_ _ _ _
18.01 ในที่สุดการทัวร์ไหว้พระในอยุธยาก็จบลงด้วยจำนวน 14 วัด 1 พิพิธภัณฑ์ และ 1 ตลาดน้ำ
เหนื่อยจนแทบจะไหลลงไปกองกับพื้นรถอยู่แล้ว นี่ยังไม่นับหลังคอที่กำลังแสบร้อนเพราะโดนแดดเผาอีกนะครับ
ไอ้พีทนะไอ้พีท ทำไมมึงต้องอยากเดินรอบอุทธยานประวัติศาสตร์วะ ไหนจะปีนเข้ากรุวัดมหาธาตุอีก ยังดีที่วัดแต่ละที่อยู่ใกล้กันหน่อยเลยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมาก ได้แต่หวังว่าผลบุญนี้จะทำให้ชีวิตของผมราบรื่น ไม่มีเจ้ากรรมนายเวรมากวนอกกวนใจให้ลำบากอีกนะครับ สาธุ
“แหม ไม่ค่อยเซอร์วิส #น้ำวิน เลยนะมึง” อาร์ตที่กำลังนั่งดูเฟสบุคอยู่ข้างผมพูดขึ้น ขากลับนี้มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งกันเล็กน้อย เพราะไอ้พีทมัวแต่เดินตากแดดซะไข้ขึ้น น้ำเลยอาสารับหน้าที่เป็นคนขับกลับกรุงเทพฯ แทน
“หา อะไรอ่ะ” ผมงง
ไหน รูปอะไร ขอชะโงกหน้าไปดูหน่อยซิ
“รูปที่ไอ้น้ำอัพเฟสไง แหม่ มากันสองคนมั้งมึงนี่” อาร์ตยื่นโทรศัพท์ให้ผมดูเร็วๆ “แม่ง… รูปรวมมีไม่ลง”
อ้อ นี่มันรูปคู่ของผมกับไอ้น้ำ ที่พีทถ่ายที่วัดนี่ครับ
ถ้าไม่นับว่าไอ้น้ำมันหล่อเกินหน้าผมไปหน่อย รูปนี้ก็ถ่ายออกมาดีเหมือนกันนะ ถึงจะเป็นรูปเผลอๆ ก็ตาม
“ก็รูปอื่นเดี๋ยวค่อยอัพ” ไอ้น้ำพูดตอบแบบขอไปที
“ทำไม มึงอยากเช็คเรตติ้งตัวเองในรูปไอ้น้ำรึไงอาร์ต” ไอ้พีทเงยหน้าขึ้นมาแหย่บ้าง “ยังไงก็แพ้ป่ะ”
“ก็เดี๋ยวน้องๆ แฟนคลับไม่เห็นกูแล้วจะโวยวาย” มันว่า “หายหน้าหล่อๆ ไปนาน”
“มึงมีแฟนคลับด้วยเหรอวะ” ผมถามขึ้นงงๆ
“ชิชะ นี่มึงบังอาจสงสัยในความป๊อบของกูเหรอ มึงเข้าไปอ่านคอมเมนต์สิ จะมีแต่คนถามหากู” ไอ้อาร์ตพูดอย่างมั่นใจ
“พวกเจ้าหนี้มึงรึเปล่า” ไอ้น้ำพูดแล้วหัวเราะตบท้าย ทำเอาผมขำไปด้วย
“ไอ้เชี่ยน้ำนี่” ไอ้อาร์ตยื่นหน้าไปเกาะหลังเบาะคนขับ ”แฟนคลับโว้ยย แฟนคลับ” มันย้ำ
“ฮ่าๆ อย่าไปหาเรื่องมันน่า มันเป็นคนขับรถ” ไอ้พีทพูดตัดบท คนโวยวายเลยได้แต่กระฟัดกระเฟียดมาดึงเอามือถือคืนไปจากมือผม “พอเลยตี๋ มึงขำเกินเบอร์ไปเยอะละ”
“ฮ่ะๆ ไอ้น้ำพูดถูกนี่” ผมว่า
“สนับสนุนกันเข้าไป!!” อาร์ตโวยวายแล้วแกะถุงโรตีสายไหม “กูจะแดกขนมอย่างเกรี้ยวกราดให้รถมึงเละเลย”
“อ้าว ไหงมาลงกับลูกกู” ไอ้พีทเหวอ “ถ้าจะแดกก็ม้วนมาให้กูด้วย ถ้าทำหล่นกูจะเก็บค่าดูดฝุ่นมึง”
ปล่อยแม่งเถียงกันไปต่อละกันนะครับ ไหนเชคเรตติ้งตัวเองหน่อย ผมกดโทรศัพท์ตัวเองบ้าง
Phakin added a photo of you
And 109 others recently liked a photo that you are tagged in
54 comments on a photo that you are tagged in อื้อหือ อะไรจะคอมเมนต์ถล่มทลายขนาดนั้น ความป๊อบของไอ้น้ำนี่น่าหมั่นไส้จริงๆ
พาคนดวงซวยมาแก้ชง คือแคปชั่นที่น้ำใส่ลงไปในรูปเผลอๆ ที่พีทกดชัตเตอร์ตอนผมกำลังตั้งใจนับธูปในมือสำหรับสี่คน โดยมีน้ำเก๊กหล่อยืนยิ้มไปมองไปพร้อมดอกไม้ในมืออยู่ใกล้ๆ อื้อหือ ท่าทางนี่จัดมาเหมือนรู้ว่าจะมีคนแอบถ่ายรูป ทำไมไม่เตือนกูบ้าง หน้าตางี้โทรมเชียว นี่มันคนใช้ชัดๆ
ที่ไอ้อาร์ตว่าถึงความเซอร์วิสทีมน้ำวินก็ไม่ได้เกินเลยแต่อย่างใด ก็แม่งลงรูปซะเหมือนมาด้วยกันสองคนนี่หว่า เรียกคอมเมนต์แซวกันไปกันมาได้เยอะเชียว ผมกดไลค์รูปนั้นแล้วเปิดไลน์ขึ้นอ่านบ้าง
นายหวาน : /ส่งรูปเรนเดอร์
นายหวาน : เป็นไงครับ โอเคขึ้นมั้ย นี่ผมเพิ่งใช้ plug in คำนวนแสงใหม่ ที่พี่วินแนะนำมา
นายหวาน : เจ้าตัวนี้ก็ช่วยนะ นั่งจ้องจอใหญ่เลย
นายหวาน : /ส่งรูปจิ๋วนั่งมองคอมพิวเตอร์
นายหวาน : เที่ยวเพลินแน่ ไม่อ่านไลน์ผมเลยเนี่ย
นายหวาน : เมื่อไหร่จะกลับน่ะครับ
นายหวาน : คิดถึงแล้ว
นายหวาน : พี่วินอยากกินอะไรครับ เดี๋ยวผมสั่งไว้ก่อนดีมั้ยกำลังจะเลื่อนลงไปพิมพ์ตอบ
แต่ก็ต้องขมวดคิ้วกับประโยคถัดไป ที่ฝ่ายตรงข้ามเพิ่งส่งมายังไม่ถึงห้านาที
นายหวาน : ผมว่าผมกลับก่อนดีกว่า
นายหวาน : ไม่รบกวนแล้วครับ ผมฝากคีย์การ์ดไว้ที่ล็อบบี้นะ หือ?
กลับเหรอ?
Wynn_Tect : อ้าวพิมพ์ประโยคที่สองยังไม่ทันเสร็จ ไอ้น้ำที่กำลังขับรถก็ถามขึ้นมา “พวกมึงจะแวะกินข้าวเย็นมั้ยวะ”
กินข้าวเหรอ ไม่ได้สิ… ก็นัดกับเจ้าเด็กปีหนึ่งไว้แล้วนี่
“อ่า… ไม่ดีกว่า กูมีธุระ” ผมรีบตอบ แล้วก้มหน้าลงไปหาโทรศัพท์ต่อ
“เออ กูก็เหนื่อยๆ อยากกลับบ้านไปนอน” อาร์ตพูดบ้าง
“เออ งั้นวนไปส่งไอ้อาร์ตก่อน แล้วส่งไอ้ตี๋ แล้วกูค่อยไปเอารถบ้านมึงนะพีท”
“ก็ตามนั้น” พีทตอบ
Wynn_Tect : อีกไม่ถึงชั่วโมงก็น่าจะถึงแล้วนะ
Wynn_Tect : ไหนว่าจะกินข้าวไง
Wynn_Tect : เป็นอะไร?
นายหวาน : ไม่เป็นไรครับ ผมออกมาแล้ว
นายหวาน : พี่วินอยู่กับเพื่อนเถอะทำไมอ่านแล้วรู้สึกตะหงิดๆ ยังไงก็ไม่รู้แฮะ…
“มึงส่งกูรถไฟฟ้าแล้วกัน กูมีงานต้องรีบทำด่วน” ผมพูดพลางเก็บมือถือลงในกระเป๋า
ก็… ถือว่าเป็นงาน… ล่ะมั้ง...
_ _ _ _
19.32เปิดประตูเข้ามาก็เจอแมวจิ๋วร้องเหมียววิ่งมารับกับห้องที่ปิดไฟซะมืดสนิท นี่ไอ้เด็กนั่นกลับไปเฉยๆ อย่างนี้เลยเหรอครับ
ทั้งๆ ที่ออกจะดูกระตือรือร้นวอแวอยากกินข้าวเย็นด้วยขนาดนั้นเนี่ยนะ
สังหรณ์ใจแปลกๆ ไลน์ไปก็ถามคำตอบคำไม่หือไม่อือ
นี่มันอาการคนไม่อยากเจอหน้ากันชัดๆ!
ว่าแต่มันจะหลบหน้าผมทำไมวะ ผมนั่งพิงโซฟาอย่างใช้ความคิด จนแมวจิ๋วกระโดดขึ้นมายืนบนตัก เอาหน้าถูไถกับแขนผมจนพอใจแล้วร้องเหมียวขึ้นเบาๆ
“นี่” ผมอุ้มจิ๋วขึ้นมาจ้องหน้า “ไอ้เด็กนั่นเป็นอะไร”
“ไลน์ไปก็ไม่ตอบ บอกว่าง่วง มองจากดาวอังคารก็รู้ว่าแม่งไม่อยากคุยกับกูเนี่ย ห้ะ” ผมพูดอย่างหงุดหงิด ไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลยจริงๆ สิให้ตาย มันรู้สึกคันยุบยิบยังไงก็ไม่รู้ ไอ้เด็กห่านี่ มึงจะมีอิทธิพลกับความรู้สึกกูมากไปละนะ
“เนี่ย เนี่ย เรื่องบ้าเรื่องบอละพูดจัง คิดถึงนะครับ ฝันดีนะครับ รักนะครับ หยอดอยู่นั่นแหละ แล้วทีตอนนี้เป็นอะไรทำไมไม่พูด ไม่พอใจอะไรก็บอกดิ่วะ จะให้กูเดาทำไมม” ผมเขย่าตัวจิ๋วเบาๆ ตาแป๋วๆ นั่นก็ยังมองหน้าผมอย่างงงๆ นี่แม้แต่แมวก็คงคิดว่าผมเพี้ยนไปแล้วแหงเลย “กูผิดอะไรเนี่ยยยยจิ๋วววววววววว”
เจ้าตัวขนปุยในมือร้องม๊าวประท้วงเพราะโดนจับไว้นาน ผมเลยต้องหิ้วตัวไปวางลงที่พื้น พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นการแจ้งเตือนของเฟสบุคบนหน้าจอมือถือที่วางอยู่บนโต๊ะ
192 comments on a photo that you are tagged in หรือว่า …
ทำไมจู่ๆ ก็คิดได้วะ… ว่าสาเหตุที่ไอ้เด็กหวานจู่ๆ ก็ผลุนผลันกลับไปคืออะไร
_ _ _ _
17.45
วันจันทร์ ผมนั่งเคาะแป้นพิมพ์คีย์ตัวเลขอย่างใส่อารมณ์เป็นพิเศษ
ไม่ใช่ว่าพื้นที่ขายออกมาไม่ได้ดั่งใจ ไม่ใช่ว่าข้อมูลยังไม่ครบ
แต่เป็นเพราะใครบางคนยังทำตัวกวนโมโหผ่านตัวหนังสือเหมือนเมื่อวานต่างหาก
Wynn_Tect : นี่
Wynn_Tect : วันนี้ไปไหน
นายหวาน : มีคุยงานที่คณะน่ะครับ
Wynn_Tect : ตอนเย็น?
นายหวาน : ช่วงนี้ยุ่งๆ พี่วินมีธุระอะไรหรือเปล่าครับ ธุระ…
ธุระ… เหรอ?
ไอ้ห่าาาาาา ไอ้เด็กบ้าาา โว้ยยย หงุดหงิด
หวานนี่มันวอนตายหลายรอบแล้วนะครับ ไอ้ห่วยเอ้ย
ต้องมีธุระอะไรรึไงถึงจะไลน์หาได้ คิดว่ามึงเป็นใครกัน
ผมกัดปาก ก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไปอย่างไม่สบอารมณ์
Wynn_Tect : ไม่มีได้…
ให้โอกาสมาเกิน 12 ชั่วโมงแล้วนะ
มึงจะเอาใช่มั้ยหวาน…
_ _ _ _
18.50ผมสาวเท้าเร็วๆ ไปตามระเบียงที่คุ้นเคย
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็นช่วงปิดเทอม แต่สตูดิโอที่นี่ไม่เคยหลับใหลกันหรอกนะครับ ดูได้จากที่ห้องนี้ยังเปิดไฟอยู่นั่นแหละ
ผมผลักประตูสตูดิโอพร้อมสอดส่ายสายตามองหาเป้าหมายไปด้วย ไหนน้องนิวบอกว่าเป็นห้องนี้นี่…
นั่นไง… กำลังนั่งทำอะไรอยู่คนเดียวอยู่มุมห้องโน่น
“กูบอกว่าเดี๋ยวไป ไอ้โบ๊ท” คนยืนพิงโต๊ะจ้องโทรศัพท์ตัวเองอยู่พูดเสียงเขียวเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้ ก่อนจะเงยหน้าตวัดสายตาขึ้นมามองอย่างไม่พอใจ “กูยิ่งกลุ้-- เฮ้ย!!” มันอุทานแล้วจ้องหน้าผมตาโต
“พี่วิน!?”
“ข้าวเย็น” ผมวางถุงพลาสติกลงบนโต๊ะข้างตัว “ผ่านมาแถวนี้เลยเอามาให้”
“ฮะ…?”
ไม่ต้องทำหน้าไม่เชื่อ… กูคิดข้ออ้างได้เท่านี้จริงๆ
“แล้วคนอื่นไปไหนหมด?” ผมถามบ้าง
“พักทานข้าวครับ เอ่อ... เดี๋ยวกลับมาประชุมกันอีกทีตอนทุ่มครึ่ง”
“อ๋อ…”
ผมหันหน้าไปสนใจกองโมเดลที่วางอยู่บนโต๊ะ ก่อนส่งงานก็ฟูมฟักอย่างกับลูก พอส่งไฟนอลเสร็จก็ทิ้งๆ ขว้างๆ กันป็นขยะ
ดูสิ อุตส่าห์ตัดกันมาขนาดนี้เชียว… อืมมม... อืมมม… เออ คิดไม่ออกแล้ว
เอาจริงๆ ไม่ได้อยากจะมายืนวิเคราะห์โมเดลอยู่อย่างนี้สักหน่อยนี่
ไอ้เด็กนี่ก็เงียบนานเกินไปแล้ว…
มีงควรจะอ้าปากคุยกับกูได้แล้วนะ
ผมถอนหายใจหนึ่งทีแล้วเงยหน้าขึ้นมามอง ปรากฏว่าอีกฝ่ายก็กำลังทำหน้าตาลำบากใจอยู่ไม่แพ้กัน
“เอ่อ…” หวานพูดเสียงเบาแล้วยกมือขึ้นเกาแก้มตัวเอง “คือ… ผมไม่นึกว่าพี่วินจะมาถึงนี่”
“มาไม่ได้?”
“เปล่า! ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะครับ ผมก็อยากเจอพี่ตลอดแหละ” คนเด็กกว่ารีบพูดอุบอิบ “แต่ไม่รู้พี่จะอยากเจอผมบ้างรึเปล่า หรือมัวแต่…” ร่างสูงสะดุดกับประโยคของตัวเอง ก่อนจะหลบตาไปมองทางอื่น เม้มปากแน่นไม่ยอมพูดต่อ
“เป็นอะไร” ผมยืนกอดอก
“นี่คืองอน?” อีกฝ่ายหันควับขึ้นมามอง แต่ก็ยังไม่ตอบ ได้แต่ทำเสียงประหลาดในลำคอ ทำเอาผมต้องย้ำ “เอาดีๆ หวาน...”
“อ่า… ก็…”
“ถ้าไม่พูด… กูพูดเองนะ” ผมถอนหายใจ
“ถ้าเป็นเพราะรูปนั้นล่ะก็…”
คนเด็กกว่าเบิกตาขึ้นนิดๆ ผมเดาถูกสินะ…
“พวกน้ำกับกูเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว คนอื่นเขาก็แซวเล่นกันไปแบบนั้นแหละ มึงไม่ต้องคิดมาก” ผมมองหน้าอีกฝ่าย “กูไม่ได้คิดอะไรกับมันจริงๆ”
หวานกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะยกมือขึ้นปิดหน้าแล้วขยี้หัวตัวเองแล้วร้องโวยวาย “โอ๊ยยย”
“อะไรเนี่ย.. พี่วินเท่กว่าทุกทีเลย รู้สึกตัวเองเป็นเด็กตลอดเวลาเลย”
“เออ… เด็กชิบหายเลย” ผมพ่นลมหายใจพรืด
“นี่ผมพยายามคีปลุคแล้วนะ”
คีปมากเลยนะมึง… ไม่ได้ออกอาการมาสักนิดเลยจริงจริ๊ง…
“รู้ตัวแหละครับว่าแบบนี้มันงี่เง่า แต่มันอดไม่ได้นี่… กองเชียร์ก็เยอะ แถมรูปก็ออกจะหวานกันซะขนาดนั้น” เจ้าตัวพูดเสียงอ่อย
“รูปกูนับธูปเนี่ยนะ” ผมย้อนถาม “โรแมนติกมากเลยเนอะ”
“แค่เห็นสายตาพี่น้ำก็หงุดหงิดแล้วครับ” อีกฝ่ายหน้างอ
“บ้าเรอะ”
“ก็คนมันหึง… อ่ะ…” มันพูดออกมาหน้าตาเฉย
“มึงนี่มัน…”
“แต่ก็ไม่รู้ว่าอยู่ในสถานะที่หึงได้รึเปล่า…” อีกฝ่ายมองหน้าผมแล้วพูดเสียงเบา ก่อนจะถามออกมาดื้อๆ
“ผมหึงพี่ได้มั้ย”
“หา?”
“ก็อยากรู้... ว่าหึงได้รึยัง…”
“เอ่อ…” ผมหลบตาไปมองที่อื่น
อีกฝ่ายกำลังทวงถามถึง ‘บางอย่าง’ ที่มีความหมายซ่อนอยู่ในคำนั้นแหงล่ะสิ
แล้วเรื่องอะไรให้ผมเป็นคนพูดก่อนล่ะ!!!
คนเด็กกว่ายังไม่ยอม ก้มหน้าตามมาจ้องด้วยแววตาพราวระยับ ยิ่งเห็นรอยยิ้มแบบนั้นก็ยิ่งรู้สึกเสียเปรียบยังไงก็ไม่รู้ "ว่าไงครับ..."
หายใจสะดุดไปแว้บหนึ่งก่อนจะตั้งสติแล้วพูดเสียงเบา "ก็หึงไปแล้วไม่ใช่รึไงเล่า... แล้ว...เรื่องแบบนี้ใครเขาถามกันวะ... คิดเอาเองดิ่"
เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาในระยะประชิดยิ้มกว้างกับคำตอบที่ได้ยิน สายตาเป็นประกายที่มองมานี่ทำให้หน้าร้อนขึ้นมาจนได้ จะดีใจก็เก็บอาการหน่อยได้มั้ยเล่า! ไอ้เด็กนี่!!
“ยังไงก็… อย่าเยอะ…” ผมพูดอุบอิบ
“ถอยไปเลย... จะกลับแล้ว" ถึงกับต้องยกมือขึ้นมาดันเอาตัวโตๆ ของคนขี้แกล้งให้ห่างออกไปอีกนิด
“อ้าว… ไม่ได้ตั้งใจมาง้อเหรอครับ”
ได้ยินประโยคนั้นเข้าก็รู้สึกอายแปลกๆ จนต้องพยายามตีหน้านิ่งแล้วตอบกลับไป “เดี๋ยว... ใครง้อ เพ้อเหรอ บอกแล้วว่านี่ผ่านมาเฉยๆ”
หวานมองของในมือผมตาปริบๆ “ขับรถผ่านมาเนอะ”
ชิบหายละ… ลืมเก็บกุญแจ
“ยิ้มอะไร!” ผมรีบยัดของในมือลงกระเป๋ากางเกงลวกๆ
“เปล่าครับ”
ผมย่นจมูก เห็นๆ อยู่ว่ายิ้ม ยังจะ… โว้ย! เดี๋ยวจะโดน
“ไม่ต้องมองด้วย!” ผมโวยใส่ “มีงานก็ทำไป จะกลับแล้ว” ผมตั้งท่าจะออกเดิน
“เดี๋ยวสิครับพี่วิน!” ร่างสูงรีบพูดแล้วเอื้อมมาดึงข้อมือผมไว้ “เดี๋ยวมีคุยงานต่อจนดึกเลยไปด้วยไม่ได้… แต่ผมขอเดินไปส่งที่รถนะ” คนพูดยิ้มไปด้วย “นะครับ”
รู้ได้ไงวะว่าแพ้ทางสายตามันทุกครั้ง ผมก้มหน้างุด “ก็… ตามใจสิ…”
ได้ยินแบบนั้นอีกฝ่ายก็ยิ้มแก้มแทบปริ คนเด็กกว่าเป็นฝ่ายจับจูงเดินนำออกไปที่ระเบียงอย่างอารมณ์ดี
ระหว่างที่กำลังเดินไป ฝ่ามือที่เคยอยู่บริเวณข้อมือถูกเลื่อนลงมาอย่างจงใจ ปลายนิ้วสัมผัสกันจนรู้สึกถึงความอบอุ่นจากอีกฝ่าย จนเหมือนหัวใจจะเต้นผิดจังหวะไปครู่หนึ่ง
ผมเผลอก้มลงไปมองมือที่จับกันอยู่ ก่อนจะหันหน้าไปมองคนข้างตัว
“คือ…” หวานทำหน้าเหมือนโดนจับได้ แก้มกลายเป็นสีเข้มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด “อ่า…”
“เงียบไปเลย” ผมเอ่ยเสียงดุจนอีกฝ่ายหน้าเจื่อน “จะเดินไปส่งที่รถก็ไป…”
พูดจบก็ต้องเดินก้มหน้ากัดริมฝีปากข่มความอายเอาไว้ พลางออกแรงดึงแล้วกระชับมือที่กุมอยู่ให้แน่นขึ้นอีกนิด ไม่ต้องเดาว่าตอนนี้หน้าตัวเองคงกลายเป็นสีแดงไปถึงใบหูแล้วแน่ๆ
“แม่ง… จับไปแล้วยังจะมีหน้ามาขอ…” ผมทำหน้ายุ่งแล้วบ่นอุบอิบ
ส่วนเด็กข้างตัวก็ทำหน้าเหมือนสอบใบกส.ผ่านได้ไปวิ่งเล่นในทุ่งลาเวนเดอร์ ยิ้มมีความสุขแบบเก็บอาการไว้ไม่อยู่
“นี่…” ผมเรียกคนข้างตัว
“ถ้าว่าง… พรุ่งนี้ไปกินข้าวเย็นกัน”
“ก็สัญญาเอาไว้แล้วนี่…”_ _ _ _
TBC
แฮ่ ขอบคุณที่คิดถึงกันนะค้าาา ช่วงนี้มรสุมชีวิตการทำงานมากๆ เลิกตีสี่ก็มา เลยหายไปยาวเลย ขอบคุณที่คลิกเข้ามาอ่านกันนะคะ ขอบคุณทุกคอมเมนต์ด้วยยย อ่านทุกคอมเมนต์จริงๆ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ
ปล. ตี๋ลู๊กก ความซึนของลู๊กได้แต่ใดมา แล้วคุยหงุงหงิงกับจิ๋วคืออะไร อยากจับมาตีสักสองที ส่วนโดเนทค่าตัวเจ้าหวานนี่ท่วมท้นมากเลยนะคะ
มาพูดคุยกันได้ที #วิเคราะห์การรัก เหมือนเดิมนะคะ ส่วนบ้านคนเขียน ณ ทวิตภพคือ @huentrop เข้ามาทักทายกันได้ค่า
พบกันตอนหน้าค่ะ
รักส์
ปลล. 30.04.2018 แอบมารีไรท์นิดหน่อยเพราะความขัดใจค่ะ 555
ตอนต่อไปรอหน่อยนะคะ ดีใจทุกครั้งที่มีคนคิดถึงกัน จุ๊บุ