แล้วก็รักเข้าจนได้ Vol. 18
“อืออออออออออ” ร่างเล็กเคลิบเคลิ้มกับสัมผัสแสนหวาน ที่ร่างสูงบรรจงมอบให้
เรียวแขนเล็กบาง ที่เคยดิ้นรนผลักไส ยกขึ้นโอบรัดรอบลำคอแกร่งหนานั้นอย่างเผลอไผล
เกรียงไกรเหลือบตามองร่างเล็กเบื้องล่าง
น่ารักจริงส้มเอ้ย............
ยอมง่าย ๆ อย่างนี้บ้างมันก็ดี.....
ไม่ใช่อะไร ๆ ก็ถีบ อะไร ๆ ก็หนี
จนเกรียงไกรเริ่มท้อแล้วเป็นบางครั้ง แต่สุดท้ายก็ฮึดสู้ต่อ ก็เพราะคนมันรักอะนะ
อยู่ด้วยกันมาหลายเดือน เจ้าส้ม ก็ทำเหมือนไม่รู้เรื่อง
ไม่สนใจ ว่าเขามาอยู่ด้วยเนี่ย ก็เพื่อมาตามง้อ เพราะว่าอยากให้ยกโทษให้
แกล้งเลียบ ๆ เคียง ๆ ถามหลายครั้งแล้ว
ว่าเลิกโกรธเรื่องนั้นหรือยัง
ส้มก็มองตาขวาง .......... ตัวเขาเองถึงจะอยากทำอะไรแผลง ๆ
อาทิเช่น ปล้ำส้มมันอีกสักครั้ง
ก็ไม่กล้า เพราะแค่คิดว่าเวลาส้มมันโกรธมันจะไม่พูด ไม่มอง ไม่สนใจ
แค่แอบหอมแก้ม
แอบจับมือ
แอบจับก้น
หนัก ๆ หน่อยก็จูบ .......... แต่ต้องทำตอนส้มเผลอ และถ้าดิ้น
ต้องทำให้เคลิ้ม...เพราะถ้ามันเคลิ้ม ส้มมันจะไม่รู้ตัว ไม่โวยวาย
และจะไม่โทษว่าเป็นความผิดของเขา
แหม สนุกตายล่ะ ทำยังกับเล่นเกมส์
เขาชอบอย่างหลังที่สุด แต่ก็ทำยากที่สุด
เพิ่งสามารถทำได้ สองครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่สาม
เพราะฉะนั้น ต้องทำให้ส้มมันรู้สึกดี จะได้ไม่ถูกโกรธ
และจะได้เห็นหน้าขาว ๆ สวยหวานของส้มเป็นสีแดงจัดเมื่อเขาผละออก
เป็นของแถม
เกรียงไกรแกล้งลากมือเข้าไปในเสื้อผืนบาง บีบเคล้นสัมผัสกับจุดเล็ก ๆ ภายใน
ในขณะที่ริมฝีปากยังคงครอบครองบดเบียดกับริมฝีปากอิ่มร้อนนั้น
ชายหนุ่มรับรู้ได้ รู้ว่าส้มชอบให้เขาจูบ และพอใจมาก แต่ไม่เข้าใจ
ทั้งที่ชอบขนาดนั้น ทำไมป่านนี้ยังไม่ยอมให้เขาทำ
ยังไม่ยอมให้แตะต้องร่างกาย
เขารักส้มมากขนาดนี้ อดทนมากที่สุดขนาดนี้
เมื่อไหร่ส้มจะเห็นใจสักที
“ฮ้า..........อะ....อื้อออออ” ร่างสูงแกร่งผละริมฝีปากออกอย่างแสนเสียดาย
หน้าที่ของเขาคือต้องพิสูจน์ให้ส้มเห็นให้ได้ว่าไม่ได้คิดจะหักหาญน้ำใจส้มเลยสักนิด
ขอแค่ได้สัมผัส ได้แตะต้องบ้าง แค่นี้ก็พอใจแล้ว
ร่างสูงทอดสายตามองร่างเล็กบาง
ที่ดวงตากลมโตค่อยหรี่ปรือขึ้นมองใบหน้าคมนั้น
และสิ่งที่ เขาอยากจะได้เห็น ก็ปรากฏตรงหน้า
ใบหน้าสวยหวานเป็นสีแดงเรื่อ
และลุกขึ้นตาม ขยับร่างไปจนสุดเตียง
ก้มหน้านิ่งไม่มองร่างสูงที่มองมาสักนิด
อีกแล้ว
ยอมไปอีกแล้ว ขุนไกรมันคงเห็นเป็นเรื่องสนุกที่ทำแบบนี้ได้ง่าย ๆ แน่ ๆ
“ส้ม..........นอนดีกว่านะ...เดี๋ยวเค้าไปนอนข้างนอกแล้ว...” น้ำเสียงอ่อนโยนแฝงความห่วงใย
ทำให้ สายสัมพันธ์เอนร่างลงอย่างว่าง่าย
และขุนไกรก็เอื้อมคว้าผ้าห่มมาคลุมให้
“ยังจะลืมตาอีก.....หลับตาได้แล้ว....จะตีสามแล้วนะ...นอนเร็ว ๆ เด็กดีเขาไม่นอนดึก อย่างนี้กันหรอกนะ” เกรียงไกรส่งยิ้มหวานละมุน
สิ่งที่เขาทำเริ่มเห็นผลแล้ว
ส้มไม่ค่อยกลัวเขามากเหมือนช่วงแรก ๆ ที่เขาเข้าหา
ตอนนั้นจำได้ว่า
ร่างเล็กเบื้องหน้า ทั้งร้องไห้
ทั้งตัวสั่น
บอกให้รู้ว่ากลัวมากแค่ไหน
และจะไม่ยินยอมให้อีกต่อไป
แต่วันนี้ เวลานี้
อย่างมากส้มก็แค่โมโห ไม่พูดกับเขา
แต่ท่าทางหวาดกลัวของส้ม
ลดลงมากกว่าครึ่งค่อนแล้ว
ถือว่าเขาทำสำเร็จ....ไปขั้นหนึ่ง
เฮ่ออออออออออ เหนื่อยเหมือนกันนะแบบนี้ อย่างว่าแหละ
ทำร้ายส้มมาเยอะ....ก็สมควรที่ต้องโดนกลับบ้าง
แต่เขาก็พอใจ และก็ไม่เคยคิดเบื่อเลย
แค่ได้อยู่อย่างนี้ อยู่ใกล้ ๆ ส้มแบบนี้ก็พอใจแล้ว
นี่เขารักคนน่ารักตรงหน้ามากขนาดไหนกันนะ แม้แต่ตัวเองก็ตอบไม่ได้เลย
เกรียงไกรเดินออกไปแล้ว และไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่านั้นอีก
ทั้งที่มีโอกาสแต่เขาก็ปล่อยไปได้ง่าย ๆ
สายสัมพันธ์นิ่งมอง
คนอย่างเกรียงไกร หาผู้หญิงสวย ๆ ได้อีกตั้งมากมาย
ไม่น่าต้องมาอดทน ทำอะไรอย่างนี้กับเขาเลยสักนิด
ลำบากลำบนอยู่กับเขาขนาดนี้ บ้านก็หลังเล็กนิดเดียว
ตื่นเช้ามาก็ให้ข้าวคุณปู่คุณย่า บางวันก็ทำกับข้าวให้กิน
เรื่องทำความสะอาดบ้าน ทำงานบ้านขุนไกรก็ทำได้หมด
ไม่เคยบ่นไม่เคยว่า เขาเองก็ไม่อยากเชื่อหรอก
ว่าไอ้คนบ้าที่เคยทะเลาะกัน เจ้าสำอางค์ เหมือนทำอะไรไม่เป็นนั่น
จะทำอะไรได้มากขนาดนี้
ปลุกให้ไปเรียนพร้อมกัน
ไปคอยรับคอยส่ง และยังยอมนอนที่โซฟาแคบ ๆ แบบนั้น
มาได้ตั้งนานสองนาน
เชื่อได้มั้ยนะ............จะยอมรับความรู้สึกของขุนไกรได้หรือเปล่านะ
แต่ไม่อยากที่จะต้องเสียใจอีก
ถ้าผูกพันกันแล้ว ก็กลัวว่าจะต้องมานั่งเสียใจ กลัวเป็นเหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ ของขุนไกร
***************************
วันเสาร์วันที่อากาศกำลังดี แดดอุ่น ๆ ท่ามกลางเสียงคลื่นทะเล
ทั้งสี่หนุ่มมาถึงที่พัก และจัดของใช้ให้เข้าที่ แต่มีสองคนที่ยังไม่ทำอย่างนั้น
“ไอ้หมู............กูจะนอนกับส้ม” เกรียงไกรยืนเถียงกับอเนก
“กูบอกว่าไม่ต้อง....กูไม่อยากได้ยินเสียงทะเลาะกันของพวกมึงเข้าใจมั้ย...กูรำคาญ” ร่างอ้วนท้วนตวาดกลับ
“กูไม่ทะเลาะ...กูสัญญา...กูไม่ทะเลาะจริง ๆ” เกรียงไกรยังคงเดินตามเซ้าซี้กับร่างอ้วน ๆ นั้นอยู่
“มึงไปถามไอ้ส้มเลย.....มันบอกแล้วว่ามันจะนอนห้องเดียวกับกู....” อเนกไม่มีทีท่าจะสนใจ
ห่าไกร มันจะอะไรนักหนาวะ กะอีแค่ เรื่องขี้ประติ๋วแค่นี้ โวยวายไปได้
เพราะนิสัยดื้อรั้นเอาแต่ใจนี่แหละ ถึงอยากจะดัดนิสัยมันบ้าง
“ส้มอยากนอนกับห้องเดียวกับกู....กูรู้...เหอะนะหมู...ให้กูนอนห้องไอ้ส้มเถอะนะ” เกรียงไกรงอแงเซ้าซี้เป็นเด็ก ๆ
เขาแกล้งกระซิบบอกส้มว่าให้นอนห้องเดียวกัน แต่ส้มปฏิเสธ ไม่ยอมทำตามที่เขาบอก
และยืนยันเสียงแข็งว่า---------ไม่------------- เขาเลยต้องมาวิงวอนขอร้องจากเพื่อนคนนี้
ที่คงจะเตี๊ยมกับส้มมาเป็นอย่างดี เขาขู่ส้มไปแล้ว ว่าถ้าไม่ยอมจะแอบเข้าหาตอนกลางคืน
แต่ส้มมองเขาตาขวางแล้วบอกว่า ถ้าทำจริง จะผูกคอตาย
คราวก่อนก็เห็น เอาเศษกระจก กรีดแขนตัวเองได้ เรื่องผูกคอตายเขาเชื่อว่าส้มทำได้แน่
แต่แบบนี้ไม่เอานี่ เขาจานอนห้องส้มมมมมมมม จานอนกับส้มมมมมมม อ่ะ
ไม่อยากให้ใครมาเห็นส้มเวลานอนหลับ ไม่อยากให้ใครเห็นส้มเวลาน่ารักขนาดนั้นนี่นา
ส้มอ่ะ ส้ม ส้ม ส้ม ส้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
*******************************
“ห่าไกร.....ลงไปนอนชักดิ้นชักงอแล้วมั้งนั่นน่ะ...” อาทิตย์หันมาคุยกับสายสัมพันธ์ที่หัวเราะออกมาเบา ๆ
“ก็เห็นเป็นแบบนี้ทุกที ถ้าไม่ได้อย่างใจ ก็ชอบร้องลั่น ดิ้นเร่า ๆ แบบนี้ทุกที” ร่างบางสนใจอยู่กับการค้นหาของในกระเป๋า ไม่ทันได้สังเกตว่าเพื่อนมองมาอย่างแปลกใจ
“ส้ม...พวกกูไม่ได้โง่หรอกนะ...แต่ก็ไม่อยากพูด....มึงสองคนมีอะไรหรือเปล่า..ไอ้ไกรมันถึงได้เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้” อาทิตย์มองมาอย่างเอาเรื่อง เป็นเพื่อนกันมานาน ถ้ามีอะไรไม่ยอมบอก
ก็คงโกรธเหมือนกัน ไม่ใช่สอดรู้สอดเห็น แต่เพราะเป็นห่วง
ขุนไกรมันเจ้าทิฐิจะตาย จู่ ๆ มันกลับตัวเป็นคนดีง่าย ๆ คนที่เขาห่วงก็คือไอ้ส้ม
“ปะ...เปล่า...ไม่มีอะไรอาร์ต....ไม่มีอะไรสักหน่อย” คำถามนั้นเล่นเอาสายสัมพันธ์ทำตัวไม่ถูก
ถึงแม้เวลาอยู่ด้วยกันสี่คน จะมีบ้างที่เขากับขุนไกร ยังต้องเล่นบททะเลาะกันอยู่
แต่ว่ามันดูเหมือนไม่จริงจังเหมือนเมื่อก่อน
จนเพื่อน ๆ สงสัย แม้จะมีข้ออ้างเป็นร้อยแปด แต่พวกนี้ก็คงไม่ทำใจเชื่อง่าย ๆ
“กูห่วงมึงนะส้ม.....มันก็ดีที่พวกมึงไม่ทะเลาะกันแต่ว่าอย่าให้มีอะไรแปลก ๆ เลย พวกกูคงรับไม่ค่อยได้เท่าไหร่....” อาทิตย์หยิบของใช้ออกมา พูดเรื่อย ๆ แต่ก็ส่งผลให้สายสัมพันธ์หุบปากเงียบลงไปอย่างถนัดตา
********************************
“ฉ้มมมมมมมมมมม ทามมายตัวเองม่ายนอนห้องเดียวกะเค้าอ่ะ” หลังจากที่หลบเพื่อนสองคนออกมายืนด้วยกันได้ มือแกร่งนั้นก็คว้าเอวบางเข้าหา กอดรัดไว้จากด้านหลัง
เวลาอยู่ต่อหน้าพวกนั้น ต้องทำเป็นทะเลาะกับส้ม เรื่องโน้นเรื่องนี้ เพราะไอ้พวกนั้นมันเริ่มสงสัย
ไม่ได้อยากปิดหรอก แต่เรื่องแบบนี้ คงทำใจรับกันได้ยาก
“อย่าบ้าได้มั้ย....ปล่อยมือนะ” สายสัมพันธ์รีบผละออก กลัวว่าอีกสองคนจะมาเห็นเข้า
“ส้มกลัวพวกนั้นรู้ใช่มั้ยเรื่องของเราอ่ะ” เกรียงไกรยอมปล่อยแต่โดยดี เดินตามร่างเล็กที่เดินไปบนหาดทรายที่ทอดยาว และไม่ได้ตอบคำถามของเขาสักคำ
“แต่เค้าอึดอัดจะแย่แล้ว....เค้าไม่อยากทะเลาะกับส้มแล้วนี่....ส้มมานอนห้องเค้าได้มั้ยล่ะ” เกรียงไกรเดินตาม ทำหน้าเศร้า ก็เขาไม่อยากให้ใครเห็นส้มจริง ๆ นี่
“จะบ้าหรือไง.....พวกนั้นก็ต้องสงสัยอยู่ดี.....ถ้ารู้ว่าทำตัวน่ารำคาญแบบนี้ไม่ต้องให้ตามมาก็ดีหรอก” สายสัมพันธ์แสดงทีท่าหยุดหงิดใจขึ้นมา ทำอะไรตามใจตัวเองตลอดเลยขุนไกร ถ้าพวกนั้นรู้ขึ้นมาจะว่าไงล่ะ
“ส้มกลัวไอ้หมูมันรู้อะดิ.....ส้มชอบไอ้หมูใช่มั้ยล่ะ.....ไกรอ่ะ...รักส้มขนาดนี้แล้วนะ
ไกรพยายามทำให้ส้มยกโทษให้แล้ว...แต่ส้มก็ยังไม่ยกโทษให้..แถมซ้ำ...ยังไปคุยจ๊ะจ๋ากับไอ้หมูอีก
ไม่อยากให้ไกรมาด้วยส้มก็บอกมาตรง ๆ ก็ได้”
เพราะความรู้สึกเป็นเหตุแท้ ๆ ที่ทำให้เกรียงไกรพูดไปอย่างนั้น ก็ส้มกับไอ้หมู เป็นเพื่อนรักกันมาก จนเขาแทรกกลางไม่ได้
รู้ว่าไอ้หมูไม่ได้คิดอะไร แต่ส้มล่ะ เขาไม่เคยถามส้มเลย ว่าส้มคิดยังไง เขาหึง เขาหวง
แต่ส้มไม่เคยเข้าใจเลย
“อย่าว่าหมูมันอย่างนั้นนะ.........ทำไมชอบให้คนอื่นมาเกี่ยวข้องด้วยอ่ะ” สายสัมพันธ์นึกโกรธ
ทำไมเป็นคนไม่มีเหตุผลอย่างนี้ ไม่เข้าใจกันบ้างหรือยังไง
“อ๋อ........เห็นมั้ยล่ะ....แตะไม่ได้จริงด้วย.....ส้มชอบมันจริง ๆ แหละ...คงรำคาญไกรมากล่ะสิ
ที่มาทำลายมาเป็นตัวกีดขวางส้มแบบนี้” ความรู้สึกน้อยใจประเดประดังถาโถม
จนทำให้ร่างสูงต้องพูดแบบนั้นออกไป
เกรียงไกรเดินผละหนี ออกมา
เออ.........เขามันเลวเอง
เขามันผิดเองที่รักส้ม
ผิดเองที่ไม่ถามว่าส้มคิดยังไง
เขามันผิดจริง ๆ นั่นแหละ
ร่างบางยืนนิ่ง ไม่ได้ตามไปอธิบาย
ถ้าอยากโกรธขนาดนั้น
ถ้าอยากไม่มีเหตุผลขนาดนั้นก็ตามใจ เขาพยายามแล้ว ทำให้มันดีขึ้นก็เพื่อตัวเขา
และเกรียงไกรเอง แต่ดูเหมือน เกรียงไกรจะไม่เข้าใจเอาเสียเลย
********************************