ชลมันเงยหน้าขึ้นถาม

“มันเหมือนKกูถูกบีบแน่นๆ อ่ะ...”

“เจ็บเหรอ...” มันถามอย่างเป็นห่วง

“ไม่ถึงขนาดนั้น แต่มันอึดอัดอ่ะ เหมือน... เหมือนใส่รองเท้าคับๆ ว่ะ” ผมทำหน้าเหยเก...

ไอ้ชลมันมองKผมที่เส้นเลือดกับเม็ดมุกโปนปูดแข่งกัน ส่วนหัวบานแดงก่ำ ดูเหมือนว่าจะใหญ่กว่าเก่าด้วยซ้ำไป ก่อนจะอ้าปากอมเลียเข้าไปในปากอีกครั้งนึง

“อูยซซซซ ซี๊ดซซ” ผมแหงนหน้าคราง ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก มันก้ำกึ่งระหว่างความอึดอัดที่ถูกรัดโคนK กับความเสียวจากการที่ถูกไอ้ชลมันอมดูดลำKเข้าไปกว่าครึ่งลำ....

“อาซซซ์ กูเสียว...” ผมครางเป็นระยะๆ เพราะลีลาการ “ดูดK” ขั้นเทพของไอ้ชล... ที่ใช้ทั้งมือทั้งปากประกอบกัน รีดเร้นอารมณ์เสียวของผมให้ก่อตัวขึ้นมาอย่างช้าๆ

เสียงไอ้ชลครางอึกอักเพราะอมKของผมอยู่เต็มปาก... ก่อนจะคายออกมากระซิบเสียงกระเส่าไม่แพ้ผม  “ดิน... มึงเอาน้ำมาให้กูกิน... นะ...กูอยากกินน้ำมึง...นะครับ...”

“อูยยซซซี๊ด... มึงดูดKกูแรงๆ...” ผมครางแอ่นตัว ก้นไม่ติดพื้นกับลีลาการดูดKของไอ้ชล...

ลำพังตอนยังไม่รัดK ผมก็อึดมากอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้มีห่วงกำไลรัดอยู่โคนKด้วย ทำให้ความรู้สึกของผมยิ่งเพิ่มความอึดมากขึ้นไปอีก... แต่ไอ้ชลมันก็ไม่ยั่นครับ เพราะบางทีผมยังนอนให้มันดูดKอย่างเดียว มากกว่าสามชั่วโมงก็เคยมาแล้ว

ความเสียวค่อยๆ เพิ่มขึ้น... ทีละน้อยๆ จนกระทั่ง... “อูยซซซซซี๊ด... ชลมึงดูดKกูแรงอีก กูจะแตกแล้ว... แรงอีก... ซี๊ด.... ดี... อูยวซซ์  อ๊าซซซ์”

ไอ้ชล ดูดKผมอย่างแรง ตามที่ผมบอก สองมือมันยังกดที่ห่วงรัดK... จนKผมถอกออกมาสุดๆ ผมแหงนหน้า กัดฟันสูดปากด้วยความเสียว ตัวแอ่นเกร็งกระตุก น้ำเงี่ยนสีขาวขุ่นพุ่งทะลักออกมาจากปลายKอย่างมากมาย ถึงแม้มันจะไม่พุ่งออกมาแรง เพราะมีห่วงรัดที่โคนขวางอยู่ แต่ก็ทะลักหลั่งพลั่งออกมาเป็นระลอกๆ ก่อนจะเยิ้มลงมาอาบที่ลำKจนเหมือนราดด้วยกระทิ...ลงบนกล้วยเชื่อมทั้งลูก...

แต่ไอ้ชลก็ไม่ปล่อยให้เสียเปล่า ปลายลิ้นสีชมพูของมัน ค่อยๆ ปาดเลียน้ำเงี่ยนของผมที่หลั่งทะลักอยู่บนท่อนลำ ตวัดเข้าปากจนเกลี้ยงสะอาด เท่านั้นยังไม่พอ มันยังรีดส่วนที่ตกค้างอยู่ในลำท่อนออกมา ก่อนจะไล้เลียเข้าปากมันไปจนหมด ก่อนจะตวัดลิ้นเลียริมฝีปากแผล็บเหมือนเด็กที่กินอาหารเลอะเทอะ

ตลอดเวลาผมนอนมองการกระทำของไอ้ชล แล้วก็อดขำกับท่าทางของมันไม่ได้ พอมันมองสบตาผมก็เลยถาม “อร่อยไม๊... อิ่มยัง”

ไอ้ชลจุ๊บที่ส่วนหัวบานๆ ของKผมอีกที ก่อนบอก “อร่อย... ไม่เคยบอกสักทีว่า อิ่มนะ...มึงมีอีกไหมล่ะ...”

ผมหัวเราะหึๆ “กูให้มึงดูดทั้งคืนก็ได้ แต่มึงเอาห่วงที่รัดKกูออกก่อนได้ป่ะ... อึดอัดว่ะ”

ไอ้ชลหัวเราะหึๆ “กูเคยอ่านหนังสือ... คนจีนสมัยโบรานเค้าใส่เหมือนกัน เป็นห่วงหยก... ว่ากันว่า จะได้แข็งอยู่ได้นานๆ ไม่อ่อนง่าย”

“แล้วKกูอ่อนง่ายเหรอ” ผมถามมันยิ้มๆ...

“เปล่า... กูเห็นมันสวยดี แล้วมันก็พอเหมาะกับKมึง เลยซื้อมาให้มึงใส่เล่นอ่ะ...” มันบอกยิ้มๆ ก่อนจะค่อยๆ ขยับห่วงออกมาทีละนิดๆ เพราะความแน่น... ลำบากทุลักทุเลพอใช้ ยิ่งตอนที่ต้องผ่านเม็ดมุก มันต้องค่อยๆ เอานิ้วดันให้เม็ดมุกลอดผ่านห่วงทีละเม็ด ๆ แต่ในที่สุดก็หลุดออกมาจนได้ พร้อมกับเสียงถอนหายใจของผมกับไอ้ชลดังขึ้นพร้อมกัน...

“เฮ้อ...” เราสองคนหัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน... ผมดึงมันขึ้นมากอด... จูบที่แก้มมันฟอดนึง ก่อนจะบอก “ขยันหาของมาเล่นกับKกูเหลือเกินนะ...”

ไอ้ชลอาย หลบตาพึมพัม “ก็Kมึงอ่ะ...ใหญ่ดี... แข็งด้วย” มือไอ้ชลกำไอ้ที่มันบอกว่า ‘ใหญ่ดี...แข็งด้วย’ ไม่ปล่อย... แถมรูดเล่นอย่างมีจุดประสงค์

“ดิน...” ไอ้ชลกระซิบเสียงพร่า

“หือม...” ผมรับคำเบาๆ

“กูอยาก...” มันบอก

“มึงทำดิ...” ผมบอกมัน

มันพลิกตัวไปข้างเตียง ประเดี๋ยวเดียว ก็มีหลอดเจลหล่อลื่นติดมือมา... จัดแจงบีบใส่มือมาลูบไล้ที่ท่อนKของผมจนลื่นเป็นมัน ก่อนจะลุกขึ้นนั่งยองๆ จับKผมให้ตั้งตรง จ่อตรงรูของมัน พอได้ที่มันก็กดลงมา

“อาซซซ.... ซี๊ดซซ ใหญ่ชิป...” ไอ้ชลบ่นเมื่อหัวบานของผมแทรกเข้าไปในร่องหลืบมันจนมิดเงี่ยง

“หุ หุ... กูเอามึงมา นับไม่ถ้วนครั้งแล้ว ยังไม่ชินอีกเหรอ” ผมแกล้งถามมันล้อๆ เบนความสนใจ พร้อมกับกระดืบหน้าท้องให้Kผมแทรกลึกเข้าไปเรื่อยๆ

“อูยซซซ...ซี๊ดซซซ ก็มันใหญ่เกินมนุษย์มนานี่หว่า... อูยซซซ์ซ์” ไอ้ชลทำหน้าเบี้ยวเมื่อเม็ดมุกเม็ดแรก แทรกผ่านกล้ามเนื้อหูรูดของมันเข้าไป...

ผมปล่อยให้มันค่อยๆ กดลงมา ขยับสะโพกเด้งสวนให้Kผมแทรกลึกลงไปอีก ไอ้ชลอ้าปากพ่นลมออกมาไม่หยุดเมื่อเม็ดมุกเม็ดต่อมาแทรกผ่านหูรูดของมัน สอง สาม สี่ ห้า หก... จนครบ ผมก็จับสะโพกมันยึดเอาไว้ ก่อนจะเกร็งกล้ามเนื้อ กระเด้าสะโพกสวนขึ้นมาจนKขนาดความยาวร่วมเจ็ดนิ้ว จมหายเข้าไปในตัวมันจนหมด

“อ๊ากซซซ ดิน... อูยซซซ” ไอ้ชลคราง ตัวสั่นระริก ก้มหน้าลงประกบปาก แทรกลิ้นข้ามาในปากผม “อือม...หืมม์” จนพักใหญ่ที่มันกดสะโพกให้Kผมแทรกจมมิดอยู่ในรูมัน กว่าจะเริ่มขยับตัวช้าๆ ก่อนจะเริ่มเร็วขึ้นๆ...

บททำรักด้วยปากของไอ้ชลเรียกว่าขั้นเทพ แต่บทรักที่มันกำลังทำให้ผมอยู่ ต้องถือว่าไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า เพราะมีทั้งส่าย ควง บด กระแทก เป็นจังหวะสลับกันไปมา ซึ่งผมที่นอนอยู่ข้างล่างก็ได้แต่คอยยกสะโพกกระเด้าKรับการควบของมันตามจังหวะ... พร้อมกับสูดปากครางด้วยความมันส์

“อูย.... ชล...มึงสุดยอด...ซี๊ดดซซซ”

ไอ้ชลพอเห็นว่าสามารถทำให้ผมครางได้ มันยิ่งเร่งการควบควงสะโพกของมันไม่หยุด... แต่มันคงลืมไปว่า ยิ่งกระแทกแรงเท่าไร ก็ยิ่งสร้างความเสียวกระสันให้มันมากเหมือนกัน

“อูยซซซ ดิน...กูก็เสียว... อูวซซซซี๊ดดดซซซ”

แล้วมันเองนั่นแหละครับ ที่เป็นฝ่ายที่ทนไม่ได้ “อูยวซซ์ ดิน... กูแตกแล้วซซซี๊ดซซ”

ไอ้ชลมันกระแทกหนักๆ อีกหลายที แล้วมันก็กระตุกเยือก... น้ำแตกทะลักออกมาจากไอ้ชลน้อยจนหน้าอก หน้าท้องของผมเต็มไปด้วยน้ำเงี่ยนของมัน....

พอมันเสร็จ... ก็ทำท่าจะยกธงขาวยอมแพ้ดื้อๆ... แต่ผมไม่ยอมหรอกครับ หลังจากให้มันพักไม่นาน ผมก็ผลักมันนอนหงายลงกับที่นอน จับขามันขึ้นพาดบ่า กระเด้าสะโพกใส่มันอย่างหนักหน่วงสุดมันส์

ไอ้ชลเอามือลูบไล้ที่หน้าอกและหน้าท้องของผม ครางกระสัน... “อาว์ซซ ดิน...มึงโคตร เซ็กซี่เลย...อูยซซซี๊ดซซซ มีงเอากูแรงๆ แรงอีก...แรงอีก... อาซซซ”

ผมเร่งกระหน่ำกระเด้ามันอย่างหนักหน่วง นัยน์ตาผมมองมันอย่างหื่นกระหาย...ความเสียวพุ่งขึ้นถึงขีดสุด

“อูยซซซ... กูแตกอีกแล้ว... ซี๊ดซซซซ”

“อ๊าซซซ ชล รอกูด้วย กูก็แตกแล้ว... ซี๊ดซซซ” ผมกระแทกหนักๆ อีก สี่ห้าครั้งก่อนจะบดสะโพกกดแน่น ลำKเกร็งกระตุก พ่นน้ำเงี่ยนเข้าใส่ในรูของไอ้ชลหลายต่อหลายครั้ง...

... รอจนกระทั่งอาการเกร็งกระตุกของเราสองคนหมดลง ผมจึงค่อยเอาขามันลงจากบ่า ก่อนจะนอนทาบทับไปบนตัวของไอ้ชล... จูบที่ปลายจมูกของมันเบาๆ...กระซิบ

“มันส์ไม๊ครับ... เมียครับ”

ไอ้ชลพยักหน้า ผมเห็นน้ำตามันไหลออกทางหางตาข้างละหยดเอามือกอดผมไว้แน่น กระซิบ...

“กูรักมึง ดิน... รักมาก... อย่างที่กูไม่คิดว่ากูลจะรักใครได้มากเท่ามึงอีกแล้ว...”

ผมกอดตอบมัน... ก่อนจะนอนหลับไปอย่างเหนื่อยอ่อนด้วยกันทั้งสองคน...

.................................................................................................

ช่วงนี้อาจจะโพสห่างอีกแล้วครับ มีทริปต้องไปต่างประเทศครับ แต่ถ้ามีโอกาสผมจะเข้ามาโพสครับ

ก็...ผมคิดถึงเพื่อนคนอ่านของผมนี่ครับ

 :o8: :-[

ดิน

................................................................................................

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด