2 ทุ่มกว่าเกือบสามทุ่ม ฉันกลับถึงพัทยา ยังไม่ทันเข้าบ้านก็ได้ยินเสียงละครดังเจื้อยแจ้วออกมาข้างนอกเสียแล้ว แต่ดูเหมือนคนข้างในจะไม่สนใจละครซักเท่าไร ฉันได้ยินเสียงพี่แอ๊ดคุยกะต๋องว่า
"เอางี้ก็ได้ เดี๋ยวต๋องแยกไปอยู่กะอีแบะมันเอง ถ้าน้องพี่มาจริงๆ จะอัดกันอยู่เข้าไปได้ไง แค่นี้ก็จะแย่แล้ว" อีต๋องพูด
"พี่เกรงใจว่ะ แต่แม่พี่น่ะสิ จะส่งมันมาให้ได้ อยู่บ้านมันก็เอาแต่เที่ยว กินเหล้า มีพี่คนเดียวนี่แหล่ะ ที่มันจะกลัวๆ บ้าง" พี่แอ๊ดพูดด้วยน้ำเสียงน่าเห็นใจ คงจะมีการเปลี่ยนแปลงกับฉันอีกครั้งแล้วสินะ
"ไม่เป็นไรพี่ หนูเข้าใจ" อีต๋องตอบ ความคิดเหมือนกับฉัน เป๊ะเลย..
- - - - - - -
วันหยุดต่อมาของฉัน เกือบทั้งวันฉันกับอีต๋องแล่นรถออกไปหาห้องเช่าถูกๆ กัน ที่นี่มีห้องเช่าเยอะก็จริง แต่ราคาก็ไม่ได้ลดลงมาเลย ถือว่าแพงมากสำหรับคนทำงานกินเงินเดือนอย่างฉัน อีกอย่างเราไม่อยากไปพักไกลๆ ที่ทำงานทั้งคู่ซักเท่าไร
"เอาเปล่าวะ 5500" อีต๋องบอกพร้อมปาดเหงื่อ หากันส้นเท้าแตกกันหมดแล้ว
ฉันส่ายหัวตอบ
- - - - - - - -
แผงขายข้าวแกง ในขณะที่ฉันกำลังตักข้าวใส่ห่อ กำลังจะไปทำงาน จะว่าซวยแต่เช้าก็คงใช่ เจอไอ้เป้พอดี
"เจ๊ๆ ตักแกงให้หน่อย" มันเรียก ฉันมองไปที่มัน เพิ่งตื่นชัดๆ หัวฟูและมีขี้ตาเกรอะเหมือนเดิม กำลังจะละมือไปขายของแล้วเชีย โชคดีอีต๋องว่างพอดี เลยเดินไปตักขายให
"เมื่อคืนไปเที่ยวไหนมาเปล่า รูปหล่อ" อีต๋องทักทายไป เหมือนกับลูกค้าประจำทั่วไป ไอ้เป้หาวว๊อด ก่อนจะส่ายหัว
"ท่องหนังสืออ่ะพี่ จะสอบแล้ว" มันตอบพลางเอามือขยี้หนังหัว เสียงดังกรากๆ เข้าใจเลยอ่ะ อารมณ์ตอนสอบ เหนื่อยกับการอ่านหนังสือเป็นที่สุด ฉันก็เคยเป็น
"เออ เป้ ที่บ้านน่ะ มีห้องให้เช่าบ้างไหม เนี่ยพี่สองคน(ชี้มือมาที่ฉัน) หาห้องอยู่ เอาถูกๆ นะ" อีต๋องพูด ไอ้เป้ทำหน้างงๆ
"8000 น่ะ" ไอ้เป้บอกเรทราคาห้องเช่าติดแอร์ ที่คุณพ่อคุณแม่เจ้าตัวเค้าเป็นเจ้าของ ไม่ต้องคิดต่อเลย ฉันไม่มีทางเข้าไปอยู่แน่ๆ
"ลดไม่ได้หรอ คนกันเองน่า เดี๋ยวพี่ตักแกงให้เยอะๆเลย" อีต๋องประจบมันใหญ่
"ลดได้" มันตอบ ฉันพอมีหวัง
"แต่เต็มแล้ว" มันพูดต่อ ฉันอยากจะฆ่ามันให้ตายคามือ เมิงบอกเต็มแต่แรกก็จบแล้ว
"เจ๊ๆ จะย้ายไปไหนเล่า อยู่ที่นี่ก็ดีแล้วไม่ใช่หรอ" ไอ้เป้พูด คงนึกว่าพวกฉันสุมหัวนอนกันอยู่ที่แผงขายข้าวนี่หล่ะม้าง อีต๋องตอบว่าไรไปนี่ก็จำไม่ได้ซะแระ รู้แต่มันให้ฉันติดรถมอไซด์ไอ้เป้ไปทำงาน มันจอดส่งฉันหน้าที่ทำงาน พร้อมกับหาวๆ วอดๆ (ดีไม่พากรูไปตาย)
"20" มันพูด ในขณะที่ฉันก้าวตัวจะเดินออกไป
"อะไร" ฉันถามยิ้มๆ เพราะนึกว่ามันเล่นมุข
"20 เจ๊ ค่ารถ" มันยังคงแบมือไม่เลิก ฉันแกล้งเอามือตีแป่ะไปที่มือมัน ก็ยังไม่ยอมเลิก นี่อย่าบอกนะว่า
"เอามาซะดีๆ อย่าเคี่ยว" มันพูดพร้อมทำหน้าเหี้ยม
เป็นอันว่าฉันหมดทางสู้ ต้องควักกระเป๋าจ่ายให้ไปอีกหน อุตส่าห์ประหยัดค่าข้าวได้แระ ปกติมากะอีต๋องก็ฟรี เสียทีไอ้เด็กเชี่ยนี่อีกแล้วหรือเรา..
************************************************
จนแล้วงก นี่มันไม่แปลก แต่รวยแล้วยัง งกนี่แปลกอยู่? ว่ากันจิงๆ ไอ้เป้มันก็ไม่งกหรอก สุดท้าย ตลกมากเลย อีต๋องไปคุยกะไอ้เป้ท่าไหนไม่รู้ เลยได้ที่ซุกหัวกันใหม่ เดือนละ 4500 ไม่รวมน้ำไฟ สุดท้ายเป็ดเสร็จ ประมาณ 5000 ต่อเดือน หารกันสองคน ยังสบายๆ อยู่
วันที่ฉันย้ายบ้านใหม่อีกครา ฉันเก็บของแค่ 20 นาที ว่ากันจริงๆ ขามายังจัดไม่เสร็จซะด้วยซ้ำ ทุกอย่างยังบรรจุใส่กล่องไว้อย่างดี มีเพียงบรรดาเสื้อผ้าและเครื่องประทินโฉม MAC (ตลาดนัด) ฉันเอามือกวาดใส่กระเป๋าแป๊ปเดียวเสร็จ ส่วนอีต๋องเก็บของรอฉันไว้ตั้งแต่กลางวันแล้ว ถึงเวลายกใส่ท้ายรถพี่แอ๊ด ก็เป็นอันเสร็จพิธี
ห้องใหม่ที่ฉันย้ายมา ดูสวยหรูที่สุดเท่าที่ฉันอยู่มา แม้จะเป็นแค่ห้องสี่เหลี่ยม แต่ดูสะดวกสบายน่าอยู่ดีมาก มีแอร์ มีตู้เย็น(เล็ก) โทรทัศน์ โทรศัพท์ โต๊ะเครื่องแป้ง และเตียงนอนผ้าปูสีฟ้าสะอาดสะอ้าน เสียดายไม่มีอ่างอาบน้ำ ไม่ง้านว่าจะหัดว่ายน้ำซักกะหน่อย (แต่เสียอย่างเดียว ไฟดับบ่อยไปนิ๊ดด)
อย่าได้ลุ้นเรื่องฉันกะไอ้เป้จะเลยเถิดต่อกันไปเลย ยิ่งฉันใกล้มัน ยิ่งเห็นความร้ายกาจของมัน เป้มันจะมีห้องของมันอยู่ห้องนึง (จิงๆ มันต้องอยู่บ้านพ่อแม่มัน) ตกกลางคืนดึกๆ ฉันเห็นมันพาสาวๆ กลับมานอนไม่ซ้ำหน้าเลยทีเดียว บางครั้งมาคนเดียว บางทีมาเป็นหมู่คณะ -*- เสียงนี่ดังออกมาข้างนอกเรยทีเดียว จะอึ๋ยย ยุ่งเรื่องชาวบ้านเค้าอีก
แต่ถึงอย่างนั้นก็นะ แทนที่ฉันจะไม่ชอบมัน หลังๆ กลับเอ็นดูมัน พอได้สนิทกันก็พอจะเห็นนิสัยดีของมันบ้าง ในเรื่องของความมีน้ำใจ ฉันได้อาศัยสัญญาณอินเตอร์เน็ตจากห้องมันนี่แระ เล่นเน็ต และนั่นทำให้ฉันเป็นคนติดเน็ตเรื่อยมา จนถึงทุกวันนี้
ฉันจำคืนแรกของการเข้าอินเตอร์เน็ตในบ้านใหม่ได้
มีจดหมายในอินบ๊อกซ์ฉันหลายฉบับหลังจากที่ไม่ได้เช็คเมลมานาน ส่วนใหญ่เป็นสแปม และก็ฟอร์เวิร์ดเมล แต่มีฉบับนึงที่เป็นของเอก ดูวันเวลาแล้ว เค้าส่งมาช่วงมีปัญหากันพอดี โชคดีฉันเก็บไว้ ทุกถ้อยคำทุกตัวอักษรข้างล่างนี้ที่กำลังจะได้ยิน จะเป็นถ้อยคำเดียวกับที่ฉันเคยได้อ่าน
From : eak_saksit <saksit.*******อย่าแสดงเมลบนบอร์ด>
Sent : Thursday, September 21, 2006 10:10 AM
To : *******อย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com, *******อย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com
Subject : ความในใจ
_____________________________
Attachment : ภาพ(
.jpg (0.10 MB), ภาพ(9).jpg (0.11 MB)
เอกขอโทษน่ะ เอกอยากปรับปรุง เปลี่ยนแปลงตัวเอกเอง ถึงจะคิดว่ามันยากแต่เอกคิดว่าทำได้ และเฟียซไม่จำเป็นต้องเชื่อคำพูดในเมล์นี้ของเอกก็ได้ แต่เอกอย่างให้ตัวเองดูที่ผลลัพสิ่งที่เอกจะทำ เฟียซอยากให้เอกเปลี่ยนตรงไหนบอกมาน่ะ เอกจะทำเต็มที่ เพื่อที่จะได้ไม่ให้ไม่คู่ควรกับใคร
อย่าลืมตอบเอกมาน่ะเอกจะรอ ที่เอกคุยในเมล์เพราะตัวเองไม่ค่อยอยากคุยกับเค้าเลยไม่รู้จะพูดยังไง เลยต้องมาบอกในนี้และสุดท้ายก็วีรกรรมบ้าเลือดของเอกเอง
หลังจากอ่านเมลจบ เราทำเหมือนกันอยู่อย่างนึง คือพยายามดูว่าเลือดจริงหรือปลอม แต่ฉันกลับคิดต่างกับหลายคน ฉันมั่นใจว่ามันเป็นของจริง (และมันจิงๆ ด้วย) และนึกเห็นใจเค้าอย่างบอกไม่ถูก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เค้าทำร้ายตัวเอง เวลาเค้ามีปัญหา หรือกำลังเครียด เค้ามักจะใช้วิธีมักง่ายแบบนี้
อยู่ดีๆ มันก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมา เป็นความรู้สึกที่หาสาเหตุไม่ได้ เมื่ออึดอัดเต็มที่ไม่นานฉันก็ร้องไห้ออกมา อีต๋องที่นั่งปอกมะม่วงกินอยู่ก็งง พอเดินมาอ่านเมล แล้วมันก็เลยถึงบางอ้อ เลยปลอบประโลมฉันยกใหญ่
"ปล่อยมันไปเฮอะ อีแบะ" อีต๋องลูบหัวฉัน ในขณะที่ฉันฟุบหน้าสะอื้นอยู่บนโต๊ะ "ให้มันไปตามทางมันเหอะเมิง ไว้ใจมันไม่ได้หรอก" อีต๋องพูด
ฉันยิ่งร้องไห้ใหญ่เลย ร้องจนหายใจไม่ออก ต้องเงยหน้ามา หาทิชชู่ซับน้ำมูก พอเริ่มดีขึ้นก็ร้องอีก
"กรูทำไม่ได้ต๋อง กรูทำไม่ได้..." ฉันพุดกับเพื่อนรัก ด้วยน้ำตา
////////////////
ที่จริงไม่ค่อยอยาก add รูปเท่าไหร่เลยอะ อืมมม :เศร้า1: :เศร้า1:
ปล ขนาดรูปตามที่คุณแบะฝากมาน้า