ตอนที่ 3
“เลิกเรียนสักที ไปเร็วดอม พวกไอ้กริมรออยู่” อลันพูดสียงดังและเร็วจนผมฟังแทบไม่ทัน ก่อนจะลากผมออกมาจากห้องเรียน
กริมบอกว่าหลังเลิกเรียนให้ไปเจอกันที่ลานจอดรถ มันจะรออยู่ที่นั้น ส่วนอลันก็ไม่รู้จะรีบทำไมนักหนา ยังไงซะกริมมันก็คงไม่หนีไปไหนหรอกมั้ง
“รีบได้ แต่ไม่ต้องวิ่ง มันเหนื่อย” ผมรีบเบรกอลันเมื่อเขาตั้งท่าเตรียมวิ่ง ก็ไม่ค่อยจะเข้าใจว่าจะอเลิร์ทไปกับทุกเรื่องทำไม อยู่นิ่งๆ สงบๆ ไม่เป็นรึไงวะ
“เออๆๆ ไม่วิ่งๆ แต่อย่าเดินอืดอาดได้ป่ะ หิวจะตายอยู่แล้ว”
“ก็เดินปกติ ถ้าอลันรีบก็ไปก่อนเลยไป”
“ไม่เอา เดินไปด้วยกัน” สุดท้ายอลันก็ยอมเดินแบบปกติ
เหอะ ทำแบบนี้ตั้งแต่แรกก็จบล่ะ
“มาแล้ว ไปกันๆๆๆๆๆ” อลันแหกปากทันทีที่มากถึง
“เสียงดีจริงๆเลยมึง ไปๆ ขึ้นรถกัน” กริมว่าก่อนจะเดินนำไปที่รถของเขา ก่อนที่พวกเราทั้ง 5 คน จะไปยังห้างสรรพสินค้าใกล้ๆกับมหา’ลัย
“ไอ้กริม เพื่อนมึงนี่...เป็นคนแบบไหนวะ?” อลันเปิดปากชวนกริมคุย เมื่อพวกเรากำลังเดินไปยังร้านสุกี้ชื่อดังที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้
“ก็...เป็นคนอ่ะ” กริมตอบอย่างกวนๆ
“ไอ้เวร! รู้แล้วว่าเป็นคน กูหมายถึงนิสัยใจคอเว้ยยย!!!”
“กูไม่รู้จะพูดยังไงว่ะ มึงต้องไปดูไปคุยกับมันเอง แต่มันเป็นคนดีนะเว้ย”
“ดีเท่ากูป่ะ?” อลันถามดลับด้วยน้ำเสียงยียวน
“ถ้ามึงดี กูว่าเพื่อนกูแม่งเป็นเทวดาว่ะ กร๊ากๆๆๆๆๆๆ” แล้วทั้งกริม ขิม และเบสต่างพากันหัวเราะซะเสียงดังลั่น แม้แต่ผมเองยังหลุดขำนิดนึงก่อนจะตีหน้านิ่งเมื่ออลันหันมามองผม
“ไปกันก่อนเลย ...จะไปห้องน้ำ” ผมบอกกับทุกคน ก่อนจะหันมาบอกกับอลันเมื่อเห็นเขามองมา
“ไปด้วย” อลันพูดขึ้นแทบจะทันที
“ไปเองได้ ไม่ใช่เด็กแล้ว”
“ก็อยากไปด้วยไง เผื่อเป็นลมเป็นแล้งไปอีกจะว่ายังไงล่ะ”
“ไม่เป็นอะไรหรอก ...สั่งเป็ดย่างกับหมี่หยกให้ด้วยล่ะ” ผมว่าก่อนจะเดินเลี่ยงมาเข้าห้องน้ำคนเดียว ผมก็เข้าใจนะว่าอลันเป็นห่วง แต่บางทีเขาก็เป็นห่วงผมมากไปจนไม่เป็นตัวของตัวเอง
ผมว่าเราอาจจะตัวติดกันเกินไป อลันเขาเป็นคนชอบเข้าสังคม ชอบที่จะไปไหนมาไหนก็เพื่อนฝูง ไปดื่มไปเที่ยวอะไรพวกนั้น แต่ผมไม่ชอบ และอลันก็เลือกที่จะมาอยู่กับผม ผมไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น บางทีอลันก็ควรจะใช้ชีวิตให้ตัวเองมีสีสันบ้าง มามัวแต่อยู่กับผมแล้วคอยตามความเคลื่อนไหวเพื่อนๆทางโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กแบบนั้น ผมว่ามันไม่แฟร์ ผมอยากให้เขาเป็นตัวของตัวเองมากกว่านี้
“โอ๊ะ! ...ขอโทษครับ” ผมเอ่ยขอโทษอย่างตกใจเล็กน้อย เมื่อทำธุระในห้องน้ำเสร็จ แต่พอเดินออกมาได้ไม่เท่าไหร่ก็ดันไปเดินชนกับใครก็ไม่รู้ คงเป็นเพราะผมเองที่คิดนู้นคิดนี้จนไม่ทันได้มองทาง พาถึงทางเลี้ยวก็เลยทำให้ไปเดินชนคนอื่นเขาเข้า
“ขอโทษครับ” หืม?...เสียงคุ้นๆ
“...!!!” ผมเบิกตากว้างเล็กน้อยอย่างตกใจ เมื่อเห็นว่าคนที่ผมชนนั้นคือ...
...จิน!!
“ดอม?” จินเรียกผม สีหน้าของเขาฉายความแปลกใจไว้อย่างชัดเจน
“.....” ผมพูดไม่ออก เมื่อใบหน้าหล่อเหลามีเสน่ห์ของเขาอยู่ใกล้ใบหน้าของผมมากเกินไป
ตึกตัก ตึกตัก
อ่า...ให้ตายเหอะ หัวใจมันเต้นแรงเป็นจังหวะแทงโก้แบบนี้ มันเป็นเพราะผมเผลอไปสบตากับเขานั่นแหละ
แววตาของเขา...มันมีอิทธิพลต่อการเต้นของหัวใจผมมากเกินไป
“ดอม ดอม...เป็นอะไรหรือเปล่า?”
“หะ...ห๊ะ!” ผมสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อจินเอื้อมมือมาแตะที่แขนของผม
“เป็นอะไรหรือเปล่า ไม่สบายเหรอ หน้าแดงๆแปลกๆนะ” จินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล ไม่คุกคามอะไร
แต่...ผมหน้าแดงหรอวะ!!!!
“ป่ะ...เปล่า แล้ว...จินมาทำอะไร?” ผมเอ่ยถามอย่างเปลี่ยนเรื่อง
“อ๋อ...จินนัดเพื่อนมากินข้าวที่นี่น่ะ แล้วดอมล่ะ?”
“ดอม เอ้ย! ...ผมมากินข้าวกับเพื่อน” สติของผมยังมาไม่เต็มร้อย จนเผลอเรียกแทนชื่อตัวเองไปเสียอย่างนั้น
“แทนตัวเองว่าดอมก็ได้นะ น่ารักดี”
“.....” อ่า ...จู่โจมกันแบบนี้เลยเหรอ รู้สึกหัวใจตัวเองเริ่มทำงานหนัก
“เอ่อ...” เหมือนจินจะเริ่มรู้ตัวแล้วเหมือนกัน ว่าเมื่อกี้พูดอะไรออกมา
“.....”
“เอ่อ...เอ้อ จินมีเรื่องจะถาม ว่า...ลำบากใจรึเปล่า ที่...ต้องคุยกับจินในเฟสน่ะ”
“ก็...ไม่” ผมตอบออกไปอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก พึ่งจะมาถามเอาก็ตอนนี้เนี่ยนะ
“เอ่อ...คือ...จินไม่ได้อยากจะเรียกร้องอะไรหรอกนะ คือ...เมื่อสักสิบนาทีก่อนจินทักเฟสไป...แต่ดอมไม่ตอบ จินเลยคิดว่า...บางทีดอมอาจจะรำคาญ” จินเอ่ยออกมาเสียงเบาๆ ดูไม่ค่อยจะมั่นใจเสียเท่าไหร่ แต่...ที่ผมสงสัยคือ เขาทักมาตอนไหนวะ???
“...?” ผมขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อจะหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมา พบว่า...จินทักเฟสบุ๊คผมมาจริงๆด้วย เพียงแต่...ผมไม่ได้เปิดเสียง ซ้ำยังไม่ได้ตั้งสั่นเอาไว้อีก เลยทำให้ผมไม่รู้ว่าจินทักมา
“.....”
“ผมปิดเสียงเอาไว้ ...โทษที” ผมเอ่ยขอโทษเขา ทั้งที่ผมก็ไม่รู้ว่าจะขอโทษทำไม รู้แต่ว่าจะมาให้เขาเข้าใจผิดไม่ได้ ...ก็เท่านั้น
“อ๋อ...จินก็นึกว่าดอมจะรำคาญจนไม่ตอบข้อความจินเสียอีก” จินว่าก่อนจะยิ้มนิดๆ
“อืม...ผม ...คงต้องขอตัวก่อน”
“แทนตัวเองว่าดอมแบบเมื่อกี้สิ น่ารักจะตาย” จินว่าก่อนจะยิ้มจนตาหยีให้ผม
ตึกตัก ตึกตัก
ไม่ได้การล่ะ หัวใจของผมมันทำงานหนักเกินไปแล้ววว...
“...-////-”
“แล้วนี่จะไปไหนหรอ เดี๋ยวจินเดินไปส่ง”
“ไม่ต้องหรอก จินรีบไปหาเพื่อนเถอะ” ผมเอ่ยบอกเขา กลัวว่าอลันของเขาจะรอนาน
“ไม่รีบ ไปส่งดอมได้”
“เดี๋ยวอลันมันก็โวยวายอีกหรอก มันเสียงดังจะตาย”
“เดี๋ยวจินส่งแค่หน้าร้านก็ได้ นะๆๆ”
“อ่ะ..อืมๆ” ให้ตายสิ อยู่ๆมาอ้อนแบบนี้ หัวใจผมมันจะวายเอาง่ายๆเลยนะ
“เอากระเป๋ามาสิ เดี๋ยวจินสะพานให้” จินว่าก่อนจะแบมือมาตรงหน้าผม
“ไม่...เป็นไรหรอก มันหนัก” ผมเอ่ยบอกอย่างเกรงใจ เมื่อเขาอาสาจะสะพายกระเป๋าเป้ให้ผม จะว่าไป...ผมก็พึ่งสังเกตว่าเขาม่ได้อยู่ในชุดนักศึกษา แต่อยู่ในชุดไปรเวทธรรมดา แต่จินกลับดูดีในชุดกางเกงสามส่วน กับเสื้อยืดคอกลมเรียบๆ รองเท้าที่เขาใส่ยังเป็นรองเท้าแตะ...ขอบฟ้า
เอ่อ...ผมหมายถึงรองเท้าแตะหูหนีบยี่ห้อดาวเทียมน่ะครับ
“งั้นจินยิ่งต้องถือให้” จินว่าก่อนจะเอื้อมมือมารูดสายกระเป๋าให้มันหลุดออกจากบ่าของผม
“แต่...เดี๋ยวๆๆ” ผมร้องบอกเมื่อจินแย่งกระเป๋าของผมไปได้สำเร็จ
คือ...เราพึ่งจะเจอกันเมื่อวาน ...แม้ผมจะพอเดาท่าทีของจินออก และผมเองก็ไม่ได้รังเกียจจิน แต่...เอาตรงๆคือผมเกรงใจว่ะ
“ไม่มีเดี๋ยว” จินว่าก่อนจะสะพายกระเป๋าเป้ของผมพลางยิ้มให้
“จิน ...ผมเกรงใจ”
“จินเต็มใจ ไปสิ...นำไป เดี๋ยวเพื่อนดอมรอนาน”
“...ตามใจ” สุดท้ายผมก็ต้องตามใจเขา แต่แค่ครั้งนี้เท่านั้นน่ะ อย่าลืมสิว่าผมเป็นผู้ชาย แม้จะไม่แข็งแรง แต่ก็ไม่ได้อ่อนแอปวกเปียกจนต้องให้คนอื่นมาถือกระเป๋าให้ อีกอย่างผมก็เกรงใจจินเขามากๆ เพราะเรายังไม่รู้จักกันดีเลย
“เชิญครับ” จินทำท่าผายมือ เพื่อให้ผมเดินนำ
“.....”
“เรียนหนักไหม?” จินเอ่ยขึ้นอย่างชวนคุย
“ก็...พอได้ แต่เรียนทีติดต่อสองสามชั่วโมงมันไม่ค่อยเข้าหัวสักเท่าไหร่” ผมตอบไปตามความจริง
“เหมือนกันเลย จินยังเคยหลับในห้องด้วย มันไม่ค่อยเข้าหัว เลยนอนดีกว่า” จินเล่าไปยิ้มไป ทำเอาผมยิ้มตามอย่างขำๆ
“ผมก็เคยนะ แต่หลับได้แป๊บเดียวอลันก็ปลุกผมขึ้นมาฟังเจ้าตัวบ่นเรื่องไร้สาระต่อ” ผมแฉอลันอย่างยิ้มๆ
“พี่ชายดอมนี้...พูดเก่งเหมือนกันนะ” จินว่าก่อนจะหัวเราะอยู่ในที
“มากกก...”
“ฮ่าๆๆ แล้วนี้...กินข้าวกับเพื่อนที่ร้านไหนล่ะ”
“เอ็มเคน่ะ”
“หืม? เอ็มเคเหรอ ร้านเดียวกับจินเลย”
“เหรอ” ทำไมมันบังเอิญจังวะ
“บังเอิญจัง แล้วถ้ากินเสร็จ จะไปไหนกันต่อหรือเปล่า?”
“ไม่รู้ แล้วแต่คนไปส่ง”
“ให้จินไปส่งป่ะ?”
“...ไม่อ่ะ” ผมมองหน้าเขานิดๆ ก่อนจะปฏิเสธออกไป
“ทำไมล่ะ”
“เกรงใจ”
“แล้วใครไปส่ง เพื่อนเหรอ?”
“...ใช่” กริมเป็นเพื่อนของอลัน ...ก็ถือว่าเป็นเพื่อนของผมไปด้วยล่ะกัน
“อ๋อ...อ๊ะ ถึงแล้ว” จินว่าเมื่อเรามาถึงร้านเอ็มเคกันแล้ว
“งั้น...เอากระเป๋าผมมาเถอะ” ผมว่าก่อนจะแบบมือขอกระเป๋าเป้ของตัวเอง
“ผมอีกล่ะ บอกแล้วไงว่าแทนตัวเองว่าดอมอ่ะ น่ารักดี”
“...อย่าเปลี่ยนเรื่อง เอากระเป๋าผมมาเถอะน่า”
“ครับๆ” สุดท้ายจินก็คืนกระเป๋าให้ผม สีหน้าของเขาเจือนลงเล็กน้อย ผมไม่ได้ดุเขานะ เพียงแค่...เสียงอาจจะแข็งไปหน่อยก็เท่านั้น
“เดี๋ยว...จินขอเบอร์ดอมได้ไหม?”
“.....”
“นะครับ” จินว่าเสียงอ้อนเมื่อผมเงียบไป
“ไลน์” ผมเอ่ยเสียงเรียบ จะให้ผมให้เบอร์ ผมว่ามันก็เร็วไป ขอเล่นตัวหน่อย จะได้รู้ว่าผมน่ะ ไม่ง่ายนะ
และผมก็จะขอยอมรับอย่างลูกผู้ชายเลย ...โอเค ผมสนใจจิน
แม้ว่าจะแปลกใจตัวเองอยู่ไม่น้อย เพราะคนที่ไม่เคยสนใจใครอย่างผม ดันมาสนใจผู้ชายด้วยกัน ถ้าแด๊ดรู้นะ คงจะมีการเรียกคุยกันอีกยาวอ่ะ
แต่เดี๋ยวก่อน...อย่าพึ่งคิดไปไกลนะ
ผมยอมรับว่าผมสนใจเขา ใจเต้นแรงเพราะเขา
แต่ผมว่าผมยังไม่ถึงขั้นชอบหรือว่ารักอะไร
ของแบบนี้ผมไม่อยากด่วนตัดสิน ค่อยๆดูกันไป เพราะผมไม่ใช่คนซื้อบื้อที่แม่งจะไม่รู้แม้แต่ความรู้สึกของตัวเอง
ผมรู้ความรู้สึกของตัวเอง และผมก็ยอมรับมัน
“ไลน์หรอ...ไลน์ก็ได้” จินว่าก่อนจะยิ้ม แล้วยื่นโทรศัพท์ของตัวเองมาให้ผม แม้ผมก็ไม่ค่อยจะเข้าใจว่าจินจะดีใจไปทำไม ความจริงคุยกันในเฟสบุ๊คก็ได้ แต่ก็...ช่างเถอะ ขี้เกียจสงสัย
“.....” ผมกดพิมพ์ไอดีไลน์ของตัวเองในเครื่องจิน เมื่อเสร็จแล้วก็ยื่นคืนกลับไปให้เขา
“ขอบคุณครับ” จินว่าก่อนจะยิ้มจนตาหยีให้ผมอีกทีนึง
“งั้นผมเข้าไปก่อนละกัน” ผมว่าจะรีบเดินเข้ามาในร้าน ไม่ใช่อะไรหรอก เพราะถ้าอลันเห็นว่าผมเดินมากับจิน เจ้าตัวก็แหกปากโวยวายไม่เกรงใจชาวบ้าน แถมยังมาถามผมเรื่องจินอีก ...บอกตามตรงว่าผมไม่อยากให้อลันรู้ว่าผมกับจินคุยกับโดยที่เขาไม่รู้ ไม่ใช่อะไรหรอก...หนวกหูเวลาเขาโวยวาย
“ไอ้กริม ยังไงซะกูก็ไม่มีทางญาติดีกับไอ้เวรนี่แน่!” แต่...ดูเหมือนจะมีเรื่องอื่นให้อลันต้องโวยวายเสียแล้วแฮะ
“ใจเย็นเว้ย! นี่เคยมีเรื่องกันมาก่อนรึเปล่าเนี่ย?” เสียงกริมพูดพลางฉุดอลันให้นั่งลง
“มันเคยหาเรื่องกู” อลันว่าก่อนจะชี้นิ้วไปยังผู้ชายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเขา แต่หันหลังให้ผม
“เฮ้ย! พูดดีๆ กูไปหาเรื่องมึงตอนไหน มีแต่มึงที่แว้ดๆๆอยู่นั้น ถามจริง...ตอนเด็กแม่งแดกโทรโข่งหรือเครื่องกระจายเสียงตามห้างฯป่ะวะ เสียงแม่งดีจริงๆ” ผู้ชายคนที่อลันชี้นิ้วเอ่ยขึ้นเสียงแข็ง ราวกลับกำลังหงุดหงิดใจ
“มึง!!” อลันลุกขึ้นอีกครั้ง
“อลัน” ผมเอ่ยเรียกอลันเสียงเรียบ ก่อนจะเดินไปแล้วใช้มือกดไหล่ของอลันให้นั่งลงตามเดิม
“ดอม...อย่าห้าม”
“Shut up!” ผมเอ่ยสั่งเสียงเข้ม
เมื่อไหร่อลันจะแก้นิสัยใจร้อนขี้โวยวายได้สักทีเนี่ย รู้ตัวบ้างไหมว่ามันจะนำภัยมาให้ ถ้าเกิดคนที่อลันมีเรื่องด้วยเกิดไม่พอใจแล้วยกพวกมากระทืบเขา คราวนี้มันก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ทันทีเลยนะ ทำไมทำอะไรถึงไม่คิดถึงตัวเองบ้างวะ เอาแต่อารมณ์เป็นที่ตั้งตลอด
“...Shit!!” อลันสบถอย่างขัดใจ แต่ก็ยอมเงียบลง แม้ว่าหน้าจะบึ้งอยู่ก็ตาม
“โทษที...ที่อลันก่อเรื่อง” ผมเอ่ยขอโทษทุกคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะ แต่พอหันไปมองหน้าคนที่อลันทะเลาะด้วยก็พบว่าเป็น...เพื่อนของจิน
เพื่อนของจิน...คนที่อยู่ในห้องพยาบาลเมื่อวาน
“อะ อืม” ผู้ชายคนนั้นพยักหน้าอย่างงงๆ คงจะงงว่าทำไมอลันถึงได้ยอมเงียบไปง่ายๆอย่างนั้น
“เอ่อ...คือ ดอมินิก ...นี่เพื่อนกูตอนมัธยม คนนี้ชื่อเซย์ ส่วนอีกคน...ไอ้จิน มึงจะยืนอีกนานป่ะวะ?” กริมเอ่ยขึ้น ก่อนจะเอ่ยถามจินที่ยืนอยู่ไม่ไกล
“ก็...ดูสถานการณ์ไง เผื่อประกาศเคอร์ฟิวจะได้เตรียมพร้อมทัน” จินว่าด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอย่างที่เจ้าตัวชอบทำ ก่อนจะนั่งลงข้างๆ ผู้ชายที่กริมบอกว่าชื่อเซย์
“กวนตีนนะมึง” เบสว่า ส่วนจินก็ทำเพียงยักคิ้วกลับไป
“แล้วนี่...” กริมเอ่ยขึ้นก่อนจะชี้ไปยังผู้ชายที่...หน้าโคตรจะหวาน ที่นั่งอยู่ข้างๆเซย์
“อ๋อ...เพื่อนกู เรียนคณะเดียวกัน ชื่อโป...เอ่อ...ชื่อนภัทร มันพึ่งย้ายมาจากรัสเซีย มันพูดไทยได้นะ แต่อาจจะฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง” จินเป็นคนแนะนำ บรรยากาศภายในโต๊ะเริ่มดีขึ้นเมื่อไม่มีคนมาทะเลาะขึ้นเสียงใส่กัน
“แล้วเรียนเป็นไงบ้างวะ แม่งไม่รู้ว่าตึกแต่ละคณะจะไกลอะไรนักหนา พวกกูกับพวกมึงเลยไม่ค่อยได้คุยกันเลย” ขินเอ่ยถามจิน
“ก็หนักดี กูยังเผลอหลับในห้องบ่อยๆเลย” จินว่าอย่างยิ้มๆ
“เหมือนกันเลยว่ะ กูแม่ง...บางวิชาก็โคตรจะไม่เข้าหัว” เบสว่าพลางทำสีหน้าเหมือนแบกโลกเอาไว้คนเดียว
“อ่ะ...”อยู่ๆจินก็ตักเป็ดย่างที่วางอยู่ในจานตรงหน้าเขามาให้ผม
“...ขอบคุณ” ผมเอ่ยขอบคุณเบาๆ
“ไม่เป็นไร” จินยิ้มให้จนตาหยี นับว่าเขากล้ามากที่ทำแบบนี้โดยไม่กลัวว่าอลันจะแหกปากโวยวาย
“คราวหลังไม่ต้อง น้องกู...กูดูแลเองได้” อลันว่าเสียงเข้มพลางจ้องตาจินเขม่ง ดูท่าจะลืมไปแล้วว่าคนที่ตัวเองควรจะมีเรื่องด้วยคือเซย์มากกว่า
“บังเอิญมันอยู่ใกล้กู...มากกว่า ก็เท่านั้น” จินเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ มุมปากคลียิ้มเล็กๆ ดูเหมือนว่าเขาแค่อยากจะแกล้งอลันเสียมากกว่าที่จะตั้งท่าจะมีเรื่องด้วย
“งั้นคราวหลังก็ไม่ต้องสะเออะ” อลันว่าอย่างกระแทกเสียงก่อนจะตั้งหน้าตั้งตากิน แล้วพอกริมชวนคุย เจ้าตัวก็หันไปเฮฮาเหมือนเดิม
“.....”ผมคีบเป็ดย่างนึงชิ้นเข้าปาก ก่อนจะเหลือบตามองคนที่ตักเป็ดย่างมาให้ พบว่าจินจ้องมองผมอยู่ก่อนแล้ว
“......” เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ยิ้มจนตาหยีให้ก็เท่านั้น
แปลกนะ ...ผมไม่ค่อยชอบคนเยอะๆ
แต่ว่า...วันนี้กลับไม่รู้สึกอย่างนั้นเลย
มีเพื่อนเยอะแยะเต็มโต๊ะมันก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกแย่สักเท่าไหร่ ถ้ายังมีคนที่นั่งตรงข้ามนี่...ยิ้มให้และคอยเทคแคร์
ผมว่า...มันก็ไม่ได้แย่นะ
**************************************************************
ช่ายๆ มีคนคอยเทคแคร์แบบนี้มันก็ไม่ได้แย่นะ ผมยังอยากมีเลย 55555555555555555555555
วันนี้มาไม่ค่อยดึก และจะพยายามไม่ลงหลังเที่ยงคืน เพื่อจะบังคับตัวเองไม่ให้นอนดึก (แต่ก็แว๊บไปอ่านนิยายเรื่องอื่นยันเช้าตลอด)
มีคำผิดก็ขออภัยแล้วช่วยบอกผมด้วยนะคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
FANPAGE
นี่แหละที่เขาเรียกว่า 'ความรัก'
เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว จบแล้ว
ซีรี่ย์ เผลอใจ ‘รัก’ หมดใจ
FANPAGE