- LOVE ANALYST - [วิเคราะห์การรัก] ความเสี่ยงที่ 32 P.14 ✽update 2.11.2018✽
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: - LOVE ANALYST - [วิเคราะห์การรัก] ความเสี่ยงที่ 32 P.14 ✽update 2.11.2018✽  (อ่าน 127965 ครั้ง)

ออฟไลน์ kstation

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
พอจะหวานก็หวานมว๊ากกกก น้ำตาลชิดซ้าย //หมั่นไส้

ปล.เอาคุณตะวันมาก่อดราม่าสักทีมั๊ย

ออฟไลน์ Meercorn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เราจะขอบคุณเพื่อนอาร์ต เพราะเรายังพร้อมจะเสียความบริสุทธิ์ของตี๋วินไปป :serius2: อดทนไปก่อนนะเจ้าหวาน แอบสงสารน้ำ แต่ก็นะ คำว่าเพื่อนมันก็ค้ำคอ คารวะเพื่อนพีทเลยเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ

ออฟไลน์ Moonnyssi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ Justccwpo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คิดถึงจังเลย

ออฟไลน์ puwadontoeytoey

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เรารออย่างใจจดใจจ่อออออ  :katai1:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 847
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
มาปูเสื่อรอออ

ออฟไลน์ puwadontoeytoey

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
ค้างตามหวานไปด้วยคน ฮ่า ๆๆๆ

ออฟไลน์ puwadontoeytoey

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ idee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
ความเสี่ยงที่ 30

9.23

ประตูห้องปิดลงพร้อมๆ กับเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ของตัวผมเอง

พีทกับอาร์ตกลับไปแล้ว

ผมเดินมาทิ้งตัวลงบนโซฟา รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก อย่างน้อยเพื่อนผมก็ไม่ได้รู้สึกรังเกียจหรือต่อต้านอะไรที่จู่ๆ ก็มีแฟนเป็นเจ้าหวาน พวกมันถามแค่ว่า ไปคบกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่ใช่ มึงเป็นเกย์ตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือมานั่งเค้นคอถามเรื่องรสนิยมทางเพศของผม ที่อาร์ตมันโวยวายก็เพราะน้อยใจหาว่าผมไม่เชื่อใจ มีอะไรไม่บอกมัน ทั้งๆ ที่ไอ้พีทเหมือนจะรู้เรื่องมาโดยตลอด

เอ้า… กูก็ไม่ได้เล่าอะไร มันแค่ช่างสังเกตกว่านะอาร์ตมึง!!!
ช่างสังเกตมากซะจน...
จนไปถึงรอยมือบนต้นขาผมเลยเชียวแหละ

ไม่รู้ว่าแม่งหวังดีหรืออะไรเมื่อคืนเลยแอบมากระซิบว่า รู้ว่าขัดจังหวะ แต่มึงไม่ต้องเอาหลักฐานมาให้กูดูก็ได้ ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ตาก็จ้องเอาจ้องเอาบนรอยที่อีกคนทำทิ้งเอาไว้ เล่นเอาผมที่เพิ่งโผล่ออกมาจากห้องนอนหน้าร้อนฉ่าวิ่งกลับไปเปลี่ยนกางเกงขายาวแทบไม่ทัน

กว่าที่ความวุ่นวายจะจบลงก็ปาเข้าไปตีสี่กว่าเข้าไปแล้ว ตอนแยกย้ายเข้าไปนอนก็เหลือแต่ความง่วงแบบตาจะปิด แบบไม่ต้องคิดจะสานต่อ… เอ่อ.. เรื่อง… อะไรต่อมิอะไร…

อา…

ผมหน้าแดงก่ำ ซบหน้าลงกับมือตัวเอง แค่คิดก็อายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน
ทำไมเมาแล้วปล่อยเนื้อปล่อยตัวขนาดนี้นะ ถ้าเมื่อคืนไอ้อาร์ตไม่เมาโวยวายขึ้นมา…
ป่านนี้…

โอ๊ยยยยยย 

“เป็นอะไรครับ?” ผมหันขวับไปตามต้นเสียง “เป็นอะไร ไม่สบายเหรอครับ ทำไมหน้าแดงจัง” หวานถามพลางลูบหัวแมวจิ๋วที่อยู่ในอ้อมแขนไปด้วย

เป็นบ้า!
 
“ม… ไม่เป็นไร!” ผมตอบเสียงดัง พยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ
คนตัวสูงขมวดคิ้ว ปล่อยแมวลงกับพื้นแล้วเดินดุ่มๆ มานั่งลงข้างผมที่โซฟา

“ไหน ดูซิว่าโกหกรึเปล่า” ว่าแล้วก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ยิ้มพรายจนผมต้องยกมือขึ้นมาขวางเอาไว้

“ไปห่างๆ เลย ไม่ต้องเข้าใกล้”

“เขินก็พูดมาสิครับ” หวานหัวเราะแล้วพูดล้อๆ “เมื่อคืนออกจ--”

“เงียบ!!!” ผมพูดเสียงดัง หน้าร้อนไปถึงหู “เงียบไปเลยนะ!”

ทำตามคำบอกได้ไม่นาน อีกคนก็คว้าหมับเข้าที่มือแล้วยิ้มมุมปากก่อนจะพูดออกมาอย่างนึกสนุก
“วินครับ”

!!
อะไรนะ

“วินครับ” คนข้างตัวพูดย้ำอยู่ใกล้ๆ

ใช้เวลาอีกหลายวินาทีกว่าผมจะได้สติ
“เดี๋ยวก่อน!” ผมทำตาโต ขยับตัวถอยหลังโดยอัตโนมัติ พยายามดึงมือออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย แต่ดูเหมือนคนเด็กกว่าจะไม่ยอมง่ายๆ “เดี๋ยว หยุดพูดเลยนะ”

“ก็แฟนชอบให้เรียกแบบนี้ ผมก็ต้องเรียกแบบนี้สิครับ”

เรื่องอะไรมาเรียกกันตอนนี้ล่ะ!!! แล้วทำไมต้องทำตาวิบวับแบบนั้นด้วย!!!
ผมยกมืออีกข้างจะฟาดต้นแขนคนตรงหน้าแรงๆ แต่อีกคนกลับฉวยโอกาสดึงตัวเข้าไปเสียชิด

“เฮ้ย!!” ผมร้องเสียงดัง ตั้งท่าจะดิ้นออก แต่หวานก็โอบให้หลังผมพิงเข้ากับแผ่นอกไม่ยอมให้ลุกออก แถมยังเอาคางวางเกยไหล่แล้วโยกตัวเบาๆ เหมือนจะหลอกล่อให้ใจเย็นลง
ผมถอนหายใจพรืด… ทำเหมือนผมเป็นเด็กไปได้… บ้าบอ...

“จะได้รู้สึกเป็นแฟนกันจริงๆ ไม่ใช่รุ่นพี่รุ่นน้องแบบที่เป็นมาไงครับ” คนตัวดีแอบกระชับวงแขนที่พาดรั้งอยู่บริเวณช่วงเอวให้แน่นขึ้นอีกนิด “เนอะคุณ”

“...”

“นี่… บอกผมหน่อยสิว่านี่แค่เขิน” 
 
เขิน… เหรอ...
ผมเม้มปากแน่น
ไม่รู้! ไม่รู้โว้ย!
แต่ที่รู้คือตอนนี้รู้สึกหน้าร้อนหัวร้อน ไม่อยากอยู่ตรงนี้อ้ะ!!

แววตาเจ้าเล่ห์ที่จดจ้องอยู่พราวระยับ “ว่าไงครับ หูแดงหมดแล้วนะ” 

ผมเบี่ยงตัวหลบเมื่อรู้สึกถึงลมหายใจร้อนๆ กับสัมผัสของริมฝีปากที่หลังคอตัวเอง
รีบพูดเสียงดุทั้งๆ ที่รู้สึกเหมือนจะเป็นลม “โอ๊ย! จะเรียกอะไรก็เรียกไปเลย!”

“โอ๋ๆ เข้าใจแล้วครับว่าเขินจริงๆ ไม่แกล้งแล้วก็ได้” หวานพูดขำๆ แล้วกลับมาวางคางไว้บนไหล่ เกลี่ยนิ้วบนหลังมือผมเล่นอยู่พักหนึ่ง

แต่นี่มันนานเกินไปแล้วมั้ยเล่า...
“นี่ ปล่อยได้แล้วคุณ ผมจะไปเติมอาหารให้จิ๋ว”
อีกคนแค่ทำเสียงหึในคอแทนการปฏิเสธ แล้วยังแอบแนบหน้าลงบนไหล่ผมอีกต่างหาก
“ปล่อยยย” ผมพูดลากเสียง “ไหนว่าไม่แกล้งแล้วไง”

ผมออกแรงดิ้นนิดๆ อีกฝ่ายหัวเราะเสียงดังก่อนจะยอมปล่อยมืออก “นี่เห็นแก่คนขี้เขินนะครับ”

“อะไร!” ผมลุกพรวดแล้วหันขวับไปมองหน้าร่างสูง ขมวดคิ้วใส่ก่อนจะเดินปึงปังออกไป
ก็ที่ตัวเองนั่งหน้าแดงอยู่น่ะ ไม่ใช่เพราะเป็นคนขี้เขินเหมือนกันรึไงเล่า!

บ้าบอ!!

_ _ _ _

10.45

หลังจากจัดการอาหารเช้าง่ายๆ อย่างพวกขนมปังกับนมลงท้องไปเรียบร้อย ผมที่กำลังอยู่ในครัวก็ต้องยอมใจอ่อนก้มลงคว้าตัวจิ๋วขึ้นมาอุ้มไว้หลังจากล้างจานเสร็จ ก็เจ้านี่น่ะ มาเดินพันแข้งพันขา ร้องเรียกแล้วก็บ่นหงุงหงิง ตั้งท่าจะเข้ามาอ้อนอยู่สักพักแล้วน่ะสิครับ

“ว่าไง” ผมพูดกับแมวหูเดียว มันร้องเหมียวขึ้นก่อนจะยืดตัวเอาจมูกขึ้นมาชนข้างแก้มผมอย่างเอาใจ ผมเลยเหลือบตาไปที่ถาดอาหารที่ว่างเปล่าแล้วก็ต้องยิ้มขำ “อิ่มแล้วก็อ้อนเชียวนะ แสบเอ๊ย”

“ทำไมทีกับเจ้านั่นใจดีจังละครับ” คนที่กำลังนั่งอยู่ด้านนอกมองมาแล้วทำหน้าหงิก “ทีกับผมนะ ฟาดเอาฟาดเอา”

“เอ้า นี่แมว” ผมร้อง กอดแมวไว้ในอ้อมแขน “หึงรึไง”

“ใช่สิครับ” หวานยอมรับหน้าตาเฉย ทำเอาผมขำพรืด “ไม่ตลกนะ ผมหวงจริงๆ” อีกฝ่ายย้ำ

“เหรออออ” ผมยิ้มแล้วลากเสียงยาว จงใจจ้องใบหน้าอีกคนแบบตาไม่กระพริบพร้อมๆ กับที่แกล้งกดริมฝีปากลงไปหอมหัวกลมๆ ของจิ๋วแบบอ้อยอิ่งเพื่อดูปฏิกิริยา
เห็นคนเด็กกว่าตีหน้ายุ่ง คิ้วชนกันแบบนั้นแล้วตลกชะมัด

“นี่มันไม่ได้ยั่วให้หึงแล้วครับ… นี่มันยั่วอย่างอื่นแล้ว”

ห๊ะ...
“จะบ้าเรอะ!” ผมร้องเสียงหลง ไหงเป็นอย่างนั้นล่ะเฮ้ย

“อย่าไปทำแบบนี้ให้ใครเขาเห็นเลยนะครับ ขอเตือนเลย”

ผมเบ้หน้าแล้วบ่นอุบอิบ ก่อนจะปล่อยแมวลงกับพื้น “บ้าแล้ว...”

“บ้าอยู่กับคนเดียวนี่แหละครับ” หวานพูดเปรยๆ แล้าถามต่อ “แล้วที่เมื่อวานบอกว่าจะกลับบ้านนี่… เปลี่ยนใจแล้วเหรอครับ”

“ฝันกลางวันเหรอ” ผมกัดเข้าให้ “ว่าจะออกสักเที่ยงๆ”

“ก็ถามดู เผื่อว่าจะเปลี่ยนใจอยากอยู่กับแฟน” ร่างสูงยกมือขึ้นเกาแก้ม “อ๊ะ งั้นต้องรีบอาบน้ำแล้วสิครับ เดี๋ยวไม่ทันนนะ” หวานชะเง้อคอมองนาฬิกาแล้วลุกขึ้น “เดี๋ยวผมอาบข้างนอกเอง”   

“อือ….”
“เดี๋ยว อะไรนะ” ผมที่กำลังจะเดินไปทางห้องนอนหันควับมาอุทาน “นี่คือจะไปด้วยเหรอ?”
อีกคนพยักหน้ารับแทบจะทันที “ห้ะ จะไปทำไม” ผมถามเสียงสูง   

“ไปไหว้พ่อกับแม่ไงครับ” หวานยิ้มตาหยี “จะไปขอลู-- โอ๊ย! เจ็บครับ” ฟังคำพูดยังไม่ทันจบ ผมก็เดินเข้าไปเหยียบเท้าอีกฝ่ายเสียเต็มแรง ข้อหาพูดจาเพ้อเจ้อ

“พอเลย ไม่ต้องไป” ผมห้าม “เพื่อนก็เรื่องนึง… นี่พ่อแม่นะ ต้องเปิดตัวพร้อมกันให้หมดทั้งโลกเลยรึไง”

“ยังไม่เปิดตัวก็ได้นะครับ” หวานบอก “แต่อยากไปเจอก่อนว่าดุรึเปล่า จะได้คิดถูกว่าจะพาหนีไปเลยดีมั้ย” 

ผมตีไหล่คนตัวสูงกว่าแรงๆ “นี่! มัวพูดเล่นอยู่ได้” 

“ผมไม่ได้พูดเล่นนะครับ นี่จริงจังสุดๆ” หวานรั้งเอวผมให้เข้าไปยืนใกล้ๆ ร่างสูงก้มหน้าลงมองตาพลางพูดต่อ “ก็อยากไปเจอหน้าพ่อแม่คุณไว้ก่อนเท่านั้นเอง”

ผมเม้มริมฝีปากเข้าหากันพลางคิดหาคำพูดไปด้วย

“กังวลอะไรครับ” หวานยกมือขึ้นมาประคองหน้าให้ผมกลับไปสบตากันดีๆ แล้วส่งยิ้มให้
“ตอนนี้มีแฟนแล้ว กลุ้มใจอยู่คนเดียวไม่ได้แล้วนะ”

ผมย่นจมูกใส่ “นี่สะกดจิตกันอีกแล้วรึไง”

“แล้วได้ผลมั้ยล่ะครับ”

ผมสบตาคู่นั้นแล้วถอนหายใจ
“ก็… ไม่รู้ว่าถ้าที่บ้านรู้เรื่องนี้จะว่ายังไงบ้าง ผมเป็นลูกชายคนเดียวนะ… คงโกรธ.. รับไม่ได้ แล้วก็… คงผิดหวังมากๆ”

“ก็… ยังไม่ต้องบอกเรื่องของเราก็ได้ครับ” หวานยิ้มให้ “วันนี้ขอไปดูลาดเลาที่บ้านคุณพ่อตาแม่ยายก่อนเนอะ”

“หวาน!!!” ผมตีเข้าให้ที่ต้นแขนคนตรงหน้า

“โอ๊ย! ตีอีกทีจะจูบแล้วนะครับ” พูดแล้วก็ยื่นหน้าเข้ามาจริงๆ ทำเอาต้องยกมือขึ้นมาผลักออกไปห่างๆ

“ให้มันน้อยๆ หน่อย”

“เอ้า เรื่องจริงนี่ครับ”

ผมทุบไหล่คนตรงหน้าแถมไปอีกที “คนยิ่งเครียดๆ อยู่”

“โอ๋ๆ” หวานเลื่อนมือลงมาคล้องเอวผมเอาไว้หลวมๆ “ยังไงสักวันเขาก็ต้องรู้ความจริงอยู่ดี นี่คงไม่คิดจะปิดเป็นความลับตลอดไปใช่มั้ยครับเนี่ย”

“ใครจะทำแบบนั้นกันเล่า”
“แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จู่ๆ จะเดินไปประกาศได้เลยใช่ไหมล่ะ” ผมก้มหน้าพูด “เขาจะว่ายังไงที่มาคบกับคนอายุห่างกันขนาดนี้ แถมยังเป็นผู้ชายอีก นี่ยังไม่นับเรื่องของที่บ้านคุณอีกนะ”

“เรื่องที่บ้านผมน่ะ คุณไม่ต้องเป็นห่วงเลยนะครับ” หวานยิ้ม 

“แต่ว่า…”

“นี่ใครครับ หวานใจของบ้านนะ”

พูดอย่างมั่นหน้าจนต้องหรี่ตามองอย่างไม่ไว้ใจ  “พูดง่ายเนอะ”

อีกฝ่ายยิ้มทะเล้น “จีบคุณยากจะตายผมยังทำได้เลย ไม่เชื่อฝีมือผมเหรอ”
“ยังไงก็จะหาทางเข้าไปเนียนเป็นลูกเขยบ้านคุณจนได้แหละ”

ผมส่ายหัวแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ไม่ได้กังวลกับคนนี้” ผมเอานิ้วจิ้มแขนอีกฝ่าย “แต่กังวลกับคนที่บ้านต่างหากล่ะ” 

“วันนี้ก็ไปดูเชิงครอบครัวคุณก่อน แล้วค่อยกลับมาคิดวิธีบอกให้เขารู้กัน นี่ ที่จริงอาจจะไม่มีเรื่องต้องกังวลเลยก็ได้นะ ลูกเขยหล่อขนาดนี้ เผลอๆ แค่เห็นหน้าก็ให้ผ่านแล้วครับ”

“หลงตัวเองมากไปละ” ผมเบ้หน้า “วันนี้จะไปก็อย่าออกตัวแรง ดูสถานการณ์ก่อน…” ผมช้อนตามองอีกฝ่าย “เรื่องแบบนี้มันต้องใช้เวลา… เข้าใจมั้ย”

“ผมมีเวลาให้คุณทั้งชีวิตเลยแหละ” คนสูงกว่าตอบยิ้มๆ แล้วกระชับอ้อมแขนให้ระยะระหว่างเราลดลงไปอีก “จะจับไว้แบบนี้… ไม่ยอมปล่อยไปไหนแน่ๆ”

“เพ้อเจ้อ” ว่าไปอย่างนั้นแล้วก็ก้มหน้างุด
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร จู่ๆ ความกลุ้มใจที่มีอยู่ก็หายไปเสียเฉยๆ หัวใจที่กำลังเต้นตึกตักมันก็เหมือนจะพองฟูขึ้นมาเมื่อรู้ว่าตัวเองไม่ต้องผ่านเรื่องนี้ไปคนเดียว

“แต่ว่า… ก่อนอื่น” ร่างสูงยิ้มกว้าง ส่งสายตาเป็นประกายกลับมาให้
“ขอจูบเป็นกำลังใจหน่อยสิครับ”

_ _ _ _
(มีต่อ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-08-2018 20:58:28 โดย idee »

ออฟไลน์ idee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
14.32

ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ เรียกกำลังใจเมื่อเสียงกึงกังของประตูรั้วอัตโนมัติหน้าบ้านหยุดลง ฝ่ามือชื้นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ก็นี่มัน… ไม่ใช่พาเพื่อนเข้าบ้านอย่างทุกทีนี่นา
คิดไม่ออกเลยแฮะ ว่าถ้าเตี่ยกับแม่รู้ขึ้นมา… ผลมันจะออกมาเป็นยังไง ถึงสองคนนั้นจะไม่มีอคติกับคนรักเพศเดียวกัน แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าถ้าลูกชายคนเดียวคบผู้ชายขึ้นมาจะรับได้นี่

บ้านอาจจะแตกก็ได้นะครับ ใครจะรู้
กดปุ่มดับเครื่องยนต์แล้วก็อดเหลือบสายตาไปมองคนข้างตัวไม่ได้

“กังวลเหรอครับ” อีกฝ่ายถามขึ้น ผมเลยพยักหน้าแทนคำตอบไป
“ต่อหน้าพ่อแม่คุณ ผมยอมเป็นรุ่นน้องไปก่อน เดี๋ยวค่อยขยับสถานะทีเดียวเนอะ” หวานยิ้มทะเล้นแล้วปลดเข็มขัดนิรภัยออกด้วยท่าทีสบายๆ ผมเผลอถอนหายใจอีกเฮือกใหญ่จนคนข้างตัวสังเกตเห็น เจ้าตัวเลยเอาศอกสะกิดยิกๆ “นี่ คุณน่ะลูกบ้านนี้นะ ผมต่างหากล่ะที่ต้องกังวล” 

ก็ถูกแหละครับ... เตี่ยกับม้าคงไม่ใจร้ายไล่ตะเพิดหวานออกมาในฐานะ ‘รุ่นน้อง’ หรอกครับ แต่ถ้ารู้ว่ามาในฐานะอื่นล่ะก็ไม่แน่…

“เอาล่ะ..” ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ กลบความประหม่าในใจ “ลงจากรถกันเถอะ”


.


“ไงตาวิน กว่าจะมาได้นะ” เสียงแจ๋วๆ ของม้าดังขึ้นทันทีที่พวกผมสองคนก้าวเท้าลงจากรถ “นึกว่าลืมทางกลับบ้านไปแล้ว”

“ม้าอ่ะ… ก็กลับมาแล้วนี่ไง” ผมอุบอิบ

“ฮึ นี่ถ้าไม่โทรไปเรียกวันเว้นวัน อีกเดือนนึงก็ไม่ได้เห็นหน้า” แม่ผมยืนกอดอกตีหน้ามุ่ย ก่อนจะมองเลยไปยังคนที่ยืนยิ้มอยู่อีกฟากของรถ “แล้วนี่…”

ผมพยักหน้าให้อีกคนแนะนำตัว
“สวัสดีครับคุณแม่” ร่างสูงยิ้มกว้างแล้วยกมือสวัสดี “ผมเป็นรุ่นน้องที่คณะพี่วินครับ ชื่อหวาน” 

“อู๊ย... หล่อแล้วยังชื่อน่ารักอีกนะหนุ่ม” ม้าวี้ดว้าย “กินข้าวกันมารึยังลูก”

“ยังเลยครับ” อีกคนตอบพลางยิ้มตาหยี “ต้องขอรบกวนฝากท้องกับคุณแม่แล้วล่ะครับ”

ผมอึ้งนิดๆ
รับเป็นแม่เป็นลูกกันแล้วเรอะ… นี่เพิ่งคุยกันประโยคเดียวเองไม่ใช่รึไง
นี่ม้าผมชอบคนหล่อๆ จริงด้วยสินะ...

“ถ้ากินแล้วบอกว่าไม่อร่อยจะไม่ให้กลับเลยนะ” อาม้าพูดดักคอ แต่มองจากรอยยิ้มของคนข้างๆ ก็ดูเหมือนคำพูดที่ว่าจะเข้าทางมากกว่า นี่เจ้าหวานคงไม่คิดจะบอกว่าฝีมือม้าผมไม่อร่อยเพื่อจะอยู่ต่อจริงๆ หรอกนะ
“แล้ววันนี้มากันสองคนเองเหรอ พวกเจ้าอาร์ตล่ะวิน”

“อ่าา พวกแม่งไม่ว่างอ่ะม้า เลยมีเจ้านี่คนเดียว”

“อ้อ ก็ว่าปกติมากันเป็นแก๊งค์ มาๆ เข้าบ้านดีกว่า ไปนั่งเล่นรอก่อน เดี๋ยวม้าเข้าครัวแป๊บเดียว” ว่าแล้วคนสวยที่สุดของบ้านก็เดินนำเข้าไปด้านใน มีพวกผมเดินตามไปอย่างทิ้งระยะนิดหน่อย

“เตี่ยไปไหนเนี่ย” ผมถามพลางเตรียมก้มถอดรองเท้า

“อยู่หลังบ้านแน่ะ กำลังลงต้นไม้ใหม่”

“น่ะ เอาอีกแล้ว” ผมถอนหายใจพรืด รีบหมุนตัวสาวเท้ากลับออกไปหน้าบ้านแล้วเดินอ้อมไปด้านหลัง โดยมีหวานตามมาแบบติดๆ “ดื้อเหมือนใครวะ ห้ามอะไรไม่เคยฟังเลยเนี่ย แล้วก็มาปวดหลังปวดไหล่” ผมบ่นอุบอิบ

เห็นคนที่เดินตามมาเงียบไปเลยหันกลับไปมอง ร่างสูงเหมือนจะไม่ได้ฟัง เอาแต่มองซ้ายมองขวาสำรวจบริเวณบ้านอยู่นั่นแหละ “นี่ต้องเตรียมสินสอดไว้เท่าไหร่ถึงจะพอเนี่ย” หวานพูดพึมพำ

“หา อะไรนะ” ผมทวน

“ไม่มีอะไรครับ” อีกคนรีบยิ้มให้แล้วปฏิเสธ “กำลังตื่นเต้นว่าจะได้เจอพ่อคุณ” 

ผมเบ้หน้า “ตื่นเต้นไปเลย ตื่นเต้นเยอะๆ”

“ไม่ขู่สิครับ”

“ไม่ได้ขู่… แต่เตี่ยผมดุจริงๆ” ผมยักไหล่ ทำเอาคนข้างตัวถึงกับหันมามองอึ้งๆ “นั่นไง นั่งอยู่โน่นแน่ะ” พยักเพยิดไปที่สวนข้างหน้า
“เตี่ย!!” ผมเรียกเสียงดัง

“หยา!” คนที่นั่งก้มหน้าก้มตาทำอะไรอยู่สะดุ้งแล้วหันกลับมามอง “ไอ้ตี๋!!”

“ปลูกต้นไม้อะไร ทำไมไม่เรียกคนมาทำล่ะ มาทำเองทำไม” ผมรีบโวยแล้วก้าวเท้าเข้าไปหาเร็วๆ “นี่ถ้าหลังเดาะขึ้นมานะ รักษากันยาวเลย เนี่ย เสียน้อยเสียยาก ไหนบอกปวดหลังอยู่”

“ไอ้ลูกคนนี้นี่ มาถึงก็บ่น บ่นเก่งเหมือนแม่มันเลย” เตี่ยทำหน้าเอือมระอา

“เอ้า ก็ทำไมต้องมาลงต้นไม้เองล่ะ”

“ลื้อช่วยมองก่อนได้มั้ยว่าต้นไม้ที่ปลูกอยู่นี่มันอะไร”

“อ้าว”
ผมกะพริบตาปริบๆ มองถาดเพาะต้นไม้กับกระถางเล็กๆ ที่เรียงอยู่ด้านหน้า

“ก็ม้าลื้ออยากได้สวนครัว” เตี่ยถอนหายใจแรงๆ แล้วย้อนเข้าให้ “ปักสะระแหน่ปลูกผักชีแค่นี้หลังเดาะให้มันรู้ไปดิ่”

“เออ นั่นแหละ แค่นั้นก็ไม่ต้องทำ เดี๋ยวผมทำให้” ผมพาล “ลุกเลยๆๆ”

“โว้ะ ไอ้นี่นิ่ จะเสร็จอยู่แล้วเชียว” เตี่ยค่อนขอด ถึงจะเหลือต้นไม้ที่ยังไม่ได้ย้ายลงแค่สี่ห้ากระถาง แต่ก็ยอมลุกขึ้นอย่างโดยดี เมื่อยอยู่เหมือนกันล่ะสิ “แล้วนี่ใครล่ะ ไม่คุ้นหน้าเลย”

“สวัสดีครับ ผมชื่อหวาน” คนข้างตัวยิ้มกว้างแล้วยกมือไหว้ ดูประหม่ากว่าที่เคยเล็กน้อย
“อ่า... เป็นรุ่นน้องพี่วินครับ”

“เอ้อๆ” เตี่ยรับไหว้แล้วหันกลับมาถามผมต่อ “แล้วเป็นยังไงบ้างฮึ กว่าจะกลับบ้านได้ นี่อั๊วกับม้านึกว่าต้องไปเซอร์ไพรซ์เคาะประตูถึงคอนโดลื้อซะแล้ว”

ผมที่กำลังย้ายผักชีออกจากถาดเพาะถึงกับใจหายแว้บ
ไม่ได้นะ ขืนจู่ๆ โผล่มาแบบไม่บอกแล้วเจอเจ้านี่อยู่ในห้องต้องลำบากแน่ๆ

“พักนี้งานเยอะน่ะเตี่ย นี่เคลียร์งานได้ก็รับกลับมาหาเลยไง ไม่ต้องลำบากไปหาหรอก” ผมตอบอ้อมๆ พลางวางต้นกล้าลงในกระถางดินเผา

“ซ่อนสาวไว้เรอะ”

“เห้ย เปล่า” ผมเหวอ “เอามาจากไหนเนี่ย”

“เอ้า มีพิรุธ”

“มั่วแล้ว” ผมรีบพูดปฏิเสธ ก็ไม่ใช่สาวหรืออะไรแบบที่เตี่ยกำลังคิดแน่ๆ
เป็นผู้ชายตัวเบ้อเร่อ… ยืนอยู่ข้างเตี่ยน่ะแหละ…

“ไอ้นี่ ปิดแม้กระทั่งเตี่ยเลยนะ หวงเรอะ”

เปล่าเลยยย เตี่ยยยยยยย
จะตอบอย่างนั้นไปก็คงไม่ได้ เลยได้แต่ก้มหน้าก้มตาย้ายต้นไม้ลงกระถางเงียบๆ
เตี่ยขำนิดๆ กับท่าทางหนีความจริงของผมเลยเลิกสนใจจะถามแล้วหันมาชี้ชวนเจ้าหวานให้ดูต้นไม้ คุยอะไรไปเรื่อยเปื่อยแทน

แอบเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความโล่งใจ… นิดหน่อย
ก็ดูจะไปกันได้ดีนี่… ตอนนี้น่ะนะ

อ่า..
ย้ายต้นไม้ต่อดีกว่า

“ไหน ถึงไหนแล้วไอ้ตี๋” ส่งเสียงทักขึ้นมาจนผมสะดุ้ง “ชักช้านะลื้อเนี่ย”

“เอ้า เสร็จแล้วเตี่ย” ผมพูดพลางจัดวางสวนครัวเล็กๆ ของม้าให้เป็นระเบียบ “ปะ ไปกันเหอะ”

“เมื่อกี้ยังไม่ตอบอั๊วเลยนะ ตกลงมีสาวมั้ย” เตี่ยยืนจังก้าขวางอยู่ด้านหน้า “ถามรุ่นน้องลื้อมันก็ไม่ยอมพูด บอกให้มาถามลื้อเอง”

ให้-มา-ถาม-ผม-เรอะ

“...”

“ตี๋…”

“อ่า…” ผมมองหน้าเตี่ยแล้วกะพริบตาปริบๆ แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นร่างสูงๆ ที่ยืนอมยิ้มอยู่ไม่ไกล
“ไปกินข้าวกันเหอะ” พูดตัดบทก่อนจะลุกขึ้นยืนปัดเศษดินออกจากมือ ลุกเดินนำออกไปจากสวน

เตี่ยหรี่ตามอง “ทำเป็นเปลี่ยนเรื่องนะไอ้ลูกชาย เดี๋ยวเถอะ”




15.20

“โอ้โห น่าทานทุกอย่างเลยครับ”

แขกคนใหม่ของบ้านทำตาโตมองอาหารที่วางเรียงอยู่บนโต๊ะ ปลานึ่งซีอิ๊ว ยอดทานตะวันผัดหมูกรอบ ต้มยำปลาหมึก กับข้าวผัดไข่จานใหญ่เป็นของที่ม้าผมเตรียมไว้คอยท่าหลังจากที่โทรมาบอกตั้งแต่เช้าว่าจะกลับบ้าน ถึงเตี่ยกับม้าจะเพิ่งทานข้าวกลางวันไป แต่ก็อดไม่ได้ที่จะตักเอาถั่วเขียวต้มน้ำตาลหอมๆ คนละถ้วยมานั่งกินไปคุยไปด้วย
เป็นอันถือว่าได้ล้อมวงกินข้าวกันแบบครอบครัว

“ถ้าบอกล่วงหน้าสักสองวันจะจัดเต็มกว่านี้อีก” ม้าผมพูดยืดๆ “ฉลองหน่อย”

ผมขมวดคิ้ว “แค่ลูกชายกลับบ้านนี่ เดี๋ยวนี้ต้องฉลองเลยเหรอม้า”

“ต้องฉลองสิ เดี๋ยวนี้กว่าจะได้เจอยากจะตาย” อาม้ารีบพูด “เนี่ย เจ้าหวาน โตขึ้นแล้วอย่าเป็นแบบนี้เชียวนะ ต้องมีเวลาให้ครอบครัวบ้างรู้มั้ย” 

“ครับผม ครอบครัวต้องมาก่อนอยู่แล้ว” ร่างสูงยิ้มกว้าง “เนอะครับ พี่วิน”

จะมาเนอะอะไรเล่า...
ผมนั่งเก้าอี้แล้วตอบอืออาไปแบบส่งๆ ไม่มองคนถาม เพราะเดาได้ว่าอีกคนที่คงกำลังยิ้มกริ่ม รอจังหวะให้หันไปสบตาแล้วทำประกายวิบวับน่าเตะ แกล้งให้ผมหน้าขึ้นสีเล่นอยู่แหงๆ
ไม่หลงกลหรอกน่า...

“นี่เจ้าหวานอยู่ภาคอะไรล่ะเนี่ย” ม้าถามขึ้น “เรียนเต็กเหมือนวินรึเปล่า”

“ใช่ครับ” ร่างสูงรีบตอบ “เรียนเต็ก ปีหนึ่งครับ”

“อ้าว เพิ่งเข้าปีนี้นี่ คิดยังไงมาเรียนสถาปัตย์ล่ะเรา เดี๋ยวก็โทรมเหมือนตาวินหรอก” ม้าหัวเราะคิกคัก

“อ้าว” ถึงกับเงยหน้ามาถาม “ผมโทรมเหรอ”

“พูดเล่นน่า…  เอ๊ะ” ม้าขมวดคิ้ว “แล้วไปสนิทกันได้ยังไงล่ะเรา ตาวินจบแล้วนี่นา”

มันมาจีบ
เอ้ย…


ขอคิดแป๊บ

“ก็มีต้องเข้าไปช่วยติวบ้าง กิจกรรมบ้าง อะไรแบบนี้แหละ” ผมตอบปัดๆ แล้วเริ่มก้มหน้าก้มตากินข้าวที่อยู่ตรงหน้า “โอ๊ะ อันนี้อร่อยจัง”

ม้ารีบยิ้มรับ “อร่อยก็กินเยอะๆ ต้นอ่อนทานตะวันนี่เตี่ยลื้อปลูกมากับมือเลยนะ” ว่าแล้วก็เอื้อมมือมาคีบผัดผักให้อีก “เอ้า เจ้าหวานเอาจานมา เดี๋ยวม้าตักให้”

“ขอบคุณครับ” หวานยิ้มกว้าง
แหม ตำแหน่งลูกรักของเดอะแก๊งค์ทั้งหลายท่าทางจะสั่นคลอนก็วันนี้

“คุณพ่อชอบปลูกต้นไม้เหรอครับ” หวานถามขึ้นบ้าง

ผมส่ายหน้าดิก ก่อนจะแย่งเตี่ยพูดเพื่ออธิบายให้คนข้างตัวฟัง
“จริงๆ แล้ว คนชอบปลูกต้นไม้น่ะม้า ส่วนอีกคนอยากทำบ้านเป็นสวนสัตว์ เอะอะเลี้ยงปลาเลี้ยงนก นี่เคยจะเอากระต่ายมาปล่อยให้วิ่ง ถ้าไม่ห้ามไว้ป่านนี้บ้านกลายเป็นสวนเทเลทับบี้ส์ไปแล้ว”

“เอ้า ก็ดูมันวิ่งไปวิ่งมาก็เพลินดี”

“ออกลูกทีเป็นฝูงเลยนะเตี่ย” ผมว่า “มีกองทัพกระต่ายอยู่ในบ้านอ่ะ ไหนจะขี้กระต่ายเป็นกองพะเนิน ไม่โอเค” ผมส่ายหน้าหวือ

“เออ ก็ไม่เลี้ยงแล้วไง” เตี่ยพูดอุบอิบแล้วตักขนมใส่ปาก “วู้ บ่นเยอะ”

“แล้วเจ้าแมวหูเดียวที่เลี้ยงไว้ล่ะ” ม้าผมถามขึ้นบ้าง “เป็นยังไงแล้ว”

“อยู่ดีมีสุขมากๆ ม้า ไม่ค่อยจิ๋วเหมือนชื่อแล้ว เวลามานอนบนตัวนี่แทบลุกไม่ขึ้นแล้วเนอะ” ผมพูดขำๆ แล้วหันไปจะพยักหน้ากับคนข้างตัว

ชิบหาย...
เขาคงไม่ได้ตั้งใจฟังกันหรอก... ใช่มั้ย...

“หวานก็เคยเจอเหรอลูก จิ๋วมันน่ารักเนอะ ทีแรกม้าก็กลัวว่าวินจะแพ้ขนแมว เกือบไม่ให้เลี้ยงแล้ว มาเจอมันอ้อนซะก่อน แสนรู้จริงๆ”   

ผมลอบถอนหายใจ ในขณะที่หวานยิ้มก่อนจะตอบคำถาม “ครับ น่ารักดี” 
เกือบไปแล้วสิ

...

16.34

เฮ่อ อิ่ม… ข้าวที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่าข้าวบ้านเราล่ะเนอะ

ในระหว่างกำลังนั่งผึ่งพุงที่โต๊ะกินข้าวตัวเดิม อยู่ จู่ๆ ม้าก็พูดอย่างนึกขึ้นได้ “เอ้อ… นี่วิน อย่าลืมนะ งานแต่งงานอาโจวันเสาร์สิ้นเดือนแล้ว”

ผมเงยหน้า กะพริบตาปริบๆ “ลืมไปเลยอ่ะว่าเฮียโจจะแต่งงาน”

“ช่วงเช้ายกน้ำชา ส่วนงานเย็นเป็นงานค็อกเทล”

ผมเบ้หน้า
ไม่ถูกโรคกับงานหางไก่นี่สักนิด นอกจากจะไม่อิ่มแล้วยังต้องเดินยิ้มไปยิ้มมารอบงาน ไหนจะต้องทักทายคน ตอบคำถามนั่นนี่ มีคนชวนคุยตลอดๆ กินไม่สะดวกเลยครับเอาตรงๆ

“แต่งตัวดีๆ ล่ะ” ม้ากำชับ “ลูกสาวคุณวิไลก็ไป”

“ม้าาาาาาาา” ผมลากเสียง “เลิกจับคู่ผมกับลูกเพื่อนซะที”

“เอ้า ก็เผื่อจะถูกใจขึ้นมาสักคน นี่อั๊วขี้เกียจตอบคำถามแล้วเนี่ยว่าเมื่อไหร่ลื้อจะมีแฟน” เตี่ยหัวเราะร่วน ว่าแล้วก็พยักเพยิดไปคนที่นั่งข้างตัวผม “บอกมาเถอะ นี่วินมันแอบไปเต๊าะใครไว้บ้างน่ะเจ้าหวาน” 

ผมเบิกตากว้างแล้วร่ำร้องอยู่ในใจ
เตี่ยผมถาม… ถูก… คน… มากกกก

ไอ้ที่นั่งหน้าแป้นกินข้าวอยู่ข้างกันต่างหากล่ะ ที่เต๊าะเอาเต๊าะเอาจนได้ลูกเตี่ยเป็นแฟน!

“เอ่อ..” หวานเหลือบมองมาทางผม มุมปากยกยิ้มอย่างควบคุมไม่ได้ “ไม่ทราบเหมือนกันสิครับ”

ผมถลึงตาใส่ ไอ้ตูด… หุบยิ้มก่อนแล้วค่อยตอบมั้ย...
แล้วมือใต้โต๊ะเนี่ย!!! จะเอื้อมมาจับทำไม!!!

“ทำไมต้องรีบให้มีแฟนจังเลย อยู่แบบนี้มันไม่ดีตรงไหนกัน” ผมบ่นกระปอดกระแปด พลางพยายามแกะมือตัวเองออกจากการเกาะกุมของคนข้างตัว

“เอ้า ก็อยากเอาหลานไปอวดบ้าง นี่เพื่อนอั๊วมีกันหมดแล้ว”

“ลูกผมก็ไม่ใช่ของเล่นป่ะเตี่ย” ผมถอนหายใจ “คนแก่เขาไม่อวดนาฬิกากันเหรอ”
ยอมแพ้กับมือปลาหมึก อยากจับก็จับไปเลยไป

“เตี่ยกับแม่ก็มีลูกชายอยู่คนเดียวเนี่ย” แม่ผมได้ทีเสริมขึ้น “ก็เป็นห่วง… อยากให้แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝา จะได้มีคนดูแลกัน”

“แล้ว... ถ้าผมไม่แต่งล่ะม้า”

“ก็แล้วทำไมลื้อจะไม่แต่ง” กลายเป็นเตี่ยที่ถามขึ้นเสียงขุ่น “ถ้าจะบอกว่ายังไม่มีคนแต่งด้วยก็ข้ามไปเลย ไม่ใช่ปัญหา ลูกเพื่อนอั๊วกับม้าเยอะแยะ เลือกสักคนสิ”

“นี่มันสมัยไหนแล้ว ยังจะคลุมถุงชนกันอยู่เหรอ” ผมโวยวาย
เหมือนหวานจะสัมผัสได้ถึงความจริงจัง อีกฝ่ายเลยยอมปล่อยมือผมให้เป็นอิสระเสียที

“ไอ้หมานี่ บอกว่าให้ดูๆ กันไป ไม่ได้จะจับแต่ง แค่เห็นว่าถ้าลื้อยังไม่มีใครก็จะแนะนำให้”

“ไม่ต้องเลยเตี่ย”

“มีคนให้แต่งด้วยแล้วรึไง”

“...” ผมหน้างอ

“น่ะ ถ้ามีก็เอามาให้เจอเลย จะได้สบายใจกันทุกฝ่าย” เตี่ยตบเข่า “จะให้ดีก็เอาไปเปิดตัวงานเจ้าโจ อั๊วจะได้ไม่ต้องคอยตอบคำถามญาติ เพื่อนอั๊วจะได้เลิกเล็งให้เอ็งไปเป็นลูกเขยไง”

“แล้วม้ากับเตี่ยจะได้ไปเตรียมจัดการเรื่องรับสะใภ้เข้าบ้านให้เรียบร้อย หมั้นไว้ก่อนก็ได้”

นั่น วนมาเรื่องนี้อีกแล้วไง
“ก็ไม่อยากแต่งงานนี่” ผมยังคงวอแว “ถ้ามีจริงๆ ก็อยู่ด้วยกันเฉยๆ ก็ได้ ไม่เห็นต้องแต่งงานเลย”

เตี่ยทำหน้าตกใจ “ไอ้ตี๋! ทำแบบนั้นใช้ได้ที่ไหน ลื้อจะไม่สนอะไรเลยไม่ได้ ลื้อต้องให้เกียรติอีกฝ่าย ให้เกียรติพ่อแม่เขา ให้เกียรติวงศ์ตระกูลเราด้วย ลื้อทำเหมือนไม่เห็นหัวใครเลยไม่ได้!!!”

“ไม่เกี่ยวป่ะเตี่ย คนเรารักกัน เข้าใจกันอยู่ด้วยกันได้ก็พอแล้ว ต้องทำอะไรให้มันยุ่งยากทำไม”

“ไม่ได้!” เตี่ยพูดเสียงดัง “ยังไงลื้อก็ต้องทำให้มันถูกต้อง!!!”

คุณนายของบ้านเห็นท่าจะไม่ดี เลยยื่นมือเข้าปราม
“เอ้าๆ พ่อลูกเถียงอะไรกันไม่เป็นเรื่องเลย อายเจ้าหวานบ้าง น้องตกใจหมดแล้วเนี่ย”

“เอ้าม้า ก็ดูเตี่ยดิ่” ผมโวยวาย “จะให้แต่งงานอยู่นั่นแหละ”

“นี่ตาวิน เตี่ยเขาก็เป็นห่วงน่ะแหละ”

“ก็ลูกของเจ้าปกรณ์มันก็ยังโสด หน้าตาน่ารักด้วย” เตี่ยยังคงยืนยัน “ไปเจอกันไม่เห็นเสียหายตรงไหนเลย”

“เนี่ย เห็นมั้ยม้า” ผมโวยอีก “จับคู่อีกแล้วอ้ะ”

“ถ้ามีแล้วใครเขาจะขัดลูกตัวเอง ลูกชอบใครพวกเราก็ต้องชอบด้วยอยู่แล้ว” ม้าพยายามเกลี้ยกล่อม “น่า… ก็ตอนนี้ลื้อยังไม่มีใครนี่”
 
ประโยคแรกน่ะ... พูดแล้วนะ...
ผมหันขวับ “รู้ได้ไงว่าไม่มี”

เตี่ยหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะพูดให้ผมหน้างอขึ้นไปอีก “โอ๊ย ถ้ามีลื้อต้องพามาบ้านแล้ว ไม่มานั่งเถียงอยู่แบบนี้หรอก”

ก็นั่งอยู่นี่ไงเล่า… ผมคิดในใจ

“เอ้า พอๆ พ่อลูกนี่” ม้าพูดห้ามทัพ “แล้ววันนี้จะค้างนี่กันรึเปล่าลูก”

ผมส่ายหน้า “ไม่อ่ะม้า เดี๋ยวก็ต้องรีบกลับแล้ว พรุ่งนี้ผมประชุมแต่เช้า กลับไปนอนคอนโดดีกว่า ขี้เกียจเถียงกับเตี่ยแล้วด้วย” พูดจบก็ย่นจมูกใส่คนเป็นพ่อหนึ่งที

“เนี่ย ไม่มีเวลาให้ที่บ้าน” ม้าบ่นเบาๆ

ฟังจบก็หันไปเห็นม้าทำหน้างอนพอดี เลยต้องรีบสมทบ “โอ๋ ไม่งอนสิม้าา เดี๋ยวระหว่างอาทิตย์จะกลับบ้านมาหานะคร้าบบบบ” ผมลากเสียงยาว  “เดี๋ยวพาไปกินข้าวอร่อยๆ”

“เอาสะใภ้มาพร้อมกันเลยด้วยก็ดีนะ” เตี่ยแหย่ไม่เลิก “ถ้าลื้อมีน่ะนะ ฮ่าๆๆ” 

ด๊ายย
จะเอางี้ใช่มั้ยเตี่ย ด้ายยย

ผมแกล้งมองนาฬิกา “โอ๊ะ เดี๋ยวต้องรีบกลับละ ไปก่อนนะเตี่ย ไปก่อนนะม้า” 

“ไอ้ลูกคนนี้นี่ หนีอีกแล้วนะ”

“เปล่าหนีสักหน่อย แล้วก็…” ผมตัดสินใจก่อนจะพูดหน้านิ่ง ยกนิ้วชี้คนข้างตัว “วันงานแต่งเฮียโจ ผมจะเอาหมอนี่ไปละกันนะ”

“...” เตี่ย
“...” ม้า
“...” หวาน

ผมคว้าข้อมือร่างสูงที่กำลังงงอยู่ให้ลุกขึ้น “ปะ กลับกัน”

“เดี๋ยว... ไอ้ตี๋ ลื้อหมายความว่ายังไง”

ขอทิ้งระเบิดไว้หน่อยก็แล้วกัน
ผมขยิบตาแล้วยิ้มหวานให้หนึ่งที
“เปิดตัวไงครับ...” 
 
_ _ _ _

TBC

เย้ พาเด็กๆ มาส่งแล้วค่าาาา

ตี๋วินลู๊กก ทำไมมาแรงแซงเด็กหวานตลอดเลยละค้าาาาา

โค้งสุดท้ายของเรื่องแล้วนะคะ : ) ขอบคุณทุกคอมเมนต์จากทุกทาง ขอบคุณที่รักและเอ็นดูเด็กๆ
อาจจะเป็นเรื่องที่เรื่อยๆ เฉื่อยๆ แต่หวังว่าคงไม่น่าเบื่อจนเกินไปนะคะ ถ้าเรื่องนี้จะฮีลคนอ่านได้ เราจะดีใจมากเลย
ฟีดแบกของทุกคนก็ฮีลลิ่งเราเหมือนกันนะคะ ผ่านช่วงหนักหน่วงมาได้ ขอบคุณจริงๆ

แวะมาคุยเล่น เม้าๆ กันได้ที่ @huentrop หรือ #วิเคราะห์การรัก ได้เหมือนเดิมนะคะ
พักนี้อาจจะห่างหายไปเป็นนิยายรายเดือนเพราะภารกิจถาโถม แต่เราจะไม่เทแน่นอน รอกันหน่อยนะค้า

พบกันตอนหน้าค่ะ
รักส์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-07-2018 00:54:17 โดย idee »

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ไม่คิดว่าพี่วินจะเป็นคนเปิดเองงงง กรี๊ดดดดด  :hao5:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 847
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
ตี๋วินนนนนน อยู่กะหวานนี่แมนจริ๊งงงง
อยู่กะคนอื่นเด็กเด๋อไปเลยยย
น่ารักกกกก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-07-2018 10:06:07 โดย Qix9y_ »

ออฟไลน์ Dayyspring

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ตี๋วินนนนนนนนนนนนนนน
ตั้งแต่คบเด็กหวานนี่ติดความทะเล้นเจ้าปีหนึ่งมาใช่มั้ย
 :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ Justccwpo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
งื้แสมกับความคิดถึง สนุกมากกกก

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
โอ้โหพี่วิน ป่านนี้นังหวานตายอย่างสงบศพสีชมพูไปแล้วล่ะเนี่ย 5555

ออฟไลน์ Plavann

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
หวานช็อคตายไปแล้วมั้งนั่น 5555 สมการรอตอยมากๆเลยครับ คิดถึงนักเขียนน้า เป็นกำลังใจให้เสมอ ถึงแม้จะไม่ค่อยมาคอมเมนต์ก็ตาม  :mew1:

ออฟไลน์ saccarrum

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตี๋วินนนนนนนนนนน  :ling1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ maplub_oyaya

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
หายไปนานกลับมาก็พาแฟนมาเปิดตัวกับครอบครัวเลยนะ

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
พี่วินไหนบอกหวานว่าอย่าออกตัวแรง แล้วดูตัวเองสิ เปิดตัวปุ๊บปั๊บเชียวนะ

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ puwadontoeytoey

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ไหน ใครบอกน้องอย่าออกตัวแรงอ่ะตี๋  :hao3:

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
เอออออ เตี่ยตาค้างแน่นอน 55555

ออฟไลน์ gungchan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
วินหัวร้อน เปิดตัวหวานเสียก่อนเลย อิอิ
เนื้อเรื่องน่ารักมากๆค่ะ  :L1:

เมื่อไรเขาจะไม่เรียกแทนตัวว่าคุณ ผม เนอะ เรียก วิน หวาน สนิทสนมน่ารักดี  :o8:

ออฟไลน์ mkianit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-3
วินลู๊กกกกกกกก เตี่ยตาแตกไปแล้ว555555555น้องหวานก็น่ารักจังเลย หลงแล้วๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Lyralyn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ไม่ได้ออกตัวเลย พี่วินนนนนนน  :mew3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด