มือใหม่หัดทำอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมรีสอร์ทหรูมา 3 วันแล้วครับ ผมโคตรชอบเพราะไม่ต้องถ่อไปถึงเชียงใหม่บ้านพี่โป้งผมก็สามารถสัมผัสหมอกยามเช้า หนาวจนต้องใส่เสื้อไหมพรมแถมด้วยผ้าพันคอลิเวอร์พูลพันไว้กันลม ไม่อยากจะบอกว่าเหมือนตัวเองเป็นพวงมาลัยรถยนต์ที่คนต้องเอาผ้า 3 สีมาผูกไว้ตอนถอยรถออกจากศูนย์ ฯ ลมเย็นปะทะผิวจนหนังหน้าตึงไปหมด เดือดร้อนไอ้ออมต้องหาครีมที่มีมอยส์เจอร์ไรเซอร์มาฉาบหนังหน้าเพื่อคงไว้ซึ่งความหล่อ คนมันหล่อ อัธยาศัยดี ช่วยไม่ได้ที่ต้องมีแต่คนรักครับ5555
ยิ้มกว้างคนเดียวแล้วขยับหัวนิดหน่อยให้พอดีกับช่วงกล้ามเนื้อแขน ลืมบอก..ผมนอนหนุนแขนล่ำ เอาหน้าซุกซอกคอแล้วจุ๊บ ๆ ที่เนื้อหอม ๆ แถวคอเล่นเพราะอากาศมันหนาวเราเลยนอนกันเพลินครับ เด็กญี่ปุ่นเงยหน้ามองโทรศัพท์ที่แผดเสียงอยู่ตรงหัวเตียง ผมแกล้งหลับทันที
“ครับป๊า ตอนนี้เลยเหรอครับ ครับผม” หรี่ตามองเด็กญี่ปุ่นแล้วก็ลืมตาตื่นเต็มที่ เพราะได้ยินชื่อป๊าในโทรศัพท์ ไทโยก้มหอมหน้าผากฟอดใหญ่แล้วบอกผมเสียงเบา
“ป๊าให้ไทไปช่วยพี่เรย์เช็คของที่ส่งมาจากญี่ปุ่นครับ พิ..อยากไปด้วยมั้ยครับ” ยิ้มบางแล้วส่ายหน้าตอบ ผมไม่ชอบเวลาเด็กญี่ปุ่นทำงาน เพราะมันจะลืมไปเลยว่าเคยมีคราบ เอ้ย! มีผมมาด้วยน่ะ มันก็ดีเพราะมันใส่ใจกับงาน แต่มันไม่ดีเพราะผมต้องการความอบอุ่น อยากได้ความรัก การดูแลเอาใจใส่ตลอดเวลา ถ้าเป็นพยาธิในท้องได้ผมจะรีบเป็นเลยครับ เราจะได้อยู่เป็นส่วนหนึ่งของกันและกันตลอดเวลา~
ไม่ทันได้เวิ่นไทโยก็จับมาจูบเซ็ทใหญ่ก่อนปล่อยไปเข้าห้องน้ำ นั่งซาบซึ้งกับรอยจูบที่ริมฝีปากแล้วรีบลุกมาเตรียมเสื้อผ้าให้เด็กญี่ปุ่น มันมีเสื้อผ้าไม่กี่สีครับ วางเสื้อผ้าไว้แล้วก็ลงมาข้างล่าง สั่งเด็กให้ทำข้าวต้มมาให้แล้ววิ่งไปอุ่นนมให้เด็กญี่ปุ่น ไทโยเดินลงมาผมก็รีบประคองแก้วนมมาให้กินรองท้องก่อน ข้าวต้มที่สั่งไว้มาเสิร์ฟช้ามาก ไทเลยไม่รอกิน
“กลางวันมากินข้าวที่โรงแรมมั้ยครับ เดี๋ยวให้การ์ดพาไปส่ง” ผมรีบส่ายหน้าทันที อากาศเย็นแบบนี้ใครจะอยากทำงานล่ะ กอดเอวหนาแล้วบอกมันให้รีบกลับ ผมจะรอกินข้าวกลางวันด้วย
“รีบกลับนะ เดี๋ยวโชว์ฝีมือทำข้าวกลางวันรอ” เด็กญี่ปุ่นยิ้มเต็มหน้าแล้วรีบรับคำผม ยิ้มกว้างตอบแล้วรีบหลับตารับปลายจมูกที่กดมาหอมทั่วหน้าก่อนจะยิ้มตาหยีส่งเด็กญี่ปุ่นไปที่ชอบที่ชอบ พอรถไทโยที่มีพี่การ์ดขับให้พ้นจากรีสอร์ท ผมก็เดินดิ่งไปเลยครับ
นอน!
ผมรักไทมากครับ แต่ผมก็รักการพักผ่อนด้วย ถ้าเรามีร่างกายไม่แข็งแรง เราจะมีสมองสั่งการที่ดีได้ยังไงครับ คุณว่าทำกับข้าวมันง่ายเหรอ? คุณอาจจะพยักหน้ารับว่า นี่น่ะโคตรง่าย แต่สำหรับคนอย่างผม..
มันไม่ง่ายเลยฟร้อยยยยยยย
หลับไปจนเต็มตื่นก็ฟื้นจากหลุมออกมาหากินข้างนอก ผมซัดข้าวต้มที่สั่งมาให้ไทกินจนหมด เสร็จก็พาสาระร่างลงมาที่ครัวเล็กในบ้านของผมเอง เปิดตู้มองหาวัตถุดิบ หัวเราะลงคอแล้วปิดตู้เย็นทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลากวาดตามองสิ่งใด..
ไม่มีเหี้ยไรที่ผมพอจะเอามาทำได้สักอย่าง!
เดินออกจาบ้านตรงดิ่งไปที่ครัวใหญ่ พนักงานยิ้มแย้มยกมือไหว้ผมกันถ้วนทั่ว ยกมือรับไหว้แล้วดิ่งไปที่ตู้แช่ใหญ่ ยืนกอดอกข้างหนึ่ง อีกข้างลูบคางอย่างคนที่กำลังใช้ความคิด มันน่าอายยิ่งนักหากจะต้องเปิดปากถามว่าการจะทำข้าวผัดสักจาน แกงจืดสักถ้วย มันต้องใช่สิ่งใดบ้าง แค่นยิ้มให้กำลังใจตัวเองแล้วดึงตู้แช่เปิด ความเย็นพุ่งเข้ามาหาจนต้องนิ่วหน้า รีบหยิบของตรงหน้ามาเท่าที่พอจะนึกออก ก็ใช้วิธีนี้ไง..ในข้าวผัดผมกินทีไรก็เจอหมู หัวหอม ผักคะน้าเขียว ๆ มะเขือเทศ แกงจืดก็เจอผักกาดขาว หมู แล้วก็ผักหอม ๆ โอ๊ะ! มันต้องใส่วุ้นเส้นด้วยนี่หว่า หอบผักกับหมูใส่กะละมังใบใหญ่แล้วเดินวนมองหาส วุ้นเส้น เจอปุ๊บหยิบปั๊บแล้วรีบอุ้มกะละมังกลับบ้าน ครัวที่บ้านมีเครื่องปรุงทุกอย่างเพราะไทโยชอบทำกับข้าวเอาใจผม
เดินผ่านล็อบบี้โรงแรมก็แทบจะปล่อยกะละมังร่วงจากมือ แม่กับพี่ปอเลขาหน้ากลมน่ากอดมาพอดีครับ แม่ยิ้มกว้างแล้วเดินเข้ามากอดผม ยิ้มตอบแล้วยิ้มเลยไปให้พี่ปอที่มองหน้าผมอยู่
“ไทโยบอกแม่ว่าน้องพิจะทำข้าวมื้อกลางวันรอ แม่เลยจะขอมาฝากท้องด้วยคนนะลูก” หน้าร้อนผะผ่าว เอียงอายนิดหน่อยที่แม่มั่นใจกับเสน่ห์ปลายจวักผมมากเหลือเกิน ยิ้มกว้างซ่อนความเขินไว้มิดชิด
“ครับแม่ นั่งรอเลยครับ” แม่ยิ้มกว้างแล้วดึงผมมาหอมแก้มให้กำลังใจ หัวเราะร่าแล้วอุ้มกะละมังผักเข้าครัวที่บ้าน แม่นั่งในห้องทำงานไทโยดูแลงานในช่วงที่ผมวุ่นวายกับการเข้าครัว พี่ปออาสามาเป็นลูกมือผม แน่นอนว่าผมปฏิเสธ
“ไม่เป็นไรคับพี่ปอ ครัวที่บ้านแคบครับ พี่ปอรอชิมดีกว่า555” นั่นเป็นเรื่องจริงที่พี่ปอต้องยอมผม แต่พี่ปอก็ยืนยันว่าอยากจะช่วยผม ก็นะถ้าอยากเห็นลีลาการทำกับข้าว ผมก็ไม่ขัดครับ เดินเข้าครัวด้วยความมั่นใจ วางกะละมังที่ซิงก์ล้างจาน ยืนนิ่งว่าปกติมันต้องทำอะไรก่อน ผมยืนคิดนานจนพี่ปอทัก
“น้องพิให้พี่ช่วยล้างผักมั้ยคะ?” ผมร้อง ‘อ๋อออออ’ ในใจดังลั่น รีบหันหลังส่ายหน้าตอบแล้วจัดการเทผักและหมูลงในอ่างทันที เปิดน้ำใส่แรง ๆ แล้วหยิบผักขึ้นมาสะบัด ๆ ก้านคะน้าปลิวร่วงลงพื้นหลายก้าน ผมไม่สนหรอก ผมชอบกินก้านมากกว่าอ่ะ หยิบผักอย่างอื่นมาขัด ๆ ถูๆ ใช้เท้าเขี่ย ๆ ให้ก้านคะน้าพ้นทางแล้วหันมาล้างหมูติดมัน ขัด ๆ จนมันสากมือก็เอาขึ้นใส่กะละมังไว้อย่างเดิม หมุนตัวมองหามีดกับเขียง เจอแล้วก็ตรงเข้าหา หยิบมาวางที่โต๊ะแล้วคว้าหมูมาสับ ข้อมือทรงพลังจัดการสับหมูไม่นานก็ละเอียด ผมวางมือแล้วหันมาหยิบจานมาวางข้างตัว มือกวาดหมูลงจานเสร็จก็หยิบผักมาหั่นเป็นท่อนประมาณ 1 นิ้ว ทุกอย่างต้อง 1 นิ้วหมด ไม่เว้นแม้แต่มะเขือเทศ กะพริบตามองกองผักที่อยู่บนเขียง หันหลังหยิบหม้อมากวาดผักทุกอย่างที่อยู่บนเขียงใส่ลงไป..ใส่จานไม่หมดผมเลยใส่หม้อไว้ก่อนน่ะครับ
หันรีหันขวางแล้วเดินไปที่หม้อหุงข้าว ยกมาทั้งหม้อแล้วเทซีอิ้วดำ ซอสปรุงรส น้ำตาลใส่ลงไปด้วยความคิดที่ว่า มันไม่ควรใส่ตอนผัด มันน่าจะใส่ตอนก่อนผัดถึงจะเข้ากัน หันมองหาทัพพี..ไม่มี ถอนหายใจยาวปลงกับความไม่รู้ของตัวเอง ผมเข้าครัวทีไรก็มีหน้าที่กินและล้างจาน ไม่เคยช่วยเด็กญี่ปุ่นเก็บล้างครัว ไม่รู้เลยว่าอะไรอยู่ตรงไหน ผมจัดการใช้มือขยำข้าวให้พวกซอสเข้ากัน ดูว่าเข้าดีแล้วก็หันมาล้างมือที่อ่าง
มองหากระทะแล้วหยิบมาวางบนเตาแก๊ส เปิดเตาแล้วหยิบน้ำมันเทใส่นิดเดียว วางขวดน้ำมันแล้วหยิบหมูสับมาโยนลงกระทะ โดดเหยงเมื่อน้ำมันมันกระเด็นทั่ว ตกใจเพราะผมไม่เคยทำมาก่อนเลยรีบเอาผักกับข้าวเทลงไปเลย วิ่งหาตะหลิวเพราะควันโขมงไปหมด หาไม่ได้ผมก็ต้องหยิบที่มันอยู่ใกล้ตัวใช้ไปก่อน
“น้องพิ! ตะหลิวแขวนตรงนั้นค่ะ!” เสียงพี่ปอดังเข้ามาแว่ว ๆ แต่ผมไม่ได้สนใจหันไปมอง จับจานกระเบื้องในมือแน่นพอ ๆ กับแรงที่จับด้ามกระทะ จ้างจานลงไปในเหล่าข้าวผัด ตัก ๆ ไปก็เต้นไปเพราะมันร้อนมือไปหมด
“เจี้ยกกกกกกก” ตะโกนสุดสียงเมื่อหลังมือโดนข้าวผัดกระเด็นใส่ ทำอะไรไม่ถูกเมื่อก้นกระทะมันไหม้ เสียงพี่ปอไอโขลกสำลักควัน ผมรีบละจานแล้วหันมาหาขวดน้ำมันพืช เทลงไปด้วยความรีบลนเพราะข้าวผัดมันจะได้ไม่ติดก้นกระทะ ไม่ต้องห่วงว่าผมจะเทหมดขวด ผมไม่ชอบกินของมัน แต่ผมชอบกินของไท5555
ปิดแก๊สแล้วยกกระทะออกมาวางที่โต๊ะกินข้าวเลี่ยงควันไปด้วย กะพริบตามองข้าวผัดฝีมือตัวเอง น้ำตารื้นกับความสำเร็จที่แลกมาด้วยภาพพจน์ตัวเอง เงยหน้ามายิ้มกว้างให้พี่ปอที่กำลังสำลักควันเป็นเอาตาย ปล่อยข้าวผัดให้อยู่ในกระทะแล้วหันมาตั้งน้ำทำแกงจืด ระหว่างรอน้ำเดือดผมก็หันมามองผักที่หั่นไว้ ขมวดคิ้วมุ่นมองหาผักที่หั่นไว้ทั้งหมด นึกขึ้นได้ก็หันกลับไปมองข้าวผัดตัวเอง..อยู่ในนั้นหมดเลย
ข้าวผัดผักรวม..
ยืนมองหมูที่เหลือแล้วก็ใจชื้น ยังมี..เยอะเลยด้วย น้ำเดือดผมก็โยนหมูลงไปทั้งก้อนแล้วปิดฝาไว้ รออีกแป๊บก็แกะวุ้นเส้นลงใส่ เอาทัพพีที่พี่ปอตะโกนบอกมากด ๆ ให้มันจมน้ำต้มหมู เบี่ยงหน้าหลบควันไอร้อน กดไว้พักใหญ่มันถึงได้จมหมด ถอนหายใจแล้วหยิบน้ำปลามากระแทกใส่กะว่ามันน่าจะเค็มแล้วก็ปิดฝาเหมือนเดิม หันหลังมาชื่นชมกับข้าวผัดหน้าตาประหลาดของตัวเองแล้วก็สะดุ้งกับเสียงประหลาดข้างหลัง
“เฮ้ย!” รีบหยิบฝาหม้อที่ถูกของข้างในดันออกมา ปิดแก๊สแล้วชะโงกหน้ามองผลงานของตัวเอง แปลกแต่ก็ดูดีแฮะ หยิบจานชามมาวางแล้วตักกับข้าวฝีมือตัวเองมาใส่จนเต็ม ยิ้มกว้างแล้วเงยหน้ามองพี่ปอ สะดุ้งที่เห็นเด็กญี่ปุ่นมายืนแทนที่พี่ปอ ยิ้มเจื่อนแล้วรีบหยิบกระทะโยนไปข้างหลัง วิ่งดุ๊ก ๆ ไปหาแขนที่อ้ากว้าง
“ทำอะไรให้ไทกินครับ” เบี่ยงหลบปลายจมูกที่หอมแก้มแล้วบอกด้วยความภาคภูมิ
“ข้าวผัดผักรวมกับแกงจืดวุ้นเส้น!” เด็กญี่ปุ่นมองข้ามหัวผมแล้วก้มมายิ้มกว้าง ปลายจมูกกดลงมาที่แก้มอีกฟอดใหญ่ตามด้วยแรงกอดมหาศาลที่รัดผมแน่นขึ้น
“ขอบคุณครับ” เสียงกระซิบเบา ๆ จากเด็กญี่ปุ่นแต่กลับดังก้องในหัวผม ยิ้มกว้างแล้วรีบดึงมือให้มากินฝีมือตัวเอง เด็กญี่ปุ่นขืนมือไว้แล้วรวบแขนโอบไหล่ พาผมเดินออกจากครัวตรงขึ้นชั้นบน
ตาขวากระตุกถี่กับเหตุที่กำลังจะเกิด..
เงยหน้ามองนาฬิกาแขวนผนังยิ่งตอกย้ำสัญชาติญาณ..
“พิก็รู้ผมชอบกินของหวานก่อน..นี่ยังไม่เที่ยงเลยด้วย”..
ไม่นะ!
....................................
แถม
.
.
กับข้าวฝีมือสะใภ้คนเล็กถูกนำมาเสิร์ฟที่โต๊ะทานข้าว นายหญิงเพ่งมองข้าวผัดฝีมือลูกสะใภ้นิ่ง มือสวยหยิบช้อนตักข้าวเข้าปาก เคี้ยวลงคอแล้วยิ้มอ่อนโยน ช้อนของนายหญิงตักชิมน้ำแกงจืดเลี่ยงวุ้นเส้นที่ยาวเป็นเมตรลอยสวยอยู่ในชาม เงยหน้ามองเลขาที่ยิ้มอยู่ก่อนแล้วตักข้าวผัดและน้ำแกงจืดกินจนหมด ไม่ต่างจากเลขาที่นั่งกินจนเกลี้ยงชามเช่นเดียวกัน
“กลับกันเถอะ ป่านนี้ไทโยคงไม่พาลงมาแล้วล่ะ” นายหญิงเอ่ยชวนเลขาแล้วสะพายกระเป๋าเดินกลับไปที่รถ การ์ดบ้านมุราคาวะก้มหัวส่งจนล้อรถพ้นจากตัวรีสอร์ท เดินกลับเข้าครัวเล็กเพื่อดูว่ากับข้าวฝีมือสะใภ้คนเล็กจะยังพอเหลือหรือไม่
การ์ดยิ้มกับข้าวผัดที่ยังเหลือก้นกระทะ ช้อนคันเดียวเวียนกันตักชิมข้าวผัดฝีมือคุณพิ มันแปลกและเลี่ยน แต่ก็พอกินได้ หันมาตักชิมแกงจืดก็อมยิ้มกันถ้วนหน้า..จืดสมชื่อ ชิมแล้วก็หันมองในครัวที่คุณพิลงครัวเสร็จ เหล่าการ์ดอมยิ้มกับซากทุกอย่างในครัวที่คนไม่เคยทำกับข้าวอุตส่าห์ลงมือลองทำกับข้าวเอาใจนาย
มองหน้ากันแล้วพับแขนเสื้อขึ้น..
เดินเข้าหากระทะดำปี๋และเศษผักที่กองตามพื้น พร้อมฟาดฟันกับสงครามย่อม ๆ ตรงหน้า
เก็บล้างให้ด้วยใจที่จงรักและภักดี.
..................................
กอดรวบ! ชื่อตอยเต็ม ๆ คือ 'มือใหม่หัดทำกับข้าว' ค่ะ คิดไกลเลยสินะคะ555
อาทิตย์นี้งานท่วมหัวค่ะ คาดว่าอาทิตย์หน้าก็ไม่รอดเช่นกัน ใกล้สิ้นปีอ่ะเนอะ จิไม่มีเวลานั่งจิ้นเลยค่ะ งานเข้าชนตลอด พอว่างก็เหนื่อยจนจิ้นไม่ออกอ่ะ อาทิตย์นี้ไม่มีตอนใหม่ของนิยายเรื่องไหนเลยค่ะ อ่านน้องพิเล่นไปก่อนนะคะ
อาทิตย์หน้าจิจะปั่นตอนพิเศษปีใหม่ให้อ่านค่ะ ถ้าไม่ครบทุกคู่เหมือนปีที่แล้วอย่างอนจินะคะ เค้าเหนื่อยอ่ะ
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ