บทที่ 14
By moggy
-----------------------
บ้านสไตล์โมเดิร์นที่สร้างด้วยไม้สัก และตีกระจกรอบตัวบ้าน ตั้งอยู่บนเนินเขา ตอนนี้ได้กลายเป็นสถานที่จัดงานแต่งงานของนายหัวแห่งไร่ราชัน ดอกมะลิที่ปลูกไว้รอบตัวบ้านส่งกลิ่นหอมคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ตามบริเวณทางเดิน ประตู หน้าต่าง บันได ซุ้มของกิน จะถูกประดับด้วยดอกรักที่ร้อยเรียงกันอย่างสวยงามโดยมีดอกกุหลาบสีโอรสแซม เป็นงานเล็กๆ ที่จัดภายในครอบครัว เชิญแค่ญาติและคนสนิทเท่านั้น รวมๆ แล้วประมาณ 20 คนได้ และตอนเย็นไร่ราชันก็จะมีงานเลี้ยงให้กับลูกจ้าง ภูธิปในชุดสูทสีครีมเป็นแบบลำลอง แต่งตัวเรียบร้อยแล้วลงมาต้อนรับ พูดคุยกับแขกในงาน พวกผู้ใหญ่ภูธิปแค่เข้าไปทัก แล้วขอตัวออกมาให้คุณแม่ต้อนรับต่อ
“ไง” เสียงชาครดังขึ้น
“อืม” ภูธิปทักกลับสั้นๆ
“สวัสดีครับ คุณภู” คนตัวเล็กข้างตัวชาครเอ่ยขึ้น
“สวัสดีครับ คุณรชา” ภูธิปทักกลับ
“นนท์กับนันท์ล่ะ” ภูธิปเอ่ยถามถึงเจ้าแฝด
“อยู่กับป้าละออ ซน ก็เลยไม่พามา”
“อือ”
เมื่อถึงเวลาฤกษ์ ลูกข้าวก็เดินลงมาจากข้างบนบ้าน ในชุดสีขาวคล้ายๆ กี่เพ้ายาวประมาณเข่า ชายพริ้วคล้ายสไบ และใส่กางเกงขายาวสีขาวทับอยู่ด้านใน หน้าถูกแต่งอ่อนๆ ผมก็ใช้กิ๊ฟหนีบเข้าที่ด้านข้าง ภูธิปมองค้างนิ่งๆ เมื่อลูกข้าวเดินลงมาใกล้จะถึงบันไดขั้นสุดท้าย ภูธิปจึงเดินเข้าไปรับทันที แล้วพาไปนั่งสำหรับพิธีสงฆ์
“วันนี้สวยมาก” ภูธิปกระซิบที่ข้างหูลูกข้าวให้ได้ยินกัน 2 คนขณะนั่งฟังพระสวด
“บ้า พี่ภู สวยอะไร ข้าวเป็นผู้ชายนะ” ลูกข้าวโต้ตอบ แต่แก้มก็แดงเป็นลูกตำลึง
แอบบอกนิดนึงตอนตักบาตร พี่ภูให้ผมจับทัพพีด้านบนแหละ อิอิ เมื่อพิธีสงฆ์เสร็จ ก็ถึงพิธีสู่ขอ และพิธีสวมแหวน ภูธิปสวมแหวนให้ลูกข้าวตามเวลาฤกษ์ยามที่จับมา ลูกข้าวก้มลงกราบที่ตัก ภูธิปรับไหว้ จากนั้นลูกข้าวได้สวมแหวนให้ภูธิปคืน แหวนคู่ทำด้วยทองคำขาว จะต่างกันแค่ของพี่ภูเป็นแบบเรียบ ส่วนของผมประดับเพชรฝังอยู่ที่แหวนด้วย อืม...เรียงเยอะอยู่นะ แต่ไม่รู้ว่ากี่กะรัต เดี๋ยวค่อยถามพี่ภู ส่วนแหวนของพี่ภูเห็นบอกว่าไม่ฝังเพชรแหละดีแล้ว เดี๋ยวตอนทำงานแล้วเพชรกระเด็นหลุดหายไป เสียดายแย่ เป็นเหตุผลที่น่าขำจริงๆ
จากนั้นก็ถึงพิธีผูกข้อมือ ผมนั่งอยู่ฝั่งซ้ายของพี่ภู มีหมอนทรงฟักทองสีเงินรองข้อมือไว้ ผู้ใหญ่เริ่มทยอยผูก เริ่มตั้งแต่คุณแม่ แม่พิมพ์ และผู้ใหญ่ท่านอื่นก็ทยอยกันมาผูก ลูกข้าวไม่มีเพื่อนมา เพราะไม่ค่อยสนิทกับใครอยู่แล้ว ส่วนพี่ภูก็มีคุณชาครพร้อมกับผู้ชายร่างเล็กคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆ คุณตำรวจที่ชื่ออาชว์ คุณปาณัท คุณเวทิต เพื่อนพี่ภูครับ แล้วก็แขกผู้ใหญ่ที่สนิทกับคุณแม่ อ่อ...น้าหมอวิก็มาครับ ทุกคนที่มาไม่มีใครรังเกียจผมเลย ทุกคนใจดีมาก แค่นี้ผมก็มีความสุขแล้วครับ จากนั้นก็จดทะเบียนสมรส คุณแม่ให้ทนายของตระกูลจัดการให้เรื่องนายอำเภอจากประเทศนิวซีแลนด์ เพราะพี่ภูจบจากที่นั่นมา คุณแม่ก็เลยเลือกให้จดที่นี่ และผมเปลี่ยนมาใช้นามสกุลพี่ภูครับ
สิปาง แก้ววรา เปลี่ยนเป็น สิปาง วัลลิพานนท์
พอถึงพิธีส่งตัว มีแค่คุณแม่กับแม่พิมพ์ที่เข้ามา
“คำว่า ‘แต่งงาน’ ไม่ใช่เป็นจุดสำเร็จของความรักระหว่างคนสองคน แต่คำว่า ‘แต่งงาน’ เป็นจุดเริ่มต้นของคำที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมคือคำว่า ‘ครอบครัว’ หากวันไหนที่ไม่เข้าใจกัน ทะเลาะกัน หรือโกรธกัน ให้นึกถึงวันนี้ไว้นะลูก ในวันข้างหน้าคือบททดสอบความรักของลูกทั้งสอง ต้องจับมือกันฝ่าฟันและผ่านพ้นไปให้ได้…อุปสรรคที่เข้ามาจะเติมให้ความผูกพันธ์แข็งแกร่งขึ้น มีความสุขมากๆ นะลูก” คุณแม่เอ่ยอวยพรก่อนเป็นคนแรก พวกเราก้มลงกราบเท้าเพื่อขอบคุณ
“ข้าว ลูก” แม่พิมพ์เอ่ยเรียกพร้อมกอดเจ้าตัวเล็กเอาไว้แนบอก น้ำตาไหลเป็นสายธารด้วยความปิติยินดีที่ลูกจะมีคนคุ้มครองดูแลแทนตัวเอง ส่วนลูกข้าวก็ร้องไห้ตามด้วยความซาบซึ้ง แม่พิมพ์ผละตัวลูกข้าวออก แล้วจับมือภูธิปกับลูกข้าวทับกัน
“พี่ภู แม่ฝากน้องด้วยนะคะ ข้าวเชื่อฟังพี่ภู อย่าดื้อกับพี่เขานะลูก หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กันนะลูก”
“ถึงฤกษ์ส่งตัวแล้ว แม่ทั้งสองต้องออกไปแล้ว คืนนี้ห้ามออกจากห้องนะลูก มีความสุขมากๆ” คุณแม่เอ่ยขึ้นและเดินออกจากห้องไป แม่พิมพ์ก็เดินตามออกไปด้วย
หลังจากอยู่กันสองคน ลูกข้าวก็เริ่มทำตัวไม่ถูก อยู่ๆ มันก็เขินขึ้นมา
“เอ่อ...พะ...พี่ภูอาบน้ำก่อนเลยครับ”
“ข้าวอาบก่อนเลย พี่เหนื่อยขอพักแปป” โดยที่ลูกข้าวไม่ทันได้สังเกตสีหน้าคนพูดเลยว่าเจ้าเล่ห์แค่ไหน
“อย่างนั้นก็ได้ครับ” ลูกข้าวเดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว กว่าจะล้างเครื่องสำอางค์ ถอดชุดอีก ก็ใช้เวลาหลายนาที ร่างเล็กเดินเข้าไปใต้ชาวเวอร์อาบน้ำ น้ำจากฝักบัวตกกระทบผิวเนียน ทำให้คนตัวเล็กรู้สึกสดชื่นขึ้นมาหน่อย สบู่เหลวที่มือสวยไล้ไปตามลำตัวไปมาต้องชะงักลงเมื่อมีมือใหญ่ทาบทับมือเล็กเอาไว้ ลูกข้าวหันกลับไปหาร่างใหญ่ทันที
“พี่ภู เข้ามาตอนไหนเนี่ย”
“เมื่อกี้นี้เอง พี่อาบด้วยนะ” พูดแค่นั้นภูธิปก็ก้มลงจูบปากบางทันที
“อื้อ...” คนตัวเล็กทุบอกแกร่งเบาๆ เพื่อให้ร่างใหญ่รู้ว่าเขาหายใจไม่ออกแล้ว ภูธิปจึงผละออก ถึงจะเสียดายความหวานนั่นก็เถอะ ทั้งคู่เริ่มละเลงสบู่เหลวให้กัน กว่าจะอาบน้ำเสร็จก็นานทีเดียว จากนั้นภูธิปก็อุ้มร่างเล็กออกมาทันที เดี๋ยวจะเป็นหวัดเอา แต่งตัวเรียบร้อยเพื่อเตรียมเข้านอน ภูธิปจุ๊บหน้าผากว่าที่คุณแม่ แล้วก็เลื่อนตัวลงไปจุ๊บท้องของลูกข้าวที่เริ่มใหญ่ขึ้นนิดหน่อย
“ฝันดีครับ คนดีของพี่”
“ฝันดีครับ ลูก”
“ฝันดีครับ พี่ภู”
ทั้งคู่นอนหลับอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน
เช้ารุ่งขึ้น ผมลงครัวเหมือนเดิม เมนูวันนี้ข้าวต้มทะเลครับ เหมือนเดิมให้ป้าสายเจียวกระเทียวให้ทีหลัง ส่วนแหววผมวานให้ไปเก็บดอกอัญชันให้ เดี๋ยวพี่ภูดุอีก ว่าไม่ยอมล้างให้สะอาดก่อนกิน ช่วงนี้ผมจะกินดอกอัญชันทุกเช้าเลย มันรู้สึกอยากกินแค่ช่วงนั้นครับ
ถึงเวลาตั้งโต๊ะ ทุกคนก็ทยอยกันลงมา ตอนแรกที่คุณแม่ลงมาทำอาหารช่วงเช้า ผมก็เกรงใจครับ แต่คุณแม่บอกไม่ได้ทำทุกวัน ส่วนใหญ่ป้าสายจะทำ และตอนนี้ผมก็มาช่วยตรงนี้แล้ว ช่วงนี้คุณแม่ก็เลยไม่ได้เข้าครัว แต่ก็ยังเป็นห่วงกลัวจะลื่น เลยให้แหววดูแลผม
“ฟอด...” วันนี้พี่ภูลงมาเร็วแหะ ลงมาก็เดินเข้ามากอดแล้วหอมตามเคย ก่อนไปนั่งกินข้าว
สักพักคุณแม่ทั้งสองก็เดินลงมา
“หอมเชียว ลูก” แม่พิมพ์ทักขึ้น ผมแค่ยิ้มรับ
“พรุ่งนี้ แม่จะกลับกรุงเทพฯ แล้วนะข้าว” แม่พิมพ์พูดขึ้นระหว่างทานข้าว
“แม่” ลูกข้าวเรียกขึ้น เพราะไม่อยากให้กลับเลย แต่ทุกคนก็มีหน้าที่ของตัวเอง ตัวเขาก็เข้าใจ
“ทำไมรีบกลับล่ะคะ คุณพิมพ์” คุณแม่ทักขึ้น
“ต้องกลับไปจัดการงานต่อค่ะ ยังไงต้องฝากลูกข้าวด้วยนะคะ คุณพี่”
“ฝากอะไรกันคะ ตอนนี้ลูกข้าวก็เป็นลูกพี่อีกคนแล้ว พี่เต็มใจดูแลค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ”
“ขอบคุณค่ะ คุณพี่”
ภูธิปกำลังจะไปทำงาน โดยมีลูกข้าวเดินออกมาส่งที่หน้าบ้านเหมือนเคย ภูธิปสวมสร้อยคอที่มีจี้รูปดอกมะลิให้กับลูกข้าว ที่จริงจะให้ตั้งแต่เมื่อวาน แต่ก็นะ ไม่มีโอกาสสักเท่าไร ก็ให้ไว้ตอนนี้นั่นแหละ ภูธิปขับรถออกไปแล้ว วันนี้ลูกข้าวใช้เวลาอยู่กับดอกเตอร์พิมพ์พิกาทั้งวัน
รุ่งเช้าของอีกวันแม่พิมพ์เตรียมของเรียบร้อย ภูธิปอาสาไปส่งเอง ลูกข้าวก็นั่งมาส่งด้วย
“พี่ภูแม่ฝากน้องด้วยนะคะ” ดอกเตอร์พิมพ์พิกาฝากลูกชายที่รักไว้กับภูธิป
“ผมจะดูแลอย่างดีครับ” ภูธิปตอบกลับพร้อมกับรอยยิ้ม
“ข้าวเชื่อฟังพี่เขานะลูก อย่าดื้อนะ” แม่พิมพ์พูดพร้อมกับกอดตัวลูกชายเอาไว้
“ครับแม่ ถึงแล้วโทรหาข้าวด้วยนะ”
“ครับลูก” หลังจากนั้นแม่พิมพ์ก็เดินเข้าเกตไป
ระหว่างที่ขับรถกลับชาครก็โทรเข้ามา ภูธิปรับสาย
“อืม”
‘เข้ามาหากูที่บ้านหน่อย มีอะไรจะให้ดู’
“โอเค” จากนั้นทั้งคู่ก็วางสายไป
“ข้าว เดี๋ยวพี่แวะบ้านไอ้ชาก่อนนะ”
“ได้ครับ”
กว่าจะถึงบ้านชาคร ก็เกือบชั่วโมงเลยทีเดียว
“สวัสดีค่ะ คุณภู…สวัสดีค่ะ คุณ...” ป้าละออเดินเข้ามาทัก
“ลูกข้าวครับ เรียกข้าวก็พอครับ”
“ค่ะ คุณข้าว…คุณภูเชิญที่ห้องทำงานคุณชาเลยค่ะ คุณชาเธอบอกเอาไว้แล้ว” ภูธิปพยักหน้ารับ
“ข้าว รอพี่ข้างล่างนะ เดี๋ยวพี่ไปทำธุระก่อน”
“ครับ”
“เชิญทางนี้เลยค่ะ คุณข้าว เดี๋ยวป้าไปเอาน้ำมาให้นะคะ”
“ขอบคุณครับ” ลูกข้าวตอบรับ ป้าละออก็เดินออกไป
“อ้าว สวัสดีครับคุณข้าว” รชาที่เดินลงมาจากชั้นบน
“สวัสดีครับ คุณรชา” ลูกข้าวทักกลับพร้อมรอยยิ้ม
“มาหาคุณชาหรอครับ”
“พี่ภูมาหาครับ ไม่ใช่ผม” ลูกข้าวยิ้มให้ก่อนตอบกลับไป
“แล้วนี่คุณรชาจะไปไหนหรอครับ”
“เรียกรักก็ได้ครับ ไม่ได้ไปไหนครับ เพิ่งกล่อมเจ้าแฝดเสร็จ นอนกลางวันน่ะครับ วัยกำลังซนเชียว”
“เอ่อ...จะเสียมารยาทไหม ถ้าจะถามคุณรักกับคุณชา เอ่อ...” ยังถามไม่จบ รักก็เดาออก
“เปล่าครับ ไม่ได้เป็นอะไรกัน ผมถูกจ้างมาครับ เป็นพี่เลี้ยงของเจ้าแฝดลูกคุณชาครับ”
“อ่อ...อย่างนี้นี่เอง” ลูกข้าวก็สงสัยตั้งนาน
ทั้งสองคุยกันในเรื่องทั่วไป ดูท่าทางจะสนิทกันเร็วเพราะทั้งคู่มีความชอบคล้ายๆ กัน เวลาใครพูดเรื่องะไรขึ้นมา อีกคนก็จะตามอย่างหาความสิ้นสุดของเนื้อหาที่คุยไม่ได้เลย จนกระทั่งภูธิปเดินลงมา
“พี่ภูเสร็จแล้วหรอครับ” ลูกข้าวที่เห็นภูธิปก่อน
“อืม”
“สวัสดีครับ คุณภู” รชาเอ่ยทักทาย
“สวัสดีครับ”
“ถ้าอย่างนั้น ผมกลับก่อนนะครับคุณรัก ว่างๆ ไปเที่ยวไร่ราชันนะครับ” ลูกข้าวเอ่ยลาก่อนจะเดินออกมาพร้อมภูธิป
ระหว่างทางกลับบ้าน
“พี่ภู คุณรักเขาน่ารักมากเลย พี่ภูว่าไหม”
“ไม่รู้สิ แต่ข้าวน่ารักที่สุดสำหรับพี่ครับ” เรื่องนี้ไม่น่าจะถามคนหน้าเข้มเลย
“ข้าวว่าคุณรักเขาน่ารักนะ และก็ย่อมต้องมีใครสนใจแน่ๆ แต่...” ลูกข้าวเงียบไปสักพัก จึงต่อบทสนทนาต่อ
“แต่ข้าวถามคุณรัก เรื่องคุณชา คุณรักบอกไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่สายตาของคุณชาไม่ใช่อ่ะพี่ภู ข้าวเห็นในงานแต่งงานของเรา”
“มันเรื่องของเขา เด็กดื้อ” ภูธิปพูด แล้วเอามือข้างหนึ่งมาโคลงหัวลูกข้าวเล่น
“อื้อ...พี่ภูอ่ะ” ปากจู๋ แก้มป่องใส่อีก ภูธิปถึงกับส่ายหน้า
ปัง...
เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด แน่ล่ะต้องยิงใส่รถภูธิปอยู่แล้ว เพราะภูธิปเห็นทางกระจกหลังว่าพวกมันขี่รถตามมาอยู่ ตอนแรกก็นึกว่าแค่สะกดรอย แต่นี่...
“ฉิบ” ภูธิปสบถ
“ข้าวก้มตัวลงต่ำไว้”
“ใครอ่ะ พี่ภู” ลูกข้าวตื่นกลัว ถามด้วยความสงสัย แต่ก็ทำตามภูธิปบอก
“เดี๋ยวพี่ค่อยเล่าให้ฟังนะ” ภูธิปบอก พร้อมหยิบปืนจากเกะหน้าคนนั่ง
ภูธิปเร่งเครื่องรถยนต์ เพื่อทิ้งระยะห่าง อีกอย่างที่กลัวคือมันจะยิงยางรถ ตัวเขาไม่เท่าไหร่ แต่มีลูกข้าวมาด้วย ไหนจะลูกเขาอีก ทำให้ภูธิปต้องคิดเยอะกว่าเดิม ผ่านโค้งข้างหน้าไปก็จะถึงไร่ราชันแล้ว ภูธิปจึงรีบเหยียบคันเร่งขึ้นไปอีก
ปัง...
“แม่งเอ้ย” ภูธิปสบถพร้อมหันไปยิงสวน
“...” ลูกข้าวไม่ได้พูดอะไร แค่แตะแขนเบาๆ ของอีกฝ่ายไว้ แต่นั่นก็ทำให้ภูธิปเย็นลงได้
รถเลี้ยวเข้าไร่ราชันแล้ว ภูธิปโล่งใจขึ้น
“ฝากจัดการด้วย” ภูธิปสั่งกับลูกน้องที่ทางเข้าไร่
“ครับ นายหัว”
พอถึงหน้าบ้าน ภูธิปรีบเดินอ้อมมาฝั่งคนนั่ง
“ข้าว” ภูธิปเอ่ยกับคนที่นั่งนิ่ง
“พี่ภู” ลูกข้าวหันมายิ้มให้ แต่ในใจยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ ซึ่งภูธิปมองออกอยู่แล้ว
“มา พี่อุ้มดีกว่า” ภูธิปช้อนตัวลูกข้าวขึ้น โดยที่เจ้าตัวไม่ขัดอะไร
ภูธิปพาลูกข้าวขึ้นมาพักข้างบนห้อง แล้ววางเจ้าตัวที่เตียง วันนี้คุณหญิงจันทร์ไม่อยู่ เพราะไปโรงแรมในเมือง
“ตกใจใช่ไหม”
“…” ลูกข้าวที่นั่งอยู่บนตักร่างใหญ่ พยักหน้าน้อยๆ
“…” โดยที่ไม่ได้พูดอะไรกัน ภูธิปกอดเจ้าตัวไว้แนบอก สักพักใหญ่ลูกข้าวก็ดีขึ้น แล้วเกิดความสงสัยขึ้นมาแทนที่
“มันเรื่องอะไรกันอ่ะ พี่ภู พวกนั้นตามมาทำไม”
“…” ภูธิปถอนหายใจ แล้วเล่าความจริงให้ลูกข้าวรู้ เรื่องอุบัติเหตุของพ่อลูกข้าวและเรื่องคนร้าย เขาไม่อยากปิดบังอีกแล้ว
“…” ลูกข้าวนั่งฟังเงียบๆ น้ำตาไหลเป็นสาย แต่ไม่มีเสียงสะอื้นใดๆ ภูธิปแค่กอดเจ้าตัวเอาไว้
“เจ็บไหม พี่ภู” ลูกข้าวไล้มือไปที่แขนของร่างใหญ่ตรงที่โดนยิง ซึ่งตอนนี้ใกล้จะหายแล้ว ลูกข้าวไม่รู้เลยว่าจะทำให้ทุกคนเดือดร้อนขนาดนี้
“ไม่ครับ แต่ถ้าข้าวเป็นอะไร พี่จะเจ็บมากกว่า คราวนี้มีอะไรเราจะคุยกัน ไม่ปิดบังกันแล้วดีไหมครับ” ภูธิปจับมือลูกข้าวข้างที่ไล้แขนเขาเอาไว้
“ดีครับ มีอะไรพี่ภูต้องบอกให้ข้าวรู้นะ ข้าวเป็นห่วง” คนตัวเล็กยู่ปากเล็กน้อย ภูธิปมันเขี้ยว จึงก้มลงจุ๊บทีนึง ก่อนจะจูบลงที่ปากบาง
“อื้อ...พี่ภูอ่ะ น้าหมอบอกช่วงนี้ห้ามนะ เดี๋ยวกระเทือนลูก” ลูกข้าวรู้สึกถึงอะไรๆ ที่ดันก้นตัวเองอยู่
“พี่ทำเบาๆ ไม่กระเทือนแน่นอน”
แล้วภูธิปก็จัดการอย่างที่ปากว่า ลูกข้าวจะขัดอะไรได้ ก็ตามใจพี่ภูมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว อีกอย่างมันก็เป็นหน้าที่ด้วย หน้าที่ของภรรยา >///<
----------------------------
TBC.
**คำผิดแจ้งได้เลยค่ะ//