ตอนที่ 87 รื้อฟื้น
อากาศนอกระเบียงมันหนาว ยุงก็กัด .... น้ำมูกไหล หายใจไม่ออก มันอึดอัดเหมือนอกจะระเบิด
“........ไม่ไปไหนทั้งนั้น!!!” ได้ยินเสียงพี่โต้งตะโกนใส่โทรศัพท์ด้วยความหงุดหงิด หนูชะโงกหน้าแอบส่องตามช่องว่างของผ้าม่าน เห็นพี่โต้งวางโทรศัพท์ลง แล้วเดินตรงมาทางนี้
“น้องฐา.....” เสียงพี่โต้งเรียกจากในห้อง พร้อมกับแหวกผ้าม่านแล้วเลื่อนประตูกระจกออก
หนูเงยหน้าพี่เขาอย่างแปลกใจ พี่เขาเดินออกมาทีหลัง แต่ทำไมถึงรู้ว่าหนูอยู่ตรงนี้ล่ะ
ไม่ทันจะเอ่ยปากถามออกไป พี่เขาก็โถมตัวเข้ามากอด
“คราวหลังถ้าคิดจะซ่อน อย่ามาตรงนี้ได้ไหม มันหนาว เดี๋ยวก็ยุงกัดตายหรอก”
“ใครโทรมาคะ?” หนูไม่ได้ตอบรับความห่วงใยนั้นแต่ถามกลับไปทันที
“ซา เพื่อนพี่น่ะ มันชวนออกไปข้างนอก”
“เพื่อนจริงๆ เหรอคะ?”
“จริงสิ” พี่โต้งจ้องมองหนูกลับอย่างแปลกใจ “แล้วน้องฐาคิดว่าจะเป็นใคร”
หนูเองก็ชะงัก นั่นสิ หนูคิดว่าจะเป็นใคร? ใครจะโทรมา แล้วทำไมต้องรู้สึกกังวลด้วย....
“หนูไม่รู้” หนูบอกด้วยเสียงลอยๆ ขณะที่พยายามก้มหน้าลงคิดหาคำตอบอย่างสุดกำลัง
“หรือว่าน้องฐา.... นึกอะไรออกแล้ว จำได้แล้วเหรอ?”
หนูหลับตาแน่น ขณะที่หัวมันปวดขึ้นมาจนต้องเอามือกดที่ขมับ ภาพบางอย่างที่แวบเข้ามาไวๆ แต่จับใจความไม่ได้ ทำให้รู้สึกเหมือนอยากจะอาเจียน
“น้องฐาเป็นอะไร...น้องฐา......”
.
.
.
ค่ำคืนที่เกือบโรแมนติกผ่านไปอย่างน่าเสียดายด้วยพาราสองเม็ดบวกยานอนหลับ แต่เมื่อตื่นขึ้นมา หนูก็ยังคงรื้อฟื้นความทรงจำไม่ได้ แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือสับสน และความรู้สึกค้างคาใจไม่จบไม่สิ้น
หลังจากที่หนูทำ “ล่ม” ไปเมื่อวันก่อน พี่เขาก็เลยไม่เข้ามาวุ่นวายอะไรกับหนูอีก หนูไม่มั่นใจว่าเพราะพี่เค้าหมดอารมณ์ทางเพศไปแล้ว หรือกลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอยก็ไม่ทราบได้ แต่หนูก็แกล้วทำเป็นไม่สนใจเพราะเข้าสู่ช่วงฤดูการสอบพอดี ต่างคนต่างยุ่งที่ต้องเคลียร์งาน และอ่านหนังสือสอบไฟนอล ซึ่งตัวหนูเองรู้สึกเหนื่อยมากเพราะจำอะไรก่อนหน้าไม่ได้ เลยต้องพยายามมากกว่าปกติเป็นเท่าตัว
หนูนั่งลงกับพื้นห้องเอนหลังพิงโซฟา หน้าโน้ตบุกที่เปิดทิ้งไว้ด้วยความเคยชินทั้งๆ ที่ความจริงอ่านหนังสืออยู่ไม่ได้เล่น พี่โต้งนั่งอ่านหนังสือเงียบๆ บนโซฟา เราไม่ได้คุยกันเลย
หากวันใดที่เธอลืมไปว่ารักกันหรือเปล่า หากวันเวลาที่เดินผ่านอาจจะเจือจางทุกเรื่องราว
มีเพียงคำเดียวพอให้เธอชื่นใจ หากความจริงที่เจอมันเลวร้ายแค่ไหน
วันนี้ต้องเจออะไร ฉันรักได้เพียงแค่เธอ....
ระหว่างนั้นเสียงเพลงก็ดังขึ้น หนูหันไปมองตามพี่โต้งยกมือถือขึ้นกดรับสายตอบรับสั้นๆ
หลังจากวันนั้น พี่โต้งก็เปลี่ยนเสียงเรียกเข้าเป็นเพลงเผื่อลืม.... มันก็เข้ากับเราดี ถึงแม้หนูจะคิดว่าเพลงรักเธอเสมออาจจะมีประเด็นอะไรบางอย่างที่ทำให้นึกถึงเรื่องอดีตกาลได้ แต่พี่โต้งก็ไม่ได้ฮาร์ดคอร์ขนาดนั้นอยู่ดี
นั่นแหละที่มันแปลก ทำไมพอเปลี่ยนเสียงเรียกเข้าแล้วถึงรู้สึกเฉยๆ
“อ้ะ.....” หนูเลิกคิ้วใส่พี่โต้งที่ยื่นมือถือส่งให้
“คนที่ขับรถชนน้องฐาโทรมา เค้าจะคุยเรื่องค่าสินไหม”
หนูพยักหน้า แล้วรับมาคุย
นอกจากค่ารักษาพยาบาลที่ไม่เสียตังค์สักบาทแล้ว พี่คนชนก็แสนใจจะใจดีบอกให้หนูเรียกร้องจากประกันได้เลย เพราะตัวพี่เค้าไม่เสียอะไรอยู่แล้ว ประกันก็จ่ายทุกปีไม่เคยได้ใช้ พี่เค้าก็รับแล้วว่าเค้าเป็นฝ่ายผิด แม้ว่าความจริงหนูจะเป็นคนวิ่งไม่ดูตาม้าตาเรือออกไปให้ชนเองก็เถอะ
“ตอนนั้นหนูวิ่งออกไปเหรอคะ”
“ใช่นะ เหมือนจะวิ่งตามรถแฟนน้องออกมา คงรีบมากอ่ะ แม้แต่รองเม้ายังไม่ได้ใส่เลย วิ่งออกมากระทันหันจนเบรคไม่ทัน พอชนแล้วแฟนน้องถึงจอดรถแล้วกลับมาดู”
หนูนิ่งคิด สงสัยจะจริง เรื่องที่รีบเพราะพี่โต้งเพิ่งเอารองเท้ามาให้ตอนที่หนูทัก ในตัวไม่มีอะไรติดตัวแม้แต่กระเป๋าเงิน เสื้อผ้าที่ใส่ก็เหมือนชุดนอน
หลังจากวางสายพี่คนนั้นแล้ว ด้วยความข้องใจทำให้หนูโทรไปถามออย แล้วก็ได้รับการยืนยันว่าก่อนจะถูกรถชนหนูมีเรื่องทะเลาะกับพี่โต้งอยู่ แต่หนูไม่ได้เล่าให้ฟังว่าเรื่องอะไร
“อะไร? จนป่านนี้แล้วยังนึกอะไรไม่ออกอีกเหรอ?” เสียงออยถาม
“อือ.... ไปๆ มาๆ เหมือนเรื่องลึกลับอ่ะ ต้องสืบอดีตตัวเอง พี่โต้งเองบอกอยากให้จำได้ แต่แกก็ไม่เล่าเรื่องก่อนหน้านี้ให้ฟังเลยนะ เหมือนมีอะไรปิดบังไว้อย่างนั้นแหละ”
“เออ..... จะว่าไปแล้ว ฉันเอาเรื่องแกไปเล่าให้พี่ชลฟังนะ เค้าบอกว่าอาการความจำเสื่อมมีสาเหตุอยู่สองอย่าง คืออาการกระทบกระเทือนทางสมอง กับการปิดกั้นความทรงจำ ถ้าหากเป็นแบบแรก แกอาจจะต้องรอให้สมองได้รับการซ่อมแซม แต่นี่มันก็พักนึงแล้ว แกก็ไม่ได้มีอาการข้างเคียง จำพวกความผิดปกติทางสายตา การพูด ปากเบี้ยว หรือว่าคลื่นไส้อาเจียนเลยไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่มีนะ แต่ปวดหัวตอนที่มีอะไรบางอย่างแวบเข้ามา แต่ก็ยังปะติดปะต่อราวไม่ได้อยู่ดี”
“ถ้าเกิดที่แกลืมไม่ใช่เพราะสมองล่ะ? แต่เป็นเพราะมีอะไรบางอย่างทำให้แกอยากลืม.... เวลาอาจจะไม่ได้ช่วยอะไรก็ได้”
“แล้วไงต่อ? มันมีวิธีรักษาไหม?”
“ไม่รู้ดิ แม้แต่หมอเค้าก็ยังบอกไม่ได้เลยนี่ ฉันว่าแค่บรรยากาศเดิมๆ เรื่องราวดีๆ มันยังไม่พอ แกต้องหาสาเหตุที่ทำให้ลืม ทำไมยังจำเรื่องไอ้โรจน์ได้แต่จงใจลืมเรื่องของพี่โต้งคนเดียว ไม่แน่ กุญแจที่ขังความจำของแกไว้อาจจะอยู่ใกล้นิดเดียวก็ได้นะ”
หนูกลับมานั่งเครียดหน้าคอมอีกครั้ง ปวดหัวหนัก คอมเปิดไว้เฉยๆ ไม่ได้เล่น หนังสือที่กองๆไว้ ไม่ได้อ่าน หลับตาพักสมองพักนึง
“โอวัลตินค่ะน้องฐา” หนูลืมตาขึ้นมองหน้าพี่โต้ งยื่นมือไปรับถ้วยเครื่องดื่มมาวางไว้ข้างตัว
“ขอบคุณค่ะ”
“อะไร.... เนื้อหาตอนปีหนึ่งมันยากขนาดนั้นเลยเหรอ?” พี่แกถามเหมือนจะแซว
“คะ?”
“เห็นทำหน้ายังกับแบกโลกไว้อย่างงั้น”
เฮ้อ.... ไม่ได้เครียดเรื่องนั้นสักหน่อย.....
หนูเงียบไม่ได้ตอบ หันไปมองพี่โต้งที่นั่งลงบนโซฟาที่เดิม
บางที.... สิ่งที่ทำให้ความจำกลับมาอาจจะอยู่ใกล้ๆ....
“พี่คะ”
“หืม” ตอบด้วยเสียงในลำคอ
“ก่อนรถชนเกิดอะไรขึ้นเหรอคะ”
“ฮึ! เกิดอะไรงั้นเหรอ?” แกหันมามองหน้าพลางขมวดคิ้ว
“ค่ะ หนูอยากรู้ว่า ก่อนที่หนูจะถูกรถชนจนจำอะไรไม่ได้ เราทะเลาะกันเรื่องอะไร”
“น้องฐา......” พี่โต้งอึ้งทำหน้าตกใจที่โดนถาม ใบหน้าลำบากใจของแกทำให้หนูขัดเคืองใจขึ้นมา
“ทำไมไม่ตอบล่ะคะ พี่มีอะไรปิดบังหนูอยู่หรือไง”
“เปล่า...... ไม่มีอะไรทั้งนั้น ทะเลาะกันก็เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไม่สำคัญอะไรหรอก”
หลีกเลี่ยง... ปิดบัง
“ถ้ามันเล็กจริงทำไมบอกไม่ได้ล่ะ”
“มันนานจนพี่ก็ลืมๆ ไปแล้วต่างหาก น้องฐาอย่าใส่ใจเลยนะ”
“แล้วมันเกิดอะไรขึ้นตอนนั้น พี่โต้งกำลังจะไปไหน ทำไมหนูต้องรีบวิ่งตามลงไปด้วย”
“พี่....กำลังจะไปเยี่ยมหลาน... แต่พี่คิดว่าน้องฐาจะรออยู่ที่ห้อง พี่ไม่คิดว่าน้องฐาจะตามลงไป มันเป็นอุบัติเหตุเท่านั้นเอง แล้วมันก็ผ่านไปแล้วด้วย น้องฐาจะอยากรู้ไปทำไม”
“หนูก็แค่คิดว่าถ้ารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นตอนนั้น หนูอาจจะนึกอะไรออก ก็ได้ค่ะ ถ้าไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไร หนูคงเข้าใจผิดไปเองว่าพี่อยากให้หนูจำทุกอย่างได้จริงๆ” หนูบอกด้วยเสียงใส่อารมณ์ นึกเคืองพี่โต้งเหลือเกิน ปากบอกว่าอยากให้จำได้ แต่พอถามอะไรก็เอาแต่เงียบ ไม่ยอมตอบไม่ยอมเล่า มัวอมพะนำอะไรไว้ก็ไม่รู้....
ไม่พอใจแต่ทำอะไรไม่ได้ เมื่อพี่โต้งปฏิเสธไม่ยอมเล่าเรื่องที่คาใจให้ฟัง ยืนยันจะหาทางฟื้นความทรงจำด้วยวิธีอื่น พอสุดสัปดาห์พี่แกก็พาหนูไปที่ผับที่เจอกันครั้งแรก เท่านั้นยังไม่พอ ดึกๆ ดื่นๆ ยังขับรถไปจอดหน้าโรงแรมม่านรูด ให้หนูเสียวเล่นอีกต่างหาก....
“อย่าบอกนะคะว่าเราจะเข้าไป” หนูถาม หันไปมองป้ายโรงแรมพลางกลืนน้ำลาย
“ไม่ดีกว่า ขนาดห้องที่อยู่ด้วยกันทุกวันยังนึกอะไรไม่ออก โรงแรมม่านรูดมันคงไม่ได้ช่วยอะไรขนาดนั้นมั้ง” พี่โต้งตอบก่อนจะออกรถ ทำให้หนูต้องถอนใจอย่างโล่งอก
แต่เดี๋ยวสิ.... หรือว่าเรื่องที่หมอกบอกจะเป็นเรื่องจริง....
“น้องฐา”
“อะ....ขะ....คะ?”
“จนถึงตอนนี้ก็ยังคิดอะไรไม่ออกเลยเหรอ”
หนูส่ายหน้า มองเห็นพี่โต้งพยักหน้าน้อยๆ ไม่ว่าอะไร ถึงอย่างนั้นก็พอรู้ว่าแกคงผิดหวัง
“ถ้าหากว่าพี่ไม่อยากรอ หนูก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะคะ ตอนนี้หนูก็เดินได้แล้ว อีกไม่กี่วันก็สอบเสร็จ หนูคงไม่ต้องรบกวนพี่อีก ก็แค่กลับไปอยู่บ้าน กว่าจะเปิดเทอมก็เป็นเดือน หนูคงหาที่อยู่ใหม่ได้ไม่ยาก”
“น้องฐาคิดอะไรเนี่ย... พี่พูดสักคำเหรอว่าไม่อยากรอ ถึงพี่จะอยากให้น้องฐาจำเรื่องของเราได้มากแค่ไหน แต่ถ้าน้องฐาจำไม่ได้ ก็ไม่ใช่เหตุผลที่เราจะเลิกกันอยู่ดี น้องฐาอาจจะลืมเรื่องราวทั้งหมด แต่พี่ไม่เคยลืม ...ถึงน้องฐาจำอะไรไม่ได้สักอย่าง ไม่ได้แปลว่าเราไม่ได้รักกัน ถ้าหากการที่น้องฐามีขาครบถ้วนสมบูรณ์ทั้งสองข้างจะทำให้น้องฐาเดินจากพี่ไป พี่ยอมดูแลคนขาหักตลอดชีวิตยังจะดีเสียกว่า”
พูดอะไรไม่ออก..... นอกจากนิสัยชอบดูแลคนอื่นมากกว่าตัวเองแล้ว นิสัยที่เหมือนกันอีกอย่างของเราคือความดันทุรังนี่แหละ ตัวหนูเองก็ไม่ได้อยากพูดให้พี่โต้งเสียใจแบบนั้น เพียงแค่ไม่สบายใจที่เห็นแกทำดีกับหนูทุกอย่าง และพยายามหลายๆ อย่างเพื่อรื้อฟื้นความทรงจำให้ แต่หนูก็ยังจำอะไรไม่ได้ หนูไม่อยากให้แกต้องผิดหวังซ้ำๆ เท่านั้นเอง
สัปดาห์ที่สองของการสอบ วันนี้หนูมีสอบตอนบ่าย พี่โต้งออกไปสอบแต่เช้าแล้ว หนูนั่งตัวกลมอยู่เดิม เปิดโน้ตบุคทิ้งหน้าเฟสค้างไว้ แล้วนั่งกินขนมไป อ่านหนังสือไปเหมือนอย่างเคย จู่ๆ พอหันไปมองจอคอม เห็นหน้าต่างเล็กๆ กระพริบตรงหน้าจอเฟส
เอ๊ะใครทัก....
MInG Quan อะไรเนี่ย? คนจีนป่ะคะ หมิงเฉวียน เพื่อนเต้าหมิงซื่อป่ะเนี่ย
MInG Quan หวัดดี
NONGTHA ดี ใครอ่ะ
MInG Quan เรามิ่งไง... มิ่งขวัญน่ะ จำได้ไหม?
หนูนิ่งไปแป๊บนึงเหมือนตาจะค้างไปชั่วขณะ เมื่อรำลึกได้ว่าคนชื่อมิ่งขวัญที่รู้จัก มีแค่คนเดียว
NONGTHA จำได้สิ เป็นไงมั่ง สบายดี?
MInG Quan สบายดี.... ฐาล่ะเป็นไง...
NONGTHA ก็ดี....
MInG Quan ละมีแฟนใหม่ยัง?
หนูเงียบ ไม่กล้าตอบ หนูกลัวว่าถ้าตอนนี้มิ่งอาจจะไม่ได้อยู่คนเดียว
ถ้าสมมุติ......มันอยู่ด้วย...... ถ้าเกิดมันรู้ว่าตอนนี้หนูมีคนอื่นแล้ว....
มันจะคิดยังไง?
NONGTHA มิ่ง....... ได้เจอโรจน์บ้างไหม?
TBC.