[story]!!! เป็นตุ๊ดหง่ะ บัดซบจริงๆเลยยยยยย !!! โดย ตุ๊ด ตจว.
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [story]!!! เป็นตุ๊ดหง่ะ บัดซบจริงๆเลยยยยยย !!! โดย ตุ๊ด ตจว.  (อ่าน 203626 ครั้ง)

jammy

  • บุคคลทั่วไป
ว้าทายผิดเเฮะ เสียตังอีกเเล้วเรา เหอะๆๆ  :laugh3:

STAR

  • บุคคลทั่วไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-04-2007 20:38:48 โดย b|ueBoYhUb »

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
คาดผิดเหมือนกันคับ :try2: :try2:  แต่ก็ยังมะสะใจ  เมื่อไหร่ชะนีแมรี่จะโดนของจริงซ้าทีเนี่ยะ :onion_asleep: :onion_asleep:

ปล. สงสารคุณแบะจัง  เด๋วคุณบริทย์ก็จะกลับแล้ว  คุณเอกก็ยังมะกลับมา :เฮ้อ: :เฮ้อ:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
หอยทอดราดข้าว น่าสนๆๆ :interest:

ออฟไลน์ Shumi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
^
^
^
เหมือนข้างบน คิดไปคิดมา กินกันได้ตั้งหลายคนแหนะ ว้าวว ประหยัด  :haun5:

rarmz

  • บุคคลทั่วไป
กำ นึกว่าคุนบริทย์จะตบกะชะนีแมรี่
เสียตังเลย 555+

บริทย์จะกลับและ เอกก้อไม่อยุ่
เจ๊แบะเหงาตายเลย

เฮ้ออออออ

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
ต่อเลยคร๊าบบบ
******************************************
เช้ามืดของอีกวัน

ฉันนั่งเฝ้ากระเป๋าสัมภาระของอีบริทย์ เจ้าตัวเค้ายืนต่อแถวซื้อตั๋วรถปรับอากาศกลับบ้านอยู่ ที่ต้องแหกขี้ตามากันแต่เช้า เพราะต้องให้ถึงบ้านก่อนค่ำ เดี๋ยวไม่มีรถต่อเข้าบ้านหล่ะยุ่งเลย

ตอนนี้แสงแดดยังไม่ส่องลงมาเลย แต่กลับมีคนขวักไขว่กันไปทั่ว ทั้งที่รอจะเดินทาง และมาตั้งร้านขายของขายขนม เพราะมีคนใช้บริการเยอะอย่างนี้สินะ ท่ารถถึงได้ดูเก่าและโทรม เพดานก็มีแต่หยักใย่ พื้นทางเดินก็เปื้อนรอยน้ำมันจนกลายเป็นสีดำไปแล้ว ฉันถึงกลับไม่กล้าวางกระเป๋าอีบริทย์ไว้กับพื้นเลยแหล่ะ

อีบริทย์เดินกลับมา พร้อมกับยกนาฬิกาข้อมือเก่าๆ ที่ใช้งานมานานนมขึ้นดู

"อีก 20 นาที รถจะออก" อีบริทย์พูด ฉันใจหาย "เมิงส่ง กรูแค่นี้ก็ได้"

ฉันลุกขึ้นและแบกกระเป๋าลูกเท่าบ้านของมันใส่บ่า
"ช่องไหน" (หมายถึง ชาญชรา เอ้ย ชานชาลา)

" xx " อีบริทย์ตอบ มันก้มลงถือกระเป๋าอีกลูกซึ่งใหญ่พอๆกัน พากันกระเตงไปตามทาง

อีกยี่สิบนาทีเท่านั้น ชีวิตฉันจะกลับมาหดหู่เหมือนเดิม แต่ถึงยังไง ฉันก็ต้องขอบใจอีบริทย์มาก สำหรับความรู้สึกดีๆ ใน 2-3 วันนี้ นั่นทำให้ฉันไม่ถูกกลืนหายไปกับความเศร้า ฉันรู้สึกเหมือนได้เจอกับตัวเองอีกครั้ง หลังจากที่ไม่เห็นมานานเวลาส่องกระจก

"ถึงแล้ว" อีบริทย์พูด เราพากันนั่งตรงเก้าอี้มีพนักสีส้มที่ยังว่างแถวนั้น ข้างหน้ามีผู้หญิงวัยกลางคนยืนเก็บตั๋วเที่ยวแรกของวันนี้ มีบางคนเก็บสัมภาระใต้ท้องรถและขึ้นไปนั่งรอข้างบนแล้วก็มี

"เออ เมิงกลับไปเหอะ เดี๋ยวเข้างานอีก" อีบริทย์พูดพลางดึงกระเป๋าใบโตออกจากไหล่ของฉัน เฮ้ออ

ไว้เจอกันใหม่...

ฉันคืนกระเป๋าให้มัน คนรถหนุ่มใจดีเดินมาช่วยมันถือไปใส่ท้องรถไว้ อีบริทย์เดินกลับมาก็ยื่นตั๋วให้เค้า แล้วก็เดินขึ้นรถไป ฉันเดินกลับออกมาก็ตอนนั้น ในใจรู้สึกโหวงๆ เหมือนเดิม

===========================================

ตุ๊ด ตจว.
ขอเสนอ

ละครชีวิต

"อกกระเทยกลัดหนอง"
ตอน น้ำนิ่ง...ไหลลึก

==========================================

"ง่วงนอนอ่ะ เค้าขอนอนสัก 2 ชม.นะ" เอกพูดกับฉันทางโทรศัพท์ หมอนี่นิ คงเบื่อหล่ะสิ ฉันบ่นเรื่องอีบริทย์กลับบ้านไปแล้วให้ฟังตั้งแต่เช้า 555 หลายคนคงสงสัยว่าปกติ ฉันคุยกับเอกนานแค่ไหน เรียกได้ว่า ใช้มือจับโทรศัพท์กันไม่ไหวเลยหล่ะ ต้องเป็นสมอลทอล์คเสียบหูอย่างเดียว

"จร้า ตื่นแล้วโทรมาหาหล่ะ" ฉันบอกแฟนรัก เราร่ำลากัน แล้วเค้าก็วางสายไป นึกไปนึกมาก็เห็นใจเค้าเหมือนกัน ต้องคุยกับฉันเกือบจะตลอดทั้งวัน นานๆ จะได้พักที ชม. สองชั่วโมง ขึ้นกับว่าฉันงานยุ่งช่วงไหน อิอิ ใช้แรงงานสามีมากไปไหมน๊อ

ก็ทำไงได้หล่ะ คนมันคิดถึงนี่ ถ้าใครได้มาเห็นปฎิทินบนโต๊ะทำงานฉันนะ คงจะถามฉันไม่เลิก เพราะฉันขีดฆ่าปฎิทินทิ้งไปทีละวันๆ โดยก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าจะได้วงวันที่ต้องการไว้เมื่อไร ขอให้วันนั้นมันมาถึง ในเร็ววันนี้ละกัน รักเธอจังเลย เอก..

============================================

นับจากวันที่อีบริทย์กลับไปอีก 1 เดือน กับ 14 วัน เอกก็มา
ฉันเลิกงานแล้วดิ่งตรงกลับบ้านทันที เพราะรู้ตัวล่วงหน้าแล้ว

เอกนั่งรถออกจากนู่นแต่เช้า ถึงกรุงเทพก็ บ่ายโมง เค้าต้องไปธุระรับเงินเดือนที่ทำงานเดิมก่อน จากนั้นไม่รู้จะไปยื่นเรื่องเรียนต่อ ป.โท ทันหรือเปล่า แต่ฉันกลับมาบ้าน 6 โมง ยังไม่เจอเค้าเลย ฉันรอจนนู่น 2 ทุ่ม ก็ได้ยินเสียงเคาะประตู

"ก๊อกๆ " (เอกแน่ๆ ฉันคิดในใจ)

ฉันดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงนอน รีบวิ่งไปเปิดประตูจนเกือบล้ม ฉันสะเดาะกลอนประตูอย่างร้อนรน และก็ผลักประตูเปิดออกด้วยความปีติ

เอกยืนอยู่หน้าฉัน เค้ายิ้มจนเกือบเห็นฟันหมดทุกซี่ ในชุดสบายๆ กับเสื้อเชิ๊ตแขนยาว และกางเกงยีนส์สีเข้ม

ฉันยิ้มไม่หุบเหมือนกัน รู้สึกตื้นตันจนบอกไม่ถูก จนเมื่อเอกผลักฉันเข้าห้องและปิดประตู วางสัมภาระต่างๆ ลงพื้นเสร็จ เค้าโผมากอดฉันจนร่างกายเราแนบสนิทกันจนไม่มีช่องว่าง

"คิดถึงจังเลย" เอกพูดเบาๆ ก่อนจะโน้มริมฝีปากกดจูบฉันไม่ยอมละ เค้าจูบฉันนาน และหลายครั้ง ฉันเองก็เคลิบเคลิ้ม กอดจูบเค้าตอบเหมือนกัน ริมฝีปากและลิ้นเราสัมผัสกัน จนมีเสียงดังจ๊วบจ๊าบ ดูเหมือนวันนี้มันจะไม่จบง่ายๆ เหมือนที่แล้วมา

เอกยกฉันจนขาลอยขึ้นจากพื้น เค้าค่อยๆ ประคองตัวฉันเอนนอนลงบนที่นอน ี่ริมฝีปากเค้ายังประกบกับฉันไม่ยอมห่าง ชุดนอนที่ฉันสวมใส่อยู่ขณะนี้ ตอนนี้ถูกมือเอกถลกเสื้อลงมา จนเห็นเสื้อในเด่นชัด มันถลำออกจากหน้าอกของฉันนิดหน่อย ฉันเริ่มหายใจไม่ถนัด อาจจะเพราะหัวใจเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

เราละริมฝีปากออกจากกัน ต่างฝ่ายต่างหายใจเข้าไปจนเต็มปอด ฉันอึดอัดนิดหน่อย เพราะเอกทิ้งตัวนอนทับฉันไว้ทั้งตัว ถึงเค้าจะตัวหนัก แต่ฉันก็ไม่วายใช้สองแขนกอดแนบเค้าเอาไว้แน่น

"มีอะไรกัน..นะ" เอกพูดเบาๆ แต่ฉันได้ยินชัดเจน เพราะริมฝีปากเค้าอยู่ห่างจากหน้าฉันไม่เกิน 1 คืบ

ฉันพยักหน้าตอบ

นับว่าครั้งนั้น คือการมีเพศสัมพันธ์กันอย่างเป็นทางการครั้งแรก ของฉันกับเอก (จากที่เฉียดไปเฉียดมาอยู่หลายครั้ง) ไม่ว่าเรื่องมันจะเกิดเพราะแค่อารมณ์เสน่ห์หาชั่ววูบ หรืออะไรก็ตามแต่ ต้องยอมรับว่าฉันมีความสุขมาก แม้จะเจ็บตัวบ้างก็ตาม

เราสองคนนอนกอดกันโดยปราศจากเสื้อผ้าทั้งคืน เวลาที่เราจะได้อยู่ด้วยกันมันน้อยนิด เอกต้องกลับให้ถึงบ้านภายในพรุ่งนี้ นั่นคือสัญญาที่เค้าให้กับแม่ไว้ ก่อนที่แม่จะยอมให้ออกจากบ้าน เฮ้ออ...

"ตื่นแล้วหรอ" ฉันแปลกใจ เมื่อเห็นเค้าลืมตา นี่แค่ 6 โมงเศษๆ เอกพลิกตัวดึงฉันไปกอดไว้แน่น เค้าซุกไซร้ใบหน้าที่แก้มและลำคอของฉันจนจั๊กจี้ไปหมด (มีเคราอ่ะ)

"หิวไหม" ฉันถามอีกครั้ง เอกพยักหน้า (เพราะไม่ใช้เด็นทิสทรี้ เลยไม่กล้าพูด)

ฉันลุกจะไปอุ่นกับข้าวที่ซื้อมาแต่เมื่อวานแต่ไม่ได้กินให้เค้า แต่ถูกเค้ารั้งตัวเอาไว้ด้วยสองแขนกำยำ

"หิวนม นะ" เอกพูด ทำเสียงเหมือนเด็ก ก่อนจะดึงฉันไปแกล้งให้ฉันต้องดิ้นทุรนทุรายอยู่บนเตียง
อีตาบ้าเอ้ยย

+ + + + + +

วันนี้ฉันไปเป็นเพื่อนเค้ายื่นเรื่องขอเรียนต่อที่มหาลัย ไม่ถึงเที่ยงดีก็เสร็จ เราไปหาที่ทานข้าวกันสองคน เอกเลือกจะกลับบ้านด้วยรถเที่ยวสุดท้าย (บ้านเอกใกล้ท่ารถ)

"แล้วเมื่อไรจะเริ่มเรียนหล่ะ" ฉันถาม

"ก.ค." เอกว่ามายังงี้ ตอนนี้เราดูซึมๆ กันลงไปหน่อย เพราะกำลังจะต้องแยกกันอีกแล้ว

"แล้วจะพักที่ไหน" ฉันสงสัย แต่ไม่ได้คิดขนาดว่าเอกจะมาพักกับฉันหรอก

"บ้านอาอี๊" อ้อ บ้านญาติผู้ใหญ่คนนึงของเค้าในกรุงเทพ ฉันเคยเห็นท่านครั้งนึง แต่ไม่เคยไปบ้านเค้าหรอก

มื้อนี้เรากินช้ากันเป็นพิเศษ เพราะทั้งคู่ต่างเคี้ยวข้าวช้า กันแบบเนิบๆ กว่าจะกลืนลงไปได้แต่ละคำ ซึ่งความจริงมันก็ไม่ได้ช่วยให้เรามีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้นเรย

"อ๊ะ..." เอกตกใจอะไรซักอย่าง ก่อนจะลุกเอื้อมมือมาดึงคอเสื้อฉันปิดตามลำคอ

"แดงเถือกเลย" เอกพูด ฉันเริ่มเก็ท รีบหยิบกระจกบานเล็กกะทัดรัดที่พกติดกระเป๋าไว้เช็คเรตติ้งตลอด ขึ้นมาส่องโดยพลัน

"ตาย ห่ า พรุ่งนี้ต้องทำงานด้วยสิ" ฉันกลุ้มใจ มันไม่ใช่แดงแค่เป็นจุดๆ นะ แต่มันแดงเป็นแถบเลยแหล่ะ ยากที่จะไม่มีคนสังเกตุเห็นอ่ะนะ

"ฮ่าาๆๆ สม" ตาเอกหัวเราะเยาะฉันซะอีก อารัยกัน ตัวเองเป็นคนทำแท้ๆ แทนที่จะช่วยกันคิดกันแก้ -*-


"หัวเราะบ้าไรหล่ะ เดี๋ยวโดนล้อ อายเค้าตายชัก" ฉันงอนตุ๊บป่อง เอกยังคงไม่หุบยิ้ม


"เอ๋า จะให้ทำไงอ่ะ" เอกพูด

"ง้านเอกช่วยทำให้มันแดงเสมอกันให้ เอามะ" พูดจบ ก็หัวเราะอีก ดีจิงๆ เลย สามีฉันเนี่ย


ในอีกหลาย ชม. ต่อมา เรานั่งคุยกันไปเรื่องระหว่างรอรถที่ขนส่ง จนถึงจุดนึงที่คิดว่าไม่มีอะไรจะพูดกันแล้ว เราก็นั่งกันเงียบๆ ฉันเอนหัวลงนอนซบกับไหล่เค้า หวังจะขอพักซักงีบ แต่พอตื่นมาอีกที รถเที่ยวสุดท้าย มาจอดเทียบท่าแล้ว

"เดี๋ยวเค้าโทรหาเน้อ" เอกลุกขึ้นหยิบกระเป๋าเดินขึ้นรถไป ฉันมองเค้าตลอด จนกระทั่งรถค่อยๆ แล่นออกไป บรรยากาศเหมือนตอนมาส่งอีบริทย์ไม่มีผิด

+ + + + + + + + + +

กลับถึงบ้าน จำได้ว่าฉันโผซุบหน้ากับหมอนแล้วร้องไห้
ฉันแค่อยากอยู่กับคนที่ฉันรัก แต่ก็ทำไม่ได้ แถมยังไม่รู้ว่าจะอีกเมื่อไรเลย ความรู้สึกเคว้งคว้างมันเริ่มเกาะกินหัวใจของฉันอีกครั้ง ในขณะที่น้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด ทุกอย่างที่มันเกิด ก็คงเป็นเพราะฉันเองทั้งนั้นแร่ะ เสือกเกิดมาเป็นแบบนี้

ร้องไห้เสร็จ ฉันลุกเก็บกวาดบ้าน ยังเห็นเอกสารเอกที่วางทิ้งไว้กระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งอยู่เลย
ตอนแรกฉันก็ไม่ได้สนใจเท่าไร คิดไว้ว่าเดี๋ยวจะไปฝืนกินข้าวซักหน่อย แต่คิดไปคิดมาก็หยิบมาอ่านดูซักหน่อย


สลิปเงินเดือน

ชื่อพนักงาน นาย ศักดิ์สิทธิ์ ....................
ตำแหน่ง พนักงาน............
เวลาทำงาน 13 วัน 0 ชม.



ค่าล่วงเวลา " 0 ชม."

...
...
...

ฉันค่อยๆ ไล่อ่านทีละบรรทัด แน่นอนฉันประหลาดใจ
ฉันรีบพลิกดูรายละเอียดหน้าต่อไป ซึ่งเป็นกระดาษปริ๊นใบลงเวลา

ตลอด 13 วัน เอกตอกบัตรเข้างาน 8.30 น. เลิก 16.30 น. ทุกวัน (เวลางานปกติ)

"อะไรกัน.. เนี่ย" ฉันบ่นพึมพำ

+ + + + + + + + + +

rarmz

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ววววววววว สมใจพี่เอกแล้ว เอิ้กกกก
ยอมเจบตัวนิดหน่อยก้อไม่เปนไรหรอกคับ คุนแบะ


ว่าแต่ ผมงงเรื่องเงินเดือน - -* พอดีสมองไม่ค่อยฉลาดเรื่องพวกนี้

ใครก้อได้ ช่วยไขไห้กระจ่างทีน้อ

jammy

  • บุคคลทั่วไป
ทำงานล่วงเวลา0ชั่วโมงก็เเสดงว่าเอกไม่ได้ทำงานอะดิ เเล้วเอกไปทำอะไรอะ ม่ายน้าหวังว่าคงไม่ไปนอกใจเเบะหรอกนะ  :monkeysad:

LulLaby

  • บุคคลทั่วไป
ง่า คุณเอกไปทำไรอะ  :o

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sonicacc

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
 :เฮ้อ: เฮ้อ ว่าแล้วเชียว นึกสงสัยตะหงิด ๆ ๆ ตั้งแต่ที่จักรเห็นคนหน้าคล้ายเอก ที่ร้านอาหารแล้วเชียว แห่ะ ๆ เดาส่งเดชไปงั้นแหละ ไว้รออ่านดีกว่า เผื่อมันจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดเนาะ  :yeb: สู้ ๆ

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
 :serius2: :serius2: :serius2:  มะได้ทำงานล่วงเวลา  :serius2: :serius2: :serius2:  แล้วหายปายหนายทุกวันเลยอ่ะคับ :o

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
ไหนใครบอกตอนแรกสงสารเอกกันไง  :dont2:
**************************************************************

ฉันรู้สึกเหมือนมีใครเอาแท่นเหล็กมากดทับฉันไว้ เป็นไปไม่ได้ที่บริษัทจะไม่จ่ายค่าโอทีพนักงาน เค้าจะแค่ไหว้วานน่ะหรอ
ตอนนั้นฉันยอมรับว่าพุ่งอยู่ประเด็นเดียว คือ "โดนหลอกแน่แล้ว"

คืนนั้น เอกโทรมา เค้าบอกว่าน้ำเสียงฉันเปลี่ยนไป แต่ก็แค่นั้นแหล่ะคือสิ่งที่เค้ารู้จากฉัน ฉันไม่ปริปากซักคำ ว่าฉันรู้อะไร ฉันอยากพิสูจน์เอง

+ + + + + + + + +

หลังเลิกงานวันต่อมา ฉันรบเร้าให้จักร พาไปที่ทำงานเก่าของเอก
ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าจะไปทำไม ตอนนี้จะ 6 โมงแล้ว คนก็พากันกลับกันจนจะหมด เห็นจะมีเหลือก็ รปภ. เนี่ยหล่ะ นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ด้านหน้า

"รอก่อนนะ" ฉันบอกจักรให้นั่งรอในรถ

ฉันเปิดประตูรถออก แล้วแสร้งทำทีไปถามหาคน กับ รปภ.

"เอ่อ ขอโทษค่ะ มาหาคนชื่อ ศักดิ์สิทธิ์น่ะค่ะ ทำงานที่นี่" ฉันถามโง่ๆ พี่ รปภ. เลยตอบมาดังที่คิดไว้ไม่มีผิด

"ติดต่อพรุ่งนี้นะครับ วันนี้เลิกงานกันหมดแล้ว" พี่แกบอก เข้าทางฉันเลย

"อ๋อ คือพอดีเค้าทำโอทีอยู่น่ะค่ะ" ฉันพูด พี่แกทำหน้าเบ้อย่างประหลาดใจ

"มีด้วยหรอ" พี่แกสงสัย ก่อนจะตะโกนถามเข้าไปในป้อม ซึ่งคาดว่าจะมีอีกคนอยู่ในนั้น

"เค้าทำโอกันด้วยหรอ พี่ ไม่มีเนอะ" พี่ยามถาม ฉันได้ยินเสียงตะโกนตอบมาจากข้างใน ดังนี้

"ไม่มีร๊อกก เค้าไม่ให้ทำโอหรอกที่นี่น่ะ"
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ถึงฉันจะไม่แสดงอาการฟูมฟายออกมา แต่จักรมันก็รู้ว่าฉันเศร้าใจ
ฉันไม่แน่ใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนนี้รู้แน่แก่ใจอยู่อย่างนึง ว่าเค้าโกหกเรา เป็นใครๆ ก็คงคิดเหมือนๆ กับฉัน ว่าถูกนอกใจ

"ใจเย็นๆ นะ บางทีอาจไม่เป็นอย่างที่คิดก็ได้" จักรปลอบประโลมฉันมาตลอดทางจนถึงบ้าน ฉันลงรถและขอบใจเพื่อนที่อุตส่าห์เป็นธุระให้ ไขประตูเข้าบ้านเสร็จ ฉันฟุบลงกับพื้น กรูมันโง่ กรูมันบ้า จริงๆ

* * * * * * * *

2 ทุ่มกว่าๆ เอกโทรมา

"ฮัลโหลครับ"

"ดีค่ะ"

"ยังไม่หายไม่สบายอีกหรอ" เค้าถามด้วยความเป็นห่วง (ขอบใจ)

"ดีขึ้นแล้ว" ฉันตอบ ในใจยิ้มแทบไม่ออก

เอกเงียบไป คงรู้สึกได้ว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับฉัน

"โกดอะไรเอกหรือเปล่า" เค้าถาม ด้วยน้ำเสียงแสนสุภาพ

"เปล่า" ฉันตอบคำตอบมาตรฐานสากล ไม่นานเราวางสายกันไป ฉันรู้สึกเจ็บจี๊ดในหัวใจบอกไม่ถูก ตอนนี้ฉันหาเหตุผลในการโกหกของเค้าไม่ได้ นอกจากเค้าจะมีคนอื่น เราเคยคุยกันได้ทุกเรื่อง มันจะมีซักกี่เรื่องกันเชียวหล่ะ ที่เค้าจะไม่บอกฉันน่ะ

………………………………………………………………………………….

8 ปีที่แล้ว ฉันได้เจอเอกเป็นครั้งแรก สมัยนั้น เอกยังคงผมเกรียน (เพิ่งจบ ม.3 มาหมาดๆ) เค้าเป็นคนสุภาพ และน่ารักในสายตาของใครๆ หลายๆ คน ฉันประทับใจ และแอบเพ้อถึงเค้าอยู่หลายปี ก่อนจะมีเหตุให้ฉันตัดใจจากเค้าไปอยู่พักใหญ่ๆ ก่อนที่ชะตาเราจะได้มาสานสัมพันธ์กันเรื่อยมา จนถึงทุกวันนี้ (เกริ่นความเดิมภาคที่แล้ว)

ฉันนึกย้อนหลัง พยายามทบทวนความรู้สึกตอนฉันตัดขาดจากเค้าครั้งแรกให้ได้ ฉันจำได้ว่าเคยเจ็บปวด แต่ก็ยังไม่ทุกข์ทรมานขนาดนี้ ตอนนี้แค่ฉันคิด ฉันก็เหมือน....หมดสิ้นทุกอย่าง

ผ่านไปหลายวัน ฉันไม่รู้อะไรคืบหน้าขึ้นเลย นอกจากเคยล็อคอินเข้าไปในเอ็มเอสเอ็นของเค้า แล้วพบว่า เมลผู้หญิงมาจากไหนไม่รู้ เพียบเลย

"สวัสดีค่ะ พี่เอก"

"พี่เอกหายไปไหนมา"

"พี่เอก เมื่อไรจะกลับกรุงเทพคะ"

"เมื่อวาน บอกว่าจะโทรหาหนู ไม่เห็นโทรเลย"

สารพัดคำทักทายจากสาวๆ ขึ้นมาจนฉันรู้สึกหนักใจแทนคนตอบ และหนักใจแทนตัวเองด้วย ตอนนี้ฉันคิดว่าฉันคลำทางมาถูกแล้ว

ฉันไม่ได้ถือวิสาสะตอบคนเหล่านั้น แต่ก็จดรายละเอียดแต่ละคนไว้พอสมควร ถ้าไม่เป็น น้องเก๋ น้องข้าว น้องดิว ก็คงจะเป็นน้องอะไรต่างๆ นาๆในนี้แน่  สติฉันกระจัดกระเจิงคนละทิศละทาง ฉันทำงานแทบไม่ได้ เพราะในหัวคิดแต่เรื่องอุบาทว์ๆ ฉันคิดจะไปตรวจเลือดด้วย แต่ก็ไม่ไป เพราะถึงยังไง ก็คงไม่ทันแล้ว..

* * * * * * *

"ถามให้รู้เรื่องเลยดีกว่า เฟียซ" พี่อุยบอกฉัน หลังจากที่ต้องทนรับส่งคนซังกะตายอย่างฉันไปกลับบ้านอยู่หลายวัน

ฉันยิ้ม (หรือเปล่า) ให้พี่เค้า ก่อนตอบไปเบาๆ ว่า

"ไม่ถามหรอกค่ะ"

ฉันลงรถพี่อุย ออกมาทันก่อนน้ำตาจะไหลพอดี
ถึงตอนนี้ ฉันเริ่มจะกลัวคำตอบขึ้นมาแล้ว

- - - - - - - - - - - - - - - - - - -
 :monkeycry4:  :monkeycry4:  :monkeycry4:

LulLaby

  • บุคคลทั่วไป
อ่า จะเศร้าอีกแล้วหรอเนี่ยยย
อย่าให้คุณเอกนอกใจคุณแบะเลยน้า  :monkeysad2:

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
ขอให้เปนแค่เพียงคนรู้จักนะคับ :sad2: :sad2:  สงสารคุณแบะจังคับ :sad4: :sad4: :sad2: :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586


สงสารเบะเพื่อนสาวอิชั้นจังเลย  :monkeysad:

ไอ้เอก :angry2:

ออฟไลน์ sonicacc

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
ฮือ ๆ  :monkeycry2: คาใจอ่ะ เมื่อไหร่จะรู้ความจริงซะที  ฮือ ๆ :monkeycry4:

เอก ถ้ามีคนใหม่จิง ๆ นะ หึหึ เมิงโดนแน่  :13223: เอาให้กระอักตายไปเลย  :pighaun: หึหึ

แบะจ๋า (อุ๊พส์ เปลี่ยนชื่อเป็นเฟียซแล้วนี่หว่า หุหุหุ  :haun5:) สู้ ๆ นะ  :เศร้า1:

suregirl

  • บุคคลทั่วไป
น้ำนิ่งไหลลึก จริง ๆ  :3024:

rarmz

  • บุคคลทั่วไป
ขอไห้ชะนีเหล่านั้นเปนเพียงคนรุ้จัก
ขอไห้ทุกอย่างดีขึ้นละกันคับ
เปนกำลังจัยไห้คุนแบะคับ

ปล. คุนเอก ทำไรไม่รักษาน้ามใจคนข้างๆตัวเลยน้อออ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
ความซื่อสัตย์สำคัญมาก ๆ สำหรับชีวิตคู่เลยละ สงสารคุณแบะ ขอให้มันเป็นความเข้าใจผิด :monkeycry4:
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ฟังจากที่ฉันเล่า ใครอาจจะว่าฉันก็เหมือนผู้หญิงทั่วๆไป ขี้ระแวง
มองโลกในแง่ร้าย มันก็อาจจะจริงอย่างที่ว่าอ่ะนะ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ปรักปรำเค้าไปก่อนหน้าแล้ว และก่อนที่มันจะสายเกินการณ์ ฉันจึงหาหนทางพิสูจน์

ฉันสมัครเมลใหม่หนึ่งอัน แล้วแอดไปหาเค้า (เอกเล่นเอ็มบ่อยๆ สมัยนั้น) จากนั้นก็เข้าไปรับแอดไว้เอง รอจนเค้าออนเอ็ม (ฉันก็ออนเมลฉันอยู่ด้วย)

เมลฉัน

".... โหลๆ" เอกทัก
"ดีจร้า เพิ่งตื่นหรอ" ฉันพิมพ์ต่อ พยายามกลบเกลื่อนพิรุธให้หมดสิ้น

"คับ"
"ตัวเองกินข้าวหรือยัง" เค้าถาม
"กินขนมปัง ขี้เกียจออกไป" ฉันตอบ เพราะไม่ออกไปทานข้าวกับเพื่อน ใจคอกะจะรอเนี่ยแร่ะ

"ลดความอ้วนหรอ"
"อื้ม เดี๋ยวแฟนไม่รัก" ฉันตอ แหล

"รักสิคับ รักที่สุดแล้ว" เอกตอบมาก่อนจะหายไป พักนึง อยากรู้ไหมคะ ว่าทำไมถึงหายไป..


อีกเมลนึง (ฉันปลอมตัวไป)

"ใครอ่ะ" เอกถาม ฉันไม่นึกว่าเค้าจะจำเมลได้ทุกเมล แต่ฉันก็คิดผิด

"เจนค่ะ"

"แอดเรามาได้ไง" เอกซักไซร้

"เธอแอดเรามานี่ นานแล้ว" ฉันพยายามเอาตัวรอด

"หรอ เธอโพสต์ไว้ที่ไหนหล่ะ" เอกถาม เหมือนเค้าเองก็ระแวงตลอดเวลาเหมือนกัน

"หลายที่อ่ะ" ฉันตอบรวมๆ

"ที่ไหนบ้างอ่ะ" เค้าคาดคั้น เอาวะ ตอบกวาดๆ ไปเลย

"สนุก เจ๊าะแจ๊ะ ...."

"เหอๆ เราไม่เคยแอดจากที่โน่น เป็นใคร บอกมาซะดีๆ อย่ามาอำ" เอกเค้าระแวงว่าจะเป็นฉันจริงๆ ในขณะที่อีกเมลนึงของฉัน ก็ยังตอบเค้าไม่ได้ขาด

"จริงๆ " ฉันแถ เอกไม่ยอมตอบที่นี่อีก เค้าไปซักไซร้ทางเมลฉันว่า ฉันทำอะไรไม่ดีหรือเปล่า ขู่ฉันว่าอย่าให้รู้นะ แต่ขอโทดนะ กลัวตายหล่ะ

......
ฉันรู้ว่าเค้าระวังตัวพอสมควร จึงออกอุบายทำทีว่าไม่สบาย จะลาป้านงค์กลับบ้าน เค้าเห็นด้วย ใจคอไม่รู้อยากให้ฉันพัก หรืออยาก...

เมล (ฉันปลอมตัวไป)

"แล้วนี่รูปใคร" เอกกลับซิปมาอีกครั้ง หลังจากฉันปิดเมลฉันเองออกไปแล้ว เค้าถามถึงรูปที่ดิสเพลย์ (สาวสวยคนนึง ฉันเสิร์ชมาจากกูเกิ้ล)

"รูปเจนเอง" ฉันตอบทันทีทันควัน

"อิอิ หรอ"

"ทำไมหรอ" ฉันถาม

"น่ารัก" มันตอบ ฉันเริ่มพิมพ์ช้าลงไปเรื่อยๆ เพราะเกิดอาการหมดแรงขึ้นมา

"น่ารัก ก็มาจีบสิ" ฉันพูดอ้อล้อ "มีเบอร์ไหมหล่ะ" ฉันพูดไป

"ทำไรรีบถามเบอร์จัง ไม่มีแฟนหรอ" เอกมันพิรี้พิไร แต่ก็เอาสิ วันนี้ไม่ทำงานทำการละ ขอซื้อใจคนหน่อยเถอะ

"เพิ่งเลิก" ฉันตอบพลางใส่รูป ไอคอนสีเหลืองๆ ร้องไห้ส่งไป ก่อนรีบถามกลับ "แล้วเธอหล่ะ"

เอกเงียบไปนิดนึง ก่อนจะตอบกลับมาว่า

"มีแล้ว"

ฉันเหมือนจะรู้สึกดีอยู่ชั่วขณะที่ได้ยินอย่างนั้น แต่เหมือนฉันจะเข้าใจตัวเองผิด

"โห เสียดายจัง ว่าจะไปเจอตัวซักหน่อย" ฉันยั่ว เพราะรู้สันดานผู้ชายดี

"ทำไมต้องรีบเจอด้วยหล่ะ ตัวจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้เลย คนในเน็ต" มันตอบมา

"อยากเจอนี่ ไปหาไม่ได้หรอ" ฉันเริ่มโกรธ นิ้วเริ่มจิ้มแป้มพิมพ์จนมันจะแหลกไปคามือ

"ทำความรู้จักกันก่อนก็ได้นี่ ซักเดือนสองเดือน" มันประวิงเวลา เพราะจะเข้ากรุงเทพจริงๆ ก็ ก.ค.

"ง้านโทรคุยก่อนได้ไหมหล่ะ" ฉันแสร้งทำเป็นแม่สาวสุดร่าน

"จะโทรมาหรอ" มันบอก

"ไว้รู้จักกันมากกว่านี้ดีกว่า แล้วจะให้" และนี่คือคำตอบสุดท้ายของมัน

ส่วนคำตอบสุดท้ายจากฉัน คือ "ไอ้ Here" ซึ่งแน่นอน มันไม่ทันได้ฟัง


ฉันเดินแอบเข้าไปในห้องน้ำ ออกมาอีกทีตาแดงก่ำ คงไม่ต้องบอกว่าฉันเข้าไปทำธุระอะไรในนั้น ตอนนี้ฉันนึกถึงหลายคน
อีบริทย์ อีต๋อง คือคนแรกๆ ที่ฉันอยากจะเล่าเรื่องนี้ให้ฟังมากที่สุด แต่กระนั้นฉันก็ต่อโทรศัพท์หาใครไม่ติดซักคน จนฉันกลับบ้าน

เอกโทรมา

"เป็นไงบ้างคับ หายดีแล้วหรือยัง"

โหๆ ฉันบอกเค้าไปว่าจะลากลับตั้งแต่บ่ายโมง แต่เพิ่งจะโทรมาถามอาการตอน 1 ทุ่ม นี่ถ้าฉันตายไปมันก็คงไม่รู้หรอกเนี่ย

"ดีขึ้นจ่ะ" แค่สามคำนี้ก็เป็นคำพูดที่กล้ำกลืนอย่างที่สุด ของฉันตอนนี้ ฉันรีบหาเรื่องวางสาย เพราะเริ่มขยะแขยงกับสิ่งที่เกลือกกลั้วตัวฉันมานานแรมปี

ฉันเจ็บจนร้องโฮออกมาเสียงดังอยู่ในห้อง (ข้างบ้านคงตกใจ) ถ้าฉันมองตัวเองกลับไปตอนนั้น ฉันก็ไม่ต่างจากพวกจิตระแวง ฉันเหมือนคนบ้าขึ้นทุกที ไปทำงานข้าวก็ไม่กิน (ทานน้ำ และขนมปังนิดหน่อย) คุยกับใครก็ไม่คุย มนุษย์สัมพันธ์กับเพื่อนบ้านก็เริ่มแย่ลงทุกที เริ่มนอนเองไม่ได้ ต้องทานยาตลอด สุขภาพฉันก็แย่ลง นี่ไม่รวมสุขภาพจิต

ฉันเริ่มรู้สึกว่าฉันต้องระบายให้ใครสักคนฟัง กระนั้นเมื่อฉันยังติดต่อเพื่อนซี้ตัวเองไม่ได้ ฉันเลยโทรไปหาเพื่อนที่มหาลัย แมค (เพื่อนซี้เอกด้วย จะได้รู้ความเลวเพื่อนตัวเอง)

"วอทซัพส์ แม๊นน" แมครับโทรศัพท์ ฉันพยายามจะหยุดร้องไห้ เพื่อที่จะคุยความในใจที่คับอก

"เฮ้ยย เป็นอะไรร้องไห้อ่ะ ทะเลาะกับเอกหรอ" น้ำเสียงแมคเริ่มเปลี่ยนเป็นความห่วงใย ฉันตอบ "อื้ม" เค้าไปเพียงเบาๆ

"ใจเย็นๆ สิ ทะเลาะกันทำไม รักกันมาตั้งนาน" แมคพูด

ฉันฟังเค้าถึงตรงนี้ก็ร้องออกมาอีก และเหมือนจะห้ามน้ำตาให้หยุดไหลคงจะยาก ฉันจำต้องพูดด้วยน้ำตา อาจจะฟังยากนิดหน่อย ในสายตาแมค

"แมค อยู่ไหนแล้วหรอ" ฉันถาม เพราะกลัวเค้าจะไม่ได้อยู่ที่เป็นส่วนตัว

"อยู่บ้าน บ้านเราที่นครปฐม" แมคพูด บ้านแมคอยู่ จ. เดียวกับพี่อุยเลย แต่สองคนไม่รู้จักกัน


"กลับไปเมื่อไรหรอ" ฉันถามประวิงเวลา รอให้น้ำตาเหือดแห้งไปก่อนดีกว่า แล้วค่อยเล่า

"โห.... กลับมานานนนนนแล้ว 6 เดือนแล้วมั๊ง " แมคพูดลากเสียงยาว
"ก็ไปเยี่ยมพวกนายเสร็จ เราก็กลับเลยอ่ะ" เค้าพูดต่อ


หึหึ

ปกติตอนแมคเรียน ป ตรี จะเช่าบ้านอยู่ใกล้ๆ มหาลัยเก่าของเรา พวกคุณคิดเหมือนฉันไหม ครั้งล่าสุดที่ฉันกับเอกทะเลาะกัน 4 เดือนที่แล้ว เค้าไม่ยอมกลับมานอนบ้าน แล้วเค้าบอกกับฉันว่า เค้านอนไหน....

 :เศร้า2:  :เศร้า2:  :เศร้า2:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
ความรักคือการให้อภัยนะคับคุณแบะ :amen: :amen:  แต่ถ้าเกินขนาดก็จัดการซ้าเลยคับ :laugh5: :laugh5:  พูดเล่นนะคับ  ก็คุยกันให้รู้เรื่องดีก่านะคับ  อย่าคิดมากเลย :myeye: :myeye:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Shumi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
คุณเอก เก่งจริง ๆ นะคับเนี่ย หลอกซะแนบเนียนเชียว เจ๊แบะต๋า  :dont2:

โอ๋ ๆ พยายามทำใจให้ดี ๆ นะ  :monkeycry4:

คนโกหก  :beat:

rarmz

  • บุคคลทั่วไป
สงสารคุนแบะมากๆเลยอ่ะ
ทำไมตาเอกทำได้ลงคอ ห๊า!

ปล. ใครก้อด้าย ไขประโยคนี้ไห้กระจ่างทีคับ อ่านแล้วงง (ความจำสั้นมากมาย)


ปกติตอนแมคเรียน ป ตรี จะเช่าบ้านอยู่ใกล้ๆ มหาลัยเก่าของเรา พวกคุณคิดเหมือนฉันไหม ครั้งล่าสุดที่ฉันกับเอกทะเลาะกัน 4 เดือนที่แล้ว เค้าไม่ยอมกลับมานอนบ้าน แล้วเค้าบอกกับฉันว่า เค้านอนไหน....

STAR

  • บุคคลทั่วไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-04-2007 21:42:25 โดย b|ueBoYhUb »

LulLaby

  • บุคคลทั่วไป
อ้ากกกกกกก เอกทำงี้ได้ไง  :13223:

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
หวังว่าเอกคงมะทำตัวแย่ๆอย่างที่คิดนะคับ :serius2: :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
ช่วงนี้เศร้าหง่ะ  :เศร้า1:
+++++++++++++++++++++++++++
เฉพาะเรื่องนี้ ทำฉันเครียดถึงขึ้น หยุดงานกระทันหันไปหนึ่งวันหลังจากที่กินยาเกินขนาดไปเมื่อคืน ฉันเที่ยวบอกใครต่อใครไปทั่ว ว่าไม่ทำร้ายตัวเอง แต่มองอีกนัยก็เหมือนฉันกำลังฆ่าตัวเองทางอ้อมอยู่กลายๆ

เอกโทรหาฉันทุกวัน (อาจลดความถี่ลง) ฉันเริ่มเปลี่ยนจากคุยนิ่งๆ เป็นไม่รับสายบ้างแล้ว นี่ไม่ได้เกิดจากอาการงอน บอกว่ารับไม่ได้ดูจะดีกว่า

ฉันโงหัวจากเตียง เดินไปชำระล้างหน้าตาได้ก็แทบแย่ โลกมันหมุนไปหมด ฉันนึกได้แค่ว่าฉันไม่ได้ทานข้าวมานาน ร่างกายก็เลยอ่อนเพลีย แต่ไม่ใช่ ฉันต้มบะหมี่จะทาน แต่ทานได้คำเดียวก็อาเจียนออกมา ฉันรีบลุกไปล้างปาก แล้วชำระคราบสกปรก กะว่าออกมาจะทานน้ำซักหน่อย แต่ดื่มน้ำเข้าไป นิดเดียวก็อาเจียนอีก ฉันจำใจทานยาแก้อาเจียนเข้าไปแล้วนอนพัก

ตกเย็นพี่อุย ไอ้จักร ไอ้ปอ มาเยี่ยมฉันตามคาด ฉันเดินลุกขึ้นไปเปิดประตูให้อย่างยากลำบาก

"โห ทำไมโทรมจังอ่ะ" ยัยปอโพล่งขึ้น
"ไม่สบายหรอ" พี่อุยซัก ฉันพยักหน้าตอบ ก่อนจะขึ้นไปนั่งบนเตียง

"พี่พาไปหาหมอ เอาไหม" พี่อุยเป็นห่วงฉันทุกอย่าง (ยิ่งกว่าสามีของฉันเสียอีก)

"ไม่เป็นไรค่ะ" ฉันตอบ เพราะตอนนี้อยากนอนจะแย่ ลุกนั่งลุกยืนทีไรเวียนหัวตลอด ฉันร้องขอให้พวกเค้าซื้อนมกล่องมาให้ ฉันหวังจะทานเพื่อรองท้องกันตายไปก่อน แต่ทานไป ก็อ๊วกออกมาเหมือนเดิม ชักจะไม่ธรรมดาแล้วสิ ฉันฝืนนอนต่อ ครั้นคิดไว้ พรุ่งนี้เช้าจะลุกหาหมอ


ปล. คืนนั้นโทรศัพท์ดังอยู่หลายครั้ง ฉันไม่ได้รับสาย มาดูอีกที เป็นอีต๋องโทรมา เดี๋ยวโทรกลับนะเพื่อน

...............

ถึงตี 4 ครึ่ง ก็ถึงจุดที่ฉันบอกกับตัวเองว่าไม่ไหว ฉันฝืนลุกแต่งตัว ปิดบ้านออกมาปากซอย หวังว่าจะมีแท๊กซี่หรือมอเตอร์ไซด์รับจ้างหลงเหลือบ้างดึกดื่นป่านนี้ คงยังไม่ถึงคราวตายของฉัน มีรถสามล้อเครื่องที่คาดว่าเพิ่งจะไปส่งแม่ค้ามาเสร็จ ผ่านมาพอดี

"ไป รพ. ............" ฉันเลือกไป รพ. ตามบัตรประกันสังคม พี่สามล้อเห็นท่าฉันไม่ค่อยดี ทำท่าจะอาเจียนตลอด พี่แกเลยเร่งเครื่องให้ น่ารักจริงๆ ขอบคุณมากค่ะ

ถึงโรงบาล ฉันจ่ายเงินค่าโดยสารเสร็จ ก็ไปตีตั๋วนั่งรอตรวจอยู่นาน กว่าจะถึงคิวฉันเรียกได้ว่าฟ้าแจ้งกระจ่างตาเสียแล้ว พี่อุยเมสเสจมาให้บอกว่า

"ทำงานไหวไหม ถ้าอยากไปหาหมอ โทรบอกพี่นะ จะไปรับ"

ฉันอ่านแล้วก็ยิ้มขอบคุณในไมตรีพี่แกที่มีต่อฉัน ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมยังไม่มีสาวไหนจับจองพี่แกเป็นแฟน (สมัยนั้นนะ) แต่คิดไปไม่ได้เท่าไร พยาบาลก็มาเชิญฉันเข้าห้องตรวจ

ฉันแจงอาการให้หมอฟังอย่างละเอียด หมอเอาที่วัดชีพจร (รึเปล่า) มากดดูตรงท้องของฉัน ทำเอาฉันคลื่นเหียนไปหมด ดีนะไม่อ๊วกลดหน้าหมออ่ะ

"ต้องนอน รพ. นะ มีญาติมาด้วยหรือเปล่า" หมอบอก

ตายห่า หล่ะสิ ฉันเกิดมาเคยได้นอน รพ. อยู่กี่ครั้งใจชีวิต ที่ผ่านมายังมีพ่อแม่ดูแลอยู่ตลอด พาลแล้วก็อดน้อยใจในชีวิตไม่ได้  มีแฟนกับเค้าคนนึง ลำพังจะหวังพึ่งก็ไม่ได้ แถมหนักกว่านั้น... ไม่อยากเล่า

สรุป ฉันต้องนอน รพ. ฉันโทรบอกพี่อุย เพราะไม่แน่ใจว่ากี่วัน หมอให้น้ำเกลือ และให้ยาฉันอีกหลายขนาน วันแรกก็ยังซมๆ หมอเลยเปลี่ยนยากันอีกหลายตัว ฉันยังไม่รู้เลยนะว่าตัวฉันเป็นอะไร ไม่ถามด้วย เพราะปากไม่มีแรง

ให้ทายจะทาย (ผิด) ถูกกันไหมน๊อ ว่าฉันนอนห้องเดี่ยว หรือห้องรวม ถ้าใครตอบห้องรวมก็ ถูกต้องงนะค๊าบบ ฉันไม่เคยคิดว่าเรื่องยารักษาโรคมันเป็น 1 ในปัจจัย 4 ของชีวิต จึงไม่เคยกันเงินไว้สำหรับส่วนนี้ เด็กบ้านนอกอย่างฉันมันก็ตามมีตามเกิดมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว สงสารก็แต่ผู้ป่วยและญาติรอบข้าง ตกกลางคืนไฟปิดหมด ได้ยินเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นฟูมฟายจากเตียงฉัน เค้าคงจะหลอนกันพิลึก จะว่าใกล้ตายก็ไม่ใช่ ตกดึก เอกโทรมาฉันยังรับสายได้อยู่เลย

"ฮัลโหล..." เอกทัก

"อือ ฮึ" ฉันทักกลับ

"สบายดีไหม..." เอกถามงี้ เพราะเราห่างโทรศัพท์กันไปนาน (จากเดินคุยกันเกือบ 24 ชม.) เค้ารู้ว่าฉันโกดอะไรเค้าซักอย่าง แต่เค้าไม่กล้าถาม

"สบายดี" ฉันตอบ

ถึงรุ้ว่านี่เป็นวิธีที่ไม่ค่อยสู้ดีเท่าไรเวลามีปัญหา แต่ก็นั่นแหล่ะ ฉันไร้เรี่ยวแรงจะค้นหาอะไรอีกต่อไปแล้ว จะทำอะไรกับฉัน ก็เชิญเถอะ

.....
เที่ยงกว่าของวันต่อมา คนที่ทำงานนัดกันมาเยี่ยมฉัน มีคุณทวีศักดิ์ ป้านง พี่พร พี่อุย จักร ปอ เนตร (น้องใหม่) และอีกหลายคนที่ไม่ได้เอ่ยชื่อ ถ้ามาอ่านก็ขออภัยด้วยค่ะ หลายคนหิ้วของฝาก ส่วนใหญ่เป็นของกิน ซึ่งฉันก็ยังกินอะไรไม่ได้อยู่ดี

"หมอว่าไงบ้าง" คุณทวีศักดิ์ถามในขณะที่กำลังรับไหว้ฉันอยู่

"ไม่ว่าไงอ่ะค่ะ" จิงๆนะ ถ้าเราไม่ถามเค้าก็ไม่พูดจริงๆ

"อื้ม พักให้หายก่อน ไม่ต้องห่วงเรื่องงาน" เจ้านายฉันใจดีจริงๆ เวลาของเจ้านายฉันเป็นเงินเป็นทอง ธุรกิจที่เค้าทำแต่ละอย่าง อ๊ากก ใหญ่โตอลังการณ์ ฉันไม่อยากเป็นต้นเหตุให้งานเค้าช้าเลยจิงๆ นี่ถ้าหมอปล่อยกลับบ้านเมื่อไร ก็จะไปทำงานเรยหล่ะ ฉันคิดในใจ

"ทานอะไรหรือยังลูก" ป้านงถาม แกวางกระเช้าผลไม้ที่มีองุ่นเขียนลูกน่ากินของโปรดฉันบรรจุอยู่ด้วย เสียดาย กินไม่ได้

"ยังทานไม่ได้ค่ะ" ฉันตอบไปเพราะลืมว่าเมื่อเช้า พยาบาลเอาข้าวต้มจืดๆ มาให้ฉันกลืนลงท้องไปหน่อยนึง พวกเพื่อนๆฉัน ก็ดูอยากถามไถ่ฉันจะแย่ แต่ก็เกร็งๆ เพราะเจ้านายอยู่นั่นแระ เฮ้อ ใครๆ เค้าก็เป็นห่วงเป็นใยฉัน ผิดถนัดกับคนที่ฉันรัก ป่านนี้คงนั่งแชทเพลินไปแล้วหล่ะ ฉันคิดในใจ

* * * * * *

ฉันนอนโรงพยาบาลอีกคืน วันรุ่งขึ้นตอนบ่ายๆ หมอเห็นฉันไม่อาเจียนแล้วก็อนุญาตให้ฉันกลับบ้านได้ (สรุปเป็นไรไม่รู้เรย) ฉันเรียกสามล้อเครื่องหน้าโรงบาลโดยสารกลับบ้าน เพราะแอบติดใจ แต่กระนั้นเถอะนะ คันนี้ไม่ไหว ทำฉันแทบรากเพราะขับฉวัดเฉวียนเหลือเกิน กว่าจะถึงบ้านแทบตาย

"โห ลุงรีบขับไปไหนเนี่ย" ฉันถามขณะจกกระเป๋าล้วงตังค์ จะจ่ายค่าโดยสาร

"จะรีบไปบ้าน เมียไม่สบาย" ลุงยังมีกระใจตอบ ซื่อเหมือนฉันเลย

เฮ้ออ น่าเห็นใจลุงเนาะ ฟังแล้วก็สะท้อนตัวเอง
แอบอิจฉาเมียลุง ฉันเดินคอตกไขกุญแจบ้านเข้าไป ก้าวแรกที่เดินเข้าไปในห้องก็ได้กลิ่นอาเจียนคละคลุ้งไปหมด แต่ขอพักก่อนนะ ตื่นมาฉันจะปฎิวัติใหม่ ให้หมด

......
ไม่รู้ฉันหลับไปแล้วหรือยัง ฉันได้ยินเสียงคำพ่อของฉันที่เคยบอกไว้ว่า "ไม่มีผู้ชายคนไหน รักกระเทยจริง" ดังก้องอยู่ในหูไปมา แต่พอซัก 2 ทุ่ม ฉันก็ลุกทั้งที่ยังเวียนหัวนิดหน่อย ฉันแกะกล่องนมกระดกกินไป 1 กล่อง ก่อนจะลุกทำความสะอาดห้อง

ตาฉันเหลือบมองเห็นเอกสารที่มันยังวางระเกะระกะ จุดเริ่มต้นของความทุกข์ที่ยิ่งใหญ่ ฉันไม่รอช้า จับมันมาฉีกเป็นชิ้นๆ ก่อนจะโยนลงกับพื้น กวาดทิ้งรวมไปกับขยะในห้อง

ออกไปจากสมองฉันได้แล้ว...

 :เศร้า2:  :เศร้า2:  :เศร้า2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด