ตอนที่ 14
หลังจากเที่ยวที่สะพานเราก็ไปหาอะไรกินที่ร้านอาหารขึ้นชื่อ ตกบ่ายแก่ๆ ก็ไปเดินดูพระอาทิตย์ตกดินที่จุดชมวิวเนินนางพญา ได้ภาพสวยๆ และภาพแอบถ่ายเสี่ยมาอีกหลายช็อต ต้องขอบคุณไอโฟน 6 plus ที่แพงแสนแพง(ประชด) แต่กล้องไม่ได้เรื่อง ยังดีที่พอถ่ายออกมาแล้วยังภาพได้สวยบ้าง(หรือเขาไม่มีฝีมือเองก็ไม่รู้)
พอตกค่ำเราก็ไปหากินอาหารใต้แสงเทียนติดริมทะเล กินปู กุ้ง หมึก ของหมักดองให้แสบกระเพาะเล่น กินเสร็จก็นั่งดื่มกันต่อแบบชิวๆ รับลมทะเลแต่ไม่ได้ดื่มหนักมาก เมื่อก่อนทะเลจันทบุรีคนไม่ค่อยพลุกพล่าน นักท่องเที่ยวไม่ค่อยเยอะ แต่ตอนนี้มีนักท่องเที่ยวกับฝรั่งเริ่มมีเยอะขึ้น พวกที่ใจกล้าหน่อยก็มี ดึกๆ หน่อยก็เริ่มมีคนขึ้นตักนั่งจูบกันแล้ว โดยเฉพาะกับฝรั่งนี่... อื้อหืออ เขาก็ไม่ได้ล้วงกันหรอกนะ แค่จูบ แต่สาวฝรั่งนี่อกโคตรสะบึ้ม หน้าอกหน้าใจแทบทะลักออกมาจากเสื้อ แต่เขาก็เขาชอบนะ สาวขาวๆ อวบๆ อึ๋มๆ แบบนี้ หันมาดูเสี่ยอกแบนข้างตัว เจอรังสีพิฆาต... เสี่ยเกือบเอาขวดเบียร์ฟาดหัวเขาให้แตกที่ส่องสาวไม่เลิก อะไรเล่า! เขาก็แค่มอง อาจจะมากไปหน่อยแต่เสี่ยก็มองไม่ใช่หรือไง เขาเห็นนะ!
และเพราะเขาเอาแต่ส่องสาว สุดท้ายคืนนั้นเขากับเสี่ยเลยจบกันที่.....
บาร์เกย์
เสี่ยยยยยย!!!! พระแพงขอโทษษษษษษ ไม่เอาบาร์เกย์แบบนี้ โฮๆๆๆๆ
" จะแอบดูอีกไหม หื้ม!!" แง๊ๆๆๆ เขาที่ถูกเสี่ยลากมาที่บาร์เกย์แบบที่มีแต่ชายหนุ่มนุ่งน้อยห่มน้อยก็ได้แต่ดิ้นให้พล่าน ไม่เอาหกห่อแบบนี้! จะเอาหน้าอกตู้มๆ
“ยังจะดื้อ!?" โฮๆๆๆๆ
" ไม่แอบดูแล้วครับ!"
ฮึก เขาที่สู้แรงเสี่ยไม่ได้ สุดท้ายก็ได้แต่หลับหูหลับตาบอกเสี่ยไปว่าจะไม่แอบส่องสาวแล้ว ทำไมอ่ะ เขาก็แค่แอบส่องทางสายตาเองนะ!
เสี่ยที่เห็นเขายังดื้อไม่เลิกเลยจัดการดึงตัวเขาไปสำเร็จโทษเขาที่โรงแรมเสียเลย ซึ่งโรงแรมก็ไม่ใช่โรงแรมที่ไหนไกล หาเอาจากอโกด้าจนได้โรงแรมแถวนั้น
ยังดีที่แถวนั้นยังมีโรงแรมแบบสามสี่ดาวให้เสี่ยเลือก ไม่งั้นเสี่ยได้เลือกม่านรูดทันทีที่เห็นทางเข้าโรงแรมแน่นอน เขาที่ดิ้นๆ อยู่จะหนีก็หนีไปไหนไม่ได้เพราะถูกเสี่ยล็อกคอ คืนนั้นกว่าจะได้นอนเขาก็เกือบรากเลือด เสี่ยเล่นจัดซะสารพัดท่า แถมกว่าจะยอมปล่อยให้เขาไป น้ำของเขาก็แทบจะทะลักคอหอยแล้ว แถมครั้งนี้เสี่ยยัง...
ยังอะไร เขาไม่อยากพูด! แต่เอาเป็นเสี่ยเล่นแบบยิงอึดยิงยาว จากที่อึดอยู่แล้วก็เล่นจนเขาขาสั่นแทบยืนไม่ได้ แถมตอนที่มีอะไรกันเสี่ยก็ตบตูดเขาไปสั่งสอนเขาไปว่า "จะส่องสาวอีกไหม" "จะนอกใจอีกไหม" ฮ่วย แค่แอบส่องเองนะไม่ได้มีชู้! แต่พูดไม่ได้! เสี่ยตีตูดเขาซะแดงยิ่งกว่าแก้มลิง ขนาดเขาที่ผิวดำๆ ยังเห็นได้ชัด แถมตีมาทีก็สวนเข้ามาที ไส้เขาเกือบจะทะลุ เขาต้องอ้อนวอนอยู่นานกว่าเสี่ยถึงจะยอมปล่อยเขาไปได้ แถมคืนนั้นเสี่ยก็ไม่ยอมให้เขาใส่ถุงยาง พอเขาจะเสร็จทีก็เอามือกดไว้ พอเขาเผลอเสร็จก็ปล่อยให้มันเลอะตัวเขาดื้อๆ ส่วนเสี่ยนี่เซฟเซ็กซ์ตลอดเวลา สะอาดหมดจดอยู่คนเดียวปล่อยให้ตัวเขาเปื้อนน้ำ ยังดีที่รอบหลังเสี่ยลากเขาไปต่อในห้องน้ำ เขาที่สะลึมสะลือบวกกับขาสั่นเต็มทีก็ได้แต่ปล่อยให้เสี่ยอาบน้ำให้ อยากล้วงๆ ไปเถอะ เขาไม่ไหวแล้ว
เช้าวันถัดมากว่าเขากับเสี่ยจะได้ออกจากโรงแรมก็เกือบเที่ยง เขาที่เจ็บตูดเจ็บก้น ก็ได้แต่งอนตุ๊บป่องปล่อยให้เสี่ยป้อนอาหารเช้า แต่จากประสบการณ์ในวันนั้นก็ทำให้เขารู้ว่าเสี่ยเป็นเกย์แบบบอร์นทูบี ตั้งแต่เด็กยันโตเสี่ยไม่เคยแอ้มสาวซักครั้ง ยกเว้นก็แต่กับคุณปุยฝ้ายที่เสี่ยกำลังจะแต่งงานด้วย
เขาที่งอนอยู่เลยถือโอกาสที่เสี่ยตามใจล้วงลับตับแตก เขาไม่ได้ถามเสี่ยว่าในเมื่อไม่อยากแต่งงานทำไมถึงมีอะไรด้วยเพราะดูเสี่ยไม่ค่อยอยากพูดเรื่องนี้ เขาเลยเลี่ยงไปถามเรื่องเสี่ยกับที่บ้านแทน ซึ่งเสี่ยก็บอกว่าตามตรงว่าคนทางบ้านรู้เรื่อง ขอแค่เสี่ยไม่ทำเรื่องเสียหายที่บ้านก็ถือว่าพอรับได้
คำว่าพอรับได้และไม่มีเรื่องเสียหายในที่นี้คือ อย่าพาเด็กเลี้ยงมาออกงานจนออกนอกหน้า ถ้าจะมีคนรู้ก็ให้รู้กันแต่ในวงแคบๆ คือของแบบนี้มันปิดกันไม่มิด ขอแค่ไม่มีใครปากสว่างเป็นใช้ได้ ถึงจะมีเด็กบางส่วนอยากลองดีแต่เสี่ยจัดการได้หมด พ่อกับแม่เสี่ยเลยไม่มีปัญหามาก ส่วนคุณปุยฝ้าย...
เขาไม่ได้ถามเสี่ยว่าคุณปุยฝ้ายรู้ไหมที่เสี่ยเป็นเกย์ แต่เขาถามแต่ว่าเสี่ยรักคุณปุยฝ้ายหรือเปล่า ซึ่งเสี่ยก็บอกว่าไม่รัก พอเขาถามหยอดถามต่อว่าไม่รักแล้วทำไมถึงแต่งงานด้วย เสี่ยก็ปิดปากเงียบ
เขาที่ฉลาดพอก็ไม่ได้เซ้าซี้ เขารู้หรอกน่าว่าอะไรถามต่อได้อะไรถามต่อไม่ได้ ของแบบนี้ถ้าเสี่ยไม่อยากตอบเขาก็ไม่อยากบังคับ จะบังคับให้ได้อะไรขึ้นมาในเมื่อเสี่ยไม่อยากพูด เขารู้แต่ว่าเสี่ยคงมีเหตุผลของตัวเอง แต่คงไม่ใช่เหตุผลแบบโดนบังคับแต่งงาน แล้วยังอยากเต๊าะเด็กไปเรื่อย คือถ้าเสี่ยอยากเต๊าะเด็ก เสี่ยก็แค่กลับไปมีเด็กเลี้ยง กลับไปใช้บริการพี่ธนิต แถมตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน เสี่ยไม่เคยพูดคำหวานกับเขาเลยซักครั้ง ไอ้ประเภท ฉันมีแต่เธอ ฉันรักเธอคนเดียว ถูกใจแต่เธอคนเดียว ฉันถูกบังคับ ฉันไม่อยากแต่งงาน เสี่ยไม่เคยเปิดปากพูด ขืนลองเสี่ยพูด เขาอาจถีบปากเสี่ยและไปจากเสี่ยก็ได้ เพราะเขารู้ว่าเสี่ยตอแหลแน่
ของแบบนี้ถ้าไม่หลอกตัวเองหรือแกล้งโง่ บางทีมันก็เห็นได้ชัด สำหรับเขากับเสี่ยอารมณ์กับความใคร่ เราแยกมันออกจากความรัก ในเมื่อเราเข้ากันได้ และขอแค่น้องชายยังตั้ง จะทำอะไรกับใครที่ไหนได้ทั้งนั้น อันนี้เขาไม่ได้ด่าว่าเสี่ยเลวหรือเขาช่างมั่ว เขาแค่เข้าใจในอารมณ์ของผู้ชายที่ไม่เคยตกหลุมรัก เขาเองก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยมีแฟน ส่วนเสี่ย...เขาไม่รู้
เขารู้แต่เพียงว่าเขาไม่เคยตกหลุมรัก แต่ถ้าหาก "รัก" เขาต้องแยกความรู้สึกได้แน่ๆ ตอนนี้เขากับเสี่ยก็เป็นเหมือนคนแปลกหน้าที่บังเอิญมาเจอกัน ถูกใจกันก็คบ ถ้าจะเลิก... ก็คงจะเลิกกันได้ไม่ยาก แน่นอนว่าความผูกพันมันต้องมีอยู่แล้ว แต่ถึงจะผูกพันแค่ไหนแต่มันก็ไม่ใช่ความรัก เพราะงั้น... ในตอนจบของเขากับเสี่ย มันจะจบสวยหรือไม่ก็คงต้องดูกันอีกที
กับเสี่ย... เขาไม่รู้ แต่สำหรับเขา เขารู้ว่าเสี่ยสำคัญมาก ถ้าหากต้องเลิกจากกัน เขาก็อยากให้เราจบแบบดีๆ เสี่ยในตอนนี้ก็เหมือนกับคนในครอบครัวของเขา เหมือนกับพ่อ เสี่ยให้ความเมตตา ช่วยเหลือเขาในส่วนที่ทำได้ ถึงขนหน้าแข้งเสี่ยจะไม่ร่วง แต่เขาก็ซาบซึ้งและสำนึกในบุญคุณ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่เสี่ยทำให้ มันแสดงถึงความใส่ใจจนเขาอดเองยังที่จะแปลกใจไม่ได้ อย่างเรื่องบ้าน เขาก็ไม่รู้ว่าเสี่ยก็ไปขุดเรื่องนี้มาจากไหน เพราะเขาไม่เคยบอกให้เสี่ยรู้ คอมพิวเตอร์เขาที่มีแบบบ้านอยู่เสี่ยก็ไม่เคยยุ่ง ขนาดมือถือ เสี่ยยังไม่เคยยืมมือถือเขาซักครั้ง พอเขากลับมาถึงบ้านอีกทีเขาก็มีบ้านใหม่แล้ว
กับเด็กคนอื่นเขาไม่รู้หรอกว่าเสี่ยจะเป็นเสี่ยสายเปย์แบบที่ทำกับเขาหรือเปล่า คือเขารู้อยู่แล้วว่าเสี่ยชอบสปอยและช่างเปย์หนักมาก แต่เรื่องความใส่ใจ.... เอาเป็นว่าเขาไม่อยากถาม และไม่อยากรู้ด้วย เขาอยากจะเก็บเรื่องราวดีๆ นี้ไว้เป็นความทรงจำของเขากับเสี่ย โดยที่ไม่ต้องมีคนอื่นมาเกี่ยวข้อง การกลับบ้านของเขาครั้งนี้ เขาถือว่ามีความสุขมากที่สุดในชีวิต มีความสุขเหมือนอย่างที่สมัยแม่ยังอยู่ ได้ออกไปเที่ยว ได้ไปค้างข้างนอก พอเหนื่อยก็กลับบ้านมาก็มีคนเอาอกเอาใจดูแลหาอาหารมาให้ ถึงเรื่องมันจะเลยเถิดไปถึงขั้นที่ว่าต้องจบลงเตียง แต่มันก็ไม่ใช่ทุกครั้ง เพราะบางคืนที่อากาศดีๆ เขากับเสี่ยก็แค่นอนกอดกัน ตื่นมาอีกทีก็เช้าและอาบน้ำแปรงฟันลงไปกินข้าว แต่ถึงจะต้องมีอะไรกันตลอดเขาก็ไม่เสียใจซักนิด เซ็กซ์มันก็แค่เรื่องธรรมชาติ จะให้ออกกำลังกายเล่นเตะบอลตอนตีสองเวลาหื่นก็ไม่ใช่ เวลามีอารมณ์ยังไงเอาออกก็ต้องดีกว่าเก็บเอาไว้ จะปล่อยให้อารมณ์จนมันทะลักออกมาหรือไง ผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิงนะครับ ที่จะหักห้ามใจได้
เพราะฉะนั้นถ้ามีคู่ก็ต้องใช้คู่ให้เป็นประโยชน์ อย่าให้เสีย แถมเสี่ยเองก็เน้นแบบปลอดภัยทุกครั้ง ยกเว้นแต่ครั้งบาร์เกย์นั่นที่เขาปล่อยสดแต่เสี่ยก็ใส่ถุงยาง แต่นอกจากนั้นเขากับเสี่ยก็ใส่ถุงยางตลอด ขนาดจะออรัลยังต้องเช็คดูว่าปากไม่มีเลือด หมายถึงไม่มีแผลร้อนในน่ะ ซึ่งเขาก็โอนะ ถึงเขากับเสี่ยจะสะอาด แต่ปลอดภัยไว้ก่อนก็ดีกว่าอยู่แล้ว และเพราะอยู่กับความไม่ประมาท เขากับเสี่ยถึงสนุกสุดเหวี่ยงกันได้ ไม่ต้องกลัวว่าทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์จะต้องไปตรวจเลือดให้เสียวสันหลังเล่น ถึงเขากับเสี่ยจะไปตรวจเลือดเป็นประจำทุกสามเดือนก็เถอะ
อ่อ ช่วงนี้เขางดบริจาคเลือดด้วยนะ รักร่วมเพศเป็นข้อห้ามนะเออ แล้วอย่ามาก่อดราม่ารักร่วมเพศ ความเสี่ยงในช-ช มันมากกว่าคนทั่วไปอยู่เยอะ ถึงเขาจะไม่ค่อยเข้าใจ แต่บางอย่างที่เป็นสากลเขาก็รับได้ แถมยังมีวิธีทีอื่นให้ทำบุญอีกเยอะ เพราะฉะนั้นเรื่องบริจาคเลือดก็ให้คนปกติทำไป เขาขอไปทำบุญในส่วนอื่นแทน
และเพราะทุกอย่างเป็นไปได้อย่างราบรื่นและมีความสุข วันหยุดหกวันเลยผ่านไปไวมาก แปบๆ ก็วันอาทิตย์แล้ว เสี่ยที่ไม่อยากเจอรถติดหลังช่วงวันหยุดยาวเลยบอกให้เขากลับตั้งแต่เนิ่นๆ ถึงจะเหลือวันหยุดอีกหนึ่งวันและเป็นวันเกิดเขา แต่เสี่ยก็บอกว่าไปทำบุญที่กรุงเทพแทนก็ได้ วันนี้ก็ทำบุญแถวบ้านไปก่อน จะได้รีบกลับไม่ต้องผจญกับรถติดในวันรุ่งขึ้น
เขาที่เชื่อเสี่ยมาตลอดก็งึมงำเห็นด้วย เลยได้ฤกษ์ไปไหว้แม่ที่วัดซักที พร้อมกับทำบุญกรวดน้ำ พอถวายสังฆทานและบริจาคเงินเสร็จ ก็แนะนำเสี่ยกับแม่ที่ตั้งอัฐิอยู่ในวัด บอกแม่ให้รู้จักเสี่ยว่า เสี่ยเป็นคนดีมากๆ ถึงเขาจะยังรู้สึกผิดอยู่นิดๆ ที่อยู่แบบกึ่งชู้ แต่เขาก็บอกแม่ไปแล้วว่า ถ้าเสี่ยแต่งงาน เขาจะไม่ยอมอยู่เป็นชู้ต่อแน่ๆ ไม่อยากให้แม่ที่นอนหลับอยู่ไม่สบายใจหรือคิดมาก ดีไม่ดี เผลอๆ แม่อาจนอนสะดุ้ง ถูกใครที่ไหนไม่รู้ด่าว่าเพราะแม่ไม่เลี้ยงเขาเลยเป็นแบบนี้ ส่วนพ่อ... ช่างเถอะ บรรทัดฐานทางสังคม เอะอะก็โทษแม่ไว้ก่อน ทั้งที่แม่ลำบากกว่าพ่อเยอะ โดยเฉพาะเรื่องอุ้มท้อง
ไม่เอาๆ อย่าดราม่า เน้นกินเที่ยววันสุดท้ายให้สนุกกันดีกว่า เพราะฉะนั้นวันนี้ก่อนที่เขาจะกลับกรุงเทพฯ เขาเลยลากเสี่ยที่ทำบุญเสร็จแล้วไปรำลึกความหลังสมัยหัวเกรียนเป็นเพื่อนซะเลย พาเสี่ยไปกินข้าวแถวโรงเรียนที่เขาเคยฝากท้อง ชี้ให้เห็นร้านเกมส์ที่สมัยก่อนบูมมาก(แต่ตอนนี้ก็ยังอยู่) พาเสี่ยไปซื้อของฝากประจำจังหวัดที่ขึ้นชื่อ หิวๆ ก็แวะกินก๋วยเตี๋ยวอีกรอบ พอบ่ายแก่ๆ หน่อยก็กลับบ้าน ได้ของฝากมาเต็มสองมือ ทั้งของเขาของเสี่ยที่จะเอาไปฝากให้พี่ๆ ที่บริษัทด้วย กลับมาบ้านอีกทีก็เจอหน้าลุงที่กำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ในสวนให้
อ่อ ลืมบอกไปอย่าง เรื่องบ้านที่เสี่ยปรับปรุงให้นี่ ลุงรู้เรื่องก่อนเขาซะอีก เพราะเสี่ยเพิ่งมาบอกทีหลังว่า เสี่ยสั่งให้คนงานที่มาปรับปรุงบ้านบอกลุงว่า เขากู้เงินจากธนาคารมาได้เลยเอามาตกแต่งปรับปรุงบ้าน แต่เขายังไม่ว่างมาดูงานเลยต้องให้ลุงช่วยจัดการให้ เขาก็ว่าแล้วเชียวว่าทำไมบ้านมันถึงได้โดนใจเป๊ะ ที่แท้เพราะมีลุงมาช่วยดูงานอยู่นี่เอง แถมคอนเซ็ปท์ใหญ่ๆ เสี่ยก็เตรียมไว้แล้ว แค่ปรับปรุงให้มันเหมือนเดิมมากที่สุดเท่าที่จะจำได้ ส่วนพวกรูปหรือพวกข้าวของที่ไม่ได้ใช้ ลุงก็เป็นคนคัดเลือก อย่างรูปแม่ลุงก็เป็นคนหามา แหม่ ไอ้เขานึกว่าเสี่ยรู้ใจถึงขั้นตรงใจเป๊ะๆ ที่แท้หลอกใช้งานลุงเขานี่เอง แต่เขาก็ดีใจเลยลยหอมแก้มเสี่ยไปหนึ่งฟอดแบบไม่ให้ประเจิดประเจ้อ
แต่เรื่องเสี่ยปรับปรุงบ้านน่ะ มันยังมีประเด็นต่ออีกด้วย ตอนที่ลุงจัดเก็บห้องพระก่อนที่ช่างจะมาซ่อม ช่างบางส่วนที่ดูพระเป็นก็อู้หู้ อ้าหาบอกว่าบ้านเขามีแต่พระดีหายาก ทำไม่ไม่ตั้งบูชาไว้ให้ดีๆ ปล่อยให้ฝุ่นกับหยากไย่ขึ้นแบบนี้ ลุงเขาที่หูตั้ง (เพราะได้ยินคำว่าดีหายาก ) ก็ขนพระเครื่องไปให้คนในจังหวัดที่พอรู้เรื่องพระดูให้
สรุปคือพระเครื่องบ้านเขาถึงจะไม่ใช่รุ่นท็อป แต่บางองค์ก็หายาก ถ้าปล่อยเช่าอาจได้เป็นแสน เขาที่เพิ่งรู้ข่าวนี้ก็อยากจะด่าไปให้ถึงโคตร ติดก็แต่ว่าโคตรเขากับลุงโคตรเดียวกันเลยด่าไม่ได้ ลุง! ลุง ทำอะไรลงป๊ายยยยย! ถ้าปล่อยเช่า เขาก็ไม่ต้องขายตัวแล้วนะ!
" กูก็ว่าแล้วเชียวไอ้เจ้าหนี้มันแปลกๆ อยากยึดบ้านให้ได้ ไอ้...... เอ๊ย!" ลุงด่า
คราวนี้เขาร่วมวงด่าด้วย(เพราะไม่ใช่โคตรเขาแล้ว) ไอ้..... เอ๊ย อย่าให้กูเห็นหน้าเชียว กูจะสั่งคนไปกระทืบ! เห็นหน้าเสี่ยกูไหม ขาใหญ่อยู่นี่! หนี้นอกระบบบ้านนอกอย่างมึงเตรียมตัว! กูสั่งเสี่ย(?) ให้บอกคนมาลากคอหอยมึงแน่!
แต่ก็...นั่นแหละนะ ได้แต่คิดไม่ได้พูด! ถึงเสี่ยจะบอกว่าพอจะจัดการให้ได้ แต่ก็ไม่พ้นเสี่ยที่ลำบากวิ่งเต้น แถมเรื่องมันผ่านไปแล้วก็ช่วยอะไรไม่ได้ เขากับลุงก็ได้แต่จำไว้เป็นบทเรียน ว่ามีพระเก่าต้องปล่อยให้เช่า... ผิด! ว่าอย่าไว้ใจใครง่ายๆ โดยเฉพาะกับเพื่อนที่มาขอให้ช่วยค้ำ! อย่าให้กูเจอตัวนะมึง กูกระทืบไส้ไหลแน่!
เฮ้อ~ เขาที่หงุดหงิดแต่ทำอะไรไม่ได้ก็ได้แต่ทำใจ เรื่องมันผ่านไปแล้วจะให้โมโหไปก็ใช่ที่ แถมลุงเขาเองก็ไม่รู้เรื่อง เพราะพระบางองค์ ลุงก็แค่เช่ามาฝากตาตอนที่ไปเที่ยว อย่างหลวงปู่วัดช้างไห้ ลุงก็แค่เช่ามาให้ตามาบูชา แทนของที่ระลึกตอนที่ไปเที่ยวปัตตานี มาตอนนี้ราคาดันชวนระทึกซะงั้น
เขาที่ปลงตกแล้วก็ได้แต่ปลอบใจตัวเอง เพราะชีวิตที่ผ่านมาของเขามันก็ไม่ได้แย่ ถึงจะต้องอดสู.. ในตอนแรกๆ แต่เขาก็ผ่านมันมาได้ แถมเขายังได้เจอกับเสี่ย ได้รู้จักกันจนมีอย่างทุกวันนี้ เขามีเงินเก็บ... ถึงจะยังติดหนี้ปากเปล่าค่าบ้านที่เสี่ยปรับปรุงให้ แต่เขาก็จะจ่ายคืนจนครบ ส่วนเรื่องที่เคยเป็นเด็กเลี้ยงเขาก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ (กาม) เพราะอย่างที่บอกเสี่ยดีกับเขามากๆ ไม่เคยรังคัดรังแค และช่วยเหลือในสิ่งที่ช่วยได้
เพราะงั้นก่อนขึ้นรถ เขาเลยขอให้ลุงเลือกพระดีๆ มาให้เสี่ยซักหนึ่งองค์ เอาแบบที่คิดว่าขลังแน่ๆ ก่อนนำมาใส่กล่องพระเครื่อง แล้วค่อยเอาไปให้ร้านทองในกรุงเทพฯ เลี่ยมกรอบทองอีกที แต่ตอนที่แย็บๆ ถามเสี่ยไปว่าที่บ้านมีหิ้งพระไหม เสี่ยดันบอกว่าบ้านเสี่ยเป็นคนจีนซะงั้น แต่มีแม่เป็นไทยเสี่ยเลยได้ไหว้พระบ้าง เขาเลยใจชื้นขึ้นมาอีกนิดคิดว่าพระเครื่องเขาไม่เป็นหมันแน่ๆ เลยบอกเสี่ยไปตามตรงว่าเขาขอพระเครื่องจากลุงมาให้เสี่ยเอาไว้บูชานะ แต่เสี่ยก็รับไว้แค่สินน้ำใจ แล้วบอกเขาให้ตั้งบูชาไว้ที่คอนโดเสี่ยแทน ซึ่งเขาว่าก็โอ จะอยู่บ้านหรืออยู่คอนโด มีพระคุ้มครองหน่อยก็ดีกว่าอยู่แล้ว ถึงเขาจะไม่เคร่งศาสนามาก แต่ก็ไม่ลบหลู่เพราะอยากมีที่พึ่ง ที่พึ่งทางใจก็ส่วนหนึ่ง ที่พึ่งทางผี... แค่กๆๆๆ เอาเป็นว่าที่คอนโดเสี่ยไม่มีผีแล้วกัน มีแต่ผีทะเลที่สะกิดไม่เลิก
ดังนั้นทริปวันหยุดยาวหกวันของเขากับเสี่ยก็จบลงแต่เพียงแค่นี้ เรากลับมาถึงคอนโดกันตอนเกือบๆ สองทุ่ม เขาช่วยลุงขับรถขนของที่มีค่อนข้างจะมีอยู่เยอะกว่าขาไปลงมาด้วย ส่วนหนึ่งก็เป็นของฝากที่เพิ่งซื้อ อีกส่วนก็เป็นผลไม้หลงฤดูในสวนที่ลุงสั่งคนงานให้ตัดเอาไว้ให้ ก่อนจากกัน ไม่รู้ว่าลุงระแคะระคายเรื่องเขากับเสี่ยอยู่หรือยังไง เพราะก่อนจากกันลุงดูส่งสายตาแปลกๆ มาให้ แถมตลอดหกวันที่ผ่านมาเขากับเสี่ยตัวติดกันตลอด
ลุงเลยบอกกึ่งๆ เตือนเขาว่า เขาโตแล้วทำอะไรคิดหน้าคิดหลังให้ดีๆ มีอะไรก็บอกลุงได้ ลุงเลี้ยงเขาได้แต่ตัว อย่างอื่นลุงคงช่วยไม่ได้ เขาที่ได้ฟังก็อึ้งไปเพราะมีชะงักติดหลัง (แถมชะงักติดหลังที่ว่ายังอยู่ใกล้ตัวด้วย) เลยได้แต่งึมงำตอบลุงกลับไปว่า คิดดีแล้ว เขาโตแล้วตัดสินใจเองได้ ลุงเองพอได้ฟังก็พยักหน้ารับ ตบหัวเขาสองสามที ก่อนให้พรแล้วถีบส่งเขาขึ้นรถ
เสี่ยที่ยืนฟังอยู่ก็ไม่ได้พูดมาก กล่าวลาลุงและสวัสดีตามปกติ พอเห็นเขาซึมๆ ก็บอกว่าอย่าคิดมาก ลุงก็แค่ห่วงเท่านั้น
ช่างเป็นคำปลอบใจที่โคตรไม่ได้เรื่อง เขาเลยส่งค้อนให้ไปหนึ่งขวับ เสี่ยที่เห็นเขากลับเป็นปกติก็จูบที่ขมับแล้วบอกว่า วันเกิดจะเลี้ยงมื้อใหญ่ให้
ฮึ คิดว่าจะซื้อเขาได้ด้วยของกินหรือไง
ถูก! เขาที่ซื้อได้ด้วยของกินมีหรือจะพลาด ขอเป็นสเต๊กมื้อใหญ่หนึ่งมื้อพร้อมกับไวน์หอมๆ อีกหลายแก้ว แน่นอนว่าถึงเสี่ยจะเอ่ยปากแล้วแต่มันก็ต้องมีการมัดจำด้วยการใช้ปาก...
เสี่ยใช้ปากให้! แม่เจ้าโว้ย ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาเสี่ยไม่เค๊ย ไม่เคย ที่จะใช้ปากให้ เขาที่ไม่เคยก็เสร็จในเวลา....
เอาเป็นว่าสำนวนนกกระจอกไม่ทันกินน้ำ ไม่ใช่สำนวนที่ชวนขำแน่ๆ เพราะเขาที่เสียวจนเสร็จเร็วเลยถูกเสี่ยล้อว่า “เรือล่มตั้งแต่ยังไม่ทันออกจากปากอ่าว” ชิซ่า มีคนดูถูกมาเราอย่ายอมให้เขาปรามาส จัดการใช้ปากกลับด้วยสกิลขั้นเทพ
กว่าเขาจะรู้ว่ามันเป็นแผนของเสี่ยที่อยากจะเอาท์ดอร์ก็ตอนเมื่อสายไปแล้วนั่นแหละ เขาที่อยู่บนตัวเสี่ยก็ควบเสี่ยไปกลั้นเสียงไปเพราะไม่อยากให้ลุงคนขับรู้ แต่ลุงคนขับเหรอจะไม่รู้ บนรถมีทิชชู่กับกระดาษเปียกพร้อม ลุงคงเอามาสั่งขี้มูกมั้ง!
เขาที่เพิ่งรู้ตัวว่าเสียรู้เสี่ยเลยได้แต่งอนเสี่ยอีกรอบ เล่นนอกบ้านก็เสียวดีแต่โคตรทรมานเลยเถอะ แล้วถนนเมืองไทยมันจะทำอะไรกันหนักหนา ตกหลุมทีเขาแทบเสร็จให้ได้ เสี่ยนี่ไม่ต้องพูด ยิงอึด ทน นาน พอเขาตอดทีก็พูดหวานหูปนลามกที ไอ้เสี่ยหื่นลามก! เขาที่พอลงมาจากรถได้ก็ได้แต่ทำตัวเป็นตุ๊ด เดินขาหนีบๆ เพราะเจ็บก้นให้เสี่ยหัวเราะเล่น เอ๊อออ ใช่ซี้ อย่าให้ถึงทีเขาแล้วกัน เขาจะจับเสี่ยกดบ้าง!
แน่นอนว่าแค่คิดเขาก็ผิด เพราะเสี่ยดีดหน้าดังเป๊าะ บอกว่าถ้าฟุ้งซ่านไม่เลิกได้เจอหนักกว่าตอนที่อยู่บนรถแน่ เขาที่ถูกขู่ก็ได้แต่หูตกหางลู่ ช่วยลุงคนขับรถถือของขึ้นคอนโดแบบไม่มองหน้า
รอจนเสี่ยหัวเราะจนพอใจนั่นแหละเสี่ยถึงได้เอาของไปถือเอง แล้วกอดคอเขาไว้ก่อนจูบที่ขมับอีกหนึ่งรอบ แต่ยังไม่ทันที่เขากับเสี่ยจะได้สวีทหวานหรือทะเลาะกันต่อ หางตาเจ้ากรรมของเขาที่ดันเห็นว่ามีสาวสวยขายาวนั่งอยู่ไม่ไกลแถวนั้นเลยรีบหันขวับ เท่านั้นแหละ...
ระเบิดลง!
เวรเอ๊ย เขาก็ว่าอยู่ว่าขาคู่นั้นมันดูคุ้นๆ ที่แท้ก็ขาคุณปุยฝ้าย
เขาที่เป็นเด็ก(เลี้ยง)ที่ดีเลยค่อยๆ ดึงแขนของเสี่ยออก รับของมาถือเองแล้วยกมือไหว้ เดินทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ตอนสวนกับคุณปุยฝ้ายที่ใส่แว่นกันแดดทั้งที่ตอนนี้มันสองทุ่ม พอเข้าลิฟต์มาได้ก็สบตากับเสี่ยที่ยังยืนข้างนอก ส่งความนัยผ่านสายตาบอกเสี่ย ขอให้เสี่ยโชคดีนะ เรื่องของเสี่ยเขาจะไม่ยุ่ง พอประตูลิฟต์ปิดลง เขากับลุงคนขับรถที่ขนของขึ้นลิฟต์มาด้วยกันก็สบตากันแวบหนึ่งก่อนเบี่ยงออกแล้วนิ่งเงียบ
ลุงแกคิดยังไงเขาไม่รู้ แต่เขารู้ว่าเสี่ยซวยแน่ ส่วนตัวเขา... ช่วงแวบเดียวที่เขาสวนกับคุณปุยฝ้าย คำสามคำที่ดังก้องอยู่ในหัวมันมีแต่คำว่า
CLUB - FRI - DAY
พี่อ้อยพี่ฉ่อย ได้มีหนังเรื่องใหม่ให้เมาท์กันสนุกแน่
>>> CLUB FRIDAY ตอนหน้าจะมาม่าไหม~~
>>>>>> ส่งท้ายปีเก่าของจริง เจอกันหลังปีใหม่ค่ะ (ซึ่งก็คือพรุ่งนี้(มั้ง) จุ๊บๆๆ)
ปล. มีคำผิดสะกิดกันได้ไม่ว่ากันจ้า^^