~ซินเดอเรลล่ากับเจ้าชายรองเท้าแตะ~ จบบริบูรณ์ อัพเดทรวมเล่มค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ~ซินเดอเรลล่ากับเจ้าชายรองเท้าแตะ~ จบบริบูรณ์ อัพเดทรวมเล่มค่ะ  (อ่าน 160350 ครั้ง)

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
บทที่ 20


หลังจากวันนั้นไอ้โหดมันก็ไม่ปล่อยให้ผมไปอยู่ไกลตัวมันเลย ถ้าวันไหนที่มันจำต้องทำหน้าที่รับแขกแทนคุณเม มันก็ให้พี่ชัชมาอยู่กับผม แต่ผมไม่ได้เล่าเรื่องที่ถูกคนทำร้ายให้ใครฟังเลยรวมถึงมันด้วย ผมลืมไปแล้วด้วยซ้ำเพราะต้องทำงานตลอด ผมก็ไปทำงานตามตารางงานปกติ ตอนเย็นก็มาซ้อมเดินแบบและเต้นรำงานการกุศลของคุณเม ผมต้องเต้นรำกับมิเชลเป็นการเปิดฟลอร์ด้วย หลังจากที่ผมกับมิเชลเปิดฟลอร์เสร็จคนอื่นถึงจะเริ่มเต้นรำ ใครก็ตามที่สามารถหาเจ้าชายมิคาเอลเจอและสามารถเต้นรำกับเจ้าชายในเพลงสุดท้าย คนๆ นั้นจะได้รับของขวัญพิเศษจากเจ้าชาย ทุกคนในงานจะไม่รู้ว่าใครเป็นใครเพราะต้องใส่หน้ากากด้วยนะครับ ส่วนเรื่องคนที่มันคิดทำร้ายผม ตอนนี้ก็หายเงียบไปเลย แต่ผมก็ระวังตัวตลอดนะ ยิ่งเงียบยิ่งต้องระวัง แต่ถามว่ารู้สึกไหมว่ามีคนตาม บอกเลยว่ารู้สึกตลอดเวลา ผมพยายามไม่ไปไหนคนเดียว ไม่ไปในที่ๆ ไม่ค่อยมีผู้คน ทำงานเสร็จก็กลับบ้านเลยเพื่อความสบายใจของผมเองและของไอ้โหดมัน

แล้วในที่สุดวันงานการกุศลก็มาถึง เรียกได้ว่าเป็นงานรวมตัวของบรรดาคนมีอันจะกิน ดาราดัง นักร้องนักแสดงทั้งไทยและต่างประเทศที่มีชื่อเสียงหลายคนก็มาร่วมงานนี้ด้วย ที่ขาดไม่ได้ก็คือนักข่าว เรียกได้ว่าไม่ใช่งานช้างธรรมดา แต่เป็นโคตรช้างแมมมอธชุบแป้งชุบไข่แล้วชุบเกล็ดขนมปังไปทอดอีกที มันใหญ่เวอร์วังอลังการดาวล้านดวงสุดๆ

ผมกับมิเชลแต่งตัวแต่งหน้าเสร็จแล้วก็มานั่งรออยู่ในห้องรับรองพิเศษที่ด้านหลังของเวที ส่วนคนอื่นๆ ก็ต้องไปแต่งตัวในห้องที่คุณเมจัดเอาไว้ให้ ผมไม่เห็นไอ้โหดกับธารเลย มาถึงงานผมก็ถูกคุณเมลากมาห้องนี้แล้ว เสียงดนตรีดังลอยเข้ามาในห้องผมเลยนึกขึ้นได้ว่าไอ้ธีมมันเล่นต้องเล่นดนตรีในงานด้วย มันคงไปเตรียมตัวเหมือนกัน ผมเห็นมิเชลพยายามจะชะเง้อคอมองไปข้างนอกตลอด คงจะมองหาไอ้โหดอยู่เหมือนกัน ผมเดาเอานะ

“อีกสองวันมิเชลก็จะกลับบัณตราแล้ว” มิเชลเอ่ยขึ้นมาก่อน

“ไม่อยู่เที่ยวที่นี่ต่อเหรอครับ” ผมถาม แต่จริงๆ รีบไปรีบกลับก็ดีนะ คนเราไม่ควรห่างบ้านนานๆ เนอะ

“ท่านพี่ไม่ยอมให้มิเชลอยู่ นาวขออนุญาติท่านพี่ให้มิเชลหน่อยสิ” งานเข้าไอ้นาวแล้วทีนี่

“เอ่อ คือ..”

“นาวคงอยากให้มิเชลรีบกลับเพราะนาวไม่อยากให้เราไปไหนมาไหนกับพี่ธีมใช่ไหม”

“องค์หญิงไม่ควรพูดเช่นนั้นกับแขก เป็นการเสียมารยาทนะครับ” เสียงเข้มๆ ดังแทรกบทสนทนาระหว่างผมกับมิเชล ผมสะดุ้งเลยเพราะไม่รู้ว่าองค์รักษ์หน้าดุคนนั้นมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ตอนไหน แถมยังกล้าทำเสียงดุเจ้าหญิงอีกต่างหาก

“มิเชลแค่พูดความจริง” มิเชลเถียงเสียงเบา ดูแล้วคงจะเกรงองค์รักษ์คนนี้ไม่น้อย

“ความจริงคือท่านหญิงต้องกลับบัณตราตามกำหนด” องค์รักษ์หน้าดุพูดจบมิเชลก็ถอนหายใจก่อนจะหันไปนั่งเล่นโทรศัพท์ของตัวเองเงียบๆ พอเห็นท่าทางแล้วผมก็อดสงสารไม่ได้ แต่ผมไม่กล้าพูดอะไรหรอกครับ กลัวท่านองค์รักษ์จะบั่นคอผม ผมจะหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมาเล่นบ้าง แต่ดันซุ่มซ่ามทำกระเป๋าหล่น ยังไม่ทันที่ผมจะก้มเก็บของที่หล่น มือขององค์รักษ์ก็มาหยิบมีดพกที่ตกอยู่ที่พื้น

“คุณได้มาจากที่ใด” เสียงที่ถามเบานะ แต่น้ำเสียงทรงไปด้วยอานุภาพทำลายล้างขวัญสั่นประสาทของผมมาก

“เอ่อ คือ..คือ ผมเก็บได้” ผมไม่รู้จะบอกเขาว่ายังไง องค์รักษ์มองจ้องผมอยู่สักพักก็ส่งมีดคืนผม

“เก็บเอาไว้ให้ดีนะ” เขาบอก ผมพยักหน้าก่อนจะรีบเก็บใส่กระเป๋า แต่องค์รักษ์คนนี้กลับแตะที่มือผมก่อนจะพูดเบาๆ ให้ผมได้ยินเพียงลำพัง ผมฟังแล้วมองหน้าเขา ก่อนจะพยักหน้าอีกรอบ

“ได้เวลาแล้วค่ะ ท่านหญิงพร้อมไหมคะ น้องนาวละ พร้อมไหม เดินแบบเสร็จแรกเสร็จแล้ว การประมูลก็เพิ่งจะเสร็จไป เดี๋ยวน้องนาวกับท่านหญิงไปเดินชุดฟินนาเล่เสร็จแล้วช่วงต่อไปคืองานเต้นรำแล้ว อย่าลืมใส่หน้ากากกันด้วยนะคะ” คุณเมเดินมาบอก
ผมกับมิเชลลุกขึ้นเตรียมตัว คุณเมเดินนำเราสองคนออกไปด้านหลังของเวที ผมกับมิเชลออกไปเดินในชุดฟินนาเล่ เรียกเสียงฮือฮาจากแขกในงาน แสงแฟลชวูบวาบอยู่เบื้องล้าง มีความรู้สึกว่ามือของมิเชลสั่นเล็กน้อย อาจจะตื่นเต้น ส่วนผมมันเจนเวทีตั้งแต่เด็กเลยกระชับมือของมิเชลเพื่อเป็นกำลังใจ ผมก็ทำหน้าที่ของตัวเองในการเดินแบบจนเสร็จจากนั้นเสียงพิธีกรก็บอกกติกาของเกมส์ตามหาเจ้าชายมิคาเอลแห่งบัณตรา แขกผู้มีเกียรติที่เป็นผู้ชายก็สามารถขอเต้นกับผู้ชายเหมือนกันได้เพื่อตามหาเจ้าชายมิคาเอลตัวจริง เพราะรางวัลนี้เจ้าชายอยากให้ทุกคนมีสิทธิ์ คนทุกเพศทุกวัยก็เล่นเกมส์นี้ได้ หลังจากนั้นพิธีกรก็พูดเปิดงานเต้นรำ

ผมยื่นมือไปให้มิเชล เพราะเราทั้งสองคนต้องเปิดฟลอร์เต้นรำ เธอก็วางมือบนมือผม แล้วผมก็นำมิเชลเดินออกไปอยู่ที่กลางฟลอร์ เสียงดนตรีจังหวะวอลซ์ดังขึ้น แสงไฟส่องมาที่ผมกับมิเชล ผมกับเจ้าหญิงแห่งบัณตราเริ่มวาดเท้าไปตามเสต็ป เสียงปรบมือดังขึ้น ดนตรีเล่นไปสักพัก หลายๆ คู่ก็เริ่มทยอยเข้ามาในฟลอร์เต้นรำ สายตาผมเริ่มมองหาไอ้โหดบนเวที แต่ทุกคนใส่หน้ากากหมด แถมไฟก็สลัวเลยมองไม่ถนัด ผมเลยต้องหันกลับมาสนใจคู่เต้นของผม เพราะถ้ามัวแต่สนใจอย่างอื่นผมอาจจะเหยียบเท้าเธอให้อายได้ จนกระทั่งนักดนตรีเปลี่ยนเพลงเป็นสัญญานบอกว่าให้เปลี่ยนคู่เต้นรำได้ เจ้าหญิงรีบผละออกจากตัวผม คาดว่าคงจะเดินตามหาไอ้โหดแน่ๆ ผมกำลังจะเดินออกไปนอกฟลอร์แต่จู่ๆ ก็มีคนดึงผมไปเต้นรำด้วย พอได้เห็นใกล้ๆ ก็รู้ว่าเป็นไอ้มีนครับ

“แก คนไหนเจ้าชายวะ บอกมาดิ๊” ไอ้มีนกระซิบถามผม

“เฮ้ย จะไปรู้ได้ไง” ผมบอกมัน

“แกนี่ไม่ช่วยเพื่อนเลย แกพาฉันเต้นไปรอบๆ ก่อน เจอใครคล้ายเจ้าชายก็บอกด้วย ฉันพนันกับไอ้ยีนเอาไว้ว่าใครจะชนะ”

“เออๆ ได้รางวัลหารสองด้วย” ผมบอก มันเบ้ปากใส่ผม ผมพามันเต้นวนไปรอบๆ แต่ผมก็ไม่เห็นใครสักคนที่ดูจะคล้ายเจ้าชาย จนเพลงเปลี่ยนเป็นครั้งที่สอง ไอ้มีนเลยต้องเปลี่ยนคู่เต้น คราวนี้ผมรีบเดินออกจากฟลอร์เลย ไม่อยากเต้นกับใครแล้ว

“จะรีบไปไหน เต้นด้วยกันก่อนสิครับ” ใครคนหนึ่งคว้ามือของผมไปเต้นรำและใครคนนั้นเป็นผู้ชายสวมหน้ากากปิดบังใบหน้ามิดชิด แต่ผมว่าผมรู้ว่าเป็นใคร ซึ่งมันทำให้ผมเกร็งสุดๆ

“คือฝ่าบาท..คือ กระหม่อม คือ”

“ไม่ต้องเกร็ง ทำตัวตามสบาย เราขอยืมตัวนาว เต้นรำกับเราจนจบเพลงจะได้หรือไม่”

“แต่ว่า..มันจะ..คือ มันจะไม่ดีครับ นาวเคยเจอฝ่าบาทมาก่อน ถ้าได้รางวัลไป คุณเมจะถูกตำหนิ” ผมรีบหาทางชิ่งก่อน

“ฉลาด”

“อะ..อะไรนะครับ”

“นาวฉลาดพูด เช่นนั้น ขอเราเต้นรำกับนาวจนกว่าเพลงจะเปลี่ยนแล้วกัน”

“......”

“ไม่เต็มใจหรือ” น้ำเสียงนุ่มนวลของเจ้าชายมิคาเอลดูเกรงอกเกรงใจผมจนผมไม่กล้าปฏิเสธ

“เปล่าครับ แต่มันเขินๆ ผู้ชายมาเต้นด้วยกัน” ผมพูดจบเจ้าชายมิคาเอลก็ใช้มือดันหลังของผมให้ไปชิดตัวของพระองค์มากขึ้นแล้วพาผมวาดเท้าไปทั่วฟลอร์

ถามว่ามีคนสนใจไหม คงจะมี เพราะผมยังอยู่ในชุดเต็มยศซึ่งมันอลังการมากก็เด่นอยู่แล้ว แถมตอนนี้กำลังเต้นรำกับผู้ชายเหมือนกัน แต่ในเมื่อเจ้าชายยังวางเฉย ผมก็เลยต้องเฉยไปด้วย

“อยากไปเที่ยวบัณตราบ้างไหม” เจ้าชายถามผม

“คิดว่าคงได้ไปในสักวันแน่นอนครับ” ผมตอบ

“ที่นั่นสวยงามมากนะ บางทีนาวอาจจะติดใจจนไม่อยากกลับ” เจ้าชายพูดกับผมเหมือนปกติ แต่ผมว่ามันดูแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้

“อ๋อ ครับ” ผมตอบได้แค่นี้ ไม่อยากมโนไปว่าเจ้าชายอาจจะมีรสนิยมเหมือนผม จะเป็นการมโนที่จาบจ้วงจนเกินไป

เจ้าชายยังคงชวนผมคุยไปเรื่อยๆ จนกระทั่งนักดนตรีเปลี่ยนเพลง เจ้าชายถึงได้ปล่อยผมให้เป็นอิสระ ผมรีบเดินไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเลย ไม่อยากใส่ชุดนี้แล้ว มันเด่นเกินไป แต่ระหว่างทางที่จะเดินกลับไปที่ห้อง ผมรู้สึกว่ามีคนเดินตามผมอยู่ ผมเร่งฝีเท้าก่อนจะรีบหลบเข้ามุมทางเดินเมื่อมีโอกาส เสียงฝีเท้าเงียบลง แต่ครู่เดียวก็ได้ยินเสียงอีก ผมหยิบมีดพกที่พกติดตัวเอาไว้ขึ้นมา

“แกเป็นใคร!!!!” พอเสียงฝีเท้ามาถึงตัวผม ผมก็กระโจนออกมาพร้อมกับชูมีดเอาไว้

“แฟนคุณไง” เสียงคนที่เดินตามมาตอบผม ผมลดมีดลงก่อนจะเป่าปากโล่งอกเมื่อเห็นว่าคนที่เดินตามมาคือไอ้โหดนั่นเอง

“เดินตามมาเงียบๆ ถ้านาวเสียบพุงพี่จะทำยังไง” ผมถามมันที่ทำหน้าตกใจที่เห็นมีดในมือผม   

“นาวก็เป็นหม้ายไง” มันตอบก่อนจะมองซ้ายมองขวาแล้วดึงมือผมให้เดินตามมันไป

มันพาผมเดินอ้อมไปทางบันไดหนีไฟ แล้วก็พาเดินขึ้นไปจนผมหอบเลย ไม่ใช่ไม่แข็งแรงนะครับ ก็ไอ้ชุดพร้อมกับเครื่องประดับที่อยู่บนร่างกายผมมันหนักมาก ผมสงสัยจริงๆ ว่าราชวงศ์นี้เขาไม่เมื่อยกันรึไงถ้าต้องใส่ชุดแบบนี้เดินไปเดินมาทั้งวัน แล้วดูชุดไอ้พี่ธีมสิ สูทธรรมดา ถึงว่า...เดินตัวปลิวเชียวนะแก

มันพาผมขึ้นมาบนดาฟ้าของโรงแรม บนดาดฟ้านี้ไม่มีอะไรหรอกครับ มีเพียงต้นไม้ขนาดไม่ใหญ่หนึ่งต้น มีไฟกระพริบประดับอยู่ตามกิ่งก้าน ยังมีโต๊ะอีกหนึ่งตัวรองรับขวดแชมเปญกับแก้วเอาไว้ มันจูงมือผมเดินไปถึงโต๊ะมันก็หยิบโทรศัพท์ออกมาวาง กดเล่นเพลง แล้วมันก็โค้งให้ผม

“เต้นรำกับพี่นะ”

“พี่ไม่ต้องไปเล่นดนตรีเหรอ” ผมถาม

“พี่บอกแล้วไง ว่าจะเล่นเพลงเพราะๆ ให้คนที่รักฟังเท่านั้น” ผมได้ยินแล้วอยากจะย้อนถามมันว่า แล้วที่มันเล่นให้มิเชลฟังละ แปลว่ารักมิเชลสินะ แต่ไม่อยากทำลายบรรยากาศดีๆ ที่มันอุตส่าห์ตั้งใจทำให้ผม ที่ว่ามันตั้งใจคือ ไอ้ต้นไม้ที่ประดับไฟ มันคือต้นพุดซ้อน ผมจำกลิ่นได้ดี อุตส่าห์ไปแบกมาเพื่อเซอร์ไพรส์ผม

“หายหน้ามาเพื่อการนี้เหรอ แล้วไปหัดเต้นตั้งแต่เมื่อไหร่”

“จะถามพี่อีกนานไหม” มันถาม ผมแอบขำ มันยื่นมือมา ผมส่งมือให้มัน แล้วมันก็โอบเอวผมให้ไปชิดกับตัวมัน

“ทีแรกก็จะชวนมาดื่มแชมเปญชมจันทร์เฉยๆ ไม่ได้จะอยากมาเต้นรำอะไรหรอก แต่นาวเต้นรำกับเจ้าชาย พี่เห็นนะ” มันบอก ทำเสียงงอนๆ ใส่ผมด้วยนะไอ้เมือกปลา

“ก็เขามาขอเต้น ว่าแต่เห็นเขาเต้นกับนาว เลยต้องเต้นทับรอยว่างั้น” ผมขำความขี้หวงเหมือนหมาของมันจริงๆ

“แต่ทำไมต้องเบียดกันด้วย”

“อ๊าว เต้นรำนะ ไม่ใช่เต้นกังนัมสไตล์ จะได้ยืนโยกไกลๆ กัน ถามไม่คิด”

“พี่หวง”

“ทีพี่ละ”

“พี่ทำไม”

“ก็พี่ยังได้เสียกับผู้หญิงตั้งสองครั้ง”

“งั้นพี่จะทำนาวพันครั้งเลย จะได้มากกว่าคนอื่น ดีไหม หึหึหึ” มันถามก่อนจะขำ

“ไอ้เมือกปลาหน้าหมาหื่นเอ้ย” ผมว่ามันไปอย่างนั้นแหละ เขินอยู่นี่นา

“พี่บอกกับแม่ไปแล้วนะ ว่าพี่รักนาว”

“ห๊ะ...พี่บอกทำไม” ผมตกใจ หยุดเต้นเลย แต่มันดึงผมให้เต้นรำกับมันต่อ

“ก็แก้ปัญหาเจ้าหญิงตังเมไง”

“แต่ว่า..คือ..แล้ว คุณเมว่ายังไงบ้าง..”

“แม่ไม่ได้พูดอะไร อึ้งไปเลยล่ะ แต่วันหนึ่งเขาก็ต้องรู้อยู่ดี”

“ถ้าคุณเมเกลียดนาวละ”

“เขาไม่เกลียดนาวหรอก”

“ไม่แน่หรอก”

“ฟังนะ ต่อให้คนทั้งโลกเกลียดนาว แต่พี่จะรักนาว เพียงพอไหม พี่จะรักนาวมากขึ้นจนมันมากขึ้นไม่ได้แล้ว” มันบอกกับผม ผมถอนหายใจก่อนจะพยักหน้าให้มัน มันหยุดเต้นแล้วถอดหน้ากากของผมออก ก่อนจะถอดของมันออกเหมือนกัน

“นาวรับปากพี่ได้ไหม ว่านาวจะฝ่าฟันทุกอุปสรรคไปกับพี่” มันถาม

“แล้วมันจะมีอุปสรรคเยอะไหม” ผมถามมัน ยอมรับตรงๆ ว่ากลัว ผมกลัวการสูญเสีย ถึงผมจะเจอกับความสูญเสียมาหลายครั้ง แต่มันไม่ชินหรอกครับ มันยิ่งเป็นปมในใจ

“พี่ก็ไม่รู้ แต่พี่ไม่กลัวอะไรเลย ยกเว้นอุปสรรคเดียว”

“พี่กลัวอะไร”

“นาวไง พี่กลัวนาวไม่เข้าใจ ถอดใจ กลัวความคิดของนาวที่สุดแล้ว”

“โหย นาวจะพยายามมโนให้น้อยลงก็ได้ แต่นาวขี้น้อยใจ พี่ก็อย่าพยายามให้นาวงอนบ่อยๆ ล่ะ นาวก็เหนื่อยนะเวลาที่ต้องงอน พี่เป็นคนง้อเหนื่อยไม่เท่านาวหรอก นาวมั่นใจ เข้าใจไหมไอ้หื่น”

“ครับ..” มันตอบก่อนจะก้มหน้าลงมาจูบผม จูบกันเนิ่นนานเลยจนขาของผมแทบจะหมดแรงมันถึงยอมผละริมฝีปากออกแล้วมาสบตาผมแทน

“หมาธีม ไม่มีพลุเหรอแบบ จูบกันเสร็จต้องมีพลุจุดเป็นพื้นหลังไง พี่ไม่ลงทุนเลยว่ะ” ผมด่า เป็นนาวสไตล์จำได้ไหม เขินต้องด่าไว้ก่อน

“เอาไว้เราได้กันวันไหน พี่จะจุดพลุให้นะ” มันบอก

“โหย สมองพี่นี่บรรจุแต่เรื่องอย่างว่านะ”

“เปล่า บรรจุแต่เรื่องนาวต่างหาก มีแต่นาว” มันบอกผม ทำไมมันถึงได้เป็นคนโรแมนติกขัดกับบุคคลิกของมันจัง

“พอแล้ว ไม่ต้องทำหน้าละมุนใส่ เขิน” เขินจริงๆ แต่ไม่รู้จะสรรหาอะไรมาด่ามันแล้วครับ

“หึหึ” มันหัวเราะก่อนจะก้มลงมาจูบผมอีก สายตาผมเหลือบไปเห็นแสงไฟดวงเล็กๆ สว่างวาบมาจากตึกสูงฝั่งตรงกันข้ามกับดาดฟ้าที่ผมยืนอยู่ ผมสะกิดพร้อมกับชี้ให้ไอ้โหดมันดูก่อนจะเดินไปดูใกล้ๆ แต่เดินไปไม่ถึงไหนก็เสียหลักล้มเพราะชุดมันหนักมากเลย พี่ธีมมันรีบมาดึงตัวผมเอาไว้ก่อนจะหยิบหน้ากากมาใส่ให้ผม มันก็เองก็ด้วย แล้วรีบพาผมลงจากดาดฟ้าไป

“มีอะไร” มันพาผมวิ่งลงมาแบบทุลักทุเลเพราะชุดของผมมันรุ่มร่ามมาก แต่แล้วจู่ๆ มันก็หยุดวิ่ง

“ไม่มีอะไร รีบลงไปเร็ว” มันบอก แต่ชุดที่ผมใส่มันหนาและหนัก ผมเลยวิ่งไม่ถนัด กลัวจะตกบันได้เลยคว้าแขนมัน

“โอ้ย” มันร้องออกมาจนผมตกใจ ที่แขนของพี่ธีมมันเปียกด้วย

“เฮ้ยเลือดนี่ ทำไมแขนพี่มีเลือด” ผมถามมันเมื่อเห็นเลือด แต่มันยังไม่ทันตอบก็มีผู้ชายสวมชุดดำมีหมวกคลุมหน้าคนหนึ่งวิ่งขึ้นมา ไอ้โหดมันรีบดึงมือผมให้ไปหลบข้างหลังมัน

“แกไม่เกี่ยว ถอยไป” ไอ้ชุดดำตวาดเสียงดังใส่ไอ้โหดมัน

“ถ้าแกทำอะไร แกไม่รอดแน่ ตำรวจอยู่ข้างล่างเต็มไปหมด” ไอ้โหดมันขู่

“กูเข้ามาได้ทำไมจะออกไปไม่ได้ หลีกไปไม่งั้นตายทั้งคู่” ไอ้ชุดดำมันบอกพร้อมกับชูปืนส่องมาทางพวกผม

“โอเคๆ ต้องการฉันคนเดียวใช่ไหม จะจับเป็นรึจับตายละ” ผมถาม ต้องถ่วงเวลาด้วยการชวนมันคุย

“เงียบไปเลยนาว” ไอ้โหดบอกพร้อมกับบังตัวผมจนมิด

“มึงปล่อยมันมา” ไอ้ชุดดำบอกไอ้โหด ผมชะโงกหน้าออกมาจากแผ่นหลังไอ้โหด

“ฉันไปกับแกก็ได้ แต่ฉันจะรู้ได้ไงว่าแกจะปล่อยเพื่อนฉัน” ผมถามมัน

“มึงมีทางเลือกรึไง พูดมาก เดี๋ยวกูยิงให้ตายห่าทั้งสองคนเลย” ไอ้ชุดดำมันตวาดมาอีก

“งั้นมึงก็ยิงเลย ยิงมันก่อนนะ ส่วนกูขอแต่งหน้าก่อน กูเป็นดารานะ จะตายหน้าซีดๆ ได้ไง คิดสิคิด” ผมชี้ไปทางไอ้โหดก่อนจะล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง มึงหยาบคายมาผมก็หยาบคายกลับไม่มีโกง

“กูจะยิงมึงคนเดียว” ไอ้ชุดดำบอกผม

“วะ มาสองคนจะยิงคนเดียว กูเหงานะ ตายคนเดียว” ผมแกล้งบ่น

“ยังมีอารมณ์ขำอีกเหรอนาว” ไอ้โหดมันหันมากระซิบถามผม ขำพ่องงงงแกสิ ปืนจ่อหน้าเนี่ย ตูกำลังถ่วงเวลาต่างหากเว้ยไอ้หมาธีม

“พี่หลีกไป มันจะไม่ฆ่าพี่ มันต้องการแต่นาวคนเดียว” ผมบอกไอ้ธีม แต่มันไม่ยอม ยืนบังตัวผมไว้อยู่นั่นแหละ
ผมตัดสินใจผลักหลังไอ้โหดอย่างแรงจนมันล้มลง ชายชุดดำเอี้ยวตัวหลบมาทางผมเพราะไอ้โหดมันเซล้มไปตรงหน้าของมัน จังหวะนั้นผมหยิบมีดพกออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้ววิ่งเข้าหาไอ้ชุดดำมันอย่างเร็ว ตวัดมีดไปที่มือข้างที่ถือปืนของมัน มันร้องเสียงดังพร้อมเลือดที่ข้อมือมันพุ่งเต็มหน้าผมเลย ปืนตกลงไปที่พื้น ไอ้โหดหยิบปืนขึ้นแล้วลุกมายืนข้างๆ ผม ส่วนผมกำลังยืนอึ้งรับประทานอยู่

“แก ฉัน..ฉัน ฉันขอโทษ ฉันไม่คิดว่ามีดมันจะคมขนาดนี้ พี่ธีม มือมันจะขาดไหมอะ” ผมพูดกับชายชุดดำที่กุมข้อมือตัวเอง ใบหน้ามันบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดอย่างที่สุด

ผมไม่ได้ขอโทษเอาฮานะ คือข้อมือมันเหวอะจนเห็นกระดูกเลย ไอ้คนร้ายมันทรุดตัวลงนั่งร้องโอดครวญ เลือดทะลั่กไม่หยุด ไอ้โหดเดินเข้าไปเอาด้ามปืนทุบท้ายทอยมันจนมันล้มลงนอนกับพื้นนิ่งไปเลย ผมรีบเอามีดตัดเสื้อของคนร้ายให้ขาดเป็นเส้นยาวๆ เพื่อเอามาพันที่ข้อมือของมัน ผมรัดที่แผลแน่นๆ เพื่อห้ามเลือด ผมไม่ได้เป็นคนดีห่วงอะไรมันนะ แต่ถ้ามันตายผมจะรู้ได้ไงว่ามันเป็นใคร แล้วผมก็ไม่อย่ากฆ่าใครตาย ส่วนไอ้โหดโทรศัพท์หาใครไม่รู้ สักพักเดียวตำรวจก็ขึ้นมากันเต็มไปหมด ไอ้โหดและคนร้ายถูกพาไปโรงพยาบาล ส่วนผมอยู่ให้การกับตำรวจก่อนจะถูกพาลงมาที่ห้องพัก

“นาว แกเป็นอะไรไหม” ไอ้เกลือวิ่งเข้ามาในห้อง หน้าของมันซีดมากเลย จากนั้นเดอะแก๊งก็ทยอยกันเข้ามา

“กรี๊ดดดด ไอ้นาว เลือดเต็มหน้าแกเลย พามันไปโรงพยาบาลสิเกลือ” ไอ้มีนเห็นผมก็ร้องกรี๊ดดังลั่น ผมรีบยกมือห้ามมัน

“ไม่ใช่เลือดฉัน ฉันไม่เป็นอะไร ฉันจะไปหาพี่ธีม พาฉันไปหน่อย” ผมบอกพวกมัน ผมห่วงพี่ธีมเพราะว่าแขนของพี่ธีมมีแผลจากการโดนยิง ตำรวจบอกผมว่าไอ้หมาธีมมันถูกยิง

“แกไปล้างหน้าอาบน้ำก่อนเถอะ ไปแบบนี้ ใครเห็นก็ตกใจกันหมด” ไอ้จอมบอก ผมพยักหน้าแต่พอลุกขึ้นยืนเสียงประตูห้องก็เปิดออก คุณปริณเดินเข้ามา พอเห็นผมก็เดินตรงเข้ามากอดผม

“ไม่เป็นอะไรใช่ไหม ลุงตกใจแทบแย่”

“ครับ นาวไม่เป็นไรแล้ว นาวไม่ปล่อยให้ลุงอยู่กับไอ้มาม่อนหรอกครับ” ผมเป็นฝ่ายปลอบคุณปริณเพราะผมสัมผัสได้ว่าแขนที่กอดผมสั่นมากๆ คุณปริณเสียเพื่อนที่รักไปสองคนแล้ว ผมเหมือนตัวแทนของพ่อกับแม่ คุณปริณคงใจไม่ดีที่ผมได้รับอันตราย

“ลุงดีใจที่นาวปลอดภัยนะ”

“ครับ ผมขอตัวไปอาบน้ำล้างเลือดออกก่อนนะครับ ดูสิครับเลือดเปื้อนเสื้อลุงปิณหมดแล้ว” ผมบอก ลุงปริณยอมคลายอ้อมกอดออก

“คุณเมอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว เดี๋ยวน้องนาวอาบน้ำเสร็จลุงจะพาไป” ลุงปริณบอก

ผมพยักหน้าแล้วรีบไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด
กลิ่นคาวเลือดคลุ้งไปหมด ผมนึกแล้วยังสยองไม่หาย นึกถึงคำพูดของคุณมาคัสที่กระซิบบอกผม คุณมาคัสบอกว่าให้ผมเอามีดเล่มนี้ติดตัวไปตลอดอย่าทิ้งไว้ในกระเป๋า นึกขอบคุณในใจเพราะถ้าไม่มีมีด ป่านนี้เลือดที่คละคลุ้งอยู่คงเป็นของผมแน่ๆ ผมสงสัยว่าใครยิงพี่ธีม ทำไมผมไม่ได้ยินเสียงปืนเลย คนร้ายที่โดนผมปาดข้อมือมันวิ่งมาจากข้างล่าง แต่ไอ้โหดน่าจะโดนยิงตั้งแต่บนดาดฟ้า เอ๊ะ..แสงไฟดวงเล็กที่ผมเห็นจากตึกร้างข้างโรงแรมอาจจะเป็นปืนเก็บเสียง ถ้ายิงมาจากที่นั่นไอ้คนร้ายที่ตำรวจจับได้ก็ไม่น่าวิ่งมาถึงตัวผมได้เร็ว แสดงว่าพวกมันต้องมีมากกว่าหนึ่งคน แล้วทำไมมันถึงอยากฆ่าผมคนเดียว ถ้ามันตั้งใจยิงผม อาจจะเป็นตอนที่ผมล้มเสียหลักเพราะชุด ไอ้โหดเข้ามาหาประคองผมเลยรับวิถีกระสุนแทน ถ้าผมไม่ล้มเพราะชุดรุ่มร่ามนั่น ผมอาจจะถูกกระสุนเจาะที่หัวใจไปแล้ว ผมไม่อยากบอกว่าเป็นโชคดีเพราะไอ้โหดมันต้องมาเจ็บตัวแทนผมแบบนี้
ผมปล่อยให้สายน้ำจากฝักบัวราดรดมาบนหัวอยู่นาน เผื่อความเย็นของน้ำจะช่วยให้ผมหายฟุ้งซ่านได้บ้าง ถ้าอยากทำร้ายกันขนาดนี้ มันต้องมีที่มาที่ไปซับซ้อนมากกว่าที่ผมคิด ผมต้องรู้ให้ได้ว่าแรงจูงใจในการฆ่าผมมันคืออะไร

ผมอาบน้ำเสร็จแต่งตัวเสร็จแล้วก็ยังไม่ได้ไปโรงพยาบาลในทันทีเพราะตำรวจมาขอสอบปากคำเพิ่ม ผมเลยเล่าเหตุการณ์ไปตามจริงแต่ แต่มีที่ไม่จริงนิดหน่อย ผมบอกตำรวจไปว่าผมจะเป็นลม ผู้จัดการส่วนตัวผมก็คือพี่ธีมเลยพามาสูดอากาศบนดาดฟ้า ขืนบอกว่าผมมาเต้นรำสวีทกับพี่ธีมคงได้เป็นข่าวใหญ่อีกแน่ ส่วนงานการกุศลยังดำเนินต่อไป ไม่มีใครทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผมเพราะคุณปริณจัดการเก็บข่าวได้เงียบกริบ เสร็จจากให้ปากคำผมก็เตรียมตัวไปโรงพยาบาล คุณปริณต้องอยู่รับรองแขกในงานแทนคุณเมเลยให้คนขับรถไปส่งและให้บอดี้การ์ดติดตามผมไปสามคน ไอ้เกลือบอกว่าจะไปกับผมด้วย ส่วนเพื่อนผมคนอื่นยังต้องอยู่ในงานเพื่อไม่ให้ผิดปกติ

ผมมาถึงโรงพยาบาลก็ทราบว่าไอ้โหดมันปลอดภัยดีและเข้าพักที่ห้องพิเศษแล้ว ผมกับไอ้เกลือมาถึงห้องพักก็เห็นคุณเมกำลังคุยอะไรกับไอ้โหดอยู่ แต่พอทั้งคู่เห็นผมก็หยุดการสนทนาทันที คุณเมรีบเดินมาหาผมแล้วดึงผมไปกอด นี่เป็นครั้งแรกที่คุณเมกอดผม เธอกอดผมแน่นเลย ผมว่าผมได้ยินเสียงสะอื้นดังมาจากคนที่กำลังกอดผมอยู่ ผมไม่ได้ขัดขืน ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในตอนนี้ผมก็อธิบายไม่ถูก

..คนที่ผมไม่เคยยอมรับว่าเขาเป็นครอบครัว  คนที่ผมชิงชังเพราะเขาชอบแทนตัวเองว่าแม่กับผม คนที่ผมไม่เคยเปิดตาเปิดใจมองสิ่งที่เขาปฏิบัติต่อผมตลอดมา มาถึงตอนนี้ เธอกำลังกอดผม ร้องไห้เพราะเป็นห่วงผม แล้วผมยังรู้สึกแบบเดิมอยู่หรือเปล่า..ผมกำลังถามตัวเองในใจ

“คือ แม่ แม่เป็นห่วงน้องนาว” คุณเมคลายอ้อมกอดผมก่อนจะดึงทิชชู่มาซับน้ำตาของตัวเอง

“นาวไม่เป็นอะไรครับ แต่พี่ธีม..ต้องมาเจ็บเพราะนาว”

“พี่ธีมก็ปลอดภัยแล้วค่ะ งั้นเด็กๆ คุยกันไปก่อน แม่ขอตัวไปคุยกับคุณหมอนะคะ” คุณเมบอกก่อนจะเดินออกจากห้องไป ผมเดินเข้าไปหาไอ้โหดที่นอนยิ้มให้ผมอยู่

“เจ็บมากไหม” ผมถามมัน

“ตอนนี้ชาอยู่ นาวละ เจ็บตรงไหนบ้างรึเปล่า”

“ตรงนี้” ผมชี้ไปที่หัวใจ

“นาว” มันเรียกผมเสียงอ่อน คงสงสารผม

“พี่เจ็บแทนนาวสองครั้งแล้วนะ ถ้า...ถ้า ฮึก....” ผมพยายามจะใช้แขนเช็ดน้ำตา พยายามจะกลั้นแล้วนะครับ แต่พอเห็นภาพมันนอนบนเตียงแล้วมีผ้าพันแผลผมก็รู้สึกตื้อขึ้นมาทันที ถ้าวันนี้กระสุนไม่ได้โดนแค่ที่แขนของมันล่ะ

“พี่รับปากนาวแล้วไงว่าจะไม่ตาย จะไม่ทิ้งนาวไป” พี่ธีมมันรีบปลอบผม

“นาว..ฮึก..นาวไม่อยากให้ใครเกลียดนาวเลย ฮึก นาวกลัวว่าคนที่นาวรักจะรับเคราะห์แทนนาวอีก ฮึก..” ผมร้องไห้ออกมา ไอ้เกลือเดินเข้ามาโอบไหล่ผม

“คนดีๆ ไม่มีใครเขาเกลียดหรืออยากทำร้ายแกหรอก แต่พวกนั้นมันคือคนเลว เราควบคุมความเลวของมันไม่ได้ ถ้าวันนี้เป็นแกที่เจ็บ พี่ธีมเขาจะเสียใจยิ่งกว่าแกนะ” ไอ้เกลือพยายามให้สติผม ผมรับทิชชู่จากมันมาเช็ดน้ำตาพร้อมกับสูดน้ำมูกออกแรงๆ เผื่อความทุกข์มันจะออกมากับน้ำมูกด้วย แต่ดูดิ พี่ธีมกับไอ้เกลือดันมาหัวเราะขำผม

เสียงประตูห้องถูกเปิดออก ผู้ชายในชุดสูทสามสี่คนเดินเข้ามายืนอยู่ปลายเตียง สักพักเจ้าหญิงมิเชลเดินเข้ามาพร้อมกับใบหน้าที่ดูร้อนรน ตามาด้วยเจ้าชายมิคาเอลและองค์รักษ์มาคัส เจ้าชายยกมือเหมือนจะห้ามน้องสาวแต่ไม่ทันแล้ว เจ้าหญิงเดินไปกุมมือไอ้โหดขึ้นมาพร้อมกับหันมาพูดกับพี่ชายของเธอ

“มิเชลไม่ยอมปิดบังอีกแล้วนะคะ พอกันที เรามาที่นี่เพื่อมารับองค์รัชทายาทของท่านอากลับไปบัณตรา แต่ท่านพี่มัวแต่รีรอ เห็นไหมคะ พี่ธีมเกือบได้รับอันตรายถึงชีวิต”เจ้าหญิงมิเชลพูดจบ ผมกับไอ้เกลือก็มองหน้ากันก่อนจะหันไปมองหน้าเจ้าชายมิคาเอลที่สีหน้าเคร่งเครียด จากนั้นผมก็หันไปมองไอ้โหดที่ทำหน้าตาเหมือนหมาลำบากใจ

เดี๋ยวนะ! ขอเรียบเรียงข้อมูลในสมองแป๊ปหนึ่ง

‘มารับองค์รัชทายาทอีกองค์ของบัณตรางั้นเหรอ’

‘องค์รัชทายาทที่เกือบได้รับอันตรายถึงชีวิตงั้นเหรอ’

มิเชลหมายถึง ‘ไอ้หมาธีมของผม’ งั้นเหรอ ผมงงไปหมดแล้ว นี่...ไอ้โหดมันเป็นองค์รัชทายาท แปลว่ามันเป็นเจ้าชายใช่ไหม ผมเข้าใจถูกใช่ไหม มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน

ไอ้เกลือ!!..แกช่วยตบหน้าฉันที ฉันไม่ได้มโนหรือฝันไปใช่ไหมวะแก...   


โปรดรอการรีไรท์ค่ะ ขอบคุณค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-11-2017 20:29:10 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
รอเสร็จงานการกุศลด้วยคนค่ะ  :hao6:

ออฟไลน์ QueenPedGabGab

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 311
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
ฮืออออออออออ พี่ธีม ค้างมากอ่าาาาา

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
เฮ้ยยย!! ใช่หรอ? จริงๆหรอ? เป็นพี่ธีมหรอ ไม่ใช่น้องนาวหรอ ที่เป็นรัชทายาทอะ ตกจายยยยย o22 :a5: :a5: :z13:

ออฟไลน์ milkshake✰

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ ตามมาจากกระทู้แนะนำนิยาย
สนุกมาก อ่านแรกนี่หมั่นน้องนาวมากนะ จะอะไรกันนักกันหนานะ ไรงี้
อ่านไปอ่านมา เออนางก็น่ารักในความขี้มโนของนางนะ 555555555555

ปล. ตอนล่าสุดนี่เราขอเดาว่า นังน้องนาวขี้มโนไปเองอีกแน่นอน
คนที่เป็นรัชทายาทนั่นต้องเป็นนาวเองแน่ๆ
ไม่ก็ทัส อ่ะให้แค่ 2 ช้อยส์
มั่นมากด้วยว่าเดาถูกค่ะ (เราไม่ใช่คนขี้มโนนะ เราติดนิสัยน้องนาวมาเฉยๆ)

ปล2. โพคาฮอนทัส นี่ก็ทัสใช่มั้ยคะ ส่วนบิวตี้แอนด์เดอะบีสต์นี่ก็บิว ชัวร์
หลักฐานคือชื่อ ทัส กับ บิว

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ง่าาาาา. ถ้าพี่ธีมเป็นเจ้าชายแล้วคนร้ายจะมาฆ่านาวทามไมอะ.  งงงงงงงงง.   รีบมาต่อให้หาย งง นะครับ

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
พี่ธีมซกมก เป็นเจ้าชาย :a5: จริง รึ

ที่นี้ นาว ได้เป็นนางซิน สมใจแน่ๆ รึเปล่าน้า

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อึ้งกันเป็นแถบ คือคิดมาตลอดน่ะว่าเป็นทัสอะ ความน่าจะเป็นมันมากกว่า มาเป็นพี่ธีมหรืออาจจะผลิกโผ่อีกก็ได้ ปริศนาเต็มไปหมดเลย

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
มารับรัชทายาท แต่ตามล่านาวเนี่ยะนะ ผิดคนหรือเปล่า เพ่

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
ใครเป็นรัชทายาท เราว่าน่าจะเป็นนาวมากกว่านะ
คนที่โดนปองร้ายคือนาว
นาวก็ใจเย็นๆ อย่างเพิ่งมโนไปไกล รอความจริงเปิดเผยก่อน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
 :a5: เจ้าชายยยยยยยยยยยย

ออฟไลน์ ciaiwpot

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1098
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
นาวหรือธีมนะที่เป็น
ค้างมากเลยยยยยยยยยยยยย
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ j123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
นี่มันอะไร ยังไง  :o ตอนหน้าคงเคลียร์นะ

ออฟไลน์ kakax

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
จิ้มก่อนนะ  :z13:

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
โอว น้องนาวค่ะ หนูจะได้เป็นพริ้นเซสตัวจริงแล้วค่ะ
ใครจะทำร้ายนาวหนักหนา เครียดจริงจัง เล่นแรงตลอด หรือเพราะนาวเป็นคนรักของเจ้าชาย
พี่ธีม พี่เป็นองค์ชายเหรอคะ อะไรยังไง คนอ่านนี่มึนติ้วๆๆ
ชอบความรักของคู่นี้มาก ธีมคืออดทนกับน้องรักมานานมาก นาวก็น่ารักมาก นางฮาทุกหยด

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
พี่ธีมเป็นเจ้าชายได้ไงเนี้ย 5555555+

ออฟไลน์ EunJin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
รู้สึกว่าน้องนาวจะเป็นรัชทายาท รึเปล่านะ? อิอิ

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
แล่วๆๆๆ เจ้าชายรองเท้าแตะ กลายเป็นเจ้าชายจริงๆด้วย :a5: o22

งี้มีโอกาสที่ คนที่รอบทำร้าย น้องนาวอาจจะเป็นเพราะไม่อยากให้นาวอยู่ใกล้ธีมด้วยรึป่าว?

ประมาณว่ากลัวธีมจะแปดเปื้อน เพราะรู้ว่าสองคนนี้รักกัน เรื่องนี้ นอกจากจะสนุกจากความมโนที่น่ารักของนาวแล้ว

คือเราก็เดาไปเรื่อยเลย  :hao4: เอ๊ะ ลุงปริณนี่ไม่ได้เป็นญาติสืบสายเลือดกันมากะนาวใช่มั๊ย?

แต่ ธีมต้องรู็ตัวเองอยู่แล้วแน่ๆเลยว่า เป็นเจ้าชาย เพราะมันคอยบอกให้นาวอย่าท้อ อย่าทิ้งมัน

ปล. รักคนเขียนเหมือนกันนะจ๊ะ จุ๊บๆๆ  :mew1: :pig4:

ออฟไลน์ Mokuchi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
นี่มันอะไรก๊านนนนนนนนนนนนนนนน  :a5:
ค้างมากค่ะ ตอนต่อไปลงเย็นนี้เลยได้ไหมเนี้ย แงงงง

ออฟไลน์ fanglest

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
ว่าแล้ววว  คิดไว้ตั้งแต่แรก แต่ก็ไม่มีหลักฐานพอจะจับผิด(?)ธีมได้
นาวววววววววววววววววววววววววววว
อย่ามโนอะไรอีกเด้อออออออออออออออออ
 :angry2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ banazjj

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตอนนี้ยังเพิ่งอ่านถึงตอนที่10 ขอมาเม้นท์ก่อนอยากบอกว่าสนุกมากค่ะ
ลุ้นไปเรื่อยๆ ตอนที่9 สงสารพี่ธีมมาก น้ำตาหยดแหมะๆ
อีกเรื่องที่ชอบนิยายเรื่องนี้ เค้าชอบเพลงที่พี่ธีมร้องให้น้องนาวฟัง
เขาชอบเพลงเก่าๆ ซึ้งๆ อย่างนี้ หวังว่าจะมีอีกหลายเพลง >"<
เป็นกำลังใจให้นะคะ นิยายสนุกมาก คนแต่งก็สู้ๆนะคะ
รออ่านตอนต่อไป (แต่ขออ่านให้ทันก่อน555)  o13

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
บทที่ 21

(กาลครั้งหนึ่งของธีม)

“แม่...ผมรักนาว ผมหมายถึง..ผมกับนาวคบกัน เป็นแฟนกัน”

“ธีม...ธีมล้อแม่เล่นใช่ไหม”

“ผมพูดจริงครับ ผมกับน้อง เรารักกัน”

ผมยังจำวันนั้นได้ดี วันที่แม่เรียกให้ผมเข้าไปคุยด้วยเนื่องจากผมปฎิเสธไม่ยอมไปทานข้าวกับมิเชล ผมไม่ได้บอกแม่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนาว เพราะถ้าแม่รู้ นาวจะยิ่งโดนคุมตัวแจ ซึ่งผมไม่อยากให้นาวมันอึดอัด เสียงของแม่สั่น ใบหน้าของแม่ก็ซีดลงเมื่อได้ยินคำสารภาพของผม ผมไม่หวังให้แม่ยอมรับได้ในครั้งแรกที่รับรู้ แต่ก็หวังว่าแม่จะเข้าใจได้ในที่สุด แต่สิ่งที่ผมได้รับรู้กลับมาจากแม่มันทำให้ผมต้องเป็นฝ่ายที่พูดไม่ออกแทน

“ไม่ได้ ธีม เลิกกับน้องเสียตั้งแต่ตอนนี้เถอะ ไม่งั้นน้องนาวจะต้องเสียใจ”

“ผมทำแบบนั้นไม่ได้ครับแม่ ไม่มีเหตุผลที่ผมต้องทำให้นาวเสียใจ”

“มีสิ” แม่บอกพร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ทำงานของแม่เหมือนคนที่หมดแรง

“ผมขอทราบเหตุผลของแม่ได้ไหมครับ”

“ลูก...ลูกไม่ใช่ผู้ชายธรรมดาที่จะทำอะไรก็ได้อีกต่อไปแล้ว”

“ผมไม่เข้าใจ” ผมบอก

แม่ถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะหยิบกุญแจมาไขลิ้นชักโต๊ะทำงาน จากนั้นก็หยิบกล่องไม้แกะสลักสวยงามกล่องหนึ่งออกมาพร้อมกับซองสีครีมที่ดูค่อนข้างซีดจางมาให้ผม แม่เปิดฝากล่องไม้แล้วหยิบเข็มกลัดสีทองประดับเพชรเม็ดโตตรงกลางที่ถูกล้อมไปด้วยอัญมณีหลากสีที่อยู่ข้างในมาวางตรงหน้าผมพร้อมกับซองสีครีม ผมรับซองสีครีมมาเปิดดูก็พบรูปอยู่ในซองสองใบ
ภาพแรก มีภาพบุคคลทั้งหมดสี่คนในภาพ หนึ่งในนั้นคือผมเอง แต่ผมในภาพก็ดูเด็กมาก ผมแปลกใจว่าผมไปอยู่ในรูปนี้ได้ยังไง อีกอย่างหนึ่งที่ผมแปลกใจ ผมเคยถามแม่ว่าทำไมผมไม่มีรูปตอนเป็นทารกหรือช่วงยังเป็นเด็กเล็กบ้างเลย ที่บ้านนี้มีแค่รูปของธาร ส่วนรูปของผมที่มีอยู่ที่นี่ก็น่าจะอายุมากกว่าในรูปที่อยู่ในมือของผมในตอนนี้เล็กน้อย แต่ตอนนั้นแม่ก็บอกว่าแม่ทำอัลบั้มตอนที่ผมยังเป็นทารกหายไป

ผมมองภาพถ่ายในมืออีกครั้ง มองดูบุคคลทั้งสามที่เหลือในภาพถ่าย คนแรกเป็นชายวัยกลางคน หน้าตาเหมือนคนต่างชาติ ผมว่าหน้าตาของเขาคล้ายผมในปัจจุบันมากเลย ดูสง่าผ่าเผย เขาอยู่ในชุดเครื่องแบบทหารเต็มยศคล้ายกับที่เจ้าชายมิคาเอลใส่ ในรูปเขายืนอยู่ด้านหลังของผม ส่วนอีกคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้นวมตัวใหญ่ข้างกันคือหญิงสาววัยไล่เลี่ยกับผู้ชายที่ใส่ชุดทหาร หน้าตาสะสวยแบบคนไทย เกล้าผมและสวมมุงกุฏเพชร ในอ้อมกอดมีเด็กทารกผิวสีแทนหน้าตาจิ้มลิ้มดูน่ารัก ส่วนรูปภาพใบที่สองเป็นรูปหมู่ ผู้ชายในรูปล้วนแต่แต่งกายเต็มยศ ส่วนผู้หญิงก็ใส่ชุดราตรีสวยงาม จากการแต่งกายดูก็รู้ว่าแต่ละคนน่าจะเป็นบุคคลจากชนชั้นสูง ไม่น่าจะใช่คนธรรมดาทั่วไป ซึ่งในรูปหมู่ที่ผมกำลังดูอยู่ก็มีชายหญิงที่ถ่ายรูปกับผมในภาพใบแรกด้วย

“ทำไมผมถึงไปอยู่ในรูปนี้ครับ พวกเขาเป็นใคร”   

“เขาคือพ่อและแม่แท้ๆ ของลูกนะธีม เจ้าชายนาทีค องค์รัชทายาทลำดับที่หนึ่งแห่งบัณตราคือเสด็จพ่อของลูก” แม่เมบอกผม

ผมยืนนิ่งอึ้งไปพร้อมกับยกรูปถ่ายใบแรกขึ้นมาดูอีกครั้ง มิน่า.. นาวมันถึงชอบแซ็วว่าผมเป็นเด็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยง เพราะผมหน้าตาไม่เหมือนแม่เมเลย รูปร่างสูงใหญ่ ผิวสีแทน ไม่ขาวเหมือนแม่เมและธาร หน้าตาของผมกระเดียดไปทางชาวต่างชาติด้วยซ้ำ

“แล้วทำไมผมถึงมาอยู่กับแม่ที่นี่ครับ”

“ธีมเห็นรูปหมู่ไหมลูก ทั้งหมดที่ลูกเห็นในภาพนั่นคือสมาชิกราชวงค์แห่งบัณตรา องค์เหนือหัวสเตฟานกษัตย์แห่งบัณตรามีโอรสสองพระองค์และพระธิดาอีกสองพระองค์ โอรสองค์โตคือท่านนาทีค องค์ที่สองคือท่านโมนัฟ ส่วนพระธิดาอีกสองพระองค์คือ เจ้าหญิงนาตาลีและเจ้าหญิงแฮแทนตามลำดับ” แม่เล่าถึงตรงนี้ก็ลุกมานั่งข้างผมก่อนจะเล่าต่อ

 “ท่านนาทีคและท่านโมนัฟถูกส่งมาศึกษาที่เมืองไทยตั้งแต่ยังเล็ก คงเป็นโชคชะตานำพา เพราะแม่ คุณปริณ คุณปิยะ ได้ศึกษาที่เดียวกันกับทั้งสองพระองค์และเป็นเพื่อนสนิทกันนับตั้งแต่นั้นมา พอจบการศึกษา ท่านโมนัฟและท่านนาทีคก็พาคนรักที่เป็นสาวไทยกลับไปที่บัณตราด้วย ทั้งคู่กลับไปจัดงานแต่งงานและมีทั้งโอรสและพระธิดา ชีวิตที่เรียบง่ายน่าจะมีความสุข แต่มันก็ไม่เป็นแบบนั้นเพราะไม่นานบัณตราก็มีการก่อกบฏขึ้นโดยพระสวามีของท่านหญิงนาตาลีบุตรีคนที่สาม องค์เหนือหัวสเตฟานถูกกลุ่มกบฏจับขังคุกพร้อมกับองค์ราชินี ท่านโมนัฟเกิดไหวตัวทัน ก่อนที่จะถูกพวกคนร้ายจับขังคุกก็พาครอบครัวของตัวเองและธีมหนีมาเมืองไทยได้ก่อน ส่วนท่านนาทีคท่านพ่อของธีมก็พลัดหลงกันไป ท่านหายสาบสูญไปพร้อมกับแม่และน้องชายของลูก”

“แล้ว..ราชวงศ์คนอื่นล่ะครับ”

“องค์หญิงนาตาลีและองค์หญิงแฮแทนก็ถูกวางยาพิษจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา พระสวามีขององค์หญิงนาตาลีหรืออาเขยของลูกซึ่งเป็นคนที่ก่อกบฏได้ยื่นข้อเสนอให้ท่านโมนัฟและครอบครัวกลับไปที่บัณตรา”

“ทำไมครับ”

“คงกลัวประชาชนจะลุกขึ้นมาต่อต้านเพราะตัวเองเป็นแค่เขย เลยสร้างภาพโดยให้ท่านโมนัฟนั่งบัลลังก์แต่ก็เป็นเพียงแค่หุ่นเชิด แลกกับการไว้ชีวิตองค์เหนือหัวสเตฟานก็คือท่านปู่ของลูก รวมไปถึงท่านย่าของลูกด้วย ท่านโมนัฟจำต้องกลับไปและตัดสินใจฝากลูกเอาไว้กับแม่เพราะพวกกบฏมันไม่รู้ว่าลูกยังมีชีวิต จนกระทั่งในเวลาหนึ่ง...เจ้าชายมิคาเอลและน้องชายรวบรวมกองกำลังที่ยังจงรักภัคดียึดอำนาจคืนมาได้และเด็ดขั้วอำนาจของอาเขยได้สำเร็จ”

“แล้ว..ตอนนี้พ่อกับแม่และน้องของผม ยังมีชีวิตอยู่ไหมครับ”

“ทีแรกทุกคนก็นึกว่าท่านนาทีคเสียชีวิตแล้ว แต่ไม่นานข่าวกรองก็รายงานว่าพบท่านพ่อของลูกแล้ว ท่านหนีไปอยู่ที่หมู่บ้านบนเขา หมู่บ้านเล็กๆ ที่ไม่มีใครรู้จัก ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรเลย อาศัยอยู่กับชาวพื้นเมืองแท้ๆ ของบัณตรา ชนกลุ่มเล็กที่ปกครองตนเอง แต่ตอนนี้ท่านโมนัฟไปเชิญพระเชษฐาลงมาที่เมืองหลวงแล้วและท่านอยากพบลูกเป็นที่สุด เพราะ..เพราะท่านนาทีคพ่อของธีมกำลังป่วยหนัก ท่านอยากเจอลูก”

ผมได้ฟังแล้วรู้สึกเหมือนถูกหินก้อนใหญ่ถ่วงอยู่ภายในใจ มันทั้งสับสนและรู้สึกหนักอึ้งกับสิ่งที่ได้รู้ ถ้านาวมันได้รู้เรื่องของผม มันคงจะบอกว่า ชีวิตผมไม่ต่างอะไรกับสิ่งที่มันชอบมโนเลย ชีวิตของผมมันซับซ้อนจนผมตามแทบไม่ทัน ต่อไปผมคงไม่กล้าว่านาวอีกแล้วว่ามันขี้มโน เพราะชีวิตของผมมันยิ่งกว่าละครเสียอีก

“ถึงสิ่งที่แม่เล่าให้ผมฟังจะทำให้ผมมีเรื่องต้องคิด แต่ผมขอยืนยันนะครับ ไม่ว่าผมจะเป็นใคร แต่คนที่ผมอยากให้อยู่ข้างๆ ผมคือนาวเท่านั้น และแม่ก็ยังเป็นแม่ของผม ผมขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะครับแม่ วันนี้ผมเหนื่อยเหลือเกิน” ผมบอกกับแม่ก่อนจะขึ้นไปหาตัวแสบของผม ผมรู้ว่าแม่คงเข้าใจว่าผมกำลังรู้สึกอย่างไรเพราะท่านก็ไม่ได้พูดอะไรให้ผมลำบากใจอีก ส่วนในคืนนั้นผมก็นอนกอดนาวทั้งคืน ปกติมันจะบ่นว่าเมื่อย แต่หลังจากนี้ไปผมไม่สนใจอีกแล้วว่ามันจะบ่นยังไง ขอแค่ได้กอดมันเอาไว้อย่างนี้ทุกคืน และไม่ว่าจะมีอุปสรรคอะไรผมก็จะพามันข้ามผ่านไปให้ได้ด้วยกัน



เช้าวันถัดมา มันขอไปเที่ยวบ้านของลุงปริณ ผมก็ไม่อยากขัดใจมันทั้งที่ในใจรู้สึกไม่อยากให้มันไปไหนไกลผม แต่ผมจำเป็นต้องไปพบเจ้าชายมิคาเอลและท่านทูตเพราะวันนั้นท่านโมนัฟท่านพ่อของเจ้าชายมิคาเอลเสด็จมาแบบลับๆ เพื่อมาพบกับผม ท่านขอร้องให้ผมกลับไปที่บัณตรา เพราะผมคือองค์รัชทายาทที่จะต้องขึ้นครองราชย์ต่อจากท่านปู่ เพราะตามประเพณี พ่อของผมมีศักดิ์เป็นโอรสองค์โตขององค์เหนือหัวสเตฟาน ก่อนที่ท่านปู่จะที่โดนยึดอำนาจ พ่อของผมคือคนที่จะต้องรับตำแหน่งสืบทอดราชวงศ์ แต่เมื่อมีการก่อกบฏ ท่านโมนัฟจำต้องดำรงค์ตำแหน่งเพื่อเป็นหุ่นเชิดให้พวกกบฏ ท่านคิดจะสละตำแหน่งนี้คืนให้พ่อของผม แต่พ่อของผมกำลังป่วยหนัก ผมจึงเป็นรัชทายาทคนต่อไปที่จะต้องรับตำแหน่งนี้ แม้ผมจะปฏิเสธ แต่ท่านอาก็ขอให้ผมได้กลับไปบัณตราสักครั้งเพื่อจะได้กลับไปพบกับครอบครัวที่แท้จริง ส่วนผมจะตัดสินใจยังไงก็ค่อยว่ากัน ผมไตร่ตรองสักพักก่อนจะรับปากว่าผมจะกลับไป

วันนั้นทั้งวันผมรู้สึกไม่สบายใจเอาเลย เป็นห่วงนาว แต่ผมปลีกตัวไม่ได้จริงๆ เพราะต้องฟังเรื่องราวหลายอย่างเกี่ยวกับครอบครัวที่แท้จริงของผม ท่านโมนัฟได้รับข่าวกรองมาว่า ยังมีคนไทยจำนวนหนึ่งที่ร่วมมือกับอาเขยผู้ก่อกบฏ พวกมันพยายามจะรวบรวมคนไปช่วยอาเขยที่ถูกคุมขังอยู่ในตอนนี้ พวกมันร่วมกันส่งยาเสพติดและค้าอาวุธสงคราม ซึ่งท่านโมนัฟมาที่นี่เพื่อจะหาตัวหัวหน้าคนไทยคนนี้ให้เจอ ท่านได้รับความร่วมมือจากทางการของไทยเพื่อที่จะจับคนร้ายมารับโทษให้หมดสิ้น ไม่ให้เหลือเครือข่ายในประเทศไทยอีก จนการประชุมพูดคุยเสร็จสิ้น ผมดีใจมาก ใจมันร้อนจนแทบทนไม่ไหว อยากจะไปรับนาวเลยแต่แม่ก็ยังรบกวนให้ผมไปส่งมิเชลเพราะเธอแวะมาหาท่านพ่อของเธอ แม่บอกว่ายังไม่มีใครว่างไปส่งมิเชลจริงๆ ผมเลยปฏิเสธไม่ได้ แต่นั้นก็ทำให้นาวมันน้อยใจ และทำให้ผมรู้สึกผิดมากเพราะมันเกือบได้รับอันตรายถึงชีวิตโดยที่ผมไม่ได้อยู่ปกป้องมันเลย
ผมอยากจะเล่าเรื่องราวของผมให้มันฟัง แต่ผมก็ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ผมกลัวมันจะหนีผมไปถ้ารู้ว่าสิ่งที่ผมเป็นอาจจะทำให้มันเสียใจในภายภาคหน้า แต่ผมคงจะดูถูกความรักของมันเกินไป พอเห็นมันร้องไห้ที่เห็นผมเจ็บเพราะโดนยิงก็รู้ว่ามันคงรักผมไม่ต่างจากที่ผมรักมัน เท่าที่อยู่กับมันมา ผมนับครั้งได้เลยที่เห็นมันร้องไห้ ถ้าไม่สุดๆ จริงๆ มันจะไม่เคยแสดงความรู้สึกออกมาเลยว่ามันเสียใจ แต่สุดท้ายแล้ว ผมยังไม่ทันจะได้เล่าเรื่องของตัวเองให้มันฟัง ทุกอย่างก็ถูกเปิดเผยออกมาเสียก่อน


ตอนนี้ ในห้องพักพิเศษของโรงพยาบาล เจ้าชายมิคาเอลกำลังเล่าเรื่องราวของผมให้ผมและทุกคนในห้องฟังอีกรอบ เพียงแต่ละเอียดกว่าตอนที่แม่เมเล่า ทีแรกนาวกับเกลือมันจะออกไปรอข้างนอกเพราะมันกลัวว่าจะเป็นการเสียมารยาท แต่ผมบอกให้มันอยู่ด้วย นาวคือคนสำคัญของผม มันมีสิทธิ์รับรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับผม คุณรู้ไหมครับ ผมอยากจะจับมันมาจูบให้หายหมั่นเขี้ยวเพราะหน้ามันตอนที่กำลังฟังเรื่องราวของครอบครัวที่แท้จริงของผมนั้น เดี๋ยวก็ดูเศร้า เดี๋ยวก็ทำหน้าทำตาตื่นเต้น เดี๋ยวก็ย่นคิ้ว เดี๋ยวก็ปากยื่น เดี๋ยวก็อ้าปากค้างทำหน้าเหวอ ตาโตๆ ของนาวกระพริบปริบๆ ฟังอย่างตั้งใจ มันรู้ตัวไหมว่ามันน่ารักขนาดไหน แล้วมันจะรู้ตัวไหม ว่าทำให้ผมตกหลุมรักมันซ้ำไปซ้ำมาได้ถึงแปดปี

“สรุปว่าพี่ธีมจะกลับไปพร้อมกับมิเชลเลยไหมคะ ไปพร้อมกันนะคะ ท่านลุงกับท่านป้ารอเจอพี่ธีมอยู่นะคะ” มิเชลพยายามอ้อนวอนผม ส่วนเจ้าชายมิคาเอลไม่ได้พูดอะไร แต่ก็มองหน้าผมเหมือนจะรอคำตอบ

“ผมขอเวลาอีกสักหน่อย” ผมตอบพร้อมกับมองไปที่นาว มันดูมีสีหน้าเครียดจนผมเริ่มกังวล

“เอาเป็นว่าให้คุณธีมพักผ่อนก่อนดีกว่าครับ” มาคัสแสดงความเห็น ซึ่งมันคือสิ่งที่ผมต้องการ เพราะตอนนี้ผมอยากคุยกับนาวตามลำพัง

“พี่ธีมไม่ใช่พี่ธีมอีกแล้ว หากแต่เป็นเจ้าชายธีมัส องค์รัชทายาทแห่งบัณตรา กรุณาเรียกให้ถูกด้วย” มิเชลเชิดหน้าบอกมาคัสแต่ก็ดูว่ายังมีแววเกรงกลัวมาคัสอยู่บ้าง

“มิเชล อย่าเสียมารยาท” เจ้าชายมิคาเอลดุน้องสาว ซึ่งผมเห็นมาคัสส่ายหน้าน้อยๆ เหมือนไม่ถือสา ดูทั้งเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งบัณตราจะเกรงใจองค์รักษ์ผู้นี้อยู่ไม่น้อย

“ผมมีคำถาม” เสียงของนาวดังแทรกขึ้นมา

“เรายินดีตอบทุกคำถามที่ตอบได้” เจ้าชายมิคาเอลส่งยิ้มหวานให้นาว ซึ่งมันทำให้ผมเริ่มหงุดหงิด

“แล้ว เอ่อ.. น้องชายราชาศัพท์ต้องใช้ว่าอะไรวะเกลือ” นาวมันหันไปกระซิบเพื่อนสนิท แต่คนในห้องได้ยินกันหมด ผมเห็นว่าทุกคนแอบอมยิ้มกันหมดไม่เว้นแม้กระทั่งบอดี้การ์ด

“พูดธรรมดาเถอะ สำหรับเรา เมืองไทยก็คือครอบครัว โดยเฉพาะครอบครัวน้าเมคือผู้มีพระคุณของบัณตรา”

“อ๋อ แหะๆ ได้ยินด้วยเหรอครับ คือ ผมสงสัยว่า น้องชายของพี่..เอ่อ  ของเจ้าชายธี..ธีมาดากัสก้า ยังมีชีวิตอยู่ใช่ไหมครับ แล้วใช่...เอ่อ...ใช่น้องทัสรึเปล่า” นาวมันถามขึ้น ผมหลุดขำชื่อที่แท้จริงของผมที่มันเรียก รู้ว่ามันประชดมิเชลแน่ๆ ซึ่งผมไม่คิดว่ามันจะกล้าถาม เห็นทำหน้าเครียดไอ้ผมก็นึกว่ามันเครียดเรื่องตำแหน่งของผม ที่แท้เครียดเพราะอยากรู้อยากเห็นนี่เอง คนอย่างนาวนี่นะ มันอยากรู้อะไรก็ต้องได้รู้

“นาวประชดเราใช่ไหม เจ้าชายธีมัส ไม่ใช่ ธีมาดากัสก้า เรียกให้ถูกด้วย” มิเชลหันมาส่งเสียงงอนๆ ใส่นาว แต่มันทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

“อย่ามากความน่ามิเชล ถ้าเจ้ายังยุ่งไม่หยุด พี่คงให้เจ้ากลับพร้อมเสด็จพ่อวันนี้เลย” เจ้าชายดุน้องสาวอีกรอบ คนถูกดุนั่งหน้ามุ่ยไม่พอใจแต่ก็ยอมสงบปากสงบคำ ผมคิดว่ามิเชลไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร แต่คงเป็นคนเอาแต่ใจไม่น้อยเลย

“ถ้านาวอยากถามว่า ทัสคือน้องชายของธีมใช่ไหม คำตอบคือ..ใช่ ทัสคือเจ้าชาย ‘ทัสสินา’ โอรสองค์เล็กของท่านลุง”

“นั่นปะไรไอ้เกลือ ว่าแล้วว่าหน้าตาน้องทัสคล้ายไอ้ เอ้ย พี่ เอ้ย เจ้าชายธีมเลย” นาวมันหันไปพูดกับเกลือ แต่ผมชักระแวงเพราะมันกำลังประชดผมด้วยการที่ไม่ยอมเรียกชื่อผมแบบปกติ

“พูดน้อยๆ ก็ดีนะคุณนาว” เกลือบอกเพื่อนสนิทของมันพร้อมกับหัวเราะเจื่อนๆ แต่คนถูกเตือนไม่เห็นจะสลด

“อืม ผมหมดข้อสงสัยแล้ว ถ้างั้นข้อตัวกลับก่อนนะครับ ครอบครัวจะได้คุยกัน” นาวมันลุกขึ้น ทำท่าจะออกจากห้องไป

“เดี๋ยว ห้ามไปไหน อยู่ก่อน เอ่อ ทุกคนครับ ผมขอคุยกับนาวตามลำพังก่อนนะครับ ส่วนเรื่องอื่น ผมขอให้ผมหายดีก่อนแล้วผมจะให้คำตอบ” ผมรีบบอก เจ้าชายมิคาเอลพยักหน้าก่อนจะลุกขึ้นบ้าง บอดี้การ์ดเริ่มทยอยออกไป เจ้าชายก็เดินตามไป ยังเหลือมาคัสและมิเชล

“ทุกคนเสียสละเลือดเนื้อ เสียสละความสุขเพื่อบัณตรา หวังว่าท่านพี่คงรู้ว่าจากนี้ไปหน้าที่ของท่านพี่คือต้องทำอะไรนะคะ” มิเชลทิ้งระเบิดเอาไว้ให้ผมก่อนจะเดินออกไป มาคัสส่ายหัวอีกครั้งก่อนจะเดินตามมิเชลออกไปติดๆ

“งั้นฉันกลับก่อนนะ” ไอ้เกลือบอกกับนาวและหันมาไหว้ผม ผมพยักหน้าให้ ตอนนี้เลยเหลือผมกับนาวแค่สองคนเสียที

“นาว” ผมเรียกมัน มันถอนหายใจก่อนจะเดินมานั่งบนเตียงข้างๆ ผม ผมขยับตัวลุกขึ้นมาสวมกอดมัน

“เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งพูดอะไร นาวขอทบทวนความเข้าใจอีกทีก่อน สรุปก็คือ ปู่แท้ๆ ของพี่ชื่อสเตฟาน ย่าของพี่ชื่อนารา เป็นพระราชาและราชินีของบัณตรา ปู่ของพี่มีลูกสี่คน คนแรกคือท่านนาทีคเป็นพ่อของพี่ แต่งงานกับแม่ของพี่ซึ่งเป็นสาวไทยชื่อเนตรนภา ทั้งคู่มีลูกสองคนคือพี่ธีมกับน้องทัส คนต่อมาคือท่านโมนัฟแต่งงานกับสาวไทยเหมือนกัน แต่นาวจำชื่อไม่ได้ มีลูกสามคนคือ มิคาเอล แอชตัน แล้วก็มิเชล คนที่สามคือท่านหญิงนาตาลี แต่งงานกับคนชื่อทารัสตัวร้ายที่เป็นคนก่อกบฏ ไม่มีลูกด้วยกัน ญาติคนสุดท้ายของพี่คือท่านหญิงแฮแทน เป็นอาสาวคนเล็กของพี่ถูกไหม โอ้ย ญาติเยอะมากเลยนะไอ้หมาธีม จำแทบไม่ไหว”

“นี่ขนาดจำไม่ไหวนะ” ผมนึกขำกับความช่างจดช่างจำของนาว

“นาวว่า..พี่ควรกลับไปนะ อย่างน้อย พี่ก็จะได้กลับไปกอดพ่อกับแม่แท้ๆ” มันบอก แต่น้ำเสียงมันหงอยมากครับ

“นาวไปกับพี่นะ”

“ไม่ไป จะบ้าเหรอ นาวจะไปในฐานะอะไร กี่ปีแล้วที่พี่ไม่ได้เจอพ่อแม่แท้ๆ จะให้ท่านช็อคตั้งแต่เจอหน้าลูกชายเลยรึไงที่จู่ๆ พาคนรักที่เป็นผู้ชายไปด้วย”

“งั้นพี่ก็ไม่ไป”

“ไอ้พี่ธีม อย่ามางี่เง่า มิเชลพูดถูกนะ ทุกคนเสียสละเพื่อรักษาชีวิตพี่ พี่จะทำเป็นไม่สนไม่ได้หรอก เลือดในตัวพี่ก็เป็นบัณตราครึ่งหนึ่ง” นาวมันพูดกับผม ผมกอดมันแน่นกว่าเดิม

“พี่ไม่ใช่คนที่ควรได้ครองราชย์ พี่แค่มีสายเลือด มีศักดิ์และสิทธิ์ แต่พี่ไม่ขอรับสิทธิ์นี้ คนที่คู่ควรคือคนที่ควรปกป้องดูแลบัณตราได้ ซึ่งไม่ใช่พี่ เข้าใจไหมนาว แต่พี่จะกลับไปหาพ่อกับแม่แท้ๆ ถึงยังไงนาวต้องไปบัณตราด้วย ถ้านาวไม่ไป พี่ก็ไม่ไป แล้วพี่บอกก่อนนะ ถ้าคิดทิ้งพี่ไป พี่จะสั่งคนมาจับโบยให้ตาย”

“หนอย ได้เป็นเจ้าชายแป๊ปเดียวบ้าอำนาจแล้วเหรอ จิ๊! แต่นาวรู้ว่าพี่ไม่ฆ่านาวหรอก”

“ทำไมมั่นใจ หื้ม” ผมถามมันก่อนจะคลายอ้อมกอดออกเพื่อจะมองหน้ามัน

“ก็พี่ยังไม่ได้ซั่มนาวเลย พี่มันหื่น ไม่เหมาะกับจะดูแลประเทศหรอก กลับมาเป็นไอ้หมาธีมของนาวเหมาะกว่า นาวมั่นใจ” มันบอก ผมหัวเราะเลยครับ ทำเป็นสั่งให้ผมกลับไปบัณตรา เอาจริงๆ มันคงไม่อยากให้ผมกลับไป ผมหอมแก้มมันแรงๆ แล้วกอดมันอีกครั้ง

“นาว ไม่ว่าเราต้องเจอกับอะไร อย่าคิดแทนพี่นะ เราจะผ่านไปด้วยกัน รับปากพี่ พี่อยากเป็นแค่ธีรดลของนาว ไม่ใช่เจ้าชายธีมาดากัสก้าอะไรนั่น”

“อืม..ชื่อพี่เห่ยมาก” มันทำเป็นว่าผม แต่ตัวมันก็กอดตอบผมแน่นไม่แพ้กันเลย

“นาวต้องเป็นซินเดอเรลล่าของพี่ แต่ไม่ต้องทิ้งแต่รองเท้าแก้วไว้นะ ขี้เกียจไปตามหา ข้ามขั้นไปเป็นเจ้าหญิงของพี่เลย ข้ามไปตอนเข้าหอเลยก็ได้” ผมบอกมัน มันกัดไหล่ผมเบาๆ มันชอบว่าผมเป็นหมา มันนี่แหละหมา ชอบกัดผมจริงๆเลย

“ถ้านาวมีรองเท้าแก้วจริงๆ นาวไม่ทิ้งให้พี่หรอก เอาไปขายทางอีเบย์ดีกว่า ได้เงินด้วย”

“หึหึ ไอ้งกเอ้ย ว่าแต่..นาว..งานการกุศลจบแล้วนะ” ผมบอกมัน เป็นการทวงสิ่งที่มันรับปากผมเอาไว้

“เออ พี่ธีมนาวมีข้อสงสัยอีกแล้ว แล้วคนที่ทำร้ายนาว ทำไมไม่ยอมฆ่าพี่หรือจะรู้ว่าพี่เป็นเจ้าชาย”

“ไม่รู้สิ ตอนนี้ตำรวจน่าจะกำลังสืบอยู่ ว่าแต่งานการกุศลจบแล้วนะ”

“เออ!! พี่ แล้วไอ้จอมมันจะรู้รึยังว่าน้องทัสคือเจ้าชายเหมือนพี่ เห็นมันชอบดุน้องเขาจัง ไอ้จอมเอ้ย แกหัวกุดแน่ คึคึคึ”

“นาว...”

“เออ แล้วพี่รู้ไหม ใครเป็นคนได้รางวัลที่เต้นรำกับเจ้าชายคนสุดท้าย”

“พี่ไม่รู้ รู้แต่จบงานการกุศลแล้วนาวต้องเป็นของพี่เต็มรูปแบบ” ผมบอกกับมันก่อนที่มันจะแถออกทะเลไปอีก

“โหย พี่โดนยิงอยู่ รอแผลหายสนิทก่อน จริงๆ รอพี่กลับมาจากบัณตราก่อนดีกว่า”

“ไม่ พรุ่งนี้พี่จะขอหมอออกจากโรงพยาบาล พรุ่งนี้โดนแน่” ผมขู่มัน มันรีบเด้งตัวออกจากตัวผมแล้วไปยืนข้างเตียง

“พี่เจ็บอยู่ เอางี้ ให้นาวทำพี่ก่อนไหม” มัยื่นข้อเสนอให้ผม หึหึหึ..หน้ามันเจ้าเล่ห์มาก นาวเอ้ย พี่ไม่โง่หรอกนะ คิดจะกดพี่เหรอ ให้มันมโนไปก่อนแล้วกัน

“จะดีเหรอ” ผมแกล้งถามมัน

“ดีดิ ตามนี้นะ จบ ห้ามแย้ง”

“ก็ได้ แต่คืนนี้นาวมานอนเฝ้าพี่ด้วยนะ พรุ่งนี้นาวไม่มีงาน” ผมบอกมัน มันพยักหน้าและยิ้มกว้าง หึหึ ยิ้มไปก่อนนะน้องนาวของพี่

“เออ งั้นธารก็ไม่ใช่น้องแท้ๆ ของพี่อะดิ ป่านนี้จะรู้รึยังนะ” นาวมันห่วงไปถึงธาร แต่ผมว่าธารเข้าใจอะไรง่าย ผมไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร ห่วงแต่นาวนี่แหละ ถึงดูมันจะเข้าใจ แต่ผมก็ยังอดกังวลไม่ได้ เพราะนาวมันชอบเก็บความรู้สึก

“เดี๋ยวแม่คงบอกกับธารเอง มานั่งนี่มา” ผมเรียกมัน มันกลับมานั่งบนเตียงข้างๆ ผมเหมือนเดิม

“พี่รักนาวนะ”

“อืม รู้”

“พี่ขอเป็นแค่เจ้าชายรองเท้าแตะของนาวนะ”

“จะได้เป็นเจ้าชายที่ยิ่งใหญ่ก็ไม่ชอบนะ อยากเป็นเจ้าชายตกอับ โง่เปล่าเนี่ย” มันถามผม

“นาวว่าพี่โง่ไหมล่ะ”

“ก็ โง่นะ แต่นาวก็รักของนาว” มันตอบ ผมยิ้มออกมาโดยอัตโนมัติเลยที่ได้ยินคำว่ารักจากมัน ดึงมันมากอดอีกรอบ

“อยากออกจากโรงพยาบาลแล้ว”

“นาวขอไปบอกหมอแป๊ปนะ ว่าให้ทำหมันให้พี่หน่อย เผื่อความหื่นจะลดลง” มันค้อนผม

“เอาสิ หมอฉีดยาพี่ พี่ก็ฉีดยาให้นาว”

“โอ้ย นี่ รู้ตัวไหม เข็มพี่อันเท่านี่” มันยกแขนมันขึ้นมาให้ผมดูขนาด ผมหลุดขำเพราะมันทำตาโต

“พ่อแม่ให้มา ทำไงได้”

“อืมมมมม”

“นี่..ทำหน้าแบบนั้น มโนอะไรอีก” ผมเห็นมันทำหน้าครุ่นคิดเลยถาม เรื่องมโนยกให้มันเลย

“พี่ว่าผู้ชายบัณตราเขาจะเหมือนพี่หมดทุกคนไหม...คึคึ นาวตกลงไปกับพี่ก็ได้ อยากไปเห็นกับตา คึคึคึ” มันหัวเราะเจ้าเล่ห์

“ทะลึ่ง พอเลย เอาผ้ามาเช็ดตัวให้หน่อย พี่ร้อนแล้ว  เหงื่อออกด้วย” ผมบอกมัน มันหรี่ตามองผมแบบระแวง

“แอร์เย็นจะตาย มีแผนอะไรปะ สารภาพมาเลย”

“แผนเผินอะไร ไม่มี ร้อนจริงๆ เหนียวตัว มาเช็ดให้หน่อย ไม่อยากให้พยาบาลเช็ด”

“ก็ได้” มันบอก แต่ก็ยังเหลือบสายตามาจับผิดผม ผมได้แต่ทำหน้าขึงขังใส่มัน มันเดินไปเอาน้ำใส่กาละมังพร้อมกับถือผ้าขนหนูมาตั้งไว้ที่โต๊ะหัวเตียง

“ปิดม่านดิ เดี๋ยวใครมาเห็นพี่โป๊” ผมบอกมัน

“แค่ถอดแค่เสื้อ จะมาโป๊อะไร”

“เออน่า อาย เร็วดิ” ผมเร่ง

มันส่งเสียงจิ๊แบบรำคาญก่อนจะเดินไปรูดม่านสีฟ้าอ่อนให้ปิดรอบเตียงให้แล้วเดินกลับมาแก้เชือกที่ชุดคนไข้ของผมออก แอบเห็นว่ามือมันสั่นนิดหน่อยคงจะเกร็ง จากนั้นมันก็บิดผ้าขนหนูที่เปียกน้ำชุ่มให้หมาด แล้วเริ่มเช็ดที่ใบหน้าผม ผมอยากยิ้มนะ แต่กลัวมันอายแล้วงอแงเลิกเช็ดตัวให้เลยต้องทำหน้าเฉยๆ มันเอาผ้าจุ่มน้ำแล้วบิด คราวนี้เช็ดคอและหน้าอกของผม อันที่จริงผมไม่ได้ร้อนหรอก แต่อยากให้มันเช็ดตัวให้ แอร์ก็เย็น เจอน้ำอีก ผมนี่ขนลุกเลย มันเช็ดถึงนมของผมก็หยุดก่อนจะเลี่ยงไปเช็ดกลางอกแทน

“เช็ดนมด้วยดิ” ผมบอกมัน

“หนาวจนนมตั้งเป็นปิรามิดแล้วยังจะให้เช็ดอีกเหรอ” มันเถียง หน้ามันเริ่มแดงแล้วครับ คุณคงไม่รู้ว่าการแกล้งนาวให้เขินมันคือความสุขที่ยิ่งใหญ่ของผมเลย

“เออ เช็ดให้ด้วย เร็วดิ” ผมบอก มันจิ๊ปากอีกก่อนจะเช็ดแรงๆ ผมแกล้งร้องเจ็บ มันเลยเบามือลง

“ไอ้หมาธีม จะทำหน้าเคลิ้มทำไมอะ” มันถามผม เวลามันเขินแล้วปากจัดตลอด

“เอ้า ก็ปลายนิ้วนาวมาโดนนมพี่ พี่ก็เพลินไง” ผมแกล้งมัน มันรีบเอาผ้าขนหนูมาห่อมือมันแล้วเช็ดให้ผมใหม่ จากนั้นมันก็เช็ดลงไปถึงหน้าท้อง หน้ามันก็แดงขึ้นเรื่อยๆ

“ข้างล่างพี่ก็เช็ดเองดิ” มันบอก

“แขนเจ็บเห็นไหมละ” ผมแกล้งมองไปที่แขนของผมที่ถูกพันแผลเอาไว้

“มืออีกข้างไง”

“ไม่ถนัด รังเกียจเหรอ” ผมถามมัน

“ถ้ารังเกียจ จะจับไหมวันนั้นอะ เต็มมือเชียว ชิ” มันรีบต่อว่าผม แล้วหน้ามันก็แดงหนักกว่าเดิม พอผมแอบยิ้มมันก็เอาผ้ามาเช็ดปากผมแรงๆ แก้เขิน

“นาว เร็วดิ เดี๋ยวพยาบาลมา” ผมเร่งมัน มันทำปากยู่ก่อนจะเอาผ้าไปชุบน้ำอีกรอบ

“พี่หลับตาเลย ไม่ต้องมองหน้านาว ห้ามยิ้มด้วย” มันบอก ผมยอมทำตามมัน มันล้วงผ้าเข้าไปในกางเกง เช็ดที่หน้าขา เช็ดเลี่ยงไปเลี่ยงมาตรงส่วนสำคัญของผมอยู่นาน แต่สุดท้ายมันก็เช็ดมังกรจนได้ มือมันไม่เบานะแต่ไม่ได้แรงมาก แต่มันก็แรงพอจะปลุกอะไรๆ ของผมให้ตื่น แอบลืมตาดูมัน ก็มันเล่นหลับตาเช็ดสะเปะสะปะไปมาแบบนั้นมันเลยเป็นการปลุกมังกรน้อยของผมให้ตื่นน่ะสิ

“นาว..”

“อะไร”

“ลืมตาดิ” ผมบอก มันลืมตามาข้างหนึ่งก่อนจะลืมตาอีกข้างตาม จากนั้นก็เบิ่งตาโตมองตามตำแหน่งนิ้วของผมที่ชี้ไปที่ส่วนกลาง

“นาว เอ่อ นาว ..”

“นาวปลุกมันทำไม” ผมถามก่อนจะมองไปที่ธีมน้อยของผมที่กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ

“บ้าเหรอ นาวไม่ได้ปลุกเหอะ ไอ้มังกรของพี่มันจะมาชี้หน้านาวทำไม ไปห้องน้ำเลย เร็วดิ มันโด่เด่แบบนี้ เดี๋ยวพยาบาลมานาวอาย พี่นี่นะ..ไอ้เมือกปลาหน้าหมาขี้หื่น พี่มันหน้าด้านจริงๆ เจ็บป่วยแบบนี้ยังจะมามีอารมณ์อีก ไอ้หมาบ้าเอ้ย” มันโวยวายรัวเลยก่อนจะประคองให้ผมยืนแล้วพาไปห้องน้ำ

อันที่จริงผมยืนเองได้ แต่ก็ยอมให้มันประคองไปห้องน้ำนั่นแหละ ไปถึงห้องน้ำก็แอบอ้อนให้มันจัดการลูกผมให้สลบที  แต่มันบอกจะตบผมให้สลบมากกว่า ผมถึงได้หัวเราะแล้วสั่งให้มันไปรอข้างนอก ผมไม่ได้ทำอะไรตัวเองหรอกครับ ทำธุระส่วนตัวธรรมดาจนมันสงบไปเองถึงได้ออกมา เห็นมันนั่งหน้าแดงค้อนผมอยู่นั่นแหละถึงได้เดินไปหอมแก้มมันหลายฟอดเพราะอดใจไม่ได้จริงๆ ผมมีความสุขนะ มีความสุขมากๆ หวังว่ามันคงจะมีความสุขเหมือนกับที่ผมมี ผมเสียคนๆ นี้ไปไม่ได้หรอกครับ

...ผมยอมถูกตราหน้าว่าเนรคุณแผ่นดินเกิด แต่จะไม่ยอมทรยศต่อหัวใจตัวเองแน่นอนครับ ผมมั่นใจ...


โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-12-2017 07:15:50 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ EunJin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
โหยยยยยย เค้าเดาผิดอ่ะ 5555
ยังมีอีกเรื่องที่คาใจ ทำไมคุณเมถึงดีกับนาวเป็นพิเศษ ? อิอิ

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
โอ๊ะ! นี่เข้าหลงเข้าใจมาตลอดเลยนะว่าน้องนาวอาจจะได้เป็นเจ้าชาย ตั้งแต่แรกๆตอนจะมีเจ้าชายมาประเทศ ต้องเป็นเพราะติดน้องนาวมาแน่ๆเลยค่ะ พลังมโนแกร่งกล้า นั้นข้าได้จากน้องนาวมา  :laugh: :laugh: :laugh:
พี่ธีมคะ พี่หื่นได้ใจหนูมากเลยค่ะ  :hao6: :hao6: :hao7: :z1: :m25:

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
พี่ธีมเป็นเจ้าชาย  อุปสรรคเริ่มมา
ธีมกับนาวจะทำยังไงต่อไป
ตอนท้ายธีมยังแกล้งนาวให้อายได้ตลอด

ปล.แล้วคนร้ายมาทำร้ายนาวทำไมนะ

ออฟไลน์ ciaiwpot

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1098
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
หายค้างแล้วค่ะ
ขอบคุณมากกกกกกกกกกกกกกกก
 o15 o15 o15 o15 o15
ชอบจัง
ยังไงพี่ธีมก็ไม่ทิ้งนาว
นาวไม่ต้องรอเจ้้าชายตามหานะ
ถวายตัวเลย
ป้าเชียร์อยู่
 :m4: :m4: :m4: :m4: :m4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ป้าด!!!! กลายเป็นเจ้าชายธีมาดากัสก้าแล้ว

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
เจ้าชาย มาดากัสก้า :laugh:

เลือกความสุขตัวเองดีกว่า ส่วนเจ้าชายรัชทายาทให้คนที่เค้าพร้อมจะรับผิดชอบบ้านเมืองไปเถอะ

กลับมาเป็นเจ้าชายรองเท้าแตะ ที่หื่นๆของหนูซินขี้มโนดีกว่าเนาะ :hao6:

ออฟไลน์ QueenPedGabGab

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 311
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
ชอบนิสัยพี่ธีมอ่า  :-[

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
โหห.  เจ้าชายมาดากัสก้า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด