~ซินเดอเรลล่ากับเจ้าชายรองเท้าแตะ~ จบบริบูรณ์ อัพเดทรวมเล่มค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ~ซินเดอเรลล่ากับเจ้าชายรองเท้าแตะ~ จบบริบูรณ์ อัพเดทรวมเล่มค่ะ  (อ่าน 160425 ครั้ง)

ออฟไลน์ Mokuchi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เอาอีกๆ เราชอบให้พี่ธีมหึงนาวเยอะๆอ่ะ ไม่รู้เป็นอะไร 5555 :hao7:

ออฟไลน์ ciaiwpot

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1098
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
ขี้หึงจังนะจ้าชาย
เหมือนเห็นอุปสรรครำไร

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
อุ่นๆ ดีนะครับ หวานด้วย

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
น้องนาวน่ารักมากๆ :-[ ไม่แปลกที่พี่ธีมจะหลง

รออยู่นะคะ พี่ธีมที่บอกนาวว่า "มึงได้ขึ้นแน่ๆสวรรค์อ่ะ"  :hao6:

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
น้องมะนาว ต่างดุ๊ด ของเจ้ 55555 นางมีความสุขทุกโอกาสจริงๆ น้องนาวเนี่ย น่ารักสุดๆ

ออฟไลน์ fanglest

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
ตอนองครักษ์คนนั้นเริ่มพานาวไปน้ำตก
หวั่นใจจริงๆ เสียวหวิวๆกลัวนาวตาย
หรือโดนลอบทำร้าย (คิดแง่ร้ายไปแล้ว)
นี่ที่บริทิเนีย นำเข้าหนังจากไทยหรือนี่!!
ขนาดเราคนไทยเรายังไม่ดูละครทีวีเลย หุหุ
ไม่รู้สินะ
 :really2:

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
บทที่ 26


(กาลครั้งหนึ่งของธีม)

ผมกับนาวกลับมาถึงวังขาวทันเวลาอาหารเที่ยงพอดี หลังอาหารเที่ยงมันก็คุยจ้อกับเพื่อนไม่หยุดถึงความสวยงามของที่ๆ มันไปเที่ยวมา มันก็ยังคงโดนเพื่อนๆ รุมแกล้งเหมือนเคย โทษฐานที่หนีไปเที่ยวกับผมแค่สองคน ผมได้แต่นั่งขำที่มันทำหน้ามุ้ยมาทางผมบ้างค้อนเพื่อนตัวเองบ้าง ผมรู้ว่ามันเป็นที่รักของเพื่อนทุกคนและมันก็รักเพื่อนของมันมาก เลยทำให้ผมมานั่งคิดว่า ถ้ามันต้องอยู่กับผมที่นี่ตามลำพัง ไม่ได้กลับไปอยู่ในบ้านเกิดเมืองนอนที่เติบโตมา ไม่ได้เจอเพื่อนสนิท มันจะร่าเริงได้แบบนี้ไหม ผมลอบถอนหายใจก่อนจะย้อนนึกถึงตอนที่ไปเข้าเฝ้าท่านพ่อของผม

ครั้งแรกที่ผมได้เห็นพ่อผู้ให้กำเนิดของผมมันทำให้ผมรู้สึกสะเทือนใจ ท่านผอมมาก หน้าตาของท่านก็ซีดเซียวอิดโรย ท่านกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงกว้าง เมื่อท่านเห็นผมท่านก็ร้องไห้ออกมาแบบไม่อายใคร ผมยอมรับว่าผมเสียใจอยู่ไม่น้อยที่ได้เจอกับท่านตอนที่ท่านสุขภาพไม่สู้ดีนัก ท่านกอดผมและพูดซ้ำๆ ว่าดีใจที่ผมปลอดภัย เราพูดคุยถามสารทุกข์สุขดิบกันอยู่พักใหญ่ตามลำพัง แล้วท่านพ่อถึงได้พูดบางอย่างกับผม

“พ่อพอจะรู้เรื่องของลูกกับลูกของพุดซ้อน ลูกมั่นใจใช่หรือไม่ที่จะเลือกเส้นทางนี้” ผมไม่แปลกใจที่ท่านจะรู้ แต่ยอมรับว่าค่อนข้างตกใจที่ท่านถามผมตรงๆ แต่ก็ดีเหมือนกันเพราะผมไม่อยากปิดบังเรื่องของนาว

“ครับพ่อ ผมขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง แต่ผมรักนาวมาก ผมมั่นใจว่าความรักของเราสองคนไม่ได้ทำให้ผมมีความประพฤติที่ชั่วร้ายหรือทำตัวไม่ดีให้ผู้อื่นต้องเดือดร้อน แต่เรื่องของผมกับนาวอาจจะทำให้ราชวงศ์เสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งผมยินดีที่จะสละตำแหน่งใดๆ ก็ตามที่ผมได้รับเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา ผมกลับมาครั้งนี้เพื่อมาพบพ่อกับแม่แค่นั้นครับ” ผมพูดสิ่งที่อยู่ในใจให้กับพ่อบังเกิดเกล้าได้ฟัง หวังว่าท่านคงจะเข้าใจผมไม่ต่างจากที่แม่เมเข้าใจ

“พ่อไม่เคยผิดหวังในตัวลูก อันที่จริงพ่อไม่เคยคิดอยากให้ลูกทุกคนมาอยู่ในจุดที่พ่อเคยอยู่ การมีอำนาจไม่ใช่เรื่องดีเลยสำหรับพ่อ มันทำให้ท่านปู่ท่านย่าต้องถูกจองจำในคุกนานหลายปี ท่านอาหญิงของลูกทั้งสองต้องมาสิ้นชีพเพียงเพราะคนบ้าอำนาจคนเดียว ธีมัส..พ่อยอมรับในตัวคนที่ลูกรักได้เสมอ แต่พ่ออยากขอร้องลูกเพียงเรื่องเดียว อยู่ที่นี่กับพ่อจนกว่าพ่อจะหมดลมหายใจได้หรือไม่” คำขอร้องของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อทำให้ผมปฏิเสธท่านไม่ออก น้ำเสียงที่อ่อนแรง แววตาที่ฉายแววขอร้องคู่นั้นยังติดอยู่ในใจผมจนถึงตอนนี้

“คือ..ผม.....”

“ชวนปารมีอยู่ด้วยกันที่นี่ พ่อขอใช้ช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตได้อยู่กับเนตรนภา ลูก ทัสสินาและคนที่ลูกรัก พ่อคงใช้เวลาไม่นานนัก”

“พ่ออย่าพูดแบบนั้นเลยครับ ถ้าใจของพ่อไม่สู้ ร่างกายก็จะยิ่งแย่ ส่วนเรื่องนี้ ผมขอเวลาตัดสินใจอีกสักหน่อยได้ไหมครับ แต่ผมสัญญาว่าผมจะทำหน้าที่ของลูกให้ดีที่สุด”

“ขอบคุณมากลูก พ่อเองก็จะพยายามรักษาตัวเองเพื่อให้ได้อยู่กับลูกให้นานที่สุด” พ่อจับมือผมแน่น ผมประคองท่านลงนอนพักและนั่งคุยกับท่านต่ออีกพักหนึ่งจนกระทั่งท่านหลับลงอีกครั้งเพราะฤทธิ์ยา

“เหม่ออะไร คิดอะไรอยู่” นาวเดินมานั่งลงบนที่เท้าแขนของโซฟาตัวที่ผมนั่งอยู่ ผมหลุดออกจากความคิดและเงยหน้าไปยิ้มให้มัน

“คิดถึงนาว” ผมบอกออกไปตรงๆ บรรดาเพื่อนๆ มันส่งเสียงแซ็วกันจนมันทำท่าจะลุกหนีไป ผมเลยดึงตัวมันมานั่งที่ตักของผมเลย มันดิ้นดุ๊กดิ๊กจนผมต้องกอดตัวมันไว้ให้อยู่เฉยๆ

“พี่ก็ชอบทำให้พวกมันแซ็วนาวจัง” มันบ่นผมแต่ก็ยอมนั่งเฉยๆ เพราะตอนนี้เพื่อนมันต่างก็หันไปสนใจกับสถานที่เที่ยวต่างๆ ในหนังสือที่อลันเอามาให้ดู

“ยิ่งอายเพื่อนก็ยิ่งแซ็ว” ผมบอก

“ใครจะไปหน้าหนาเหมือนพี่ละ” มันพูดไปก็หยิบมือผมที่กอดเอวมันอยู่ไปจับเล่น

“ไม่สบายใจอะไรรึเปล่า” นาวถามผม

“เปล่า แค่สงสารพ่อ เขาดูป่วยกว่าที่พี่คิด ตอนแรกพี่ก็คิดว่าการที่เราไม่ได้ผูกพันกับเขามาตั้งแต่เด็กๆ คงไม่ทำให้เรารู้สึกอะไรเท่าไหร่ แต่เอาจริงๆ เราก็รับรู้ได้ว่าเขาคือพ่อ คือคนให้กำเนิดเรา ก็อดสะเทือนใจไม่ได้ที่เห็นเขาดูป่วยขนาดนั้น”

“นาวเข้าใจ” มันบอกผม ผมเชื่อตามที่มันพูด มันคงไม่ได้จะพูดเพื่อปลอบใจ แต่มันก็คงรู้สึกกับคุณปริณแบบนี้เหมือนกัน ทั้งผมและมันตกอยู่ในสถานการณ์ใกล้เคียงกัน

“พรุ่งนี้นาวไปหาพ่อกับพี่นะ พ่อเขารู้จักกับแม่ของนาวด้วย เขาอยากเจอนาว” ผมพูดจบมันก็ลุกออกจากตักของผมแล้วทิ้งตัวลงไปนั่งกับพื้นตรงหน้าผม

“เขารู้เรื่องเราไหม” สีหน้านาวดูกังวล ผมโยกหัวมันเบาๆ แบบที่เคยทำบ่อยๆ ผมมันนิ่มและหอมมาก เวลาผมโยกหัวมันเล่นทีไรรู้สึกดีเพราะมันชอบทำหน้าเหมือนเด็ก

“รู้ เขายอมรับได้ พี่พูดจริงนะ ทำไมทำหน้าแบบนั้น หึหึ” ผมบอกมัน แต่มันหรี่ตามองผม ผมไม่ได้โกหกมัน แต่มันคงไม่เชื่อ

“ใครจะมายอมรับกันง่ายๆ” มันเถียง

“แม่เมยอมรับเรื่องเราไหม” ผมย้อนถามมัน

“ก็นั่นเขารักนาว” มันยังเถียงต่อ

“นี่เขาก็จะรักนาว เชื่อพี่สิ พ่อกับแม่ดูไม่ใช่คนร้ายกาจหรอก ไม่งั้นเขาจะเลี้ยงทัสให้เป็นเด็กขาวสะอาดแบบนั้นได้ไง” ผมบอก มันพยักหน้าคล้อยตาม

“ปู่กับย่าพี่ละ”

“เขามีหลานตั้งหลายคน ผิดหวังจากพี่สักคนคงไม่เป็นไรหรอกมั๊ง” ผมบอก แต่นาวมันทำปากยื่นๆ แบบที่มันชอบทำ ผมเลยถือโอกาสที่ไม่มีใครสนใจโน้มลงไปจูบปากมันอย่างรวดเร็วก่อนจะกลับมานั่งเหมือนเดิม ไอ้คนที่โดนผมลักจูบรีบหันไปมองเพื่อนมัน พอเห็นว่าไม่มีใครสนใจมันถึงได้หันมาทุบขาผมเบาๆ นี่ดีว่าผมให้องค์รักษ์ออกไปอยู่ข้างนอกกันหมด ไม่อย่างนั้นผมคงโดนนาวมันทุบหนักกว่านี้แน่

“พูดดูง่ายไปหมดเลยนะ” มันยังบ่นกระปอดกระแปด อยากจับมันฟัดจริงๆ เลยครับ

“เอาน่า อย่าเพิ่งคิดอะไรเลย พาพี่ไปดูห้องนอนหน่อยสิ พี่ยังไม่รู้เลยว่าต้องนอนห้องไหน” ผมบอกมัน คราวนี้มันหรี่ตาลงมองผมด้วยความระแวงอีกรอบ รู้สึกมันชักจะฉลาดขึ้นนะ ผมต้องหามุกใหม่ๆ มาหลอกมันแล้ว

“นาวไม่ไปกับพี่หรอก ขืนพาขึ้นไปคงได้พาพี่ชมเตียงมากกว่าห้อง เพิ่งจะกินข้าวเที่ยงเสร็จด้วย ขี้เกียจจุก เพราะโดนพาออกกำลังกายในร่ม ฮ่าๆๆ” มันบอกเองแล้วก็หัวเราะเอง

สักพักอลันก็เดินเข้ามาแล้วบอกกับผมว่าถึงเวลาแถลงข่าวของคุณปริณแล้ว ผมพยักหน้า อลันเดินไปเปิดโทรทัศน์จอใหญ่ที่ตั้งอยู่ตรงหน้าให้ ทุกคนเลยละความสนใจจากสิ่งที่ทำอยู่แล้วมองไปที่จอโทรทัศน์แทบจะพร้อมกัน ผมดึงนาวขึ้นมานั่งข้างผม สักพักการแถลงข่าวของคุณปริณก็ถูกแพร่ภาพเข้ามา  จอโทรทัศน์แสดงภาพคุณปริณนั่งอยู่ที่โต๊ะยาว โดยมีแม่เมนั่งอยู่ข้างซ้าย คุณปรัชนั่งอยู่ด้านขวา เสียงชัตเตอร์รัวดัง แสงแฟลชก็สว่างวูบวาบแข่งกับเสียงลั่นชัตเตอร์ สักพักคุณปริณยกมือขึ้นขยับไมค์ เสียงกล้องและแสงแฟลชถึงได้เงียบและหยุดไป

“ขอบคุณสื่อทุกสำนักที่มาในงานแถลงข่าวของผมในวันนี้ กับข่าวที่ออกมานั้น ทุกท่านคงอยากจะทราบความจริงที่เกิดขึ้น ผมเองก็ต้องการจะแถลงถึงความจริงจากปากของผมเอง ไม่ใช่การเขียนออกมาโดยไม่รู้ว่าทำความเสียหายให้กับใครบ้างจากบุคคลที่ไม่ประสงค์ดี ผมนาย ปริณ อังควัตทานนท์ และ นางพุดซ้อน อังควัตทานนท์ เป็นผู้ให้กำเนิดนายปารมี ปิยดิษฐ์ นี่คือหลักฐานการจดทะเบียนสมรสและการรับรองการเป็นบุตรที่ถูกต้องตารมกฏหมายทุกประการ” เสียงฮือฮาและเสียงคำถามของนักข่าวดังแทรกแซงเข้ามา คุณปริณยกมือห้ามอีกรอบ

“ผมกับพุดซ้อนเราจดทะเบียนกันตั้งแต่ก่อนที่พุดซ้อนจะเข้าประกวดนางสาวสยาม แต่ด้วยเหตุผลบางประการทำให้ผมกับพุดซ้อนต้องปิดบังความจริง ปารมีคือลูกที่ผมและพุดซ้อนรักเท่าชีวิต ส่วนเพื่อนของผม นายปิยะและเมธาวีคือผู้ที่มีพระคุณของผม ทั้งคู่เสียสละความเป็นส่วนตัวเพื่อความปลอดภัยของภรรยาและลูกชายคนเดียวของผม”

“หมายความว่ามีคนปองร้ายคุณพุดซ้อนและคุณปารมีเหรอคะ” นักข่าวคนหนึ่งชูมือถาม

“ครับ” คุณปริณตอบ เสียงฮือฮาดังขึ้นอีกรอบ

“การเสียชีวิตของคุณพุดซ้อนเกิดจากการฆาตกรรมเหรอคะ”

“ผมขอไม่ตอบคำถามนี้ครับ ผมคิดว่า ในตอนนี้ผู้ไม่ประสงค์ดีต่อผมและลูกชายของผมก็ยังคงลอยนวลอยู่ ที่ผมอยากแถลงข่าวในวันนี้เพราะอยากถือโอกาสประกาศถึงผู้ไม่ประสงค์ดีให้ทราบ กรุณาหยุดการกระทำของคุณเสีย แต่ถ้าคุณไม่หยุดและยังคิดทำร้ายลูกชายคนเดียวของผม ผมจะยอมแลกกับคุณด้วยชีวิตที่มีเพื่อปกป้องลูกชายคนนี้ของผม และจากวันนี้ไป ผมขอประกาศว่า ปารมี ปิยะดิษฐ์เป็นทายาทคนเดียวของอังควัตทานนท์ เขาจะมีสิทธิ์และเป็นเจ้าของทุกอย่างที่เป็นของผมนายปริณ อังควัตทานนท์ และสิ่งสุดท้ายที่ผมอยากพูดให้ทุกคนได้รับรู้ ปารมี..เกิดจากความรักของผมและพุดซ้อน ไม่ใช่ความผิดพลาด เขาเกิดมาด้วยความตั้งใจของผมและพุดซ้อน เป็นบุตรชายที่เกิดจากความรักของเราทั้งคู่ ไม่ใช่การลักลอบใดๆ อย่างที่มีข่าวลือออกมา เขาคือความภูมิใจและลมหายใจของผมตั้งแต่เขาถือกำเนิดจนถึงทุกวันนี้และจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป” ฟังคุณปริณพูดจบผมก็เอื้อมมือไปบีบมือของมัน

“พอจะบอกได้ไหมคะว่าใครคือผู้ต้องสงสัย” มีคำถามดังขึ้นมาอีกครั้ง

“ผมขอไม่พูดเรื่องนี้นะครับ”

“แล้วปารมียอมรับในตัวคุณไหมคะ เพราะคุณไม่ได้เลี้ยงมาตั้งแต่เด็กๆ” คำถามนี้ทำให้คุณปริณเงียบไป

“ตอนนี้น้องนาวอยู่ไหนคะ จะยังใช้นามสกุลลของคุณปิยะหรือนามสกุลลของคุณปริณคะ” นักข่าวอีกสำนักถามต่อ

“จริงหรือเปล่าครับที่ผ่านมาคุณปารมีติดยาแล้วคุณช่วยปิดข่าวให้ ซ้ำยังคอยให้เงินลับๆ กับนักข่าวเพื่อให้ดันปารมีให้มีชื่อเสียงในสายงานบันเทิง”

นักข่าวยังถามไม่หยุดแถมยังเริ่มพาออกนอกประเด็น คุณปรัชรีบเข้ามาขอจบการแถลงการณ์ แต่จู่ๆ นาวมันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากด ผมเดาว่ามันคงต่อสายไปที่เมืองไทยแน่ๆ แล้วก็จริงดังคาด ภาพแม่เมยกมือขึ้นห้ามคุณปรัชและบอกกับนักข่าวว่านาวต่อสายตรงเข้ามาเพื่อต้องการคุยกับพี่นักข่าวๆ ปรากฏในจอโทรทัศน์ นักข่าวพร้อมใจกันเงียบกริบไม่ต่างกับทุกคนที่อยู่ที่นี่ บรรดาเพื่อนๆ ของนาวหันมามองนาวกันทุกคน

“สวัสดีครับพี่สื่อมวลชนที่มาในวันนี้ นาวขอโทษนะครับที่ไม่ได้มาแถลงข่าวด้วยเพราะติดงานสำคัญ นาวเองก็ตกใจเหมือนกันเพราะเพิ่งได้รู้ความจริงทั้งหมด นาวอยากตอบคำถามของพี่ๆ ทุกคน ประเด็นแรกคือ นาวยอมรับในตัวพ่อปริณครับ นาวเข้าใจถึงเหตุผลของท่านทั้งหมดแล้ว มันก็อาจจะต้องใช้เวลาสักนิดที่ต้องปรับตัวกับสถานะใหม่ของผมกับพ่อ แต่มันไม่ใช่เรื่องยากเลยครับเพราะยังไงเราก็คือพ่อลูกกัน” นาวมันพูดผ่านโทรศัพท์

“น้องนาวคะ แล้วน้องนาวจะเปลี่ยนนามสกุลไหมคะ” นักข่าวคนหนึ่งถามขึ้น

“ผมยังตอบไม่ได้ครับ มันไม่ได้สลักสำคัญอะไร ไม่ว่านามสกุลไหนผมคือปารมีคนเดิม เอาเป็นว่า ผมได้เปรียบพวกพี่ๆ แล้วล่ะครับ ผมมีพ่อตั้งสองคน มีทั้งพ่อปริณกับพ่อปิยะ มีแม่อีกสองคน คือแม่เมและแม่พุดซ้อน แถมทุกคนก็รักผมมากด้วย ส่วนเรื่องผมติดยาหรือพ่อจะช่วนดันผมหรือเปล่า ผมว่าผมอยู่ในวงการนี้มานาน พี่ๆ คงรู้จักผมดีพอนะครับ เอ๊ะ ผมเห็นป้ายไฟพ่อปริณลูกนาวสู้ๆ อยู่ที่ด้านหลังพี่ๆ ด้วย ใช่ไหมครับ พ่อของผมจะแย่งแฟนคลับผมแล้วเหรอครับ” นาวมันพูดจบภาพนักข่าวในจอโทรทัศน์ก็หัวเราะกันใหญ่ เสียงแฟนคลับของมันตะโกนรักนาวดังไปหมด บรรยากาศดูผ่อนคลายขึ้นถนัดตา

“ผมต้องขอจบการแถลงข่าวแค่นี้ก่อนนะครับ ผมขอขอบคุณทุกคนอีกครั้งนะครับที่มาในวันนี้” คุณปริณยกมือไหว้ แสงแฟลชและเสียงรัวชัตเตอร์ดังมาอีกครั้ง นาวมันยังไม่ได้วางโทรศัพท์ มันน่าจะคุยกับแม่เมต่อ แต่การถ่ายทอดตัดจบไปแล้ว

“ครับ สบายดีครับ อากาศดีมาก แม่ละครับ แม่ตามมาเที่ยวที่นี่สิครับ อ๋อ พี่ธีมก็ยังแกล้งผมตลอดเลย ได้ครับ  ผมจะรอให้แม่มาจัดการให้นะครับ คิดถึงแม่ครับ เอ่อ..ฝาก..ฝากบอกให้..พ่อ ดูแลตัวเองด้วยนะครับ ครับ สวัสดีครับ” มันวางสายแล้วยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา มันไม่ได้ร้องไห้สะอึกสะอื้น แต่ก็คงกลั้นไม่อยู่ คงรู้สึกซาบซึ้งกับสิ่งที่ได้รับและสิ่งที่ตัวเองทำไป ผมนับถือมันเลย มันเข้มแข็งและมีเหตุผล เพราะมันเป็นแบบนี้ผมถึงถอนตัวจากมันไม่ได้เลย

“นาวมานี่หน่อย” มีนเอาทิชชู่เช็ดน้ำตา ผมยอมปล่อยมือนาวออก มันลุกไปหาเพื่อนมัน เพื่อนมันรุมกันเข้ามากอดกันกลมไม่เว้นแม้แต่ธาร ปกติน้องสาวของผมคนนี้เป็นคนแข็งๆ ก็ยังอดตาแดงๆ ไปด้วยไม่ได้ ธารไปรุมกอดนาวเหมือนอย่างคนอื่นด้วย

“พวกฉันภูมิใจในตัวแกจังไอ้นาว ต่อไปช่วยบอกพ่อแกให้ถ่ายทอดสดทุกนัดที่ฉันแข่งเลยนะ” บูมบอกพร้อมกับตบหลังเพื่อนมัน

“ของานละครฉันเยอะๆ ด้วยนะนาว” ยีนพูดตาม

“ฉันขอร้องเพลงประกอบละครทุกเรื่องที่ไอ้ยีนเล่นแล้วกันนะ” มีนเอาบ้าง

“ฉันขอให้มาอัดเพลงละครที่ไอ้ยีนเล่นแล้วไอ้มีนเป็นคนร้องที่ห้องอัดของฉันแล้วกัน” เกลือร่วมสมทบ

“ฉันขอเพิ่มเวลาให้รายการอาหารพ่อฉันด้วยนะ” บิวที่ดูเรียบร้อยก็ยังเล่นมุกเหมือนคนอื่นไปด้วย

“แกละ จะเอาอะไรไหม” นาวหันไปถามจอม

“ฉันไม่อยากได้อะไรจากพ่อแก” จอมตอบกลับไป

“แกเป็นคนดีนะ” นาวทำหน้าซึ้งส่งให้จอม

“แต่ฉันขอตังแกซื้อกล้องตัวละแสนได้ไหม” จอมพูดต่อ เพื่อนในกลุ่มพากันหัวเราะ ยกเว้นนาวที่ยื่นเบะปากอยู่ตรงกลาง แต่แป๊ปเดียวมันก็ยิ้มเหมือนเดิม

“พวกแกดูรักฉันกันมากและรักเงินฉันกันมากด้วย พวกแกจริงใจสุดๆ ฉันขอนับถือในความละโมลโลภมากที่ติดในกมลสันดานพวกแกจริงๆ เฮ้ย ฮ่าๆๆๆๆๆ ไม่เอา อย่าจั๊กจี้ฉัน ก๊าก ไอ้บูม ไอ้เวร หยุด!”

ผมเห็นพวกเพื่อนๆ แกล้งนาวแล้วก็อดยิ้มตามออกมาไม่ได้ รวมถึงอลันที่ก้มหน้าลอบยิ้มไม่หยุด นั่นยิ่งทำให้ผมต้องทบทวนการตัดสินใจของตัวเอง ผมจะทำยังไงดีให้ทุกอย่างดีสำหรับทุกคน พอนาวมันหนีออกมาจากวงล้อมเพื่อนๆ ได้ก็รีบเข้ามาดึงผมให้ลุกขึ้นแล้วกระโดดขี่หลังผม

“ขี่พานาวขึ้นข้างบนหน่อย รำคาญฝูงไฮยีน่าที่รุมแกล้งนาว” นาวมันบอกกับผม เพื่อนมันตะโกนแซ็วมันอีกรอบ แต่คราวนี้มันไม่ได้หันไปต่อล้อต่อเถียงเหมือนเคย แต่ขยับขาตีสีข้างผมทำเหมือนผมเป็นม้าจริงๆ ผมเลยต้องยอมให้มันขี่หลังขึ้นไปบนห้อง

‘ได้เลย นาวจะได้ขี่พี่สมใจแน่ เจ้ามะนาวต่างดุ๊ด’ ผมนึกในใจนะครับ ขืนพูดไปไก่ตื่นพอดี

ผมพามันขึ้นบนห้องตามคำขอของมัน ห้องที่เราพักกว้างมากๆ เตียงสี่เสามีม่านสีขาวฉลุเป็นลวดลายใบไม้และลายเถาวัลย์ปักด้วยไหมสีทองและสีเขียวสด เฟอร์นิเจอร์สีขาวทำให้ห้องดูสว่างและสะอาดตา มันโดดลงจากตัวผมก็จูงมือผมเข้ามาดูในห้องน้ำ ซึ่งกำแพงห้องเป็นกระจกใสทั้งหมด มองไปเห็นยอดเขาลิบๆ บนยอดเขาลูกนั้นเริ่มมีหิมะปกคลุมเหมือนภูเขาไฟฟูจิของญี่ปุ่นเลย อ่างจากุซชี่ขนาดใหญ่มากตั้งอยู่ตรงกลางของห้อง

“ห้องน้ำยังใหญ่ขนาดนี้ แอบมาสั่งทำเอาไว้ปะ สารภาพมา” นาวมันถามผมพร้อมกับเอามือมาจับคางผมส่ายไปมา

“ถ้าพี่สั่งทำ คงไม่ให้ทำกระจกใสล้อมรอบขนาดนี้หรอก ทำอะไรไม่สะดวก” ผมบอก มันจิ๊ปากก่อนจะโอบเอวผมไว้

“ชีวิตเหมือนฝันเลยพี่ว่าไหม พี่ธีม...พี่ว่าเมื่อกี้นี่นาวทำถูกไหม” มาถามผม

“ถ้าทำแล้วสบายใจมันก็คือสิ่งที่ถูกแล้ว พี่ภูมิใจในตัวนาวนะ”

“พี่ก็เหมือนกันนะ เรื่องของพี่ พี่ก็ต้องเอาที่สบายใจที่สุดนะ มีอะไรพูดกับนาวได้เลย พูดได้หมด นาวจะเข้าใจพี่ทุกอย่าง นาวมั่นใจ”

“อืม ถ้าพี่ไม่สบายใจพี่จะบอก” ผมบอกมัน

“ดี แต่ถ้ามีอะไรอยากปรึกษา นาวก็ยินดีนะ” มันบอกผมอีก ทำหน้าทำตาน่าฟัดมากๆ ผมว่าผมจะไม่ทน

“อืม รู้แล้ว”

“ดี รู้ก็ดี สมมุติว่าพี่ตัดสินใจไม่ถูกก็ลองบอกนาวก็ได้ นาวอาจจะช่วยตัดสินใจได้ดีก็ได้นะ” ผมหัวเราะเลย สรุปคือที่มันทำเป็นหวังดีเพราะมันอยากรู้เรื่องของผม ผมรู้ทางมันแล้ว แต่ผมยังไม่ได้คุยกับมันหรอก มีเรื่องต้องทำก่อนในตอนนี้ เข้าถ้ำหมาอย่าคิดว่าจะออกไปได้ง่ายๆ เลย

“พี่ง๊วงง่วง” ผมบอกมัน มันค้อนให้ผมเลย คงเซ็งที่หลอกถามผมไม่สำเร็จ มันน่ารักจริงๆ นะครับ เวลาทำตาค้อนประหลับประเหลือก ปากยู่ๆ คิ้วขมวด มันดูน่ารักมากๆ ผมรีบจูงมือมันออกมาที่เตียงก่อนจะกระโดดลงไปบนที่นอนนุ่มๆ ตบที่นอนเป็นการบอกว่าให้มันลงมานอนข้างๆ แต่โดยดี มันก็ยอมกระโดดมานอน ผมเลยเอาขาก่ายตัวมันเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหนได้

“ง๊วงง่วงหรือ..ว่า...” มันพูดคาเอาไว้ แต่ผมรู้ว่ามันว่าผม ผมกัดจมูกมันเบาๆ เพราะหมั่นเขี้ยว

“ก็รู้อยู่แล้ว ไม่น่าถาม”

“นาวก็ว่างั้นแหละ ไม่เอาจัดเต็มนะ เอาแค่น้ำจิ้มพอ เดี๋ยวต้องไปดินเนอร์ เข้าใจไหมไอ้หมาหื่น” มันบอก

“ขอรับกระหม่อม เจ้าหญิงว่าไง เจ้าชายก็ว่างั้น”
   
ผมทนความน่ารักของมันไม่ได้แล้ว ปากสีสดที่โต้ตอบผมอยู่ตรงหน้ามันทำให้ผมต้องทาบริมฝีปากของตัวเองลงไปสัมผัส ผมบดเบียดริมฝีปากของตัวเองกับปากนุ่มๆ ของนาวอยู่พักใหญ่ก่อนจะเลื่อนไปซุกไซร้ที่ลำคอที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวของมัน มือของผมก็อยู่ไม่สุขเพราะอดไม่ได้ที่จะสัมผัสทุกตารางนิ้วบนร่างกายนี้ ร่างกายของคนที่ผมหลงรัก นาวมันส่งเสียงฮึมฮัมเบาๆ ผมยิ่งได้ใจอยากจะได้ยินเสียงของนาวให้ดังกว่านี้  ได้ผล..เมื่อผมเคลื่อนริมฝีปากของผมไปครอบครองที่เม็ดน้อยๆ สีทับทิม ที่ชูเด่นอยู่ที่กลางอกขาวเนียน นาวแอ่นอกขึ้นโดยอัตโนมัติหลังจากโดนผมฉกชิมความหวานจากเม็ดทับทิมคู่นั้น

“พี่ธีม..” มันร้องเรียกชื่อของผมแล้วก็กัดริมฝีปาก มือมันจิกอยู่ที่แผ่นหลังของผมจนผมเริ่มรู้สึกแสบ มันคงจะทรมานจากรสสัมผัสของผม ตอนนี้ผมไม่ได้หยุดเพียงแค่ได้ชิมเม็ดทับทิมหวาน ผมกำลังกำลังจะจัดการกับเจ้านาวน้อยที่กำลังตื่นตัวเต็มที่ ทันทีที่ผมสัมผัสเจ้านาวน้อย เจ้าของมันก็บิดกายไปมาพร้อมกับส่งเสียงครวญครางจนดูน่าสงสาร

“ทรมานเหรอ พี่หยุดนะ” ผมแกล้งถามมัน มันมันไม่ยอมสบตาผมแต่ก็ส่ายหน้า ผมนึกขำ จนป่านนี้ยังจะอายผมอยู่อีก ผมเลิกแกล้งแล้วจัดการกับเจ้านาวน้อยตรงหน้าต่อ ผมรักมันเหลือเกิน อยากจะกินกลืนมันทั้งตัวอย่างในเพลงที่ผมร้องให้มันฟัง ไม่อยากให้ใครได้เห็นมันหรือสัมผัสมัน อย่างที่ผมเห็นและสัมผัสมันอยู่ในตอนนี้ ผมทั้งหวงทั้งห่วง อยากกอดมันให้แน่นไม่ให้มันไปไกลจากผมเลย
   
นาวมันเกร็งตัวพร้อมกับส่งเสียงครวญครางดังกว่าเดิมเมื่อผมปรนเปรอมันจนถึงจุดสูงสุดของอารมณ์ ผมดีใจที่ให้ความสุขมันได้ ในฐานะคนรัก ใครบ้างจะไม่อยากทำให้คนรักมีความสุขทั้งทางใจและทางกาย มันเป็นธรรมดาขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าชายหรือคนธรรมดา เป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ถ้าคุณยังเป็นมนุษย์ที่มีจิตใจและมีอารมณ์ความต้องการ เรื่องแบบนี้มันไม่แปลกเลย
   
“ตานาวมั่งนะ” หลังจากที่มันนอนระทวยอยู่ครู่หนึ่ง ตอนนี้มันพลิกตัวมาพูดกับผมด้วยท่าทางทะเล้น ทำอย่างกับว่ามันกำลังจะปล้ำผม ผมได้แต่หัวเราะกับท่าทางขี้เล่นของนาว แบบนี้จะไม่ให้รักได้ยังไง เจ้าตัวแสบกำลังทำอย่างที่ผมทำให้มัน ผมยอมรับว่ามันเรียนรู้ไว มันทำให้อารมณ์ของผมไต่ขึ้นจนแทบทนไม่ได้ อยากจะจับมันกินแบบเต็มขั้นให้รู้แล้วรู้รอด แต่ผมจะรอ รอจนกว่านาวจะพร้อม ผมรอได้ รอมันได้ตลอดชีวิตที่ผมมี
   
“ทำไมไม่เห็นพี่ส่งเสียงร้องมั่งเลย” มันยังชะโงกหน้ามาถามผมในขณะที่ผมกำลังจะถึงจุดหมาย ผมต้องกดหัวมันให้กลับลงไปที่เดิม ได้ยินเสียงมันหัวเราะคิกคักก่อนจะจัดการเจ้ามังกรของผมใหม่ คราวนี้ผมเลยต้องยอมส่งเสียงเบาๆ ให้มันดีใจว่ามันทำได้
ซึ่งเอาตรงๆ นาวมันเก่งครับ แต่ถ้าไปเก่งกับคนอื่นผมเอามันตายแน่ ผมมั่นใจ

สรุปว่า หลังจากภาระกิจบอกรักผ่านภาษากายลุล่วงไปด้วยดีทั้งคู่ เราสองคนยังนอนแกล้งกันไปมา ด้วยความช่างต่อปากต่อคำของมัน มันก็เลยโดนผมพาขึ้นสวรรค์ชั้นน้อยๆ ไปอีกรอบก่อนที่ผมจะพามันไปแช่น้ำอุ่น ผมอาบน้ำให้มัน มันก็ชวนผมคุยไปเรื่อยๆ มันน่ารัก ไม่ใช่ว่าเพราะผมรักมันถึงได้เฝ้าแต่พูดว่ามันน่ารัก ผมเชื่อว่าคนรอบตัวที่ได้ใกล้ชิดมันก็จะรู้สึกเหมือนผม พรุ่งนี้ผมจะลองคุยกับพ่อและแม่ดู ผมจะพาท่านและทัสไปอยู่เมืองไทยด้วยกัน ผมว่าผมสามารถดูแลท่านได้ดีแม้จะในฐานะนายธีรดลคนธรรมดา ผมเห็นการตัดสินใจของนาวที่แสดงต่อพ่อบังเกิดเกล้าในวันนี้ ผมรู้สึกนับถือในหัวใจ ผมรู้ว่าลึกๆ นาวยังไม่ได้รู้สึกยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตมันแบบท่าทางที่มันแสดงออก แต่มันเลือกที่จะทำให้ตัวเองและคนรอบข้างทุกข์ให้น้อยที่สุด เพราะเมื่อทุกข์น้อยลง ความสุขมันคงจะมากขึ้นเอง เห็นทีผมคงต้องเชิญมันมาเป็นที่ปรึกษาปัญหาครอบครัวจริงๆ เสียแล้ว

“พี่รักนาวมากกว่าชีวิตพี่เองอีกนะ...มะนาวต่างดุ๊ดของพี่” ผมบอกมัน มันก็ยิ้มให้ผม

“นาวก็รักหมาธีมของนาวเหมือนกัน พรุ่งนี้นาวจะซื้อกระดูกให้แทะเล่นนะ เฮ้ย..พอแล้ว ไอ้หมาธีม อย่าแทะนมนาว ทะลึ่งแล้ว บอกให้พอไง! อืม..พี่ธีม...”



โปรดรติดตามตอนต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-01-2018 09:44:55 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ minminmin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
อ่านๆไปก็ใจเต้นตึกตักคาดว่าเค้ากำลังจะได้กันแล้ว!!! เย้~~~~~~
.
.
.
 แต่แล้วก็จุดจุดจุด  :z3: เค้ายังไม่ได้กัน เศร้าเลย TT^TT

ออฟไลน์ ciaiwpot

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1098
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
อ๊ายยยยยยยยยยยย
ฟินตอนท้าย
คือตอนหน้านาวคงไม่เหลือแล้วแหละ
ใครกันนะที่ประสงค์ร้าย
ยิ่งอ่านยิ่งเดาไม่ถูกเลย
ปรากฎตัวเดี่ยวนี้

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
 :hao6: นี่ขนาดยังไม่ถึงที่สุด ยังแซ่บขนาดนี้
อีกไม่นาน นาวต้องใจอ่อนให้พี่ธีมแน่ๆ  (นาวก็ใช่ย่อย หื่นพอกัน)


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
 :jul1: :jul1:  น้องนาวน่ารัก น่ารัก  :z3: :z3:  คิดว่าเข้าใจความรู้สึกพี่ธีมแล้วล่ะ แบบนี้ใครจะอดไว้ อย่าลืมนะคะพี่ธีม ตอนกลางจัดเต็ม ฮิๆ  :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม อ่านเรื่องนี้แล้้วมีความสุข

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
เมื่อไหร่นาวจะโดนเสียบอะ อิอิ

ออฟไลน์ andaseen

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 742
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-1
เค้าก็รักมะนาวต่างดุ๊ดกะหมาธีมเหมือนกันนะเอ้อ รักกันสองคนได้งายยยย :mew1: :-[

ออฟไลน์ heaven13

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 569
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
อ่านเรื่อยๆเพลินๆ
ชอบจัง

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
ฟินนนนนนน

อะไรจะมีความสุขเท่าอยู่กับคนที่เรารัก

ถึงอยู่กับเพื่อนจะเฮฮาแต่ถ้าต้องห่างกับคนรักก็ฮาไม่สุดอยู่ดี มันจะ อึน อึน 55555555+

พี่ธีมจะเลือกอะไรปรึกษานาวด้วยเน้อ

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
น้องนาวน่ารัก คิดว่านาวจะอ่อนแอกว่านี้ ที่จริงเข้มแข็งมาก เหมาะกับเจ้าชายมาก
พูดทีบรรยากาศเครียดๆ ผ่อนคลายเลย เพื่อนๆ นาวก็น่ารักฮาแต่ละคนจะเอาโน่นเอานี่ 555
บนเตียงก็แซ่บอีกค่ะ พี่ธีมไม่หลงทนไหวเหรอ ชมน้องน่ารักประโยคเว้นประโยค คนอ่านก็ด้วยค่ะ
ใครคิดร้ายกันนะ อยากรู้

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
บทที่ 27


กาลครั้งหนึ่งของนาว

ถ้าเรื่องเข้าพระเข้านางผมให้ไอ้ธีมมันเล่าดีกว่าครับ ผมไม่ถนัด ผมถนัดแต่เรื่องสวยงาม เรื่องใสๆ ตอนนี้..ผมขอเล่าเรื่องราวชีวิตของผมต่อแล้วกันนะครับ

ก็.....หลังจากที่ผมโดนไอ้หมาธีมนัวเนียจนหนำใจมันแล้ว ผมกับมันก็ลงมานั่งคุยกับเพื่อนๆ ต่อจนถึงเวลาอาหารค่ำ พวกผมแต่งตัวธรรมดาไม่ได้เป็นทางการอะไรมากมาย แต่ก็ดูเรียบร้อยถูกกาลเทศะแน่นอน พวกเราทุกคนไปถึงที่วังใหญ่ก่อนเวลาพอสมควร แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังช้ากว่าบรรดาพระญาติของไอ้โหดที่มากันครบหมดแล้ว และในงานเลี้ยงอาหารค่ำคืนนี้ก็ยังมีคนอื่นมาร่วมด้วย มาคัสกระซิบบอกกับไอ้โหดว่า คนที่มาร่วมงานด้วยคือบรรดาทหารและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ต้องการมาแสดงความยินดีกับไอ้โหดที่มันได้กลับคืนสู่บัณตรา

อาหารค่ำดำเนินไปแบบเรียบง่าย ท่านปู่แนะนำพี่ธีมให้กับบรรดาทหารและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่มาร่วมงานได้รู้จัก ทุกคนดูชื่นชมมันอย่างออกนอกหน้าจนผมแปลกใจ จะว่าไปมันไม่ได้มีส่วนร่วมในการปราบปรามกบฏด้วยสักหน่อย แต่ทำไมทุกคนดูให้ความสำคัญกับมัน ราวกับมันคือผู้ที่ยึดอำนาจคืนมาได้ ผมว่ามันคงคิดเหมือนผม ระหว่างที่ผมกำลังคิดอะไรเพลินๆ ก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อไอ้เกลือสะกิดผม

“องค์ราชินีทรงคุยกับแกอะไอ้นาว เหม่ออยู่ได้” ไอ้เกลือกระซิบบอก ผมรู้ตัวเลยว่าตัวเองหน้าเหวอมาก ผมมัวแต่มโนอยู่ เลยไม่ได้ยินว่าท่านรับสั่งอะไร แต่เหมือนท่านย่าของไอ้โหดมันจะรู้ว่าผมสติหายอยู่เลยพูดซ้ำประโยคที่ผมไม่ตั้งใจฟัง

“ประชาชนที่นี่ชื่นชอบหนูปารมีมาก ได้มาเจอตัวจริงวันนี้ก็ไม่แปลกใจเลย ลูกชายคุณปริณหล่อเหลาสมคำร่ำลือ” ย่าของพี่ธีมพูดจบทุกสายตาในวงสนทนาก็หันมามองผม ‘สมคำร่ำลือ’ ผมฟังแล้วได้แต่คิดว่าผมเป็นที่รู้จักขนาดนั้นเชียวเหรอ ผมได้แต่โค้งคำนับแทนคำขอบคุณ ผมลืมบอกไปว่า พวกเราสนทนากันโดยใช้ภาษาอังกฤษ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่อยู่ในงานนี้จะพูดภาษาไทยได้ แล้วพวกผมก็ไม่เข้าใจภาษาของบัณตรา เราจึงต้องใช้ภาษากลางที่ทั้งสองฝ่ายจะสื่อสารกันเข้าใจ

“ที่นี่ไม่มีละคร ไม่มีรายการบันเทิงมานานแล้ว มีแต่ข่าวทั่วไป ยิ่งช่วงที่พวกกบฏครองอำนาจ ชาวบัณตราไม่สามารถรับสื่อใดๆ จากภายนอกได้เลย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีการนำของจากเมืองไทยเข้ามาขาย เช่นพวกแผ่นวีซีดีละครหรือรายการบันเทิงต่างๆ คนที่นำเข้ามาก็เป็นพวกทหารที่ได้มีโอกาสเดินทางไปที่เมืองไทย พวกนั้นมักจะหารายได้เสริมเอาแบบนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก มีเพียงเมืองไทยที่ทางเรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เป็นเหมือนบ้านพี่เมืองน้อง” เจ้าชายมิคาเอลอธิบายเพิ่ม พวกผมก็พยักหน้ารับรู้ แบบนี้นี่เองคนที่นี่ถึงรู้จักผมและดูจะคุ้นเคยกับเรื่องของประเทศไทย

“ไม่คิดจะทำละครหรือรายการบันเทิงเองหรือครับ” ไอ้บูมครับที่ถามเจ้าชายมิคาเอล มันกล้ามาก ผมเห็นสายตาบรรดานายทหารที่มายืนอยู่ในวงสนทนาด้วยก็เกร็งจนฉี่จะปริบแล้ว แต่ไอ้บูมมันกลับดูสบายๆ ผมเห็นสาวสูงวัยคนหนึ่งมองไอ้บูมแล้วก็ส่งยิ้มให้มันตลอด มันได้ดูดวงมารึเปล่าวะ มันอาจจะมีดวงเสียพรหมจรรย์ให้สาวสูงวัย

“สนใจสิ เราสนใจมาก ท่านย่าก็คิดเช่นนั้นใช่หรือไหมครับ” เจ้าชายมิคาเอลพูดก่อนจะหันไปถามองค์ราชินี

“อืม เราสนใจมาก เห็นทีจะต้องเชิญคุณปริณมาเป็นที่ปรึกษา แล้วหนูปารมีสนใจจะมาเป็นพระเอกละครเรื่องแรกของบัณตราหรือไม่” ย่าของพี่ธีมหันมาถามผม ผมแอบเหลือบมองพี่ธีม เห็นมันเอาแต่ยิ้ม แต่คนที่นั่งข้างมันดูจะเอาใจใส่มันเหลือเกิน ชวนมันคุย จิ้มโน้นจิ้มนี้ให้มันตลอด จิ้มอาหารนะครับ ไม่ใช่ใครที่ไหน ผู้นั้นก็คือเจ้าหญิงตังเมคนเดิมที่เพิ่มเติมคือการแสดงความเป็นเจ้าของ ถึงผมจะรู้ว่าไอ้โหดไม่ได้คิดอะไรแต่ก็อดรำคาญสายตาไม่ได้

“ถ้าเห็นว่ากระหม่อมเหมาะสมกับบทก็ยินดีขอรับ” ผมตอบเป็นภาษาไทย เพราะองค์ราชินีหันมาพูดภาษาไทยกับผม

“พูดธรรมดาเถอะ คนกันเองทั้งนั้น” องค์เหนือหัวรับสั่งกับผมเสร็จก็เรียกนางข้าหลวงให้มาเสิร์ฟอาหารต่อ

“ถูกปากไหม..น้องนาว” เจ้าชายมิคาเอลถามผม คำว่าน้องนาวดูเสียงอ่อนเสียงหวานชอบกล แต่พูดกับผมจบก็หันไปยิ้มให้ธาร แต่ธารทำเมินใส่เจ้าชาย ผมว่าเจ้าชายมีออร่าความเจ้าชู้อย่างที่ธารบอกจริงๆ ดูมองใครก็ตาเยิ้มไปหมด

“ว่าไง ถูกปากไหม” เจ้าชายมิคาเอลถามซ้ำ

ผมยังจำศัพท์ที่อลันสอนผมได้ คำว่า ‘อร่อยมาก’ อลันสอนตอนที่ผมอยากบอกกับป้าคนขายไอศกรีมไงครับว่าอร่อยมาก ตอนนี้เลยอยากโชว์นิดหนึ่งว่าผมพูดภาษาบัณตราได้ เอาซี๊ ต้องให้รู้ว่าผมก็ใส่ใจประเทศนี้ ไม่ใช่แค่สนใจเจ้าชายหมาธีมอย่างเดียว

“เออโรมันโย มาตาอาคา” ผมพูดจบก็ยิ้ม เสียงสนทนาบนโต๊ะเงียบกริบ

“คิ...คิกๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ” มิเชลหลุดหัวเราะมาหน่อยนึง แต่สุดท้ายก็ปล่อยหัวเราะออกมาอย่างเปิดเผย

จากนั้นผมก็เห็นว่าคนในโต๊ะต่างก็พาก็หัวเราะกันหมด รวมถึงปู่และย่าของไอ้โหดด้วย คงมีแต่พวกเพื่อนๆ ผมที่นั่งทำหน้าเป็นหมางงไม่ต่างจากผมเลย เพราะพวกมันก็คงไม่เข้าใจว่าผมพูดอะไรไป ผมหันไปมองอลัน อลันทำหน้าเสียก่อนจะยกมือขึ้นไหว้ผม ผมเลยรู้ได้ทันทีว่าคงจะโดนอลันแกล้งเข้าให้แล้ว ผมเหมือนตัวตลกมากเลยในตอนนี้

แต่ยังมีอีกหนึ่งคนนอกจากกลุ่มเพื่อนผมที่ไม่ได้ขำตามคนอื่นไปด้วย คนผู้นั้นก็คือเจ้าชายแอชตัน ผมนึกขอบคุณที่เจ้าชายคนนี้ยิ้มยากก็ตอนนี้แหละครับ ผมนี่แทบอยากมุดหน้าลงใต้โต๊ะให้รู้แล้วรู้รอด สรุปว่า..ไอ้เออโรมันโยมาตาอาคา มันแปลว่าอะไรกันแน่

“ไปหัดมาจากไหนจ๊ะ” แม่ของพี่ธีมถามผมเป็นภาษาไทยก่อนจะส่งยิ้มให้ผม ผมมองหน้าพี่ธีม ดูมันก็เริ่มไม่พอใจที่คนอื่นพากันหัวเราะเยาะผม ผมส่งสายตาบอกมันว่าไม่เป็นไร หวังว่ามันคงจะเข้าใจนะ ผมไม่อยากให้บรรยากาศมาคุ ยอมเป็นตัวตลกไปเสียดีกว่า

“เอ่อ คือ..ผมขอโทษครับ..ผมคงจำผิดมา คือ ผม...”

“ไม่เห็นจะน่าตลกตรงไหน การหัวเราะเยาะแขกที่พยายามให้เกียรติด้วยการใช้ภาษาของเรา มันเสียมารยาทมากนัก”

สิ้นประโยคนี้คนทั้งโต๊ะก็เงียบกริบ ต้องบอกว่า..คนทั้งห้องสิถึงจะถูก เงียบชนิดว่ามดจามยังได้ยิน คิดดูนะครับ ขนาดองค์เหนือหัวสเตฟานและองค์ราชินีเองก็ยังเงียบ เพราะฉะนั้นไม่ต้องพูดถึงคนอื่น แต่ผมไม่เข้าใจเพราะคนพูด พูดเป็นภาษาบัณตรา ผมอยากจะกินวุ้นแปลภาษาจริงๆ ว่าเจ้าชายแอชตันพูดอะไรออกไป ทำไมทุกคนถึงได้หยุดหัวเราะแล้วเงียบกันหมด

“เราอิ่มแล้ว ขอตัวก่อน” เจ้าชายแอชตันพูดต่อหลังจากที่พูดประโยคดุดันเมื่อครู่ออกมา ผมเห็นเจ้าชายแอชตันจ้องมองมองเจ้าหญิงมิเชลตาเขม็ง คนถูกมองก็เริ่มจะตาแดงๆก่อนจะเงยหน้าหันมามองผม

“เราขอโทษ เราไม่ได้ตั้งใจหัวเราะออกมา” มิเชลเอ่ยขอโทษผมเสียงเบา ส่วนเจ้าชายแอชตันเห็นมิเชลพูดขอโทษผมแล้วก็วางผ้าเช็ดปากลงก่อนจะเดินออกจากห้องไปโดยมีมาคัสและองค์รักษ์ร่วมสิบคนเดินตามไปด้วย บรรยากาศที่ตึงเครียดเมื่อครู่ดูผ่อนคลายลงไปถนัดตาเมื่อเจ้าชายหน้าดุเดินออกจากห้องไป ถ้าผมไม่ได้มโนเอาเอง เจ้าชายแอชตันคงช่วยแก้หน้าให้ผมใช่ไหม ไม่เช่นนั้นมิเชลคงไม่ขอโทษผม

“ไม่เป็นไรครับ” ผมบอกกับมิเชล

“เราก็ต้องขอโทษด้วยนะ เราเสียมารยาทไปจริงๆ” ท่านปู่ของไอ้โหดตรัสกับผมบ้าง พอได้ยินองค์เหนือหัวพูดกับผมแบบนี้ ผมค่อนข้างมั่นใจแล้วว่าเจ้าชายแอชตันคงจะตำหนิทุกคนที่หัวเราะผม

“ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่..ที่ผมพูดไปเมื่อครู่ มันแปลว่าอะไรเหรอครับ” ผมถามเพราะอยากรู้ ทุกคนดูอึกอัก สุดท้ายคนที่ตอบคือเจ้าชายมิคาเอล

“แปลว่า ผมชอบกินทุกอย่างที่ขวางหน้าครับ” พอเจ้าชายพูดจบ คนในบัณตราก็ไม่กล้าหัวเราะอีก แต่...บรรดาไอ้ฝูงไฮยีน่าเพื่อนของผมก็ระเบิดเสียงหัวเราะขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ ไอ้โหดเองมันคงไม่กล้าขำ แต่หน้ามันเหมือนคนทุรนทุรายแบบจะหัวเราะก็ไม่กล้าแต่ก็กลั้นแทบไม่ไหว แม่งไอ้หมาธีม...หัวเราะมาเหอะ ผมทรมานแทนมัน มันคงกลัวผมงอนมันล่ะสิ

คราวนี้ผมหันไปมองอลันคนที่สอนประโยคนี้กับผมอีกครั้ง คนถูกมองหน้าซีดเป็นไก่ต้ม สักพักผมก็ระเบิดเสียงหัวเราะตามเพื่อนๆ ผม อลันหน้าเอ๋อไปเลย คงไม่คิดว่าผมจะหัวเราะ ทุกคนในห้องก็ทำหน้างงกันยกใหญ่ที่เห็นผมกับเพื่อนหัวเราะกันจนหน้าดำหน้าแดง โธ่..ผมไม่โกรธหรอกครับ ตอนแรกนึกว่ามันเป็นคำสัปดนเสียอีก พอเข้าใจคำแปลผมก็เข้าใจว่าทำไมทุกคนถึงได้ขำ

หนอย อลัน!! บังอาจมาแกล้งมะนาวต่างดุ๊ดคนนี้เหรอ คิดจะเอาคืนผมละซี๊ อย่าคิดว่าคนอย่างไอ้มะนาวจะใจดีนะอลัน พรุ่งนี้ผมจะประกาศสงครามกับนายทหารหน้าอ่อนคนนี้ ผมนึกในใจแล้วก็ขำตัวเองต่อจนเหนื่อย

บรรยากาศที่ดูตึงเครียดกลับมาสดใสเหมือนเดิม องค์เหนือหัวทรงชวนคุยและเล่าเรื่องขำๆ ของภาษาบัณตราต่อจนพวกผมขำกับไม่หยุด จากนั้นทุกคนก็ย้ายไปคุยกันต่อในห้องรับแขกอีกห้องเพื่อทานชาและขนม ท่านย่าและท่านแม่ของไอ้โหดก็ชวนผมกับไอ้ยีนคุยเรื่องละคร เจ้าชายมิคาเอลก็คุยอยู่กับธารและไอ้มีน ส่วนไอ้โหด ไอ้เกลือ ไอ้บูม ไอ้จอม คุยกับนายทหารชั้นผู้ใหญ่สองสามคนอย่างออกรส ผมไม่รู้เขาคุยเรื่องอะไรกัน อยากเม้าด้วยมากเลยแต่ยังหาช่องทางไปจากตรงนี้ไม่ได้ ว่าแต่ผมไม่เห็นไอ้บิวเลย มันหายไปไหนไม่รู้ ผมมองหาไอ้บิวจนสายตาไปหยุดอยู่คนๆ หนึ่ง คนที่นั่งเงียบอยู่ตรงมุมห้อง ซึ่งก็คือเจ้าหญิงมิเชล ผมจึงขอตัวออกมาหาเธอ

“ไม่ดื่มชาเหรอ” ผมถาม ไม่รู้จะชวนคุยอะไรดี

“ไม่ เราไม่ชอบ” มิเชบตอบเสียงห้วนๆ

“นาวทำอะไรให้มิเชลไม่พอใจก็บอกนะ” ผมถามตรงๆ มิเชลได้ยินก็หน้าเจื่อนไปนิดหนึ่งก่อนจะส่ายหน้า

“ไม่ต้องสงสารเราหรอก ไม่ต้องมาชวนเราคุย เราเหมือนหมาหัวเน่าจนชินแล้ว” มิเชลบอก

“ทีแรกก็ไม่ได้สงสาร แต่จะสงสารตอนที่มิเชลบอกว่าตัวเองเป็นหมาหัวเน่านี่แหละ” ผมพูดจบมิเชลก็เงยหน้าขึ้นมามองผมแบบไม่พอใจ ก่อนจะหันหน้าหนีไป

“พรุ่งนี้พวกเราจะไปเที่ยวชายหาด อยากไปลองเล่นเซิร์ฟ ไปด้วยกันไหม อยู่คนเดียวหัวจะเน่าหนักกว่าเดิมนะ” ผมบอก มิเชลค้อนผมแล้วเงียบไป

“เราเป็นเพื่อนกันได้นะ ไม่เห็นจำเป็นต้องเป็นศัตรูกันเลย เคืองเราเรื่องของพี่ธีมเหรอ เราไม่ห้ามมิเชลหรอกนะถ้าจะรู้สึกอะไรกับพี่ธีม เพราะเรื่องแบบนี้มันห้ามกันไม่ได้ แต่มิเชลจะห้ามเรากับพี่ธีมให้เลิกรักกันไม่ได้เหมือนกัน เข้าใจนะ ถ้าจะไป พรุ่งนี้มาที่วังขาวหลังอาหารเช้าแล้วกัน” ผมพูดจบก็หันหลังเตรียมจะเดินออกไป ผมรู้ว่ามิเชลรู้เรื่องของผมกับพี่ธีม ผมก็อยากจะพูดกับเธอตรงๆ ยังไม่ทันที่ผมจะได้เดินไปข้อมือของผมถูกมิเชลดึงเอาไว้ ผมหันกลับไปมอง เห็นมิเชลเอาแต่ก้มหน้าแต่มือของมิเชลก็ยังดึงมือผมเอาไว้

“เราไม่ได้..ไม่ได้ชอบพี่ธีม เราเป็นน้องสาว จะคิดแบบนั้นได้ไง” มิเชลบอก ผมไม่รู้ว่ามิเชลคิดอย่างที่บอกจริงๆหรือเปล่า

“อ๋อ ครับ” ผมตอบได้แค่นั้น เพราะไม่รู้จะพูดว่าอะไรต่อ มิเชลปล่อยมือผมแล้วลุกขึ้นเดินออกจากห้องไปเลย ผมเกาหัวงงๆ ก่อนจะเดินกลับไปสมทบกับกลุ่มของพี่ธีม

“กลับกันไหม” ผมกระซิบถามพี่ธีม มันพยักหน้าให้ผมก่อนจะพาพวกผมเดินไปไปกล่าวลาบรรดาพระญาติและเหล่าทหาร ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทุกคน แล้วงานเลี้ยงก็เลิกราและจบลงด้วยดีไปอีกหนึ่งวัน


เมื่อคืน..เมื่อกลับมาถึงวังขาวแล้วพวกผมก็ยังมานั่งคุยกันต่อจนเกือบตีสาม ส่วนไอ้บิวกลับเข้ามาก็ประมาณตีหนึ่งกว่าๆ มันบอกว่ามันไปดูที่ทำงานมันมาครับ มันบอกว่าแอบไปดูพวกห้องเครื่องเขาเตรียมอาหารกัน แต่ผมอยากบอกมันว่า มันโกหกไม่เนียนเลย ห้องเครื่องประเทศไหนเขาจะเปิดถึงตีหนึ่งแข่งกับเซเว่น แต่ก็ไม่อยากจะกดดันมัน ถ้ามันโกหก แปลว่ายังไม่อยากให้ใครรู้ คุยกันจนเริ่มง่วงก็แยกย้ายกลับขึ้นห้องไปอาบน้ำให้ท่า เฮ้ย ไม่ใช่ อาบน้ำอาบท่า! เสร็จแล้วผมก็หลับสนิทเลย มันเพลียนี่ครับ ผมหลับยาวจนเช้าก็ยังไม่อยากตื่น แต่ก็ต้องตื่นเพราะถูกหมาเลียปากอยู่

“นาวง่วงนะ” ผมงัวเงียบอกหมาตัวที่กำลังวุ่นวายอยู่กับปากผม ท่าทางมันจะเป็นหมากลับชาติมาเกิดจริงๆ เลียปากผมอยู่ได้ ผมก็เพลินไปสิ เอ้ย ไม่ใช่ ผมก็รำคาญนะ

“เช้าแล้ว ตื่นสิ” มันบอกก่อนจะหอมแก้มผมอีก

“อีกหน่อยนะ” ผมอ้อนมัน

“อ๋อ ได้” มันจูบผมอีกจนผมต้องหันหน้าหนี

“หมายถึงจะนอนอีกหน่อย ไม่ใช่จูบอีกหน่อย ไอ้หมาหื่น” ผมโวยวายมัน

“อ้าว พี่นึกว่าติดใจ ให้จูบอีกหน่อย”

“จิ๊” ผมส่งเสียงรำคาญมัน มันก็หอมแก้มผมต่อ หอมเบาๆ แต่ก็หอมไม่เลิก

หึ..จะเล่นงี้ใช่ไหมไอ้หมาธีม ผมลืมตาแล้วพลิกตัวขึ้นไปนอนทับมัน เอามือจับแก้มมันทั้งสองข้าง แล้ว จูบรัวๆ จูบปาก จูบตา จูบแก้ม จูบคาง จูบหน้าผาก จูบจมูก จูบเสร็จก็จับหัวมันโขกหมอนเล่นอีก มันหัวเราะลั่นเลย..ไอ้หมาซาดิสเอ้ย

“แกมันเสพติดความรุนแรง” ผมด่ามัน มันกดท้ายทอยผมให้ลงมารับจูบมัน

“เสพติดนาวรุนแรงมากกว่า”

“เป็นแบบนี้ให้ตลอดด้วยนะ เสพติดก็ต้องติดให้ตลอด” ผมกลัวมันจะหลงผมแค่ช่วงแรก ซึ่งเป็นปกติของคนส่วนใหญ่ อะไรใหม่ๆ ก็เห่อทั้งนั้น

“บอกตัวเองเหอะ” มันย้อนมาว่าผม

“พี่ก็ต้องทำตัวดีๆ อย่าให้นาวเบื่อ เข้าใจไหม” ผมยักคิ้วให้มัน มันเลยกัดปากผมเบาๆ ไอ้หมาธีมชอบหมั่นเขี้ยวรุนแรงทุกที เห็นท่าว่า..ถ้ายังนอนนัวเนียกับมันแบบนี้ ผมคงไม่ได้กินข้าวเช้าแน่ๆ

“ไปอาบน้ำ พี่ไปอาบก่อน สายแล้วเดี๋ยววันนี้ไปเที่ยวทะเลนะ เร็วๆ” ผมไล่มันให้มันไปอาบก่อน ผมจะได้แอบงีบอีกนิด

“อาบพร้อมกันเลย เพราะถ้าพี่ไปอาบก่อนนาวนอนต่อแน่ แล้วปลุกก็ยาก” มันบ่น แม่ม เจือกรู้ทันอีก

“งั้นอาบอย่างเดียวนะ ห้ามนัวเนียนาว” ผมกำชับมัน มันไม่ได้ตอบแต่ลุกขึ้นดึงผมไปอาบน้ำพร้อมกับมัน

ผมไม่คิดว่ามันจะยอมอยู่เฉยหรอก ความหื่นระดับแอดวานซ์แบบอันลิมิเต็ดมีหรือที่มันจะยอม แต่ปรากฏว่ามันไม่ได้กระทำการใดๆ ที่เป็นการแทะโลมผมเลยจนอาบน้ำเสร็จ มันแค่บีบยาสีฟันให้ แถมยังมานั่งสั่งผมให้อ้าปากอีก ผมโวยวายว่าแปรงฟันเองได้ แต่มันก็ดุให้ผมนั่งเฉยๆ ผมขำมันนะที่ทำอย่างกับผมเป็นเด็กๆ แต่ก็ขี้เกียจขัดใจมัน มันแปรงฟันให้ผม แทงซ้ายแทงขวา ทุกซอกทุกมุมแถมยังแปรงลิ้นให้ด้วย ดูมันตั้งใจมากๆ เลยครับ แล้วก็ฟอกตัวให้ผม ทุกซอกทุกมุมจนหอมไปทั้งตัว เกือบจะซาบซึ้งถึงขีดสุดแล้ว เกือบจะรู้สึกผิดที่ไปคิดว่ามันหื่นตลอดเวลาถ้ามันไม่พูดอะไรออกมาในขณะที่เช็ดตัวให้ผมเสียก่อน

“มาเช็คหน่อยว่าสะอาดยัง” แล้วมันก็จูบผม ลิ้นมันนี่ชิมไปทั่วปากผมเลย จากนั้นมันก็หอมซอกคอ หอมไปทั่วตัวจนมันพอใจแล้วถึงได้ลุกขึ้นมายิ้มให้ผม หึ สุดท้ายก็โดนมันแทะโลมอยู่ดี ซึ่งผมด่ามันไม่ได้ด้วย เพราะตอนอาบน้ำมันไม่ได้ทำอะไรผมจริงๆ มันมาเจ๊าะแจ๊ะผมตอนอาบเสร็จแล้วต่างหาก มันไม่ผิด

“พี่นี่นะ ทำดีหวังผลตลอด” ผมบ่นมัน มันหยิบเสื้อมาสวมให้ผม วันนี้อากาศไม่หนาวเท่าไหร่แต่มีลมแรงพอควร เมื่อวานมาคัสบอกพวกผมว่าวันนี้น่าจะมีคลื่นลมดี เหมาะกับจะพาพวกผมไปเล่นเซิร์ฟ

“เมื่อวานนาวคุยอะไรกับมิเชล” มันถามผม นึกว่าไม่เห็นเสียอีก ผมเห็นมันคุยกับกลุ่มนายพลนั่นตั้งนาน

“ก็ไปชวนคุย เห็นนั่งคนเดียว เลยชวนไปเที่ยวด้วยกันวันนี้อะ” ผมบอกมัน

“รู้รึเปล่าว่ามิเชลไม่ใช่ลูกของท่านอาโมนัฟกับอานงนุช” มันถามผม ผมส่ายหน้า รู้สึกสนใจกับข้อมูลใหม่ที่ได้รับ ผมไม่ใช่คนขี้เสือกนะ แค่เป็นคนตั้งใจฟังเวลาที่คนอื่นพูด

“แสดงว่ามิเชลไม่ใช่น้องแท้ๆ ของเจ้าชายมิคาเอลกับเจ้าชายแอชตันเหรอ” ผมถาม

“อืม มิเชลเป็นลูกสาวคนเดียวของท่านอาแฮแทน น้องสาวคนเล็กของพ่อพี่” พี่ธีมเล่าต่อ ผมได้ยินก็นึกไปถึงสวนสวยหลังม่านน้ำตกที่มาคัสพาผมไปดู เจ้าหญิงแฮแทนทำสวนดอกไม้แห่งนั้นเอาไว้ให้ลูกสาวซึ่งคือมิเชลนี่เอง

“อ้าว..แล้วพ่อของมิเชลล่ะ” ผมถามไอ้โหดแล้วก็เป็นฝ่ายติดกระดุมเสื้อให้มันบ้าง

“พ่อของมิเชลคือทารัส ซึ่งเป็นสามีของท่านอานาตาลี อานาตาลีก็คือน้องสาวคนที่สามของพ่อพี่ไง เป็นพี่สาวแท้ๆของอาแฮแทน” มันอธิบายให้ผมฟังจบผมก็อึ้งไปเลย เงยหน้าขึ้นไปมองมัน มันก้มลงมาหอมหน้าผากผมแล้วถึงเล่าต่อ ได้แทะโลมนิดนึงก็เอานะไอ้หมาธีม

“อาแฮแทนรักกันกับทารัสมาก่อน แต่ตามประเพณีทารัสคือคู่หมั้นคู่หมายของอานาตาลี ทารัสกลัวตัวเองจะถูกปลดออกตระกูลหากไม่ยอมแต่งกับอานาตาลี ทารัสเลยยอมทิ้งอาแฮแทนเพื่อมาแต่งกับอานาตาลี แต่เมื่อแต่งงานไปแล้วก็ยังแอบกลับคบหากับอาแฮแทนลับๆ จนตั้งท้องมิเชล ท่านปู่โกรธมากเพราะไม่รู้ว่าอาแฮแทนท้องกับใคร อาแฮแทนพยายามจะฆ่าตัวตายพร้อมกับลูกในท้องเพื่อลบล้างความผิด แต่ทารัสไม่ยอม สุดท้ายก็ก่อการกบฏจนสำเร็จและแต่งตั้งอาแฮแทนขึ้นมาเป็นภรรยาอีกคน”

“แม่ของพี่เล่าให้ฟังเหรอ” ผมถาม มันพยักหน้า

“แล้วที่แม่เมเคยเล่าว่า เจ้าหญิงทั้งสองถูกวางยาพิษจนตาย ใครวางยาพิษกัน ทารัสเหรอ ถ้าทารัสรักแม่ของมิเชล ทำไมถึงวางยาล่ะ” ผมถามไอ้โหด ฟังแล้วก็ยิ่งนึกสงสารมิเชล ไม่รู้ว่ารู้เรื่องของตัวเองรึเปล่า ถ้าผมเป็นมิเชลคงอยู่ยากแน่ๆ

“หลังจากที่ก่อกบฏยึดอำนาจมาได้สำเร็จ มันประกาศกับประชาชนว่าท่านปู่กับท่านย่าและพ่อของพี่เป็นโรคติดต่อขั้นรุนแรง ซึ่งทั้งสามพระองค์ได้รับเชื้อมาจากการเสด็จเยือนหมู่บ้านบนเขา ทารัสแต่งตั้งอาโมนัฟขึ้นมาเป็นกษัตริย์แต่ในนาม แต่อำนาจอยู่กับมัน อานาตาลีโดนทารัสวางยาพิษหวังให้ตายเพื่อจะได้ยกอาแฮแทนขึ้นมาเป็นภรรยาเพียงหนึ่งเดียว อาแฮแทนทนกับความเลวของทารัสที่ทำกับพ่อแม่พี่น้องของตัวเองไม่ได้จึงวางยาพิษให้ทารัสกินทุกวัน เป็นยาพิษที่สกัดจากต้นไม้พิษที่ท่านอาปลูกขึ้นมาเอง ไร้สี ไร้กลิ่น ด้วยความรักที่ทารัสมีให้อาแฮแทนเลยไม่ได้ระแวงอะไร จนร่างกายค่อยๆ ทรุดโทรมลงและเริ่มเพ้อเหมือนคนคุ้มดีคุ้มร้าย ใครๆ ต่างก็เข้าหน้ามันไม่ติด

“แล้วไงต่อ เล่าเร็วๆ” ผมเร่งพี่ธีมเมื่อมันหยุดเล่าแล้วมาหอมแก้มผมอีก

“ส่วนเจ้าชายมิคาเอลกับเจ้าชายแอชตันที่ถูกส่งไปอยู่ในค่ายทหารตั้งแต่ยังเล็กเพื่อเป็นตัวประกันไม่ให้ท่านอาโมนัฟกระด้างกระเดื้อง คนเก่าคนแก่ที่ยังจงรักภัคดีกับท่านปู่เลยช่วยดูแลและฝึกการต่อสู้ให้ทั้งสองคน เจ้าชายแอชตันเป็นคนมีความสามารถจนเป็นที่ยอมรับของเหล่าทหารในค่ายโดยที่ทารัสไม่ได้ระแคะระคายอะไร กอปรกับทารัสเริ่มป่วยด้วยพิษของยาความเข้มงวดจึงลดน้อยลง หลายปีที่มิคาเอลและแอชตันอยู่ในค่ายจนโตเป็นหนุ่ม ทั้งคู่ก็สะสมกองกำลังของตัวเองได้และติดต่อหาคนช่วยสนับสนุนเรื่องเงินซื้ออาวุธที่จะใช้ยึดอำนาจกลับมาได้ ทั้งคู่ยึดอำนาจคืนมาได้ในที่สุด ทั้งคู่ช่วยกันฟื้นฟูประเทศต่ออีกหลายปีจนสวยงามเหมือนที่เราเห็น”

“แล้วใครวางยาเจ้าหญิงแฮแทนละ”

“ท่านดื่มยาพิษด้วยตัวเอง ท่านรู้ว่าทารัสรักท่านมาก ท่านเองก็รักทารัสมาก แต่ก็ทนให้ทารัสทำแบบนี้กับคนในครอบครัวไม่ได้จึงยอมตาย”

“เฮ้อ...ความรักมันร้ายกว่าสิ่งใดๆ เลยนะ ถ้าพี่เป็นอาทารัสจะทำแบบนั้นไหม”

“ไม่ พี่คงยอมโดนปลดออกจากตระกูลตั้งแต่แรกแล้ว ในชีวิตของพี่ พี่ไม่ได้อยากอะไรเลย นอกจากนาว” มันบอกผม ผมยิ้มให้มันก่อนจะเขย่งเท้าขึ้นเพื่อจะโอบรอบคอมันเอาไว้  วางคางบนไหล่ของมัน ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะเขย่งทำไมให้เมื่อย แต่อยากโอบกอดมันเหมือนอย่างที่มันชอบกอดผมบ่อยๆ ผมรู้สึกดีและคิดว่ามันก็น่าจะรู้สึกเหมือนกัน ผมเลยเป็นฝ่ายกอดมันก่อน แต่มันดันสูงกว่าผมไง ผมเลยต้องเขย่งเท้าน่ะสิ

“ที่พี่เล่าให้นาวฟังเพราะอยากให้นาวเห็นใจมิเชลใช่ไหม อีกอย่าง พี่จะบอกว่า เจ้าชายมิคาเอลกับเจ้าชายแอชตันเสียสละชีวิตมากกว่าพี่ สมควรจะได้ครองราชย์มากกว่าพี่..ถูกไหม พี่ไม่ได้อยากได้รับตำแหน่ง ไม่อยากเป็นเจ้าชายแค่อยากมีนาว ใช่ไหม เอาดีๆ พี่อยากจะพูดอะไรกับนาว” ผมถามมัน สีหน้าของพี่ธีมในตอนนี้มันแสดงออกว่ามันทึ่งที่ผมรู้ทันมัน มันโอบเอวผมแล้วยกตัวผมจนขาลอยจากพื้น เดินไปจนถึงเตียงมันวางผมลง จับผมนั่งแล้วมันก็นั่งข้างๆ เหมือนจะพูดอะไรบางอย่างกับผม แต่...



       
โปรดติดตามตอนต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-02-2018 13:38:58 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
ไปคุยกับพี่ธีมก่อนนะนาว อย่าเพิ่งประชุมแล้วทำอะไรแปลกๆ

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
เอาแหล่ววว ชีวิตเริ่มไม่ง่าย นาวเครียด

ภาคีขุนทองออกปฏิบัติการ แล้วจะทำยังไง

ห้ามจบจนกว่าน้องนาวจะโดนตีเมืองนะคะ  :hao6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ QueenPedGabGab

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 311
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
ภาคีนกขุนทอง 55555555555

ออฟไลน์ Mokuchi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ดูเหมือนเรื่องจะซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ พี่ธีมจะจัดการยังไงเนี้ย อุปสรรคนี้ช่างยากนัก  :hao5:
ปล.ชอบอลันจัง น่ารักน่าแกล้ง5555  :hao7:

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
พี่ธีมคะ ปล่อยน้องนาวรอดไปได้ยังไงคพ
:hao6: :hao6:   แล้วน้องนาวอาจจะได้เป็นองค์ราชินีองค์ต่อไปแล้ว  :laugh: :laugh:

เค้ามารอคนเขียนที่เล้าทุกวันเลยนะ :กอด1: :man1:

ออฟไลน์ ciaiwpot

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1098
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
แล้วจะยังไงต่อละที่นี้น้องนาว
ที่ว่าพี่ธีมจะสละตำแหน่งก็ยิ่งยากเข้าไปอีก
ไม่เป็นไร
เรื่องนั้นไว้ทีหลัง
พี่ธีมน่ารักเกินไปแล้วนะ
ชอบพี่ธีมจังงงงงงงงง

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
นาวน่ารักมากกกกกกก

แล่วๆๆๆ ยังไงเนี่ยพี่ธีม เอาให้เคลียร์!!

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
งานเข้าแล้วนาว

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
เรียกประชุมเร็ว

วาระเร่งด่วน !!!!

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ไม่อยากให้จบเลย.    คิดถึงนาว พี่ธีม. 

ออฟไลน์ minminmin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
น้องนาวดราม่าไม่เป็น......ซึ่งดีแล้วค่าาาาาาาาาาาาาา :mc4:

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
น้องนาวน่ารักมาก เธอไม่เคยเครียดจริงจัง อลันทำเรื่องซะแล้ว ฮาาาา แต่น้องก็ไม่โกรธน่ารักมาก
แต่มีแค้นอลัน ดัดหลังซะ กร้ากกกกก
ธีมปลุกน้องแบบหวานมาก น่าอิจฉามาก แบบนี้เขาจะทนห่างกันได้ไหม
น้องนาวฉลาด ความคิดดี เหมาะเป็นคู่ครองเจ้าชาย แต่บางทีก็อยากให้กลับไปอยู่กันที่ไทยมากกว่า

ขอบคุณค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด