===========================================
ตุ๊ด ตจว.
ขอเสนอ
ละครชีวิต
"อกกระเทยกลัดหนอง"
ตอน แล้วสอนว่า อย่าไว้ ใจมนุษย์
==========================================
อีบริทย์ อีต๋อง รู้เรื่องทั้งหมด หลังจากฉันไปทำงานดีแล้ว
มันโกรธแค้น และเป็นเดือดเป็นร้อนมาก ฉันต้องห้ามไม่ให้มันไปโวยวายกับเอกอยู่นาน ฉันไม่อยากให้เค้ารู้
และยังเชื่อว่า ความลับจะไม่มีในโลก ซักวัน ความจริงมันจะพรั่งพรูมาสู่ตัวฉัน
ที่ทำงาน เวลาจวนเจียนจะเลิกงานเต็มแก่
"พี่อุย บอกหนูมาเดี๋ยวนี้นะ ว่าอีหน้าไหน ที่มันกล้ามายุ่งกะผัวหนู" เสียงนังแมรี่ เอ็ดตะโรไปทั่วออฟฟิศ คนส่วนใหญ่ที่กำลังเก็บข้าวของเตรียมจะกลับบ้าน ก็หันมาดูกันอย่างคึกคัก สงสารแต่พี่อุย ทำตัวลำบากเชียว
"พี่ไม่รู้ ไปรู้มาจากใครก็ถามคนนั้นสิจ๊ะ" พี่อุยตอบแหยงๆ คงกลัวนังแมรี่มันจะขย้ำคอเอา
"พี่ไม่ต้องมาไม่รู้เลยนะ อีเบิ้มมันบอกว่าพี่เป็นคนยกห้องให้พวกมัน ........กัน" ยัยบ้าเสียงดังกว่าเดิมอีก ฉันเห็นอีเบิ้มสะดุ้งร้อนตัวจนก้นไม่ติดพื้น อีนังเด็กคนนั้นมันยังอยู่ไหมหนอ มีสิทธิ์ตายได้เลยนะเนี่ย (แอบห่วง)
"โห่ พี่เมาจะแย่ นอนฟุบอยู่ข้างๆ เรานั่นแหล่ะพี่จะรู้อะไร" พี่อุยคงจะเข้าตาจนแล้วสินะ ฉันเพิ่งเคยเห็นพี่แกโกหก
"ไม่ได้ๆ พี่บอกมาเดี๋ยวนี้ หนูจะไปตบมัน" ปั๊ดโถ คงเป็นอย่างนี้หล่ะมั้งนังเบิ้มมันถึงไม่ชี้ตัวว่าเป็นใคร ขืนมีเรื่องกัน จะได้พาลติดร่างแหไปด้วย ท่าทางเรื่องคงไม่จบง่ายๆ ฉันเลยกลับบ้านเองดีกว่า ลำพังตัวเองก็ยังไม่เอาไม่รอดอยู่เหมือนกัน
ฉันค่อยๆ เดินทอดน่องกลับบ้าน ระหว่างทางก็ซื้อของที่อยากกินติดไม้ติดมือกลับไป ดูภายนอกฉันอาจจะดีขึ้น แต่ความจริงฉันก็ยังคิด ถึงแม้จะรู้ว่า ยิ่งคิดก็ยิ่งทุกข์ก็เถอะ
ถึงห้องแล้ว ฉันก็นอนฟุบบนที่นอนเหมือนทุกๆวัน ได้ยินเสียงโทรศัพท์หน่อยๆ คงจะเป็นเมสเสจ ฉันเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์มาดู แล้วก็ใช่ เป็นเอกที่ส่งมา
"อีกเดือนเดียว จะได้อยู่ใกล้ตัวเองแล้ว คิดถึงมาก อยากมีอะไรกัน"
ฉันเขวี้ยงมือถือใส่ผนังห้องอย่างแรง หน้ากากโทรศัพท์แตกกระจายและชิ้นส่วนบางชิ้นหลุดออกจากกัน
ในใจคิดว่าพังแน่ๆ แต่ ไม่เสียดายเลย ซักกะนิด...
ปล. ไม่พังซะง้าน
…………………………………………………
อีกแค่เดือนเดียวเองหรอ
..
...
...
ไม่อยากให้ถึงเลย
ฉันไม่อยากเห็นหน้าเค้าแม้แต่น้อย ไม่อยากได้ยินแม้แต่เสียงที่ผ่านทางโทรศัพท์มาหาด้วย
ฉันเบื่อ เบื่อที่ต้องทนฝืนพูดดีด้วย ทั้งที่ฉันอยากจะด่าๆๆๆ มันให้หายแค้น ผู้หญิงคนไหนมันอยากได้ ก็จงเอามันไปทีเถอะ...
ฉันร้องไห้ออกมาอีกแล้ว สงสารตัวเองเหลือเกิน
เพราะฉันเป็นกระเทยใช่ไหม ทุกอย่างมันถึงจบออกมาเป็นสูตรสำเร็จอย่างนี้
ถ้าใช่ ก็สมน้ำหน้าตัวเองนักแหล่ะ พ่อแม่เตือนไม่เคยฟังซักคำ :-)
หลายคืนที่ฉันกอดผ้าห่มนอนหนาวอยู่บนเตียง ลมอ่อนๆ จากพัดลมตัวเก่าพัดโกรก จนน้ำตาฉันแห้งเกรอะไปกับผิวหน้า
ฉันโทรมมากเลย หากมองตัวเองในกระจก ไม่ใช่แค่ผิวรอบดวงตาจะคล้ำ แต่มันมีคราบน้ำตาเกาะอยู่ตลอดทุกทีที่ฉันอยู่บ้าน ่พักนี้เค้าไม่ค่อยโทรมาแล้ว อาจจะยุ่งเรื่องจะมาเรียนต่อ หรืออาจจะกำลังสานสัมพันธ์กับผู้หญิงคนไหนสักคน หรือจะอะไรก็ช่าง มันดีกับฉันไม่น้อย
ฉันไม่ได้ตัดใจจากเค้าเลย แม้จะทราบอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะ
ฉันรักเค้า และยังจะรักเค้าอยู่ ถึงแม้ว่าสุดท้าย เค้าจะนอกใจฉันก็ตาม
ขอเพียงแค่ มาบอกกับฉันซักคำละกัน...
+ + + + + +
ที่ทำงานฉันก็วุ่นวายพอสมควร เด็กคนที่เป็นโจทย์นังแมรี่หายไปแล้วโดยปริยาย ยัยเจ๊แกนี่ก็โง่เสียจริง แค่นี้ยังเดาไม่ออกอีกว่าเป็นใคร กลับมาสงสัยยัยปอซะนี่
"แกบอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะ ตอนนั้นแกอยู่ที่ไหน" ยัยแมรี่กระชากแฟ้มเอกสารที่ยัยปอกำลังตรวจงานออกมาจากมือ ยัยปอเป็นคนไม่มีพิษมีภัยกับใคร ดูมันกลัวจนลนลาน
"หนูอยู่ในครัวค่ะ" ยัยปอตอบ "อยู่กับ จักร กับเฟียซค่ะ"
"พวกแกไปทำอะไรในครัว ในครัวมีอะไร มีผู้ชายให้พวกแกหรอ" อีนังแมรี่ปากหมา ฉันอยู่ใกล้พอดี
"มันไม่มีผู้ชายในครัว ก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เพราะไม่ใช่ พวกร่านนนผู้ชาย" ฉันตอบชัดถ้อยชัดคำ อีแมรี่จ้องหน้าฉันเขม็ง
"ปากดีจิงๆ เลยนะหล่อน ระวังจะโดนเด้งไม่รู้ตัว" มันลุกขึ้นมา และพูดกับฉันด้วยความเคียดแค้น ก่อนจะเดินฉับๆ ไปหาพวกอีเบิ้มอีกทาง (กลัวจนจิ๋มสั่นหมดแล้วเนี่ยย)
ฉันเห็นพี่อุยหัวเราะปากกว้างอยู่ไม่ไกล
"หัวเราะไรเพ่" ฉันพูดอย่างสนิทสนม
"หัวเราะเฟียซแหล่ะ เอาเรื่องเหมือนกันวุ้ย" พี่อุยตอบ แกยังเอามือกุมท้องไม่ยอมปล่อย
"โห ไม่รู้อะไรซะแล้ว แต่ก่อนหนูนักเลงนะ" ฉันพลอยได้อวด ยังจำตอนฉันตบกะอีเบนซ์ได้ไหม อร๊ายยยส์ ซาหนุก แต่ฉันก็ปากดีไปยังงั้นแหล่ะ ตอนนี้ถ้าเก่งได้ครึ่งนึงของเหมือนก่อน คงไม่ต้องมานอนร้องไห้คนเดียวอยู่แบบนี้หรอก ว่าแต่ว่ามันก็ไม่แน่นะ
ถ้าฉันจับได้จริงๆ ว่าเอกแอบคบกะ หญิงอื่น เข้าจริงๆ หล่ะก็
แม่จะตบทั้งผู้หญิง ผู้ชายเลย
.....
ความรัก ทำให้คนตาบอด
แม้บางคน จะตาไม่บอด แต่ก็อาจจะต้องแกล้งเป็นบอด เหมือนอย่างที่ฉันเป็นอยู่ทุกวันนี้
วันเวลาเดินไปอย่างรวดเร็ว ฉันพรั่นพรึงในหัวใจอยู่ทุกครั้ง เพียงแค่คิดว่าความจริงกำลังจะเปิดเผย ฉันกำลังจะรู้ทุกอย่าง
จะรู้ว่าที่ผ่านมาเค้าอยู่ไหน อยู่กับใคร หรือทำอะไรกัน...
ฉันหมั่นสะสมกำลังใจให้ตัวเองไว้ทุกวัน หวังว่าถึงวันนั้น ฉันจะเข้มแข็ง และเมื่อความจริง คือสิ่งที่ฉันอยากรู้จากผู้ชายคนนี้ ฉันก็ต้องไม่ร้องไห้ แม้ในใจลึกๆ อีก 0.00001 เปอร์เซ็นต์ ฉันยังหวังให้ทั้งหมด เป็นแค่การเข้าใจผิด จากกระเทยโง่เง่าคนนึง
- - - - - - - - - - - - - - -
วันอาทิตย์ บ่ายสองสิบสองนาที ความจริงขยับเข้ามาใกล้กับฉันอีกก้าว ฉันได้ยินเสียงเคาะประตูและร้องเรียกจาก อดีตคนรัก เอกเรียกฉันอยู่นาน
ฉันอยู่ในห้องและห่างจากประตูเพียงแค่ชั่งห่างสองก้าว แต่กระนั้นก็ไม่ได้เปิดประตูทันที ฉันนั่งเงียบและทิ้งเวลาไว้กว่า 5 นาที ก่อนจะกัดฟัน เดินไปเปิดประตู และต้อนรับความจริงเข้าบ้าน
"โห เค้าเรียกตั้งนาน" เอกเดินแทรกตัวผ่านฉันเข้ามา ให้ตายเหอะ ไม่อยากโดนตัวเลย
"เข้าห้องน้ำอยู่" ฉันแก้ตัว เค้าไม่ได้ติดใจอะไร ก่อนจะเดินเข้าไปห้องน้ำ เค้ายืนฉี่โดยไม่ปิดประตูเหมือนเคย แต่คราวนี้กลับน่ารังเกียจสุดๆในสายตาฉัน นั่นแสดงว่าในใจฉันเริ่มจะต่อต้านผู้ชายคนนี้อยู่หน่อยๆ แล้ว
"ซื้อขนมมาฝาก นู่น" เอกออกมาจากห้องน้ำ แล้วชี้มือไปที่ถุงพลาสติกที่วางกองอยู่บนพื้นหลายถุง ก่อนจะหันไปเช็ดมือกับผ้าเช็ดมือที่แขวนไว้ข้างตู้เย็น
มันเป็นขนมอัดเป็นรูปหัวใจสีชมพู บรรจุอยู่ในกล่องสีแดงสด ซึ่งมีประมาณ 16 ชิ้น เป็นขนมที่หาซื้อได้เฉพาะร้านค้าซอมซ่อเล็กๆ ร้านนึงในจังหวัดฉันเท่านั้น ฉันเคยซื้อมันมาเก็บไว้จนมดขึ้น เพราะถูกใจในความน่ารักของมันจนไม่กล้ากิน
"ซื้อมาทำไมเยอะแยะ" ฉันถาม พลางหิ้วถุงพลาสติกสองถุงจะไปแช่ตู้เย็น
"เอ่ออ.. ของตัวเองกล่องนึง อีกกล่องนึงเค้าซื้อฝากเพื่อน" เอกเอามือมาดึงอีกถุงออกจากมือฉัน จนมันพลาดร่วงหล่นพื้นทั้งสองกล่อง ขนมหัวใจที่เคยน่ารัก บัดนี้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ไส้ข้างในทะลักออกมาเปรอะเปื้อน
"ฝากเพื่อนหรอ?" ฉันทวนสิ่งที่ได้ยิน
"อื้มมม" เอกรีบพยักหน้า ก่อนเค้าจะก้มลงมาช่วยฉันเก็บขนม และเลือกกล่องที่ยังมีสภาพดีสุดออกไป ฉันจำใจเก็บเศษขนมที่เหลือไว้ก่อน ลับหลังพอเค้ากลับไป ฉันนำมันไปปาใส่ถังขยะ ทิ้งมันไปพร้อมๆ กับคำเท็จที่พึ่งได้ยิน...
……………….
ฉันวิ่งกลับมาในห้องและนั่งลงหายใจกระหืดกระสอบ ขนาดแค่ออเดิร์ฟยังทำให้ฉันโกรธขนาดนี้ กำลังใจที่เคยใช้เวลารวบรวมอยู่นาน บัดนี้ลดฮวบลงถึงจุดต่ำสุด ฉันรู้สึกดังกลับว่าเหลือลมหายใจอยู่ได้อีกเพียงน้อยนิด ชีวิตฉันซึ่งเคยเต็มไปด้วยความสุข ความสดใส ตอนนี้ถูกผู้ชายคนเดียวทำลายไปจนหมดสิ้น ฉันนี่มันบ้าสิ้นดี
"เลิกๆกับแมร่งไปซะสิ เมิงจะทนทุกข์อยู่ทำเชี่ยอะไร อี โง่ อี ควาย"
"ไปถามมันให้รู้เรื่องไปเรย นั่งอมอะไรอยู่"
"จับมันให้ได้คาหนังคาเขา แล้วตบอีชะนีนั่นให้สาสมเลยนะ"
"...........etc.................."
โอ๊ยยยยย หลากหลายความคิดที่พลันเข้ามาในหัวฉันพร้อมๆ กัน ไม่นานมันคงจะทำให้เส้นเลือดฝอยฉันระเบิด ฉันไม่เก่งเลย ฉันหาทางออกให้ตัวเองไม่ได้ ไม่มีทางไหนเลยที่ฉันจะไม่เสียใจ ฉันไม่พร้อม ฉันขอหลอกตัวเองแบบนี้ไม่ได้หรอ..
ฉันคิดในใจ พลางน้ำตาก็ไหล นึกถึงพ่อแม่ขึ้นมา แกจะรู้ไหมหนอว่าลูกแกถูกผู้ชายมันหลอกเอาแล้ว..
* * * * * * * * * * * *