ว่าจะไม่มาต่อให้แล้ว กลัวโดนคนอ่านประนามไปมากกว่านี้อ่ะครับ
.................................................................................
ตอนที่ 33 สาวภูไท (2)จากตอนที่แล้ว....
ระหว่างทางเดินกลับไปที่ห้องเพื่อแต่งตัว... ผมก็ใจหายวูบ... เมื่อเห็นที่พื้น...
.................................................................................
ที่บันไดหน้าบ้านป้าไอ้ชล จะมีกระถางแบนๆ สำหรับล้างเท้า คนจะขึ้นบ้าน จะเดินลงไปที่กระถางแล้วล้างเศษดินที่ติดมากับเท้าก่อนที่จะเดินไปเช็ดที่พรมเศษผ้าที่ป้าไอ้ชลวางไว้ที่แท่นก่อนขึ้นบันได แต่ถึงจะเช็ดแห้งยังไง เท้าก็จะยังเปียกอยู่บ้าง และเวลาเดินขึ้นไปบนบ้านก็จะเห็นรอยน้ำเป็นรูปเท้าจางๆ ก่อนจะแห้ง...
พื้นระเบียงบ้านป้าไอ้ชลเป็นไม้ที่ขัดถูจนเป็นมัน โดยเฉพาะเวลาถูใหม่ๆ จะเป็นเงากริบ
เมื่อเช้าก่อนจะไปฝั่งโน้น ไอ้ชลมันเพิ่งจะถูพื้นเสร็จ
แต่ที่พื้นไม้กระดาน... ผมมองเห็นรอยน้ำหมาดๆ เป็นรูปรอยเท้า บางรอยก็แห้งแล้ว ติดอยู่ที่พื้นสะอาดๆ ชัดเจน... พอผมลองไปยืนตรงที่มีรอยเท้าอยู่สับสน แล้วมองลงไปที่หลังบ้าน...
จากมุมตรงนั้น ผมมองเห็นบ่อน้ำชัดเจน แถมมุมที่ผมยืนอาบอยู่นั้น ไม่มีอะไรปิดบังสักนิด... และยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่ผมกำลังยืนรูดลำของผมอยู่นั้นผมหันข้างให้กับตรงนี้ด้วย ก็กลายเป็นว่า ตอนนั้น...ผมได้ทำการแสดงโชว์การรูดกระดอสดๆ ให้ใครก็ตามที่มายืนอยู่ตรงนี้เห็นอย่างชัดเจน... ชัดเสียยิ่งกว่าชัด... และรอยเท้าที่เห็น ก็ไม่ได้ใหญ่ เป็นรอยเท้าของผู้หญิง... จะเป็นใครล่ะครับ
“ไม่เป็นไร... ถือเป็นโชว์การกุศล... หุ หุ...”
ผมรีบแต่งตัว ก่อนจะเดินลงมาเปิดประตูรั้วให้น้องบัวเข้ามา... น้องบัวยังอยู่ในชุดนางรำสาวภูไทเมื่อเช้า... นุ่งผ้าซิ่นกรอมเท้า กับเสื้อแขนกระบอกเอวลอยสีคราม... สายตาเจ้ากรรมของผมมองลงไปที่เท้าของน้องบัว... ชายผ้าซิ่นของเด็กสาวยังมีรอยเปียกอยู่ถึงไม่ชัดนัก แต่ถ้าสังเกตดีๆ ก็เห็นได้ไม่ยาก...
น้องบัวหลบตาผม หน้าเป็นสีชมพูอย่างปิดไม่อยู่ เอ่ยถามอย่างตะกุกตะกัก
“อ้ายดิน...บัวมาหาอ้ายชลจ้ะ... อ้ายชลไม่อยู่เหรอจ๊ะ...”
“ไม่อยู่หรอกครับ ไปฝั่งโน้น เห็นบอกว่า ป้าผินไม่สบายอีกน่ะ”
“ไม่เป็นไร... งั้นบัวกลับก่อนนะจ๊ะ...”
ผมคว้าแขนของน้องบัวดึงไว้ “เดี๋ยวสิครับ... จะรีบไปไหน อยู่เป็นเพื่อนพี่หน่อยสิครับ พี่ไม่รู้จะคุยกับใคร”
เด็กสาวก้มหน้างุด... “อ้ายดินเป็นผู้บ่าว ใครมาเห็นเข้าจะไม่งาม...”
“แต่พี่เหงาจัง... ไม่รู้จะคุยกับใคร... อยู่คุยเป็นเพื่อนพี่ดินหน่อยนะครับ... นะ นะ...” ผมทำตาเจ้าชู้ออดอ้อน
น้องบัวมองไปทางประตูรั้ว... เหมือนกับกลัวใครมาเห็นเข้า... ผมเลยบอก “งั้นเราขึ้นไปคุยกันข้างบนนะครับ... นะ”
ผมชวนน้องบัวขึ้นไปข้างบน พอขึ้นไปบนบ้านได้ ผมก็ปิดประตูใส่กลอนอย่างดี... พาน้องบัวไปนั่งที่ตั่งไม้ ที่ใช้นั่งเล่นด้านนึง...
“พี่เพิ่งอาบน้ำเสร็จน่ะครับ... มันร้อน เลยไปอาบน้ำที่ข้างบ่อ” ผมแกล้งแย็บเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสักครู่ น้องบัวหน้าเป็นสีชมพู
“จ๊ะ... แต่ดูเหมือนว่าฝนกำลังจะตกเหมือนกัน...” น้องบัวชี้ให้ดูเมฆฝนที่ตั้งเค้าไกลๆ อยู่ฝั่งลาวโน้น... ผมพยักหน้า... แดดจะออก ฝนจะตก ผมไม่สนใจหรอกครับ เพราะจุดสนใจผมนั่งอยู่ตรงนี้แล้ว... ผมจ้องน้องบัวด้วยสายตาพราวระยับ จนน้องบัวอาย
“อ้ายดิน ทำไมจ้องบัวอย่างนั้นล่ะจ๊ะ”
“ไม่นึกเลยอ่ะครับ ว่ามานครพนมครั้งนี้ พี่จะได้เจอสาวภูไทที่สวย น่ารักขนาดนี้...” ผมหยอดคำหวาน พร้อมกับสายตา
“อ้ายดินปากหวาน เจ้าชู้ด้วย น้าทิ้งบอกว่า อ้ายดินน่ะ อันตราย อย่าเข้าใกล้”
“พี่พูดจริงๆ นะครับ” ผมเขยิบเข้าใกล้จับมือน้องบัวขึ้นมาจูบ น้องบัวสะดุ้ง จะดึงมือหนี แต่ถึงขั้นนี้แล้วบวกกับผมมั่นใจว่าน้องบัวคงมีใจให้ผมไม่น้อย ผมจึงรุกคืบใกล้เข้าไปอีก คว้าน้องบัวเอามากอดไว้เต็มอ้อมแขนก้มหน้าลงไปจะจูบ แต่น้องบัวเอาแขนปัดป้องดันหน้าอกผมไว้ หันหน้าหนีด้วยมารยาหญิง
“อ้ายดิน... อย่ารักแกบัว... เดี๋ยวอ้ายชลกับป้ากลับมาเห็น”
“ไอ้ชลกับป้าไม่กลับมาง่ายๆ หรอกครับน้องบัว... พี่ชอบน้องบัวมากนะครับ... ตั้งแต่เห็นครั้งแรกแล้ว น้องบัวสวย น่ารัก... ยิ่งมาเห็นแต่งชุดภูไทแบบนี้ยิ่งน่ารัก...” ผมกระซิบเสียงพร่า น้องบัวเงยหน้าขึ้นมา ผมฉวยโอกาสจังหวะนี้ก้มลงประกบริมฝีปากที่ริมฝีปากอิ่มสีชมพูสวยของเด็กสาว
แหย่ลิ้นเข้าไปในปากของน้องบัว ตอนแรกน้องเค้าพยายามจะกัดฟันไม่ยอม แต่ผมค่อยๆ ไล้ลิ้นไปมากับริมฝีปากหอมหวานของเด็กสาว มือข้างนึงกอดร่างบางเอาไว้ ส่วนอีกข้างนึงขยับขึ้นมา ลูบไล้อยู่ที่ปทุมถันขนาดเหมาะมือ นอกเสื้อเอวลอยแขนทรงกระบอก
“อา... อาซซซ อ้ายดิน... อย่า...”
พอน้องบัวเผลออ้าปากพูด ผมก็แหย่ลิ้นเข้าไปสัมผัสกับลิ้นนุ่มๆ ของน้องเค้า... พร้อมกับโจมตีด้วยฝ่ามือที่สอดแทรกเข้าไปทางใต้ของชายเสื้อ... สัมผัสกับยกทรงลูกไม้ที่ห่อหุ้มปทุมถันคู่งาม... ผมแทรกนิ้วลงไปใต้ขอบของยกทรงนั้น สัมผัสกับก้อนเนื้อหยุ่นนุ่ม แต่แข็งเป็นไต...
จากอาการขัดขืนในตอนแรก พอเจอลีลารักที่เต็มไปด้วยความชำนาญของผม เด็กสาวที่ไม่เคยมือชาย ก็ตัวอ่อน ยกสองแขนขึ้นคล้องรอบคอผมไว้แน่น
ผมค่อยๆ ประคองน้องบัวลงนอนลงบนตั่งไม้ พร้อมกับทาบตัวลงนอนประกบกับร่างสาวที่สั่นสะท้านด้วยเพลิงราคะที่ผมจุดประกายให้เกิดขึ้น ค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อทรงกระบอกของเธอออกทีละเม็ดอย่างช้าๆ และจับสาบเสื้อเธอออกจากกัน ปทุมถันของน้องบัว มันดูอวบอิ่มสวยมากเหลือเกิน แม้มันจะไม่ใหญ่เท่าไรนักแต่มันก็ดูเย้ายวนและเต่งตึงด้วยวัยสาว
ผมก้มลงดอมดมความหอมจากปทุมถันของสาวน้อยภูไทอย่างอิ่มเอม สองมือคลึงเคล้นช้าๆ แต่เน้นจุด ปลายลิ้นฉกเลียวนไปมารอบๆ ชั้นในสีชมพูจนกระทั่งมาถึงบริเวณที่ผมประมาณว่าเป็นปลายยอดของเต้านมเธอ จึงใช้ริมฝีปากขบเม้มเบาๆ
“อูยซซซ อ้ายดิน... อย่ารังแกบัว...” เด็กสาวตัวสั่นระริก ร้องห้าม แต่กอดหัวผมไว้แน่นตึบกับปทุมถันสองข้าง พร้อมกับแอ่นหน้าอกขึ้นมาหาหน้าผม... ผมใช้นิ้วชี้สอดเข้าไปในขอบด้านล่างของเสื้อชั้นในลายลูกไม้สีชมพูสวย... พลิกมันขึ้นไปด้านบน เท่านั้นเอง...ทรวงอกตูมเต่งก็ดีดเด้งออกมาจากเสื้อชั้นในตัวน้อย เผยให้เห็นปลายยอดสีชมพูแข็งเป็นไต ผมมองอย่างลานตาก่อนจะก้มลงดูดมันอย่างหื่นกระหาย
สาวน้อยบิดกายไปมาด้วยความเสียว... แต่ผมไม่หยุดอยู่แค่นั้น... ค่อยๆ ลูบไล้ไปบนหน้าท้องเนียนสวย แบนราบ จนกระทั่งถึงส่วนล่าง ก่อนจะลูบไล้เนินเนื้อนูนสามเหลี่ยม นอกผ้าซิ่นอย่างย่ามใจ... “อาซซซ อ้ายดิน... พอแล้ว... บัวจะขาดใจตายอยู่แล้ว...” น้องบัวร้องครางและหายใจแรงขึ้น และอีกประเดี๋ยวเดียว ผ้าซิ่นสีครามที่น้องบัวใส่มา ก็กระเด็นหายไปทางไหนก็ไม่รู้... ผมล้วงมือผ่านชั้นในตัวจิ๋วเข้าไปจนปลายนิ้วสัมผัสกับความความนุ่มเนียนมือ ปราศจากเส้นขนแม้แต่น้อย ก่อนจะแทรกนิ้วกลางเข้าไปในร่องพูเนื้อที่เริ่มจะเปียกชื้น... ทันที่ที่นิ้วผมถูกจุดที่ไวต่อความรู้สึกของเธอสาวน้อยก็สะดุ้งและแอ่นสะโพกขึ้นมาทันที
“อูยซซซ อ้ายดินจ๋า... บัวเป็นอะไรไม่รู้... เสียว... อาซซซี๊ดซซซซ”
“เดี๋ยวพี่จะทำให้น้องบัวมีความสุขมากกว่านี้” ผมกระซิบบอก ก่อนจะกดนิ้วเข้าไปในช่องเล็กๆ ใต้เม็ดติ่ง น้องบัวถึงกับสะดุ้ง ตัวสั่นกระตุก ขาเริ่มแยกออกจากกัน น้ำหล่อลื่น ที่ถูกขับออกมามีส่วนช่วยให้นิ้วกลางของผมสามารถไหลผ่านเข้าไปในตัวเธอง่ายขึ้น จนในที่สุดก็เข้าไปได้หมดความยาวของนิ้ว ส่วนนิ้วชี้กับนิ้วโป้ง ทำหน้าที่บีบคลึงเม็ดติ่งที่ไวต่อความรู้สึกที่สุดของเพศหญิง เท่านั้นเอง...น้องบัวแอ่นสะโพกขึ้น ครางไม่เป็นส่ำเมื่อผมชักนิ้วเข้าๆ ออกๆ ที่ร่องสาว พร้อมกับบีบคลึงเม็ดติ่ง ที่แข็งเป็นไตเล็กๆ เหนือช่องทางฉ่ำ
“อ้ายดินจ๋า...อย่าทรมานบัวเลย”
ผมละริมฝีปากร้อนผ่าวจากเต้านมของเธอ จูบไซ้ลงมาด้านล่างผ่านหน้าท้องที่เนียนเรียบ พอถึงขอบบิกินีลายลูกไม้สีชมพูออ่อน ผมก็ใช้ฟันกัด แล้วค่อยๆ รูดชั้นในตัวจิ๋วออกไปทางปลายเท้า ก่อนที่จะขึ้นมาก้มหน้าลงไปสูดกลิ่นความหอมสาวรุ่นที่ไม่เคยผ่านมือชาย แลบลิ้นไล้เลียพูเนื้อคู่งามที่แนบชิดกันอยู่ ก่อนจะตวัดเม้มเม็ดติ่งที่ไวต่อความรู้สึก
น้องบัวผวาเยือก ตัวนั่นระริก ครางไม่เป็นส่ำ “อ้ายดินจ๋า... บัว...บัว... จะขาดใจอยู่แล้ว อ้ายอย่าทรมาณบัวเลย”
ดูเหมือนน้องบัวจะพร้อมแล้ว แต่ผมต้องการที่จะปลุกอารมณ์ น้องบัวให้พร้อมมากกว่านี้ พอที่จะรับศึกใหญ่จากไอ้ดินน้อยดุ้นเขื่องตรงหว่างขาของผม ที่ตอนนี้มันดันกางเกงที่ผมใส่อยู่ตุงเป็นลำ... ผมค่อยๆ ไล้ลิ้นเลียร่องเนื้อของกลีบบัวแดงอมชมพูที่ตอนนี้ดูโหนกนูนอยู่อีกพักใหญ่จนร่องเนื้อสาวเปียกเยิ้มบ่งบอกถึงความพร้อมยิ่งกว่าพร้อม...
ผมละริมฝีปากออกมา ถอดกางเกงของตัวเองออกอย่างรวดเร็ว... ไอ้ดินน้อยที่พร้อมรบอยู่แล้ว ดีดผึงออกมาทันที... แข็งผงาดเส้นเลือดกับเม็ดมุกปูดโปน น้ำเมือกใสๆ ไหลเยิ้มจากส่วนปลายบานสีแดงก่ำ... แทรกตัวเข้าไปที่หว่างขาทั้งสองข้างของเธอและจับปลีน่องสีมะปรางสุกให้แยกออกจนสุดแล้วใช้หัวเข่ากดต้นขาของเธอให้ถ่างค้างเอาไว้ แล้วจึงจับลำท่อนเจ็ดนิ้วเกลี่ยที่ปากทางเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ กดให้หัวบานอวบแทรกลงไปอย่างช้าๆ... มันคับแน่นมาก น้องบัวบิดตัวครางหอบ...พยายามจะดิ้นหนี แต่ ผมเอาหัวเข่าล๊อคน้องเค้าไว้แล้วจึงไม่สามารถหลบไปไหนได้
“อ้ายดิน บัวเจ็บ... เอาออกก่อน... อย่าทำบัวเลย...” น้องบัวร้องห้ามเสียงแผ่วเบา ผมโน้มตัวลงไปทาบกับลำตัวของเธอ จูบที่ริมฝีปาก กอดร่างบางของสาวน้อยเอาไว้ เพื่อไม่ให้เธอดิ้นหนี ก่อนจะกดสะโพกให้หัวบานอวบของท่อนลำแทรกลงไป น้องบัวออกแรงดิ้นขัดขืนการกระทำของผมอย่างสุดแรง ผมจึงเปลี่ยนเป็นก้มหน้าลงไปหาหน้าอกของเธอและซุกไซ้ไปมาก่อนที่จะดูดเลียยอดทรวงอกของเธอเพื่อกระตุ้นอารมณ์ให้กับเธอมากขึ้น
“อ้ายดิน...อย่าทำบัวเลยนะจ้ะ” เธอส่ายหัวบิดตัวไปมาพยายามดิ้นรนหนี เมื่อผมกดสะโพกแรงขึ้นอีกจน เจ้าท่อนเนื้อเริ่มขยับลึกเข้าไปในร่างกายที่เพรียวบางของเธอลึกลงไปอีก ช่องสวาทของเธอแน่นเหลือเกินจนมันเข้าไปแทบไม่ได้ แล้วหัวบานของท่อนลำก็เข้าไปชนกับอะไรบางอย่างในร่องหลืบของน้องบัว
ผมกัดฟันกดสะโพกลงไปอีกแต่มันก็ไม่ยอมเข้า ผมจึงเริ่มที่จะรู้ว่ามันคืออะไร... จากประสบการณ์อันช่ำชองของผมบอกว่า ส่วนนั้นคือเยื่อพรหมจรรย์... ผมกำลังได้เปิดบริสุทธิ์ของสาวน้อยภูไทคนสวย... ผมจึงออกแรงกระเด้าสะโพกแรงขึ้นอีก จนส่วนหัวบานแทรกผ่านเยื่อพรหมจรรย์ของเด็กสาวที่ฉีกขาดจากกัน
น้องบัวร้องกรีดออกมาอย่างสุดเสียงพร้อมๆ กับน้ำตาที่ไหลออกมาจากใบหน้าที่ เหยเก “โอ้ย...เจ็บ..ฮืออๆ ๆ ๆ อ้ายดินจ๋าบัวเจ็บ...เจ็บเหลือเกิน..ฮือออๆ ๆ ๆ ..เอามันออก ไปก่อนนะ..เจ็บเหลือเกิน...ฮือออๆ ๆ ...พ่อจ๋าแม่จ๋าช่วยบัวด้วยเจ็บเหลือเกิน.. ฮือออๆ” ผมเห็นเธอแล้วก็สงสารแต่ด้วยไฟราคะทำให้ผมไม่อาจจะหยุดยั้งได้ ซุกไซ้ซอกคอน้องบัวก่อนที่จะ กระซิบบอกเธอ
“พี่ดินชอบน้องบัวมากนะครับ น้องบัวเป็นเมียของพี่นะครับ”
“ไม่...อ้ายจ๋า อย่าทำบัวเลย... บัวเจ็บ” ผมไม่ฟังประกบจูบลงไปที่ปากอวบอิ่มของเธออย่างแนบแน่น ส่วนล่างเริ่มขยับทำงาน ค่อยๆ กระเด้าลงไปอีกอย่างช้าๆ เพื่อไม่ให้เธอเจ็บมากนัก น้องบัวน้ำตาไหลลงอาบสองแก้ม ปากเธอก็พยายามที่จะร้องแต่ก็ร้องไม่ได้เพราะลิ้นผมที่พัวพันอยู่ในช่องปาก จึงมีแต่เสียงอู้อี้จากลำคอของเธอแทน
นานพอดู กว่าผมจะเอาลำท่อนความยาวร่วมเจ็ดนิ้ว ความใหญ่ขนาดซองบุหรี่แตก ฝังมุกอีกหกเม็ดเข้าไปในร่องหลืบของน้องบัวได้สุดลำ... แต่ก็ไม่เกินความสามารถ... พอมันเข้าไปได้สุดผมก็จัดการแช่มันไว้สักครู่ ก้มลงไปดูดนมให้เธอชินกับท่อนเนื้อของผมเสียก่อนแล้วจึงค่อยๆ โยกคลึงหน้าขาของผม จนรู้สึกถึงอาการผ่อนคลายจากตัวเธอ
ตอนนี้ส่วนล่างของเธอมีน้ำออกมาหล่อลื่นมากขึ้น บ่งบอกให้เห็นถึงความพร้อม... ผมจึงเริ่มกระเด้าลำท่อนแกร่งเข้าออกสั้นๆ จากช้าไปหาเร็วและ เริ่มเร่งให้เร็วมากขึ้น น้องบัวร้องคราง “อาซซซ... อ้าซซ... อ้ายดิน...” พอผมทำไปได้สักพักน้องบัวก็เริ่มที่จะโยกโต้ตอบกับผม
“อ้าซซซ...ซี้ด...อ้ายดิน บัวเสียววว อูยซซซ ”
ประสบการณ์ และความชำนาญในการร่วมรักถูกนำมามอบความสุขให้น้องบัวอย่างเต็มที่... น้องบัวส่ายหัวไปมาพร้อมๆ กับร้องครวงครางด้วยความเสียวกระสันต์ ผมใช้ปากดูดเม้มยอดปทุมถันคู่สวยอย่างเมามัน... สะโพกส่ายควงขณะกระเด้า ให้เม็ดมุกเสียดสีกับผนังและปุ่มกระสันของเธอเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ของเธอให้ พลุ่งพล่านขึ้นไปอีก เสียงเธอกรีดร้องอย่างสุดเสียว
“อ้า...ไม่ไหวแล้ว...อ้ายจ๋า...ไม่ไหวแล้ว” เธอเกร็งตัวกระตุกหายใจหอบฮักอย่างเหนื่อยอ่อน
ส่งเธอถึงสวรรค์ไปแล้ว คราวนี้ผมก็ไม่ปราณีแล้ว... สะโพกแกร่งกระเด้าอย่างคล่องแคล่วการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยความเชี่ยวชาญชำนาญเกมกาม... ทั้งควงส่ายไปมาและเข้าออก... จนพักใหญ่ น้องบัวก็เริ่มมีการขยับสะโพกตอบโต้การกระทำของผมขึ้นมาอีก...
เกมกามอันหนักหน่วงระคนอ่อนหวานของผมดำเนินมาจนถึงจุดสุดยอด ก่อนที่ผมจะทนต่อความ ฟิดแน่นและตอดดูดของเธอต่อไปไม่ไหวกระเด้าหนักๆ อีกสิบกว่าครั้ง ก่อนจะฉีดน้ำเงี่ยนขาวขุ่นของผมเข้าไปในร่องบริสุทธิ์ของน้องบัวอย่างเต็ม พร้อมๆ กับอาการเกร็งตัวและร้องกรีดออกมาที่แสดงถึงการถึงจุดสุดยอดของน้องบัว พร้อมกับมือทั้งสองข้างโอบรัดสะโพกของตัวผมไว้อีกครั้งอย่างแนบแน่น
พอเพลิงโลกีย์มอดดับลง น้องบัวรู้สึกตัวได้สติ ก็เริ่มที่จะร้องไห้เสียดายความสาวที่สังเวยให้หนุ่มเมืองกรุงที่รู้จักกันไม่ถึงสัปดาห์... สาวน้อยสะอื้นฮักกับอกผม
“อ้ายดิน... แล้วคราวนี้บัวจะไปมองหน้าใครได้ล่ะจ๊ะ”
ผมจูบปลอบโยน “เราชอบกันไม่ใช่เหรอครับ... ผู้หญิงกับผู้ชาย... เราชอบกัน มีอะไรกันก็ไม่เห็นต้องไปแคร์คนอื่น” ผมปลอบน้องบัว (อย่างเห็นแก่ตัว หุ หุ)
“บัวเพิ่งรู้จักอ้าย ได้ไม่กี่วันนี่เอง” น้องบัวพึมพำ
“คนจะรักกันชอบกัน ไม่ต้องใช้เวลานี่ครับ” ผมบอก พร้อมกับจูบที่หน้าผากของน้องบัวอีกครั้ง “ตอนนี้น้องบัวเป็นเมียพี่แล้วนะครับ”
น้องบัวทุบหน้าอกผมเบาๆ... “อ้ายดินเจ้าชู้... ไม่รู้มีเมียกี่คน”
“ตอนนี้เราอยู่กันสองคน อย่าไปพูดถึงคนอื่นดีกว่านะครับ” ผมไม่ตอบโต้ (ตอบโต้ให้เข้าเนื้อเหรอครับ) ลูบไล้ไปมาบนร่างงามชื้นเหงื่อ... ก้มลงกระซิบที่หูน้องเค้าเบาๆ “ขอพี่รักน้องบัวอีกนะครับ...”
น้องบัวหลบตาผมด้วยความขวยเขิน... พยักหน้าเบาๆ... “คนผีทะเล...”
ผมหัวเราะหึๆ กอดน้องเค้าไว้กับอก ค่อยๆ สาวสะโพกกระเด้าลำท่อนฝังมุกของผมให้เข้าออกในร่องหลืบของเธออีกครั้ง กดลำท่อนแกร่งเข้าไปสุด ก่อนจะดึงขี้นมาจนเกือบหลุดออกมาจากร่องหลืบ แล้วกดลงไปมิดด้ามอีก จากช้าๆ แล้วค่อยเร่งความเร็ว จากนุ่มนวลอ่อนโยน... เปลี่ยนเป็นหนักหน่วงดุดัน...
ภายนอกบ้าน... เมฆฝนที่ตั้งเค้ามาก่อนเริ่ม ลงเม็ดเปาะแปะ ก่อนจะแรงขึ้น แรงขึ้น... ทั้งฝน ทั้งฟ้า รวมไปถึงลมที่พัดกระโชกกรูเกรียวไปมา... แต่ภายในบ้าน กลับอบอุ่นด้วยไฟรักไฟสวาทที่สองหนุ่มสาว มอบให้แก่กันและกันอย่างไม่รู้เบื่อ
น้องบัวขยับตัวตอบโต้การเคลื่อนไหวของผมอย่างไม่ยอมแพ้ สะบัดศีรษะไปมา ร้องครวญครางไม่ขาดปาก เมื่อผมป้อนลำท่อนแห่งความรักของผมให้น้องบัวได้ลิ้มลองอีก ไฟโลกีย์ เผาผลาญเราทั้งสองคน จนได้รับความสุขอิ่มเอม ครั้งแล้วครั้งเล่า....
“อ้ายดินจ๋า... บัวรักอ้ายดินจัง... ” มือของเธอที่มาโอบกอดผมเอาไว้พร้อมกับ ลูบไล้ไปมา เมื่อผมมอบธารน้ำรักสีขาวขุ่นของผมให้เข้าไปสู่ร่องหลืบที่ลึกล้ำของเธออีกครั้ง
ผมยิ้มให้เธอ... จูบที่ปลายจมูกชื้นเหงื่อ กับซับน้ำตาที่หางตาทั้งสองข้าง ส่วนลึกเร้นในร่องหลืบของน้องบัว ยังบีบรัดท่อนลำของผมอยู่เป็นจังหวะ
จวบจนกระทั่งอาการเกร็งกระตุกของเราสองคนจบลง ผมจึงค่อยๆ ถอนท่อนลำที่ยังแข็งแกร่งออกมาจากร่องหลืบของน้องบัวที่ทำหน้าแหยเก ตอนเม็ดมุกที่ฝังอยู่รอบลำ เสียดสีกับผนังภายในร่องหลืบ....
ผมกอดเคล้าเคลียน้องบัวอยู่ไปมา... กระซิบถาม... “มีความสุขไหมครับน้องบัว...”
น้องบัวพยักหน้าเบาๆ “จ๊ะ... แต่เจ็บจังเลย... อ้ายดินใจร้าย”
ผมจูบที่แก้มนวลก่อนจะกระซิบ... “ครั้งแรก ก็เจ็บอย่างนี้แหละจ๊ะ... โดยเฉพาะของพี่...” ผมจับมือน้องบัวมาวางตรงท่อนฝังมุกที่ยังแกร่งผงาดตรงหว่างขา... น้องบัวสะดุ้งจะชักมือออก แต่ผมขืนดึงไว้ จับมือน้องบัวให้กำลงไปบนลำท่อน...
จากฝืนตอนแรกๆ น้องบัวเริ่มทำความเคยชินกับท่อนลำที่นำความเจ็บปวดมาให้เมื่อครู่...
“ของอ้ายดินใหญ่จัง... มีเม็ดอะไรด้วย”
“เค้าเรียกฝังมุกครับ... เป็นก้อนหินหยก เคยเห็นไม๊”
“เคยเห็นแต่อันเล็กๆ ของเด็กๆ แล้วก็ไม่ได้มีเม็ดๆ อะไรนี่สักหน่อย... ของเด็กๆ น่ารัก แต่ของอ้ายดิน... น่ากลัว...” น้องบัวบอกอายๆ
“แต่มันก็สร้างความสุขให้น้องบัวไม่ใช่เหรอครับ”
น้องบัวไม่ตอบ... ลูบคลำเม็ดมุกที่ฝังอยู่บนท่อนลำของผมอย่างเพลิดเพลิน... พอคุ้นมือ ก็เริ่มกำบีบ รูดเข้ารูดออกมันมือ เล่นเอาผมที่เป็นเจ้าของครางในลำคอไม่หยุด... “อูยซซซ น้องบัวครับ... เสียวคร๊าบ...ดีจัง”
เราสองคนกอดก่ายกันไปมา... ไม่นาน พลังของความหนุ่ม บวกกับรสสวาทที่ได้รับทำให้ไฟโลกีย์ลุกพรึบติดขึ้นมาอีกครั้งอย่างไม่ยากเย็น...
น้องบัวดูเหมือนจะหลงใหลในรสสวาทที่ผมปรนเปรอให้ เฝ้ากอดออดอ้อนให้ผมพาเดินเข้าสู่ประตูวิมานสวรรค์ครั้งแล้วครั้งเล่า... จนกระทั่งฝนหยุดตก และผมเห็นว่าเกือบห้าโมงแล้ว เดี๋ยวไอ้ชลกลับมาเห็นจะเป็นเรื่อง... เลยชวนน้องบัวไปอาบน้ำชำระร่างกาย... แต่งตัวเรียบร้อย ลงมานั่งคุยกันที่ตั่งใต้ถุนบ้าน...
ไอ้ชลกับป้า กลับมาตอนห้าโมงกว่านิดหน่อย พอเห็นน้องบัวนั่งคุยอยู่กับผมก็ทำหน้าแปลกใจ แต่ไม่กล้าแสดงอะไรออกมา เพราะไม่มีพิรุธให้จับได้ “อ้ายนึกว่าเอ็งข้ามไปฝั่งโน้นแล้วเสียอีก... คุยกันอยู่ดีๆ ที่ท่า...หันกลับมาอีกทีก็ไม่เห็นแล้ว” ไอ้ชลบอก ผมอ้าปากค้าง เพราะตอนแรกน้องบัวมาหาไอ้ชลนี่นา
“บัวลืมของจ้ะ... เลยกลับมาเอา... แต่พอได้ของ ฝนก็เริ่มลงเม็ด... เดินผ่านบ้านเห็นอ้ายดินนั่งอยู่คนเดียว เลยเข้ามาหลบฝน แล้วก็นั่งคุยเป็นเพื่อนอ้ายดินด้วยจ้ะ... ใช่ไหมจ๊ะอ้ายดิน...”
ผมพยักหน้าตามน้ำ “ใช่ๆ กูเห็นฝนกำลังจะตกแล้ว เลยเรียกน้องบัวให้เข้ามาหลบฝนก่อน... น้องเค้ายังลังเลเลย แต่กูบอกว่า ฝนตก ไม่น่าจะมีเรือออกเพราะยังไงก็ไม่น่าจะข้ามไปได้...” ผมบอกมัน แต่ในใจนึก น้องบัวนี่ก็ไม่เบาไหลลื่นไม่ติดขัดเหมือนกัน...
ไอ้ชลพยายามจับสีหน้าของเราสองคน เพื่อหาพิรุธ... แต่เมื่อมองไม่เห็นจึง พยักหน้า หายสงสัย... เรานั่งคุยกันอีกพักใหญ่ จนไอ้ชลบอกว่าต้องไปเตรียมตัวไปดูไหลเรือไฟที่หน้าที่ว่าการจังหวัดแล้ว น้องบัวจึงขอตัวลากลับก่อน... ผมกับไอ้ชลจึงเดินไปส่งน้องเค้าที่ประตูรั้ว... น้องบัวหันมามองผมด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์ ก่อนจะเดินออกไปนอกรั้ว...
พอปิดประตูรั้วเสร็จ... ระหว่างทางเดินกลับมาที่บ้าน ไอ้ชลก็ดึงมือผมให้หยุดหันมาทางมัน... ผมหันไปมองหน้าไอ้ชลที่มองผมอยู่ก่อนแล้วอย่างคาดคั้น...
“ดิน... มึงมีอะไรกับนังบัวแล้วใช่ไม๊...!!!!”
........................................................................
เอาไว้แค่นี้ก่อนนะครับ เด๋ววันพุธหน้า กลับจากทริป จะมาต่อให้อีกครับ...
รักคนอ่านครับ
ดิน
![:mc4:](https://thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/yenta4-emoticon-0011.gif)
........................................................................