Poor Boy…รักไม่ได้ [Yaoi Boy’s Love] อัพตอน20 (12/09/59) End
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Poor Boy…รักไม่ได้ [Yaoi Boy’s Love] อัพตอน20 (12/09/59) End  (อ่าน 61459 ครั้ง)

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
แต่ถ้าวามแพ้ล่ะ

เรื่องคงสนุกน่าดู,,,,

ออฟไลน์ Jessiebier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 357
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
รอสาม ไมล์ สนุกๆๆๆๆๆ
 :mew3:

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
อยากให้สามแพ้ จะได้เจ็บที่ทำอะไรไม่คิด

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Poor Boy 15

 

          รถแข่งสองคันที่ขับเบียดกันจนเกิดประกายไฟแปล๊บๆอยู่กลางถนนสร่างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชมไม่น้อย ยิ่งถ้าใครดุไปพนันไปแล้วล่ะก็ยิ่งทำให้การแข่งขันครั้งนี้ลุ้นระทึกเข้าไปใหญ่ สไมล์ยอมรับว่าเขาเองเช่นกันที่กำลังลุ้นระทึกกับการแข่งขันครั้งนี้ แม้ในใจจะคิดว่ายังสามก็ต้องเอาชนะให้ได้แน่ๆแต่พอเห็นฝีมือคู่แข่งที่สูสีกันแล้วสไมล์ยิ่งรู้สึกหัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นตะนก หรือว่าบางทีสามอาจจะแกล้งแพ้แล้วให้เขาไปกับอีกคนเพราะโกรธที่ถูกเขาหักหน้า  พอคิดได้อย่างนั้นนัยน์ตากลมก็สั่นระริกไปหมด



          “เฮ้!!!” เสียงเฮดังขึ้นทำให้สไมล์ที่กำลังตกอยู่ในภวังค์หันไปมองทันทีก่อนที่ริมฝีปากบางจะยกยิ้มขึ้นมาเมื่อเห็นว่าใครที่เป็นคนเข้าเส้นชัยก่อน



          “แม่ง พลาดจนได้” ธันคู่แข่งของสามเดินเข้ามาหาสามก่อนจะยื่นเงินพนันให้

 

         “หึๆ คราวหน้าค่อยแก้ตัว” สามว่าพลางยักไหล่ เขากับธันไม่ได้เป็นศัตรูกันหรอกแค่ในสนามเป็นคู่แข่งกันเฉยๆ



          “ถ้าคราวหน้ามึงพาคนน่ารักมาอีกก็น่าลองแก้มือ” ธันว่าหน้าเจ้าเล่ห์ สามขมวดคิ้วทันที



          “ฝันไปเถอะมึง” สามว่าก่อนจะเดนเข้าเต็นท์ไปหาใครบางคนที่นั่งรออยู่ทันที



          “กลับ!” สามว่าพร้อมคว้าแขนสไมล์แล้วลากไปยังรถที่จอดเอาไว้ทันที สไมล์เองก็เดินตามไปอย่างว่าง่ายไม่ได้มีปากมีเสียงอะไรกันเหมือนตอนแรกที่มา…บรรยากาศบนรถตกอยู่ในความเงียบ ทั้งสามและสไมล์ไม่มีใครพูดอะไรทั้งนั้น สไมล์ตาปรือนิดๆเพราะความง่วงแต่ก็ต้องพยายามฝืนไว้เพราะคงไม่ดีเท่าไหร่ที่เผลอหลับทั้งๆที่อยู่บนรถอีกคนแบบนี้



          “ตามผมลงมาทำไม” สไมล์ถามขึ้นทันทีที่อีกคนลงจากรถพร้อมเขาเมื่อรถเข้ามาจอดที่ที่จอดรถของคอนโดของเขา



          “กูก็ต้องใช้ของพนันให้คุ้มไง” สามว่า สไมล์ตาโตทันทีเพราะพอจะเข้าใจสิ่งที่อีกคนพูด



          “พูดบ้าอะไรของคุณ คุณชนะก็ได้เงินแล้วไง” สไมล์เถียงกลับไป



          “แค่เงินไม่พอหรอก” สามว่าก่อนจะดันสไมล์เข้าไปในลิฟต์ สไมล์กำลังจะอ้าปากท้วงริมฝีปากหนาของอีกคนก็ประกบลงมาทันที สไมล์ร้องอื้ออึงในลำคอพยายามเม้มปากไม่ให้อีกคนสอดแทรกลิ้นเข้ามาแต่มีหรือคนที่มากประสบการณ์อย่างสามจะไม่สามารถ สามกัดปากอีกคนเบาๆให้เผยปากก่อนจะสอดแทรกลิ้นเข้ามาเชยชิมความหวานภายในโพรงปากของอีกคนพร้อมกับมือหนาที่กดลิฟต์ไปยังชั้นของอีกคนที่เขาลืบรู้ยันชั้นและยันห้อง



ติ๊ง!

ประตูลิฟต์เปิดแต่สามก็ยังไม่ยอมละริมฝีปากออกจากอีกคน สไมล์ที่ตอนแรกขัดขืนก็เริ่มอ่อนระทวยอยู่ในอ้อมแขนของอีกคน สามหัวเราะในลำคอเบาๆก่อนจะถอนริมฝีปากก่อนจะตวัดแขนอุ้มอีกคนพาดบ่าทันที



          “ปล่อยผมนะ! จะทำอะไรของคุณ! ปล่อยนะ!” สไมล์โวยวายพร้อมทุบตีที่แผ่นหลังของอีกคนอย่างแรง



          “รหัสอะไร” สามถามเมื่อห้องของสไมล์ต้องใส่รหัส



          “ไม่บอก” สไมล์ปฏิเสธทันควัน



ป๊าบ

มือหนาตีเข้าที่สะโพกบางทันที



          “อย่าดื้อ” สามว่าเสียงขุ่นก่อนจะกดเลขมั่วๆเผื่อว่าอีกคนจะตั้งรหัสง่ายๆ



          “ถามว่ารหัสอะไร” สามถามอีกครั้ง



          “ผมไม่บอกไงเล่า” สไมล์ยังคงยืนยันคำเดิม



          “ถ้าไม่บอก กูจะบีบสะโพกมึงอยู่ตรงนี้แหละ กิดอารมณ์เมื่อไหร่ก็จับเอาแม่งหน้าประตูเอาให้กล้องจับภาพได้ไปเลย” สามว่าขู่ๆ สไมล์ตาโตทันที



          “หนึ่งเก้าศูนย์ห้า” ก่อนที่เสียงหวานจะยอมบอกออกมาในที่สุดเพราะสามไม่ได้แค่ขู่เพราะมือหนาขย้ำสะโพกของเขาจริงๆ พอเปิดประตูได้สามก็พาอีกคนมายังโซฟาก่อนจะโยนอีกคนลงโซฟาอย่างแรงก่อนจะขึ้นคร่อม



          “ทำบ้าอะไรของคุณฮะ!” สไมล์ถามเสียงตื่น



          “หึๆ มึงคนเก่งหายไปไหนล่ะ ที่สนามยังปากเก่งกับกูอยู่เลย” สามว่าพร้อมแสยะยิ้มมุมปาก



          “ผมไม่ได้ปากเก่ง ผมไม่รู้ว่าคุณพูดอะไรกันแน่ เฮอะ” สไมล์เถียง



          “ที่สนามมึงทำอะไรไว้จำไม่ได้หรือไง” สามว่าใบหน้าหล่อยังติดไปด้วยความหงุดหงิดเมื่อนึกถึงเรื่องและสิ่งที่อีกคนทำที่สนามแข่ง สไมล์ขมวดคิ้วกับคำพูดของอีกคน



          “ยั่วนักใช่มั้ย เดี๋ยวกูจะกระแทกให้เอวหัก!” สามว่าเสียงดัง สไมล์ชะงักแต่ก็ต้องพยายามควบคุมอารมณ์ไม่ให้แตกตื่น เพราะไม่เช่นนั้นเขาจะกลายเป็นผู้แพ้ทันที



          “ถ้าคุณยอมกลืนน้ำลายตัวเองก็ลองดู J” สไมล์ว่าอย่างท้าทายพร้อมกับแสยะยิ้มร้ายมุมปาก ที่เขาทำแบบนี้ก็เพราะปกป้องศักดิ์ศรีตัวเอง เขาจะไม่ยอมให้อีกคนมารังแกเขาอีกต่อไปแล้ว สไมล์คนใหม่ไม่ใช่คนอ่อนแออีกต่อไปแล้ว!



        “อย่ามาท้ากูนะ!” สามตะคอก



          “ไม่ได้ท้า แต่คนอย่างคุณมันเป็นพวกชอบกลืนน้ำลายตัวเองไม่ใช่หรือไงเกลียดผมนักไม่ใช่เหรอแล้วมายุ่งกับผมทำไม ต่างคนต่างอยู่ อื้อออออ” เสียงหวานถูกดูดกลืนไปในลำคอทันทีที่ปากหนาประกบจูบลงมาอย่างรุนแรง รสจูบครั้งนี้ไม่ได้มีความอ่อนหวานแต่อย่างใดมีเพียงแค่ความอยากระบายอารมณ์ล้วนๆ สไมล์ร้องอื้ออึ้งในลำคอให้อีกคนปล่อยเพราะเริ่มหายใจไม่ออก สามปล่อยแต่ใช่ว่าจะหยุด ปากหนาเปลี่ยนเป้าหมายมาที่ลำคอขาวทันที



          “ปล่อยผมนะ คนเลว ผมเดี๋ยวนี้นะ!” สไมล์ว่าพร้อมทุบตีอีกคนอย่างแรง



          “เออ กูมันเลว และครั้งนี้กูจะเลวให้สุดๆ อย่าหวังว่ามึงจะรอดแบบทุกครั้ง”สามว่าเสียงเหี้ยม มือหนากระชากเสื้อเชิ้ตของสไมล์ออกอย่างแรงจนผิวขาวเป็นรอยแดงก่อนจะใช้เศษเสื้อมัดที่ข้อมือทั้งสองของสไมล์เอาๆไว้



          “คุณมันก็ดีแต่รังแกคนอื่น ไม่ว่าจะกี่ปีก็ดีแต่รังแกคนไม่มีทางสู้!” สไมล์ว่าเสียงดัง แต่สามไม่สนใจเพราะสิ่งที่เขาสนใจตอนนี้คือยอดอกสีชมพูระเรื่อของอีกคน

 

         “อ๊ะ!” สไมล์สะดุ้งเมื่ออีกคนกัดเข้าที่ยอดอกอย่างแรง ตากลมซึมไปด้วยน้ำตาแต่สไมล์พยายามกลั้นเอาไว้ เขาจะไม่อ่อนแอ จะไม่เสียน้ำตาอีกแล้ว



          “อ้อนวอนกูสิ” สามพูดขึ้นเสียงเย็นพร้อมมองสไมล์อย่างเป็นต่อ



          “ไม่มีทาง!” สไมล์ว่ากลับเสียงดัง



          “หึๆ งั้นมึงก็เตรียมตัวเป็นเมียกูได้เลย” สิ้นเสียงทุ้มมือหนาก็ถอดกางเกงของสไมล์ออกอย่างรวดเร็วจนกายบางเหลือเพียงชั้นในสีขาวปกปิดร่างกาย สไมล์หน้าร้อนด้วยความอับอาย ตากลมสั่นระริกเริ่มหวาดกลัวขึ้นมา ทั้งๆที่คิดว่าตัวเองเข้มแข็งขึ้นแล้วก็ตาม



          “พนันกันมั้ย!” อยู่ๆสไมล์ก็โพล่งเสียงขึ้นทำให้สามที่กำลังทำคิสมาร์คที่หน้าท้องบางต้องชะงัก



          “อะไร?”



          “หนึ่งเดือน…ถ้าคุณทำให้ผมยอมเป็นของคุณได้ ผมก็จะยอมเป็นของคุณด้วยความเต็มใจ” สไมล์ว่าเสียงจริงจัง

 

         “เฮอะ ทำไมกูต้องรอขนาดนั้น ปล้ำๆมึงให้จบไปเลยดีกว่า” สามว่าพร้อมกับก้มลงไปดูดดุนที่ยอดอกสีชมพูอีกครั้ง สไมล์กัดปากกลั้นเสียงและพยายามระงับตัวเองไม่ให้เผลอไผลไปกับอีกคน



          “คุณไม่กล้าสินะ!” สไมล์ว่าเสียงดัง สามชะงักอีกครั้ง ใบหน้าหล่อเงยขึ้นมาพร้อมกับความบึ้งตึง



          “อย่ามาท้า!”

 

         “ผมกำลังท้า  แต่ก่อนคุณเคยมองว่าผมง่ายไม่ใช่หรือไง งั้นก็ทำให้มันเป็นจริงสิเวลาหนึ่งเดือนทำให้ผมยอมเป็นของคุณ” สไมล์ว่าพร้อมมองใบหน้าหล่ออย่างท้าทาย ซึ่งคนที่เกลียดความท้าทายอย่างสามมีหรือจะไม่รับคำท้า

   

         “ได้! แต่อย่าว่าหนึ่งเดือนเลย หนึ่งอาทิตย์มึงเสร็จกูแน่!” สามว่าเสียงเข้มก่อนจะยอมผละออกแล้วแก้มัดให้อีกคน พอพ้นพันธนาการมือบางก็รีบเอาเศษผ้ามาคลุมตัวทันที



          “คุณจะไปไหน” สไมล์ถามขึ้นเมื่อสามทำท่าจะเดินเข้าไปในโซนห้องนอนของเขา



          “อาบน้ำ คืนนี้กูจะนอนนี่” สามว่าหน้าตาย



          “คุณจะมานอนที่นี่ทำไม กลับไปนะ” สไมล์เอ่ยปากไล่



          “เกมส์มึงเริ่มแล้วไม่ใช่หรือไง เตรียมตัวรับมือกับกูคนใหม่ได้เลย” สามยกยิ้มก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอนของอีกคนพร้อมคว้าผ้าเช็ดตัวที่แขวนไว้เข้าห้องน้ำไปหนึ่งเดือนงั้นเหรอ? เหอะๆ อย่างที่บอกแค่อาทิตย์เดียวก็เกินพอ สามเคยควงสาวมานักต่อนัก เขามั่นใจว่าเสน่ห์ของเขาจะทำให้อีกคนสมยอมแน่ๆ…พอแผ่นหลังหนาลับตาไปสไมล์ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจทันที  สไมล์ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่ถึงได้ท้าทายอะไรบ้าๆลงไป เพียงแค่ตอนนั้นเขาต้องหยุดอีกคนให้ได้ ให้ตายสิ…แล้วต่อจากนี้เขาจะทำยังไงต่อไป คำท้าทายนั่นเท่ากับว่าเปิดโอกาสให้อีกคนเข้าใกล้เขามากขึ้น บ้าๆๆ บ้าบอที่สุด!

         

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ปรับอารมณ์ให้ทันนะคะ ตอนหน้าเขาจะหวานกันแล้ว 5555 บุคลิกสามจะเปลี่ยนไปเลยเนอะเพราะนางต้องทำให้สไมล์สมยอมให้ได้ อิๆ ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ

___จางบิวตี้____

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
เอาหล่ะ มารอดูสามรุ่นโมดิฟายดีกว่า 555  :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ Jessiebier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 357
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
สามจะทำยังไงน้าาาาสส :ling3:

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
รอดูต่อไป,,,

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Poor Boy 7

( Grammar x Song )

 

           อีกไม่ถึงสามวันก็จะถึงวันครบรอบสามเดือนที่สองคบกับแกรมม่าแล้ว สองคิดว่าเขาควรจะทำอะไรพิเศษๆให้แกรมม่าบ้างเพราะสิ่งที่แกรมม่าทำให้เขามันทำให้เขาดีใจมาก แกรมม่าตัดสินใจเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยที่ไทยซึ่งเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับสามแต่คนละคณะ และอีกไม่ถึงหนึ่งเดือนมหาวิทยาลัยก็กำลังจะเปิดแล้ว



          “นั่งคิดอะไรอยู่” แกรมม่าถามขึ้นเมื่อเห็นสองนั่งเหม่อๆ



          “เปล่าสักหน่อย” สองปฏิเสธ เรื่องอะไรจะบอกสิ่งที่คิดจะเซอร์ไพส์อีกคนกันล่ะ



          “หึๆ หน้าตาพี่ดูมีพิรุธ” แกรมม่าว่าพร้อมทำหน้าทำตาอย่างสงสัย



          “พิรุธอะไร มั่วละ” สองเบ้ปากใส่พร้อมทำท่าจะลุกหนีเพราะกลัวว่าอีกคนคาดคั้นไปคาดคั้นมาแล้วเขาจะหลุดปากแต่ไม่ทันจะได้เดินหนี แกรมม่าก็คว้าเอวบางแล้วดึงอีกคนมานั่งลงบนหน้าตักทันที



          “นี่ ปล่อยนะ” สองว่า ใบหน้าใสแดงก่ำ



          “ไม่ปล่อยถ้าพี่ไม่บอกผมมาก่อนว่ากำลังคิดอะไร ไม่ใช่คิดถึงคนอื่นนอกจากผมหรอกนะ” แกรมม่าแกล้งว่า



     “ชิ ฉันไม่ใช่นายนะ” สองแกล้งว่ากลับแล้วค้อนใส่แต่หารู้ไม่ว่ามันทำให้แกรมม่าสะดุ้งไม่น้อย



          “ผมไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย” แกรมม่าว่าพยายามควบคุมเสียงไม่ให้มีพิรุธ



          “ฉันจะเชื่อละกัน” สองว่า แกรมม่ายิ้มๆก่อนจะซุกใบหน้าลงที่ซอกคอของสองทำให้สองรู้สึกจั้กจี้ไม่น้อย



          “นี่...จะทำอะไร ปล่อยนะ” สองว่าพร้อมดิ้นไปมา



          “ขออยู่แบบนี้นะ” แกรมม่าว่าออกมา สองขมวดคิ้วอย่างงงๆแต่ก็ยอมนั่งเฉยๆให้อีกคนซุกไซ้ แกรมม่ากำลังรู้สึกไม่ดี กำลังรู้สึกผิดที่...นอกใจสอง ไม่สิๆ จะเรียกนอกใจก็คงไม่ถูก เรียกว่านอกกายดีกว่า เขารู้ว่าเขามันเจ้าชู้ เขามันเอาไม่เลือกและเขายังทิ้งสันดานเดิมไม่ได้เพราะเมื่อสามวันก่อนเขาไปมีอะไรกับผู้หญิงฝรั่งคนหนึ่งซึ่งเป็นคนเดียวกับที่เจอที่หัวหิน แกรมม่าไม่รู้หรอกว่ามันเป็นความบังเอิญหรือว่าความจงใจของหญิงสาวแต่ที่ๆรู้ ในเมื่ออีกคนเสนอ เขาก็สนองแบบไม่ต้องคิดเลย



          “เป็นอะไร ไม่สบายหรือเปล่า” สองถามขึ้นเมื่อเห็นว่าอีกคนเงียบไปแปลกๆ



          “น่าจะนิดหน่อย” แกรมม่าตอบเสียงแผ่ว ใบหน้าหล่อยังคงซุกไซ้ซอกคอขาวที่ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆของอีกคนอยู่ แกรมม่ารักสอง เขายืนยันความรู้สึกนี้ รักจนอยากจะทะนุถนอมอีกคนเอาไว้ จำได้ว่าตอนมีครั้งแรกกัน สองก็จับไข้ ไม่สบายเลยทีเดียวและตั้งแต่นั้นมาเขาก็ไม่ได้แตะต้องอีกคนอีกนอกจากกอดกับจูบเท่านั้น



          “งั้นก็ต้องกินยา เดี๋ยวจะเป็นหนักไปซะ” สองว่าก่อนจะรีบลุกออกจากหน้าตักอีกคนทันทีโดยที่แกรมม่าไม่ทันได้รั้งไว้ ร่างบางเดินไปที่ตู้ยาสามัญประจำบ้านในคอนโดของแกรมม่าด้วยใบหน้าเป็นกังวลทำให้แกรมม่าอดที่จะรู้สึกผิดมากกว่าเดิมไม่ได้ เมื่อได้เห็นท่าทางเป็นห่วงเป็นใยที่จริงใจของอีกคน



          “สัญญาว่าจะไม่มีครั้งต่อไป ขอโทษ” แกรมม่าพึมพำออกมา...วันนี้เป็นวันครบรอบสามเดือนที่คบกันของแกรมม่ากับสอง สองแกล้งบอกกับอีกคนว่าวันนี้เขาไม่ว่างไปหาเพราะออกไปทำธุระกับพ่อ ซึ่งความจริงแล้วเขากำลังทำเค้กวันครบรอบ ที่เรียนทำจากป้าแม่ครัวสำหรับวันครบรอบวันนี้ให้อีกคนนั่นเอง ตอนแรกสองจะไปเซอร์ไพส์แกรมม่าช่วงค่ำๆ แต่เพราะเค้กที่เขาทำออกมามันออกมาได้ไม่ดีเลยต้องเสียเวลาทำใหม่ คาดว่า4-5ทุ่ม น่าจะเสร็จ...ทางด้านแกรมม่าวันนี้เขาโทรนัดนาช่าผู้หญิงฝรั่งที่เขามีสัมพันธ์ด้วยออกมาเจอที่ผับที่เจอกัน เขาต้องการตัดสัมพันธ์เธอแม้ว่านาช่าจะไม่ได้เข้ามาวุ่นวายกับเขาก็ตาม แต่อย่างน้อยแกรมม่าก็ต้องการทำอะไรให้มันชัดเจน แกรมม่านอนรู้สึกผิดกับสองทุกคืน แม้ว่าจะนอนกอดอีกคนแต่หัวใจกลับไม่มีความสุข



          “นัดไอมามีเรื่องอะไรหรือเปล่า” นาช่าทักขึ้นก่อนที่ร่างสะโอดสะองในชุดเดรสสีแดงจะนั่งลงที่เก้าอี้บาร์ข้างๆแกรมม่า



          “ไอจะบอกกับยูว่า ไอจะไม่ขอติดต่อกับยูอีก” แกรมม่าว่าเสียงเรียบ นาช่าเลิกคิ้วนิดๆก่อนจะหัวเราะออกมา



          “กลัวแฟนของยูรู้?”



          “ประมาณนั้น ไอไม่อยากรู้สึกผิดกับเขา” แกรมม่าตอบตามตรง เขาชอบนิสัยนาช่าอย่างหนึ่งคือพูดง่าย ไม่วุ่นวาย น้ำแตกก็แยกทางไม่ต้องมามีพันธะอะไรกันทั้งสิ้น



          “ไม่คิดว่ายูจะคิดได้ ฮ่าๆๆ” นาช่าว่าไปก็หัวเราะไป เธอเองก็ไม่ได้สนใจอะไรแกรมม่าอยู่แล้ว เธอเป็นผู้หญิงเที่ยว มีสัมพันธ์กับผู้ชายไม่ว่าจะไทยหรือต่างชาติมาไม่น้อยและไม่ได้ผูกพันกับใครแต่ที่เจอแกรมม่าที่หัวหิน คิดว่าน่าสนใจดีเลยคิดว่าถ้ามีโอกาสอยากจะสานสัมพันธ์ด้วยสักครั้งก็แค่นั้น สนุกทั้งสองฝ่าย วินๆกันไป



          “หึๆ นั่นน่ะสิ สงสัยคนนี้จะคือคนที่ใช่จริงๆ” แกรมม่าว่าพร้อมกับหัวเราะตัวเองนิดๆเพราะไม่เคยคิดว่าจะมีวันที่เสือจะทิ้งลาย แกรมม่าเป็นลูกครึ่งเกิดและโตที่อังกฤษ มีกลับมาเยี่ยมตากับยายที่ไทยบ้างเป็นบางครั้งบางคราวแต่ชีวิตของเขาก็คือที่อังกฤษ แกรมม่าถูกเลี้ยงแบบลูกฝรั่งที่พ่อแม่ปล่อยให้ทำอะไรก็ได้ตามใจตัวเองแกรมม่ากินเหล้าสูบบุหรี่ครั้งแรกตั้งแต่อายุ14และมีเซ็กส์ครั้งแรกตั้งแต่อายุ15 กับรุ่นพี่ที่โรงเรียน จึงไม่แปลกที่เขาจะดำเนินชีวิตแบบรักสนุกมาจนถึงทุกวันนี้แต่พอเจอสอง เขาก็รู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไป สายตาของเขามักมองแต่อีกคน จนเมื่อได้คบกันแม้ว่าจะในระยะเวลาที่ไม่นานแต่เขาก็กล้าพูดได้เลยว่าเขารักสอง



          “ไหนๆก็จะอำลากันแล้ว คืนนี้ไปส่งท้ายกันมั้ย” นาช่าเอ่ยปากชวน



          “ส่งท้าย?” แกรมม่าเลิกคิ้ว



          “ใช่ไง วันนี้ไอไม่เจอใครที่ถูกใจเลย อยู่เป็นเพื่อนไอคืนสุดท้ายละกันนะ” นาช่าว่าพร้อมกับเล็บสีแดงที่กรีดกรายมาที่เสื้อเชิ้ตของแกรมม่าอย่างยั่วยวน แกรมม่าชะงักอยากจะปฏิเสธออกมาแต่พอเห็นท่าทางของคนตรงหน้าแล้ว สันดานเดิมก็เริ่มตื่นตัวอีกครั้ง



          “ที่ไหนดีล่ะ?”...ปากบางที่เคลือบด้วยลิปสติกสีแดงระดมจูบปากหนาอย่างร้อนแรงอย่างไม่มีใครยอมใครก่อนที่นาช่าจะเป็นฝ่ายผลักแกรมม่าลงโซฟาแล้วขึ้นคร่อม ตอนแรกพวกเขาจะไปเปิดโรงแรมกันแต่แกรมม่ากังวลว่าพรุ่งนี้สองจะมาหาเขาแต่เช้าแล้วกลับคอนโดไม่ทันจึงพานาช่ามาที่คอนโดแทน ซึ่งข้อแม้คือมีอะไรกันได้ที่โซฟาเท่านั้นและพอเสร็จ นาช่าก็ต้องกลับไปทันที

 

         “อื้มม” แกรมม่าครางในลำคออย่างพึงพอใจเมื่ออีกคนกัดเข้าที่ใบหูของเขาอย่างยั่วยวน ใบหน้าหล่อเชิดขึ้นด้วยแรงอารมณ์ ตาคมหลับพริ้มพร้อมกับนึกภาพของสองแล้วเผลอคิดว่าถ้าคนที่กำลังอยู่บนร่างของเขานี้เป็นสองก็คงจะดีไม่น้อย



          “ไอจะทำให้ถึงใจเป็นการส่งท้ายยูละกัน” นาช่าว่าก่อนจะปลดกระดุมเสื้อของแกรมม่าก่อนที่ปากแดงจะไล้เลียไปตามแผ่นอกและกล้ามเนื้อหน้าท้องของแกรมม่าอย่างเจนจัด หลังจากที่เล้าโลมส่วนบนเสร็จนาช่าก็ปลดกางเกงของแกรมม่าออกพร้อมชั้นในก่อนจะลุกขึ้นมาถอดเดรสและชั้นในของตัวเองออกเช่นกัน



          “ยูต้องการท่าไหนล่ะ บอกไอมาได้เลย” นาช่าว่าพร้อมยิ้มยั่ว ปากแดงกำลังไล้เลียแก่นกายของแกรมม่าซึ่งสร้างความเสียวซ่านให้แกรมม่าไม่น้อย



          “หึๆ ตามใจ” แกรมม่าว่า นาช่ายกยิ้มก่อนจะครอบครองแก่นกายของสามจนเต็มปากก่อนจะขยับปากเข้าออก...ทางด้านของสอง พอเค้กเสร็จสองก็รีบจัดเข้ากล่องแล้วขับรถตรงดิ่งมาที่คอนโดแกรมม่าทันที นี่5ทุ่มกว่าแล้วเค้กเสร็จช้ากว่าที่คิดไปนิดนึงแต่คิดว่าเวลาแบบนี้อีกคนคงยังไม่นอนแน่ๆแต่ถึงนอนแล้วเขาก็เซอร์ไพส์ได้เพราะเมื่อวันก่อนเขาแอบขโมยกุญแจห้องอีกคนมาปั้มสำรองเอาไว้ไง สองเดินถือกล่องเค้กด้วยรอยยิ้มมาตลอดทางเดินยิ่งมาถึงหน้าห้องหัวใจก็ยิ่งเต้นรัวอย่างตื่นเต้นไม่รู้ว่าแกรมม่าจะชอบของขวัญที่เขาให้หรือเปล่าแต่เขาก็ตั้งใจทำมันมากจริงๆ สองไม่ใช่คนปากหวานหรือชอบแสดงความรักออกมา บางทีแกรมม่าอาจจะน้อยใจก็ได้เพราะฉะนั้นวันนี้เป็นวันดีเขาก็อยากทำอะไรดีๆให้อีกคนบ้าง



แกร็ก



แอดดดด

          “อ๊ะ...อ๊า...อื้อ...อ๊า...ซี๊ดด...อ๊า...อ๊ะ...อ๊ะ...อ๊า” พอเปิดประตูเข้ามาภาพแรกที่สองเห็นก็คือร่างของหญิงสาวผมบอนด์ที่กำลังโยกตัวอย่างเมามันส์พร้อมกับเสียงครวญครางไม่ขาดปาก สองนิ่ง มือไม้สั่นไปหมดอย่างทำอะไรไม่ถูก ตาเรียวสั่นระริกไปหมด



          “เอาของมาให้” สองพูดขึ้นท่ามกลางกิจกรรมอันร้อนแรงที่กำลังดำเนินอยู่ ซึ่งเสียงของสองที่ดังขึ้นทำให้แกรมม่าชะงักทันที นาช่าเองก็เช่นเดียวกัน



          “พี่!” แกรมม่าเรียกสองอย่างตกใจก่อนจะรีบผลักนาช่าลงจากตัวทันที นาช่ารนรานรีบคว้าเสื้อผ้ามาสวมอย่างรวดเร็ว ส่วนแกรมม่าก็คว้าผ้าเช็ดตัวที่อยู่ใกล้ๆโซฟามาพันเอวไว้



          “ของขวัญวันครบรอบน่าประทับใจดีนี่” สองว่าเสียงเรียบพร้อมกับตาเรียวที่มองมาที่แกรมม่าและนาช่า



          “อ่ะ...เอ่อ...คือว่าไอ”



          “หุบปาก ใครพูดกับเธอ!!” สองหันไปตะคอกใส่นาช่า



          “พี่คือผม...” แกรมม่ารนรานพูดไม่ออกไม่คิดว่าสองจะเข้ามาเห็นเหตุการณ์นี้



          “นี่คือของขวัญวันครบรอบสามเดือนของเรา ฉันทำมาให้” สองว่าพร้อมกับเอาถุงเค้กใส่มือแกรมม่า แกรมม่าตาสั่นระริกมองอีกคนซึ่งเขาไม่สามารถคาดเดาใบหน้านิ่งๆของอีกคนได้เลย



          “และจากนี้ไป...ไม่ต้องมาเจอกันอีก เลิกกัน จะไปเอากับอีตัวที่ไหนก็ไป!”ประโยคสุดท้ายสองหันมาพูดกับนาช่าก่อนจะหันหลังเดินออกไป



          “ไม่นะพี่ ไม่เลิก” แกรมม่าว่าพร้อมกับกอดเอวสองเอาไว้ เขารู้สึกผิดมาก รู้สึกผิดที่ทำแบบนี้ครั้งที่สอง ทั้งๆที่สัญญาเอาไว้ว่าจะไม่ทำอีก...แต่แม่ง เขามันเลว เขามันเชี่ย!!



          “อย่าเอาตัวสกปรกของนายมาโดนตัวฉัน!!” สองแผดเสียงใส่พร้อมดึงมือแกรมม่าออกอย่างแรง ใบหน้าใสที่เต็มไปด้วยอารมณ์โกรธหันมามองหน้าแกรมม่าอีกครั้ง



          “เกลียด...คนสารเลว” สองว่าออกมาส่งท้ายก่อนจะเดินหันหลังออกไปแกรมม่ายืนนิ่งงันกับคำด่าที่ออกมาจากปากของอีกคน ตาคมหลั่งน้ำตาออกมาที่คิดว่าชีวิตนี้คงจะไม่ได้มีโอกาสร้องไห้อะไรเพราะใครแบบนี้มาก่อนแต่ตอนนี้...เขากำลังเจ็บ เจ็บปวดไปหมด ทั้งเจ็บ ทั้งเสียใจ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

กรี๊ดดดดดด เรื่องราวย่ำแย่กว่าที่คิดใช่มั้ย? 55555 ตีแผ่ชีวิตผู้ชาย(บางคน)เนอะ โลกความจริงไม่สวยงาม โลกนิยายก็เช่นกัน ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ กินมาม่ากันให้อืดไปเล้ย!
___จางบิวตี้___

ออฟไลน์ dena

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สมน้ำหน้าแกรมม่า ทำตัวเองแท้ๆ โกรธนานๆนะสองไม่ต้องไปยกโทษให้ :angry2: :m16:

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
อ้ากกกก สะใจอิป้า อิแกรมม่าสารเลว เกลียดมาก เกลียดตั้งแต่ต้นเรื่องเลย สามเลวยังไม่เกลียดเท่านี้เลยสองอย่ายอมมันง่ายๆนะ เกลียดยาวๆ ไปเลย (อินหนักมากกกกก)  :katai4: :katai4: :katai4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
สมน้ำหน้าแกรมม่า :angry2:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
อย่างที่คิดจริงๆ
แกรมม่า รักสอง
แต่สายตายังแพรวพราว เจ้าชู้กับหญิงอื่น
บอกว่าไม่ทำอีก แต่พอสาวบอกครั้งสุดท้าย
ก็เลยสุดท้ายกับสองไปด้วย
อุตส่าห์จีบสองได้
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Poor Boy 16

 

หลังจากวันนั้นที่เผลอหยุดปากท้าพนันกับสาม สไมล์ก็รู้สึกว่าเขากำลังคิดผิดเพราะแทนที่เขาจะถอยห่างจากอีกคนได้กลับกลายเป็นว่าเขาต้องมีอีกคนเข้ามาวนเวียนในชีวิตตลอดเวลาอย่างเช่นวันนี้



          “มารับ” สามพูดขึ้นขณะที่มายืนรอรับสไมล์ที่หน้าตึกคณะ ผิงกับเมาส์เมื่อเห็นว่ามีหนุ่มหล่อคุ้นหน้าคุ้นตามารอรับเพื่อนสนิทก็อดที่จะมองอย่างแซวๆไม่ได้



          “ไม่ได้บอกให้มาสักหน่อย” สไมล์ว่าทำท่าจะเดินหนีไปกับเพื่อนแต่ก็ถูกสามคว้าข้อมือเอาไว้



          “จะพาไปกินข้าวเย็น” สามว่าต่อ ก่อนจะเปลี่ยนมือจากจับข้อมืออีกคนมากุมมือบางแล้วพาเดินไปที่รถโดยที่สไมล์ก็อดตกใจไม่น้อยกับการกระทำของอีกคน ตั้งแต่วันนั้นสามพยายามเข้าหาเขามาก ซึ่งสไมล์คิดว่าอีกคนคงอยากชนะเขามากแน่ๆถึงได้ทำแบบนี้แต่ไม่มีทางหรอก เขาไม่ใช่สไมล์คนเดิม ที่จะใจอ่อน หัวอ่อนกับอะไรง่ายๆแบบนั้นอีกแล้ว



          “อยากกินร้านไหน” สามถามขึ้นขณะที่กำลังเดินอยู่ในห้างสรรพสินค้าหรูใจกลางเมืองซึ่งเป็นโซนของร้านอาหาร สไมล์ปรายตามองร้านอาหารหลากหลายร้านอย่างครุ่นคิด



          “ร้านนั้น” สไมล์ชี้ไปที่ร้านไก่ทอดเกาหลีชื่อดัง



          “กินข้าวไม่ดีกว่าหรือไง” สามขมวดคิ้ว



          “ก็อยากกินไก่” สไมล์เถียงพร้อมทำหน้างอที่อีกคนขัดใจ



          “ก็เพราะแบบนี้ตัวเลยไม่โต ผอมจนเหลือแต่กระดูก”



          “โตแล้วเถอะ คุณจะมารู้ดีกว่าตัวผมได้ยังไง” สไมล์ยังคงเถียงหน้าง้ำหน้างอ



          “รู้ดิ...ก็เคยเห็นมาหมดแล้ว” สามว่าก่อนจะยื่นหน้าไปกระซิบประโยคหลังข้างหูบาง สไมล์ชะงัก ใบหน้าใสขึ้นสีระเรื่อทันทีแต่ร่างบางก็พยายามควบคุมสีหน้าเอาไว้ก่อนจะยกยิ้มมุมปากบ้าง



          “ก็ได้แค่เห็นมั้ยล่ะ”...หลังจากที่กินไก่ทอดเกาหลีชื่อดังตามใจสไมล์เสร็จสามก็ขับรถพาสไมล์มาส่งที่คอนโดเพราะไม่ได้พาไปไหนต่อเนื่องจากอีกคนบอกว่าพรุ่งนี้มีสอบ คืนนี้ต้องอ่านหนังสือ สามเองก็ไม่อยากจะรบกวนอะไรอีกคนนัก แม้ว่าอยากจะพยายามหาทางใกล้ชิดอีกคนเพื่อหาโอกาสให้อีกคนใจอ่อนก็เถอะ แต่ก็นะ...นี่มันพึ่งผ่านไปได้แค่3วันเอง เวลายังมีอีกเยอะ หึๆ



          “ไม่ลากันหน่อยหรือไง” สามท้วงขึ้นเมื่อสไมล์กำลังจะลงจากรถ สไมล์ชะงักก่อนจะหันมาเลิกคิ้ว



          “ต้องล่ำลายังไงมิทราบ?”



          “แบบนี้ไง” สามว่าก่อนจะโน้มหน้าเข้ามาจุ๊บริมฝีปากบางทันทีโดยที่สไมล์ไม่ทันตั้งตัว



          “คุณ...”



          “หึๆ หน้าแดงเชียว เขินหรือไง” สามแกล้งแซวขึ้น สไมล์รีบเก็บสีหน้าทันที



          “ไม่มีทางเสียหรอก” สไมล์สะบัดหน้าใส่ก่อนจะรีบลงจากรถคันหรูทันที สามหัวเราะในลำคอนิดๆกับท่าทางของอีกคนก่อนจะออกรถ สไมล์กัดปากมองตามรถคันหรูออกไปด้วยหัวใจที่สั่นไหวแปลกๆ อ่อนหัด!...เขานี่มันอ่อนหัดชะมัด ไม่ได้การแล้วล่ะ ถ้าขืนยังปล่อยให้อีกคนรุกเขาฝ่ายเดียวแบบนี้คงไม่ดีแน่ๆ



          “หยุดหัวเราะไอเดี๋ยวนี้นะ!” สไมล์โวยวายใส่เพื่อนสนิทคนสวยที่อยู่คนละทวีปขณะที่กำลังเฟชไทม์กันขึ้น



          (“ก็มันตลกนี่ ยูท้าเขาแบบนั้นเท่ากับยูเปิดโอกาสให้เขาชัดๆ”) เอมม่าว่าตามที่ใจคิด



          “ก็ตอนนั้นไอคิดอะไรไม่ออกนี่ คิดแค่ว่าต้องเอาตัวรอด” สไมล์ว่าหน้าหงิกหน้างอ เขาไม่เคยมีความลับกับเอมม่าได้จริงๆเพราะยังไงเธอก็เป็นเพื่อนที่เขาสามารถปรึกษาได้ทุกเรื่อง ไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องนี้



          (“ที่ยูเล่า ยูบอกว่าเขาเข้าหายูมากแถมยังเปลี่ยนการกระทำ คำพูดอีก แบบนี้ยูจะไม่หวั่นไหวหรือไง”) เอมม่าว่า สไมล์ชะงักพร้อมกัดปาก



          “ไอ...”



          (“เห็นท่าทางยูแล้ว ไอว่าอีกไม่นาน”) เอมม่าส่ายหน้าไปมา



          “ไม่มีทาง ไอเคยแล้วไงว่าไอจะไม่มีทางกลับไปเป็นไอคนเดิม คนอ่อนแอ คนหัวอ่อนคนนั้นอีกแล้ว” สไมล์ว่าพร้อมกับใบหน้าเจ็บปวดเมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีต



          (“งั้นยูจะนิ่งๆไม่ได้แล้วล่ะ”) เอมม่าว่าพร้อมมองหน้าสไมล์อย่างจริงจัง



          “ยูหมายถึง?”



          (“ทำให้เขาหลงยู ก่อนที่ยูจะหลงเขาแล้วทำให้เขาเจ็บปวดจนไม่อยากจะมายุ่งกับยูอีก เป็นไง...แบบนี้น่าจะสมน้ำสมเนื้อกับที่เขาเคยทำกับยูนะ”)...คำพูดของเอมม่ายังคงวนเวียนอยู่ในหัวของสไมล์จนเขาแทบจะอ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง คนอย่างเขาเนี่ยนะจะทำให้สามหลงได้ เหอะๆ ยากเสียยิ่งกว่าตอนสอบเข้าทันตะแพทย์เสียอีก...วันนี้เป็นวันหยุดและสามก็มารับสไมล์ออกไปดูหนังตั้งแต่10โมง ตอนแรกสไมล์ก็ปฏิเสธแต่พอมาคิดๆคำพูดของของเอมม่าดูแล้ว เขาว่าเขาควรจะเป็นฝ่ายรุกอีกคนบ้าง ไม่ใช่ตั้งรับให้อีกคนมาทำให้ตัวเองหวั่นไหวอยู่ฝ่ายเดียว สไมล์เป็นคนใจอ่อน เขารู้จักตัวเขาดี แม้จะบอกว่าเขาเปลี่ยนไปแล้วแต่ก็นะ...ยังไงตัวเราเองก็ย่อมรู้จักตัวเราเองมากกว่าใครๆทั้งหมด



          “มึงอยากดูเรื่องไหน” สามถามขึ้นขณะที่กำลังยืนอยู่หน้าโรงหนัง



          “อืม...” สไมล์ทำท่าคิดก่อนจะเหลือบไปเห็นโปรแกรมหนังสยองขวัญ ก่อนที่ริมฝีปากบางจะกระตุกยิ้ม



          “เอาเรื่องนี้”...สามซื้อตั๋วหนังสยองขวัญมาสองใบกับป๊อบคอร์นหนึ่งชุด หนังกำลังเริ่มเล่นซึ่งสไมล์ยอมรับว่าหนังน่ากลัวสมคำร่ำลืมจริงๆ ไม่ใช่ว่าเขาชอบหนังแนวนี้นะแต่ที่เลือกก็เพื่อ...จะอ่อยอีกคนยังไงล่ะ



          “อ๊ะ” สไมล์ร้องพร้อมสะดุ้งทันทีเมื่อผีโผล่ออกมา ร่างบางเผลอไปซุกอีกคนอัตโนมัติ สามยกยิ้มนิดๆที่เห็นอีกคนซุกไซ้เข้ามาหาตัวเอง



          “หึๆ กลัวหรือไง” สามถามขึ้นพร้อมยกยิ้มมุมปาก



          “ก็ผีมันน่ากลัวนี่” สไมล์ว่าก่อนจะเงยหน้าจากต้นแขนอีกคนมามองหน้าอีกคนระยะห่างระหว่างใบหน้าที่มีไม่มากไม่ได้ทำให้สไมล์ผงะหรือถอยห่างออกไป สามมองร่างบางอย่างหยั่งเชิงก่อนจะขยับใบหน้าเข้ามาใกล้และเมื่อสไมล์ไม่หันหนี ปากหนาก็ประกบเข้ากับปากบางทันที



          “อื้ออออ” สไมล์ครางในลำคอออกมาเมื่ออีกคนประทับจูบ ลิ้นหนาสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากก่อนจะเกี่ยวพันกับลิ้นเล็กอย่างร้อนแรงแต่ก็แฝงไปด้วยความอ่อนโยน สไมล์จูบอีกคนกลับอย่างไม่ยอมแพ้ทำให้รสจูบครั้งนี้ทำให้หัวใจสองดวงเผลอเต้นแรงโดยที่เจ้าของของมันไม่ทันจะได้รู้ตัว



          “หายกลัวหรือยัง” สามถามหลังจากที่ถอนจูบ ไม่รู้ว่าสไมล์คิดไปเองหรือเปล่าว่าน้ำเสียงของอีกคนมันอ่อนโยนแบบแปลกๆ



          “เมื่อกี้ปลอบหรือไง” สไมล์ถามกลับพร้อมมองหน้าอีกคน



          “แล้วถ้าบอกว่าใช่ล่ะ?” สามเลิกคิ้ว



          “งั้นปลอบอีกทีสิ กลัวอีกแล้ว” สามยกยิ้มก่อนที่ปากหนาจะประกบเข้ามาอีกครั้ง...หลังจากที่ดูหนังเสร็จสามก็เดินจับมือสไมล์ออกมาจากโรงหนัง สไมล์รู้สึกหน้าร้อนแปลกๆเมื่อเห็นสายตาของอีกคนที่มองมาที่เขา มันพาลทำให้นึกถึงตอนอยู่ในโรงหนังที่เขาทั้งคู่จูบกันไปสามครั้ง...ใช่ จูบไปสามครั้งโดยที่เขาเป็นฝ่ายเชิญชวนเองด้วย! ให้ตายสิ...สไมล์ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะใจกล้าบ้าบิ่นขนาดนี้ เขาพยายามบอกตัวเองว่าที่ทำไปก็เพราะอยากชนะในเกมส์นี้ เขาต้องทำให้อีกคนหลงเขาก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายเผลอไผลไปกับอีกคน



          “อยากกินอะไร” สามถามขึ้น



          “อยากกินเค้ก” สไมล์ตอบพร้อมกับมองไปที่ร้านเค้กชื่อดังที่อยู่ไม่ไกลนัก



          “อ้วน” สามว่า สไมล์หันไปมทำหน้าง้ำงอใส่ทันที



          “ไหนบอกว่าผอมเหลือแต่กระดูกไง วันนี้มาบอกอ้วน คุณจะเอายังไงกันแน่”สไมล์ว่าอย่างไม่พอใจ แหงแหละ...เขาไม่ได้อ้วนนี่เรื่องอะไรถึงมาว่าเขามาอ้วนกันล่ะ



          “ตัวมึงผอมแต่แก้มมึง...” สามเว้นวรรคก่อนจะยื่นมือมาดึงแก้มกลมๆของอีกคน



          “งื้ออออ ดึงทำไมเนี่ย เจ็บนะ” สไมล์ว่าพร้อมแกะมืออีกคนออก



          “คนอะไรวะตัวเล็กแต่แก้มใหญ่ชิบหาย” สามว่าพร้อมดึงแก้มอีกคนอีกครั้ง



          “ฮึ่ย์ ก็คนอย่างผมนี่แหละ ผมจะกินเค้ก ไม่อยากกินก็เรื่องของคุณ” สไมล์ว่าอย่างไม่พอใจก่อนจะเดินนำอีกคนไปยังร้านเค้กทันที รู้สึกว่าตัวเองหงุดหงิดขึ้นมาแปลกๆ ทั้งๆที่เขาเป็นคนควบคุมอารมณ์ตัวเองเก่งแต่พอโดนอีกคนว่าว่าอ้วนทำไมต้องรู้สึกแบบนี้ด้วยนะ...งอน? บ้าๆๆ งอนบ้าอะไรกัน คำว่างอนมันเอาไว้ใช่กับคนที่สำคัญไม่ใช่หรือไง เขาแค่หงุดหงิดต่างหาก แค่หงุดหงิดเท่านั้น!



        พลั้ก

เพราะมัวแต่รีบเดินทำให้สไมล์ไม่ได้มองทางเดินชนกับใครคนหนึ่งที่กำลังเดินออกจากร้านเค้กเข้าอย่างจัง



          “ขอโทษครับ” สไมล์ว่าออกมาทันทีก่อนจะเงยหน้ามองคู่กรณี



          “สไมล์...” อีกคนเรียกสไมล์อย่างอึ้งๆ สไมล์อีกก็อึ้งเช่นกันก่อนที่ริมฝีปากบางจะเผลอยิ้มกว้าง



          “พะ...พี่หนึ่ง”



          “มึงจะรีบเดินไปไหนวะ...พี่หนึ่ง” สามที่เดินตามสไมล์มาตกใจไม่น้อยที่เจอพี่ชายตัวเองที่นี่



          “สาม สไมล์ ทำไม?” หนึ่งขมวดคิ้วทันทีที่เห็นว่าทั้งคู่มาด้วยกัน ในหัวตอนนี้ของเขามีหลากหลายอารมณ์ไปหมด ทั้งดีใจที่ได้เจอสไมล์ ไม่เข้าใจที่สไมล์มากับสามและยิ่งไม่พอใจเมื่อเห็นว่าสามยื่นมือมาจับมือสมล์ นี่มันเรื่องอะไรกัน!           



     “พี่หนึ่งครับ เมาส์จ่ายเงินเสร็จแล้วครับ” เสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับร่างเล็กที่เดินออกมาจากร้านเค้ก



          “เมาส์!”



          “สไมล์!”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เอาแล้วๆๆ พี่หนึ่งขวัญใจทุกคนกลับมาแล้วค่า 555555 เรื่องราวกำลังเข้มข้นเลย อยากให้ติดตามกันไปจนจบเน้อออออ จุ๊บๆ

___จางบิวตี้___

ออฟไลน์ dena

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เอาแล้วๆ พี่หนึ่งเนี่ยตัดใจจากสไมล์ได้ยัง แล้วพี่หนี่งรักเมาส์จิงหรือแค่จีบเล่นๆเนี่ยยย
โอ้ยยยยยยยอยากรู้ๆๆๆๆ   :katai4: :katai4: :katai4: :m31: :m31: :m31:

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
ทำแบบนี้จะกลายเป็นต่างคนต่างหลงน่ะซิ  :hao3: :hao3: :hao3:

พี่หนึ่งมาแล้ว มาพร้อมเมาส์ซะด้วย ตอนแรกก็กะไว้แล้วหล่ะ เปิดตัวประวัติศาตร์ป่ะเนี่ย คู่รองคู่ที่ 3 หรือว่าคู่หลักเรื่องต่อไป :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

เป็นประวัติการณ์มากป่านนี้คู่หลักยังไม่ได้เสียกันเลย 555  :laugh: :laugh: :laugh:


ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
หนึ่ง เมาส์
สอง แกรมม่า
สาม สไมล์
ครบคู่แล้ว
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Jessiebier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 357
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
 :impress2: :z10:เกลียดแกรมม่ามากๆ คืออารมเสียค่ะ สงสารสองมากๆ ขอให้สองเจอคนที่ดีกว่านี้ด้วยเถิด   :ling1:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
พี่่หนึ่งลืมสไมล์ได้แล้ว?

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
พี่หนึ่ง กะเมาส์ หรอ??

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
ได้กลิ่นความวุ่นวาย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Poor Boy 17



        เมื่อวานที่เจอหนึ่งวันนั้นสไมล์ก็มีโอกาสได้แลกเบอร์โทรกับอีกคน เมื่อวานพี่หนึ่งชวนเขาและสามเข้าไปกินเค้กด้วยกันโดยมีเมาส์ด้วยอีกคน เขามองเมาส์อย่างแซวๆเพราะไม่คิดว่าเพื่อนจะได้คบกับคนใกล้ตัวอย่างพี่หนึ่งมาก่อน เขาดีใจกับเมาส์เพราะพี่หนึ่งเป็นคนดี เมาส์เป็นคนน่ารักทั้งคู่เหมาะสมกันไม่ใช่น้อย



ครืดๆ

เสียงโทรศัพท์ของสไมล์ดังขึ้น มือบางกำลังจะเอื้อมไปหยิบรับมือหนาของอีกคนก็คว้ามันไปเสียก่อน



          “หึ พี่หนึ่ง...แลกเบอร์กันแล้วหรือไง” สามถามเสียงขึ้นจมูกด้วยความไม่พอใจนิดๆ



          “ก็ไม่เห็นจะแปลก ผมกับพี่หนึ่งรู้จักกันมาก่อนนี่” สไมล์ว่าพร้อมทำท่าจะเอื้อมมือไปเอาโทรศัพท์คืนจากอีกคนแต่สามไม่ยอม ร่างสูงเบี่ยงตัวหนี



          “อะไรของคุณเนี่ย เอาโทรศัพท์ผมมานะ” สไมล์ว่าหน้างอพร้อมกับคิ้วเรียวที่ขมวดมุ่น



          “ถ้าไม่ให้จะมีไรมะ?” สามเอาลิ้นกลั้วปากอย่างกวนๆ สไมล์ถอนหายใจออกมาก่อนจะกลับมานั่งที่เดิม ในเมื่อไม่ให้ก็ไม่เอา จบ...สามหน้าบึ้งตึงอีกครั้งที่อีกคนมีทีท่าไม่สนใจเขา



          “แม่ง เอาไปเลย” สามว่าก่อนจะปาโทรศัพท์ใส่หน้าตักอีกคนก่อนจะหยิบซองบุหรี่ถือออกไปที่ระเบียงห้องของอีกคนทันที สไมล์มองโทรศัพท์บนหน้าตักที่กำลังโชว์สายโทรเข้าของพี่หนึ่งไม่ลดละก่อนจะมองตามแผ่นหลังหนาของอีกคนไป มุมปากบางยกยิ้มนิดๆ ถ้าเขาจะเข้าใจว่าอีกคนหึงจะผิดมั้ย?



แกรก

เสียงเปิดประตูระเบียงดังขึ้นทำให้สามหันไปมอง พอเห็นว่าเป็นสไมล์ร่างสูงก็หันกลับมาก่อนจะพ่นควันบุหรี่ออกจากปาก



          “เป็นอะไรของคุณ” สไมล์ถามขึ้นพร้อมกับเดินไปยืนข้างๆอีกคน



          “คุยกับพี่กูเสร็จแล้วหรือไง” สามไม่ตอบแต่กลับถามกลับแทน



          “เปล่านี่ ผมรับไม่ทัน” สไมล์ว่า สามชะงักไปทันทีกับคำตอบของอีกคน มุมปากหนากระตุกยิ้มนิดๆ



          “ก็ดี” สามว่าสั้นๆก่อนที่บรรยากาศระหว่างคนทั้งคู่จะตกอยู่ในความเงียบแต่สไมล์กลับไม่คิดว่ามันอึดอัด สายลมแผ่นเบาพัดผ่านมาทำให้เย็นสบายไม่น้อย กลิ่นบุหรี่เย็นๆจากคนข้างกายไม่ได้ทำให้รู้สึกเหม็นแต่อย่างไร สไมล์ไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆเขาทั้งคู่ถึงมีบรรยากาศระหว่างกันแบบนี้ทั้งที่เมื่อก่อนอีกคนเกลียดเขาและเขาเองก็ไม่ต้องการที่จะเจออีกคนเช่นเดียวกันแต่ตอนนี้...เรียกได้ว่าแทบจะตัวติดกัน วันนี้ก็ด้วยที่อีกคนมาส่งเขาที่คอนโดแต่แทนที่จะกลับ กลับขึ้นห้องตามเขามาแทน เพราะเกมส์งั้นเหรอ? เพราะคำท้าพนันงั้นเหรอ? ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆสไมล์ก็ต้องพยายามควบคุมตัวเองให้ได้มากกว่านี้ ไม่ใช่เลือกที่จะไม่รับสายพี่หนึ่งแล้วเดินตามอีกคนออกมาแบบนี้!...หลายวันผ่านไป...วันนี้หนึ่งโทรนัดสไมล์ให้ออกไปหาเพราะมีเรื่องอยากจะคุยด้วย สไมล์เองก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรเพราะยังไงเขากับพี่หนึ่งก็คนกันเองอยู่แล้ว หนึ่งเลือกนัดสไมล์ที่สวนสาธารณะใจกลางเมืองชื่อดัง



          “พี่หนึ่ง” สไมล์เรียกอีกคนด้วยรอยยิ้ม หนึ่งหันมาก่อนจะยิ้มตอบกลับเช่นเดียวกัน



          “นั่งลงสิสไมล์” หนึ่งว่า สไมล์พยักหน้าก่อนจะนั่งลงที่ม้านั่งข้างๆอีกคนทันทีเพราะวันนี้เป็นวันเสาร์และเป็นช่วงเช้าผู้คนในสวนสาธารณะจึงไม่ค่อยพลุกพล่านเท่าไหร่เหมือนตอนเย็น บรรยากาศในสวนสาธารณะเต็มไปด้วยความร่มรื่น สายลมเบาๆที่พัดผ่านบวกกับกลิ่นน้ำ กลิ่นต้นไม้ กลิ่นของธรรมชาติทำให้รู้สึกผ่อนคลายไม่น้อย



          “สไมล์กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่” หนึ่งถามขึ้นท่ามกลางความเงียบ



          “เมื่อไม่นานครับ สไมล์ไปรักษาขาที่นั่นแต่เลือกที่จะขอคุณย่ามาเรียนที่นี่เพราะถ้าเรียนที่นั่น สไมล์ต้องเสียเวลาอีกเป็นปีในการเรียนปรับพื้นฐาน” สไมล์อธิบายถึงความเป็นไปเป็นมาให้อีกคนฟัง



          “แล้วสไมล์กับสามเจอกันได้ยังไง ทำไมมัน...” หนึ่งชะงักไปก่อนจะถอนหายใจออกมา



          “...ทำไมวันนั้นสไมล์กับสามถึงมาด้วยกัน” หนึ่งพูดต่อ สไมล์ชะงักนิดๆกับคำถามของอีกคนก่อนจะกัดปากอย่างครุ่นคิดเพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มเล่ายังไงดี



          “เอ่อ...คือ...”

          “มันทำร้ายสไมล์อีกใช่มั้ย มันรังแกสไมล์ใช่มั้ย บอกพี่มานะสไมล์!” หนึ่งถามขึ้นเสียงดังพร้อมกับใบหน้าเคร่งเครียดก่อนที่มือหนาที่จับต้นแขนของอีกคนแน่นจนสไมล์นิ่วหน้าด้วยความเจ็บ



          “พะ...พี่หนึ่ง สไมล์เจ็บ” สไมล์ว่าเสียงเครือ



          “พี่ขอโทษ” พอเห็นว่าอีกคนเจ็บหนึ่งจึงรีบปล่อยแล้วพูดขอโทษออกมาทันที



          “พี่หนึ่งโอเคนะครับ” สไมล์ถามขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าอีกคนไม่ค่อยดี หนึ่งพยักหน้ารับก่อนที่บรรยากาศระหว่างคนทั้งคู่จะตกอยู่ในความเงียบ แต่สไมล์กลับคิดว่านี่มันช่างแตกต่างกับเมื่อก่อนมาก ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาจะรู้สึกสบายใจทุกครั้งที่อยู่ๆใกล้ๆพี่หนึ่งแต่ทำไมตอนนี้...มันถึงเต็มไปด้วยความอึดอัดที่เขาก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน



          “สรุปสไมล์กับสามตอนนี้เป็นอะไรกัน” หนึ่งถามเสียงแผ่วเบา ใบหน้าหล่อยังเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม



          “คือ...”



          “ผมกับสไมล์คบกัน พี่น่าจะเข้าใจคำว่าคบของผมนะ” เสียงทุ้มดังขึ้นก่อนที่มือหนาจะดึงแขนสไมล์ให้ลุกขึ้นมาทันที  สไมล์มองอีกคนอย่างตกใจที่อยู่ๆก็มาปรากฏตัวที่นี่



          “แก...”



          “พี่มีคนของพี่ หวังว่าพี่ชายจะไม่ยุ่งคนของน้องชายนะครับ” สามว่าพร้อมยกยิ้มมุมปากก่อนจะจับมือสไมล์เดินออกไปทันทีโดยสไมล์ไม่ทันได้บอกลาหนึ่งมีเพียงสายตาที่ส่งมาขอโทษขอโพยเท่านั้น



          “ไอ้สาม” หนึ่งกำมือแน่นกัดฟันกรอดด้วยความไม่พอใจ ยิ่งเห็นแผ่นหลังของคนที่ตัวเองรักไปกับน้องชายก็ยิ่งไม่พอใจ ใช่...หนึ่งยังรักสไมล์ หนึ่งไม่เคยรักใครเท่าสไมล์มาก่อนและไม่คิดจะเลิกรัก เขาเฝ้าคิดถึงอีกคนและหวังว่าจะได้เจอกันอีกแต่พอเจอกันกลับพบว่าอีกคนมากับน้องชายของเขา! มากับคนที่สไมล์ไม่สมควรจะอยู่ใกล้ที่สุด!...สไมล์มองอีกคนที่กำลังขับรถด้วยใบหน้าบึ้งตึงที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างมาก เขาก็พอจะรู้ว่าอีกคนไม่พอใจเรื่องอะไรแต่เขาแค่มาเจอพี่หนึ่งเองนะ พี่หนึ่งก็คือพี่ชายของอีกคนแท้ๆ



          “ทำไมมึงต้องมาเจอพี่หนึ่ง” สามถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเข้มๆ



          “พี่หนึ่งมีเรื่องอยากคุยกับผม”



          “แล้วพี่หนึ่งคุยอะไรกับมึง หรือว่าระลึกความหวังกัน” สามว่าก่อนจะพ่นเสียงจมูกบ่งบอกถึงความไม่พอใจ สไมล์ถอนหายใจออกมากับคำพูดประชดประชันของอีกคน



          “พูดอะไรของคุณ  พี่หนึ่งก็คบอยู่กับเพื่อนของผมนะ อีกอย่างคุณไม่ควรจะมาโกรธผม ผมต่างหากที่ต้องโกรธคุณ คุณไม่มีสิทธิ์ไปพูดกับพี่หนึ่งแบบนั้นและทำกริยาแบบนั้น” สไมล์ว่าตามที่คิด การกระทำของอีกคนเสียมารยาทมากที่สุดที่เขาเคยเจอมาเลย



เอี๊ยดดดดด

สามเบรกรถกะทันหันจนหัวสไมล์กระแทกคอนโทรลรถอย่างแรง ใบหน้าใสหันมามองอีกคนบึ้งตึง



          “มึงว่าไงนะ กูไม่มีสิทธิ์พูดแบบนั้น?” สามเลิกคิ้วกับคำพูดของอีกคน ในใจเดือดปุดๆคล้ายจะระเบิดออกมา



          “ใช่ ผมกับคุณเราไม่ได้คบกัน” สไมล์ว่าเสียงเรียบพร้อมจ้องหน้าอีกคนอย่างไม่ยอม



          “แล้วที่เป็นอยู่มันอะไรวะ!” สามโวยวาย



          “ก็เกมส์ไม่ใช่หรือไง คุณกับผมเราพนันกันอยู่ ไม่ได้คบกันอย่างที่คุณว่าสักนิด”สไมล์ว่าออกมา  สามชะงักไปทันทีกับคำพูดของอีกคน ทำไมอยู่ๆเขากลับลืมเรื่องนี้ไปเสียแล้ว ทำไมอยู่ๆก็คิดว่ามันคือความเคยชินที่ต้องมารับมาส่งหรือแม้กระทั่งกินข้าวด้วยกันกับอีกคน ทำไมอยู่ๆสิ่งที่เขาตั้งใจจะทำให้อีกคนหวั่นไหวแล้วแพ้เกมส์กลับเป็นเขาที่เคยชินกับมันเองโดยแยกไม่ออกว่ามันคือเกมส์หรือออกมาจากใจกันแน่



          “แม่ง!” สามสบถออกมาก่อนจะทุบที่พวงมาลัยรถอย่างหัวเสีย สไมล์นั่งนิ่งไม่พูดอะไรออกมาทำให้บรรยากาศบนรถตกอยู่ในความเงียบ



          “คนนิสัยไม่ดี” สไมล์อุบอิบในลำคอเพราะกับเบ้ปากด้วยความเจ็บนิดๆเมื่อสัมผัสเข้าที่หน้าผากตัวเองที่กระแทกกับคอนโทรลรถ



          “ไหนมาดูดิ๊” สามว่าก่อนจะจับอีกคนให้หันหน้ามา ตอนแรกสไมล์จะไม่ยอมหันมาแต่พอสามทำตาดุใส่จึงยอมหันมา ตาคมมองหน้าผากแดงๆของอีกคนก็รู้สึกใจกระตุกนิดๆ



          “เจ็บมากมั้ย” สามถามขึ้น สไมล์มองหน้าอีกคนนิดๆที่อยู่ร่างสูงก็ถามคำถามนี้อีกมา สไมล์พยักหน้ารับ สามใช้มือคลึงที่หน้าผากแดงๆของอีกคนเบาๆทำเอาสไมล์รู้สึกใจสั่นไม่น้อยกับการกระทำที่อ่อนโยนของอีกคน ตากลมเผลอสบเข้ากับตาคมอย่างอัตโนมัติ ก่อนจะรู้สึกว่าใบหน้าหล่อของอีกคนค่อยๆขยับเข้ามา



จุ๊บ

ปากหนาประทับเข้าที่หน้าผากบางแผ่วเบาแต่ทำเอาอวัยวะในหน้าอกด้านซ้ายของสไมล์สั่นไหวอย่างรุนแรง

          “กูขอโทษ”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ง้อวววววว บวกคะแนนให้อินังสามรัวๆๆค่ะ ส่วนทีมพี่หนึ่งอย่าพึ่งน้อยใจ พี่หนึ่งออกอีกแน่ๆเพราะพี่แกเป็นไคลแม็กซ์เลย สปอยนิดๆ 55555 ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ

___จางบิวตี้___

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
เปิดใจคุยกันเลยดีมั้ย ต่างคนก็ต่างยังไม่เข้าใจตัวเอง เปิดใจคุยกันจะได้เข้าใจกัน :hao3: :hao3: :hao3:

บอกเลย อยากอ่านต่อมากกกกก อยากให้ลงเรื่องนี้แบบรัวๆมาเลยอ่ะ  :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ dena

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อ้าว! ไมพี่หนึ่งทำกับเมาส์อย่างนี้ละ  :sad4: แล้วสไมล์กับเมาส์จะทะเลาะกันไหมเนี่ย!!!!  :m16:

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
แล้วเมาส์ล่ะพี่หนึ่ง,,,

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
พี่หนึ่งยังไงคะน้องเม้าส์นี่ของตายหรอ

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
ไหนว่าจะใจแข็งไงสไมล์ หวั่นไหวอีกแล้วนะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พี่หนึ่ง มีเมาส์ แล้วนะ
สาม จุ๊บขอโทษ จนสไมล์ใจสั่น :mew1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Poor Boy 8

( Grammar x Song )

 

        หลังจากที่สองบอกเลิกแกรมม่าก็ผ่านมาแล้วสามววันแต่แกรมม่าก็ยังคงติดต่อสองและมาหาสองที่บ้านแต่ร่างบางก็ไม่ยอมรับสาย ตอบแชทหรือว่าลงมาเจออีกคนเลย สองไม่พร้อมที่จะเจอหน้าอีกคนจริงๆ ภาพในวันนั้นมันยังคงติดตาของสองอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะตื่นหรือหลับ วันนั้นหลังจากที่กลับมาสองร้องไห้จนหลับไปและวันต่อมาเขาก็นิ่งเงียบเสียจนพ่อและพี่หนึ่งอดที่จะเป็นห่าวงไม่ได้แต่สองก็เพียงแต่บอกว่าไม่มีอะไร ไม่เป็นอะไร สองไม่ได้ร้องไห้อีกเพราะคิดว่าน้ำตาของเขามันมีค่ามากไปที่จะร้องไห้ให้ผู้ชายคนนั้น แต่ในใจของเขาก็ยังคงเจ็บปวดเหมือนเดิม ไม่มีทีท่าจะลดน้อยลงไปเลย



          “พี่ทะเลาะกับไอ้แกรม ยังไงกันแน่” สามถามขึ้นทันทีหลังจากที่สังเกตอยู่หายวันว่าพี่ชายและเพื่อนสนิทกำลังมีปัญหากัน



          “ไม่มีอะไร” สองตอบเสียงเรียบ



          “ไม่จริง ไอ้แกรมมันบอกผมว่าพี่บอกเลิกมัน” สามว่าพร้อมขมวดคิ้ว



          “แล้วบอกด้วยมั้ยว่าเพราะอะไรฉันถึงบอกเลิก” สองเงยหน้าจากหนังสือมามองหน้าน้องชายอย่างจริงจัง สามชะงักไปทันทีเพราะรู้สาเหตุว่าพี่ชายบอกเลิกเพื่อนสนิทตัวเองทำไม หลังจากที่แกรมม่าเล่าเขาก็ซัดหน้ามันไปหลายทีที่ทำให้พี่ชายของเขาเสียใจแต่ก็นะ...เพื่อนก็คือเพื่อน โกรธมันแค่ไหน มันก็คือเพื่อน มันบอกว่ามันรักพี่ชายเขาจริงๆแต่มันเลว ที่ยังทิ้งสันดานเดิมไม่ได้ มันอยากจะคุยกับพี่ชายเขา อย่างน้อยก็อยากจะขอโทษ ถ้าพี่ชายของเขาไม่ให้อภัยก็ไม่เป็นไรแต่อย่างน้อยแค่อยากขอโทษจริงๆ



        “มันผิด มันรู้ตัวว่ามันเลวและมันก็อยากขอโทษพี่” สามว่าพร้อมกับนั่งลงข้างๆพี่ชาย



          “ขอโทษแล้วไงต่อ” สองถามกลับ ใบหน้าหวานยังคงเรียบนิ่งไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆออกมา



          “...” สามเงียบไม่มีคำตอบ



          “ฉันเจ็บมากแกเข้าใจใช่มั้ย แม้แต่เห็นหน้าผู้ชายคนนั้นก็ไม่อยากเห็น ให้มันเป็นแบบนี้ดีแล้วล่ะ ให้คนๆนั้นออกไปจากชีวิตฉันซะ นี่แหละคือสิ่งเดียวที่ฉันต้องการ”สองว่าก่อนจะปิดหนังสือแล้วลุกขึ้นก่อนจะเดินขึ้นห้องไปทันทีโดยที่ไม่รู้ว่ามีร่างสูงของใครคนหนึ่งได้ยินคำพูดดังกล่าวเต็มสองหู สามหันไปทางประตูหน้าบ้านก็เห็นเพื่อนสนิทตัวเองยืนอยู่ด้วยใบหน้าที่แสดงถึงความเจ็บปวด



          “กูกลับนะ” แกรมม่าว่าก่อนจะเดินออกไปทันที...หลังจากที่ได้ฟังคำพูดที่กรีดหัวใจของร่างบางแกรมม่าก็พาตัวเองกลับมาที่คอนโด คอนโดที่เคยมีภาพของอีกคนวนเวียนอยู่ตลอด แกรมม่าทิ้งตัวลงนอนบนเตียงขนาดคิงไซด์ที่เคยมีอีกคนมานอนเคียงข้างกัน มือหนายกขึ้นก่ายหน้าผาก



          “ขอโทษ” เสียงทุ้มเอ่ยแผ่วเบาพร้อมกับหยดน้ำตาที่ไหลลงมา...หลายวันผ่านไป...แม้ว่าสองจะพยายามลบเลือนภาพในวันนั้นได้แล้วแต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่ายังคงตัดใจจากอีกคนไม่ได้ แม้ว่าช่วงนี้แกรมม่าจะไม่ได้ติดต่อหรือมาหาเหมือนแต่ก่อนซึ่งสองคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดี เขาไม่ต้องการเจอหน้าอีกคน ไม่อยากให้แผลใจกลับมาสดใหม่อีกครั้ง ปล่อยให้มันค่อยๆหายตกสะเก็ดลงไป



          “อืม กูจะบอกให้” สามว่าก่อนจะกดวางสายโทรศัพท์ก่อนจะหันมาเจอพี่ชายที่กำลังเดินลงมาทันที



          “มีอะไร” สองถามขึ้นเมื่อน้องชายเดินมาขวางทางเขาไว้



          “ไอ้แกรมจะกลับอังกฤษ” สองชะงักไปทันทีกับคำพูดของน้องชาย



          “อืม...แล้วไง” สองพยายามควบคุมสีหน้าให้เป็นปกติก่อนจะถามกลับ



          “พี่คิดว่าแบบนี้มันดีแล้วเหรอ?”



          “มันก็คงดีที่สุดแล้วไม่ใช่เหรอ จากกันแบบนี้ก็ดีแล้ว” สองว่าออกมาเสียงเรียบพร้อมกับใบหน้าที่เรียบนิ่งแต่ใครจะรู้ว่าในใจของเขากำลังร่ำร้องแค่ไหน คำว่ากลับอังกฤษของอีกคนมันแปลได้ว่าคงจะไม่ได้เจอกันอีกต่อไป แม้ปากจะบอกว่าเกลียดไม่อยากเจอหน้าอีกคนแต่แล้วยังไง...เขาก็แค่คนปากเก่งแต่ใจอ่อนแอคนหนึ่งเท่านั้น



          “อยากร้องไห้มั้ย” สามถามขึ้น แม้ว่าสีหน้าของพี่ชายจะเรียบนิ่งแค่ไหนแต่เขาก็เห็นถึงแววตาที่สั่นระริกของอีกคนอย่างชัดเจน



          “ฮึก...”



          “ถ้าอยากร้องก็ร้องออกมา อย่าเก็บมันไว้เลย” สิ้นเสียงน้องชาย สองก็โผเข้ากอดสามทันทีก่อนจะปล่อยน้ำตาแห่งความอัดอั้นตันใจออกมา...วันนี้เป็นวันที่แกรมม่าจะเดินทางกลับอังกฤษ ซึ่งตอนแรกเขาวางแผนจะเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่นี่เพราะเขาอยากจะอยู่ข้างๆอีกคน ไม่อยากจะห่างไปไหนแต่ในเมื่อเรื่องราวมันเป็นแบบนี้ เขาก็ควรจะไป ในเมื่ออีกคนบอกว่าไม่อยากจะเจอหน้าเขา ให้ต่างคนต่างอยู่เขาก็ขอเลือกไปจากอีกคนแบบนี้ละกัน เขาคงทนนอนคอนโดที่มีภาพอีกคนกำลังนอนข้างๆวนเวียนอยู่ไม่ได้ เขาคงทนขับรถที่มีภาพอีกคนนั่งอยู่ข้างๆวนเวียนอยู่ไม่ได้อีกแล้ว เขามันอ่อนแอ เขายอมรับอย่างไม่มีข้อโต้แย้งใดๆเลย



          “มึงตัดสินใจดีแล้วนะ” สามถามขึ้น



          “อืม...กูว่าทางนี้ดีที่สุด” แกรมม่าว่าออกมา ใบหน้าหล่อยังคงหม่นหมองไม่เสื่อมคลาย



          “อืม...กูขอให้มึงโชคดี มีไรก็ติดต่อกูมาละกัน ยังไงมึงก็เพื่อนกู” สามว่าพร้อมตบบ่าแกรมม่าเบาๆ



          “มึงไม่โกรธกูหรือไง เรื่องพี่มึง” แกรมม่าเลิกคิ้วถาม



          “โกรธดิ แต่แล้วไงวะ...ยังไงมึงก็เพื่อน อีกอย่างมันเรื่องของคนสองคน กูว่ามึงเองก็เจ็บไม่ต่างกัน” สามว่าตามที่ใจคิด แกรมม่ากระตุกยิ้มมุมปากนิดๆ



          “ขอบใจเว้ย เอาไว้ว่างๆก็ไปหากูมั่งนะ” แกรมม่าว่าหลังจากที่เสียงประกาศเรียกผู้โดยสารให้เข้าเกทดังขึ้น



          “เออ โชคดีเว้ย” แกรมม่าพยักหน้ารับก่อนจะเดินเข้าเกทไปทันที มือหนามองพาสปอร์ตกับตั๋วเครื่องบินในมือ ตาคมมองกลับหลังไปเพราะหวังในใจว่าอาจจะเจอหน้าอีกคนที่เฝ้ารอแต่ก็ไม่พบ แกรมม่ากระตุกยิ้มเบาๆอย่างสมเพชตัวเอง  ทำกับเขาขนาดนั้นยังหวังให้เขามาอีกเหรอวะ? หึๆ



          “ลาก่อนพี่สอง”...หลายเดือนผ่านไป...มหาวิทยาลัยของสองเปิดแล้วและเพราะว่าเขากำลังขึ้นปีสามทำให้เรียนหนักกว่าสองปีแรกมาก สองเรียนคณะการจัดการระหว่างประเทศภาคอินเตอร์เพราะคิดว่าจะได้สามารถนำความรู้ไปใช้ในการบริหารงานบริษัทได้ ชีวิตของสองก็ยังคงเดิมๆคือมาเรียนและกลับบ้าน ดูน่าเบื่อไปนิดแต่เขาก็ใช้ชีวิตแบบนี้มาตั้งนานแล้วแต่เหมือนว่าช่วงนี้จะมีเรื่องนิดหน่อย เพราะเห็นพี่หนึ่งบอกว่าเจอสไมล์ เด็กขาพิการที่เคยมาอยู่บ้านของเขาเมื่อปีก่อน มันจะไม่เกิดเรื่องเลยถ้าสไมล์ไม่อยู่กับสามซึ่งเขาไม่รู้ว่าสองคนไปเจอกันยังไง หรือเพราะอะไรถึงอยู่ด้วยกัน สองไม่อยากสนใจเรื่องของคนอื่นมากนักเพราะแค่เรื่องของตัวเองก็ยังเอาตัวไม่รอดเลย แม้ว่าเวลาจะผ่านมาหลายเดือนแล้วแต่สองก็ปฏิเสธตัวเองไม่ได้ว่ายังคงคิดถึงแกรมม่า แม้จะไม่ได้คิดถึงบ่อยๆเหมือนตอนแรกๆแต่เมื่อไหร่ที่สมองว่างภาพของอีกคนก็จะแวบเข้ามาเสมอ สองอดส่ายหัวให้กับความบ้าบอของตัวเองไม่ได้ทั้งๆที่เรื่องราวมันก็ผ่านไปแล้ว ทั้งๆที่อีกคนทำกับเขาไว้เจ็บแสบมากและตอนนี้อีกคนคงจะมีชีวิตที่ดีอยู่ที่อังกฤษแล้ว  ทำไมถึงเป็นเขาที่เป็นฝ่ายนึกถึงอีกคนแบบนี้  สองยอมรับว่าตัวเอง่อนด้อยในเรื่องของความรักมาก เขาไม่เคยมีแฟนและแกรมม่าก็คือแฟนคนแรกของเขา เขาวาดฝันกับความรักครั้งนี้ไว้เยอะแต่พอมันพังทลาย เขาก็กลายเป็นคนที่กลัวเรื่องความรักไปเลยทันที



          “สอง อาจารย์กิตติเรียกน่ะ” เสียงของเพื่อนในเซคดังขึ้นทำให้สองที่นั่งคิดอัไรอยู่เพลินๆได้สติ



          “อ่อๆ ขอบใจ” สองว่าก่อนจะเก็บหนังสือใส่กระเป๋าแล้วเดินไปหาอาจารย์ประจำภาควิชาที่ห้องภาควิชาทันที



          “สวัสดีครับอาจารย์” สองทักทายอาจารย์อย่างนอบน้อม



          “นั่งสิ” สองนั่งลงตามที่อาจารย์บอก



          “ลองอ่านนี่ดูว่าสนใจมั้ย” อาจารย์กิตติว่าก่อนจะยื่นเอกสารบางอย่างให้สองสองรับมาก่อนจะอ่านด้วยสายตาโดยคร่าวๆซึ่งใจความสำคัญอยู่ที่ว่าเลือกตัวแทนไปดูงานที่ต่างประเทศ



          “อาจารย์เลือกผมเหรอครับ?” สองถามด้วยความตื่นเต้น



          “อื้ม...ผมเลือกคุณกับเพื่อนคุณอีกสองคนไว้แต่เรียกพบทีละคน คุณสนใจมั้ยล่ะ” อาจารย์กิตติถาม



          “สนใจครับ ผมคิดว่ามันเป็นโอกาสที่ดี” สองว่าออกมา เพราะเขาเรียนคณะการจัดการระหว่างประเทศ ดังนั้นการไปดูงานที่ต่างประเทศจึงเป็นโอกาสที่สำหรับนักศึกษาที่ศึกษาคณะนี้มาก ยิ่งเทอมสองเขาต้องเริ่มคิดค้นการทำวิจัยจบ ความรู้ที่ได้จากการไปดูงานคงจะช่วยได้เยอะมาก



          “ถ้าคุณตกลงผมจะได้กรอกรายชื่อคุณลงไป” สองพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม



          “เอ่อ...ว่าแต่ไปเมื่อไหร่ครับอาจารย์”



          “สองอาทิตย์หน้าน่ะ ไปหนึ่งสัปดาห์” สองพยักหน้ารับ ตาเรียวกวาดสายตาอ่านเอกสารอีกครั้งซึ่งครั้งนี้อ่านละเอียดกว่าครั้งแรกทำให้เห็นถึงสถานที่และเมืองที่ต้องไปดูงาน



          “อาจารย์ครับคือว่าประเทศที่ไป...”



          “อ่อ...ลอนดอน ประเทศอังกฤษไง”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อ๊ายยยยย คิดว่าคงเดาเนื้อเรื่องกันถูกนะคะ 5555 เพราะเป็นคู่รองเลยรวบรัดไปหน่อย ตอนนี้เรื่องของสองกับสามดำเนินพร้อมกันแล้วนะคะ ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ

___จางบิวตี้___

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
ไม่ชอบเรื่องนี้ เกลียดแกรมม่า ผ่านๆ  :katai5: :katai5: :katai5:

มารอคู่หลัก สามสไมล์ อย่างใจจดใจจ่อ :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ง่ายเกินไปมั้ย

ยากอีกหน่อยเหอะครับ,,,

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด