~ซินเดอเรลล่ากับเจ้าชายรองเท้าแตะ~ จบบริบูรณ์ อัพเดทรวมเล่มค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ~ซินเดอเรลล่ากับเจ้าชายรองเท้าแตะ~ จบบริบูรณ์ อัพเดทรวมเล่มค่ะ  (อ่าน 160345 ครั้ง)

ออฟไลน์ maew189870

  • รักทุกคนนะคับ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 736
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
สนุกฮะ

ออฟไลน์ RedQueen

  • Memois Of A Calamity Queen
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
บอกแล้ว น้องนาว ลูกสาวเจ๊ คิดบวก ตลอด เห็นได้จากสกิลการมโน :hao7:
อ่านแล้วน้ำตาจะไหล พ่อปริณขา :hao5:
ดูท่าปมเริ่มจะคลายออกบ้างแล้วซีนะ
จากการสันนิฐานของเรา
1. ถ้าคนฆ่าแม่ กะ คนที่จะฆ่านาวคือคนเดียวกัน มันก็อาจจะสมรู้ร่วมคิดกะอิคนที่ต้องการหนังแน่ๆ หรืออาจจะเผลอพร้อมใจกัน ก็เป็นด้าย
2. ปมที่ บริทีเนียก็ยังคลุมเครือ คาดว่าอาจ จิได้มาม่าชามโตเป็นแน่

ออฟไลน์ My_Rain

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ยิงยาวเลยยยย เพิ่งมาเปิดเจออ สนุกมากกๆค่ะ สู้ๆ
น้องนาวอย่างขี้มโนเลย 

ออฟไลน์ banazjj

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
มารอน่าาาาาาา  :mew2:

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
วันนี้จะมามั๊ยน้อ น่าติดตามทุกคู่เลยอ่ะ อ๊ายยยยยยย รอๆๆ :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
บทที่ 24

เราใช้เวลาประมาณห้าชั่วโมงกว่าจากเมืองไทยมาถึงที่สนามบินของบัณตรา เทียบเวลากันแล้วที่นี่เร็วกว่าไทยสองชั่วโมง ตอนนี้ที่นี่ก็ตีสามกว่าแล้ว พวกเราลงจากเครื่องบินก็มีรสบัสขนาดเล็กมารับพวกผม ไอ้พวกเดอะแก๊งถึงกับส่งเสียงฮือฮาเมื่อก้าวขึ้นมาบนรถ ภายนอกตัวรถก็เหมือนรถบัสธรรมดา แต่ข้างในนี่ตกแต่งหรูหรามาก คนที่มารับพวกผมก็คือมาคัส มาคัสบอกว่าจากที่นี่ไปถึงที่พักใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่า มาคัสเตรียมอาหารว่างเอาไว้ให้ทานรองท้องก่อนที่พวกเราจะได้ไปทานอาหารเช้าที่วัง แต่พวกผมไม่ได้ทานกันหรอกครับ ต่างก็ไปจับจองเก้าอี้ปรับเอนนอนยาวได้เหมือนเตียงขนาดพอดีตัวกันใหญ่ เพราะตอนอยู่บนเครื่องบินก็กินกันจนจุก มัวแต่เม้ากันจนไม่ได้หลับได้นอน พอมาถึงตอนนี้ก็หมดแรงอยากหลับกันมากกว่า ส่วนไอ้โหด มาคัสเดินนำมันให้เข้าไปด้านในสุดของตัวรถ มันมีห้องแยกต่างหากอยู่ส่วนท้ายรถ คิดว่ามันจะไปคนเดียวเหรอครับ มันก็ลากมือผมไปด้วย เปิดเข้าไปแล้วรู้สึกว่างานจะเข้า เพราะภายในห้องมีเตียงนอนนุ่มๆ น่านอน แต่ผมเกรงว่าผมอาจจะไม่ได้นอน

“เตียงไม่ใหญ่มาก พี่นอนไปคนเดียวเหอะ นาวเกรงใจ” ผมบอกมันหลังจากที่มาคัสออกไปแล้ว แถมนายบอดี้การ์ดหน้าดุยังกดล็อกห้องให้เสร็จสรรพเลย บอกมาเลยนะไอ้หมาธีม แกให้ใต้โต๊ะองค์รักษ์หน้าดุคนนี้ไปกี่บาท ยอมรับมาซิ

“ดี จะได้นอนเบียดๆ กัน” มันตอบ พร้อมกับดึงผมลงมานอนบนเตียง

“ไม่เอา น่าเกลียด เดี๋ยวเพื่อนล้อ”

“เดี๋ยวก็หลับสนิทกันหมดแล้ว”

“พี่ธีม...” ผมเรียกได้แค่ชื่อมัน แต่ไม่ได้พูดอะไรต่อหรอกเพราะมันจูบผมแล้ว มันอดอยากปากแห้งมาจากไหนกันวุ้ย แล้วคิดว่าผมจะได้หลับได้นอนเหมือนเพื่อนๆ ไหมครับ ถูกต้อง ผมก็โดนไอ้หมาธีมมันโรมรันพันตูเหมือนอย่างคืนวันนั้นนั่นแหละ เพียงแต่มันก็ยังคงไม่ได้ตีเมืองผม มันคงรู้ว่าผมกลัว มันก็เก่งนะ อดใจได้ ผมออกจะน่ารักปานนี้ ผมเห็นตัวเองยังอดใจไม่ไหวเลย ฮ่าๆๆ เสร็จภาระกิจจูปาจุ๊บกันและกันผมก็ผล็อยหลับไปเลย มันก็กอดผมเอาไว้ อากาศที่นี่หนาวมาก แต่อยู่ในอ้อมกอดไอ้หมาธีมแบบนี้ผมอุ่นไปถึงหัวใจเลย


ผมลืมตาตื่นขึ้นมาเมื่อรู้สึกได้ถึงกลิ่นไอของทะเล ผมรีบปลุกไอ้โหดก่อนจะลุกขึ้นมองไปทางหน้าต่างของรถบัส ทะเลจริงๆ ด้วย รถบัสที่ผมนั่งมากำลังขับเลียบถนนติดชายหาด มองจากบนนี้ยังเห็นถึงความใสสะอาดของน้ำ น้ำทะเลสีฟ้าใสตัดกับขอบสีส้มของพระอาทิตย์ที่กำลังจะขึ้นโผล่พ้นขอบของน้ำทะเล ผมหยิบนาฬิกาที่ปรับเวลาให้เป็นเวลาของบัณตราขึ้นมาดู

“ตีห้าแล้ว สวยจังเลย นี่เรากำลังขึ้นเขาใช่ไหม” ผมถามไอ้โหดที่กำลังงัวเงียอยู่เพราะหลับไปได้ไม่เท่าไหร่เอง

“คงงั้น” มันตอบสั้นๆ ทำมาเป็นเพลีย ผมสิต้องเพลีย ถูกมันสูบพลังงานไปหลายรอบ

“นอนต่อไปก่อนก็ได้ นาวขอไปออกไปปลุกพวกข้างนอกก่อนนะ” ผมบอกมัน มันพยักหน้าแล้วทิ้งตัวลงนอนต่อ

ไม่ได้หรอกครับ ต้องรีบออกไปก่อนที่ฝูงไฮยีน่าจะตื่น ขืนให้มันตื่นก่อนพวกมันกัดผมแหว่งยับเยินที่ผมมานอนกอดกับไอ้หมาธีมในห้องตามลำพัง ตื่นก่อนแล้วเนียนว่าออกนอนข้างนอกตั้งนานแล้วมันก็จะได้แซ็วไม่เต็มปาก ฮ่าๆ เมื่อคิดแผนในใจได้แล้วก็รีบเดินลงจากเตียง สำรวจความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผมก่อนจะเปิดประตูออกไป พอเปิดประตูออกไปได้แค่นั้นแหละ ก็เจอสายตานับสิบมองมา ผมรีบปิดประตูกลับมาเหมือนเดิมแล้วยืนพิงเอาไว้

“ไม่ทันแล้วแก ออกมาเหอะ เดินไหวเปล่า ไม่ไหวเดี๋ยวฉันไปอุ้ม” เสียงไอ้หมาบูมเห่ามาแล้วครับ

“ฮิ้วววววววววววววว น้องนาวของฉันเป็นเจ้าสาวไปแล้ว” ไอ้เกลือเห่ารับครับ

“แธ่น แทแด แด่นนนน แธ่น แท้ แด่ แด่นนนนนน” เสียงหอนของไอ้มีนครับ หอนเป็นเพลงงานแต่ง

“พวกแกเงียบๆ เลย” เสียงไอ้บิวห้ามเพื่อนครับ บิวจ๋า นางฟ้าของผม ฮือ ฉันรักแกที่สุด ไงเล่า เจอไอ้บิวกำราบจนเสียงคนอื่นๆ เงียบไปเลยตามคำสั่งของนางฟ้าของผม

“นาว ออกมาเถอะ ฉันทำไข่ลวกให้แล้ว ของแกฟองเดียว ของพี่ธีมสองฟอง ต้องโด๊ปหน่อย ท่าทางจะพักผ่อนน้อย” ไอ้บิวพูดต่อท่ามกลางความเงียบ

หนึ่งนาทีให้หลังจากที่ไอ้บิวพูดจบ ผมก็ได้ยินเสียงหัวเราะโห่ฮิ้วตามมา โธ่โว้ย กับพวกมันผมก็ไม่อายเท่าไหร่หรอก แต่พวกมันลืมไปรึเปล่ามีคุณมาคัสอยู่ด้วย ฮือ ผมจะกลับบ้านแล้ว ผมขอปลดไอ้บิวลงมาจากฟ้าเลย

“ไม่คิดเลยว่าน้องชายจะกลายมาเป็นพี่สะใภ้” ธารก็พลอยเป็นไปกับเขาด้วย ผมแทบจะมุดรถหนีแล้ว

“หึหึ ออกไปเถอะ จะอายทำไม คนรักกัน” ไอ้หมาธีมมันลุกจากเตียงมายืนอยู่ตรงหน้าของผม ชิ ไอ้โหดแกตื่นมาทำไม นอนตายไปเลย ถึงผมจะเริ่มมีความด้านขึ้นมาบ้างแต่ยังไม่ด้านเท่ามันเหอะ มันดึงตัวผมที่พิงประตูออกแล้วเปิดประตู ผมเลยเอาหน้าซุกหลังมันแล้วเดินตามหลังมันไป

“ฮ่าๆ ทีอย่างนี้มาอาย เมื่อคืนละโคตรเสียงดังไม่เกรงใจกันเลย” ไอ้บูมต่อว่าผม ผมเอาหัวโขกหลังไอ้โหดรัวๆ เพราะมันคนเดียวทำให้ภาพพจน์หนุ่มหล่อมาดแมนของผมพังทลายลง

“อย่าไปล้อมัน หึหึ” ไอ้ธีมมันบอกเพื่อนๆ ผม นี่คือมันปกป้องผมแล้วใช่ไหม แล้วมันจะหัวเราะทำพ่องเร๊อะ อุ้ย.. แหะๆ ผมแค่คิดในใจนะครับ ขืนด่ามันว่าพ่องออกสื่อคุณมาคัสอาจจะถีบผมตกรถตายแน่ๆ โทษฐานลบหลู่พระบิดาขององค์รัชทายาท

“ห้องนั้นเก็บเสียง” เสียงคุณมาคัสพูดลอยๆ ออกมา ผมถึงกับอึ้งไป นี่พวกมันอำผมงั้นเหรอ

“พวกแก เลว” ผมชะโงกหน้าออกมาจากหลังพี่ธีมแล้วกวาดนิ้วด่าเรียงคน ยกเว้นไอ้จอมกับน้องทัสเอาไว้ ถึงแม้ทั้งคู่จะแอบยิ้มก็ยังพอให้อภัยได้นิดหน่อย

“เอาน่า ถึงไงแกก็ต้องโดนสักวัน มาๆ กินไข่ลวก” ไอ้เกลือกวักมือเรียกผม

“ยังไม่โดนเว้ย ไอ้โหดมันอ่อน เข้าไปถึงก็หลับเหอะ” ผมรีบบอก ทุกคนส่งเสียงถุยใส่ผมเกือบพร้อมกัน

“พอถึงที่พระราชวังแล้ว ผมขอให้พวกคุณระมัดระวังเรื่องการเรียกเจ้าชาย ถึงองค์เหนือหัวจะอนุญาติให้พวกคุณไม่ต้องใช้ราชาศัพท์ได้แต่คุณจะเรียกองค์รัชทายาทด้วยคำหยาบคายไม่ได้อีก” มาคัสบอกเสียงดุๆ ผมตัวลีบเลย ไอ้โหดมันกุมมือผมแล้วบีบเบาๆ

“ผมจะบอกเองว่าอะไรควรไม่ควรสำหรับผม ผมมาเพื่อเยี่ยมพ่อกับแม่ ไม่ได้มาเพื่อรับตำแหน่ง” ไอ้โหดมันพูดกับมาคัส องค์รักษ์หน้าดุไม่ได้โต้ตอบแต่โค้งหัวให้ไอ้โหดมันแทน ไอ้ไฮยีน่าที่ส่งเสียงล้งเล้งเมื่อคู่กลายเป็นไฮยีน่าใบ้แดกกันถ้วนทุกคน

“ผมขอโทษครับคุณมาคัส ผมไม่ระวังเอง ผมจะระวังให้มากขึ้น พี่ธีม คุณมาคัสเตือนถูกต้องแล้ว ยังไงก็ต้องให้เกียรติพ่อกับแม่ของพี่และสถานที่ด้วย” ผมไม่ได้ประชดนะ ผมไม่ได้ระวังจริงๆ

“ผมแค่ทำตามหน้าที่” มาคัสพูดแต่ไม่ได้หันมามองผม


จากนั้นพวกผมก็นั่งชมวิวข้างทางไปเรื่อยๆ คุยกันเรื่องสรรพเพเหระทั่วไปจนกระทั่งมาถึงพระราชวังที่ประทับของเหล่าราชวงศ์แห่งบัณตรา พวกผมเดินลงมาจากรถก็ต้องตะลึงอึ้งกันทุกคน ในรถที่นั่งมาก็ว่าหรูแล้ว สถาปัตยกรรมตรงหน้ามันวิจิตรสวยงามตระการตามากๆ ผมไม่รู้ว่าจะเรียกสไตล์การก่อสร้างนี้ว่ายังไง มันเหมือนการผสมผสานหลายๆอย่างไว้ด้วยกัน แต่เท่าที่สังเกตดู ที่นี่จะเน้นสีทอง สีขาวไข่มุก สีดำ สีแดงเสียส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นสีที่มีในธงชาติของบัณตรา  บันไดหินอ่อนสีขาวเหมือนไข่มุกตรงหน้าทอดตัวยาวขึ้นไปจนสุดที่บานประตูสีทองอร่ามขนาดใหญ่ ด้านบนประตูเป็นโดมสีทองเหมือนกับหลังคาของวัง ที่ผมมโนไว้คือพระราชวังของที่นี่คงจะเป็นแบบปราสาทเก่าแก่ดูขลังๆ แต่นี่มันไม่ใช่เลย มันสวยงามหรูหราและดูแพงสุดๆ น่าแปลกใจว่าที่นี่หลบซ่อนตัวจากผู้คนภายนอกมาได้ยังไงตั้งนาน

“ที่พักของพวกคุณคือที่นั่น” มาคัสชี้ไปที่สิ่งปลูกสร้างอีกหลังหนึ่งเป็นสีขาวทั้งหลัง ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดี เล็กกว่าวัง แต่ก็ใหญ่กว่าบ้านธรรมดาหลายเท่านัก อยู่ห่างจากวังนี้ประมาณหนึ่งกิโลได้ ดูไกลๆ จากตรงนี้ยังเห็นว่าสวยไม่ต่างจากที่นี่เลย ใหญ่พอๆ กับบ้านของคุณปริณ

“เดี๋ยวทหารจะนำสัมภาระของพวกคุณไปไว้ยังที่พัก ส่วนพวกคุณเชิญด้านใน องค์เหนือหัวรอพวกคุณอยู่” มาคัสบอกจบก็เดินนำไป


ด่านแรกที่เจอเมื่อเข้ามาด้านในก็คือห้องโถงเพดานสูง มีบันไดสีมุกเหมือนด้านหน้าพระราชวัง มันทอดขึ้นไปที่ชั้นสอง บันไดนี้คั่นกลางทางเดินสองทาง คุณมาคัสนำพวกผมไปทางด้านขวา การตกแต่งคงไม่ต้องอธิบาย มันสวยมากยิ่งกว่าด้านนอก ไม่ว่าจะเป็นมุมไหนของวังก็วิจิตรตระการตาไปเสียหมด เสาทุกต้นสลักลวดลายงดงามและเป็นสีทองเงาวับ แชนเดอเลียที่ประดับอยู่ด้านบนตามแนวทางเดินก็วิบวับเหมือนทำมาจากเพชรแท้ ไม่อยากจะเชื่อว่าประเทศเล็กๆ แห่งนี้จะมีดีซ่อนอยู่มากมาย ธรรมชาติสองข้างทางที่ได้เห็นจนมาถึงที่นี่มันดูสมบูรณ์แบบไปหมด มิน่า ทีนี่ถึงมีการกบฏแย่งอำนาจเกิดขึ้น ความโลภมีอยู่ทุกที่จริงๆ
คุณมาคัสนำพวกผมเดินผ่านโถงใหญ่มาตามทางเดินเรื่อยๆ ผมเห็นทหารยืนอยู่เป็นระยะ เครื่องแบบสีดำสนิทที่ไหล่ห้อยพู่สีแดงบ้าง สีหลืองบ้าง สีขาวบ้าง และทุกครั้งที่มาคัสและไอ้โหดเดินผ่านทหารจะโค้งตัวลงต่ำขนานกับพื้น ถ้าเจอกับบรรดาหญิงรับใช้ก็จะก้มหน้าย่อตัวต่ำ ย่อจนเกือบจะถึงพื้นอยู่แล้ว บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าคนที่นี่รู้ว่าไอ้โหดคือใคร ทั้งที่มันไม่เคยได้มาเลยตั้งแต่ไปอยู่เมืองไทย องค์เหนือหัวคงประกาศให้ทุกคนในวังได้รู้และเตรียมรอรับมันกลับคืนสู่ราชวงศ์ ผมสังเกตสิ่งรอบตัวไปเรื่อยๆ จนคุณมาคัสนำพวกผมมาจนถึงหน้าห้องๆ หนึ่ง

“องค์เหนือหัวและพระบรมวงศานุวงศ์เกือบทุกพระองค์ทรงอยู่ด้านหลังประตูบานนี้ ทรงอนุญาตให้พวกคุณไม่ต้องใช้คำราชาศัพท์และไม่ต้องกังวลเรื่องการวางตัว พระองค์รู้ว่าประเทศเราทั้งคู่มีขนบธรรมเนียมที่แตกต่างกันและทุกพระองค์สามารถใช้ภาษาอังกฤษและภาษาไทยได้เป็นอย่างดี พระองค์ทรงประทานเลี้ยงอาหารเช้าแก่พวกคุณทุกคนเป็นการต้อนรับ” มาคัสบอกจบพวกผมก็สูดหายใจเข้าปอดเกือบจะพร้อมๆ กัน หันไปดูไอ้โหดก็เห็นมันนิ่ง อยากรู้จังว่ามันตื่นเต้นบ้างไหม ส่วนผมตื่นเต้นจะตายแล้ว

“ท่านพ่อของคุณไม่ได้เสด็จมาร่วมอาหารเช้าด้วย ท่านไม่สบายและผมจะพาคุณไปเข้าเฝ้าหลังจากอาหารเช้า” มาคัสหันมาบอกไอ้โหด มันพยักหน้าน้อยๆ จากนั้นมาคัสก็พยักหน้าให้ทหารองค์รักษ์ที่เฝ้าประตูอยู่

ไม่นานประตูห้องก็ถูกเปิดออก พรมสีแดงเลือดนกที่ปูพื้นอยู่เป็นสิ่งแรกที่ผมเห็น เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็พบโต๊ะอาหารสีดำตัดทองอร่าม เก้าอี้จำนวนมากตั้งรายล้อมโต๊ะอาหารจากการประเมิณคร่าวๆ ก็น่าจะยี่สิบกกว่าตัวได้ บนโต๊ะประดับด้วยชุดจานชามสีขาวมุกขลิบทอง ทุกอย่างดูหรูหราจนผมแทบไม่กล้านึกว่า ถ้าซุ่มซ่ามทำแตกผมจะมีเงินมาซื้อคืนไหม แต่สิ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจก็คือ ทุกคนในห้องใส่ชุดธรรมดา ไม่ได้แต่งตัวแบบเต็มยศเหมือนที่ผมมโนเอาไว้ ขอย้ำว่าธรรมดามาก ผมนึกว่าจะเป็นชุดอลังการเหมือนตอนที่ผมใส่เดินแบบกับมิเชลเสียอีก

“มากันแล้ว มาๆ มานั่งกันก่อน” ชายสูงวัยสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวทับด้วยเสื้อกั๊กสีครีม สวมกางเกงสแล็คสีดำ เดินตรงเข้ามายังกลุ่มพวกผม คนที่เหลือในห้องที่ยืนกระจัดกระจายพูดคุยกันต่างก็หันมามองทางกลุ่มพวกผม พวกผมที่เป็นผู้ชายโค้งทำความเคารพส่วนผู้หญิงก็ก้มหน้าย่อตัวตามแบบที่ได้ซ้อมกันมาบ้าง

“โอ้ ธีมัสหลานย่า” หญิงสาวสูงวัยผมสีดอกเลารวบตึง เธอสวมชุดกระโปรงแซคสีขาวเข้ารูปยาวคลุมเข่าเดินตรงเข้ามากอดไอ้โหดพร้อมกับร้องไห้ สำเนียงไทยดูแปร่งๆ แต่ก็ฟังออก ส่วนเจ้าชายมิคาเอลที่เดินตามมาส่งยิ้มมาให้พวกผม

“ดูสิท่านปู่ ท่านย่ากับท่านป้าร้องไห้แล้ว” เจ้าชายมิคาเอลพูดจบก็เดินเลยไปตบไหล่มาคัสเบาๆ พร้อมกับกระซิบบางอย่าง มาคัสก้มหัวให้แล้วเดินออกจากห้องไป

ระหว่างนั้น ผมแอบสังเกตคนที่อยู่ในห้องนี้ทั้งหมด ชายสูงวัยในชุดเสื้อกั๊กสีครีมน่าจะเป็นองค์เหนือหัวสเตฟาน ท่านปู่ของพี่ธีม ท่านสูงใหญ่เหมือนพี่ธีมและยังดูแข็งแรงแต่ก็มีริ้วรอยของวัยปรากฏให้เห็น ส่วนหญิงสูงวัยที่กอดพี่ธีมอยู่คงเป็นท่านย่าหรือองค์ราชชินีนารา แม้ท่านจะผอมบางและมีริ้วรอยของวัยไม่ต่างจากสามี แต่ก็ยังคงความงามให้เห็น ผมว่าเธอดูสง่างามมากๆ แม้วัยล่วงเลยมาถึงขนาดนี้ ไอ้โหดมันเล่าว่าท่านทั้งคู่อายุแปดสิบต้นๆ แต่ดูท่านทั้งคู่อ่อนกว่าวัยมาก

ส่วนสตรีอีกคนที่กำลังยืนเช็ดน้ำตาอยู่ด้านหลังขององค์ราชินี คนที่มีดวงตาเรียวยาวเหมือนไอ้โหดและขนตาที่เป็นแพสวยเหมือนกับน้องทัสราวกับพิมพ์เดียวกัน จมูกโด่งมน ริมฝีปากเป็นกระจับบนใบหน้ารูปไข่รับกันดี เรียกได้ว่าเป็นความงามที่ลงตัวจริงๆ นี่สินะ..ท่านแม่ของไอ้โหด สาวไทยที่ได้มาเป็นมเหสีของที่นี่ ผมว่า คนที่ได้รับสืบทอดความงามแบบไทยๆ ของท่านดูจะเป็นน้องทัสมากกว่าไอ้โหด แสดงว่ามันคงจะคล้ายพ่อมากกว่าแม่ ส่วนผู้ชายอีกคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลกันก็น่าจะเป็นท่านโมนัฟ เป็นพ่อของเจ้าชายมิคาเอลและเจ้าหญิงมิเชล ผมเคยเห็นในอัลบั้มของคุณเมมาก่อนเลยจำได้ แต่เอ๊ะ ไหนคุณเมว่าท่านมีลูกชายคนรองอีกคน แต่ผมไม่เห็นใครอีกในห้องนี้

เมื่อองค์ราชินีนารายอมปล่อยตัวไอ้โหดออกจากอ้อมกอดแล้วมันก็โค้งทำความเคารพปู่กับย่า รวมถึงอาโมนัฟและอาสะใภ้ของมัน จากนั้นท่านแม่ของไอ้โหดก็เดินมาหามัน

“ลูกแม่” แม่ของพี่ธีมเดินเข้ามาหามัน ผมเห็นแววตาที่ดูนิ่งเฉยของมันไหววูบนิดหนึ่งก่อนที่มันก้มลงไปกราบที่เท้าของแม่มัน เป็นการทำความเคารพแบบคนไทยที่น่าชื่นชม แม่มันย่อตัวลงประคองมันขึ้นมาแล้วกอดมัน มันก็กอดตอบ ผมแอบน้ำตาคลอไปด้วย ดีใจกับมันที่มันได้กอดแม่แท้ๆ ของมันแล้ว

“ท่านพ่อคงดีใจไม่ต่างจากแม่ที่ได้เห็นลูกอีกครั้ง แม่ดีใจที่ลูกปลอดภัย แม่รักลูกนะ ธีมัส”

“วันนี้เป็นวันดีจริงๆ เชิญนั่งกันก่อน ป่านนี้คงหิวกันแย่แล้ว” องค์ราชินีหันมาบอกเป็นภาษาไทยสำเนียงอังกฤษกับพวกผม นางข้าหลวงต่างก็รีบเดินกันมาดึงเก้าอี้ออกให้พวกผม ผมพวกก็เดินไปนั่งกันจนครบ

“ไอ้ตัวเล็กของปู่ละอยู่ไหน ยังไม่เห็นเลย” ท่านสเตฟานพูดขึ้น

“นั่นสิ ทัสสินาไปไหน” องค์ราชินีนาราถามขึ้นแล้วมองหา

พวกผมก็มองไม่เห็นเหมือนกัน เมื่อกี้ยังอยู่ด้วยกันอยู่เลย แล้วสักพักประตูก็ถูกเปิดออกพร้อมกับชายหนุ่มหน้าเข้มรูปร่างสูงใหญ่กว่าไอ้โหดของผมนิดหน่อย ผมยาวปรกตา ปลายผมละลำคอดูยุ่งๆ นิดหน่อย แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความหล่อเข้มลดลงได้เลย วัดจากสีหน้าเคลิ้มๆ ของไอ้ยีนและไอ้มีน แปลว่าความหล่อทะลุใจพวกมันไปแล้ว ดวงตาเรียวยาวเหมือนเหยี่ยวคล้ายไอ้โหดแต่ดูจะดุดันกว่ากันเยอะ ริมฝีปากหยักไม่ยิ้มให้กับใครแต่กลับยิ้มให้กับคนตัวเล็กกว่าที่เดินเคียงข้างมาด้วย บ่งบอกถึงความสนิทสนมและเห็นได้ชัดเจนถึงความเอ็นดูที่มีต่อคนตัวเล็กกว่า

“นี่ถ้าทัสไม่ไปตามท่านพี่คงไม่เสด็จมาสินะคะ” มิเชลพูดใส่คนที่เพิ่งเดินเข้ามาใหม่ตามสไตล์คุณหนูเอาแต่ใจ แต่ใครคนนั้นกลับส่งสายตาดุๆ มาแทนจนมิเชลต้องก้มหน้า ดูมิเชลจะกลัวคนๆ นี้มากกว่ามาคัสเสียอีก

“ท่านปู่ ท่านย่า ทัสคิดถึงท่านปู่กับท่านย่าจังเลย” น้องทัสโค้งทำความเคารพทุกคนในห้องก่อนจะวิ่งไปหาองค์เหนือหัวแล้วสวมกอดจากนั้นถึงหันมากอดองค์ราชินี ท่าทางจะเป็นหลานคนโปรด แกตกกระป๋องแล้วไอ้หมาธีม แต่นึกภาพไอ้ธีมไปทำแบบน้องทัสแล้วผมยิ่งขำ ขืนมันกระโจนไปกอดปู่ย่าแบบนั้น ท่าทางองค์สเตฟานคงจะล้มหงายหลังตึง

“แกมโนอะไรอีก” ไอ้เกลือกระซิบถามผม ผมหันไปค้อนให้มัน เป็นการเตือนว่าอย่ามายุ่งกับการมโนของผม

“แกดูหน้าไอ้จอม ไอ้ยีน ไอ้มีน ไอ้บูมดิ เหวอเลย คึคึ” ไอ้เกลือกระซิบผมต่อ

“เออ คงสติแตกที่เพิ่งรู้ว่าร้องทัสเป็นใคร โดยเฉพาะไอ้จอม” ผมยังกระซิบกับไอ้เกลือก่อนจะมองไปที่น้องทัสกับองค์เหนือหัวต่อ

“ปู่กับย่าก็คิดถึงเราจะแย่ เราไม่อยู่วังเงียบไปเสียสนิท” องค์เหนือหัวลูบผมน้องทัสเบาๆ

“นี่คือเจ้าชายแอชตัน โอรสองค์รองของเราเอง” ท่านโมนัฟแนะนำผู้ที่เดินมากับน้องทัสให้พวกผมได้รู้จัก พวกผมลุกขึ้นทำความเคารพ แต่เจ้าชายไม่แม้แต่จะมองพวกผม พวกผมเลยได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ ก่อนจะนั่งลงตามเดิม

“แล้วมาคัสละ” ท่านโมนัฟถามขึ้น

“ลูกสั่งให้ไปพักเองท่านพ่อ ครอบครัวมาคัสคงคิดถึงเขาเหมือนกัน” เจ้าชายมิคาเอลบอก ท่านโมนัฟถึงได้พยักหน้ารับรู้

“เอาละ ทานข้าวกันก่อนแล้วค่อยถามไถ่ชื่อเสียงกัน ไวโอเลตจัดอาหารได้แล้ว”

องค์เหนือหัวสเตฟานรับสั่งกับหญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง ท่าทางจะเป็นหัวหน้านางข้าหลวงทั้งหลาย ไม่นานบรรดาอาหารก็ถูกยกมาวางตรงหน้า อาหารหน้าตาแปลกๆ แต่ดูน่ากินมากๆ ผมเห็นไอ้บิวมองด้วยความสนใจและในขณะเดียวกันก็เห็นเจ้าชายแอชตันมองไอ้บิวไม่วางตา ส่วนเจ้าชายมิคาเอลก็มองธารแล้วลอบยิ้มตลอด

พวกผมนั่งทานข้าวกันเงียบๆ นึกขำตัวเองและผองเพื่อนอยู่เหมือนกัน ปกติถ้ารวมตัวกันเมื่อไหร่เป็นต้องเม้าไปกินไปจนไม่รู้จะฟังใคร แต่นี่ต้องนั่งกินร่วมกับกษัตริย์และบรรดาพระญาติพระวงศ์ แม้ว่าทุกพระองค์จะเป็นกันเองมากๆ ทั้งการแต่งองค์ที่ธรรมดาไม่ได้เต็มยศให้ดูน่าเกรงขามจนพวกเราต้องเกร็ง การชวนคุยด้วยบทสทนาแสนจะธรรมดา ด้วยภาษาไทยสำเนียงแปร่งๆ บ้างภาษาอังกฤษบ้างหรือการวางตัวเป็นกันเองให้ดูเหมือนญาติผู้ใหญ่ชวนลูกหลานคุย แต่ผมคิดว่ายังไงไอ้ไฮยีน่าทั้งหลายคงจะกลืนข้าวกันลำบากไม่มากก็น้อยทั้งที่รสชาติอาหารจะอร่อยไม่แพ้อาหารไทยเลยก็ตาม

หลังจากทานข้าวกันเสร็จ องค์เหนือหัวก็ชวนไปดื่มกาแฟที่ห้องรับรองใกล้ๆ กับโถงใหญ่ ห้องที่ผมเดินผ่านมาในตอนแรก ท่านให้พวกผมแนะนำตัว จากนั้นท่านก็แนะนำเรื่องสถานที่เที่ยวต่างๆ ในบัณตรา พวกผมหายเกร็งกันไปเยอะเลยเพราะท่านดูใจดีเหมือนเป็นคุณปู่ของพวกเราไปด้วย แต่ตัวผมก็ยังเกร็งมากอยู่ดี เพราะท่านแม่ของไอ้โหดคอยลอบมองผมอยู่ตลอดเวลา ผมว่าผมไม่ได้มโนนะ เพราะทุกครั้งที่ผมหันไปทีไร ท่านก็สบตามาทุกทีแต่ก็ทรงยิ้มให้ผมตลอด คุยกันได้พักใหญ่องค์เหนือหัวก็รับสั่งให้พวกผมกลับไปพักผ่อนที่วังขาวให้หายอ่อนเพลียจากการเดินทางก่อน ท่านเรียกที่พักที่พวกผมพักว่าวังขาว ท่านยังตรัสกับพวกผมอีกว่า มื้อกลางวันท่านสั่งให้ข้าหลวงจัดให้พวกผมได้ทานที่วังขาวเลย ส่วนดินเนอร์ ท่านเชิญพวกผมมาทานด้วยกันที่นี่อีกครั้ง วันพรุ่งนี้ก็จะให้พวกผมก็จะได้ไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ โดยให้มาคัสเป็นคนพาพวกผมไป

ไอ้โหดมันถูกท่านแม่ของมันพาไปพบท่านนาทีคพ่อของมัน มันหันมาสบตาผมเพราะไม่มีโอกาสได้คุยกันเลย ผมส่งยิ้มให้มันพร้อมกับชูสองนิ้วให้ อยากให้มันสบายใจไม่ต้องห่วงผมและไปทำหน้าที่ของมันให้ดีที่สุด มันส่งยิ้มกลับมาให้ผมก่อนจะเดินตามแม่แท้ๆ ของมันไป โดยมีมิเชลวิ่งไปควงแขนของมันและหันมายิ้มเย้ยผม ไอ้ยีนที่เห็นขมุบขมิบปากจะด่า แต่ผมรีบสะกิดมันก่อนจะโดนประหารเจ็ดชั่วโคตร แล้วพวกผมก็ถูกพาไปยังวังขาว วังที่ทาสีขาวทั้งหลังสมชื่อและถูกตกแต่งไปด้วยเฟอร์นิเจอร์สีขาวไข่มุกทุกชิ้น แค่เดินเข้ามาก็นึกว่าอยู่บนสวรรค์เสียแล้วสิครับ



โปรดติดตามตอนต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-01-2018 09:36:07 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
เจ้าชายแอชตัน ... เปลี่ยนเป็นเจ้าชายศิลาดีกว่ามั๊ย แหม่ ...

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ minminmin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
เจ้าชายแอชตันกับมาคัสนี่คนเดียวกันเปล่า? หึหึหึ เริ่มมโนตามน้องนาวมาติดๆ
ยัยมิเชล!!  เธอไม่ได้แอ้มพี่โหดหรอก เชอะ!!!!
.
.
.
ขอร้องคนเขียนอีกครั้ง.....หวังว่าจะไม่มาม่านะคะ พลีส พลีส

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
เข้ามาในวังแล้ว พี่ธีมกับนาวจะมีเวลาได้เจอกันไหม
คงมีอะไรๆ มาให้ตื่นเต้นอีกแน่

ตัวละครเริ่มมา เริ่มจะงงกับชื่อและลำดับญาติ 555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
เหมือนจะยิ่งห่างกันออกไปเรื่อยๆ

น้องนาวพี่ธีมสู้ๆ รอวันน้องนาวถูกตีประตูแตก :hao6:

ออฟไลน์ ciaiwpot

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1098
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
พี่ธีมสู้ๆๆๆ
คือไม่ได้ทำอะไร ห้องก็เก็บเสียง
แล้วอายทำไมจ๊ะน้องนาว

เจ้าชายแอชตัน น่าสนใจจัง
ไม่สนใจใคร นิ่งๆ
รอรอรอจะคู่ใครน้า

ออฟไลน์ Mokuchi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ท่านแม่มองนาวตลอดแบบนี้ สงสัยคงรู้ตัวลูกสะใภ้แล้วหรือเปล่าคะ  :hao3:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
จะมีอุปสรรคอะไรมาอีกหนอ

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
ธีมจะตกลงกับที่บ้านได้ไหม พลอยลุ้นไปด้วย
น้องนาวปล่อยไก่ 5555 ฮาตรงอีห้องเก็บเสียงนี่หล่ะ กร้ากกกก เพื่อนๆ แสบมาก
ทุกคนดูใจดี แต่ก็ดูมีอะไร น้องนาวสู้ๆ นะคะ

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
เจ้าชายแอชตันคู่ใครหว่าาาาาาาาาาา :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
โหหห น้องนาว เล่นท่ายากเลยนะ หกเก้าซะด้วย กิ้วๆๆ  :hao6: :hao7: :z1: :m25: :jul1: :katai2-1: :hao7: o13

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
หวั่นวันมาม่า...
 :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ andaseen

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 742
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-1
อ่านรวดเดียว สนุกมากกกก ชอบมะนาวต่างดุ๊ดที่สุดอ่ะ :laugh:

ออฟไลน์ fanglest

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
ท่านแม่ของธีมนี่จ้องนาวตาเป็นมัน
อาจจะเริ่มเคลือบแคลงสงสัยแล้วสินะ
หรือมีใครโทรมาบอกเอ่ย
เริ่มสนใจเจ้าชายแอชตัน ขึ้นมาแล้วสิ
แล้วพ่อของมิเชลเป็นใครนะ ทำไมมีแต่ชื่อแม่ที่ตายไปแล้ว
หรือพ่อมิเชล เกี่ยวข้องกับ ท่านทารัสรึเปล่านิ
หรือเรื่องมันเป็นรักสามเศร้าของพี่น้องเจ้าหญิงสองคนกันนะ
เพราะทารัสกับนาตาลี ก็ไม่มีลูกซะด้วยสิ
ชักจะอยากรู้แล้ว
 o18

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ตอนท้ายเดี๋ยวมาอ่านต่อนะ นาวดราม่าแล้วยังรั่วได้อีกนะสามารถ :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
บทที่ 25

พวกผมเดินสำรวจภายในวังขาวกันอยู่พักใหญ่ จับจองห้องนอนพร้อมกับเอาของไปเก็บที่ห้องจนเสร็จก็มานั่งรวมกันอยู่ที่ห้องรับแขกขนาดใหญ่ ภายในห้องมีโซฟาหนังสีขาวทรงกลมล้อมพรมสีขาวผืนหนาที่ปูอยู่ที่พื้น โต๊ะกระจกใสที่ตั้งอยู่บนพรมนั้นใสแจ๋วจนนึกว่าไม่มีกระจกวางอยู่ บนโต๊ะมีโทรศัพท์วางอยู่เท่ากับจำนวนพวกผมทุกคน ทุกเครื่องมีชื่อกำกับเอาไว้แล้ว

“ดีเลย กำลังจะขาดใจเพราะขาดโซเชียล” ไอ้มีนหยิบโทรศัพท์เครื่องที่มีชื่อมันมากดเปิด พวกผมก็หยิบกันบ้าง

“พวกแกอย่าเผลอตัวอัพรูปลงโซเชียลนะโว้ย คุณปริณขอเอาไว้ว่าอย่าเพิ่งให้รู้ว่าเรามาที่ไหนกัน ถ่ายเก็บเอาไว้อย่างเดียวก่อน” ไอ้บูมเตือน

“เออเกือบลืมเลย ขอบใจที่เตือน แต่ที่นี่สวยจนอยากจะอวดเนอะแก สวยมาก” ไอ้มีนบอกพร้อมกับวางโทรศัพท์ลง

“แกเห็นยัยตังเมเมื่อกี้ไหมนาว ฉันละอารมณ์เสียแทนเลย” ไอ้ยีนหันมาพูดกับผม

“ไม่มีอะไรหรอก อย่าไปใส่ใจเลย ว่าแต่พวกพี่ปอนเขาจะมาวันไหน” ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง ไม่อยากให้พวกมันพูดถึงมิเชล หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง ที่นี่ไม่ใช่ถิ่นเรา ควรระวังเอาไว้จะดีที่สุด

“มาวีคหน้าพร้อมทีมงาน แต่พวกฉันถ่ายโฟโต้บุ๊คเสร็จก็ต้องกลับเลย แต่แกต้องอยู่ต่อก่อน” ไอ้เกลือบอกผม

“รู้แล้ว คุณเมบอกแล้ว” ผมตอบมันไป คุณเมอยากให้ข่าวของผมเงียบไปก่อนเลยให้ผมอยู่ที่นี่ไปสักพัก น่าจะประมาณเดือนหนึ่งได้

“ก็ดี แกได้อยู่เป็นเพื่อนไอ้บิวไปก่อน” ไอ้จอมบอกผมก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาลองถ่ายรูป

“อากาศโคตรดีเลย เห็นคุณมาคัสบอกว่าที่นี่เริ่มเข้าหน้าหนาว แต่ดีนะยังไม่หนาวมากจนปากสั่น เย็นเหมือนเปิดแอร์กำลังสบาย น่าซ้อมบอลที่สุด” ไอ้บูมทำหน้าเสียดายที่ไม่ได้แบกลูกบอลมาด้วย

“ฉันจะไปเดินเล่นหน่อยนะ” ไอ้บิวบอก

“เราไปเป็นเพื่อน” ไอ้จอมรีบลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหาไอ้บิว ผมเห็นไอ้ยีนหน้าเศร้าๆ มันคงพอจะรู้แล้วว่าไอ้จอมคิดยังไงกับไอ้บิว แต่ผมแปลกใจ ไอ้จอมมันไม่มีทีท่าว่าจะมีรสนิยมแบบนี้มาก่อนเลย

“พวกแกไปด้วยกันไหม ธารไปไหม” ไอ้บิวชวน

“ฉันขอนอนต่ออีกหน่อยดีกว่า เดี๋ยวตื่นแล้วค่อยไป” ไอ้เกลือบอก ไอ้บูมกับสามสาวก็ส่ายหน้าแทนการปฎิเสธ หนังท้องตึงหนังตาก็หย่อนกันหมดเชียวนะ เมื่อไม่มีใครไป ไอ้บิวกับไอ้จอมเลยเดินออกจากวังขาวไปด้วยกันแค่สองคน

ส่วนผมก็ตั้งใจว่าจะรอไอ้โหดมันก่อน แต่เบื่อๆ เลยตัดสินใจออกไปเดินเล่นบ้าง ไม่ลืมที่จะหยิบโทรศัพท์เครื่องใหม่ออกไปด้วย ในเครื่องถูกเมมเบอร์ทุกคนเอาไว้แล้วเสร็จสรรพ ส่วนโทรศัพท์ของผมที่เอามาจากเมืองไทยไร้สัญญาณเก็บตายเอาไว้ในกระเป๋าไปแล้ว ผมดินออกมาจากวังขาวก็เจอกับทหารองค์รักษ์สองคน

‘ตายละ ผมจะพูดภาษาอะไรกับเขาวะ’ ผมเริ่มกังวลในใจ

“ต้องการอะไรรึเปล่าครับ” ทหารองครักษ์คนหนึ่งถามขึ้นเป็นภาษาไทยชัดแจ๋วจนผมเลิกคิ้วขึ้นเพราะประหลาดใจ

“พวกผมหัดเรียนภาษาไทยตั้งแต่เด็กๆ ทหารและนางข้าหลวงที่จะต้องอยู่ดูแลพวกคุณที่วังขาว ทุกคนใช้ภาษาไทยได้ดีครับ” เหมือนเขารู้ว่าผมกำลังสงสัยเลยอธิบายจนผมกระจ่าง ผมพยักหน้ารับรู้ก่อนจะส่งยิ้มไปกระชับมิตรก่อน ดูจากหน้าตาแล้ว อายุน่าจะพอๆ กับผม ท่าทางก็ดูไม่มีพิษภัย ดูซื่อๆ ดี ถ้าตีสนิทได้จะได้เอาไว้ถามอะไรที่อยากรู้  จะว่าไปท่านปู่ของไอ้โหดก็ละเอียดรอบคอบดีที่เอาคนพูดภาษาไทยได้มาดูแลพวกผม

“ผมไปเดินเล่นได้รึเปล่าครับ” ผมถาม กลัวว่าจะไม่ควรเดินเตร่ไปเตร่มาถ้าไม่ได้รับอนุญาตเสียก่อน

“ผมจะเป็นคนพาไปเองครับ ที่นี่กว้างมาก เกรงว่าคุณจะหลงทางเพราะยังไม่คุ้น” หนึ่งในองค์รักษ์ตอบผม

“แล้วคุณไม่ต้อง..เอ่อ ไม่ต้องอยู่ดูแลที่นี่เหรอครับ” ผมถาม

“ไม่เป็นไรครับ พระชนนีเนตรนภารับสั่งให้ผมดูแลคุณปารมีโดยเฉพาะ” ผมฟังแล้วนิ่งไปสักสิบวินาทีกับคำว่า ‘โดยเฉพาะ’

“อ๋อ ครับ งั้นรบกวนคุณ...” ผมเว้นเอาไว้เพราะไม่ทราบชื่อองค์รักษ์คนนี้

“เรียกผมว่าอลันก็ได้ครับคุณปารมี”

“ได้ครับคุณอลัน งั้นเรียกผมสั้นๆ ว่ามะนาวต่างดุ๊ดนะครับ” ผมบอก อลันขมวดคิ้วทันทีก่อนจะพยายามพูดตาม

“มะ นาว ต่าง ดุ๊ด”

“เยี่ยมเลยครับ” ผมบอกก่อนจะแอบขำ อลันยังคงทำหน้างงแต่ก็เดินนำผมไป ผมว่าผมได้ยินเสียงอลันทวนชื่อผมซ้ำไปซ้ำมาเบาๆ

อลันพาผมเดินไปตามทางที่โรยด้วยหินกรวดก้อนกลมๆ ที่ทับกันเป็นทางเดินทอดยาวไปข้างหน้า ผมยังไม่เห็นจุดสิ้นสุดของถนนกรวดสายนี้ สองข้างทางเต็มไปทำต้นไม้เขียวชอุ่มดูคล้ายกันไปหมด อลันเดินนำผมไปเรื่อยๆ พร้อมกับอธิบายชื่นต้นไม้แปลกๆ ที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ทางข้างหน้าเริ่มชันขึ้นกว่าเดิม แต่ผมก็ไม่ได้เอ่ยปากถามว่าจะพาผมไปไหน ก็ยังเดินตามไปพร้อมกับพยายามจำเส้นทาง ผมว่าผมเริ่มได้ยินเสียงน้ำตกอยู่ข้างหน้า ตอนนี้ตรงด้านหน้าของผมเป็นทางแยกไปสามทาง

“ทางโน้นคือทางขึ้นไปบนผาสายรุ้งครับ ถ้าไม่ได้รับอนุญาตก็จะขึ้นไปไม่ได้ เพราะเป็นสถานที่ส่วนพระองค์ของเจ้าชายแอชตัน ถ้าตรงไปข้างหน้าคือพระตำหนักนงนุช เป็นพระตำหนักของเจ้าชายแอชตัน เป็นสถานที่ต้องห้ามอีกเหมือนกัน แต่ผมจะพาคุณมะนาวต่างดุ๊ดไปทางซ้าย ทางนี้ครับ มันคือทางไปน้ำตกสายหมอก เดินอีกไม่ไกลก็จะเจอธารมรกตครับ”

“ดีเลย งั้นไปกันต่อเถอะครับ” ผมรู้สึกตื่นเต้นมากๆ กับชื่อสถานที่ มันดูอลังการอย่างกับวรรณกรรมของไทย

อลันนำผมเดินไปอีกสักระยะ ผมเริ่มสัมผัสได้ถึงความชื้นและละอองน้ำที่ลอยมาปะทะใบหน้า อลันพาผมมาหยุดยืนที่แผงเถาวัลย์หนา มันห้อยลงมาจากด้านบนจนเหมือนม่าน ดูเผินๆ เหมือนว่าเป็นทางตันแล้ว แต่อลันก็เดินนำไปพร้อมกับแหวกม่านเถาวัลย์ออก พอผมก้าวพ้นเถาวัลย์ที่ห้อยมาปิดทางด้านหน้ามาได้ก็ต้องตื่นตากับภาพตรงหน้า ธารน้ำสีฟ้าอมเขียวมรกตขนาดกว้างงดงามราวกับภาพที่ถูกตกแต่งด้วยโปรแกรมโฟโต้ช็อป เงยหน้าขึ้นไปมองก็เห็นสายน้ำตกที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงด้านบนที่ลดหลั่นเป็นชั้นๆ มันไหลลงมาสุดที่โขดหินขนาดใหญ่ตรงหน้า ปลายสายน้ำตกกระทบกับธารน้ำจนเกิดเป็นละอองน้ำกระจายฟุ้งไปทั่วอย่างกับมีหมอก

“สวยจังเลยครับ สวยมากๆ กลิ่นหอมนี่กลิ่นอะไรเหรอครับ” ผมถามอลันเนื่องจากได้กลิ่นหอมบางอย่าง

“ไม่มีใครทราบครับว่ามันคือกลิ่นอะไร เดิมธารแห่งนี้เป็นเพียงบ่อน้ำพุร้อน แต่เมื่อสิบปีก่อนน้ำตกจากผาสายรุ้งก็เปลี่ยนเส้นทางมาไหลลงที่นี่ ที่นี่เลยกลายเป็นธารน้ำอุ่นที่มีน้ำเต็มตลอดไม่เคยแล้ง แล้วเกิดกลิ่นหอมๆ นี้ขึ้นมาเองจนเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ไปเลยครับ อันที่จริงที่นี่เป็นเขตหวงห้ามของเจ้าชายแอชตัน แต่เจ้าชายแอชตันทรงอนุญาตให้พวกคุณปารมีมาเที่ยวที่นี่ได้”

“มาเดินเล่นถึงที่นี่เลยเหรอครับ” เสียงที่ดังมาจากด้านหลังทำให้ผมหันไปมอง

“คุณมาคัส” ผมทักคุณมาคัสที่อยู่ในชุดพื้นเมืองแล้วก็รู้สึกแปลกตา แต่ก็ยอมรับว่าคุณมาคัสก็หล่อไม่เบาในชุดนี้

“อลันไปเถอะ เราจะดูแลคุณนาวเอง” มาคัสหันไปสั่งอลัน ซึ่งอีกฝ่ายทำหน้างงๆ

“คุณนาว” อลันทำหน้างงเมื่อคุณมาคัสเรียกผมแค่สั้นๆ

“แหะๆๆ คือ ชื่อเล่นของผมเองครับ ชื่อมะนาวต่างดุ๊ดเป็นชื่อของผมเวลาอยู่ที่ต่างประเทศ” ผมรีบหัวเราะแห้งๆ ก่อนจะเกาท้ายทอย รู้สึกผิดเบาๆ ที่ไปแกล้งอำอลันทั้งที่เพิ่งรู้จักกัน

“ไม่เป็นไรครับ คุณมะนาวต่างดุ๊ด” อลันโค้งให้ผมกับมาคัสก่อนจะถอยหลังแล้วเดินกลับไปยังทางที่มา ผมแอบเห็นมาคุณคัสยิ้มแล้วส่ายหัวช้าๆ คงระอาที่ผมไปแกล้งอลัน ผมเลยหันไปหัวเราะแห้งๆ ให้คุณมาคัสอีกรอบ

“น้ำที่นี่เล่นได้รึเปล่าครับ” ผมถามคุณมาคัสที่เดินไปนั่งที่โขดหินใหญ่

“ได้ แต่ไม่ค่อยมีใครเล่นครับ”

“ทำไมครับ” ผมถามด้วยความสงสัย

“ถ้าเดินลอดม่านน้ำตกนี้ไปก็จะเจอกับสวนดอกไม้ สนใจไปดูไหมครับ” มาคัสไม่ตอบคำถามผมแต่ชี้ไปที่ด้านหน้า สงสัยเพราะเป็นเขตหวงห้ามเลยไม่อยากจะตอบอะไรมาก ผมรู้สึกตื่นเต้นอีกแล้ว หลังม่านน้ำตกยังมีสวนดอกไม่อีกเหรอ ที่นี่ดูลึกลับซับซ้อนจริงๆ

“ไปครับ” ผมรีบตอบรับ

คุณมาคัสนำผมเดินเหยียบก้อนหินใหญ่ที่อยู่ในธารน้ำตกแห่งนี้ มันเว้นระยะห่างกันเป็นทอดๆ เหมือนกับจงใจสร้างเอาไว้เพื่อให้เป็นทางเดินไปยังหลังม่านน้ำตกนี้ คุณมาคัสยื่นมือมาให้ผมจับแล้วพาผมก้าวข้ามไป คงจะกลัวผมลื่นล้ม ข้ามมาจนถึงหน้าม่านน้ำตกที่บังทางเข้าอยู่ ผมยืนลังเลเพราะถ้าข้ามไปช้าคงจะเปียกทั้งตัวแน่ๆ แต่ถ้ารีบก็กลัวจะตกน้ำโชว์คุณมาคัสอีก แต่คุณมาคัสดึงผมไปยืนใกล้ๆ ก่อนจะถอดเสื้อคลุมของตัวเองออกมาคลุมศีรษะของผมเอาไว้แล้วจูงมือพาข้ามไปด้วยความเร็ว ในที่สุดผมก็ข้ามมาได้อย่างปลอดภัยและไม่เปียกอย่างที่ผมกังวล

“โอ้โห สวยจังเลยครับ สวยมาก” ผมอยากให้ไอ้พวกเพื่อนๆ ผมมาเห็นจังเลย ไม่น่าเชื่อว่าหลังธารน้ำตกแห่งนี้จะมีสวนสวยอย่างนี้อยู่ พื้นปกคลุมไปด้วยหญ้านุ่มๆ สีเขียวสด พันธุ์ไม้ดอกแข่งกันประชันสีสันไปทั่วบริเวณ ผมเดินตรงไปเรื่อยๆ แต่คุณมาคัสก็ห้ามเอาไว้ก่อน

“หญ้ามันลื่นครับ ข้างหน้านี้เป็นหน้าผา ถึงจะไม่สูงมากแต่ถ้าตกไปก็เป็นอันตรายได้”

“อ๋อ ขอบคุณครับ ดอกไม้พวกนี้มันขึ้นเองเหรอครับ” ผมถาม ผมว่ากลิ่นหอมที่ธารมรกตมันมาจากดอกไม้พวกนี้แน่เลย

“เจ้าหญิงแฮแทนทรงทำสวนนี้ขึ้นมาก่อนที่ท่านจะเสียชีวิตไม่นาน ท่านทรงทำเอาไว้ให้ลูกสาวของท่าน” คุณมาคัสเล่าด้วยสีหน้าที่ผมอ่านไม่ออก ใบหน้าเรียบเฉยแต่น้ำเสียงดูเศร้ากว่าปกติ

“ลูกสาวของเจ้าหญิงแฮแทน..” ผมพยายามนึกว่าลูกสาวของเจ้าหญิงแฮแทนคือใคร เท่าที่ฟังคุณเมเล่าถึงประวัติของพระธิดาองค์เล็กของท่านสเตฟานก็ไม่เห็นบอกว่าท่านมีลูก ผมนึกว่าท่านโสดเสียอีก

“ผมว่าเรากลับกันดีกว่า องค์ชายธีมัสอาจจะทรงห่วงที่คุณหายมานานแล้ว” มาคัสบอกกับผม จังหวะนั้นเสียงโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นมาพอดี ผมหยิบขึ้นมาดู พบข้อความเข้าเลยกดดู ปรากฏว่าเป็นรูปคู่ของไอ้โหดกับมิเชลในลักษณะที่ใกล้ชิดสนิทสนมกัน

“ผมไม่อยากให้คุณถือสาองค์หญิง” มาคัสคงจะเหลือบเห็นรูปที่ผมเปิดดูเลยพูดแทรกขึ้นมา

“ครับ” ผมตอบสั้นๆ ก่อนจะเก็บโทรศัพท์ลง อยากจะถามเหมือนกันว่าใครเมมเบอร์ท่านหญิงตังเมให้ผม ถามผมสักคำยังว่าต้องการรึเปล่า ชิ

มาคัสนำผมกลับไปไปทางเดิมที่เข้ามา และยื่นมือมาให้ผมจับเหมือนเดิม พอผมผ่านม่านน้ำตกออกมายืนด้านนอกได้แล้วก็ต้องตกใจเพราะมีร่างของใครบางคนก้าวพรวดมายืนประชันหน้ากับผมพอดีพร้อมกับดึงมือของผมออกจากมือของมาคัสอย่างรวดเร็ว

“อ้าว กลับมาแล้วเหรอ” ผมถามไอ้โหดที่ยืนทำหน้าเรียบเฉยอยู่ตรงหน้าผม

“ทำไมออกมาคนเดียว” มันถามผม

“คนอื่นมันอยากนอนกันอะ” ผมบอกมัน มันพยักหน้ารับรู้

“ขอบคุณที่ช่วยดูแลคนของผม” มันบอกกับมาคัส เน้นเสียงตรงคำว่าคนของผม

อ่อ...นี่มันหึงผมใช่ไหม ทำเก็กมาดเข้มเชียวนะไอ้หมาธีม มาคัสก้มหัวให้มันนิดนึง ไอ้หมาธีมจูงมือผมเดินกลับไปทางเดิมที่ผมมา เดินออกมาจนจะถึงวังขาวอยู่แล้วมันกลับพาเดินเลยมาที่ลานโล่งที่อยู่ด้านหน้าของวังขาว ซึ่งตรงนั้นมีรถเอทีวีสีดำจอดอยู่สี่ห้าคัน มันพาเดินมาถึงรถก็หยิบเอาหมวกกันน็อคมาสวมใส่ให้ผม

“จะไปไหน” ผมถามมันด้วยความตื่นเต้น อยากขี่มานานแล้วรถแบบนี้

“ไปเดทกัน” มันบอกก่อนจะสวมหมวกกันน็อคให้ตัวเอง เดทเหรอ ผมชอบคำนี้จัง

“ให้นาวขับนะ” ผมบอก มันรีบส่ายหน้า ผมเลยได้แต่เบ้ปากใส่มัน มันขึ้นไปนั่งบนรถผมเลยขึ้นไปนั่งซ้อนมัน

“แล้วไปถูกเหรอ พานาวหลงป่าไม่เอานะ”

“เอาน่า ทีพี่หลงอยู่ในใจนาวตั้งนานพี่เคยบ่นไหม” มันพูดแบบนี้คิดว่าผมจะพูดอะไรได้อีก ก็ได้แต่แอบยิ้มอยู่ข้างหลังมัน เสี่ยววะ แต่ก็ชอบ

“แล้วองค์รักษ์ของพี่ล่ะ ยืนมองกันตาแป๋วเลย” ผมถาม ด้านหลังผมมีองค์รักษ์ยืนอยู่ห้าหกคน รวมอลันด้วย แต่ละคนเปลี่ยนจากชุดทหารมาเป็นชุดพื้นเมืองธรรมดากันตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

“ตามเราห่างๆ ก็พอ” มันหันไปบอก องค์รักษ์มันรีบโค้งให้แล้ววิ่งไปขึ้นนั่งบนรถเอทีวีที่เหลือ

“โหย มาที่นี่ได้แป๊ปเดียวราคีเจ้าชายจับเลยอะ” ผมชมมัน

“ราศี ไม่ใช่ราคี” มันแก้ให้ผม ผมหัวเราะและกอดเอวมัน

“เจ้าชายจะพากระหม่อมไปไหน จะไปพาขึ้นสวรรค์หรือลงนรกกระหม่อมก็ยินดี แต่ยินดีไปแต่สวรรค์ นรกกระหม่อมขอให้พระองค์เสด็จโดยลำพังนะพะยะค่ะ” ผมบอกมัน

“หึหึ สวรรค์อะ ได้ไปแน่” มันหัวเราะก่อนจะพูดเบาๆ ให้ผมได้ยินกันแค่สองคน แล้วมันก็ขับรถออกไปโดยมีองค์รักษ์มันขับตามมาห่างๆ องค์รักษ์ของมันจะรู้ไหมว่าเจ้าชายองค์นี้โคตรจะหื่น ทะลึ่งลามกได้ตลอด

มันขับรถพาผมมาตามถนนด้วยความเร็วที่ไม่มากเท่าไหร่ สองข้างทางของบัณตราเต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวสด ผมจำได้ว่ามาคัสบอกว่าทีนี่เป็นเกาะ ไม่มีผืนแผ่นดินที่ติดต่อกับประเทศไหนเลย มาได้เพียงสองทางคือเครื่องบินและเรือ ผมก็ไม่ได้ศึกษามาหรอกว่าจริงๆ แล้วประเทศนี้มันอยู่ตรงไหนเพราะไม่คิดว่าจะได้มาเร็วขนาดนี้ รู้แต่ว่ามันอยู่ขึ้นมาทางเหนือจากประเทศไทย แนวๆ เดียวกับญี่ปุ่นเกาหลี แต่เป็นเกาะที่ถูกซ่อนตัวจากโลกเพราะปิดประเทศมานาน หรือเพราะเป็นประเทศที่เล็กจนคนภายนอกคิดว่าไม่มีอะไรน่าดึงดูใจจนประมาณนั้น

ลมเย็นมาปะทะตัวผมจนผมต้องกอดไอ้โหดมันแน่นกว่าเดิมเพราะรู้สึกหนาว ขับมาได้สักพักก็เริ่มเห็นบ้านคนเรียงรายอยู่สองข้างทาง มันขับเลี้ยวเข้ามาตามเส้นทางที่ป้ายเขียนบอก มีลูกศรชี้บอกทางเข้าด้วย แต่ผมอ่านไม่ออกหรอกครับ คงเป็นภาษาบัณตรา
“อลันบอกว่าที่นี่เป็นหมู่บ้านที่กำลังเริ่มพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว” มันบอกผมหลังจากที่มาจอดรถตรงที่ทำไว้ให้จอด ผมลงจากรถแล้วถอดหมวกส่งให้มัน องค์รักษ์มันก็ขับตามมาจอดใกล้ๆ แล้วเดินตรงมาหาไอ้โหด

“เราจะเดินเล่นที่นี่” มันบอกกับองค์รักษ์ อลันหันไปพูดกับคนอื่นก่อนจะจะเดินหายกันไปเหลืออลันเอาไว้คนเดียว

“ไม่ต้องใช้คำราชาศัพท์เรียกเราว่าธีม ส่วนนี่..”

“มะนาวต่างดุ๊ด” อลันชิงพูดขึ้นมาก่อน ไอ้ธีมทำหน้าอึ้งไป แต่ผมหัวเราะขำ

“เรียกนาวเฉยๆ ดีกว่าอลัน” มันบอก

“ขอรับกระหม่อม เรียกว่า คุณธีม คุณนาว” มันทวนอีกครั้ง ไอ้ธีมมันโยกหัวผมที่ผมไปแกล้งอำองค์รักษ์ของมัน

อลันพาผมเดินเข้าร้านโน้นออกร้านนี้ พูดภาษาบัณตรากับชาวบ้านแล้วถึงหันมาแปลให้พวกผมฟังถึงรายละเอียดของสินค้าต่างๆ ผมอยากซื้อขนมพื้นเมืองไปฝากบรรดาไฮยีน่าที่รักของผม แต่ผมไม่ได้พกเงินมาเลย ไม่รู้เขาใช้สกุลเงินอะไรกัน อลันเหมือนจะรู้เลยส่งถุงกำมะหยี่สีดำมาให้ผม ผมเปิดดูก็พบเงินสกุลลขอลบัณตราจำนวนหนึ่ง ผมเลยหันไปมองหน้าไอ้โหด

“พระชนนีเตรียมเอาไว้ให้แล้วครับ” อลันบอก

“ไม่เป็นไรดีกว่า” ผมปฏิเสธ

“รับเถอะครับ ไม่เช่นนั้นกระหม่อม เอ้ย ผมจะโดนทำโทษที่ทำหน้าที่บกพร่อง” อลันยื่นถุงเงินมาให้ผมอีกครั้ง ไอ้โหดพยักหน้า ผมเลยรับมาถือเอาไว้ อลันยิ้มแล้วพาผมเดินต่อ เดินมาเจอร้านไอศกรีมผลไม้ ผมดูจากรูปเอาครับ ผมอยากกินมากเลยดึงเสื้อไอ้โหดให้มันหยุดเดิน

“มา โต อา คา” ผมทักคุณป้าคนขาย อลันหันมามองผมแบบอึ้งๆ ที่ผมพูดภาษาบัณตราได้ แหะๆ ผมจำมาจากน้องทัสที่ทักพวกผมในครั้งแรกที่ได้เจอกันแหละครับ ก็ได้แค่นี้แหละ

“##%$&^)(*_)())#@$#%$%$%6!” คุณป้าร่ายกลับมายาวจนผมยิ้มค้าหน้าเหวอไปเลย อลันแอบปิดปากหัวเราะผม ส่วนไอ้โหดก็ยืนขำไม่ต่างกัน

“คุณป้าบอกว่า คุณป้าจำหน้าคุณนาวได้ ลูกสาวคุณป้าชอบดูละครของคุณ” อลันแปลเสร็จผมก็เกาท้ายทอยแก้เขิน มันทั้งเขินทั้งแปลกใจสุดๆ หันไปพูดกับไอ้โหดมันเบาๆ

“นาวอินเตอร์ขนาดนี้เลยเหรอ เป็นไปได้ยังไง เขาดูละครนาวจากที่ไหนอะ”

“แม่ของพี่กับควีนนงนุชพระมารดาของเจ้าชายแอชตันเป็นคนไทย ประชาชนที่นี่รักทั้งสองพระองค์มาก ทั้งสองพระองค์เป็นเจ้าหญิงที่ใกล้ชิดกับชาวบ้านและเข้ามาช่วยพัฒนาด้านอาชีพให้ คนที่นี่เลยเห็นคนไทยเหมือนเป็นพี่น้องกัน แต่เพราะก่อนหน้านี้เป็นประเทศปิด คนไทยเลยไม่รู้จักที่นี่นัก คงจะมีแต่คนที่นี่ที่รู้จักประเทศไทยดี” ไอ้โหดมันอธิบาย ผมพยักหน้ารับรู้พร้อมกับสงสัยว่าทำไมมันรู้เรื่องราวละเอียดดีจัง

“นาวอยากดูละครของตัวเองเวลาพากย์เป็นภาษาบัณตราจัง” ผมนึกขำ

“คุณป้าให้คุณ” อลันหยิบไอศกรีมจากคุณป้ามาส่งให้ผม ผมหยิบเงินจะส่งให้ อลันรีบส่ายหน้า

“ถ้าเราจ่ายเงิน คนที่นี่จะถือว่าเราไม่รับน้ำใจจากเขา ถ้าเขาตั้งใจให้คือเราต้องรับเอาไว้ครับ” อลันอธิบาย ผมเลยยกมือไหว้คุณป้า หวังว่าคงจะรู้ว่าเป็นการขอบคุณของคนไทย เพราะคุณป้าทำท่าไหว้ผมตอบเป็นการรับไหว้ คนที่นี่คงจะรู้เรื่องประเทศเราเยอะจริงๆ ผมเห็นบางร้านมีธงชาติไทยแปะคู่กับธงชาติของบัณตราด้วย

“อร่อยภาษาบัณตราพูดว่ายังไงอะอลัน มันอร่อยมาก สุดยอด หอมผลไม้ รถอมเปรี้ยวอมหวาน อร่อยมากอะพี่ธีม” ผมยื่นไอศกรีมไปให้ไอ้โหดมันชิม มันก็ก้มลงมาชิมไอศกรีมในมือผมก่อนจะกระซิบที่หูผม

“ถ้าไม่ติดว่านาวจะอาย จะชิมที่ปากนาวแล้ว คงจะอร่อยกว่า”

“นี่ ทำหน้าให้มันบางหน่อยก็ได้นะ เป็นถึงปริ๊นซ์แต่หื่นไม้เว้นแม้แต่ในตลาด” ผมกระซิบกลับ

“หึหึ ไปเดินทางโน้นต่อกัน” ไอ้โหดหัวเราะก่อนจะชวนผมเดินไปข้างหน้าต่อ

“เออโรมันโย มาตาอาคา” ผมหันมาชมไอศกรีมว่าอร่อยและขอบคุณป้าเขาอีกทีด้วยภาษาบัณตราที่อลันสอนก่อนจะเดินตามไอ้โหดมันไป


อากาศทีนี่ดีมากจริงๆ เย็นสบาย ลมไม่แรงมาก สะอาด บ้านหรือร้านค้าแต่ละหลังจะทาด้วยสีเปลือกไข่ไก่ตัดกับสีน้ำตาล ส่วนใหญ่คนทีนี่จะผิวออกสีน้ำผึ้งแต่ก็ดูสะอาดสะอ้านดี คงจะเหมือนกับผิวของไอ้หมาธีม ผิวมันเนี๊ยนเนียน เวลาลูบแล้วลื่นมือ ผมชอบลูบหน้าท้องมัน ถึงเป็นลอนกล้ามเนื้อแข็งแรงแต่ก็ถือสุขภาพผิวมันดีมาก น่าอิจฉา

“กินข้าวเที่ยงที่นี่ไหม” มันถามผม ผมคิดอยู่แป๊ปนึงก็ส่ายหน้า

“กลับไปกินกับเพื่อนๆ ดีกว่า เอาไว้ค่อยมาพร้อมพวกมันใหม่” ผมบอก

“งั้นกลับกัน”

มันจะพาผมกลับ แต่ผมดึงมือมันเอาไว้ก่อน แล้วจูงมันเข้าไปในร้านเสื้อผ้า ผมอยากใส่เสื้อผ้าพื้นเมือง ผมเลือกดูชุดจนได้ชุดที่ถูกใจ ผมอยากจะเปลี่ยนชุดเลยเลยบอกกับอลัน อลันคุยเจ้าของร้าน เจ้าของก็ชี้ให้ผมเดินเข้าด้านหลังของร้าน ผมจูงมือไอ้โหดเข้ามาก็สั่งให้มันเปลี่ยนด้วยเพราะซื้อให้มันด้วย เราเข้าไปเปลี่ยนชุดกันคนละห้อง ผมเปลี่ยนเสร็จแล้วก็เดินออกมารอ สักพักมันก็เดินออกมา ผมยิ้มออกมาเลยเมื่อเห็นมัน ชุดพื้นเมืองที่ผมเลือกให้มันช่างเข้ากับตัวมันจริงๆ เสื้อเป็นเนื้อผ้าไหมพรมถักลายดำแดง ผ่าหน้ายาวโชว์ช่วงอกนิดๆ มีผ้าพันคอทรงกลมอันใหญ่คล้องรอบคอเอาไว้ กางเกงสีดำพองตรงสะโพกนิดๆ ยาวแค่เข่า ช่วงจากหน้าแข้งลงมาก็รัดรูปพอดีขา ส่วนของผม เสื้อข้างในเป็นสีขาวคอปีน ส่วนเสื้อคลุมตัวนอกเป็นเสื้อถักแขนยาวตัวใหญ่ๆ ปลายเสื้อแหลมเป็นทรงวี ช่วงปลายผ้าจะกรุยๆ เป็นเส้น แต่กางเกงของผมเป็นขาจั้มสามส่วนสีดำ เนื้อผ้าใส่สบายมากๆ อลันบอกว่า นี่เป็นเสื้อผ้าสำหรับหน้าหนาว เพราะหน้าหนาวที่นี่จะหนาวมากสุดๆ

“พี่หล่ออะ” ผมบอก มันยิ้มที่ผมชมมันเพราะนานๆ ผมจะชมมันสักที

“นาวก็น่ารักมาก” มันก็ชมผม เออดีนะ ยอกันเอง

“ไปเถอะ เดี๋ยวไปไม่ทันข้าวเที่ยง” ผมรีบบอก กลัวมันอดใจไม่ไหว สายตานี่หื่นเต็มขั้นแล้ว กลัวเจ้าของร้านเข้ามาเห็นจะช็อกเสียก่อน

ผมกับมันจ่ายเงินเสร็จก็พากันเดินกลับไปที่รถ เดินธรรมดาไม่ได้จับมือกันหรอกครับ แต่รู้สึกว่าตั้งแต่ใส่ชุดพื้นเมือง คนจะมองผมกับไอ้โหดมากกว่าตอนใส่ชุดธรรมดาแบบตอนขามา อลันบอกว่าผมกับองค์รัชทายาทของมันดูหล่อมากๆ สงสัยผมต้องซื้อชุดพื้นเมืองหน้าหนาวที่นี่ไปใส่ทุกวันเสียแล้ว

ผมซ้อนรถมันกลับไปที่วัง แต่อ้อนมันว่าไม่อยากใส่หมวกกันน็อค อยากสัมผัสอากาศของบัณตราให้เต็มปอด มันเหมือนจะชั่งใจอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายก็ยอม ตัวมันเองก็ไม่ใส่ตาม แล้วมันก็ขับรถช้าๆ ผมก็พยายามซึมซับทั้งอากาศ ทั้งกลิ่นของมันเข้าเต็มจมูก ก็กลิ่นตัวมันก็หอมดี แบบนี้รึเปล่าที่เขาว่ายามรักตดยังห๊อมหอม เมื่อก่อนยังว่ามันซกมกอยู่เลย ผมอยากซบหน้ากับแผ่นหลังมันนะ แต่ก็ไม่กล้าเพราะมีองค์รักษ์ขับตามมาข้างหลัง ถึงมันจะแสดงว่าไม่แคร์ใครแต่ผมก็ไม่อยากให้ใครมาว่ามันได้ ถึงเราจะรักกันแต่เราต้องอยู่ร่วมในสังคมของกันและกันให้ได้ด้วย นี่ผมก็ไม่ได้ถามมันว่าไปหาพ่อแล้วเป็นยังไงบ้าง ถามว่าผมกลัวไหมหากทางโน้นรู้แล้วอาจจะกีดกันมันกับผม ก็กลัวนะแต่ไม่ได้กังวลมากเท่าไหร่ ผมแคร์ความรู้สึกผู้ชายที่ผมกำลังกอดเอวมันอยู่มากกว่า ความรู้สึกมันสำคัญที่สุดสำหรับผม ไม่ว่ามันจะเลือกทางไหน ขอแค่มันบอกเป็นทางที่มันคิดว่าดีที่สุด ผมก็จะยอมรับด้วยดี

“นาว” มันเรียกผม

“หืม”

“คิดอะไรอยู่ กอดพี่ซะแน่นเชียว”

“นาวชอบแผ่นหลังพี่” ผมตอบ แผ่นหลังมันกว้างดี

“พี่ก็ชอบข้างหลังนาว” มันบอก ผมยันตัวขึ้นไปกัดไหล่มันจนมันร้องโอ้ย ทะลึ่งไปแล้วไอ้เจ้าชายหน้าหมาเอ้ย

“พี่มีความสุขไหม” ผมถามมัน

“มีมาก”

“นาวก็มาก”

“อยู่ที่นี่กันเลยไหม” มันถามผม ผมได้ฟังแล้วก็พูดไม่ออก จริงๆ อยู่ที่นี่กับมันก็ดีนะ ไม่มีนักข่าวมาตาม ไม่ต้องอยู่ในสังคมที่พร้อมโจมตีผมเสมอ แต่มันไม่ใช่แค่นายธีรดลเหมือนที่เมืองไทย ผมจะอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร

“พี่อยากอยู่ที่นี่เหรอ” ผมถามมัน

“พี่อยากอยู่ทุกที่ที่มีนาว” มันบอก

“พี่ให้องค์รักษ์ขับนำไปก่อนได้ไหม” ผมถามมัน มันค่อยๆ ชะลอรถ อลันพร้อมกับองค์รักษ์คนอื่นๆ ขับมาขนาบข้างๆ

“นำเราไปก่อน ไม่ต้องเป็นห่วง ใกล้ถึงวังแล้วไม่น่าจะมีอะไร ฝากไปบอกเพื่อนๆ เราว่าเรากำลังจะกลับไปทานข้าวเที่ยงด้วย” มันบอกจบ องค์รักษ์ทุกคนก็ก้มหัวรับคำสั่งมันแล้วขับนำมันไป จนเหล่าองครักษ์เกือบลับตามันถึงได้เร่งเครื่องขับต่อ ผมกระชับเอวมันไว้แล้วแนบหน้าซบกับแผ่นหลังของมัน แผ่นหลังมันอบอุ่นจริงๆ ด้วย แผ่นหลังนี้เป็นของผม คนในอ้อมกอดก็เป็นของผม เหมือนกับที่มันบอกกับคุณมาคัสว่า ผมคือคนของมัน ดูท่ามันก็อยากใช้เวลานี้กับผมนานๆ เพราะมันขับอย่างกับเต่าคลานเลยครับ เอ่อ ไอ้หมาธีม เดินดีไหมถ้าจะช้าขนาดนี้

“พี่เป็นเจ้าชาย จะพานาวเข้าไปอยู่ในปราสาทเหรอ แต่นาวไม่ใช่ซินเดอเรลล่านะ ชีวิตจริงคงจะเหมือนที่เรามโนไม่ได้หรอก” ผมบอกกับมัน

“บัณตราไม่มีพี่เป็นเจ้าชายเขาก็ปราบกบฏกันมาได้ แต่นาวไม่มีพี่ไม่ได้หรอก พี่มั่นใจ” มันบอกผม มั่นหน้ามากนะไอ้หมา

“โหย เข้าข้างตัวเองว่ะ” ผมเอาหัวโขกหลังมัน ทั้งที่คำที่มันพูดนั้นไม่ผิดเลย

“ที่พี่มั่นใจ เพราะพี่เองก็ไม่มีนาวไม่ได้เหมือนกัน”

ผมไม่ได้พูดอะไรต่อ ได้แต่กอดมันเอาไว้ ได้แต่นึกในใจว่ามันกำลังทำให้ผมเป็นคนเห็นแก่ตัว จากที่คิดว่า ถ้ามันเลือกครอบครัวมันผมก็จะยอมรับ ตอนนี้คงไม่ได้แล้ว ไอ้หมาธีม..ผมเสียมันไปไม่ได้จริงๆ มันทำให้ผมหลงทางในใจมันเหมือนกัน ผมหาทางออกไม่เจอและไม่คิดจะหาด้วย ถ้ามันทิ้งผมเมื่อไหร่ผมจะหั่นมังกรมันทิ้งให้ไอ้มาม่อนเอาไปกัดเล่น ผมนึกแล้วก็แอบหัวเราะ ก่อนจะได้ยินเสียงมันถามคำถามเดิมๆ

“มโนอะไรอีก”

“นาวรักพี่ธีมจัง คึคึคึ” 

...นี่แหละครับ คำโบราณที่ว่า ไปไหนมาสามวาสองศอก ต่อไปถ้ามันถามผมว่าผมมโนอะไรอีก ผมก็จะบอกว่าผมรักมัน เอาให้มันพูดไม่ออกไปเลยแบบที่มันกำลังเป็นตอนนี้ดีไหม อึ้งไปเลยละซี่..

เอ๊ะ!แต่ผมว่าผมลืมอะไรไปนะ ผมว่าผมมีเรื่องจะจัดการไอ้โหดมันนะ แต่ลืมไปแล้วว่าเรื่องอะไร ช่างมัน หลังมันอุ่นจนสมองผมตันไปละ ไว้นึกได้ค่อยว่ากันอีกทีเนอะ เพราะตอนนี้ผมมีความสุขกับเดทที่เป็นเดทของ 'เรา' จังเลยครับ


โปรดติดตามตอนต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-01-2018 09:40:21 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
นาวชอบแผ่นหลังธีม แต่ธีมชอบเข้าหลังนาว
ไม่ค่อยหื่นเลยนะเจ้าขายธีม

ออฟไลน์ andaseen

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 742
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-1
ตลกอลันอ่ะโดนมะนาวต่างดุ๊ดแกล้งง   :m20: :jul3:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
มะนาวต่างดุ๊ด.  หรือ. มนุษย์ตุ๊ดมะนาว. อิอิอิอิอิ

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
มโนได้ทุกที่ทุกเวลาสิน่า

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
มะนาวก็ช่างแกล้ง

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
เจ้าชายธีมัสจะพาน้องนาวไปขึ้นสวรรค์หวันๆๆๆๆๆ  :hao6: :hao6: :hao6: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ minminmin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
 :ling1: :ling1: :ling1:  แอบชอบมาคัสนะเนี่ยยยยยยยยย  แต่เจ้าชายก็ได้ค่ะ หึหึหึ 

ติดตามตอนต่อไปนะค้าาาาาาาาาาาาาาาา

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
คุณเจ้าชายที่แสนขี้หึง น่าระกมาก แฟนหาย ต้องรีบออกหาเลย
นาวร่าเริงอ่ะ แกล้งอลัน แหม่ พอแฟนเปลี่ยนชุดนี่พุ่งเข้าไปจูบเลยพระเอกฉัน รักมาก หลงมาก
แล้วดูนาว กูรักมึง โอ๊ย น่ารัก แค่นี้เขาก็รักจะแย่แล้วลูก

ขอบคุณค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด