ตอนที่ 8
น้องหน้าโง่
วันนี้พวกผมไม่ได้เรียนที่ตึกคณะของตัวเองครับเพราะมีเรียนวิชา Gen-Ed หรือ General Education ซึ่งต้องเรียนรวมกับเหล่านิสิตจากคณะอื่นๆ วิชาที่พวกผมเลือกลงกันในเทอมนี้ได้แก่ Civilization ซึ่งอยู่ในหมวดมนุษย์ เป็นวิชาที่ขึ้นชื่อว่าโหดหินและไม่ควรลงเป็นอย่างยิ่งถ้าอยากจะเก็บเอ ถามว่ารู้แล้วพวกกูเสนอหน้ามาลงให้ลำบากทำไม แหม่ไอสัดกูลงทะเบียนไม่ทันไงครับ กดเอฟห้ารอลงทะเบียนจนนิ้วหงิกเว็บก็ล่มตามเคย สุดท้ายก็เลยต้องมาก้มหน้ารับชะตากรรมกับการศึกษาประวัติศาสตร์ของโลกซึ่งแม่งไม่ใช่ทางของผมเลย
หลังจากหมดชั่วโมงเรียนสภาพพวกผมสามคนตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากเหล่าฮีโร่ที่พึ่งเข้าร่วมรบในสงครามธานอส คือถ้าอาจารย์จะโหดขนาดนี้ก็ดีดนิ้วให้กูหายไปเลยเหอะ ซวยชิบหายเลยครับนั่งเรียนกันอยู่ดีๆอาจารย์ก็แจกป็อปอัพควิซอย่างหน้าตาเฉย พวกผมที่มัวแต่สุมหัวคุยกันเรื่องภารกิจน้ำมันพรายก็เลยไม่มีใครได้ทันฟังสิ่งที่อาจารย์สอนสักคน จะมีก็แต่ไอ้เทพกรนี่แหละที่ลอยลำอีกตามเคย
“แล้วมึงจะเอายังไงต่อ” พอเดินโซซัดโซเซออกมาจากห้องไอ้กรก็ยิงคำถามใส่ผมทันที หน้าตามันดูชิวมากครับ มึงทำข้อสอบได้อีกแล้วล่ะสิ
“กูว่าจะเริ่มวันนี้เลยว่ะ เย็นนี้พวกมึงเตะบอลกันเปล่าวะ เดี๋ยวกูไปซื้อน้ำมั่วๆเอาจากโรงอาหารอักษรซักขวดแล้วค่อยแวะเอาไปให้พี่ปราบที่สนาม”
“เตะทุกวันอะ เตะจนน่องกูปูดเป็นไก่ฉีดสารเร่งโตแล้วเนี่ย” แหมะมึงก็เปรียบเทียบซะกูเห็นภาพ
“แต่ช่วงนี้พวกกูคงไม่ได้เตะกับพวกพี่ซันว่ะ ต้องไปซ้อมแข่งกีฬามหา’ลัยกับพวกที่คณะ”
“ไหนๆก็มาฝั่งนี้แล้วมึงก็เอาไปให้เขาที่คณะเลยดิ วิศวะอยู่แค่นี้เอง” ไอ้กรออกความเห็น ฉลาดอีกแล้วเพื่อนกู
“เออก็ดีเหมือนกัน งั้นกูไปก่อนนะ”
“นั่นแน่ เดี๋ยวนี้ไม่ต้องให้พวกกูไปเป็นเพื่อนแล้วหรอ”
“นั่นแน่เชี่ยไร มึงเห็นเพื่อนมึงพึ่งสามขวบหรอ กูโตแล้วโว้ย ไปเองได้”
“เหยดโด้น้ำตากูจะไหล ปีกกล้าขาแข็งใหญ่แล้วนะมึง เห็นเมื่อก่อนมีเหี้ยไรก็ต้องให้พวกกูตามไปคอยเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้ เหมือนพวกกูเป็นพ่อมึงอะ”
“ไอ้สัด เออน่า พวกมึงจะไปไหนก็ไปเหอะ กูไปก่อนละ”
ผมโบกมือไล่พวกมันแล้วเดินแยกออกมาคนเดียว ระหว่างทางก็ทบทวนคาถามหาเสน่ห์ในใจไปด้วย
‘โอ้นั่นมันบักแตงโม
โอ้นั่นมันบักส้มโอ
โอ้นี่คงเป็นบักพร้าวน้ำหอม’ท่องไปท่องมาก็ตะหงิดๆอยู่ในใจว่าทำไมคาถาเสกน้ำมันพรายมหาเสน่ห์แม่งฟังดูแปลกๆจังวะ เหมือนผมเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนอะ แล้วแตงโมส้มโอกับมะพร้าวแม่งมาเกี่ยวส้นตีนอะไรด้วยเนี่ย หรือว่ามันจะเป็นเครื่องเซ่นไหว้บูชาพ่อปู่ อ่อสงสัยพ่อปู่คงชอบกินผลไม้ แหม่นอกจากจะทันสมัยแล้วยังเฮลท์ตี้อีกนะเนี่ยพ่อปู่กู
ผมเดินพึมพำในใจไปเรื่อยจนกระทั่งมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าร้านขายน้ำในโรงอาหารอักษร มาถึงก็ยืนบื้อเลยครับเพราะไม่รู้จะซื้อน้ำอะไรให้พี่มันดี ผมยืนอ่านป้ายเมนูน้ำปั่นที่แปะอยู่บนผนังเพื่อดูว่ามีเมนูอะไรที่น่าสนใจบ้าง แต่ดูแล้วไม่มีอะไรเข้าตากรรมการเลยซักอย่างแถมคนข้างหลังยังทำเสียงจิ๊จ๊ะไม่พอใจที่กูเลือกไม่ได้สักทีผมเลยตัดสินใจถอยทัพกลับมาใช้หมองนั่งสมาธิอยู่ด้านนอกโรงอาหาร โดยมีปุยฝ้ายหรือที่ใครๆพากันเรียกว่าอีฝ้าย หมาเซเลบประจำโรงอาหารคณะอักษรนั่งกระดิกหางให้กำลังใจอยู่ไม่ห่าง มองไรวะไอ้สัด คนยิ่งคิดไม่ออกอยู่
ผมนั่งพิจารณาลักษณะทางกายภาพของปุยฝ้าย เดาว่าชื่อนี้น่าจะได้มาจากสีขนในอดีตของมันที่อาจจะเคยเป็นสีขาวมาก่อน แต่ดูจากรูปการณ์ในปัจจุบันแล้วมึงน่าจะเปลี่ยนชื่อจากอีฝ้ายเป็นอีฝุ่นแทนเพราะมึงมอมแมมมาก ยิ่งนั่งใกล้กันแบบนี้ผมยิ่งได้กลิ่นของอีฝ้ายอย่างชัดเจน ลองจินตนาการกลิ่นน้ำหมักป้าเช็งดูนะครับ กลิ่นอีฝ้ายเหม็นเปรี้ยวกว่านั้นประมาณสามเท่า ไอ้เหลิมที่ผมว่าสกปรกแล้วยังต้องชิดซ้ายให้กับเซเลบสาวแห่งโรงอาหารอักษรคนนี้ อนาถใจเลยกู ไว้วันไหนว่างๆพี่จะกลับมาอุ้มหนูไปอาบน้ำนะปุยฝ้าย
เผลอแปปเดียวกูคิดนอกเรื่องไปไกลอีกแล้ว เอาจริงๆคือผมคิดไม่ออกว่าจะซื้อน้ำอะไรไปให้พี่ปราบดี กลัวว่าถ้าซื้อไปมั่วๆแล้วมันจะไม่ยอมกินเลยตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเข้าเฟสบุคแล้วเสิร์ชชื่อพี่ปราบดาเพื่อส่องดูเผื่อจะได้เบาะแสอะไรบ้าง กับอีแค่ซื้อน้ำขวดเดียวทำไมกูต้องลำบากลำบนขนาดนี้ด้วยวะ ถ้าเป็นไอ้เหลิมก็คงง่ายอะครับเพราะซื้ออะไรให้มันก็คงแดกเรียบไม่มีเหลือ เพราะขนาดกูไม่ให้มันแดกมันยังแอบหยิบไปแดกได้เองแบบหน้าด้านๆ สันดานชูชกที่แท้ทรู
ผมไถหน้าจอส่องเฟสบุคพี่ปราบอยู่ซักพัก โพสท์ล่าสุดบนหน้าไทม์ไลน์ของพี่มันถูกโพสท์ไว้ตั้งแต่เมื่อสองสามเดือนที่แล้ว แสดงว่าพี่ปราบมันคงไม่ค่อยเล่นโซเชียลเท่าไหร่แถมมันยังอินดี้จัดเวลาลงรูปอะไรก็ไม่ค่อยจะเขียนแคปชั่นกำกับ ต่างจากผมที่เวลากูลงรูปเดียวต้องเขียนแคปชั่นยาวประมาณสามหน้ากระดาษเอสี่ พี่มันติสท์แตกแบบนี้ไม่รู้คนแม่งกดไลค์อะไรกันนักหนา คิดดูครับขนาดมันลงแค่รูปกีตาร์โปร่งเฉยๆไม่มีหน้ามันในรูปคนยังแห่มากดไลค์ตั้งสี่ร้อยกว่า เหยดแหมมึงจะฮอตไปไหน
สไลด์หน้าจอลงไปเรื่อยๆส่วนใหญ่ก็เห็นมีแต่รูปกีตาร์กับรูปรองเท้าสตั๊ด คิดว่าสาวคงชอบพี่มันตรงนี้ด้วยส่วนนึงมั้งครับเพราะผู้ชายแมนๆเตะบอลเล่นกีตาร์ใครมันจะไม่กรี๊ดอะ แล้วตัดภาพมาที่ผมฟุตบอลก็ไม่เล่นส่วนกีตาร์ก็ดีดไม่เป็นโชคดีนะที่กูหล่อไม่งั้นชีวิตนี้ก็ไม่มีอะไรดีแล้ว
พอส่องต่อไปอีกหน่อยในที่สุดก็เจอรูปพี่มันครับ เป็นรูปที่ถ่ายคู่กับผู้ชายอีกคนที่หน้าตาคล้ายๆมันนั่นแหละแต่ตัดผมสั้นและหน้าตาดูจะเป็นมิตรกว่า พี่ปราบดาในชุดนิสิตส่วนผู้ชายอีกคนใส่ชุดนักเรียนที่ไม่ได้มีตัวอักษรอะไรปักไว้ ดูทรงแล้วคนในรูปน่าจะเป็นน้องชายล่ะมั้งครับเพราะหน้าตาคล้ายกันมากเลย ทำไมคนตระกูลนี้มันหล่อกันจังวะ และแน่นอนครับด้วยอาณุภาพแห่งความหล่อของพี่ปราบดาและมินิปราบดาในรูปเดียวกันจึงทำให้ภาพนี้มียอดไลค์สูงถึงสามพันกว่า เว่อร์ชิบหายมึงเป็นดาราปะเนี่ย
ผมนั่งดูรูปมันแล้วแอบขำอยู่ในใจ ขนาดถ่ายรูปกับน้องชายพี่ปราบแม่งยังไม่ยอมยิ้มเลย ทำหน้าบูดมองกล้องเหมือนโดนบังคับให้ถ่ายงั้นอะในขณะที่อีกคนยิ้มแฉ่งปากแทบฉีกถึงหู แต่เดี๋ยวนะทำไมโต๊ะหินอ่อนข้างหลังมันคุ้นๆวะเหมือนเคยเห็นที่ไหน พอซูมดูดีๆก็ชัดเลยครับ ม้านั่งหินอ่อนกับสนามบอลแบบนี้นี่มันโรงเรียนเก่ากูนี่หว่า ถึงว่าทำไมชุดนักเรียนน้องไอ้พี่ปราบมันถึงเหมือนกับชุดฟอร์มโรงเรียนผมเลย เตรียมอุดอมน้อมใจของพวกเรานี่เอง
ผมกำลังจะเลื่อนลงไปดูโพสท์ถัดไปแต่จู่ๆก็มีแจ้งเตือนขึ้นมาว่ามีโพสท์ใหม่จากเจ้าของเฟสบุค ไอ้พี่ปราบมันอัพเดทอะไรวะ ด้วยความขี้เสือกผมก็รีบกดดูเลยครับไม่ต้องรอให้ใครมาตัดริบบิ้นทั้งนั้น
‘หน้าโง่เหมือนคนให้’พร้อมกับแนบรูปตุ๊กตาหมาอีเกียที่นอนแอ้งแม้งอยู่บนโต๊ะเลคเชอร์ เฮ้ยนี่มันน้องหมาที่มันหยิบไปจากรถผมนี่หว่า
ลงไปได้ไม่ถึงสองนาทีก็มีคนกดไลค์อย่างถล่มทลายครับ และแน่นอนว่ามาพร้อมกับคอมเม้นท์ต่างๆ
Miu Miu: @vicky แกกกกก พี่ปราบโพสท์รูปปปป
Vicky Socute: น้องหมาน่าร้ากกมากกกกๆๆ ใครให้มาอ่าคะ>_<
Joy Enjoy: อะไรยังไงคะ ตกลงตุ๊กตาตัวนี้น้องเท็นให้มารึเปล่า
ผมสะดุดตาที่คอมเม้นนี้ ต้องเป็นพี่จอยรุ่นพี่คณะผมแน่ๆครับดูจากชื่อ คือเมื่อวานผมก็อุตส่าห์ตอบเคลียร์ชัดทุกคำถามแล้วนะยังไม่เลิกสงสัยอีกหรอ
Sun Nithi: @Prabda หน้าโง่เหมือนใครวะ ใช่คนที่เรียนคณะฝั่งนู้นมั้ย
Chee Achira: ดีใจแทนคนให้จุงเบย ตั้งแต่ได้มาพี่ปราบก้อถือติดตัวไม่ห่างเรยน้าา
Namhom Methanon: ขนาดเข้าแล็บแม่งยังหิ้วตุ๊กตาไปด้วย สุดจริงคนนี้
Yaya Uthaitip: พี่ปราบชอบตุ๊กตาหรอค้าาาา เดี๋ยวญาญ่าซื้อไปให้หลายๆตัวเลยดีมั้ย เดี๋ยวหาแบบน่ารักๆกว่านี้อีกรับรองพี่ปราบดาต้องชอบแน่ๆ
เอาไรมามั่นใจว่าพี่มันจะชอบของแบบนี้ครับน้องญาญ่า มึงดูหน้ากับสันดานพี่มันด้วย เถื่อนกว่านี้ก็เก่งลายพรางแล้วครับ มันคงจะชอบหรอกตุ๊กตาอะ กว่ามันจะรับน้องหมาไปจากกูได้เล่นเอากูเสียเหงื่อไปหลายปี๊บ
Prabda Asavayothin: ไม่เป็นไรครับ
Prabda Asavayothin: ถ้าไม่ใช่ตัวนี้พี่ก็ไม่เอา
แหม่ไอ้พี่ปราบ ทีกับสาวล่ะทำเป็นพูดดี ครับอย่างนั้น พี่อย่างนี้ กับกูนี่ไม่เคยจะพูดดีๆด้วยสักคำ ถ้าไม่มองหน้าเหมือนจะแดกหัวก็กวนส้นตีนอยู่นั่นแหละ ปลอมสัด คนเขาดูออก
Sun Nithi: เหยดดดๆๆๆๆๆ เอาว่ะเพื่อนกู
Sun Nithi: ออกตัวแรงระวังหน้าแหกนะครับ
Chee Achira: #ทีมผัวน้องเท็น
ต้น รถเป็นไรอะ: @Chee ไอสัดฉี บทกู!!!!
มันชักจะบันเทิงกันเกินไปละครับ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นเพราะผมโฟกัสไปแต่ที่แคปชั่นของรูปที่ไอ้พี่ปราบมันเขียนด่าผมเอาไว้ รู้จักผมน้อยไปซะแล้ว คนอย่างเท็น ธาวินไม่เคยให้ใครมาหยามกูว่าโง่ได้ง่ายๆ ฉลาดกว่ากูก็อัลเบิร์ตไอน์สไตน์แล้วปะวะ คนที่ค้นพบเรื่องแรงโน้มถ่วงของโลกจากการกินแอปเปิ้ลอะ อย่ามาเถียงกูกูเรียนมา
Ten Tavin: ผมโง่แล้วหนักส่วนไหนของพี่หรอครับ
จัดไปครับหนึ่งดอกแรงๆ เป็นไงเจ็บไหมล่ะมึง
Chee Achira: @Ten ไม่แน่ใจว่าหนักส่วนไหนแต่คิดว่าทางนี้น่าจะหนักใจนะครับ หน้าแดงใหญ่แล้ว
Chee Achira: หน้าดำหน้าแดง*
Prabda Asavayothin: @Ten อะไรครับน้องหน้าโง่
86 คนถูกใจสิ่งนี้Ten Tavin: ผมชื่อ “เท็น”
54 คนถูกใจสิ่งนี้Prabda Asavayothin: “น้องหน้าโง่”
114 คนถูกใจสิ่งนี้แล้วพวกมึงจะกดไลค์อะไรกันวะเนี่ยไม่เห็นหรอว่าพี่มันกวนตีนกู ไอ้พวกมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น
Sun Nithi: ถ้าจะจีบกันรบกวนไปจีบกันไกลๆหูไกลๆตาหน่อยครับ
Sun Nithi: เกรงใจคนโสดบ้าง
Prabda Asavayothin: เสือก
ผมไม่ค่อยเข้าใจบทสนทนาของพวกพี่มันเท่าไหร่ แต่เห็นพี่ซันโดนด่าว่าเสือกกูก็สะใจแล้ว โดนด่าซะบ้างก็ดีครับจะได้เลิกปั่นกูซักที จะปั่นอะไรกันนักกันหนา เตะบอลอย่างเดียวน่องยังโตไม่พอหรอครับพี่
Prabda Asavayothin sent you a message.เชี่ยพี่ปราบทักแชทกูมา จะมากวนส้นตีนอะไรกูอีกล่ะ
Prabda Asavayothin: น้องหน้าโง่
Ten Tavin: มีไรครับพี่
Prabda Asavayothin: ไม่มี
Prabda Asavayothin: ทักเฉยๆ
เอ้าไอสัด อารมณ์ไหนของพี่มันวะ เพื่อนไม่คุยด้วยหรอ แต่ทักมาก็ดีแล้วครับผมจะได้ถามให้มันจบๆว่าพี่มึงชอบแดกน้ำอะไร กูนั่งคิดจนจะสนิทกับอีฝ้ายแล้วเนี่ย
Ten Tavin: แต่ผมมี
Ten Tavin: พี่ชอบกินน้ำไร
Ten Tavin: เดี๋ยวผมซื้อไปให้
Prabda Asavayothin: ซื้อให้ทำไม
Prabda Asavayothin: น้องหน้าโง่
Ten Tavin: แทนคำขอบคุณที่วันนั้นพี่มาส่งผมไง อยู่ไหนอะ
กูตอแหลหน้าด้านๆ ขอบคุณอะไรล่ะกูยังจำได้แม่นว่าพี่มันเอาเสื้อเฟรดเพอร์รี่กูไปทำผ้าเช็ดตีน ไอ้คนใจหมา
Prabda Asavayothin: อยู่โรงอาหารคณะ
Prabda Asavayothin: จะซื้อไรก็ซื้อมา
Prabda Asavayothin: ชอบหมด
Ten Tavin: งั้นเดี๋ยวผมไปหา พี่รอผมก่อนนะ
Ten Tavin: แปปเดียว เดี๋ยววิ่งไป
Prabda Asavayothin: อย่าวิ่ง
Prabda Asavayothin: หน้าโง่อย่างมึงเดี๋ยวล้ม
แหม่สั่งกูเป็นเด็กอมมือเลย ระดับนี้ไม่มีล้มครับกูวิ่งมาเรียนคาบเช้าแทบทุกวัน ผมเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าโบกมือลาอีฝ้ายอย่างไม่ใยดีแล้วเดินย้อนกลับเข้าไปในโรงอาหาร เมนงเมนูไม่ต้องอ่านแล้วครับเพราะผมมีไอเดียที่แจ่มกว่านั้น คนเตะบอลอย่างไอ้พี่ปราบมันต้องแดกน้ำเพื่อสุขภาพ
“ป้าครับ เอาน้ำมะเขือเทศคอยดำแพ็คนึง”
โรงอาหารวิศวะมาถึงแล้วครับสำหรับโรงอาหารวิศวะ จากอักษรกว่าจะพาตัวเองมาถึงที่นี่ได้เล่นเอาจักแร้กูเปียกเป็นวงกลม ก่อนมาถึงผมได้ทำการร่ายคาถามหาเสน่ห์เรียบร้อย แอบไปหลบมุมสวดอยู่ข้างตึกอักษรนี่แหละ ตอนสวดอีฝ้ายที่ยืนให้กำลังใจอยู่ถึงกับส่งเสียงเห่าเป็นการใหญ่ บรู๋วๆๆๆๆใส่กูอยู่นั่นแหละ สงสัยคาถาพ่อปู่จะขลังว่ะ พูดแล้วผมยังขนลุกไม่หาย
นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่ผมมาเยือนถิ่นลานเกียร์แต่คราวนี้ผมฉายเดี่ยวไม่ได้มีไอ้กรกับไอ้เหลิมติดสอยห้อยตามมาด้วย โรงอาหารวิศวะในวันนี้คนเยอะเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือผมหาโต๊ะพี่ปราบเจอตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้ามาเพราะพวกพี่มันนั่งเด่นเป็นสง่าลอยหน้าลอยตากันอยู่ตรงกลางแถมยังห้อมล้อมไปด้วยบรรดาสาวๆที่นั่งกินข้าวไปก็อายม้วนไปอยู่ไม่ห่าง ระหว่างทางที่ผมเดินเข้าไปยังจุดหมายคนในโรงอาหารแม่งก็หันมามองกูพรึ่บพรั่บเหมือนคราวที่แล้วไม่มีผิดจนผมเริ่มประหม่า แดกข้าวไปสิครับจะมองกูทำไมเอ่ย จ้องขนาดนี้ไม่เอากูไปใส่กรอบแขวนผนังไว้ดูเล่นที่บ้านเลยอะ ไอ้กรไอ้เหลิมพวกมึงอยู่ไหนกันวะ ส่งกำลังใจให้กูด้วย T_T
“น้องหน้าโง่ ทำไมมาช้า” ทักกูแบบนี้มีอยู่คนเดียวอะครับ
“ก็พี่บอกเองว่าไม่ให้ผมวิ่งอะ ผมก็เลยเดินมาไง นี่ก็รีบที่สุดแล้วนะ”
“พูดมาก ไหนอะน้ำ คอแห้งชิบหายแล้วเนี่ยมัวแต่รอน้ำมึงอะ”
“คอแห้งมากทำไมมึงไม่เดินไปซื้อล่ะวะ ร้านก็อยู่แค่นี้ เป็นง่อยหรอ” พี่ซันที่กำลังแดกข้าวอยู่เงยหน้าขึ้นมาถาม ข้าวนี่อัดแน่นเต็มปากยังจะพูดอีก
“เสือก” ด่าพี่ซันแต่สายตาพี่ปราบยังไม่ละไปจากผม
“อะพี่ หิวก็กินเลยผมซื้อมาให้แล้ว หวังว่าจะชอบ” ผมวางน้ำมะเขือเทศคอยดำทั้งแพ็คที่หิ้วมาลงตรงหน้าพี่ปราบ พวกพี่ซันเห็นก็กลั้นขำกันใหญ่ ตลกไรกันวะ ไม่เคยเห็นน้ำมะเขือเทศหรอ
“น้ำมะเขือเทศคอยดำ แต่คอยพวกพี่ไม่ดำนะคร้าบบบ”
“ไอเหี้ยฉี จังไรสัด” แล้วพวกพี่มันก็ขำกันใหญ่ พี่ปราบหันไปมองเพื่อนตัวเองดุๆแล้วหันมาคุยกับผมต่อ
“นี่คือน้ำที่มึงจะซื้อมาตอบแทนกูหรอ”
“ใช่ เห็นพี่ต้องซ้อมบอล ผมก็เป็นห่วงปะวะ น้ำมะเขือเทศมันดีต่อสุขภาพนะพี่”
“แล้วไม่เป็นห่วงพวกพี่บ้างหรอครับ พี่ฉีก็เตะบอลเหมือนกันน้าาา”
“ช่าย ขอแบ่งมากินบ้างได้ป่าวครับน้องเท็น แหม่ หิ้วมาเป็นแพ็คเชียว” พี่ฉีกับพี่ซันแซวติดตลก เอาอีกแล้วนะพี่มึง ตลกแดกเหมือนไอ้เหลิมอีกคนแล้ว ทำไมไปไหนก็เจอแต่คนสันดานชูชกวะ
“ไม่ได้ครับ อันนี้ผมซื้อมาให้พี่ปราบคนเดียว” น้ำมะเขือเทศแพ็คนี้กูปลุกเสกมาแล้วด้วย เกิดแดกกันทั้งแก๊งแล้วพากันชอบกูขึ้นมาหมดทำไงอะครับ ของพ่อปู่แม่งยิ่งแรงอยู่
พอผมพูดจบพวกพี่ซันมันก็โห่เสียงดังกันใหญ่ แถมไม่โห่เปล่าพวกพี่มันตีโต๊ะกันรัวๆด้วย คนมองหมดแล้วไอ้ชิบหาย ส่วนไอ้พี่ปราบแม่งก็ยิ้มอะไรคนเดียวไม่รู้แทนที่จะห้ามเพื่อน พี่มึงเป็นบ้ากันไปหมดแล้วหรอ
“แล้วมึงจะยืนค้ำหัวกูอีกนานมั้ย นั่งก่อนดิ” ผมทรุดตัวลงนั่งที่ว่างตรงข้ามพี่ปราบดาโดยไม่ต้องรอให้พี่มันดุต่อ สั่งกูเก่งเหลือเกิน
“มึงกินไรมายัง” พี่มันถามต่อ
“ยังอะ เลิกคลาสผมก็รีบไปซื้อน้ำแล้วรีบมาหาพี่เนี่ย หิวจะแย่”
“วันหลังถ้าหิวก็กินข้าวก่อน กูไม่ได้จะไปไหนอยู่แล้ว”
“ก็ผมกลัวมาแล้วไม่เจอพี่อะ”
“หน้าโง่ ถ้ากูบอกว่ารอก็คือรอ”
“...”
“แล้วจะกินไรเดี๋ยวกูไปซื้อให้”
“ไม่เป็นไรพี่เดี๋ยวผมไปซื้อเองก็ได้”
“จะกินไร” เอ้านี่ได้ฟังที่กูพูดปะเนี่ย
“อะไรก็ได้ พี่ซื้อมาให้ผมก็กินหมดอะ”
“เลี้ยงง่ายดี กูชอบ” พูดจบพี่มันก็ลุกขึ้นแล้วหายไปท่ามกลางฝูงชนที่ค่อยๆหลบทางให้พี่มันเดิน โห่ ขนาดนี้ทำไมไม่เอาพรมแดงมาปูให้มันด้วยเลยล่ะวะ
พอพี่ปราบหายไปซื้อข้าวผมหันกลับมาก็เจอสายตากรุ้มกริ่มและใบหน้าบูดเบี้ยวเพราะกลั้นยิ้มของพี่ซัน พี่ฉี และพี่น้ำหอมที่มองมาทางผมอยู่ก่อนแล้ว
“มองไรกันครับพี่”
“เปล๊าาาาาาา” เสียงสูงเป็นพนักงานยาโยอิตอนพูดอิรัชไชมาเสะเลยไอ้สัด อิรัชไชมาเสสสสสสสส้
ผมยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อพี่ปราบดาก็เดินกลับมาพอดีพร้อมกับก๋วยเตี๋ยวไก่ในมือ ทำไมมันเร็วจังวะ พี่มันวางชามแล้วนั่งลงข้างๆผม กูจะกินยังไงอะพี่มึงเล่นนั่งจ้องกูแบบนี้ ไอสัดเป็นใครก็เกร็งปะวะ
“ซื้อมาให้ก็แดกดิ หรือมึงต้องให้กูป้อนด้วย”
เคร้ง!
รอบนี้เป็นผมเองที่ทำตะเกียบหล่นจนพี่มันต้องหยิบให้ใหม่ ไอ้ชิบหายมึงจะมาป้อนทำไมล่ะพี่ เสียอาการเลยกู ผมทำตัวไม่ถูกเลยหยิบช้อนตักน้ำซุปขึ้นมาซดเต็มๆคำ แสรดดดดด ร้อนโว้ย พอพี่มันเห็นก็หลุดขำแล้วหยิบขวดน้ำเปล่าตรงหน้าส่งมาให้ อี๋ กูเห็นพี่มึงกระดกไปแล้วตอนเดินมาอะ
“หน้าโง่จริงๆเลยมึง” ผมมองพี่มันตาเขียวปั๊ด แต่เถียงไม่ออกเพราะกูคงโง่จริงแหละ ลิ้นพองเลยไอ้ชิบหาย
“กินเสร็จแล้วมึงจะไปไหนต่อ มีเรียนคาบบ่ายไหม”
“ไม่มีครับ เดี๋ยวผมกลับเลย มีธุระต้องไปทำต่อ”
“รถจอดอยู่ไหน รีบแดกเดี๋ยวกูเดินไปส่ง” แปลกๆละ เห็นกูสามขวบเหมือนพวกไอ้กรอีกคนแล้วหรือไงวะ ทำไมวันนี้พี่มันพูดจากับผมดีผิดปกติก็ไม่รู้ โคตรจะไม่ชินเลย สงสัยพี่ปราบมันคงโดนของเข้าแล้วจริงๆแน่เลยว่ะ พ่อปู่ สุโค่ย!!
“วันนี้ผมไม่ได้เอารถมาอะ”
“งั้นเดี๋ยวกูไปส่ง”
“เฮ้ยไม่เป็นไรพี่ผมนัดคนไว้พอดี”
“นัดใคร?”
“อ้าวน้องเท็น กำลังจะทักไปหาพอดี ไปกันเลยมั้ยครับ” พี่บีมโผล่มาจากไหนไม่รู้ เดินเข้ามาทักผม ใช่ครับ วันนี้ผมนัดพี่บีมไว้เพื่อจะไปถ่ายคลิปวิดิโอรีวิวอาหาร ผมพยักหน้าแล้วส่งยิ้มให้พี่บีม ชิบหายแล้วกูลืมสนิทเลย ทำไงดีวะก๋วยเตี๋ยวชามบักเป้ง แดกหมดชามแล้วไปกินข้าวกับพี่บีมต่อท้องกูแตกพอดี
“มึงมาได้ไงวะบีม”
“กูนัดน้องไว้ จะพาไปแดกข้าว มึงมีไรเปล่าวะไอ้ปราบ” พี่บีมหันไปถาม
“ไม่มี งั้นมึงเอาก๋วยเตี๋ยวมึงมา ถ้าไม่แดกเดี๋ยวกูเอาไปเททิ้งเอง” แล้วพี่ปราบก็คว้าชามก๋วยเตี๋ยวไก่แล้วลุกไปเลย มันเอาไปเททิ้งจริงๆครับ สตั๊นกันไปทั้งโต๊ะ
“มึงกับน้องเท็นไปสนิทกันตอนไหนวะบีม” พี่น้ำหอมถามขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ
“ยังไม่สนิท แต่อยากสนิทอยู่เหมือนกัน” พี่บีมตอบยิ้มๆ
“แหล่วๆๆๆๆ กูว่างานนี้มีมวย”
“แอ่อี้แอ่ แอนตาซิลขอสนับสนุนให้ลูกหลานไทยอนุรักษ์ศิลปะการต่อสู้ของชาติไทย ซัดกันวันนี้แผลแตกแอนตาซิลแจกทันทีเข็มละห้าร้อย”
“สำหรับฝ่ายแดง หมาบ้าน้ำลายฟูมปากจากวัดถ้ำกระบอก เจอกับฝ่ายน้ำเงิน คุณชายที่ห้าจากวังจุฑาเมพ ไอ้เหี้ยแค่นี้กูก็พอเดาได้แล้วว่าใครจะชนะ” พี่ฉีกับพี่ซันแม่งเล่นไรกันวะ ไปดีกว่ากูอยู่ไปก็งง ผมร่ำลาพวกพี่ซันที่ยังกินข้าวไม่เสร็จแล้วก็เดินตามพี่บีมออกมา ส่วนไอ้พี่ปราบมันเดินเอาก๋วยเตี๋ยวไปทิ้งแล้วหายหัวไปไหนไม่รู้อีกตามเคย ช่างแม่งก่อนละกัน วันนี้ผมมีภารกิจที่สำคัญต้องไปทำ
ซึ่งภารกิจที่ว่าก็คือ..
“สวัสดีคร้าบทุกคน ยินดีต้อนรับเข้าสู่ช่อง เท็นเทอร์ตี้เอ้ก อี้ เอ้ก เอ้ก กับผมเท็นคนดีคนเดิมเพิ่มเติมคือความหล่อ ซึ่งจะพาทุกท่านไปชิมร้านอาหารที่ขึ้นชื่อในเรื่องรสชาติเหี้ยมากๆ กับช่วง #ไม่อร่อยอย่าเสือกแดก.. แต่วันนี้เป็นไลฟ์พิเศษที่ไม่ได้มาในวันศุกร์สี่ทุ่มหรรษาเหมือนเช่นเคยเพราะวันนี้เรามีแขกรับเชิญพิเศษ เอด เอด เอด”
ใช่ครับวันนี้ผมมาถ่ายไลฟ์รีวิวอาหารลงเฟสบุคโดยมีพี่บีมที่มาเป็นแขกรับเชิญให้ผมด้วย โชคดีจริงๆครับที่บีมแกใจดียอมตกปากรับคำว่าจะมาช่วยผม รับรองว่าคราวนี้ยอดวิวถล่มทลายแน่นอน
“พิเศษจริงๆครับสำหรับแขกรับเชิญคนนี้เพราะมีดีกรีเป็นถึงอดีตเดือนวิศวะ!! แค่ไทเทิ่ลนำหน้าก็หล่อลอยลำมาแล้ว เขาคนนั้นก็คือ “พี่บีม” เดือนวิศวะปีสามนี่เอง อะปรบมือกันสิครับรออะไร แหม่ไม่รู้คิดถูกคิดผิดที่เชิญมา เพราะแค่พี่บีมเข้ามาร่วมเฟรมความหล่อก็บดบังรัศมีผมมิดแล้ว อะไหนครับมีใครอยู่บ้าง สวัสดีครับน้อง ‘สาวน้อยคอยรัก อกหักเมื่อรักเฟย์’ แหม่ชื่อเฟสบุคยาวกว่าถนนหน้าบ้านพี่อีก ทักทายครับพี่ ‘ยังโสดดาวน์โหลดฟรี หน้าตาไม่ดีแต่ไม่มีไวรัส’ โอ้โหชื่อยาวกว่าน้องเฟย์เมื่อกี้อีก เข้ามากันได้เรื่อยๆนะครับ ใครเข้ามาแล้วอย่าลืมกดไลค์กดแชร์ให้เท็นด้วยนะคร้าบ”
ผมยิ้มกว้างให้กับกล้องพร้อมสะกิดพี่บีมให้โบกมือทักทายคนดู พี่บีมก็ดูจะรู้งานครับพอผมส่งสัญญาณก็ส่งยิ้มให้กล้องใหญ่เลย ยิ้มทีลักยิ้มนี่บุ๋มจนเห็นชัดทั้งสองข้างแก้ม จะหล่อไปไหนครับพี่เกรงใจผมด้วย คือกูเป็นเจ้าของรายการนะจะมาดูดีกว่ากูได้ไง
“น้อง ‘อีนู๋สตรอเบอรี่’ คอมเม้นเข้ามาว่า ‘พี่บีมหล่อมากค่าาาาาา ตกหลุมลักยิ้มพี่บีมไม่พอหนูยังตกหลุมรักขึ้นไม่ไหวเธอใช่ไหมเป็นคนผลักฉัน’ ขี้เกียจอ่านแล้วครับยาวจัดขอ’ญาตข้ามไปที่คอมเม้นถัดไปจากน้อง ‘รักนี้คิตตี้พูห์’ ที่บอกว่า ‘หล่อทั้งคู่เลยค่าคิตตี้เลือกไม่ได้’ ขอบคุณครับในที่สุดก็มีคนชมผมซักที ฮ่าๆๆ ขำแห้งเลยกู โทษครับลืมตัว คลิปนี้ขอไม่หยาบมากนะครับสถุนเกินเดี๋ยวไม่มีใครกล้ามาแล้ว”
Joy Enjoy: บีมหล่อมากกก ตอนหน้าพี่ขอรีเควสปราบดาบ้างนะค้าาาาา
ต้น รถเป็นไรอะ: อยากยืนตรงงนั้นนนน ที่ชั้นเคยยืนนนนน ที่มีคนอื่นนนนนน ได้มีเธอข้างกายยยยยยย
ต้น รถเป็นไรอะ: เอาใครมาก็ได้แต่ไม่เอาไอ้ปราบ #ทีมผัวน้องเท็น
ผมนั่งอ่านคอมเม้นเรื่อยๆระหว่างรอคนเข้ามาดูไลฟ์ ตกลงอีพี่จอยนี่ยังไงไหนบอกไม่อยากให้ผมกับพี่ปราบได้กันแล้วมันมีรีเควสอะไรของมันเนี่ย ขมวดคิ้วเป็นรูปตีนอีกแล้วกู
Prabda Asavayothin: หน้าโง่
Prabda Asavayothin: น้ำมึงไม่อร่อยเลยว่ะ
เชี่ยยยยยย พี่ปราบมันเข้ามาดูไลฟ์ผมด้วยว่ะ ไหนบอกว่าไม่ค่อยเล่นโซเชียลไง แต่มันคงไม่ได้สนใจคอนเท้นในคลิปผมหรอกเพราะแม่งมาถึงก็มาด่าน้ำมะเขือเทศคอยดำกูเลย ทำไมวะ น้ำมะเขือเทศไม่ดีตรงไหน กูอ่านสรรพคุณมาแล้วมันบอกว่าดีต่อสุขภาพนะโว้ย
Joy Enjoy: แอรรรรรรร้ ปราบดาดูอยู่ด้วยหรอ
Joy Enjoy: ครั้งหน้าต้องมานะค้า
Prabda Asavayothin has just left.อ่าวพี่มันออกไปแล้ว แต่ช่างมันก่อนครับตอนนี้คนมาดูไลฟ์เยอะพอสมควรแล้วผมจึงเลิกสนใจคอมเม้นแล้วหันไปสนใจอาหารที่พึ่งถูกยกมาเสิร์ฟ เป็นหมี่น้ำตกหมูตุ๋นสองชามร้อนๆสำหรับผมและพี่บีม แค่เห็นหน้าตาก็รู้แล้วว่ารสชาติต้องหมาไม่แดกแน่นอน แต่กูต้องแดก
“มาแล้วครับสำหรับอาหารที่เราจะมารีวิวกันในวันนี้ สำหรับใครที่คิดว่าดูจบแล้วจะตามมาแดกก็มานะครับ ใบ้ให้ว่าชื่อร้านก๋วยเตี๋ยวน้ำตกนรกแตกพิกัดราชเวที นั่งบีทีเอสจากมอเรามาสถานีเดียวเท่านั้น แดกเสร็จก็เรียกสามล้อกลับไปโรงบาลมอเราได้เลย ขี้แตกแน่นอนเพราะน้ำลวกเส้น น้ำซุป น้ำแช่ผ้าขี้ริ้วแม่งมาจากถังเดียวกันหมดเลย เจ้าของร้านแม่งต้องเป็นคนจิตแข็งประมาณนึงอะครับถึงจะทำอะไรแบบนี้ได้”
ผมแพลนกล้องไปหาพี่บีม พี่แกกำลังนั่งเหงื่อตกทำหน้าพะอืดพะอมซึ่งผมเข้าใจดีเลยตบบ่าให้กำลังใจไปทีนึงแล้วกระซิบไปว่าไม่ต้องกินก็ได้ครับ ไม่ใช่ไรนะขี้เกียจพาพี่บีมไปโรงพยาบาล จากนั้นผมก็สูดหายใจเข้าเต็มปอดแล้วคีบทุกอย่างใส่ช้อนแบบคอมโบแล้วยัดใส่ปากทีเดียวให้มันจบๆ
“โอ้โหตาผมโตเลยครับคุณผู้ชม ช้อนเดียวรู้เรื่อง น้ำซุปแม่งเค็มเหี้ยๆ เค็มจนกูสะดุ้ง เค็มแบบตายแล้วตื่นขึ้นมาอีกชาติความเค็มก็น่าจะยังติดอยู่ที่ปลายลิ้น บรรพบุรุษตายตื่นมาแดกก็ยังเค็ม เหมือนคนปรุงเผลอทำน้ำปลาหกใส่ น้ำซุปถ้วยนี้ถ้วยเดียวแม่งเอาไปสกัดแยกทำเป็นน้ำปลาไว้ปรุงก๋วยเตี๋ยวต่อได้อีกสามร้อยชาม ฟังความเห็นจากผมไปแล้วเราลองมาฟังความรู้สึกพี่บีมบ้างดีกว่า เป็นยังไงบ้างครับ”
“รสชาติเซอร์ไพรส์มากครับ ไม่ได้คิดว่าในชีวิตต้องมาเจออะไรแบบนี้” พี่บีมตอบอย่างสุภาพ ต่างจากกูมากที่ด่าไปแล้วหนึ่งย่อหน้าเต็มๆ คนไหนไพร่คนไหนผู้ดีมันดูกันที่ตรงนี้เอง หน้าชาเลยกู
“ครับผมอย่างที่บอกไปใครใจถึงอยากตามมาพิสูจน์ด้วยตาตัวเองก็มากันได้ แนะนำว่าให้โทรนัดหมอไว้ล่วงหน้าได้เลย กินหนึ่งครั้งฟอกไตหนึ่งที สำหรับวันนี้สวัสดีคร้าบบบบบบบบบบ” ผมกับพี่บีมยิ้มแล้วโบกมือบ๊ายบายให้กับกล้อง จากนั้นก็ลุกไปจ่ายตังแล้วรีบออกจากร้านทันทีเพราะเจ้าของร้านมองกูตาเขียวปิ๊ด คาดว่าถ้าอยู่ต่ออีกนิดกูนี่แหละจะโดนน้ำก๋วยเตี๋ยวลวกเป็นรายต่อไป
อ่านต่อด้านล่าง