Poor Boy…รักไม่ได้ [Yaoi Boy’s Love] อัพตอน20 (12/09/59) End
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Poor Boy…รักไม่ได้ [Yaoi Boy’s Love] อัพตอน20 (12/09/59) End  (อ่าน 61480 ครั้ง)

ออฟไลน์ everlastingly

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :pig4: ลูกนิสัยไม่ดี พ่อแม่ก็ต้องอบรมตำหนิเป็นสิ่งที่ถูกแล้ว ยิ่งไปทำร้ายคนอื่นยิ่งไปกันใหญ่ เบ้ปากใส่อิสามปากเสีย ปากคอเลาะร้ายมาก รออ่านตอนต่อไปนะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
อยากให้สไมลล์ผ่าตัด แล้วเดินได้
สาม จะเห็นสไมลล์เปลี่ยนไปมั้ย จะหลงเสน่ห์มั้ย
หรือ ยังหาว่า ร่าน อ่อย
ทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายไปจูบ ไปใกล้ชิดเขาก่อนทั้งนั้น
ตัวเองทำตัวเลวกับคนที่ทั้งอ่อนแอ ทั้งพิการ แท้ๆ

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
ร้องไห้ตาม

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
พึ่งเข้ามาอ่าน ก็เข้าใจอีแม่นะว่าเกลียด แต่อีลูกเนี่ย สมควรคิดได้เองป่ะไม่ใช่แม่ว่าไง ก็ว่าตามนั้น สไมล?น่าสงสารมาก เมื่อไหร่จะได้ผ่าตัดซะทีหล่ะเนี่ย จะได้ออกจากบ้านนีซะที

มาเป็นกำลังใจให้นะครับ หวังว่าเรื่องนี้คงไม่จบแบบเรื่องของน้องเทียนนะคร้าบบบ  :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Poor Boy 2

( Grammar x Song )

 

        แม้ว่าจะผ่านมาหลายวันแล้วแต่แกรมม่าก็ยังไม่ลืมใบหน้าของใครบางคนที่ดึงดูดใจเขาไม่ใช่น้อย ตาเรียวเฉี่ยวคมที่มีเสน่ห์รับกับใบหน้าขาวใส ร่างกายบอบบางต่างจากสามเพื่อนของเขาที่เป็นน้องชายอย่างมากแต่ถึงยังไงเขาก็ตกลงกับเพื่อนว่าจะไม่ยุ่งแต่ถ้าเจออีกคนอีกครั้งมันก็ไม่แน่ เคยได้ยินมั้ยไม่มีสัจจะในหมู่เพลย์บอย หึๆวันนี้แกรมม่ามาเดินห้างสรรพสินค้าสุดหรูใจกลางเมืองกับคู่ควงที่พึ่งตกได้เมื่อคืนหญิงสาวแก่กว่าเขาสองปี หน้าตาสวยและหุ่นดี อกเป็นอก เอวเป็นเอวตรงสเปคเขาทุกอย่าง



          “พี่อยากดูหนังอ่ะแกรมม่าเราไปดูกันนะ” การ์ตูนว่าอย่างออดอ้อนร่างสูงที่พึ่งมีสัมพันธ์กับเธอเมื่อคืน



          “ผมไม่ชอบดูหนังอ่ะดิ” แกรมม่าว่า ความจริงไม่ใช่ไม่ชอบหรอกแต่แค่เริ่มเบื่อหญิงสาวข้างกายขึ้นมาล่ะ ทั้งๆที่เมื่อคืนก็ดู

ไม่ค่อยอะไรนะแต่พอตอนเช้าที่ออดอ้อนจะเอานั่นจะเอานี่ จะทำนั่นจะทำนี่



          “ทำไมล่ะ ไปดูกันเถอะนะๆๆ มีหนังเข้าใหม่เยอะเลย” การ์ตูนยังคงเซ้าซี้ต่อ แกรมม่าเริ่มขมวดคิ้วแต่ก่อนที่จะได้พูดอะไรออกไปตาคมก็เหลือบไปเห็นคนที่คุ้นเคยกำลังเดินซื้อของอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ปากหนาคลี่ยิ้มทันทีอย่างพึงพอใจก่อนจะใช้มือหนาแกะมือของหญิงสาวออกจากแขน



          “ถ้าพี่อยากดูพี่ก็ไม่ดูคนเดียวนะครับ” แกรมม่าว่า การ์ตูนทำหน้าไม่พอใจ



          “ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ!” การ์ตูนเริ่มเสียงดัง



          “ผมว่าพี่เริ่มทำตัวน่าเบื่อ เพราะฉะนั้นอย่ามาติดต่อกันอีกเลยครับ ลาล่ะ”   แกรมม่าว่าก่อนจะเดินออกไปทันที หญิงสาวทำหน้าเหวอกับประโยคเห็นแก่ตัวของร่างสูงแต่ก็ทักท้วงไม่ทันทำได้แต่เพียงกรีดร้องในใจอย่างอดกลั้นเท่านั้น...ทางด้านแกรมม่าเมื่อสลัดหญิงสาวได้แล้วร่างสูงก็เดินมายังร้านเสื้อผ้าแบรนด์หรูที่มีร่างบางของอีกคนอยู่ข้างในกำลังเลือกเสื้อผ้าอยู่ แกรมม่าทำเป็นเดินเลือกเสื้อผ้าบ้างก่อนจะค่อยๆเขยิบๆไปใกล้ๆอีกคนที่ยังไม่รู้ตัวว่าเขายืนอยู่ข้างๆ



          “บังเอิญจังเลยนะ” เสียงทุ้มว่า ทำให้สองชะงักในการเลือกเสื้อมามองอีกคนทันที



          “นาย” สองขมวดคิ้วเมื่อเจออีกคน



          “ผมก็มีชื่อนะคร้าบเรียกให้มันถูกๆหน่อย แกรมม่าว่าขำๆ



          “ฉันไม่รู้ชื่อนาย” สองว่าก่อนจะเดินหนีไปทางราวเสื้อผ้าอื่นและแกรมม่าก็เดินตาม



          “พูดแบบนี้แปลว่าอยากรู้ชื่อผม” สองหันขวับมามองอีกคน



          “ใครอยากรู้ชื่อนายมิทราบ” สองว่าก่อนจะเดินหนีต่อและแกรมม่าก็ยังคงเดินตาม



          “นี่จะเดินตามฉันทำไมฮะ!”



          “ผมไม่ได้เดินตามนะ ผมก็เลือกเสื้อผ้า” แกรมม่าว่าพร้อมชุเสื้อหนึ่งตัวในมือสองมองอย่างขัดใจก่อนจะเอาเสื้อสองตัวในมือไปที่เคาน์เตอร์เพื่อคิดเงิน



          “สามตัวครับ นี่การ์ด” แกรมม่าว่าพร้อมกับยื่นการ์ดดำให้กับพนักงาน สามหันไปมองอีกคนอย่างไม่พอใจเพราะเสื้อสามตัวที่อีกคนว่าคือของเขาสองตัวและของอีกคนหนึ่งตัว



          “ฉันซื้อเองได้” สองว่าพร้อมกับยื่นการ์ดของตัวเองให้กับพนักงาน พนักงานทำหน้างุนงงว่าจะทำอย่างไรดี



          “เอาการ์ดของผมนั่นแหละครับ ช่วงนี้แฟนผมงอนๆน่ะครับไม่ค่อยอยากใช้การ์ดผม” แกรมม่าบอกกับพนักงาน สองทำตาโตทันที



          “ใครแฟนนาย เอาการ์ดของผมครับ ผมกับหมอนี่ไม่รู้จักกัน” สองว่าพร้อมยื่นการ์ดแต่แกรมม่าไม่ยอมดึงการ์ดของอีกคนไปไว้กับตัวเองก่อนจะหันไปสั่งพนักงาน



          “คิดเงินเลยครับ” พนักงานพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มนิดๆเพราะคิดว่าคงเป็นคู่แฟนที่งอนๆกันอยู่จริงๆ สองหน้าหงิกหน้างอใส่อีกคนจนพนักงานดำเนินการเสร็จสิ้นทั้งคู่ก็เดินออกจากร้านกัน



          “เอาการ์ดผมมา” สองว่า แกรมม่าก็คืนให้แต่โดยดีและยื่นถุงเสื้อผ้าของอีกคนให้ด้วย



          “ฉันไม่รับ นายจ่ายเงิน มันก็เป็นของนาย” สองว่า แกรมม่าขำๆนิดๆกับท่าทางของอีกคน



          “พี่ดูขนาดตัวผมกับพี่ด้วย ให้ผมเอาไปใส่เป็นเอวลอยหรือไง” แกรมม่าว่าขำๆ



          “นั่นมันก็เรื่องของนายแล้วไม่ต้องเดินตามฉันมาด้วย” สองว่าพร้อมเดินหนีแต่แกรมม่าก็ไม่วายที่จะเดินตามอีกคน



          “นายจะเอายังไงกันแน่เนี่ย!” สองโวยวาย



          “ไม่เอายังไง แค่อยากรู้จักพี่” แกรมม่าว่าแสร้งทำหน้าตาเศร้าสร้อยเต็มประดาสองขมวดคิ้ว



          “ฉันสองเป็นพี่ชายของสาม พอใจหรือยัง” สองว่า



          “ผมแกรมม่านะแต่สำหรับพี่ให้เรียกแกรมเฉยๆได้เลย” แกรมม่าว่ายิ้ม



          “รู้จักกันแล้วก็แยก ทางใครทางมัน” สองว่าแต่ไม่ทันจะได้เดินไปมือหนาก็คว้าข้อมือของเขาไว้ก่อน



          “ไปกินข้าวกัน” แกรมม่าชวน



          “ไม่” สองปฏิเสธอย่างไม่ต้องคิด



          “ไม่ดื้อดิพี่”



          “ใครดื้อ นายนั่นแหละอะไรกับฉันนักหนา” สองว่าอย่างหัวเสีย



          “ก็บอกว่าอยากรู้จักพี่ไง นะๆๆ ไปกันเถอะนะ” สองกัดปาก แกรมม่าไม่รอให้อีกคนตอบตกลงก็เนียนเดินจับมืออีกคนมายังร้านอาหารสุดหรูทันที สองตอนแรกก็ทำท่าจะปฏิเสธแต่เขาเองก็หิวๆเหมือนกันเพราะไม่ได้กินอะไรตั้งแต่บ่ายนี่ก็เย็นแล้วด้วย



          “ร้านนี้โอเคนะ” แกรมม่าหันมาถาม สองพยักหน้าก่อนที่ทั้งคู่จะเดินไปยังตะนั่งที่พนักงานจัดไว้ให้



          “มื้อนี้ผมเลี้ยง” แกรมม่าพูดขึ้นขณะที่อาหารมาเสิร์ฟ



          “ไม่ ฉันเลี้ยงเอง” แกรมม่าเลิกคิ้วอย่างแปลกใจกับคำพูดของอีกคน



          “ก็นายออกเงินค่าเสื้อให้ฉันเพราะฉะนั้นฉันจะจ่ายค่าอาหารเอง จะได้หายๆกันซะ” สองว่า



          “ตกลงรับเสื้อที่ผมซื้อให้แล้ว?” แกรมม่าเลิกคิ้วถาม



          “หรือนายจะเอาไปใส่เป็นเอวลอยก็แล้วแต่” สองเชิดปากใส่ แกรมม่าหัวเราะเบาๆกับท่าทางน่ารักๆของอีกคนก่อนที่ทั้งคู่จะลงมือกินอาหารกันอย่างเงียบๆแต่ตาคมก็ไม่วายมองสำรวจอีกคนอย่างพึงพอใจ เห็นทีที่สัญญากับเพื่อนไว้คงทำไมได้แล้วล่ะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

แกรมม่ากับสองตอนนี้เบาๆนะคะ เขาพึ่งทำความรู้จักกัน 55555 คู่นี้อาจจะเรื่อยๆไปหน่อยแต่รับรองต่อไปไม่เรื่อยแล้วจะแบบฉบับรวบรัดตัดตอนทีเดียว ฝากติดตามด้วยนะคะ
___จางบิวตี้___

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
ทำไมพระรองที่เด็กนายรองของคุณ จางบิ้วตี้ ออกแนวน่ารำคาญตลอดเลยอ่ะ ตั้งกะชัช ใน sextoy แล้ว 555 :m20: :m20: :m20:

ออกความเห็นแบบนี้คงไม่ว่ากันนะครับ แค่บอกตามความรู้สึก ยังไงก็รอติดตามนะครับ มาต่อเร็วๆน้าาาา  :z2: :z2: :z2:


ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
ทำไมพระรองที่เด็กนายรองของคุณ จางบิ้วตี้ ออกแนวน่ารำคาญตลอดเลยอ่ะ ตั้งกะชัช ใน sextoy แล้ว 555 :m20: :m20: :m20:

ออกความเห็นแบบนี้คงไม่ว่ากันนะครับ แค่บอกตามความรู้สึก ยังไงก็รอติดตามนะครับ มาต่อเร็วๆน้าาาา  :z2: :z2: :z2:

เมะอายุน้อยยังมีคีย์ที่น่ารักไงงงงง 5555 คลายเครียดจากคู่หลัก เลยเอาคู่รองบ้าๆบอๆ 55555

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
ทำไมพระรองที่เด็กนายรองของคุณ จางบิ้วตี้ ออกแนวน่ารำคาญตลอดเลยอ่ะ ตั้งกะชัช ใน sextoy แล้ว 555 :m20: :m20: :m20:

ออกความเห็นแบบนี้คงไม่ว่ากันนะครับ แค่บอกตามความรู้สึก ยังไงก็รอติดตามนะครับ มาต่อเร็วๆน้าาาา  :z2: :z2: :z2:

เมะอายุน้อยยังมีคีย์ที่น่ารักไงงงงง 5555 คลายเครียดจากคู่หลัก เลยเอาคู่รองบ้าๆบอๆ 55555

จริงด้วย หลายคู่จัด ลืมมมม 555555

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Poor Boy 8


        หลังจากที่โดนพ่อตบหน้าสามก็มาหมกตัวอยู่ที่บ้านแกรมม่าครึ่งค่อนวัน พอค่ำๆก็พากันออกไปท่องราตรีดื่มเหล้าแก้เครียด สามยอมรับว่าเขาเสียใจมากกับสิ่งที่พ่อทำกับเขา อาจจะเพราะเขาเป็นลูกคนเล็ก ถูกตามใจมาตลอด ไม่ว่าจะเด็กหรือโตพ่อก็ไม่เคยตีเขา มากสุดก็แค่ดุไม่ว่าเรื่องจะร้ายแรงแค่ไหน เขายังจำตอนม.3 ที่เขาติดเกมส์จนเกือบเรียนไม่จบ พ่อด่าเขาหนักมากแต่ก็ไม่เคยลงไม้ลงมือแบบนี้ ปากหนากระตุกยิ้มเมื่อนึกถึงสาเหตุที่ทำให้พ่อลงไม้ลงมือกับเขา ลูกชายคนรักเก่าของพ่อ รักแรกและรักเดียวที่ฝังใจ เหอะๆ รักไอ้กาฝากนั่นมากกว่าเขาที่เป็นลูกชายแท้ๆ



          “ใจเย็นเว้ยๆ เดี๋ยวก็เมาตาย” แกรมม่าพูดขึ้นเมื่อสามกระดกเหล้าเข้าปากเอาๆตั้งแต่มาหมดเหล้าไปเกือบขวดแล้วในเวลาไม่ถึงชั่วโมง



          “กูอยากแดก” สามว่าพร้อมกับกระดกเหล้าเข้าปากต่อ



          “กูรู้เว้ยว่ามึงเสียใจที่ป๊ามึงตบหน้ามึงและน้อยใจเรื่องกาฝากอะไรนั่นแต่กูว่ามึงก็ทำกับคนๆนั้นเกินไปนะเว้ย” แกรมม่าว่าอย่างออกความเห็น สามตวัดสายตามามองเพื่อนอย่างไม่สบอารมณ์



          “กูแค่ออกความเห็นเว้ย” แกรมม่าว่า



          “มากไม่มากแต่มันก็เป็นเสี้ยนหนามในใจม๊ากู มึงก็รู้กูรักม๊ากูขนาดไหน ม๊าเกลียดใคร กูก็เกลียดด้วย” สามว่าอย่างจริงจัง



          “งั้นแปลว่าตัวมึงเองไม่ได้เกลียดเขา” แกรมม่าถาม สามชะงักพร้อมกับขมวดคิ้วมุ่น



          “กูเกลียดมัน” สามว่าออกมา



          “คิดนานเนอะ ฮ่ะๆ” แกรมม่าว่าอย่างขำๆ สามตวัดตามองเพื่อนอีกครั้ง



          “เออๆ กูไม่ยุ่งเรื่องของมึงละ ไปแดนซ์ดีกว่าเผื่อคืนนี้จะได้สักคนสองคนกลับไป” แกรมม่าว่าก่อนจะวางแก้วแล้วออกไปยังฟอล์วเต้นทันที ยิ่งดึกเพลงก็เปลี่ยนเป็นจังหวะเร็วโดยดีเจเพราะช่วงหัวค่ำเน้นดนตรีสดนั่งฟังเสียมากกว่าแกรมม่ารู้สึกมึนนิดๆเพราะเหล้าที่เขากินไปเกือบสองขวดเริ่มออกฤทธิ์แต่เพราะเขาเป็นคนคอแข็ง ลองเรื่องแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ ถ้าเป็นคนอื่นแค่ขวดเดียวก็สลบแล้ว



          “เหนื่อยสัสๆ มีน้องคนนึงมาเต้นถูกูเว้ย หุ่นผ่านแต่หน้าไม่ผ่าน ไม่ไหวๆ”แกรมม่าว่าอย่างบ่นๆเมื่อกลับมาที่โต๊ะ



          “กูว่ากูจะกลับละ” สามว่า แกรมม่าขมวดคิ้วพร้อมยกนาฬิกาขึ้นมาดู



          “พึ่งห้าทุ่ม?” ปกติพวกเขาจะเที่ยวจนร้านปิดทุกครั้งก็ราวๆตี2



          “กูมีเรื่องต้องไปทำ” สามกระดกเหล้าแก้วสุดท้ายเข้าปากก่อนจะลุกออกไปซึ่งแปลว่าเหล้าวันนี้แกรมม่าเป็นคนจ่าย



          “สาส แดกมากกว่ากูยังให้กูจ่ายอีก”...สามกลับมาถึงบ้านในเวลาเกือบเที่ยงคืนไฟในตัวบ้านยังเปิดสลัวเหมือนทุกวันเพียงแค่ชั้นบนห้องนอนของพ่อแม่และพี่ชายปิดหมดแล้ว สามไม่ได้เดินขึ้นชั้นบนแต่กลับเปลี่ยนทิศทางไปยังห้องนอนของใครบางคนที่ตอนนี้ยังเปิดไฟอยู่



แกร็ก

ก่อนจะถือวิสาสะไขกุญแจสำรองเข้าไปในทันที



          “คุณสาม” สไมล์เรียกอีกคนอย่างตกใจ ไม่คิดว่าคนที่เขากำลังนึกถึงอยู่จะเข้ามา ตั้งแต่เกิดเรื่องเขาก็รู้สึกไม่ดีตลอดทั้งวันจนพาลเอานอนไม่หลับไปด้วย ยิ่งเห็นว่าอีกคนยังไม่กลับก็ยิ่งเครียดกลัวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะทำให้อีกคนเตลิดไปไหนต่อไหนซึ่งมันคงไม่ดีแน่



          “ออกไปจากบ้านกูซะ ต้องการเท่าไหร่ กูให้ไม่อั้น” สามพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ



          “คุณสามคือผม...” สไมล์อึกอัก



          “มึงจะอยู่ที่นี่ไปทำไมฮะ กูเกลียดมึง แม่กูก็เกลียดมึง มึงก็รู้ว่าอยู่ที่นี่มึงไม่มีทางอยู่อย่างสงบแน่ๆ มึงจะอยู่ไปทำไม” สามว่า



          “แล้วจะให้ผมไปอยู่ที่ไหน” สไมล์ช้อนตาถามอีกคนด้วยนัยน์ตาสั่นระริก ถ้าเขามีที่ไปเขาก็คงไม่มาอยู่บ้านคนอื่นที่ไม่ใช่แม้แต่ญาติของเขาแบบนี้ ไม่ทนโดนรังแกโดนต่อว่าแบบนี้หรอก สามชะงักกับคำพูดของอีกคน



          “ผมไม่มีใครเหลือแล้ว ถ้าผมไม่พิการ สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ผมคงไม่อยู่เป็นภาระให้ทุกๆคนแบบนี้หรอก” สไมล์ว่าออกมาจากใจ



          “กูจะหาที่อยู่ให้มึง หาคนดูแลมึง มึงจะว่าไง” สามว่าอย่างต่อรอง เขายอมเสียเงินกี่แสนกี่ล้านก็ได้เพื่อเอาคนๆนี้ออกจากบ้านเขาไป เขาต้องการครอบครัวที่สงบสุขกลับคืนมา เขาต้องการให้แม่ของเขาเลิกคิดมากเสียที เขายอมทำทุกอย่างแม้ว่าจะต้องทำร้ายคนๆหนึ่งก็ตาม



         “ผม...” สไมล์กัดปาก สามขมวดคิ้วกับท่าทางของอีกคน



          “หรือมึงอยากอยู่ที่นี่เพราะพี่กูกันแน่” สามถามด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว



          “ไม่ใช่นะครับ เรื่องนั้นไม่ใช่อย่างที่คุณสามคิด” สไมล์ว่า



          “แล้วที่พี่กูบอกว่าชอบมึงล่ะ” สไมล์ชะงักกับคำพูดของอีกคน ใช่...พี่หนึ่งบอกชอบเขาและเรื่องนี้คุณลุงนทีกับคุณผู้หญิงก็รับทราบแล้วแต่เขา...เขาไม่เคยคิดกับพี่หนึ่งในแง่นั้น อย่างที่บอกพี่หนึ่งเป็นพี่ชายที่แสนดี ดีกับเขาทุกอย่าง ดีจนเขาไม่กล้าปฏิเสธออกไปตรงๆเพราะมันจะทำให้อีกคนเสียใจไม่ใช่น้อย



          “ผม...ไม่ โอ๊ย!” สไมล์ร้องออกมาเมื่อมือหนาบีบที่ต้นแขนของเขาอย่างแรง ตาคมมองมาที่เขาอย่างแข็งกร้าว



          “มึงเองก็ชอบพี่กูใช่มั้ยล่ะ หึๆ กูคิดแล้วไม่มีผิด มึงคิดว่าม๊าจะยอมให้มึงได้พี่หนึ่งไปง่ายๆหรือไง!” สามตะคอกใส่อีกคน สไมล์ส่ายหัวรัว



          “ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ ผมไม่ได้...ฮึก เจ็บนะครับ” สไมล์ว่าเมื่ออีกคนคว้าคางของเขาแล้วบีบอย่างแรงจนร่างบางน้ำตาคลอ



          “กูเกลียดมึง เกลียดมึงชิบหาย มึงทำให้ครอบครัวกูต้องมีปัญหา มึงทำให้กูกับพี่ต้องทะเลาะกันแล้วมึงยังทำให้ป๊าพ่อตบกู!” สามว่าเสียงเย็น



          “ฮึก ผมขอโทษ ฮึก ผมรู้ว่าเรื่องนี้มันเป็นสาเหตุแต่ผม...ฮึก ผม” สไมล์กัดปากอย่างพูดไม่ออกได้แต่หลั่งน้ำตาลงมาเท่านั้น



          “อย่าคิดว่าร้องไห้บีบน้ำตาแล้วกูจะสงสาร กูไม่ใช่ป๊า ไม่ใช่พี่หนึ่ง กูไม่มีวันสงสารหรือตกหลุมพรางมึงแน่!"”สามว่าพร้อมกับดันอีกคนลงนอนกับเตียงก่อนจะขึ้นคร่อม สไมล์เบิกตากว้างอย่างตกใจกับการกระทำของอีกคน



          “ฮึก คุณสามจะทำอะไร ฮึก อย่านะครับ” สไมล์รู้ว่าอีกคนเมาเพราะได้กลิ่นแอลกอฮอล์แรงมากจากตัวอีกคน ปกติก็ชอบระเบิดอารมณ์ใส่เขาอยู่แล้วเวลาเมานี่ไม่ต้องพูดถึงแต่การกระทำแบบนี้เขาไม่โอเค เขากลัว



          “ถ้ามึงแปดเปื้อนมึงคิดว่าพี่หนึ่งจะยังสนใจมึงอีกมั้ย” สามถามเสียงเรียบสไมล์ส่ายหน้าทั้งน้ำตาพร้อมมองอีกคนอย่างอ้อนวอน



แควก!

          “คุณสาม!!” สไมล์ร้องเสียงหลงเมื่ออีกคนกระชากเสื้อนอนของเขาออกอย่างแรงจนขาดไปหมดกระดุมกระจัดกระจายคนละทิศละทาง  สไมล์ตัวสั่นเทาด้วยความกลัวเพราะตอนนี้อีกคนเหมือนกับปีศาจร้ายที่กำลังโกรธจัดเต็มที่ต่อให้เอาอะไรฉุดก็คงไม่อยู่



          “ฮึก อย่าทำผม ฮึก ขอร้อง ให้ผมไหว้เลยก็ได้” สไมล์ว่าพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้อีกคนเมื่อมือหนากระชากกางเกงนอนของเขาพร้อมกับชั้นในลงไปกองอยู่ที่ข้อเท้าจนร่างบางร่างกายเปลือยเปล่า สามไม่สนใจอีกคนตาคมมองสำรวจร่างกายขาวบางของอีกคนอย่างพึงพอใจก่อนจะถอดเสื้อของตัวเองออกทำให้ผิวขาวที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามและกล้ามเนื้อปรากฏแก่สายตา ไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือว่าอะไรทำให้สามเลือกที่จะรังแกอีกคนด้วยวิธีนี้แต่ถ้าขอให้เขาหยุดตอนนี้คงทำไม่ได้แล้วล่ะ



          “ฮึก คุณสาม ฮึก อย่าทำผมเลย” สไมล์ว่าอย่างอ้อนวอนพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินไม่หยุด สามขึ้นคร่อมอีกคนอีกครั้งก่อนจะใช้ลิ้นสำรวจร่างกายของอีกคนไม่สนใจมือบางที่พยายามผลักดันหรือจิกตีเขาแม้แต่น้อย



          “ฮึก..อ๊ะ” สไมล์ร้องพร้อมกับเผลอแอ่นตัวขึ้นเมื่อลิ้นหนาสัมผัสที่ยอดอก



          “คุณสาม...อ๊ะ...” สไมล์ครางอีกครั้งเมื่อลิ้นหนาเลียตั้งแต่รอบฐานก่อนจะวนกลับไปที่ยอดอกทำแบบนั้นทั้งสองข้างอย่างเท่าเทียมจนสไมล์รู้สึกเสียววาบไปหมด



          “มึงก็ดูชอบนี่” สามว่าข้างหูบางพร้อมกับกัดเบาๆทำให้สไมล์เสียววูบ



          “ฮึก คุณสามเกลียดผม ทำไม ฮึก ถึงทำแบบนี้ล่ะครับ” สไมล์ว่า



          “กูบอกแล้วไงว่ากูจะทำให้มึงแปดเปื้อน กูจะทำให้พี่กูเลิกสนใจมึง!” สามว่าเสียงดัง



          “ฮึก แต่ผม ฮึก ไม่ได้ชอบพี่หนึ่งนะครับ ผมจะ ฮึก ปฏิเสธพี่หนึ่ง ฮึก ผมจะออกห่างจากพี่หนึ่งเท่าที่คุณสามต้องการ  ฮึก แต่อย่าทำ ฮึก ผมเลยนะครับ” สไมล์ว่าตอนนี้เขายอมทุกอย่าง ต่อให้ต้องทำร้ายจิตใจคนที่ดีกับเขาเขาก็ยอมแต่ตอนนี้เขากลัวเหลือเกิน กลัวจนตัวสั่นไปหมด



          “มึงพูดจริง?” สามเลิกคิ้วถามรู้สึกพึงพอใจกับคำพูดของอีกคนเมื่อกี้ สไมล์พยักหน้ารัว



          “ก็ได้แต่เพื่อให้พี่หนึ่งเลิกยุ่งกับมึงมึงต้องบอกกับพี่หนึ่งว่า...” สามกระตุกยิ้มร้ายก่อนจะยื่นปากไปจ่อที่หูบาง



          “...มึงชอบกู” สไมล์ทำตาโตทันทีก่อนจะมองหน้าอีกคน



          “ผม...”



          “ว่าไง ถ้าไม่ตกลงกูจะไม่หยุดต่อให้มึงร้องจนขาดใจกูก็จะไม่หยุด” สามว่าเสียงเย็น สไมล์กัดปากอย่างครุ่นคิด



          “ครับ ตกลงครับ” สไมล์ตอบรับ สามยกยิ้มอย่างพึงพอใจแต่แทนที่อีกคนจะผละออกกับจับอีกคนมานั่งคร่อมหน้าตักแทน



          “คุณสามจะทำอะไรครับ” สไมล์ถามเสียงตื่น



          “กูตื่นตัวขนาดนี้แล้วช่วยกูหน่อย” สไมล์ทำตาโต



          “มือมึงน่ะทำให้กูให้เสร็จ ถ้ากูไม่เสร็จสัญญาเมื่อกี้ถือโมฆะ” สามว่า สไมล์นิ่งไปสักครู่ก่อนจะมองต่ำลงไปที่แก่นกายอีกคนที่กำลังตื่นตัวเต็มที่ด้วยใบหน้าร้อนผ่าวสามกระแทกกายใส่อีกคนทำให้แก่นกายทั้งคู่สัมผัสกันจนสไมล์เสียวทั่วท้องน้อย



          “ใช้มือมึงจับที่ของกูและของมึงทำพร้อมๆกัน” สามสั่ง สไมล์มือสั่นก่อนจะจับเข้าที่แก่นกายของอีกคนและของตัวเองด้วยมือข้างเดียวก่อนจะเริ่มขยับมือ เสียงครวญครางดังออกมาจากปากบางเป็นระยะเพราะความเสียวสอดคล้องกับเสียงครางทุ้มต่ำที่ดังออกมาจากปากหนาจนปลดปล่อยมาในที่สุด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เอ๊ะทำไมอิสามหยุด? 55555 ยังไม่อยากให้น้องตกเป็นของอิสามนะคะอาจจะขัดอารมณ์ใครไปหน่อย ยังไงก็ฝากติดตามด้วยค่า

___จางบิวตี้___

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
อ้ากกกก เกลียดอิสามที่สุดเลย  :ling1: :ling1: :ling1:

สไมล์น่าสงสาร เมื่อไหร่จะเดินได้ซักที จะได้ไปมให้พ้นจากบ้านนี้เลยยย  :katai1: :katai1: :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ดีแล้ว สามไม่สมควรได้ครอบครองสไมล์นะใจจริงก็อยากให้สไมล์ออกไปอยู่ที่อื่นจริงๆแหละ แต่ให้คนอื่นจัดการที่อยู่ให้นะเพราะถ้าให้สามเดี๋ยวมันก็ตามมารังควานอีก

ออฟไลน์ abcee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
เป็นแฟนคลับคนแต่งน้า ตามอ่านทุกเรื่องนะ ขอบคุณและเป็นกำลังใจให้น่าครับ *_*

ออฟไลน์ chaweewong19841

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-2
สนุกมาก

ออฟไลน์ everlastingly

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
เกลียดอิสามมากตอนนี้

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
สไมล์น่าจะรับเงินแล้วออกไปอยู่คนเดียวชิลๆดีกว่า ไม่ต้องเจอคนที่ทำให้เสียสุขภาพจิต

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Poor Boy 9

 

        เพราะเรื่องเมื่อคืนทำให้สไมล์ไม่กล้าที่จะมองหน้าสามที่นั่งกินข้าวอยู่ฝั่งตรงข้ามเลย เมื่อคืนอีกคนไม่ได้ทำอะไรเขานอกจากที่ปลดปล่อยออกมาด้วยมือของเขาและเขาเองก็ปลดปล่อยออกมาเช่นกัน เมื่อคืนสไมล์รู้สึกอับอายมากเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะในลำคออย่างสะใจของอีกคนก่อนที่อีกคนจะออกไป สไมล์นอนไม่หลับทั้งคืนในหัวมีแต่ภาพของเขากับอีกคนที่ปลดปล่อยออกมาด้วยมือของเขา อับอาย...ไม่เคยรู้สึกอับอายเท่านี้มาก่อนที่ตัวเองดันมีอารมณ์ร่วมกับการบังคับของอีกคน



          “กินนี่เยอะๆนะสไมล์” หนึ่งว่าพร้อมกับตักอาหารใส่จานข้าวสไมล์



          “เอ่อ...เดี๋ยวสไมล์ตักเองครับ” สไมล์ว่าเพราะรับรู้ถึงสายตาคมของคนฝั่งตรงข้ามกำลังมองมา เขาตกลงกับคุณสามแล้วว่าจะไม่ยุ่งกับพี่หนึ่ง จะไม่ตอบรับความรู้สึกของพี่หนึ่ง



          “เป็นอะไรไปไม่สบายเหรอหน้าซีดๆ” หนึ่งว่าพร้อมกับยกมือขึ้นมาอังหน้าผากสไมล์ สไมล์รีบหันหน้าหนีนิดๆทำให้หนึ่งลดมือลงไป



          “เอ่อ...สไมล์สบายดีครับ” สไมล์รีบพูดออกมาเพราะกลัวว่าหนึ่งจะไม่พอใจกับท่าทางของเขา หนึ่งพยักหน้ารับแต่ในใจก็อดรู้สึกไม่ดีในท่าทางของอีกคนไม่ได้ สไมล์เป็นอะไร ทำไมถึงมีท่าทีไม่อยากอยู่ใกล้ ไม่อยากให้เขาแตะเนื้อต้องตัวแปลกๆ หนึ่งตวัดสายตามองสามที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม สามมองตอบพี่ชายมานิ่งๆแต่แววตาก็เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์หนึ่งสัมผัสได้...หลังจากมื้อเช้าเสร็จหนึ่งและผู้เป็นพ่อก็ออกไปทำงานและคุณผู้หญิงของบ้านก็ออกไปสมาคมเช่นเคย สไมล์มาช่วยสาวใช้ล้างจานอยู่ในครัวแม้ว่าจะถูกห้ามก็ตามแต่สไมล์ก็อยากจะช่วยอะไรบ้าง นิดๆหน่อยๆก็ยังดี



          “คุณสาม จะทานของหวานเหรอคะ จะทานอะไรบอกผ้าเลยนะคะ” ป้าแม่ครัวถามขึ้นเมื่อเห็นสามเดินเข้ามาในครัวแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สไมล์ที่กำลังเช็ดจานเก็บที่สะดุ้งนิดๆเมื่อรู้ว่าคนที่เขากำลังหลบหน้ามา



          “มานี่” สามไม่ตอบป้าแม่ครัวแต่เดินเข้าไปลากรถเข็นของสไมล์ออกมา สไมล์รับวางจานแล้วนั่งบนรถเข็นดีๆทันทีเพราะกลัวว่าจะตกลงไปซะก่อน สามลากอีกคนมาที่สวนพร้อมกับมองอีกคนด้วยความหงุดหงิด



          “หลบหน้ากูทำไม” สามถามขึ้น



          “เปล่านะครับ” สไมล์รีบปฏิเสธทันที



          “ไม่ได้หลบก็เงยหน้ามามองกู” สไมล์ค่อยๆเงยหน้ามามองอีกคน



          “หรือว่าเพราะเรื่องเมื่อคืน...” สามว่าพร้อมกลั้วลิ้นในปาก สไมล์หน้าร้อนผ่าวทันที



          “หึๆ มึงมันอ่อน ผู้ชายเชี่ยไรไม่เคยช่วยตัวเองหรือไง” สามว่าอย่างเยาะๆเมื่อรู้ว่าอีกคนกำลังเขินอายเรื่องอะไร



          “ผมไม่ได้อยากสักหน่อย” สไมล์ว่าเสียงแผ่ว



          “งั้นแปลว่ามึงยังซิง? ทั้งชาย ทั้งหญิง” สามเลิกคิ้ว สไมล์นิ่งไปซึ่งสามก็สามารถเดาคำตอบได้ทันที



          “ถึงว่า...พี่ชายกูถึงชอบอกชอบใจนักและสนใจมึงขนาดนี้ เห็นว่าพี่หนึ่งคอยอุ้มมึงอาบน้ำตลอดนี่ คงจะดูออกว่ามึงยังซิง” สามว่า เขาที่ผ่านเรื่องแบบนี้มามากมายก็พอจะดูออกเหมือนกันว่าใครซิงไม่ซิง มันสังเกตกันง่ายๆนี่แหละซึ่งคนตรงหน้าก็เช่นกันอย่างเมื่อคืน แค่ใช้มือแม่งยังหน้าแดงจัด เชิดหน้าร้องครางอย่างกับว่าไม่เคยทำมาก่อน



          “พี่หนึ่งคงไม่ได้สนใจเรื่องพรรค์นั้นหรอกครับ” สไมล์ว่าเพราะจากที่รู้จักกันมาพี่หนึ่งก็ไม่มีทีท่าลวนลามเขาเลยแม้ว่าจะเห็นเขาแก้ผ้าต่อหน้ามาหลายครั้ง เขาถึงไม่เคยระแวงหรือสงสัยในความรู้สึกของอีกคนจนมาถึงวันที่พี่หนึ่งสารภาพออกมานี่แหละถึงได้รู้



          “ผู้ชายที่ไหนไม่คิดวะ” สามว่าอดหงุดหงิดไม่ได้ที่เห็นว่าอีกคนพูดปกป้องพี่ชาย



          “ผมยังไม่คิด” สไมล์ว่า สามหัวเราะหึๆในลำคอก่อนจะผลักหัวอีกคนไม่แรงนัก



          “ก็มึงมันอ่อนไง” ไม่รู้ว่าสไมล์คิดไปเองหรือเปล่าว่าบรรยากาศระหว่างเขากับคุณสามมันแปลกๆไป ไม่มีถ้อยคำแขวะ ไม่มีคำด่าร้ายๆหรือการกระทำที่รุนแรงเหมือนแต่ก่อนทั้งๆที่เมื่อวานเขาทำให้อีกคนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เพียงแค่ข้ามคืนมันเปลี่ยนกันได้ขนาดนี้เลยเหรอ



        “มองอะไร” สามถามเมื่อตากลมมองมาที่เขา



          “ปะ...เปล่าครับ” สไมล์ว่า



          “อย่าลืมที่ตกลงกับกูไว้ มึงต้องปฏิเสธพี่หนึ่งอย่างจริงจัง ต้องแสดงให้เขารู้ว่ามึงไม่ได้คิดกับเขา” สามสั่ง สไมล์พยักหน้าก่อนที่ร่างสูงจะเดินออกไป...ตกเย็น...สไมล์ก็ยังคงนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่สวนอย่างทุกวัน หนึ่งกลับมาจากที่ทำงานก็แวะมาหาอีกคนทันที



          “พี่ซื้อขนมมาฝาก กินข้าวเสร็จแล้วต้องกินนะ” หนึ่งว่าพร้อมกับยื่นถุงขนมยี่ห้อดังให้กับร่างบาง สไมล์รับมา



          “ขอบคุณครับแต่ต่อไปพี่หนึ่งอย่างลำบากดีกว่านะครับ” สไมล์ว่าอย่างเกรงใจหนึ่งขมวดคิ้ว



          “สไมล์เป็นอะไร แปลกๆตั้งแต่เช้าแล้วนะหรือว่า...” หนึ่งเงียบไปครู่หนึ่ง



          “...สามมันบังคับอะไรสไมล์” หนึ่งว่าเสียงแข็ง สไมล์ส่ายหัวรัวทันที



          “ไม่ใช่นะครับคือ...สไมล์เกรงใจจริงๆ ร้านนี้มันอยู่ในห้างไม่ใช่เหรอครับ แปลว่าพี่หนึ่งต้องแวะเพื่อซื้อให้สไมล์ สไมล์เลยเกรงใจ” สไมล์อ้างออกมา หนึ่งยกยิ้มก่อนจะยีหัวร่างบางอย่างเอ็นดู



          “สไมล์ก็รู้ว่าพี่รู้สึกยังไงกับสไมล์ อย่าเกรงใจพี่เลยนะ” หนึ่งว่าเสียงอ่อนโยนจนสไมล์อดรู้สึกไม่ดีไม่ได้ถ้าวันหนึ่งเขาต้องปฏิเสธอีกคนไปอย่างเลือดเย็น ต้องพูดตรงๆให้อีกคนเลิกยุ่งกับเขา พี่หนึ่งจะเกลียดเขามั้ยนะ เขามันเห็นแก่ตัว เห็นแก่ตัวที่ว่ายังอยากมีพี่ชายที่ดีคนนี้อยู่ข้างกาย...หลายวันผ่านไป...สไมล์พยายามตีตัวออกห่างจากหนึ่งเท่าที่จะทำได้แต่ก็ยังไม่ได้พูดออกไปตรงๆเรื่องที่ปฏิเสธความรู้สึกของหนึ่ง หนึ่งแม้ว่าจะสัมผัสได้ในความผิดปกติระหว่างเขากับสไมล์แต่ก็พยายามไม่ถามขึ้นเพราะเขาไม่รู้ว่าที่สไมล์แปลกไปเพราะตัวเองหรือมีใครบังคับ วันนี้เป็นหยุดหนึ่งตื่นแต่เช้าเหมือนปกติเพื่อลงมากินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวและสไมล์ พอมื้ออาหารจบร่างสูงก็แอบไปเข้าครัวเพื่อเตรียมผลไม้ไปให้ร่างบางที่อ่านหนังสืออยู่ที่สวนเหมือนปกติ ทั้งๆที่หน้าที่นี้ให้แม่บ้าน สาวใช้ทำก็ได้แต่หนึ่งอยากทำให้อีกคนอยากให้อีกคนได้รับรู้ถึงความจริงใจของเขา



          “เมื่อไหร่มึงจะพูดกับพี่หนึ่งตรงๆ” สามถามขึ้น



          “คือว่า...” สไมล์ทำหน้าลำบากใจ



          “หรือมึงจะผิดข้อตกลงฮะ!” สามว่าเสียงดังพร้อมกับบีบต้นแขนเล็กอย่างแรง



          “ไม่ใช่นะครับ ผมแค่...ยังไม่มีโอกาสเท่านั้น” สไมล์ว่า อยู่ๆจะให้ไปพูดโต้งๆว่าไม่ได้ชอบ มันก็คงจะไม่ได้



          “แล้วมึงจะรอถึงเมื่อไหร่ หรือรอให้เขาเอามึงทำเมียก่อนฮะ!” สามว่า ทำไมถึงรู้สึกหงุดหงิดใจมากเมื่ออีกคนไม่ยอมปฏิเสธพี่ชายไปเสียทีก็ไม่รู้   



          “คือว่า...”



          “กูรู้ล่ะ มึงอยู่เฉยๆก็พอ” สามว่าพร้อมแสยะยิ้มร้าย สไมล์ทำหน้างุนงงก่อนจะเบิกตากว้างเมื่ออีกคนคว้าคอเขาจูบ ปากหนาบดเบียดลงมาอย่างไม่รุนแรงเหมือนทุกครั้งแต่กลับอ่อนโยนเสียจนสไมล์เคลิบเคลิ้ม ตากลมหลับตารับจูบของอีกคนก่อนที่สามจะผละออกมาเพื่อพอใจ สไมล์รู้สึกหัวใจเต้นรัวกับรสจูบเมื่อครู่ของคนตรงหน้าแต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆก็จูบเขา



          “พี่หนึ่งไปละ เตรียมตอบคำถามเขาให้ดีล่ะว่าทำไมยอมให้กูจูบ” สามว่าพร้อมยกยิ้ม เมื่อกี้เขาเห็นพี่หนึ่งเดินมาพอดีก็เลยได้โอกาสทำให้อีกคนเห็นว่าคนตรงหน้านี่สมยอมเขาและเมื่อพี่หนึ่งเห็นว่าเขาจูบกับอีกคนก็คงรู้สึกไม่พอใจมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เมื่ออีกคนสมยอมเขา



          “อย่าลืมข้อตกลง” สามว่าส่งท้ายก่อนจะเดินออกไป สไมล์มองตามแผ่นหลังกว้างด้วยความรู้สึกแปล๊บๆในหัวใจ จูบอ่อนโยนเมื่อกี้...เพื่อทำให้พี่หนึ่งเห็นงั้นเหรอ?

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ทำไมน้องสไมล์ต้องหวั่นไหว ไม่ยอมๆๆๆ >0< คืออิสามมันเหมือนจะดีขึ้นเพราะมันต่อน้องไง 5555 ปล่อยให้มันบังคับน้องให้ทำตามใจตัวเองไปก่อน ถึงทีน้องเมื่อไหร่ หึๆ

___จางบิวตี้___

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
อิสามรู้สึกแปลกๆกับสไมล์ แล้วหล่ะซิ หึหึหึ :really2: :really2: :really2:

ตอนที่ 9 แล้ว เหมือนเรื่องมันยังไม่ไปไหนเลยอ่ะ อย่าไปรวบรัดเอาตอนใกล้จบน้าาาา :sad4: :sad4: :sad4:

อยากอ่านเยอะๆ อ่าาา รีเควสเพิ่มความยาวแต่ละตอนได้มั้ย  :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ Anong2013

  • พ่อค้าขนหวาน Versions 1
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
    • www.thaiboyslove.com
เกียดอี่พี่สาม :z6:

ออฟไลน์ Pe_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ไม่หวั่นไหวสิไม่ๆๆๆนะ :mew2:

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
โดดเตะสาม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ everlastingly

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :pig4: รออ่านตอนต่อไปนะ ยังคงเกลียดอิสามอยู่

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Poor Boy 3

( Grammar x Song )

 

          เสียงเพลงดังสนั่นบวกกับแสงสีไฟวิบวับไปมาดูน่าปวดหัวไม่ใช่น้อยแต่ก็คงไม่มีอะไรน่าปวดหัวสำหรับสองเท่ากับสถานการณ์ในครอบครัวของเขาตอนนี้หรอก เขาไม่เข้าใจแม่และน้องชายว่าทำไมต้องจงเกลียดจงชังสไมล์นักหนา อีกทั้งก็ไม่เข้าใจพ่อที่ว่าทำไมต้องรักสไมล์ยิ่งกว่าลุกในไส้ถึงขึ้นลงไม้ลงมือกับสามเมื่อหลายวันก่อนทั้งๆที่พ่อไม่เคยลงไม้ลงมือกับลุกๆคนไหนเลย สองถอนหายใจออกมาก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นมากระดกเข้าปากโดยไม่สนใจว่ามีสายตาหลายคู่กำลังมองมาที่เขาอย่างสนอกสนใจ



          “ขอโทษนะครับ คุณผู้ชายโต๊ะนั้นฝากมาให้ครับ” เสียงบริกรดังขึ้นทำให้สองชะงักก่อนจะเห็นว่ามีแก้วเหล้าราคาแพงถูกส่งมาให้เขา สองมองตามที่บริกรชี้ก็พบผู้ชายร่างสูงหน้าตาดีคนหนึ่งกำลังส่งยิ้มหวานให้เขา



          “ฝากเอาไปคืนเขาแล้วบอกว่าฉันมีปัญญาซื้อเล้ากินเอง” สองว่าเสียงเรียบบริกรหน้าเจื่อนพร้อมกับพยักหน้ารับแล้วเดินกลับไปหาร่างสูงคนนั้นทันที



          “ทำไมใจร้ายจังเลยครับ” ไม่ถึงห้านาทีร่างสูงคนที่ฝากเหล้ามาให้สองก็เดินเข้ามาหาสองที่เคาน์เตอร์บาร์ทันที พร้อมกับถือวิสาสะนั่งลงที่เก้าอี้ทรงสูงข้างๆร่างบาง



          “มีปัญหาอะไรหรือไง” สองถามเสียงนิ่งๆ ร่างสูงหัวเราะนิดๆ



          “ผมทัพครับ กองทัพ” ร่างสูงแนะนำตัว



          “สอง” สองตอบกลับสั้นๆพร้อมกับกระดกเหล้าในมืออย่างไม่สนใจคนข้างๆเจอมาบ่อยแล้วล่ะที่มีคนเข้ามาจีบแต่สองก็ไม่เคยสนใจใครสักคน สองพยายามปกปิดตัวเองจากคนอื่นเพราะไม่อยากให้ใครมามีอิทธิพลต่อตัวเองและคิดว่าการที่เขาจะมีใครสักคนมันคงต้องวุ่นวายมากแน่ๆ  เพราะขนาดแค่เพื่อนเขายังมีไม่ได้เลย



          “สองมาคนเดียวเหรอครับ” กองทัพถามขึ้น



          “อืม” สองตอบสั้นๆโดยที่ดวงตาเรียวรีก็มองสำรวจไปรอบๆไนต์คลับก่อนจะไปสบเข้ากับดวงตาคมที่คุ้นเคย



          “เด็กนั่น” สองพึมพำ...แกรมม่าไม่คิดว่าจะมาเจอพี่ชายของเพื่อนที่นี่ ในตอนที่เขามีสาวทรงโตนั่งขนาบข้างอยู่สองคน เมื่อตาคมสบเข้ากับตาเรียวก็เห็นว่าอีกคนขมวดคิ้วนิดๆก่อนจะเบือนหน้าไปอย่างไม่สนใจทำให้แกรมม่ารู้สึกจี๊ดๆขึ้นมา และพอยิ่งเห็นชายหนุ่มอีกคนที่นั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์ข้างๆสองและพยายามชวนร่างบางคุยแกรมม่าก็รู้สึกเดือดเข้าไปใหญ่  ร่างสูงบอกลาสาวทรงโตทั้งคู่ก่อนจะเดินไปหาร่างบางทันที



พรึ่บ

แขนหนาพาดที่ขอบเก้าอี้ของอีกคนทันที



          “ไม่คิดว่าพี่จะมา” แกรมม่าถามขึ้น



          “มาทำไมตรงนี้แล้วสาวๆของนายล่ะ” สองว่าแขวะๆ แกรมม่าหัวเราะในลำคอพร้อมกับกระซิบข้างหูบาง



          “ทำไม? หึงเหรอครับ?”



          “ไม่เคยมีความคิดนั้นอยู่ในหัว” สองว่าพร้อมย่นจมูกใส่อีกคนอย่างหมั่นไส้ พอแกรมม่าเดินเข้ามากองทัพก็กลายเป็นส่วนเกินทันที ชายหนุ่มรู้สึกไม่พอใจนิดๆเพราะเล้งสองมาตั้งแต่เข้ามาแล้วเพราะฉะนั้นยังไงคืนนี้เขาต้องได้ ไม่ยอมให้หลุดมือแน่ๆ



          “คนรู้จักสองเหรอครับ” กองทัพถามแทรกขึ้น



          “เพื่อน...”



          “ครับ แต่รู้จักแบบสนี้ทสนิทเลยล่ะครับ” แกรมม่าตอบออกมา สองตวัดสายตามองอีกคนอย่างไม่พอใจนักแต่ใช่ว่าแกรมม่าจะสน ร่างสูงลอยหน้าลอยตาไปมาพร้อมกับมองกองทัพอย่างเย้ยๆ



          “งั้นเหรอครับ แต่ดูเหมือนสองเขาไม่ได้อยากสนี้ทสนิทกับคุณเท่าไหร่เลย”กองทัพว่าทำนองขำๆแต่แกรมม่าไม่ขำด้วย ตาคมสีฟ้าครามมองอีกคนด้วยความไม่พอใจทันที กองทัพกระตุกยิ้มมุมปาก



          “พูดแบบนี้หมายความไงวะ” แกรมม่าถามเสียงแข็ง



          “อ๊ะๆ ผมแค่พูดตามที่เห็นไม่เห็นต้องอารมณ์ขึ้นเลยนี่ครับ” กองทัพว่าอย่างยียวน แกรมม่าทำท่าจะพุ่งเข้าไปหาอีกคนทันทีแต่สองก็คว้าแขนอีกคนไว้ก่อน



          “จะทำบ้าอะไรฮะ” สองถามอีกคนเสียงขุ่น



          “ก็จะต่อยปากมันสักทีสองทีไง กวนตีน” แกรมม่าตอบ



     “อ้าวๆ ผมไปกวนตีนคุณตอนไหน” กองทัพยักไหล่ แกรมม่าทำท่าจะพุ่งเข้าใส่อีกคนอีกครั้งแต่สองก็หันไปตะวาดใส่ก่อน



          “หยุดเลยนะ! อย่ามาไร้สาระ ทำตัวเด็กแถวนี้” สองว่าพร้อมกับขมวดคิ้ว



          “ขอโทษคุณด้วยละกัน ส่วนนายน่ะมานี่” สองหันไปพูดกับกองทัพก่อนจะดึงแกรมม่าให้เดินตามมาทันทีโดยที่กองทัพไม่ทันจะได้ทักท้วง สองดึงอีกคนออกมาหน้าไนท์คลับก่อนจะปล่อยอีกคน



          “พี่จะพาผมออกมาทำไมนี่ยังไม่ได้ต่อยไอ้หน้ากวนตีนนั่นเลย” แกรมม่าว่าอย่างหัวเสีย



          “แล้วเป็นบ้าอะไรต้องไปต่อยเขาน่ะฮะ” สองเองก็หัวเสียไม่แพ้กัน ทั้งๆที่ตั้งใจจะมานั่งดื่มแก้เซ็งแต่กลับมาเรื่องเซ็งยิ่งกว่าเข้ามา



          “ก็มันกวนตีนผม พี่ไม่เห็นหรือไง” แกรมม่าว่า



          “นิสัยเด็ก” สองว่า แกรมม่าทำหน้าไม่พอใจทันที



          “ผมไม่ได้นิสัยเด็ก”



          “แต่ที่ทำอยู่มันเด็ก ระงับอารมณ์ไม่เป็นหรือไง ไม่ใช่ไม่พอใจใครก็ท้าตีท้าต่อยแบบนี้” สองบ่น



          “ผมบอกว่าไม่ได้เด็ก” แกรมม่าอดหงุดหงิดมากขึ้นไม่ได้กับคำว่าเด็กจากปากอีกคน  มันรู้สึกเหมือนโดนหยามเกียรติเพลย์บอยยังไงก็ไม่รู้



          “เด็ก” สองเถียงกลับ



          “ไม่ได้เด็ก” แกรมม่าเถียงอีกครั้ง



          “ก็บอกว่าเด็ก เด็กๆๆ อื้อออออ” เสียงหวานถูกดูดกลืนไปในลำคอทันทีที่มือหนาคว้าคออีกคนเข้ามาจูบ สองร้องอื้ออึงในลำคอพยายามประท้วงให้อีกคนถอนจูบแต่แกรมม่าหรือจะยอม ลิ้นหนาเข้ามาในโพรงปากบางพร้อมกับเกี่ยวพันกับลิ้นเล็กอย่างร้อนแรงทำให้คนไร้ประสบการณ์อย่างสองถึงกับสมองขาวโพลน แข้งขาอ่อนเปลี้ยจนแทบจะล้มไปกองกับพื้นแต่ดีที่มีมือหนาประคองเอาไว้



          “บอกแล้วไงว่าไม่เด็ก เด็กที่ไหนจะจูบร้อนแรงขนาดนี้” แกรมม่าว่าหลังจากถอนจูบ ตาคมสบกับตาเรียวอย่างเป็นประกายอย่างชอบใจ อารมณ์ขุ่นมัวเมื่อครู่หายไปทันที



          “ไอ้คนฉวยโอกาส” พอได้สติสองก็ผลักอีกคนออกอย่างแรงพร้อมว่าเสียงดัว



          “ก็โอกาสมันอยู่ตรงหน้า ผมเลยต้องฉวยไงคร้าบ” แกรมม่าว่าเสีงทะเล้น สองฮึดฮัดอย่างไม่พอใจแต่ก็ไม่อยากเสวนากับคนที่สวนลามเขาต่อ ร่างบางเดินหนีทันทีแต่แกรมม่าไม่ยอม รีบวิ่งมาดักหน้าร่างบางเอาไว้



          “จะกลับแล้วเหรอ ให้ผมไปส่งนะ” แกรมม่าว่า



          “ไม่” สองปฏิเสธอย่างไม่ต้องคิด



          “ทำไมล่ะหรือว่า...”



          “หรือว่าอะไร” สองถามเสียงขุ่น



          “กลัวเด็กอย่างผมจะทำอะไรๆพี่อีก” แกรมม่าว่า สองหน้าขึ้นสีทันทีเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่แต่ก็พยายามควบคุมสีหน้าเอาไว้



          “ไม่มีทาง ฉันไม่เคยกลัวเด็กอย่างนาย” สองเถียงอย่างไม่ยอม



          “ไม่กลัวก็ต้องให้ผมไปส่ง” แกรมม่าเลิกคิ้วท้าทาบพร้อมกับผายมือให้อีกคนเป็นท่าว่าให้เดินไปอีกทางซึ่งเป็นทางที่รถของเขาจอดเอาไว้



          “ชิ” สองชิชะเบาๆก่อนจะเดินตามอีกคนไปทันที...บรรยากาศบนรถตกอยู่ในความเงียบ สองหันหน้ามองกระจกตลอดทางอย่างไม่สนใจอีกคนแม้ว่าจะรับรู้ถึงสายตาคมที่หันมามองเขาหลายต่อหลายครั้งจนรถยนต์คันหรูมาจอที่หน้าคฤหาสน์ของเจ้าสัวนที



          “ฉันไม่ขอบใจหรอกนะเพราะไม่ได้ขอ” สองว่าพร้อมทำท่าจะเปิดประตูรถลงไปแกรมม่าหัวเราะในลำคอเบาๆ



          “ไม่ต้องขอบใจผมหรอกเพราะพี่ให้ผมเยอะกว่าคำว่าขอบใจแล้ว” สองขมวดคิ้วกับคำพูดของอีกคน



          “ก็จูบเมื่อกี้ไงคร้าบ” แกรมม่าเฉลยเสียงทะเล้น สองหน้าเห่อร้อนอีกครั้งทันทีก่อนจะรีบเปิดประตูลงไปอย่างรวดเร็วเพราะถ้าอยู่ต่อคงโดนไอ้เด็กบ้านี่ล้อเลียนอีกแน่ๆ



          “พี่สอง!” เสียงทุ้มเรียกทำให้สองที่กำลังจะเดินเข้าบ้านชะงักแต่ก็ไม่ได้หันกลับไปมอง



          “จูบของพี่หวานมากเลยนะ ผมชอบ!” สองหน้าร้อนผ่าวอีกครั้งพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงขึ้นอย่างแปลกๆ มุมปากบางเผยยิ้มขึ้นมาแต่เจ้าตัวก็พยายามตีหน้าเรียบเอาไว้ก่อนจะหันไปด่าอีกคน



          “ไอ้เด็กบ้า!”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

พักเรื่องดราม่าของสามสไมล์แล้วมาไร้สาระกับแกรมม่าสองก่อนนะคะ 555555หลังจากนี้นังแกรมม่านางจะรุกหนักละ บอกให้สองเตรียมตัวด้วยเน้อ 555555

___จางบิวตี้___

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
เจอคนอย่างแกรมม่านี่ เหนื่อยแทนสองจริงๆ  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Poor Boy 10

 

          “ทำไมสไมล์ถึงยอมให้สามจูบ” สไมล์กระอักกระอ่วนกับคำถามนี้ไม่น้อยเพราะไม่คิดว่าพี่หนึ่งจะถามกันตรงๆแบบนี้ รู้ว่าเมื่อตอนเช้าคุณสามจัดฉากให้พี่หนึ่งเห็นเพื่อให้เขาได้บอกปฏิเสธความสัมพันธ์กับพี่หนึ่งแต่ไม่คิดว่าพอตกเย็นมาพี่หนึ่งจะเข้ามาถามตรงๆแบบนี้ คิดว่าจะมีเวลาให้เตรียมใจบ้าง



          “คือสไมล์...” สไมล์กัดปาก อยากจะตอบแบบที่ตกลงไว้กับคุณสามแต่พอตากลมสบเข้ากับตาคมของอีกคนก็รู้สึกผิดไปหมด อย่างที่บอกพี่หนึ่งดีกับเขามาก ดีจนไม่คิดว่าจะมีคนที่ดีกับเขาขนาดนี้ทั้งๆที่เขามาเป็นตัวปัญหา มาเป็นกาฝากอยู่ในบ้าน ของพี่หนึ่งมาทำให้ลุงนทีทะเลาะกับคุณผู้หญิง มาทำให้ลุงนทีทะเลาะกับคุณสามซึ่งความวุ่นวายที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันเป็นเพราะเขาแต่พี่หนึ่งก็ไม่เคยโทษ ไม่เคยโกรธเขาเลย มีแต่ปลอบใจและอยู่เคียงข้างเขาเสมอ



          “สามมันบังคับสไมล์ใช่มั้ย” หนึ่งถามเสียงเข้ม นัยน์ตาคมเริ่มส่อแววขึงขังขึ้นมา



          “มะ...ไม่ใช่นะครับ” สไมล์รับปฏิเสธออกมา



          “งั้นสไมล์จะบอกว่าสไมล์ยอมให้สามจูบเหรอ?” หนึ่งถามพร้อมกับมองสไมล์ด้วยแววตาเจ็บปวด อวัยวะหน้าอกด้านซ้ายหน่วงไปหมด



          “พี่หนึ่งคือ...” สไมล์ช้อนตามองอีกคนอย่างรู้สึกผิดแต่เขาไม่อยากทำเรื่องให้มันวุ่นวายไปมากกว่านี้แล้ว ถ้าเขาสามารถทำให้พี่หนึ่งเลิกชอบเขาได้ บางทีอะไรๆมันอาจจะดีขึ้นรวมทั้งคนใจร้ายอย่างคุณสามจะได้ไม่มาทำร้ายเขาอีก



          “...สไมล์ชอบ...”



          “อย่าพูดออกมา ห้ามพูดแบบนั้นออกมา” หนึ่งแทรกขึ้นก่อนที่สไมล์จะพูดจบนัยน์ตาคมเต็มไปด้วยความเจ็บปวด



          “พี่หนึ่ง” สไมล์เรียกอีกคนเสียงแผ่ว



          “พี่ไม่รู้หรอกนะว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมสไมล์ถึงรู้สึกแบบนั้นแต่สไมล์ฟังพี่นะต่อให้สไมล์ชอบใคร รักใคร พี่ก็ยังรักสไมล์ไม่เปลี่ยนแปลง ความรู้สึกของพี่ให้สไมล์ไปแล้วพี่จะไม่ขอคืน” หนึ่งว่าพร้อมกับจับมือของสไมล์เอาไว้ สไมล์มองอีกคนตาสั่นระริกด้วยความรู้สึกผิดจนอยากจะร้องไห้ออกมา ขนาดเขาทำร้ายจิตใจพี่หนึ่งแบบนี้แต่พี่หนึ่งก็ยังไม่โกรธเขา ไม่เกลียดเขาแถมยังรู้สึกดีๆกับเขาไม่เปลี่ยนแปลงต่างจากอีกคนที่ชอบพูดจาทำร้ายจิตใจ ทำร้ายกันมาตลอดแต่เขากลับ...



          “สไมล์...” สไมล์กัดปาก



          “สไมล์...บางทีสไมล์อาจจะแค่เผลอไผลไป สามมันอาจจะทำอะไรให้สไมล์หวั่นไหวไปบ้างแต่เชื่อพี่นะ สามมันไม่มีทางคิดแบบนั้นกับสไมล์หรอก สไมล์ก็รู้ว่ามันเกลียดสไมล์แค่นั้น สไมล์ยังจะรู้สึกดีๆกับคนใจร้ายแบบนั้นอีกเหรอ” หนึ่งถามด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง สไมล์ชะงักไปนิดนึงกับคำพูดของอีกคน หวั่นไหวงั้นเหรอ?...เขาไม่ได้หวั่นไหวหรอก ไม่ได้เผลอไผลด้วย มันเป็นแค่แผนการของอีกคนที่วางไว้...ใช่แล้ว เขาแค่ทำตามแผนเท่านั้นเอง



          “แต่ความรู้สึกของคนเรามันห้ามกันไม่ได้นะครับ” สไมล์ว่า พยายามพูดจาโน้มน้าวให้พี่หนึ่งตัดใจจากเขาไปซะ อย่างน้อยเหตุการณ์ในบ้านคงจะดีกว่านี้



          “ใช่มันห้ามกันไม่ได้ เพราะฉะนั้นอย่าห้ามให้พี่เลิกรักสไมล์เพราะสไมล์รักคนอื่นเลยนะ พี่ขอร้อง” หนึ่งว่าอย่างเว้าวอน



          “พี่หนึ่ง...”



          “ต่อให้สไมล์รักใคร ชอบใคร แต่ขอโอกาสให้พี่ได้มั้ย? ให้พี่ได้ทำให้สไมล์หวั่นไหว ให้พี่ได้มีโอกาสทำให้สไมล์รักพี่ ได้มั้ยครับ?” หนึ่งถามเสียงอ่อน สไมล์นิ่งก่อนที่ตากลมจะเบิกกว้างนิดๆเมื่อรับรู้ถึงใบหน้าของอีกคนกำลังเขยิบเข้ามาจนในที่สุดปากหนาก็ประกบเข้าที่ปากบาง หนึ่งกดจูบอย่างอ่อนหวานที่ริมฝีปากของอีกคนเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกที่มีทั้งหมดให้อีกคนได้รับรู้ก่อนจะค่อยๆถอนออก



          “พี่รักสไมล์ คบกันนะครับ”...หลังจากเหตุการณ์กระอักกระอ่วนใจเมื่อเย็นผ่านไปสไมล์ก็เก็บตัวเงียบอยู่แต่ในห้องนอน ไม่ได้ออกมากินข้าวเย็นพร้อมคนอื่นโดยอ้างว่าปวดหัวไม่ค่อยสบาย สไมล์ยังไม่ได้ตอบรับพี่หนึ่งเขาเพียงแค่เงียบแต่พี่หนึ่งก็ยังคงยิ้มแล้วบอกว่าจะขอคบแบบนี้จนกว่าเขาจะใจอ่อนมันยิ่งทำให้เขารู้สึกผิด ความเศร้าหมองในแววตาของพี่หนึ่งชัดเจนจนหัวใจของเขารู้สึกเจ็บ เจ็บที่ทำร้ายหัวใจของคนที่ดีกับเรา



แอดดดด



          “คุณสาม” สไมล์เรียกอีกคนอย่างตกใจที่ร่างสูงเดินเข้ามา



          “มึงตกลงกับกูว่ายังไง!” สามถามเสียงดัง สไมล์ก้มหน้าหลบสายตา



          “มึงบอกจะปฏิเสธพี่ชายกูแต่ที่มึงทำคืออะไร มึงอ่อยให้เขาจูบแล้วตกลงคบกับเขา!” สามว่า



          “ปะ...เปล่านะครับผมไม่ได้...”



          “เลิกตีหน้าซื่อตอแห-สักที คืนนั้นกูไม่น่าปล่อยมึงไว้เลยถ้าคิดว่ามึงจะเล่นไม่ซื่อแบบนี้” สามว่าด้วยแววตาเดือดดาด มือหนาปลดกระดุมเสื้อตัวเองพร้อมกับเดินเข้ามาชิดเตียง สไมล์พยายามขยับตัวหนีอีกคนด้วยความหวาดกลัว



          “อย่าทำอะไรผมเลยนะครับคุณสาม ผมกับคุณหนึ่งเราไม่ได้...”



          “ถ้ามึงเป็นของกู กูอยากจะรู้นักว่าพี่หนึ่งจะทนเอามึงต่อจากกูได้มั้ย”



          “โอ๊ย ผมเจ็บ!” สไมล์ร้องเสียงดังเมื่อร่างสูงกระชากเขาเข้ามาก่อนจะขึ้นคร่อม



          “ฮึก ขอร้อง อย่าทำผม” สไม,ว่าน้ำตาคลอ



          “กูไม่ใจดีกับมึงเป็นครั้งที่สองหรอก” สิ้นเสียงปากหนาก็ประกบจูบลงมาทันทีพร้อมกับยัดเยียดจูบที่ร้อนแรงให้กับอีกคนจนสไมล์รู้สึกเจ็บปากไปหมด ลิ้นหนาสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากบางพร้อมกับเกี่ยวพันลิ้นเล็กอย่างร้อนแรงก่อนจะตบท้ายด้วยการดูดลิ้นอีกคนแรงๆจนสไมล์รู้สึกเจ็บไปหมด



          “ฮึก ปล่อยผมนะครับ” สไมล์พยายามดิ้นขัดขืนเมื่อปากหนาเลื่อนลงมาซุกไซ้ที่ซอกคอขาว ปากหนาขบเม้ม ดูดดุนและกัดจนเป็นรอยเห็นได้ชัดซึ่งถ้าใครก็คงรู้ว่าคือรอยอะไร



แควก

มือหนากระชากเสื้อของอีกคนออกอย่างแรงจนขาด เนื้อผ้าเสียดสีกับผิวบางของสไมล์จนขึ้นรอยแดงอย่างน่ากลัวแต่ก็ไม่ทำให้สามรู้สึกเห็นใจแต่อย่างใด



          “ฮึก อย่าทำผมเลยนะครับ ฮึก คุณสาม ฮึก ผมขอร้อง” สไมล์พยายามอ้อนวอนอีกคนถ้ายกมือไหว้ได้เขาคงไหว้ไปแล้วแต่เพราะมือบางถูกตรึงด้วยมือหนาจึงไม่สามารถทำได้



          “กูจะทำให้ทุกๆที่บนร่างกายมึงแปดเปื้อนจนพี่หนึ่งเอามึงไม่ลง” สามว่าเสียงเย็นพร้อมกับถอดกางเกงและชั้นในของอีกคนออกจนร่างบางร่างกายเปลือยเปล่าสไมล์ร้องไห้ออกมาอย่างน่าสงสาร ทั้งกลัว ทั้งอับอาย



          “อ๊ะ ผมเจ็บ” สไมล์ว่าเมื่อนิ้วเรียวของอีกคนสอดแทรกเข้ามา



          “เดี๋ยวมึงเจอของกูมึงจะเจ็บกว่านี้” สามว่าเสียงเหี้ยมก่อนจะเพิ่มนิ้วจนช่องทางของอีกคนพร้อมจึงลุกขึ้นไปถอดเสื้อผ้าตัวเอง สไมล์พยายามคลานหนีแต่เพราะขาไม่สามารถขยับได้จึงไม่สามารถหนีอีกคนได้ สามจับอีกคนนอนหงายแล้วขึ้นคร่อมอีกครั้งก่อนจะพยายามเสือกไสตัวเองเข้าไปแต่เพราะสไมล์เกร็งจึงไม่สามารถใส่เข้าไปได้



          “อย่าเกร็งสิวะ!” สามตะคอกใส่เสียงดังเพราะเขาไม่สามารถสอดใส่เข้าไปได้



แหมะๆ

สามชะงักเมื่อเห็นเลือดสีแดงสดไหลลงมาที่แผ่นอกบาง ตาคมเบิกกว้างทันทีเมื่อเห็นว่าสไมล์กัดลิ้นตัวเองจนเลือดไหล



          “ทำบ้าอะไรของมึง!” สามว่าพร้อมกับจับปากอีกคนอ้าแล้วสอดมือเข้าไปสไมล์กัดมือของอีกคนอย่างแรงแต่สามก็ไม่ได้เอาออกมาแต่อย่างใดเพราะคิดว่าสิ่งที่สไมล์กำลังทำตอนนี้คืออีกคนกำลังช็อคจนไร้สติไปแล้ว



          “กูไม่ทำอะไรมึงแล้ว” สามว่า สไมล์ยังคงร้องไห้แบบไร้เสียงแต่แรงกัดที่เริ่มเบาลงจนสามสามารถเอามือออกมาได้ ตาคมมองอีกคนที่ร้องไห้ออกมาอย่างหนักตัวบางขดงอกอดตัวเองเอาไว้ตัวสั่นๆด้วยความหวาดกลัว



          “ฮึก อย่าทำผม” สไมล์ว่าออกมาเสียงแผ่วเพราะเริ่มได้สติ



          “กูไม่ทำอะไรมึงแล้ว” สามว่าอีกครั้ง มือหนาเผลอยกขึ้นไปลูบหัวอีกคนอย่างไม่รู้ตัว รู้แค่ว่าต้องทำอะไรสักอย่างให้อีกคนเลิกหวาดกลัว



          “ฮึก จริงๆนะ” สไมล์ถามกลับ สามพยักหน้า สไมล์ร้องไห้โฮอีกครั้งจนสามทำอะไรไม่ถูกจึงดึงอีกคนเข้ามากอด เมื่อได้รับความอบอุ่นจากร่างกายอีกคนสไมล์ก็ร้องไห้ไม่หยุดจนในที่สุดก็หมดสติไป



          “แม่งเอ๊ย!” สามสบถออกมาอย่างหัวเสียกับสิ่งที่เกิดขึ้น มือหนายีหัวตัวเองจนยุ่งไปหมดก่อนจะตัดสินใจใส่เสื้อผ้าให้ตัวเองและอีกคนก่อนจะเดินออกจากห้องอีกคนไปอย่างเงียบๆ...ตาคมมองดาวบนฟากฟ้าที่มีไม่ถึง10ดวงด้วยแววตาสับสน มือหนากระดกเบียร์เข้าปากไม่ลดละหลังจากที่กลับมาห้องตัวเอง  สงสาร...เห็นใจ...ความรู้สึกนี้ตบตีกันในหัวสมองสามเต็มไปหมด รู้ว่าที่ทำไปเพราะโกรธมาก โกรธที่อีกคนไม่ทำตามคำสั่ง โกรธที่อีกคนจูบกับพี่ชาย โกรธที่อีกคนคบกับพี่ชาย โกรธมากจนทำเรื่องเลวๆลงไป ถามว่าเขารู้ได้ยังว่าทั้งคู่คบกัน...พี่หนึ่งบอก บอกว่าตกลงคบกับสไมล์แล้ว  เขาก็เชื่อเพราะเห็นทั้งคู่จูบกัน



          “ออกไปจากหัวกู!” สามว่าเสียงดังพร้อมกับปากระป๋องเบียร์ลงพื้นอย่างระบายอารมณ์ ในหัวเต็มไปด้วยคำพูดของพี่ชายที่บอกว่าคบกับสไมล์ เต็มไปด้วยภาพของคนทั้งคู่ที่จูบกันซึ่งมันทำให้อารมณ์ขึ้นอีกครั้งแต่พอรู้สึกโกรธ ใบหน้าสวยหวานที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาของอีกคนก็ลอยขึ้นมาทำให้รู้สึกเจ็บหน่วงๆในใจอย่างแปลกๆ เขาอาจจะกำลังเป็นบ้า อาจจะกำลังเสียสติก็ได้ถึงได้มีความย้อนแย้งในตัวเองขนาดนี้ แต่ทำไมวะ...ทำไมความย้อนแย้งที่เกิดขึ้นสาเหตุมันต้องมาจากคนๆเดียว คนที่ชื่อว่า...สไมล์

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

นกอีกตามเคย 55555 ตอนนี้แต่งไปก็รู้สึกอึดอัดใจไป แต่งยากมากๆไม่รู้จะแต่งให้อิสามเริ่มรู้สึกได้ยังไง คิดว่าทุกคนน่าจะเข้าใจอิสามนะว่ามันกำลังสับสน ใกล้บ้าละตอนหน้าพระเอกเข้าศรีธัญญา นิยายจบ 555555 ยังไงก็ฝากติดตามต่อไปด้วยนะจ๊ะสปอยนิดๆ ตอนหน้าน้องจะไปแล้ว T^T

___จางบิวตี้___

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
โอ้ยยยยยย เครียดดดดดดดดดดด  :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1050
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
ชอบเค้าแล้วล่ะสิ

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
สงสารสไมล์น้อย
ส่วนสาม เกลียดนายจริงๆ สับสนต่อไป คิดให้หัวระเบิดไปเลย

ออฟไลน์ puchi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 762
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
แล้วจะลงเอยกันยังไงล่ะทีนี้ หนึ่งก็บอกว่ารัก ตาสามก็เริ่มสับสนใจตัวเองซะด้วย

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Poor Boy 11

 

          “ทำไมต้องไปอยู่บ้านแกรมม่าล่ะลูก” ผู้เป็นแม่ถามขึ้นในขณะกินข้าวเช้าร่วมกันเมื่อสามบอกว่าอยากจะไปเที่ยวบ้านของแกรมม่าสักสองสามวัน ซึ่งบ้านตายายของแกรมม่าอยู่ในเมืองหลวงก็จริงแต่อยู่แถบชานเมืองเป็นบ้านสวน อากาศดีกว่าแถวบ้านของเขาที่เป็นใจกลางเมือง



          “เที่ยวน่ะครับม๊า” สามตอบ



          “เที่ยวอะไรกัน กลับจากอังกฤษไม่ทันให้ม๊าหายคิดถึงตะลอนไปโน่นไปนี่อีกละ” ผู้เป็นแม่ว่าอย่างน้อยอกน้อยใจ     

 

     “กลับมาเป็นเดือนละครับม๊า อีกอย่างแค่ไปเที่ยวสองสามวันเองเดี๋ยวก็กลับ”สามว่าก่อนที่ตาคมจะไปสบกับตากลมของคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามก่อนที่สไมล์จะเป็นฝ่ายหลบสายตาไป



          “ก็ดี ไปพักบ้านสวยอากาศดีๆ ป๊าก็สนับสนุน” ผู้เป็นพ่อว่า



          “ไม่ใช่ว่าคุณอยากจะไล่ลูกไปไกลๆหรอกนะคะ” ผู้เป็นภรรยาเหน็บแนม



          “คุณหญิงทำไมพูดแบบนี้”



          “ชิ” ผู้เป็นภรรยาเบ้ปากใส่ บรรยากาศบนโต๊ะอาหารตอนเช้าผ่านไปก่อนที่สไมล์จะแยกตัวเองไปช่วยในครัว ส่วนสามก็เตรียมตัวไปเที่ยวบ้านตายายของแกรมม่าพอช่วยงานในครัวเสร็จก็เหมือนทุกวันที่สไมล์จะมานั่งเล่นที่สวนโดยมีหนังสือสำหรับเตรียมสอบติดมือมาด้วยเพียงแต่วันนี้เนื้อหาในหนังสือไม่เข้าสมองเขาเลยสักนิด ไม่ว่าจะพยายามรวบรวมสมาธิอ่านแค่ไหนแต่ในหัวของสไมล์ก็ยังมีภาพเหตุการณ์อันเลวร้ายที่เกิดขึ้นเมื่อคืน  ข้อมือบางยังคงมีรอยบีบของอีกคนอยู่จางๆ แถมเนื้อตัวใต้ร่มผ้าก็ยังคงมีรอยที่อีกคนประทับไว้ดีที่เมื่อเช้าสไมล์ใส่เสื้อผ้าเข้าไปห้องน้ำและเอาเสื้อผ้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำพี่หนึ่งที่มาช่วยเขาอาบน้ำเลยไม่ได้สงสัยอะไร



          “อ่านถึงไหนแล้ว” หนึ่งถามขึ้นเสียงนุ่ม สไมล์เงยหน้าขึ้นมามองอีกคนนิดๆ



          “เอ่อ...ก็เยอะแล้วครับ” สไมล์ตอบ



          “เข้าใจมั้ย? ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนบอกพี่นะ พี่มีเพื่อนเป็นหมอหลายคนถ้าสไมล์ต้องการพี่จะให้มันมาช่วยติว ช่วยแนะนแนวทางให้” หนึ่งว่ายิ้มๆ



          “อย่าเลยครับพี่หนึ่ง” สไมล์ช้อนตาขึ้นมามองอีกคนพร้อมกับพูดออกมา



          “สไมล์” หนึ่งเรียกอีกคนเสียงแผ่ว



          “พี่หนึ่งอย่าดีกับสไมล์มากไปกว่านี้เลยครับ” สไมล์ว่าอย่างรู้สึกผิด



          “ทำไมพี่จะดีกับสไมล์ไม่ได้ในเมื่อพี่...”



          “แต่สไมล์ไม่ได้รู้สึกแบบนั้น สไมล์รักพี่หนึ่งแบบพี่ชาย พี่ชายที่แสนดี” สไมล์ว่าขัดออกมา



          “แต่สไมล์ก็ไม่ได้ปฏิเสธพี่นี่ แปลว่าสไมล์ให้โอกาสพี่” หนึ่งว่า



          “สไมล์ไม่อยากทำให้พี่หนึ่งเสียใจ สไมล์ไม่อยากทำให้พี่หนึ่งโกรธหรือเกลียด...อื้อออ” เสียงหวานหายไปในลำคอเมื่อปากหนาประทับลงมา สไมล์เบิกตากว้างก่อนจะรีบดันหนึ่งออกอย่างรวดเร็ว



          “ทำไมล่ะสไมล์? เป็นพี่ไม่ได้หรือไง สไมล์ก็เห็นว่าสามมันไม่ได้แคร์สไมล์เลย”หนึ่งว่าด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง ทั้งๆที่เขาพยายามขอโอกาสจากอีกคนแต่สไมล์ก็ทำท่าปฏิเสธทุกอย่าง ปฏิเสธทุกหนทางจนเขาไม่เหลือทางที่จะเดินหน้าต่อไปแล้ว



          “ขอโทษครับ”...เหตุการณ์เมื่อครู่อยู่ในสายตาคมตลอดเวลา สามกำมือแน่นอย่างไม่รู้ตัวเมื่อเห็นว่าพี่ชายจูบกับร่างบางอีกคน เขาไม่ได้ตั้งใจจะมองลงมาแต่แค่ออกมาสูบบุหรี่ก่อนไปบ้านแกรมม่าแต่กลับเห็นเหตุการณ์นั้นเข้าเขาก็รีบเดินกลับเข้าห้องทันที แรด! ร่าน! อ่อย! ทีกับเขาทำเป็นสะดีดสะดิ้ง ร้องไห้จะเป็นจะตายแต่กลับพี่หนึ่ง...แม่ง แล้วทำไมเขาต้องหัวเสียขนาดนี้วะ! ว่าแล้วสามก็หยิบกระเป๋ามาพาดบ่าแล้วถือกุญแจรถเดินดุ่มๆมาที่โรงรถแล้วขับรถคันโปรดออกไปทันทีด้วยอารมณ์ที่ยังคุกกรุ่นไม่หาย...แกรมม่าอดแปลกใจไม่ได้ที่เพื่อนสนิทบอกว่าจะมาอยู่บ้านเขาสักสองสามวัน อดสงสัยไม่ได้ว่าบ้านสวนตากับยายของเขามีอะไรดึงดูดตรงไหน หรือว่ามันพิศวาสไอ้เข้ม สุนัขพันธุ์ไทยที่ยายเขาเลี้ยงไว้วะ



          “หนีอะไรมาวะ” แกรมม่าถามขึ้น



          “เปล่า” สามตอบสั้นๆพร้อมกับพ่นควันออกจากปาก



          “แต่หน้ามึงเหมือนคนกำลังมีเรื่องในใจตลอดเวลา” แกรมม่าว่าก่อนจะหยิบบุหรี่มาจุดสูบเช่นเดียวกับสาม สามนิ่งกับคำพูดของเพื่อนสนิทก่อนจะนึกถึงสาเหตุที่ทำให้อยู่ๆเขาก็มาอยู่บ้านแกรมม่ากะทันหัน สาเหตุก็คือใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา ร้องไห้อ้อนวอนให้เขาหยุดปรานจะขาดใจ ให้ตายสิ....แม่งพอนึกถึงหน้ามันทีไรหัวใจของเขาก็กระตุกขึ้นมาแปลกๆ ซึ่งมันช่างน่าหงุดหงิดสิ้นดี



          “มึงเคยเกลียดใครมากๆจนมีหน้ามันมาวนเวียนตลอดเวลามั้ยวะ” สามถามขึ้นแกรมม่าเลิกคิ้ว



          “เกลียดหรือรักวะ ทำไมต้องมีหน้ามาวนเวียนตลอดเวลา” แกรมม่าถามอย่างไม่เข้าใจ



          “เกลียดสิวะ!” สามว่าเสียงดัง



          “เออๆ เกลียดก็เกลียด แล้วไงวะ เพราะมึงเกลียดใครในบ้านเลยหนีมาอยู่บ้านกู?” แกรมม่าเลิกคิ้วถาม



          “กูไม่ได้หนี!” สามเถียง



          “เออๆ จะเกลียดจะรัก จะหนีไม่ได้หนีก็เรื่องของมึงเถอะ” แกรมม่าขมวดคิ้ว



          “กูเกลียดมัน เกลียดมันที่เข้ามาอยู่ในบ้านกู...มันทำให้ม๊ากูเป็นทุกข์ มันทำให้ป๊ากูเอ็นดู มันทำให้พี่ชายกูหลงรัก มันทำให้กู...” สามเงียบไปครู่หนึ่ง



          “...เป็นบ้าอยู่แบบนี้” สามว่าต่อก่อนจะพ่นควันออกมาอีกครั้ง แกรมม่ารับฟังเพื่อนเงียบๆซึ่งก็พอจะรู้อยู่บ้างว่ามีคนเข้ามาอยู่ในบ้านของสามเลยทำให้เจ้าตัวต้องกลับไทยมาจัดการ แต่เขากลับสงสัยว่าถ้าสามเกลียดอีกคนขนาดนั้นทำไมกลับคิดถึงคนๆนั้นตลอดเวลา



          “เขาทำอะไรให้มึงวะ?” แกรมม่าถาม สามเงียบไปสักพักก่อนจะตอบ



          “ไม่เคย...มันไม่เคยทำอะไรให้กูแต่กูกลับหงุดหงิดใจที่เห็นมัน กูหงุดหงิดชิหายเวลาที่เห็นมันอยู่กับพี่ชายของกูจนกูเกือบปล้ำมัน” แกรมม่าเบิกตากว้างทันทีกับคำพูดที่ออกมาจากปากของเพื่อนสนิท



          “สัส นี่ตกลงมึงเกลียดยังไงวะ? “แกรมม่าถาม



          “กูก็ไม่รู้ แม่ง...กูจะบ้าอยู่แล้วเนี่ย เห็นหน้ามันแล้วรู้สึกแปลกๆในใจ แม่ง กูเป็นเชี่ยอะไรวะ!” สามสบถออกมาอย่างหงุดหงิดใจในสิ่งที่ตัวเองกำลังเป็น



          “เอาที่กูสันนิฐานนะ อย่าด่ากูนะเว้ย?” แกรมม่าพูด สามเลิกคิ้ว



          “อะไร?”



          “กูว่ามึง...ชอบเขาว่ะ”



          “ไอ้เชี่ยแกรมม่า!!”...วันต่อมา...เสียงพูดคุยในห้องรับแขกทำให้สไมล์ที่พึ่งตื่นนอนอาบน้ำอาบท่าเสร็จอดสงสัยไม่ได้ว่าที่บ้านมีแขกกะทันหันหรือยังไง ทำไมเขาไม่รู้มาก่อน ร่างบางเข็นรถเข็นมาที่ห้องรับแขกเพื่อจะดูแต่กลับถูกลุงนทีเรียกให้เข้าไปซะงั้น



          “นี่น่ะเหรอสไมล์?” สไมล์มองผู้หญิงวัยชราอายุอานามน่าจะ70กว่าๆที่นั่งข้างผู้ชายวัยกลางคนรุ่นราวคราวเดียวกับลุงนทีพูดขึ้น



          “ใช่ค่ะ คนนี้แหละค่ะ” ผู้เป็นคุณผู้หญิงของบ้านพูดซึ่งนั่นก็ทำให้สไมล์งุนงงเข้าไปใหญ่



          “โถ่...สไมล์หลานย่า” สไมล์เบิกตากว้างอย่างตกใจทันทีกับสรรพนามที่หญิงชราใช้เรียกเขา หญิงชราทำท่าจะโถเข้ามาหาสไมล์แต่หนุ่มวัยกลางคนรั้งไว้ก่อน



          “คุณมีหลักฐานอะไรที่ชี้ชัดว่านี่คือลูกชายของบวรพจน์” สไมล์ตาสั่นระริกเมื่อหนุ่มวัยกลางคนพูดถึงชื่อนั้น...ชื่อของพ่อของเขา



          “บวรพจน์คือชื่อของพ่อของผมครับ” สไมล์พูดขึ้น คุณผู้หญิงของบ้านยกยิ้มอย่างพึงพอใจ



          “หมายความว่าเธอคือลุกชายของบวรพจน์จริงๆใช่มั้ย ไม่โกหกคนแก่ใช่มั้ย”หญิงชราว่าน้ำตาซึม



          “ผมยืนยันอีกเสียงครับว่าสไมล์คือลูกของศศิและบวรพจน์ เอกสารเกี่ยวกับสไมล์อยู่ที่ผม” นทีพูดขึ้น



          “นี่มันเรื่องอะไรกันครับลุงนที” สไมล์ถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ



          “ฉันช่วยตามหาญาติของกะ...เธอให้ ฉันคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เธอต้องไปอยู่กับญาติของเธอ” คุณผู้หญิงของบ้านเป็นคนตอบ



          “ย่าขอโทษ ขอโทษที่ไม่เคยรู้เรื่องสไมล์เลย” หญิงชราว่า เรื่องราวของเรื่องนี้มันเกิดขึ้นเมื่อ25ปีก่อนที่ลูกชายคนเล็กของเธอทะเลาะกับสามีของเธอแล้วหนีออกจากบ้าน จากนั้นเธอก็ไม่ได้รู้เรื่องของบวรพจน์อีกเลย รู้เพียงแค่ว่าบวรพจน์มาอยู่ที่ไทยส่วนครอบครัวของเธอใช้ชีวิตกันอยู่ที่นิวซีแลนด์



          “คุณคือย่าของผมจริงๆเหรอครับ?” สไมล์ถาม



          “ใช่...ฉันคือแม่ของบวรพจน์ ส่วนนี่บวรพงษ์ ลุงของหนู” หญิงชราว่า สไมล์รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในใจแปลกๆแม้จะไม่รู้สึกคุ้นเคยกับคนแปลกหน้าสองคนก็ตามแต่อะไรบางอย่างมันกลับบอกเขาว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องโกหก



          “จริงๆนะครับ ฮึก สไมล์ยังเหลือย่า ฮึก กับลุงจริงๆนะครับ” สไมล์ถึงกลับน้ำตาซึมเมื่อรู้ว่าตัวเองไม่ได้โดดเดี่ยวคนเดียวบนโลกอีกต่อไป หญิงชราพยักหน้ารับก่อนจะลุกเข้าไปโผกอดสไมล์ทันที...สไมล์อดตกใจไม่ได้ที่อยู่ๆย่ากับลุงจะพาเขาไปด้วยวันนี้ซึ่งมันกะทันหันมากโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว ย่าบอกว่าจะพาเขาไปอยู่ที่นิวซีแลนด์ พาไปรักษาขาและอาจจะให้ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น ช่วยลุงดูแลฟาร์มแกะ ซึ่งเขาก็อดตกใจอีกไม่ได้ว่าย่าของเขาเป็นระดับมหาเศรษฐีผู้มีพื้นที่ไร่ในประเทศสงบๆอย่างนิวซีแลนด์หลายร้อยกว่าไร่



          “สไมล์จะไปวันนี้จริงๆเหรอ” หนึ่งถามเสียงเศร้าหลังจากที่รับรู้เรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับอีกคน



          “คุณย่าบอกแบบนั้นน่ะครับ เห็นว่าจะรีบกลับนิวซีแลนด์ด้วย” สไมล์ว่า



          “แต่พี่...”



          “สไมล์ขอบคุณพี่หนึ่งทุกๆอย่างนะครับ พี่หนึ่งดีกับสไมล์ทุกอย่าง สไมล์รักพี่หนึ่ง รักแบบพี่ชายที่แสนดีที่สุด” สไมล์ว่าขณะที่กำลังจะขึ้นรถไปกับย่าและลุง



          “แต่พี่...”



          “สไมล์เชื่อว่าสักวันพี่หนึ่งจะเจอคนที่คิดเช่นเดียวกัน คนดีๆอย่างพี่หนึ่งต้องได้เจอคนดีๆแน่นอนครับ” สไมล์จับมือหนึ่งมาบีบเบาๆพร้อมรอยยิ้ม หนึ่งอยากจะยิ้มตามแต่อารมณ์ตอนนี้เขายิ้มไม่ไหวจริงๆ



          “คุณลุงนทีครับสไมล์ขอบคุณคุณลุงมาเลยนะครับที่เอาสไมล์มาอยู่ด้วย ถ้าไม่มีคุณลุง สไมล์ก็ไม่รู้ว่าชีวิตของสไมล์จะเป็นยังไงต่อไป” สไมล์ว่าด้วยความซาบซึ้งใจ



          “ลุงเอ็นดูสไมล์เหมือนเป็นลูกอีกคนของลุง สไมล์เป็นเด็กดี เป็นเด็กน่ารัก” นทีว่าพร้อมลูบหัวอีกคนอย่างเอ็นดูจนผู้เป็นภรรยาอดหมั่นไส้ไม่ได้



          “พี่สองครับ...สไมล์ขอบคุณพี่สองมากนะครับที่ไม่รังเกียจสไมล์ ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่แม้ว่าเราจะไม่ได้คุยกันเท่าไหร่แต่สไมล์ก็รู้สึกดีกับพี่สองเหมือนเป็นพี่ชายอีกคนนะครับ” สไมล์ว่าด้วยรอยยิ้ม สองพยักหน้ารับนิดๆแต่ในใจก็ใจหายอย่างมากที่อีกคนกำลังจะไป



          “ส่วนคุณผู้หญิง...ขอบคุณที่ยอมให้สไมล์มาอยู่ด้วยนะครับ” สไมล์ว่าแต่ก็หลบตาอีกคนที่มองมา คุณผู้หญิงของบ้านพยักหน้ารับนิดๆ สไมล์มองทุกคนอีกครั้งก่อนจะมองบ้านที่เขาเคยอยู่ในระยะเวลาหลายเดือนอย่างใจหาย ในหัวกลับนึกถึงใครอีกคนที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้ ใครอีกคนที่คอยทำร้ายเขาตลอดแต่ทำไมกันนะ คนๆนั้นถึงได้มาทำให้เขารู้สึกใจสั่นหวั่นไหวแบบนี้



          “ลาก่อนนะครับ” สไมล์พูดลาอีกครั้งก่อนจะขึ้นรถออกไป...สามกลับมาบ้านในตอนเย็นทั้งๆที่วางแผนว่าจะกลับมาพรุ่งนี้ ตอนแรกคิดว่าไปบ้านแกรมม่าจะเลิกฟุ้งซ่านแต่กลับไม่ใช่เลย เขากลับฟุ้งซ่านยิ่งกวาเดิมเสียอีก



          “อ้าว ไหนบอกม๊าว่าจะกลับพรุ่งนี้ไงคะ?” ผู้เป็นแม่ทักขึ้นเมื่อลูกชายคนโปรดกลับมา



          “ม๊าดูอารมณ์ดีนะครับ” สามถามขึ้น ผู้เป็นแม่ยกยิ้ม



          “แน่นอนในเมื่อไอ้กาฝากมันออกไปจากบ้านของเราแล้ว” ผู้เป็นแม่ว่า สามขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยิน



          “ทำไมครับ?”



          “เพราะแม่ตามหาญาติของมันมารับตัวมันไปแล้วไง ป่านนี้คงเตรียมตัวบินไปนิวซีแลนด์แล้วมั่ง ไม่คิดว่าอย่างมันจะเป็นหลานคนรวยแบบนั้นแต่ก็ช่างเถอะมันไปแล้ว ม๊าก็มีความสุข” ผู้เป็นแม่พูดไปยิ้มไปแต่สามกลับไม่ยิ้มด้วย ร่างสูงขมวดคิ้วเป็นปมรู้สึกใจหายแปลกๆกับสิ่งที่ได้ยิน...สไมล์ไปจากที่นี่แล้วงั้นเหรอ?

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนนี้ยาวกว่าปกติมากกกกกก 55555 เล่นเอาหลังเคล็ดไปเลย งื้อออออออ ต่อไปจะแต่งคู่รองก่อนนะคะ พักคู่หลักให้น้องสไมล์ไปเลี้ยงแกะก่อนนะคะ 5555

___จางบิวตี้___

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
เย้!!!! สไมล์ยังมีย่ากับลุง แถมมารับไปรักษาตัวด้วยแล้ว หลุดพ้นจากอีคุณหญิงซะที  :hao5: :hao5: :hao5:

มีความสะใจกะสามมาก เหมือนพึ่งจะเริ่มรู้ใจตัวเอง แต่สไมล์ก็ไปซะแล้ว 555 :laugh: :laugh: :laugh:

หลังจากคู่รอง สไมล์คงเดินได้แล้วซินะ  :hao7: :hao7: :hao7:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด