บทที่ 21 โง่นักก็ให้หมามันคาบไป
กวินอารมณ์ดีมากเมื่อรู้สึกว่าตัวเองได้เข้าใกล้วริษฐ์มากขึ้นอีกก้าว ได้รู้จักสังคมของเขา ได้คุยกับเพื่อน ๆ ของเขา ทำให้ได้รู้อะไรเพิ่มเติมมาอีกเพียบ กวินอารมรณ์ดีชนิดที่ร้องฮัมเพลงตามเสียงดนตรีที่ดังออกมาจากวิทยุ
อารมณ์ดีจนวริษฐ์ต้องลอบมอง แล้วรีบหันกลับเมื่ออยู่ ๆ เจ้าตัวดีหันก็หันกลับมาหาเขา
“พี่อาร์ตนอนห้องกวินมั้ย”
“นอนครับ ดึกแล้วขี้เกียจขับรถ”
“หอในมันให้คนนอกเข้ามั้ยนะครับ” กวินพูดล้อเลียนวริษฐ์ ร่างสูงเหลือบไปมองใบหน้ายิ้มกริ่มของกวิน
“พี่ง่วงน่ะก็อ้างไปงั้น”
กวินหุบยิ้มลงนิดหน่อย แต่เขาจะเนียนคิดเข้าข้างตัวเองแล้วกันว่าพี่อาร์ตน่ะหวงเขา
กวินถึงห้องเขารีบอาบน้ำให้ตัวหอม ๆ ส่วนวริษฐ์ไปนอนกลิ้งเกลือกอยู่บนที่นอน ฝังหน้าลงกับหมอนนุ่ม
ติ้ง ติ้ง
มือถือของกวินวางอยู่ข้างเขาเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นทำให้เขาเงยหน้าขึ้นจากหมอน ถือวิสาสะชะโงกหน้าดูมือถืออีกฝ่าย ที่ตอนนี้เจ้าของไม่อยู่ไปอาบน้ำ
‘น้องกวิน
กลับถึงห้องหรือยัง’
โหไอ้เต๋า มันขอแชทกวินไว้ด้วย ตอนไหนวะ คลาดสายตาแปปเดียว ร้ายว่ะแม่ม แล้วทางนี้ก็ยอมให้เขาด้วย ... วริษฐ์นึกฟึดฟัดอยู่ในใจ
กวินออกมาจากห้องน้ำเขาก็มานอนข้าง ๆ วริษฐ์ พลางหยิบมือถือมาเช็ค เขาพิมพ์ตอบกลับพี่เต๋า อย่างสุภาพว่ากลับถึงบ้านปลอดภัยเรียบร้อย
“พี่อาร์ตไปอาบน้ำสิครับ”
ร่างสูงมองกวินที่ถือมือถืออยู่ในมือ แต่กลับออกปากไล่เขา... จะแอบคุยกันล่ะสิ แต่วริษฐ์ก็ยอมลุกไปอาบน้ำแต่โดยดี ไปทำให้ตัวเย็น จะได้รู้สึกสบายใจ
แปปเดียวเขากลับออกมาจากห้องน้ำ เห็นตัวแสบนั่งกดมือถือยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ก็ชักจะร้อนอีกครั้ง คุยกันหัวเราะคิดคักไม่หยุด
วริษฐ์เดินกลับมาที่เตียง ก่อนทิ้งตัวลงข้าง ๆ คนตัวเล็ก นั่งขัดสมาธิมองว่าอีกฝ่ายจะหยุดพิมพ์โต้ตอบกับเต๋าตอนไหน
ติ้ง
เสียงแจ้งเตือนแม่มน่ารำคาญจริง ๆ
‘พรุ่งนี้กวินว่างมั้ย’
ร่างบางเหลือบมองคนข้าง ๆ ก่อนจะพิมพ์ตอบไปว่า “ว่างครับ”
‘ไปกินข้าวกัน
เดี๋ยวพี่จะเล่าเรื่องสนุก ๆ เกี่ยวกับวริษฐ์ให้ฟัง’
ร่างบางอ่านข้อความขณะเหลือบมองคนข้าง ๆ อีกรอบ เหลือบมองไปมองมาจนวริษฐ์ชักจะหงุดหงิดจนต้องถามออกไป
“มีอะไรหรอกวิน”
“คือ...พี่เต๋าชวนไปกินข้าว”
วริษฐ์ได้แต่โวยวายในใจ รุกชิบหาย!
“จะไปหรอ” วริษฐ์ถามกลับ
ขณะกวินคิดตกตะกอนในใจ ถ้าไปคงได้รู้จักพี่อาร์ตมากขึ้น เขาอยากสนิทสนมกับพี่เต๋าเอาไว้
“ไปครับ”
“งั้นพี่ขอไปด้วย”
“ไปด้วยกันก็ได้ครับ”
ร่างบางพิมพ์ตอบว่า ไป เต๋าก็ถามว่าจะให้ไปรับที่หอมั้ย เขาก็บอกว่าไม่เป็นไร ให้ไปเจอกันที่ห้างที่พี่เต๋าอยากไปเลย หลังจากนัดแนะเวลาสถานที่เรียบร้อย เขาก็ขยับไปวางมือถือไว้ที่หัวเตียง ก่อนมานอนซุกอยู่ที่ต้นขาของวริษฐ์
‘เมิงก็ได้แค่ในแชทแหละเต๋า!’ วริษฐ์โวยวายอยู่ในใจ
พวกเขานอนเล่นกลิ้งเกลือกบนเตียง และเพราะทั้งสองคนนอนกอดก่ายกัน เนื้อตัวสัมผัสกันและกัน อารมณ์จึงเกิด ไฟรักร้อนจึงถูกจุดติด พวกเขาขยับเขาหา สัมผัสกันและกันตามสัญชาตญาณ
วริษฐ์มองคนด้านล่างที่ทำให้เขามีอารมณ์แค่เพียงสัมผัสกันไปมาเท่านั้น ใบหน้าเนียนขึ้นสีแดงมันเห่อร้อนเพราะฤทธิ์เหล้าและรสสัมผัส ริมฝีปากเล็กบวมเจ่ออ้าออกเพื่อหายใจ เหงื่อออกเกาะพราวทั่วใบหน้า เส้นผมชื้นเปียกแนบลูบไปกับหน้าผาก แผงอกเปลือยเปล่าที่ขยับขึ้นลงด้วยความเหนื่อย วริษฐ์หยุดขยับเพื่อให้คนตัวเล็กได้พักหายใจ จุดเชื่อมต่อกันแม้ไม่เคลื่อนไหว แต่กลับบีบตอดรัดสั่นกระตุกอยู่ข้างใน ดวงตากลม ปรือหลับ เพราะคนตัวเล็กเพิ่งไปถึงสวรรค์ ขณะที่วริษฐ์ยังค้างอยู่ วริษฐ์รอคอย แม้เขาจะอยากขยับใจจะขาด
กวินหอบหายใจ เขาเสร็จไปก่อนพี่อาร์ต ร่างสูงรุกรานเขาทั้งหน้าทั้งหลัง ทั้งยังบดขยี้ริมฝีปากของเขา รุนแรงกว่าทุกทีจนเหมือนจะกลืนกินเขาเข้าไปทั้งตัว ด้านล่างขยับถี่ทั้งเอวและสะโพก ทำให้เขาหายใจแทบไม่ทันแล้วก็พาเขาไปส่งถึงฝั่งได้อย่างง่ายดาย เขาพักเหนื่อยหอบหายใจ ก่อนปรือตาขึ้นสบดวงตาของพี่อาร์ตที่กำลังมองเขาอยู่เหมือนกัน ใบหน้าหล่อเหลาและดวงตาคมที่เปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยน พี่จะรู้บ้างมั้ยว่าพี่ทำให้หัวใจของผม เต้นแรงแล้วแรงอีก แล้วหัวใจของพี่ละครับเต้นแรงเหมือนผมบ้างมั้ยเวลาที่เราสบตากัน
“ขยับได้เลยครับ กวินโอเค”
เมื่อได้รับคำอนุญาต วริษฐ์กับทำต่อตามที่มันควรจะเป็น เขาขยับเข้าออกช่องทางรักด้วยความรวดเร็วรุนแรง เสียงต้นขาแกร่งกระทบกับก้นของกวินดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
“จะเสร็จแล้ว” วริษฐ์พูดขณะกดแก่นกลางเข้าไปเขากอดคนตัวเล็กเอาไว้ ใบหน้าซุกอยู่ที่ไหล่เนียน ด้านล่างกระตุกเกร็งปลดปล่อย เขาตามกวินไปทันแล้ว
เขาถอนแท่งเนื้อออก พวกเขาไม่แม้แต่จะไปอาบน้ำทำความสะอาดหรือใส่เสื้อผ้า เขาแค่เช็ดเสื้อเช็ดคราบน้ำเหนียวเหนอะหนะ และโยนเสื้อตัวนั้นไว้ข้างเตียง ทั้งคู่นอนกอดกันแล้วหลับไป ใช้เวลาค่ำคืนนี้ไปด้วยกัน แนบแน่นเท่าที่ใจต้องการ
ช่วงเช้าวริษฐ์ตื่นก่อนเขาปล่อยให้คนตัวเล็กใช้อกเขาหนุนแทนหมอน มือก็เกลี่ยเส้นผมอ่อนนุ่มไปมา แผ่นหลังเนียนสะท้อนกับแสงแดดที่ส่องเข้ามาในห้อง เขาไม่อยากคิดอะไรมากไปกว่าการมองหน้ากวินตอนหลับใหลตอนนี้ ไม่อยากคิดว่าตอนนี้ตัวเองรู้สึกยังไง ไม่อยากคิดว่าในอนาคตจะเป็นแบบไหน รสนิยมของเขาเปลี่ยนแปลงไปแล้วหรือ ทำไมถึงมาติดอยู่กับผู้ชาย ที่มีเหมือน ๆ กันกับเขา หน้าอกใหญ่โตพอดีมือที่เขาเคยชอบ กวินก็ไม่มีให้จับ แล้วคนอื่นจะมองเขายังไงก็ไม่รู้ ถ้าเขาเป็นผู้หญิงคู่เดท คงโกรธน่าดู
‘พอถูกใจ เพศอะไรกุไม่สนใจหรอก เอาที่กุมีความสุขพอ’
เขานึกถึงคำพูดของเต๋า แค่ถูกใจก็พอ...แต่เมิงน่ะ จะใครก็ได้ที่ไม่ใช่กวินอ่ะเต๋า
“นัดเต๋ากี่โมงนะกวิน”
“เที่ยงครึ่งครับ”
“โอเค”
เพราะนี่เพิ่งจะ เก้าโมง พวกเขากินขนมปังทาแยมง่าย ๆ รองท้อง เป็นมื้อเช้าสำหรับคนขี้เกียจ พวกเขาใช้เวลาเรื่อยเปื่อยไปด้วยกัน สถานที่นัดขับรถคงไม่เกินครึ่งชั่วโมง พวกเขาอาบน้ำเตรียมตัว ยังเหลือเวลาอีกมากให้ทำอะไรมากมายเพื่อฆ่าเวลา
กวินเกิดอยากจะวาดรูปขึ้นมา เขาอารมณ์ดี วริษฐ์นั่งดูคนตัวเล็กวาดรูปเล่น ลายเส้นการ์ตูนเป็นภาพหน้าเขาท่อนบนเปลือยเปล่าจากมุมมองของคนที่อยู่ด้านล่างอย่างกวิน สีหน้าท่าทางของผู้ชายในภาพดูสุขสมจนปิดไม่มิด
“กวินวาดภาพโป๊”
“แค่ถอดเสื้อเองครับ” กวินตอบพลางแหย่ต่อ “หรือพี่รู้ครับว่าคนในภาพกำลังทำอะไร”
วริษฐ์ย่นจมูกพลางใช้มือเคาะไปที่หน้าผากของกวินด้วยความมันเขี้ยว
“พี่อาร์ต ยิ้มเยอะ ๆ นะ”
ร่างสูงส่งยิ้มให้คนตัวเล็ก ดวงตาอ่อนโยนจนหัวใจของกวินพองโต เขานึกสงสัยว่าตัวเขาเองน่ะ จะยังรักอีกฝ่ายเพิ่มมากขึ้นได้ขนาดไหน มันไม่มีที่สิ้นสุดสักที ยิ่งเขายิ้มให้ ก็ยิ่งรัก...
เต๋าไปถึงจุดนัดก่อนเวลานิดหน่อย เขาคิดอยู่ในใจสองอย่างสำหรับวันนี้ คิดว่ากวินคงบอกวริษฐ์แน่ ๆ ว่าจะมาเจอเขา เพราะขนาดเข้าห้องน้ำยังขออนุญาตเลย เรียกว่าอยู่ในโอวาทอย่างดี ขอทายว่า ถ้าวริษฐ์ไม่มาด้วย มันคงโมโหน่าดู หรือไม่... มันก็โผล่มาด้วยตามประสาหมาหวงรุ่นน้องที่ทำงาน
ใกล้เวลานัดเขาก็เห็นกวินอยู่ริบ ๆ สว่างสดใสมาแต่ไกล ตัวก็ขาว เสื้อก็ขาว กางเกง 5 ส่วนสีฟ้าอ่อน สดใสเหมาะกับเพื่อนเขา
“ซื้อหวยไม่ถูกแบบนี้วะ”
เต๋าบนเสียงเบา พลางยิ้มขัน ร่างเล็กเดินนำ ร่างสูงของเพื่อนเขาเดินตาม
“สวัสดีน้องกวิน”
“ดีครับพี่”
“เมิงมาทำไมอ่ะวริษฐ์”
“น้องชวน กุว่างกุก็มา”
กวินขมวดคิ้วนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้พูดขัด เขาเออออไปด้วย อ่ะ เขาชวนก็เขาชวน ทั้งที่ตัวเองขอมาเองแท้ ๆ
“หิวหรือยังกวิน ไปกินข้าวกัน” เต๋ามองข้ามความท่ามากของวริษฐ์ไปเอ่ยชวนกวินแทน
“กินอะไรดี”
พวกเขายังตัดสินใจไม่ได้ก็เลยเดินวนดูร้านต่าง ๆ ร้านไหนที่พวกเขาจะฝากท้อง จนสายตาไปสะดุดกับร้านอาหารจีน คนน้อยด้วย น่ากินด้วย เขาไม่เคยกินเลย
“ร้านนั้นมั้ย อาหารจีนคนน้อยดี” เต๋าออกปาก ขณะที่ทุกคนก็ให้ความสนใจเพราะไม่เคยกินเลย
พวกเขาเดินเข้าร้าน กวินเดินนำเลือกโต๊ะ ขณะที่เต๋าตั้งใจจะชิงพื้นที่ข้างกวิน ให้วริษฐ์นั่งตรงข้ามมองดูเขาคุยกับกวินชัด ๆ เต็มสองตา
วริษฐ์หน้ามุ่ยนิดหน่อย เมื่อเต๋าเลือกนั่งข้างกวิน แล้วเขาต้องมานั่งตรงข้าม ทำไมเขาก้าวไม่ทันมันวะ เลยต้องมานั่งตรงข้ามมองดูไอ้เต๋ามองกวินตาหวานเยิ้ม มือก็เหมือนปลาหมึก กวินชี้ตรงไหน มือของเต๋าก็จะไปชี้ตามใกล้ ๆ จนมือสัมผัสกัน
“อันนี้น่ากินนะครับได้หลายอย่างเลย”
“เอาสิ กวินกินไรกินเลย พี่เลี้ยง”
“โหย ผมเกรงใจ”
“ไม่เป็นไร พี่รวย พี่อยากเลี้ยงคนน่ารัก ๆ ส่วนคนที่ติดมา ถือว่าทำบุญแล้วกัน”
วริษฐ์ตวัดสายตามองเมื่อถูกกล่าวถึง
“หารกันก็ได้ กุก็ไม่ได้จน” ...ไอ้เต๋าเมิง
พวกเขาสั่งเซ็ตแนะนำของทางร้าน มีทั้งเป็ดย่าง หมูกรอบ หมูแดง เต้าหู้ทรงเครื่องสไตล์เสฉวน เกี๊ยวน้ำ
อาหารมาเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มมากมายหลายชนิด บางอันเค็ม บางอันหวาน บางอันมัน ๆ เผ็ด ๆ พนักงานมาแนะนำซอสแต่ละชนิดก่อนอาหารจะทยอยมาเสิร์ฟ มีแต่ของน่ากิน กลิ่นก็หอมจนน้ำลายไหล
กวินเริ่มกินอย่างเพลิดเพลินใจ อร่อยไปหมดทุกอย่าง หมูกรอบนี่อย่างดีเลย กรอบแบบว่าพวกร้านหมูกรอบเหนียว ๆ แข็ง ๆ ร้านอื่นต้องวิ่งมาขอสูตร เนื้อเป็ดก็ฉ่ำ หมูแดงนี่หวานนิด ๆ ทั้งหอมทั้งนุ่น เต้าหู้ทรงเครื่องสไตล์เสฉวน ซอสเค็มหวานเผ็ด ครบรสช่วยตัดเลี่ยน กำลังดี แต่มันนิดนึง ก็เลยขาดไม่ได้ต้องซดน้ำซุปเกี๊ยวน้ำร้อน ๆ ให้คล่องคอ ซุปใส ทำให้กวินฟิน
วริษฐ์ลอบมองหน้าตามีความสุขของกวิน แต่รำคาญไอ้เต๋าชิบหาย น้องมีมือ เมิงจะคีบอะไรให้เขานักหนาวะ
“มองไรวริษฐ์ อยากแดกเป็ดที่กุคีบหรอ อ่ะ กุยกให้” เต๋าพูดกวน
“อ๊ะ” กวินส่งเสียงร้อง เมื่อทำหมูกรอบตกลงไปในถ้วยน้ำจิ้ม น้ำจิ้มกระเด็นเปื้อนเสื้อกวินเป็นดวง ๆ
เต๋ามือไวรีบเอาทิชชู่ชุบน้ำ ถูไปที่เสื้อของกวิน ถูไปที่แผ่นอกของกวิน
แกร๊ก!
วริษฐ์วางตะเกียบลงถ้วยเสียงดัง ทำให้ร่างบางสะดุ้ง
“ไปล้างในห้องน้ำให้เรียบร้อยไปกวิน” น้ำเสียงราบเรียบดูไม่พอใจถูกส่งออกมา
กวินลุกไปอย่างว่าง่าย เขาก็ไม่อยากให้เสื้อขาวมันเปื้อนนักหรอก
เต๋ามองท่าทีของเพื่อน อันนี้นอกแผนแต่โคตรได้ผล ผู้ชายเหมือนกัน ไม่มีอะไรสึกหรอซักหน่อย แตะไม่ได้หรอ... หึ ถ้ามันบอกว่าชอบน้องสักคำ ผมจะเลิกแกล้งเลย
“ร้านนี้ไม่อร่อยหรอ”
“อร่อย”
“น้องน่ารักเนอะ”
“เออน่ารัก ใสซื่อ เมิงก็อย่าไปยุ่งกับน้องเลย”
หืม? จะบอกว่าเมิงยุ่งได้คนเดียวงี้ กั๊กนี่หว่า เต๋าคิดพลางมองสำรวจเพื่อน
“เห็นกุเป็นคนยังไง กุเป็นคนดีจะตายไม่เหมาะกับน้องหรอ”
“น้องไม่ชอบเมิงหรอก”
โห จะบอกว่าน้องชอบเมิงคนเดียวงี้ ถึงจะจริง แต่ก็น่าหมั่นไส้ว่ะ เต๋าไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะต้องมานั่งลับฝีปากกับแม่ม เพราะเรื่องหัวใจเนี้ย
“แล้วน้องชอบใคร”
“...” วริษฐ์นิ่งไม่ยอมตอบต่อปากต่อคำ
เงียบสิเมิง เจอคนถามตรงแบบกุ
“กุอ่ะเหมาะกับน้อง กุคนดี”
“ไม่อ่ะ กุเป็นห่วงน้อง”
“ห่วงอะไร น้องโตแล้ว เป็นพ่อหรอไง”
“ไม่เว้ย”
น้องชอบกุ น้องไม่มีทางชอบเมิง เลิกเกาะแกะได้แล้ว กุหงุดหงิด เขาไม่คิดเลยว่าจะต้องมาหงุดหงิดงุ่นง่านใจแบบนี้ กับเพื่อนที่สนิทที่สุดของเขาอย่างเต๋า
“ช่างเมิงเถอะ แค่รุ่นพี่ที่ทำงานอ่ะ กุไม่สนใจหรอก” เต๋าพูดพลางยักคิ้วใส่
ก่อนมวยจะเริ่ม กวินก็กลับมา เรียกให้ทั้งสองคนพักยก หันมามองคนตัวเล็ก ที่เสื้อขาว ตัวบางเป็นดวงเปียกเพราะน้ำ มันชื้นจนแอบเห็นอะไรบางอย่างที่ซุกซ่อนอยู่ ตุ่มไตเล็ก ๆ สีหวาน
วริษฐ์อยากจะบ้าตาย กวินทำไมมันทำเสื้อเปียกขนาดนั้น
เต๋ามองอีกคนไม่วางตา ก่อนที่เขาจะหวั่นไหวเข้าจริง เขาถอดเสื้อกันหนาวตัวบางของตัวเองส่งให้กวิน
“พี่กลัวเราหนาว เอาไปใส่เถอะ”
“ขอบคุณครับ” กวินรับมาใส่อย่างว่าง่าย มันปกปิดได้พอสมควร
วริษฐ์เดาะลิ้น ทำเป็นสุภาพบุรุษ เมื่อกี้จ้องตาแทบถลน
กวินกลับมานั่งกินต่อไม่ได้สนใจว่าสองคนจะทะเลาะอะไรกัน เอาเป็นว่าเพื่อนพี่อาร์ตเป็นคนดีมาก และถ้าหากว่าพี่เต๋าจะช่วยทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองถูกพี่อาร์ตหวง เขาก็ว่าสนุกดี...
มื้อนี้กวินอิ่มจังตังอยู่ครบ เพราะว่าพี่อาร์ตกับพี่เต๋าออกให้เขา หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินเล่นเรื่อยเปื่อย
กวินขอแวะร้านเสื้อยืด ลายแมวน่ารักสะดุดตาจนเขาต้องหยุดมอง เสื้อยืดสีน้ำเงินเข้ม มีกระเป๋าตรงหน้าอก บนกระเป๋ามีลายปักแมวตัวเล็ก ๆ โผล่มาด้วย
ร่างสูงขยับเข้าใกล้กวินพลางพูดเสียงเบาข้างหู “แมวเหมือนกวิน”
“พี่อาร์ต์ดูจะชอบวันนั้นมากนะครับ” กวินเอ่ยแซว วันที่เขาแต่งเป็นแมว พี่เขาดูจะชอบอกชอบใจมากเป็นพิเศษ
วริษฐ์ไม่ตอบทำเป็นไม่สนใจเสียงแซวของกวิน เขาเอื้อมมือไปจับผ้า ผ้านิ่มดูแล้วคงใส่สบาย
“ตัวละ 200 สองตัวลดให้ 350” แม่ค้าพูดราคา แถมแนะนำโปรโมชั่นโดยไม่รอให้เขาได้ต่อราคา กวินมองเสื้อแมวตัวที่อยากได้
เต๋าหยิบเสื้อลายนั้นลายนี้ดู มันก็ดูน่ารักดี แม้จะไม่ใช่แนวที่เขาใส่เลยก็ตาม ไม่ใช่แนวของวริษฐ์ด้วยเหมือนกัน
“พี่...” เต๋าจะร่วมซื้อด้วย ว่าจะลองเพราะผ้าดูใส่สบาย แต่อีกคนกลับพูดแทรกขึ้นมาก่อน
“ผมเอาตัวนี้ไซส์ M กับตัวนั้นไซส์ L “ วริษฐ์เลือกเสื้อยืดสีน้ำเงินอีกตัวที่ลายปักเหนือกระเป๋าเป็นรูปหมาชิบะ
วริษฐ์ชี้บอกพร้อมควักตังออกมาจ่าย
เต๋าเลยมองนิ่ง ๆ มุ๊งมิ๊งเชียวนะว้อย เขาไม่อยากจะซื้อด้วย เผื่อทั้งสองคนนั้นอยากจะใส่ให้เป็นเสื้อคู่ เขาก็ไม่อยากจะเป็นส่วนเกินหรอกนะ
“พี่ ผมซื้อเอง”
“พี่ซื้อให้ พี่เอาด้วยตัวนึง ดูจะใส่สบาย”
ร่างสูงรับถุงเสื้อมาถือไว้ กวินยิ้มกว้าง เหมือนเสื้อคู่ไม่มีผิด
“ขอบคุณครับ”
“ไปเปลี่ยนเลย แล้วเอาเสื้อกันหนาวคืนพี่เต๋าไป” วริษฐ์พูดบอกกวิน
คนตัวเล็กยิ้มกว้าง พี่หวงผมใช่มั้ย เสื้อของคนอื่นก็ไม่อยากให้มาอยู่บนตัวผมใช่มั้ยละ ถ้าหวงถ้าหึง พี่รักผมใช่มั้ย ผมมีโอกาสแล้วใช่มั้ยครับพี่
ร่างบางแว่บไปห้องน้ำอีกครั้ง เพื่อเปลี่ยนเสื้อ แล้วจะได้เอาเสื้อกันหนาวคืนพี่เต๋าไป
“วริษฐ์ เมิงรู้มั้ย...” เขาพูดเฉลยเลยดีมั้ย หรือให้มันคิดเองดี
“รู้ว่า?”
สายตาของเมิง ท่าทางของเมิง ทุกอย่างที่เมิงเป็น เมิงรักเขา ไม่ใช่แค่รุ่นน้องที่ทำงานบ้าบอ เมิงโกรธกุแบบที่ไม่เคยเป็น เราสนิทกันมาตั้งนาน ไม่มีเคยมีปัญหากัน แต่เมิงพร้อมมีปัญหากับกุ แค่เพราะกุใกล้ชิดกับน้อง นั่นก็เป็นข้อพิสูจน์แล้ว ว่าเมิงน่ะรักเขา
“เมิงน่ะ...”
หรือบอกไปเลย เพราะมันโง่ ถ้ามันรู้ มันรู้ไปแล้ว
“เฮ้อ ถ้าเมิงยังไม่รู้ตัวอีกนะเพื่อน คนที่เสียใจก็คือน้อง...หรือไม่ก็เมิงเอง”
“พูดอะไรของเมิง...”
“พี่เต๋า ขอบคุณนะครับพี่” คนตัวเล็กกลับมาพอดี ทำให้เต๋าไม่ได้พูดต่อ
วริษฐ์ขมวดคิ้วกับคำพูดของเต๋า แต่เขาก็ดูจะพอใจที่กวินคืนเสื้อเต๋าไปสักที เขารับเสื้อสีขาวของกวินตัวที่เปื้อนเอามาใส่ถุงเสื้อที่เขาถือไว้
เต๋ามองท่าทางนั้น เขาคิดว่าวริษฐ์คงคิดอะไรได้บ้างแล้ว คงคิดได้ว่าควรจะทำยังไง เขากลับไปดูร้านดีกว่า ถ้าไอ้โง่นั่นยังไม่รู้ใจตัวเองอีก ก็ช่างแม่งให้หมามันคาบไป โง่นัก
“วริษฐ์กวินเดินต่อป่ะ พี่จะกลับไปดูร้านก่อน”
ร่างบางมองสบตาคนตัวสูง วริษฐ์พยักหน้าเบา ๆ เขาจะเดินเล่นอีกหน่อย
“เดี๋ยวกุเดินเล่นต่อ เมิงกลับก่อนได้เลย”
“โอเค ไว้เจอกันใหม่นะกวิน ร้านพี่ยินดีต้อนรับเสมอ”
ก่อนจะไปเต๋าไม่ลืมที่จะยั่วโมโหวริษฐ์ ด้วยกันจับมือเล็กเขย่าเบา ๆ
“ครับพี่วันนี้ขอบคุณมาก ไว้คุยกันครับ” กวินบอกลาด้วยความกระตือรือร้น
มันสร้างความคันยิบในใจวริษฐ์ได้ไม่มากก็น้อย พอเพื่อนมารจากไป เขาก็ถามคนตัวเล็กทันทีว่าอยากไปไหนต่อ
“ขอแวะร้านนั้นนิดนึง”มือบางชี้ไปที่ร้านที่ตกแต่งด้วยโทนสีสดใส อย่างชมพูฟ้า ร้านเครื่องสำอาง...
กวินพาเขาเดินเข้าร้านเครื่องสำอาง แปลก ๆ นิดหน่อยที่เดินเข้าไปร้านแบบนี้กับผู้ชายสองคน
“พี่ว่าครีมอันนี้หอมมั้ย” ร่างบางเลือกครีมโลชั่นมาให้วริษฐ์ช่วยเลือก ที่ใช้อยู่จะหมดพอดี
“ทาครีมด้วยหรอ”
“ทาสิ ไม่งั้นผิวจะนุ่มหรอพี่”
มือหนารับขวดครีมมาดม“หอมดีนะ”
“พี่ไม่ทาหรอ”
“ไม่ค่อยได้ทา พี่ว่ามันเหนอะหนะ ทาแค่ช่วงหน้าหนาวพอ”
“อ่อ แต่กวินผิวแห้ง ถ้าไม่ทาสงสัยจะไม่น่าลูบ” เจ้าตัวพูดพลางหัวเราะคิกคัก เขาดมกลิ่นอื่นแล้วส่งให้คนข้าง ๆ ลองดม
“แล้วกลิ่นนี้กับกลิ่นนี้ล่ะ”
“หอมคนละแบบแฮะ”
“พี่ชอบกลิ่นไหน”
“พี่ชอบกลิ่นแรก” กลิ่นที่เขาเลือกมันหอม ๆ หวาน ๆ สดชื่นดี ส่วนกลิ่นที่สอง ที่สามมันดูฉุนเกินไป
“งั้นเอาอันแรก”
“หืม? เราล่ะชอบกลิ่นไหน”
“ผมชอบหมดเลย เลยให้พี่ตัดสินไง ยังไงพี่ก็ต้องได้ดม...”
“เราเนี้ย เอะอะวกมาเรื่องนี้ตลอดเลยนะ พูดเองเขินเองอยู่เนี้ย ไอ้เด็กเอ้ย” เขาพูดพลางใช้มือดันหัวกวิน
“ฮ่า ๆ”
กวินเดินไปจ่ายเงิน ขณะที่ร่างสูงยืนรอ ก็มีคนสะกิดเรียกเขา
“พี่วริษฐ์สวัสดีค่ะ” หญิงสาวร่างเล็ก แต่อกภูเขาไฟ เรียกทักเขา รุ่นน้องที่ทำงานเก่า ไม่เจอหน้ามาสามสี่เดือนได้แล้ว บังเอิญมาเจอกันที่นี่เฉยเลย
“ดีครับ”
“พี่มาทำอะไรร้านนี้คะเนี้ย”
“มาดูโลขั่นน่ะ”
“เอ๋ พี่วริษฐ์เนี่ยนะคะ ทาหรอ”
“เปล่าหรอก”
“งั้นคงมารอ” เธอพูดพลางชะโงกหาใครสักคนที่ดูเหมือนจะมากับวริษฐ์ แต่เธอเดาไม่ออกเลย “พี่มากับใครหรอคะ”
“รุ่นน้องที่ทำงานน่ะ” เขาพูดพลางภาวนาให้กวินยังไม่เสร็จยังไม่เดินกลับมาทางนี้ เขารู้สึกแปลก ๆ ยังไงไม่รู้
“พี่วริษฐ์นี่ฮอตเหมือนเคยเลยนะคะ รุ้งล่ะคิดถึงพี่จริง ๆ พี่ออกจากบริษัทไป ยังไม่มีใครหล่อ นิสัยน่ารักแบบพี่เลย”
“เอ่อ ครับ งั้นไว้เราเจอกันใหม่” เขาพูดออกแนวไล่หน่อย ๆ ไม่บอกคิดถึงกลับ ไม่อะไรทั้งนั้น กวินกำลังเดินกลับมา
หญิงสาวเขย่งไปหอมแก้มวริษฐ์เบา ๆ ก่อนผละออก
แน่นอนว่ากวินเห็นเต็มสองตา เขาก็ทำได้แค่หลบตาจากภาพนั้นเท่านั้นเอง ความสุขเมื่อกี้จางหายไปในพริบตา ความหวังว่าเขาจะรักดูลางเลือน ทั้งที่ไม่กี่นาทีก่อนมันดูชัดเจนจนเหมือนเขาจะเอื้อมคว้ามันมาไว้ได้เลย ความรักน่ะ
หญิงสาวโบกมือลาวริษฐ์ ร่างสูงยิ้มพลางโบกมือตอบ พอหญิงสาวไป กวินก็เดินมาถึงเขาพอดี ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ทำเหมือนไม่เห็นภาพเมื่อกี้ ทั้งที่ต่างฝ่ายต่างรู้ ต่างมองเห็นกัน แต่เลือกที่จะไม่พูดถึงมัน
วริษฐ์อยากอธิบาย แต่ไม่รู้จะอธิบายไปทำไม มันก็... เขาไม่มีอะไรจะอธิบายหรือปฏิเสธ ยิ่งกวินไม่ถาม เขาก็ว่าจะปล่อยมันผ่านไป ไม่เป็นไรหรอกมั้ง
.
.
[หมาที่ว่านี่ชื่อเต๋ามั้ยนะ น้องน่ารัก
ถ้าพี่ไม่ทำอะไรสักอย่างโดนแน่ เเล้วเนี้ย
คล้อยหลังเต๋า ทำน้องจ๋อยอีกเเล้ว ผู้หญิงเยอะขนาดนี้!!!]