บทที่ 19
‘อ๊อดแอ๊ดอ๊อด แอ๊ด อ๊อด แอ๊ด อ๊อด~ขี้หูเธอมี พี่ก็จะแคะ แงะ แงะ แงะ ขี้ตาเธอแฉะ พี่ก็ไม่อยู่เฉย เช็ด เช็ด เช็ด’
เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้นอีกรอบ คราวนี้เป็นเพลงอ๊อดแอ๊ดของเท่งเทิดเทิง ผมตั้งเพลงนี้สำหรับไอ้พวกเดอะแก๊งของผมโดยเฉพาะ ซึ่งตอนนี้มันโคตรคนละฟีลกับอารมณ์หม่นๆ ของผมจริงๆ เหมือนกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความรันทดแล้วถูกกระชากมาเต้นกาโวๆ ไลฟ์โชว์ในยูทูปเลยทีเดียว
“ว่าไงไอ้เกลือ” ผมถามมันทันทีที่รับสาย รูปที่ผมตั้งเอาไว้โชว์เวลาไอ้เกลือโทนมา คือรูปนมตู้มๆ ครับ บ่งบอกถึงสันดานรักการดื่มนมของมัน แต่เป็นเต้าอวบอิ่มของน้องวัวนะครับ ไม่ใช่ของสาวๆ ฮ่าๆ
“แกเป็นไรวะ เสียงโคตรเหี่ยวแห้ง”
“ง่วง” ผมแถไป
“แกอย่ามาแหล งอนไรพี่ธีมวะ”
“มันโทรหาแกให้แกโทรมาละสิ” ผมดักคอมัน
“เออ รู้ก็ดี จะได้ไม่ต้องเนียนถาม”
“แค่เซ็งๆ เดี๋ยวก็หาย ขี้เกียจเล่า” ผมบอก
“แน่ใจว่าไม่อยากเล่า”
“เออ น้องนาวหัวสูง ดื่มแต่ไวน์ไม่อยากเหล้าเว้ย”
“แหม หัวสูง ตอนปีหนึ่งใครกระดกแสงโสมเพียวๆ วะ โชว์พาวไง เมาเหมือนหมาเป็นเกลื้อนนอนไถกับดิน”
“ไอ้เกลือ แกเป็นคนยึดติดกับอดีตนะ แกต้องรู้จักมองไปข้างหน้าได้แล้ว” ผมรีบบอกมัน เรื่องเชี้ยๆ ของผมนี่จำแม่นดีนัก
“ฮ่าๆ เรื่องทุเรศๆ ของแก ฉันไม่มีวันลืม ว่าแต่แกโอเคแน่นะ” มันถามผมอีกครั้ง
“อืม”
“พี่ธีมเขารักแกมากนะ”
“ฉันรู้”
“รู้ก็ดี ทำตัวดีๆ ล่ะ โดนเขาจับกดเพราะงอนมากๆ ขี้ไม่ต้องเบ่งแน่”
“ไอ้เวร ไปนอนเลยไป๊”
“เออ งั้นแค่นี้นะ ฉันเป็นห่วงแกนะนาว”
“อืม ขอบใจ บาย” ผมกดวางสายปุ๊ป เสียงลูกบิดประตูห้องก็ดังก็อกแก็กๆ มันคงจะกลับมาแล้ว ทำไมเร็วจังวะ แต่ผมไม่เปิดให้มันหรอก ผมจะงอน
‘แกร๊ก’ เสียงไขกุญแจดังพร้อมกับประตูที่เปิดออก ผมหน้าเหวอเลยเมื่อเห็นมันเข้ามาได้ มันเอากุญแจมาจากไหนวะไอ้เมือกปลากะพง
“เข้ามาทำไม” ผมถามมัน
“นี่ห้องพี่เหมือนกัน” มันบอก หน้ามันตอนนี้เหมือนยักษ์เลยครับ
“ไม่อยากคุยตอนนี้” ผมหันหน้าหนีมัน มันเดินเข้ามาจับหน้าผมให้หันมาจ้องหน้ามัน
“นาวจะโกรธพี่ทำไม พี่ไม่ได้คิดอะไรกับเขาเลย พี่แค่ทำ..”
“นาวไม่ได้โกรธ นาว..นาวแค่..น้อยใจ..” ผมรีบบอกมัน ไม่อยากให้มันอธิบายเพราะผมรู้อยู่แล้วว่ามันทำเพราะอะไร แต่ผมห้ามความรู้สึกตัวเองไม่ให้น้อยใจไม่ได้เหมือนกันนี่หว่า เอาดิ มันอยากจ้องตาผม ผมก็จะจ้องมันบ้าง ตอนนี้สีหน้าของมันอ่อนลง เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังตีนเลยครับ
“พี่ไม่มีโอกาสหยิบโทรศัพท์มาหานาวเลย มันอาจจะฟังดูเว่อร์ แต่พี่พูดจริงๆ พอออกมาจากสถานทูตได้พี่ก็รีบโทรหานาวก่อนเลย ก่อนจะออกมาแม่ก็ฝากให้ไปส่งมิเชลที่โรงแรมอีก”
“ถ้าพี่รู้ว่าตัวเองจะยุ่งก็ไม่น่าบอกให้นาวรอ” ผมบอกมัน ไอ้ที่น้อยใจอยู่ก็หายแล้วละครับ พอเห็นท่าทีร้อนรนของมัน มันก็คงอึดอัดใจไม่ต่างกับผมตอนที่ต้องทำตามคำสั่งของคุณเม
“พี่ไม่คิดว่าที่ไปวันนี้จะเป็นเรื่องสำคัญ มันสำคัญมากจนไม่สามารถปลีกตัวได้จริงๆ เอาไว้พี่ค่อยเล่าให้ฟัง แล้วพี่ก็อยากให้นาวรอจริงๆ ไม่อยากให้นาวกลับเอง”
“แต่นาวรอพี่นานแล้ว เกรงใจคุณปริณ”
“จำเอาไว้นะ นาวต้องรอพี่ มันอาจจะนาน ไม่ว่าสาเหตุอะไรที่ทำให้พี่มาช้า แต่พี่อยากให้รู้ว่าพี่จะมาแน่นอน” เสียงมันจริงจังมากเลยครับ สายตามันก็ดูมั่นคงมาก ผมตัดสินใจขยับไปหามันแล้วสวมกอดเอวมันเอาไว้ ซบหน้ากับท้องมัน มันก็ลูบหัวผม
“นาว...กลัว”
“กลัวอะไร”
“ไม่รู้ดิ แม่ก็ไปจากนาว พ่อก็ไปจากนาว พี่จะไปจากนาวอีกคนไหม คือ..นาว.. นาวไม่ได้หมายถึงพี่จะตายหรอกนะ”
“พี่ไม่ไปจากนาวง่ายๆ หรอก”
“รับปากแล้วนะ”
“อืม นาวละ จะไปจากพี่ไหม”
“ถ้าเจอที่ดีกว่าก็คงไป” ผมตอบ มันรีบดึงตัวผมออกจากตัวมัน หรี่ตามองผม ผมกลั้นขำแทบตาย หน้ามันตอนไม่มีหนวดนี่เหมือนปลานี่โม่ชัดๆ ความโหดมันไม่เหลือแล้วบอกตรงๆ
“สงสัยคงต้องรีบจับทำเมียซะแล้วมั๊ง” มันบอกเสียงเข้มเลย ได้ทีเอาเรื่องนี้มาอ้างเลยนะ ฝันไปเหอะไอ้หื่น
“ไม่เอา รอก่อน รอให้งานการกุศลของคุณเมผ่านไปก่อน” ผมบอกมัน มันทำหน้ามุ่ยเลย
“ทำไมอะ ไม่อยากรอแล้ว”
“ขอดูก่อนว่าจะจัดการเรื่องเจ้าหญิงตังเมยังไง” ผมบอก ส่วนมันหลุดขำเลยที่ผมตั้งฉายาให้มิเชล
“รับปากแล้วนะ” มันถามย้ำ
“เออน่า ไปอาบน้ำดีกว่า ร้อน” ผมบอกมัน
“อาบด้วย”
“ไม่เอา เดี๋ยวพี่ตบะแตก ส่วนสัดนาวยิ่งอวบอิ่มอยู่ด้วย” ผมรีบห้ามมัน
“ไม่หรอก นะ นะ” มันอ้อน คิดว่าคนอย่างผมจะยอมเหรอ คนอย่างผม แค่มันตีหน้าเศร้า ทำเสียงอ้อนใส่ คิดว่าผมจะยอมให้มันเห็นร่างกายเปลือยเปล่าของผมเหรอ ฝันไปเหอะ เรื่องอะไรจะให้มันเห็นกันง่าย เดี๋ยวผมขอใส่กางเกงว่ายน้ำก่อนนะ
“ก็ได้ แต่ถ้าพี่ตบะแตกโดนแน่ พูดเลย“ ผมบอก มันยิ้มกว้างเหมือนหมาตอนได้กระดูกเลยครับ มันรีบดันผมเข้าไปในห้องน้ำแล้วล็อกประตู ทีแบบนี้ไม่ต้องให้รอเลยนะ ไอ้หมาธีม
อย่าคิดว่าผมอ่อยเชียว ผมแค่อยากได้คนขัดขี้ไคล้ข้างหลังให้แค่นั้นเอง ไม่ได้มีนัยยะใดๆ ทั้งสิ้น ผมมั่นใจ
“ซี๊ดดดดดดด เบาๆ ดิพี่ธีม”
“แบบนี้ดีไหม”
“อืม ดีๆ...ลงไปอีกหน่อย นั้นแหละ ซี๊ด ดีจัง ทีนี่ ขึ้นมาหน่อย อีกนิดๆ”
มันกำลังเอาใยบวบขัดหลังให้ผมอยู่ครับ นั่งในอ่างจากุชชี่กลมๆ กันสองคน น้ำก็อุ่นกำลังดี เพดานก็เป็นกระจกใสๆ มองเห็นท้องฟ้าประดับดาววิบวับ แต่ผมกับมันใส่กางเกงว่ายน้ำทั้งคู่ อย่าได้คิดจะฟินกันง่ายๆ ผมกำลังบอกตำแหน่งให้มันขัดหลังให้อย่างเมามัน แต่สักพักทำไมบวบมันเริ่มไถลงต่ำวะ ตูว่าบอกให้ขึ้นบนนะเว้ย
“ไอ้พี่ธีม นาวบอกให้ขึ้นเหนือ พี่ลงใต้ทำไม”
“ก็มันยังไม่สะอาด” มันบอกพร้อมกับขัดบริเวณเหนือช่องแคบมะละกาของผม ผมว่าสถานการณ์จะไม่ปลอดภัยละ เลยรีบหมุนตัวหันหน้าเข้าหามัน
“พอเลย พี่ลุกไปล้างตัวในตู้เลย นาวจะอาบในอ่างคนเดียว” ผมชี้ไปที่ตู้อาบน้ำ
“จูบได้ไหม” มันถาม ทำหน้าละมุนละไมมาเชียว
“ไม่เอา เดี๋ยวพี่หยุดไม่ได้” ผมบอกตรงๆ ยังไม่พร้อม ถึงไอ้อารมณ์ร่วมจะมีเหมือนกับปุถุชนคนธรรมดา แต่คุณลองมาเป็นฝ่ายถูกกดมั่งดิ แค่นึกก็สยองกว่าตอนโนต่อยท้องแล้ว
“พี่ไม่ทำอะไรหรอก แค่ทำให้นาวมีความสุขนิดๆ หน่อยๆ” มันบอก หน้ามันมีความหื่นระดับสิบริกเตอร์โชว์แบบนี้ ผมจะเชื่อมันได้ไง
“พี่หรือนาวกันแน่ที่จะสุข ถามตรงๆ อยากเหรอ”
“อืม แต่พี่ไม่ทำหรอกถ้านาวไม่พร้อม” มันบอก คือผมก็อยู่กับมันสองคนในห้อง ไม่ต้องกระซิบข้างหูผมก็ได้ มันขนลุก
ผมกำลังชั่งใจอยู่ ไม่ได้คิดหรอกครับว่าเร็วไปไหม ง่ายไปไหมกับเรื่องแบบนี้ ผมก็เป็นผู้ชายนะครับ แค่คนที่ผมรักมันก็ดันมีอะไรเหมือนผม อาจจะแปลกในสังคมที่เราโตมา แต่มันไม่แปลกหากเราเปิดใจว่ามันก็แค่คนสองคนรักกัน เราคบกัน เรื่องแบบนี้มันก็ต้องเกิดขึ้นสักวัน มันก็เป็นการบอกรักทางภาษากาย ใครคนหนึ่งเคยกล่าวเอาไว้นี่แหละ ผมเดาว่าคนบอกคงกำลังของขึ้นสุดๆ แต่หาเหตุผลให้ดูสวยงาม แต่ที่ผมกลัว คือกลัวมันจะหยุดไม่ได้ ผมยังไม่ได้ศึกษาดีพอเลย ผมไม่อยากเจ็บอะ ผมผิดเหรอ
“อย่าทำหน้ายั่วพี่ดิ” มันบอก เฮ้ย นี่ผมกำลังใช้สมองอย่างหนัก หน้าของผมกำลังเครียด แต่มันดันบอกว่าหน้าผมยั่วยวนมัน ผมทำใจลำบากจริงๆ กับฟีโรโมนของผม
“นะ แค่จูบ” มันขออีก ผมเลยพยักหน้า มันยิ้มเลยครับ ไอ้พี่ธีมมันดึงผมเข้าไปจูบ มันอ่อนโยนกับผมมากๆ แต่ผมว่า มือไม้ของไอ้หมาธีมมันชักจะแปะป่ายไปทั่วตัวผมละ ผมพยายามจะดันตัวมันออก แต่ทำไมไม่มีแรงเลยก็ไม่รู้ สงสัยผมอาจจะโดนเชื้อโปลิโอแบบฉับพลัน
“พี่ธีม พอก่อน” ผมบอก แต่มันไม่ได้หยุด มันซุกไซร้ที่ลำคอของผม ผมก็อยากจะผลักมันออกนะ แต่มันก็เพลินๆดีอะ ฮ่าๆ
“อยู่เฉยๆ นะ พี่ไม่ทำอะไรอย่างที่นาวกังวลหรอก” มันกระซิบบอก ผมไม่ได้ตอบเพราะยังเมาน้ำลายมันอยู่ รู้แต่มันจับตัวผมยกขึ้นไปนั่งบนขอบอ่าง รูดกางเกงผมลง นาวน้อยของผมก็ตั้งท่าสู้เลย ผมหันหน้าหนี เห็นผมตลกทะลึ่งทะเล้น แต่เอาจริงๆ ผมก็อายเป็นนะ มันหัวเราะในลำคอให้ผมตายใจก่อนจะต้องมาสะดุ้งวาบเมื่อนาวน้อยของผมโดนบุกรุก มันกำลังจูปาจุ๊บลูกชายของผม
“พี่ธีม...” ผมได้แต่เรียกชื่อมัน บอกตรงๆ ว่าก็คล้อยตามแต่ก็กลัว ถึงผมจะไม่ใช่คนใสๆ ที่จะไม่รู้เรื่องแบบนี้เลย แต่ผมก้ไม่เคยกับใครนี่นา พอถึงเวลาจริงๆ ผมก็กลัวอยู่ดี แต่ด้วยความที่ผมรักไอ้หมาธีม อารมณ์ที่ถูกมันนำพาก็เลยถูกชักจูงไปง่ายๆ ตอนนี้ผมได้แต่หลับตาแล้วกัดริมฝีปากเพื่อเก็บกดความรู้สึกไม่ให้ส่งเสียงออกมา ไอ้หมาธีมมันกำลังทำในสิ่งที่คนรักเขาปฏิบัติให้กัน แต่ผมจะไม่ไหวแล้ว หัวสมองเบลอไปหมดแล้วโว้ย ถ้าผมเป็นลมแล้วจมน้ำในอ่างตายจะทำยังไง
ผมไม่ไหวแล้ว สุดท้ายต้องปล่อยความสุขออกมาหมดเลย ไอ้หมานธีมมันก็เก็บความสุขของผมจนหมดเลยครับ ผมได้แต่หอบแฮ่กๆ เหนื่อยจากการเกร็งร่างกายนี่มันอย่างกับไปวิ่งมาสิบรอบเลยครับ ไอ้คนที่บอกว่า เวลาใกล้จะถึงจุดหมายปลายทางแล้วเหมือนมีผีเสื้อนับพันมาบินอยู่ในท้องนี่คงจะเป็นคนที่มโนเก่งกว่าผมพันเท่า เพราะผมไม่มีภาพผีเสื้อสักตัว มีแต่หน้าหื่นๆ ของไอ้โหดที่เอาแต่ก้มๆ เงยๆ สาละวนจูปาจุ๊บลูกน้อยกลอยใจของผมอย่างเมามัน ยิ่งนึกภาพนั้นผมนี่อายจนไม่กล้ามองหน้ามันเลย มันปฏิบัติภารกิจสร้างสุขให้ผมเสร็จก็ดึงผมลงมานั่งในอ่าง จูบผมอีกรอบก่อนจะถอนริมปากมาหอมแก้มผมต่อ
“นาวต้องทำให้พี่ไหมอะ” ผมถามแบบกล้าๆ กลัวๆ เคยอ่านหนังสือ เคยดูหนังอย่างว่ามาเหมือนกัน แต่ว่า..ไม่เคยทำ มันต้องทำยังไง เริ่มยังไง มันเขินวุ้ย ว่าแต่ ทำไมไอ้หมาธีมมันดูชำชองเหลือเกิน มันเคยไปทำแบบนี้กับใครมาบ้างรึเปล่านะ
“มโนอะไรอีกละ พูด” พี่ธีมมันถามผม
“ทำไมเก่งจัง เคยลองกับใครรึเปล่า” ผมถามตรงๆ
“ไม่เคย.....กับผู้ชาย” แหน่ะ ผมเกือบดีใจแล้วเชียว ถ้ามันไม่มีต่อท้าย
“ห๊ะ พี่เคยกับผู้หญิงเหรอ ตอนไหน ไหนว่าแอบรักนาวมาตั้งแปดปี เอาเวลาไหนไปโป๊ะหญิง” ผมคาดคั้นถามมัน
“พี่ก็คนนะ มันก็ต้องมีมั่ง แต่แค่ครั้งสองครั้งแหละ นานแล้วด้วย สมัยวัยอยากรู้อยากลอง”
“นาวก็คนอะ ทำไมนาวไม่ได้ทำกับใครเลย พี่ขี้โกงว่ะ ไรอะ ไม่แฟร์”
“เอ้า ตอนนั้นพี่ยังไม่ได้คบกับนาวนะ แต่หลังจากนี้ไป พี่ไม่มีใครหรอกนอกจากนาวคนเดียว”
“นาวไม่จูปาจุ๊บไอ้มังกรของพี่แล้ว พี่มันแก่แดดแต่เด็ก ชิ” ผมเบ้ปากใส่มันเลย มันยิ้มก่อนจะดึงมือผมให้มาจับไอ้มังกรตัวเขื่องของมัน โอ้ย ไอ้หมาธีม แกมันหน้าด้านจริงๆ ผมถึงกับกลืนน้ำลายลงคอลำบากเลยพอได้สัมผัสมังกรของมัน
“มันง้อนาวอยู่นะ” มันบอก ผมงอนมันอยู่นะ เดี๋ยวบีบให้หน้าเขียวเลยนิ
“ห้ามไปทำแบบนี้กับใครอีกนะ” ผมบอกมัน
“พี่ไม่มีวันทำให้นาวเสียใจหรอก” มันบอกพร้อมกับจ้องตาผม ผมตัดสินใจดึงกางเกงมันลง แล้วบางอย่างก็กระจ่างแก่สายตาเต็มๆ
เฮือก! คุณพระ! ผมดึงกางเกงมันลงไปปิดเหมือนเดิม ก่อนจะมองหน้ามัน มันยักคิ้วให้ ผมยิ้มแหยๆ ก่อนจะเกี่ยวขอบกางเกงมันลงมาอีกครั้ง
คุณเจ้า!!! โอ้ยโย้ยโหย๋ ไอ้นั่นของแกมันดูโหดกว่าหน้าแกอีกนะไอ้หมาธีม ผมกำลังจะเอากางเกงมันกลับขึ้นไปอีกรอบแต่มันพูดกับผมก่อน
“ไม่เป็นไร กลัวก็ไม่ต้องนะ” มันยิ้มให้ผมและหอมแก้มผม ผมตัดสินใจแล้วว่าถึงยังไงผมกับมันก็คือแฟนกัน มันก็ต้องมีวันที่เราแสดงความรักต่อกันอยู่ดี วันนี้แค่ซ้อมใหญ่แบบจิ๊บๆ ไปก่อน
เมื่อตัดสินใจว่าจะคืนความสุขให้มันบ้าง ผมก็เลยจัดการจูปาจุ๊บเจ้ามังกรตัวเขื่องของมันแบบที่มันทำให้ผม มันดูจะพึงพอใจ ผมก็เลยภูมิใจเล็กๆ ที่ทำให้มันมีความสุขได้เหมือนกัน คนอย่างมะนาวก็ไม่ธรรมดานะเว้ย เก่งไปเสียทุกเรื่องนะรู้ยัง หึหึ
“นาว..พอแล้ว” มันร้องบอก ผมก็งง มันไม่อยากแล้วเหรอ หรือว่าผมไม่ได้เรื่อง คิดแล้วก็ยอมไม่ได้ ผมเลยรีบจัดการจูปาจุ๊บให้มันเร็วกว่าเดิม พี่ธีมมันพยายามดันปากผมออก แต่ผมก็ไม่ยอมแพ้ สุดท้ายก็มีบางอย่างถูกปลดปล่อยออกมาจนผมสำลัก ไอ้หมาธีมมันรีบเช็ดปากให้ผมและมาปลอบผมยกใหญ่
“พี่ขอโทษ ก็พี่บอกนาวว่าพอแล้ว” มันขอโทษผม ผมค้อนมัน ใครจะไปรู้ว่าที่ให้พอแล้วคือมันจะปล่อยลูกมังกรมันออกมากันเล่า
ฮือ...ผมเผลอกินลูกมันไปบ้างรึเปล่านะ ผมฆ่าเด็กตายไปกี่คน ฮือ...
“มโนอะไรอยู่อีกละ ดูทำหน้าเข้าสิ” มันถามผม ผมค้อนมันอีกรอบ
“ไปอาบน้ำในตู้กันเถอะ นาวว่าน้ำในอ่างนี้ลูกของพี่คงแหวกว่ายเล่นกันเพลินไปละ เยอะสัดๆ” ผมค่อนขอดมัน
“หึหึหึ พี่ละแทบอดใจรอหลังงานการกุศลไม่ไหวเลย” มันหอมแก้มผมก่อนจะดึงมือผมไปที่ตู้อาบน้ำ มันอาบน้ำให้ผมจนตัวหอมฟุ้ง ถามว่ามันมานัวเนียกับผมแล้วจะไม่อยากอีกเหรอ ก็คงอยากมั๊ง แต่ผมบอกว่าถ้ามันมายุ่งกับนาวน้อยอีกรอบ ผมจะไม่ให้มันแตะตัวผมอีกเลย มันเลยได้แค่จิ๊ปากขัดอกขัดใจและอาบน้ำให้ผมอย่างเดียวจนเสร็จ
“ตัวนาวหอมจัง” จนมานอนที่เตียงแล้ว มันยังนอนหอมแก้มผมไม่เลิกเลย
“เข้าใจรึยังว่าการอาบน้ำมันดียังไง ซกมกมาได้ตั้งนาน” ผมแกล้งด่ามัน บอกแล้ว ถ้าเขินต้องด่าเอาไว้ก่อน เอาจริงๆ มันก็คงอาบน้ำเหมือนคนปกติแหละ แต่ตอนนั้นอคติไง เลยต้องหาเรื่องด่าว่ามันซกมก
“อืม เข้าใจตอนได้อาบในอ่างกับนาวนี่แหละ ต้องอาบบ่อยๆ จะได้นิพพาน”
“เฮ้อ นี่หื่นได้ตลอด” ผมทำเป็นระอาใจ แต่จริงๆ แล้วผมอาย
“นาวไม่ชอบเหรอ” มันถามพร้อมกับหอมแก้มผมอีก ให้มันตัดเอาแก้มผมไปแปะกับจมูกมันเลยไหม หอมจนช้ำไปหมดแล้ว
“ชอบ แต่ไม่ให้บ่อยๆ หรอก เดี๋ยวพี่เบื่อนาว”
“เดี๋ยวจูบให้ลิ้นขาด” มันทำมาเป็นดุผม
“ถ้านาวลิ้นขาดพี่แหละจะเดือดร้อน” ผมเบ้ปากใส่มัน
“ก็จริง งั้นไม่กัดแล้ว หึหึ” มันหัวเราะ ผมเลยคว้ามือมันมากัดเบาๆ แก้หมั่นเขี้ยวบ้าง
“นอนแล้วนะ” ผมบอกมัน ตาผมจะปิดแล้ว
“อืม พี่รักนาวนะ”
“อืม นาวรู้”
“นาวละ”
“อืม รัก” ผมอยากตอบบยาวกว่านี้นะ แต่ปากมันหนัก ตาก็หนัก รู้สึกว่าร่างกายมันอุ่น หัวใจก็อุ่นจนลืมตาไม่ขึ้น หลับสนิทแบบสบายใจ เพราะรู้ว่าพรุ่งนี้ตื่นมาก็จะยังเห็นว่ามันก็คงจะกอดผมอยู่เหมือนกับทุกๆ วัน
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ