Older Brother.....46
ผมคิดว่า ผมเป็นคนที่รักเพื่อนมากคนหนึ่งนะครับ แต่ตอนนี้ ผมชักไม่แน่ใจแล้ว......ไอ้เหี้ยธาร ไอ้สัด! ได้เมียกลับ แม่ง!!! ทิ้งเพื่อน ปล่อยผมให้ยืนเอ๋อเหรออยู่กับไอ้เด็กสามตัวเนี่ย
“เอ่อ....เอาไงอ่ะครู....” ไอ้ปอถาม เดี๋ยวนี้ผมสนิทกับพวกมันแทบตบจะตบหัวกันได้อยู่แล้วล่ะ
“จะเอาไงล่ะ กูมันไม่สำคัญ เมียมันโน้น สำคัญกว่า” ผมบอก ถอนหายใจออกมาแรง ยืนมองรถไอ้ธารที่วิ่งไกลออกไปเรื่อยๆ
“เมีย!!!....ใครเมีย....เมียใครวะ....” อ้าวเฮ้ย! ฉิบหาย ลืมไปว่าพวกมันไม่รู้และไม่ควรรู้เรื่องไอ้ธารกับลีวายส์ ผมก็เลยเผลอพูดออกไป โดยไม่รู้ตัว งี่เง่าชะมัด!
“เปล่าๆ...ว่าแต่ อ่ะนี่ เอาเงินนี่ไปแล้วกัน ไอ้ธารมันคง...ไม่รู้จะตอบแทนพวกนายยังไงอ่ะ เดี๋ยวครูจะนั่งแท็กซี่กลับเอง”
“เอ่อ...จริงๆไม่ต้องก็ได้นะครู...แต่ไหนๆก็ให้มาแล้ว ผมไม่ปฏิเสธก็แล้วกัน” ไอ้ปอบอกอีก ในขณะที่ผมปลายตาไปมองไอ้ตัวดีอีกคน ที่ยืนเงียบไม่พูดไปจา แถมหน้าผมมันก็ยังไม่มองเลย เหอะๆ
“เอางี้ดีกว่า ผมว่า เราเอาเงินนี่ไปซื้อของกินมาทำไรกินกันดีกว่า อีกอย่าง ฉลองสอบเสร็จด้วยเป็นไง” ไอ้ไอซ์ออกความเห็น
“ก็ดีนะ งั้นครูอยู่กินด้วยกันก่อนนะ.....วันนี้ไม่มีใครอยู่บ้านหรอก พ่อกับแม่พาน้องผมไปบ้านยายสองสามวันแล้วไม่รู้ว่าจะกลับเมื่อไหร่ งั้นเดี๋ยวผมกับไอ้ไอซ์ไปซื้อของนะ ครูกับไอ้แพ็คก็อยู่เฝ้าบ้านไปก่อน...ไปล่ะ!”พูดจบ ไอ้ปอมันก็ดึงเงินไปจากมือผมและรีบกอดคอไอ้ไอซ์ ออกไป อ้าว...มันว่ากูเป็นหมาป่าววะ เฝ้าบ้าน! แม่ง
“จะไปไหน” ผมถามอีกคนที่เหลืออยู่ เมื่อเห็นว่ามันก็ทำท่าจะเดินออกไปจากบ้าน
“กลับบ้าน”
“อ้าว....เดี๋ยวดิ........แพ็ค” ผมเดินตามมันไป แต่แพ็คกลับเร่งฝีเท้าเดินเร็วขึ้น “เดี๋ยว...นายเป็นอะไรน่ะ...ทำต้องหลบหน้ากันด้วย”
“ผมเปล่า...” ร่างบางบอกแต่ก็ยังไม่ยอมหันกลับมามองผมอยู่ดี จนผมต้องก้าวเท้ายาวๆไปดึงแขนมันไว้ ให้มันหยุดเดิน
“แล้วทำไมต้องเดินหนีแบบนี้ด้วย ถ้าฉันทำให้นายรู้สึกไม่ดีกับสิ่งที่ฉันพูด โอเค ฉันขอโทษ แต่อย่าหลบหน้าได้ป่ะ มันเหมือนนายกลัว”
“ผมไม่ได้กลัว ก็บอกไปแล้ว ว่าไม่ได้หลบไง ปล่อยได้ยัง” แพ็คสะบัดแขนออกจากมือผมและเดินกลับเข้าบ้านไป มันเป็นแบบมาหลายวันแล้วล่ะ
“เหี้ย.....นี้บ้านแน่หรอ ทำไมมันรกอย่างนี้วะ” ผมพูด เมื่อเห็นสภาพภายในบ้านของไอ้ปอ เหอะๆ บ้านมันดูกว้างดีนะ แต่นี่....กองขยะชัดๆอ่ะ ทั้งถุงขนม กล่องนม ป๋องโค้กและ....ก้นบุหรี่
“นี่พวกสูบบุหรี่ด้วยหรอ”
“ผมเปล่า” แพ็คบอกทันที ก่อนจะนั่งลงบนโซฟา
“แน่นะ...เอ๊ะ! กินเหล้าด้วย ขวดเหล้านี่คงไม่ใช่ของพ่อไอ้ปอหรอกนะ” ผมชูขวดเหล้านอกสีขาว ขึ้นมาให้แพ็คดู
“อะไรนักหนาวะ....เออๆ กิน จบป่ะ” มันตอบแบบขอไปที ในขณะที่สายตาจับจ้องไปยังการ์ตูนที่เปิดทิ้งไว้ตั้งแต่ผมเดินเข้ามา
“ใช่สิ ฉันไม่ใช่แม่นายนี่ คงห้ามไม่ได้ แต่ว่านะ....คุณชายครับ กรุณาเก็บกวาดก่อนได้มิครับ คือ.....มันเหมือนนั่งอยู่บนกองขยะนะนั่น”
“ยุ่งจริง!!!” โอ๊ะ! ผมยุ่งตรงไหนวะ แค่ให้เก็บกวาดนิดเดียวเอง อีกเดี๋ยวมันก้องนั่งอีกอ่ะ ดูท่าเคมีเราสองคนจะเข้ายากจริงๆสินะ
“โอ้ยยยย.....เหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ย” ผมพูดกับตัวเองก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา อ้าว! แพ็คหายไปล่ะ ผมมองหามันสักพาและก็เจอนั่งอยู่ตรงโต๊ะคอม ในห้องนั่งเล่น ที่แท้ก็แอบมาเล่นเกมนี่เอง และเป็นเกมที่ผมชอบด้วยสิ
ผมเลยเข้าไปยืนมองมันเล่นอยู่ด้านหลังเงียบๆ แอบขำนิดๆเพราะมันเล่นยังไงก็เห็นจะชนะสักที ผมจึงคิดว่าน่าจะสอนสูตรให้มันหน่อย
“เน้....เค้าเล่นแบบนี้เหอะ!” ผมขยับเข้าไปชิดติดหลังร่างบางและโน้มตัวลงดูหน้าจอคอมก่อนจะทาบมือลงบนเมาส์โดยทับมือมันไว้ แบบไม่ได้ตั้งใจ
“ยุ่งนาเล่นเอ..........” ในจังหวะนั่นเอง แพ็คเอี้ยวตัวกลับมามองผม ทำให้ใบหน้าของเราอยู่ใกล้กันเพียงแค่ไม่กี่เซ็น
เราต่างสบสายตากัน ร่างบางมองผมตาไม่กระพริบ จมูกโด่งๆของมันเฉียดปลายจมูกผมเพียงนิดเดียว ริมฝีปากสีสดที่ผมเคยจูบในตอนนั่นทำให้ผมรู้สึกหัวใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างน่าประหลาดอีกครั้งจนรู้สึกว่า ใบหน้าของตัวเองเริ่มขยับเข้าไปใกล้กับอีกคนมากขึ้นมากขึ้นจน.....
“มาแว้ววววววววววโย่วๆ” เราผลักออกจากกันอย่างตกใจเมื่อได้ยินเสียเหี้ยๆ ของไอ้เด็กเวรสองตัวส่งสัยมาแต่ไกล แม่ง ขัดอ่ะ!?
“อ้าว....ทำไรกันอ่ะ คิดว่ากลับบ้านไปแล้ว” ขอบคุณครับที่พวกมึงกลับมาเร็วมากไปหน่อย =_=
“เปล่า....แล้วนี่ซื้ออะไรมาบ้าง ไปเป็นชาติล่ะ” ผมบอก ปลายตามองแพ็คที่หันกลับไปสนใจเกมในคอมต่อ
“เยอะเลยครู ไปช่วยทำหน่อยดิ แฮะๆ”
“นี่ฉันเก็บกวาดบ้านให้ไม่พอหรอวะ.....เอ่อๆๆ ทำก็ทำ”
ผมจำเป็นต้องช่วยพวกมันทำกับข้าวจนเสร็จ ตอนฟ้ามืดพอดี จากนั้นพวกมันก็ออกมาย้ายโซฟาก่อนจะเอาพรมมาปูแทนและเอากับข้าวทุกอย่างมาวางลง และมานั่งตั้งวงกันกิน
“นี่ซื้อเบียร์มาด้วยหรอ” ผมถาม เมื่อไอ้ปอเอาเบียร์มาแช่ในถังน้ำแข็งเล็กๆ
“นิดเดียวนาครู ไม่เมาหรอก....ไอ้แพ็คมึงน่ะ ไม่ต้องกิน คราวที่แล้วแค่สองแก้วก็คอพับเกือบกลับบ้านไม่ถูก ไม่ใช่หรอวะ”
“แค่เบียร์เนี่ยนะ” ผมถาม
“ใช่ครู...มันน่ะ กินเหล้าได้แต่ก็ไม่เท่าไหร่...ส่วนเบียร์กินไม่ได้แค่แก้วเดี๋ยวนะ จอด!” เหอะๆ มีงี้ด้วย
“พูดมากนามึง เอาตะเกียบมาดิ” แพ็คผลักหัวไอ้ปอก่อนจะ แย่งตะเกียบในมือไปคีบลูกชิ้นในหม้อเข้าปาก เราทำสุกี้กินกันครับ มียำทะเลฝีมือไอ้ไอซ์แล้วก็ไก่ทอดกรอบของไอ้ปอด้วย
นั่งกินไปเรื่อยๆและว่าพวกมันก็เริ่มเอาเหล้ามากินต่อจากเบียร์ จนถึงสองทุ่ม โอเค เบียร์ไม่เท่าไหร่แต่พอดื่มเหล้าตามผมเองก็ชักจะมึน แฮะ
“คืนนี้เตงนอนเป็นเพื่อนเค้าอีกนะ.....เค้าเหงา” =_= ภาษาเหี้ยไรของมัน ไอ้ปอชักจะเมามากแล้วนะผมว่า
“ได้ๆ เดี๋ยวเค้านอนเป็นเพื่อน แต่เตงห้ามลวนลามเค้าเหมือนเมื่อคืนนะ” ให้ตายเหอะ เฮ้ออออ
ผมเลิกสนใจพวกมันและหันไปมองอีกคนแทน แพ็คนั่งก้มหน้าเงียบไปพูดจาเอาแต่กินและดื่มเท่านั้น ผมจึงคิดว่ามันน่าจะกลับบ้านไปพร้อมผมได้แล้ว
“แพ็ค!!!.......กลับบ้านกัน เดี๋ยวฉันไปส่ง”
“ไม่!!!! อย่าเข้ามาใกล้ผม....ออกไป!!!” มันปัดมือผมออก เมื่อผมจะดึงแขนมันให้ลุกขึ้น ดูท่าจะเมาจริงๆนั่นแหละ จะปล่อยไว้ที่นี่ก็คงไม่ได้ ยิ่งให้กลับเองคงไม่ได้ใหญ่
“มาเถอะ...อย่าดื้อนักเลยนา!” ผมดึงร่างบางขึ้นมาจนได้และพยายามประคองตัวไว้โดยใช้แขนมันพาดบนคอผม
“ไม่...ไม่กลับ....ไม่ไปไหนอ่ะ”
“ตั้งสติหน่อย เมาจริงป่ะเนี่ย.....เฮ้ย! พวกนายก็ไปนอนได้แล้วไป” ผมบอกไอ้ปอและไอ้ไอซ์ก่อนจะประคองแพ็คอออกมาจากบ้าน
เพราะที่นี่มันเข้าซอยเล็กๆมา ผมจึงจำเป็นต้องไปเรียกเท็กซี่หน้าปากซอย แต่ว่า....แพ็คเหมือนจะยืนไม่อยู่เท่าไหร่ ผมเลยให้มันขี่หลังแทน
“เมื่อไหร่จะเลิกยุ่งกับผมซะที” เสียงมันดังอยู่ข้างๆหูผม ในระหว่างที่เดินมาตามทางฟุตบาท
“ทำไม....นายอยากให้มีคนสนใจนายไม่ใช่หรอ ถ้าฉันจะเป็นคนหนึ่งที่สนใจนาย ไม่ดีหรือไง”
“โกหก เกลียดที่สุด....อึก!....คนที่ชอบเล่นกับความรู้สึก...ของคนอื่น” คนเมามักจะพูดความรู้สึกของตัวเองออกมาโดยไม่รู้ตัว มันจริงหรือเปล่า เพราะถ้าจริง ผมคงทำให้แพ็ครู้สึกอะไรบ้างอย่างกับผมอยู่
“ฉันไม่ใช่คนโกหกนะ....ถ้าฉันจะรักนาย”
...
[แพ็คเกจ:Part]
“ตื่นแล้วหรอคะ คุณแพ็คเกจ” เสียงทักทายจากในครัวดังขึ้นเมื่อผมเดินเข้ามา ในตอนเช้า ก็อยากจะตื่นสายๆอยู่หรอก แต่ผมถูกฝึกให้ตื่นเช้าตลอด เลยตื่นเวลานี้เป็นประจำ
“พี่แพ็ทล่ะ ป้าแก้ว”
“ยังไม่ลงมาเลยค่ะ ป้าว่าคุณแพ็คเกจไปรอที่โต๊ะอาหารนะคะ เดี๋ยวป้าก็ตั้งโต๊ะแล้วล่ะ” ผมพยักหน้ารับ และเดินออกมา รู้สึกงัวเงียมากแต่ก็นอนต่อไม่หลับ
“ตื่นแล้วหรือ ไม่นอนต่อล่ะแพ็ค...” พี่แพ็ทลงมาพอดี “เมื่อคืน เมาไม่รู้เรื่องเลยนะเรา ไปหัดดื่มเหล้าที่ไหนมาน่ะ น่าตีจริงๆเลย”
“เมา?.........พี่รู้ได้ไง” ผมก็เพิ่งจะนึกได้ ว่าเมื่อคืนนั่งดื่มกันที่บ้านไอ้ปอ แล้วก็........ “ผมกลับมาได้ไงอ่ะ”
“อ้าว....ก็ครูเซฟมาส่งไง นี่จำไม่ได้เลยหรอ ไม่ไหวเลยนะเรา” อีกแล้วหรอวะ! หวังว่าคารวนี้ผมคงไม่ทำอะไรบ้าๆกับไอ้ครูเซฟไว้อีกหรอกนะ
“เฮ้อออ.......พี่จะทำงานเลยหรอ”
“เปล่า วันนี่พี่มีนัดน่ะ.......มีนัดตัดชุด....ชุดแต่งงาน” ผมวางช้อนในมือลง มองพี่สาวตัวเองอย่างไม่เข้าใจ
“พี่ว่าอะไรนะ...แต่งงาน....แต่งกับใคร.....พี่ไม่เคยคบกับใครไม่ใช่หรอ คิดดีแล้วหรอ ทำไมผมไม่รู้ล่ะ ไอ้หมอนั่นมันเป็นคนยังไง ทำงานอะไร อยู่ที่ไหน”
“แพ็ค! เพราะอย่างนี้ไง พี่ถึงไม่บอก ฟังพี่นะ....”
“ไม่!!!! งานแต่งบ้าบออะไร จะไม่มีวันเกิดขึ้น!!!” ผมลุกขึ้นจากโต๊ะ วิ่งมาขึ้นรถและขับออกไปอย่างรวดเร็ว นี่มันเรื่องบ้าชัดๆ ผมกำลังจะเสียพี่สาวไป พี่แพ็ท กำลังจะแต่งงานกับใครก็ไม่รู้ ต่อไปผมคงต้องอยู่คนเดียวจริงๆ ผมไม่ยอมแน่ๆ
“มาไมแต่เช้าวะ” ไอ้ไอซ์ออกมาเปิดประตูให้ผม ท่าทางงัวเงียบอกให้รู้ว่า มันคงเพิ่งตื่นเหมือนกัน
ผมเข้าไปในบ้านมัน ไอ้ปอนอนอยู่บนโซฟา โดยมีกางเกงตัวเพียงเดียวเปลือยท่อนบน ของทุกอย่างจากเมื่อวานถูกเก็บกวาดไปเรียบร้อยแล้ว ผมจึงนอนลงบนพื้นพรมด้านล่าง
“เมื่อคืนครูไปส่งมึงหรอ กูจำไม่ได้ ตื่นมา แม่ง หายล่ะ”
“เออ.....กูนอนแปบ”
“เดี๋ยวตอนบายกูปลุกนะ ไปดูหนังกัน เค๊” ผมครางรับ อืม ในลำคอและดึงหมอนที่ไอ้ปอหนุนอยู่มานอน ตอนนี้อยากให้สมองโล่งก่อนค่อยคิด ว่าจะทำยังไง กับ เรื่องบ้าๆที่ผมเพิ่งจะรับรู้มา
“อ่า...คนเยอะอ่ะ เตงเลี้ยงเค้าใช่ป่ะ” ภาษาเหี้ยนี่มาอีกแล้ว
“พวกมึงอย่าเริ่ม กูอายคน เดี๋ยวกูเลี้ยงเอง” ไอ้ปอกับไอ้ไอซ์หัวเราะคิคิ ก่อนจะเดินนำไปหน้าโรงหนัง
“ดูเรื่องไรดีวะ ทรานส์ฟอร์เมอร์สๆ นะๆ เอาตังมาเลยๆ ไอ้แพ็ค” ผมส่งบัตรไปให้ไอ้ปอเพราะไม่ได้เอากระเป๋าตังมีด้วย โชคดีที่มีบัตรติดอยู่ในรถ
“อ้าว ครู....ครูเซฟ!” เสียงไอ้ไอซ์ ทำให้ผมหันไปมอง ปรากฏว่า ไอ้ครูเซฟยืนจับมืออยู่กับผู้ชายคนหนึ่งที่ผมจำได้ ว่าชื่อกาย เค้า....จับมือกันและเดินมาทางนี้ ผมอยากจะทำเป็นไม่สนใจแต่ก็อดไม่ได้ที่จะมอง
“ไง มาดูหนังกันหรอ รีบเที่ยวกันล่ะสิ ปิดเทอมทั้งทีนี่เนอะ”
“ครูล่ะ พาแฟนมาเที่ยวหรอ คึคึ” ไอ้ปอถาม และคำถามของมันทำให้ผมอยากจะก้าวเท้าเดินออกไปจากตรงนั้น
“ไม่ใช่ นี่เพื่อนครูเอง เนี่ยลูกเจ้าของโรงเรียนของพวกนายนะ รู้ยัง” ว่าไงนะ...ผมก็เพิ่งจะรู้นะเนี่ย
“สวัสดีคับ เหอะๆ ผมไม่รู้จักมาก่อนเลยอ่ะ ขอโทษนะคับ”
“เฮ๊ะ!!! นั่นใช่เด็กที่มึงพามาที่ร้านนี่ ใช่มั้ยวะ” เสียงพี่....เอิ่บ พี่กายพูด ชิท์ ผมต้องเรียกเค้าว่าพี่ใช่ป่ะ
“ใช่ แพ็ค....ทำอะไร ยืนหลบหน้าอยู่ได้”
“เปล่าหลบซะหน่อย!!!....เอ่อ...สวัสดีคับ....ไปซื้อตั๋วได้ล่ะจะดูหนังไม่ใช่หรอ มัวแต่ยืนคุยอยู่ได้” เกือบเผลอขึ้นเสียงใส่ไอ้ครูเซฟไปแล้วมั้ยล่ะ
“พวกเราก็จะดูหนังเหมือนกัน งั้นดูด้วยกันเลยสิ ไอ้เซฟ....มึงเลี้ยงนะ เลี้ยงเด็กๆด้วย” พี่กายบอก ทำไมถึงยิ้มได้น่ารักแบบนี้นะ ชิท์
“ดีๆ ครูเซฟเลี้ยง เย้ๆ เอาบัตรมึงคืนได้เลย คึคึ” ไอ้เพื่อนเลว ไอ้ครูเซฟมันยกยิ้มให้ผมแต่ผมไม่ยิ้มตอบคับ ทำเป็นเบือนหน้าหนีเหมือนทุกครั้ง
เมื่อซื้อตั๋วหนังเสร็จเรียบร้อย ไอ้ปอกับไอ้ไอซ์มันชวนผมไปซื้อขนมกับเครื่องดื่ม โดยให้ผมเลี้ยงอีกนั่นแหละ แต่ละคน ไม่ลงทุนอะไรเลย ตังน่ะมีแต่ แม่ง ไว้ซื้อเกมโน้น
“ถบไปดิ๊” ผมบอกไอ้ไอซ์เพราะมันนั่งลงก่อนผมและเว้นที่ว่างไว้ให้ผมนั่งติดกับไอ้ครูเซฟเรียบร้อย
“มึงก็นั่งตรงนั้นดิ มึงสนิทกับครูสุด เร็วๆ คนอื่นเค้าจะเข้ามั่ง” เออเนอะ มันเอาอะไรมาวัดวะ ว่าผมสนิทกับไอ้ครูเซฟสุด เหี้ย
ผมเลยต้องนั่งลงข้างๆไอ้ครูเซฟโดยฝั่งโน้นก็เป็นพี่กาย ไม่นานไฟในโรงหนังถูกปิดลง มีเพียงแสงจากภาพจอใหญ่ที่ส่องผ่านให้เห็นรางๆ
“ฉันกับกายแค่มาดูหนังน่ะ” คนข้างๆผม กระซิบบอก
“แล้วมาบอกผมทำไม......ไม่เห็นเกี่ยวกับผมเลย” ผมหันมองคนข้างๆและเห็นรางๆว่า ร่างสูงเองก็หันมามองผมเช่นกัน
“ก็กลัวนายจะเข้าใจผิดน่ะ ฉันกับกายเราเป็นแค่เพื่อนกันนะ”
“ก็บอกว่า ไม่เกี่ยวกับผมไง เลิกพูดสักที จะดูหนัง!!!” ผมบอก และกลับไปสนใจหนังในจอใหญ่ ถึงแม้ปากจะพูดว่าไม่เกี่ยวกับผมแต่ลึกๆแล้วผมกลับรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกกับสิ่งที่อีกคนบอกมา
“เดี๋ยวกูกับไอ้โอซ์จะไปเดินซื้อของแถวๆนี้ก่อน มึงจะไปป่ะ” หลังจากดูหนังจบ พวกผมแยกกับครูเซฟออกมา เห็นว่าจะไปส่ง พี่กายด้วย เหอะๆ บอกว่าเพื่อนๆ แต่ติดกันหนึบแบบนี้คงใช่หรอก
“ไม่ไป กูไม่ชอบคนเยอะ แยกกันตรงนี้ล่ะ”
“เออๆ ขับรถดีๆนะมึง” ผมโบกมือลาพวกมันก่อนจะขึ้นรถและขับออกมาเรื่อยๆ บ้านก็ไม่อยากกลับ จะไปไหนดีล่ะเนี่ย
............................................................................................
“ขอบใจนะที่มาส่ง วันนี้หนุกดีว่ะ ไว้วันหลังไปกันอีกนะ” กายบอกยิ้มๆ หลังจากที่ผมมาส่งมันหน้าคอนโดพี่หมอ
“เออๆ แต่คงไม่บ่อยล่ะ”
“ทำไม มึงจะไปตามจีบใครวะ....เห็นน้าาาา...แม่ง มองตลอด มึงอยู่กับธารได้เลย กินเด็ก อ่าๆๆๆๆๆ”
“เออๆ กูน่ะกินเด็ก แต่มึงน่ะ เป็นเด็กให้เค้ากิน ก๊ากๆๆๆๆ ไปล่ะนะคนสวยจู๊ดๆ”
“ไอ้เหี้ยยย” พูดมากนักเอาคืนซะบ้าง เหอะๆ ผมไปดูหนังกับไอ้กายมาครับ และที่สำคัญดันไปปะกับพวกแพ็คด้วยสิ เราเลยดูหนังด้วยกันโดยที่ผมอยู่ๆเฉยๆกลับต้องโดนเลี้ยงหนังพวกมันซะงั้น
ป่านนี้ ไม่รู้แพ็คจะกลับบ้านหรือยังนะ แต่วันนี้ดูมันแปลๆไป เหมือนมีเรื่องอะไรให้คิด ผมหันมองมันเป็นระยะตอนอยู่ในโรงหนัง แพ็คขมวดคิ้วตลอด และเหมือนมันจะไม่ได้ดูหนังเลยด้วยซ้ำ
เอ๊ะ!!! เหมือนผมจะเห็นรถแพ๊คนะ ตอนขับผ่านสวนสาธารณะเมื่อกี้ ผมจึงวนรถกลับไปดูและก็เจอรถของมันจอดอยู่จริงๆ ผมเลยลงจอดรถและเดินเข้าไปด้านใน ที่นี่ร่มรื่นดีมีต้นไม้เยอะเหมาะมากสำหรับมานั่งพักผ่อนหรือพาแฟนมา หวังว่าแพ็คคงจะไม่พาใครมาหรอกนะ
เหอะๆ ผมเจอแล้วครับ ร่างบางนอนอยู่ใต้ต้นไม้ต้นใหญ่ โดยมีผ้าบางๆใช้ปูนอน ผมจึงเดินเข้าไปหาเงียบๆ ไม่ให้มันรู้ตัว ก่อนจะนั่งลงข้างๆ มองหน้าเรียวใสที่กำลังหลับตาพริ้ม เด็กอะไรวะ ดื้อฉิบ เนี่ย มันน่า......บีบจมูกโด่งๆนี่ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
“อื่ม.........” อยู่มันก็พลิกตัวจากนอนหงายมาเป็นนอนตะแคง ทำให้เสื้อของมันเลิกขึ้นจนเห็นหน้าท้อง ผมจึงถอดเสื้อนอกมาห่มให้และนอนลงข้างๆมันโดยที่เราหันหน้าเข้าหากันและผมก็หลับตามมันไป
“โอ้ย......มึนหัวชะมัดเลย” ผมค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ ปรับรับสายตาให้เข้ากับแสงแดงที่กำลังสาดส่องมา รู้สึกเมื่อยตัวนิดๆเลยยกแขนขึ้นบิดตัวไปมา.... “อ้าว......เอ่อ....ตื่นนานยัง”
“นานล่ะ...!!!!” แพ็ค นั่งหน้าบูดมองผมอยู่ใกล้ๆ มันถอนหายใจแบบเซ็งๆและเบือนหน้าหนีอีกตามเลย
“แล้วทำไมไม่ปลุกล่ะ หึ......งั้นนอนต่ออีกนิดนะ” ผมนอนลงอีกครั้งแต่ครั้งนี้ มีตักของแพ็คไว้หนุนหัวครับ หึหึ
“เฮ้ย! ทำไร ลุกนะ.....ลุก!....อายคนมั่งเหอะ”
“อายทำไม ฉันยังไม่อายเลย ไม่เห็นแปลก...ว่าแต่นายน่ะ มีเรื่องไม่สบายใจล่ะสิ ถึงไม่ยอมกลับบ้าน”
“เปล่าซะหน่อย อย่าทำมาเป็นรู้เรื่องคนอื่นเค้าดีนักเลย”
“เพราะมันเป็นเรื่องของนาย ตัวนาย...แพ็ค! ฉันถึงรู้และดูออก นายยังไม่เข้าใจอีกหรอ ว่าฉันเป็นหวงนายนะ มีอะไรก็เล่าให้ฟังบ้างก็ได้ อย่าแบกรับไว้คนเดี๋ยวมากนักสิ” นิ่งครับ มันเงียบไปครู่หนึ่ง
“พี่แพ็ทจะแต่งงาน” นั่นไง ผมว่าแล้ว ที่แท้ก็คิดมากเรื่องนี้นี่เอง
“นายก็ควรจะยินดีกับพี่สาวนายสิ ดีออก พี่สาวนายจะได้มีความสุข”
“ความสุขบ้าบออะไร ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไอ้หมอนั่นมันเป็นใคร ทำอะไร นิสัยจะดีหรือเปล่าก็ไม่รู้.......มันจะมาแย่งพี่แพ็ทไป แย่งทุกอย่างไปแน่ๆ”
“ทำไมคิดอย่างงั้นล่ะ นายไม่อยากให้พี่สาวนายมีความสุขหรอก ประเด็นของนายก็คือ นายไม่อยากให้มีคนมาแย่งความรักของนายไปจากพี่สาวนายใช่มั้ย”
“ไม่ใช่อย่างงั้นนะ”
“แพ็ค! การที่พี่นายจะมีความสุขมันไม่ทำให้นายมีความสุขหรอกหรอ ความรักระหว่างพี่น้อง กับ ความรักระหว่างคนรัก มันไม่ได้เหมือนกันหรือจะมาแทนกันได้หรอกนะ”
“มันก็รักเหมือนกันนี่”
“ไม่เหมือน....ฉันเคยคิดเหมือนกับนาย พอพี่หมอเข้ามาในชีวิตไอ้กาย มันทำให้เคยคิดแบบนั้น เพราะไอ้พี่หมอ แม่ง ทั้งหล่อ รวย เท่ ดูดีไปหมด และรู้อะไรมั้ย ความรักที่ไอ้กายมีให้ฉัน มันก็ยังเหมือนเดิม ทั้งที่ฉันพยายามจะออกห่างมันแต่สุดท้าย คำว่าเพื่อน ความรักแบบเพื่อน มันก็ยังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ถึงแม้มันจะรู้ว่าฉันคิดยังไงกับมัน ฉันถึงได้ตัดใจจากมันได้ไง”
“ตัดใจได้แต่ก็ยังรักนี่”
“ใช่..ยังรัก รักแบบเพื่อน เพราะว่า...ต่อไปฉันจะรักนายอย่างที่ฉันบอกไง” ผมยิ้มให้ร่างบางที่กำลังอึ้งกับคำว่ารักของผม ก่อนที่ผมจะลุกขึ้นมานั่งตรงๆ
“มันไม่ใช่หรอก รักบ้าบออะไรกัน ใครๆก็พูดได้ทั้งนั้นแหละ” แพ็คลุกขึ้นยืนและทำท่าจะเดินหนี แต่ผมคว้ามือมันไว้ได้
“ใช่ แต่ฉันจะไม่พูดกับใครแน่ๆ ถ้าฉันยังไม่แน่ใจ กับไอ้กาย ฉันยังไม่เคยพูดเลย ฉันไม่รู้ว่าชอบนายได้ยังไง ไม่รู้ด้วยว่าเมื่อไหร่”
“มันจะเกิดขึ้นไม่ได้หรอก ไม่สบายหรือเปล่า”
“คงจะไม่สบายจริงๆ ดูนี่สิ...” ผมดึงมือแพ๊ค มาทาบลงบนหน้าอกด้านซ้ายของผม “รู้สึกหรือเปล่า หัวใจของฉัน มันเต้นแรงผิดปกติ.....ก็เพราะนาย”
<<<<<<<<<TBC>>>>>>>>
มั่วสุดๆล่ะตอนเนี่ย พี่เพลียค่ะ T^T
ถ้าภาษาไม่สวย และมีคำผิด ขออภัยด้วยนะคะ
ปล.รู้ยังเรื่องนี้มี 50 ตอนนะ
ไปหล่ะเจอกันตอนหน้าน้า