Poor Boy 20 End
“อ๊ะ! ปล่อยผมนะ!!” สไมล์ร้องออกมาทันทีที่หนึ่งกระชากเข้าไปปะทะแผงอกก่อนที่อีกคนจะกอดเอวบางเอาไว้
“หึๆ สไมล์หนีพี่ไปไหนไม่ได้หรอก” หนึ่งว่าก่อนจะหอมแก้มสไมล์ไปฟอดใหญ่สไมล์พยายามดิ้นรนจากอีกคนแต่เพราะขนาดตัวที่เล้กกว่าและเรี่ยวแรงที่มีไม่เท่าอีกคนทำให้สไมล์ไม่สามารถดิ้นหลุดได้
“อย่าดิ้นน่า เป็นเด็กดีกับพี่แล้วสไมล์จะมีความสุขกับมัน” หนึ่งว่าเสียงหื่นพร้อมกับพยายามซุกไซ้ซอกคอขาวของอีกคน สไมล์ใช้มือทุบตีอีกคนอย่างแรงด้วยความรังเกียจแต่มีหรือที่หนึ่งจะยอมผละออก ยิ่งได้กลิ่นหอมอ่อนๆจากอีกคนแบบนี้ก็ยิ่งอยากจะสัมผัสมากขึ้น เขาไม่รู้หรอกว่าร่างบางกับน้องชายจะลึกซึ้งกันไปถึงขั้นไหนแต่ยังไงสไมล์ก็ต้องเป็นของเขา เขาต้องได้เชยชิมอีกคน
“ปล่อยผมนะพี่หนึ่ง อย่าทำอะไรบ้าๆนะ!!” สไมล์ร้องโวยวายเสียงดังเมื่อร่างสูงพาดเขาขึ้นบ่าก่อนจะพามาในห้องนอนทันที ร่างบางถูกโยนลงเตียงนอนก่อนที่จะถูกอีกคนขึ้นคร่อม
“อย่าดื้อน่า อย่าทำให้พี่ต้องโมโหสิสไมล์” หนึ่งว่าเสียงติดดุ
“แต่พี่หนึ่งกำลังจะรังแกผม พี่คิดว่าผมจะยอมให้พี่ง่ายๆหรือไง!” สไมล์ว่าด้วยความไม่พอใจ
“แล้วทีไอ้สามล่ะ! ทำไมสไมล์ยอมมัน! สไมล์จำไม่ได้หรือไงว่ามันทำเลวใส่สไมล์แค่ไหน สไมล์ลืมไปแล้วหรือไง!!” หนึ่งโวยวายใส่หน้าสไมล์ด้วยความไม่พอใจทั้งๆที่เขาทำดีกับอีกคน ดูแลอีกคนอย่างดี ทำตัวเป็นพระเอกมาตลอดแล้วทำไม...ทำไมสไมล์ถึงเลือกไอ้สาม คนที่คอยทำร้ายตัวเองมาตลอด
“ผมไม่เคยลืม แล้วก็ไม่เคยลืมว่าพี่หนึ่งดีกับผมขนาดๆไหนแต่ทำไม...ทำไมถึงเป็นแบบนี้” สไมล์ว่าด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง ตากลมสั่นระริกจนหนึ่งหัวใจกระตุก
“พี่หนึ่งบอกว่ารักผมแต่พี่หนึ่งกลับทำร้ายเมาส์ซึ่งเป็นเพื่อนของผม พี่หนึ่งบอกว่ารักผมแต่พี่หนึ่งกลับจะข่มขืนผม นี่มันคือความรักจริงๆเหรอ?” สไมล์ถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง หนึ่งชะงักไปกับคำถามของอีกคน ตาคมสั่นไหวจนสไมล์สังเกตเห็นได้
“ก็ในเมื่อพี่ไม่ได้หัวใจของสไมล์ พี่ก็ต้องได้ตัวของสไมล์ไง ในเมื่อสไมล์รักไอ้สามไปแล้ว ในเมื่อสไมล์ให้หัวใจไอ้สามไปแล้ว แล้วคนอย่างพี่จะเหลืออะไรล่ะ” หนึ่งว่าออกมาด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด แม้ว่าความชั่วในตัวจะบอกว่าให้ทำสไมล์ให้เป็นของตัวเองซะแต่อีกใจก็รู้สึกว่ามันไม่สมควร ในหัวของเขาตอนนี้ตีกันพันยุ่งเหยิงไปหมด
“งั้นแปลว่าพี่หนึ่งไม่ได้รักผมจริง พี่หนึ่งแค่อยากเอาชนะสามก็เท่านั้น” สไมล์ว่าเพื่อเตือนสติหนึ่ง หนึ่งชะงักไปทันทีทำท่าจะปฏิเสธออกมาแต่กลับพูดไม่ออก
“ถ้าพี่หนึ่งคิดว่าถ้าทำผมให้เป็นของพี่หนึ่งแล้วพี่หนึ่งจะเอาชนะสามได้ พี่หนึ่งก็ทำเลยครับ ผมจะไม่ขัดขืน” สไมล์ว่าต่อก่อนจะหลับตาลง แม้ว่าในใจจะหวั่นกลัวแค่ไหนแต่ก็ต้องยอมเสี่ยง เขายังคงเชื่อว่าพี่หนึ่งไม่ได้เลวขนาดที่ว่าจะคิดไม่ได้ บางทีสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้มันอาจจะเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบ เขาเชื่อแบบนั้น
พรึ่บ
“ไปซะ” หนึ่งถอนหายใจก่อนจะผละออกจากสไมล์มายืนที่ปลายเตียง สไมล์ค่อยๆลืมตาขึ้นมามองอีกคน สไมล์ค่อยๆลุกออกจากเตียงก่อนจะเดินไปที่ประตูหน้าห้อง
“พี่ไม่เคยอยากเอาชนะสาม” หนึ่งพูดขึ้นทำให้สไมล์ชะงัก
“พี่รักสไมล์ ไม่ว่าจะให้พี่ทบทวนความรู้สึกอีกกี่ครั้งพี่ก็ยินยันว่ารักสไมล์” หนึ่งว่าต่อด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด สไมล์รู้สึกใจกระตุกไม่น้อยกับน้ำเสียงของอีกคนเพราะมันช่างเจือปนไปด้วยความเจ็บปวดจริงๆ สไมล์ค่อยๆหันกลับไปมองหนึ่งก็พบว่าตาคมหลั่งน้ำตาลงมาซึ่งเป็นน้ำตาของลูกผู้ชายที่สไมล์เคยเห็นครั้ง
“แต่ถ้าพี่ทำสไมล์ นอกจากสไมล์จะไม่รักพี่แล้ว ก็คงยังจะเกลียดพี่อีกเพราะฉะนั้น...ไปซะ”
พรึ่บ
หนึ่งเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่ออยู่ๆสไมล์ก็เดินกลับเข้ามาโผกอดตัวเอง
“ขอโทษนะครับ ขอโทษที่รับความรู้สึกของพี่หนึ่งไม่ได้” สไมล์ว่าออกมาด้วยน้ำเสียงเจ็บปวดเช่นเดียวกัน
ปัง!
เสียงถีบประตูดังขึ้นก่อนที่ร่างสูงของใครบางคนจะเข้ามาทันที สามชะงักเมื่อเห็นว่าคนที่เขากำลังเป็นห่วงกำลังกอดอยู่กับพี่ชายของตัวเอง
“กลับไปเถอะ” หนึ่งค่อยๆดันสไมล์ออกก่อนจะหันไปมองหน้าน้องชายของตัวเอง
“ฝากสไมล์ด้วย” หนึ่งพูดขึ้นก่อนจะจับมือสไมล์ไปจับเข้าที่มือของน้องชายตัวเองก่อนจะเดินออกไปโดยที่สามไม่ทันจะได้ทักท้วงอะไร ตาคมหันกลับมามองร่างบางข้างกายทั้งเป็นห่วงและรู้สึกสับสนไปหมด ทำไมอยู่ๆสองคนถึงกอดกันแล้วทำไมอยู่ๆพี่หนึ่งถึงยอมง่ายๆ
“กลับกันเถอะ” สไมล์พูดขึ้น สามพยักหน้ารับก่อนจะพาอีกคนกลับคอนโดทันที...พอกลับมาถึงคอนโดบรรยากาสในห้องก็ตกอยู่ในความเงียบก่อนที่สามจะถอนหายใจออกมาแล้วเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน
“มีอะไรจะพูดมั้ย?”
“อยากรู้อะไรล่ะ?” สไมล์ถามกลับ
“ทุกเรื่อง”
“ผมกับพี่หนึ่งเราเคลียร์กันแล้ว ก็ยังดีที่พี่หนึ่งไม่ได้ใจร้ายพอที่จะทำร้ายผม”สไมล์ตอบออกมา
“แล้วทำไมต้องยืนกอดกันด้วยวะ” สามถามในสิ่งที่ข้องใจที่สุด
“แล้วทำไมถึงกอดกันไม่ได้ล่ะ”
“ก็มึง...” สามชะงักเพราะก็ยังหาเหตุผลมาตอบกับคำถามนี้ไม่ได้
“คุณกลับไปได้แล้ว ผมอยากพักผ่อน” สไมล์พูดขึ้นพร้อมทำท่าจะลุกเข้าไปในห้องนอนแต่สามไม่ยอม ร่างสูงมาดักหน้าร่างบางไว้ก่อน
“ยังไม่จบ ช่วงนี้มึงหลบหน้ากูทำไม” สไมล์กัดปากกับคำถามของอีกคน
“เพราะม๊ากูงั้นเหรอ?” สามพูดต่อ
“จะเพราะอะไรก็ช่างเถอะ แต่ผมคิดว่าเราไม่น่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกันตั้งแต่แรกแล้วนี่” สไมล์ว่าแม้ว่าสิ่งที่พูดออกมาจะตรงข้ามกับสิ่งที่หัวใจตัวเองต้องการก็ตาม บางทีเรื่องของหัวใจมันก็เข้าใจยากเกินไปว่ามั้ย?
“ทำไมจะไม่เกี่ยววะก็มึงกับกู!...” สไมล์มองหน้าอีกคนอย่างคาดหวังคำตอบสามกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
“...ก็มึงกับกู...พนันกันอยู่” ตากลมวูบไหวไปทันทีกับคำตอบของอีกคน
“งั้นก็ยกเลิก ผมไม่อยากเล่น ไม่อยากสนุกแล้ว ต่างคนต่างอยู่เถอะ ถือว่าผมขอ” สไมล์ว่าด้วยน้ำเสียงจริงจัง อวัยวะในหน้าอกด้านซ้ายรู้สึกเจ็บหน่วงๆแปลกๆ
“กู...”
“ถือว่าผมขอ...เราต่างคนต่างอยู่เถอะนะ”...หลังจากที่ออกมาจากห้องของสไมล์ สามก็กลับคอนโดทันที ร่างสูงทิ้งตัวลงนินพร้อมยกมือขึ้นมาก่ายหน้าผากด้วยความเครียด แบบนี้มันดีแล้วจริงๆเหรอ? ต่างคนต่างอยู่มันดีแล้วจริงๆใช่มั้ย แต่ทำไมหัวใจของเขามันถึงเจ็บปวดขนาดนี้กันนะ...เวลาผ่านไป...สามไม่ได้นับวันนับเดือนเลยว่านานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้เจอสไมล์ แต่ถึงจะไม่ได้เจอในหัวของเขาก็มีแต่ภาพอีกคนวนเวียนเข้ามาไม่ขาดสายจนวันนี้เขาไม่สามารถทนต่อไปได้อีกแล้ว เขาจะปล่อยให้ตัวเองเป็นแบบนี้ไม่ได้แล้ว
“อ๊ะ” สไมล์ผงะอย่างตกใจพร้อมกับดวงตากลมที่เบิกขึ้นเมื่อเจอสามมาอยู่ที่หน้าตึกคณะ หลังจากที่ไม่ได้เจอกันเกือบสามเดือน
“พี่เขามาหาแกเหรอ” ผิงถามขึ้น เพราะหลังๆมานี้ก็ไม่ได้เจอหนุ่มหล่อที่มาจีบเพื่อนสนิทอีกเลย ส่วนเมาส์หลังจากที่เกิดเรื่องวันนั้นก็ไม่กล้าสู้หน้าสไมล์ สไมล์จึงเป็นฝ่ายเข้าไปคุยและบอกจากใจว่าไม่ได้โกรธเมาส์ เมาส์บอกว่าตัวเองเลิกติดต่อกับพี่หนึ่งไปแล้ว สาเหตุก็เพราะทั้งรู้สึกผิดต่อสไมล์และรู้สึกเจ็บปวดหัวใจที่รักคนที่ไม่ได้รักตัวเองแถมยังโง่ให้เขาหลอกใช้ ดังนั้นสไมล์ ผิง เมาส์จึงกลับมาเป็นเพื่อนรักกันดั่งเดิม
“ไม่หรอก คงมาหาคนอื่น” สไมล์ตอบพร้อมกำลังจะเดินไปเพื่อนๆแต่สามก็มาดักหน้าเอาไว้
“ไปด้วยกันหน่อย” สามคว้าแขนสไมล์เอาไว้พร้อมพูดขึ้น
“จะไปไหน ผมไม่ไปนะ” สไมล์ทำท่าประค้วงแต่สามไม่ยอม ร่างสูงพาอีกคนมาที่รถก่อนจะจับอีกคนขึ้นรถแล้วออกรถทันที
“คุณจะพาผมไปไหน”
“ไปบ้านกู” สไมล์เบิกตากว้างอย่างตกใจทันที
“ผมไม่ไป จอดรถนะ ผมบอกให้จอดไง!” สไมล์ว่าเสียงดังพร้อมกับพยายามยื้อพวงมาลัยรถของสามเอาไว้ทำให้สามต้องเลี้ยวเข้าข้างทางทันที
เอี้ยดดดดดด
“อยากตายหรือไง!!” สามว่าเสียงดัง
“ก็ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่ไป บอกแล้วไงให้ต่างคนต่างอยู่ เกมส์พนันมันจบไปแล้ว” สามถอนหายใจออกมากับคำพูดของอีกคน
“แล้วถ้ากูไม่จบล่ะ ถ้าสิ่งที่กูทำอยู่มันไม่ใช่เกมส์พนัน มันเป็นความรู้สึกกูจริงๆล่ะ” สไมล์ชะงักทันทีกับคำพูดของอีกคน ตากลมสั่นระริกไปหมด
“กูไม่รู้หรอกนะว่าแม่งเป็นแบบนี้ได้ยังไง ทั้งๆที่กูต้องเกลียดมึงแต่กู...กู...”สไมล์มองหน้าสามอย่างคาดหวังคำตอบ
“กูรักมึง” สามคำสั้นๆทำเอาโลกทั้งใบของสไมล์หยุดหมุนไปทันที หอวัยวะในหน้าอกด้านซ้ายเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมา สไมล์ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำหน้าอะไรอยู่ตอนนี้แต่ที่รู้ๆคือมันต้องตลกมากแน่ๆ
“ผม...”
“มึงก็รักกู ใช่มั้ยล่ะ?”
“ความรู้สึกของผมจะเป็นยังไงมันก็ไม่สำคัญเท่ากับว่าแม่ของคุณคงไม่ยอมรับเรื่องนี้หรอก เพราะฉะนั้นปล่อยให้มันผ่านไปเถอะ” สไมล์ว่าด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง พอนึกถึงตรงนี้ก็ยิ่งรู้สึกเจ็บทั้งๆที่เมื่อกี้พึ่งหัวใจเต้นแรงเพราะคำบอกรักของอีกคน แต่พอนึกถึงความเป็นจริงแล้ว...เรารักกันไม่ได้
“ไม่! กูไม่ยอม!” สามว่าอย่างเอาแต่ใจ
“คุณก็รู้ว่าเรื่องของเรามันเป็นไปไม่ได้ เรารักกันไม่ได้!” สไมล์เองก็ตะโกนกลับมา
“แค่มึงรักกู กูรักมึงก็พอ คนอื่นไม่มีสิทธิ์ตัดสิน!!”
“แต่คนอื่นที่ว่าก็คือแม่ของคุณ!” บรรยากาศบนรถตกอยู่ในความเงียบอีกครั้งสามถอนหายใจออกมาก่อนจะออกรถ
“คุณจะไปไหน”
“กูจะพามึงไปหาม๊า”...สไมล์รู้สึกเกร็งไม่ใช่น้อยที่กลับมาที่บ้านของอีกคนอีกครั้ง ภาพวันวานเก่าๆย้อนกลับคืนมาในหัวทั้งที่มีความสุขและมีความทุกข์ไปพร้อมๆกัน
“สไมล์”
“ลุงนที!” สไมล์ยิ้มกว้างทันทีที่เจอบุคคลที่เขารักและเคารพ สไมล์รีบเข้าไปโผกอดลุงนทีด้วยความคิดถึงซึ่งนทีเองก็เช่นกัน
“เป็นไงมายังไง ทำไมถึงมากับเจ้าสามล่ะ” นทีถามพร้อมหันไปมองลูกชาย
“ป๊าครับ ผมจะคบกับสไมล์” ทั้งสไมล์และผู้เป็นพ่อเบิกตากว้างอย่างตกใจทันทีกับคำพูดของสาม
“วะ...ว่าไงนะ”
“ผมกับสไมล์เรารักกัน” สามตอบ นทีหันมามองหน้าไสม,ทันทีก็เห็นว่าสไมล์ก้มหน้าก้มตาก็แปลว่าสิ่งที่ลูกชายพูดคงเป็นความจริง
“ป๊าจะไม่ถามหรอกนะว่าเป็นไงมายังไง แต่ป๊าของสั่งเลยว่าสไมล์ก็เหมือนลูกของป๊าอีกคนเพราะฉะนั้น...”
“แกมาที่นี่ทำไม!!” เสียงอขงคุณผู้หญิงของบ้านดังขึ้นพร้อมกับแม่ของสามที่เดินเข้ามาหาสไมล์ทันที
“ผมเป็นคนพาสไมล์มาครับม๊า”
“ทำไม? หมายความว่ายังไง”
พรึ่บ
อยู่ๆสามก็คุกเข่าลงกับพื้นต่อหน้าผู้เป็นแม่ซึ่งสร้างความตกใจให้ผู้เป็นพ่อ แม่และสไมล์อย่างมาก
“ผมรักสไมล์ อนุญาตให้เราได้คบกันนะครับม๊า” ผู้เป็นแม่เบิกตากว้างด้วยความตกใจทันที
“ทะ...ทำไม...”
“ผมไม่เคยขออะไรม๊ามาก่อน ครั้งนี้ผมขอจริงๆ ผมรักสไมล์” สามว่าพร้อมมองหน้าผู้เป็นแม่อย่างจริงจัง สไมล์เห็นอีกคนทำแบบนั้นก้คุกเข่าลงอีกคน
“ผม...ผมอาจจะทำให้คุณผู้หญิงเกลียด ทำให้คุณผู้หญิงไม่พอใจแต่ผม...เอ่อ...ผมรักสามครับ” สามหันไปมองหน้าสไมล์ทันที ตาคมสบเข้ากับตากลมอย่างลึกซึ้งจนสไมล์รู้สึกเขินขึ้นมาแปลกๆ
“ไม่! ฉันไม่ยอม! แกจะคบกับใครที่ไหนก็ได้แต่ต้องไม่ใช่มัน!!” คุณผู้หญิงของบ้านโวยวายเสียงดัง
"อย่าทำแบบนี้นะคุณหญิง!!! " ผู้เป็นสามีพูดขัดขึ้นด้วยความไม่พอใจ
“แต่เด็กนี่มัน....”
“เรื่องในอดีตมันไม่เกี่ยวกับสไมล์เลิกสักนิด...สามสไมล์ลุกเถอะ ป๊าอนุญาตส่วนม๊าปล่อยคนอคติคนนี้ไปเถอะ” พูดจบผู้เป็นประมุขของบ้านก็เดินเข้าบ้านไปทันทีก่อนจะถูกผู้เป็นภรรยาเดินตามเข้าไป สามกับสไมล์ลุกขึ้นก่อนจะหันมามองหน้ากัน
“วันนี้ม๊าไม่ยอมกูเชื่อว่าต่อไปม๊าจะใจอ่อน” สามว่าพร้อมเอามือสไมล์มาจับไว้
“แล้วถ้าแม่ของคุณไม่ยอมล่ะ?”
“ถึงอย่างนั้นกูก็ไม่เลิกกับมึงหรอก รักไม่ได้ก็เป็นไรแค่ได้รักก็พอ” สไมล์คลี่ยิ้มทันทีกับคำพูดของอีกคน
“นั่นสินะ...รักไปแล้ว”
End
จบแล้วจ้า!!!!!!! เป็นเรื่องที่ใช้เวลายาวนานเหมือนกัน 5555555 ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันมาตลอดนะคะ เนื้อเรื่องอาจจะน่าเบื่อ ไม่น่าสนใจแต่ก็ยังติดตามกันขอบคุณจากใจจริงค่า ยังไงก็ฝากติดตามเรื่องสุดท้ายของเซตด้วยนะคะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55595.0___จางบิวตี้___